สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก หรือที่นิยมเรียกอย่างทั่วไปว่า สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ (อังกฤษ: Amphibians) เป็นสัตว์มีกระดูกสันหลังที่อยู่ในชั้น Amphibia อาศัยอยู่ได้ทั้งในน้ำและบนบก มีลักษณะเฉพาะ คือ ผิวหนังมีต่อมเมือกทำให้ผิวหนังชุ่มชื้นตลอดเวลา ผิวหนังเปียกลื่นอยู่เสมอ ไม่มีเกล็ดตัวไม่แห้งหรือไม่มีขน หายใจด้วย, ปอด, ผิวหนัง หรือผิวในปากในคอ โดยชั้นผิวหนังนั้นมีลักษณะพิเศษสามารถแลกเปลี่ยนออกซิเจนได้เนื่องจากมีโครงข่ายจำนวนมาก เพื่อใช้ในการหายใจ สืบพันธุ์โดยการผสมพันธุ์ภายนอกลำตัว สืบพันธุ์เมื่ออายุ 2–3 ปี ออกลูกเป็นไข่อยู่ในน้ำ ไม่มีเปลือก วางไข่เป็นกลุ่มในน้ำมีสารเป็นวุ้นหุ้ม
สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก ช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่: ปลายดีโวเนียน-ปัจจุบัน | |
---|---|
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
โดเมน: | ยูแคริโอต |
อาณาจักร: | สัตว์ |
ไฟลัม: | สัตว์มีแกนสันหลัง |
เคลด: | |
ชั้น: | สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก Linnaeus, 1758 |
ชั้นย่อย และ อันดับ | |
|
ลูกอ่อนที่ออกจากไข่มีรูปร่างคล้ายปลาเรียกว่า "ลูกอ๊อด" อยู่ในน้ำหายใจด้วยเหงือก เมื่อเติบโตเต็มที่แล้วมีปอดหายใจ ขึ้นบกได้ แต่ต้องอยู่ใกล้น้ำ
สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกส่วนใหญ่จะมีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างทั้งภายนอกและภายในอย่างสิ้นเชิง ไปตามวงจรชีวิต ตัวอ่อนอาศัยอยู่ในน้ำ หายใจด้วยเหงือก เมื่อโตขึ้นจะเปลี่ยนรูปร่างอาศัยอยู่บนบก หายใจด้วยปอดหรือผิวหนัง โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้งในช่วงระหว่างฤดูหนาวถึงฤดูร้อน ส่วนใหญ่จะขุดรูจำศีล เพื่อหนีความแห้งแล้ง มิให้ผิวหนังแห้ง ถ้าผิวหนังแห้งจะหายใจไม่ได้และตายในที่สุด เพราะก๊าชจากอากาศต้องละลายไปกับน้ำเมือกที่ผิวหนัง แล้วจึงแพร่เข้าสู่ ระยะนี้จะใช้อาหารที่สะสมไว้ในร่างกายอย่างช้า ๆ นิวต์และซาลามานเดอร์ก็เป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำเหมือนกัน แต่แตกตางกันตรงที่นิวต์และซาลามานเดอร์จะยังคงหางของมันไว้ เมื่อเจริญเติบโตเต็มที่
สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกถือเป็นสัตว์เลือดเย็น เช่นเดียวกับสัตว์พวกปลา หรือแมลง หรือสัตว์เลื้อยคลาน ปัจจุบันมีการอนุกรมวิธานสัตว์ในชั้นแล้วกว่า 6,500 ชนิด
ศัพทมูลวิทยา
คำว่าสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก ในภาษาอังกฤษใช้คำว่า "Amphibian" (/แอม-ฟิ-เบียน; พหูพจน์: Amphibians; ซึ่งรวมถึงชื่อวิทยาศาสตร์ Amphibia ด้วย) มีที่มาจากคำว่า "Amphi" ในภาษากรีกคำว่า ἀμφί (หรือคำว่า "Ambi" ในภาษาละติน) เป็นอุปสรรค ซึ่งแปลว่า "ทั้งคู่" หรือ "ทั้งสองด้าน" กับคำว่า βíος ในภาษากรีก ("Víos") ที่แปลว่า "ชีวิต" โดยมีความหมายถึง สัตว์กลุ่มนี้มีชีวิตครึ่งหนึ่งในน้ำและอีกครึ่งหนึ่งอาศัยอยู่บนบก
วิวัฒนาการของสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก
สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกถือเป็นสัตว์มีกระดูกสันหลังจำพวกแรกที่ขึ้นจากน้ำมาอยู่บนบก โดยวิวัฒนาการตัวเองมาจากปลาในยุคปลายดีโวเนียน (406 ล้านปีก่อน) ในปลาชั้น Sarcopterygii โดยเฉพาะปลาในชั้นย่อย ที่ปัจจุบันได้สูญพันธุ์และวิวัฒนาการมาเป็นสัตว์อย่างอื่นไปแล้ว ก่อนที่จะวิวัฒนาการเป็นสัตว์เลื้อยคลานต่อไป
อันดับของสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก
- Anura หรือ อันดับกบ
เป็นอันดับของสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกที่รู้จักกันเป็นอย่างดี ซึ่งรวมถึง คางคก, อึ่ง และเขียดหรือปาดด้วย มีรูปร่างโดยรวมคือ มีสี่ขา ขาหลังขาวใหญ่และมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงใช้กระโดดได้ระยะไกล โดยมุมที่กระโดดได้มีความสูงที่สุด คือ 90 องศา กับพื้นราบ ส่วนการกระโดดที่ไกลที่สุดคือ เมื่อทำมุม 45 องศา กับพื้นราบ ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับอัตราการเร่งและหดตัวของกล้ามเนื้อ ระหว่างนิ้วมีพังผืดเชื่อมติดกันเพื่อช่วยในการว่ายน้ำ ตาโต ปากกว้าง เป็นสัตว์ที่ดูเหมือนว่าไม่มีคอ ในตัวผู้มีต่อมที่ลำคอทั้งสองข้างใช้ในการส่งเสียงร้องได้ เพื่อเรียกความสนใจของตัวเมียเพื่อการผสมพันธุ์และวางไข่ วางไข่ในน้ำ ไข่ติดกันเป็นพวงเหมือนเม็ดแมงลัก วัยอ่อนมีหางเหมือนปลาและมีพู่เหงือกใช้ในการหายใจเห็นชัดเจน มี 2 ชุด เรียกว่า "ลูกอ๊อด" บางจำพวก เช่น ปาดอาจวางไข่เพียงครั้งละฟองบนน้ำค้างบนใบไม้ เมื่อเป็นตัวเต็มวัยแล้วจะไม่มีหาง
กบในประเทศไทยใช้เนื้อในการรับประทานของมนุษย์เป็นอาหาร มีหลายชนิด ที่เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี อาทิ กบภูเขา (Limnonectes blythii) ซึ่งเป็นสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกชนิดที่ใหญ่ที่สุดที่พบได้ในประเทศไทยด้วย, อึ่งปากขวด (Glyphoglossus molossus), กบนา (Hoplobatrachus rugulosus) ซึ่งนิยมเพาะเลี้ยงกันเป็น
ปัจจุบันมีการค้นพบและอนุกรมวิธานแล้วกว่าเกือบ 4,800 ชนิด นับว่ามีความหลากหลายที่สุดของสัตว์ในชั้นนี้
- Caudata หรือ อันดับซาลาแมนเดอร์และนิวต์
เป็นอันดับของสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกอีกอันดับหนึ่ง มีรูปร่างโดยรวมคล้ายกับจิ้งจกที่เป็นสัตว์เลื้อยคลาน จึงได้มีอีกชื่อเรียกหนึ่งในภาษาไทยว่า "จิ้งจกน้ำ" หรือ "จั๊กกิ้มน้ำ" กล่าวคือ เมื่อเป็นตัวเต็มวัยแล้วก็ยังมีหาง ในขณะที่ยังเป็นวัยอ่อนก็มีรูปร่างไม่ได้ต่างอะไรกับตัวเต็มวัย แต่สภาพของพู่เหงือกจะมีความแตกต่างกันออกไปตามสภาพถิ่นที่อยู่ โดยพวกที่วางไข่ในแหล่งน้ำนิ่งหรือบกบก เหงือกได้ลดรูปและช่องเหงือกปิดก่อนหน้าจะเป็นตัวฟักออกจากไข่ สำหรับพวกที่อาศัยในแหล่งน้ำไหลมีปริมาณออกซิเจนละลายในน้ำสูง จะมีได้ทั้งเหงือกขนาดเล็กและขนาดใหญ่มีทั้งแบบเป็นพู่คล้ายขนนก แต่ในจำพวกที่ต้องอาศัยอยู่ในน้ำตลอดเวลา จะไม่เปลี่ยนรูปร่างของเหงือกไปตามวัย แม้จะมีปอดขึ้นมาแล้วก็ตาม
ซึ่งสัตว์ในอันดับนี้ในประเทศไทยมีพบเพียงชนิดเดียวเท่านั้น คือ กะท่าง หรือ จิ้งจกน้ำดอยอินทนนท์ (Tylototriton verrucosus) ซึ่งจะพบได้เฉพาะลำธารในเขตภูเขาสูงของภาคเหนือของประเทศเท่านั้น และต่อมาได้มีการค้นพบเพิ่มอีกที่แอ่งน้ำในจังหวัดขอนแก่น ซึ่งตัวผู้โดยเฉพาะอย่างยิ่งถึงฤดูผสมพันธุ์จะมีสีสันที่สดใสสวยงามมาก นอกจากนี้แล้ว สัตว์ในอันดับนี้ถือได้ว่าเป็นสัตว์สะเทินน้ำทะเทินบกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกด้วย คือ ซาลาแมนเดอร์ยักษ์จีน (Andrias davidianus) ที่อยู่ในวงศ์ซาลาแมนเดอร์ยักษ์ (Cryptobranchidae) เมื่อโตเต็มที่อาจมีความยาวได้ถึงเกือบ 2 เมตร อาศัยอยู่เฉพาะในลำธารน้ำที่ใสสะอาดแถบภาคกลางและภาคใต้ของป่าดิบชื้นในจีนเท่านั้น
อนึ่ง คำว่า "ซาลาแมนเดอร์" นั้น มีที่มาจากเทพปกรณัมกรีกคือ ตัวซาลาแมนเดอร์ ที่เป็นที่เมื่ออยู่ในไฟก็ไม่ตาย ส่วนคำว่า "นิวต์" นั้นจะใช้เรียกซาลาแมนเดอร์ที่มีขนาดเล็ก เช่น กะท่าง เป็นต้น ปัจจุบันมีการจำแนกและอนุกรมวิธานแล้วกว่า 580 ชนิด
- Gymnophiona หรือ อันดับเขียดงู
เป็นอันดับที่มีรูปร่างคล้ายเหมือนปลาไหลหรืองูที่เป็นสัตว์เลื้อยคลาน เพราะมีลำตัวเรียวยาวไม่มีขาหรือเกล็ด ตามีขนาดเล็ก ทำให้ส่วนใหญ่เมื่อมีผู้พบเห็นเข้าใจผิดอยู่เสมอว่าเป็นงูหรือสัตว์เลื้อยคลาน พบได้ในทั่วโลก มีลำตัวเป็นปล้อง โดยปล้องโดยทั่วไปมีขนาดจำนวนเท่ากับปล้องของกระดูกสันหลัง แต่บางชนิดอาจมีปล้องจำนวน 2 หรือ 3 ปล้องต่อกระดูกสันหลังปล้องเดียวก็ได้ ในบางชนิดที่มีเกล็ด จะเป็นเกล็ดที่ประกอบด้วยคอลลาเจนหลายชั้นฝังและเรียงตัวซ้อนกันในร่องส่วนลึกสุดของปล้องลำตัวปฐมภูมิ โดยเรียงลำดับต่อเนื่องกันในแนวเฉียง
อาศัยทั้งบนบก โพรงดิน ใต้กองใบไม้ หรือในน้ำ ปัจจุบันมีการอนุกรมวิธานได้ 33 สกุล 174 ชนิด ใน 6 วงศ์ จำแนกโดยการใช้รูปร่างโครโมโซม และลักษณะทางโมเลกุล ในประเทศไทยพบได้ 4 ชนิด อยู่ในวงศ์และสกุลเดียวกันทั้งหมด ชนิดที่เป็นที่รู้จักกันดี คือ (Ichthyophis kohtaoensis)
อ้างอิง
รายการอ้างอิง
- วีรยุทธ์ เลาหะจินดา, 2552: หน้า 2
- (PDF). fds.oup. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากAmphibian diversity and life history แหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2011-07-15. สืบค้นเมื่อ July 25, 2016.
{{}}
: ตรวจสอบค่า|url=
((help)) (อังกฤษ) - "เปิดโลกสัตว์หรรษา". ไทยพีบีเอส. July 24, 2016. สืบค้นเมื่อ July 25, 2016.[]
- A supertree of early tetrapods. (อังกฤษ)
- วีรยุทธ์ เลาหะจินดา, 2552: หน้า 115
- วีรยุทธ์ เลาหะจินดา, 2552: หน้า 301
- วีรยุทธ์ เลาหะจินดา, 2552: หน้า 14-42
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-05. สืบค้นเมื่อ 2011-10-13.
- วีรยุทธ์ เลาหะจินดา, 2552: หน้า 14-42
- วีรยุทธ์ เลาหะจินดา, 2552: หน้า 303-304
บรรณานุกรม
- เลาหะจินดา, วีรยุทธ์ (2552). วิทยาสัตว์เลื้อยคลานและสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก. สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. ISBN .
แหล่งข้อมูลอื่น
- เว็บไซต์สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก (อังกฤษ)
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
stwsaethinnasaethinbk hruxthiniymeriykxyangthwipwa stwkhrungbkkhrungna xngkvs Amphibians epnstwmikraduksnhlngthixyuinchn Amphibia xasyxyuidthnginnaaelabnbk milksnaechphaa khux phiwhnngmitxmemuxkthaihphiwhnngchumchuntlxdewla phiwhnngepiyklunxyuesmx immiekldtwimaehnghruximmikhn hayicdwy pxd phiwhnng hruxphiwinpakinkhx odychnphiwhnngnnmilksnaphiesssamarthaelkepliynxxksiecnidenuxngcakmiokhrngkhaycanwnmak ephuxichinkarhayic subphnthuodykarphsmphnthuphaynxklatw subphnthuemuxxayu 2 3 pi xxklukepnikhxyuinna immiepluxk wangikhepnkluminnamisarepnwunhumstwsaethinnasaethinbk chwngewlathimichiwitxyu playdioweniyn pccubnkarcaaenkchnthangwithyasastrodemn yuaekhrioxtxanackr stwiflm stwmiaeknsnhlngekhld chn stwsaethinnasaethinbk Linnaeus 1758chnyxy aela xndbchnyxy suyphnthu chnyxy suyphnthu chnyxy Lissamphibia Anura Caudata Gymnophiona lukxxnthixxkcakikhmiruprangkhlayplaeriykwa lukxxd xyuinnahayicdwyehnguxk emuxetibotetmthiaelwmipxdhayic khunbkid aettxngxyuiklna stwsaethinnasaethinbkswnihycamikarepliynaeplngruprangthngphaynxkaelaphayinxyangsineching iptamwngcrchiwit twxxnxasyxyuinna hayicdwyehnguxk emuxotkhuncaepliynruprangxasyxyubnbk hayicdwypxdhruxphiwhnng odyechphaainchwngvduaelnginchwngrahwangvduhnawthungvdurxn swnihycakhudrucasil ephuxhnikhwamaehngaelng miihphiwhnngaehng thaphiwhnngaehngcahayicimidaelatayinthisud ephraakachcakxakastxnglalayipkbnaemuxkthiphiwhnng aelwcungaephrekhasu rayanicaichxaharthisasmiwinrangkayxyangcha niwtaelasalamanedxrkepnstwkhrungbkkhrungnaehmuxnkn aetaetktangkntrngthiniwtaelasalamanedxrcayngkhnghangkhxngmniw emuxecriyetibotetmthi stwsaethinnasaethinbkthuxepnstweluxdeyn echnediywkbstwphwkpla hruxaemlng hruxstweluxykhlan pccubnmikarxnukrmwithanstwinchnaelwkwa 6 500 chnidsphthmulwithyakhawastwsaethinnasaethinbk inphasaxngkvsichkhawa Amphibian aexm fi ebiyn phhuphcn Amphibians sungrwmthungchuxwithyasastr Amphibia dwy mithimacakkhawa Amphi inphasakrikkhawa ἀmfi hruxkhawa Ambi inphasalatin epnxupsrrkh sungaeplwa thngkhu hrux thngsxngdan kbkhawa bios inphasakrik Vios thiaeplwa chiwit odymikhwamhmaythung stwklumnimichiwitkhrunghnunginnaaelaxikkhrunghnungxasyxyubnbkwiwthnakarkhxngstwsaethinnasaethinbkstwsaethinnasaethinbkthuxepnstwmikraduksnhlngcaphwkaerkthikhuncaknamaxyubnbk odywiwthnakartwexngmacakplainyukhplaydioweniyn 406 lanpikxn inplachn Sarcopterygii odyechphaaplainchnyxy thipccubnidsuyphnthuaelawiwthnakarmaepnstwxyangxunipaelw kxnthicawiwthnakarepnstweluxykhlantxip phaphaesdngihehnthungkarwiwthnakarkhxngplamaxyubnbkcnklaymaepnstwsaethinnasaethinbk aelaklayepnstweluxykhlaninthisudxndbkhxngstwsaethinnasaethinbkAnura hrux xndbkb epnxndbkhxngstwsaethinnasaethinbkthiruckknepnxyangdi sungrwmthung khangkhk xung aelaekhiydhruxpaddwy miruprangodyrwmkhux misikha khahlngkhawihyaelamiklamenuxthiaekhngaerngichkraoddidrayaikl odymumthikraoddidmikhwamsungthisud khux 90 xngsa kbphunrab swnkarkraoddthiiklthisudkhux emuxthamum 45 xngsa kbphunrab thngnithngnnkhunxyukbxtrakarerngaelahdtwkhxngklamenux rahwangniwmiphngphudechuxmtidknephuxchwyinkarwayna taot pakkwang epnstwthiduehmuxnwaimmikhx intwphumitxmthilakhxthngsxngkhangichinkarsngesiyngrxngid ephuxeriykkhwamsnickhxngtwemiyephuxkarphsmphnthuaelawangikh wangikhinna ikhtidknepnphwngehmuxnemdaemnglk wyxxnmihangehmuxnplaaelamiphuehnguxkichinkarhayicehnchdecn mi 2 chud eriykwa lukxxd bangcaphwk echn padxacwangikhephiyngkhrnglafxngbnnakhangbnibim emuxepntwetmwyaelwcaimmihang kbinpraethsithyichenuxinkarrbprathankhxngmnusyepnxahar mihlaychnid thiepnthiruckknepnxyangdi xathi kbphuekha Limnonectes blythii sungepnstwsaethinnasaethinbkchnidthiihythisudthiphbidinpraethsithydwy xungpakkhwd Glyphoglossus molossus kbna Hoplobatrachus rugulosus sungniymephaaeliyngknepn pccubnmikarkhnphbaelaxnukrmwithanaelwkwaekuxb 4 800 chnid nbwamikhwamhlakhlaythisudkhxngstwinchnni Caudata hrux xndbsalaaemnedxraelaniwt epnxndbkhxngstwsaethinnasaethinbkxikxndbhnung miruprangodyrwmkhlaykbcingckthiepnstweluxykhlan cungidmixikchuxeriykhnunginphasaithywa cingckna hrux ckkimna klawkhux emuxepntwetmwyaelwkyngmihang inkhnathiyngepnwyxxnkmiruprangimidtangxairkbtwetmwy aetsphaphkhxngphuehnguxkcamikhwamaetktangknxxkiptamsphaphthinthixyu odyphwkthiwangikhinaehlngnaninghruxbkbk ehnguxkidldrupaelachxngehnguxkpidkxnhnacaepntwfkxxkcakikh sahrbphwkthixasyinaehlngnaihlmiprimanxxksiecnlalayinnasung camiidthngehnguxkkhnadelkaelakhnadihymithngaebbepnphukhlaykhnnk aetincaphwkthitxngxasyxyuinnatlxdewla caimepliynruprangkhxngehnguxkiptamwy aemcamipxdkhunmaaelwktam sungstwinxndbniinpraethsithymiphbephiyngchnidediywethann khux kathang hrux cingcknadxyxinthnnth Tylototriton verrucosus sungcaphbidechphaalatharinekhtphuekhasungkhxngphakhehnuxkhxngpraethsethann aelatxmaidmikarkhnphbephimxikthiaexngnaincnghwdkhxnaekn sungtwphuodyechphaaxyangyingthungvduphsmphnthucamisisnthisdisswyngammak nxkcakniaelw stwinxndbnithuxidwaepnstwsaethinnathaethinbkthimikhnadihythisudinolkdwy khux salaaemnedxrykscin Andrias davidianus thixyuinwngssalaaemnedxryks Cryptobranchidae emuxotetmthixacmikhwamyawidthungekuxb 2 emtr xasyxyuechphaainlatharnathiissaxadaethbphakhklangaelaphakhitkhxngpadibchunincinethann xnung khawa salaaemnedxr nn mithimacakethphpkrnmkrikkhux twsalaaemnedxr thiepnthiemuxxyuinifkimtay swnkhawa niwt nncaicheriyksalaaemnedxrthimikhnadelk echn kathang epntn pccubnmikarcaaenkaelaxnukrmwithanaelwkwa 580 chnid Gymnophiona hrux xndbekhiydngu epnxndbthimiruprangkhlayehmuxnplaihlhruxnguthiepnstweluxykhlan ephraamilatweriywyawimmikhahruxekld tamikhnadelk thaihswnihyemuxmiphuphbehnekhaicphidxyuesmxwaepnnguhruxstweluxykhlan phbidinthwolk milatwepnplxng odyplxngodythwipmikhnadcanwnethakbplxngkhxngkraduksnhlng aetbangchnidxacmiplxngcanwn 2 hrux 3 plxngtxkraduksnhlngplxngediywkid inbangchnidthimiekld caepnekldthiprakxbdwykhxllaecnhlaychnfngaelaeriyngtwsxnkninrxngswnluksudkhxngplxnglatwpthmphumi odyeriyngladbtxenuxngkninaenwechiyng xasythngbnbk ophrngdin itkxngibim hruxinna pccubnmikarxnukrmwithanid 33 skul 174 chnid in 6 wngs caaenkodykarichruprangokhromosm aelalksnathangomelkul inpraethsithyphbid 4 chnid xyuinwngsaelaskulediywknthnghmd chnidthiepnthiruckkndi khux Ichthyophis kohtaoensis xangxingraykarxangxing wiryuthth elahacinda 2552 hna 2 PDF fds oup khlngkhxmulekaekbcakAmphibian diversity and life history aehlngedim PDF emux 2011 07 15 subkhnemux July 25 2016 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkha url help xngkvs epidolkstwhrrsa ithyphibiexs July 24 2016 subkhnemux July 25 2016 lingkesiy A supertree of early tetrapods xngkvs wiryuthth elahacinda 2552 hna 115 wiryuthth elahacinda 2552 hna 301 wiryuthth elahacinda 2552 hna 14 42 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2016 03 05 subkhnemux 2011 10 13 wiryuthth elahacinda 2552 hna 14 42 wiryuthth elahacinda 2552 hna 303 304 brrnanukrm elahacinda wiryuthth 2552 withyastweluxykhlanaelastwsaethinnasaethinbk sankphimphmhawithyalyekstrsastr ISBN 978 616 556 016 0 aehlngkhxmulxunwikispichismikhxmulphasaxngkvsekiywkb Amphibia ewbiststwsaethinnasaethinbk xngkvs