บทความนี้ไม่มีจาก |
ยุคมูโรมาจิ (ญี่ปุ่น: 室町時代; โรมาจิ: Muromachi-jidai) ตรงกับ ค.ศ. 1336–1568 ครึ่งหลังของศตวรรษที่ 14 อาชิกางะ โยชิมิตสึ ได้ปราบปรามชนชั้นปกครองลงอย่างราบคาบ และตั้งรัฐบาลโชกุนขึ้นอีกครั้งที่ เคียวโตะ ซึ่งรัฐบาลโชกุนนี้ได้ปกครองญี่ปุ่นต่อมาเป็นเวลานานถึงสองศตวรรษเศษอันเป็นช่วงเวลาที่วัฒนธรรมของชนชั้นนักรบก็ได้กลืนวัฒนธรรมของชนชั้นปกครองลงอย่างราบคาบเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามรัฐบาลโชกุนของตระกูลอาชิกางะ เกิดจากการรวมตัวของขุนศึกสำคัญ ๆ ตามหัวเมืองต่าง ๆ เข้าด้วยกัน จึงเป็นธรรมดาที่การรวบอำนาจให้รัฐบาลมีเสถียรภาพนั้นเป็นไปได้อย่างลำบาก ดังนั้นในครึ่งหลังศตวรรษที่ 15 เป็นต้นมา ขุนศึกตามหัวเมืองต่าง ๆ จึงเริ่มทำสงครามแย่งชิงอำนาจกัน จนทั้งประเทศญี่ปุ่นตกเข้าสู่ยุคสงคราม ภายในยุคนี้เป็นยุคที่ชนชั้นนักรบมีอำนาจเหนือเกษตรกรและมีกรรมสิทธิเหนือที่ดินจึงเป็นการปกครองระบบศักดินาโดยสมบูรณ์ ด้านเศรษฐกิจก็เจริญรุ่งเรืองมาก เนื่องจากทำการค้ากับจีนสมัยหมิงด้านวัฒนธรรม ลัทธิเซนเป็นส่วนเพิ่มเติมให้กับวัฒนธรรมของชนชั้นปกครองและชนชั้นนักรบ ซึ่งเห็นรูปแบบได้จากตำหนักทอง (Kinkaku) ในปลายศตวรรษที่ 14 อันเป็นตัวแทนของวัฒนธรรมคิตายามะ (Kitayama) และตำหนักเงิน (Ginkaku) ในปลายศตวรรษที่ 15 อันเป็นตัวแทนของวัฒนธรรมฮิงะชิยะมะ (Higashiyama) การละคร อย่างเช่น โน เคียวเง็น และการต่อเพลง ก็เริ่มแพร่หลายสู่ประชาชนภายนอก ศิลปวัฒนธรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่น อย่างเช่น พิธีชงชา การจัดดอกไม้ ก็เริ่มมีรากฐานมาจากยุคนี้ และในช่วงกลางศตวรรษที่ 16 พวกฝรั่ง เช่น ชาติโปรตุเกส และสเปนก็ได้นำอาวุธปืนยาวและศาสนาคริสต์เข้ามาเผยแพร่ที่ญี่ปุ่น
ประวัติศาสตร์
สมัยราชวงศ์เหนือใต้
พระจักรพรรดิโก-ไดโงะ หลังจากที่ทรงล้มล้างรัฐบาลโชกุนคามากูระแล้ว ได้ทรงรื้อฟื้นระบอบการปกครองอันมีองค์พระจักรพรรดิเป็นศูนย์กลางขึ้นมาใหม่ เรียกว่า การฟื้นฟูปีเค็มมุ (Kemmu Restoration) สร้างความไม่พอใจให้แก่ชนชั้นซามูไรซึ่งยังคงต้องการให้มีการปกครองของระบอบโชกุน ค.ศ. 1336 อาชิกางะ ทากาอูจิ (ญี่ปุ่น: 足利 尊氏; โรมาจิ: Ashikaga Takauji ) มีชัยชนะเหนือทัพของพระจักรพรรดิโก-ไดโงะ ซึ่งนำโดย คูซูโนกิ มาซาชิเงะ (ญี่ปุ่น: 楠木正成; โรมาจิ: Kusunoki Masashige) ในยุทธการที่มินาโตงาวะ (ญี่ปุ่น: 湊川の戦い; โรมาจิ: Minatogawa-no-tatakai) อาชิกางะ ทากาอูจิ เข้ายึดนครเคียวโตะได้สำเร็จ ตั้งพระจักรพรรดิโคเมียวขึ้นเป็นพระจักรพรรดิองค์ใหม่ ส่วนพระจักรพรรดิโก-ไดโงะเสด็จหลบหนีไปยังเมืองโยชิโนะ (ญี่ปุ่น: 吉野; โรมาจิ: Yoshino จังหวัดนะระในปัจจุบัน) และทรงจัดตั้งราชสำนักใหม่ขึ้น ณ ที่แห่งนั้น ประเทศญี่ปุ่นจึงมีพระจักรพรรดิสองพระองค์ในเวลาเดียวกัน องค์ซึ่งประทับอยู่ที่เมืองเกียวโต เรียกว่า พระราชวงศ์ฝ่ายเหนือ และองค์ที่ประทับอยู่ที่เมืองโยชิโนะ เรียกว่า พระราชวงศ์ฝ่ายใต้ เป็นจุดเริ่มต้นของ สมัยราชวงศ์เหนือใต้ หรือ "นัมโบกูโช" (ญี่ปุ่น: 南北朝; โรมาจิ: Nanboku-chō) อาชิกางะ ทากาอูจิ ซึ่งสืบเชื้อสายมาจากตระกูลเซวาเง็งจิ (ญี่ปุ่น: 清和源氏; โรมาจิ: Seiwa Genji ) หรือ ตระกูลมินาโมโตะ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น เซอิไทโชงุง (ญี่ปุ่น: 征夷大将軍; โรมาจิ: Seii Taishōgun ) เป็นจุดเริ่มต้นของรัฐบาลโชกุนอาชิกางะและสมัยมูโรมาจิ ซึ่งรัฐบาลโชกุนถวายการสนับสนุนแด่พระราชวงศ์ฝ่ายเหนือ
โชกุนอาชิกางะ ทากาอูจิ และน้องชายคือ อาชิกางะ ทาดาโยชิ (ญี่ปุ่น: 足利 直義; โรมาจิ: Ashikaga Tadayoshi) ปกครองประเทศญี่ปุ่นร่วมกัน จนกระทั่งเกิดความขัดแย้งระหว่างสองพี่น้อง เนื่องจากโชกุนทากาอุจิ ให้การสนับสนุนแก่ โค โนะ โมโรนาโอะ (ญี่ปุ่น: 高師直; โรมาจิ: Kō no Moronao) ซึ่งเป็นคู่แข่งทางการเมืองของทาดาโยชิ ในค.ศ. 1349 ทาดาโยชิถูกอัปเปหิออกจากรัฐบาลโชกุน และแปรพักตร์ไปเข้ากับพระราชวงศ์ฝ่ายใต้ เกิดเป็น สงครามปีคันโน (ญี่ปุ่น: 観応の擾乱; โรมาจิ: Kannō no shōran) ทาดาโยชิยกทัพของพระราชวงศ์ฝ่ายใต้เข้าโจมตีเมืองเกียวโต สองพี่น้องเจรจาทำสัญญาสงบศึก ทาดาโยชิเดินทางไปจัดตั้งรัฐบาลของตนเองที่เมืองคามากูระ แต่กลับถูกทาดาอูจิพี่ชายวางยาพิษสังหารในที่สุด
พระราชวงศ์ฝ่ายใต้ ซึ่งมีผู้นำทางทหารคือ คูซูโนกิ มาซาโนริ (ญี่ปุ่น: 楠木正儀; โรมาจิ: Kusunoki Masanori) ยกทัพเข้าบุกยึดเมืองเกียวโตได้สำเร็จในค.ศ. 1353 ค.ศ. 1355 และ ค.ศ. 1362 แต่ฝ่ายรัฐบาลโชกุนสามารถยึดนครเกียวโตกลับมาได้ทุกครั้ง ในค.ศ. 1358 โชกุนทากาอุจิถึงแก่อสัญกรรม อาชิกางะ โยชิอากิระ (ญี่ปุ่น: 足利 義詮; โรมาจิ: Ashikaga Yoshiakira) บุตรชายขึ้นดำรงตำแหน่งโชกุนสืบต่อแทน ในค.ศ. 1362 โชกุนโยชิอากิระจัดตั้งตำแหน่งคังเร (ญี่ปุ่น: 管領; โรมาจิ: Kanrei) หรือผู้สำเร็จราชการแทนโชกุน โดยผู้ดำรงตำแหน่งคังเรมาจากสามตระกูลได้แต่ โฮโซกาวะ (ญี่ปุ่น: 細川; โรมาจิ: Hosokawa) ฮาตาเกยามะ (ญี่ปุ่น: 畠山; โรมาจิ: Hatakeyama) และชิบะ (ญี่ปุ่น: 志波; โรมาจิ: Shiba) ค.ศ. 1365 เจ้าชายคาเนโยชิ (ญี่ปุ่น: 懐良親王; โรมาจิ: Kaneyoshi shinnō) ซ็่งเป็นพระโอรสของพระจักรพรรดิโก-ไดโงะ สร้างกองกำลังต่อต้านรัฐบาลโชกุนและเข้ายึดครองเกาะคีวชู ในค.ศ. 1368 โชกุนโยชิอากิระล้มป่วยและถึงแก่อสัญกรรมอย่างกระทันหัน ทำให้อาชิกางะ โยชิมิตสึ (ญี่ปุ่น: 足利 義満; โรมาจิ: Ashikaga Yoshimitsu) บุตรชายของโยชิอากิระซึ่งมีอายุเพียงเก้าปี ต้องขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นโชกุนคนต่อมา
เนื่องจากโชกุนโยชิมิตสึยังอายุน้อย อำนาจปกครองจึงอยู่คังเรโฮโซกาวะ โยริยูกิ (ญี่ปุ่น: 細川 頼之; โรมาจิ: Hosokawa Yoriyuki) ค.ศ. 1370 คังเรโยริยูกิส่งอิมางาวะ ซาดาโยะ (ญี่ปุ่น: 今川 貞世; โรมาจิ: Imagawa Sadayo) นำทัพของรัฐบาลโชกุนฯไปปราบเจ้าชายคาเนโยชิที่เกาะคีวชูได้สำเร็จ ในค.ศ. 1378 คฤหาสน์แห่งใหม่ของโชกุนโยชิมิตสึสร้างขึ้นแล้วเสร็จ เรียกว่า ฮานะ โนะ โงโชะ (ญี่ปุ่น: 花の御所; โรมาจิ: Hana no Gosho) หรือ มูโรมาจิ โดโนะ (ญี่ปุ่น: 室町殿; โรมาจิ: Muromachi dono) ซึ่งจะกลายเป็นที่พำนักของโชกุนตระกูลอาชิกางะไปจนตลอดสมัยมูโรมาจิ ในค.ศ. 1379 คังเรโยริยูกิถูกกดดันให้ลาออกจากตำแหน่ง ทำให้โชกุนโยชิมิตสึมีโอกาสขึ้นมามีอำนาจในการบริหารประเทศอย่างเต็มที่ ในค.ศ. 1392 โชกุนโยชิมิตสึจัดให้มีการเจรจาข้อตกลงระหว่างราชวงศ์ฝ่ายเหนือและฝ่ายใต้ โดยพระราชวงศ์ฝ่ายใต้ยินยอมมอบเครื่องราชกกุฎภัณฑ์สามอย่าง (Three Sacred Treasures) อันเป็นสัญลักษณ์ของราชสมบัติญี่ปุ่น ให้แก่พระราชวงศ์ฝ่ายเหนือ เท่ากับเป็นการยอมรับว่าพระจักรพรรดิที่เมืองเกียวโตนั้นเป็นพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่นแต่เพียงพระองค์เดียว เป็นการยุติสมัยราชวงศ์เหนือใต้
สมัยแห่งความรุ่งเรืองทางวัฒนธรรมและการติดต่อกับต่างชาติ
ในค.ศ. 1394 โชกุนโยชิมิตสึสละตำแหน่งโชกุนให้แก่อาชิกางะ โยชิโมจิ ผู้เป็นบุตรชาย โยชิมิตสึดำรงตำแหน่งเป็น โอโงโชะ (ญี่ปุ่น: 大御所; โรมาจิ: Ōgosho) หรืออดีตโชกุนแทน พร้อมทั้งบรรพชาเป็นพระภิกษุในพุทธศาสนานิกายเซน แม้ว่าจะสละตำแหน่งโชกุนให้แก่บุตรชายแล้ว แต่อำนาจการปกครองยังคงอยู่ที่โอโงโชะโยชิมิตสึ ในค.ศ. 1401 โอโงโชะโยชิมิตสึแต่งคณะทูตเดินทางไปยังนครปักกิ่งเพื่อเจริญสัมพันธไมตรีกับจีนราชวงศ์หมิง ปีต่อมาค.ศ. 1402 จักรพรรดิเจี้ยนเหวินทรงแต่งตั้งให้โยชิมิตสึดำรงตำแหน่งเป็น "กษัตริย์แห่งญี่ปุ่น" (ญี่ปุ่น: 日本国王; โรมาจิ: Nihon-koku-ō ) ในการติดต่อสัมพันธ์กับราชสำนักจีน เป็นการเริ่มต้นนำประเทศญี่ปุ่นเข้าสู่ระบอบบรรณาการจิ้มก้อง สมัยของโชกุนโยชิมิตสึเป็นสมัยแห่งความรุ่งเรืองทางด้านศิลปะวัฒนธรรมของญี่ปุ่นในสมัยมูโรมาจิ เรียกว่า สมัยวัฒนธรรมคิตายามะ (ญี่ปุ่น: 北山文化; โรมาจิ: Kitayama-bunka) ตามชื่อเขาคิตายามะ อันเป็นที่ตั้งของ คฤหาสน์คิงกากุ (ญี่ปุ่น: 金閣; โรมาจิ: Kinkaku) หรือ คฤหาสน์ศาลาทอง หรือปัจจุบันคือวัดคิงกากุ อันเป็นที่พำนักในช่วงบั้นปลายชีวิตของโอโงโชะโยชิมิตสึ การติดต่อทางการทูตกับจีนทำให้รัฐบาลโชกุนฯเปิดรับวัฒนธรรมจีน อันได้แก่ พุทธศาสนานิกายเซน พิธีชงชา ศิลปะการจัดสวน เป็นต้น โยชิมิตสึอุปถัมภ์พุทธศาสนานิกายเซ็น โอโงโชะโยชิมิตสึถึงแก่อสัญกรรมเมื่อค.ศ. 1408 โชกุนโยชิโมจิได้รับการอำนาจเต็มในการปกครอง โชกุนโยชิโมจิดำเนินนโยบายตรงข้ามกับบิดาในความสัมพันธ์กับประเทศจีน โดยการตัดสัมพันธไมตรีกับราชวงศ์หมิงในค.ศ. 1411
ในสมัยมูโรมาจิชาวญี่ปุ่นล่องเรือออกทะเลเข้าปล้นสะดมเมืองท่าต่างๆของจีนและเกาหลีสร้างความเสียหายอย่างมาก เรียกว่า โจรสลัดญี่ปุ่น (ญี่ปุ่น: 倭寇; โรมาจิ: Wakō) ในค.ศ. 1398 พระเจ้าแทโจแห่งโชซ็อนทรงส่งราชทูตพัคทงชี (Pak Tong-chi) เข้ามาเจริญสัมพันธไมตรีกับญี่ปุ่น เพื่อประสานความร่วมมือในการปราบปรามโจรสลัดญี่ปุ่น แต่ไม่ประสบผล ในค.ศ. 1419 พระเจ้าแทจงทรงส่งทัพเรืองเกาหลีนำโดยแม่ทัพ ลีจงมู (Yi Jong-mu) เข้ารุกรานเกาะสึชิมะ เรียกว่า การรุกรานปีโอเอ (ญี่ปุ่น: 応永の外寇; โรมาจิ: Ōei no gaikō) แม่ทัพลีจงมูนำทัพเรือเกาหลีเข้ารุกรานและปล้มสะดมเกาะสึชิมะ จากนั้นรัฐบาลโชกุนฯและราชสำนักโชซ็อนจึงเจรจาสงบศึก โดยผ่านทาง โซ ซาดาโมริ (ญี่ปุ่น: 宗貞盛; โรมาจิ: Sō Sadamori) เจ้าครองเกาะสึชิมะ ในค.ศ. 1443 สนธิสัญญาคากิตสึ (ญี่ปุ่น: 嘉吉条約; โรมาจิ: Kakitsu-jōyaku เกาหลีเรียก สนธิสัญญาปีคเยแฮ Gyehae Treaty) ราชสำนักโชซ็อนมอบอำนาจให้ตระกูลโซ เจ้าครองเกาะสึชิมะ เป็นผู้ประสานงานในการติดต่อสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีและญี่ปุ่น โดยที่ฝ่ายญี่ปุ่นมีหน้าที่ปราบปรามโจรสลัดญี่ปุ่น
ค.ศ. 1423 โชกุนโยชิโมจิสละตำแหน่งให้แก่บุตรชายของตนคือ (ญี่ปุ่น: 足利 義量; โรมาจิ: Ashikaga Yoshikazu) ขึ้นเป็นโชกุนคนต่อมา ส่วนอดีตโชกุนโยะชิโมะชิดำรงตำแหน่งเป็นโอโงะโชะเฉกเช่นเดียวกับบิดา แต่ทว่าโชกุนโยะชิกะซุดำรงตำแหน่งโชกุนได้เพียงสองปีก็ถึงแก่อสัญกรรมในค.ศ. 1425 และโอโงะโชะโยะชิโมะชิถึงแก่อสัญกรรมในค.ศ. 1428 น้องชายของโอโงะโชะโยะชิโมะชิคือ อะชิกะงะ โยะชิโนะริ (ญี่ปุ่น: 足利 義教; โรมาจิ: Ashikaga Yoshinori) จึงขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นโชกุนคนต่อมาในค.ศ. 1429 โชกุนโยะชิโนะริฟื้นฟูความสัมพันธ์กับจีนราชวงศ์หมิงในปีค.ศ. 1433 และจัดตั้งโทเซ็ง-บุเงียว (ญี่ปุ่น: 唐船奉行; โรมาจิ: Tōsen-bugyō) ขึ้นในค.ศ. 1434เพื่อดูแลเรื่องงานการทูตกับจีน
นับตั้งแต่ค.ศ. 1349 ปฐมโชกุนอะชิกะงะ ทะกะอุจิ ได้แต่งตั้งให้บุตรชายของตนคือ อะชิกะงะ โมะโตะอุจิ (ญี่ปุ่น: 足利基氏; โรมาจิ: Ashikaga Motouji) ดำรงตำแหน่งเป็น คันโตคังเร (ญี่ปุ่น: 関東管領; โรมาจิ: Kantō kanrei) ซึ่งเป็นผู้สำเร็จราชการแทนโชกุนในภูมิภาคตะวันออกของญี่ปุ่น คันโตคังเรพำนักอยู่ที่เมืองคะมะกุระและมีอำนาจเหนือซะมุไรในภูมิภาคคันโตและภาคตะวันออกทั้งมวล ด้วยอำนาจอันมหาศาลของคันโตคังเร ทำให้คันโตคังเรกลายเป็นคู่แข่งทางการเมืองของรัฐบาลโชกุนที่เมืองเกียวโต ในเวลาต่อมาตำแหน่งคันโตคังเรได้รับการขนานนามว่า คันโตคุโบ (ญี่ปุ่น: 関東公方; โรมาจิ: Kantō kubō) แปลว่า โชกุนแห่งภูมิภาคคันโต ซึ่งคันโตคุโบมีผู้ช่วยเป็นผู้สำเร็จราชการอีกทอดหนึ่ง เรียกว่า ชิซึจิ ซึ่งเป็นตำแหน่งของตระกูลอุเอะซุงิ (ญี่ปุ่น: 上杉; โรมาจิ: Uesugi) ในค.ศ. 1416 คันโตคุโบอะชิกะงะ โมะชิอุจิ (ญี่ปุ่น: 足利持氏; โรมาจิ: Ashikaga Mochiuji) เกิดความขัดแย้งกับชิซึจิอุเอะซุงิ เซ็งชู (ญี่ปุ่น: 上杉 禅秀; โรมาจิ: Uesugi Zenshū) อุเอะซุงิ เซ็งชู จึงก่อการกบฎยกทัพเข้ายึดเมืองคะมะกุระ ทำให้คันโตคุโบโมะชิอุจิต้องหลบหนีออกจากเมืองคะมะกุระ ในค.ศ. 1417 โชกุนโยะชิโมะชิส่งทัพของรัฐบาลโชกุนฯเข้ายึดเมืองคะมะกุระคืนจากอุเอะซุงิเซ็งชูได้สำเร็จ และช่วยเหลือให้คันโตคุโบโมะชิอุจิกลับเข้าเมืองตามเดิม แต่ทว่าในค.ศ. 1438 คันโตคุโบโมะชิอุจิต้องการตำแหน่งโชกุนที่เมืองเกียวโต จึงก่อการกบฎต่อโชกุนโยะชิโนะริ เรียกว่า สงครามปีเอเกียว (ญี่ปุ่น: 永享の乱; โรมาจิ: Eikyō no ran) โชกุนโยชิโนะริส่งทัพเข้ายึดเมืองคะมะกุระได้สำเร็จ โมะชิอุจิทำการเซ็ปปุกุเสียชีวิต ทำให้ตำแหน่งคันโตคุโบว่างลงและภูมิภาคตะวันออกของญี่ปุ่นตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของตระกูลอุเอะซุงิ
ในค.ศ. 1441 โชกุนโยะชิโนะริถูกลอบสังหารโดยเจ้าครองแคว้นชื่อว่า อะกะมะซึ มิซึซุเกะ (ญี่ปุ่น: 赤松 満祐; โรมาจิ: Akamatsu Mitsusuke) อะชิกะงะ โยะชิกะซึ (ญี่ปุ่น: 足利 義勝; โรมาจิ: Ashikaga Yoshikatsu) ผู้เป็นบุตรชายขึ้นดำรงตำแหน่งโชกุนต่อมาได้เพียงสองปีก็ถึงแก่อสัญกรรมในปีค.ศ. 1443 อะชิกะงะ โยะชิมะซะ (ญี่ปุ่น: 足利 義政; โรมาจิ: Ashikaga Yoshimasa) บุตรชายอีกคนของโชกุนโยะชิโนะริจึงขึ้นเป็นโชกุน หลังจากที่โชกุนโยะชิมะซะสละตำแหน่งโชกุน กลายเป็นโอโงะโชะในปีค.ศ. 1473 โอโงะโชะโยะชิมะซะสร้างคฤหาสน์ศาลาเงิน (ญี่ปุ่น: 銀閣; โรมาจิ: Ginkaku) ขึ้นในค.ศ. 1482 บนเขาฮิงะชิยะมะทางตะวันออกของนครเกียวโต เพื่อเป็นที่พำนึกในบั้นปลายชีวิตให้แก่ตนเองเฉกเช่นเดียวกับโอโงะโชะโยชิมิตสึซึ่งได้สร้างคฤหาสน์ศาลาทอง สมัยของโชกุนโยะชิมะซะเป็นสมัยแห่งความรุ่งเรืองทางศิลปวัฒนธรรมอีกสมัยหนึ่ง เรียกว่า สมัยวัฒนธรรมฮิงะชิยะมะ (ญี่ปุ่น: 東山文化; โรมาจิ: Higashiyama-bunka) ชนชั้นซะมุไรยังคงรับวัฒนธรรมจากจีนราชวงศ์หมิงอย่างต่อเนื่อง นำไปสู่การพัฒนาศิลปะด้านการจัดสวน การจัดดอกไม้ ละครโนะ และจิตรกรรมหมึก
สงครามปีโอนิงและยุคเซ็งโงะกุ
เนื่องจากโชกุนโยะชิมะซะไม่มีบุตรชาย จึงมอบหมายให้น้องชายของตนคืออะชิกะงะ โยะชิมิ (ญี่ปุ่น: 足利 義視; โรมาจิ: Ashikaga Yoshimi) เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งโชกุนในค.ศ. 1464 โดยที่อะชิกะงะ โยะชิมิ ได้รับการสนับสนุนจากคังเรโฮะโซะกะวะ คะซึโมะโตะ (ญี่ปุ่น: 細川 勝元; โรมาจิ: Hosokawa Katsumoto) แต่ทว่า มิไดโดะโกะโระฮิโนะ โทะมิโกะ (ญี่ปุ่น: 日野 富子; โรมาจิ: Hino Tomiko) ได้ให้กำเนิดบุตรชายแก่โชกุนโยะชิมะซะอย่างไม่คาดฝันในค.ศ. 1465 ชื่อว่า อะชิกะงะ โยะชิฮิซะ (ญี่ปุ่น: 足利 義尚; โรมาจิ: Ashikaga Yoshihisa) ทำให้เกิดประเด็นปัญหาการสืบทอดตำแหน่งโชกุน โดยที่ยะมะนะ โซเซ็ง (ญี่ปุ่น: 山名 宗全; โรมาจิ: Yamana Sōzen) พ่อตาและคู่แข่งทางการเมืองของคังเรคะซึโมะโตะได้ใช้โอกาสนี้ให้การสนับสนุนแก่โยะชิฮิซะที่ยังเยาว์วัย จากประเด็นปัญหาการสืบทอดตำแหน่งโชกุนกลายเป็นความขัดแย้งระหว่างซะมุไร ทั้งคังเรคะซึโมะโตะและยะมะนะโซเซ็งต่างซ่องสุมกำลังของตน โดยที่โฮะโวะกะวะตั้งมั่นอยู๋ทางตะวันออกของนครเกียวโต ในขณะที่ยะมะนะตั้งอยู่ทางตะวันตก เรียกว่า สงครามปีโอนิง (ญี่ปุ่น: 応仁の乱; โรมาจิ: Ōnin no Ran) ซึ่งปะทุขึ้นในค.ศ. 1467 เมื่อทัพของทั้งสองฝ่ายเข้าห้ำหั่นกันกลางเมืองเกียวโต สร้างความเสียหายให้แก่วัดวาอารามและศาลเจ้าทั้งหลายในเมืองเกียวโต ในค.ศ. 1473 ทั้งโฮะโซะกะวะ คะซึโมะโตะ และยะมะนะ โซเซ็ง ต่างล้มป่วยเสียชีวิต แม้กระนั้นสงครามยังไม่สิ้นสุดลง เนื่องจากโออุชิ มะซะฮิโระ (ญี่ปุ่น: 大内 政弘; โรมาจิ: Ōuchi Masahiro) ยังคงให้การสนับสนุนแก่โยะชิมิ ในปีเดียวกันโชกุนโยะชิมะซะได้ยกตำแหน่งโชกุนให้แก่บุตรชายของตนคือ อะชิกะงะ โยะชิฮิซะ หลังจากสู้รบยาวนานสิบปี ทำให้ทั้งสองฝ่ายเหนื่อยล้า และโออุชิ มะซะฮิโระเดินทางออกจากเมืองเกียวโตไปในที่สุดเมื่อค.ศ. 1477 ผลของสงครามปีโอนิง ซึ่งเป็นสงครามที่ยืดเยื้อยาวนานสิบปี ทำให้เมืองเกียวโตถูกทำลายลงไปมาก ท่ามกลางสงครามโชกุนโยะชิมะซะกลับอาศัยอยู่แต่ในความหรูหราของคฤหาสน์ศาลาเงิน และเนื่องจากรัฐบาลโชกุนฯไม่มีอำนาจที่การยุติข้อพิพาธระหว่างซะมุไรในเหตุการณ์นี้ทำให้ในทางปฏิบัติรัฐบาลโชกุนฯสูญสิ้นอำนาจในการปกครองประเทศ และอำนาจถูกกระจายไปยังส่วนภูมิภาคแว่นแคว้นต่างๆ เจ้าครองแคว้นทั้งหลายต่างตั้งตนขึ้นเป็นอิสระ มีอำนาจเต็มในการปกครองแคว้นของตนแม้ว่าจะขึ้นกับรัฐบาลโชกุนแต่เพียงในนาม เรียกว่า ยุคเซ็งโงะกุ (ญี่ปุ่น: 戦国時代; โรมาจิ: Sengoku-jidai)
แม้ว่าจะสูญสิ้นอำนาจในการปกครองประเทศ แต่ภายในรัฐบาลโชกุนฯยังคงมีการแก่งแย่งอำนาจอย่างต่อเนื่อง หลังจากสงครามปีโอนิง รัฐบาลโชกุนฯตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของคังเรและตระกูลโฮะโซะกะวะ หลังจากที่โฮะโซะกะวะ คะซึโมะโตะ เสียชีวิต โฮะโซะกะวะ มะซะโมะโตะ (ญี่ปุ่น: 細川 政元; โรมาจิ: Hosokawa Masamoto) บุตรชายของคะซึโมะโตะ ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นคังเรและสืบทอดอำนาจต่อจากบิดา โชกุนโยะชิฮิซะถึงแก่อสัญกรรมในค.ศ. 1487 โดยปราศจากทายาท โอโงะโชะโยะชิมะซะจึงฟื้นฟูความสัมพันธ์กับโยะชิมิผู้เป็นน้องชาย และให้บุตรชายของโยะชิมิคือ อะชิกะงะ โยะชิตะเนะ (ญี่ปุ่น: 足利 義稙; โรมาจิ: Ashikaga Yoshitane) เป็นทายาทสืบทอดตำแหน่งโชกุน โอโงะโชะโยะชิมะซะถึงแก่อสัญกรรมเมื่อค.ศ. 1490 โยะชิตะเนะจึงขึ้นดำรงตำแหน่งโชกุนต่อมา แต่ทว่าโชกุนโยะชิตะเนะเกิดความขัดแย้งกับคังเรโฮะโซะกะวะ มะซะโมะโตะ จนนำไปสู่การที่โชกุนโยะชิตะเนะถูกคังเรบีบบังคับให้ออกจากตำแหน่งและหลบหนีไปยังแคว้นซุโอ (จังหวัดยะมะงุชิในปัจจุบัน) ในค.ศ. 1501 คังเรมะซะโมะโตะจึงยกให้อะชิกะงะ โยะชิซุมิ (ญี่ปุ่น: 足利 義澄; โรมาจิ: Ashikaga Yoshizumi) ขึ้นดำรงตำแหน่งโชกุนแทนเป็นหุ่นเชิดของตน เนื่องจากคังเรมะซะโมะโตะมีศัตรูทางการเมืองจำนวนมาก ทำให้คังเรมะซะโมะโตะถูกลอบสังหารในค.ศ. 1508 อดีตโชกุนโยะชิตะเนะจึงเดินทางเข้าเมืองเกียวโตดำรงตำแหน่งเป็นโชกุนอีกครั้ง ภายใต้ความคุ้มครองของโออุชิ โยะชิโอะกิ (ญี่ปุ่น: 大内 義興; โรมาจิ: Ōuchi Yoshioki) เจ้าครองแคว้นซุโอ และโฮะโซะกะวะ ทะกะกุนิ (ญี่ปุ่น: 細川 高国; โรมาจิ: Hosokawa Takakuni) เมื่อกลับมาดำรงตำแหน่งโชกุนอีกครั้ง โยะชิตะเนะพบว่าตนเองตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของคังเรคนใหม่คือ โฮะโซะกะวะ ทะกะกุนิ โชกุนโยะชิตะเนะจึงหลบหนีออกจากเมืองเกียวโตอีกครั้งในค.ศ. 1521 คังเรทะกะกุนิยกให้อะชิกะงะ โยะชิฮะรุ (ญี่ปุ่น: 足利 義晴; โรมาจิ: Ashikaga Yoshiharu) ขึ้นเป็นโชกุนแทน ในค.ศ. 1527 โฮะโซะกะวะ ฮะรุโมะโตะ (ญี่ปุ่น: 細川 晴元; โรมาจิ: Hosokawa Harumoto) ยกทัพเข้ายึดรัฐบาลโชกุนฯ ทำให้ทะกะกุนิต้องหลบหนีออกจากเกียวโต คังเรฮะรุโมะโตะส่งกองทัพไปสังหารอดีตคังเรทะกะกุนิในค.ศ. 1531 และปลดโชกุนโยะชิฮะรุออกจากตำแหน่ง ตั้งอะชิกะงะ โยะชิเตะรุ (ญี่ปุ่น: 足利 義輝; โรมาจิ: Ashikaga Yoshiteru) ขึ้นเป็นโชกุนแทน
ท่ามกลางความสับสนทางการเมืองของญี่ปุ่นในยุคเซ็งโงะกุ ชาวโปรตุเกสได้เดินเรือมาถึงยังประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกในค.ศ. 1543 โดยขึ้นฝั่งที่เกาะทะเนะงะชิมะ (ญี่ปุ่น: 種子島; โรมาจิ: Tanegashima จังหวัดคะโงะชิมะในปัจจุบัน) ซึ่งชาวโปรตุเกสได้เข้ามาติดต่อค้าขายกับไดเมียวต่างๆบนเกาะคีวชู และเผยแผ่ศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ชาวญี่ปุ่นเรียกชาวตะวันตกผู้มาใหม่ว่า "นัมบัน" (ญี่ปุ่น: 南蛮; โรมาจิ: Nanban) แปลว่า อนารยชนจากทิศใต้ ชาวโปรตุเกสได้นำวิทยาการสงครามปืนไฟและปืนคาบศิลามาให้แก่ชาวญี่ปุ่นได้รู้จัก ซึ่งส่งผลอย่างใหญ่หลวงต่อการทำสงครามกลางเมืองระหว่างแคว้นของญี่ปุ่น แล้วภายหลังญี่ปุ่นก็ได้พัฒนาปืนไฟขึ้นมาใช้งานเอง
จุดจบของรัฐบาลโชกุน
ในค.ศ. 1549 มิโยะชิ โชเก (ญี่ปุ่น: 三好 長慶; โรมาจิ: Miyoshi Chōkei) และมะซึนะกะ ฮิซะฮิเดะ (ญี่ปุ่น: 松永 久秀; โรมาจิ: Matsunaga Hisahide) ยกทัพเข้ายึดนครเกียวโตจากคังเรฮะรุโมะโตะ เป็นการสิ้นสุดอำนาจของตระกูลโฮะโซะกะวะเหนือรัฐบาลโชกุนที่เป็นมากว่าเจ็ดสิบปี ทั้งมิโยะชิ โชเก และมะซึนะกะ ฮิซะฮิเดะ ขึ้นมามีอำนาจเหนือรัฐบาลโชกุนจนนำไปสู่ความขัดแย้งกับโชกุนโยะชิเตะรุ ในค.ศ. 1565 มะซึนะกะ ฮิซะฮิเดะ ส่งกำลังคนไปทำการลอบสังหารโชกุนโยะชิเตะรุถึงแก่อสัญกรรม อะชิกะงะ โยะชิอะกิ (ญี่ปุ่น: 足利 義昭; โรมาจิ: Ashikaga Yoshiaki) ผู้เป็นน้องชายของโชกุนโยะชิเตะรุ จึงเดินทางหลบหนีเพื่อไปขอความช่วยเหลือจาก โอะดะ โนะบุนะงะ (ญี่ปุ่น: 織田 信長; โรมาจิ: Oda Nobunaga) เพื่อทำการแก้แค้นให้แก่พี่ชาย โอะดะ โนะบุนะกะ ยกทัพเข้ายึดเมืองเกียวโตในค.ศ. 1568 และตั้งอะชิกะงะ โยะชิอะกิ ขึ้นเป็นโชกุนหุ่นเชิด แต่ทว่าต่อมาโชกุนโยะชิอะกิเกิดความขัดแย้งกับโอะดะ โนะบุนะงะ ในเรื่องการแบ่งสรรอำนาจ โอะดะ โนะบุนะงะ จึงทำการปลดโชกุนโยะชิอะกิออกจากตำแหน่งในค.ศ. 1573 โดยที่ไม่ได้ตั้งโชกุนคนใหม่ขึ้นมาอีก เป็นการสิ้นสุดรัฐบาลโชกุนของตระกูลอะชิกะงะซึ่งดำรงอยู่มาเป็นเวลาประมาณ 250 ปี และเข้าสู่ยุคอะซุชิโมะโมะยะมะ
ศาสนา
พระพุทธศาสนานิกายมหายาน
พุทธศาสนาในยุคมูโรมาจิมีการพัฒนาที่ต่อเนื่องมาจากยุคคะมะกุระ โดยเฉพาะนิกายในกลุ่ม"พุทธศาสนาใหม่" ได้แก่นิกายเซ็นและนิกายแดนบริสุทธิ์รุ่งเรืองในยุคมูโรมาจิ ในยุคมูโรมาจิพุทธศาสนานิกายเซ็น (Zen Buddhism) ซึ่งเผยแพร่จากประเทศจีนเข้ามาสู่ญี่ปุ่นช่วงปลายสมัยคะมะกุระขึ้นมามีอำนาจเนื่องจากได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลโชกุนฯ รัฐบาลโชกุนมูโรมาจิมีอำนาจในการจัดการการปกครองคณะสงฆ์นิกายเซ็นในญี่ปุ่น หลักการและคำสอนของนิกายเซ็นเน้นเรื่องการวิปัสสนาและการฝึกจิตฝึกตน ซึ่งสอดคล้องกับวิถีชีวิตนักรบของชนขั้นซะมุไร หลักปฏิบัติของนิกายเซ็นประกอบด้วย ซะเซ็ง (ญี่ปุ่น: 座禅; โรมาจิ: Zazen การนั่งสมาธิ) โคอัง (ญี่ปุ่น: 公案; โรมาจิ: Kōan การปุจฉาวิสัชนา) และซะมุ (ญี่ปุ่น: 作務; โรมาจิ: Samu การฝึกตน) ในสมัยมูโรมาจิ นิกายเซ็นในญี่ปุ่นมีสองสำนักด้วยกันได้แก่
- สำนักริงไซ (ญี่ปุ่น: 臨済; โรมาจิ: Rinzai) มาจากสำนัก หลินจี่ ของจีน
- สำนักโซโต (ญี่ปุ่น: 曹洞; โรมาจิ: Sōtō) มาจากสำนัก เฉาต่ง ของจีน
ในบรรดาสองสำนัก นิกายเซ็นสำนักริงไซได้รับการอุปถัมภ์จากรัฐบาลโชกุนฯมากที่สุด พระสงฆ์ในนิกายริงไซมีบทบาทและอำนาจในการเมือง ได้รับมอบหมายหน้าที่ให้เป็นผู้ตืดต่อสื่อกลางระหว่างรัฐบาลโชกุนและราชสำนักจีนราชวงศ์หมิง เป็นผู้แปลภาษาและเป็นผู้นำคณะทูต ในสมัยของโชกุนโยชิมิตสึมีการนำรูปแบบการปกครองคณะสงฆ์นิกายเซ็นซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยคามากูระขึ้น เรียกว่า ระบบปัญจบรรพต หรือ โกะซัง (ญี่ปุ่น: 五山; โรมาจิ: Gozan) ซึ่งได้รับแบบอย่างมาจากจีนสมัยราชวงศ์ซ่ง โดยจัดแบ่งวัดนิกายเซ็นออกเป็นระดับต่างๆ โดยที่มีวัดห้าแห่งในเมืองคะมะกุระเป็นวัดระดับสูง ต่ำกว่าวัดระดับสูงหรือโกะซังลงมาคือวัดระดับกลางเรียกว่า จิเซ็ตซึ (ญี่ปุ่น: 十刹; โรมาจิ: Jissetsu) และต่ำกว่าวัดระดับกลางลงมาเรียกว่าวัดระดับล่าง เรียกว่า โชะซัง (ญี่ปุ่น: 諸山; โรมาจิ: Shozan) ซึ่งรัฐบาลโชกุนอาชิกางะได้นำพุทธศาสนานิกายเซ็นเข้ามาสู่นครหลวงเกียวโตและนำระบบปัญจบรรพตจากเมืองคามากูระมาด้วย โดยคณะสงฆ์นิกายเซ็นในเมืองเกียวโตถูกปกครองแบบลำดับชั้นโดยมีวัดใหญ่ห้าแห่งในเมืองเกียวโตมีอำนาจสูงสุด เฉกเช่นเดียวกับที่เมืองคามากูระรัฐบาลโชกุนรื้อฟื้นระบบการปกครองสงฆ์ที่เมืองคามากูระขึ้นมาใหม่
นิกายเซ็นสำนักโซโตแม้จะไม่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลโชกุนแต่ก็มีผู้นับถือจำนวนมาก และได้รับการสนับสนุนจากชนชั้นซะมุไรระดับล่างและชนชั้นสามัญชนชาวนาทั่วไป อย่างไรก็ตามพุทธศาสนานิกายแดนบริสุทธิ์อมิตพุทธ หรือ โจโด (ญี่ปุ่น: 浄土; โรมาจิ: Jōdo Pure Land Buddhism) เป็นความเชื่อหลักที่สำคัญของชนชั้นล่าง เนื่องจากนิกายแดนบริสุทธิ์มีหลักการว่ามนุษย์ทุกคนสามารถเข้าถึงแดนบริสุทธิ์ได้ด้วยการสวดเน็มบุซึ (ญี่ปุ่น: 念佛; โรมาจิ: Nembutsu) หรืออมิตพุทธ อย่างเท่าเทียมกัน พระภิกษุเร็นเนียว (ญี่ปุ่น: 蓮如; โรมาจิ: Rennyō) ก่อตั้งนิกายแดนบริสุทธิ์อันแท้จริง หรือ โจโด ชิงชู (ญี่ปุ่น: 浄土真宗; โรมาจิ: Jōdo Shinshū) ซึ่งมีชนชั้นล่างชาวบ้านหันมานับถือจำนวนมาก จนนำไปสู่การกำเนิดของลิทธิอิกโก และการกบฎอิกโกอิกกิในที่สุด
สำหรับพุทธศาสนานิกายดั้งเดิมอื่นๆของญี่ปุ่นเช่น เท็งได และ ชิงงอน ยังคงดำรงอยู่ต่อมาแม้ว่าจะต้องเผชิญกับการแข่งขันกับพุทธศาสนานิกายใหม่ๆดังที่ได้กล่าวในข้างต้น
ศาสนาคริสต์
นักบุญฟรานซิส ซาเวียร์ ได้พบกับชายชาวญี่ปุ่นชื่อว่า อังจิโร่ (Anjirō) ที่เมืองมะละกาของโปรตุเกสในค.ศ. 1547 สองปีต่อมาค.ศ. 1549 นักบุญฟรานซิสซาเวียร์ได้นำคณะมิชชันนารีเยซูอิตมาถึงประเทศญี่ปุ่นเพื่อทำการเผยแผ่ศาสนาคริสต์เป็นครั้งแรกพร้อมกับอังจิโร่ คณะมิชชันนารีเยซูอิตประสบปัญหาทางด้านภาษาซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญ ในระยะแรกคณะมิชชั้นนารีใช้คำว่า "ไดนิชิ" (ญี่ปุ่น: 大日; โรมาจิ: Dainichi) เป็นคำที่ใช้แทนพระเจ้าเพื่อให้ง่ายต่อความเข้าใจของคนญี่ปุ่น ซึ่งไปพ้องความหมายกับพระไวโรจนพุทธะในพุทธศาสนานิกายมหายาน ทำให้คณะสงฆ์ในญี่ปุ่นเข้าใจว่าคณะเยซูอิตนับถือพระพุทธศาสนา ในเวลาต่อมาคณะเยซูอิตเข้าใจถึงความหมายของคำว่า ไดนิชิ จึงเปลี่ยนไปใช้คำว่า "เดอุส" (Deus) แทนพระเจ้า ทำให้คณะสงฆ์ญี่ปุ่นตระหนักว่าคณะเยซูอิตกำลังเผยแพร่ศาสนาที่แตกต่าง นักบุญฟรานซิสซาเวียร์พำนักที่เมืองคะโงะชิมะและยะมะงุชิ หลังจากอาศัยอยู่ในญี่ปุ่นได้หนึ่งปีนักบุญฟรานซิสซาเวียร์จึงเดินทางกลับอินเดีย จากนั้นคณะเยซูอิตยังคงปฏิบัติงานต่อในญี่ปุ่น โดยมีชาวญี่ปุ่นจำนวนหนึ่งหันมานับถือศาสนาคริสต์โดยเฉพาะในเกาะคีวชูและภาคตะวันตกของญี่ปุ่น ประกอบไปด้วยชาวญี่ปุ่นทุกระดับตั้งแต่ชาวบ้านไปจนถึงไดเมียวเจ้าครองแคว้น รัฐบาลโชกุนฯอนุญาตให้มีการเผยแพร่ศาสนาคริสต์ในค.ศ. 1559 แต่ทว่าราชสำนักเกียวโตจักรพรรดิโองิมะชิมีพระราชโองการห้ามการเผยแพร่ศาสนาคริสต์ในค.ศ. 1565 อย่างไรก็ตามคำสั่งเหล่านี้ไม่สามารถส่งเสริมหรือห้ามปรามกิจกรรมของมิชชันนารีได้เนื่องจากทั้งสองสถาบันไม่มีอำนาจในทางการเมืองในทางพฤตินัย
เหตุการณ์ที่สำคัญ
เหตุการณ์สำคัญในยุคโระมะชิ เรียงตามปี ค.ศ.
- 1333 จักรพรรดิกลับมามีอำนาจในการปกครองประเทศ
- 1335 ทะกะอุจิ และ โยชิซาดะ ต่างก็หวังครองเคียวโตะ เกิดเป็นความขัดแย้งระหว่างราชวงศ์ทางเหนือกับทางใต้
- 1338 ทากาอุจิ อาชิกางะ ได้รับตำแหน่งโชกุน และก่อตั้งรัฐบาลมุโรมะชิ
- 1392 ฝ่ายเหนือกับฝ่ายใต้ ตกลงปรองดองกันได้
- 1397 โยชิมิสึ อาชิกางะ โชกุนรุ่นที่ 3 สร้างตำหนักทอง ที่คิตายามะ ในเคียวโตะ เป็นช่วงเวลาที่วัฒนธรรมคิตายามะเจริญรุ่งเรือง
- 1401 โยชิมิสึ อาชิกางะ ส่งทูตญี่ปุ่นไปยังราชวงศ์หมิงของจีนเป็นครั้งแรก
- 1431 ระยะนี้มักจะเกิดการปะทะกันระหว่างพวกไดเมียว (หัวหน้ากลุ่มนักรบในเขตท้องถิ่น) ด้วยกันอยู่บ่อยครั้ง
- 1457 โดกัน โอตะ สร้างปราสาทเอโดะที่มุซาชิ
- 1467 สงครามโอนิน เป็นจุดเริ่มต้นแห่งยุคสงครามกลางเมืองอันยาวนาน ระหว่างบรรดาไดเมียวที่แตกแยกออกเป็นสองกลุ่ม ภายใต้การนำของตระกูลโฮโสกาวะ กับตระกูลยามานะ เป็นการแสดงให้เห็นถึงความล้มเหลวของการปกครองระบบโชกุนทั้งหมด ชนชั้นนักรบมีอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ
- 1477 การต่อสู้ในเคียวโตะได้สงบลง แต่สงครามกลับขยายตัวไปยังส่วนภูมิภาคแทน
- 1482 โยชิมาสะ อะชิกะงะ สร้างตำหนักเงิน ที่ฮิงาชิยามะ ในเคียวโตะ เป็นช่วงที่วัฒนธรรมฮิงาชิยามะเจริญรุ่งเรือง
- 1543 พ่อค้าชาวโปรตุเกสขึ้นฝั่งที่ทาเนงาชิมะ และนำปืน ยาสูบ และของแปลกๆใหม่ๆหลายชนิด เข้ามาเผยแพร่ในญี่ปุ่น
- 1549 เซนต์ฟรานซิส ซาเวียร์ นำศาสนาคริสต์มาเผยแพร่ที่คาโงชิมะ
- 1568 โนบุนางะ โอดะ ซึ่งเป็นตระกูไดเมียว ที่มีอำนาจขึ้นมาในสมัยสงครามท้องถิ่น และต้องการรวมประเทศเป็น ก็ได้เคลื่อนกำลังเข้ายึดเคียวโตะ โดยได้รับการสนับสนุนจากจักรพรรดิ โดยมีอีก 2 บุคคลที่เป็นผู้นำสำคัญในการรวมประเทศ คือ โทะโยะโตะมิ ฮิเดะโยะชิ และ โทะกุงะวะ อิเอะยะซุ ทำให้อารยธรรมมูโรมาจิเริ่มเสื่อมสลายไป
อ้างอิง
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamniimmikarxangxingcakaehlngthimaidkrunachwyprbprungbthkhwamni odyephimkarxangxingaehlngthimathinaechuxthux enuxkhwamthiimmiaehlngthimaxacthukkhdkhanhruxlbxxk eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir yukhmuormaci yipun 室町時代 ormaci Muromachi jidai trngkb kh s 1336 1568 khrunghlngkhxngstwrrsthi 14 xachikanga oychimitsu idprabpramchnchnpkkhrxnglngxyangrabkhab aelatngrthbalochkunkhunxikkhrngthi ekhiywota sungrthbalochkunniidpkkhrxngyipuntxmaepnewlananthungsxngstwrrsessxnepnchwngewlathiwthnthrrmkhxngchnchnnkrbkidklunwthnthrrmkhxngchnchnpkkhrxnglngxyangrabkhabechnediywkn xyangirktamrthbalochkunkhxngtrakulxachikanga ekidcakkarrwmtwkhxngkhunsuksakhy tamhwemuxngtang ekhadwykn cungepnthrrmdathikarrwbxanacihrthbalmiesthiyrphaphnnepnipidxyanglabak dngnninkhrunghlngstwrrsthi 15 epntnma khunsuktamhwemuxngtang cungerimthasngkhramaeyngchingxanackn cnthngpraethsyipuntkekhasuyukhsngkhram phayinyukhniepnyukhthichnchnnkrbmixanacehnuxekstrkraelamikrrmsiththiehnuxthidincungepnkarpkkhrxngrabbskdinaodysmburn danesrsthkickecriyrungeruxngmak enuxngcakthakarkhakbcinsmyhmingdanwthnthrrm lththiesnepnswnephimetimihkbwthnthrrmkhxngchnchnpkkhrxngaelachnchnnkrb sungehnrupaebbidcaktahnkthxng Kinkaku inplaystwrrsthi 14 xnepntwaethnkhxngwthnthrrmkhitayama Kitayama aelatahnkengin Ginkaku inplaystwrrsthi 15 xnepntwaethnkhxngwthnthrrmhingachiyama Higashiyama karlakhr xyangechn on ekhiywengn aelakartxephlng kerimaephrhlaysuprachachnphaynxk silpwthnthrrmdngedimkhxngyipun xyangechn phithichngcha karcddxkim kerimmirakthanmacakyukhni aelainchwngklangstwrrsthi 16 phwkfrng echn chatioprtueks aelasepnkidnaxawuthpunyawaelasasnakhristekhamaephyaephrthiyipunprawtisastrsmyrachwngsehnuxit phrackrphrrdiok idonga hlngcakthithrnglmlangrthbalochkunkhamakuraaelw idthrngruxfunrabxbkarpkkhrxngxnmixngkhphrackrphrrdiepnsunyklangkhunmaihm eriykwa karfunfupiekhmmu Kemmu Restoration srangkhwamimphxicihaekchnchnsamuirsungyngkhngtxngkarihmikarpkkhrxngkhxngrabxbochkun kh s 1336 xachikanga thakaxuci yipun 足利 尊氏 ormaci Ashikaga Takauji michychnaehnuxthphkhxngphrackrphrrdiok idonga sungnaody khusuonki masachienga yipun 楠木正成 ormaci Kusunoki Masashige inyuththkarthiminaotngawa yipun 湊川の戦い ormaci Minatogawa no tatakai xachikanga thakaxuci ekhayudnkhrekhiywotaidsaerc tngphrackrphrrdiokhemiywkhunepnphrackrphrrdixngkhihm swnphrackrphrrdiok idongaesdchlbhniipyngemuxngoychiona yipun 吉野 ormaci Yoshino cnghwdnarainpccubn aelathrngcdtngrachsankihmkhun n thiaehngnn praethsyipuncungmiphrackrphrrdisxngphraxngkhinewlaediywkn xngkhsungprathbxyuthiemuxngekiywot eriykwa phrarachwngsfayehnux aelaxngkhthiprathbxyuthiemuxngoychiona eriykwa phrarachwngsfayit epncuderimtnkhxng smyrachwngsehnuxit hrux nmobkuoch yipun 南北朝 ormaci Nanboku chō xachikanga thakaxuci sungsubechuxsaymacaktrakuleswaengngci yipun 清和源氏 ormaci Seiwa Genji hrux trakulminaomota idrbkaraetngtngihepn esxiithochngung yipun 征夷大将軍 ormaci Seii Taishōgun epncuderimtnkhxngrthbalochkunxachikangaaelasmymuormaci sungrthbalochkunthwaykarsnbsnunaedphrarachwngsfayehnux ochkunxachikanga thakaxuci aelanxngchaykhux xachikanga thadaoychi yipun 足利 直義 ormaci Ashikaga Tadayoshi pkkhrxngpraethsyipunrwmkn cnkrathngekidkhwamkhdaeyngrahwangsxngphinxng enuxngcakochkunthakaxuci ihkarsnbsnunaek okh ona omornaoxa yipun 高師直 ormaci Kō no Moronao sungepnkhuaekhngthangkaremuxngkhxngthadaoychi inkh s 1349 thadaoychithukxpephixxkcakrthbalochkun aelaaeprphktripekhakbphrarachwngsfayit ekidepn sngkhrampikhnon yipun 観応の擾乱 ormaci Kannō no shōran thadaoychiykthphkhxngphrarachwngsfayitekhaocmtiemuxngekiywot sxngphinxngecrcathasyyasngbsuk thadaoychiedinthangipcdtngrthbalkhxngtnexngthiemuxngkhamakura aetklbthukthadaxuciphichaywangyaphissngharinthisud phrarachwngsfayit sungmiphunathangthharkhux khusuonki masaonri yipun 楠木正儀 ormaci Kusunoki Masanori ykthphekhabukyudemuxngekiywotidsaercinkh s 1353 kh s 1355 aela kh s 1362 aetfayrthbalochkunsamarthyudnkhrekiywotklbmaidthukkhrng inkh s 1358 ochkunthakaxucithungaekxsykrrm xachikanga oychixakira yipun 足利 義詮 ormaci Ashikaga Yoshiakira butrchaykhundarngtaaehnngochkunsubtxaethn inkh s 1362 ochkunoychixakiracdtngtaaehnngkhnger yipun 管領 ormaci Kanrei hruxphusaercrachkaraethnochkun odyphudarngtaaehnngkhngermacaksamtrakulidaet ohoskawa yipun 細川 ormaci Hosokawa hataekyama yipun 畠山 ormaci Hatakeyama aelachiba yipun 志波 ormaci Shiba kh s 1365 ecachaykhaenoychi yipun 懐良親王 ormaci Kaneyoshi shinnō sngepnphraoxrskhxngphrackrphrrdiok idonga srangkxngkalngtxtanrthbalochkunaelaekhayudkhrxngekaakhiwchu inkh s 1368 ochkunoychixakiralmpwyaelathungaekxsykrrmxyangkrathnhn thaihxachikanga oychimitsu yipun 足利 義満 ormaci Ashikaga Yoshimitsu butrchaykhxngoychixakirasungmixayuephiyngekapi txngkhundarngtaaehnngepnochkunkhntxma khvhasn hana ona ongaocha enuxngcakochkunoychimitsuyngxayunxy xanacpkkhrxngcungxyukhngerohoskawa oyriyuki yipun 細川 頼之 ormaci Hosokawa Yoriyuki kh s 1370 khngeroyriyukisngximangawa sadaoya yipun 今川 貞世 ormaci Imagawa Sadayo nathphkhxngrthbalochkunipprabecachaykhaenoychithiekaakhiwchuidsaerc inkh s 1378 khvhasnaehngihmkhxngochkunoychimitsusrangkhunaelwesrc eriykwa hana ona ongocha yipun 花の御所 ormaci Hana no Gosho hrux muormaci odona yipun 室町殿 ormaci Muromachi dono sungcaklayepnthiphankkhxngochkuntrakulxachikangaipcntlxdsmymuormaci inkh s 1379 khngeroyriyukithukkddnihlaxxkcaktaaehnng thaihochkunoychimitsumioxkaskhunmamixanacinkarbriharpraethsxyangetmthi inkh s 1392 ochkunoychimitsucdihmikarecrcakhxtklngrahwangrachwngsfayehnuxaelafayit odyphrarachwngsfayityinyxmmxbekhruxngrachkkudphnthsamxyang Three Sacred Treasures xnepnsylksnkhxngrachsmbtiyipun ihaekphrarachwngsfayehnux ethakbepnkaryxmrbwaphrackrphrrdithiemuxngekiywotnnepnphrackrphrrdiaehngyipunaetephiyngphraxngkhediyw epnkaryutismyrachwngsehnuxit smyaehngkhwamrungeruxngthangwthnthrrmaelakartidtxkbtangchati wdkhingkaku inkh s 1394 ochkunoychimitsuslataaehnngochkunihaekxachikanga oychiomci phuepnbutrchay oychimitsudarngtaaehnngepn oxongocha yipun 大御所 ormaci Ōgosho hruxxditochkunaethn phrxmthngbrrphchaepnphraphiksuinphuththsasnanikayesn aemwacaslataaehnngochkunihaekbutrchayaelw aetxanackarpkkhrxngyngkhngxyuthioxongochaoychimitsu inkh s 1401 oxongochaoychimitsuaetngkhnathutedinthangipyngnkhrpkkingephuxecriysmphnthimtrikbcinrachwngshming pitxmakh s 1402 ckrphrrdieciynehwinthrngaetngtngihoychimitsudarngtaaehnngepn kstriyaehngyipun yipun 日本国王 ormaci Nihon koku ō inkartidtxsmphnthkbrachsankcin epnkarerimtnnapraethsyipunekhasurabxbbrrnakarcimkxng smykhxngochkunoychimitsuepnsmyaehngkhwamrungeruxngthangdansilpawthnthrrmkhxngyipuninsmymuormaci eriykwa smywthnthrrmkhitayama yipun 北山文化 ormaci Kitayama bunka tamchuxekhakhitayama xnepnthitngkhxng khvhasnkhingkaku yipun 金閣 ormaci Kinkaku hrux khvhasnsalathxng hruxpccubnkhuxwdkhingkaku xnepnthiphankinchwngbnplaychiwitkhxngoxongochaoychimitsu kartidtxthangkarthutkbcinthaihrthbalochkunepidrbwthnthrrmcin xnidaek phuththsasnanikayesn phithichngcha silpakarcdswn epntn oychimitsuxupthmphphuththsasnanikayesn oxongochaoychimitsuthungaekxsykrrmemuxkh s 1408 ochkunoychiomciidrbkarxanacetminkarpkkhrxng ochkunoychiomcidaeninnoybaytrngkhamkbbidainkhwamsmphnthkbpraethscin odykartdsmphnthimtrikbrachwngshminginkh s 1411 insmymuormacichawyipunlxngeruxxxkthaelekhaplnsadmemuxngthatangkhxngcinaelaekahlisrangkhwamesiyhayxyangmak eriykwa ocrsldyipun yipun 倭寇 ormaci Wakō inkh s 1398 phraecaaethocaehngochsxnthrngsngrachthutphkhthngchi Pak Tong chi ekhamaecriysmphnthimtrikbyipun ephuxprasankhwamrwmmuxinkarprabpramocrsldyipun aetimprasbphl inkh s 1419 phraecaaethcngthrngsngthpheruxngekahlinaodyaemthph licngmu Yi Jong mu ekharukranekaasuchima eriykwa karrukranpioxex yipun 応永の外寇 ormaci Ōei no gaikō aemthphlicngmunathpheruxekahliekharukranaelaplmsadmekaasuchima caknnrthbalochkunaelarachsankochsxncungecrcasngbsuk odyphanthang os sadaomri yipun 宗貞盛 ormaci Sō Sadamori ecakhrxngekaasuchima inkh s 1443 snthisyyakhakitsu yipun 嘉吉条約 ormaci Kakitsu jōyaku ekahlieriyk snthisyyapikheyaeh Gyehae Treaty rachsankochsxnmxbxanacihtrakulos ecakhrxngekaasuchima epnphuprasannganinkartidtxsmphnthrahwangekahliaelayipun odythifayyipunmihnathiprabpramocrsldyipun kh s 1423 ochkunoychiomcislataaehnngihaekbutrchaykhxngtnkhux yipun 足利 義量 ormaci Ashikaga Yoshikazu khunepnochkunkhntxma swnxditochkunoyachiomachidarngtaaehnngepnoxongaochaechkechnediywkbbida aetthwaochkunoyachikasudarngtaaehnngochkunidephiyngsxngpikthungaekxsykrrminkh s 1425 aelaoxongaochaoyachiomachithungaekxsykrrminkh s 1428 nxngchaykhxngoxongaochaoyachiomachikhux xachikanga oyachionari yipun 足利 義教 ormaci Ashikaga Yoshinori cungkhundarngtaaehnngepnochkunkhntxmainkh s 1429 ochkunoyachionarifunfukhwamsmphnthkbcinrachwngshminginpikh s 1433 aelacdtngothesng buengiyw yipun 唐船奉行 ormaci Tōsen bugyō khuninkh s 1434ephuxduaeleruxngngankarthutkbcin nbtngaetkh s 1349 pthmochkunxachikanga thakaxuci idaetngtngihbutrchaykhxngtnkhux xachikanga omaotaxuci yipun 足利基氏 ormaci Ashikaga Motouji darngtaaehnngepn khnotkhnger yipun 関東管領 ormaci Kantō kanrei sungepnphusaercrachkaraethnochkuninphumiphakhtawnxxkkhxngyipun khnotkhngerphankxyuthiemuxngkhamakuraaelamixanacehnuxsamuirinphumiphakhkhnotaelaphakhtawnxxkthngmwl dwyxanacxnmhasalkhxngkhnotkhnger thaihkhnotkhngerklayepnkhuaekhngthangkaremuxngkhxngrthbalochkunthiemuxngekiywot inewlatxmataaehnngkhnotkhngeridrbkarkhnannamwa khnotkhuob yipun 関東公方 ormaci Kantō kubō aeplwa ochkunaehngphumiphakhkhnot sungkhnotkhuobmiphuchwyepnphusaercrachkarxikthxdhnung eriykwa chisuci sungepntaaehnngkhxngtrakulxuexasungi yipun 上杉 ormaci Uesugi inkh s 1416 khnotkhuobxachikanga omachixuci yipun 足利持氏 ormaci Ashikaga Mochiuji ekidkhwamkhdaeyngkbchisucixuexasungi esngchu yipun 上杉 禅秀 ormaci Uesugi Zenshu xuexasungi esngchu cungkxkarkbdykthphekhayudemuxngkhamakura thaihkhnotkhuobomachixucitxnghlbhnixxkcakemuxngkhamakura inkh s 1417 ochkunoyachiomachisngthphkhxngrthbalochkunekhayudemuxngkhamakurakhuncakxuexasungiesngchuidsaerc aelachwyehluxihkhnotkhuobomachixuciklbekhaemuxngtamedim aetthwainkh s 1438 khnotkhuobomachixucitxngkartaaehnngochkunthiemuxngekiywot cungkxkarkbdtxochkunoyachionari eriykwa sngkhrampiexekiyw yipun 永享の乱 ormaci Eikyō no ran ochkunoychionarisngthphekhayudemuxngkhamakuraidsaerc omachixucithakaresppukuesiychiwit thaihtaaehnngkhnotkhuobwanglngaelaphumiphakhtawnxxkkhxngyipuntkxyuphayitxiththiphlkhxngtrakulxuexasungi khvhasnsalaengin sungimidrbkarpiddwyengin txmaklayepnwdkingkaku inkh s 1441 ochkunoyachionarithuklxbsngharodyecakhrxngaekhwnchuxwa xakamasu misusueka yipun 赤松 満祐 ormaci Akamatsu Mitsusuke xachikanga oyachikasu yipun 足利 義勝 ormaci Ashikaga Yoshikatsu phuepnbutrchaykhundarngtaaehnngochkuntxmaidephiyngsxngpikthungaekxsykrrminpikh s 1443 xachikanga oyachimasa yipun 足利 義政 ormaci Ashikaga Yoshimasa butrchayxikkhnkhxngochkunoyachionaricungkhunepnochkun hlngcakthiochkunoyachimasaslataaehnngochkun klayepnoxongaochainpikh s 1473 oxongaochaoyachimasasrangkhvhasnsalaengin yipun 銀閣 ormaci Ginkaku khuninkh s 1482 bnekhahingachiyamathangtawnxxkkhxngnkhrekiywot ephuxepnthiphanukinbnplaychiwitihaektnexngechkechnediywkboxongaochaoychimitsusungidsrangkhvhasnsalathxng smykhxngochkunoyachimasaepnsmyaehngkhwamrungeruxngthangsilpwthnthrrmxiksmyhnung eriykwa smywthnthrrmhingachiyama yipun 東山文化 ormaci Higashiyama bunka chnchnsamuiryngkhngrbwthnthrrmcakcinrachwngshmingxyangtxenuxng naipsukarphthnasilpadankarcdswn karcddxkim lakhrona aelacitrkrrmhmuk sngkhrampioxningaelayukhesngongaku enuxngcakochkunoyachimasaimmibutrchay cungmxbhmayihnxngchaykhxngtnkhuxxachikanga oyachimi yipun 足利 義視 ormaci Ashikaga Yoshimi epnphusubthxdtaaehnngochkuninkh s 1464 odythixachikanga oyachimi idrbkarsnbsnuncakkhngerohaosakawa khasuomaota yipun 細川 勝元 ormaci Hosokawa Katsumoto aetthwa miidodaokaorahiona othamioka yipun 日野 富子 ormaci Hino Tomiko idihkaenidbutrchayaekochkunoyachimasaxyangimkhadfninkh s 1465 chuxwa xachikanga oyachihisa yipun 足利 義尚 ormaci Ashikaga Yoshihisa thaihekidpraednpyhakarsubthxdtaaehnngochkun odythiyamana osesng yipun 山名 宗全 ormaci Yamana Sōzen phxtaaelakhuaekhngthangkaremuxngkhxngkhngerkhasuomaotaidichoxkasniihkarsnbsnunaekoyachihisathiyngeyawwy cakpraednpyhakarsubthxdtaaehnngochkunklayepnkhwamkhdaeyngrahwangsamuir thngkhngerkhasuomaotaaelayamanaosesngtangsxngsumkalngkhxngtn odythiohaowakawatngmnxyuthangtawnxxkkhxngnkhrekiywot inkhnathiyamanatngxyuthangtawntk eriykwa sngkhrampioxning yipun 応仁の乱 ormaci Ōnin no Ran sungpathukhuninkh s 1467 emuxthphkhxngthngsxngfayekhahahnknklangemuxngekiywot srangkhwamesiyhayihaekwdwaxaramaelasalecathnghlayinemuxngekiywot inkh s 1473 thngohaosakawa khasuomaota aelayamana osesng tanglmpwyesiychiwit aemkrannsngkhramyngimsinsudlng enuxngcakoxxuchi masahiora yipun 大内 政弘 ormaci Ōuchi Masahiro yngkhngihkarsnbsnunaekoyachimi inpiediywknochkunoyachimasaidyktaaehnngochkunihaekbutrchaykhxngtnkhux xachikanga oyachihisa hlngcaksurbyawnansibpi thaihthngsxngfayehnuxyla aelaoxxuchi masahioraedinthangxxkcakemuxngekiywotipinthisudemuxkh s 1477 phlkhxngsngkhrampioxning sungepnsngkhramthiyudeyuxyawnansibpi thaihemuxngekiywotthukthalaylngipmak thamklangsngkhramochkunoyachimasaklbxasyxyuaetinkhwamhruhrakhxngkhvhasnsalaengin aelaenuxngcakrthbalochkunimmixanacthikaryutikhxphiphathrahwangsamuirinehtukarnnithaihinthangptibtirthbalochkunsuysinxanacinkarpkkhrxngpraeths aelaxanacthukkracayipyngswnphumiphakhaewnaekhwntang ecakhrxngaekhwnthnghlaytangtngtnkhunepnxisra mixanacetminkarpkkhrxngaekhwnkhxngtnaemwacakhunkbrthbalochkunaetephiynginnam eriykwa yukhesngongaku yipun 戦国時代 ormaci Sengoku jidai aemwacasuysinxanacinkarpkkhrxngpraeths aetphayinrthbalochkunyngkhngmikaraekngaeyngxanacxyangtxenuxng hlngcaksngkhrampioxning rthbalochkuntkxyuphayitxiththiphlkhxngkhngeraelatrakulohaosakawa hlngcakthiohaosakawa khasuomaota esiychiwit ohaosakawa masaomaota yipun 細川 政元 ormaci Hosokawa Masamoto butrchaykhxngkhasuomaota khundarngtaaehnngepnkhngeraelasubthxdxanactxcakbida ochkunoyachihisathungaekxsykrrminkh s 1487 odyprascakthayath oxongaochaoyachimasacungfunfukhwamsmphnthkboyachimiphuepnnxngchay aelaihbutrchaykhxngoyachimikhux xachikanga oyachitaena yipun 足利 義稙 ormaci Ashikaga Yoshitane epnthayathsubthxdtaaehnngochkun oxongaochaoyachimasathungaekxsykrrmemuxkh s 1490 oyachitaenacungkhundarngtaaehnngochkuntxma aetthwaochkunoyachitaenaekidkhwamkhdaeyngkbkhngerohaosakawa masaomaota cnnaipsukarthiochkunoyachitaenathukkhngerbibbngkhbihxxkcaktaaehnngaelahlbhniipyngaekhwnsuox cnghwdyamanguchiinpccubn inkh s 1501 khngermasaomaotacungykihxachikanga oyachisumi yipun 足利 義澄 ormaci Ashikaga Yoshizumi khundarngtaaehnngochkunaethnepnhunechidkhxngtn enuxngcakkhngermasaomaotamistruthangkaremuxngcanwnmak thaihkhngermasaomaotathuklxbsngharinkh s 1508 xditochkunoyachitaenacungedinthangekhaemuxngekiywotdarngtaaehnngepnochkunxikkhrng phayitkhwamkhumkhrxngkhxngoxxuchi oyachioxaki yipun 大内 義興 ormaci Ōuchi Yoshioki ecakhrxngaekhwnsuox aelaohaosakawa thakakuni yipun 細川 高国 ormaci Hosokawa Takakuni emuxklbmadarngtaaehnngochkunxikkhrng oyachitaenaphbwatnexngtkxyuphayitxiththiphlkhxngkhngerkhnihmkhux ohaosakawa thakakuni ochkunoyachitaenacunghlbhnixxkcakemuxngekiywotxikkhrnginkh s 1521 khngerthakakuniykihxachikanga oyachiharu yipun 足利 義晴 ormaci Ashikaga Yoshiharu khunepnochkunaethn inkh s 1527 ohaosakawa haruomaota yipun 細川 晴元 ormaci Hosokawa Harumoto ykthphekhayudrthbalochkun thaihthakakunitxnghlbhnixxkcakekiywot khngerharuomaotasngkxngthphipsngharxditkhngerthakakuniinkh s 1531 aelapldochkunoyachiharuxxkcaktaaehnng tngxachikanga oyachietaru yipun 足利 義輝 ormaci Ashikaga Yoshiteru khunepnochkunaethn thamklangkhwamsbsnthangkaremuxngkhxngyipuninyukhesngongaku chawoprtueksidedineruxmathungyngpraethsyipunepnkhrngaerkinkh s 1543 odykhunfngthiekaathaenangachima yipun 種子島 ormaci Tanegashima cnghwdkhaongachimainpccubn sungchawoprtueksidekhamatidtxkhakhaykbidemiywtangbnekaakhiwchu aelaephyaephsasnakhristnikayormnkhathxlik chawyipuneriykchawtawntkphumaihmwa nmbn yipun 南蛮 ormaci Nanban aeplwa xnarychncakthisit chawoprtueksidnawithyakarsngkhrampunifaelapunkhabsilamaihaekchawyipunidruck sungsngphlxyangihyhlwngtxkarthasngkhramklangemuxngrahwangaekhwnkhxngyipun aelwphayhlngyipunkidphthnapunifkhunmaichnganexng cudcbkhxngrthbalochkun inkh s 1549 mioyachi ochek yipun 三好 長慶 ormaci Miyoshi Chōkei aelamasunaka hisahieda yipun 松永 久秀 ormaci Matsunaga Hisahide ykthphekhayudnkhrekiywotcakkhngerharuomaota epnkarsinsudxanackhxngtrakulohaosakawaehnuxrthbalochkunthiepnmakwaecdsibpi thngmioyachi ochek aelamasunaka hisahieda khunmamixanacehnuxrthbalochkuncnnaipsukhwamkhdaeyngkbochkunoyachietaru inkh s 1565 masunaka hisahieda sngkalngkhnipthakarlxbsngharochkunoyachietaruthungaekxsykrrm xachikanga oyachixaki yipun 足利 義昭 ormaci Ashikaga Yoshiaki phuepnnxngchaykhxngochkunoyachietaru cungedinthanghlbhniephuxipkhxkhwamchwyehluxcak oxada onabunanga yipun 織田 信長 ormaci Oda Nobunaga ephuxthakaraekaekhnihaekphichay oxada onabunaka ykthphekhayudemuxngekiywotinkh s 1568 aelatngxachikanga oyachixaki khunepnochkunhunechid aetthwatxmaochkunoyachixakiekidkhwamkhdaeyngkboxada onabunanga ineruxngkaraebngsrrxanac oxada onabunanga cungthakarpldochkunoyachixakixxkcaktaaehnnginkh s 1573 odythiimidtngochkunkhnihmkhunmaxik epnkarsinsudrthbalochkunkhxngtrakulxachikangasungdarngxyumaepnewlapraman 250 pi aelaekhasuyukhxasuchiomaomayamasasnaphraphuththsasnanikaymhayan wdnngesng yipun 南禅寺 ormaci Nanzen ji tngxyuthinkhrekiywot epnwdthimixanacsungsudinkarpkkhrxngphuththsasnanikayesnsankringis phuththsasnainyukhmuormacimikarphthnathitxenuxngmacakyukhkhamakura odyechphaanikayinklum phuththsasnaihm idaeknikayesnaelanikayaednbrisuththirungeruxnginyukhmuormaci inyukhmuormaciphuththsasnanikayesn Zen Buddhism sungephyaephrcakpraethscinekhamasuyipunchwngplaysmykhamakurakhunmamixanacenuxngcakidrbkarsnbsnuncakrthbalochkun rthbalochkunmuormacimixanacinkarcdkarkarpkkhrxngkhnasngkhnikayesninyipun hlkkaraelakhasxnkhxngnikayesnenneruxngkarwipssnaaelakarfukcitfuktn sungsxdkhlxngkbwithichiwitnkrbkhxngchnkhnsamuir hlkptibtikhxngnikayesnprakxbdwy saesng yipun 座禅 ormaci Zazen karnngsmathi okhxng yipun 公案 ormaci Kōan karpucchawischna aelasamu yipun 作務 ormaci Samu karfuktn insmymuormaci nikayesninyipunmisxngsankdwyknidaek sankringis yipun 臨済 ormaci Rinzai macaksank hlinci khxngcin sankosot yipun 曹洞 ormaci Sōtō macaksank echatng khxngcin inbrrdasxngsank nikayesnsankringisidrbkarxupthmphcakrthbalochkunmakthisud phrasngkhinnikayringismibthbathaelaxanacinkaremuxng idrbmxbhmayhnathiihepnphutudtxsuxklangrahwangrthbalochkunaelarachsankcinrachwngshming epnphuaeplphasaaelaepnphunakhnathut insmykhxngochkunoychimitsumikarnarupaebbkarpkkhrxngkhnasngkhnikayesnsungmimatngaetsmykhamakurakhun eriykwa rabbpycbrrpht hrux okasng yipun 五山 ormaci Gozan sungidrbaebbxyangmacakcinsmyrachwngssng odycdaebngwdnikayesnxxkepnradbtang odythimiwdhaaehnginemuxngkhamakuraepnwdradbsung takwawdradbsunghruxokasnglngmakhuxwdradbklangeriykwa ciestsu yipun 十刹 ormaci Jissetsu aelatakwawdradbklanglngmaeriykwawdradblang eriykwa ochasng yipun 諸山 ormaci Shozan sungrthbalochkunxachikangaidnaphuththsasnanikayesnekhamasunkhrhlwngekiywotaelanarabbpycbrrphtcakemuxngkhamakuramadwy odykhnasngkhnikayesninemuxngekiywotthukpkkhrxngaebbladbchnodymiwdihyhaaehnginemuxngekiywotmixanacsungsud echkechnediywkbthiemuxngkhamakurarthbalochkunruxfunrabbkarpkkhrxngsngkhthiemuxngkhamakurakhunmaihm nikayesnsankosotaemcaimidrbkarsnbsnuncakrthbalochkunaetkmiphunbthuxcanwnmak aelaidrbkarsnbsnuncakchnchnsamuirradblangaelachnchnsamychnchawnathwip xyangirktamphuththsasnanikayaednbrisuththixmitphuthth hrux ocod yipun 浄土 ormaci Jōdo Pure Land Buddhism epnkhwamechuxhlkthisakhykhxngchnchnlang enuxngcaknikayaednbrisuththimihlkkarwamnusythukkhnsamarthekhathungaednbrisuththiiddwykarswdenmbusu yipun 念佛 ormaci Nembutsu hruxxmitphuthth xyangethaethiymkn phraphiksuerneniyw yipun 蓮如 ormaci Rennyō kxtngnikayaednbrisuththixnaethcring hrux ocod chingchu yipun 浄土真宗 ormaci Jōdo Shinshu sungmichnchnlangchawbanhnmanbthuxcanwnmak cnnaipsukarkaenidkhxngliththixikok aelakarkbdxikokxikkiinthisud sahrbphuththsasnanikaydngedimxunkhxngyipunechn ethngid aela chingngxn yngkhngdarngxyutxmaaemwacatxngephchiykbkaraekhngkhnkbphuththsasnanikayihmdngthiidklawinkhangtn sasnakhrist phaphkhxng nkbuyfran sissaewiyyr cakphiphithphnthemuxngokheba nkbuyfransis saewiyr idphbkbchaychawyipunchuxwa xngcior Anjirō thiemuxngmalakakhxngoprtueksinkh s 1547 sxngpitxmakh s 1549 nkbuyfransissaewiyridnakhnamichchnnarieysuxitmathungpraethsyipunephuxthakarephyaephsasnakhristepnkhrngaerkphrxmkbxngcior khnamichchnnarieysuxitprasbpyhathangdanphasasungepnxupsrrkhsakhy inrayaaerkkhnamichchnnariichkhawa idnichi yipun 大日 ormaci Dainichi epnkhathiichaethnphraecaephuxihngaytxkhwamekhaickhxngkhnyipun sungipphxngkhwamhmaykbphraiworcnphuththainphuththsasnanikaymhayan thaihkhnasngkhinyipunekhaicwakhnaeysuxitnbthuxphraphuththsasna inewlatxmakhnaeysuxitekhaicthungkhwamhmaykhxngkhawa idnichi cungepliynipichkhawa edxus Deus aethnphraeca thaihkhnasngkhyipuntrahnkwakhnaeysuxitkalngephyaephrsasnathiaetktang nkbuyfransissaewiyrphankthiemuxngkhaongachimaaelayamanguchi hlngcakxasyxyuinyipunidhnungpinkbuyfransissaewiyrcungedinthangklbxinediy caknnkhnaeysuxityngkhngptibtingantxinyipun odymichawyipuncanwnhnunghnmanbthuxsasnakhristodyechphaainekaakhiwchuaelaphakhtawntkkhxngyipun prakxbipdwychawyipunthukradbtngaetchawbanipcnthungidemiywecakhrxngaekhwn rthbalochkunxnuyatihmikarephyaephrsasnakhristinkh s 1559 aetthwarachsankekiywotckrphrrdioxngimachimiphrarachoxngkarhamkarephyaephrsasnakhristinkh s 1565 xyangirktamkhasngehlaniimsamarthsngesrimhruxhampramkickrrmkhxngmichchnnariidenuxngcakthngsxngsthabnimmixanacinthangkaremuxnginthangphvtinyehtukarnthisakhyehtukarnsakhyinyukhoramachi eriyngtampi kh s 1333 ckrphrrdiklbmamixanacinkarpkkhrxngpraeths 1335 thakaxuci aela oychisada tangkhwngkhrxngekhiywota ekidepnkhwamkhdaeyngrahwangrachwngsthangehnuxkbthangit 1338 thakaxuci xachikanga idrbtaaehnngochkun aelakxtngrthbalmuormachi 1392 fayehnuxkbfayit tklngprxngdxngknid 1397 oychimisu xachikanga ochkunrunthi 3 srangtahnkthxng thikhitayama inekhiywota epnchwngewlathiwthnthrrmkhitayamaecriyrungeruxng 1401 oychimisu xachikanga sngthutyipunipyngrachwngshmingkhxngcinepnkhrngaerk 1431 rayanimkcaekidkarpathaknrahwangphwkidemiyw hwhnaklumnkrbinekhtthxngthin dwyknxyubxykhrng 1457 odkn oxta srangprasathexodathimusachi 1467 sngkhramoxnin epncuderimtnaehngyukhsngkhramklangemuxngxnyawnan rahwangbrrdaidemiywthiaetkaeykxxkepnsxngklum phayitkarnakhxngtrakulohoskawa kbtrakulyamana epnkaraesdngihehnthungkhwamlmehlwkhxngkarpkkhrxngrabbochkunthnghmd chnchnnkrbmixanacmakkhuneruxy 1477 kartxsuinekhiywotaidsngblng aetsngkhramklbkhyaytwipyngswnphumiphakhaethn 1482 oychimasa xachikanga srangtahnkengin thihingachiyama inekhiywota epnchwngthiwthnthrrmhingachiyamaecriyrungeruxng 1543 phxkhachawoprtuekskhunfngthithaenngachima aelanapun yasub aelakhxngaeplkihmhlaychnid ekhamaephyaephrinyipun 1549 esntfransis saewiyr nasasnakhristmaephyaephrthikhaongchima 1568 onbunanga oxda sungepntrakuidemiyw thimixanackhunmainsmysngkhramthxngthin aelatxngkarrwmpraethsepn kidekhluxnkalngekhayudekhiywota odyidrbkarsnbsnuncakckrphrrdi odymixik 2 bukhkhlthiepnphunasakhyinkarrwmpraeths khux othaoyaotami hiedaoyachi aela othakungawa xiexayasu thaihxarythrrmmuormacierimesuxmslayipxangxingbthkhwamprawtisastrniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldkhk