เฌโรม-นโปเลียน โบนาปาร์ต (ฝรั่งเศส: Jérôme-Napoléon Bonaparte) เป็นน้องชายคนสุดท้องของจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ต่อมาเขาได้ครองราชย์เป็น เฌโรม-นโปเลียนที่ 1 กษัตริย์แห่งเว็สท์ฟาเลิน ระหว่างปี 1807 ถึง 1813
เฌโรม โบนาปาร์ต | |||||
---|---|---|---|---|---|
เจ้าชายแห่งมงฟอร์ | |||||
เฌโรมในฐานะกษัตริย์แห่งเว็สท์ฟาเลิน | |||||
กษัตริย์แห่งเว็สท์ฟาเลิน | |||||
ครองราชย์ | 7 กรกฎาคม 1807 – 26 ตุลาคม 1813 | ||||
มุขมนตรี | |||||
ประสูติ | 15 พฤศจิกายน 1784 อาฌักซีโย ราชอาณาจักรฝรั่งเศส | ||||
สวรรคต | 24 มิถุนายน ค.ศ. 1860 สาธารณรัฐฝรั่งเศส | (75 ปี)||||
คู่อภิเษก |
| ||||
บุตร | |||||
| |||||
ราชวงศ์ | โบนาปาร์ต | ||||
บิดา | การ์โล บูโอนาปาร์เต | ||||
มารดา | เลตีเซีย ราโมลีโน | ||||
ศาสนา | โรมันคาทอลิก | ||||
ลายพระอภิไธย |
ภายหลังปี 1816 เขาได้ครองยศเจ้าชายแห่งมงฟอร์ (Prince de Montfort) และต่อมาในปี 1848 ในยุคสาธารณรัฐที่สอง เขาก็ได้ดำรงตำแหน่งสำคัญหลายตำแหน่ง ทั้งจอมพลแห่งฝรั่งเศสและประธานวุฒิสภา เขาเป็นในพี่น้องไม่กี่คนของนโปเลียนที่มีชีวิตอยู่จนเห็นการคืนสู่ราชสมบัติของราชวงศ์โบนาปาร์ตภายใต้จักรวรรดิฝรั่งเศสที่สอง
เฌโรมเกิดที่อาฌักซีโย เกาะคอร์ซิกา เป็นบุตรคนที่แปดและคนสุดท้ายของการ์โล บูโอนาปาร์เต กับเลตีเซีย ราโมลีโน พี่ทั้งเจ็ดคนของเขาได้แก่ โฌแซ็ฟ, นโปเลียน, ลูว์เซียง, เอลีซา, หลุยส์, โปลีน และการอลีน ตามลำดับ เฌโรมเข้าศึกษาในโรงเรียนคาทอลิกในกรุงปารีสที่ชื่อว่า Collège de Juilly และ Collège des Irlandais ตามลำดับ
ประวัติ
เฌโรมเข้าเป็นทหารเรือฝรั่งเศสเมื่อปี 1800 (ในสมัยสาธารณรัฐที่หนึ่ง) เขาได้รับมอบหมายจากนโปเลียนซึ่งเป็นกงสุลเอก ให้เป็นผู้บังคับการเรือฟริเกตลำหนึ่งสู่หมู่เกาะเวสต์อินดีส ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ เขาเข้าใจผิดและยิงเรือสินค้าของอังกฤษ เหตุการณ์ดังกล่าวสามารถลุกลามเป็นความขัดแย้งระหว่างประเทศ เฌโรมคิดว่าพี่ชายคงกำลังโกรธเขามาก จึงหนีขึ้นเหนือสู่สหรัฐโดยใช้นามแฝงว่า "แอลเบิร์ต" และตัดสินใจพำนักอยู่ที่นี่เพื่อรอจนกว่าพี่ชายจะใจเย็น
พำนักในอเมริกา
ระหว่างที่พำนักอยู่ในสหรัฐ เฌโรมในวัยสิบเก้าปีถูกเพื่อนทหารเรือแนะนำให้รู้จักกับเอลิซาเบธ แพตเตอร์สัน วัยสิบแปดปี ซึ่งเป็นลูกสาวแสนสวยของเศรษฐีอันดับสองของสหรัฐ และแล้วทั้งคู่ก็แต่งงานในคืนวันคริสต์มาสปี 1803 ต่อมาเมื่อนโปเลียนรู้ข่าวการสมรสก็โกรธมาก เพราะวางแผนจะให้เฌโรมแต่งงานกับเจ้าหญิงของราชวงศ์ในยุโรปเพื่อขยายอำนาจตนเอง นโปเลียนเขียนจดหมายถึงสมเด็จพระสันตะปาปาปิอุสที่ 7 ร้องขอให้ออกประกาศโมฆียกรรมการสมรสแต่ก็ไม่สำเร็จ และเมื่อนโปเลียนขึ้นเป็นจักรพรรดิในปี 1804 พระองค์ก็ออกประกาศโมฆียกรรมการสมรสด้วยพระองค์เอง
กลับสู่ยุโรป
เฌโรมเดินทางกลับถึงแผ่นดินยุโรปในปี 1805 พร้อมกับภรรยาที่ตั้งครรภ์ ทั้งคู่เทียบท่าที่ประเทศเป็นกลางอย่างโปรตุเกส จากนั้นเฌโรมก็แยกทางสู่อิตาลีเพื่อร้องขอให้พี่ชายของเขายอมรับการสมรส เรือของเอลิซาเบธพยายามเทียบท่าที่อัมสเตอร์ดัม หมายจะเดินทางต่อเข้าฝรั่งเศส ด้วยเพราะอยากให้ลูกเกิดบนผืนแผ่นดินฝรั่งเศส แต่จักรพรรดินโปเลียนไม่ยอม ท้ายที่สุด เรือของหล่อนจึงมุ่งสู่ประเทศอังกฤษ หล่อนให้กำเนิดลูกชายในกรุงลอนดอน
นโปเลียนยังคงยืนกรานให้ทั้งคู่หย่ากัน ท้ายที่สุดเฌโรมก็ยินยอมหย่ากับเอลิซาเบธตามประสงค์ของพี่ชาย นโปเลียนจึงแต่งตั้งเฌโรมเป็นนายพลในกองทัพเรือและกองทัพบกในปี 1805 และเป็นกษัตริย์แห่งเว็สท์ฟาเลินในปี 1807 ฝ่ายเอลิซาเบธก็เดินทางกลับสหรัฐเพียงลำพังและไม่เคยติดต่อกับเฌโรมอีกเลย นางตัดสินใจหย่ากับเฌโรมผ่านกระบวนการทางกฎหมายของสหรัฐในปี 1815 และนางก็ไม่ยอมรับเงินค่าดูแลบุตรจากเฌโรมแม้แต่เหรียญเดียว
กษัตริย์แห่งเว็สท์ฟาเลิน
หลังขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งเว็สท์ฟาเลิน เฌโรมถูกจัดแจงให้แต่งงานกับ ธิดาในพระเจ้าฟรีดริชที่ 1 แห่งเวือร์ทเทิมแบร์ค อันเป็นประเทศบริวารของจักรวรรดิฝรั่งเศส จักรพรรดินโปเลียนต้องการให้ราชอาณาจักรเว็สท์ฟาเลินเป็นแบบอย่างให้แก่รัฐเยอรมันทั้งหลาย เว็สท์ฟาเลินกลายเป็นรัฐเยอรมันแห่งแรกที่มีรัฐธรรมนูญและรัฐสภา นอกจากนี้ พระเจ้าเฌโรมยังทรงนำเข้าศิลปะและธรรมเนียมมากมายจากปารีส ราชสำนักคัสเซิลของพระองค์จึงอุดมด้วยภาพลักษณ์อันทันสมัย อาณาจักรขนาดเล็กอย่างเว็สท์ฟาเลินเริ่มเป็นที่รู้จักอีกครั้งในหมู่ชนชาวยุโรป
อย่างไรก็ตาม พระเจ้าเฌโรมมีอุปนิสัยฟุ่มเฟือยจนถูกก่นด่าจากจักรพรรดินโปเลียน และทำเว็สท์ฟาเลินเกิดวิกฤตการคลัง ราชสำนักคัสเซิลมีรายจ่ายสูงกว่าราชสำนักปารีสเสียอีก (ทั้งที่ราชสำนักปารีสมีดินแดนกว้างใหญ่ไพศาลในความดูแล) และนโปเลียนก็ปฏิเสธให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่เฌโรม
ในปี 1812 เฌโรมได้รับมอบหมายจากจักรพรรดินโปเลียน ให้เป็นผู้บัญชาการหนึ่งทัพน้อยในกองทัพใหญ่ซึ่งมุ่งสู่มินสค์ เฌโรมยืนกรานจะเดินทัพแบบพยุหยาตราอย่างใหญ่โต จนถูกนโปเลียนตำหนิว่าให้เลิกพิธีรีตองกับเลิกนิสัยติดหรูได้แล้ว
อ้างอิง
- Gentleman's Magazine and Historical Review. London: Henry & Parker. 1860. p. 208.
- Taxile Delord (1869). Histoire du Second Empire (1848–1869) (ภาษาฝรั่งเศส). Paris: G. Baillière.
Jérôme Bonaparte second empire.
- "La Grande Armée" by Georges Blond, translated by Marshall May, p. 303
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
echorm nopeliyn obnapart frngess Jerome Napoleon Bonaparte epnnxngchaykhnsudthxngkhxngckrphrrdinopeliynthi 1 txmaekhaidkhrxngrachyepn echorm nopeliynthi 1 kstriyaehngewsthfaelin rahwangpi 1807 thung 1813echorm obnapartecachayaehngmngfxrechorminthanakstriyaehngewsthfaelinkstriyaehngewsthfaelinkhrxngrachy7 krkdakhm 1807 26 tulakhm 1813mukhmntriprasuti15 phvscikayn 1784 xachksioy rachxanackrfrngessswrrkht24 mithunayn kh s 1860 1860 06 24 75 pi satharnrthfrngesskhuxphiesk smrs 1803 omkha 1805 smrs 1807 esiychiwit 1835 smrs 1840 butrphranametmechorm nopeliyn obnapartrachwngsobnapartbidakarol buoxnaparetmardaeltiesiy raomlionsasnaormnkhathxliklayphraxphiithy phayhlngpi 1816 ekhaidkhrxngysecachayaehngmngfxr Prince de Montfort aelatxmainpi 1848 inyukhsatharnrththisxng ekhakiddarngtaaehnngsakhyhlaytaaehnng thngcxmphlaehngfrngessaelaprathanwuthispha ekhaepninphinxngimkikhnkhxngnopeliynthimichiwitxyucnehnkarkhunsurachsmbtikhxngrachwngsobnapartphayitckrwrrdifrngessthisxng echormekidthixachksioy ekaakhxrsika epnbutrkhnthiaepdaelakhnsudthaykhxngkarol buoxnaparet kbeltiesiy raomlion phithngecdkhnkhxngekhaidaek ochaesf nopeliyn luwesiyng exlisa hluys oplin aelakarxlin tamladb echormekhasuksainorngeriynkhathxlikinkrungparisthichuxwa College de Juilly aela College des Irlandais tamladbprawtiechormekhaepnthhareruxfrngessemuxpi 1800 insmysatharnrththihnung ekhaidrbmxbhmaycaknopeliynsungepnkngsulexk ihepnphubngkhbkareruxfriektlahnungsuhmuekaaewstxindis rahwangptibtihnathi ekhaekhaicphidaelayingeruxsinkhakhxngxngkvs ehtukarndngklawsamarthluklamepnkhwamkhdaeyngrahwangpraeths echormkhidwaphichaykhngkalngokrthekhamak cunghnikhunehnuxsushrthodyichnamaefngwa aexlebirt aelatdsinicphankxyuthiniephuxrxcnkwaphichaycaiceyn phankinxemrika rahwangthiphankxyuinshrth echorminwysibekapithukephuxnthhareruxaenanaihruckkbexlisaebth aephtetxrsn wysibaepdpi sungepnluksawaesnswykhxngesrsthixndbsxngkhxngshrth aelaaelwthngkhukaetngnganinkhunwnkhristmaspi 1803 txmaemuxnopeliynrukhawkarsmrskokrthmak ephraawangaephncaihechormaetngngankbecahyingkhxngrachwngsinyuorpephuxkhyayxanactnexng nopeliynekhiyncdhmaythungsmedcphrasntapapapixusthi 7 rxngkhxihxxkprakasomkhiykrrmkarsmrsaetkimsaerc aelaemuxnopeliynkhunepnckrphrrdiinpi 1804 phraxngkhkxxkprakasomkhiykrrmkarsmrsdwyphraxngkhexng klbsuyuorp echormedinthangklbthungaephndinyuorpinpi 1805 phrxmkbphrryathitngkhrrph thngkhuethiybthathipraethsepnklangxyangoprtueks caknnechormkaeykthangsuxitaliephuxrxngkhxihphichaykhxngekhayxmrbkarsmrs eruxkhxngexlisaebthphyayamethiybthathixmsetxrdm hmaycaedinthangtxekhafrngess dwyephraaxyakihlukekidbnphunaephndinfrngess aetckrphrrdinopeliynimyxm thaythisud eruxkhxnghlxncungmungsupraethsxngkvs hlxnihkaenidlukchayinkrunglxndxn nopeliynyngkhngyunkranihthngkhuhyakn thaythisudechormkyinyxmhyakbexlisaebthtamprasngkhkhxngphichay nopeliyncungaetngtngechormepnnayphlinkxngthpheruxaelakxngthphbkinpi 1805 aelaepnkstriyaehngewsthfaelininpi 1807 fayexlisaebthkedinthangklbshrthephiynglaphngaelaimekhytidtxkbechormxikely nangtdsinichyakbechormphankrabwnkarthangkdhmaykhxngshrthinpi 1815 aelanangkimyxmrbenginkhaduaelbutrcakechormaemaetehriyyediywkstriyaehngewsthfaelinhlngkhunepnkstriyaehngewsthfaelin echormthukcdaecngihaetngngankb thidainphraecafridrichthi 1 aehngewuxrthethimaebrkh xnepnpraethsbriwarkhxngckrwrrdifrngess ckrphrrdinopeliyntxngkarihrachxanackrewsthfaelinepnaebbxyangihaekrtheyxrmnthnghlay ewsthfaelinklayepnrtheyxrmnaehngaerkthimirththrrmnuyaelarthspha nxkcakni phraecaechormyngthrngnaekhasilpaaelathrrmeniymmakmaycakparis rachsankkhsesilkhxngphraxngkhcungxudmdwyphaphlksnxnthnsmy xanackrkhnadelkxyangewsthfaelinerimepnthiruckxikkhrnginhmuchnchawyuorp xyangirktam phraecaechormmixupnisyfumefuxycnthukkndacakckrphrrdinopeliyn aelathaewsthfaelinekidwikvtkarkhlng rachsankkhsesilmiraycaysungkwarachsankparisesiyxik thngthirachsankparismidinaednkwangihyiphsalinkhwamduael aelanopeliynkptiesthihkhwamchwyehluxthangkarenginaekechorm inpi 1812 echormidrbmxbhmaycakckrphrrdinopeliyn ihepnphubychakarhnungthphnxyinkxngthphihysungmungsuminskh echormyunkrancaedinthphaebbphyuhyatraxyangihyot cnthuknopeliyntahniwaihelikphithiritxngkbeliknisytidhruidaelwxangxingGentleman s Magazine and Historical Review London Henry amp Parker 1860 p 208 Taxile Delord 1869 Histoire du Second Empire 1848 1869 phasafrngess Paris G Bailliere Jerome Bonaparte second empire La Grande Armee by Georges Blond translated by Marshall May p 303 bthkhwamchiwprawtiniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldkhk