บทความนี้ไม่มีจาก |
ในชื่อบุคคลญี่ปุ่นนี้นามสกุลคือ อาชิกางะ อาชิกางะ โยชิมิตสึ (ญี่ปุ่น: 足利 義満; โรมาจิ: Ashikaga Yoshimitsu) เป็นโชกุนคนที่ 3 แห่ง ตระกูลอาชิกางะ โดยในสมัยโชกุนโยชิมิตสึสามารถรวบรวมราชวงศ์เหนือ-ใต้ให้เป็นหนึ่งเดียวได้สำเร็จ
อาชิกางะ โยชิมิตสึ | |
---|---|
อาชิกางะ โยชิมิตสึ | |
โชกุนแห่งมูโรมาจิ | |
ค.ศ. 1368 - 1394 | |
ก่อนหน้า | อาชิกางะ โยชิอากิระ |
ถัดไป | อาชิกางะ โยชิโมจิ |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 25 กันยายน พ.ศ. 1901 |
อสัญกรรม | 31 พฤษภาคม พ.ศ. 1951 (49 ปี) |
บิดา | อาชิกางะ โยชิอากิระ |
มารดา | คิโนะ โยชิโกะ |
มิได | ฮิโนะ นาริโกะ |
บุตร-ธิดา | อาชิกางะ โยชิโมจิ |
ประวัติ
วัยเยาว์
โยชิมิตสึเกิดเมื่อวันที่ 25 กันยายน ค.ศ. 1358 เป็นบุตรชายของโชกุน อาชิกางะ โยชิอากิระ โชกุนลำดับที่สองแห่งรัฐบาลโชกุนมูโรมาจิ กับนางคิ โนะ โยชิโกะ (ญี่ปุ่น: 紀良子; โรมาจิ: Ki no Yoshiko) ซึ่งเป็นภรรยาน้อยของโยชิอากิระ เดิมโยชิมิตสึในวัยเยาว์มีชื่อว่า ชุงโอ (ญี่ปุ่น: 春王; โรมาจิ: Shun-ō) ในค.ศ. 1367 โชกุนโยชิอากิระผู้เป็นบิดาล้มป่วยลงกระทันหันจนถึงแก่อสัญกรรม ใน ค.ศ. 1368 ชุงโอจึงผ่านพิธีเง็มปูกุได้รับชื่อว่า โยชิมิตสึ และได้สืบทอดตำแหน่งโชกุนต่อจากบิดาด้วยอายุเพียงสิบปีเท่านั้น
เนื่องจากโชกุนโยชิมิตสึขึ้นดำรงตำแหน่งตั้งแต่อายุยังเยาว์ อำนาจการปกครองจึงตกอยู่ที่ (ญี่ปุ่น: 細川 頼之; โรมาจิ: Hosokawa Yoriyuki) ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นคันเร (ญี่ปุ่น: 管領; โรมาจิ: Kanrei) หรือผู้สำเร็จราชการแทนโชกุน มาตั้งแต่สมัยของโชกุนโยชิอากิระผู้เป็นบิดา โชกุนโยชิอากิระก่อนจะสิ้นใจ ได้เรียกทั้งโยชิมิตสึและโยริยูกิเข้าพบ โชกุนโยชิอากิระกล่าวแก่โยริยูกิว่า "ข้ามอบบุตรของข้าให้แก่ท่าน" และกล่าวแก่โยชิมิตสึบุตรชายว่า "ข้ามอบบิดาคนใหม่ให้แก่เจ้า" ประเทศญี่ปุ่นในช่วงต้นสมัยของโชกุนโยชิมิตสึนั้นยังคงมีหลายขั้วอำนาจ อยู่ในสมัยราชวงศ์เหนือใต้ (ญี่ปุ่น: 南北朝時代; โรมาจิ: Nanboku-chō jidai) รัฐบาลโชกุนมูโรมาจิซึ่งมีฐานที่มั่นอยู่ที่นครเคียวโตะ ให้การสนับสนุนราชวงศ์ฝ่ายเหนือ ในขณะที่ราชวงศ์ฝ่ายใต้แยกตัวเป็นอิสระประทับอยู่ที่เมืองโยชิโนะ ทางเกาะคีวชูนั้นมีเจ้าชายคเนโยชิ (ญี่ปุ่น: 懐良親王; โรมาจิ: Kaneyoshi shinnō) ควบคุมอยู่ และทางภูมิภาคคันโตที่เมืองคามากูระ คันโตคุโบ (ญี่ปุ่น: 関東公方; โรมาจิ: Kantō kubō) ก็พร้อมที่จะแยกตนเป็นอิสระ
ใน ค.ศ. 1369 คุซูโนกิ มาซาโนริ (ญี่ปุ่น: 楠木 正儀; โรมาจิ: Kusunoki Masanori) แม่ทัพของราชวงศ์ฝ่ายใต้ แปรพักตร์มาเข้ากับฝ่ายรัฐบาลโชกุนฯ ค.ศ. 1370 คันเรโยริยูกิส่งอิมางาวะ ซาดาโยะ (ญี่ปุ่น: 今川 貞世; โรมาจิ: Imagawa Sadayo) นำทัพของรัฐบาลโชกุนฯ ไปปราบเจ้าชายคาเนโยชิที่เกาะคีวชู ใน ค.ศ. 1378 คฤหาสน์แห่งใหม่ของโชกุนโยชิมิตสึสร้างขึ้นแล้วเสร็จ เรียกว่า ฮานะ โนะ โกโชะ (ญี่ปุ่น: 花の御所; โรมาจิ: Hana no Gosho) หรือ มูโรมาจิ โดะโนะ (ญี่ปุ่น: 室町殿; โรมาจิ: Muromachi dono) ซึ่งจะกลายเป็นที่พำนักของโชกุนตระกูลอาชิกางะไปจนตลอดยุคมูโรมาจิ
ดำรงตำแหน่งโชกุน
ตลอดสิบปีช่วงต้นสมัยของโชกุนโยชิมิตสึ อำนาจในการปกครองตกอยู่ที่คันเรโยริยูกิ จนกระทั่งใน ค.ศ. 1379 คันเรโยริยูกิถูกกดดันให้ลาออกจากตำแหน่ง ทำให้โชกุนโยชิมิตสึมีโอกาสขึ้นมามีอำนาจในการบริหารประเทศอย่างเต็มที่ เนื่องจากรัฐบาลโชกุนฯ ให้การสนับสนุนราชวงศ์ฝ่ายเหนือ ในการต่อสู้กับราชวงศ์ฝ่ายใต้ ทำให้รัฐบาลโชกุนอาชิกางะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับราชสำนักเกียวโต ใน ค.ศ. 1381 พระจักรพรรดิโกะ-เอ็งยูเสด็จไปทรงเยี่ยมโชกุนโยชิมิตสึที่คฤหาสน์ฮานะโนะโกโชะ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นที่พระจักรพรรดิเสด็จไปหาโชกุนด้วยพระองค์เอง
การสูญสิ้นอำนาจของคันเรโยริยูกิทำให้ความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ค.ศ. 1382 คุซูโนกิ มาซาโนริ แปรพักตร์กลับไปเข้ากับราชวงศ์ฝ่ายใต้อีกครั้ง และ ค.ศ. 1395 อิมางาวะ ซะดะโยะ ถูกปลดจากการเป็นผู้นำทัพในเกาะคีวชู คุซูโนกิ มาซาโนริ พ่ายแพ้ต่อทัพของรัฐบาลโชกุนฯ ใน ค.ศ. 1385 และมาซาโนริถึงแก่กรรมใน ค.ศ. 1389 ทำให้ราชวงศ์ฝ่ายใต้ขาดแม่ทัพที่เข้มแข็ง ใน ค.ศ. 1391 ตระกูลยามานะ ซึ่งเป็นตระกูลที่มีอำนาจถือครองที่ดินจำนวนมากในภูมิภาคชูโงกุ นำโดยยามานะ อุจิกิโยะ (ญี่ปุ่น: 山名 氏清; โรมาจิ: Yamana Ujikiyo) ถือโอกาสยกทัพเข้าเมืองเกียวโตเพื่อที่จะยึดอำนาจจากรัฐบาลโชกุนฯ ให้แก่ราชวงศ์ฝ่ายใต้ เรียกว่า สงครามปีเมโตกุ (ญี่ปุ่น: 明徳の乱; โรมาจิ: Meitoku no ran) แต่ล้มเหลว
ใน ค.ศ. 1392 โชกุนโยชิมิตสึจัดให้มีการเจรจาข้อตกลงระหว่างราชวงศ์ฝ่ายเหนือและฝ่ายใต้ โดยพระจักรพรรดิโกะ-คาเมยามะแห่งราชวงศ์ฝ่ายใต้ทรงยินยอมมอบเครื่องราชกกุฎภัณฑ์สามอย่าง (Three Sacred Treasures) อันเป็นสัญลักษณ์ของราชสมบัติญี่ปุ่น ให้แก่พระจักรพรรดิโกะ-โคมัตสึแห่งราชวงศ์ฝ่ายเหนือ ภายใต้เงื่อนไขว่าพระราชวงศ์ทั้งสองสายจะผลัดกันขึ้นครองราชสมบัติที่นครเกียวโต เท่ากับเป็นการยอมรับว่าพระจักรพรรดิที่เมืองเกียวโตนั้นเป็นพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่นแต่เพียงพระองค์เดียว เป็นการยุติยุคราชวงศ์เหนือใต้ อันเป็นยุคสมัยแห่งความขัดแย้งที่ยืดเยื้อมานานเป็นเวลาประมาณหกสิบปี
ดำรงตำแหน่งโอโงโชะ
ด้วยความดีความชอบของโชกุนโยชิมิตสึ ทำให้ใน ค.ศ. 1394 โชกุนโยชิมิตสึได้รับการแต่งตั้งให้เป็น ไดโจไดจิง (ญี่ปุ่น: 太政大臣; โรมาจิ: Daijō-daijin) ซึ่งเป็นตำแหน่งที่สูงที่สุดในราชสำนักญี่ปุ่นรองจาก คัมปะกุ และในปีเดียวกันนั้น โชกุนโยชิมิตสึสละตำแหน่งโชกุนให้แก่อาชิกางะ โยชิโมจิผู้เป็นบุตรชาย โยชิมิตสึดำรงตำแหน่งเป็น โอโงโชะ (ญี่ปุ่น: 大御所; โรมาจิ: Ōgosho) หรืออดีตโชกุนแทน พร้อมทั้งบรรพชาเป็นพระภิกษุในพุทธศาสนานิกายเซนได้รับฉายาว่า โดงิ (ญี่ปุ่น: 道義; โรมาจิ: Dōgi) ในปีค.ศ. 1395
แม้ว่าจะสละตำแหน่งโชกุนให้แก่บุตรชายแล้ว แต่อำนาจการปกครองยังคงอยู่ที่โอโงโชะโยชิมิตสึ ใน ค.ศ. 1397 โอโงโชะโยชิมิตสึซื้อที่ดินบนเขาคิตายามะ (ญี่ปุ่น: 北山; โรมาจิ: Kitayama) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของนครเกียวโต เพื่อสร้างเป็นคฤหาสน์หลังใหม่ให้แก่ตนเองเรียกว่า คฤหาสน์คิงกากุ (ญี่ปุ่น: 金閣; โรมาจิ: Kinkaku) หรือ คฤหาสน์ศาลาทอง (ปัจจุบันคือวัดคิงกากุ) ค.ศ. 1399 ชูโง(เจ้าครองแคว้น)โออูจิ โยชิฮิโระ (ญี่ปุ่น: 大内 義弘; โรมาจิ: Ōuchi Yoshihiro) ก่อการกบฏต่อรัฐบาลโชกุนฯ และสร้างป้อมปราการขึ้นที่เมืองซากาอิ (ญี่ปุ่น: 堺; โรมาจิ: Sakai อยู่ในเขตเมืองโอซะกะในปัจจุบัน) เรียกว่า สงครามปีโอเอ (ญี่ปุ่น: 応永の乱; โรมาจิ: Ōei no ran) โยชิฮิโระยกทัพมายังเมืองเกียวโตแต่โอโงโชะโยชิมิตสึสามารถป้องกันเมืองได้ โยชิฮิโระล่าถอยทัพไปยังเมืองซากาอิ โยชิมิตสึเข้ายึดเมืองซากาอิได้ และโยชิฮิโระคว้านท้องฆ่าตัวตาย
ใน ค.ศ. 1401 โอโงโชะโยชิมิตสึแต่งคณะทูตเดินทางไปยังนครปักกิ่งเพื่อเจริญสัมพันธไมตรีกับจีนราชวงศ์หมิง ปีต่อมา ค.ศ. 1402 จักรพรรดิเจี้ยนเหวินทรงแต่งตั้งให้โยชิมิตสึดำรงตำแหน่งเป็น "กษัตริย์แห่งญี่ปุ่น" (ญี่ปุ่น: 日本国王; โรมาจิ: Nihon-koku-ō) ในการติดต่อสัมพันธ์กับราชสำนักจีน เป็นการเริ่มต้นนำประเทศญี่ปุ่นเข้าสู่ระบอบบรรณาการจิ้มก้อง
สมัยของโชกุนโยชิมิตสึเป็นสมัยแห่งความรุ่งเรืองทางด้านศิลปะวัฒนธรรมของญี่ปุ่นในสมัยมูโรมาจิ เรียกว่า สมัยวัฒนธรรมคิตายามะ (ญี่ปุ่น: 北山文化; โรมาจิ: Kitayama-bunka) ประกอบกับการติดต่อทางการทูตกับจีนทำให้รัฐบาลโชกุนฯ เปิดรับวัฒนธรรมจีน อันได้แก่ พุทธศาสนานิกายเซน พิธีชงชา ศิลปะการจัดสวน เป็นต้น โยชิมิตสึอุปถัมภ์พุทธศาสนานิกายเซ็น สำนักรินไซ (ญี่ปุ่น: 臨済; โรมาจิ: Rinzai)
โยชิมิตสึถึงแก่อสัญกรรมเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม ค.ศ. 1408 ขณะอายุได้ 49 ปี หลังจากที่ถึงแก่อสัญกรรมไปแล้ว โยะชิมิตสึได้รับชื่อว่า โรกูอัง-อิง (ญี่ปุ่น: 鹿苑院; โรมาจิ: Rokuan-in) และที่พำนักคฤหาสน์ศาลาทองนั้น ได้รับการยกขึ้นให้เป็นวัดในพุทธศาสนานิกายเซ็น ชื่อว่า วัดโรกูอัง (ญี่ปุ่น: 鹿苑寺; โรมาจิ: Rokuan-ji)
ครอบครัว
- บิดา: อาชิกางะ โยชิอากิระ
- มารดา: คิ โนะ โยชิโกะ (ญี่ปุ่น: 紀良子; โรมาจิ: Ki no Yoshiko)
- มิไดคนที่หนึ่ง: ฮิโนะ นาริโกะ (ญี่ปุ่น: 日野業子; โรมาจิ: Hino Nariko) เสียชีวิตเมื่อ ค.ศ. 1405
- มิไดคนที่สอง: ฮิโนะ ยาซูโกะ (ญี่ปุ่น: 日野康子; โรมาจิ: Hino Yasuko)
- ภรรยาน้อย: ฟูจิวาระ โนะ โยชิโกะ (ญี่ปุ่น: 藤原 慶子; โรมาจิ: Fujiwara no Yoshiko)
- บุตรชาย: โชกุนลำดับที่สี่
- บุตรชาย: อาชิกางะ โยชิโนริ โชกุนลำดับที่หก
- บุตรสาว: แม่ชี อิเรโดโนะ เซเซ็ง (ญี่ปุ่น: 入江殿聖仙; โรมาจิ: Iriedono-seisen)
- ภรรยาน้อย: คางะ โนะ สึโบเนะ (ญี่ปุ่น: 加賀局; โรมาจิ: Kaga no tsubone)
- ภรรยาน้อย: คาซูงะ โนะ สึโบเนะ (ญี่ปุ่น: 春日局; โรมาจิ: Kasuga no tsubone)
- ภรรยาน้อย: นาง เนฟูกุ-อิง (ญี่ปุ่น: 寧福院; โรมาจิ: Neifuku-in)
- ภรรยาน้อย: ฟูจิวาระ โนะ คาซูโกะ (ญี่ปุ่น: 藤原 量子; โรมาจิ: Fujiwara no Kazuko)
- ภรรยาน้อย: ฟูจิวาระ โนะ โทโมโกะ (ญี่ปุ่น: 藤原 誠子; โรมาจิ: Fujiwara no Tomoko)
- ภรรยาน้อย: เคอุนอันจุ (ญี่ปุ่น: 慶雲庵主; โรมาจิ: Keiunanju)
ปัจจุบัน
โชกุนโยชิมิตสึปรากฏเป็นตัวละครสำคัญในเรื่อง อิคคิวซัง เณรน้อยเจ้าปัญญา
อ้างอิง
- Brett L. Walker. A Concise History of Japan. Cambridge University Press, February 26, 2015.
ก่อนหน้า | อาชิกางะ โยชิมิตสึ | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
อาชิกางะ โยชิอากิระ | โชกุนแห่งมูโรมาจิบากูฟุ (ค.ศ. 1368 – 1394) |
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamniimmikarxangxingcakaehlngthimaidkrunachwyprbprungbthkhwamni odyephimkarxangxingaehlngthimathinaechuxthux enuxkhwamthiimmiaehlngthimaxacthukkhdkhanhruxlbxxk eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir inchuxbukhkhlyipunninamskulkhux xachikanga xachikanga oychimitsu yipun 足利 義満 ormaci Ashikaga Yoshimitsu epnochkunkhnthi 3 aehng trakulxachikanga odyinsmyochkunoychimitsusamarthrwbrwmrachwngsehnux itihepnhnungediywidsaercxachikanga oychimitsuxachikanga oychimitsuochkunaehngmuormacikh s 1368 1394kxnhnaxachikanga oychixakirathdipxachikanga oychiomcikhxmulswnbukhkhlekid25 knyayn ph s 1901xsykrrm31 phvsphakhm ph s 1951 49 pi bidaxachikanga oychixakiramardakhiona oychiokamiidhiona nariokabutr thidaxachikanga oychiomcidkprawtiwyeyaw oychimitsuekidemuxwnthi 25 knyayn kh s 1358 epnbutrchaykhxngochkun xachikanga oychixakira ochkunladbthisxngaehngrthbalochkunmuormaci kbnangkhi ona oychioka yipun 紀良子 ormaci Ki no Yoshiko sungepnphrryanxykhxngoychixakira edimoychimitsuinwyeyawmichuxwa chungox yipun 春王 ormaci Shun ō inkh s 1367 ochkunoychixakiraphuepnbidalmpwylngkrathnhncnthungaekxsykrrm in kh s 1368 chungoxcungphanphithiengmpukuidrbchuxwa oychimitsu aelaidsubthxdtaaehnngochkuntxcakbidadwyxayuephiyngsibpiethann enuxngcakochkunoychimitsukhundarngtaaehnngtngaetxayuyngeyaw xanackarpkkhrxngcungtkxyuthi yipun 細川 頼之 ormaci Hosokawa Yoriyuki sungdarngtaaehnngepnkhner yipun 管領 ormaci Kanrei hruxphusaercrachkaraethnochkun matngaetsmykhxngochkunoychixakiraphuepnbida ochkunoychixakirakxncasinic ideriykthngoychimitsuaelaoyriyukiekhaphb ochkunoychixakiraklawaekoyriyukiwa khamxbbutrkhxngkhaihaekthan aelaklawaekoychimitsubutrchaywa khamxbbidakhnihmihaekeca praethsyipuninchwngtnsmykhxngochkunoychimitsunnyngkhngmihlaykhwxanac xyuinsmyrachwngsehnuxit yipun 南北朝時代 ormaci Nanboku chō jidai rthbalochkunmuormacisungmithanthimnxyuthinkhrekhiywota ihkarsnbsnunrachwngsfayehnux inkhnathirachwngsfayitaeyktwepnxisraprathbxyuthiemuxngoychiona thangekaakhiwchunnmiecachaykhenoychi yipun 懐良親王 ormaci Kaneyoshi shinnō khwbkhumxyu aelathangphumiphakhkhnotthiemuxngkhamakura khnotkhuob yipun 関東公方 ormaci Kantō kubō kphrxmthicaaeyktnepnxisra khvhasn hana ona okocha in kh s 1369 khusuonki masaonri yipun 楠木 正儀 ormaci Kusunoki Masanori aemthphkhxngrachwngsfayit aeprphktrmaekhakbfayrthbalochkun kh s 1370 khneroyriyukisngximangawa sadaoya yipun 今川 貞世 ormaci Imagawa Sadayo nathphkhxngrthbalochkun ipprabecachaykhaenoychithiekaakhiwchu in kh s 1378 khvhasnaehngihmkhxngochkunoychimitsusrangkhunaelwesrc eriykwa hana ona okocha yipun 花の御所 ormaci Hana no Gosho hrux muormaci odaona yipun 室町殿 ormaci Muromachi dono sungcaklayepnthiphankkhxngochkuntrakulxachikangaipcntlxdyukhmuormaci darngtaaehnngochkun tlxdsibpichwngtnsmykhxngochkunoychimitsu xanacinkarpkkhrxngtkxyuthikhneroyriyuki cnkrathngin kh s 1379 khneroyriyukithukkddnihlaxxkcaktaaehnng thaihochkunoychimitsumioxkaskhunmamixanacinkarbriharpraethsxyangetmthi enuxngcakrthbalochkun ihkarsnbsnunrachwngsfayehnux inkartxsukbrachwngsfayit thaihrthbalochkunxachikangamikhwamsmphnthiklchidkbrachsankekiywot in kh s 1381 phrackrphrrdioka exngyuesdcipthrngeyiymochkunoychimitsuthikhvhasnhanaonaokocha epnkhrngaerkinprawtisastryipunthiphrackrphrrdiesdciphaochkundwyphraxngkhexng karsuysinxanackhxngkhneroyriyukithaihkhwamepliynaeplngthangkaremuxng kh s 1382 khusuonki masaonri aeprphktrklbipekhakbrachwngsfayitxikkhrng aela kh s 1395 ximangawa sadaoya thukpldcakkarepnphunathphinekaakhiwchu khusuonki masaonri phayaephtxthphkhxngrthbalochkun in kh s 1385 aelamasaonrithungaekkrrmin kh s 1389 thaihrachwngsfayitkhadaemthphthiekhmaekhng in kh s 1391 trakulyamana sungepntrakulthimixanacthuxkhrxngthidincanwnmakinphumiphakhchuongku naodyyamana xucikioya yipun 山名 氏清 ormaci Yamana Ujikiyo thuxoxkasykthphekhaemuxngekiywotephuxthicayudxanaccakrthbalochkun ihaekrachwngsfayit eriykwa sngkhrampiemotku yipun 明徳の乱 ormaci Meitoku no ran aetlmehlw in kh s 1392 ochkunoychimitsucdihmikarecrcakhxtklngrahwangrachwngsfayehnuxaelafayit odyphrackrphrrdioka khaemyamaaehngrachwngsfayitthrngyinyxmmxbekhruxngrachkkudphnthsamxyang Three Sacred Treasures xnepnsylksnkhxngrachsmbtiyipun ihaekphrackrphrrdioka okhmtsuaehngrachwngsfayehnux phayitenguxnikhwaphrarachwngsthngsxngsaycaphldknkhunkhrxngrachsmbtithinkhrekiywot ethakbepnkaryxmrbwaphrackrphrrdithiemuxngekiywotnnepnphrackrphrrdiaehngyipunaetephiyngphraxngkhediyw epnkaryutiyukhrachwngsehnuxit xnepnyukhsmyaehngkhwamkhdaeyngthiyudeyuxmananepnewlapramanhksibpi darngtaaehnngoxongocha dwykhwamdikhwamchxbkhxngochkunoychimitsu thaihin kh s 1394 ochkunoychimitsuidrbkaraetngtngihepn idocidcing yipun 太政大臣 ormaci Daijō daijin sungepntaaehnngthisungthisudinrachsankyipunrxngcak khmpaku aelainpiediywknnn ochkunoychimitsuslataaehnngochkunihaekxachikanga oychiomciphuepnbutrchay oychimitsudarngtaaehnngepn oxongocha yipun 大御所 ormaci Ōgosho hruxxditochkunaethn phrxmthngbrrphchaepnphraphiksuinphuththsasnanikayesnidrbchayawa odngi yipun 道義 ormaci Dōgi inpikh s 1395 khvhasnkhingkaku txmakhux wdkhingkaku aemwacaslataaehnngochkunihaekbutrchayaelw aetxanackarpkkhrxngyngkhngxyuthioxongochaoychimitsu in kh s 1397 oxongochaoychimitsusuxthidinbnekhakhitayama yipun 北山 ormaci Kitayama thangtawntkechiyngehnuxkhxngnkhrekiywot ephuxsrangepnkhvhasnhlngihmihaektnexngeriykwa khvhasnkhingkaku yipun 金閣 ormaci Kinkaku hrux khvhasnsalathxng pccubnkhuxwdkhingkaku kh s 1399 chuong ecakhrxngaekhwn oxxuci oychihiora yipun 大内 義弘 ormaci Ōuchi Yoshihiro kxkarkbttxrthbalochkun aelasrangpxmprakarkhunthiemuxngsakaxi yipun 堺 ormaci Sakai xyuinekhtemuxngoxsakainpccubn eriykwa sngkhrampioxex yipun 応永の乱 ormaci Ōei no ran oychihioraykthphmayngemuxngekiywotaetoxongochaoychimitsusamarthpxngknemuxngid oychihioralathxythphipyngemuxngsakaxi oychimitsuekhayudemuxngsakaxiid aelaoychihiorakhwanthxngkhatwtay in kh s 1401 oxongochaoychimitsuaetngkhnathutedinthangipyngnkhrpkkingephuxecriysmphnthimtrikbcinrachwngshming pitxma kh s 1402 ckrphrrdieciynehwinthrngaetngtngihoychimitsudarngtaaehnngepn kstriyaehngyipun yipun 日本国王 ormaci Nihon koku ō inkartidtxsmphnthkbrachsankcin epnkarerimtnnapraethsyipunekhasurabxbbrrnakarcimkxng smykhxngochkunoychimitsuepnsmyaehngkhwamrungeruxngthangdansilpawthnthrrmkhxngyipuninsmymuormaci eriykwa smywthnthrrmkhitayama yipun 北山文化 ormaci Kitayama bunka prakxbkbkartidtxthangkarthutkbcinthaihrthbalochkun epidrbwthnthrrmcin xnidaek phuththsasnanikayesn phithichngcha silpakarcdswn epntn oychimitsuxupthmphphuththsasnanikayesn sankrinis yipun 臨済 ormaci Rinzai oychimitsuthungaekxsykrrmemuxwnthi 31 phvsphakhm kh s 1408 khnaxayuid 49 pi hlngcakthithungaekxsykrrmipaelw oyachimitsuidrbchuxwa orkuxng xing yipun 鹿苑院 ormaci Rokuan in aelathiphankkhvhasnsalathxngnn idrbkarykkhunihepnwdinphuththsasnanikayesn chuxwa wdorkuxng yipun 鹿苑寺 ormaci Rokuan ji khrxbkhrwbida xachikanga oychixakira marda khi ona oychioka yipun 紀良子 ormaci Ki no Yoshiko miidkhnthihnung hiona narioka yipun 日野業子 ormaci Hino Nariko esiychiwitemux kh s 1405 miidkhnthisxng hiona yasuoka yipun 日野康子 ormaci Hino Yasuko phrryanxy fuciwara ona oychioka yipun 藤原 慶子 ormaci Fujiwara no Yoshiko butrchay ochkunladbthisi butrchay xachikanga oychionri ochkunladbthihk butrsaw aemchi xierodona esesng yipun 入江殿聖仙 ormaci Iriedono seisen phrryanxy khanga ona suobena yipun 加賀局 ormaci Kaga no tsubone butrchay phraphiksusnmng yipun 尊満 ormaci Sonman butrchay obodcaku ok yipun 宝幢若公 ormaci Bōdōjaku kō phrryanxy khasunga ona suobena yipun 春日局 ormaci Kasuga no tsubone butrchay xachikanga oychitsungu yipun 足利 義嗣 ormaci Ashikaga Yoshitsugu phrryanxy nang enfuku xing yipun 寧福院 ormaci Neifuku in butrsaw aemchi idcixing esekiyw yipun 大慈院聖久 ormaci Daijiin seikyō phrryanxy fuciwara ona khasuoka yipun 藤原 量子 ormaci Fujiwara no Kazuko butrsaw aemchi idcixing esoch yipun 大慈院聖紹 ormaci Daijiin seishō phrryanxy fuciwara ona othomoka yipun 藤原 誠子 ormaci Fujiwara no Tomoko butrchay khaci kioch yipun 梶井義承 ormaci Kajii Gishō phrryanxy ekhxunxncu yipun 慶雲庵主 ormaci Keiunanju butrsaw aemchi okhochxing sngekiyw yipun 光照院尊久 ormaci Kōshōin Sonkyō pccubnochkunoychimitsupraktepntwlakhrsakhyineruxng xikhkhiwsng enrnxyecapyyaxangxingBrett L Walker A Concise History of Japan Cambridge University Press February 26 2015 kxnhna xachikanga oychimitsu thdipxachikanga oychixakira ochkunaehngmuormacibakufu kh s 1368 1394