ดวงจันทร์ของกาลิเลโอ (อังกฤษ: Galilean moons) คือดวงจันทร์บริวารทั้ง 4 ดวงของดาวพฤหัสบดีซึ่งถูกค้นพบโดยกาลิเลโอ กาลิเลอีช่วงเดือนมกราคม พ.ศ. 2153 ดวงจันทร์ทั้ง 4 ดวงเป็นดวงจันทร์ที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาดวงจันทร์ของดาวพฤหัสบดีชื่อของดวงจันทร์ทั้ง 4 ได้รับการตั้งชื่อคนรักของซูสได้แก่ ยูโรปา แกนิมิดและ ดวงจันทร์ทั้ง 4 เป็นในระบบสุริยะนอกเหนือจากดวงอาทิตย์และดาวเคราะห์ทั้งแปดดวง มันมีเส้นผ่านศูนย์กลางที่ใหญ่กว่าดาวเคราะห์แคระใดๆ ดวงจันทร์สามดวงด้านใน ได้แก่ ไอโอ ยูโรปา แกนิมิด มีการสั่นพ้องของวงโคจรที่ 1:2:4
ดวงจันทร์ทั้ง 4 ดวงถูกค้นพบในช่วงระหว่าง พ.ศ. 2152-2153 เมื่อกาลิเลโอได้ปรับปรุงกล้องโทรทรรศน์ซึ่งทำให้เขาสามารถสังเกตเห็นเทหฟากฟ้าได้ชัดเจนขึ้นกว่าที่ผ่านมา การค้นพบของกาลิเลโอแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของกล้องโทรทรรศน์ในฐานะของเครื่องมือสำหรับนักดาราศาสตร์ในการช่วยให้สามารถเห็นวัตถุในอวกาศที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า สิ่งสำคัญยิ่งกว่านั้นการค้นพบที่ไม่อาจโต้แย้งถึงการโคจรของดวงดาวหรือเทหฟากฟ้ารอบสิ่งอื่นๆนอกจากโลกนี้ได้สั่นคลอนอย่างรุนแรงต่อระบบโลกเป็นศูนย์กลางที่ได้รับการยอมรับในขณะนั้น ระบบโลกของปโตเลมีเชื่อว่าโลกเป็นศูนย์กลางของจักรวาล ดาวดาวและวัตถุต่างๆโคจรรอบโลก
ในตอนแรกกาลิเลโอได้ตั้งชื่อสิ่งที่ค้นพบครั้งนี้ว่าดวงดาวของคอสิโม ("'s stars") สำหรับชื่อของดวงจันทร์ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันนั้นได้รับการตั้งชื่อโดยซึ่งเป็นผู้ค้นพบดวงจันทร์ทั้งสี่นี้ในช่วงเวลาเดียวกันกับกาลิเลโอ ชื่อดวงจันทร์นี้ได้รับการแนะนำจากโยฮันเนส เคปเลอร์ซึ่งตีพิมพ์ใน Mundus Jovialis ใน พ.ศ. 2157
ประวัติศาสตร์
การค้นพบ
ผลจากการปรับปรุงกล้องโทรทรรศน์โดยกาลิเลโอ กาลิเลอี โดยการเพิ่มกำลังขยายขึ้นเป็น 20 เท่า เขาสามารถมองเห็นเทหฟากฟ้าได้ชัดเจนกว่าที่เคยเห็นโดยกล้องโทรทรรศน์เดิม ทำให้กาลิเลโอค้นพบดาวจันทร์ของกาลิเลโอได้ในช่วงราวเดือนธันวาคม พ.ศ. 2152 ถึง เดือนมกราคม พ.ศ. 2153
เมื่อวันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2153 กาลิเลโอได้เขียนจดหมายซึ่งกล่าวถึงดวงจันทร์ของดาวพฤหัสบดีเป็นครั้งแรก ซึ่งในขณะนั้นเขามองเห็นเพียงสามดวงและเขาเชื่อว่าดวงจันทร์เหล่านั้นมีตำแหน่งที่อยู่คงที่ใกล้กับดาวพฤหัสบดี เขายังได้สังเกตวงโคจรของดวงจันทร์ทั้งสามในระหว่างวันที่ 8 มกราคม ถึง 2 มีนาคม พ.ศ. 2153 ในระหว่างที่เฝ้าสังเกตดวงจันทร์ทั้งสามอยู่นั้นเขาก็ได้ค้นพบดวงจันทร์ดวงที่สี่และจากการสังเกตเขาได้ค้นพบว่าดวงจันทร์ทั้งสี่ไม่ได้อยู่คงที่แต่มันได้โคจรไปรอบๆดาวพฤหัสบดี
การค้นพบของกาลิเลโอได้พิสูจน์ถึงความสำคัญของกล้องโทรทรรศน์ในฐานะเครื่องมือของนักดาราศาสตร์ว่ายังมีเทหวัตถุในอวกาศที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่ารอการค้นพบอยู่ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นการค้นพบว่ามีเทห์ฟ้าที่โคจรรอบสิ่งอื่นนอกจากโลกได้สั่นคลอนอย่างรุนแรงต่อระบบโลกเป็นศูนย์กลางที่ยอมรับกันในขณะนั้นซึ่งเชื่อว่าโลกเป็นศูนย์กลางของจักรวาลและเทหฟากฟ้าอื่นๆทั้งหมดจะโคจรรอบโลก บทความของกาลิเลโอ Sidereus Nuncius (Starry Messenger) ซึ่งประกาศถึงการเฝ้าสังเกตฟากฟ้าผ่านกล้องโทรทรรศน์ของเขานั้นไม่ได้กล่าวยอมรับทฤษฎีระบบดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางซึ่งเชื่อว่าดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางของจักรวาล แต่กาลิเลโอเองก็ยอมรับในทฤษฎีโคเปอร์นิคัส ผลจากการค้นพบครั้งนี้ กาลิเลโอสามารถพัฒนาวิธีการกำหนดลองจิจูดของตำแหน่งในวงโคจรของดวงจันทร์ของกาลิเลโอได้
นักดาราศาสตร์ชาวจีนได้อ้างว่ามีการค้นพบดาวสีแดงขนาดเล็กอยู่ใกล้กับดาวพฤหัสบดีในราว 362 ปีก่อนคริสตกาลโดยนักดาราศาสตร์ชาวจีนซึ่งคาดว่าจะเป็นแกนีมีดซึ่งเป็นเวลาราวสองพันปีก่อนการค้นพบของกาลิเลโอ
อุทิศให้แก่ตระกูลเมดีซี
ใน พ.ศ. 2148 กาลิเลโอได้รับการว่าจ้างให้เป็นครูสอนคณิตศาสตร์ให้กับ ใน พ.ศ. 2152 คอสิโมได้รับการแต่งตั้งเป็นกาลิเลโอได้รับการอุปถัมภ์จากลูกศิษย์ที่มั่งคั่งและครอบครัวที่ทรงอิทธิพลในการค้นพบดวงจันทร์ของดาวพฤหัสบดี ในวันที่ 13 เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2153 กาลิเลโอได้เขียนจดหมายถึงเลขานุการของดยุค ความว่า:
God graced me with being able, through such a singular sign, to reveal to my Lord my devotion and the desire I have that his glorious name live as equal among the stars, and since it is up to me, the first discoverer, to name these new planets, I wish, in imitation of the great sages who placed the most excellent heroes of that age among the stars, to inscribe these with the name of the Most Serene Grand Duke.
พระเจ้าทรงให้โอกาสฉันแสดงความจงรักภักดีต่อท่านและความปรารถนาของฉันที่ต้องการให้ชื่อของท่านอยู่เสมอดวงดาว ฉันในฐานะผู้ค้นพบคนแรกมีสิทธิ์ที่จะตั้งชื่อดวงดาวเหล่านี้ ฉันปรารถนาที่จะทำตามนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ซึ่งตั้งชื่อวีรบุรุษที่ยอดเยี่ยมของยุคในหมู่ดวงดาว โดยการตั้งชื่อดาวเหล่านี้ตามดยุคผู้สูงศักดิ์
กาลิเลโอสอบถามว่าเขาควรจะตั้งชื่อดวงจันทร์นี้ว่า "ดาวคอสิโม" ตามชื่อของคอสิโมหรือควรจะตั้งชื่อว่า "ดาวเมดีซี" เพื่อเป็นเกียรติแก่พี่น้องทั้งสี่ของตระกูลเมดีซี เลขานุการกล่าวว่าชื่อหลังเหมาะสมที่สุด
ในวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2153 กาลิเลโอได้เขียนจดหมายอุทิศให้แก่ดยุคแห่งทุสคานีและได้ส่งสำเนาให้ดยุคในวันต่อมาโดยหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนจากดยุคโดยเร็วที่สุด ในวันที่ 19 มีนาคม เขาได้ส่งกล้องโทรทรรศน์ของเขาที่ใช้ในการส่องดวงจันทร์ของดาวพฤหัสบดีเป็นครั้งแรกให้แก่ดยุคพร้อมด้วยสำเนาอย่างถูกต้องของ Sidereus Nuncius (The Starry Messenger) ซึ่งแสดงว่าเขาได้ปฏิบัติตามคำแนะนำของเลขานุการโดยการตั้งชื่อดวงจันทร์ทั้งสี่ดวงว่า Medician Stars กาลิเลโอเขียนอารัมภบทว่า:
Scarcely have the immortal graces of your soul begun to shine forth on earth than bright stars offer themselves in the heavens which, like tongues, will speak of and celebrate your most excellent virtues for all time. Behold, therefore, four stars reserved for your illustrious name ... which ... make their journeys and orbits with a marvelous speed around the star of Jupiter ... like children of the same family ... Indeed, it appears the Maker of the Stars himself, by clear arguments, admonished me to call these new planets by the illustrious name of Your Highness before all others.
เป็นที่น่ายินดีอย่างหามิได้ ดวงดาวทั้งสี่เป็นสิทธิของท่านในการตั้งชื่อซึ่งทำให้การเดินทางและการโคจรด้วยความเร็วอันน่าอัศจรรย์รอบดาวพฤหัสบดีคล้ายกับเด็กๆจากครอบครัวเดียวกัน อันที่จริงมันคล้ายกับว่าผู้สร้างดวงดาวเหล่านี้ได้ปรากฏตัวเพื่อเตือนสติให้ฉันเรียกดวงดาวเหล่านี้ตามชื่อของท่านดยุค
ชื่อ
กาลิเลโอแรกเริ่มได้ตั้งชื่อดวงจันทร์ที่เขาค้นพบว่า ดวงดาวของคอสิโม ("Cosimo's stars") เพื่อเป็นเกียรติแก่ ต่อมากาลิเลโอได้เปลี่ยนชื่อเป็น Medicea Sidera ("the Medician stars") ตามคำแนะนำของคอสิโมเพื่อเป็นเกียรติแก่พี่น้องทั้งสี่คนของตระกูลเมดีซี (คอสิโม (Cosimo), ฟรานเชสโก (Francesco), คาร์โล (), และ ลอเรนโซ (Lorenzo)) การค้นพบถูกประกาศใน ("Starry Messenger") ตีพิมพ์ที่เมืองเวนิช (เวนิส) ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2153 ซึ่งเป็นเวลาน้อยกว่าสองเดือนหลังการสังเกตพบในครั้งแรก
ชื่ออื่นๆ ซึ่งถูกเสนอพร้อมกัน:
- I. Principharus (สำหรับเจ้าชายแห่งทุสคานี), II. Victripharus (ตั้งชื่อตาม ), III. Cosmipharus (ตั้งชื่อตาม Cosimo de' Medici) and IV. Fernipharus (ตั้งชื่อตาม Duke ) - เสนอชื่อโดย , ศานุศิษย์ของกาลิเลโอและผู้แต่ง the first ephemerides (Medicaeorum Ephemerides, 1656) ;
- Circulatores Jovis, หรือ Jovis Comites - โดย โยฮันเนส เฮเวลิอุส;
- Gardes, หรือ Satellites (ภาษาละติ satelles, satellitis, หมายถึง "ผู้คุ้มกัน") - by .
ส่วนชื่อที่มีโอกาสชนะมากกว่าถูกเสนอโดย Simon Marius ซึ่งเป็นผู้ค้นพบดวงจันทร์ทั้งสี่นี้ในช่วงเวลาเดียวกันกับกาลิเลโอ ชื่อดวงจันทร์นี้ได้รับการแนะนำจาก โยฮันเนส เคปเลอร์ เป็นชื่อตามเทพเจ้าที่เป็นคนรักของ ซูส (Zeus) ได้แก่ ยูโรปา (Europa) แกนิมิด (Ganymede) และ ซึ่งตีพิมพ์ Mundus Jovialis ใน พ.ศ. 2157
กาลิเลโอปฏิเสธการใช้ชื่อที่มาริอุสตั้งโดยได้คิดค้นระบบการเรียกลำดับซึ่งยังคงถูกใช้มาจนถึงทุกวันนี้ควบคู่ไปกับการใช้ชื่อเรียกดวงจันทร์ ลำดับเลขเรียงจากด้านในออกสู่ด้านนอก ดังนั้น I, II, III และ IV สำหรับ ไอโอ (Io), ยูโรปา (Europa), แกนิมิด (Ganymede), และ คาลลิสโต (Callisto) ตามลำดับ กาลิเลโอใช้ระบบนี้ในสมุดบันทึกของเขาแต่ไม่ได้ตีพิมพ์เผยแพร่ ชื่อตามลำดับ (Jupiter x) ถูกใช้มาจนถึงช่วงกลางศตวรรษที่ 20 เมื่อมีการค้นพบดวงจันทร์ดวงอื่นซื่งอยู่ด้านใน จากนั้นชื่อตามที่มาริอุสตั้งจึงถูกใช้กันอย่างแพร่หลาย
สมาชิก
ในการจำลองเราคาดว่าดวงจันทร์ของกาลิเลโอได้ผ่านหลายยุคในช่วงเริ่มแรกของดาวพฤหัสบดี ดวงจันทร์ที่ก่อกำเนิดขึ้นอาจถูกดึงดูดเข้าหาดาวพฤหัสบดีและถูกทำลายลงเนื่องจากแรงดึงดูดของจานดาวเคราะห์ก่อนเกิด เมื่อมีดวงจันทร์ดวงใหม่กำเนิดขึ้นจากชิ้นส่วนที่เหลืออยู่ จนกระทั่งเกิดเป็นดวงจันทร์ดังเช่นในปัจจุบัน เศษชิ้นส่วนที่เหลืออยู่มีจำนวนน้อยลงจนไม่สามารถรบกวนวงโคจรของดวงจันทร์ได้ ไอโอ เป็นดวงจันทร์ที่ไม่มีน้ำ () ภายในน่าจะประกอบด้วยหินและโลหะ ยูโรปา (Europa) น่าจะมีน้ำและน้ำแข็งราว 8% โดยน้ำหนัก ส่วนที่เหลือคาดว่าจะเป็นหิน ข้อมูลของดวงจันทร์โดยเรียงลำดับตามระยะทางจากดาวพฤหัสบดี:
ชื่อ | ภาพถ่าย | แบบจำลองภายใน I E G C | เส้นผ่านศูนย์กลาง (กม) | มวล (กก) | ความหนาแน่น (กรัม/ลูกบาศก์เซนติเมตร) | กึ่งแกนเอก (กึ่งแกนเอก) (km) | คาบวงโคจร (คาบดาราคติ) (d) (relative) | ความเอียง (ความเอียงของวงโคจร) (°) | ความเยื้อง (Eccentricity) |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ไอโอ จูปิเตอร์ 1 | 3660.0 × 3637.4 × 3630.6 | 8.93×1022 | 3.528 | 421800 | 1.769 (1) | 0.050 | 0.0041 | ||
ยูโรปา จูปิเตอร์ 2 | 3121.6 | 4.8×1022 | 3.014 | 671100 | 3.551 (2) | 0.471 | 0.0094 | ||
แกนีมีด จูปิเตอร์ 3 | 5262.4 | 1.48×1023 | 1.942 | 1070400 | 7.155 (4) | 0.204 | 0.0011 | ||
คัลลิสโต จูปิเตอร์ 4 | 4820.6 | 1.08×1023 | 1.834 | 1882700 | 16.69 9.4 | 0.205 | 0.0074 |
ไอโอ
ไอโอ เป็นดวงจันทร์ที่อยู่ด้านในสุดของกลุ่มดวงจันทร์ของกาลิเลโอ มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 3,642 กิโลเมตร เป็นที่สุดเป็นอันดับที่สี่ในระบบสุริยะจักรวาล ได้รับชื่อตามนักบวชของฮีราซึ่งต่อมาได้เป็นคนรักของซูส แต่มันถูกเรียกด้วยชื่อง่ายๆว่า “จูปีเตอร์ 1” หรือ “ดวงจันทร์ดวงแรกของดาวพฤหัสบดี” จนถึงราวกลางศตวรรษที่ 20
ไอโอมีภูเขาไฟซึ่งยังไม่ดับอยู่มากกว่า 400 ลูก จึงทำให้ไอโอเป็นดาวที่มีการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยามากที่สุดในระบบสุริยะจักรวาล พื้นผิวของมันเป็นรอยด่างด้วยภูเขามากกว่า 100 ลูก บางลูกมีความสูงมากกว่ายอดเขาเอเวอร์เรสบนโลก (ยอดเขาเอเวอเรสต์) ส่วนประกอบหลักของไอโอเป็นหินซิลิกาห่อหุ้มแกนกลางซึ่งเป็นหินหลอมเหลวหรือไอออนซัลไฟด์ ซึ่งต่างจากดวงจันทร์ในระบบสุริยะชั้นนอกส่วนมากที่เป็นชั้นน้ำแข็งหนาห่อหุ้มแกนกลาง
ถึงแม้ว่าจะยังไม่ได้รับการพิสูจน์จากข้อมูลล่าสุดจากยานกาลิเลโอออร์บิตเตอร์ (Galileo orbiter) ชื้ให้เห็นว่าไอโออาจจะมีสนามแม่เหล็กของมันเอง ไอโอมีบรรยากาศที่เบาบางมากประกอบด้วยซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) เป็นส่วนมาก หากมีการเก็บข้อมูลหรือตัวอย่างพื้นผิวโดยการส่งยานตรวจการณ์ (เช่นเดียวกับยานตรวจการณ์รูปร่างคล้ายรถถังของสภาพโซเวียต ขื่อ landers) ลงจอดบนพื้นผิวของไอโอในอนาคต มันเป็นเรื่องที่ยากมากที่ยานเหล่านั้นจะสามารถอยู่รอดจากการแผ่รังสีและสนามแม่เหล็กซึ่งมีแหล่งกำเนิดจากดาวพฤหัสบดี
ยูโรปา
ยูโรปา ดวงจันทร์ลำดับที่สองของกลุ่มดวงจันทร์ของกาลิเลโอ อยู่ใกล้ดาวพฤหัสบดีเป็นลำดับที่สองและมีขนาดเล็กที่สุดในกลุ่มดวงจันทร์ของกาลิเลโอ โดยมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 3121.6 กิโลเมตร ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าดวงจันทร์ของโลกเราเพียงเล็กน้อย ชื่อ ยูโรปา (Europa) ตั้งตามยูโรปาเจ้าหญิงชาวฟินิเชียซึ่งต่อมาได้เป็นคนรักของซูสและราชินิแห่งครีตแต่ชื่อนี้ไม่ได้ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายจนกระทั่งกลางศตวรรษที่ 20
ยูโรปาเป็นดาวที่ราบเรียบที่สุดในระบบสุริยะ ด้วยชั้นของน้ำซึ่งคาดการณ์ว่าจะหนาถึง 100 กิโลเมตรห่อหุ้มแกนกลางของดาว พื้นผิวที่ราบเรียบประกอบขึ้นจากชั้นของน้ำแข็งขณะที่ส่วนที่อยู่ใต้ชั้นน้ำแข็งนั้นในทางทฤษฎีน่าจะเป็นน้ำในรูปของเหลว ผิวที่ราบเรียบและมีอายุไม่มากนั้นสนับสนุนสมมุติฐานว่ามีมหาสมุทรอยู่ภายใต้พื้นผิวซึ่งอาจเป็นที่อาศัยของสิ่งมีชีวิตนอกโลก พลังงานความร้อนที่เกิดขึ้นจากแรงน้ำขึ้นน้ำลงช่วยทำให้น้ำอยู่ในสภาพของเหลวและเป็นแรงผลักดันให้เกิดกิจกรรมทางธรณีวิทยาบนดวงจันทร์ สิ่งมีชีวิตอาจสามารถอาศัยอยู่บนยูโรปาภายใต้มหาสมุทรที่ถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็งซึ่งอาจคล้ายกับสิ่งมีชีวิตบนโลกที่อาศัยบนโลก เช่น ปล่องไฮโดรเทอร์มอล หรือ ทะเลสาบวอสตอกในทวีปแอนตาร์กติก สิ่งมีชีวิตที่อาศัยในมหาสมุทรอาจคล้ายกับจุลินทรีย์ที่อาศัยก้นทะเลบนโลก จนถึงขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานที่บ่งชี้ว่ามีสิ่งมีชิวิตอยู่บนยูโรปา แต่จากความเป็นไปได้ที่มีน้ำในรูปของเหลวเป็นสิ่งเรียกร้องให้มีการส่งเครื่องมือตรวจวัดไปที่ยูโรปา
รอยขีดที่ปรากฏอย่างเด่นชัดทั่วไปบนดวงจันทร์คือลักษณะแอลบีโดซึ่งเป็นรอยลึกในภูมิประเทศ มีหลุมอุกกาบาตไม่มากนักบนยูโรปาเนื่องจากภูมิประเทศมีอายุน้อยและการเปลี่ยนแปลง บางทฤษฎีกล่าวว่าแรงดึงดูดของดาวพฤหัสบดีเป็นต้นเหตุของรอยเหล่านี้จากการที่ยูโรปาหันด้านหนึ่งเข้าหาดาวพฤหัสบดีตลอดเวลา รวมทั้งการปะทุของน้ำจากมหาสมุทรภายใต้เปลือกน้ำแข็งทำให้ผิวของดวงจันทร์แยกออกหรือแม้แต่น้ำพุไกเซอร์ (geyser) ก็เป็นสาเหตุของรอยขีดเหล่านี้ สีแดงน้ำตาลของรอยขีดเหล่านี้ ในทางทฤษฎีคาดว่าจะเกิดจากกำมะถัน แต่นักวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถยืนยันได้แน่ชัดเนื่องจากยังไม่มีการส่งเครื่องมือตรวจวัดใดๆไปที่ยูโรปา องค์ประกอบของยูโรปาส่วนใหญ่เป็นหินซิลิกาและน่าจะมีแกนกลางเป็นเหล็กมันมีบรรยากาศที่เบาบางโดยประกอบด้วยออกซิเจนเป็นหลัก
แกนีมีด
แกนีมีด ดวงจันทร์ลำดับที่สามของกลุ่มดวงจันทร์ของกาลิเลโอ ได้ชื่อตามแกนีมีดเทพเจ้าของกรีกที่ทำหน้าที่ผู้ถวายพระสุทธารส (cupbearer) และเป็นคนรักของซูส แกนิมิเป็นในระบบสุริยะ มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 5262.4 กิโลเมตร มันจึงมีขนาดใหญ่กว่าดาวพุธ - แต่มีมวลเพียงครึ่งเดียว เนื่องจากแกนีมีดมีส่วนประกอบเป็นน้ำแข็งจำนวนมาก มันเป็นดาวบริวารเพียงดวงเดียวที่มีสนามแม่เหล็กแม็กนีโตสเฟียร์เป็นของตัวเองซึ่งน่าจะเกิดจากการพาความร้อนภายในแกนกลางที่เป็นเหล็กหลอมเหลว
องค์ประกอบหลักของแกนีมีดเป็นหินซิลิกาและน้ำในรูปของแข็งและมีมหาสมุทรน้ำเค็มซึ่งเชื่อว่าอยู่ลึกราว 200 กิโลเมตรใต้พื้นผิวของแกนีมีดโดยถูกประกบไว้ด้วยชั้นของน้ำแข็ง แกนกลางที่เป็นโลหะของแกนีมีดชี้ว่าในอดีตแกนีมีดอาจจะมีความร้อนสูงมากกว่าในปัจจุบัน พื้นผิวของดาวประกอบด้วยพื่นที่สองประเภท - พื้นผิวที่มีสีเข้มและมีอายุน้อยกว่ากับพื้นผิวซึ่งมีอายุมากกว่าและเต็มไปด้วยร่องและแนว แกนีมีดเต็มไปด้วยหลุมอุกกาบาตแต่ส่วนมากได้หายไปหรือสังเกตเห็นได้ยากเนื่องจากเปลือกน้ำแข็งที่ปกคลุมเหนือหลุมเหล่านั้น ดวงจันทร์มีบรรยากาศเบาบางประกอบด้วยออกซิเจนในรูป O, O2, และอาจจะมี O3 (โอโซน) และยังมีอะตอมไฮโดรเจน
คาลลิสโต
คาลลิสโต ดวงจันทร์ลำดับที่ 4 และเป็นดวงสุดท้ายของกลุ่มดวงจันทร์ของกาลิเลโอ มีขนาดใหญ่เป็นลำดับที่สองของกลุ่มดวงจันทร์ของกาลิเลโอ โดยมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 4820.6 กิโลเมตร ซึ่งเป็นลำดับที่สามของในระบบสุริยะ คาลลิสโตเป็นลูกสาวของกษัตริย์ลีคาโอนแห่งอาคาเดียและเป็นเพื่อนล่าสัตว์ของเทพธิดาอาร์ทิมิส คาลลิสโตไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการสั่นพ้องของวงโคจรของดวงจันทร์อีกสามดวงของกาลิเลโอดังนั้นจึงไม่ได้รับพลังงานความร้อนจากแรงน้ำขึ้นน้ำลง คาลลิสโตประกอบด้วยหินและน้ำแข็งในปริมาณที่เท่าๆกันซึ่งทำให้มันมีความหนาแน่นน้อยที่สุดในกลุ่มดวงจันทร์ของกาลิเลโอ คาลลิสโตเป็นดาวบริวารที่ถูกชนโดยอุกกาบาตอย่างหนักที่ใหญ่ที่สุดดาวหนึ่งในระบบสุริยะโดยมีแอ่งหลุมอุกกาบาตที่สำคัญคือแอ่ง มีความกว้างประมาณ 3000 กิโลเมตร
คาลิสโตมีชั้นบรรยากาศที่เบาบางอย่างมากซึ่งประกอบด้วยคาร์บอนไดออกไซด์ และโมเลกุลของออกซิเจน การตรวจสอบพบว่าคาลิสโตอาจมีมหาสมุทรที่มีน้ำในรูปของเหลวอยู่ใต้พื้นผิวดาวที่ระดับความลึกมากกว่า 100 กิโลเมตร การที่คาลลิโตน่าจะมีมหาสมุทรนั้นอาจหมายถึงว่าอาจมีหรือเคยมีสิ่งมีชีวิตบนคาลิสโต อย่างไรก็ดีความเป็นไปได้นั้นน้อยกว่าบนดวงจันทร์ที่อยู่ใกล้กันอย่างยูโรปา คาลลิสโตได้รับการพิจารณาว่าเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับเป็นฐานที่อยู่ของมนุษย์สำหรับการสำรวจในอนาคตระบบดาวพฤหัสบดีเนื่องจากว่ามันอยู่ห่างไกลจากการแผ่รังสีอันรุนแรงของดาวพฤหัสบดีที่สุด
โครงสร้างโดยเปรียบเทียบ
Moon | /day |
---|---|
Io | 3600 |
Europa | 540 |
Ganymede | 8 |
Callisto | 0.01 |
ความผันผวนวงโคจรของดวงจันทร์ชี้ให้เห็นว่าความหนาแน่นของดวงจันทร์จะลดลงตามระยะทางจากดาวพฤหัสบดีที่เพิ่มขึ้น คาลลิสโตซึ่งโคจรอยู่ด้านนอกสุดและมีความหนาแน่นน้อยที่สุดในบรรดาดวงจันทร์ทั้ง 4 ดวง โดยมีความหนาแน่นอยู่ระหว่างน้ำแข็งและหิน ในขณะที่ไอโอซึ่งโคจรอยู่ด้านในที่สุดและมีความหนาแน่นมากที่สุดในบรรดาดวงจันทร์ทั้ง 4 ดวง โดยมีความหนาแน่นอยู่ระหว่างหินและเหล็ก คาลลิสโตมีพื้นผิวเก่าแก่และมีร่องรอยการชนของอุกกาบาตอย่างหนักและพื้นผิวน้ำแข็งที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยาและรูปแบบการหมุนของมันชี้ให้เห็นว่าคาลิสโตไม่มีแกนกลางที่เป็นหินหรือโลหะแต่เป็นส่วนผสมที่เป็นเนื้อเดียวกันของหินและน้ำแข็งซึ่งอาจเป็นไปได้ที่จะเป็นโครงสร้างแรกเริ่มของดวงจันทร์ทั้งหมด ในทางตรงข้ามการหมุนของดวงจันทร์ด้านในทั้งสามชี้ให้เห็นความแตกต่างของส่วนประกอบภายในที่หนักกว่าและส่วนที่เบากว่าอยู่ด้านบน มันยังเปิดเผยการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญของพื้นผิว แกนิมิดเผยถึงการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยาของผิวน้ำแข็งซึ่งเกิดจากชั้นที่อยู่ใต้ลงไปซึ่งบางส่วนละลายเป็นของเหลว ยูโรปาเผยถึงการเคลื่อนไหวของเปลือกน้ำแข็งที่มากกว่าและเกิดขึ้นเร็วๆนี้ซึ่งชี้ให้เห็นว่ายูโรปามีเปลือกน้ำแข็งที่บางกว่า สุดท้าย ไอโอดวงจันทร์ด้านในสุดมีผิวที่ปกคลุมด้วยกำมะถัน ภูเขาไฟซึ่งยังไม่ดับและไม่มีสัญญาณของน้ำแข็งบนพื้นผิว หลักฐานเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่าดวงจันทร์ที่อยู่ใกล้ดาวพฤหัสบดีมากขึ้นเท่าไรจะมีความร้อนภายในดวงจันทร์มากขึ้นเท่านั้น แบบจำลองแสดงให้เห็นว่าดวงจันทร์ได้รับพลังงานความร้อนจากแรงน้ำขึ้นน้ำลงซึ่งเป็นผลมาจากสนามความโน้มถ่วงของดาวพฤหัสบดี โดยเป็นสัดส่วนผกผันกับกำลังสองของระยะทางจากดวงจันทร์ถึงดาวพฤหัสบดี ซึ่งเกิดกับดวงจันทร์ทั้งหมด ยกเว้น คาลลิสโต ปรากฏการณ์นี้จะหลอมละลายน้ำแข็งภายในและทำให้หินและเหล็กจมลงสู่ภายในของดวงจันทร์ส่วนน้ำจะปกคลุมพื้นผิว ในแกนิมิดเปลือกน้ำแข็งหนาและหนัก ส่วนยูโรปาซึ่งอุ่นกว่ามีเปลือกที่บางกว่าและแตกง่ายกว่า ส่วนไอโอซึ่งมีความร้อนสูงมากจนหินหลอมละลายและน้ำได้ระเหยออกสู่อวกาศไปเมื่อนานมาแล้ว
ขนาด
การบินผ่านครั้งล่าสุด
การมองเห็นได้
ดวงจันทร์ของกาลิเลโอทั้งสี่ดวงมีความสว่างเพียงพอที่จะมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าจากโลกถ้าหากว่ามันอยู่ห่างจากดาวพฤหัสบดีมากเพียงพอ อย่างไรก็ดีมันสามารถมองเห็นได้โดยง่ายด้วยกล้องสองตาที่มีไม่ต้องมีกำลังขยายสูง ดวงจันทร์ทั้งสี่มีความส่องสว่างปรากฏระหว่าง 4.6 ถึง 5.6 เมื่อดาวพฤหัสบดีอยู่ที่ตำแหน่งตรงข้ามกับดวงอาทิตย์ และมีความสว่างปรากฏต่ำกว่า 1 หน่วยเมื่อมันอยู่หลังดาวพฤหัสบดี ความยากที่สุดในการสังเกตดวงจันทร์ทั้งสี่จากโลกคือระยะห่างของมันกับดาวพฤหัสบดีเนื่องจากดวงจันทร์จะโดนบดบังโดยความสว่างของดาวพฤหัสบดี การแบ่งแยกเชิงมุมสูงสุดระหว่างดวงจันทร์กับดาวพฤหัสบดีอยู่ระหว่าง 2 และ 10 ลิปดา ซึ่งใกล้เคียงกับความขีดจำกัดของการมองเห็นของมนุษย์ แกนิมิดและคาลิสโตซึ่งมีการแบ่งแยกเชิงมุมสูงที่สุดเป็นเป้าหมายที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าง่ายที่สุด วิธีที่ง่ายที่สุดในการสังเกตพวกมันคือหาวัตถุบังดาวพฤหัสบดี เช่น กิ่งต้นไม้หรือเสาไฟฟ้าที่ตั้งฉากกับระนาบวงโคจรของดวงจันทร์กับดาวพฤหัสบดี
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
- Galilei, Galileo, Sidereus Nuncius. Translated and prefaced by Albert Van Helden. Chicago & London: University of Chicago Press 1989, 14–16
- Van Helden, Albert (March 1974). "The Telescope in the Seventeenth Century". Isis. The University of Chicago Press on behalf of The History of Science Society. 65 (1): 38–58. doi:10.1086/351216. JSTOR 228880.
- Galilei, Galileo (1610). (PDF). Venice. ISBN . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2012-02-07. สืบค้นเมื่อ 2014-07-02.
On the seventh day of January in this present year 1610....
- "Satellites of Jupiter". The Galileo Project. มหาวิทยาลัยไรซ์. 1995. สืบค้นเมื่อ 9 August 2007.
- Howse, Derek. Greenwich Time and the Discovery of the Longitude. Oxford: Oxford University Press, 1980, 12.
- Zezong, Xi, "The Discovery of Jupiter's Satellite Made by Gan De 2000 years Before Galileo", Chinese Physics 2 (3) (1982) : 664–67.
- "Annuaire de l'Observatoire royal de Bruxelles - Google Boeken". Books.google.com. สืบค้นเมื่อ 11 November 2013.
- Marazzini, C. (2005). "The names of the satellites of Jupiter: from Galileo to Simon Marius". Lettere Italiana. 57 (3): 391–407.
- Chown, Marcus (7 March 2009). "Cannibalistic Jupiter ate its early moons". . สืบค้นเมื่อ 18 March 2009.
- Canup, Robin M.; Ward, William R. (2008-12-30). "Origin of Europa and the Galilean Satellites". The : 59. :0812.4995. Bibcode:2009euro.book...59C.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - Computed using the IAU-MPC Satellites Ephemeris Service µ value
- Source: JPL/NASA 2008-09-17 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Computed from IAG Travaux 2001 2018-10-31 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน.
- Lopes, R. M. C.; และคณะ (2004). "Lava Lakes on Io: Observations of Io's Volcanic Activity from Galileo NIMS During the 2001 Fly-bys". Icarus. 169 (1): 140–174. Bibcode:2004Icar..169..140L. doi:10.1016/j.icarus.2003.11.013.
{{}}
:|first10=
ไม่มี|last10=
((help)) - Schenk, P.; และคณะ (2001). "The Mountains of Io: Global and Geological Perspectives from Voyager and Galileo". Journal of Geophysical Research. 106 (E12): 33201–33222. Bibcode:2001JGR...10633201S. doi:10.1029/2000JE001408.
- ; และคณะ (2003). "Cassini imaging of Jupiter's atmosphere, satellites, and rings". Science. 299 (5612): 1541–1547. Bibcode:2003Sci...299.1541P. doi:10.1126/science.1079462. PMID 12624258.
{{}}
:|first10=
ไม่มี|last10=
((help));|first11=
ไม่มี|last11=
((help));|first12=
ไม่มี|last12=
((help));|first13=
ไม่มี|last13=
((help));|first14=
ไม่มี|last14=
((help));|first15=
ไม่มี|last15=
((help));|first16=
ไม่มี|last16=
((help));|first17=
ไม่มี|last17=
((help));|first18=
ไม่มี|last18=
((help));|first19=
ไม่มี|last19=
((help));|first20=
ไม่มี|last20=
((help));|first21=
ไม่มี|last21=
((help));|first22=
ไม่มี|last22=
((help));|first23=
ไม่มี|last23=
((help));|first24=
ไม่มี|last24=
((help)) - McEwen, A. S.; และคณะ (1998). "High-temperature silicate volcanism on Jupiter's moon Io". Science. 281 (5373): 87–90. Bibcode:1998Sci...281...87M. doi:10.1126/science.281.5373.87. PMID 9651251.
{{}}
:|first10=
ไม่มี|last10=
((help));|first11=
ไม่มี|last11=
((help));|first12=
ไม่มี|last12=
((help));|first13=
ไม่มี|last13=
((help));|first14=
ไม่มี|last14=
((help));|first15=
ไม่มี|last15=
((help)) - Fanale, F. P.; และคณะ (1974). "Io: A Surface Evaporite Deposit?". Science. 186 (4167): 922–925. Bibcode:1974Sci...186..922F. doi:10.1126/science.186.4167.922. PMID 17730914.
- . Project Galileo: Moons and Rings of Jupiter. นาซา, Jet Propulsion Laboratory. 2001. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-07-27. สืบค้นเมื่อ 9 August 2007.
- Hamilton, C. J. "Jupiter's Moon Europa".
- Tritt, Charles S. (2002). . Milwaukee School of Engineering. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-06-09. สืบค้นเมื่อ 10 August 2007.
- "Tidal Heating". geology.asu.edu. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2006-03-29. สืบค้นเมื่อ 2007-10-20.
- Exotic Microbes Discovered near Lake Vostok 2009-08-26 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, Science@NASA (December 10, 1999)
- Jones, N.; Bacterial explanation for Europa's rosy glow 2012-10-18 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, NewScientist.com (11 December 2001)
- Phillips, Cynthia (28 September 2006). "Time for Europa". Space.com. สืบค้นเมื่อ 5 January 2014.
{{}}
: CS1 maint: url-status () - Arnett, B.; Europa (November 7, 1996)
- Carlson, R.W.; M.S. Anderson (2005). "Distribution of hydrate on Europa: Further evidence for sulfuric acid hydrate". สืบค้นเมื่อ 2007-12-20.[]
- "Satellites of Jupiter". The Galileo Project. สืบค้นเมื่อ 2007-11-24.
- "Ganymede". nineplanets.org. October 31, 1997. สืบค้นเมื่อ 2008-02-27.
- Kivelson, M.G.; Khurana, K.K.; และคณะ (2002). (PDF). Icarus. 157 (2): 507–522. Bibcode:2002Icar..157..507K. doi:10.1006/icar.2002.6834. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2009-03-27. สืบค้นเมื่อ 2014-07-02.
- . Jet Propulsion Laboratory. NASA. 2000-12-16. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-01-17. สืบค้นเมื่อ 2008-01-11.
- Hall, D.T.; Feldman, P.D.; และคณะ (1998). "The Far-Ultraviolet Oxygen Airglow of Europa and Ganymede". The Astrophysical Journal. 499 (1): 475–481. Bibcode:1998ApJ...499..475H. doi:10.1086/305604.
- Eviatar, Aharon; Vasyliunas, Vytenis M.; และคณะ (2001). "The ionosphere of Ganymede" (ps). Plan.Space Sci. 49 (3–4): 327–336. Bibcode:2001P&SS...49..327E. doi:10.1016/S0032-0633(00)00154-9.
- Musotto, Susanna; Varadi, Ferenc; Moore, William; Schubert, Gerald (2002). "Numerical Simulations of the Orbits of the Galilean Satellites". Icarus. 159 (2): 500–504. Bibcode:2002Icar..159..500M. doi:10.1006/icar.2002.6939.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - Carlson, R. W.; และคณะ (1999). (PDF). Science. 283 (5403): 820–821. Bibcode:1999Sci...283..820C. doi:10.1126/science.283.5403.820. PMID 9933159. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2008-10-03. สืบค้นเมื่อ 2014-07-02.
- Liang, M. C.; Lane, B. F.; Pappalardo, R. T.; และคณะ (2005). (PDF). Journal of Geophysics Research. 110 (E2): E02003. Bibcode:2005JGRE..11002003L. doi:10.1029/2004JE002322. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2011-12-12. สืบค้นเมื่อ 2014-07-02.
- Showman, Adam P.; Malhotra, Renu (1999). (PDF). Science. 286 (5437): 77–84. doi:10.1126/science.286.5437.77. PMID 10506564. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2011-05-14. สืบค้นเมื่อ 2014-07-02.
- Lipps, Jere H.; Delory, Gregory; Pitman, Joe; และคณะ (2004). Hoover, Richard B; Levin, Gilbert V; Rozanov, Alexei Y (บ.ก.). (PDF). Proc. SPIE. Instruments, Methods, and Missions for Astrobiology VIII. 5555: 10. doi:10.1117/12.560356. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2008-08-20. สืบค้นเมื่อ 2014-07-02.
- Trautman, Pat; Bethke, Kristen (2003). (PDF). NASA. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2012-01-19. สืบค้นเมื่อ 2014-07-02.
- Ringwald, Frederick A. (29 February 2000). "SPS 1020 (Introduction to Space Sciences)". California State University, Fresno. สืบค้นเมื่อ 5 January 2014.
{{}}
: CS1 maint: url-status () - Yeomans, Donald K. (2006-07-13). "Planetary Satellite Physical Parameters". JPL Solar System Dynamics. สืบค้นเมื่อ 2008-08-23.
- Jupiter is about 750 times brighter than Ganymede and about 2000 times brighter than Callisto.
Ganymede: (5th root of 100) ^ (4.4 Ganymede ความส่องสว่างปรากฏ - (-2.8 Jup APmag)) = 758
Callisto: (5th root of 100) ^ (5.5 Callisto APmag - (-2.8 Jup APmag)) = 2089 - Jupiter near จุดปลายระยะทางวงโคจร 2010-Sep-19: 656.7 (Callisto angular separation arcsec) - 24.9 (jup angular รัศมี arcsec) = 631 arcsec = 10 arcmin
แหล่งข้อมูลอื่น
- Animation of Galileo's observation, march 1613
- Sky & Telescope utility for identifying Galilean moons 2013-12-03 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
dwngcnthrkhxngkalielox xngkvs Galilean moons khuxdwngcnthrbriwarthng 4 dwngkhxngdawphvhsbdisungthukkhnphbodykalielox kalielxichwngeduxnmkrakhm ph s 2153 dwngcnthrthng 4 dwngepndwngcnthrthiihythisudinbrrdadwngcnthrkhxngdawphvhsbdichuxkhxngdwngcnthrthng 4 idrbkartngchuxkhnrkkhxngsusidaek yuorpa aeknimidaela dwngcnthrthng 4 epninrabbsuriyanxkehnuxcakdwngxathityaeladawekhraahthngaepddwng mnmiesnphansunyklangthiihykwadawekhraahaekhraid dwngcnthrsamdwngdanin idaek ixox yuorpa aeknimid mikarsnphxngkhxngwngokhcrthi 1 2 4phaphtdtxaesdngihehndwngcnthrkhxngkalieloxthngsidwng epriybethiybihehnkhnadkhxngdwngcnthrkbkhnadkhxngdawphvhsbdi cakbnlnglang ixox yuorpa aeknimid khllisot dwngcnthrthng 4 dwngthukkhnphbinchwngrahwang ph s 2152 2153 emuxkalieloxidprbprungklxngothrthrrsnsungthaihekhasamarthsngektehnethhfakfaidchdecnkhunkwathiphanma karkhnphbkhxngkalieloxaesdngihehnthungkhwamsakhykhxngklxngothrthrrsninthanakhxngekhruxngmuxsahrbnkdarasastrinkarchwyihsamarthehnwtthuinxwkasthiimsamarthmxngehniddwytaepla singsakhyyingkwannkarkhnphbthiimxacotaeyngthungkarokhcrkhxngdwngdawhruxethhfakfarxbsingxunnxkcakolkniidsnkhlxnxyangrunaerngtxrabbolkepnsunyklangthiidrbkaryxmrbinkhnann rabbolkkhxngpotelmiechuxwaolkepnsunyklangkhxngckrwal dawdawaelawtthutangokhcrrxbolk intxnaerkkalieloxidtngchuxsingthikhnphbkhrngniwadwngdawkhxngkhxsiom s stars sahrbchuxkhxngdwngcnthrthiichknxyuinpccubnnnidrbkartngchuxodysungepnphukhnphbdwngcnthrthngsiniinchwngewlaediywknkbkalielox chuxdwngcnthrniidrbkaraenanacakoyhnens ekhpelxrsungtiphimphin Mundus Jovialis in ph s 2157prawtisastrkarkhnphb kalielox kalielxiphukhnphbdwngcnthrkhxngkalieloxthngsidwng phlcakkarprbprungklxngothrthrrsnodykalielox kalielxi odykarephimkalngkhyaykhunepn 20 etha ekhasamarthmxngehnethhfakfaidchdecnkwathiekhyehnodyklxngothrthrrsnedim thaihkalieloxkhnphbdawcnthrkhxngkalieloxidinchwngraweduxnthnwakhm ph s 2152 thung eduxnmkrakhm ph s 2153 emuxwnthi 7 mkrakhm ph s 2153 kalieloxidekhiyncdhmaysungklawthungdwngcnthrkhxngdawphvhsbdiepnkhrngaerk sunginkhnannekhamxngehnephiyngsamdwngaelaekhaechuxwadwngcnthrehlannmitaaehnngthixyukhngthiiklkbdawphvhsbdi ekhayngidsngektwngokhcrkhxngdwngcnthrthngsaminrahwangwnthi 8 mkrakhm thung 2 minakhm ph s 2153 inrahwangthiefasngektdwngcnthrthngsamxyunnekhakidkhnphbdwngcnthrdwngthisiaelacakkarsngektekhaidkhnphbwadwngcnthrthngsiimidxyukhngthiaetmnidokhcriprxbdawphvhsbdi karkhnphbkhxngkalieloxidphisucnthungkhwamsakhykhxngklxngothrthrrsninthanaekhruxngmuxkhxngnkdarasastrwayngmiethhwtthuinxwkasthiimsamarthmxngehniddwytaeplarxkarkhnphbxyuthisakhyyingkwannkarkhnphbwamiethhfathiokhcrrxbsingxunnxkcakolkidsnkhlxnxyangrunaerngtxrabbolkepnsunyklangthiyxmrbkninkhnannsungechuxwaolkepnsunyklangkhxngckrwalaelaethhfakfaxunthnghmdcaokhcrrxbolk bthkhwamkhxngkalielox Sidereus Nuncius Starry Messenger sungprakasthungkarefasngektfakfaphanklxngothrthrrsnkhxngekhannimidklawyxmrbthvsdirabbdwngxathityepnsunyklangsungechuxwadwngxathityepnsunyklangkhxngckrwal aetkalieloxexngkyxmrbinthvsdiokhepxrnikhs phlcakkarkhnphbkhrngni kalieloxsamarthphthnawithikarkahndlxngcicudkhxngtaaehnnginwngokhcrkhxngdwngcnthrkhxngkalieloxid nkdarasastrchawcinidxangwamikarkhnphbdawsiaedngkhnadelkxyuiklkbdawphvhsbdiinraw 362 pikxnkhristkalodynkdarasastrchawcinsungkhadwacaepnaeknimidsungepnewlarawsxngphnpikxnkarkhnphbkhxngkalielox xuthisihaektrakulemdisi dawemdisiin Sidereus Nuncius the starry messenger 1610 dwngcnthrwadintaaenngtang in ph s 2148 kalieloxidrbkarwacangihepnkhrusxnkhnitsastrihkb in ph s 2152 khxsiomidrbkaraetngtngepnkalieloxidrbkarxupthmphcakluksisythimngkhngaelakhrxbkhrwthithrngxiththiphlinkarkhnphbdwngcnthrkhxngdawphvhsbdi inwnthi 13 eduxnkumphaphnth ph s 2153 kalieloxidekhiyncdhmaythungelkhanukarkhxngdyukh khwamwa God graced me with being able through such a singular sign to reveal to my Lord my devotion and the desire I have that his glorious name live as equal among the stars and since it is up to me the first discoverer to name these new planets I wish in imitation of the great sages who placed the most excellent heroes of that age among the stars to inscribe these with the name of the Most Serene Grand Duke phraecathrngihoxkaschnaesdngkhwamcngrkphkditxthanaelakhwamprarthnakhxngchnthitxngkarihchuxkhxngthanxyuesmxdwngdaw chninthanaphukhnphbkhnaerkmisiththithicatngchuxdwngdawehlani chnprarthnathicathatamnkprachyphuyingihysungtngchuxwirburusthiyxdeyiymkhxngyukhinhmudwngdaw odykartngchuxdawehlanitamdyukhphusungskdi kalieloxsxbthamwaekhakhwrcatngchuxdwngcnthrniwa dawkhxsiom tamchuxkhxngkhxsiomhruxkhwrcatngchuxwa dawemdisi ephuxepnekiyrtiaekphinxngthngsikhxngtrakulemdisi elkhanukarklawwachuxhlngehmaasmthisud inwnthi 12 minakhm ph s 2153 kalieloxidekhiyncdhmayxuthisihaekdyukhaehngthuskhaniaelaidsngsaenaihdyukhinwntxmaodyhwngwacaidrbkarsnbsnuncakdyukhodyerwthisud inwnthi 19 minakhm ekhaidsngklxngothrthrrsnkhxngekhathiichinkarsxngdwngcnthrkhxngdawphvhsbdiepnkhrngaerkihaekdyukhphrxmdwysaenaxyangthuktxngkhxng Sidereus Nuncius The Starry Messenger sungaesdngwaekhaidptibtitamkhaaenanakhxngelkhanukarodykartngchuxdwngcnthrthngsidwngwa Medician Stars kalieloxekhiynxarmphbthwa Scarcely have the immortal graces of your soul begun to shine forth on earth than bright stars offer themselves in the heavens which like tongues will speak of and celebrate your most excellent virtues for all time Behold therefore four stars reserved for your illustrious name which make their journeys and orbits with a marvelous speed around the star of Jupiter like children of the same family Indeed it appears the Maker of the Stars himself by clear arguments admonished me to call these new planets by the illustrious name of Your Highness before all others epnthinayindixyanghamiid dwngdawthngsiepnsiththikhxngthaninkartngchuxsungthaihkaredinthangaelakarokhcrdwykhwamerwxnnaxscrryrxbdawphvhsbdikhlaykbedkcakkhrxbkhrwediywkn xnthicringmnkhlaykbwaphusrangdwngdawehlaniidprakttwephuxetuxnstiihchneriykdwngdawehlanitamchuxkhxngthandyukh chux xupkrninsmnklangstwrrsthi 18 ichephuxaesdngwngokhcrdawbriwarkhxngdawphvhsbdi kalieloxaerkerimidtngchuxdwngcnthrthiekhakhnphbwa dwngdawkhxngkhxsiom Cosimo s stars ephuxepnekiyrtiaek txmakalieloxidepliynchuxepn Medicea Sidera the Medician stars tamkhaaenanakhxngkhxsiomephuxepnekiyrtiaekphinxngthngsikhnkhxngtrakulemdisi khxsiom Cosimo franechsok Francesco kharol aela lxernos Lorenzo karkhnphbthukprakasin Starry Messenger tiphimphthiemuxngewnich ewnis ineduxnminakhm ph s 2153 sungepnewlanxykwasxngeduxnhlngkarsngektphbinkhrngaerk chuxxun sungthukesnxphrxmkn I Principharus sahrbecachayaehngthuskhani II Victripharus tngchuxtam III Cosmipharus tngchuxtam Cosimo de Medici and IV Fernipharus tngchuxtam Duke esnxchuxody sanusisykhxngkalieloxaelaphuaetng the first ephemerides Medicaeorum Ephemerides 1656 Circulatores Jovis hrux Jovis Comites ody oyhnens ehewlixus Gardes hrux Satellites phasalati satelles satellitis hmaythung phukhumkn by swnchuxthimioxkaschnamakkwathukesnxody Simon Marius sungepnphukhnphbdwngcnthrthngsiniinchwngewlaediywknkbkalielox chuxdwngcnthrniidrbkaraenanacak oyhnens ekhpelxr epnchuxtamethphecathiepnkhnrkkhxng sus Zeus idaek yuorpa Europa aeknimid Ganymede aela sungtiphimph Mundus Jovialis in ph s 2157 kalieloxptiesthkarichchuxthimarixustngodyidkhidkhnrabbkareriykladbsungyngkhngthukichmacnthungthukwnnikhwbkhuipkbkarichchuxeriykdwngcnthr ladbelkheriyngcakdaninxxksudannxk dngnn I II III aela IV sahrb ixox Io yuorpa Europa aeknimid Ganymede aela khallisot Callisto tamladb kalieloxichrabbniinsmudbnthukkhxngekhaaetimidtiphimphephyaephr chuxtamladb Jupiter x thukichmacnthungchwngklangstwrrsthi 20 emuxmikarkhnphbdwngcnthrdwngxunsungxyudanin caknnchuxtamthimarixustngcungthukichknxyangaephrhlaysmachikinkarcalxngerakhadwadwngcnthrkhxngkalieloxidphanhlayyukhinchwngerimaerkkhxngdawphvhsbdi dwngcnthrthikxkaenidkhunxacthukdungdudekhahadawphvhsbdiaelathukthalaylngenuxngcakaerngdungdudkhxngcandawekhraahkxnekid emuxmidwngcnthrdwngihmkaenidkhuncakchinswnthiehluxxyu cnkrathngekidepndwngcnthrdngechninpccubn esschinswnthiehluxxyumicanwnnxylngcnimsamarthrbkwnwngokhcrkhxngdwngcnthrid ixox epndwngcnthrthiimmina phayinnacaprakxbdwyhinaelaolha yuorpa Europa nacaminaaelanaaekhngraw 8 odynahnk swnthiehluxkhadwacaepnhin khxmulkhxngdwngcnthrodyeriyngladbtamrayathangcakdawphvhsbdi chux phaphthay aebbcalxngphayin I E G C esnphansunyklang km mwl kk khwamhnaaenn krm lukbaskesntiemtr kungaeknexk kungaeknexk km khabwngokhcr khabdarakhti d relative khwamexiyng khwamexiyngkhxngwngokhcr khwameyuxng Eccentricity ixox cupietxr 1 3660 0 3637 4 3630 6 0893 8 93 1022 3 528 421800 1 769 1 0 050 0 0041yuorpa cupietxr 2 3121 6 0480 4 8 1022 3 014 671100 3 551 2 0 471 0 0094aeknimid cupietxr 3 5262 4 1480 1 48 1023 1 942 1070 400 7 155 4 0 204 0 0011khllisot cupietxr 4 4820 6 1080 1 08 1023 1 834 1882 700 16 69 9 4 0 205 0 0074ixox The three inner Galilean moons revolve in a 4 2 1 resonance ixox epndwngcnthrthixyudaninsudkhxngklumdwngcnthrkhxngkalielox mikhnadesnphansunyklang 3 642 kiolemtr epnthisudepnxndbthisiinrabbsuriyackrwal idrbchuxtamnkbwchkhxnghirasungtxmaidepnkhnrkkhxngsus aetmnthukeriykdwychuxngaywa cupietxr 1 hrux dwngcnthrdwngaerkkhxngdawphvhsbdi cnthungrawklangstwrrsthi 20 ixoxmiphuekhaifsungyngimdbxyumakkwa 400 luk cungthaihixoxepndawthimikarepliynaeplngthangthrniwithyamakthisudinrabbsuriyackrwal phunphiwkhxngmnepnrxydangdwyphuekhamakkwa 100 luk banglukmikhwamsungmakkwayxdekhaexewxrersbnolk yxdekhaexewxerst swnprakxbhlkkhxngixoxepnhinsilikahxhumaeknklangsungepnhinhlxmehlwhruxixxxnslifd sungtangcakdwngcnthrinrabbsuriyachnnxkswnmakthiepnchnnaaekhnghnahxhumaeknklang thungaemwacayngimidrbkarphisucncakkhxmullasudcakyankalieloxxxrbitetxr Galileo orbiter chuihehnwaixoxxaccamisnamaemehlkkhxngmnexng ixoxmibrryakasthiebabangmakprakxbdwyslefxridxxkisd SO2 epnswnmak hakmikarekbkhxmulhruxtwxyangphunphiwodykarsngyantrwckarn echnediywkbyantrwckarnruprangkhlayrththngkhxngsphaphosewiyt khux landers lngcxdbnphunphiwkhxngixoxinxnakht mnepneruxngthiyakmakthiyanehlanncasamarthxyurxdcakkaraephrngsiaelasnamaemehlksungmiaehlngkaenidcakdawphvhsbdi yuorpa yuorpa dwngcnthrladbthisxngkhxngklumdwngcnthrkhxngkalielox xyuikldawphvhsbdiepnladbthisxngaelamikhnadelkthisudinklumdwngcnthrkhxngkalielox odymikhnadesnphansunyklang 3121 6 kiolemtr sungmikhnadelkkwadwngcnthrkhxngolkeraephiyngelknxy chux yuorpa Europa tngtamyuorpaecahyingchawfiniechiysungtxmaidepnkhnrkkhxngsusaelarachiniaehngkhritaetchuxniimidthukichknxyangaephrhlaycnkrathngklangstwrrsthi 20 yuorpaepndawthiraberiybthisudinrabbsuriya dwychnkhxngnasungkhadkarnwacahnathung 100 kiolemtrhxhumaeknklangkhxngdaw phunphiwthiraberiybprakxbkhuncakchnkhxngnaaekhngkhnathiswnthixyuitchnnaaekhngnninthangthvsdinacaepnnainrupkhxngehlw phiwthiraberiybaelamixayuimmaknnsnbsnunsmmutithanwamimhasmuthrxyuphayitphunphiwsungxacepnthixasykhxngsingmichiwitnxkolk phlngngankhwamrxnthiekidkhuncakaerngnakhunnalngchwythaihnaxyuinsphaphkhxngehlwaelaepnaerngphlkdnihekidkickrrmthangthrniwithyabndwngcnthr singmichiwitxacsamarthxasyxyubnyuorpaphayitmhasmuthrthithukpkkhlumdwynaaekhngsungxackhlaykbsingmichiwitbnolkthixasybnolk echn plxngihodrethxrmxl hrux thaelsabwxstxkinthwipaexntarktik singmichiwitthixasyinmhasmuthrxackhlaykbculinthriythixasyknthaelbnolk cnthungkhnaniyngimmihlkthanthibngchiwamisingmichiwitxyubnyuorpa aetcakkhwamepnipidthiminainrupkhxngehlwepnsingeriykrxngihmikarsngekhruxngmuxtrwcwdipthiyuorpa rxykhidthipraktxyangednchdthwipbndwngcnthrkhuxlksnaaexlbiodsungepnrxylukinphumipraeths mihlumxukkabatimmaknkbnyuorpaenuxngcakphumipraethsmixayunxyaelakarepliynaeplng bangthvsdiklawwaaerngdungdudkhxngdawphvhsbdiepntnehtukhxngrxyehlanicakkarthiyuorpahndanhnungekhahadawphvhsbditlxdewla rwmthngkarpathukhxngnacakmhasmuthrphayitepluxknaaekhngthaihphiwkhxngdwngcnthraeykxxkhruxaemaetnaphuikesxr geyser kepnsaehtukhxngrxykhidehlani siaedngnatalkhxngrxykhidehlani inthangthvsdikhadwacaekidcakkamathn aetnkwithyasastryngimsamarthyunynidaenchdenuxngcakyngimmikarsngekhruxngmuxtrwcwdidipthiyuorpa xngkhprakxbkhxngyuorpaswnihyepnhinsilikaaelanacamiaeknklangepnehlkmnmibrryakasthiebabangodyprakxbdwyxxksiecnepnhlk aeknimid aeknimid dwngcnthrladbthisamkhxngklumdwngcnthrkhxngkalielox idchuxtamaeknimidethphecakhxngkrikthithahnathiphuthwayphrasuththars cupbearer aelaepnkhnrkkhxngsus aeknimiepninrabbsuriya miesnphansunyklang 5262 4 kiolemtr mncungmikhnadihykwadawphuth aetmimwlephiyngkhrungediyw enuxngcakaeknimidmiswnprakxbepnnaaekhngcanwnmak mnepndawbriwarephiyngdwngediywthimisnamaemehlkaemkniotsefiyrepnkhxngtwexngsungnacaekidcakkarphakhwamrxnphayinaeknklangthiepnehlkhlxmehlw xngkhprakxbhlkkhxngaeknimidepnhinsilikaaelanainrupkhxngaekhngaelamimhasmuthrnaekhmsungechuxwaxyulukraw 200 kiolemtritphunphiwkhxngaeknimidodythukprakbiwdwychnkhxngnaaekhng aeknklangthiepnolhakhxngaeknimidchiwainxditaeknimidxaccamikhwamrxnsungmakkwainpccubn phunphiwkhxngdawprakxbdwyphunthisxngpraephth phunphiwthimisiekhmaelamixayunxykwakbphunphiwsungmixayumakkwaaelaetmipdwyrxngaelaaenw aeknimidetmipdwyhlumxukkabataetswnmakidhayiphruxsngektehnidyakenuxngcakepluxknaaekhngthipkkhlumehnuxhlumehlann dwngcnthrmibrryakasebabangprakxbdwyxxksiecninrup O O2 aelaxaccami O3 oxosn aelayngmixatxmihodrecn Relative masses of the Jovian moons Io and Callisto together are about 50 as are Europa and Ganymede The Galileans so dominate the system that all the other Jovian moons put together are not visible at this scale khallisot khallisot dwngcnthrladbthi 4 aelaepndwngsudthaykhxngklumdwngcnthrkhxngkalielox mikhnadihyepnladbthisxngkhxngklumdwngcnthrkhxngkalielox odymiesnphansunyklang 4820 6 kiolemtr sungepnladbthisamkhxnginrabbsuriya khallisotepnluksawkhxngkstriylikhaoxnaehngxakhaediyaelaepnephuxnlastwkhxngethphthidaxarthimis khallisotimidepnswnhnungkhxngkarsnphxngkhxngwngokhcrkhxngdwngcnthrxiksamdwngkhxngkalieloxdngnncungimidrbphlngngankhwamrxncakaerngnakhunnalng khallisotprakxbdwyhinaelanaaekhnginprimanthiethaknsungthaihmnmikhwamhnaaennnxythisudinklumdwngcnthrkhxngkalielox khallisotepndawbriwarthithukchnodyxukkabatxyanghnkthiihythisuddawhnunginrabbsuriyaodymiaexnghlumxukkabatthisakhykhuxaexng mikhwamkwangpraman 3000 kiolemtr khalisotmichnbrryakasthiebabangxyangmaksungprakxbdwykharbxnidxxkisd aelaomelkulkhxngxxksiecn kartrwcsxbphbwakhalisotxacmimhasmuthrthiminainrupkhxngehlwxyuitphunphiwdawthiradbkhwamlukmakkwa 100 kiolemtr karthikhalliotnacamimhasmuthrnnxachmaythungwaxacmihruxekhymisingmichiwitbnkhalisot xyangirkdikhwamepnipidnnnxykwabndwngcnthrthixyuiklknxyangyuorpa khallisotidrbkarphicarnawaepnsthanthithiehmaasahrbepnthanthixyukhxngmnusysahrbkarsarwcinxnakhtrabbdawphvhsbdienuxngcakwamnxyuhangiklcakkaraephrngsixnrunaerngkhxngdawphvhsbdithisudokhrngsrangodyepriybethiybJovian Radiation Moon dayIo 3600Europa 540Ganymede 8Callisto 0 01 khwamphnphwnwngokhcrkhxngdwngcnthrchiihehnwakhwamhnaaennkhxngdwngcnthrcaldlngtamrayathangcakdawphvhsbdithiephimkhun khallisotsungokhcrxyudannxksudaelamikhwamhnaaennnxythisudinbrrdadwngcnthrthng 4 dwng odymikhwamhnaaennxyurahwangnaaekhngaelahin inkhnathiixoxsungokhcrxyudaninthisudaelamikhwamhnaaennmakthisudinbrrdadwngcnthrthng 4 dwng odymikhwamhnaaennxyurahwanghinaelaehlk khallisotmiphunphiwekaaekaelamirxngrxykarchnkhxngxukkabatxyanghnkaelaphunphiwnaaekhngthiimmikarepliynaeplngthangthrniwithyaaelarupaebbkarhmunkhxngmnchiihehnwakhalisotimmiaeknklangthiepnhinhruxolhaaetepnswnphsmthiepnenuxediywknkhxnghinaelanaaekhngsungxacepnipidthicaepnokhrngsrangaerkerimkhxngdwngcnthrthnghmd inthangtrngkhamkarhmunkhxngdwngcnthrdaninthngsamchiihehnkhwamaetktangkhxngswnprakxbphayinthihnkkwaaelaswnthiebakwaxyudanbn mnyngepidephykarepliynaeplngxyangminysakhykhxngphunphiw aeknimidephythungkarepliynaeplngthangthrniwithyakhxngphiwnaaekhngsungekidcakchnthixyuitlngipsungbangswnlalayepnkhxngehlw yuorpaephythungkarekhluxnihwkhxngepluxknaaekhngthimakkwaaelaekidkhunerwnisungchiihehnwayuorpamiepluxknaaekhngthibangkwa sudthay ixoxdwngcnthrdaninsudmiphiwthipkkhlumdwykamathn phuekhaifsungyngimdbaelaimmisyyankhxngnaaekhngbnphunphiw hlkthanehlanichiihehnwadwngcnthrthixyuikldawphvhsbdimakkhunethaircamikhwamrxnphayindwngcnthrmakkhunethann aebbcalxngaesdngihehnwadwngcnthridrbphlngngankhwamrxncakaerngnakhunnalngsungepnphlmacaksnamkhwamonmthwngkhxngdawphvhsbdi odyepnsdswnphkphnkbkalngsxngkhxngrayathangcakdwngcnthrthungdawphvhsbdi sungekidkbdwngcnthrthnghmd ykewn khallisot praktkarnnicahlxmlalaynaaekhngphayinaelathaihhinaelaehlkcmlngsuphayinkhxngdwngcnthrswnnacapkkhlumphunphiw inaeknimidepluxknaaekhnghnaaelahnk swnyuorpasungxunkwamiepluxkthibangkwaaelaaetkngaykwa swnixoxsungmikhwamrxnsungmakcnhinhlxmlalayaelanaidraehyxxksuxwkasipemuxnanmaaelw Surface features of the four members at different levels of zoom in each rowkhnad Galilean moons compared with other Solar System bodies although pixel scale is not accurate at this resolution karbinphankhrnglasud dawphvhsbdiaelaixoxixoxyuorpaaeknimidkhllisotdawphvhsaeladwngcnthrkhxngkalieloxin ph s 2550 phaphcakniwhxirsnsrahwangesnthangbin phaphechdsietha karmxngehniddwngcnthrkhxngkalieloxthngsidwngmikhwamswangephiyngphxthicamxngehniddwytaeplacakolkthahakwamnxyuhangcakdawphvhsbdimakephiyngphx xyangirkdimnsamarthmxngehnidodyngaydwyklxngsxngtathimiimtxngmikalngkhyaysung dwngcnthrthngsimikhwamsxngswangpraktrahwang 4 6 thung 5 6 emuxdawphvhsbdixyuthitaaehnngtrngkhamkbdwngxathity aelamikhwamswangprakttakwa 1 hnwyemuxmnxyuhlngdawphvhsbdi khwamyakthisudinkarsngektdwngcnthrthngsicakolkkhuxrayahangkhxngmnkbdawphvhsbdienuxngcakdwngcnthrcaodnbdbngodykhwamswangkhxngdawphvhsbdi karaebngaeykechingmumsungsudrahwangdwngcnthrkbdawphvhsbdixyurahwang 2 aela 10 lipda sungiklekhiyngkbkhwamkhidcakdkhxngkarmxngehnkhxngmnusy aeknimidaelakhalisotsungmikaraebngaeykechingmumsungthisudepnepahmaythisamarthmxngehniddwytaeplangaythisud withithingaythisudinkarsngektphwkmnkhuxhawtthubngdawphvhsbdi echn kingtnimhruxesaiffathitngchakkbranabwngokhcrkhxngdwngcnthrkbdawphvhsbdiduephimdawbriwarkhxngdawphvhsbdixangxingGalilei Galileo Sidereus Nuncius Translated and prefaced by Albert Van Helden Chicago amp London University of Chicago Press 1989 14 16 Van Helden Albert March 1974 The Telescope in the Seventeenth Century Isis The University of Chicago Press on behalf of The History of Science Society 65 1 38 58 doi 10 1086 351216 JSTOR 228880 Galilei Galileo 1610 PDF Venice ISBN 0 374 37191 1 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2012 02 07 subkhnemux 2014 07 02 On the seventh day of January in this present year 1610 Satellites of Jupiter The Galileo Project mhawithyalyirs 1995 subkhnemux 9 August 2007 Howse Derek Greenwich Time and the Discovery of the Longitude Oxford Oxford University Press 1980 12 Zezong Xi The Discovery of Jupiter s Satellite Made by Gan De 2000 years Before Galileo Chinese Physics 2 3 1982 664 67 Annuaire de l Observatoire royal de Bruxelles Google Boeken Books google com subkhnemux 11 November 2013 Marazzini C 2005 The names of the satellites of Jupiter from Galileo to Simon Marius Lettere Italiana 57 3 391 407 Chown Marcus 7 March 2009 Cannibalistic Jupiter ate its early moons subkhnemux 18 March 2009 Canup Robin M Ward William R 2008 12 30 Origin of Europa and the Galilean Satellites The 59 0812 4995 Bibcode 2009euro book 59C a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint multiple names authors list lingk Computed using the IAU MPC Satellites Ephemeris Service µ value Source JPL NASA 2008 09 17 thi ewyaebkaemchchin Computed from IAG Travaux 2001 2018 10 31 thi ewyaebkaemchchin Lopes R M C aelakhna 2004 Lava Lakes on Io Observations of Io s Volcanic Activity from Galileo NIMS During the 2001 Fly bys Icarus 169 1 140 174 Bibcode 2004Icar 169 140L doi 10 1016 j icarus 2003 11 013 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a first10 immi last10 help Schenk P aelakhna 2001 The Mountains of Io Global and Geological Perspectives from Voyager and Galileo Journal of Geophysical Research 106 E12 33201 33222 Bibcode 2001JGR 10633201S doi 10 1029 2000JE001408 aelakhna 2003 Cassini imaging of Jupiter s atmosphere satellites and rings Science 299 5612 1541 1547 Bibcode 2003Sci 299 1541P doi 10 1126 science 1079462 PMID 12624258 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a first10 immi last10 help first11 immi last11 help first12 immi last12 help first13 immi last13 help first14 immi last14 help first15 immi last15 help first16 immi last16 help first17 immi last17 help first18 immi last18 help first19 immi last19 help first20 immi last20 help first21 immi last21 help first22 immi last22 help first23 immi last23 help first24 immi last24 help McEwen A S aelakhna 1998 High temperature silicate volcanism on Jupiter s moon Io Science 281 5373 87 90 Bibcode 1998Sci 281 87M doi 10 1126 science 281 5373 87 PMID 9651251 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a first10 immi last10 help first11 immi last11 help first12 immi last12 help first13 immi last13 help first14 immi last14 help first15 immi last15 help Fanale F P aelakhna 1974 Io A Surface Evaporite Deposit Science 186 4167 922 925 Bibcode 1974Sci 186 922F doi 10 1126 science 186 4167 922 PMID 17730914 Project Galileo Moons and Rings of Jupiter nasa Jet Propulsion Laboratory 2001 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2007 07 27 subkhnemux 9 August 2007 Hamilton C J Jupiter s Moon Europa Tritt Charles S 2002 Milwaukee School of Engineering khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2007 06 09 subkhnemux 10 August 2007 Tidal Heating geology asu edu cakaehlngedimemux 2006 03 29 subkhnemux 2007 10 20 Exotic Microbes Discovered near Lake Vostok 2009 08 26 thi ewyaebkaemchchin Science NASA December 10 1999 Jones N Bacterial explanation for Europa s rosy glow 2012 10 18 thi ewyaebkaemchchin NewScientist com 11 December 2001 Phillips Cynthia 28 September 2006 Time for Europa Space com subkhnemux 5 January 2014 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a CS1 maint url status lingk Arnett B Europa November 7 1996 Carlson R W M S Anderson 2005 Distribution of hydrate on Europa Further evidence for sulfuric acid hydrate subkhnemux 2007 12 20 lingkesiy Satellites of Jupiter The Galileo Project subkhnemux 2007 11 24 Ganymede nineplanets org October 31 1997 subkhnemux 2008 02 27 Kivelson M G Khurana K K aelakhna 2002 PDF Icarus 157 2 507 522 Bibcode 2002Icar 157 507K doi 10 1006 icar 2002 6834 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2009 03 27 subkhnemux 2014 07 02 Jet Propulsion Laboratory NASA 2000 12 16 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2012 01 17 subkhnemux 2008 01 11 Hall D T Feldman P D aelakhna 1998 The Far Ultraviolet Oxygen Airglow of Europa and Ganymede The Astrophysical Journal 499 1 475 481 Bibcode 1998ApJ 499 475H doi 10 1086 305604 Eviatar Aharon Vasyliunas Vytenis M aelakhna 2001 The ionosphere of Ganymede ps Plan Space Sci 49 3 4 327 336 Bibcode 2001P amp SS 49 327E doi 10 1016 S0032 0633 00 00154 9 Musotto Susanna Varadi Ferenc Moore William Schubert Gerald 2002 Numerical Simulations of the Orbits of the Galilean Satellites Icarus 159 2 500 504 Bibcode 2002Icar 159 500M doi 10 1006 icar 2002 6939 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint multiple names authors list lingk Carlson R W aelakhna 1999 PDF Science 283 5403 820 821 Bibcode 1999Sci 283 820C doi 10 1126 science 283 5403 820 PMID 9933159 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2008 10 03 subkhnemux 2014 07 02 Liang M C Lane B F Pappalardo R T aelakhna 2005 PDF Journal of Geophysics Research 110 E2 E02003 Bibcode 2005JGRE 11002003L doi 10 1029 2004JE002322 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2011 12 12 subkhnemux 2014 07 02 Showman Adam P Malhotra Renu 1999 PDF Science 286 5437 77 84 doi 10 1126 science 286 5437 77 PMID 10506564 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2011 05 14 subkhnemux 2014 07 02 Lipps Jere H Delory Gregory Pitman Joe aelakhna 2004 Hoover Richard B Levin Gilbert V Rozanov Alexei Y b k PDF Proc SPIE Instruments Methods and Missions for Astrobiology VIII 5555 10 doi 10 1117 12 560356 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2008 08 20 subkhnemux 2014 07 02 Trautman Pat Bethke Kristen 2003 PDF NASA khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2012 01 19 subkhnemux 2014 07 02 Ringwald Frederick A 29 February 2000 SPS 1020 Introduction to Space Sciences California State University Fresno subkhnemux 5 January 2014 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a CS1 maint url status lingk Yeomans Donald K 2006 07 13 Planetary Satellite Physical Parameters JPL Solar System Dynamics subkhnemux 2008 08 23 Jupiter is about 750 times brighter than Ganymede and about 2000 times brighter than Callisto Ganymede 5th root of 100 4 4 Ganymede khwamsxngswangprakt 2 8 Jup APmag 758 Callisto 5th root of 100 5 5 Callisto APmag 2 8 Jup APmag 2089 Jupiter near cudplayrayathangwngokhcr 2010 Sep 19 656 7 Callisto angular separation arcsec 24 9 jup angular rsmi arcsec 631 arcsec 10 arcminaehlngkhxmulxunAnimation of Galileo s observation march 1613 Sky amp Telescope utility for identifying Galilean moons 2013 12 03 thi ewyaebkaemchchinwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb dwngcnthrkhxngkalielox