ศาสนาคริสต์เกิดขึ้นบริเวณดินแดนเลแวนต์ ซึ่งปัจจุบันคือประเทศอิสราเอลและปาเลสไตน์ ในช่วงกลางคริสศตวรรษที่ 1 ศาสนาคริสต์ได้เริ่มเผยแผ่ครั้งแรกจากกรุงเยรูซาเลม ตลอดจนดินแดนตะวันออกกลาง เช่น ประเทศซีเรีย อัสซีเรีย เมโสโปเตเมีย ฟินิเชีย อานาโตเลีย ประเทศจอร์แดน และประเทศอียิปต์ ในช่วงคริสศตวรรษที่ 4 ศาสนาคริสต์ได้รับเลือกให้เป็นศาสนาประจำชาติโดยในปี ค.ศ. 301 จอร์เจียในปี ค.ศ.319อาณาจักรอักซุมในปี ค.ศ.325 และจักรวรรดิโรมันในปี ค.ศ.380
ต่อมาได้เกิดศาสนเภทขึ้นหลายครั้งในคริสตจักร เริ่มจากในปี ค.ศ.431 ที่นำไปสู่จนก่อให้เกิด ต่อมาในปี ค.ศ. 451 เกิดทำให้คริสตจักรแตกแยกอีกครั้งเป็นฝ่ายออเรียนทัลออร์ทอดอกซ์และฝ่าย ต่อมาเกิดมหาศาสนเภทในปี ค.ศ. 1054 ทำให้ฝ่ายแคลซีโดเนียนแตกออกเป็นคริสตจักรโรมันคาทอลิกและคริสตจักรอีสเทิร์นออร์ทอดอกซ์ และการปฏิรูปศาสนาฝ่ายโปรเตสแตนต์ได้ก่อให้เกิดคริสตจักรใหม่ ๆ ขึ้นอีกหลายคณะ
โรมันคาทอลิกและอีสเทิร์นออร์ทอดอกซ์ได้แพร่หลายทั่วยุโรปในสมัยกลาง ศาสนาคริสต์ขยายตัวทั่วโลกในยุคแห่งการสำรวจยุโรป จากยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาเป็นต้นไป กลายเป็นศาสนาที่มีผู้นับถือมากที่สุดในโลก
ก่อนคริสตกาล
ศาสนาคริสต์เป็นศาสนาที่มีผู้นับถือมากที่สุดศาสนาหนึ่ง เป็นศาสนาประเภทเอกเทวนิยม ซึ่งนับถือพระยาห์เวห์เป็นพระเจ้าพระองค์เดียว คำว่า "พระคริสต์" มาจากภาษากรีกว่า "คริสตอส" แปลว่า ผู้ได้รับเจิม (ให้เป็นตัวแทนของพระเจ้า) ศาสนาคริสต์เป็นศาสนาที่เน้นการมอบความรักที่บริสุทธิ์ให้พระเจ้าและให้มนุษย์ด้วยกัน เพราะหลักการของศาสนาคริสต์ถือว่ามนุษย์ทุกคนเป็นบุตรของพระเจ้า
ศาสนาคริสต์เป็นศาสนาที่พัฒนาหรือปฏิรูปมาจากศาสนายูดาห์ ซึ่งมีประวัติศาสตร์มาตั้งแต่ประมาณ 2,000 ปี ก่อนคริสตกาล ชนเผ่าหนึ่งเป็นบรรพบุรุษของชาวยิว ตั้งถิ่นฐานอยู่ ณ ดินแดนเมโสโปเตเมีย มีหัวหน้าเผ่าชื่อ "อับราฮัม" (อับราฮัม เป็นศาสดาของศาสนายูดาห์) ได้อ้างตนว่า ได้รับโองการจากพระเจ้าให้อพยพชนเผ่าไปอยู่ในดินแดนที่เรียกว่า แผ่นดินคานาอัน (บริเวณประเทศอิสราเอลในปัจจุบัน) โดยอับราฮัมกล่าวว่า พระเจ้ากำหนดและสัญญาให้ชนเผ่านี้เป็นชนชาติที่ยิ่งใหญ่ต่อไป การที่พระเจ้าสัญญาจึงก่อให้เกิดพันธสัญญาระหว่างพระเจ้ากับชนชาวยิว ดังนั้นในเวลาต่อมาจึงเรียกคัมภีร์ของศาสนายูดาห์และศาสนาคริสต์ว่า "พันธสัญญา"
ต่อมาดินแดนคานาอัน ประสบความแห้งแล้งอย่างรุนแรง ชาวยิวจึงอพยพกลับไปอยู่ในดินแดนของประเทศอียิปต์ และกลายเป็นทาสของอียิปต์ ชาวยิวทนความลำบากของสภาพทาสไม่ได้ จึงคิดอพยพกลับไปดินแดนคานาอัน การเดินทางครั้งนี้พระเจ้าทรงมีโองการให้ชาวยิวคนหนึ่งชื่อ "โมเสส" เป็นหัวหน้า ระหว่างเดินทางเต็มไปด้วยความลำบาก และต้องรอนแรมกลางทะเลทรายหลายปี และชาวอียิปต์ได้ส่งทหารติดตามกวาดล้าง โดยคิดว่าชาวยิวจะก่อกบฏ เมื่อไล่ติดตามมาถึงทะเลแดง ด้วยเดชแห่งอำนาจของพระเจ้า โมเสสได้แยกน้ำออกจากกันทำให้ชาวยิวหนีรอดมาได้ เหตุการณ์สำคัญนี้ ต่อมาได้กลายเป็นเหตุการณ์สำคัญในงานฉลองประจำปีเรียกว่า งานฉลองปัสคา นอกจากนี้ พระเจ้าได้ประทานบัญญัติ 10 ประการแก่โมเสส เพื่อให้ชาวยิวนำไปยึดถือปฏิบัติ บัญญัติ 10 ประการนี้ ถือเป็นหลักสำคัญของศาสนายูดาห์ และต่อมาถือเป็นหลักสำคัญของศาสนาคริสต์ด้วย โมเสสได้รับการยกย่องให้เป็นศาสดาของศาสนายูดาห์
ชาวยิวได้ตั้งอาณาจักรคานาอัน ต่อมาอาณาจักรนี้ได้ตกเป็นเมืองขึ้นของอาณาจักรบาบิโลน และเป็นเมืองขึ้นของจักรวรรดิโรมันตามลำดับ ชาวยิวยังคงได้รับการกดขี่ข่มเหงจากจักรวรรดิโรมัน เราจะเห็นว่า ประวัติศาสตร์ของชาวยิว เป็นประวัติศาสตร์แห่งความทุกข์ยากอย่างแสนสาหัส ชาวยิวจึงมีความเชื่อในคำทำนายของศาสดาพยากรณ์ว่า วันหนึ่งพระเจ้าจะส่งคนลงมาช่วยเพื่อปลดเปลื้องความทุกข์ยากทั้งหมดของชาวยิว หรือช่วยไถ่บาปให้กับชาวยิว เรียกบุคคลนี้ว่า "พระเมสสิยาห์" (Messiah) คำว่า เมสสิยาห์ เป็นภาษาฮีบรู ตรงกับคำว่า คริสต์ (Christ) หรือ ไครสต์ ในภาษากรีก ซึ่งแปลว่า ผู้ได้รับเลือก ให้เป็นตัวแทนของพระเจ้า ความเชื่อดังกล่าวทำให้ชาวยิวมีความหวังในชีวิตเมื่อ พระเยซูประสูติ ชาวยิวจำนวนหนึ่งจึงมีความเชื่อว่า พระเยซู คือ พระเมสสิยาห์ (Jesus Christ = จีซัส หรือ เยซู ผู้ได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนของพระเจ้า)
คริสตกาล
พระเยซูเป็นชาวยิว คริสต์ศาสนาถือโดยสมมติว่าวันประสูติของพระองค์คือวันที่ 25 ธันวาคม ค.ศ. 1 (ซึ่งถือเอาวันประสูติเป็นปีที่ 1 แห่งคริสต์ศักราช ซึ่งตรงกับพุทธศักราช 543) ณ หมู่บ้านเบธเลเฮม แคว้นยูดาห์ ในดินแดนปาเลสไตน์ (ประเทศอิสราเอลในปัจจุบัน) มารดาชื่อมารีย์ ชาวคริสต์เชื่อว่านางตั้งครรภ์โดยเดชแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ทั้งที่เป็นหญิงพรหมจารี มีบิดาเลี้ยงชื่อโยเซฟ สมัยนั้นกษัตริย์ผู้ครองเมืองคือพระเจ้าเฮโรดมหาราช เมื่อได้ยินคำพยากรณ์ว่าจะมีผู้มีบุญมาเกิดจึงคิดกำจัด โยเซฟและมารีย์จึงหนีไปอยู่อียิปต์เป็นการชั่วคราว เมื่อเรื่องราวสงบแล้วก็อพยพกลับถิ่นฐานเดิม พระเยซูเติบโตขึ้นที่หมู่บ้านเล็ก ๆ ในเมืองนาซาเรธ แคว้นกาลิลี เมื่อวัยเยาว์พระเยซูเป็นผู้สนใจในเรื่องศาสนธรรมและเป็นผู้มีความเฉลียวฉลาดเป็นอย่างยิ่ง เมื่อมีอายุครบ 30 ปี ได้ท่องเทียวไปในดินแดนปาเลสไตน์ ณ ริมแม่น้ำจอร์แดน ทรงพบกับยอห์นผู้ให้บัพติศมา หลังที่ได้รับบัพติศมาแล้ว ได้เสด็จไปถิ่นกันดารเพียงพระองค์เดียว ทรงถือศีลอดโดยงดเว้นพระกระยาหารเป็นเวลา 40 วัน จากนั้นพระองค์ก็เริ่มสอนประชาชนให้ทราบถึงความรอดของมนุษย์ ซึ่งเป็นของประทานจากพระเจ้า พระองค์มีอัครสาวกที่สำคัญ 12 คน (เนื่องจากวงศ์วานอิสราเอลมี 12 เผ่า) เรียกว่าอัครทูต สาวกคนแรกที่เป็นกำลังสำคัญในการเผยแพร่ศาสนาคือซีโมนเปโตร นักบุญอีกท่านหนึ่งที่มีบทบาทในการเผยแพร่ศาสนาคริสต์คือเปาโลอัครทูต ซึ่งกลับใจจากผู้เบียดเบียนคริสตชน มาเป็นผู้เผยแพร่ศาสนาคริสต์มาตั้งแต่ปีแรก ๆ ที่พระเยซูสิ้นพระชนม์
การขยายตัวอย่างรวดเร็วของศาสนาคริสต์ได้สร้างความหวั่นไหวและส่งผลสะเทือนต่อศาสนายิวเป็นอย่างยิ่ง ปุโรหิตผู้ดูแลวิหารเสียผลประโยชน์ เกรงว่าพระเยซูจะแย่งสาวกของตนไป เพราะคำสอนของศาสนาคริสต์ เน้นเรื่องจริยธรรมศีลธรรมมากกว่าพิธีกรรม ซึ่งพิธีกรรมของศาสนายิว ได้แก่ การบูชาพระเจ้าด้วยเครื่องเผาบูชา เช่น เนื้อวัว แพะ แกะ นกพิราบ นกเขา ฯลฯ เป็นต้น ในที่สุดผู้ปกครองชาวโรมันก็ทำการตรึงพระเยซูที่กางเขน เพราะเกรงว่าชาวยิวที่คัดค้านพระเยซูจะไม่พอใจ ชาวคริสต์ถือว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นการแสดงความรักจากพระเยซู เพราะพระเจ้าทรงรักโลก จึงประทานพระบุตร มาไถ่บาปของมนุษย์ด้วยการสละชีวิตพระบุตรของพระองค์เอง พระเยซูสิ้นพระชนม์ที่เมืองกลโกธา (Golgotha) เมื่อพระชนม์ได้ 33 พรรษา ใช้เวลาในการประกาศศาสนาทั้งสิ้น 3 ปี
หลังจากการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูแล้ว ศาสนาคริสต์ได้กลายเป็นศาสนาประจำชาติของจักรวรรดิโรมัน ในปลายศตวรรษที่ 1 และปลายศตวรรษที่ 4 จากนั้นได้แพร่กระจายเป็นศาสนาประจำชาติของหลายประเทศในทวีปยุโรป
ยุคแรก (ค.ศ.33-325)
ปลายยุคแรก (ค.ศ.320–478)
สมัยกลาง
ต้นสมัยกลาง (ค.ศ.500-780)
ปลายสมัยกลาง (ค.ศ.800–1299)
สงครามครูเสด (ค.ศ.1012–1299)
ปลายสมัยกลางและยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา (ค.ศ.1300–1520)
การปฏิรูปและการปฏิรูปคริสตจักรโรมันคาทอลิก (ค.ศ.1561–1648)
ยุคการจัดตั้งคริสตจักรและการประกาศข่าวประเสริฐ (ค.ศ.1610–1800)
ยุคต้นร่วมสมัย (ค.ศ.1720–1850)
ยุคปลายร่วมสมัย (ค.ศ.1848–ปัจจุบัน)
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
- The Church Triumphant: A History of Christianity Up to 1300, E. Glenn Hinson, p 223
- Georgian Reader, George Hewitt, p. xii
- Ethiopia, the Unknown Land: A Cultural and Historical Guide, by Stuart Munro-Hay, p. 234
- Prayers from the East: Traditions of Eastern Christianity, Richard Marsh, p. 3
- Adherents.com, Religions by Adherents 2008-06-15 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- BBC Documentary: A History of Christianity by Diarmaid MacCulloch, Oxford University
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
sasnakhristekidkhunbriewndinaednelaewnt sungpccubnkhuxpraethsxisraexlaelapaelsitn inchwngklangkhrisstwrrsthi 1 sasnakhristiderimephyaephkhrngaerkcakkrungeyrusaelm tlxdcndinaedntawnxxkklang echn praethssieriy xssieriy emosopetemiy finiechiy xanaoteliy praethscxraedn aelapraethsxiyipt inchwngkhrisstwrrsthi 4 sasnakhristidrbeluxkihepnsasnapracachatiodyinpi kh s 301 cxreciyinpi kh s 319xanackrxksuminpi kh s 325 aelackrwrrdiormninpi kh s 380 odmthxngaehngeyrusaelm pccubnepnmsyid xditepnthitngphrawiharskdisiththikhxngsasnayudah epncuderimtnkhxngsasnakhristaelaepnsasnsthanthisakhyinklumsasnaxbrahm sungtngxyubnekhaphrawihar Temple Mount inkrung phaphthaycakfngtawnxxkechiyngit phaphaesdngkarephyaephsasnakhristbriewnemdietxrereniynaelayuorpit pi kh s 325 pi kh s 600 txmaidekidsasnephthkhunhlaykhrnginkhristckr erimcakinpi kh s 431 thinaipsucnkxihekid txmainpi kh s 451 ekidthaihkhristckraetkaeykxikkhrngepnfayxxeriynthlxxrthxdxksaelafay txmaekidmhasasnephthinpi kh s 1054 thaihfayaekhlsiodeniynaetkxxkepnkhristckrormnkhathxlikaelakhristckrxisethirnxxrthxdxks aelakarptirupsasnafayopretsaetntidkxihekidkhristckrihm khunxikhlaykhna ormnkhathxlikaelaxisethirnxxrthxdxksidaephrhlaythwyuorpinsmyklang sasnakhristkhyaytwthwolkinyukhaehngkarsarwcyuorp cakyukhfunfusilpwithyaepntnip klayepnsasnathimiphunbthuxmakthisudinolkkxnkhristkalsasnakhristepnsasnathimiphunbthuxmakthisudsasnahnung epnsasnapraephthexkethwniym sungnbthuxphrayahewhepnphraecaphraxngkhediyw khawa phrakhrist macakphasakrikwa khristxs aeplwa phuidrbecim ihepntwaethnkhxngphraeca sasnakhristepnsasnathiennkarmxbkhwamrkthibrisuththiihphraecaaelaihmnusydwykn ephraahlkkarkhxngsasnakhristthuxwamnusythukkhnepnbutrkhxngphraeca sasnakhristepnsasnathiphthnahruxptirupmacaksasnayudah sungmiprawtisastrmatngaetpraman 2 000 pi kxnkhristkal chnephahnungepnbrrphburuskhxngchawyiw tngthinthanxyu n dinaednemosopetemiy mihwhnaephachux xbrahm xbrahm epnsasdakhxngsasnayudah idxangtnwa idrboxngkarcakphraecaihxphyphchnephaipxyuindinaednthieriykwa aephndinkhanaxn briewnpraethsxisraexlinpccubn odyxbrahmklawwa phraecakahndaelasyyaihchnephaniepnchnchatithiyingihytxip karthiphraecasyyacungkxihekidphnthsyyarahwangphraecakbchnchawyiw dngnninewlatxmacungeriykkhmphirkhxngsasnayudahaelasasnakhristwa phnthsyya txmadinaednkhanaxn prasbkhwamaehngaelngxyangrunaerng chawyiwcungxphyphklbipxyuindinaednkhxngpraethsxiyipt aelaklayepnthaskhxngxiyipt chawyiwthnkhwamlabakkhxngsphaphthasimid cungkhidxphyphklbipdinaednkhanaxn karedinthangkhrngniphraecathrngmioxngkarihchawyiwkhnhnungchux omess epnhwhna rahwangedinthangetmipdwykhwamlabak aelatxngrxnaermklangthaelthrayhlaypi aelachawxiyiptidsngthhartidtamkwadlang odykhidwachawyiwcakxkbt emuxiltidtammathungthaelaedng dwyedchaehngxanackhxngphraeca omessidaeyknaxxkcakknthaihchawyiwhnirxdmaid ehtukarnsakhyni txmaidklayepnehtukarnsakhyinnganchlxngpracapieriykwa nganchlxngpskha nxkcakni phraecaidprathanbyyti 10 prakaraekomess ephuxihchawyiwnaipyudthuxptibti byyti 10 prakarni thuxepnhlksakhykhxngsasnayudah aelatxmathuxepnhlksakhykhxngsasnakhristdwy omessidrbkarykyxngihepnsasdakhxngsasnayudah chawyiwidtngxanackrkhanaxn txmaxanackrniidtkepnemuxngkhunkhxngxanackrbabioln aelaepnemuxngkhunkhxngckrwrrdiormntamladb chawyiwyngkhngidrbkarkdkhikhmehngcakckrwrrdiormn eracaehnwa prawtisastrkhxngchawyiw epnprawtisastraehngkhwamthukkhyakxyangaesnsahs chawyiwcungmikhwamechuxinkhathanaykhxngsasdaphyakrnwa wnhnungphraecacasngkhnlngmachwyephuxpldepluxngkhwamthukkhyakthnghmdkhxngchawyiw hruxchwyithbapihkbchawyiw eriykbukhkhlniwa phraemssiyah Messiah khawa emssiyah epnphasahibru trngkbkhawa khrist Christ hrux ikhrst inphasakrik sungaeplwa phuidrbeluxk ihepntwaethnkhxngphraeca khwamechuxdngklawthaihchawyiwmikhwamhwnginchiwitemux phraeysuprasuti chawyiwcanwnhnungcungmikhwamechuxwa phraeysu khux phraemssiyah Jesus Christ ciss hrux eysu phuidrbeluxkihepntwaethnkhxngphraeca khristkalphraeysuepnchawyiw khristsasnathuxodysmmtiwawnprasutikhxngphraxngkhkhuxwnthi 25 thnwakhm kh s 1 sungthuxexawnprasutiepnpithi 1 aehngkhristskrach sungtrngkbphuththskrach 543 n hmubanebthelehm aekhwnyudah indinaednpaelsitn praethsxisraexlinpccubn mardachuxmariy chawkhristechuxwanangtngkhrrphodyedchaehngphrawiyyanbrisuththithngthiepnhyingphrhmcari mibidaeliyngchuxoyesf smynnkstriyphukhrxngemuxngkhuxphraecaehordmharach emuxidyinkhaphyakrnwacamiphumibuymaekidcungkhidkacd oyesfaelamariycunghniipxyuxiyiptepnkarchwkhraw emuxeruxngrawsngbaelwkxphyphklbthinthanedim phraeysuetibotkhunthihmubanelk inemuxngnasaerth aekhwnkalili emuxwyeyawphraeysuepnphusnicineruxngsasnthrrmaelaepnphumikhwamechliywchladepnxyangying emuxmixayukhrb 30 pi idthxngethiywipindinaednpaelsitn n rimaemnacxraedn thrngphbkbyxhnphuihbphtisma hlngthiidrbbphtismaaelw idesdcipthinkndarephiyngphraxngkhediyw thrngthuxsilxdodyngdewnphrakrayaharepnewla 40 wn caknnphraxngkhkerimsxnprachachnihthrabthungkhwamrxdkhxngmnusy sungepnkhxngprathancakphraeca phraxngkhmixkhrsawkthisakhy 12 khn enuxngcakwngswanxisraexlmi 12 epha eriykwaxkhrthut sawkkhnaerkthiepnkalngsakhyinkarephyaephrsasnakhuxsiomnepotr nkbuyxikthanhnungthimibthbathinkarephyaephrsasnakhristkhuxepaolxkhrthut sungklbiccakphuebiydebiynkhristchn maepnphuephyaephrsasnakhristmatngaetpiaerk thiphraeysusinphrachnm karkhyaytwxyangrwderwkhxngsasnakhristidsrangkhwamhwnihwaelasngphlsaethuxntxsasnayiwepnxyangying puorhitphuduaelwiharesiyphlpraoychn ekrngwaphraeysucaaeyngsawkkhxngtnip ephraakhasxnkhxngsasnakhrist enneruxngcriythrrmsilthrrmmakkwaphithikrrm sungphithikrrmkhxngsasnayiw idaek karbuchaphraecadwyekhruxngephabucha echn enuxww aepha aeka nkphirab nkekha l epntn inthisudphupkkhrxngchawormnkthakartrungphraeysuthikangekhn ephraaekrngwachawyiwthikhdkhanphraeysucaimphxic chawkhristthuxwaehtukarnkhrngniepnkaraesdngkhwamrkcakphraeysu ephraaphraecathrngrkolk cungprathanphrabutr maithbapkhxngmnusydwykarslachiwitphrabutrkhxngphraxngkhexng phraeysusinphrachnmthiemuxngkloktha Golgotha emuxphrachnmid 33 phrrsa ichewlainkarprakassasnathngsin 3 pi hlngcakkarsinphrachnmkhxngphraeysuaelw sasnakhristidklayepnsasnapracachatikhxngckrwrrdiormn inplaystwrrsthi 1 aelaplaystwrrsthi 4 caknnidaephrkracayepnsasnapracachatikhxnghlaypraethsinthwipyuorpyukhaerk kh s 33 325 playyukhaerk kh s 320 478 smyklangtnsmyklang kh s 500 780 playsmyklang kh s 800 1299 sngkhramkhruesd kh s 1012 1299 playsmyklangaelayukhfunfusilpwithya kh s 1300 1520 karptirupaelakarptirupkhristckrormnkhathxlik kh s 1561 1648 yukhkarcdtngkhristckraelakarprakaskhawpraesrith kh s 1610 1800 yukhtnrwmsmy kh s 1720 1850 yukhplayrwmsmy kh s 1848 pccubn duephimsasnakhristinpraethsithy khasphthsasnakhristxangxingThe Church Triumphant A History of Christianity Up to 1300 E Glenn Hinson p 223 Georgian Reader George Hewitt p xii Ethiopia the Unknown Land A Cultural and Historical Guide by Stuart Munro Hay p 234 Prayers from the East Traditions of Eastern Christianity Richard Marsh p 3 Adherents com Religions by Adherents 2008 06 15 thi ewyaebkaemchchin BBC Documentary A History of Christianity by Diarmaid MacCulloch Oxford University