การยุบอาราม (อังกฤษ: Dissolution of the Monasteries; Suppression of the Monasteries) เป็นกระบวนการตามกฎหมายและการปกครองในช่วง ค.ศ. 1538 ถึงปี ค.ศ. 1541 โดยพระเจ้าเฮนรีที่ 8 แห่งอังกฤษโปรดให้ยุบอาราม คอนแวนต์ และ ในประเทศอังกฤษ เวลส์ และไอร์แลนด์ ตามอำนาจใน “พระราชบัญญัติอำนาจสูงสุดทางศาสนา” อนุมัติโดยรัฐสภาเมื่อปี ค.ศ. 1534 ซึ่งระบุให้พระเจ้าแผ่นดินอังกฤษเป็น “ประมุขสูงสุดของคริสตจักรในอังกฤษ” (Supreme Head of the Church in England) ซึ่งถือเป็นการแยกตัวออกมาจากคริสตจักรโรมันคาทอลิกอย่างเป็นทางการ และโดย “พระราชบัญญัติปราบปรามฉบับที่ 1 (ค.ศ. 1536)” และ “พระราชบัญญัติปราบปรามฉบับที่ 2 (ค.ศ. 1539)”
การยุบอารามในอังกฤษเป็นเหตุการณ์ทางการเมืองหนึ่งเพื่อต่อต้านคริสตจักรโรมันคาทอลิกซึ่งเริ่มคุกรุ่นอยู่ในทวีปยุโรปขณะนั้น ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปศาสนาฝ่ายโปรเตสแตนต์จาก แต่เหตุผลการแยกตัวจากนิกายโรมันคาทอลิกของอังกฤษมิใช่ข้อขัดแย้งทางปรัชญาทางศาสนาดังเช่นในประเทศอื่นๆ เช่น ประเทศเยอรมนี ประเทศฝรั่งเศส หรือ โบฮีเมีย แต่เป็นเหตุผลส่วนพระองค์ของพระเจ้าเฮนรีที่ 8
การยุบอาราม
อารามที่ทรงยุบหลายแห่งก่อตั้งมาตั้งแต่สมัยแองโกล-แซกซัน แต่ส่วนใหญ่ในบรรดาอารามที่ถูกยุบจำนวน 825 แห่งเป็นอารามที่ก่อตั้งในระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 11 ถึงคริสต์ศตวรรษที่ 12 ในช่วงที่การก่อตั้งเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย ซึ่งทำให้อารามในคริสต์ศตวรรษที่ 16 มีอำนาจควบคุมการแต่งตั้งนักบวชท้องถิ่นราวหนึ่งในสามของอังกฤษและมีรายได้ราวครึ่งหนึ่งของรายได้ทั้งหมดทางศาสนา การยุบอารามจึงเป็นการยึดอสังหาริมทรัพย์โดยกฎหมายครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่การพิชิตอังกฤษของชาวนอร์มันในคริสต์ศตวรรษที่ 11 ของพระเจ้าวิลเลียมที่ 1
การเปลี่ยนแปลงทางศาสนาบนแผ่นดินใหญ่ยุโรปนอกจากจะมีผลในการทำลายสิ่งก่อสร้างทางศาสนาแล้วก็เกิดจากความไม่พึงพอใจของชนหมู่มากและนักบวชที่มีตำแหน่งต่ำต่ออำนาจและความมั่งคั่งของสถาบันคริสต์ศาสนา ในอังกฤษการปฏิรูปทางศาสนาในระยะแรกมาจากบุคคลผู้มีอำนาจสูงสุดในสังคมและค่อยเผยแพร่ลงมายังหมู่ชนต่างจนกลายเป็นการต่อต้านโดยทั่วไป
การยุบอารามมีผลทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในทางพิธีกรรมทางศาสนาในวัดในอังกฤษ แต่การเปลี่ยนแปลงของคริสต์ทศวรรษ 1530 มีข้อที่คล้ายคลึงกับบทบัญญัติสิบข้อของนักปฏิรูปโปรเตสแตนต์ที่พิมพ์ในปี ค.ศ. 1530 โดย (Thomas Cranmer) เพียงไม่กี่ข้อและเมื่อเริ่มเกิดขึ้นก็ได้รับการต่อต้านอย่างรุนแรง บทบัญญัติสิบข้อถูกยุบเลิกไปเมื่อพระเจ้าเฮนรีที่ 8 ทรงพอพระทัยที่จะดำเนินตามระบบอนุรักษนิยมของบทบัญญัติหกข้อของปี ค.ศ. 1539 โดยนักเทววิทยาศาสนาคริสต์ชาวเยอรมัน ซึ่งเป็นกฎที่ใช้กันต่อมาจนสิ้นรัชสมัยของพระองค์
อ้างอิง
- Catholic Encyclopedia. Monasticism. [1]
ข้อมูลเพิ่มเติม
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
karyubxaram xngkvs Dissolution of the Monasteries Suppression of the Monasteries epnkrabwnkartamkdhmayaelakarpkkhrxnginchwng kh s 1538 thungpi kh s 1541 odyphraecaehnrithi 8 aehngxngkvsoprdihyubxaram khxnaewnt aela inpraethsxngkvs ewls aelaixraelnd tamxanacin phrarachbyytixanacsungsudthangsasna xnumtiodyrthsphaemuxpi kh s 1534 sungrabuihphraecaaephndinxngkvsepn pramukhsungsudkhxngkhristckrinxngkvs Supreme Head of the Church in England sungthuxepnkaraeyktwxxkmacakkhristckrormnkhathxlikxyangepnthangkar aelaody phrarachbyytiprabpramchbbthi 1 kh s 1536 aela phrarachbyytiprabpramchbbthi 2 kh s 1539 xdit karyubxaraminxngkvsepnehtukarnthangkaremuxnghnungephuxtxtankhristckrormnkhathxliksungerimkhukrunxyuinthwipyuorpkhnann swnihyekiywkhxngkbkarptirupsasnafayopretsaetntcak aetehtuphlkaraeyktwcaknikayormnkhathxlikkhxngxngkvsmiichkhxkhdaeyngthangprchyathangsasnadngechninpraethsxun echn praethseyxrmni praethsfrngess hrux obhiemiy aetepnehtuphlswnphraxngkhkhxngphraecaehnrithi 8karyubxaramxaramthithrngyubhlayaehngkxtngmatngaetsmyaexngokl aesksn aetswnihyinbrrdaxaramthithukyubcanwn 825 aehngepnxaramthikxtnginrahwangkhriststwrrsthi 11 thungkhriststwrrsthi 12 inchwngthikarkxtngepnthiniymknxyangaephrhlay sungthaihxaraminkhriststwrrsthi 16 mixanackhwbkhumkaraetngtngnkbwchthxngthinrawhnunginsamkhxngxngkvsaelamirayidrawkhrunghnungkhxngrayidthnghmdthangsasna karyubxaramcungepnkaryudxsngharimthrphyodykdhmaykhrngihythisudtngaetkarphichitxngkvskhxngchawnxrmninkhriststwrrsthi 11 khxngphraecawileliymthi 1 karepliynaeplngthangsasnabnaephndinihyyuorpnxkcakcamiphlinkarthalaysingkxsrangthangsasnaaelwkekidcakkhwamimphungphxickhxngchnhmumakaelankbwchthimitaaehnngtatxxanacaelakhwammngkhngkhxngsthabnkhristsasna inxngkvskarptirupthangsasnainrayaaerkmacakbukhkhlphumixanacsungsudinsngkhmaelakhxyephyaephrlngmaynghmuchntangcnklayepnkartxtanodythwip karyubxarammiphlthaihekidkhwamepliynaeplnginthangphithikrrmthangsasnainwdinxngkvs aetkarepliynaeplngkhxngkhristthswrrs 1530 mikhxthikhlaykhlungkbbthbyytisibkhxkhxngnkptirupopretsaetntthiphimphinpi kh s 1530 ody Thomas Cranmer ephiyngimkikhxaelaemuxerimekidkhunkidrbkartxtanxyangrunaerng bthbyytisibkhxthukyubelikipemuxphraecaehnrithi 8 thrngphxphrathythicadaenintamrabbxnurksniymkhxngbthbyytihkkhxkhxngpi kh s 1539 odynkethwwithyasasnakhristchaweyxrmn sungepnkdthiichkntxmacnsinrchsmykhxngphraxngkhxangxingCatholic Encyclopedia Monasticism 1 khxmulephimetimphraecaehnrithi 8 aehngxngkvs aexngklikhn khristckraehngxngkvsbthkhwamprawtisastrniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldkhk