วันมาฆบูชา (บาลี: Māgha Pūjā, มาฆปูชา; อักษรโรมัน: Magha Puja) เป็นวันสำคัญของชาวพุทธเถรวาทและวันหยุดราชการในประเทศไทย "มาฆบูชา" ย่อมาจาก "มาฆปูรณมีบูชา" หมายถึง การบูชาในวันเพ็ญกลางเดือนมาฆะตาม หรือเดือน 3 ตามปฏิทินจันทรคติไทย (ตกช่วงเดือนกุมภาพันธ์หรือมีนาคม) ถ้าปีใดมีเดือนอธิกมาส คือมีเดือน 8 สองหน (ปีอธิกมาส) ก็เลื่อนไปทำในวันเพ็ญเดือน 3 หลัง (วันเพ็ญเดือน 4)
วันมาฆบูชา | |
---|---|
พระพุทธเจ้าทรงให้โอวาทเนื่องในวันมาฆบูชา | |
ชื่ออื่น | วันพระสงฆ์ วันจาตุรงคสันนิบาต |
จัดขึ้นโดย | ชาวพุทธเถรวาทในประเทศกัมพูชา, ลาว, พม่า, ศรีลังกา และไทย |
ประเภท | วันสำคัญในศาสนาพุทธ |
ความสำคัญ | พระภิกษุ 1,250 รูปมาประชุมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย |
การถือปฏิบัติ | เดินขบวนเวียนเทียน ทำบุญโดยทั่วไป |
วันที่ | ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 (ถ้ามีเดือนอธิกมาส เลื่อนไปเดือน 4) |
วันที่ในปี 2567 | 24 กุมภาพันธ์ |
วันที่ในปี 2568 | 12 กุมภาพันธ์ |
วันที่ในปี 2569 | 3 มีนาคม |
ส่วนเกี่ยวข้อง | (ในทิเบต) (ในเกาหลี) (โคโชงัตสึ) (ในญี่ปุ่น) เทศกาลโคมไฟ (ในจีน) Tết Nguyên tiêu (ในเวียดนาม) |
วันมาฆบูชาได้รับการยกย่องเป็นวันสำคัญทางศาสนาพุทธ เนื่องจากเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นเมื่อ 2,500 กว่าปีก่อน คือ พระโคตมพุทธเจ้าทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์ท่ามกลางที่ประชุมมหาสังฆสันนิบาตครั้งใหญ่ในพระพุทธศาสนา คัมภีร์ปปัญจสูทนีระบุว่าครั้งนั้นมีเหตุการณ์เกิดขึ้นพร้อมกัน 4 ประการ คือ พระภิกษุ 1,250 รูป ได้มาประชุมพร้อมกันยังวัดเวฬุวันโดยมิได้นัดหมาย, พระภิกษุทั้งหมดนั้นเป็น "เอหิภิกขุอุปสัมปทา" หรือผู้ได้รับการอุปสมบทจากพระพุทธเจ้าโดยตรง, พระภิกษุทั้งหมดนั้นล้วนเป็นพระอรหันต์ผู้ทรงอภิญญา 6, และวันดังกล่าวตรงกับวันเพ็ญเดือน 3 ดังนั้น จึงเรียกวันนี้อีกอย่างหนึ่งว่า "วันจาตุรงคสันนิบาต" หรือ วันที่มีการประชุมพร้อมด้วยองค์ 4
เดิมนั้นไม่มีพิธีมาฆบูชาในประเทศพุทธเถรวาท จนมาในสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) พระองค์ได้ทรงปรารภถึงเหตุการณ์ครั้งพุทธกาลในวันเพ็ญเดือน 3 ดังกล่าวว่า เป็นวันที่เกิดเหตุการณ์สำคัญยิ่ง ควรประกอบพิธีทางพระพุทธศาสนา เพื่อเป็นที่ตั้งแห่งความศรัทธาเลื่อมใส จึงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้จัดการพระราชกุศลมาฆบูชาขึ้น การประกอบพระราชพิธีคงคล้ายกับวันวิสาขบูชา คือ มีการบำเพ็ญพระราชกุศลต่าง ๆ และมีการพระราชทานจุดเทียนตามประทีปเป็นพุทธบูชาในวัดพระศรีรัตนศาสดารามและพระอารามหลวงต่าง ๆ เป็นต้น ในช่วงแรก พิธีมาฆบูชาคงเป็นการพระราชพิธีภายใน ยังไม่แพร่หลายทั่วไป ต่อมา ความนิยมจัดพิธีมาฆบูชาจึงได้ขยายออกไปทั่วราชอาณาจักร
ปัจจุบัน วันมาฆบูชาได้รับการประกาศให้เป็นวันหยุดราชการในประเทศไทย โดยพุทธศาสนิกชนทั้งพระบรมวงศานุวงศ์ พระสงฆ์และประชาชนประกอบพิธีต่าง ๆ เช่น การตักบาตร การฟังพระธรรมเทศนา เป็นต้น เพื่อบูชารำลึกถึงพระรัตนตรัยและเหตุการณ์สำคัญดังกล่าวที่ถือได้ว่า เป็นวันที่พระพุทธเจ้าประทานโอวาทปาฏิโมกข์ ซึ่งกล่าวถึงหลักคำสอนอันเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา ได้แก่ การไม่ทำความชั่วทั้งปวง การบำเพ็ญความดีให้ถึงพร้อม และการทำจิตของตนให้ผ่องใส เพื่อเป็นหลักปฏิบัติของพุทธศาสนิกชนทั้งมวล นอกจากนี้ ในปี พ.ศ. 2549 รัฐบาลไทยได้ประกาศให้วันมาฆบูชาเป็น "วันกตัญญูแห่งชาติ"
ศัพทมูลวิทยาและวันที่
มาฆะ มาจากชื่อเดือนที่สามใน และยังเป็นชื่อที่ปรากฏอยู่ใกล้ดวงจันทร์เต็มดวง วันมาฆบูชาจัดในคืนจันทร์เต็มดวง แต่ในปีอธิกสุรทิน จะมีการเลื่อนไปที่คืนจันทร์เต็มดวงในเดือนที่ 4
เหตุการณ์สำคัญที่เกิดในวันมาฆบูชาตามพุทธประวัติ
จาตุรงคสันนิบาต
คัมภีร์สุมังคลวิลาสินี อรรถกถามหาปทานสูตร ระบุว่าหลังจากพระพุทธเจ้าเทศนา "เวทนาปริคคหสูตร" (หรือทีฆนขสูตร) ณ ถ้ำสูกรขาตา เขาคิชฌกูฎ จบแล้ว ทำให้พระสารีบุตรได้บรรลุอรหัตตผล จากนั้นพระองค์ได้เสด็จทางอากาศไปปรากฏ ณ วัดเวฬุวันมหาวิหาร ใกล้กรุงราชคฤห์ แคว้นมคธ แล้วทรงประกาศโอวาทปาติโมกข์แก่พระภิกษุจำนวน 1,250 รูป โดยจำนวนนี้เป็นบริวารของชฏิลสามพี่น้อง 1,000 รูป และบริวารของพระอัครสาวก 250 รูป
คัมภีร์ปปัญจสูทนีระบุว่า การประชุมสาวกครั้งนั้นประกอบด้วย "องค์ประกอบอัศจรรย์ 4 ประการ" คือ
- วันดังกล่าวตรงกับวันเพ็ญเดือน 3
- พระภิกษุทั้ง 1,250 องค์นั้น ได้มาประชุมกันโดยมิได้นัดหมาย
- พระภิกษุเหล่านั้นเป็นพระอรหันต์ทรงอภิญญา 6
- พระภิกษุเหล่านั้นไม่ได้ปลงผมด้วยมีดโกน เพราะพระพุทธเจ้าประทาน "เอหิภิกขุอุปสัมปทา" ด้วยพระองค์เอง
ดังนั้นจึงมีคำเรียกวันนี้อีกคำหนึ่งว่า "วันจาตุรงคสันนิบาต" หรือ วันที่มีการประชุมพร้อมด้วยองค์ 4 ดังกล่าวแล้ว
ด้วยเหตุการณ์ประจวบกับ 4 อย่าง จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า จาตุรงคสันนิบาต (มาจากศัพท์บาลี จาตุร+องฺค+สนฺนิปาต แปลว่า การประชุมอันประกอบด้วยองค์ประกอบทั้งสี่ประการ) หลังจากพระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้ว 9 เดือน (45 ปี ก่อนพุทธศักราช)
มีผู้เข้าใจผิดว่าเหตุที่พระสาวกทั้ง 1,250 รูป มาประชุมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมายนั้น เพราะวันเพ็ญเดือน 3 ตามคติพราหมณ์เป็นวันพิธีมหาศิวาราตรีเพื่อบูชาพระศิวะ พระสาวกเหล่านั้นซึ่งเคยนับถือศาสนาพราหมณ์มาก่อนจึงได้เปลี่ยนจากการรวมตัวกันทำพิธีชำระบาปตามพิธีพราหมณ์ มารวมกันเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าแทน แต่ความคิดนี้ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เพราะพระศิวะเป็นเทพที่ชาวฮินดูเริ่มบูชากันในยุคหลังพุทธกาล คือตั้งแต่ พ.ศ. 800 เป็นต้นมา
ประทานโอวาทปาติโมกข์
พระพุทธเจ้าเมื่อทอดพระเนตรเห็นมหาสังฆสันนิบาตอันประกอบไปด้วยเหตุอัศจรรย์ดังกล่าว จึงทรงเห็นเป็นโอกาสอันสมควรที่จะแสดง "โอวาทปาติโมกข์" อันเป็นหลักคำสอนสำคัญที่เป็นหัวใจของพระพุทธศาสนาแก่ที่ประชุมพระสงฆ์เหล่านั้น เพื่อวางจุดหมาย หลักการ และวิธีการ ในการเข้าถึงพระพุทธศาสนาแก่พระอรหันตสาวกและพุทธบริษัททั้งหลาย พระพุทธองค์จึงทรงแสดงโอวาทปาฏิโมกข์เป็นพระพุทธพจน์ 3 คาถากึ่ง ท่ามกลางมหาสังฆสันนิบาตนั้น มีใจความดังนี้
- พระพุทธพจน์คาถาแรกทรงกล่าวถึง พระนิพพาน ว่าเป็นจุดมุ่งหมายหรืออุดมการณ์อันสูงสุดของบรรพชิตและพุทธบริษัท อันมีลักษณะที่แตกต่างจากศาสนาอื่น ดังพระบาลีว่า "นิพฺพานํ ปรมํ วทนฺติ พุทฺธา"
- พระพุทธพจน์คาถาที่สองทรงกล่าวถึง "วิธีการอันเป็นหัวใจสำคัญเพื่อเข้าถึงจุดมุ่งหมายของพระพุทธศาสนาแก่พุทธบริษัททั้งปวงโดยย่อ" คือ การไม่ทำความชั่วทั้งปวง การบำเพ็ญแต่ความดี และการทำจิตของตนให้ผ่องใสเป็นอิสระจากกิเลสทั้งปวง ส่วนนี้เองของโอวาทปาฏิโมกข์ที่พุทธศาสนิกชนมักท่องจำกันไปปฏิบัติ ซึ่งเป็นเพียงหนึ่งคาถาในสามคาถากึ่งของโอวาทปาฏิโมกข์เท่านั้น
- ส่วนพระพุทธพจน์คาถาสุดท้าย ทรงกล่าวถึงหลักการปฏิบัติของพระสงฆ์ผู้ทำหน้าที่เผยแผ่พระศาสนา 6 ประการ คือ การไม่กล่าวร้ายใคร, การไม่ทำร้ายใคร , การมีความสำรวมในปาติโมกข์ทั้งหลาย, การเป็นผู้รู้จักประมาณในอาหาร ,การรู้จักที่นั่งนอนอันสงัด และบำเพ็ญเพียรในอธิจิต
สถานที่สำคัญเนื่องด้วยวันมาฆบูชา (พุทธสังเวชนียสถาน)
เหตุการณ์สำคัญที่เกิดในวันมาฆบูชา เกิดภายในบริเวณที่ตั้งของ "กลุ่มพุทธสถานโบราณวัดเวฬุวันมหาวิหาร" ภายในอาณาบริเวณของวัดเวฬุวันมหาวิหาร ซึ่งลานจาตุรงคสันนิบาตอันเป็นจุดที่เกิดเหตุการณ์สำคัญในวันมาฆบูชานั้น ยังคงเป็นที่ถกเถียงและหาข้อสรุปทางโบราณคดีไม่ได้มาจนถึงปัจจุบัน
วัดเวฬุวันมหาวิหาร
"วัดเวฬุวันมหาวิหาร" เป็นอาราม (วัด) แห่งแรกในพระพุทธศาสนา ตั้งอยู่ใกล้เชิงเขาเวภารบรรพต บนริมฝั่งแม่น้ำสรัสวดีซึ่งมีตโปธาราม (บ่อน้ำร้อนโบราณ) คั่นอยู่ระหว่างกลาง นอกเขตกำแพงเมืองเก่าราชคฤห์ (อดีตเมืองหลวงของแคว้นมคธ) รัฐพิหาร ประเทศอินเดียในปัจจุบัน (หรือแคว้นมคธในสมัยพุทธกาล)
วัดเวฬุวันในสมัยพุทธกาล
เดิมวัดเวฬุวันเป็นพระราชอุทยานสำหรับเสด็จประพาสของพระเจ้าพิมพิสาร เป็นสวนป่าไผ่ร่มรื่นมีรั้วรอบและกำแพงเข้าออก เวฬุวันมีอีกชื่อหนึ่งปรากฏในพระสูตรว่า "พระวิหารเวฬุวันกลันทกนิวาปสถาน" หรือ "เวฬุวันกลันทกนิวาป" (สวนป่าไผ่สถานที่สำหรับให้เหยื่อแก่กระแต) พระเจ้าพิมพิสารได้ถวายพระราชอุทยาน แห่งนี้เป็นวัดในพระพุทธศาสนาหลังจากได้สดับพระธรรมเทศนาอนุปุพพิกถาและจตุราริยสัจจ์ ณ พระราชอุทยานลัฏฐิวัน (พระราชอุทยานสวนตาลหนุ่ม) โดยในครั้งนั้นพระองค์ได้บรรลุพระโสดาบัน เป็นพระอริยบุคคลในพระพุทธศาสนา และหลังจากการถวายกลันทกนิวาปสถานไม่นาน อารามแห่งนี้ก็ได้ใช้เป็นสถานที่สำหรับพระสงฆ์ประชุมจาตุรงคสันนิบาตครั้งใหญ่ในพระพุทธศาสนา อันเป็นเหตุการณ์สำคัญในวันมาฆบูชา
วัดเวฬุวันหลังการปรินิพพาน
หลังพระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพาน วัดเวฬุวันได้รับการดูแลมาตลอด โดยเฉพาะมูลคันธกุฎีที่มีพระสงฆ์เฝ้าดูแลทำการปัดกวาดเช็ดถูปูลาดอาสนะและปฏิบัติต่อสถานที่ ๆ พระพุทธเจ้าเคยประทับอยู่ทุก ๆ แห่ง เหมือนสมัยที่พระพุทธองค์ทรงพระชนม์ชีพอยู่มิได้ขาด โดยมีการปฏิบัติเช่นนี้ติดต่อกันกว่าพันปี
แต่จากเหตุการณ์ย้ายเมืองหลวงแห่งแคว้นมคธหลายครั้งในช่วง พ.ศ. 70 ที่เริ่มจากอำมาตย์และราษฎรพร้อมใจกันถอดกษัตริย์นาคทัสสก์แห่งราชวงศ์ของพระเจ้าพิมพิสารออกจากพระราชบัลลังก์ และยกสุสูนาคอำมาตย์ซึ่งมีเชื้อสายเจ้าลิจฉวีในกรุงเวสาลีแห่งแคว้นวัชชีเก่า ให้เป็นกษัตริย์ตั้งราชวงศ์ใหม่แล้ว พระเจ้าสุสูนาคจึงได้ทำการย้ายเมืองหลวงของแคว้นมคธไปยังเมืองเวสาลีอันเป็นเมืองเดิมของตน และกษัตริย์พระองค์ต่อมาคือพระเจ้ากาลาโศกราช ผู้เป็นพระราชโอรสของพระเจ้าสุสูนาค ได้ย้ายเมืองหลวงของแคว้นมคธอีก จากเมืองเวสาลีไปยังเมืองปาตลีบุตร ทำให้เมืองราชคฤห์ถูกลดความสำคัญลงและถูกทิ้งร้าง ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้วัดเวฬุวันขาดผู้อุปถัมภ์และถูกทิ้งร้างอย่างสิ้นเชิงในช่วงพันปีถัดมา
โดยปรากฏหลักฐานบันทึกของหลวงจีนฟาเหียน (Fa-hsien) ที่ได้เข้ามาสืบศาสนาในพุทธภูมิในช่วงปี พ.ศ. 942–947 ในช่วงรัชสมัยของพระเจ้าจันทรคุปต์ที่ 2 (พระเจ้าวิกรมาทิตย์) แห่งราชวงศ์คุปตะ ซึ่งท่านได้บันทึกไว้ว่า เมืองราชคฤห์อยู่ในสภาพปรักหักพัง แต่ยังทันได้เห็นมูลคันธกุฎีวัดเวฬุวันปรากฏอยู่ และยังคงมีพระภิกษุหลายรูปช่วยกันดูแลรักษาปัดกวาดอยู่เป็นประจำ แต่ไม่ปรากฏว่ามีการบันทึกถึงสถานที่เกิดเหตุการณ์จาตุรงคสันนิบาตแต่ประการใด
แต่หลังจากนั้นประมาณ 200 ปี วัดเวฬุวันก็ถูกทิ้งร้างไป ตามบันทึกของพระถังซำจั๋ง (Hiuen-Tsang) ซึ่งได้จาริกมาเมืองราชคฤห์ราวปี พ.ศ. 1300 ซึ่งท่านบันทึกไว้แต่เพียงว่า ท่านได้เห็นแต่เพียงซากมูลคันธกุฎีซึ่งมีกำแพงและอิฐล้อมรอบอยู่เท่านั้น (ในสมัยนั้นเมืองราชคฤห์โรยราถึงที่สุดแล้ว พระถังซำจั๋งได้แต่เพียงจดตำแหน่งที่ตั้งทิศทางระยะทางของสถูปและโบราณสถานเก่าแก่อื่น ๆ ในเมืองราชคฤห์ไว้มาก ทำให้เป็นประโยชน์แก่นักประวัติศาสตร์และนักโบราณคดีในการค้นหาโบราณสถานต่าง ๆ ในเมืองราชคฤห์ในปัจจุบัน)
จุดแสวงบุญและสภาพของวัดเวฬุวันในปัจจุบัน
ปัจจุบันหลังถูกทอดทิ้งเป็นเวลากว่าพันปี และได้รับการบูรณะโดยกองโบราณคดีอินเดียในช่วงที่อินเดียยังเป็นอาณานิคมของอังกฤษ วัดเวฬุวัน ยังคงมีเนินดินโบราณสถานที่ยังไม่ได้ขุดค้นอีกมาก สถานที่สำคัญ ๆ ที่พุทธศาสนิกชนในปัจจุบันนิยมไปนมัสการคือ "พระมูลคันธกุฎี" ที่ปัจจุบันยังไม่ได้ทำการขุดค้น เนื่องจากมีกุโบร์ของชาวมุสลิมสร้างทับไว้ข้างบนเนินดิน, "สระกลันทกนิวาป" ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลอินเดียได้ทำการบูรณะใหม่อย่างสวยงาม, และ "ลานจาตุรงคสันนิบาต" อันเป็นลานเล็ก ๆ มีซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูปยืนปางประทานพรอยู่กลางซุ้ม ลานนี้เป็นจุดสำคัญที่ชาวพุทธนิยมมาทำการเวียนเทียนสักการะ (ลานนี้เป็นลานที่กองโบราณคดีอินเดียสันนิษฐานว่าพระพุทธองค์ทรงแสดงโอวาทปาฏิโมกข์ในจุดนี้)
จุดที่เกิดเหตุการณ์สำคัญในวันมาฆบูชา (ลานจาตุรงคสันนิบาต)
ถึงแม้ว่าเหตุการณ์จาตุรงคสันนิบาตจะเป็นเหตุการณ์สำคัญยิ่งที่เกิดในบริเวณวัดเวฬุวันมหาวิหาร แต่ทว่าไม่ปรากฏรายละเอียดในบันทึกของสมณทูตชาวจีนและในพระไตรปิฎกแต่อย่างใดว่าเหตุการณ์ใหญ่นี้เกิดขึ้น ณ จุดใดของวัดเวฬุวัน รวมทั้งจากการขุดค้นทางโบราณคดีก็ไม่ปรากฏหลักฐานว่ามีการทำเครื่องหมาย (เสาหิน) หรือสถูประบุสถานที่ประชุมจาตุรงคสันนิบาตไว้แต่อย่างใด (ตามปกติแล้วบริเวณที่เกิดเหตุการณ์สำคัญทางพระพุทธศาสนา มักจะพบสถูปโบราณหรือเสาหินพระเจ้าอโศกมหาราชสร้างหรือปักไว้เพื่อเป็นเครื่องหมายสำคัญสำหรับผู้แสวงบุญ) ทำให้ในปัจจุบันไม่สามารถทราบโดยแน่ชัดว่าเหตุการณ์จาตุรงคสันนิบาตเกิดขึ้นในจุดใดของวัด
ในปัจจุบันกองโบราณคดีอินเดียได้แต่เพียงสันนิษฐานว่า "เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดในบริเวณลานด้านทิศตะวันตกของสระกลันทกนิวาป" (โดยสันนิษฐานเอาจากเอกสารหลักฐานว่าเหตุการณ์ดังกล่าวมีพระสงฆ์ประชุมกันมากถึงสองพันกว่ารูป และเกิดในช่วงที่พระพุทธองค์พึ่งได้ทรงรับถวายอารามแห่งนี้ การประชุมครั้งนั้นคงยังต้องนั่งประชุมกันตามลานในป่าไผ่ เนื่องจากเสนาสนะหรือโรงธรรมสภาขนาดใหญ่ยังคงไม่ได้สร้างขึ้น และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันลานด้านทิศตะวันตกของสระกลันทกนิวาป เป็นลานกว้างลานเดียวในบริเวณวัดที่ไม่มีโบราณสถานอื่นตั้งอยู่) โดยได้นำพระพุทธรูปยืนปางประทานพรไปประดิษฐานไว้บริเวณซุ้มเล็ก ๆ กลางลาน และเรียกว่า "ลานจาตุรงคสันนิบาต" ซึ่งในปัจจุบันก็ยังไม่มีข้อสรุปแน่ชัดว่าลานจาตุรงคสันนิบาตที่แท้จริงอยู่ในจุดใด และยังคงมีชาวพุทธบางกลุ่มสร้างซุ้มพระพุทธรูปไว้ในบริเวณอื่นของวัดโดยเชื่อว่าจุดที่ตนสร้างนั้นเป็นลานจาตุรงคสันนิบาตที่แท้จริง แต่พุทธศาสนิกชนชาวไทยส่วนใหญ่ก็เชื่อตามข้อสันนิษฐานของกองโบราณคดีอินเดียดังกล่าว โดยนิยมนับถือกันว่าซุ้มพระพุทธรูปกลางลานนี้เป็นจุดสักการะของชาวไทยผู้มาแสวงบุญจุดสำคัญ 1 ใน 2 แห่งของเมืองราชคฤห์ (อีกจุดหนึ่งคือพระมูลคันธกุฎีบนยอดเขาคิชฌกูฏ)
- พระพุทธรูปยืนกลางมณฑลโบราณสถานวัดเวฬุวันมหาวิหาร เมืองราชคฤห์ รัฐพิหาร อินเดีย (เป็นพระพุทธรูปสร้างใหม่ ปัจจุบันเป็นปูชนียวัตถุสำคัญของวัดเวฬุวัน)
- กลุ่มป่าไผ่ในวัดเวฬุวันมหาวิหาร ที่มาของชื่อเวฬุวัน (วัดป่าไผ่ หรือวัดไผ่ล้อม)
- สระโบกขรณีกลันทกนิวาป (สระน้ำ) กลางวัดเวฬุวันมหาวิหาร พระพุทธเจ้าเคยแสดงพระสูตรหลายพระสูตรที่นี่
- ซุ้มพระพุทธรูปภายในโบราณสถานวัดเวฬุวันมหาวิหาร
กิจกรรมที่พุทธศาสนิกชนพึงปฏิบัติในวันมาฆบูชา
วันมาฆบูชา พุทธศาสนิกชนชาวไทยนิยมทำบุญตักบาตรในตอนเช้า และตลอดวันจะมีการบำเพ็ญบุญกุศลความดีอื่น ๆ เช่น ไปวัดรับศีล งดเว้นการทำบาปทั้งปวง ถวายสังฆทาน ให้อิสระทาน (ปล่อยนกปล่อยปลา) ฟังพระธรรมเทศนา และไปรอบโบสถ์ในเวลาเย็น ปฏิ
โดยก่อนทำการเวียนเทียนพุทธศาสนิกชนควรร่วมกัน ปฏิบัติภาวนา ใน วันพระอุโบสถ ซึ่งเป็น หน้าที่ ตามปกติของชาวพุทธ กล่าวคำสวดมนต์และคำบูชาในวันมาฆบูชา โดยปกติตามวัดต่าง ๆ จะจัดให้มีการทำวัตรสวดมนต์ก่อนทำการเวียนเทียน ซึ่งส่วนใหญ่นิยมทำการเวียนเทียนอย่างเป็นทางการ (โดยมีพระภิกษุสงฆ์นำเวียนเทียน) ในเวลาประมาณ 20 นาฬิกา โดยบทสวดมนต์ที่พระสงฆ์นิยมสวดในวันมาฆบูชาก่อนทำนิยมสวด (ทั้งบาลีและคำแปล) ตามลำดับดังนี้
- บทบูชาพระรัตนตรัย (บทสวดบาลีที่ขึ้นต้นด้วย:อรหัง สัมมา ฯลฯ)
- บทนมัสการนอบน้อมบูชาพระพุทธเจ้า (นะโม ฯลฯ ๓ จบ)
- บทสรรเสริญพระพุทธคุณ (บทสวดบาลีที่ขึ้นต้นด้วย:อิติปิโส ฯลฯ)
- บทสรรเสริญพระพุทธคุณ สวดทำนองสรภัญญะ (บทสวดสรภัญญะที่ขึ้นต้นด้วย:องค์ใดพระสัมพุทธ ฯลฯ)
- บทสรรเสริญพระธรรมคุณ (บทสวดบาลีที่ขึ้นต้นด้วย:สวากขาโต ฯลฯ)
- บทสรรเสริญพระธรรมคุณ สวดทำนองสรภัญญะ (บทสวดสรภัญญะที่ขึ้นต้นด้วย:ธรรมมะคือ คุณากร ฯลฯ)
- บทสรรเสริญพระสังฆคุณ (บทสวดบาลีที่ขึ้นต้นด้วย:สุปฏิปันโน ฯลฯ)
- บทสรรเสริญพระสังฆคุณ สวดทำนองสรภัญญะ (บทสวดสรภัญญะที่ขึ้นต้นด้วย:สงฆ์ใดสาวกศาสดา ฯลฯ)
- บทสวดบูชาเนื่องในวันมาฆบูชา (บทสวดบาลีที่ขึ้นต้นด้วย:อัชชายัง ฯลฯ)
จากนั้นจุดธูปเทียนและถือดอกไม้เป็นเครื่องสักการบูชาในมือ แล้วเดินเวียนรอบปูชนียสถาน 3 รอบ โดยขณะที่เดินนั้นพึงตั้งจิตให้สงบ พร้อมสวดระลึกถึงพระพุทธคุณ ด้วยการสวดบทอิติปิโส (รอบที่หนึ่ง) ระลึกถึงพระธรรมคุณ ด้วยการสวดสวากขาโต (รอบที่สอง) และระลึกถึงพระสังฆคุณ ด้วยการสวดสุปะฏิปันโน (รอบที่สาม) จนกว่าจะเวียนจบ 3 รอบ จากนั้นนำธูปเทียนดอกไม้ไปบูชาตามปูชนียสถานจึงเป็นอันเสร็จพิธี
การกำหนดให้วันมาฆบูชาเป็นวันสำคัญทางพุทธศาสนาในประเทศไทย
การประกอบพิธีในวันมาฆบูชาได้เริ่มมีขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องจากพระองค์ทรงเล็งเห็นว่าวันนี้เป็นวันคล้ายวันที่เกิดเหตุการณ์สำคัญในพระพุทธศาสนา คือเป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงโอวาทปาฏิโมกข์ ฯลฯ ควรจะได้มีการประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลต่าง ๆ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา โดยในครั้งแรกนั้นได้ทรงกำหนดเป็นเพียงการพระราชพิธีบำเพ็ญกุศลเป็นการภายใน แต่ต่อมาประชาชนก็ได้นิยมนำพิธีนี้ไปปฏิบัติสืบต่อมาจนกลายเป็นวันประกอบพิธีสำคัญทางพระพุทธศาสนาวันหนึ่งไป
เนื่องจากในประเทศไทย พุทธศาสนิกชนได้มีการประกอบพิธีในวันมาฆบูชาสืบเนื่องมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 และนับถือกันโดยพฤตินัยว่าวันนี้เป็นวันสำคัญวันหนึ่งในทางพระพุทธศาสนาของประเทศไทยมาตั้งแต่นั้น โดยเมื่อถึงวันนี้พุทธศาสนิกชนจะร่วมใจกันประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลต่าง ๆ กันเป็นงานใหญ่ ดังนั้นเมื่อถึงในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์จึงทรงประกาศให้วันมาฆบูชาเป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ สำหรับชาวไทยจะได้ร่วมใจกันบำเพ็ญกุศลในวันมาฆบูชาโดยพร้อมเพรียง
ในปัจจุบันยังคงปรากฏการประกอบพิธีมาฆบูชาอยู่ในประเทศไทยและประเทศที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของประเทศไทย เช่น ลาว และกัมพูชา (ซึ่งเป็นส่วนที่ไทยได้เสียให้แก่ฝรั่งเศสในสมัยรัชกาลที่ 5) โดยไม่ปรากฏว่ามีการประกอบพิธีนี้ในประเทศพุทธมหายานอื่นหรือประเทศพุทธเถรวาทนอกนี้ เช่น พม่า และศรีลังกา ซึ่งคงสันนิษฐานได้ว่า พิธีมาฆบูชานี้เริ่มต้นจากการเป็นพระราชพิธีของราชสำนักไทยและได้ขยายไปเฉพาะในเขตราชอาณาจักรสยามในเวลานั้น ต่อมาดินแดนไทยในส่วนที่เป็นประเทศลาวและกัมพูชาได้ตกเป็นดินแดนในอารักขาของฝรั่งเศส และได้รับเอกราชในเวลาต่อมา พุทธศาสนิกชนในประเทศทั้งสองที่ได้รับคตินิยมการปฏิบัติพิธีมาฆบูชาตั้งแต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของราชอาณาจักรสยาม คงได้ถือปฏิบัติพิธีมาฆบูชาอย่างต่อเนื่องโดยไม่ได้มีการยกเลิก จึงทำให้คงปรากฏพิธีมาฆบูชาในประเทศดังกล่าวจนถึงปัจจุบัน
วันมาฆบูชาในปฏิทินสุริยคติ
ปี | วันที่ | วันที่ | วันที่ |
---|---|---|---|
ปีชวด | 4 มีนาคม พ.ศ. 2539 | 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 | 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 |
ปีฉลู | 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2540 | 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552 | 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 |
ปีขาล | 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2541 | 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 | 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 |
ปีเถาะ | 1 มีนาคม พ.ศ. 2542 | 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 | 6 มีนาคม พ.ศ. 2566 |
ปีมะโรง | 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2543 | 7 มีนาคม พ.ศ. 2555 | 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 |
ปีมะเส็ง | 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2544 | 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 | 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 |
ปีมะเมีย | 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2545 | 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 | 4 มีนาคม พ.ศ. 2569 |
ปีมะแม | 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2546 | 4 มีนาคม พ.ศ. 2558 | 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2570 |
ปีวอก | 5 มีนาคม พ.ศ. 2547 | 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 | 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2571 |
ปีระกา | 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2548 | 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 | 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2572 |
ปีจอ | 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549 | 1 มีนาคม พ.ศ. 2561 | 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2573 |
ปีกุน | 3 มีนาคม พ.ศ. 2550 | 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 | 8 มีนาคม พ.ศ. 2574 |
การประกอบพิธีทางศาสนาในวันมาฆบูชา
พระราชพิธี
พระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลในวันมาฆบูชานี้ โดยปกติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุยเดช เป็นองค์ประธานในการพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศล และบางครั้งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระบรมวงศานุวงศ์เสด็จแทน โดยสถานที่ประกอบพระราชพิธีจะจัดในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม สำนักพระราชวังจะออกหมายกำหนดการประกาศการพระราชพิธีนี้ให้ทราบทั่วไปเป็นประจำทุกปี ในอดีตจะใช้ชื่อเรียกการพระราชพิธีในราชกิจจานุเบกษาแตกต่างกัน บางครั้งจะใช้ชื่อ "การพระราชกุศลมาฆบูชาจาตุรงคสันนิบาต" หรือ "การพระราชกุศลมาฆบูชา" หรือแม้ "มาฆบูชา" ส่วนในรัชกาลปัจจุบัน สำนักพระราชวังจะใช้ชื่อเรียกหมายกำหนดการที่ชัดเจน เช่น "หมายกำหนดการ พระราชกุศลมาฆบูชา พุทธศักราช ๒๕๒๒"
รายละเอียดการประกอบพระราชพิธีนี้ในพระราชนิพนธ์พระราชพิธีสิบสองเดือน ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีพระบรมราชาธิบายเกี่ยวกับการพระราชพิธีในเดือนสาม คือพระราชพิธีบำเพ็ญกุศลในวันมาฆบูชาไว้ มีใจความว่า
“เวลาเช้า พระสงฆ์วัดบวรนิเวศและวัดราชประดิษฐ ๓๐ รูป ฉันในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เวลาค่ำเสด็จออกทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการแล้ว พระสงฆ์สวดทำวัตรเย็นเหมือนอย่างที่วัด แล้วจึงได้สวดมนต์ต่อไป มีสวดคาถาโอวาทปาฏิโมกข์ด้วย สวดมนต์จบทรงจุดเทียนรายตามราวรอบพระอุโบสถ ๑,๒๕๐ เล่ม มีประโคมด้วยอีกครั้งหนึ่ง แล้วจึงมีเทศนาโอวาทปาฏิโมกข์กัณฑ์ ๑ เป็นเทศนาทั้งภาษามคธและภาษาสยาม เครื่องกัณฑ์จีวรเนื้อดีผืนหนึ่ง เงิน ๓ ตำลึงและขนมต่าง ๆ เทศน์จบพระสงฆ์สวดมนต์รับสัพพี ๓๐ รูป”
ในรัชกาลต่อมาได้มีการลดทอดพิธีบางอย่างออกไปบ้าง เช่น ยกเลิกการถวายภัตตาหารพระสงฆ์ในเวลาเช้า หรือการจุดเทียนราย 1,250 เล่ม เป็นต้น แต่ก็ยังคงมีการบำเพ็ญพระราชกุศลในวัดพระศรีรัตนศาสดารามเหมือนเคย โดยในบางปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชจะทรงประกอบพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลมาฆบูชาและทรงเวียนเทียนรอบพุทธศาสนสถานเป็นการส่วนพระองค์ตามพระอารามหลวงหรือวัดราษฎร์อื่น ๆ บ้าง ตามพระราชอัธยาศัย ซึ่งการพระราชพิธีนี้เป็นการแสดงออกถึงพระราชศรัทธาอันแน่นแฟ้นในพระพุทธศาสนา ขององค์พระมหากษัตริย์ไทยผู้ทรงเป็นเอกอัครพุทธศาสนูปถัมภ์มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
พิธีสามัญ
การประกอบพิธีทางพระพุทธศาสนาเนื่องในวันมาฆบูชาของพุทธศาสนิกชนชาวไทย โดยทั่วไปนิยมทำบุญตักบาตร ปฏิบัติภาวนา ฟังพระธรรมเทศนา เวียนเทียนรอบอุโบสถหรือสถูปเจดีย์พุทธสถานต่าง ๆ ภายในวัด เพื่อเป็นการระลึกถึงวันคล้ายวันที่เกิดเหตุการณ์สำคัญของพระพุทธศาสนาในวัน ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3
พุทธศาสนิกชนชาวไทยนิยมนับถือเอาวันนี้เป็นวันสำคัญในการละเว้นความชั่ว บำเพ็ญความดี ทำใจให้ผ่องใส ตามแนวทางพระบรมพุทโธวาท โดยมีแนวปฏิบัติในการประกอบพิธีในวันมาฆบูชาคล้ายกับการประกอบพิธีในวันวิสาขบูชา คือมีการตั้งใจบำเพ็ญกุศลทำบุญตักบาตร ฟังพระธรรมเทศนาและเจริญจิตตภาวนาในวันนี้ เมื่อตกกลางคืนก็มีการเวียนเทียนถวายเป็นพุทธบูชาตามอารามต่าง ๆ และอาจมีการบำเพ็ญปกิณณกะกุศลต่าง ๆ ตลอดคืนตามแต่จะเห็นสมควร
การประกอบพิธีวันมาฆบูชาในปัจจุบันนี้นอกจากการเวียนเทียน ทำบุญตักบาตร ในวันสำคัญแล้ว ยังมีหน่วยงานภาครัฐ องค์กรทางศาสนา และภาคประชาชน ร่วมกันจัดกิจกรรมต่าง ๆ ขึ้นมากมาย เพื่อเป็นการเผยแผ่พระพุทธศาสนาและประชาสัมพันธ์กิจกรรมทางพระพุทธศาสนาต่าง ๆ ให้แก่ประชาชน เช่น กิจกรรมสัปดาห์เผยแผ่พระพุทธศาสนาวันมาฆบูชา ณ ท้องสนามหลวง หรือตามวัดในจังหวัดต่าง ๆ เป็นต้น
วันสำคัญอื่นที่เกี่ยวเนื่องกับวันมาฆบูชา
วันคล้ายวันปลงพระชนมายุสังขาร
นอกจากเหตุการณ์จาตุรงคสันนิบาตในวันเพ็ญเดือน 3 ในพรรษาแรกของพระพุทธเจ้าแล้ว ในวันเพ็ญเดือน 3 แห่งพรรษาสุดท้ายของพระพุทธเจ้า (คราวที่ทรงพระชนมายุ 80 พรรษา) ก็ได้เกิดเหตุการณ์สำคัญขึ้นอีกเหตุการณ์หนึ่งคือ พระพุทธองค์ได้ทรง พระศาสดาเสด็จพักผ่อนกลางวัน ณ ปาวาลเจดีย์ ทรงแสดงนิมิตโอภาสแก่พระอานนท์ว่า ผู้ใดเจริญอิทธิบาท 4 ประการ อาจมีอายุยืนได้ถึงกัป แต่พระอานนท์มิได้ทูลอาราธนา เมื่อพระอานนท์ออกไป มารจึงได้มาอาราธนาให้นิพพาน พระองค์ทรงมีสติสัมปชัญญะ ปลงอายุสังขาร ณ ปาวาลเจดีย์ว่า อีก 3 เดือนจะเสด็จปรินิพพาน เกิดเหตุแผ่นดินไหว เมื่อพระอานนท์ทราบ จึงกราบทูลอาราธนาให้ทรงพระชนม์ชีพอยู่อีก แต่พระศาสดาตรัสว่า มิใช่กาล เพราะได้ทรงแสดงนิมิตแล้วถึง 16 ครั้ง ทรงทำนายว่าในวันเพ็ญเดือน 6 ที่จะมาถึง พระองค์จะเข้าสู่มหาปรินิพพาน จึงถือได้ว่าวันมาฆบูชาเป็นวันคล้ายวันสำคัญของพระพุทธศาสนาสองเหตุการณ์สำคัญ คือวันที่พระพุทธองค์ทรงแสดงโอวาทปาฏิโมกข์ และวันที่ทรงทำการปลงพระชนมายุสังขาร
วันกตัญญูแห่งชาติ (ประเทศไทย)
ในปี พ.ศ. 2549 รัฐบาลไทยได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของวันมาฆบูชา (ที่อาจถือได้ว่าเป็นวันแห่งความรักของพระพุทธศาสนา) โดยถือว่าเหตุการณ์สำคัญที่เหล่าพระสาวกทั้ง 1,250 รูป ได้กลับมาเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าด้วยความรักในพระองค์หลังจากได้ออกไปเผยแพร่พระศาสนาโดยมิได้นัดหมายดังกล่าวเป็นสิ่งที่แสดงถึงความกตัญญูกตเวทีอันบริสุทธิ์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเวลาในปฏิทินจันทรคติในวันเพ็ญเดือนสาม มักจะตกใกล้กับช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ อันเป็นเทศกาลวันแห่งความรักของคริสต์ศาสนา ซึ่งวัยรุ่นไทยบางกลุ่มมักยึดถือคติค่านิยมวันแห่งความรักในวันวาเลนไทน์ผิด ๆ โดยนิยมยึดถือกันว่าเป็นวันแห่งความรักของคนหนุ่มสาว หรือแม้กระทั่งถือว่าเป็น "วันเสียตัวแห่งชาติ" ซึ่งส่งผลกระทบต่อค่านิยมทางจริยธรรมและศีลธรรมของวัยรุ่นไทย รัฐบาลไทยในสมัยนั้นจึงได้ประกาศให้วันมาฆบูชาเป็นวันกตัญญูแห่งชาติ "เพื่อส่งเสริมค่านิยมที่เหมาะสมแก่วัยรุ่นไทย ให้หันมาสนใจกับความรักอันบริสุทธิ์ที่ไม่หวังสิ่งตอบแทน" แทนที่จะไปมัวเมากับความรักใคร่ชู้สาวหรือเรื่องฉาบฉวยทางเพศของหนุ่มสาว อันจะก่อให้เกิดปัญหาแก่สังคมตามมา
การผลักดันให้มีวันกตัญญูแห่งชาติมีมาตั้งแต่ พ.ศ. 2546 เคยมีการตั้งกระทู้ถามในสภาผู้แทนราษฎรให้พิจารณากำหนดให้มีวันกตัญญูแห่งชาติ แต่ถูกปฏิเสธจากผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยอ้างว่า ในประเทศไทยมีวันสำคัญแห่งชาติที่เกี่ยวกับการแสดงความกตัญญูมากพอแล้ว ต่อมาในปี พ.ศ. 2549 นักพูดชื่อดังหลายคน เช่น ดร.ผาณิต กันตามระ นายสุรวงศ์ วัฒนกุล ดร.อภิชาติ ดำดี นายเฉลิมชัย จารุไพบูลย์ ดร.โอภาส กิจกำแหง และนายถาวร โชติชื่น ได้ร่วมกันทำหนังสือถึงคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติขอให้ส่งเสริมให้วันมาฆบูชาเป็นวันกตัญญูแห่งชาติอีกวันหนึ่งด้วย และได้รับการตอบรับจากผู้เกี่ยวข้อง
วันกตัญญูแห่งชาตินี้ นอกจากเพื่อแสดงออกถึงวันแห่งความรักอันบริสุทธิ์ของชาวพุทธแล้ว ยังเพื่อส่งเสริมค่านิยมให้คนไทยยึดถือความกตัญญู โดยอาจมีการพูดคุย ส่งบัตรอวยพร มอบของขวัญหรือช่อดอกไม้แก่ผู้มีพระคุณ เป็นการแสดงความระลึกถึงพระคุณด้วยความหวังดีของผู้ให้ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของ การแสดงออกซึ่งน้ำใจหรือคำพูดก็ตาม
ดูเพิ่ม
- โอวาทปาฏิโมกข์
- จาตุรงคสันนิบาต
- พระพุทธรูปปางแสดงโอวาทปาฏิโมกข์
- รายการวันสำคัญทางพุทธศาสนา
- วันวิสาขบูชา (วันสำคัญทางพุทธศาสนา และวันหยุดราชการในประเทศไทย)
- วันอาสาฬหบูชา (วันสำคัญทางพุทธศาสนา และวันหยุดราชการในประเทศไทย)
อ้างอิง
- "Sangha Day". BBC. 7 May 2004. จากแหล่งเดิมเมื่อ 18 December 2018.
- Artley, Malvin (2014). The Full Moons: Topical Letters In Esoteric Astrology. eBookIt.com. ISBN .
- ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศกำหนดวันหยุดราชการ นักขัตฤกษ์ประจำปี (พระพุทธศักราช ๒๔๕๖) 2011-11-08 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๓๐, ๓๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๕๖, หน้า ๕๓๓
- Irons 2008, p. 199.
- วันสำคัญของเรา, กรมวิชาการ, กระทรวงศึกษาธิการ, พ.ศ. 2520, หน้า 6
- อรรถกถาทีฆนขสูตร, อรรถกถา มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ ปริพพาชกวรรค
- พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช), พจนานุกรมเพื่อการศึกษาพุทธศาสน์ ชุด คำวัด, กรุงเทพฯ พ.ศ. 2548
- จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว, พระบาทสมเด็จพระ.พระราชพิธีสิบสองเดือน .พิมพ์ครั้งที่ 14, 41 : ศิลปาบรรณาคาร, 2516
- ราชกิจจานุเบกษา, หมายกำหนดการ พระราชกุศลมาฆบูชา พุทธศักราช ๒๕๕๑, เล่ม ๑๒๕, ตอน ๗ ข, ๒๑ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑, หน้า ๑๐
- พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๐ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒ ทีฆนิกาย มหาวรรค มหาปทานสูตร
- Pengvipas 2013, p. 47.
- Wells 1939, p. 78.
- อรรถกถามหาปทานสูตร, อรรถกถา ทีฆนิกาย มหาวรรค
- Bhaskar 2009, pp. 259–60.
- ความเป็นมาวันมาฆบูชา.เว็บไซต์เรียนพระไตรปิฎก
- ราชบัณฑิตยสถาน, พจนานุกรมศัพท์ศาสนาสากล อังกฤษ-ไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน, ราชบัณฑิตยสถาน, 2548,หน้า 241-3
- Bagri, S.C. Buddhist Pilgrimages & Tours in India. Nodida : Trishul Publication, 1992
- พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๓ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๕ มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ ธนัญชานิสูตร
- อรรถกถาพระไตรปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ โอปัมมวรรค อรรถกถารถวินีตสูตร
- พระไตรปิฎก เล่มที่ ๔ พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๔ มหาวรรค ภาค ๑ ทรงรับพระเวฬุวันเป็นสังฆิกาวาส
- พระไตรปิฎก เล่มที่ ๔ พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๔ มหาวรรค ภาค ๑
- พระพรหมคุณาภรณ์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต).พุทธสถานในอินเดีย - เวฬุวันมหาวิหาร เมืองราชคฤห์. กรุงเทพ: โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, 2541.
- ไพโรจน์ คุ้มไพโรจน์.ตามรอยบาทพระศาสดา. กรุงเทพ: สำนักพิมพ์ธรรมสภา, 2539.
- อมตานันทะ,พระ และคณะ. เอกสารโครงการค้นคว้าพุทธสถานในแดนพุทธองค์ทางวิชาการ. กรุงเทพมหานคร : เอกสารตีพิมพ์ถ่ายสำเนาจากต้นฉบับ, ม.ป.ป.
- วันสำคัญทางศาสนา วันมาฆบูชา 2009-02-03 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. เว็บไซต์ศูนย์กลางความรู้แห่งชาติ (TKC:Thailand Knowledge Center). เรียกข้อมูลเมื่อ 23-1-52
- เทวประภาส มากคล้าย เปรียญ.. สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น : ประเพณีวัฒนธรรมและพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ของวัดและหมู่บ้านคุ้งตะเภา. อุตรดิตถ์: วัดคุ้งตะเภา, ๒๕๕๑.
- ราชกิจจานุเบกษา, การพระราชกุศลมาฆบูชาจาตุรงคสันนิบาต 2011-11-07 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๓๒, ๒๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๕๘, หน้า ๒๙๒๐
- ราชกิจจานุเบกษา, การพระราชกุศลมาฆบูชา, เล่ม ๒๘, ๑๐ มีนาคม ร.ศ. ๑๓๐, หน้า ๒๖๔๔
- ราชกิจจานุเบกษา, มาฆบูชา, เล่ม ๕, ตอนที่ ๕๗, ๘ เมษายน จ.ศ.๑๘๘๘, หน้า ๔๑๔
- ราชกิจจานุเบกษา, หมายกำหนดการ พระราชกุศลมาฆบูชา พุทธศักราช ๒๕๒๒, เล่ม ๙๖, ตอนที่ ๑๗, ๑๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๒๒, ฉบับพิเศษ หน้า ๒๗
- เบญจมาศ พลอินทร์.2523.วรรณคดีขนบประเพณี พระราชพิธีสิบสองเดือน.กรุงเทพฯ.สำนักพิมพ์โอเดียนสโตร์.
- จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระ 2396-2453.2506.พระราชพิธีสิบสองเดือน/พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว.พระนคร.องค์การค้าของคุรุสภา.
- ประวัติการประกอบพิธีมาฆบูชา 2009-02-01 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์. เรียกข้อมูลเมื่อวันที่ 23-1-52
- เพศสัมพันธ์ วันเทศกาล ฮิต Poll ระบุ วันเสียตัวแห่งชาติ. สำนักพิมพ์ข่าวสด. เรียกข้อมูลวันที่ 24-1-52
- ราชกิจจานุเบกษา, กระทู้ถามที่ ๑๒๑๙ ร. เรื่อง การกำหนดให้มีวันกตัญญูแผ่นดินในประเทศไทย ของ นายเปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2011-11-07 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๒๐, ตอนที่ ๑๑๒ ก, ๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๖, หน้า ๓๒
- “วันกตัญญูแห่งชาติ”. หนังสือพิมพ์สยามธุรกิจ ฉบับที่ 768 ประจำวันที่ 17-2-2007 ถึง 20-2-2007. เรียกข้อมูลวันที่ 24-1-52
บรรณานุกรม
- Bellenir, K. (2004), Religious Holidays and Calendars: An Encyclopedic Handbook (3rd ed.), , ISBN
- Bhaskar, V.S. (2009), Faith and Philosophy of Buddhism, Kalpaz Publications, ISBN
- Cate, Sandra; Lefferts, Leedom (2006), (PDF), ใน Riggs, Thomas (บ.ก.), Worldmark Encyclopedia of Religious Practices, vol. 2, , ISBN , คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2017-03-02, สืบค้นเมื่อ 2019-10-13
- Cheam, V.S. (2018), "The Monk's Duty in Khmer Society: The Living, Role and Participation", Journal of Buddhist Education and Research, 4 (1)
- Daniels, P.; Gulevich, T.; Thompson, S.E. (2009), Henderson, H. (บ.ก.), Holiday Symbols and Customs (4th ed.), , ISBN
- Egge, James (2013), Religious Giving and the Invention of Karma in Theravada Buddhism, , ISBN
- Irons, Edward A. (2008), (PDF), Encyclopedia of World Religions, , ISBN , คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2017-05-17, สืบค้นเมื่อ 2018-03-01
- Keyes, Charles F. (1983), Keyes, Charles F.; Daniel, E. Valentine (บ.ก.), Karma: An Anthropological Inquiry (2nd ed.), , ISBN
- Ling, Trevor; Axelrod, Steven (1979), Buddha, Marx, and God: Some Aspects of Religion in the Modern World, , ISBN
- (2011), Religious Celebrations: An Encyclopedia of Holidays, Festivals, Solemn Observances, and Spiritual Commemorations, , ISBN
- (1997), The Word of the Doctrine: Dhammapada, , ISBN
- (1993), พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมาลศัพท์ [Dictionary of Buddhism, Vocabulary] (PDF) (7th ed.), , p. 575, ISBN
- Pengvipas, Polpao (2013), ความรักในมุมมองของพระพุทธศาสนาในวันมาฆบูชา [Love from a Buddhist Perspective on Māgha Pūjā Day], Dhammathas Academic Journal, 13 (2): 45–54, ISSN 1513-5845
- Premchit, Sommai; Dore, Amphay (1992), The Lan Na Twelve-Month Traditions, Faculty of Social Sciences, , Thailand, and , France
- Swearer, D.K. (2001), "Centre and Periphery: Buddhism and Politics in Modern Thailand", ใน Harris, Ian (บ.ก.), Buddhism and Politics in Twentieth-Century Asia (revised ed.), , pp. 194–228, ISBN
- Swearer, D.K. (2010), (PDF) (2nd ed.), , ISBN , คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ March 16, 2015
- (1 January 1976), "A Model for the Study of Thai Buddhism", , 35 (3): 391–403, doi:10.2307/2053271, JSTOR 2053271, S2CID 162810180
- Tetsunori, Koizumi; 幸泉, 哲紀; コイズミ, テツノリ (25 March 2004), Adoption and Adaptation of an Imported Culture: Buddhism in Thailand and Korea, Ryukoku University Institute for International Society and Culture, pp. 179–94, :10519/2339
- Wells, Kenneth E. (1939), Thai Buddhism: Its Rites and Activities, Bangkok Times Press, OCLC 1004812732
- (2008), Mahayana Buddhism: The Doctrinal Foundations (2nd ed.), , ISBN
- ปัณณวัฒน์. ปฏิทิน 100 ปี พ.ศ. 2468-2568 คัมภีร์พยากรณ์คู่บ้าน. กรุงเทพฯ : ไพลิน, 2550.
แหล่งข้อมูลอื่น
- พระสุตตันตปิฎก เล่ม ๒ ทีฆนิกาย มหาวรรค มหาปทานสูตร
- อรรถกถา มหาปทานสูตร
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
wnmakhbucha bali Magha Puja makhpucha xksrormn Magha Puja epnwnsakhykhxngchawphuththethrwathaelawnhyudrachkarinpraethsithy makhbucha yxmacak makhpurnmibucha hmaythung karbuchainwnephyklangeduxnmakhatam hruxeduxn 3 tamptithincnthrkhtiithy tkchwngeduxnkumphaphnthhruxminakhm thapiidmieduxnxthikmas khuxmieduxn 8 sxnghn pixthikmas keluxnipthainwnephyeduxn 3 hlng wnephyeduxn 4 wnmakhbuchaphraphuththecathrngihoxwathenuxnginwnmakhbuchachuxxunwnphrasngkh wncaturngkhsnnibatcdkhunodychawphuththethrwathinpraethskmphucha law phma srilngka aelaithypraephthwnsakhyinsasnaphuththkhwamsakhyphraphiksu 1 250 rupmaprachumphrxmknodymiidndhmaykarthuxptibtiedinkhbwnewiynethiyn thabuyodythwipwnthikhun 15 kha eduxn 3 thamieduxnxthikmas eluxnipeduxn 4 wnthiinpi 256724 kumphaphnthwnthiinpi 256812 kumphaphnthwnthiinpi 25693 minakhmswnekiywkhxng inthiebt inekahli okhochngtsu inyipun ethskalokhmif incin Tết Nguyen tieu inewiydnam wnmakhbuchaidrbkarykyxngepnwnsakhythangsasnaphuthth enuxngcakehtukarnsakhythiekidkhunemux 2 500 kwapikxn khux phraokhtmphuththecathrngaesdngoxwathpatiomkkhthamklangthiprachummhasngkhsnnibatkhrngihyinphraphuththsasna khmphirppycsuthnirabuwakhrngnnmiehtukarnekidkhunphrxmkn 4 prakar khux phraphiksu 1 250 rup idmaprachumphrxmknyngwdewluwnodymiidndhmay phraphiksuthnghmdnnepn exhiphikkhuxupsmptha hruxphuidrbkarxupsmbthcakphraphuththecaodytrng phraphiksuthnghmdnnlwnepnphraxrhntphuthrngxphiyya 6 aelawndngklawtrngkbwnephyeduxn 3 dngnn cungeriykwnnixikxyanghnungwa wncaturngkhsnnibat hrux wnthimikarprachumphrxmdwyxngkh 4 edimnnimmiphithimakhbuchainpraethsphuththethrwath cnmainsmykhxngphrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhw rchkalthi 4 phraxngkhidthrngprarphthungehtukarnkhrngphuththkalinwnephyeduxn 3 dngklawwa epnwnthiekidehtukarnsakhyying khwrprakxbphithithangphraphuththsasna ephuxepnthitngaehngkhwamsrththaeluxmis cungmiphramhakrunathikhunoprdekla ihcdkarphrarachkuslmakhbuchakhun karprakxbphrarachphithikhngkhlaykbwnwisakhbucha khux mikarbaephyphrarachkusltang aelamikarphrarachthancudethiyntamprathipepnphuththbuchainwdphrasrirtnsasdaramaelaphraxaramhlwngtang epntn inchwngaerk phithimakhbuchakhngepnkarphrarachphithiphayin yngimaephrhlaythwip txma khwamniymcdphithimakhbuchacungidkhyayxxkipthwrachxanackr pccubn wnmakhbuchaidrbkarprakasihepnwnhyudrachkarinpraethsithy odyphuththsasnikchnthngphrabrmwngsanuwngs phrasngkhaelaprachachnprakxbphithitang echn kartkbatr karfngphrathrrmethsna epntn ephuxbucharalukthungphrartntryaelaehtukarnsakhydngklawthithuxidwa epnwnthiphraphuththecaprathanoxwathpatiomkkh sungklawthunghlkkhasxnxnepnhwickhxngphraphuththsasna idaek karimthakhwamchwthngpwng karbaephykhwamdiihthungphrxm aelakarthacitkhxngtnihphxngis ephuxepnhlkptibtikhxngphuththsasnikchnthngmwl nxkcakni inpi ph s 2549 rthbalithyidprakasihwnmakhbuchaepn wnktyyuaehngchati sphthmulwithyaaelawnthimakha macakchuxeduxnthisamin aelayngepnchuxthipraktxyuikldwngcnthretmdwng wnmakhbuchacdinkhuncnthretmdwng aetinpixthiksurthin camikareluxnipthikhuncnthretmdwngineduxnthi 4ehtukarnsakhythiekidinwnmakhbuchatamphuththprawticaturngkhsnnibat klumpaiphrmrun inklumobransthanwdewluwnmhawihar sthanthiphraphuththxngkhthrngaesdngoxwathpatiomkkh khmphirsumngkhlwilasini xrrthkthamhapthansutr rabuwahlngcakphraphuththecaethsna ewthnaprikhkhhsutr hruxthikhnkhsutr n thasukrkhata ekhakhichchkud cbaelw thaihphrasaributridbrrluxrhttphl caknnphraxngkhidesdcthangxakasipprakt n wdewluwnmhawihar iklkrungrachkhvh aekhwnmkhth aelwthrngprakasoxwathpatiomkkhaekphraphiksucanwn 1 250 rup odycanwnniepnbriwarkhxngchtilsamphinxng 1 000 rup aelabriwarkhxngphraxkhrsawk 250 rup khmphirppycsuthnirabuwa karprachumsawkkhrngnnprakxbdwy xngkhprakxbxscrry 4 prakar khux wndngklawtrngkbwnephyeduxn 3 phraphiksuthng 1 250 xngkhnn idmaprachumknodymiidndhmay phraphiksuehlannepnphraxrhntthrngxphiyya 6 phraphiksuehlannimidplngphmdwymidokn ephraaphraphuththecaprathan exhiphikkhuxupsmptha dwyphraxngkhexng dngnncungmikhaeriykwnnixikkhahnungwa wncaturngkhsnnibat hrux wnthimikarprachumphrxmdwyxngkh 4 dngklawaelw dwyehtukarnpracwbkb 4 xyang cungmichuxeriykxikchuxhnungwa caturngkhsnnibat macaksphthbali catur xng kh sn nipat aeplwa karprachumxnprakxbdwyxngkhprakxbthngsiprakar hlngcakphraphuththecatrsruaelw 9 eduxn 45 pi kxnphuththskrach miphuekhaicphidwaehtuthiphrasawkthng 1 250 rup maprachumphrxmknodymiidndhmaynn ephraawnephyeduxn 3 tamkhtiphrahmnepnwnphithimhasiwaratriephuxbuchaphrasiwa phrasawkehlannsungekhynbthuxsasnaphrahmnmakxncungidepliyncakkarrwmtwknthaphithicharabaptamphithiphrahmn marwmknekhaefaphraphuththecaaethn aetkhwamkhidniimtrngkbkhxethccring ephraaphrasiwaepnethphthichawhinduerimbuchakninyukhhlngphuththkal khuxtngaet ph s 800 epntnma prathanoxwathpatiomkkh phraphuththecaemuxthxdphraentrehnmhasngkhsnnibatxnprakxbipdwyehtuxscrrydngklaw cungthrngehnepnoxkasxnsmkhwrthicaaesdng oxwathpatiomkkh xnepnhlkkhasxnsakhythiepnhwickhxngphraphuththsasnaaekthiprachumphrasngkhehlann ephuxwangcudhmay hlkkar aelawithikar inkarekhathungphraphuththsasnaaekphraxrhntsawkaelaphuththbrisththnghlay phraphuththxngkhcungthrngaesdngoxwathpatiomkkhepnphraphuththphcn 3 khathakung thamklangmhasngkhsnnibatnn miickhwamdngni phraphuththphcnkhathaaerkthrngklawthung phraniphphan waepncudmunghmayhruxxudmkarnxnsungsudkhxngbrrphchitaelaphuththbristh xnmilksnathiaetktangcaksasnaxun dngphrabaliwa niph phan prm wthn ti phuth tha phraphuththphcnkhathathisxngthrngklawthung withikarxnepnhwicsakhyephuxekhathungcudmunghmaykhxngphraphuththsasnaaekphuththbrisththngpwngodyyx khux karimthakhwamchwthngpwng karbaephyaetkhwamdi aelakarthacitkhxngtnihphxngisepnxisracakkielsthngpwng swnniexngkhxngoxwathpatiomkkhthiphuththsasnikchnmkthxngcaknipptibti sungepnephiynghnungkhathainsamkhathakungkhxngoxwathpatiomkkhethann swnphraphuththphcnkhathasudthay thrngklawthunghlkkarptibtikhxngphrasngkhphuthahnathiephyaephphrasasna 6 prakar khux karimklawrayikhr karimtharayikhr karmikhwamsarwminpatiomkkhthnghlay karepnphuruckpramaninxahar karruckthinngnxnxnsngd aelabaephyephiyrinxthicitsthanthisakhyenuxngdwywnmakhbucha phuththsngewchniysthan phraphuththrupyunklangmnthlmhasngkhsnnibat inobransthanwdewluwnmhawihar emuxngrachkhvh rthphihar xinediy epnphraphuththrupsrangihm pccubnepnsthanthicarikaeswngbuysakhykhxngchawphuthththwolk ehtukarnsakhythiekidinwnmakhbucha ekidphayinbriewnthitngkhxng klumphuththsthanobranwdewluwnmhawihar phayinxanabriewnkhxngwdewluwnmhawihar sunglancaturngkhsnnibatxnepncudthiekidehtukarnsakhyinwnmakhbuchann yngkhngepnthithkethiyngaelahakhxsrupthangobrankhdiimidmacnthungpccubn wdewluwnmhawihar wdewluwnmhawihar epnxaram wd aehngaerkinphraphuththsasna tngxyuiklechingekhaewpharbrrpht bnrimfngaemnasrswdisungmitoptharam bxnarxnobran khnxyurahwangklang nxkekhtkaaephngemuxngekarachkhvh xditemuxnghlwngkhxngaekhwnmkhth rthphihar praethsxinediyinpccubn hruxaekhwnmkhthinsmyphuththkal wdewluwninsmyphuththkal edimwdewluwnepnphrarachxuthyansahrbesdcpraphaskhxngphraecaphimphisar epnswnpaiphrmrunmirwrxbaelakaaephngekhaxxk ewluwnmixikchuxhnungpraktinphrasutrwa phrawiharewluwnklnthkniwapsthan hrux ewluwnklnthkniwap swnpaiphsthanthisahrbihehyuxaekkraaet phraecaphimphisaridthwayphrarachxuthyan aehngniepnwdinphraphuththsasnahlngcakidsdbphrathrrmethsnaxnupuphphikthaaelacturariyscc n phrarachxuthyanltthiwn phrarachxuthyanswntalhnum odyinkhrngnnphraxngkhidbrrluphraosdabn epnphraxriybukhkhlinphraphuththsasna aelahlngcakkarthwayklnthkniwapsthanimnan xaramaehngnikidichepnsthanthisahrbphrasngkhprachumcaturngkhsnnibatkhrngihyinphraphuththsasna xnepnehtukarnsakhyinwnmakhbucha wdewluwnhlngkarpriniphphan hlngphraphuththecaesdcpriniphphan wdewluwnidrbkarduaelmatlxd odyechphaamulkhnthkudithimiphrasngkhefaduaelthakarpdkwadechdthupuladxasnaaelaptibtitxsthanthi phraphuththecaekhyprathbxyuthuk aehng ehmuxnsmythiphraphuththxngkhthrngphrachnmchiphxyumiidkhad odymikarptibtiechnnitidtxknkwaphnpi aetcakehtukarnyayemuxnghlwngaehngaekhwnmkhthhlaykhrnginchwng ph s 70 thierimcakxamatyaelarasdrphrxmicknthxdkstriynakhthsskaehngrachwngskhxngphraecaphimphisarxxkcakphrarachbllngk aelayksusunakhxamatysungmiechuxsayecalicchwiinkrungewsaliaehngaekhwnwchchieka ihepnkstriytngrachwngsihmaelw phraecasusunakhcungidthakaryayemuxnghlwngkhxngaekhwnmkhthipyngemuxngewsalixnepnemuxngedimkhxngtn aelakstriyphraxngkhtxmakhuxphraecakalaoskrach phuepnphrarachoxrskhxngphraecasusunakh idyayemuxnghlwngkhxngaekhwnmkhthxik cakemuxngewsaliipyngemuxngpatlibutr thaihemuxngrachkhvhthukldkhwamsakhylngaelathukthingrang sungepnsaehtusakhythithaihwdewluwnkhadphuxupthmphaelathukthingrangxyangsinechinginchwngphnpithdma odyprakthlkthanbnthukkhxnghlwngcinfaehiyn Fa hsien thiidekhamasubsasnainphuththphumiinchwngpi ph s 942 947 inchwngrchsmykhxngphraecacnthrkhuptthi 2 phraecawikrmathity aehngrachwngskhupta sungthanidbnthukiwwa emuxngrachkhvhxyuinsphaphprkhkphng aetyngthnidehnmulkhnthkudiwdewluwnpraktxyu aelayngkhngmiphraphiksuhlayrupchwyknduaelrksapdkwadxyuepnpraca aetimpraktwamikarbnthukthungsthanthiekidehtukarncaturngkhsnnibataetprakarid aethlngcaknnpraman 200 pi wdewluwnkthukthingrangip tambnthukkhxngphrathngsacng Hiuen Tsang sungidcarikmaemuxngrachkhvhrawpi ph s 1300 sungthanbnthukiwaetephiyngwa thanidehnaetephiyngsakmulkhnthkudisungmikaaephngaelaxithlxmrxbxyuethann insmynnemuxngrachkhvhoryrathungthisudaelw phrathngsacngidaetephiyngcdtaaehnngthitngthisthangrayathangkhxngsthupaelaobransthanekaaekxun inemuxngrachkhvhiwmak thaihepnpraoychnaeknkprawtisastraelankobrankhdiinkarkhnhaobransthantang inemuxngrachkhvhinpccubn cudaeswngbuyaelasphaphkhxngwdewluwninpccubn pccubnhlngthukthxdthingepnewlakwaphnpi aelaidrbkarburnaodykxngobrankhdixinediyinchwngthixinediyyngepnxananikhmkhxngxngkvs wdewluwn yngkhngmienindinobransthanthiyngimidkhudkhnxikmak sthanthisakhy thiphuththsasnikchninpccubnniymipnmskarkhux phramulkhnthkudi thipccubnyngimidthakarkhudkhn enuxngcakmikuobrkhxngchawmuslimsrangthbiwkhangbnenindin sraklnthkniwap sungpccubnrthbalxinediyidthakarburnaihmxyangswyngam aela lancaturngkhsnnibat xnepnlanelk misumpradisthanphraphuththrupyunpangprathanphrxyuklangsum lanniepncudsakhythichawphuththniymmathakarewiynethiynskkara lanniepnlanthikxngobrankhdixinediysnnisthanwaphraphuththxngkhthrngaesdngoxwathpatiomkkhincudni cudthiekidehtukarnsakhyinwnmakhbucha lancaturngkhsnnibat thungaemwaehtukarncaturngkhsnnibatcaepnehtukarnsakhyyingthiekidinbriewnwdewluwnmhawihar aetthwaimpraktraylaexiydinbnthukkhxngsmnthutchawcinaelainphraitrpidkaetxyangidwaehtukarnihyniekidkhun n cudidkhxngwdewluwn rwmthngcakkarkhudkhnthangobrankhdikimprakthlkthanwamikarthaekhruxnghmay esahin hruxsthuprabusthanthiprachumcaturngkhsnnibatiwaetxyangid tampktiaelwbriewnthiekidehtukarnsakhythangphraphuththsasna mkcaphbsthupobranhruxesahinphraecaxoskmharachsranghruxpkiwephuxepnekhruxnghmaysakhysahrbphuaeswngbuy thaihinpccubnimsamarththrabodyaenchdwaehtukarncaturngkhsnnibatekidkhunincudidkhxngwd inpccubnkxngobrankhdixinediyidaetephiyngsnnisthanwa ehtukarndngklawekidinbriewnlandanthistawntkkhxngsraklnthkniwap odysnnisthanexacakexksarhlkthanwaehtukarndngklawmiphrasngkhprachumknmakthungsxngphnkwarup aelaekidinchwngthiphraphuththxngkhphungidthrngrbthwayxaramaehngni karprachumkhrngnnkhngyngtxngnngprachumkntamlaninpaiph enuxngcakesnasnahruxorngthrrmsphakhnadihyyngkhngimidsrangkhun aelaodyechphaaxyangyinginpccubnlandanthistawntkkhxngsraklnthkniwap epnlankwanglanediywinbriewnwdthiimmiobransthanxuntngxyu odyidnaphraphuththrupyunpangprathanphrippradisthaniwbriewnsumelk klanglan aelaeriykwa lancaturngkhsnnibat sunginpccubnkyngimmikhxsrupaenchdwalancaturngkhsnnibatthiaethcringxyuincudid aelayngkhngmichawphuththbangklumsrangsumphraphuththrupiwinbriewnxunkhxngwdodyechuxwacudthitnsrangnnepnlancaturngkhsnnibatthiaethcring aetphuththsasnikchnchawithyswnihykechuxtamkhxsnnisthankhxngkxngobrankhdixinediydngklaw odyniymnbthuxknwasumphraphuththrupklanglanniepncudskkarakhxngchawithyphumaaeswngbuycudsakhy 1 in 2 aehngkhxngemuxngrachkhvh xikcudhnungkhuxphramulkhnthkudibnyxdekhakhichchkut phraphuththrupyunklangmnthlobransthanwdewluwnmhawihar emuxngrachkhvh rthphihar xinediy epnphraphuththrupsrangihm pccubnepnpuchniywtthusakhykhxngwdewluwn klumpaiphinwdewluwnmhawihar thimakhxngchuxewluwn wdpaiph hruxwdiphlxm sraobkkhrniklnthkniwap srana klangwdewluwnmhawihar phraphuththecaekhyaesdngphrasutrhlayphrasutrthini sumphraphuththrupphayinobransthanwdewluwnmhawiharkickrrmthiphuththsasnikchnphungptibtiinwnmakhbuchawikisxrs mingantnchbbekiywkb bthswdmntbuchaphrartntrythanxngsrphyya wikisxrs mingantnchbbekiywkb khanathwaydxkimthupethiyninwnmakhbucha wnmakhbucha phuththsasnikchnchawithyniymthabuytkbatrintxnecha aelatlxdwncamikarbaephybuykuslkhwamdixun echn ipwdrbsil ngdewnkarthabapthngpwng thwaysngkhthan ihxisrathan plxynkplxypla fngphrathrrmethsna aelaiprxbobsthinewlaeyn pti odykxnthakarewiynethiynphuththsasnikchnkhwrrwmkn ptibtiphawna in wnphraxuobsth sungepn hnathi tampktikhxngchawphuthth klawkhaswdmntaelakhabuchainwnmakhbucha odypktitamwdtang cacdihmikarthawtrswdmntkxnthakarewiynethiyn sungswnihyniymthakarewiynethiynxyangepnthangkar odymiphraphiksusngkhnaewiynethiyn inewlapraman 20 nalika odybthswdmntthiphrasngkhniymswdinwnmakhbuchakxnthaniymswd thngbaliaelakhaaepl tamladbdngni bthbuchaphrartntry bthswdbalithikhuntndwy xrhng smma l bthnmskarnxbnxmbuchaphraphuththeca naom l 3 cb bthsrresriyphraphuththkhun bthswdbalithikhuntndwy xitipios l bthsrresriyphraphuththkhun swdthanxngsrphyya bthswdsrphyyathikhuntndwy xngkhidphrasmphuthth l bthsrresriyphrathrrmkhun bthswdbalithikhuntndwy swakkhaot l bthsrresriyphrathrrmkhun swdthanxngsrphyya bthswdsrphyyathikhuntndwy thrrmmakhux khunakr l bthsrresriyphrasngkhkhun bthswdbalithikhuntndwy suptipnon l bthsrresriyphrasngkhkhun swdthanxngsrphyya bthswdsrphyyathikhuntndwy sngkhidsawksasda l bthswdbuchaenuxnginwnmakhbucha bthswdbalithikhuntndwy xchchayng l caknncudthupethiynaelathuxdxkimepnekhruxngskkarbuchainmux aelwedinewiynrxbpuchniysthan 3 rxb odykhnathiedinnnphungtngcitihsngb phrxmswdralukthungphraphuththkhun dwykarswdbthxitipios rxbthihnung ralukthungphrathrrmkhun dwykarswdswakkhaot rxbthisxng aelaralukthungphrasngkhkhun dwykarswdsupatipnon rxbthisam cnkwacaewiyncb 3 rxb caknnnathupethiyndxkimipbuchatampuchniysthancungepnxnesrcphithikarkahndihwnmakhbuchaepnwnsakhythangphuththsasnainpraethsithyphrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhw phraphudariihmiphithimakhbuchakhunepnkhrngaerkkhxngithy karprakxbphithiinwnmakhbuchaiderimmikhuninsmyphrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhw enuxngcakphraxngkhthrngelngehnwawnniepnwnkhlaywnthiekidehtukarnsakhyinphraphuththsasna khuxepnwnthiphraphuththecathrngaesdngoxwathpatiomkkh l khwrcaidmikarprakxbphithibaephykusltang ephuxthwayepnphuththbucha odyinkhrngaerknnidthrngkahndepnephiyngkarphrarachphithibaephykuslepnkarphayin aettxmaprachachnkidniymnaphithiniipptibtisubtxmacnklayepnwnprakxbphithisakhythangphraphuththsasnawnhnungip enuxngcakinpraethsithy phuththsasnikchnidmikarprakxbphithiinwnmakhbuchasubenuxngmatngaetsmyrchkalthi 4 aelanbthuxknodyphvtinywawnniepnwnsakhywnhnunginthangphraphuththsasnakhxngpraethsithymatngaetnn odyemuxthungwnniphuththsasnikchncarwmicknprakxbphithibaephykusltang knepnnganihy dngnnemuxthunginsmyphrabathsmedcphramngkudeklaecaxyuhw phraxngkhcungthrngprakasihwnmakhbuchaepnwnhyudnkkhtvks sahrbchawithycaidrwmicknbaephykuslinwnmakhbuchaodyphrxmephriyng inpccubnyngkhngpraktkarprakxbphithimakhbuchaxyuinpraethsithyaelapraethsthiekhyepnswnhnungkhxngpraethsithy echn law aelakmphucha sungepnswnthiithyidesiyihaekfrngessinsmyrchkalthi 5 odyimpraktwamikarprakxbphithiniinpraethsphuththmhayanxunhruxpraethsphuththethrwathnxkni echn phma aelasrilngka sungkhngsnnisthanidwa phithimakhbuchanierimtncakkarepnphrarachphithikhxngrachsankithyaelaidkhyayipechphaainekhtrachxanackrsyaminewlann txmadinaednithyinswnthiepnpraethslawaelakmphuchaidtkepndinaedninxarkkhakhxngfrngess aelaidrbexkrachinewlatxma phuththsasnikchninpraethsthngsxngthiidrbkhtiniymkarptibtiphithimakhbuchatngaetyngepnswnhnungkhxngrachxanackrsyam khngidthuxptibtiphithimakhbuchaxyangtxenuxngodyimidmikarykelik cungthaihkhngpraktphithimakhbuchainpraethsdngklawcnthungpccubn wnmakhbuchainptithinsuriykhti pi wnthi wnthi wnthipichwd 4 minakhm ph s 2539 21 kumphaphnth ph s 2551 8 kumphaphnth ph s 2563pichlu 22 kumphaphnth ph s 2540 9 kumphaphnth ph s 2552 26 kumphaphnth ph s 2564pikhal 11 kumphaphnth ph s 2541 28 kumphaphnth ph s 2553 16 kumphaphnth ph s 2565piethaa 1 minakhm ph s 2542 18 kumphaphnth ph s 2554 6 minakhm ph s 2566pimaorng 19 kumphaphnth ph s 2543 7 minakhm ph s 2555 24 kumphaphnth ph s 2567pimaesng 8 kumphaphnth ph s 2544 25 kumphaphnth ph s 2556 13 kumphaphnth ph s 2568pimaemiy 26 kumphaphnth ph s 2545 14 kumphaphnth ph s 2557 4 minakhm ph s 2569pimaaem 16 kumphaphnth ph s 2546 4 minakhm ph s 2558 22 kumphaphnth ph s 2570piwxk 5 minakhm ph s 2547 22 kumphaphnth ph s 2559 11 kumphaphnth ph s 2571piraka 23 kumphaphnth ph s 2548 11 kumphaphnth ph s 2560 28 kumphaphnth ph s 2572picx 13 kumphaphnth ph s 2549 1 minakhm ph s 2561 18 kumphaphnth ph s 2573pikun 3 minakhm ph s 2550 19 kumphaphnth ph s 2562 8 minakhm ph s 2574karprakxbphithithangsasnainwnmakhbuchaphrarachphithi ifl thrngphrarachkusl jpgphrabathsmedcphraecaxyuhwphumiphlxdulyedchthrngbaephyphrarachkuslenuxnginwnsakhythangphraphuththsasna n wdphrasrirtnsasdaram phrarachphithibaephyphrarachkuslinwnmakhbuchani odypkti phrabathsmedcphraecaxyuhwphumiphlxduyedch epnxngkhprathaninkarphrarachphithibaephyphrarachkusl aelabangkhrngthrngphrakrunaoprdekla ihphrabrmwngsanuwngsesdcaethn odysthanthiprakxbphrarachphithicacdinwdphrasrirtnsasdaram sankphrarachwngcaxxkhmaykahndkarprakaskarphrarachphithiniihthrabthwipepnpracathukpi inxditcaichchuxeriykkarphrarachphithiinrachkiccanuebksaaetktangkn bangkhrngcaichchux karphrarachkuslmakhbuchacaturngkhsnnibat hrux karphrarachkuslmakhbucha hruxaem makhbucha swninrchkalpccubn sankphrarachwngcaichchuxeriykhmaykahndkarthichdecn echn hmaykahndkar phrarachkuslmakhbucha phuththskrach 2522 raylaexiydkarprakxbphrarachphithiniinphrarachniphnthphrarachphithisibsxngeduxn khxngphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw idmiphrabrmrachathibayekiywkbkarphrarachphithiineduxnsam khuxphrarachphithibaephykuslinwnmakhbuchaiw miickhwamwa ewlaecha phrasngkhwdbwrniewsaelawdrachpradisth 30 rup chninphraxuobsthwdphrasrirtnsasdaram ewlakhaesdcxxkthrngcudthupethiynekhruxngnmskaraelw phrasngkhswdthawtreynehmuxnxyangthiwd aelwcungidswdmnttxip miswdkhathaoxwathpatiomkkhdwy swdmntcbthrngcudethiynraytamrawrxbphraxuobsth 1 250 elm mipraokhmdwyxikkhrnghnung aelwcungmiethsnaoxwathpatiomkkhknth 1 epnethsnathngphasamkhthaelaphasasyam ekhruxngknthciwrenuxdiphunhnung engin 3 talungaelakhnmtang ethsncbphrasngkhswdmntrbsphphi 30 rup inrchkaltxmaidmikarldthxdphithibangxyangxxkipbang echn ykelikkarthwayphttaharphrasngkhinewlaecha hruxkarcudethiynray 1 250 elm epntn aetkyngkhngmikarbaephyphrarachkuslinwdphrasrirtnsasdaramehmuxnekhy odyinbangpi phrabathsmedcphraecaxyuhwphumiphlxdulyedchcathrngprakxbphithibaephyphrarachkuslmakhbuchaaelathrngewiynethiynrxbphuththsasnsthanepnkarswnphraxngkhtamphraxaramhlwnghruxwdrasdrxun bang tamphrarachxthyasy sungkarphrarachphithiniepnkaraesdngxxkthungphrarachsrththaxnaennaefninphraphuththsasna khxngxngkhphramhakstriyithyphuthrngepnexkxkhrphuththsasnupthmphmatngaetxditcnthungpccubn phithisamy wnmakhbucha bangkhrngeriykkninphasapakwa wnewiynethiyn ephraaepnwnthichawphuththinpraethsithyniymipthabuyaelaewiynethiynrxbphuththsasnsthanthiwdinewlakhakhxngwnni karprakxbphithithangphraphuththsasnaenuxnginwnmakhbuchakhxngphuththsasnikchnchawithy odythwipniymthabuytkbatr ptibtiphawna fngphrathrrmethsna ewiynethiynrxbxuobsthhruxsthupecdiyphuththsthantang phayinwd ephuxepnkarralukthungwnkhlaywnthiekidehtukarnsakhykhxngphraphuththsasnainwn khun 15 kha eduxn 3 phuththsasnikchnchawithyniymnbthuxexawnniepnwnsakhyinkarlaewnkhwamchw baephykhwamdi thaicihphxngis tamaenwthangphrabrmphuthothwath odymiaenwptibtiinkarprakxbphithiinwnmakhbuchakhlaykbkarprakxbphithiinwnwisakhbucha khuxmikartngicbaephykuslthabuytkbatr fngphrathrrmethsnaaelaecriycittphawnainwnni emuxtkklangkhunkmikarewiynethiynthwayepnphuththbuchatamxaramtang aelaxacmikarbaephypkinnkakusltang tlxdkhuntamaetcaehnsmkhwr karprakxbphithiwnmakhbuchainpccubnninxkcakkarewiynethiyn thabuytkbatr inwnsakhyaelw yngmihnwynganphakhrth xngkhkrthangsasna aelaphakhprachachn rwmkncdkickrrmtang khunmakmay ephuxepnkarephyaephphraphuththsasnaaelaprachasmphnthkickrrmthangphraphuththsasnatang ihaekprachachn echn kickrrmspdahephyaephphraphuththsasnawnmakhbucha n thxngsnamhlwng hruxtamwdincnghwdtang epntnwnsakhyxunthiekiywenuxngkbwnmakhbuchawnkhlaywnplngphrachnmayusngkhar pawalecdiy emuxngewsali sthanthi phraphuththxngkhthrngthakarinwnephyeduxnsamaehngphrrsasudthaykhxngphrachnmchiph nxkcakehtukarncaturngkhsnnibatinwnephyeduxn 3 inphrrsaaerkkhxngphraphuththecaaelw inwnephyeduxn 3 aehngphrrsasudthaykhxngphraphuththeca khrawthithrngphrachnmayu 80 phrrsa kidekidehtukarnsakhykhunxikehtukarnhnungkhux phraphuththxngkhidthrng phrasasdaesdcphkphxnklangwn n pawalecdiy thrngaesdngnimitoxphasaekphraxannthwa phuidecriyxiththibath 4 prakar xacmixayuyunidthungkp aetphraxannthmiidthulxarathna emuxphraxannthxxkip marcungidmaxarathnaihniphphan phraxngkhthrngmistismpchyya plngxayusngkhar n pawalecdiywa xik 3 eduxncaesdcpriniphphan ekidehtuaephndinihw emuxphraxannththrab cungkrabthulxarathnaihthrngphrachnmchiphxyuxik aetphrasasdatrswa miichkal ephraaidthrngaesdngnimitaelwthung 16 khrng thrngthanaywainwnephyeduxn 6 thicamathung phraxngkhcaekhasumhapriniphphan cungthuxidwawnmakhbuchaepnwnkhlaywnsakhykhxngphraphuththsasnasxngehtukarnsakhy khuxwnthiphraphuththxngkhthrngaesdngoxwathpatiomkkh aelawnthithrngthakarplngphrachnmayusngkhar wnktyyuaehngchati praethsithy inpi ph s 2549 rthbalithyidelngehnthungkhwamsakhykhxngwnmakhbucha thixacthuxidwaepnwnaehngkhwamrkkhxngphraphuththsasna odythuxwaehtukarnsakhythiehlaphrasawkthng 1 250 rup idklbmaekhaefaphraphuththecadwykhwamrkinphraxngkhhlngcakidxxkipephyaephrphrasasnaodymiidndhmaydngklawepnsingthiaesdngthungkhwamktyyuktewthixnbrisuththi aelaodyechphaaxyangyingchwngewlainptithincnthrkhtiinwnephyeduxnsam mkcatkiklkbchwngethskalwaelnithn xnepnethskalwnaehngkhwamrkkhxngkhristsasna sungwyrunithybangklummkyudthuxkhtikhaniymwnaehngkhwamrkinwnwaelnithnphid odyniymyudthuxknwaepnwnaehngkhwamrkkhxngkhnhnumsaw hruxaemkrathngthuxwaepn wnesiytwaehngchati sungsngphlkrathbtxkhaniymthangcriythrrmaelasilthrrmkhxngwyrunithy rthbalithyinsmynncungidprakasihwnmakhbuchaepnwnktyyuaehngchati ephuxsngesrimkhaniymthiehmaasmaekwyrunithy ihhnmasnickbkhwamrkxnbrisuththithiimhwngsingtxbaethn aethnthicaipmwemakbkhwamrkikhrchusawhruxeruxngchabchwythangephskhxnghnumsaw xncakxihekidpyhaaeksngkhmtamma karphlkdnihmiwnktyyuaehngchatimimatngaet ph s 2546 ekhymikartngkrathuthaminsphaphuaethnrasdrihphicarnakahndihmiwnktyyuaehngchati aetthukptiesthcakphuthiekiywkhxng odyxangwa inpraethsithymiwnsakhyaehngchatithiekiywkbkaraesdngkhwamktyyumakphxaelw txmainpi ph s 2549 nkphudchuxdnghlaykhn echn dr phanit kntamra naysurwngs wthnkul dr xphichati dadi nayechlimchy caruiphbuly dr oxphas kickaaehng aelanaythawr ochtichun idrwmknthahnngsuxthungkhnamntrikhwammnkhngaehngchatikhxihsngesrimihwnmakhbuchaepnwnktyyuaehngchatixikwnhnungdwy aelaidrbkartxbrbcakphuekiywkhxng wnktyyuaehngchatini nxkcakephuxaesdngxxkthungwnaehngkhwamrkxnbrisuththikhxngchawphuththaelw yngephuxsngesrimkhaniymihkhnithyyudthuxkhwamktyyu odyxacmikarphudkhuy sngbtrxwyphr mxbkhxngkhwyhruxchxdxkimaekphumiphrakhun epnkaraesdngkhwamralukthungphrakhundwykhwamhwngdikhxngphuih imwacaepnsingkhxng karaesdngxxksungnaichruxkhaphudktamduephimoxwathpatiomkkh caturngkhsnnibat phraphuththruppangaesdngoxwathpatiomkkh raykarwnsakhythangphuththsasna wnwisakhbucha wnsakhythangphuththsasna aelawnhyudrachkarinpraethsithy wnxasalhbucha wnsakhythangphuththsasna aelawnhyudrachkarinpraethsithy xangxing Sangha Day BBC 7 May 2004 cakaehlngedimemux 18 December 2018 Artley Malvin 2014 The Full Moons Topical Letters In Esoteric Astrology eBookIt com ISBN 978 1 4566 2227 5 rachkiccanuebksa prakaskahndwnhyudrachkar nkkhtvkspracapi phraphuththskrach 2456 2011 11 08 thi ewyaebkaemchchin elm 30 30 minakhm ph s 2456 hna 533 Irons 2008 p 199 wnsakhykhxngera krmwichakar krathrwngsuksathikar ph s 2520 hna 6 xrrthkthathikhnkhsutr xrrthktha mchchimnikay mchchimpnnask priphphachkwrrkh phrathrrmkittiwngs thxngdi suretoch phcnanukrmephuxkarsuksaphuththsasn chud khawd krungethph ph s 2548 culcxmeklaecaxyuhw phrabathsmedcphra phrarachphithisibsxngeduxn phimphkhrngthi 14 41 silpabrrnakhar 2516 rachkiccanuebksa hmaykahndkar phrarachkuslmakhbucha phuththskrach 2551 elm 125 txn 7 kh 21 emsayn ph s 2551 hna 10 phraitrpidk elmthi 10 phrasuttntpidk elmthi 2 thikhnikay mhawrrkh mhapthansutr Pengvipas 2013 p 47 Wells 1939 p 78 xrrthkthamhapthansutr xrrthktha thikhnikay mhawrrkh Bhaskar 2009 pp 259 60 khwamepnmawnmakhbucha ewbisteriynphraitrpidk rachbnthitysthan phcnanukrmsphthsasnasakl xngkvs ithy chbbrachbnthitysthan rachbnthitysthan 2548 hna 241 3 Bagri S C Buddhist Pilgrimages amp Tours in India Nodida Trishul Publication 1992 phraitrpidk elmthi 13 phrasuttntpidk elmthi 5 mchchimnikay mchchimpnnask thnychanisutr xrrthkthaphraitrpidk mchchimnikay mulpnnask oxpmmwrrkh xrrthktharthwinitsutr phraitrpidk elmthi 4 phrawinypidk elmthi 4 mhawrrkh phakh 1 thrngrbphraewluwnepnsngkhikawas phraitrpidk elmthi 4 phrawinypidk elmthi 4 mhawrrkh phakh 1 phraphrhmkhunaphrn prayuthth pyut ot phuththsthaninxinediy ewluwnmhawihar emuxngrachkhvh krungethph orngphimphmhaculalngkrnrachwithyaly 2541 iphorcn khumiphorcn tamrxybathphrasasda krungethph sankphimphthrrmspha 2539 xmtanntha phra aelakhna exksarokhrngkarkhnkhwaphuththsthaninaednphuththxngkhthangwichakar krungethphmhankhr exksartiphimphthaysaenacaktnchbb m p p wnsakhythangsasna wnmakhbucha 2009 02 03 thi ewyaebkaemchchin ewbistsunyklangkhwamruaehngchati TKC Thailand Knowledge Center eriykkhxmulemux 23 1 52 ethwpraphas makkhlay epriyy sarakareriynruthxngthin praephniwthnthrrmaelaphthnakarthangprawtisastrkhxngwdaelahmubankhungtaepha xutrditth wdkhungtaepha 2551 rachkiccanuebksa karphrarachkuslmakhbuchacaturngkhsnnibat 2011 11 07 thi ewyaebkaemchchin elm 32 27 kumphaphnth ph s 2458 hna 2920 rachkiccanuebksa karphrarachkuslmakhbucha elm 28 10 minakhm r s 130 hna 2644 rachkiccanuebksa makhbucha elm 5 txnthi 57 8 emsayn c s 1888 hna 414 rachkiccanuebksa hmaykahndkar phrarachkuslmakhbucha phuththskrach 2522 elm 96 txnthi 17 12 kumphaphnth ph s 2522 chbbphiess hna 27 ebycmas phlxinthr 2523 wrrnkhdikhnbpraephni phrarachphithisibsxngeduxn krungethph sankphimphoxediynsotr culcxmeklaecaxyuhw phrabathsmedcphra 2396 2453 2506 phrarachphithisibsxngeduxn phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw phrankhr xngkhkarkhakhxngkhuruspha prawtikarprakxbphithimakhbucha 2009 02 01 thi ewyaebkaemchchin mhawithyalysngkhlankhrinthr eriykkhxmulemuxwnthi 23 1 52 ephssmphnth wnethskal hit Poll rabu wnesiytwaehngchati sankphimphkhawsd eriykkhxmulwnthi 24 1 52 rachkiccanuebksa krathuthamthi 1219 r eruxng karkahndihmiwnktyyuaephndininpraethsithy khxng nayeprmskdi ephiyyura smachiksphaphuaethnrasdr 2011 11 07 thi ewyaebkaemchchin elm 120 txnthi 112 k 7 phvscikayn ph s 2546 hna 32 wnktyyuaehngchati hnngsuxphimphsyamthurkic chbbthi 768 pracawnthi 17 2 2007 thung 20 2 2007 eriykkhxmulwnthi 24 1 52brrnanukrmBellenir K 2004 Religious Holidays and Calendars An Encyclopedic Handbook 3rd ed ISBN 0 7808 0665 4 Bhaskar V S 2009 Faith and Philosophy of Buddhism Kalpaz Publications ISBN 978 8178357225 Cate Sandra Lefferts Leedom 2006 PDF in Riggs Thomas b k Worldmark Encyclopedia of Religious Practices vol 2 ISBN 978 0 7876 6613 2 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2017 03 02 subkhnemux 2019 10 13 Cheam V S 2018 The Monk s Duty in Khmer Society The Living Role and Participation Journal of Buddhist Education and Research 4 1 Daniels P Gulevich T Thompson S E 2009 Henderson H b k Holiday Symbols and Customs 4th ed ISBN 978 0 7808 0990 1 Egge James 2013 Religious Giving and the Invention of Karma in Theravada Buddhism ISBN 978 1 136 85915 1 Irons Edward A 2008 PDF Encyclopedia of World Religions ISBN 978 0 8160 5459 6 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2017 05 17 subkhnemux 2018 03 01 Keyes Charles F 1983 Keyes Charles F Daniel E Valentine b k Karma An Anthropological Inquiry 2nd ed ISBN 978 0 520 04429 6 Ling Trevor Axelrod Steven 1979 Buddha Marx and God Some Aspects of Religion in the Modern World ISBN 978 1 349 16054 9 2011 Religious Celebrations An Encyclopedia of Holidays Festivals Solemn Observances and Spiritual Commemorations ISBN 978 1 59884 205 0 1997 The Word of the Doctrine Dhammapada ISBN 978 0 86013 335 3 1993 phcnanukrmphuththsastr chbbpramalsphth Dictionary of Buddhism Vocabulary PDF 7th ed p 575 ISBN 974 575 029 8 Pengvipas Polpao 2013 khwamrkinmummxngkhxngphraphuththsasnainwnmakhbucha Love from a Buddhist Perspective on Magha Puja Day Dhammathas Academic Journal 13 2 45 54 ISSN 1513 5845 Premchit Sommai Dore Amphay 1992 The Lan Na Twelve Month Traditions Faculty of Social Sciences Thailand and France Swearer D K 2001 Centre and Periphery Buddhism and Politics in Modern Thailand in Harris Ian b k Buddhism and Politics in Twentieth Century Asia revised ed pp 194 228 ISBN 978 0 8264 5178 1 Swearer D K 2010 PDF 2nd ed ISBN 978 1 4384 3251 9 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux March 16 2015 1 January 1976 A Model for the Study of Thai Buddhism 35 3 391 403 doi 10 2307 2053271 JSTOR 2053271 S2CID 162810180 Tetsunori Koizumi 幸泉 哲紀 コイズミ テツノリ 25 March 2004 Adoption and Adaptation of an Imported Culture Buddhism in Thailand and Korea Ryukoku University Institute for International Society and Culture pp 179 94 10519 2339 Wells Kenneth E 1939 Thai Buddhism Its Rites and Activities Bangkok Times Press OCLC 1004812732 2008 Mahayana Buddhism The Doctrinal Foundations 2nd ed ISBN 978 0 203 42847 4 pnnwthn ptithin 100 pi ph s 2468 2568 khmphirphyakrnkhuban krungethph iphlin 2550 ISBN 974 455 535 1aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb wnmakhbucha phrasuttntpidk elm 2 thikhnikay mhawrrkh mhapthansutr xrrthktha mhapthansutr