พระเจ้าอาร์เทอร์ (อังกฤษ: King Arthur) เป็นกษัตริย์อังกฤษผู้มีชื่อเสียงโด่งดังในตำนานเล่าขานในฐานะวีรบุรุษในยุคกลาง ซึ่งได้ปกป้องเกาะบริเตนจากการรุกรานของชาวแซกซันในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 5 ถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 6 รายละเอียดส่วนใหญ่เกี่ยวกับพระเจ้าอาร์เทอร์ปรากฏอยู่ในเรื่องเล่าขาน ตำนานพื้นบ้าน และวรรณกรรมที่แต่งขึ้น นักประวัติศาสตร์ยังคงถกเถียงกันอยู่ว่าพระเจ้าอาร์เทอร์มีตัวตนอยู่ในประวัติศาสตร์จริงหรือไม่ เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับอาร์เทอร์ค่อนข้างกระจัดกระจายอยู่ตามแหล่งข้อมูลต่าง ๆ เช่น Annales Cambriae, Historia Brittonum และในบันทึกของ นอกจากนี้ชื่อของ อาร์เทอร์ ยังปรากฏอยู่ในบทกวีเก่าแก่หลายแห่ง เช่นในกวีนิพนธ์ Y Gododdin เป็นต้น
พระเจ้าอาร์เทอร์ในตำนานได้พัฒนาขึ้นจนกลายเป็นบุคคลที่น่าสนใจในระดับนานาชาติก็ด้วยผลงานเขียนอันเปี่ยมด้วยจินตนาการและความเหนือจริงของเจฟฟรีย์แห่งมอนมัท ในคริสต์ศตวรรษที่ 12 เรื่อง Historia Regum Britanniae (ประวัติกษัตริย์แห่งบริเตน) แต่ก็มีนิทานและกวีนิพนธ์ของเวลส์และไบรตันหลายเรื่องที่เกี่ยวข้องกับพระเจ้าอาร์เทอร์ และมีอายุเก่าแก่กว่างานชิ้นดังกล่าว ในงานเหล่านั้น อาร์เทอร์เป็นทั้งนักรบผู้ยิ่งใหญ่ผู้ปกป้องบริเตนไว้จากศัตรูทั้งที่เป็นมนุษย์และสิ่งเหนือมนุษย์ บางครั้งก็เป็นผู้วิเศษในตำนานพื้นบ้าน ทั้งมีเรื่องเล่าถึงโลกหลังความตายในตำนานเวลส์ (คือ Annwn) ด้วย แต่ไม่อาจสรุปได้ว่าผลงานของเจฟฟรีย์ (ซึ่งเขียนเสร็จในปี ค.ศ. 1138) ได้ดัดแปลงมาจากตำนานเก่าแก่ดั้งเดิมเหล่านั้นมากน้อยเพียงใด
ทั้งโครงเรื่อง เหตุการณ์ และบุคลิกของพระเจ้าอาร์เทอร์ รวมถึงบุคคลต่าง ๆ ในตำนานอาร์เทอร์ ได้เปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ ในวรรณกรรมของแต่ละยุคโดยที่ไม่มีเรื่องใดสอดคล้องต้องกันอย่างสมบูรณ์ แต่งานเขียนฉบับของเจฟฟรีย์ถือได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของวิวัฒนาการของตำนานในยุคต่อ ๆ มา เจฟฟรีย์พรรณนาภาพของอาร์เทอร์เป็นกษัตริย์แห่งบริเตนผู้ต่อสู้ต้านทานการรุกรานของพวกแซกซัน และก่อร่างสร้างอาณาจักรแห่งบริเตน ไอร์แลนด์ ไอซ์แลนด์ นอร์เวย์ และกอล องค์ประกอบต่าง ๆ จนแม้เหตุการณ์ที่ปรากฏอยู่ในวรรณกรรมเกี่ยวกับอาร์เทอร์ในชั้นหลังล้วนเคยปรากฏอยู่ใน Historia ของเจฟฟรีย์มาก่อนทั้งนั้น เช่น ยูเทอร์ เพนแดรกอน ผู้เป็นบิดาของอาร์เทอร์ พ่อมดเมอร์ลิน ดาบเอกซ์แคลิเบอร์ กำเนิดของอาร์เทอร์ที่ทินแทเจล การรบครั้งสุดท้ายกับมอร์เดร็ดที่คัมลานน์ รวมถึงการผ่อนพักในบั้นปลายที่แอวาลอน นักเขียนชาวฝรั่งเศสในยุคคริสต์ศตวรรษที่ 12 ชื่อ เครเตียง เดอ ทรัว เป็นผู้เพิ่มบทบาทของแลนเซอล็อตและจอกศักดิ์สิทธิ์เข้าไปในตำนาน และริเริ่มเรื่องราวเชิงโรแมนซ์ของอาร์เทอร์ซึ่งต่อมากลายเป็นแก่นของวรรณกรรมในยุคกลาง ในงานเขียนภาษาฝรั่งเศสชุดนี้ จุดหลักของเรื่องมักจะเคลื่อนไปจากตัวอาร์เทอร์ ไปยังตัวละครอื่น ๆ ในเรื่อง เช่นบรรดาอัศวินโต๊ะกลมทั้งหลาย เป็นต้น วรรณกรรมเกี่ยวกับอาร์เทอร์เป็นที่นิยมมาตลอดยุคกลาง และค่อย ๆ เสื่อมความนิยมลงไปเมื่อผ่านไปหลายศตวรรษ วรรณกรรมอาร์เทอร์ได้รับความนิยมกลับคืนมาอีกครั้งเมื่อเข้าสู่คริสต์ศตวรรษที่ 19 และยืนยงอยู่มาตลอดจนถึงศตวรรษที่ 21 ได้รับการดัดแปลงไปยังสื่อต่าง ๆ ทั้งในส่วนของงานวรรณกรรมเอง หรือดัดแปลงไปเป็นภาพยนตร์ ละครโทรทัศน์ ละครวิทยุ การ์ตูน และสื่ออื่น ๆ อีกมากมาย
ข้อเท็จจริงในประวัติศาสตร์
ภูมิหลังที่แท้จริงทางประวัติศาสตร์ของตำนานพระเจ้าอาร์เทอร์เป็นที่ถกเถียงในหมู่นักวิชาการมาเป็นเวลานานแล้ว แนวคิดหนึ่งซึ่งอ้างอิงตาม Historia Brittonum (ประวัติศาสตร์แห่งบริเตน) และ Annales Cambriae (พงศาวดารเวลส์) เชื่อว่าอาร์เทอร์เป็นบุคคลที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ โดยเป็นหัวหน้านักรบในยุค ซึ่งนำการรบป้องกันการรุกรานของชาวแองโกล-แซกซัน ในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งระหว่างปลายคริสต์ศตวรรษที่ 5 ถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 6 ใน Historia Brittonum มีเนื้อความที่บันทึกด้วยภาษาละตินในคริสต์ศตวรรษที่ 9 ซึ่งเป็นลายมือของนักบวชชาวเวลส์ชื่อ Nennius ได้บันทึกรายละเอียดการรบ 12 ครั้งของอาร์เทอร์เอาไว้ ในจำนวนนี้รวมถึง หรือการรบที่ภูเขาบาดอน ซึ่งระบุไว้ว่า อาร์เทอร์ได้ต่อสู้ตามลำพังด้วยมือเปล่า และสังหารศัตรูไปถึง 960 คน อย่างไรก็ดี ผลการศึกษาวิจัยในยุคหลังได้ตั้งข้อสงสัยต่อความน่าเชื่อถือของบันทึก Historia Brittonum ว่าจะถือเป็นแหล่งข้อมูลทางประวัติศาสตร์ในยุคนั้นได้หรือไม่
เอกสารอีกชุดหนึ่งที่ช่วยสนับสนุนข้อมูลว่า อาร์เทอร์มีตัวตนอยู่จริงในประวัติศาสตร์ คือบันทึก Annales Cambriae ในคริสต์ศตวรรษที่ 10 ซึ่งเชื่อมโยงอาร์เทอร์กับการรบที่ภูเขาบาดอนเช่นเดียวกัน ในบันทึกระบุว่าการรบนี้เกิดขึ้นราว ค.ศ. 516-518 นอกจากนี้ยังกล่าวถึงการรบที่คัมลานน์ ที่ซึ่งทั้งอาร์เทอร์และมอร์เดร็ดถูกสังหารในราวปี ค.ศ. 537-539 รายละเอียดเหล่านี้ช่วยสนับสนุนยืนยันต่อเหตุการณ์ใน Historia Brittonum และยืนยันว่าอาร์เทอร์ได้เข้าร่วมในการรบที่ภูเขาบาดอนจริง อย่างไรก็ดี งานวิจัยในชั้นหลังพบว่า เนื้อหาใน Annales Cambriae เริ่มต้นตั้งแต่ปลายคริสต์ศตวรรษที่ 8 ส่วนเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับตำนานพระเจ้าอาร์เทอร์ได้รับการเขียนเพิ่มเติมเข้าไปภายหลัง ไม่ได้อยู่ในตัวบันทึกดั้งเดิม คาดว่าน่าจะเขียนเพิ่มเข้าไปในราวคริสต์ศตวรรษที่ 10 ดังนั้นจึงเป็นไปได้ว่าเหตุการณ์ที่ภูเขาบาดอนนั้นนำมาจาก Historia Brittonum นั่นเอง
เมื่อขาดหลักฐานสนับสนุนที่หนักแน่นเพียงพอ นักประวัติศาสตร์ในยุคหลังโดยมากจึงไม่นับว่าอาร์เทอร์เป็นหนึ่งในกษัตริย์ที่มีตัวตนจริง นักประวัติศาสตร์ โทมัส ชาลส์-เอ็ดเวิร์ด กล่าวว่า "ตามหลักฐานเท่าที่มีอยู่ บางคนอาจกล่าวได้ว่ามีอาร์เทอร์อยู่ในประวัติศาสตร์จริง [แต่...] นักประวัติศาสตร์ไม่อาจรับรองฐานะใด ๆ ให้เขาได้" แนวโน้มในยุคปัจจุบันค่อนข้างไปทางที่ไม่ยอมรับตัวตนของอาร์เทอร์มากยิ่งขึ้น ขณะที่นักประวัติศาสตร์ยุคก่อนจะข้องใจในตัวอาร์เทอร์น้อยกว่า นักประวัติศาสตร์ จอห์น มอร์ริส ได้รวมเอาการครองราชย์ที่เป็นที่รู้จักของพระเจ้าอาร์เทอร์เอาไว้ในหนังสือลำดับเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ไอร์แลนด์และบริเตนสมัยหลังโรมันของเขา ชื่อ The Age of Arthur (1973) อย่างไรก็ดีเขาก็มีหลักฐานน้อยเกินกว่าจะยืนยันได้ว่าอาร์เทอร์มีตัวตนอยู่จริง
จากทฤษฎีข้างต้นทำให้มีอีกแนวคิดหนึ่งที่โต้แย้งว่า อาร์เทอร์ไม่มีตัวตนอยู่จริงในประวัติศาสตร์โดยสิ้นเชิง นักโบราณคดี โนเวลล์ เมียเรส วิจารณ์ Age of Arthur ของมอร์ริสว่า "ไม่มีบุคคลใดในกรอบประวัติศาสตร์และตำนานที่จะทำให้นักประวัติศาสตร์เสียเวลามากเท่านี้" งานเขียนในคริสต์ศตวรรษที่ 6 ของ ชื่อ De Excidio Britanniae (บนความพินาศของบริเตน) ซึ่งเป็นบันทึกการรบที่ภูเขาบาดอนที่ใกล้เคียงเวลาเกิดเหตุการณ์มากที่สุด ได้อธิบายถึงรายละเอียดในการรบครั้งนั้น แต่ไม่ได้เอ่ยถึงอาร์เทอร์เลย ไม่เคยมีชื่อของอาร์เทอร์ปรากฏใน หรือในบันทึกใด ๆ ระหว่าง ค.ศ. 400-820 เท่าที่เหลือรอดมาจนถึงปัจจุบัน แหล่งข้อมูลสำคัญอีกแห่งหนึ่งคือ ประวัติศาสตร์เกี่ยวกับศาสนาของชนอังกฤษ บันทึกของนักบุญบีด ในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 8 ซึ่งเล่าถึงเหตุการณ์การรบที่ภูเขาบาดอนเช่นกัน ก็ไม่ได้เอ่ยถึงชื่อของอาร์เทอร์ นักประวัติศาสตร์ เดวิด ดัมวิลล์ เขียนไว้ว่า "ผมเห็นว่าเราสามารถตัดเขา [อาร์เทอร์] ทิ้งไปได้เลย เขาครอบครองพื้นที่ในหนังสือประวัติศาสตร์ด้วยแนวคิดที่ว่า 'เมื่อมีควันไฟย่อมมีไฟ' ... แต่ข้อเท็จจริงก็คือไม่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ใด ๆ เกี่ยวกับอาร์เทอร์เลย เราต้องตัดเขาออกไปจากประวัติศาสตร์ของเรา และที่สำคัญยิ่งกว่า ต้องตัดเขาออกไปจากชื่อหนังสือของเรา"
นักวิชาการจำนวนหนึ่งเห็นว่า แต่เดิม อาร์เทอร์ เป็นวีรบุรุษในที่สร้างขึ้นในนิทานพื้นบ้าน หรืออาจเป็นเทพยดาเคลติกองค์ใดองค์หนึ่งที่ถูกลืมเลือนไป ผู้เคยได้รับการยกย่องด้วยวีรกรรมที่เกิดขึ้นจริงในอดีตกาลนานมาแล้ว โดยเปรียบเทียบกับเทพอาชาในประวัติศาสตร์อาณาจักรเคนต์ คือ และ ซึ่งก็เป็นบุคคลที่วิจารณ์ถกเถียงถึงความมีตัวตนเช่นเดียวกัน นักบุญบีดตั้งข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับบุคคลในตำนานเหล่านี้ว่าเป็นผู้มีบทบาทอยู่ในประวัติศาสตร์การสู้รบกับแองโกล-แซกซัน ในทางตะวันออกของบริเตนในคริสต์ศตวรรษที่ 5 อาร์เทอร์ในบันทึกเก่าแก่ไม่ใช่กษัตริย์ ทั้งใน Historia หรือ Annales ไม่ได้เรียกเขาว่า "rex" แต่เรียกว่า "dux" หรือ "dux bellorum" ซึ่งหมายถึง "ผู้นำในการรบ"
บันทึกประวัติศาสตร์ในยุคหลังจักรวรรดิโรมันค่อนข้างกระจัดกระจาย ดังนั้นการยืนยันความมีตัวตนหรือไม่มีตัวตนของอาร์เทอร์จึงยังไม่อาจสรุปได้อย่างชัดเจน มีสถานที่หลายแห่งที่ได้รับการระบุว่าเป็นของ "ยุคอาร์เทอร์" ตั้งแต่ราวคริสต์ศตวรรษที่ 12 แต่นักโบราณคดีจะยอมรับชื่อเหล่านั้นก็ต่อเมื่อมีรอยจารึกหรือหลักฐานที่ชัดแจ้งเท่านั้น มีก้อนหินที่ได้ชื่อว่า "ศิลาอาร์เทอร์" (Arthur stone) ค้นพบในปี ค.ศ. 1998 อยู่ท่ามกลางซากปรักหักพังของปราสาท Tintagel ในคอร์นวอลล์ ซึ่งมีอายุในคริสต์ศตวรรษที่ 6 อย่างแน่นอน แต่จารึกหลักฐานอื่น ๆ เกี่ยวกับอาร์เทอร์ รวมถึงทางข้ามกลาสเตินเบอรี่ ดูเหมือนว่าจะเป็นสิ่งที่ปลอมแปลงขึ้นมา แม้จะมีหลักฐานและบุคคลในประวัติศาสตร์ที่บ่งชี้ถึงตัวตนของอาร์เทอร์ แต่ก็ไม่มีหลักฐานใดจะหนักแน่นเพียงพอที่จะรับรองตัวตนของเขาได้จริง ๆ
เกี่ยวกับชื่อ
ต้นกำเนิดของชื่อ อาร์เทอร์ ในภาษาเวลส์ ยังคงเป็นประเด็นถกเถียงกันอยู่ บ้างเชื่อว่ามาจากชื่อตระกูลในภาษาละตินว่า Artorius ซึ่งรากศัพท์ยังคลุมเครือไม่ชัดเจน บ้างก็เสนอว่าน่าจะมาจากคำว่า arth ในภาษาเวลส์ แปลว่า "หมี" โดยมาจากคำว่า art-ur (หรือ *Arto-uiros) หมายถึง "มนุษย์หมี" ทฤษฎีนี้ยังดูยากจะเชื่อได้ การถกเถียงยังครอบคลุมไปถึงชื่ออื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ อาร์เทอร์ (Arthur หรือ Arturus) ในเอกสารเกี่ยวกับอาร์เทอร์ที่เป็นภาษาละตินดั้งเดิม ไม่เคยปรากฏคำว่า Artorius อยู่เลย ทว่านี่ยังมิใช่เหตุผลที่จะตัดคำว่า Artorius ออกไป เพราะคำนี้เมื่อแปลงไปเป็นภาษาเวลส์ก็จะสะกดว่า Art (h) ur แนวคิดที่เป็นไปได้เสนอโดย จอห์น ค็อก กล่าวว่า แหล่งอ้างอิงภาษาละตินที่หลงเหลืออยู่เกี่ยวกับ อาร์เทอร์ ในประวัติศาสตร์ (สมมุติว่าเขามีชื่อว่า Artorius และมีตัวตนอยู่จริง ๆ) จะต้องมีอายุหลังจากคริสต์ศตวรรษที่ 6 เป็นต้นมา ยังมีอีกทฤษฎีหนึ่งที่ต่างออกไป เสนอว่า ชื่อ อาร์เทอร์ น่าจะมาจากคำว่า อาร์คตุรุส (Arcturus) ซึ่งเป็นชื่อดาวฤกษ์สว่างในกลุ่มดาวคนเลี้ยงสัตว์ อยู่ใกล้กลุ่มดาวหมีใหญ่ ชื่อนี้มีความหมายว่า "ผู้พิทักษ์หมี" คำว่า อาร์คตุรุส ในภาษาละตินคลาสสิกเมื่อแปลงไปเป็นภาษาเวลส์ ก็สามารถสะกดได้ว่า Art (h) ur เช่นเดียวกัน เมื่อพิจารณาจากความสว่างของดวงดาวและตำแหน่งของมันบนฟากฟ้า ในฐานะผู้พิทักษ์กลุ่มดาวหมีใหญ่ ก็น่าจะเชื่อว่านี่คือ "ผู้พิทักษ์หมี" และเป็น "ผู้นำ" ในบรรดาหมู่ดาวในกลุ่มดาวคนเลี้ยงสัตว์ด้วย แต่ความหมายที่แท้จริงของรากศัพท์เป็นอย่างไรยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน จึงได้แต่เพียงสันนิษฐานว่า Artorius น่าจะมีความหมายสื่อถึงตำนานของอาร์เทอร์ที่เป็นหัวใจหลักทางประวัติศาสตร์มาอย่างช้านาน แต่ผลการศึกษาวิจัยเมื่อไม่นานมานี้พบว่าข้อสันนิษฐานนี้ยังไม่หนักแน่นเพียงพอ ในทางตรงข้าม การผันคำว่า อาร์เทอร์ จาก อาร์คตุรุส กลับกลายเป็นการบ่งชี้ว่า ชื่ออาร์เทอร์ไม่ได้มีกำเนิดมาจากเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ แต่ โทบี กริฟเฟน เสนอว่า นั่นน่าจะเป็นชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งของ อาร์เทอร์ ในประวัติศาสตร์ เมื่อกล่าวในภาษาละติน
อาร์เทอร์ในวรรณกรรมยุคกลาง
ผู้สร้างตัวละคร อาร์เทอร์ ในวรรณกรรมซึ่งเราคุ้นเคยกันอยู่ทุกวันนี้ คือ เจฟฟรีย์แห่งมอนมัท ในงานเขียนประวัติศาสตร์จำลอง ชื่อ Historia Regum Britanniae (ประวัติกษัตริย์แห่งบริเตน) ซึ่งเขียนขึ้นในคริสต์ทศวรรษ 1130 ข้อมูลและงานเขียนต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับอาร์เทอร์จะแบ่งออกเป็น 2 พวก พวกหนึ่งเขียนขึ้นก่อน Historia ของเจฟฟรีย์ เรียกว่า พรีกัลฟริเดียน (pre-Galfridian; มาจากชื่อภาษาละตินของเจฟฟรีย์คือ Galfridus) ส่วนอีกพวกหนึ่งคืองานที่เขียนขึ้นหลังงานของเจฟฟรีย์ ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากงานของเจฟฟรีย์มาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เรียกว่า กัลฟริเดียน หรือ โพสต์กัลฟริเดียน (post-Galfridian)
ขนบในวรรณกรรมพรีกัลฟริเดียน
วรรณกรรมที่เก่าแก่ที่สุดที่มีการเอ่ยถึง อาร์เทอร์ มาจากแหล่งข้อมูลในเวลส์และไบรตัน โดยมักเป็นการเอ่ยถึงอาร์เทอร์ในวรรณกรรมแบบ พรีกัลฟริเดียน แบบกว้าง ๆ ไม่ได้เอ่ยถึงอย่างเฉพาะเจาะจงเป็นเรื่องราวเอกเทศ มีการสำรวจทางวิชาการเมื่อไม่นานมานี้โดย เพื่อแยกแยะรูปแบบการเอ่ยถึงอาร์เทอร์ในวรรณกรรมเหล่านั้นออกมาได้เป็น 3 รูปแบบ รูปแบบที่หนึ่งคือ อาร์เทอร์เป็นนักรบอิสระ ทำหน้าที่ต่อสู้ป้องกันบริเตนจากศัตรูทั้งภายในและภายนอก ศัตรูเหล่านี้ส่วนหนึ่งเป็นมนุษย์ เช่นพวกแซกซัน ที่เขาได้สู้รบด้วยดังมีระบุอยู่ใน Historia Brittonum แต่ส่วนมากแล้วศัตรูที่เขาต้องต่อสู้ด้วยจะเป็นสิ่งเหนือธรรมชาติ เช่น ปีศาจแมวยักษ์ หมูป่าจอมเวทย์ มังกร ปีศาจหัวสุนัข ยักษ์ และแม่มด รูปแบบที่สองคือ อาร์เทอร์เป็นวีรบุรุษในนิทานพื้นบ้านและเทพนิยายมหัศจรรย์ของท้องถิ่น เขาเป็นผู้นำของกลุ่มวีรบุรุษผู้มีอำนาจวิเศษที่อาศัยอยู่ในป่า ส่วนรูปแบบที่สามเป็นตำนานเก่าแก่ของเวลส์ อาร์เทอร์ในตำนานนั้นมีความเกี่ยวข้องกับโลกหลังความตายในความเชื่อของชาวเวลส์ คือ Annwn ทางหนึ่งเขาเข้าโจมตีป้อมปราการในโลกแห่งนั้นเพื่อค้นหาทรัพย์สมบัติและช่วยเหลือเหล่านักโทษ ส่วนอีกทางหนึ่งมาจากวรรณกรรมที่เก่าแก่ที่สุด เหล่านักรบของเขา รวมถึงเหล่าเทพเจ้าในลัทธิเพแกนดั้งเดิม ภรรยาของอาร์เทอร์และอาณาจักรของเขา ล้วนมีกำเนิดมาจากโลกหลังความตายทั้งสิ้น
หนึ่งในงานกวีนิพนธ์เวลส์ที่อ้างอิงถึงอาร์เทอร์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุด มาจากงานกวีนิพนธ์เกี่ยวกับความตายของวีรบุรุษ ชื่อ Y Gododdin แต่งขึ้นในราวคริสต์ศตวรรษที่ 6 โดยกวีชื่อ Aneirin โคลงบทหนึ่งกล่าวยกย่องสดุดีนักรบผู้กล้าหาญที่สังหารศัตรูไปถึง 300 คน แม้จะมีหมายเหตุต่อท้ายว่า "เขามิใช่อาร์เทอร์" แต่ก็กล่าวว่าวีรกรรมของเขาในคราวนี้ยังไม่อาจเทียบกับขวัญกล้าของอาร์เทอร์ได้เลยY Gododdin เริ่มเป็นที่รู้จักนับจากต้นฉบับงานเขียนในคริสต์ศตวรรษที่ 13 ดังนั้นจึงไม่อาจตรวจสอบได้ว่าข้อความดังกล่าวนี้อยู่ในต้นฉบับดั้งเดิมหรืออยู่ในฉบับคัดลอกเรียบเรียงใหม่ แต่ในความเห็นของ จอห์น ค็อก เห็นว่าข้อความที่ระบุเวลาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 7 ขึ้นไปไม่อาจพิสูจน์ยืนยันได้ มีบทกวีหลายบทของ Taliesin กวีที่เชื่อว่ามีชีวิตอยู่ในคริสต์ศตวรรษที่ 6 เอ่ยอ้างถึงอาร์เทอร์ไว้เช่นกัน แม้ว่าต้นฉบับบทกวีเหล่านั้นมีอายุอยู่ในระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 8-12 ในจำนวนนี้รวมถึง "Kadeir Teyrnon" (เก้าอี้ของเจ้าชาย) ซึ่งกล่าวอ้างถึง "อาร์เทอร์ผู้ได้รับพร", "Preiddeu Annwn" (ผู้ทำลาย Annwn) ซึ่งช่วยสนับสนุนข้อมูลส่วนที่อาร์เทอร์มีความเกี่ยวข้องกับโลกหลังความตาย และ "Marwnat vthyr pen[dragon]" (บทอาลัยแห่งยูเทอร์ เพน (ดรากอน)) ซึ่งอ้างถึงความกล้าหาญของอาร์เทอร์ และกล่าวเป็นนัยถึงความสัมพันธ์พ่อ-ลูกระหว่างอาร์เทอร์กับยูเทอร์ อันเกิดขึ้นก่อนงานเขียนของเจฟฟรีย์แห่งมอนมัท
งานเขียนของชาวเวลส์ยุคต้นที่กล่าวอ้างถึงอาร์เทอร์ ยังรวมไปถึงบทกวีบทหนึ่งที่พบใน ชื่อ "Pa gur yv y porthaur?" ("บุรุษใดคือผู้พิทักษ์ประตู?") ซึ่งเป็นบทสนทนาระหว่างอาร์เทอร์กับผู้พิทักษ์ประตูป้อมปราการที่เขาต้องการเดินทางเข้าไป อาร์เทอร์ยังเอ่ยถึงชื่อคนและภารกิจของเขา ผู้ติดตามของเขาที่สำคัญคือ Cei (เคย์) และ Bedwyr (เบดิเวียร์) นิทานร้อยแก้วของเวลส์เรื่องหนึ่งชื่อ Culhwch and Olwen (ราวคริสต์ทศวรรษ 1100) ซึ่งรวมอยู่ในชุดเอกสาร Mabinogion ได้มีเนื้อหาระบุถึงรายชื่อผู้ติดตามของอาร์เทอร์เป็นจำนวนมากกว่า 200 คน ซึ่งมีชื่อของ Cei และ Bedwyr เป็นบุคคลสำคัญ เรื่องราวโดยรวมเล่าถึงการที่อาร์เทอร์ได้ช่วยเหลือ Culhwch ญาติของเขาให้ชนะใจ Olwen บุตรีของ Ysbaddaden ซึ่งเป็นหัวหน้าของยักษ์ เขาสามารถกระทำภารกิจอันเป็นไปไม่ได้จนสำเร็จ ในจำนวนนี้รวมถึงการล่าหมูป่าผู้ยิ่งใหญ่ชื่อ Twrch Trwyth บันทึกในคริสต์ศตวรรษที่ 9 Historia Brittonum ก็ได้อ้างถึงนิทานเรื่องนี้เช่นเดียวกัน ในบันทึกนี้หมูป่ามีชื่อว่า Troy (n) t นอกจากนี้ชื่อของอาร์เทอร์ยังได้รับการเอ่ยอ้างถึงอีกหลายต่อหลายครั้งใน Welsh Triads ซึ่งเป็นหนังสือรวมเรื่องสั้นว่าด้วยวัฒนธรรมและตำนานต่าง ๆ ของชาวเวลส์ ทว่าต้นฉบับของ Triads ในยุคหลัง ๆ ส่วนหนึ่งดัดแปลงมาจากงานของเจฟฟรีย์แห่งมอนมัทและจากวัฒนธรรมอื่น ๆ ของแผ่นดินใหญ่ อย่างไรก็ดีในต้นฉบับที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังมิได้รับอิทธิพลภายนอกอื่นใด และดูเหมือนจะแสดงถึงรากเหง้าวัฒนธรรมดั้งเดิมของเวลส์จริง ๆ ก็ได้มีปรากฏชื่อของอาร์เทอร์อยู่แล้ว มีการกล่าวถึง "ตำหนักของอาร์เทอร์" (Arthur's Court) ในตำนานของบริเตน บางครั้งก็เรียกตำหนักนี้ว่า "เกาะแห่งบริเตน" เช่นในประโยคที่ว่า "Three XXX of the Island of Britain" แม้ใน Historia Brittonum และ Annales Cambriae จะไม่ได้ระบุว่าอาร์เทอร์เป็นกษัตริย์ แต่ในเวลาที่เขียนเรื่อง Culhwch and Olwen และ Triads อาร์เทอร์ได้รับการเรียกขานว่าเป็น "Penteyrnedd yr Ynys hon" หรือ "ผู้นำแห่งลอร์ดทั้งหลายบนเกาะนี้" นั่นคือเป็นเจ้าเหนือหัวของเวลส์ คอร์นวอลล์ และดินแดนทางเหนือ
นอกเหนือไปจากบทกวีและนิทานเวลส์ในยุคพรีกัลฟริเดียนดังกล่าวข้างต้น อาร์เทอร์ยังปรากฏในเอกสารภาษาละตินที่มีอายุเก่าแก่กว่า Historia Brittonum และ Annales Cambriae อีก มีชื่อของอาร์เทอร์ปรากฏอยู่หลายแห่งในชีวประวัตินักบุญยุคหลังอาณาจักรโรมัน แต่ในปัจจุบันไม่มีที่ใดรับรองความน่าเชื่อถือทางประวัติศาสตร์ของแหล่งข้อมูลเหล่านั้น (ฉบับเก่าแก่ที่สุดระบุวันที่อยู่ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 11) จากบันทึกเรื่อง Life of Saint Gildas ที่เขียนในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 12 โดย คาราด็อค แห่ง ลานคาร์ฟาน ได้ระบุไว้ว่า อาร์เทอร์เป็นผู้สังหารน้องชายของกิลแดส คือ Hueil และได้ช่วยภรรยาของเขานามว่า Gwenhwyfar จากกลาสเตินเบอรี่ ในบันทึกเรื่อง Life of Saint Cadoc ของ ไลฟริส แห่ง ลานคาร์ฟาน ซึ่งเขียนในราวคริสต์ทศวรรษ 1100 หรือก่อนนั้นเล็กน้อย ระบุว่าท่านนักบุญได้ให้ความคุ้มครองแก่บุรุษผู้หนึ่งซึ่งสังหารทหารของอาร์เทอร์ไป 3 คน และอาร์เทอร์เรียกร้องวัวฝูงหนึ่งเป็นการทดแทน นักบุญคาดอคยินดีส่งฝูงวัวตามคำขอ แต่เมื่ออาร์เทอร์ได้รับสัตว์เหล่านั้น ปรากฏว่ามันกลายเป็นผักกำหนึ่ง เรื่องราวคล้ายคลึงกันนี้ยังปรากฏในบันทึกชีวประวัติของ Carannog, Padarn และ Eufflam ซึ่งคาดว่าเขียนขึ้นในราวคริสต์ศตวรรษที่ 12 มีตำนานเกี่ยวกับพระเจ้าอาร์เทอร์ที่ไม่ชัดเจนนักปรากฏอยู่ใน Legenda Sancti Goeznovii ซึ่งอ้างว่าเขียนขึ้นในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 11 ทั้ง ๆ ที่ต้นฉบับเท่าที่พบเก่าที่สุดมีอายุในราวคริสต์ศตวรรษที่ 15 เท่านั้น ยังมีการอ้างอิงถึงอาร์เทอร์ที่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง อยู่ใน De Gestis Regum Anglorum ของวิลเลียม มาล์มส์เบอรี่ และ De Miraculis Sanctae Mariae Laudensis ของเฮอร์มันน์ ทั้งสองเรื่องให้ข้อมูลหลักฐานแรกเกี่ยวกับความเชื่อที่ว่า อาร์เทอร์ยังไม่ตาย และจะหวนกลับมาในวันใดวันหนึ่ง โครงเรื่องนี้ปรากฏซ้ำอีกหลายครั้งในนิทานพื้นบ้านยุคโพสต์กัลฟริเดียน
เจฟฟรีย์แห่งมอนมัท
งานเขียนเชิงพรรณนาว่าด้วยชีวิตของอาร์เทอร์ฉบับแรกเท่าที่ค้นพบ คืองานเขียนภาษาละตินเรื่อง Historia Regum Britanniae (ประวัติกษัตริย์แห่งบริเตน) ของเจฟฟรีย์แห่งมอนมัท ซึ่งเขียนเสร็จในปี ค.ศ. 1138 เป็นงานเขียนบันทึกประวัติศาสตร์เกี่ยวกับกษัตริย์แห่งบริเตนที่เต็มไปด้วยจินตนาการและเรื่องเหนือจริง นับแต่ตำนานของบรูตัสชาวเมืองทรอยผู้ลี้ภัย มาจนถึง Cadwallader กษัตริย์เวลส์ในคริสต์ศตวรรษที่ 7 เจฟฟรีย์บันทึกยุคของอาร์เทอร์อยู่ในยุคหลังโรมันเช่นเดียวกันกับ Historia Brittonum และ Annales Cambriae เขายังเขียนถึงบิดาของอาร์เทอร์ คือ ยูเทอร์ เพนแดรกอน กับที่ปรึกษาผู้วิเศษของเขาคือ เมอร์ลิน เขาเขียนเล่าถึงกำเนิดของอาร์เทอร์ว่า ยูเทอร์ปลอมตัวเข้าไปในทัพของกอร์ลัวส์ฝ่ายศัตรูด้วยมนตร์วิเศษของเมอร์ลิน แล้วลักลอบได้เสียกับนางอิเกอร์นา ภริยาของกอร์ลัวส์ ที่ทินแทเจล เมื่อยูเทอร์เสียชีวิต อาร์เทอร์ผู้บุตรเวลานั้นอายุ 15 ปี ได้สืบต่อตำแหน่งกษัตริย์แห่งบริเตนและได้เข้าร่วมในการศึกหลายครั้งหลายครา คล้ายคลึงกับที่ปรากฏใน Historia Brittonum เขาทำศึกชนะพวกพิกต์และพวกสก๊อต จากนั้นได้ก่อตั้งอาณาจักรอาร์เทอร์ขึ้นหลังจากเอาชนะไอร์แลนด์ ไอซ์แลนด์ และหมู่เกาะออร์คนีย์ หลังจากสิบสองปีอันสันติผ่านพ้นไป อาร์เทอร์เริ่มต้นการแผ่ขยายอาณาจักรอีกครั้ง โดยเข้ายึดครองนอร์เวย์ เดนมาร์ก และกอล ในเวลาที่เขาพิชิตกอล ดินแดนนั้นยังอยู่ในอารักขาของอาณาจักรโรมัน การรุกรานของเขาคราวนั้นจึงนำไปสู่การเผชิญหน้าระหว่างอาณาจักรของเขากับอาณาจักรโรมัน อาร์เทอร์กับเหล่านักรบของเรา ซึ่งรวมถึง Kaius (เคย์) , Beduerus (เบดิเวียร์) และ Gualguanus (กาเวน) สามารถเอาชนะจักรพรรดิโรมัน ได้ที่กอล แต่เมื่อเขาเตรียมจะกรีธาทัพต่อไปยังโรม อาร์เทอร์ก็ได้ข่าวว่า Modredus (มอร์เดร็ด) หลานชายของเขาผู้ที่อาร์เทอร์ละไว้ให้ดูแลอารักขาบริเตน ได้แต่งงานกับภรรยาของอาร์เทอร์ คือ Guenhuuara (กวินิเวียร์) และยึดบัลลังก์มาเป็นของตน อาร์เทอร์จึงหวนกลับบริเตนและสังหารมอร์เดร็ดที่ริมฝั่งแม่น้ำแคมแบลมในคอร์นวอลล์ แต่ตัวอาร์เทอร์เองก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสมาก เขามอบตำแหน่งต่อให้กับญาติของเขาชื่อ คอนสแตนติน แล้วจึงเดินทางจากไปยังดินแดนแอวาลอนเพื่อรักษาบาดแผลของตน หลังจากนั้นก็ไม่มีใครพบเขาอีกเลย
ประเด็นที่ว่า งานเขียนชิ้นนี้เป็นผลงานประพันธ์ที่เจฟฟรีย์คิดขึ้นใหม่สักเท่าใด ยังคงเป็นหัวข้อที่ถกเถียงกันทั่วไป ส่วนที่ค่อนข้างชัดเจนคือ เจฟฟรีย์น่าจะนำการศึกต่อต้านการรุกรานของพวกแซกซัน 12 ครั้งของอาร์เทอร์มาจาก Historia Brittonum การรบที่คัมลานน์น่าจะมาจาก Annales Cambriae รวมถึงแนวคิดที่ว่าอาร์เทอร์ยังคงมีชีวิตอยู่ สถานะของตัวอาร์เทอร์ในฐานะกษัตริย์แห่งบริเตนทั้งมวลก็น่าจะยืมมาจากวรรณกรรมพรีกัลฟริเดียน ดังเช่นที่พบใน Culhwch and Olwen, Triads และ Saints' Lives เจฟฟรีย์ยังนำชื่อของสิ่งของและบุคคลใกล้ชิดของอาร์เทอร์หลายชื่อมาจากวรรณกรรมพรีกัลฟริเดียนด้วย เช่น เคย์, เบดิเวียร์, กวินิเวียร์ และยูเทอร์ เป็นต้น รวมถึงชื่อของ Caliburnus (Caledfwlch) ซึ่งในวรรณกรรมยุคหลังเรียกกันว่า ดาบเอกซ์แคลิเบอร์ อย่างไรก็ดี แม้เขาจะยืมเอาชื่อต่าง ๆ เหตุการณ์สำคัญ ๆ รวมถึงตำแหน่งของอาร์เทอร์มาจากวรรณกรรมเก่า แต่ บรินลีย์ โรเบิร์ต แย้งว่า "เรื่องราวเกี่ยวกับอาร์เทอร์ในงานสร้างสรรค์ของเจฟฟรีย์ไม่ได้นำมาจากเรื่องเล่าอื่นใดก่อนหน้านั้นเลย" ตัวอย่างเช่น ชื่อ Medraut ในตำนานเวลส์ ได้กลายมาเป็นทรราช Modredus ในตำนานของเจฟฟรีย์ แต่ก่อนหน้านั้นไม่เคยปรากฏต้นตอใดเกี่ยวกับตัวละครชั่วร้ายนี้ในตำนานเวลส์จนกระทั่งถึงคริสต์ศตวรรษที่ 16 ในยุคหลังมีความพยายามที่จะสืบเสาะเพื่อพิสูจน์ว่า Historia Regum Britanniae เป็นงานต้นฉบับที่สร้างโดยเจฟฟรีย์เองอย่างแท้จริง ความเห็นเชิงวิชาการส่วนใหญ่ตอบรับต่อแนวคิดของวิลเลียมแห่งนิวเบอร์ก ในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 12 เขากล่าวว่า เจฟฟรีย์ "แต่ง" เรื่องราวทั้งหมดขึ้นมาเอง อันเนื่องมาจาก "นิสัยชอบโป้ปดอย่างร้ายกาจ" แต่ เจฟฟรีย์ แอช ไม่เห็นด้วยกับความคิดนี้ เขาเชื่อว่างานเขียนของเจฟฟรีย์ได้รับแรงบันดาลใจมาจากแหล่งข้อมูลอื่นที่สูญหายไป ซึ่งเล่าเรื่องราววีรกรรมของกษัตริย์อังกฤษในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 5 นาม ริโอทามุส (Riotamus) ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของอาร์เทอร์ แต่นักประวัติศาสตร์และนักวิชาการเคลติกยังไม่มั่นใจที่จะเชื่อถือตามข้อสรุปของแอช
แต่ไม่ว่าเขาจะมีแหล่งข้อมูลมาจากที่ใด ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า Historia Regum Britanniae ของเจฟฟรีย์ส่งอิทธิพลต่อวรรณกรรมยุคหลังเป็นอย่างมาก มีงานเขียนฉบับคัดลอกจากต้นฉบับภาษาละตินของเจฟฟรีย์หลงเหลือมาถึงปัจจุบันมากกว่า 200 ฉบับ ทั้งนี้ยังไม่รวมฉบับที่แปลออกไปเป็นภาษาอื่น ๆ อีก เช่นมีต้นฉบับของ Historia ในภาษาเวลส์มากกว่า 60 ฉบับ ฉบับที่เก่าแก่ที่สุดพบว่าเขียนขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 13 ผลจากความนิยมอย่างสูงนี้ Historia Regum Britanniae ของเจฟฟรีย์จึงมีอิทธิพลอย่างมากต่อวิวัฒนาการของตำนานอาร์เทอร์ในยุคกลางตอนปลาย ซึ่งไม่เพียงจะเป็นแรงผลักดันในจินตนาการเกี่ยวกับวีรกรรมของอาร์เทอร์เท่านั้น แต่ทุกเสี้ยวส่วนในตำนานล้วนได้รับการหยิบยืมไปพัฒนาแตกหน่อขยายเรื่องราวออกไป (ตัวอย่างเช่น เรื่องของพ่อมดเมอร์ลิน และชะตากรรมสุดท้ายของอาร์เทอร์) และได้สร้างกรอบทางประวัติศาสตร์ขึ้นให้กับเหล่าผู้นิยมนิทานโรแมนซ์ เรื่องราวของเวทมนตร์อันศักดิ์สิทธิ์ ตลอดจนการผจญภัยอันน่ามหัศจรรย์
ขนบแบบโรแมนซ์
ผลจากความนิยมใน Historia ของเจฟฟรีย์ และงานดัดแปลงอื่น ๆ (เช่น Roman de Brut ของเวส) เป็นปัจจัยสำคัญต่อปรากฏการณ์งานประพันธ์เกี่ยวกับอาร์เทอร์จำนวนมากที่เกิดขึ้นในยุโรป ระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 12-13 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฝรั่งเศส แม้ว่าในการกำเนิดเรื่องราว "" จะมีที่มาจากแหล่งอื่น ๆ นอกเหนือจากตำนานพระเจ้าอาร์เทอร์ก็ตาม ชื่อของอาร์เทอร์และเรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับอาร์เทอร์ได้ปรากฏอยู่บนแผ่นดินใหญ่มานานแล้วก่อนที่งานของเจฟฟรีย์จะเป็นที่แพร่หลาย เช่นกันกับการใช้ชื่อและเรื่องราวอื่น ๆ ในวัฒนธรรมเคลติกซึ่งไม่มีอยู่ใน Historia ของเจฟฟรีย์ บางทีสิ่งสำคัญที่สุดที่ส่งอิทธิพลต่อความนิยมในเรื่องราวของอาร์เทอร์อย่างมากก็คือบทบาทในการเป็นกษัตริย์ของอาร์เทอร์จากมุมมองของเขานั่นเอง วรรณกรรมเกี่ยวกับอาร์เทอร์ทั้งในคริสต์ศตวรรษที่ 12 และหลังจากนั้นมุ่งความสนใจไปที่ตัวละครอื่น ๆ มากกว่า เช่น เรื่องของลานซล็อตกับกวินิเวียร์ กาเวน และกับ ขณะที่วรรณกรรมแบบพรีกัลฟริเดียนและงานเขียนของเจฟฟรีย์มุ่งความสำคัญอยู่ที่ตัวอาร์เทอร์ แต่วรรณกรรมโรแมนซ์ในยุคหลัง อาร์เทอร์กลับหลุดออกไปอย่างรวดเร็ว บทบาทของตัวละครอาร์เทอร์เองก็มีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด ในวรรณกรรมดั้งเดิมรวมถึงงานของเจฟฟรีย์ อาร์เทอร์เป็นนักรบผู้ยิ่งใหญ่และเก่งฉกาจ ผู้หัวเราะลั่นยามสังหารแม่มดและยักษ์ และเป็นผู้นำในปฏิบัติการทางทหารทุกครั้ง ขณะที่ในวรรณกรรมโรแมนซ์บนแผ่นดินใหญ่ เขากลับกลายเป็น roi fainéant หรือ "กษัตริย์ผู้ไม่ต้องทำอะไรเลย" ผู้ซึ่ง "ถือว่าการอยู่นิ่งเฉยเป็นหัวใจสำคัญของสังคมในอุดมคติ" บทบาทของอาร์เทอร์ในวรรณกรรมเหล่านี้มักจะเป็นผู้ทรงปัญญา สง่าผึ่งผาย ใจเย็น และสุภาพ บางครั้งยังดูเป็นกษัตริย์ที่อ่อนแอไปเสียด้วยซ้ำ ดังนั้น เขาจึงเศร้าซึมและไม่พูดจาอะไรเลยเมื่อได้รู้ว่า ลานซล็อตลอบรักกันกับกวินิเวียร์ ขณะที่ในเรื่อง Yvain, the Knight of the Lion ของ เครเตียง เดอ ทรัว อาร์เทอร์ไม่สามารถฝืนลืมตาอยู่ได้หลังจากงานเลี้ยงฉลองจนต้องขอตัวแอบหลบไปงีบ อย่างไรก็ดี นอร์ริส เจ. เลซี ได้ตั้งข้อสังเกตว่า แม้เขาจะทำความผิดพลาดและดูอ่อนแอเพียงใดในวรรณกรรมยุคหลัง แต่ "เกียรติศักดิ์ของเขาไม่เคยด้อยลงจากบุคลิกอันอ่อนแอเลย ... ทั้งอำนาจและศักดิ์ศรีของเขายังดำรงอยู่อย่างบริบูรณ์"
อาร์เทอร์ และข้าราชบริพารของเขายังปรากฏอยู่ในงานเขียนบางส่วนใน Lais ของ แต่งานที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดคือกวีนิพนธ์ของกวีชาวฝรั่งเศส เครเตียง เดอ ทรัว (Chrétien de Troyes) ซึ่งส่งผลให้ตัวละคร "อาร์เทอร์" และตำนานของพระองค์วิวัฒนาการไปอย่างมาก เครเตียงเขียนวรรณกรรมโรแมนซ์เกี่ยวกับตำนานอาร์เทอร์ 5 เรื่องระหว่างปี ค.ศ. 1170 ถึง 1190 Erec and Enide และ Cligès เป็นนิทานเกี่ยวกับความรักในวังหลวงโดยมีราชสำนักของอาร์เทอร์เป็นฉากหลังของเรื่อง แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงจากเรื่องราวเชิงวีรบุรุษของเวลส์และวรรณกรรมแบบกัลฟริเดียน ขณะที่ Yvain, the Knight of the Lion เป็นเรื่องของ กับ กาเวน ในการผจญภัยเหนือจินตนาการ ส่วนอาร์เทอร์เป็นแค่ตัวประกอบ ทว่าการพัฒนาการของตำนานอาร์เทอร์ส่วนที่มีนัยสำคัญมากที่สุดคือเรื่อง Lancelot, the Knight of the Cart ที่เป็นนิยายแนะนำตัวแลนเซอล็อตและเบิกเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเขากับกวินิเวียร์ ราชินีของอาร์เทอร์ เป็นการขยายแต่งเติมเพิ่มประเด็นความรักที่ผิดหวังของอาร์เทอร์ Perceval, the Story of the Grail เป็นตัวนำเรื่องของจอกศักดิ์สิทธิ์และกษัตริย์ตกปลา (Fisher King) ให้โด่งดัง และเช่นเดียวกับเรื่องอื่น ๆ คือบทบาทของอาร์เทอร์ถูกตัดทอนลงเหลือเพียงน้อยนิด เครเตียงได้ทำให้ "แต่งแต้มตำนานของอาร์เทอร์ให้มีชีวิตชีวา และสร้างความสับสนให้กับตำนานมากยิ่งขึ้น" เรื่องราวโดยมากที่เกิดขึ้นหลังจากยุคของเขาได้สร้างภาพพจน์ของอาร์เทอร์ขึ้นจากพื้นฐานที่เขาสร้างเอาไว้ เรื่องของที่แม้จะยังไม่จบ ก็ได้รับความนิยมอย่างมาก มีการประพันธ์บทกวีเกี่ยวกับเขาอย่างต่อเนื่องไปกว่าครึ่งศตวรรษ เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับจอกศักดิ์สิทธิ์และภารกิจการค้นหา ซึ่งต่อมานักเขียนคนอื่น ๆ ก็นำไปประพันธ์ต่อเติมอีก เช่น โรเบิร์ต เดอ โบรอน นับว่าเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่ลดบทบาทของอาร์เทอร์ลงไปในวรรณกรรมโรแมนซ์บนแผ่นดินใหญ่ ในทำนองเดียวกัน เรื่องของแลนเซอล็อตกับการที่เขาหักหลังอาร์เทอร์ก็กลายเป็นหนึ่งในโครงเรื่องคลาสสิกเกี่ยวกับตำนานพระเจ้าอาร์เทอร์ แม้ว่าบทบาทของแลนเซอล็อตในงานเขียนยุคต่อมา เช่น Lancelot (ค.ศ. 1225) จะประสมประสานกันระหว่างแลนเซอล็อตในงานของเครเตียง กับ Lanzelet ของ Ulrich von Zatzikhoven ก็ตาม ผลงานของเครเตียงยังส่งอิทธิพลกลับไปยังวรรณกรรมเกี่ยวกับอาร์เทอร์ในเวลส์ด้วย เมื่อบทบาทเชิงโรแมนซ์ของอาร์เทอร์เริ่มเข้ามาแทนที่วีรบุรุษอันห้าวหาญในขนบดั้งเดิมของวรรณกรรมเวลส์ ผลงานอันโดดเด่นที่สะท้อนถึงวิวัฒนาการนี้ คือนิยายโรแมนซ์ของเวลส์ 3 เรื่องที่มีความคล้ายคลึงกับตำนานของเครเตียงมาก เพียงแตกต่างในรายละเอียดเล็กน้อย ได้แก่ Owain, or the Lady of the Fountain คล้ายกับเรื่องของ ยไวน์ ในงานของเครเตียง, Geraint and Enid คล้ายคลึงกับ Erec and Enide, และ Peredur son of Efrawg คล้ายคลึงกับเรื่องของเพอร์ซิวาล
ตราบถึงคริสต์ทศวรรษ 1210 การเล่าเรื่องราวตำนานพระเจ้าอาร์เทอร์บนภาคพื้นทวีปยุโรปจะดำเนินผ่านบทกวี หลังจากนั้นจึงเริ่มมีการเล่าเป็นนิทานแบบร้อยแก้ว ตัวอย่างงานร้อยแก้วที่สำคัญที่สุดในคริสต์ศตวรรษที่ 13 คือ Vulgate Cycle (หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Lancelot-Grail Cycle) เป็นงานร้อยแก้วภาษาฝรั่งเศสยุคกลาง 5 เรื่องต่อเนื่องกัน เขียนขึ้นในช่วงครึ่งแรกของคริสต์ศตวรรษนั้น งานเขียนทั้ง 5 เรื่องได้แก่ Estoire del Saint Grail, Estoire de Merlin, Lancelot propre, Queste del Saint Graal และ Mort Artu เมื่อรวมกันเข้าจะได้เป็นเรื่องเล่าเกือบครึ่งหนึ่งของตำนานพระเจ้าอาร์เทอร์ทั้งหมด ตำนานเหล่านี้ทำให้แนวโน้มบทบาทของอาร์เทอร์ในตำนานของตัวเองลดน้อยลงเรื่อย ๆ ทั้งจากการเพิ่มบทบาทของ และบทบาทที่เสริมเติมแต่งไปอย่างมากของเมอร์ลิน ทั้งยังสร้างให้มอร์เดร็ดกลายเป็นลูกนอกสมรสของอาร์เทอร์กับน้องสาวของตัวเอง บทบาทของก็เริ่มต้นขึ้นเป็นครั้งแรกในเรื่อง Lancelot ของเครเตียง ในฐานะราชสำนักดั้งเดิมของอาร์เทอร์ เรื่องราวเหล่านี้ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องใน Post-Vulgate Cycle (ค.ศ. 1230–40) โดยมีเรื่อง Suite du Merlin เป็นเรื่องเอก ลดบทบาทความสำคัญของเรื่องราวระหว่างแลนเซอล็อตกับกวินิเวียร์ลง หันไปเอาใจใส่กับภารกิจการค้นหาจอกศักดิ์สิทธิ์มากขึ้น แต่บทบาทของอาร์เทอร์ก็ยังน้อยนิดเหมือนเดิม อาร์เทอร์ยังคงเป็นตัวละครประกอบในนิยายโรแมนซ์ของฝรั่งเศส สำหรับในชุดตำนาน Vulgate นั้น เขาได้ปรากฏตัวเพียงในตอน Estoire de Merlin และ Mort Artu เท่านั้น
การพัฒนาของวรรณกรรมอาร์เทอร์ในยุคกลางตลอดจนบุคลิกของตัวละครอาร์เทอร์ในแบบโรแมนซ์ นำไปสู่ผลงาน Le Morte d'Arthur ของโทมัส มาโลรี ที่นำเรื่องเล่าตำนานทั้งหมดมาเล่าใหม่เป็นเรื่องเดียวกันในฉบับภาษาอังกฤษ ในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 15 งานเขียนของมาโลรีเรื่องนี้เดิมใช้ชื่อว่า The Whole Book of King Arthur and of His Noble Knights of the Round Table โดยอ้างอิงเนื้อหาจากวรรณกรรมโรแมนซ์เรื่องต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจาก Vulgate Cycle ถือเป็นผลงานที่รวบรวมเรื่องราวเกี่ยวกับอาร์เทอร์เอาไว้ได้อย่างครบถ้วนที่สุด ด้วยเหตุนี้ และด้วยเหตุที่ Le Morte D'Arthur เป็นวรรณกรรมฉบับพิมพ์เล่มแรก ๆ ในอังกฤษ (ตีพิมพ์โดย วิลเลียม แคกซ์ตัน ในปี ค.ศ. 1485) จึงทำให้งานเขียนอื่น ๆ เกี่ยวกับอาร์เทอร์ในยุคหลัง ล้วนพัฒนาต่อมาจากผลงานของมาโลรีทั้งสิ้น
การดัดแปลงและตำนานยุคใหม่
วรรณกรรมหลังยุคกลาง
การสิ้นสุดลงของยุคกลาง ทำให้ความสนใจในตำนานพระเจ้าอาร์เทอร์เสื่อมถอยลงไปด้วย แม้งานแปลฉบับภาษาอังกฤษของ มาโลรี จากนิยายโรแมนซ์ฝรั่งเศสอันยิ่งใหญ่จะยังเป็นที่นิยม แต่ก็ได้กระพือการโจมตีเรื่องข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ในนิยายอาร์เทอร์ทั้งหลาย นับตั้งแต่ยุคของเจฟฟรีย์แห่งมอนมัทเป็นต้นมา เพื่อค้นหาความถูกต้องของ ด้วยเหตุนี้ การที่นักมานุษยวิทยาในคริสต์ศตวรรษที่ 16 โพลีโดเร เวอร์จิล ปฏิเสธอาร์เทอร์ในฐานะกษัตริย์ผู้ปกครองคนหนึ่งในยุคหลังอาณาจักรโรมัน จึงโด่งดังมาก แนวคิดนี้พบได้ทั่วไปในวรรณกรรมแบบโพสต์-กัลฟรีเดียน ช่วงกลาง การเปลี่ยนแปลงทางสังคมอันเป็นผลสืบเนื่องจากการสิ้นสุดของยุคกลาง รวมถึงการเข้าสู่ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา ล้วนช่วยกันลบอาร์เทอร์กับตำนานของเขาออกจากความคิดจิตใจอันตราตรึงของเหล่าผู้ฟัง เห็นได้จากในปี 1634 งานพิมพ์ Le Morte d'Arthur ครั้งสุดท้ายของมาโลรีก็ยังตกค้างอยู่เป็นเวลาเกือบ 200 ปี พระเจ้าอาร์เทอร์กับตำนานของพระองค์ไม่ได้ถูกทอดทิ้งไปเสียทีเดียว แต่ก็ไม่ได้เป็นที่สนใจอย่างจริงจังตราบจนกระทั่งคริสต์ศตวรรษที่ 19 โดยมากแล้วจะใช้เป็นเครื่องอุปมาอุปไมยสำหรับกิจการเมืองในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 17-18 เช่นในงานมหากาพย์ Prince Arthur (1695) และ King Arthur (1697) ของ ก็ใช้อาร์เทอร์เป็นตัวแทนในการต่อสู้ของพระเจ้าวิลเลียมที่ 3 ต่อต้านกับพระเจ้าเจมส์ที่ 2 วรรณกรรมเกี่ยวกับอาร์เทอร์ที่นิยมมากที่สุดในช่วงยุคนี้เห็นจะได้แก่ผลงานของ ทอม ทัมบ์ ซึ่งในตอนแรกเผยแพร่ทางหนังสือสวดมนต์ และต่อมาก็นำไปแสดงเป็นละครเวทีโดย เฮนรี ฟิลดิ้ง แม้ว่าการแสดงจะบอกว่าเกิดขึ้นในเกาะบริเตนของอาร์เทอร์ แต่เนื้อหากลับสื่อไปในทางขำขัน และอาร์เทอร์ก็ได้เปลี่ยนโฉมเป็นละครตลกแทนที่แนวโรแมนซ์
เทนนีสัน และยุคฟื้นฟู
ช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 18 แนวคิดแบบ ศิลปะจินตนิยม และ สถาปัตยกรรมฟื้นฟูกอธิค ได้หวนกลับมาให้ความสำคัญกับอาร์เทอร์และวรรณกรรมโรแมนซ์ยุคกลางอีกครั้ง ความมีคุณธรรมของสุภาพบุรุษในคริสต์ศตวรรษที่ 19 มีพื้นฐานแบบอุดมคติอยู่กับบุคลิกของอาร์เทอร์ในแบบโรแมนซ์ สามารถสังเกตความนิยมอีกครั้งนี้จากการตีพิมพ์เรื่อง Le Morte d'Arthur ของมาโลรีซ้ำอีกครั้งเป็นครั้งแรกหลังจากปี 1634 ตำนานอาร์เทอร์ในยุคกลางแบบดั้งเดิมมักจะเป็นที่สนใจของกวี และเป็นแรงบันดาลใจให้ประพันธ์ผลงานต่าง ๆ เช่น วิลเลียม เวิร์ดสเวิร์ธ เขียนเรื่อง "The Egyptian Maid" ในปี ค.ศ. 1835 ในทำนองเปรียบเปรยกับจอกศักดิ์สิทธิ์ ผลงานที่โดดเด่นในยุคนี้เป็นของอัลเฟรด ลอร์ด เทนนีสัน ผู้ประพันธ์บทกวี "The Lady of Shalott" ตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 1832 แม้ว่าอาร์เทอร์จะยังคงได้รับบทเพียงตัวประกอบเช่นเดียวกับในวรรณกรรมโรแมนซ์ยุคกลาง แต่งานเขียนเกี่ยวกับตำนานอาร์เทอร์ของเทนนีสันได้สร้างความนิยมสูงสุดจากผลงานเรื่อง ซึ่งนำเรื่องราวชีวิตของอาร์เทอร์มาบรรยายเสียใหม่ตามขนบของยุควิกตอเรีย ผลงานนี้พิมพ์ครั้งแรกในปี ค.ศ. 1859 และจำหน่ายได้ 10,000 ชุดภายในสัปดาห์แรก ในเรื่องนี้ อาร์เทอร์กลายเป็นสัญลักษณ์ของบุรุษในอุดมคติ ผู้พยายามสร้างอาณาจักรอันสมบูรณ์ผาสุกท่ามกลางโลกที่ล่มสลายด้วยน้ำมือมนุษย์ผู้อ่อนแอ งานของเทนนีสันสร้างแรงบันดาลใจต่อนักประพันธ์จำนวนมาก ทำให้สาธารณชนหันมาให้ความสำคัญกับตำนานอาร์เทอร์และตัวพระเจ้าอาร์เทอร์อีกครั้ง รวมถึงพาให้ผลงานของมาโลรีกลับมาสู่ความนิยมของผู้อ่าน มีงานเขียนยุคใหม่ที่พัฒนาจากนิทานอาร์เทอร์ของมาโลรีตีพิมพ์ออกมาหลังจาก Idylls ไม่นานนัก (ค.ศ. 1862) หลังจากนั้นปรับปรุงอีกกว่า 6 ครั้งและมีผู้ประพันธ์เรื่องอื่น ๆ อีก 5 เรื่องก่อนจะสิ้นสุดศตวรรษ
ความสนใจใน "อาร์เทอร์แบบโรแมนซ์" และภารกิจต่าง ๆ ของเขาดำเนินต่อเนื่องไปตลอดคริสต์ศตวรรษที่ 19 จนล่วงเข้าสู่คริสต์ศตวรรษที่ 20 ส่งอิทธิพลต่อกวีมากมายหลายคน เช่น วิลเลียม มอร์ริส และศิลปินยุคพรีราฟาเอลไลท์มากมาย รวมไปถึง แม้แต่นิทานตลกขำขันของ ทอม ทัมบ์ ซึ่งนำตำนานอาร์เทอร์มาดัดแปลงเป็นเรื่องแรก ๆ ในคริสต์ศตวรรษที่ 18 ก็ได้รับการเขียนขึ้นใหม่หลังจาก Idylls ตีพิมพ์เผยแพร่ แม้ว่าทอมจะคงระดับของเรื่องและยืนหยัดความขบขันเอาไว้ แต่เรื่องใหม่ของเขาก็มีองค์ประกอบของความเป็นอาร์เทอร์ในวรรณกรรมโรแมนซ์ยุคกลางมากยิ่งขึ้น อาร์เทอร์ดูจริงจังมากขึ้นและมีตัวมีตนมากขึ้นในฉบับเรียบเรียงใหม่ ตำนานอาร์เทอร์แบบโรแมนซ์ยังส่งอิทธิพลต่อวรรณกรรมในสหรัฐอเมริกาด้วย จากผลงานหนังสือหลายเรื่อง เช่น The Boy's King Arthur ของ Sidney Lanier ในปี ค.ศ. 1880 ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวางและส่งแรงบันดาลใจต่องานเขียนล้อเลียนเรื่อง A Connecticut Yankee in King Arthur's Court ของ มาร์ค ทเวน (ค.ศ. 1889) แม้ว่า "อาร์เทอร์แบบโรแมนซ์" จะกลายเป็นจุดศูนย์กลางของวรรณกรรมอาร์เทอร์ยุคใหม่ (เช่นที่ปรากฏใน The Last Sleep of Arthur in Avalon ของ เบิร์น-โจนส์) แต่บ่อยครั้งที่เขากลับไปสู่สถานะเดียวกับอาร์เทอร์ในยุคกลาง คืออยู่เพียงขอบข้างของเนื้อเรื่องหรือบางครั้งก็หายตัวไปเลย ตัวอย่างเช่นในละครโอเปร่าเกี่ยวกับตำนานอาร์เทอร์ของ วากเนอร์ เป็นต้น อย่างไรก็ดี การฟื้นฟูความสนใจในตำนานอาร์เทอร์มิได้ดำเนินต่อเนื่องไปโดยตลอด เมื่อสิ้นสุดคริสต์ศตวรรษที่ 19 เรื่องราวของอาร์เทอร์ก็ตกไปอยู่ในรูปเลียนแบบของพวกพรีราฟาเอลไลท์ เมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง เกียรติยศศักดิ์ศรีของการต่อสู้ประลองของวีรบุรุษแบบยุคกลางก็ค่อย ๆ เลือนหายไป ภาพของอาร์เทอร์ในฐานะนักรบผู้ทรงเกียรติศักดิ์ก็เลือนหายไปด้วย ทว่าขนบแบบโรแมนซ์ยังคงมีพลังเพียงพอจะส่งอิทธิพลต่อ ลอเรนซ์ บินยอน และ จอห์น เมสฟิลด์ ในการประพันธ์ละครเพลงเกี่ยวกับอาร์เทอร์ ยังได้กล่าวถึงบางส่วนของตำนานอาร์เทอร์ (ไม่ใช่ตัวอาร์เทอร์) ในกวีนิพนธ์ของเขาเรื่อง The Waste Land โดยได้อ้างถึง (Fisher King)
วรรณกรรมยุคใหม่
ในช่วงครึ่งหลังของคริสต์ศตวรรษที่ 20 อิทธิพลของอาร์เทอร์ในขนบแบบโรแมนซ์ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง โดยปรากฏในนวนิยายหลายเรื่อง เช่น The Once and Future King ของ ที. เอช. ไวท์ (ค.ศ. 1958) The Mists of Avalon ของ มาเรียน ซิมเมอร์ แบรดลีย์ (ค.ศ. 1982) รวมถึงในการ์ตูนสั้นเรื่อง Prince Valiant (ตั้งแต่ ค.ศ. 1937 เป็นต้นมา) เทนนีสันได้เรียบเรียงนิยายโรแมนซ์เกี่ยวกับอาร์เทอร์ของเขาเสียใหม่เพื่อให้เหมาะสมกับยุคสมัย งานเขียนหลาย ๆ เรื่องก็ได้ดัดแปลงเนื้อหาให้มีความทันสมัยมากขึ้นด้วย เช่นในนิทานของแบรดลีย์ มีบทบาทของฝ่ายสตรีในตำนานอาร์เทอร์มากขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับงานเขียนเกี่ยวกับตำนานอาร์เทอร์ในยุคกลาง อาร์เทอร์แบบโรแมนซ์ยังกลายเป็นที่นิยมอย่างมากในโลกภาพยนตร์ ละครเพลงเรื่อง Camelot ซึ่งมีเนื้อหาหลักเกี่ยวกับความรักระหว่างแลนเซอล็อตกับกวินิเวียร์ ได้ดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ในปี ค.ศ. 1967 ขนบแบบโรแมนซ์ของตำนานอาร์เทอร์กลายเป็นที่นิยมและประสบความสำเร็จอย่างมาก ด้วยผลงานของโรเบิร์ต เบรสสัน เรื่อง Lancelot du Lac (ค.ศ. 1974) งานของอีริค โรห์เมอร์ เรื่อง Perceval le Gallois (ค.ศ. 1978) รวมไปถึงผลงานภาพยนตร์แฟนตาซีของจอห์น บัวร์แมน เรื่อง (ค.ศ. 1981)
ตำนานพระเจ้าอาร์เทอร์ในยุคใหม่นำเรื่องราวในขนบแบบโรแมนซ์มาจินตนาการใหม่ ตีความใหม่ และเล่าใหม่ ไม่เพียงเท่านั้น ภาพของอาร์เทอร์ยังได้หวนกลับไปเป็นวีรบุรุษที่แท้จริงแห่งคริสต์ศตวรรษที่ 5 นอกเหนือไปจากภาพพจน์แบบโรแมนซ์อีกด้วย จากข้อสังเกตของเทย์เลอร์และบริวเวอร์ วรรณกรรมในยุคใหม่ได้หวนกลับไปยังขนบในยุคกลางของเจฟฟรีย์แห่งมอนมัท และ Historia Brittonum รูปแบบเช่นนี้เริ่มเด่นชัดขึ้นเรื่อย ๆ ในวรรณกรรมอาร์เทอร์ระหว่างช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งบทบาทของอาร์เทอร์ในการเป็นผู้นำในการต่อต้านการรุกรานของชาวเยอรมันเพื่อปกป้องเกาะบริเตน ปี ค.ศ. 1942 ละครวิทยุเรื่อง The Saviours ของเคลเมนซ์ เดน ได้ใช้ภาพของอาร์เทอร์ในประวัติศาสตร์เพื่อปลูกฝังจิตวิญญาณแห่งความรักชาติและต่อต้านศัตรูผู้รุกราน บทละครเรื่อง The Long Sunset ของโรเบิร์ต เชอริฟฟ์ ในปี ค.ศ. 1955 วาดภาพอาร์เทอร์เป็นผู้นำยุคบริเตนสมัยหลังโรมัน ที่ต่อต้านการรุกรานของชาวเยอรมัน แนวโน้มเหล่านี้ทำให้อาร์เทอร์มีบทบาทและตัวตนในทางประวัติศาสตร์มากขึ้น รูปแบบของวรรณกรรมในยุคนี้จะเป็นแบบกึ่งประวัติศาสตร์กึ่งแฟนตาซี นอกจากนี้ ภาพของพระเจ้าอาร์เทอร์ในฐานะนักรบและวีรบุรุษแห่งคริสต์ศตวรรษที่ 5 ยังได้รับการสร้างเป็นภาพยนตร์หลาย ๆ เรื่อง เรื่องที่โด่งดังได้แก่ (ค.ศ. 2004) และ (ค.ศ. 2007)
พระเจ้าอาร์เทอร์ ยังได้กลายเป็นต้นแบบของคุณธรรมในโลกยุคใหม่ ในราวคริสต์ทศวรรษ 1930 มีการก่อตั้งภาคีอัศวินโต๊ะกลมขึ้นในประเทศอังกฤษ เพื่อเชิดชูวีรบุรุษชาวคริสเตียนและเกียรติยศอันโดดเด่นของพระเจ้าอาร์เทอร์ ในสหรัฐอเมริกา เด็กชายหญิงหลายแสนคนได้เข้าร่วมในกลุ่มยุวชนอาร์เทอร์ซึ่งมีอยู่อย่างมากมาย เช่น กลุ่มอัศวินแห่งอาร์เทอร์ (Knights of King Arthur) ซึ่งมีการประชาสัมพันธ์และยกย่องอาร์เทอร์กับตำนานของพระองค์ให้เป็นแบบอย่างอันดีงาม อย่างไรก็ดี แม้อาร์เทอร์จะโดดเด่นอย่างมากในวัฒนธรรมยุคใหม่ แต่เขาก็ค่อย ๆ กลืนหายเข้าไปกับวัฒนธรรมร่วมสมัยมากยิ่งขึ้น ชื่อของเขากลายไปเป็นชื่อสิ่งของ อาคาร และสถานที่ต่าง ๆ นอร์ริส เจ. เลซี ได้ตั้งข้อสังเกตว่า "ความนิยมอย่างโดดเด่นของอาร์เทอร์ดูจะมีข้อจำกัดอยู่ ซึ่งไม่น่าประหลาดใจ เขากลายไปเป็นส่วนหนึ่งของงานศิลปะและการตั้งชื่อ แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่า บุรุษในตำนานเมื่อหลายศตวรรษมาแล้วได้ผสานกลมกลืนเข้าไปในวัฒนธรรมยุคใหม่ในทุกระดับแล้ว"
ดูเพิ่ม
- เก้าผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งมีชื่ออาร์เทอร์เป็นหนึ่งในนั้น
อ้างอิง
- Barber, Richard (2004) , The Holy Grail: Imagination and Belief, London: Allen Lane, .
- Higham, N. J. (2002) , King Arthur, Myth-Making and History, ลอนดอน: Routledge, .
- ไม่สามารถระบุได้ว่า บทกวี Y Gododdin อยู่ในยุคสมัยใด บทกวีบรรยายถึงเหตุการณ์ในคริสต์ศตวรรษที่ 6 แต่ใช้รูปแบบการสะกดแบบยุคคริสต์ศตวรรษที่ 9-10 ส่วนต้นฉบับที่รอดมาถึงปัจจุบันมีอายุอยู่ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 13
- Charles-Edwards, Thomas M. (1991) , "The Arthur of History", in Bromwich, Rachel; Jarman, A. O. H.; Roberts, Brynley F., The Arthur of the Welsh, Cardiff: University of Wales Press, pp. 15–32, .
- Sims-Williams, Patrick (1991) , "The Early Welsh Arthurian Poems", in Bromwich, Rachel; Jarman, A. O. H.; Roberts, Brynley F., The Arthur of the Welsh, Cardiff: University of Wales Press, pp. 33–71, .
- Thorpe, Lewis, ed. (1966) , Geoffrey of Monmouth, The History of the Kings of Britain, Harmondsworth: Penguin, OCLC 3370598.
- Padel, O. J. (1994) , "The Nature of Arthur", Cambrian Medieval Celtic Studies (27) : 1–31 .
- Dumville, D. N. (1986) , "The Historical Value of the Historia Brittonum", Arthurian Literature (6) : 1–26 .
- Green, Thomas (2007b) , Concepts of Arthur, Stroud: Tempus, .
- Charles-Edwards, Thomas M. (1991) , "The Arthur of History", in Bromwich, Rachel; Jarman, A. O. H.; Roberts, Brynley F., The Arthur of the Welsh, Cardiff: University of Wales Press, pp. 15–32, .
- Morris, John (1973) , The Age of Arthur: A History of the British Isles from 350 to 650, New York: Scribner, .
- Myres, J. N. L. (1986) , The English Settlements, Oxford: Oxford University Press, .
- Gildas, De Excidio Britanniae, chapter 26.
- Pryor, Francis (2004) , Britain AD: A Quest for England, Arthur, and the Anglo-Saxons, London: HarperCollins, .
- Bede, Historia ecclesiastica gentis Anglorum, Book 1.16.
- Dumville, D. N. (1977) , "Sub-Roman Britain: History and Legend", History 62 (62) : 173–92, doi:10.1111/j.1468-229X.1977.tb02335.x.
- Green, Thomas (1998) , "The Historicity and Historicisation of Arthur", Thomas Green's Arthurian Resources, เก็บข้อมูลเมื่อ 2008-05-22 .
- Historia Brittonum 56; Annales Cambriae 516, 537.
- Ashley, Michael (2005) , The Mammoth Book of King Arthur, London: Robinson, .
- Heroic Age (Spring/Summer, 1999) , "Early Medieval Tintagel: An Interview with Archaeologists Rachel Harry and Kevin Brady" 2014-08-21 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, The Heroic Age (1).
- นักวิชาการยุคใหม่เห็นว่า ทางข้ามกลาสเตินเบอรี่เป็นผลงานปลอมแปลงที่ทำขึ้นในตอนปลายคริสต์ศตวรรษที่ 12 ดูเพิ่มใน Rahtz 1993 และ Carey 1999.
- มีบุคคลมากมายที่คาดว่าอาจจะเป็นอาร์เทอร์ ตั้งแต่ ลูเซียส อาร์ตอเรียส แคสตุส นายทหารชาวโรมันที่ปฏิบัติหน้าที่ในบริเตนในคริสต์ศตวรรษที่ 2 (ดู Littleton & Malcor 1994) ไปจนถึงผู้ชิงบัลลังก์โรมัน เช่น หรือเจ้าครองนครยุคบริเตนสมัยหลังโรมัน เช่น Riotamus (ดู Ashe 1985) , Ambrosius Aurelianus (ดู Reno 1996) , Owain Ddantgwyn (ดู Phillips & Keatman 1992) , และ Athrwys ap Meurig (ดู Gilbert, Wilson & Blackett 1998)
- Malone, Kemp (May, 1925) , "Artorius", Modern Philology 22 (4) : 367–74, doi:10.1086/387553, เก็บข้อมูลเมื่อ 2008-05-22 . (JSTOR subscription required for online access.)
- Koch, John T. (1996) , "The Celtic Lands", in Lacy, Norris J., Medieval Arthurian Literature: A Guide to Recent Research, นิวยอร์ก: Garland, pp. 239–322, .
- Harrison, Henry (1996) [1912]. Surnames of the United Kingdom: A Concise Etymological Dictionary. Genealogical Publishing Company. . เก็บข้อมูลเมื่อ 2008-10-21.
- Griffen, Toby D. (8 April 1994) (PDF) , , Celtic Studies Association of North America, เก็บข้อมูลเมื่อ 2008-05-22 . Conference paper.
- Williams, Sir Ifor, ed. (1937) (เป็นภาษาเวลส์) , Canu Aneirin, Caerdydd [คาร์ดิฟฟ์]: Gwasg Prifysgol Cymru [สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยแห่งเวลส์], OCLC 13163081 .
- Charles-Edwards, Thomas M. (1991) , "The Arthur of History", in Bromwich, Rachel; Jarman, A. O. H.; Roberts, Brynley F., The Arthur of the Welsh, คาร์ดิฟฟ์: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยแห่งเวลส์, pp. 15–32, .
- บทแปลกวีนิพนธ์ชุดนี้แบบออนไลน์ไม่ทันสมัยและมีความผิดพลาดค่อนข้างมาก โปรดดูบทแปลฉบับเต็มใน Haycock 2007, pp. 293–311, และบทวิพากษ์วิจารณ์ส่วนที่เกี่ยวข้องกับอาร์เทอร์ ใน Green 2007b, p. 197.
- ดูเพิ่มใน Green 2007b, pp. 54–67 และ Budgey 1992 ซึ่งได้รวบรวมคำแปลต่าง ๆ เอาไว้ด้วย
- Koch, John T.; Carey, John (1994) , The Celtic Heroic Age: Literary Sources for Ancient Celtic Europe and Early Ireland and Wales, Malden, MA: Celtic Studies Publications, .
- For a discussion of the tale, see Bromwich & Evans 1992; see also Padel 1994, pp. 2–4; Roberts 1991a; and Green 2007b, pp. 67–72 and chapter three.
- Bromwich, Rachel (1978) , Trioedd Ynys Prydein: The Welsh Triads, คาร์ดิฟฟ์: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยแห่งเวลส์, . Second ed.
- Roberts, Brynley F. (1991a) , "Culhwch ac Olwen, The Triads, Saints' Lives", in Bromwich, Rachel; Jarman, A. O. H.; Roberts, Brynley F., The Arthur of the Welsh, คาร์ดิฟฟ์: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยแห่งเวลส์, pp. 73–95, .
- ฉบับแปลดูใน Coe & Young 1995, pp. 22–27. สำหรับนิทานเกี่ยวกับกลาสเตินเบอรี่และโลกหลังความตาย ดูใน Sims-Williams 1991, pp. 58–61.
- ดู Coe & Young 1995, pp. 26–37
- อ่านเพิ่มเติมใน Ashe 1985 เกี่ยวกับความพยายามจะใช้บันทึกชีวประวัตินี้เป็นแหล่งข้อมูลทางประวัติศาสตร์
- White, Terence Hanbury (1958) , The Once and Future King, London: Collins, OCLC 547840.
- Thorpe, Lewis, ed. (1966) , Geoffrey of Monmouth, The History of the Kings of Britain, Harmondsworth: Penguin, OCLC 3370598.
- Geoffrey of Monmouth, Historia Regum Britanniae Book 8.19–24, Book 9, Book 10, Book 11.1–2
- Roberts, Brynley F. (1991b) , "Geoffrey of Monmouth, Historia Regum Britanniae and Brut Y Brenhinedd", in Bromwich, Rachel; Jarman, A. O. H.; Roberts, Brynley F., The Arthur of the Welsh, คาร์ดิฟฟ์: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยแห่งเวลส์, pp. 98–116, .
- Bromwich, Rachel (1978) , Trioedd Ynys Prydein: The Welsh Triads, คาร์ดิฟฟ์: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยแห่งเวลส์, . Second ed.
- Brooke, Christopher N. L. (1986) , The Church and the Welsh Border in the Central Middle Ages, Woodbridge: Boydell, .
- Ashe, Geoffrey (1985) , The Discovery of King Arthur, Garden City, NY: Anchor Press/Doubleday, .
- Padel, O. J. (Fall, 1995) , "Recent Work on the Origins of the Arthurian Legend: A Comment", Arthuriana 5 (3) : 103–14.
- Crick, Julia C. (1989) , The "Historia regum Britanniae" of Geoffrey of Monmouth. 3: A Summary Catalogue of the Manuscripts, เคมบริดจ์: บริวเวอร์, .
- Ashe, Geoffrey (1996) , "Geoffrey of Monmouth", in Lacy, Norris, The New Arthurian Encyclopedia, นิวยอร์ก: Garland, pp. 179–82, .
- Stokstad, M. (1996) , "Modena Archivolt", in Lacy, Norris J., The New Arthurian Encyclopedia, นิวยอร์ก: Garland, pp. 324–326, .
- Bromwich, Rachel (1983) , "Celtic Elements in Arthurian Romance: A General Survey", in Grout, P. B.; Diverres, Armel Hugh, The Legend of Arthur in the Middle Ages, วู้ดบริดจ์: Boydell and Brewer, pp. 41–55, .
Bromwich, Rachel (1991) , "First Transmission to England and France", in Bromwich, Rachel; Jarman, A. O. H.; Roberts, Brynley F., The Arthur of the Welsh, คาร์ดิฟฟ์: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยแห่งเวลส์, pp. 273–98, . - Morris, Rosemary (1982) , The Character of King Arthur in Medieval Literature, เคมบริดจ์: บริวเวอร์, .
- ดูตัวอย่างใน Geoffrey of Monmouth, Historia Regum Britanniae Book 10.3.
- Padel, O. J. (2000) , Arthur in Medieval Welsh Literature, Cardiff: University of Wales Press, .
- Lacy, Norris J. (1996a) , "Character of Arthur", in Lacy, Norris J., The New Arthurian Encyclopedia, นิวยอร์ก: Garland, pp. 16–17, .
- Burgess, Glyn S.; Busby, Keith, eds. (1999) , The Lais of Marie de France, ลอนดอน: เพนกวิน, . 2nd. ed.
- Lacy, Norris J. (1996b) , "Chrétien de Troyes", in Lacy, Norris J., The New Arthurian Encyclopedia, นิวยอร์ก: Garland, pp. 88–91, .
- Kibler, William; Carroll, Carleton W., eds. (1991) , Chrétien de Troyes: Arthurian Romances, ลอนดอน: เพนกวิน, .
- Roach, William, ed. (1949–83) , The Continuations of the Old French 'Perceval' of Chrétien de Troyes, ฟิลาเดลเฟีย: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยแห่งฟิลาเดลเฟีย, OCLC 67476613 . 5 vols.
- Ulrich, von Zatzikhoven (2005) , Lanzelet, นิวยอร์ก: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย, . Trans. Thomas Kerth.
- ดูเพิ่มใน Jones & Jones 1949 สำหรับงานแปลวรรณกรรมทั้งสามเรื่องนี้
- Lacy, Norris J. (1992–96) , Lancelot-Grail: The Old French Arthurian Vulgate and Post-Vulgate in Translation, นิวยอร์ก: Garland, . 5 vols.
- ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนีได้จาก Burns, E. Jane (1985) , Arthurian Fictions: Re-reading the Vulgate Cycle, โคลัมบัส: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยแห่งรัฐโอไฮโอ, .
- อ่านเรื่องเกี่ยวกับมาโลรีและงานเขียนของเขาได้จาก : Field, P. J. C. (1993) , The Life and Times of Sir Thomas Malory, เคมบริดจ์: บริวเวอร์, .; Field, P. J. C. (1998) , Malory: Texts and Sources, เคมบริดจ์: บริวเวอร์, .
- Vinaver, Sir Eugène, ed. (1990) , The Works of Sir Thomas Malory, ออกซฟอร์ด: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด, . Third, revised, ed.
- Carley, J. P. (1984) , "Polydore Vergil and John Leland on King Arthur: The Battle of the Books", Interpretations (15) : 86–100.
- Parins, Marylyn Jackson (1995) , Sir Thomas Malory: The Critical Heritage, ลอนดอน: Routledge, .
- Ashe, Geoffrey (1968) , "The Visionary Kingdom", in Ashe, Geoffrey, The Quest for Arthur's Britain, ลอนดอน: Granada,
- Green, Thomas (August, 2007) , "Tom Thumb and Jack the Giant Killer: Two Arthurian Fairytales?", Folklore 118 (2) : 123–40, doi:10.1080/00155870701337296. (EBSCO subscription required for online access.)
- Wordsworth, William (1835) , "The Egyptian Maid, or, The Romance of the Water-Lily", The Camelot Project, The University of Rochester, เก็บข้อมูลเมื่อ 2008-05-22.
- ดูรายละเอียดใน : Potwin, L. S. (1902) , "The Source of Tennyson's 'The Lady of Shalott'", Modern Language Notes 17 (8) : 237–239, doi:10.2307/2917812. ว่าด้วยแหล่งข้อมูลที่เทนนีสันใช้ในการประพันธ์ผลงาน
- Taylor, Beverly; Brewer, Elisabeth (1983) , The Return of King Arthur: British and American Arthurian Literature Since 1800, เคมบริดจ์: บริวเวอร์, .
- Simpson, Roger (1990) , Camelot Regained: The Arthurian Revival and Tennyson, 1800–1849, เคมบริดจ์: บริวเวอร์, .
- Staines, D. (1996) , "Tennyson, Alfred Lord", in Lacy, Norris J., The New Arthurian Encyclopedia, นิวยอร์ก: Garland, pp. 446–449, .
- Twain, Mark (1889) , A Connecticut Yankee in King Arthur's Court, นิวยอร์ก: Webster, OCLC 11267671.
- Watson, Derek (2002) , "Wagner: Tristan und Isolde and Parsifal", in Barber, Richard, King Arthur in Music, เคมบริดจ์: D. S. Brewer, pp. 23–34, .
- Mancoff, Debra N. (1990) , The Arthurian Revival in Victorian Art, นิวยอร์ก: Garland, .
- Workman, L. J. (1994) , "Medievalism and Romanticism", Poetica (39–40) : 1–44.
- Hardy, Thomas (1923) , The Famous Tragedy of the Queen of Cornwall at Tintagel in Lyonnesse: A New Version of an Old Story Arranged as a Play for Mummers, in One Act, Requiring No Theatre or Scenery, ลอนดอน: Macmillan, OCLC 1124753.
- Binyon, Laurence (1923) , Arthur: A Tragedy, ลอนดอน: Heinemann, OCLC 17768778.
- Masefield, John (1927) , Tristan and Isolt: A Play in Verse, ลอนดอน: Heinemann, OCLC 4787138.
- Eliot, Thomas Stearns (1949) , The Waste Land and Other Poems, ลอนดอน: Faber and Faber, OCLC 56866661.
- White, Terence Hanbury (1958) , The Once and Future King, ลอนดอน: Collins, OCLC 547840.
- Bradley, Marion Zimmer (1982) , The Mists of Avalon, นิวยอร์ก: Knopf, .
- Lagorio, V. M. (1996) , "Bradley, Marion Zimmer", in Lacy, Norris J., The New Arthurian Encyclopedia, นิวยอร์ก: Garland, pp. 57, .
- Harty, Kevin J. (1996) , "Films", in Lacy, Norris J., The New Arthurian Encyclopedia, นิวยอร์ก: Garland, pp. 152–155, .; Harty, Kevin J. (1997) , "Arthurian Film", Arthuriana/Camelot Project Bibliography, เก็บข้อมูลเมื่อ 2008-05-22.
- Thompson, R. H. (1996) , "English, Arthurian Literature in (Modern)", in Lacy, Norris J., The New Arthurian Encyclopedia, นิวยอร์ก: Garland, pp. 136–144, .
- ตัวอย่างเช่น: The Lantern Bearers (ค.ศ. 1959) และ Sword at Sunset (ค.ศ. 1963) ของโรสแมรี่ ซุตคลิฟฟ์; The Crystal Cave (1970) กับนิยายชุดต่อเนื่องของแมรี่ สจ๊วต; Firelord (1980) กับนิยายชุดต่อเนื่องของพาร์ค ก็อดวิน; Pendragon Cycle (1987–99) ของสตีเฟน ลอว์เฮด; The Coming of the King (1988) ของนิโคไล ตอลสตอย; Camulod Chronicles (1992–97) ของแจ็ค ไวท์; และ The Warlord Chronicles (1995–97) ของเบอร์นาร์ด คอร์นเวลล์ เป็นต้น ดูเพิ่มเติมใน
- ดูเพิ่มเกี่ยวกับ King Arthur และ The Last Legion จาก Internet Movie Database
- Thomas, Charles (1993) , Book of Tintagel: Arthur and Archaeology, ลอนดอน: Batsford, .
- Forbush, William Byron; Forbush, Dascomb (1915) , The Knights of King Arthur: How To Begin and What To Do, The Camelot Project at the University of Rochester, เก็บข้อมูลเมื่อ 2008-05-22.
- Lacy, Norris J. (1996c) , "Popular Culture", in Lacy, Norris J., The New Arthurian Encyclopedia, นิวยอร์ก: Garland, pp. 363–64, .
หนังสืออ่านเพิ่มเติม
- Ashe, Geoffrey (1985) , The Discovery of King Arthur, Garden City, NY: Anchor Press/Doubleday, .
- Budgey, A. (1992) , "'Preiddeu Annwn' and the Welsh Tradition of Arthur", Celtic Languages and Celtic People: Proceedings of the Second North American Congress of Celtic Studies, held in Halifax, August 16–19, 1989, Halifax, Nova Scotia: D'Arcy McGee Chair of Irish Studies, Saint Mary's University, pp. 391–404, .
- Coe, John B.; Young, Simon (1995) , The Celtic Sources for the Arthurian Legend, Felinfach, Lampeter: Llanerch, .
- Haycock, M. (2007) , Legendary Poems from the Book of Taliesin, Aberystwyth: CMCS, .
- Gilbert, Adrian; Wilson, Alan; Blackett, Baram (1998) , The Holy Kingdom, London: Corgi, .
- Green, Thomas (2007b) , Concepts of Arthur, Stroud: Tempus, .
- Jones, Gwyn; Jones, Thomas, eds. (1949) , The Mabinogion, London: Dent, OCLC 17884380.
- Phillips, Graham; Keatman, Martin (1992) , King Arthur: The True Story, London: Century, .
- Reno, Frank D. (1996) , The Historic King Arthur: Authenticating the Celtic Hero of Post-Roman Britain, Jefferson, NC: McFarland, .
แหล่งข้อมูลอื่น
- Blaenau Gwent Borough County Council 2008-05-12 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เว็บไซต์แสดงรายละเอียดเกี่ยวกับตำนานพระเจ้าอาร์เทอร์ของชาวเวลส์ (อังกฤษ)
- Arthurian Resources: King Arthur, History and the Welsh Arthurian Legends เว็บไซต์ที่มีเนื้อหาวิชาการอย่างละเอียด มีบทความที่เขียนโดยนักวิชาการจำนวนมาก โดยเฉพาะบทความโดย โทมัส กรีน แห่งมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด (อังกฤษ)
- Arthuriana วารสารวิชาการเพียงฉบับเดียวที่ให้ความสำคัญเกี่ยวกับตำนานพระเจ้าอาร์เทอร์ เป็นแหล่งข้อมูลและรวมลิงก์ที่น่าสนใจมากมาย (อังกฤษ)
- Celtic Literature Collective รวมบทความและงานแปลตำนานยุคกลางของเวลส์จำนวนมาก ตำนานโดยมากอ้างอิงถึงพระเจ้าอาร์เทอร์ด้วย (อังกฤษ)
- แหล่งรวมบทความเกี่ยวกับพระเจ้าอาร์เทอร์อีกแห่งหนึ่งโดยเหล่าแฟนพันธุ์แท้ (อังกฤษ)
- Ford, David Nash King Arthur, General of the Britons จาก Britannia History (อังกฤษ)
- The Camelot Project, มหาวิทยาลัยโรเชสเตอร์ มีรายการหนังสือที่ทรงคุณค่ามากมาย พร้อมทั้งบทความเกี่ยวกับอาร์เทอร์ สามารถดาวน์โหลดได้ฟรี (อังกฤษ)
- The Heroic Age: A Journal of Early Medieval Northwestern Europe วารสารวิจารณ์วรรณกรรมแบบออนไลน์ ซึ่งมีบทความเกี่ยวกับตำนานพระเจ้าอาร์เทอร์ (อังกฤษ)
- The Medieval Development of Arthurian Literature, h2g2, BBC. (อังกฤษ)
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
phraecaxarethxr xngkvs King Arthur epnkstriyxngkvsphumichuxesiyngodngdngintananelakhaninthanawirburusinyukhklang sungidpkpxngekaabrietncakkarrukrankhxngchawaesksninchwngplaykhriststwrrsthi 5 thungtnkhriststwrrsthi 6 raylaexiydswnihyekiywkbphraecaxarethxrpraktxyuineruxngelakhan tananphunban aelawrrnkrrmthiaetngkhun nkprawtisastryngkhngthkethiyngknxyuwaphraecaxarethxrmitwtnxyuinprawtisastrcringhruxim eruxngrawthangprawtisastrthiekiywkhxngkbxarethxrkhxnkhangkracdkracayxyutamaehlngkhxmultang echn Annales Cambriae Historia Brittonum aelainbnthukkhxng nxkcaknichuxkhxng xarethxr yngpraktxyuinbthkwiekaaekhlayaehng echninkwiniphnth Y Gododdin epntnruppnphraecaxarethxr thiobsth Hofkirche Innsbruck xxsetriy Albrecht Durer xxkaebb aela Peter Vischer phuphx srangkhuninkhristthswrrs 1520 phraecaxarethxrintananidphthnakhuncnklayepnbukhkhlthinasnicinradbnanachatikdwyphlnganekhiynxnepiymdwycintnakaraelakhwamehnuxcringkhxngecffriyaehngmxnmth inkhriststwrrsthi 12 eruxng Historia Regum Britanniae prawtikstriyaehngbrietn aetkminithanaelakwiniphnthkhxngewlsaelaibrtnhlayeruxngthiekiywkhxngkbphraecaxarethxr aelamixayuekaaekkwanganchindngklaw innganehlann xarethxrepnthngnkrbphuyingihyphupkpxngbrietniwcakstruthngthiepnmnusyaelasingehnuxmnusy bangkhrngkepnphuwiessintananphunban thngmieruxngelathungolkhlngkhwamtayintananewls khux Annwn dwy aetimxacsrupidwaphlngankhxngecffriy sungekhiynesrcinpi kh s 1138 idddaeplngmacaktananekaaekdngedimehlannmaknxyephiyngid thngokhrngeruxng ehtukarn aelabukhlikkhxngphraecaxarethxr rwmthungbukhkhltang intananxarethxr idepliynaeplngiperuxy inwrrnkrrmkhxngaetlayukhodythiimmieruxngidsxdkhlxngtxngknxyangsmburn aetnganekhiynchbbkhxngecffriythuxidwaepncuderimtnkhxngwiwthnakarkhxngtananinyukhtx ma ecffriyphrrnnaphaphkhxngxarethxrepnkstriyaehngbrietnphutxsutanthankarrukrankhxngphwkaesksn aelakxrangsrangxanackraehngbrietn ixraelnd ixsaelnd nxrewy aelakxl xngkhprakxbtang cnaemehtukarnthipraktxyuinwrrnkrrmekiywkbxarethxrinchnhlnglwnekhypraktxyuin Historia khxngecffriymakxnthngnn echn yuethxr ephnaedrkxn phuepnbidakhxngxarethxr phxmdemxrlin dabexksaekhliebxr kaenidkhxngxarethxrthithinaethecl karrbkhrngsudthaykbmxredrdthikhmlann rwmthungkarphxnphkinbnplaythiaexwalxn nkekhiynchawfrngessinyukhkhriststwrrsthi 12 chux ekhretiyng edx thrw epnphuephimbthbathkhxngaelnesxlxtaelacxkskdisiththiekhaipintanan aelarierimeruxngrawechingoraemnskhxngxarethxrsungtxmaklayepnaeknkhxngwrrnkrrminyukhklang innganekhiynphasafrngesschudni cudhlkkhxngeruxngmkcaekhluxnipcaktwxarethxr ipyngtwlakhrxun ineruxng echnbrrdaxswinotaklmthnghlay epntn wrrnkrrmekiywkbxarethxrepnthiniymmatlxdyukhklang aelakhxy esuxmkhwamniymlngipemuxphaniphlaystwrrs wrrnkrrmxarethxridrbkhwamniymklbkhunmaxikkhrngemuxekhasukhriststwrrsthi 19 aelayunyngxyumatlxdcnthungstwrrsthi 21 idrbkarddaeplngipyngsuxtang thnginswnkhxngnganwrrnkrrmexng hruxddaeplngipepnphaphyntr lakhrothrthsn lakhrwithyu kartun aelasuxxun xikmakmaykhxethccringinprawtisastrAnnales Cambriae bnthukinkhriststwrrsthi 10 inphaphepnchbbkhdlxkrawkhristthswrrs 1100 phumihlngthiaethcringthangprawtisastrkhxngtananphraecaxarethxrepnthithkethiynginhmunkwichakarmaepnewlananaelw aenwkhidhnungsungxangxingtam Historia Brittonum prawtisastraehngbrietn aela Annales Cambriae phngsawdarewls echuxwaxarethxrepnbukhkhlthimitwtncringinprawtisastr odyepnhwhnankrbinyukh sungnakarrbpxngknkarrukrankhxngchawaexngokl aesksn inchwngewlaidewlahnungrahwangplaykhriststwrrsthi 5 thungtnkhriststwrrsthi 6 in Historia Brittonum mienuxkhwamthibnthukdwyphasalatininkhriststwrrsthi 9 sungepnlaymuxkhxngnkbwchchawewlschux Nennius idbnthukraylaexiydkarrb 12 khrngkhxngxarethxrexaiw incanwnnirwmthung hruxkarrbthiphuekhabadxn sungrabuiwwa xarethxridtxsutamlaphngdwymuxepla aelasngharstruipthung 960 khn xyangirkdi phlkarsuksawicyinyukhhlngidtngkhxsngsytxkhwamnaechuxthuxkhxngbnthuk Historia Brittonum wacathuxepnaehlngkhxmulthangprawtisastrinyukhnnidhruxim exksarxikchudhnungthichwysnbsnunkhxmulwa xarethxrmitwtnxyucringinprawtisastr khuxbnthuk Annales Cambriae inkhriststwrrsthi 10 sungechuxmoyngxarethxrkbkarrbthiphuekhabadxnechnediywkn inbnthukrabuwakarrbniekidkhunraw kh s 516 518 nxkcakniyngklawthungkarrbthikhmlann thisungthngxarethxraelamxredrdthuksngharinrawpi kh s 537 539 raylaexiydehlanichwysnbsnunyunyntxehtukarnin Historia Brittonum aelayunynwaxarethxridekharwminkarrbthiphuekhabadxncring xyangirkdi nganwicyinchnhlngphbwa enuxhain Annales Cambriae erimtntngaetplaykhriststwrrsthi 8 swnenuxhathiekiywkhxngkbtananphraecaxarethxridrbkarekhiynephimetimekhaipphayhlng imidxyuintwbnthukdngedim khadwanacaekhiynephimekhaipinrawkhriststwrrsthi 10 dngnncungepnipidwaehtukarnthiphuekhabadxnnnnamacak Historia Brittonum nnexng emuxkhadhlkthansnbsnunthihnkaennephiyngphx nkprawtisastrinyukhhlngodymakcungimnbwaxarethxrepnhnunginkstriythimitwtncring nkprawtisastr othms chals exdewird klawwa tamhlkthanethathimixyu bangkhnxacklawidwamixarethxrxyuinprawtisastrcring aet nkprawtisastrimxacrbrxngthanaid ihekhaid aenwonminyukhpccubnkhxnkhangipthangthiimyxmrbtwtnkhxngxarethxrmakyingkhun khnathinkprawtisastryukhkxncakhxngicintwxarethxrnxykwa nkprawtisastr cxhn mxrris idrwmexakarkhrxngrachythiepnthiruckkhxngphraecaxarethxrexaiwinhnngsuxladbehtukarnprawtisastrixraelndaelabrietnsmyhlngormnkhxngekha chux The Age of Arthur 1973 xyangirkdiekhakmihlkthannxyekinkwacayunynidwaxarethxrmitwtnxyucring phraecaxarethxrinphathxfrngess cakthvsdikhangtnthaihmixikaenwkhidhnungthiotaeyngwa xarethxrimmitwtnxyucringinprawtisastrodysineching nkobrankhdi onewll emiyers wicarn Age of Arthur khxngmxrriswa immibukhkhlidinkrxbprawtisastraelatananthicathaihnkprawtisastresiyewlamakethani nganekhiyninkhriststwrrsthi 6 khxng chux De Excidio Britanniae bnkhwamphinaskhxngbrietn sungepnbnthukkarrbthiphuekhabadxnthiiklekhiyngewlaekidehtukarnmakthisud idxthibaythungraylaexiydinkarrbkhrngnn aetimidexythungxarethxrely imekhymichuxkhxngxarethxrpraktin hruxinbnthukid rahwang kh s 400 820 ethathiehluxrxdmacnthungpccubn aehlngkhxmulsakhyxikaehnghnungkhux prawtisastrekiywkbsasnakhxngchnxngkvs bnthukkhxngnkbuybid inchwngtnkhriststwrrsthi 8 sungelathungehtukarnkarrbthiphuekhabadxnechnkn kimidexythungchuxkhxngxarethxr nkprawtisastr edwid dmwill ekhiyniwwa phmehnwaerasamarthtdekha xarethxr thingipidely ekhakhrxbkhrxngphunthiinhnngsuxprawtisastrdwyaenwkhidthiwa emuxmikhwnifyxmmiif aetkhxethccringkkhuximmihlkthanthangprawtisastrid ekiywkbxarethxrely eratxngtdekhaxxkipcakprawtisastrkhxngera aelathisakhyyingkwa txngtdekhaxxkipcakchuxhnngsuxkhxngera nkwichakarcanwnhnungehnwa aetedim xarethxr epnwirburusinthisrangkhuninnithanphunban hruxxacepnethphydaekhltikxngkhidxngkhhnungthithuklumeluxnip phuekhyidrbkarykyxngdwywirkrrmthiekidkhuncringinxditkalnanmaaelw odyepriybethiybkbethphxachainprawtisastrxanackrekhnt khux aela sungkepnbukhkhlthiwicarnthkethiyngthungkhwammitwtnechnediywkn nkbuybidtngkhxsnnisthanekiywkbbukhkhlintananehlaniwaepnphumibthbathxyuinprawtisastrkarsurbkbaexngokl aesksn inthangtawnxxkkhxngbrietninkhriststwrrsthi 5 xarethxrinbnthukekaaekimichkstriy thngin Historia hrux Annales imideriykekhawa rex aeteriykwa dux hrux dux bellorum sunghmaythung phunainkarrb bnthukprawtisastrinyukhhlngckrwrrdiormnkhxnkhangkracdkracay dngnnkaryunynkhwammitwtnhruximmitwtnkhxngxarethxrcungyngimxacsrupidxyangchdecn misthanthihlayaehngthiidrbkarrabuwaepnkhxng yukhxarethxr tngaetrawkhriststwrrsthi 12 aetnkobrankhdicayxmrbchuxehlannktxemuxmirxycarukhruxhlkthanthichdaecngethann mikxnhinthiidchuxwa silaxarethxr Arthur stone khnphbinpi kh s 1998 xyuthamklangsakprkhkphngkhxngprasath Tintagel inkhxrnwxll sungmixayuinkhriststwrrsthi 6 xyangaennxn aetcarukhlkthanxun ekiywkbxarethxr rwmthungthangkhamklasetinebxri duehmuxnwacaepnsingthiplxmaeplngkhunma aemcamihlkthanaelabukhkhlinprawtisastrthibngchithungtwtnkhxngxarethxr aetkimmihlkthanidcahnkaennephiyngphxthicarbrxngtwtnkhxngekhaidcring ekiywkbchuxtnkaenidkhxngchux xarethxr inphasaewls yngkhngepnpraednthkethiyngknxyu bangechuxwamacakchuxtrakulinphasalatinwa Artorius sungraksphthyngkhlumekhruximchdecn bangkesnxwanacamacakkhawa arth inphasaewls aeplwa hmi odymacakkhawa art ur hrux Arto uiros hmaythung mnusyhmi thvsdiniyngduyakcaechuxid karthkethiyngyngkhrxbkhlumipthungchuxxun thiekiywkhxngkb xarethxr Arthur hrux Arturus inexksarekiywkbxarethxrthiepnphasalatindngedim imekhypraktkhawa Artorius xyuely thwaniyngmiichehtuphlthicatdkhawa Artorius xxkip ephraakhaniemuxaeplngipepnphasaewlskcasakdwa Art h ur aenwkhidthiepnipidesnxody cxhn khxk klawwa aehlngxangxingphasalatinthihlngehluxxyuekiywkb xarethxr inprawtisastr smmutiwaekhamichuxwa Artorius aelamitwtnxyucring catxngmixayuhlngcakkhriststwrrsthi 6 epntnma yngmixikthvsdihnungthitangxxkip esnxwa chux xarethxr nacamacakkhawa xarkhturus Arcturus sungepnchuxdawvksswanginklumdawkhneliyngstw xyuiklklumdawhmiihy chuxnimikhwamhmaywa phuphithkshmi khawa xarkhturus inphasalatinkhlassikemuxaeplngipepnphasaewls ksamarthsakdidwa Art h ur echnediywkn emuxphicarnacakkhwamswangkhxngdwngdawaelataaehnngkhxngmnbnfakfa inthanaphuphithksklumdawhmiihy knacaechuxwanikhux phuphithkshmi aelaepn phuna inbrrdahmudawinklumdawkhneliyngstwdwy aetkhwamhmaythiaethcringkhxngraksphthepnxyangiryngimmikhatxbthichdecn cungidaetephiyngsnnisthanwa Artorius nacamikhwamhmaysuxthungtanankhxngxarethxrthiepnhwichlkthangprawtisastrmaxyangchanan aetphlkarsuksawicyemuximnanmaniphbwakhxsnnisthanniyngimhnkaennephiyngphx inthangtrngkham karphnkhawa xarethxr cak xarkhturus klbklayepnkarbngchiwa chuxxarethxrimidmikaenidmacakehtukarninprawtisastr aet othbi krifefn esnxwa nnnacaepnchuxeriykxikchuxhnungkhxng xarethxr inprawtisastr emuxklawinphasalatinxarethxrinwrrnkrrmyukhklangphusrangtwlakhr xarethxr inwrrnkrrmsungerakhunekhyknxyuthukwnni khux ecffriyaehngmxnmth innganekhiynprawtisastrcalxng chux Historia Regum Britanniae prawtikstriyaehngbrietn sungekhiynkhuninkhristthswrrs 1130 khxmulaelanganekhiyntang thiekiywkbxarethxrcaaebngxxkepn 2 phwk phwkhnungekhiynkhunkxn Historia khxngecffriy eriykwa phriklfriediyn pre Galfridian macakchuxphasalatinkhxngecffriykhux Galfridus swnxikphwkhnungkhuxnganthiekhiynkhunhlngngankhxngecffriy sungidrbxiththiphlmacakngankhxngecffriymaxyanghlikeliyngimid eriykwa klfriediyn hrux ophstklfriediyn post Galfridian khnbinwrrnkrrmphriklfriediyn hnasaenakhxng Y Gododdin hnunginnganekhiynewlsdngedimthimichuxesiyngmakthisud exythungchuxkhxng xarethxr kh s 1275 wrrnkrrmthiekaaekthisudthimikarexythung xarethxr macakaehlngkhxmulinewlsaelaibrtn odymkepnkarexythungxarethxrinwrrnkrrmaebb phriklfriediyn aebbkwang imidexythungxyangechphaaecaacngepneruxngrawexkeths mikarsarwcthangwichakaremuximnanmaniody ephuxaeykaeyarupaebbkarexythungxarethxrinwrrnkrrmehlannxxkmaidepn 3 rupaebb rupaebbthihnungkhux xarethxrepnnkrbxisra thahnathitxsupxngknbrietncakstruthngphayinaelaphaynxk struehlaniswnhnungepnmnusy echnphwkaesksn thiekhaidsurbdwydngmirabuxyuin Historia Brittonum aetswnmakaelwstruthiekhatxngtxsudwycaepnsingehnuxthrrmchati echn pisacaemwyks hmupacxmewthy mngkr pisachwsunkh yks aelaaemmd rupaebbthisxngkhux xarethxrepnwirburusinnithanphunbanaelaethphniyaymhscrrykhxngthxngthin ekhaepnphunakhxngklumwirburusphumixanacwiessthixasyxyuinpa swnrupaebbthisamepntananekaaekkhxngewls xarethxrintanannnmikhwamekiywkhxngkbolkhlngkhwamtayinkhwamechuxkhxngchawewls khux Annwn thanghnungekhaekhaocmtipxmprakarinolkaehngnnephuxkhnhathrphysmbtiaelachwyehluxehlankoths swnxikthanghnungmacakwrrnkrrmthiekaaekthisud ehlankrbkhxngekha rwmthungehlaethphecainlththiephaekndngedim phrryakhxngxarethxraelaxanackrkhxngekha lwnmikaenidmacakolkhlngkhwamtaythngsin hnunginngankwiniphnthewlsthixangxingthungxarethxrthimichuxesiyngmakthisud macakngankwiniphnthekiywkbkhwamtaykhxngwirburus chux Y Gododdin aetngkhuninrawkhriststwrrsthi 6 odykwichux Aneirin okhlngbthhnungklawykyxngsdudinkrbphuklahaythisngharstruipthung 300 khn aemcamihmayehtutxthaywa ekhamiichxarethxr aetkklawwawirkrrmkhxngekhainkhrawniyngimxacethiybkbkhwyklakhxngxarethxridelyY Gododdin erimepnthirucknbcaktnchbbnganekhiyninkhriststwrrsthi 13 dngnncungimxactrwcsxbidwakhxkhwamdngklawnixyuintnchbbdngedimhruxxyuinchbbkhdlxkeriyberiyngihm aetinkhwamehnkhxng cxhn khxk ehnwakhxkhwamthirabuewlatngaetkhriststwrrsthi 7 khunipimxacphisucnyunynid mibthkwihlaybthkhxng Taliesin kwithiechuxwamichiwitxyuinkhriststwrrsthi 6 exyxangthungxarethxriwechnkn aemwatnchbbbthkwiehlannmixayuxyuinrahwangkhriststwrrsthi 8 12 incanwnnirwmthung Kadeir Teyrnon ekaxikhxngecachay sungklawxangthung xarethxrphuidrbphr Preiddeu Annwn phuthalay Annwn sungchwysnbsnunkhxmulswnthixarethxrmikhwamekiywkhxngkbolkhlngkhwamtay aela Marwnat vthyr pen dragon bthxalyaehngyuethxr ephn drakxn sungxangthungkhwamklahaykhxngxarethxr aelaklawepnnythungkhwamsmphnthphx lukrahwangxarethxrkbyuethxr xnekidkhunkxnnganekhiynkhxngecffriyaehngmxnmth nganekhiynkhxngchawewlsyukhtnthiklawxangthungxarethxr yngrwmipthungbthkwibthhnungthiphbin chux Pa gur yv y porthaur burusidkhuxphuphithkspratu sungepnbthsnthnarahwangxarethxrkbphuphithkspratupxmprakarthiekhatxngkaredinthangekhaip xarethxryngexythungchuxkhnaelapharkickhxngekha phutidtamkhxngekhathisakhykhux Cei ekhy aela Bedwyr ebdiewiyr nithanrxyaekwkhxngewlseruxnghnungchux Culhwch and Olwen rawkhristthswrrs 1100 sungrwmxyuinchudexksar Mabinogion idmienuxharabuthungraychuxphutidtamkhxngxarethxrepncanwnmakkwa 200 khn sungmichuxkhxng Cei aela Bedwyr epnbukhkhlsakhy eruxngrawodyrwmelathungkarthixarethxridchwyehlux Culhwch yatikhxngekhaihchnaic Olwen butrikhxng Ysbaddaden sungepnhwhnakhxngyks ekhasamarthkrathapharkicxnepnipimidcnsaerc incanwnnirwmthungkarlahmupaphuyingihychux Twrch Trwyth bnthukinkhriststwrrsthi 9 Historia Brittonum kidxangthungnithaneruxngniechnediywkn inbnthuknihmupamichuxwa Troy n t nxkcaknichuxkhxngxarethxryngidrbkarexyxangthungxikhlaytxhlaykhrngin Welsh Triads sungepnhnngsuxrwmeruxngsnwadwywthnthrrmaelatanantang khxngchawewls thwatnchbbkhxng Triads inyukhhlng swnhnungddaeplngmacakngankhxngecffriyaehngmxnmthaelacakwthnthrrmxun khxngaephndinihy xyangirkdiintnchbbthiekaaekthisudthiyngmiidrbxiththiphlphaynxkxunid aeladuehmuxncaaesdngthungrakehngawthnthrrmdngedimkhxngewlscring kidmipraktchuxkhxngxarethxrxyuaelw mikarklawthung tahnkkhxngxarethxr Arthur s Court intanankhxngbrietn bangkhrngkeriyktahnkniwa ekaaaehngbrietn echninpraoykhthiwa Three XXX of the Island of Britain aemin Historia Brittonum aela Annales Cambriae caimidrabuwaxarethxrepnkstriy aetinewlathiekhiyneruxng Culhwch and Olwen aela Triads xarethxridrbkareriykkhanwaepn Penteyrnedd yr Ynys hon hrux phunaaehnglxrdthnghlaybnekaani nnkhuxepnecaehnuxhwkhxngewls khxrnwxll aeladinaednthangehnux nxkehnuxipcakbthkwiaelanithanewlsinyukhphriklfriediyndngklawkhangtn xarethxryngpraktinexksarphasalatinthimixayuekaaekkwa Historia Brittonum aela Annales Cambriae xik michuxkhxngxarethxrpraktxyuhlayaehnginchiwprawtinkbuyyukhhlngxanackrormn aetinpccubnimmithiidrbrxngkhwamnaechuxthuxthangprawtisastrkhxngaehlngkhxmulehlann chbbekaaekthisudrabuwnthixyuinchwngkhriststwrrsthi 11 cakbnthukeruxng Life of Saint Gildas thiekhiyninchwngtnkhriststwrrsthi 12 ody kharadxkh aehng lankharfan idrabuiwwa xarethxrepnphusngharnxngchaykhxngkilaeds khux Hueil aelaidchwyphrryakhxngekhanamwa Gwenhwyfar cakklasetinebxri inbnthukeruxng Life of Saint Cadoc khxng ilfris aehng lankharfan sungekhiyninrawkhristthswrrs 1100 hruxkxnnnelknxy rabuwathannkbuyidihkhwamkhumkhrxngaekburusphuhnungsungsngharthharkhxngxarethxrip 3 khn aelaxarethxreriykrxngwwfunghnungepnkarthdaethn nkbuykhadxkhyindisngfungwwtamkhakhx aetemuxxarethxridrbstwehlann praktwamnklayepnphkkahnung eruxngrawkhlaykhlungknniyngpraktinbnthukchiwprawtikhxng Carannog Padarn aela Eufflam sungkhadwaekhiynkhuninrawkhriststwrrsthi 12 mitananekiywkbphraecaxarethxrthiimchdecnnkpraktxyuin Legenda Sancti Goeznovii sungxangwaekhiynkhuninchwngtnkhriststwrrsthi 11 thng thitnchbbethathiphbekathisudmixayuinrawkhriststwrrsthi 15 ethann yngmikarxangxingthungxarethxrthisakhyxikaehnghnung xyuin De Gestis Regum Anglorum khxngwileliym malmsebxri aela De Miraculis Sanctae Mariae Laudensis khxngehxrmnn thngsxngeruxngihkhxmulhlkthanaerkekiywkbkhwamechuxthiwa xarethxryngimtay aelacahwnklbmainwnidwnhnung okhrngeruxngnipraktsaxikhlaykhrnginnithanphunbanyukhophstklfriediyn ecffriyaehngmxnmth mxredrd strukhnsudthaykhxngxarethxr tamnganekhiynkhxngecffriyaehngmxnmth phaphwadody H J Ford sahrbniyayeruxng King Arthur The Tales of the Round Table khxngaexndruw aelng kh s 1902 nganekhiynechingphrrnnawadwychiwitkhxngxarethxrchbbaerkethathikhnphb khuxnganekhiynphasalatineruxng Historia Regum Britanniae prawtikstriyaehngbrietn khxngecffriyaehngmxnmth sungekhiynesrcinpi kh s 1138 epnnganekhiynbnthukprawtisastrekiywkbkstriyaehngbrietnthietmipdwycintnakaraelaeruxngehnuxcring nbaettanankhxngbrutschawemuxngthrxyphuliphy macnthung Cadwallader kstriyewlsinkhriststwrrsthi 7 ecffriybnthukyukhkhxngxarethxrxyuinyukhhlngormnechnediywknkb Historia Brittonum aela Annales Cambriae ekhayngekhiynthungbidakhxngxarethxr khux yuethxr ephnaedrkxn kbthipruksaphuwiesskhxngekhakhux emxrlin ekhaekhiynelathungkaenidkhxngxarethxrwa yuethxrplxmtwekhaipinthphkhxngkxrlwsfaystrudwymntrwiesskhxngemxrlin aelwlklxbidesiykbnangxiekxrna phriyakhxngkxrlws thithinaethecl emuxyuethxresiychiwit xarethxrphubutrewlannxayu 15 pi idsubtxtaaehnngkstriyaehngbrietnaelaidekharwminkarsukhlaykhrnghlaykhra khlaykhlungkbthipraktin Historia Brittonum ekhathasukchnaphwkphiktaelaphwkskxt caknnidkxtngxanackrxarethxrkhunhlngcakexachnaixraelnd ixsaelnd aelahmuekaaxxrkhniy hlngcaksibsxngpixnsntiphanphnip xarethxrerimtnkaraephkhyayxanackrxikkhrng odyekhayudkhrxngnxrewy ednmark aelakxl inewlathiekhaphichitkxl dinaednnnyngxyuinxarkkhakhxngxanackrormn karrukrankhxngekhakhrawnncungnaipsukarephchiyhnarahwangxanackrkhxngekhakbxanackrormn xarethxrkbehlankrbkhxngera sungrwmthung Kaius ekhy Beduerus ebdiewiyr aela Gualguanus kaewn samarthexachnackrphrrdiormn idthikxl aetemuxekhaetriymcakrithathphtxipyngorm xarethxrkidkhawwa Modredus mxredrd hlanchaykhxngekhaphuthixarethxrlaiwihduaelxarkkhabrietn idaetngngankbphrryakhxngxarethxr khux Guenhuuara kwiniewiyr aelayudbllngkmaepnkhxngtn xarethxrcunghwnklbbrietnaelasngharmxredrdthirimfngaemnaaekhmaeblminkhxrnwxll aettwxarethxrexngkidrbbadecbsahsmak ekhamxbtaaehnngtxihkbyatikhxngekhachux khxnsaetntin aelwcungedinthangcakipyngdinaednaexwalxnephuxrksabadaephlkhxngtn hlngcaknnkimmiikhrphbekhaxikely praednthiwa nganekhiynchinniepnphlnganpraphnththiecffriykhidkhunihmskethaid yngkhngepnhwkhxthithkethiyngknthwip swnthikhxnkhangchdecnkhux ecffriynacanakarsuktxtankarrukrankhxngphwkaesksn 12 khrngkhxngxarethxrmacak Historia Brittonum karrbthikhmlannnacamacak Annales Cambriae rwmthungaenwkhidthiwaxarethxryngkhngmichiwitxyu sthanakhxngtwxarethxrinthanakstriyaehngbrietnthngmwlknacayummacakwrrnkrrmphriklfriediyn dngechnthiphbin Culhwch and Olwen Triads aela Saints Lives ecffriyyngnachuxkhxngsingkhxngaelabukhkhliklchidkhxngxarethxrhlaychuxmacakwrrnkrrmphriklfriediyndwy echn ekhy ebdiewiyr kwiniewiyr aelayuethxr epntn rwmthungchuxkhxng Caliburnus Caledfwlch sunginwrrnkrrmyukhhlngeriykknwa dabexksaekhliebxr xyangirkdi aemekhacayumexachuxtang ehtukarnsakhy rwmthungtaaehnngkhxngxarethxrmacakwrrnkrrmeka aet brinliy orebirt aeyngwa eruxngrawekiywkbxarethxrinngansrangsrrkhkhxngecffriyimidnamacakeruxngelaxunidkxnhnannely twxyangechn chux Medraut intananewls idklaymaepnthrrach Modredus intanankhxngecffriy aetkxnhnannimekhyprakttntxidekiywkbtwlakhrchwrayniintananewlscnkrathngthungkhriststwrrsthi 16 inyukhhlngmikhwamphyayamthicasubesaaephuxphisucnwa Historia Regum Britanniae epnngantnchbbthisrangodyecffriyexngxyangaethcring khwamehnechingwichakarswnihytxbrbtxaenwkhidkhxngwileliymaehngniwebxrk inchwngplaykhriststwrrsthi 12 ekhaklawwa ecffriy aetng eruxngrawthnghmdkhunmaexng xnenuxngmacak nisychxboppdxyangraykac aet ecffriy aexch imehndwykbkhwamkhidni ekhaechuxwanganekhiynkhxngecffriyidrbaerngbndalicmacakaehlngkhxmulxunthisuyhayip sungelaeruxngrawwirkrrmkhxngkstriyxngkvsinchwngkhriststwrrsthi 5 nam rioxthamus Riotamus sungepntnkaenidkhxngxarethxr aetnkprawtisastraelankwichakarekhltikyngimmnicthicaechuxthuxtamkhxsrupkhxngaexch aetimwaekhacamiaehlngkhxmulmacakthiid kimxacptiesthidwa Historia Regum Britanniae khxngecffriysngxiththiphltxwrrnkrrmyukhhlngepnxyangmak minganekhiynchbbkhdlxkcaktnchbbphasalatinkhxngecffriyhlngehluxmathungpccubnmakkwa 200 chbb thngniyngimrwmchbbthiaeplxxkipepnphasaxun xik echnmitnchbbkhxng Historia inphasaewlsmakkwa 60 chbb chbbthiekaaekthisudphbwaekhiynkhuninkhriststwrrsthi 13 phlcakkhwamniymxyangsungni Historia Regum Britanniae khxngecffriycungmixiththiphlxyangmaktxwiwthnakarkhxngtananxarethxrinyukhklangtxnplay sungimephiyngcaepnaerngphlkdnincintnakarekiywkbwirkrrmkhxngxarethxrethann aetthukesiywswnintananlwnidrbkarhyibyumipphthnaaetkhnxkhyayeruxngrawxxkip twxyangechn eruxngkhxngphxmdemxrlin aelachatakrrmsudthaykhxngxarethxr aelaidsrangkrxbthangprawtisastrkhunihkbehlaphuniymnithanoraemns eruxngrawkhxngewthmntrxnskdisiththi tlxdcnkarphcyphyxnnamhscrry khnbaebboraemns phaphxarethxrbnmanpk Christian Heroes Tapestry kh s 1385 inthanahnunginekaphuyingihythrsthnaelaixosldi twlakhrcaktananxarethxrthimibthbathmakkhuncnbdbngtwxarethxresiyexng phaphwadody cxhn wileliym wxetxrehas kh s 1916 phlcakkhwamniymin Historia khxngecffriy aelanganddaeplngxun echn Roman de Brut khxngews epnpccysakhytxpraktkarnnganpraphnthekiywkbxarethxrcanwnmakthiekidkhuninyuorp rahwangkhriststwrrsthi 12 13 odyechphaaxyangyinginfrngess aemwainkarkaenideruxngraw camithimacakaehlngxun nxkehnuxcaktananphraecaxarethxrktam chuxkhxngxarethxraelaeruxngrawtang ekiywkbxarethxridpraktxyubnaephndinihymananaelwkxnthingankhxngecffriycaepnthiaephrhlay echnknkbkarichchuxaelaeruxngrawxun inwthnthrrmekhltiksungimmixyuin Historia khxngecffriy bangthisingsakhythisudthisngxiththiphltxkhwamniymineruxngrawkhxngxarethxrxyangmakkkhuxbthbathinkarepnkstriykhxngxarethxrcakmummxngkhxngekhannexng wrrnkrrmekiywkbxarethxrthnginkhriststwrrsthi 12 aelahlngcaknnmungkhwamsnicipthitwlakhrxun makkwa echn eruxngkhxnglanslxtkbkwiniewiyr kaewn aelakb khnathiwrrnkrrmaebbphriklfriediynaelanganekhiynkhxngecffriymungkhwamsakhyxyuthitwxarethxr aetwrrnkrrmoraemnsinyukhhlng xarethxrklbhludxxkipxyangrwderw bthbathkhxngtwlakhrxarethxrexngkmikarepliynaeplngxyangehnidchd inwrrnkrrmdngedimrwmthungngankhxngecffriy xarethxrepnnkrbphuyingihyaelaekngchkac phuhweraalnyamsngharaemmdaelayks aelaepnphunainptibtikarthangthharthukkhrng khnathiinwrrnkrrmoraemnsbnaephndinihy ekhaklbklayepn roi faineant hrux kstriyphuimtxngthaxairely phusung thuxwakarxyuningechyepnhwicsakhykhxngsngkhminxudmkhti bthbathkhxngxarethxrinwrrnkrrmehlanimkcaepnphuthrngpyya sngaphungphay iceyn aelasuphaph bangkhrngyngduepnkstriythixxnaexipesiydwysa dngnn ekhacungesrasumaelaimphudcaxairelyemuxidruwa lanslxtlxbrkknkbkwiniewiyr khnathiineruxng Yvain the Knight of the Lion khxng ekhretiyng edx thrw xarethxrimsamarthfunlumtaxyuidhlngcaknganeliyngchlxngcntxngkhxtwaexbhlbipngib xyangirkdi nxrris ec elsi idtngkhxsngektwa aemekhacathakhwamphidphladaeladuxxnaexephiyngidinwrrnkrrmyukhhlng aet ekiyrtiskdikhxngekhaimekhydxylngcakbukhlikxnxxnaexely thngxanacaelaskdisrikhxngekhayngdarngxyuxyangbriburn xarethxr aelakharachbripharkhxngekhayngpraktxyuinnganekhiynbangswnin Lais khxng aetnganthithrngxiththiphlmakthisudkhuxkwiniphnthkhxngkwichawfrngess ekhretiyng edx thrw Chretien de Troyes sungsngphlihtwlakhr xarethxr aelatanankhxngphraxngkhwiwthnakaripxyangmak ekhretiyngekhiynwrrnkrrmoraemnsekiywkbtananxarethxr 5 eruxngrahwangpi kh s 1170 thung 1190 Erec and Enide aela Cliges epnnithanekiywkbkhwamrkinwnghlwngodymirachsankkhxngxarethxrepnchakhlngkhxngeruxng aesdngihehnthungkarepliynaeplngcakeruxngrawechingwirburuskhxngewlsaelawrrnkrrmaebbklfriediyn khnathi Yvain the Knight of the Lion epneruxngkhxng kb kaewn inkarphcyphyehnuxcintnakar swnxarethxrepnaekhtwprakxb thwakarphthnakarkhxngtananxarethxrswnthiminysakhymakthisudkhuxeruxng Lancelot the Knight of the Cart thiepnniyayaenanatwaelnesxlxtaelaebikeruxngkhwamsmphnthrahwangekhakbkwiniewiyr rachinikhxngxarethxr epnkarkhyayaetngetimephimpraednkhwamrkthiphidhwngkhxngxarethxr Perceval the Story of the Grail epntwnaeruxngkhxngcxkskdisiththiaelakstriytkpla Fisher King ihodngdng aelaechnediywkberuxngxun khuxbthbathkhxngxarethxrthuktdthxnlngehluxephiyngnxynid ekhretiyngidthaih aetngaetmtanankhxngxarethxrihmichiwitchiwa aelasrangkhwamsbsnihkbtananmakyingkhun eruxngrawodymakthiekidkhunhlngcakyukhkhxngekhaidsrangphaphphcnkhxngxarethxrkhuncakphunthanthiekhasrangexaiw eruxngkhxngthiaemcayngimcb kidrbkhwamniymxyangmak mikarpraphnthbthkwiekiywkbekhaxyangtxenuxngipkwakhrungstwrrs elaeruxngrawekiywkbcxkskdisiththiaelapharkickarkhnha sungtxmankekhiynkhnxun knaippraphnthtxetimxik echn orebirt edx obrxn nbwaepnxngkhprakxbhnungthildbthbathkhxngxarethxrlngipinwrrnkrrmoraemnsbnaephndinihy inthanxngediywkn eruxngkhxngaelnesxlxtkbkarthiekhahkhlngxarethxrkklayepnhnunginokhrngeruxngkhlassikekiywkbtananphraecaxarethxr aemwabthbathkhxngaelnesxlxtinnganekhiynyukhtxma echn Lancelot kh s 1225 caprasmprasanknrahwangaelnesxlxtinngankhxngekhretiyng kb Lanzelet khxng Ulrich von Zatzikhoven ktam phlngankhxngekhretiyngyngsngxiththiphlklbipyngwrrnkrrmekiywkbxarethxrinewlsdwy emuxbthbathechingoraemnskhxngxarethxrerimekhamaaethnthiwirburusxnhawhayinkhnbdngedimkhxngwrrnkrrmewls phlnganxnoddednthisathxnthungwiwthnakarni khuxniyayoraemnskhxngewls 3 eruxngthimikhwamkhlaykhlungkbtanankhxngekhretiyngmak ephiyngaetktanginraylaexiydelknxy idaek Owain or the Lady of the Fountain khlaykberuxngkhxng yiwn inngankhxngekhretiyng Geraint and Enid khlaykhlungkb Erec and Enide aela Peredur son of Efrawg khlaykhlungkberuxngkhxngephxrsiwal xswinotaklmkbcxkskdisiththi phaphcaktnchbbnganekhiyninkhriststwrrsthi 15 trabthungkhristthswrrs 1210 karelaeruxngrawtananphraecaxarethxrbnphakhphunthwipyuorpcadaeninphanbthkwi hlngcaknncungerimmikarelaepnnithanaebbrxyaekw twxyangnganrxyaekwthisakhythisudinkhriststwrrsthi 13 khux Vulgate Cycle hruxeriykxikchuxhnungwa Lancelot Grail Cycle epnnganrxyaekwphasafrngessyukhklang 5 eruxngtxenuxngkn ekhiynkhuninchwngkhrungaerkkhxngkhriststwrrsnn nganekhiynthng 5 eruxngidaek Estoire del Saint Grail Estoire de Merlin Lancelot propre Queste del Saint Graal aela Mort Artu emuxrwmknekhacaidepneruxngelaekuxbkhrunghnungkhxngtananphraecaxarethxrthnghmd tananehlanithaihaenwonmbthbathkhxngxarethxrintanankhxngtwexngldnxylngeruxy thngcakkarephimbthbathkhxng aelabthbaththiesrimetimaetngipxyangmakkhxngemxrlin thngyngsrangihmxredrdklayepnluknxksmrskhxngxarethxrkbnxngsawkhxngtwexng bthbathkhxngkerimtnkhunepnkhrngaerkineruxng Lancelot khxngekhretiyng inthanarachsankdngedimkhxngxarethxr eruxngrawehlanidaeninipxyangtxenuxngin Post Vulgate Cycle kh s 1230 40 odymieruxng Suite du Merlin epneruxngexk ldbthbathkhwamsakhykhxngeruxngrawrahwangaelnesxlxtkbkwiniewiyrlng hnipexaiciskbpharkickarkhnhacxkskdisiththimakkhun aetbthbathkhxngxarethxrkyngnxynidehmuxnedim xarethxryngkhngepntwlakhrprakxbinniyayoraemnskhxngfrngess sahrbinchudtanan Vulgate nn ekhaidprakttwephiyngintxn Estoire de Merlin aela Mort Artu ethann karphthnakhxngwrrnkrrmxarethxrinyukhklangtlxdcnbukhlikkhxngtwlakhrxarethxrinaebboraemns naipsuphlngan Le Morte d Arthur khxngothms maolri thinaeruxngelatananthnghmdmaelaihmepneruxngediywkninchbbphasaxngkvs inchwngplaykhriststwrrsthi 15 nganekhiynkhxngmaolrieruxngniedimichchuxwa The Whole Book of King Arthur and of His Noble Knights of the Round Table odyxangxingenuxhacakwrrnkrrmoraemnseruxngtang odyechphaaxyangyingcak Vulgate Cycle thuxepnphlnganthirwbrwmeruxngrawekiywkbxarethxrexaiwidxyangkhrbthwnthisud dwyehtuni aeladwyehtuthi Le Morte D Arthur epnwrrnkrrmchbbphimphelmaerk inxngkvs tiphimphody wileliym aekhkstn inpi kh s 1485 cungthaihnganekhiynxun ekiywkbxarethxrinyukhhlng lwnphthnatxmacakphlngankhxngmaolrithngsinkarddaeplngaelatananyukhihmwrrnkrrmhlngyukhklang karsinsudlngkhxngyukhklang thaihkhwamsnicintananphraecaxarethxresuxmthxylngipdwy aemnganaeplchbbphasaxngkvskhxng maolri cakniyayoraemnsfrngessxnyingihycayngepnthiniym aetkidkraphuxkarocmtieruxngkhxethccringekiywkbprawtisastrinniyayxarethxrthnghlay nbtngaetyukhkhxngecffriyaehngmxnmthepntnma ephuxkhnhakhwamthuktxngkhxng dwyehtuni karthinkmanusywithyainkhriststwrrsthi 16 ophlioder ewxrcil ptiesthxarethxrinthanakstriyphupkkhrxngkhnhnunginyukhhlngxanackrormn cungodngdngmak aenwkhidniphbidthwipinwrrnkrrmaebbophst klfriediyn chwngklang karepliynaeplngthangsngkhmxnepnphlsubenuxngcakkarsinsudkhxngyukhklang rwmthungkarekhasuyukhfunfusilpwithya lwnchwyknlbxarethxrkbtanankhxngekhaxxkcakkhwamkhidciticxntratrungkhxngehlaphufng ehnidcakinpi 1634 nganphimph Le Morte d Arthur khrngsudthaykhxngmaolrikyngtkkhangxyuepnewlaekuxb 200 pi phraecaxarethxrkbtanankhxngphraxngkhimidthukthxdthingipesiythiediyw aetkimidepnthisnicxyangcringcngtrabcnkrathngkhriststwrrsthi 19 odymakaelwcaichepnekhruxngxupmaxupimysahrbkickaremuxnginchwngkhriststwrrsthi 17 18 echninnganmhakaphy Prince Arthur 1695 aela King Arthur 1697 khxng kichxarethxrepntwaethninkartxsukhxngphraecawileliymthi 3 txtankbphraecaecmsthi 2 wrrnkrrmekiywkbxarethxrthiniymmakthisudinchwngyukhniehncaidaekphlngankhxng thxm thmb sungintxnaerkephyaephrthanghnngsuxswdmnt aelatxmaknaipaesdngepnlakhrewthiody ehnri filding aemwakaraesdngcabxkwaekidkhuninekaabrietnkhxngxarethxr aetenuxhaklbsuxipinthangkhakhn aelaxarethxrkidepliynochmepnlakhrtlkaethnthiaenworaemns ethnnisn aelayukhfunfu phaphwadxarethxraelaemxrlin prakxbbthkwieruxng Idylls of the King khxngxlefrd lxrd ethnnisn wadody kh s 1868 chwngtnkhriststwrrsthi 18 aenwkhidaebb silpacintniym aela sthaptykrrmfunfukxthikh idhwnklbmaihkhwamsakhykbxarethxraelawrrnkrrmoraemnsyukhklangxikkhrng khwammikhunthrrmkhxngsuphaphburusinkhriststwrrsthi 19 miphunthanaebbxudmkhtixyukbbukhlikkhxngxarethxrinaebboraemns samarthsngektkhwamniymxikkhrngnicakkartiphimpheruxng Le Morte d Arthur khxngmaolrisaxikkhrngepnkhrngaerkhlngcakpi 1634 tananxarethxrinyukhklangaebbdngedimmkcaepnthisnickhxngkwi aelaepnaerngbndalicihpraphnthphlngantang echn wileliym ewirdsewirth ekhiyneruxng The Egyptian Maid inpi kh s 1835 inthanxngepriybeprykbcxkskdisiththi phlnganthioddedninyukhniepnkhxngxlefrd lxrd ethnnisn phupraphnthbthkwi The Lady of Shalott tiphimphinpi kh s 1832 aemwaxarethxrcayngkhngidrbbthephiyngtwprakxbechnediywkbinwrrnkrrmoraemnsyukhklang aetnganekhiynekiywkbtananxarethxrkhxngethnnisnidsrangkhwamniymsungsudcakphlnganeruxng sungnaeruxngrawchiwitkhxngxarethxrmabrryayesiyihmtamkhnbkhxngyukhwiktxeriy phlnganniphimphkhrngaerkinpi kh s 1859 aelacahnayid 10 000 chudphayinspdahaerk ineruxngni xarethxrklayepnsylksnkhxngburusinxudmkhti phuphyayamsrangxanackrxnsmburnphasukthamklangolkthilmslaydwynamuxmnusyphuxxnaex ngankhxngethnnisnsrangaerngbndalictxnkpraphnthcanwnmak thaihsatharnchnhnmaihkhwamsakhykbtananxarethxraelatwphraecaxarethxrxikkhrng rwmthungphaihphlngankhxngmaolriklbmasukhwamniymkhxngphuxan minganekhiynyukhihmthiphthnacaknithanxarethxrkhxngmaolritiphimphxxkmahlngcak Idylls imnannk kh s 1862 hlngcaknnprbprungxikkwa 6 khrngaelamiphupraphntheruxngxun xik 5 eruxngkxncasinsudstwrrs phaphwad The last sleep of Arthur ody exdewird ebirn ocns silpinyukhphrirafaexlilth khwamsnicin xarethxraebboraemns aelapharkictang khxngekhadaenintxenuxngiptlxdkhriststwrrsthi 19 cnlwngekhasukhriststwrrsthi 20 sngxiththiphltxkwimakmayhlaykhn echn wileliym mxrris aelasilpinyukhphrirafaexlilthmakmay rwmipthung aemaetnithantlkkhakhnkhxng thxm thmb sungnatananxarethxrmaddaeplngepneruxngaerk inkhriststwrrsthi 18 kidrbkarekhiynkhunihmhlngcak Idylls tiphimphephyaephr aemwathxmcakhngradbkhxngeruxngaelayunhydkhwamkhbkhnexaiw aeteruxngihmkhxngekhakmixngkhprakxbkhxngkhwamepnxarethxrinwrrnkrrmoraemnsyukhklangmakyingkhun xarethxrducringcngmakkhunaelamitwmitnmakkhuninchbberiyberiyngihm tananxarethxraebboraemnsyngsngxiththiphltxwrrnkrrminshrthxemrikadwy cakphlnganhnngsuxhlayeruxng echn The Boy s King Arthur khxng Sidney Lanier inpi kh s 1880 sungepnthiniymxyangkwangkhwangaelasngaerngbndalictxnganekhiynlxeliyneruxng A Connecticut Yankee in King Arthur s Court khxng markh thewn kh s 1889 aemwa xarethxraebboraemns caklayepncudsunyklangkhxngwrrnkrrmxarethxryukhihm echnthipraktin The Last Sleep of Arthur in Avalon khxng ebirn ocns aetbxykhrngthiekhaklbipsusthanaediywkbxarethxrinyukhklang khuxxyuephiyngkhxbkhangkhxngenuxeruxnghruxbangkhrngkhaytwipely twxyangechninlakhroxepraekiywkbtananxarethxrkhxng wakenxr epntn xyangirkdi karfunfukhwamsnicintananxarethxrmiiddaenintxenuxngipodytlxd emuxsinsudkhriststwrrsthi 19 eruxngrawkhxngxarethxrktkipxyuinrupeliynaebbkhxngphwkphrirafaexlilth emuxekidsngkhramolkkhrngthihnung ekiyrtiysskdisrikhxngkartxsupralxngkhxngwirburusaebbyukhklangkkhxy eluxnhayip phaphkhxngxarethxrinthanankrbphuthrngekiyrtiskdikeluxnhayipdwy thwakhnbaebboraemnsyngkhngmiphlngephiyngphxcasngxiththiphltx lxerns binyxn aela cxhn emsfild inkarpraphnthlakhrephlngekiywkbxarethxr yngidklawthungbangswnkhxngtananxarethxr imichtwxarethxr inkwiniphnthkhxngekhaeruxng The Waste Land odyidxangthung Fisher King wrrnkrrmyukhihm kartxsurahwangxarethxrkbmxredrd phaphwadody N C Wyeth sahrbhnngsuxeruxng The Boy s King Arthur kh s 1922 inchwngkhrunghlngkhxngkhriststwrrsthi 20 xiththiphlkhxngxarethxrinkhnbaebboraemnsyngkhngdaeninipxyangtxenuxng odypraktinnwniyayhlayeruxng echn The Once and Future King khxng thi exch iwth kh s 1958 The Mists of Avalon khxng maeriyn simemxr aebrdliy kh s 1982 rwmthunginkartunsneruxng Prince Valiant tngaet kh s 1937 epntnma ethnnisnideriyberiyngniyayoraemnsekiywkbxarethxrkhxngekhaesiyihmephuxihehmaasmkbyukhsmy nganekhiynhlay eruxngkidddaeplngenuxhaihmikhwamthnsmymakkhundwy echninnithankhxngaebrdliy mibthbathkhxngfaystriintananxarethxrmakkhun emuxepriybethiybkbnganekhiynekiywkbtananxarethxrinyukhklang xarethxraebboraemnsyngklayepnthiniymxyangmakinolkphaphyntr lakhrephlngeruxng Camelot sungmienuxhahlkekiywkbkhwamrkrahwangaelnesxlxtkbkwiniewiyr idddaeplngepnphaphyntrinpi kh s 1967 khnbaebboraemnskhxngtananxarethxrklayepnthiniymaelaprasbkhwamsaercxyangmak dwyphlngankhxngorebirt ebrssn eruxng Lancelot du Lac kh s 1974 ngankhxngxirikh orhemxr eruxng Perceval le Gallois kh s 1978 rwmipthungphlnganphaphyntraefntasikhxngcxhn bwraemn eruxng kh s 1981 tananphraecaxarethxrinyukhihmnaeruxngrawinkhnbaebboraemnsmacintnakarihm tikhwamihm aelaelaihm imephiyngethann phaphkhxngxarethxryngidhwnklbipepnwirburusthiaethcringaehngkhriststwrrsthi 5 nxkehnuxipcakphaphphcnaebboraemnsxikdwy cakkhxsngektkhxngethyelxraelabriwewxr wrrnkrrminyukhihmidhwnklbipyngkhnbinyukhklangkhxngecffriyaehngmxnmth aela Historia Brittonum rupaebbechnnierimednchdkhuneruxy inwrrnkrrmxarethxrrahwangchwngsngkhramolkkhrngthisxng odyechphaaxyangyingbthbathkhxngxarethxrinkarepnphunainkartxtankarrukrankhxngchaweyxrmnephuxpkpxngekaabrietn pi kh s 1942 lakhrwithyueruxng The Saviours khxngekhlemns edn idichphaphkhxngxarethxrinprawtisastrephuxplukfngcitwiyyanaehngkhwamrkchatiaelatxtanstruphurukran bthlakhreruxng The Long Sunset khxngorebirt echxriff inpi kh s 1955 wadphaphxarethxrepnphunayukhbrietnsmyhlngormn thitxtankarrukrankhxngchaweyxrmn aenwonmehlanithaihxarethxrmibthbathaelatwtninthangprawtisastrmakkhun rupaebbkhxngwrrnkrrminyukhnicaepnaebbkungprawtisastrkungaefntasi nxkcakni phaphkhxngphraecaxarethxrinthanankrbaelawirburusaehngkhriststwrrsthi 5 yngidrbkarsrangepnphaphyntrhlay eruxng eruxngthiodngdngidaek kh s 2004 aela kh s 2007 phraecaxarethxr yngidklayepntnaebbkhxngkhunthrrminolkyukhihm inrawkhristthswrrs 1930 mikarkxtngphakhixswinotaklmkhuninpraethsxngkvs ephuxechidchuwirburuschawkhrisetiynaelaekiyrtiysxnoddednkhxngphraecaxarethxr inshrthxemrika edkchayhyinghlayaesnkhnidekharwminklumyuwchnxarethxrsungmixyuxyangmakmay echn klumxswinaehngxarethxr Knights of King Arthur sungmikarprachasmphnthaelaykyxngxarethxrkbtanankhxngphraxngkhihepnaebbxyangxndingam xyangirkdi aemxarethxrcaoddednxyangmakinwthnthrrmyukhihm aetekhakkhxy klunhayekhaipkbwthnthrrmrwmsmymakyingkhun chuxkhxngekhaklayipepnchuxsingkhxng xakhar aelasthanthitang nxrris ec elsi idtngkhxsngektwa khwamniymxyangoddednkhxngxarethxrducamikhxcakdxyu sungimnaprahladic ekhaklayipepnswnhnungkhxngngansilpaaelakartngchux aetimtxngsngsyelywa burusintananemuxhlaystwrrsmaaelwidphsanklmklunekhaipinwthnthrrmyukhihminthukradbaelw duephimekaphuyingihy sungmichuxxarethxrepnhnunginnnxangxingBarber Richard 2004 The Holy Grail Imagination and Belief London Allen Lane ISBN 978 0713992069 Higham N J 2002 King Arthur Myth Making and History lxndxn Routledge ISBN 978 0415213059 imsamarthrabuidwa bthkwi Y Gododdin xyuinyukhsmyid bthkwibrryaythungehtukarninkhriststwrrsthi 6 aetichrupaebbkarsakdaebbyukhkhriststwrrsthi 9 10 swntnchbbthirxdmathungpccubnmixayuxyuinchwngkhriststwrrsthi 13 Charles Edwards Thomas M 1991 The Arthur of History in Bromwich Rachel Jarman A O H Roberts Brynley F The Arthur of the Welsh Cardiff University of Wales Press pp 15 32 ISBN 978 0708311073 Sims Williams Patrick 1991 The Early Welsh Arthurian Poems in Bromwich Rachel Jarman A O H Roberts Brynley F The Arthur of the Welsh Cardiff University of Wales Press pp 33 71 ISBN 978 0708311073 Thorpe Lewis ed 1966 Geoffrey of Monmouth The History of the Kings of Britain Harmondsworth Penguin OCLC 3370598 Padel O J 1994 The Nature of Arthur Cambrian Medieval Celtic Studies 27 1 31 Dumville D N 1986 The Historical Value of the Historia Brittonum Arthurian Literature 6 1 26 Green Thomas 2007b Concepts of Arthur Stroud Tempus ISBN 978 0752444611 Charles Edwards Thomas M 1991 The Arthur of History in Bromwich Rachel Jarman A O H Roberts Brynley F The Arthur of the Welsh Cardiff University of Wales Press pp 15 32 ISBN 978 0708311073 Morris John 1973 The Age of Arthur A History of the British Isles from 350 to 650 New York Scribner ISBN 978 0684133133 Myres J N L 1986 The English Settlements Oxford Oxford University Press ISBN 978 0192822352 Gildas De Excidio Britanniae chapter 26 Pryor Francis 2004 Britain AD A Quest for England Arthur and the Anglo Saxons London HarperCollins ISBN 978 0007181865 Bede Historia ecclesiastica gentis Anglorum Book 1 16 Dumville D N 1977 Sub Roman Britain History and Legend History 62 62 173 92 doi 10 1111 j 1468 229X 1977 tb02335 x Green Thomas 1998 The Historicity and Historicisation of Arthur Thomas Green s Arthurian Resources ekbkhxmulemux 2008 05 22 Historia Brittonum 56 Annales Cambriae 516 537 Ashley Michael 2005 The Mammoth Book of King Arthur London Robinson ISBN 978 1841192499 Heroic Age Spring Summer 1999 Early Medieval Tintagel An Interview with Archaeologists Rachel Harry and Kevin Brady 2014 08 21 thi ewyaebkaemchchin The Heroic Age 1 nkwichakaryukhihmehnwa thangkhamklasetinebxriepnphlnganplxmaeplngthithakhunintxnplaykhriststwrrsthi 12 duephimin Rahtz 1993 aela Carey 1999 mibukhkhlmakmaythikhadwaxaccaepnxarethxr tngaet luesiys xartxeriys aekhstus naythharchawormnthiptibtihnathiinbrietninkhriststwrrsthi 2 du Littleton amp Malcor 1994 ipcnthungphuchingbllngkormn echn hruxecakhrxngnkhryukhbrietnsmyhlngormn echn Riotamus du Ashe 1985 Ambrosius Aurelianus du Reno 1996 Owain Ddantgwyn du Phillips amp Keatman 1992 aela Athrwys ap Meurig du Gilbert Wilson amp Blackett 1998 Malone Kemp May 1925 Artorius Modern Philology 22 4 367 74 doi 10 1086 387553 ekbkhxmulemux 2008 05 22 JSTOR subscription required for online access Koch John T 1996 The Celtic Lands in Lacy Norris J Medieval Arthurian Literature A Guide to Recent Research niwyxrk Garland pp 239 322 ISBN 978 0815321606 Harrison Henry 1996 1912 Surnames of the United Kingdom A Concise Etymological Dictionary Genealogical Publishing Company ISBN 0 806 30171 6 ekbkhxmulemux 2008 10 21 Griffen Toby D 8 April 1994 PDF Celtic Studies Association of North America ekbkhxmulemux 2008 05 22 Conference paper Williams Sir Ifor ed 1937 epnphasaewls Canu Aneirin Caerdydd khardiff Gwasg Prifysgol Cymru sankphimphmhawithyalyaehngewls OCLC 13163081 Charles Edwards Thomas M 1991 The Arthur of History in Bromwich Rachel Jarman A O H Roberts Brynley F The Arthur of the Welsh khardiff sankphimphmhawithyalyaehngewls pp 15 32 ISBN 978 0708311073 bthaeplkwiniphnthchudniaebbxxnilnimthnsmyaelamikhwamphidphladkhxnkhangmak oprddubthaeplchbbetmin Haycock 2007 pp 293 311 aelabthwiphakswicarnswnthiekiywkhxngkbxarethxr in Green 2007b p 197 duephimin Green 2007b pp 54 67 aela Budgey 1992 sungidrwbrwmkhaaepltang exaiwdwy Koch John T Carey John 1994 The Celtic Heroic Age Literary Sources for Ancient Celtic Europe and Early Ireland and Wales Malden MA Celtic Studies Publications ISBN 978 0964244627 For a discussion of the tale see Bromwich amp Evans 1992 see also Padel 1994 pp 2 4 Roberts 1991a and Green 2007b pp 67 72 and chapter three Bromwich Rachel 1978 Trioedd Ynys Prydein The Welsh Triads khardiff sankphimphmhawithyalyaehngewls ISBN 978 0708306901 Second ed Roberts Brynley F 1991a Culhwch ac Olwen The Triads Saints Lives in Bromwich Rachel Jarman A O H Roberts Brynley F The Arthur of the Welsh khardiff sankphimphmhawithyalyaehngewls pp 73 95 ISBN 978 0708311073 chbbaeplduin Coe amp Young 1995 pp 22 27 sahrbnithanekiywkbklasetinebxriaelaolkhlngkhwamtay duin Sims Williams 1991 pp 58 61 du Coe amp Young 1995 pp 26 37 xanephimetimin Ashe 1985 ekiywkbkhwamphyayamcaichbnthukchiwprawtiniepnaehlngkhxmulthangprawtisastr White Terence Hanbury 1958 The Once and Future King London Collins OCLC 547840 Thorpe Lewis ed 1966 Geoffrey of Monmouth The History of the Kings of Britain Harmondsworth Penguin OCLC 3370598 Geoffrey of Monmouth Historia Regum Britanniae Book 8 19 24 Book 9 Book 10 Book 11 1 2 Roberts Brynley F 1991b Geoffrey of Monmouth Historia Regum Britanniae and Brut Y Brenhinedd in Bromwich Rachel Jarman A O H Roberts Brynley F The Arthur of the Welsh khardiff sankphimphmhawithyalyaehngewls pp 98 116 ISBN 978 0708311073 Bromwich Rachel 1978 Trioedd Ynys Prydein The Welsh Triads khardiff sankphimphmhawithyalyaehngewls ISBN 978 0708306901 Second ed Brooke Christopher N L 1986 The Church and the Welsh Border in the Central Middle Ages Woodbridge Boydell ISBN 978 0851151755 Ashe Geoffrey 1985 The Discovery of King Arthur Garden City NY Anchor Press Doubleday ISBN 978 0385190329 Padel O J Fall 1995 Recent Work on the Origins of the Arthurian Legend A Comment Arthuriana 5 3 103 14 Crick Julia C 1989 The Historia regum Britanniae of Geoffrey of Monmouth 3 A Summary Catalogue of the Manuscripts ekhmbridc briwewxr ISBN 978 0859912136 Ashe Geoffrey 1996 Geoffrey of Monmouth in Lacy Norris The New Arthurian Encyclopedia niwyxrk Garland pp 179 82 ISBN 978 1568654324 Stokstad M 1996 Modena Archivolt in Lacy Norris J The New Arthurian Encyclopedia niwyxrk Garland pp 324 326 ISBN 978 1568654324 Bromwich Rachel 1983 Celtic Elements in Arthurian Romance A General Survey in Grout P B Diverres Armel Hugh The Legend of Arthur in the Middle Ages wudbridc Boydell and Brewer pp 41 55 ISBN 978 0859911320 Bromwich Rachel 1991 First Transmission to England and France in Bromwich Rachel Jarman A O H Roberts Brynley F The Arthur of the Welsh khardiff sankphimphmhawithyalyaehngewls pp 273 98 ISBN 978 0708311073 Morris Rosemary 1982 The Character of King Arthur in Medieval Literature ekhmbridc briwewxr ISBN 978 0847671182 dutwxyangin Geoffrey of Monmouth Historia Regum Britanniae Book 10 3 Padel O J 2000 Arthur in Medieval Welsh Literature Cardiff University of Wales Press ISBN 978 0708316825 Lacy Norris J 1996a Character of Arthur in Lacy Norris J The New Arthurian Encyclopedia niwyxrk Garland pp 16 17 ISBN 978 1568654324 Burgess Glyn S Busby Keith eds 1999 The Lais of Marie de France lxndxn ephnkwin ISBN 978 0140447590 2nd ed Lacy Norris J 1996b Chretien de Troyes in Lacy Norris J The New Arthurian Encyclopedia niwyxrk Garland pp 88 91 ISBN 978 1568654324 Kibler William Carroll Carleton W eds 1991 Chretien de Troyes Arthurian Romances lxndxn ephnkwin ISBN 978 0140445213 Roach William ed 1949 83 The Continuations of the Old French Perceval of Chretien de Troyes filaedlefiy sankphimphmhawithyalyaehngfilaedlefiy OCLC 67476613 5 vols Ulrich von Zatzikhoven 2005 Lanzelet niwyxrk sankphimphmhawithyalyokhlmebiy ISBN 978 0231128698 Trans Thomas Kerth duephimin Jones amp Jones 1949 sahrbnganaeplwrrnkrrmthngsameruxngni Lacy Norris J 1992 96 Lancelot Grail The Old French Arthurian Vulgate and Post Vulgate in Translation niwyxrk Garland ISBN 978 0815307570 5 vols suksaephimetimekiywkberuxngniidcak Burns E Jane 1985 Arthurian Fictions Re reading the Vulgate Cycle okhlmbs sankphimphmhawithyalyaehngrthoxihox ISBN 978 0814203873 xaneruxngekiywkbmaolriaelanganekhiynkhxngekhaidcak Field P J C 1993 The Life and Times of Sir Thomas Malory ekhmbridc briwewxr ISBN 978 0585165707 Field P J C 1998 Malory Texts and Sources ekhmbridc briwewxr ISBN 978 0859915366 Vinaver Sir Eugene ed 1990 The Works of Sir Thomas Malory xxksfxrd sankphimphmhawithyalyxxksfxrd ISBN 978 0198123460 Third revised ed Carley J P 1984 Polydore Vergil and John Leland on King Arthur The Battle of the Books Interpretations 15 86 100 Parins Marylyn Jackson 1995 Sir Thomas Malory The Critical Heritage lxndxn Routledge ISBN 978 0415134002 Ashe Geoffrey 1968 The Visionary Kingdom in Ashe Geoffrey The Quest for Arthur s Britain lxndxn Granada ISBN 0586080449 Green Thomas August 2007 Tom Thumb and Jack the Giant Killer Two Arthurian Fairytales Folklore 118 2 123 40 doi 10 1080 00155870701337296 EBSCO subscription required for online access Wordsworth William 1835 The Egyptian Maid or The Romance of the Water Lily The Camelot Project The University of Rochester ekbkhxmulemux 2008 05 22 duraylaexiydin Potwin L S 1902 The Source of Tennyson s The Lady of Shalott Modern Language Notes 17 8 237 239 doi 10 2307 2917812 wadwyaehlngkhxmulthiethnnisnichinkarpraphnthphlngan Taylor Beverly Brewer Elisabeth 1983 The Return of King Arthur British and American Arthurian Literature Since 1800 ekhmbridc briwewxr ISBN 978 0389202783 Simpson Roger 1990 Camelot Regained The Arthurian Revival and Tennyson 1800 1849 ekhmbridc briwewxr ISBN 978 0859913003 Staines D 1996 Tennyson Alfred Lord in Lacy Norris J The New Arthurian Encyclopedia niwyxrk Garland pp 446 449 ISBN 978 1568654324 Twain Mark 1889 A Connecticut Yankee in King Arthur s Court niwyxrk Webster OCLC 11267671 Watson Derek 2002 Wagner Tristan und Isolde and Parsifal in Barber Richard King Arthur in Music ekhmbridc D S Brewer pp 23 34 ISBN 978 0859917673 Mancoff Debra N 1990 The Arthurian Revival in Victorian Art niwyxrk Garland ISBN 978 0824070403 Workman L J 1994 Medievalism and Romanticism Poetica 39 40 1 44 Hardy Thomas 1923 The Famous Tragedy of the Queen of Cornwall at Tintagel in Lyonnesse A New Version of an Old Story Arranged as a Play for Mummers in One Act Requiring No Theatre or Scenery lxndxn Macmillan OCLC 1124753 Binyon Laurence 1923 Arthur A Tragedy lxndxn Heinemann OCLC 17768778 Masefield John 1927 Tristan and Isolt A Play in Verse lxndxn Heinemann OCLC 4787138 Eliot Thomas Stearns 1949 The Waste Land and Other Poems lxndxn Faber and Faber OCLC 56866661 White Terence Hanbury 1958 The Once and Future King lxndxn Collins OCLC 547840 Bradley Marion Zimmer 1982 The Mists of Avalon niwyxrk Knopf ISBN 978 0394524061 Lagorio V M 1996 Bradley Marion Zimmer in Lacy Norris J The New Arthurian Encyclopedia niwyxrk Garland pp 57 ISBN 978 1568654324 Harty Kevin J 1996 Films in Lacy Norris J The New Arthurian Encyclopedia niwyxrk Garland pp 152 155 ISBN 978 1568654324 Harty Kevin J 1997 Arthurian Film Arthuriana Camelot Project Bibliography ekbkhxmulemux 2008 05 22 Thompson R H 1996 English Arthurian Literature in Modern in Lacy Norris J The New Arthurian Encyclopedia niwyxrk Garland pp 136 144 ISBN 978 1568654324 twxyangechn The Lantern Bearers kh s 1959 aela Sword at Sunset kh s 1963 khxngorsaemri sutkhliff The Crystal Cave 1970 kbniyaychudtxenuxngkhxngaemri scwt Firelord 1980 kbniyaychudtxenuxngkhxngpharkh kxdwin Pendragon Cycle 1987 99 khxngstiefn lxwehd The Coming of the King 1988 khxngniokhil txlstxy Camulod Chronicles 1992 97 khxngaeckh iwth aela The Warlord Chronicles 1995 97 khxngebxrnard khxrnewll epntn duephimetimin duephimekiywkb King Arthur aela The Last Legion cak Internet Movie Database Thomas Charles 1993 Book of Tintagel Arthur and Archaeology lxndxn Batsford ISBN 978 0713466898 Forbush William Byron Forbush Dascomb 1915 The Knights of King Arthur How To Begin and What To Do The Camelot Project at the University of Rochester ekbkhxmulemux 2008 05 22 Lacy Norris J 1996c Popular Culture in Lacy Norris J The New Arthurian Encyclopedia niwyxrk Garland pp 363 64 ISBN 978 1568654324 hnngsuxxanephimetimAshe Geoffrey 1985 The Discovery of King Arthur Garden City NY Anchor Press Doubleday ISBN 978 0385190329 Budgey A 1992 Preiddeu Annwn and the Welsh Tradition of Arthur Celtic Languages and Celtic People Proceedings of the Second North American Congress of Celtic Studies held in Halifax August 16 19 1989 Halifax Nova Scotia D Arcy McGee Chair of Irish Studies Saint Mary s University pp 391 404 ISBN 978 0969625209 Coe John B Young Simon 1995 The Celtic Sources for the Arthurian Legend Felinfach Lampeter Llanerch ISBN 978 1897853832 Haycock M 2007 Legendary Poems from the Book of Taliesin Aberystwyth CMCS ISBN 978 0952747895 Gilbert Adrian Wilson Alan Blackett Baram 1998 The Holy Kingdom London Corgi ISBN 978 0552144896 Green Thomas 2007b Concepts of Arthur Stroud Tempus ISBN 978 0752444611 Jones Gwyn Jones Thomas eds 1949 The Mabinogion London Dent OCLC 17884380 Phillips Graham Keatman Martin 1992 King Arthur The True Story London Century ISBN 978 0712655804 Reno Frank D 1996 The Historic King Arthur Authenticating the Celtic Hero of Post Roman Britain Jefferson NC McFarland ISBN 978 0786402663 aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb phraecaxarethxr Blaenau Gwent Borough County Council 2008 05 12 thi ewyaebkaemchchin ewbistaesdngraylaexiydekiywkbtananphraecaxarethxrkhxngchawewls xngkvs Arthurian Resources King Arthur History and the Welsh Arthurian Legends ewbistthimienuxhawichakarxyanglaexiyd mibthkhwamthiekhiynodynkwichakarcanwnmak odyechphaabthkhwamody othms krin aehngmhawithyalyxxksfxrd xngkvs Arthuriana warsarwichakarephiyngchbbediywthiihkhwamsakhyekiywkbtananphraecaxarethxr epnaehlngkhxmulaelarwmlingkthinasnicmakmay xngkvs Celtic Literature Collective rwmbthkhwamaelanganaepltananyukhklangkhxngewlscanwnmak tananodymakxangxingthungphraecaxarethxrdwy xngkvs aehlngrwmbthkhwamekiywkbphraecaxarethxrxikaehnghnungodyehlaaefnphnthuaeth xngkvs Ford David Nash King Arthur General of the Britons cak Britannia History xngkvs The Camelot Project mhawithyalyorechsetxr miraykarhnngsuxthithrngkhunkhamakmay phrxmthngbthkhwamekiywkbxarethxr samarthdawnohldidfri xngkvs The Heroic Age A Journal of Early Medieval Northwestern Europe warsarwicarnwrrnkrrmaebbxxniln sungmibthkhwamekiywkbtananphraecaxarethxr xngkvs The Medieval Development of Arthurian Literature h2g2 BBC xngkvs