แก่งน้ำตกแห่งแม่น้ำไนล์ (ภาษาอังกฤษ : Cataracts of the Nile) เป็นส่วนบริเวณตื้นหรือแก่งน้ำเชี่ยวของแม่น้ำไนล์ที่อยู่ระหว่างเมืองคาร์ทูมและเมืองอัสวาน ซึ่งบริเวณแห่งนั้นด้วยหินก้อนเล็กๆ จำนวนมากที่โผล่ขึ้นมาจากก้นแม่น้ำ ตลอดจนมีเกาะแก่งหินจำนวนมาก ในบางแห่งก็มีกระแสน้ำเชี่ยว และในขณะที่บางแห่งกระแสน้ำไหลปกติแต่ไหลผ่านบริเวณที่ตื้นเขิน
แก่งน้ำตกทั้งหกแห่ง
โดยเริ่มนับจากด้านปลายแม่น้ำไปยังต้นแม่น้ำไนล์ (จากเหนือลงใต้):
ใน อียิปต์:
- แก่งน้ำตกแห่งที่หนึ่ง ตัดผ่านที่เมืองอัสวาน (24°05′N 32°53′E / 24.08°N 32.88°E) และเดิมเคยถูกเลือกให้เป็นบริเวณที่ตั้งของ ซึ่งเป็นเขื่อนแห่งแรกที่สร้างข้ามแม่น้ำไนล์
ใน ซูดาน:
- แก่งน้ำตกแห่งที่สอง (หรือแก่งน้ำตกใหญ่) ซึ่งอยู่ในเขตดินแดนนิวเบียและในปัจจุบันแก่งน้ำตกแห่งนี้จมอยู่ใต้ (21°29′N 30°58′E / 21.48°N 30.97°E)
- แก่งน้ำตกแห่งที่สาม อยู่ที่/ฮันเนก (19°46′N 30°22′E / 19.76°N 30.37°E)
- แก่งน้ำตกแห่งที่สี่ อยู่ในบริเวณ และในปัจจุบันแก่งน้ำตกแห่งนี้ก็ได้จมอยู่ใต้อ่างเก็บน้ำของ เมื่อตั้งแต่ปี ค.ศ. 2008 (18°55′N 32°22′E / 18.91°N 32.36°E)
- แก่งน้ำตกแห่งที่ห้า อยู่ใกล้กับจุดบรรจบกันของแม่น้ำไนล์และ (17°41′N 33°58′E / 17.68°N 33.97°E)
- แก่งน้ำตกที่หก อยู่ที่บริเวณแม่น้ำไนล์ตัดผ่านแห่ง ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับบากราวิยาห์ (16°17′N 32°40′E / 16.29°N 32.67°E)
ภูมิศาสตร์
นักธรณีวิทยาได้ระบุว่า พื้นที่ทางตอนเหนือของซูดานมีการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกและการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกในบริเวณนี้ส่งผลให้แม่น้ำมีลักษณะ "อ่อนเยาว์" ซึ่งส่วนตวัดโค้งของแม่น้ำไนล์ในนิวเบียได้เปลี่ยนเส้นทางของแม่น้ำไนล์ไปทางทิศตะวันตก ในขณะเดียวกันก็ทำให้ระดับความลึกในแม่น้ำตื้นขึ้นและก่อให้เกิดแก่งน้ำตก ถึงแม้ว่าพื้นแม่น้ำจะสึกกร่อนจากการกัดเซาะ แต่ผืนดินก็กลับถูกยกตัวขึ้น ทำให้ส่วนต่างๆ ของพื้นแม่น้ำเป็นพิ้นที่โล่ง ภูมิลักษณ์ที่โดดเด่นเหล่านี้ของแม่น้ำไนล์ระหว่างเมืองอัสวานและเมืองคาร์ทูม ซึ่งเกิดและพบได้ในหลายจุด จึงเรียกกันว่าแก่งน้ำตกแห่งแม่น้ำไนล์ ในขณะที่ส่วนปลายแม่น้ำบางครั้งจะเรียกว่า "แม่น้ำไนล์อียิปต์" ความแตกต่างทางธรณีวิทยาระหว่างสองส่วนของแม่น้ำนี้มีความสำคัญมาก ทางเหนือของเมืองอัสวาน ซึ่งมีท้องแม่น้ำที่ไม่เป็นหิน แต่กลับเต็มด้วยตะกอน และอยู่ห่างไกลจากส่วนที่แม่น้ำตื้นเขิน จึงเชื่อกันว่า ในอดีตหินบริเวณดังกล่าวถูกกัดเซาะให้มีความลึกหลายพันฟุต ซึ่งส่งผลให้เกิดหุบเขากว้างใหญ่ และในปัจจุบันจึงเต็มไปด้วยตะกอน
ประวัติศาสตร์
คำว่า แก่งน้ำตก หรือ " cataract " มีรากคำมาจากภาษากรีก καταρρέω (แปลว่า "ไหลลง") ถึงแม้ว่าคำภาษากรีกดั้งเดิมจะอยู่ในรูปของพหูพจน์เท่านั้น (Κατάδουποι) อย่างไรก็ตาม ในทางตรงกันข้าม แก่งน้ำตกหลักทั้งหกแห่งของแม่น้ำไนล์ก็ไม่สามารถอธิบายได้อย่างถูกต้องว่าเป็นแก่งน้ำตก และให้คำจำกัดความที่กว้างขึ้น แก่งน้ำตกเหล่านี้ก็เช่นเดียวกันกับแก่งน้ำตกขนาดเล็ก ๆ อีกหลายแห่ง
ในสมัยโบราณ อาณาจักรอียิปต์บนได้แผ่ขยายอาณาเขตจากทางใต้ของสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนล์ไปยังแก่งน้ำตกแห่งที่หนึ่ง ในขณะที่อยู่ดินแดนบริเวณต้นแม่น้ำที่อยู่ภายใต้การปกครองโดยอาณาจักรคุชโบราณ ซึ่งต่อมาจะเข้ายึดครองดินแดนอียิปต์ในช่วงตั้งแต่ 760 ถึง 656 ปีก่อนคริสตกาล นอกจากการรุกรานชาวคุชแล้ว สำหรับประวัติศาสตร์อียิปต์ส่วนใหญ่ ในแก่งน้ำตกแห่งแม่น้ำไนล์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่แก่งน้ำตกแห่งที่หนึ่ง ซึ่งส่วนใหญ่ทำหน้าที่เป็นพรมแดนตามธรรมชาติ เพื่อป้องกันการข้ามเข้ามาจากทางใต้ เนื่องจากในพื้นที่ดังกล่าวจะต้องอาศัยการเดินทางของแม่น้ำเพื่อเดินทางไปทางเหนือและใต้ ซึ่งส่งผลให้ชายแดนทางใต้ของอียิปต์ได้รับการปกป้องจากการรุกราน และนอกเหนือจากการปกครองในอียิปต์ของชนชาติคุชในระยะเวลาสั้น ๆ แล้ว มันยังคงเป็นพรมแดนตามธรรมชาติสำหรับประวัติศาสตร์อียิปต์ส่วนใหญ่
เอราทอสเทนีสแห่งไซรีเน ได้ให้คำอธิบายที่แม่นยำของแก่งน้ำตกแห่งแม่น้ำไนล์ไว้ว่า
มันมีรูปร่างคล้ายกับตัวอักษร N กลับหลัง โดยแม่น้ำไหลไปทางเหนือจากเมโรวีประมาณ 2,700 สตาเดีย แล้ววกกลับมาทางทิศใต้และพระอาทิตย์ตกในฤดูหนาวประมาณ 3,700 สตาเดีย และเกือบจะถึงแนวขนานเดียวกันกับภูมิภาคเมโรวีและเดินทางไปไกลถึงลิเบีย จากนั้นแม่น้ำจะวกเลี้ยวอีกครั้งและไหลไปทางเหนือ 5,300 สตาเดีย ไปยังที่แก่งน้ำตกใหญ่โค้งไปทางทิศตะวันออกเล็กน้อย จากนั้นอีก 1,200 สตาเดียแม่น้ำไหลไปยังแก่งน้ำตกขนาดเล็กที่ไซยีน (หรือ เมืองอัสวานในปัจจุบัน) และอีก 5,300 สตาเดีย แม่น้ำจะไหลออกสู่ทะเล
แก่งน้ำตกทั้งหกแห่งของแม่น้ำไนล์ได้ถูกบรรยายโดยนักท่องเที่ยวชาวยุโรปจำนวนมาก โดยเฉพาะวินสตัน เชอร์ชิลล์ในหนังสือ (1899) ซึ่งเขาเล่าถึงความพยายามของชาวอังกฤษที่พยายามจะกลับไปยังซูดานระหว่างปี ค.ศ. 1896 ถึง ค.ศ. 1898 หลังจากที่พวกเขาถูกบังคับให้ออกจากซูดานไปในปี ค.ศ. 1885
ระเบียงภาพ
- แก่งน้ำตกแห่งที่หนึ่ง
- แก่งน้ำตกแห่งที่สองในปี ค.ศ.1854 โดย
- แก่งน้ำตกแห่งที่สาม
- แก่งน้ำตกแห่งที่สี่
- แก่งน้ำตกแห่งที่ห้า
- แก่งน้ำตกแห่งที่หกในปี ค.ศ.1908 โดยเซอร์เฮนรี ไรเดอร์ แฮกการ์ด
อ้างอิง
- Thurmond, Allison K.; Stern, Robert J.; Abdelsalam, Mohamed G.; Nielsen, Kent C.; Abdeen, Mamdouh M.; Hinz, Emily (2004). (PDF). Journal of African Earth Sciences. 39 (3–5): 401–407. Bibcode:2004JAfES..39..401T. doi:10.1016/j.jafrearsci.2004.07.027. ISSN 1464-343X. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 25 May 2011. สืบค้นเมื่อ 21 October 2006.
- Warren, John (2006). Evaporites:Sediments, Resources and Hydrocarbons. Berlin: Springer. p. 352. ISBN .
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 17 February 2010. สืบค้นเมื่อ 17 February 2014.
- "Geography". Ancient Egypt 101.
- Strabo (1932). The Geography. Vol. VIII. แปลโดย Jones, H. L. Harvard University Press – โดยทาง Bill Thayer.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
aekngnatkaehngaemnainl phasaxngkvs Cataracts of the Nile epnswnbriewntunhruxaekngnaechiywkhxngaemnainlthixyurahwangemuxngkharthumaelaemuxngxswan sungbriewnaehngnndwyhinkxnelk canwnmakthiophlkhunmacakknaemna tlxdcnmiekaaaeknghincanwnmak inbangaehngkmikraaesnaechiyw aelainkhnathibangaehngkraaesnaihlpktiaetihlphanbriewnthitunekhinaekngnatkthnghkaehngaemnainlaekngnatkthnghkaehngodyerimnbcakdanplayaemnaipyngtnaemnainl cakehnuxlngit in xiyipt aekngnatkaehngthihnung tdphanthiemuxngxswan 24 05 N 32 53 E 24 08 N 32 88 E 24 08 32 88 aekngnatkthihnung aelaedimekhythukeluxkihepnbriewnthitngkhxng sungepnekhuxnaehngaerkthisrangkhamaemnainl in sudan aekngnatkaehngthisxng hruxaekngnatkihy sungxyuinekhtdinaednniwebiyaelainpccubnaekngnatkaehngnicmxyuit 21 29 N 30 58 E 21 48 N 30 97 E 21 48 30 97 aekngnatkihy aekngnatkaehngthisam xyuthi hnenk 19 46 N 30 22 E 19 76 N 30 37 E 19 76 30 37 aekngnatkthisam aekngnatkaehngthisi xyuinbriewn aelainpccubnaekngnatkaehngnikidcmxyuitxangekbnakhxng emuxtngaetpi kh s 2008 18 55 N 32 22 E 18 91 N 32 36 E 18 91 32 36 aekngnatkthisi aekngnatkaehngthiha xyuiklkbcudbrrcbknkhxngaemnainlaela 17 41 N 33 58 E 17 68 N 33 97 E 17 68 33 97 aekngnatkthiha aekngnatkthihk xyuthibriewnaemnainltdphanaehng sungtngxyuiklkbbakrawiyah 16 17 N 32 40 E 16 29 N 32 67 E 16 29 32 67 aekngnatkthihk phumisastrnkthrniwithyaidrabuwa phunthithangtxnehnuxkhxngsudanmikarekhluxntwkhxngepluxkolkaelakarekhluxntwkhxngepluxkolkinbriewnnisngphlihaemnamilksna xxneyaw sungswntwdokhngkhxngaemnainlinniwebiyidepliynesnthangkhxngaemnainlipthangthistawntk inkhnaediywknkthaihradbkhwamlukinaemnatunkhunaelakxihekidaekngnatk thungaemwaphunaemnacasukkrxncakkarkdesaa aetphundinkklbthukyktwkhun thaihswntang khxngphunaemnaepnphinthiolng phumilksnthioddednehlanikhxngaemnainlrahwangemuxngxswanaelaemuxngkharthum sungekidaelaphbidinhlaycud cungeriykknwaaekngnatkaehngaemnainl inkhnathiswnplayaemnabangkhrngcaeriykwa aemnainlxiyipt khwamaetktangthangthrniwithyarahwangsxngswnkhxngaemnanimikhwamsakhymak thangehnuxkhxngemuxngxswan sungmithxngaemnathiimepnhin aetklbetmdwytakxn aelaxyuhangiklcakswnthiaemnatunekhin cungechuxknwa inxdithinbriewndngklawthukkdesaaihmikhwamlukhlayphnfut sungsngphlihekidhubekhakwangihy aelainpccubncungetmipdwytakxnprawtisastrkhawa aekngnatk hrux cataract mirakkhamacakphasakrik katarrew aeplwa ihllng thungaemwakhaphasakrikdngedimcaxyuinrupkhxngphhuphcnethann Katadoypoi xyangirktam inthangtrngknkham aekngnatkhlkthnghkaehngkhxngaemnainlkimsamarthxthibayidxyangthuktxngwaepnaekngnatk aelaihkhacakdkhwamthikwangkhun aekngnatkehlanikechnediywknkbaekngnatkkhnadelk xikhlayaehng insmyobran xanackrxiyiptbnidaephkhyayxanaekhtcakthangitkhxngsamehliympakaemnainlipyngaekngnatkaehngthihnung inkhnathixyudinaednbriewntnaemnathixyuphayitkarpkkhrxngodyxanackrkhuchobran sungtxmacaekhayudkhrxngdinaednxiyiptinchwngtngaet 760 thung 656 pikxnkhristkal nxkcakkarrukranchawkhuchaelw sahrbprawtisastrxiyiptswnihy inaekngnatkaehngaemnainl odyechphaaxyangyingthiaekngnatkaehngthihnung sungswnihythahnathiepnphrmaedntamthrrmchati ephuxpxngknkarkhamekhamacakthangit enuxngcakinphunthidngklawcatxngxasykaredinthangkhxngaemnaephuxedinthangipthangehnuxaelait sungsngphlihchayaednthangitkhxngxiyiptidrbkarpkpxngcakkarrukran aelanxkehnuxcakkarpkkhrxnginxiyiptkhxngchnchatikhuchinrayaewlasn aelw mnyngkhngepnphrmaedntamthrrmchatisahrbprawtisastrxiyiptswnihy exrathxsethnisaehngisrien idihkhaxthibaythiaemnyakhxngaekngnatkaehngaemnainliwwa mnmiruprangkhlaykbtwxksr N klbhlng odyaemnaihlipthangehnuxcakemorwipraman 2 700 staediy aelwwkklbmathangthisitaelaphraxathitytkinvduhnawpraman 3 700 staediy aelaekuxbcathungaenwkhnanediywknkbphumiphakhemorwiaelaedinthangipiklthungliebiy caknnaemnacawkeliywxikkhrngaelaihlipthangehnux 5 300 staediy ipyngthiaekngnatkihyokhngipthangthistawnxxkelknxy caknnxik 1 200 staediyaemnaihlipyngaekngnatkkhnadelkthiisyin hrux emuxngxswaninpccubn aelaxik 5 300 staediy aemnacaihlxxksuthael aekngnatkthnghkaehngkhxngaemnainlidthukbrryayodynkthxngethiywchawyuorpcanwnmak odyechphaawinstn echxrchillinhnngsux 1899 sungekhaelathungkhwamphyayamkhxngchawxngkvsthiphyayamcaklbipyngsudanrahwangpi kh s 1896 thung kh s 1898 hlngcakthiphwkekhathukbngkhbihxxkcaksudanipinpi kh s 1885raebiyngphaphaekngnatkaehngthihnung aekngnatkaehngthisxnginpi kh s 1854 ody aekngnatkaehngthisam aekngnatkaehngthisi aekngnatkaehngthiha aekngnatkaehngthihkinpi kh s 1908 odyesxrehnri iredxr aehkkardxangxingThurmond Allison K Stern Robert J Abdelsalam Mohamed G Nielsen Kent C Abdeen Mamdouh M Hinz Emily 2004 PDF Journal of African Earth Sciences 39 3 5 401 407 Bibcode 2004JAfES 39 401T doi 10 1016 j jafrearsci 2004 07 027 ISSN 1464 343X khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 25 May 2011 subkhnemux 21 October 2006 Warren John 2006 Evaporites Sediments Resources and Hydrocarbons Berlin Springer p 352 ISBN 3 540 26011 0 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 17 February 2010 subkhnemux 17 February 2014 Geography Ancient Egypt 101 Strabo 1932 The Geography Vol VIII aeplody Jones H L Harvard University Press odythang Bill Thayer