เซนุสเรตที่ 1 (อียิปต์สมัยกลาง: z-n-wsrt; /suʀ nij ˈwas.ɾiʔ/) หรือในรูปแบบที่แปรมาเป็นภาษาอังกฤษ เซซอสทริสที่ 1 และเซนวอสเรตที่ 1 เป็นฟาโรห์แห่งอียิปต์โบราณพระองค์ที่สองจากราชวงศ์สิบสอง พระองค์ทรงครองราชย์ตั้งแต่ 1971 ถึง 1926 ปีก่อนคริสตกาล (หรือ 1920 ถึง 1875 ปีก่อนคริสตกาล) และเป็นหนึ่งในฟาโรห์ที่มีอำนาจมากที่สุดในราชวงศ์นี้ พระองค์เป็นพระราชโอรสในฟาโรห์อเมเนมเฮตที่ 1 ฟาโรห์เซนุสเรตที่ 1 เป็นที่ทราบโดยพระนามนำหน้าของพระองค์พระนามว่า เคเปอร์คาเร ซึ่งหมายความว่า "ดวงวิญญาณแห่งเทพเรทรงถูกสร้างขึ้น" พระองค์ทรงขยายพระราชอาณาจักรอียิปต์ ส่งผลให้พระองค์ทรงปกครองแผ่นดินในยุครุ่งเรือง
เซนุสเรตที่ 1 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
เซซอสทรีส, เซซอนโคซิส | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
รูปสลักของฟาโรห์เซนุสเรตที่ 1 ที่พิพิธภัณฑ์ไคโร, อียิปต์ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ฟาโรห์ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
รัชกาล | 1971–1926 ปีก่อนคริสตกาล; (1920–1875 ปีก่อนคริสตกาล) | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ก่อนหน้า | อเมเนมเฮตที่ 1 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ถัดไป | อเมเนมเฮตที่ 2 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คู่เสกสมรส | เนเฟรูที่ 3 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
พระราชบุตร | อเมเนมเฮตที่ 2, อเมเนมเฮต-อังค์, อิตาคาย, เซบัต, เนเฟอร์รูโซเบ๊ค, เนเฟอร์รัปทาห์ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
พระราชบิดา | อเมเนมเฮตที่ 1 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
พระราชมารดา | เนเฟริทาเจเนน | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
สวรรคต | 1926 ปีก่อนคริสตกาล (1875 ปีก่อนคริสตกาล) | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
สุสาน | พีระมิดที่อัลลิษต์ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
อนุสรณ์สถาน | วิหารน้อยขาว, พีระมิดแห่งเซนุสเรตที่ 1 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ราชวงศ์ | ราชวงศ์ที่สิบสอง |
พระองค์ยังคงทรงดำเนินต่อพระราโชบายขยายขอบเขตเชิงรุกของพระราชบิดาไปยังดินแดนนิวเบีย โดยเริ่มจากการส่งคณะเดินทางจำนวนสองครั้งเข้าในนิวเบียในช่วงปีที่ 10 และ 18 แห่งการครองราชย์ของพระองค์ และทรงสถาปนาพรมแดนทางใต้อย่างเป็นทางการของอียิปต์ใกล้กับแก่งน้ำตกที่สองของแม่น้ำไนล์ ซึ่งพระองค์ทรงได้วางกองทหารรักษาการณ์และจารึกแห่งชัยชนะไว้ที่นั่น พระองค์ทรงยังได้จัดคณะเดินทางไปยังโอเอซิสของทะเลทรายตะวันตก ฟาโรห์เซนุสเรตที่ 1 ทรงได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการฑูตกับผู้ครองนครถิ่นในซีเรียและคานาอัน นอกจากนี้ พระองค์ยังพยายามรวมศูนย์โครงสร้างทางการเมืองของพระราชอาณาจักรด้วยการสนับสนุนบรรดาผู้ปกครองท้องถิ่นที่ภักดีต่อพระองค์ พีระมิดของพระองค์ได้ถูกสร้างขึ้นที่เอล-ลิชต์ และยังมีการกล่าวถึงพระองค์ในงานเขียนชื่อว่า เรื่องราวแห่งซินูเฮ (The Story of Sinuhe) ซึ่งได้บันทึกว่า พระองค์ทรงรีบเสด็จกลับไปยังพระราชวังในเมมฟิสจากการทรงดำเนินการทางทหารในดินแดนลิเบีย หลักจากทรงทราบการลอบปลงพระชนม์ฟาโรห์อเมเนมเฮตที่ 1 ซึ่งเป็นพระราชบิดาของพระองค์
พระราชวงศ์
เป็นที่ทราบอย่างดีเกี่ยวความสัมพันธ์ภายในพระราชวงศ์ของพระองค์ โดยฟาโรห์เซนุสเรตที่ 1 เป็นพระราชโอรสในฟาโรห์อเมเนมเฮตที่ 1 กับพระนางเนเฟริทาเทเนน ซึ่งเป็นพระราชินีในพระราชบิดา พระมเหสีพระองค์หลักของพระองค์นามว่า พระนางเนเฟรูที่ 3 ซึ่งเป็นพระภคินีหรือพระขนิษฐาของพระองค์ และยังเป็นพระราชมารดาของฟาโรห์อเมเนมเฮตที่ 2 ซึ่งเป็นผู้ที่ขึ้นมาปกครองต่อจากพระราชบิดา ส่วนพระราชบุตรทีเหลือและเป็นที่ทราบก็คือ เจ้าหญิงอิตาคายต์ และเจ้าหญิงเซบาต ซึ่งพระราชธิดาพระองค์หลังนี้น่าเป็นพระธิดาของพระนางเนเฟรูที่ 3 เนื่องจากพระนางได้ปรากฏพร้อมกับเจ้าหญิงพระองค์ดังกล่าวในจารึกเดียวกัน ต่อมาฟาโรห์อเมเนมเฮตที่ 1 พระราชบิดาของพระองค์ได้ถูกลอบปลงพระชนม์
เหตุการณ์ภายในรัชสมัย
ในปีที่ 18 แห่งการครองราชย์ของฟาโรห์เซนุสเรตที่ 1 พระองค์ทรงเริ่มดำเนินการทางทหารกับดินแดนนิวเบียล่าง และพิชิตดินแดนนี้จนถึงแก่งน้ำตกที่สองของแม่น้ำไนล์ ช่วงเวลาแห่งการออกเดินทางของคณะได้ระบุไว้บนจารึกจากบูเฮน มีการกล่าวถึงการดำเนินการทางทหารไว้ในจารึกหลายชิ้นในรัชสมัยของฟาโรห์พระองค์นี้ ข้าราชการท้องถิ่นหลายคนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสำรวจทางทหาร เช่น ซึ่งเป็นผู้ปกครองท้องถิ่นเขตปกครองแห่งออริกซ์ ได้เดินทางไปที่นั่นพร้อมด้วยตำแหน่ง ผู้ดูแลกองทัพ ในปีที่ 25 แห่งการครองราชย์ ภายในพระราชอาณาจักรได้เกิดทุพภิกขภัยขึ้น เนื่องจากระดับในแม่น้ำไนล์ลดต่ำ
แผนสิ่งปลูกสร้าง
ฟาโรห์เซนุสเรตที่ 1 ได้ทรงส่งคณะสำรวจเหมืองหินหลายครั้งไปยังคาบสมุทรไซนายและวาดิ ฮัมมามัต และทรงโปรดให้สร้างศาลเทพเจ้าและวิหารหลายแห่งทั่วอียิปต์และนิวเบียในช่วงรัชสมัยอันยาวนานของพระองค์ พระองค์โปรดให้สร้างวิหารที่สำคัญแห่งเทพเร-อาตุมขึ้นในเฮลิโอโพลิส ซึ่งเป็นศูนย์กลางของลัทธิบูชาพระอาทิตย์ พระองค์ทรงโปรดให้เสาหินแกรนิตสีแดงจำนวนสองเสาขึ้นที่นั่น เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลเซดในปีที่ 30 แห่งการครองราชย์ หนึ่งในเสาโอเบลิสก์ยังคงอยู่และเป็นเสาโอเบลิสก์ที่เก่าแก่ที่สุดในอียิปต์ ขณะนี้อยู่ในพื้นที่ (เสาโอเบลิสค์ในภาษาอาหรับ) ของเขต ซึ่งใกล้ใกล้กับเขต (เฮลิโอโพลิส) ซึ่งมีความสูง 67 ฟุต และหนัก 120 ตันหรือ 240,000 ปอนด์
พระองค์ทรงเป็นผู้โปรดให้สร้างวิหารสำคัญหลายแห่งในสมัยอียิปต์โบราณ รวมทั้งวิหารแห่งเทพมินที่คอปโตส วิหารแห่งเทพีซาเทตบนเกาะแอลเลเฟนไทน์ วิหารแห่งเทพมอนทูที่อาร์มันต์และวิหารแห่งเทพมอนทูที่เอล-โตด ที่มีจารึกที่เกี่ยวข้องพระองค์ยังคงหลงเหลืออยู่
ศาลเทพเจ้า (หรือรู้จักกันในชื่อว่า วิหารน้อยขาว หรือวิหารน้อยแห่งการเฉลิมฉลอง) ซึ่งมีภาพนูนต่ำนูนสูงของฟาโรห์เซนุสเรตที่ 1 ที่สร้างขึ้นที่คาร์นัก เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบปีที่ 30 แห่งการครองราชย์ของพระองค์ ต่อมาได้มีบูรณะใหม่โดยสมบูรณ์จากบล็อกหินต่าง ๆ ที่อองรี เชฟคีเออร์ค้นพบในปี ค.ศ. 1926 และพระองค์ยังทรงโปรดให้บูรณะปรับปรุงวิหารแห่งเคนติ-อเมนติอู โอซิริส ที่อไบดอส ซึ่งอยู่ในหมู่แผนก่อสิ่งปลูกสร้างหลักอื่น ๆ ของพระองค์
พระราชสำนัก
สมาชิกคนสำคัญบางส่วนของพระราชสำนักในช่วงรัชสมัยฟาโรห์เซนุสเรตที่ 1 เป็นที่รู้ทราบ เช่น ราชมนตรีในช่วงต้นรัชสมัยของพระองค์มีนามว่า อินเตฟิเกอร์ ซึ่งเป็นที่ทราบจากจารึกมากมายและจากหลุมฝังศพของเขาถัดจากพีระมิดแห่งอเมนเนมเฮตที่ 1 ดูเหมือนว่าเขาจะดำรงตำแหน่งนี้มาเป็นเวลานาน และตามมาด้วยราชมนตรีคนถัดมาที่มีนามว่า ผู้ดูแลพระคลังมหาสมบัติจำนวนสองคน ซึ่งเป็นที่ทราบจากในรัชสมัยของพระองค์มีนามว่า (ปีที่ 22) และ ซึ่งมีหลุมฝังศพขนาดใหญ่ด้านหลังติดกับพีระมิดของพระองค์ และดูเหมือนเขาจะเป็นสถาปนิกหลักของวิหารแห่งเทพอามุนที่คาร์นัก มีเจ้าพนักงานชั้นสูงหลายคน ร่วมถึง ซึ่งเป็นที่ทราบจากจารึกหลายชิ้น และจารึกในวาดิ เอล-ฮูดิ ซึ่งเห็นได้ชัดว่า เขาเป็นผู้นำคณะสำรวจแร่อเมทิสต์ หนึ่งในจารึกนั้นมีอายุย้อนไปถึงปีที่ 9 แห่งการครองราชย์ของพระองค์ และมีผู้หนึ่งนามว่า นาคร์ เข้ารับตำแหน่งในราชสำนักช่วงประมาณปีที่ 12 แห่งการครองราชย์ของพระองค์ เขามีหลุมฝังศพที่ลิชต์ อันเตฟ บุตรชายของสตรีคนหนึ่งนามว่า ซาตอามุน ซึ่งเป็นที่ทราบจากจาึกหลายชิ้น โดยระบุช่วงเวลาถึงปีที่ 24 และอีกปีหนึ่งถึงปีที่ 25 แห่งการครองราชย์ของฟาโรห์เซนุสเรตที่ 1 และอันเตฟอีกคน ผู้เป็นบุตรชายของสตรนามว่า ซาตยูเซอร์ และมีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นเจ้าพนักงานชั้นสูงในรัชสมัยของพระองค์
การสืบสันตติวงศ์
ฟาโรห์เซนุสเรตที่ 1 ได้รับพระราชทานตำแหน่งผู้สำเร็จราชการร่วมกับฟาโรห์อเมเนมเฮตที่ 1 ในช่วงปีที่ 20 แห่งการครองราชย์ของพระราชบิดา ในช่วงปลายรัชสมัย พระองค์ได้พระราชทานแต่งตั้งฟาโรห์อเมเนมเฮตที่ 2 ผู้เป็นพระราชโอรสขึ้นเป็นผู้สำเร็จราชการร่วมกับพระองค์ ศิลาจารึกแห่งเวปวาเวโทที่ระบุช่วงระหว่างปีที่ 44 แห่งการครองราชย์ของพระองค์ และปีที่ 2 แห่งการครองราชย์ของฟาโรห์อเมเนมเฮตที่ 2 ดังนั้น พระองค์คงจะพระราชทานตำแหน่งผู้สำเร็จราชการร่วมในปีที่ 43 และสันนิษฐานว่า ฟาโรห์เซนุสเรตที่ 1 เสด็จสวรรคในช่วงปีที่ 46 แห่งการครองราชย์ของพระองค์จากที่บันทึกพระนามกษัตริย์แห่งตูรินได้ระบุไว้ว่า พระองค์ครองราชย์เป็นระยะเวลา 45 ปี
- รูปสลักส่วนบนของฟาโรห์เซนุสเรตที่ 1 จากอียิปต์โบราณช่วงสมัยราชอาณาจักรกลางจากราชวงศ์ที่สิบสอง ราวประมาณ 1950 ปีก่อนคริสตกาล จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์นอยส์ ประเทศเยอรมนี
- เสาโอเบลิกส์ของฟาโรห์เซนุสเรตที่ 1 ที่เฮลิโอโพลิส
- รูปสลักเทพโอซิริสของฟาโรห์เซนุสเรตที่ 1
- ตุ้มน้ำหนักหินที่ปรากฏพระนามฟาโรห์เซนุสเรตที่ 1
- ฐานรูปสลักหินแกรนิตที่สลักพระนามฟาโรห์เซนุสเรตที่ 1 จากอาร?มันต์ ประเทศอียิปต์ ตั้งจัดแสดงอยู่พิพิธภัณฑ์เพทรี กรุงลอนดอน
อ้างอิง
- W. Grajetzki, The Middle Kingdom of Ancient Egypt: History, Archaeology and Society, Duckworth, London 2006 ISBN , p.36
- Erik Hornung; Rolf Krauss; David Warburton, บ.ก. (2006). Ancient Egyptian chronology. Brill. ISBN . OCLC 70878036.
- Peter Clayton, Chronicle of the Pharaohs, Thames & Hudson Ltd, (1994), p.78
- Robins. The Art of Ancient Egypt. pp. 95–97.
- Senusret I
- William K. Simpsonː Sesostris II, inːWolfgang Helck (ed.), Lexikon der Ägyptologie Vol. 5, Harrassowitz, Wiesbaden, 1984, , p. 895
- Percy E. Newberryː Beni Hasan (volume 1), London, 1893, p. 25 onlin
- Wolfram Grajetzki: The People of the Cobra Province in EgyptOxbow Books. Oxford 2020, , pp. 177-178
- Grajetzki, The Middle Kingdom of Ancient Egypt: History, p. 38–41
- W. Grajetzki: Court officials of the Middle Kingdom, London 2009, ISBN , p. 172
- Murnane, William J. Ancient Egyptian Coregencies, Studies in Ancient Oriental Civilization. No. 40. p.5. The Oriental Institute of the University of Chicago, 1977.
- Murnane, William J. Ancient Egyptian Coregencies, Studies in Ancient Oriental Civilization. No. 40. p.6. The Oriental Institute of the University of Chicago, 1977.
แหล่งข้อมูลอื่น
- Senusret (I) Kheperkare
- Sesostris I (Kheperkare)
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
esnusertthi 1 xiyiptsmyklang z n wsrt suʀ nij ˈwas ɾiʔ hruxinrupaebbthiaeprmaepnphasaxngkvs essxsthristhi 1 aelaesnwxsertthi 1 epnfaorhaehngxiyiptobranphraxngkhthisxngcakrachwngssibsxng phraxngkhthrngkhrxngrachytngaet 1971 thung 1926 pikxnkhristkal hrux 1920 thung 1875 pikxnkhristkal aelaepnhnunginfaorhthimixanacmakthisudinrachwngsni phraxngkhepnphrarachoxrsinfaorhxemenmehtthi 1 faorhesnusertthi 1 epnthithrabodyphranamnahnakhxngphraxngkhphranamwa ekhepxrkhaer sunghmaykhwamwa dwngwiyyanaehngethpherthrngthuksrangkhun phraxngkhthrngkhyayphrarachxanackrxiyipt sngphlihphraxngkhthrngpkkhrxngaephndininyukhrungeruxngesnusertthi 1essxsthris essxnokhsisrupslkkhxngfaorhesnusertthi 1 thiphiphithphnthikhor xiyiptfaorhrchkal1971 1926 pikxnkhristkal 1920 1875 pikxnkhristkal kxnhnaxemenmehtthi 1thdipxemenmehtthi 2phraprmaphiithyphranamhxrsxngkhemsut ˁnḫ msw t michiwitaehngkarekidphranamenbtixngkhemsut ˁnḫ msw t michiwitaehngkarekidphranamhxrsthxngkhaxngkhemsut ˁnḫ msw t michiwitaehngkarekid bnthukphranamaehngturin kha k3phranamkhrxngrachyekhepxrkhaer Ḫpr k3 Rˁ aehngraidthuksrangkhunphranamprasutiesnusert S j n Wsrt burusaehngkhuesksmrsenefruthi 3phrarachbutrxemenmehtthi 2 xemenmeht xngkh xitakhay esbt enefxrruosebkh enefxrrpthahphrarachbidaxemenmehtthi 1phrarachmardaenefrithaecennswrrkht1926 pikxnkhristkal 1875 pikxnkhristkal susanphiramidthixllistxnusrnsthanwiharnxykhaw phiramidaehngesnusertthi 1rachwngsrachwngsthisibsxng phraxngkhyngkhngthrngdaenintxphraraochbaykhyaykhxbekhtechingrukkhxngphrarachbidaipyngdinaednniwebiy odyerimcakkarsngkhnaedinthangcanwnsxngkhrngekhainniwebiyinchwngpithi 10 aela 18 aehngkarkhrxngrachykhxngphraxngkh aelathrngsthapnaphrmaednthangitxyangepnthangkarkhxngxiyiptiklkbaekngnatkthisxngkhxngaemnainl sungphraxngkhthrngidwangkxngthharrksakarnaelacarukaehngchychnaiwthinn phraxngkhthrngyngidcdkhnaedinthangipyngoxexsiskhxngthaelthraytawntk faorhesnusertthi 1 thrngidsthapnakhwamsmphnththangkarthutkbphukhrxngnkhrthininsieriyaelakhanaxn nxkcakni phraxngkhyngphyayamrwmsunyokhrngsrangthangkaremuxngkhxngphrarachxanackrdwykarsnbsnunbrrdaphupkkhrxngthxngthinthiphkditxphraxngkh phiramidkhxngphraxngkhidthuksrangkhunthiexl licht aelayngmikarklawthungphraxngkhinnganekhiynchuxwa eruxngrawaehngsinueh The Story of Sinuhe sungidbnthukwa phraxngkhthrngribesdcklbipyngphrarachwnginemmfiscakkarthrngdaeninkarthangthharindinaednliebiy hlkcakthrngthrabkarlxbplngphrachnmfaorhxemenmehtthi 1 sungepnphrarachbidakhxngphraxngkhphrarachwngsepnthithrabxyangdiekiywkhwamsmphnthphayinphrarachwngskhxngphraxngkh odyfaorhesnusertthi 1 epnphrarachoxrsinfaorhxemenmehtthi 1 kbphranangenefrithaethenn sungepnphrarachiniinphrarachbida phramehsiphraxngkhhlkkhxngphraxngkhnamwa phranangenefruthi 3 sungepnphraphkhinihruxphrakhnisthakhxngphraxngkh aelayngepnphrarachmardakhxngfaorhxemenmehtthi 2 sungepnphuthikhunmapkkhrxngtxcakphrarachbida swnphrarachbutrthiehluxaelaepnthithrabkkhux ecahyingxitakhayt aelaecahyingesbat sungphrarachthidaphraxngkhhlngninaepnphrathidakhxngphranangenefruthi 3 enuxngcakphranangidpraktphrxmkbecahyingphraxngkhdngklawincarukediywkn txmafaorhxemenmehtthi 1 phrarachbidakhxngphraxngkhidthuklxbplngphrachnmehtukarnphayinrchsmyinpithi 18 aehngkarkhrxngrachykhxngfaorhesnusertthi 1 phraxngkhthrngerimdaeninkarthangthharkbdinaednniwebiylang aelaphichitdinaednnicnthungaekngnatkthisxngkhxngaemnainl chwngewlaaehngkarxxkedinthangkhxngkhnaidrabuiwbncarukcakbuehn mikarklawthungkardaeninkarthangthhariwincarukhlaychininrchsmykhxngfaorhphraxngkhni kharachkarthxngthinhlaykhnmiswnekiywkhxngkbkarsarwcthangthhar echn sungepnphupkkhrxngthxngthinekhtpkkhrxngaehngxxriks idedinthangipthinnphrxmdwytaaehnng phuduaelkxngthph inpithi 25 aehngkarkhrxngrachy phayinphrarachxanackridekidthuphphikkhphykhun enuxngcakradbinaemnainlldtaaephnsingpluksrangfaorhesnusertthi 1 idthrngsngkhnasarwcehmuxnghinhlaykhrngipyngkhabsmuthrisnayaelawadi hmmamt aelathrngoprdihsrangsalethphecaaelawiharhlayaehngthwxiyiptaelaniwebiyinchwngrchsmyxnyawnankhxngphraxngkh phraxngkhoprdihsrangwiharthisakhyaehngethpher xatumkhuninehlioxophlis sungepnsunyklangkhxnglththibuchaphraxathity phraxngkhthrngoprdihesahinaekrnitsiaedngcanwnsxngesakhunthinn ephuxechlimchlxngethskalesdinpithi 30 aehngkarkhrxngrachy hnunginesaoxebliskyngkhngxyuaelaepnesaoxebliskthiekaaekthisudinxiyipt khnanixyuinphunthi esaoxebliskhinphasaxahrb khxngekht sungikliklkbekht ehlioxophlis sungmikhwamsung 67 fut aelahnk 120 tnhrux 240 000 pxnd phraxngkhthrngepnphuoprdihsrangwiharsakhyhlayaehnginsmyxiyiptobran rwmthngwiharaehngethphminthikhxpots wiharaehngethphisaethtbnekaaaexlelefnithn wiharaehngethphmxnthuthixarmntaelawiharaehngethphmxnthuthiexl otd thimicarukthiekiywkhxngphraxngkhyngkhnghlngehluxxyu salethpheca hruxruckkninchuxwa wiharnxykhaw hruxwiharnxyaehngkarechlimchlxng sungmiphaphnuntanunsungkhxngfaorhesnusertthi 1 thisrangkhunthikharnk ephuxechlimchlxngkhrbrxbpithi 30 aehngkarkhrxngrachykhxngphraxngkh txmaidmiburnaihmodysmburncakblxkhintang thixxngri echfkhiexxrkhnphbinpi kh s 1926 aelaphraxngkhyngthrngoprdihburnaprbprungwiharaehngekhnti xemntixu oxsiris thixibdxs sungxyuinhmuaephnkxsingpluksranghlkxun khxngphraxngkh wiharnxykhawaehngesnusertthi 1 thikharnkphrarachsanksmachikkhnsakhybangswnkhxngphrarachsankinchwngrchsmyfaorhesnusertthi 1 epnthiruthrab echn rachmntriinchwngtnrchsmykhxngphraxngkhminamwa xinetfiekxr sungepnthithrabcakcarukmakmayaelacakhlumfngsphkhxngekhathdcakphiramidaehngxemnenmehtthi 1 duehmuxnwaekhacadarngtaaehnngnimaepnewlanan aelatammadwyrachmntrikhnthdmathiminamwa phuduaelphrakhlngmhasmbticanwnsxngkhn sungepnthithrabcakinrchsmykhxngphraxngkhminamwa pithi 22 aela sungmihlumfngsphkhnadihydanhlngtidkbphiramidkhxngphraxngkh aeladuehmuxnekhacaepnsthapnikhlkkhxngwiharaehngethphxamunthikharnk miecaphnknganchnsunghlaykhn rwmthung sungepnthithrabcakcarukhlaychin aelacarukinwadi exl hudi sungehnidchdwa ekhaepnphunakhnasarwcaerxemthist hnungincaruknnmixayuyxnipthungpithi 9 aehngkarkhrxngrachykhxngphraxngkh aelamiphuhnungnamwa nakhr ekharbtaaehnnginrachsankchwngpramanpithi 12 aehngkarkhrxngrachykhxngphraxngkh ekhamihlumfngsphthilicht xnetf butrchaykhxngstrikhnhnungnamwa satxamun sungepnthithrabcakcaukhlaychin odyrabuchwngewlathungpithi 24 aelaxikpihnungthungpithi 25 aehngkarkhrxngrachykhxngfaorhesnusertthi 1 aelaxnetfxikkhn phuepnbutrchaykhxngstrnamwa satyuesxr aelamikhwamepnipidwacaepnecaphnknganchnsunginrchsmykhxngphraxngkhkarsubsnttiwngsfaorhesnusertthi 1 idrbphrarachthantaaehnngphusaercrachkarrwmkbfaorhxemenmehtthi 1 inchwngpithi 20 aehngkarkhrxngrachykhxngphrarachbida inchwngplayrchsmy phraxngkhidphrarachthanaetngtngfaorhxemenmehtthi 2 phuepnphrarachoxrskhunepnphusaercrachkarrwmkbphraxngkh silacarukaehngewpwaewoththirabuchwngrahwangpithi 44 aehngkarkhrxngrachykhxngphraxngkh aelapithi 2 aehngkarkhrxngrachykhxngfaorhxemenmehtthi 2 dngnn phraxngkhkhngcaphrarachthantaaehnngphusaercrachkarrwminpithi 43 aelasnnisthanwa faorhesnusertthi 1 esdcswrrkhinchwngpithi 46 aehngkarkhrxngrachykhxngphraxngkhcakthibnthukphranamkstriyaehngturinidrabuiwwa phraxngkhkhrxngrachyepnrayaewla 45 pirupslkswnbnkhxngfaorhesnusertthi 1 cakxiyiptobranchwngsmyrachxanackrklangcakrachwngsthisibsxng rawpraman 1950 pikxnkhristkal cdaesdngxyuinphiphithphnthnxys praethseyxrmni esaoxeblikskhxngfaorhesnusertthi 1 thiehlioxophlis rupslkethphoxsiriskhxngfaorhesnusertthi 1 tumnahnkhinthipraktphranamfaorhesnusertthi 1 thanrupslkhinaekrnitthislkphranamfaorhesnusertthi 1 cakxar mnt praethsxiyipt tngcdaesdngxyuphiphithphnthephthri krunglxndxnxangxingW Grajetzki The Middle Kingdom of Ancient Egypt History Archaeology and Society Duckworth London 2006 ISBN 0 7156 3435 6 p 36 Erik Hornung Rolf Krauss David Warburton b k 2006 Ancient Egyptian chronology Brill ISBN 9004113851 OCLC 70878036 Peter Clayton Chronicle of the Pharaohs Thames amp Hudson Ltd 1994 p 78 Robins The Art of Ancient Egypt pp 95 97 Senusret I William K Simpsonː Sesostris II inːWolfgang Helck ed Lexikon der Agyptologie Vol 5 Harrassowitz Wiesbaden 1984 ISBN 3447024895 p 895 Percy E Newberryː Beni Hasan volume 1 London 1893 p 25 onlin Wolfram Grajetzki The People of the Cobra Province in EgyptOxbow Books Oxford 2020 ISBN 9781789254211 pp 177 178 Grajetzki The Middle Kingdom of Ancient Egypt History p 38 41 W Grajetzki Court officials of the Middle Kingdom London 2009 ISBN 978 0 7156 3745 6 p 172 Murnane William J Ancient Egyptian Coregencies Studies in Ancient Oriental Civilization No 40 p 5 The Oriental Institute of the University of Chicago 1977 Murnane William J Ancient Egyptian Coregencies Studies in Ancient Oriental Civilization No 40 p 6 The Oriental Institute of the University of Chicago 1977 wikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb faorhesnusertthi 1aehlngkhxmulxunSenusret I Kheperkare Sesostris I Kheperkare