งานประกาศผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 94

งานประกาศผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 94 (อังกฤษ: 94th Academy Awards) เป็นงานประกาศผลรางวัลด้านภาพยนตร์ จัดขึ้นโดย (Academy of Motion Picture Arts and Sciences) เพื่อเป็นเกียรติแก่ภาพยนตร์ที่ออกฉายระหว่างวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2564 ถึง 31 ธันวาคม พ.ศ. 2564 มีกำหนดจัดขึ้นที่โรงภาพยนตร์, ลอสแอนเจลิส, รัฐแคลิฟอร์เนีย, สหรัฐอเมริกา ในคืนวันอาทิตย์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2565 (ตามเวลาท้องถิ่น) ตรงกับเช้าวันจันทร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2565 (ตามเวลาประเทศไทย) โดยนับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ งานประกาศผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 83 ที่มีพิธีกรในงานมากกว่าหนึ่งคน

งานประกาศผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 94
ใบปิดอย่างเป็นทางการ
วันที่	27 มีนาคม พ.ศ. 2565
สถานที่	โรงภาพยนตร์ ลอสแอนเจลิส, รัฐแคลิฟอร์เนีย  สหรัฐอเมริกา
พิธีกร	เรจินา ฮอลล์ เอมี ชูเมอร์ แวนดา ไซก์ส
โปรดิวเซอร์	วิล แพ็คเกอร์
ผู้กำกับงาน	เกล็นน์ ไวสส์
ภาพยนตร์ที่น่าสนใจ
ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม	โคด้า หัวใจไม่ไร้เสียง
ได้รางวัลมากที่สุด	ดูน (6)
เข้าชิงมากที่สุด	อำนาจบาดเลือดแค้น (12)
สถานีโทรทัศน์ที่แพร่ภาพออกอากาศ
ช่อง	เอบีซี
ความยาว	3 ชั่วโมง 40 นาที
จำนวนผู้ชม	15.4 ล้านคน
< ครั้งที่ 93 รางวัลออสการ์ ครั้งที่ 95 >

ภาพยนตร์เรื่อง โคด้า หัวใจไม่ไร้เสียง กลายเป็นภาพยนตร์จากบริการสตรีมมิงเรื่องแรกที่ชนะสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และยังชนะเพิ่มเติมอีก 2 รางวัล ได้แก่ สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม และสาขาบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม นอกจากนี้ ภาพยนตร์เรื่อง ดูน ยังชนะรางวัลไปได้มากที่สุดถึง 6 รางวัล ในขณะที่ ดิ อายส์ ออฟ แทมมี เฟย์ ชนะไป 2 รางวัล ส่วนภาพยนตร์เรื่องอื่น ๆ เช่น อำนาจบาดเลือดแค้น, คิง ริชาร์ด, เวสต์ ไซด์ สตอรี่, สุดทางรัก, เมืองเวทมนตร์คนมหัศจรรย์, เบลฟาสต์, 007 พยัคฆ์ร้ายฝ่าเวลามรณะ, ครูเอลล่า, เดอะ ลอง กูดบาย, เดอะ ควีน ออฟ บาสเกตบอล, ซัมเมอร์ ออฟ โซล (...ออร์, เว็น เดอะ เรโวลูชัน คูท น็อท บี เทเลไวส์) และ เดอะ วินด์ชีลด์ ไวเปอร์ ชนะเรื่องละ 1 รางวัล

นอกจากนี้ ได้เกิดเหตุทำร้ายร่างกายกันภายในงาน หลังจาก วิลล์ สมิธ ได้ขึ้นไปบนเวที และตบหน้า คริส ร็อก ต่อหน้าผู้ชมทั้งงาน เนื่องจากคริสได้แสดงมุกล้อเลียน เจดา พิงคิตต์ สมิธ ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้ทั้งวิลล์ และเจดาเป็นอย่างมาก ภายหลังเหตุการณ์นี้ได้กลายเป็นที่พูดถึงในวงกว้าง และกลบเหตุการณ์สำคัญที่เหลือของงานทั้งหมดในแง่ของการรายงานข่าว

ผู้ชนะรางวัล และผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล

ภาพยนตร์เรื่อง โคด้า หัวใจไม่ไร้เสียง ชนะรางวัลออสการ์ 3 สาขา รวมถึงสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม กลายเป็นภาพยนตร์จากบริการสตรีมมิงเรื่องแรก, ภาพยนตร์เปิดตัวในเทศกาลภาพยนตร์ซันแดนซ์เรื่องแรก และภาพยนตร์ที่มีผู้บกพร่องทางการได้ยินแสดงนำเรื่องแรกที่ชนะสาขานี้ทรอย คอตเซอร์ ยังกลายเป็นนักแสดงชายที่บกพร่องทางการได้ยินคนแรก และเป็นนักแสดงคนที่สองต่อจากมาร์ลี แมตลิน ที่ชนะรางวัลออสการ์ ซึ่งรับบทเป็นภรรยาของเขาเองภายในเรื่อง

นอกจากนี้ อาเรียนา เดโบซ ยังชนะในสาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม จากการรับบท "อนิตา" ในภาพยนตร์รีเมค เวสต์ ไซด์ สตอรี่ ฉบับปี ค.ศ. 1961 ทำให้เธอ และรีตา มอเรโน กลายเป็นผู้ชนะรางวัลออสการ์จากการแสดงในบทบาทเดียวกัน และทำให้บทบาท "อนิตา" กลายเป็นบทบาททางการแสดงที่สามที่สามารถชนะรางวัลออสการ์ได้จากภาพยนตร์คนละเรื่อง ซึ่งแสดงโดยนักแสดงคนละคนกัน ต่อจากบทบาท ดอน วีโต คอร์เลโอเน ของมาร์ลอน แบรนโด กับ โรเบิร์ต เดอ นีโร และบทบาท โจ๊กเกอร์ ของฮีธ เลดเจอร์ กับ วาคีน ฟินิกซ์

ภาพยนตร์เรื่อง ดูน สามารถชนะได้มากที่สุดถึง 6 รางวัล ภาพยนตร์เรื่องอื่น ๆ ได้แก่ ดิ อายส์ ออฟ แทมมี เฟย์ ชนะไป 2 รางวัล ส่วนภาพยนตร์เรื่อง อำนาจบาดเลือดแค้น, คิง ริชาร์ด, เวสต์ ไซด์ สตอรี่, สุดทางรัก, เมืองเวทมนตร์คนมหัศจรรย์, เบลฟาสต์, 007 พยัคฆ์ร้ายฝ่าเวลามรณะ, ครูเอลล่า, เดอะ ลอง กูดบาย, เดอะ ควีน ออฟ บาสเกตบอล, ซัมเมอร์ ออฟ โซล (...ออร์, เว็น เดอะ เรโวลูชัน คูท น็อท บี เทเลไวส์) และ เดอะ วินด์ชีลด์ ไวเปอร์ ชนะเรื่องละ 1 รางวัล

งานประกาศผลรางวัลออสการ์ครั้งนี้ ยังเป็นครั้งแรกที่มีผู้หญิงสามารถชนะรางวัลผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ได้เป็นปีที่สองติดต่อกัน (เจน แคมเปียน ชนะรางวัลนี้ต่อจาก โคลอี เจา) ทำให้ อำนาจบาดเลือดแค้น กลายเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่ชนะสาขาผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยมเพียงรางวัลเดียว นับตั้งแต่ภาพยนตร์เรื่อง เดอะ เกลดดูเอต ในงานประกาศผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 40 เมื่อปี ค.ศ. 1968 นอกจากนี้ เจน แคมเปียน ยังเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่สามารถชนะรางวัลออสการ์ได้ทั้งสาขาผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และสาขาบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม

เจน แคมเปียน ผู้ชนะรางวัลออสการ์ สาขาผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม

วิลล์ สมิธ ผู้ชนะรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม

เจสซิกา แชสเตน ผู้ชนะรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม

ทรอย คอตเซอร์ ผู้ชนะรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม

อาเรียนา เดโบซ ผู้ชนะรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม

เคนเนธ บรานาห์ ผู้ชนะรางวัลออสการ์ สาขาบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม

ฌอน เฮเดอร์ ผู้ชนะรางวัลออสการ์ สาขาบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม

ไบรอน ฮาวเวิร์ด ผู้ชนะร่วมรางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์แอนิเมชันยอดเยี่ยม

ริวสุเกะ ฮะมะกุชิ ผู้ชนะรางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์นานาชาติยอดเยี่ยม

บิลลี ไอลิช และ ฟินเนียส โอ'คอนเนลล์ ผู้ชนะร่วม

รางวัลออสการ์

ผู้ชนะรางวัลจะอยู่ในลำดับแรก เป็นตัวหนา และมีกริชคู่ ()

ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม โคด้า หัวใจไม่ไร้เสียง – ฟิลิปป์ รูสเล, ฟาบริซ เจียลเฟอร์มี และ แพทริก วอชส์เบอร์เกอร์ เบลฟาสต์ – ลอรา เบอร์วิก, เคนเนธ บรานาห์, เบคกา โควาซิค และ ทามาร์ โทมัส ดอนท์ ลุค อัพ – อดัม แมคเคย์ และ เควิน เจ. เมสซิก สุดทางรัก – เทรุฮิสะ ยามะโมโตะ ดูน – แมรี พาเรนต์, เดอนี วีลเนิฟว์ และ เคล บอยเตอร์ คิง ริชาร์ด – ทิม ไวต์, เทรเวอร์ ไวต์ และ วิลล์ สมิธ ลิโคริซ พิซซา – ซารา เมอร์ฟี, อดัม ซอมเนอร์ และ พอล โทมัส แอนเดอร์สัน ทางฝันร้าย สายมายา – กิเยร์โม เดล โตโร, เจ. ไมลส์ เดล และ แบรดลีย์ คูเปอร์ อำนาจบาดเลือดแค้น – เจน แคมเปียน, ทันยา ซีกัทเชียน, เอมิล เชอร์แมน, เอียน แคนนิง และ โรเจอร์ แฟรปเปียร์ เวสต์ ไซด์ สตอรี่ – สตีเวน สปีลเบิร์ก และ คริสตี มาคอสโก ครีเกอร์	ผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม เจน แคมเปียน – อำนาจบาดเลือดแค้น เคนเนธ บรานาห์ – เบลฟาสต์ ริวสุเกะ ฮะมะกุชิ – สุดทางรัก พอล โทมัส แอนเดอร์สัน – ลิโคริซ พิซซา สตีเวน สปีลเบิร์ก – เวสต์ ไซด์ สตอรี่
นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม วิลล์ สมิธ – คิง ริชาร์ด รับบท ริชาร์ด วิลเลียมส์ ฆาบิเอร์ บาร์เดม – บีอิง เดอะ ริคาโดส์ รับบท เดซี อาร์นาซ เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์ – อำนาจบาดเลือดแค้น รับบท ฟิล เบอร์แบงก์ แอนดรูว์ การ์ฟิลด์ – ทิก, ทิก... บูม! รับบท โจนาธาน ลาร์สัน เดนเซล วอชิงตัน – เดอะ ทราจิดี ออฟ แม็คเบ็ธ รับบท ลอร์ด แม็คเบ็ธ	นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม เจสซิกา แชสเตน – ดิ อายส์ ออฟ แทมมี เฟย์ รับบท แทมมี เฟย์ เมสซ์เนอร์ โอลิเวีย โคลแมน – ลูกสาวที่สาบสูญ รับบท เลดา คารูโซ เปเนโลเป กรุซ – แพรัลเลล มาเทอร์ รับบท เจนิส มาติเนซ โมเรโน นิโคล คิดแมน – บีอิง เดอะ ริคาโดส์ รับบท ลูซิลล์ บอล คริสเตน สจ๊วต – สเปนเซอร์ รับบท ไดอานา เจ้าหญิงแห่งเวลส์
นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม ทรอย คอตเซอร์ – โคด้า หัวใจไม่ไร้เสียง รับบท แฟรงก์ รอสซี เคียราน ไฮนดส์ – เบลฟาสต์ รับบท "ป๊อบ" เจสซี พลีมอนส์ – อำนาจบาดเลือดแค้น รับบท จอร์จ เบอร์แบงก์ เจ. เค. ซิมมอนส์ – บีอิง เดอะ ริคาโดส์ รับบท วิลเลียม ฟรอว์ลีย์ โคดี สมิท-แมคฟี – อำนาจบาดเลือดแค้น รับบท ปีเตอร์ กอร์ดอน	นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม อาเรียนา เดโบซ – เวสต์ ไซด์ สตอรี่ รับบท อนิตา เจสซี บักลีย์ – ลูกสาวที่สาบสูญ รับบท เลดา คารูโซ จูดี เดนช์ – เบลฟาสต์ รับบท "แกรนนี" เคียร์สเต็น ดันสต์ – อำนาจบาดเลือดแค้น รับบท โรส กอร์ดอน ออนจานู เอลลิส – คิง ริชาร์ด รับบท โอเรซีน ไพรซ์
บทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม เบลฟาสต์ – เคนเนธ บรานาห์ ดอนท์ ลุค อัพ – บทภาพยนตร์โดย อดัม แมคเคย์; เค้าโครงเรื่องโดย อดัม แมคเคย์ และ เดวิด ซิโรตา คิง ริชาร์ด – แซค เบย์ลิน ลิโคริซ พิซซา – พอล โทมัส แอนเดอร์สัน หัวใจไม่สงบ อยากจบที่เธอ – เอสคิล โวกท์ และ ยัวคิม เทรียร์	บทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม โคด้า หัวใจไม่ไร้เสียง – ฌอน เฮเดอร์; เค้าโครงจากภาพยนตร์ ร้องเพลงรัก ให้ก้องโลก โดย วิคตอเรีย เบดอส, โทมัส บิดีแก็ง, สตานิลาส การ์ เดอ มัลแบร์ และ เอริก ลาร์ติโก สุดทางรัก – ริวสุเกะ ฮะมะกุชิ และ ทากะมาซะ โอเอะ; เค้าโครงจากเรื่องสั้น โดย ฮารูกิ มูรากามิ ดูน – จอน สเปตส์, เดอนี วีลเนิฟว์ และ อีริก รอธ; เค้าโครงจากนวนิยาย โดย แฟรงค์ เฮอร์เบิร์ต ลูกสาวที่สาบสูญ – แมกกี จิลเลนฮอล; เค้าโครงจากนวนิยาย โดย เอเลนา เฟอร์แรนต์ อำนาจบาดเลือดแค้น – เจน แคมเปียน; เค้าโครงจากนวนิยาย โดย โทมัส ซาเวจ
ภาพยนตร์แอนิเมชันยอดเยี่ยม เมืองเวทมนตร์คนมหัศจรรย์ – จาเร็ด บุช, ไบรอน ฮาวเวิร์ด, ยเวียตต์ เมอริโน และ คลาร์ก สเปนเซอร์ ฟลี – โจนาส ปอแอร์ ราสมัสเซน, โมนิกา เฮลสเตริม, ซิกนี เบิร์จ โซเรนเซน และ ชาร์ลอตต์ เดอ ลา กอร์เนอรี ลูก้า – เอนรีโก คาซาโรซา และ อันเดรอา วาร์เรน บ้านมิตเชลล์ปะทะจักรกล – ไมค์ ไรอันดา, ฟิล ลอร์ด, คริสโตเฟอร์ มิลเลอร์ และ เคิร์ต อัลเบรคชท์ รายากับมังกรตัวสุดท้าย – ดอน ฮอลล์, คาร์ลอส โลเปซ เอสตราดา, ออสแนท ชูเรอร์ และ ปีเตอร์ เดล เวโค	ภาพยนตร์นานาชาติยอดเยี่ยม สุดทางรัก ( ญี่ปุ่น) ใน ภาษาญี่ปุ่น – กำกับโดย ริวสุเกะ ฮะมะกุชิ ฟลี ( เดนมาร์ก) ใน ภาษาเดนมาร์ก – กำกับโดย โจนาส ปอแอร์ ราสมัสเซน เดอะ แฮนด์ ออฟ ก็อด ( อิตาลี) ใน ภาษาอิตาลี – กำกับโดย เปาโล ซอร์เรนติโน ลูนานา: อะ แยค อิน เดอะ คลาสรูม ( ภูฏาน) ใน ภาษาซองคา – กำกับโดย พาโว ชอยนิง ดอร์จี หัวใจไม่สงบ อยากจบที่เธอ ( นอร์เวย์) ใน ภาษานอร์เวย์ – กำกับโดย ยัวคิม เทรียร์
ภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยม ซัมเมอร์ ออฟ โซล (...ออร์, เว็น เดอะ เรโวลูชัน คูท น็อท บี เทเลไวส์) – อาเมียร์ "เควสต์เลิฟ" ทอมป์สัน, โจเซฟ เพเทล, โรเบิร์ต ฟายโวเรนท์ และ เดวิด ไดเนอร์สไตน์ แอสเซนชัน – เจสสิกา คิงดอน, คีรา ไซมอน-เคนเนดี และ นาธาน ทรูสเดลล์ แอตติกา – สแตนลีย์ เนลสัน และ เทรซี เอ. เคอร์รี ฟลี – โจนาส ปอแอร์ ราสมัสเซน, โมนิกา เฮลสเตริม, ซิกนี เบิร์จ โซเรนเซน และ ชาร์ลอตต์ เดอ ลา กอร์เนอรี ไรท์ติง วิช ไฟเออร์ – รินธุ โทมัส และ สุชมิต กอร์ช	เดอะ ควีน ออฟ บาสเกตบอล – เบน พราวด์ฟุต เสียงใจที่กร้าวแกร่ง – แมตต์ โอเกนส์ และ เจฟฟ์ แม็กลีน กลับบ้าน – เปโดร คอส และ จอน เชงก์ ลำนำรักแห่งอัฟกัน – เอลิซาเบ็ธ เมียร์ซาย และ กุลิสตาน เมียร์ซาย เว็น วี เวอร์ บูลลีส์ – เจย์ โรเซนแบลตต์
เดอะ ลอง กูดบาย – อเนเอล คาเรีย และ ริซ อาห์เมด อลา คาชุ - เทค แอนด์ รัน – มาเรีย เบรนเดิล และ นาดีน ลุชอินเกอร์ เดอะ เดรส – ทาดอช ลุชเชียก และ เมซีย์ ชเลชิตสกี ออน มาย มายด์ – มาร์ติน สเตรนจ์-แฮนเซน และ คิม แมกนัสสัน พลีส โฮลด์ – เค.ดี. เดวิลา และ เลวิน เมเน็กเซ	เดอะ วินด์ชีลด์ ไวเปอร์ – อัลเบร์โต เมียลโก และ ลีโอ ซานเชซ อาฟแฟร์ส ออฟ เดอะ อาร์ต – โจแอนนา ควินน์ และ เลส มิลส์ เบสเทีย – ฮิวโก โควาร์รูเบียส และ เตโว ดิแอซ บ็อกซ์บัลเล็ต – แอนตัน ดียาคอฟ โรบิน หนูน้อยติดปีก – แดน โอจารี และ ไมกีย์ พลีส
ดูน – ฮันส์ ซิมเมอร์ ดอนท์ ลุค อัพ – นิโคลาส บริเทลล เมืองเวทมนตร์คนมหัศจรรย์ – เจอร์เมน แฟรนโก แพรัลเลล มาเทอร์ – อัลเบร์โต อีเกิลเซียส อำนาจบาดเลือดแค้น – จอนนี กรีนวูด	"โน ไทม์ ทู ดาย" จาก 007 พยัคฆ์ร้ายฝ่าเวลามรณะ – ทำนอง และคำร้องโดย บิลลี ไอลิช และ ฟินเนียส โอ'คอนเนลล์ "บี อะไลฟ์" จาก คิง ริชาร์ด – ทำนอง และคำร้องโดย ดิกซ์สัน และ บียอนเซ่ โนวส์ "ดอส ออรูกีตาส" จาก เมืองเวทมนตร์คนมหัศจรรย์ – ทำนอง และคำร้องโดย ลิน มานูเอล มิแรนดา "ดาวน์ ทู จอย" จาก เบลฟาสต์ – ทำนอง และคำร้องโดย แวน มอร์ริสัน "ซัมฮาว ยู ดู" จาก โฟร์ กูด เดย์ส – ทำนอง และคำร้องโดย ไดแอน วาร์เรน
ดูน – แมค รูธ, มาร์ก แมงกินี, ธีโอ กรีน, ดัก เฮมพ์ฮิลล์ และ รอน บาร์ทเลตต์ เบลฟาสต์ – เดนิส ยาร์ด, ไซมอน เชส, เจมส์ เมเทอร์ และ นิฟ อดิริ 007 พยัคฆ์ร้ายฝ่าเวลามรณะ – ไซมอน เฮย์ส, โอลิเวอร์ ทาร์นีย์, เจมส์ แฮร์ริสัน, พอล แมสซีย์ และ มาร์ก เทย์เลอร์ อำนาจบาดเลือดแค้น – ริชาร์ด ฟลายนน์, โรเบิร์ต แมคเคนซี และ ทารา เวบบ์ เวสต์ ไซด์ สตอรี่ – ท็อด เอ. เมตแลนด์, แกรี ไรด์สตร็อม, ไบรอัน ชุมนีย์, แอนดี เนลสัน และ ชอว์น เมอร์ฟี	ดูน – ออกแบบงานสร้างโดย: แพทริซ เวอร์เม็ทท์; ตกแต่งฉากโดย: ซูซานนา ไซปอส ทางฝันร้าย สายมายา – ออกแบบงานสร้างโดย: ทามารา เดเวอเรลล์; ตกแต่งฉากโดย: เชน วีโอ อำนาจบาดเลือดแค้น – ออกแบบงานสร้างโดย: แกรนต์ เมเจอร์; ตกแต่งฉากโดย: แอมเบอร์ ริชาร์ดส เดอะ ทราจิดี ออฟ แม็คเบ็ธ – ออกแบบงานสร้างโดย: สเตฟาน เดชานท์; ตกแต่งฉากโดย: แนนซี เฮก เวสต์ ไซด์ สตอรี่ – ออกแบบงานสร้างโดย: อดัม สต็อคเฮาเซน; ตกแต่งฉากโดย: เรนา ดิแองเจโล
กำกับภาพยอดเยี่ยม ดูน – เกร็ก เฟรเซอร์ ทางฝันร้าย สายมายา – แดน เลาสต์เซน อำนาจบาดเลือดแค้น – อารี เวกเนอร์ เดอะ ทราจิดี ออฟ แม็คเบ็ธ – บรูโน เดลบอนเนล เวสต์ ไซด์ สตอรี่ – ยานุซ คามินสกี	ดิ อายส์ ออฟ แทมมี เฟย์ – ลินดา ดาวด์ส, สเตฟานี อินแกรม และ จัสติน ราเล คัมมิง ทู อเมริกา – ไมค์ มาริโน, สเตซีย์ มอร์ริส และ คาร์ลา ฟาร์เมอร์ ครูเอลล่า – นาเดีย สเตซีย์, นาโอมิ ดอนน์ และ จูเลีย เวอร์นอน ดูน – โดนัลด์ โมวัต, เลิฟ ลาร์สัน และ อีวา ฟอน บาหร์ เฮาส์ ออฟ กุชชี่ – โกราน ลุนด์สตรอม, อันนา คาริน ล็อก และ เฟรเดอริก แอสพิรัส
ออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม ครูเอลล่า – เจนนี บีแวน ซีราโน – แมสซิโม กันตีนี ปาร์รินี และ แจคเกอลีน ดูร์แรน ดูน – แจคเกอลีน เวสต์ และ โรเบิร์ต มอร์แกน ทางฝันร้าย สายมายา – ลุยส์ เซคเวรา เวสต์ ไซด์ สตอรี่ – พอล เทเซเวลล์	ลำดับภาพยอดเยี่ยม ดูน – โจ วอล์กเกอร์ ดอนท์ ลุค อัพ – แฮงก์ คอร์วิน คิง ริชาร์ด – พาเมลา มาร์ติน อำนาจบาดเลือดแค้น – ปีเตอร์ ซายเบอร์ราส ทิก, ทิก... บูม! – มายรอน เคอร์ชไตน์ และ แอนดรูว์ ไวส์บล็อม
เทคนิคพิเศษยอดเยี่ยม ดูน – พอล แลมเบิร์ต, ทริสเทน ไมลส์, ไบรอัน คอนเนอร์ และ เจิร์ด แนฟเซอร์ ขอสักทีพี่จะเป็นฮีโร่ – สเวน กิลล์เบิร์ก, ไบรอัน กริลล์, นิโคส คาไลท์ซิดิส และ แดน ซูดิก 007 พยัคฆ์ร้ายฝ่าเวลามรณะ – ชาร์ลี นอเบิล, โจเอล กรีน, โจนาธาน ฟอว์คเนอร์ และ คริส คอร์บูล์ด ชาง-ชี กับตำนานลับเท็นริงส์ – คริสโตเฟอร์ ทาวน์เซนด์, โจ ฟาร์เรล, ฌอน โนเอล วอล์กเกอร์ และ แดน โอลิเวอร์ สไปเดอร์แมน: โน เวย์ โฮม – เคลลี พอร์ต, คริส แวกเนอร์, สก็อตต์ อีเดลชไตน์ และ แดน ซูดิก

รางวัลออสการ์เกียรติยศ

(Academy of Motion Picture Arts and Sciences) จัดงานมอบ ครั้งที่ 12 เมื่อวันที่ 25 มีนาคม ค.ศ. 2022 โดยมอบให้แก่

• ซามูเอล แอล. แจ็กสัน – "ตัวอย่างแห่งสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรม ผู้ซึ่งมีผลงานอย่างพลวัต ผ่านความหลากหลาย และยุคสมัยจากผู้ชมทั่วทุกมุมโลก"
• อีเลน เมย์ – "สำหรับแนวทางการสร้างภาพยนตร์ที่กล้าหาญและแน่วแน่ของเธอในฐานะนักเขียน ผู้กำกับ และนักแสดง"
• ลิฟ อูลแมนน์ – "ความกล้าหาญและความบริสุทธิ์ทางอารมณ์ของอูลแมนน์ ได้มอบของขวัญให้แก่ผู้ชมด้วยการแสดงบนหน้าจอที่ส่งผลอย่างลึกซึ้ง"

รางวัลมนุษยธรรม ฌีน เฮอร์โชลต์

• แดนนี่ โกลเวอร์ – "สำหรับเขา ผู้ซึ่งสนับสนุนความยุติธรรมและสิทธิมนุษยชนมาเป็นเวลาหลายสิบปี สะท้อนให้เห็นถึงการอุทิศตนเพื่อตระหนักถึงความเป็นมนุษย์ที่มีร่วมกันของเราทั้งในและนอกจอ"

ภาพยนตร์ที่ชนะ และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงมากกว่าหนึ่งรางวัล

ภาพยนตร์ที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงมากกว่าหนึ่งรางวัล จำนวนรางวัลที่เข้าชิง ภาพยนตร์ 12 อำนาจบาดเลือดแค้น 10 ดูน 7 เบลฟาสต์ เวสต์ ไซด์ สตอรี่ 6 คิง ริชาร์ด 4 ดอนท์ ลุค อัพ สุดทางรัก ทางฝันร้าย สายมายา 3 บีอิง เดอะ ริคาโดส์ โคด้า หัวใจไม่ไร้เสียง เมืองเวทมนตร์คนมหัศจรรย์ ฟลี ลิโคริซ พิซซา ลูกสาวที่สาบสูญ 007 พยัคฆ์ร้ายฝ่าเวลามรณะ เดอะ ทราจิดี ออฟ แม็คเบ็ธ 2 ครูเอลล่า ดิ อายส์ ออฟ แทมมี เฟย์ แพรัลเลล มาเทอร์ ทิก, ทิก... บูม! หัวใจไม่สงบ อยากจบที่เธอ

ภาพยนตร์ที่ชนะมากกว่าหนึ่งรางวัล จำนวนรางวัลที่ชนะ ภาพยนตร์ 6 ดูน 3 โคด้า หัวใจไม่ไร้เสียง 2 ดิ อายส์ ออฟ แทมมี เฟย์

รายละเอียดการจัดงาน

เนื่องจากผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ในวงการภาพยนตร์ เกณฑ์พิจารณาคุณสมบัติของภาพยนตร์ที่ได้รับการยืดหยุ่นจากงานประกาศผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 93 จะยังคงมีผลบังคับใช้ต่อไป เช่น ภาพยนตร์ที่ออกฉายผ่านบริการสตรีมมิงแบบสมัครสมาชิก หรือบริการวีดิทัศน์ตามคำขอ และการฉายในโรงภาพยนตร์ที่ได้รับอนุญาตให้เกิดขึ้นได้ในเมืองอื่น ๆ นอกเหนือจากลอสแอนเจลิส ทั้งนี้ กรอบกำหนดระยะเวลาการฉายของภาพยนตร์เรื่องต่าง ๆ ที่จะเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล พิจารณาตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม จนถึง 31 ธันวาคม พ.ศ. 2564 เท่านั้น

การลงคะแนนคัดเลือกผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล จะสิ้นสุดในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 ส่วนการประกาศรายชื่อผู้เช้าชิงรางวัลในแต่ละสาขา จัดขึ้นวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 โดยพิธีกร เทรซี เอลลิส รอสส์ และเลสลี่ จอร์แดน และงานประกาศผลรางวัล มีกำหนดจัดในวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2565 ณ โรงภาพยนตร์ มีรายงานว่าการเลือกกำหนดจัดงานในวันดังกล่าว สาเหตุเพื่อไม่ให้ชนกับโอลิมปิกฤดูหนาว 2022 ที่ปักกิ่ง (ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 4 – 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565) และงานซูเปอร์โบวล์ (ซึ่งมีกำหนดการจัดงานวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565)

เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2564 อคาเดมีระบุว่าพิจารณาขยายจำนวนผู้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ในงานประกาศผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 94 เป็น 10 เรื่อง นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่งานประกาศผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 84 เป็นต้นมา โดยอิงผลจากการลงคะแนนเสียงของสมาชิกเป็นหลัก นอกจากนี้ มีการปรับเกณฑ์พิจารณาในสาขา คือการปรับลดสัดส่วนของดนตรีประกอบที่สร้างขึ้นมาใหม่จาก 60% ของภาพยนตร์ทั้งเรื่อง เป็น 35% เช่นเดิม, เกณฑ์พิจารณาผู้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงในสาขา จะต้องมีเพลงนำในภาพยนตร์ไม่ต่ำกว่า 5 เพลงต่อเรื่อง, ขยายจำนวนภาพยนตร์สำหรับพิจารณาในรอบลงคะแนนคัดเลือก สาขา เป็น 10 เรื่อง และยังขยายจำนวนภาพยนตร์สำหรับพิจารณาในรอบลงคะแนนคัดเลือกจาก 10 เรื่อง เป็น 15 เรื่อง ในสาขา, และ

ในฐานะที่อคาเดมี เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการริเริ่มอนุรักษ์ด้านสิ่งแวดล้อม การแจกจ่ายเอกสารด้านภาพยนตร์ที่จับต้องได้ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น สำเนาภาพยนตร์, สำเนาบทภาพยนตร์ หรือซีดีเพลง ได้ถูกยกเลิกแล้ว และจะเริ่มให้บริการดังกล่าวผ่านบริการสตรีมออนไลน์ "Academy Screening Room" แก่สมาชิกของอคาเดมีนับจากนี้เป็นต้นไป

เมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2564 วิล แพ็คเกอร์ ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ชื่อดัง ได้รับว่าจ้างให้เป็นโปรดิวเซอร์งานประกาศผลรางวัลออสการ์ครั้งนี้ ไชลา โคแวน เสนาธิการบริษัทโปรดักชันของเขา กล่าวว่า เธอได้รับการแต่งตั้งให้เป็นโปรดิวเซอร์ร่วมกับเขา และเมื่อวันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2565 เครก เออร์วิช ประธานบริษัทเอบีซี และฮูลู กล่าวยืนยันว่า งานประกาศผลรางวัลออสการ์ครั้งนี้ จะกลับมามีพิธีกรเหมือนเดิม เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่งานประกาศผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 90

ข้อวิจารณ์

การทะเลาะวิวาท

อ้างอิง

1. Porter, Rick (March 28, 2022). "TV Ratings: Oscars Rebound from Historic Lows". . สืบค้นเมื่อ March 28, 2022.
2. Keegan, Rebecca (January 11, 2022). "Oscars: 2022 Ceremony to Feature a Multi-Emcee Palooza". . จากแหล่งเดิมเมื่อ February 11, 2022. สืบค้นเมื่อ February 11, 2022.
3. Spangler, Todd (March 27, 2022). "Apple Is First Streamer to Win Best Picture Oscar for 'CODA'". . จากแหล่งเดิมเมื่อ March 28, 2022. สืบค้นเมื่อ March 28, 2022.
4. Truitt, Brian (February 5, 2020). "Who will Oscar history remember as the best Joker, Heath Ledger or Joaquin Phoenix?". USA Today. จากแหล่งเดิมเมื่อ November 16, 2020. สืบค้นเมื่อ April 13, 2020.
5. Couch, Aaron; Giardina, Carolyn (March 27, 2022). "Oscars: 'Dune' Dominates Crafts with 6 Wins". . จากแหล่งเดิมเมื่อ March 28, 2022. สืบค้นเมื่อ March 28, 2022.
6. "2021". Oscars.org | Academy of Motion Picture Arts and Sciences (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2021-04-07.
7. Hammond, Pete (June 24, 2021). "Oscars: Academy To Honor Danny Glover, Samuel L. Jackson, Elaine May & Liv Ullmann At 2022 Governors Awards". . จากแหล่งเดิมเมื่อ June 24, 2021. สืบค้นเมื่อ June 24, 2021.
8. Davis, Clayton (May 27, 2021). "Oscars 2022 Ceremony Moves to Late March, Keeping Pandemic Qualifying Rules and Standard Calendar Year". . สืบค้นเมื่อ May 27, 2021.
9. Thompson, Anne (2021-05-27). "Oscars 2022: The Academy Lines Up Dates, Keeps 2021 Pandemic Eligibility Rules". IndieWire (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2021-05-27.{{}}: CS1 maint: url-status ()
10. Lewis, Hilary (February 3, 2022). "Oscars: Tracee Ellis Ross and Leslie Jordan to Host Nominations Announcement". . สืบค้นเมื่อ February 3, 2022.
11. Thompson, Anne (2020-06-12). "Academy Moves to 10 Best Picture Oscar Noms for 2022, but for 2021, Oscar Date Still a Question". IndieWire (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2021-05-27.{{}}: CS1 maint: url-status ()
12. Hammond, Pete (2021-06-30). "Oscars: Academy Sets Rules And Regulations For 94th Awards; 10 Best Picture Nominees, Plus Changes In Music And Sound Categories". Deadline (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2021-06-30.{{}}: CS1 maint: url-status ()
13. Grein, Paul (June 30, 2021). "Motion Picture Academy Announces New Music Category Rules for 2022 Oscars". Billboard. สืบค้นเมื่อ July 1, 2021.
14. Hammond, Pete (April 28, 2020). "Oscars Keeping Show Date But Make Big News As Academy Lightens Eligibility Rules, Combines Sound Categories, Ends DVD Screeners and More". (ภาษาอังกฤษ). จากแหล่งเดิมเมื่อ May 23, 2020. สืบค้นเมื่อ May 6, 2020.
15. Lang, Bret (October 5, 2021). "Academy Awards: Will Packer to Produce 94th Oscars Broadcast". . สืบค้นเมื่อ October 5, 2021.
16. Schneider, Michael (2022-01-11). "Oscars Will Have a Host in 2022, According to ABC". Variety (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2022-01-12.

เว็บไซต์หลัก

• เว็บไซต์หลักของงานประกาศผลรางวัลออสการ์
• เว็บไซต์หลักของสถาบันศิลปะและวิชาการทางภาพยนตร์
• ช่องทางหลักของรางวัลออสการ์ บน ยูทิวบ์ (ดำเนินการโดย )