บราวนีช็อกโกแลต (อังกฤษ: chocolate brownie) มีลักษณะแบนแบบสี่เหลี่ยมหรือที่ถูกนำไปอบเริ่มพัฒนาขึ้นครั้งแรกในสหรัฐอเมริกาตอนปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 และเป็นที่ชื่นชอบทั้งในสหรัฐและแคนาดา ในช่วงครึ่งแรกของคริสต์ศตวรรษที่ 20 บราวนีเป็นลูกครึ่งระหว่างเค้กกับคุกกี้ บราวนีถูกผลิตมาในรูปแบบต่าง ๆ บางครั้งก็มีเนื้อหรือเป็นเนื้อเค้กขึ้นอยู่กับความเข้มข้นและอาจจะมีส่วนผสมของถั่วชนิดต่าง ๆ, เคลือบน้ำตาล, วิปครีม, ช็อกโกแลตชิป, หรือส่วนผสมอื่น ๆ อาจจะมีการเปลี่ยนรูปแบบการทำเช่น ใช้น้ำตาลแดงและไม่ใส่ช็อกโกแลต โดยจะเรียกว่า
แหล่งกำเนิด | สหรัฐอเมริกา |
---|---|
ภูมิภาค | ชิคาโก, รัฐอิลลินอย |
|
บราวนีมักจะเป็นส่วนหนึ่งของกล่องอาหารกลางวัน เพราะสามารถใช้มือจับทานได้สะดวกและมักจะทานร่วมกับนมหรือกาแฟ บางครั้งก็เสิร์ฟแบบอุ่น ๆ กับไอศกรีม (อาลามอด) ราดหน้าด้วยวิปครีมหรือมาร์ซิแพนหรือโรยด้วยน้ำตาลไอซิ่ง บราวนีเป็นที่นิยมอย่างมากในร้านอาหารทั่วไป พบมากอย่างหลากหลายในรายการของหวาน
ประวัติ
พ่อครัวคนหนึ่งในที่ชิคาโกได้คิดขนมขึ้นมาชนิดหนึ่ง จากที่อยากจะได้ของหวานสำหรับสุภาพสตรีที่มาเข้าร่วมในงานแสดงสินค้านานาชาติที่ชิคาโกในปี ค.ศ. 1893 เธอบอกว่า ของหวานนั้นน่าจะต้องมีขนาดเล็กกว่าเค้ก แต่ก็ต้องยังคงมีลักษณะคล้ายเค้กและสามารถรับประทานได้ง่ายโดยจะบรรจุในกล่องอาหารกลางวัน บราวนีชนิดแรกที่ว่านี้มีส่วนผสมของแอพริคอตโรยหน้าและวอลนัต และปัจจุบันที่โรงแรมก็ยังทำบราวนีตามสูตรดั้งเดิมขายอยู่
สูตรบราวนีที่ทำกันในปัจจุบันที่ได้รับการตีพิมพ์ครั้งแรกในหนังสือ การปรุงอาหารในบ้าน (1904, ลาโคเนีย, นิวแฮมเชียร์), หนังสือตำราอาหารของสโมสรบริการ (1904, ชิคาโก, อิลินอยส์), (2 เมษายน 1905 หน้า 34) และ ตำราอาหารของโรงเรียนสอนการทำอาหารบอสตัน ฉบับที่ตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 1906 เขียนโดยแฟนนี่ เมอร์ริท ฟาร์มเมอร์ สูตรอาหารเหล่านี้เป็นบราวนีที่มีรสชาติค่อนข้างนุ่มนวลและมีลักษณะคล้ายเค้ก ชื่อของ "บราวนี" เกิดขึ้นครั้งแรกในตำราอาหารที่ตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 1896 แต่ถูกกล่าวถึงในรูปของเค้กที่ทำจากกากน้ำตาลในแม่พิมพ์ดีบุกไม่ใช่บราวนีจริง ๆ
สูตรอาหารที่สองถูกพบเมื่อปี ค.ศ. 1907 ใน ตำราอาหารของลอว์นี เขียนโดยตีพิมพ์โดยบริษัท วอลเตอร์ เอ็ม ลอว์นี่แห่งบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ สูตรนี้มีการเพิ่มไข่และแท่งช็อกโกแลตลงในสูตรของโรงเรียนสอนการทำอาหารบอสตันทำให้บราวนีมีรสชาติเข้มข้นและหนึบมากขึ้น สูตรนี้มีชื่อว่า แบงกอร์บราวนี ซึ่งอาจมาจากเหตุผลที่ว่าสูตรนี้ สุภาพสตรีชาว แบงกอร์บราวนีได้รับการจัดอันดับเป็นที่ 3 จาก 10 สุดยอดอาหารว่างใน 2–3 ปีต่อมา
ตำนานเกี่ยวกับที่มาของบราวนี
มีตำนานอยู่ 3 เรื่องเกี่ยวกับที่มาของบราวนี ตำนานแรกกล่าวว่า พ่อครัวได้ใส่ช็อกโกแลตละลายลงในก้อนแป้งบิสกิตโดยไม่ได้ตั้งใจ ตำนานที่สองกล่าวว่า พ่อครัวลืมเติมแป้งเข้าไปในส่วนผสมของที่ตีรวมกันแล้ว และตำนานที่สามที่เป็นความเชื่อที่เป็นที่นิยมคือ แม่บ้านคนหนึ่งไม่มีผงฟูเลยดัดแปลงสูตรใหม่ ว่ากันว่าเธอเตรียมของหวานสำหรับแขกและตัดสินใจที่จะเสิร์ฟเค้กแบน ๆ ที่อบแล้วนี้ ตำนานทั้งสามเรื่องเป็นที่นิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ดูเพิ่ม
- เค้กของสวีเดนลักษณะคล้ายบราวนี
- ของหวานอีกชนิดซึ่งคิดขึ้นที่โรงแรมในสหรัฐ
อ้างอิง
บรรณานุกรม
- Gage, Mary E. (2010). "History of Brownies (Chocolate)". สืบค้นเมื่อ 13 มีนาคม 2010.
- Palmer, Bertha. . Palmer House Hilton. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 30 กันยายน 2013. สืบค้นเมื่อ 29 กันยายน 2013.
- Saekel, Karola. "Panel Gives Baking Mixes a High Score". . ISSN 1932-8672.
- "brownie". Webster's New World College Dictionary (4th ed.). 2008.
- "The History Of Brownies". The Nibble. Lifestyle Direct. สืบค้นเมื่อ 13 มีนาคม 2013.
แหล่งข้อมูลอื่น
- วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ บราวนี
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
brawnichxkokaelt xngkvs chocolate brownie milksnaaebnaebbsiehliymhruxthithuknaipxberimphthnakhunkhrngaerkinshrthxemrikatxnplaykhriststwrrsthi 19 aelaepnthichunchxbthnginshrthaelaaekhnada inchwngkhrungaerkkhxngkhriststwrrsthi 20 brawniepnlukkhrungrahwangekhkkbkhukki brawnithukphlitmainrupaebbtang bangkhrngkmienuxhruxepnenuxekhkkhunxyukbkhwamekhmkhnaelaxaccamiswnphsmkhxngthwchnidtang ekhluxbnatal wipkhrim chxkokaeltchip hruxswnphsmxun xaccamikarepliynrupaebbkarthaechn ichnatalaedngaelaimischxkokaelt odycaeriykwabrawnichxkokaeltaehlngkaenidshrthxemrikaphumiphakhchikhaok rthxillinxytaraxahar brawnichxkokaelt sux brawnichxkokaelt brawnimkcaepnswnhnungkhxngklxngxaharklangwn ephraasamarthichmuxcbthanidsadwkaelamkcathanrwmkbnmhruxkaaef bangkhrngkesirfaebbxun kbixskrim xalamxd radhnadwywipkhrimhruxmarsiaephnhruxorydwynatalixsing brawniepnthiniymxyangmakinranxaharthwip phbmakxyanghlakhlayinraykarkhxnghwanprawtibrawniwxlntkarphsmenyehlwkbchxkokaeltephuxthabrawni phxkhrwkhnhnunginthichikhaokidkhidkhnmkhunmachnidhnung cakthixyakcaidkhxnghwansahrbsuphaphstrithimaekharwminnganaesdngsinkhananachatithichikhaokinpi kh s 1893 ethxbxkwa khxnghwannnnacatxngmikhnadelkkwaekhk aetktxngyngkhngmilksnakhlayekhkaelasamarthrbprathanidngayodycabrrcuinklxngxaharklangwn brawnichnidaerkthiwanimiswnphsmkhxngaexphrikhxtoryhnaaelawxlnt aelapccubnthiorngaermkyngthabrawnitamsutrdngedimkhayxyu sutrbrawnithithakninpccubnthiidrbkartiphimphkhrngaerkinhnngsux karprungxaharinban 1904 laokheniy niwaehmechiyr hnngsuxtaraxaharkhxngsomsrbrikar 1904 chikhaok xilinxys 2 emsayn 1905 hna 34 aela taraxaharkhxngorngeriynsxnkarthaxaharbxstn chbbthitiphimphinpi kh s 1906 ekhiynodyaefnni emxrrith farmemxr sutrxaharehlaniepnbrawnithimirschatikhxnkhangnumnwlaelamilksnakhlayekhk chuxkhxng brawni ekidkhunkhrngaerkintaraxaharthitiphimphinpi kh s 1896 aetthukklawthunginrupkhxngekhkthithacakkaknatalinaemphimphdibukimichbrawnicring sutrxaharthisxngthukphbemuxpi kh s 1907 in taraxaharkhxnglxwni ekhiynodytiphimphodybristh wxletxr exm lxwniaehngbxstn rthaemssachuests sutrnimikarephimikhaelaaethngchxkokaeltlnginsutrkhxngorngeriynsxnkarthaxaharbxstnthaihbrawnimirschatiekhmkhnaelahnubmakkhun sutrnimichuxwa aebngkxrbrawni sungxacmacakehtuphlthiwasutrni suphaphstrichaw aebngkxrbrawniidrbkarcdxndbepnthi 3 cak 10 sudyxdxaharwangin 2 3 pitxmatananekiywkbthimakhxngbrawnimitananxyu 3 eruxngekiywkbthimakhxngbrawni tananaerkklawwa phxkhrwidischxkokaeltlalaylnginkxnaepngbiskitodyimidtngic tananthisxngklawwa phxkhrwlumetimaepngekhaipinswnphsmkhxngthitirwmknaelw aelatananthisamthiepnkhwamechuxthiepnthiniymkhux aembankhnhnungimmiphngfuelyddaeplngsutrihm waknwaethxetriymkhxnghwansahrbaekhkaelatdsinicthicaesirfekhkaebn thixbaelwni tananthngsameruxngepnthiniymephimkhuneruxy duephimekhkkhxngswiednlksnakhlaybrawni khxnghwanxikchnidsungkhidkhunthiorngaerminshrthxangxingWebster s New World College Dictionary Saekel Palmer Gage 2010 The Nibble The History Of Brownies brrnanukrmGage Mary E 2010 History of Brownies Chocolate subkhnemux 13 minakhm 2010 Palmer Bertha Palmer House Hilton khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 30 knyayn 2013 subkhnemux 29 knyayn 2013 Saekel Karola Panel Gives Baking Mixes a High Score ISSN 1932 8672 brownie Webster s New World College Dictionary 4th ed 2008 The History Of Brownies The Nibble Lifestyle Direct subkhnemux 13 minakhm 2013 aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxekiywkb brawni