ในชื่อบุคคลญี่ปุ่นนี้นามสกุลคือ คนโด
คนโด อิซามิ | |
---|---|
近藤 勇 | |
คนโด อิซามิ (ค.ศ. 1834–1868) | |
หัวหน้ากลุ่มชินเซ็งงูมิ | |
ดำรงตำแหน่ง ค.ศ. 1863 – ค.ศ. 1868 | |
ก่อนหน้า | ไม่มี (เป็นหัวหน้ากลุ่มร่วมกับและเป็นเวลาสั้น ๆ ช่วงก่อตั้ง) |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | มิยางาวะ คัตสึโงโร 09 พฤศจิกายน ค.ศ. 1834 หมู่บ้านคามิอิชิฮาระ ประเทศญี่ปุ่น |
เสียชีวิต | พฤษภาคม 17, 1868 เขตอิตาบาชิ ประเทศญี่ปุ่น | (33 ปี)
สาเหตุการเสียชีวิต | การตัดศีรษะ |
ที่ไว้ศพ | ร่าง: วัดรีวเง็นจิ โอซาวะ มิตากะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ศีรษะ: จังหวัดไอจิ ประเทศญี่ปุ่น |
เชื้อชาติ | ญี่ปุ่น |
คู่อาศัย | มิยูกิ โอโกะ |
คู่สมรส | (สมรส 1860–1868) |
บุตร |
|
บุพการี |
|
ญาติ | (บิดบุญธรรม) (มารดาบุญธรรม) คนโด อิซาตาโร (หลานชาย) |
ความสัมพันธ์ | มิยางาวะ ริเอะ (พี่สาว) (พี่ชาย) (พี่ชาย) (หลานชาย) |
เป็นที่รู้จักจาก | หัวหน้ากลุ่มชินเซ็งงูมิ |
ชื่ออื่น | ชิมาซากิ คัตสึตะ ชิมาซากิ อิซามิ ฟูจิวาระ โนะ โยชิตาเกะ |
นามแฝง | โอกูโบะ สึโยชิ โอกูโบะ ยามาโตะ |
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง | |
รับใช้ | รัฐบาลเอโดะ |
สังกัด | (เดิม) (เดิม) ชินเซ็งงูมิ |
ประจำการ | ค.ศ. 1863–1868 |
ยศ | |
บังคับบัญชา | (เดิม) ชินเซ็งงูมิ |
สงคราม/การสู้รบ | สงครามโบชิง |
คนโด อิซามิ (ญี่ปุ่น: 近藤勇; โรมาจิ: Kondō Isami 9 พฤศจิกายน ค.ศ. 1834 - 17 พฤษภาคม ค.ศ. 1868) เป็นซามูไรและข้าราชการชาวญี่ปุ่นในช่วงปลายยุคเอโดะ มีชื่อเสียงในฐานะของหัวหน้ากลุ่มซามูไรชินเซ็งงูมิ ซึ่งเป็นกลุ่มซามูไรหัวรุนแรงที่จงรักภักดีต่อรัฐบาลโชกุนโทกูงาวะ
ภูมิหลัง
คนโด อิซามิ มีชื่อจริงเมื่อแรกเกิดว่า "คัตสึโงะโร" เป็นบุตรของมิยางาวะ ฮิซาจิโร ชาวนาผู้มีถิ่นฐานอยู่ในหมู่บ้านคามิ-อิชิฮาระ ในแคว้นมูซาชิ ซึ่งปัจจุบันอยู่ในพื้นที่เมืองโจฟุ จังหวัดโตเกียว เขามีพี่ชายอยู่ 2 คน คนโตชื่อโอโตจิโร (音次郎; ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นโอโตโงโร 音五郎) คนรองชื่อคุเมโซ (粂蔵; ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นโซเบ 惣兵衛) คัตสึโงโรเริ่มฝึกหัดวิชาดาบที่โรงฝึกชิเอคัง ซึ่งเป็นโรงฝึกหลักของเพลงดาบสายเท็นเน็นริชินรีว เมื่อ ค.ศ. 1848
ในวัยหนุ่มนั้นคัตสึโงโรถูกกล่าวขวัญถึงจากความเป็นผู้รักการอ่าน เขาชอบอ่านเรื่องและพงศาวดารจีนเรื่องสามก๊กมากเป็นพิเศษ ชื่อเสียงของคัตสึโงโรเป็นที่กล่าวขวัญอย่างยิ่งจากความเป็นผู้คงแก่เรียน ความสามารถในการกำราบโจรที่พยายามเข้ามาปล้นบ้านของครอบครัวเขา และการได้รับความดูแลเอาใจใส่อย่างดีจากคนโด ชูซูเกะ ผู้สืบทอดเพลงดาบเท็นเน็นริชินรีวรุ่นที่ 3 ชูซูเกะไม่รอช้าที่จะรับเด็กหนุ่มคัตสึโงโรเป็นลูกบุญธรรมในปี ค.ศ. 1849 และได้เปลี่ยนชื่อของเด็กหนุ่มคนนั้นเป็น "ชิมาซากิ คัตสึตะ" (島崎勝太) ตามบันทึกของอดีตศาลเจ้าโงซุ-เท็นโนชะ (牛頭天王社 - ปัจจุบันเรียกว่า ศาลเจ้าฮิโนยาซากะ 日野八坂神社) ชื่อของคัตสึตะได้ถูกบันทึกไว้ด้วยชื่อเต็มและชื่อเรียกทั่วไปว่า "ชิมาซากิ อิซามิ ฟูจิวะระ (โนะ) โยชิตาเกะ" เอกสารดังกล่าวบันทึกในปี ค.ศ. 1858 จึงกล่าวได้ว่าคัตสึตะมีชื่อว่าอิซามิอย่างน้อยที่สุดนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1858
อิซามิแต่งงานกับโอสึเนะผู้เป็นภรรยาเมื่อ ค.ศ. 1860 การแต่งงานดังกล่าวสร้างประโยชน์ให้แก่คนโดอย่างยิ่ง เนื่องจากโอสึเนะนั้นเป็นบุตรสาวของมัตซูอิ ยาโซโงโร (松井八十五郎) หนึ่งในซามูไรผู้ขึ้นตรงต่อตระกูลชิมิซะ-โทกูงาวะ ต่อมาในวันที่ 30 กันยายน ค.ศ. 1861 อิซามิได้รับสืบทอดตำแหน่งผู้สืบทอด (宗家四代目 "โซเกะ โนะ ยนได") เพลงดาบเท็นเน็นริชินรีว รุ่นที่ 4 ได้รับนาม "คนโด อิซามิ" อย่างเป็นทางการ และได้เป็นผู้ดูแลโรงฝึกดาบชิเอคัง ในปีต่อมาคนโดก็ได้บุตรสาวชื่อ "ทามาโกะ" (1862–1886) เขามีหลานตาในภายหลังเพียงคนเดียวชื่อ "คนโด ฮิซาตาโร" ซึ่งได้เสียชีวิตในการรบระหว่างสงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น
กล่าวกันว่าคนโดมีดาบคาตานะประจำกายชื่อว่า "โคเต็ตสึ" (虎徹) ซึ่งตีขึ้นโดย ช่างตีดาบผู้มีชื่อเสียงในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 17 อย่างไรก็ตาม ฐานะความเป็นเจ้าของดาบโคเต็ตสึเล่มนั้นของคนโดยังคงเป็นที่ถกเถียงอย่างมาก กล่าวตามปึกเอกสารเกี่ยวกับช่างทำดาบโคเท็ตสึของยาสุ คิซึ ดาบของคนโดนั้นแท้จริงแล้วอาจตีขึ้นโดย ช่างดาบผู้มีชีวิตอยู่ร่วมสมัยเดียวกับคนโด
แม้ว่าคนโดจะไม่เคยทำงานใดๆ ให้แก่รัฐบาลโชกุนโทกูงาวะเลย ก่อนที่เขาจะก่อตั้งกลุ่มชินเซ็นงูมิขึ้น แต่ครั้งหนึ่งคนโดก็เคยได้รับการเสนอชื่อให้เป็นครูฝึกอยู่ในสถาบันโคบุโชะในปี ค.ศ. 1862 สถาบันโคบุโชะแห่งนี้เป็นโรงเรียนฝึกหัดวิชาการทหารโดยเฉพาะ สำหรับฝึกหัดการทหารในขั้นต้นแก่บรรดาผู้จงรักภักดีต่อโชกุน รัฐบาลโชกุนได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1855 เพื่อปฏิรูปการทหารหลังจากการมาเยือนญี่ปุ่นครั้งแรกของด้วย
ยุคชินเซ็นงูมิ
ในปี ค.ศ. 1863 รัฐบาลโชกุนโทกูงาวะได้รวบรวมกลุ่มโรนินหรือซามูไรไร้นายขึ้นเป็นองค์กรขนาดใหญ่ เพื่อเป็นหน่วยคุ้มกันโชกุนโทกูงาวะ อิเอโมจิ ในช่วงที่พำนักในนครหลวงเกียวโต คอนโดได้เข้าร่วมในองค์กรนี้ภายใต้ชื่อกลุ่ม "" พร้อมกับฮิจิกาตะ โทชิโซ ผู้เป็นเพื่อนสนิท และเหล่าสมาชิกของสำนักดาบชิเอคังอีกหลายคน คือ , โอกิตะ โซจิ, , , , และ ภายหลังเมื่อคิโยกาวะ ฮาจิโร ผู้นำกลุ่มโรชิงูมิโดยพฤตินัย ได้เปิดเผยเป้าประสงค์ที่แท้จริงว่าต้องการรวบรวมผู้คนเป็นกำลังสนับสนุนพระจักรพรรดิ คนโด, ฮิจิกาตะ, เซริซาวะ คาโม (อดีตผู้ติดตามของเจ้าแคว้นมิโตะ), และผู้คนอีกจำนวนไม่มาก จึงอยู่ที่เกียวโตและตั้งกลุ่มของตนเองแทนในชื่อกลุ่ม "มิบูโรชิงูมิ" ซึ่งรับคำสั่งโดยตรงในการปฏิบัติงานจากรัฐบาลโชกุน โดยมี ไดเมียวแห่ง เป็นผู้ควบคุมดูแลบุคคลเหล่านี้ กลุ่มมิบูโรชิงูมิได้รับหน้าที่ให้เป็นตำรวจพิเศษรักษาพระนครเกียวโต
ในเหตุการณ์ "" หรือการรัฐประหารในวันที่ 18 สิงหาคมของปีนั้น กลุ่มของคนโดได้รับการเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "ชินเซ็งงูมิ" และเป็นที่รู้จักทั่วไปจากการเข้าทำการจับกุมกลุ่มผู้ขับไล่ชาวต่างชาติกลุ่มหนึ่งในเดือน 6 ตามปฏิทินจันทรคติ ค.ศ. 1864 ซึ่งคดีดังกล่าวถูกเรียกขานในชื่อ "คดีร้านอิเกดะ" (อิเกยาดาจิเค็ง)
วันที่ 10 เดือน 7 ทางจันทรคติ ค.ศ. 1867 คนโดพร้อมด้วยสมาชิกกลุ่มชินเซ็งงูมิทั้งหมด ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น หรือซามูไรที่ขึ้นตรงต่อโชกุน
สงครามโบะชิงและมรณกรรม
หลังสิ้นสุดในเดือนมกราคม ค.ศ. 1868 คนโดได้กลับมาที่นครเอโดะ และได้รับการแต่งตั้งให้เป็น "วากาโดชิโยริ" (ตำแหน่งนี้อาจแปลความหมายได้ว่า "ผู้อาวุโสชั้นผู้น้อย" - "Junior Elders) อันก่อให้เกิดความแตกแยกภายในการบริหารงานของรัฐบาลโชกุนโทกูงาวะอย่างรวดเร็ว กองกำลังของเขาได้ทำการสู้รบกับกองกำลังที่ถูกส่งมาจากราชสำนักของพระจักรพรรดิอีกหลายครั้ง แต่กลับประสบความพ่ายแพ้ในหลายสมรภูมิ ทั้งในการรบที่ และที่เมืองนางาเรยามะ คนโดถูกกองทัพฝ่ายในพระนามจักรพรรดิเมจิจับเป็นเชลย และได้ถูกประหารชีวิตด้วยการตัดศีรษะในวันที่ 17 เดือน 5 ตามจันทรคติ ปี ค.ศ. 1868
ตามบันทึกของทานิ ทาเตกิ คนโดถูกไต่สวนถึงคดีการลอบสังหารซากาโมโตะ เรียวมะ ซามูไรชาวแคว้นโทซะผู้มีบทบาทในการเจรจาให้ฝ่ายโชกุนยอมถวายอำนาจคืนแก่พระจักรพรรดิ แต่คนโดปฏิเสธความเกี่ยวข้องของตนเองและชินเซ็งงูมิในคดีนี้ ก่อนที่จะถูกประหารชีวิตจากคดีดังกล่าวในที่สุด แม้หลังจากนั้นในปี ค.ศ. 1870 อิมาอิ โนบูโอะ อดีตสมาชิกกลุ่มมิมาวาริงูมิ จะสารภาพว่าตนเป็นผู้ก่อคดีลอบสังหารซากาโมโตะ เรียวมะ แต่ทานิก็ค้านว่าคนโดไม่ได้ถูกกล่าวหาอย่างผิดๆ ในคดีนี้ จะอย่างไรก็ดี แม้จะมีการสันนิษฐานจากหลากหลายทฤษฎีอันเป็นที่ยอมรับ แต่การจะหาว่าใครเป็นผู้บงการตัวจริงในคดีนี้ก็ยังเป็นเรื่องที่ลึกลับและยังไม่มีข้อสรุปมาจนถึงทุกวันนี้
สุสานของคนโดปรากฏอยู่หลายแห่ง โดยมากเชื่อว่าสุสานแห่งแรกของคนโดถูกสร้างขึ้นที่วัดเท็นเนจิ (天寧寺) ในแคว้นไอสึ โดยฮิจิกาตะ โทชิโซ กล่าวกันว่าฮิจิกาตะซึ่งเพิ่งฟื้นตัวจากการบาดเจ็บที่เท้าใน เป็นผู้ให้คำแนะนำปรึกษาโดยส่วนตัวในการเตรียมการและจัดสร้างสถานที่แห่งนี้ ส่วนนาม "คังเท็นอินเด็นจุนจูเซงิไดโคจิ" (貫天院殿純忠誠義大居士) ซึ่งเป็นนามหลังเสียชีวิตของคนโด เชื่อว่าตั้งให้โดย
เชิงอรรถ
- Ōishi Manabu 大石学, Shinsengumi: saigo no bushi no jitsuzō 新選組: 最後の武士の実像. (Tokyo: Chuōkōron-shinsha, 2004), p. 21
- Kojima Masataka 小島政孝. Shinsengumi yowa 新選組余話. (Tokyo: Kojima-Shiryōkan 小島資料館, 1991), p.10
- Ōishi, p. 22
- Shinsengumi dai zenshi 新選組大全史. (Tokyo; Shin Jinbutsu Oraisha, 2003) p.27; Ōishi, p. 22.
- Kojima, p.14
- Shinsengumi dai zenshi, p.27
- Kojima, p.95-96.
- Ōishi, p. 22.
- Shinsengumi dai zenshi, p.35
- Ōishi, p. 24.
- ตรงกับวันที่ 27 เดือน 8 ศักราชบุงคีว ปีที่ 1 เมื่อนับตามปฏิทินจันทรคติของญี่ปุ่น ดูที่ Ōishi, p. 24.
- Shinsengumi dai zenshi, p.27; Ōishi, p. 24.
- Shinsengumi dai zenshi, p.36; Ōishi, p. 24.
- Romulus Hillsborough. Shinsengumi: The Shogun's Last Samurai Corps. (North Clarendon: Tuttle Publishing, 2005), p. 183
- Yasu Kizu, Swordsmith Nagasone Kotetsu Okisato (Hollywood: W.M. Hawley Publications, 1990), p. 9
- "Kondō Hijikata to Okita no Shinsengumi" 近藤・土方・沖田の新選組. Rekishi Dokuhon, December 2004, p.62.
- G. Cameron Hurst III. Armed martial arts of Japan. (New Haven: Yale University Press, 1998), pp. 148-152.
- Shinsengumi dai zenshi, p.38
- Kojima, p. 39-40
- Yamakawa Hiroshi 山川浩. Kyōto Shugoshoku Shimatsu 京都守護職始末. ed. Tōyama Shigeki (Tokyo: Heibonsha, 1966), p. 87
- Shinsengumi dai zenshi, p.45
- Shinsengumi dai zenshi, p.52-53
- Shinsengumi dai zenshi, p.56-59
- June 10, 1867 by the lunar calendar. See Ōishi, p. 160.
- Ōishi, p. 160.
- 近藤勇 KONDO
- Kojima, p.91
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-02-05. สืบค้นเมื่อ 2011-08-12.
อ้างอิง
- Hurst, G. Cameron III. Armed martial arts of Japan. New Haven: Yale University Press, 1998.
- Kikuchi Akira 菊池明. Shinsengumi 101 no Nazo 新選
組101の謎. Tokyo: Shin Jinbutsu Oraisha, 2000.
- Kojima Masataka 小島政孝. Shinsengumi yowa 新選組余話. Tokyo: Kojima-Shiryōkan 小島資料館, 1991
- Ōishi Manabu 大石学. Shinsengumi: saigo no bushi no jitsuzō 新選組: 最後の武士の実像. Tokyo: , 2004.
- Yasu Kizu. Swordsmith Nagasone Kotetsu Okisato. Hollywood: W.M. Hawley Publications, 1990.
- "Kondō Hijikata to Okita no Shinsengumi" 近藤・土方・沖田の新選組. Rekishi Dokuhon, December 2004.
- Shinsengumi dai zenshi 新選組大全史. Tokyo; Shin Jinbutsu Oraisha, 2003.
- Shinsengumi Jiten 新選組事典. Tokyo: Shin Jinbutsu Oraisha, 1978.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
inchuxbukhkhlyipunninamskulkhux khnod khnod xisami近藤 勇khnod xisami kh s 1834 1868 hwhnaklumchinesngngumidarngtaaehnng kh s 1863 kh s 1868kxnhnaimmi epnhwhnaklumrwmkbaelaepnewlasn chwngkxtng khxmulswnbukhkhlekidmiyangawa khtsuongor 09 phvscikayn kh s 1834 1834 11 09 hmubankhamixichihara praethsyipunesiychiwitphvsphakhm 17 1868 1868 05 17 33 pi ekhtxitabachi praethsyipunsaehtukaresiychiwitkartdsirsathiiwsphrang wdriwengnci oxsawa mitaka krungotekiyw praethsyipun sirsa cnghwdixci praethsyipunechuxchatiyipunkhuxasymiyuki oxokakhusmrs smrs 1860 1868 butr luksaw oxyu luksaw ekidkboxokabuphkarimiyangawa hisacior bida miyangawa mioya marda yati bidbuythrrm mardabuythrrm khnod xisataor hlanchay khwamsmphnthmiyangawa riexa phisaw phichay phichay hlanchay epnthiruckcakhwhnaklumchinesngngumichuxxunchimasaki khtsuta chimasaki xisami fuciwara ona oychitaekanamaefngoxkuoba suoychi oxkuoba yamaotaysthiidrbkaraetngtngrbichrthbalexodasngkd edim edim chinesngngumipracakarkh s 1863 1868ysbngkhbbycha edim chinesngngumisngkhram karsurbsngkhramobching yuththkarothba fuchimibthkhwamnixangxingkhristskrach khristthswrrs khriststwrrs sungepnsarasakhykhxngenuxha khnod xisami yipun 近藤勇 ormaci Kondō Isami 9 phvscikayn kh s 1834 17 phvsphakhm kh s 1868 epnsamuiraelakharachkarchawyipuninchwngplayyukhexoda michuxesiynginthanakhxnghwhnaklumsamuirchinesngngumi sungepnklumsamuirhwrunaerngthicngrkphkditxrthbalochkunothkungawaphumihlngkhnod xisami michuxcringemuxaerkekidwa khtsuongaor epnbutrkhxngmiyangawa hisacior chawnaphumithinthanxyuinhmubankhami xichihara inaekhwnmusachi sungpccubnxyuinphunthiemuxngocfu cnghwdotekiyw ekhamiphichayxyu 2 khn khnotchuxoxotcior 音次郎 txmaepliynchuxepnoxotongor 音五郎 khnrxngchuxkhuemos 粂蔵 txmaepliynchuxepnoseb 惣兵衛 khtsuongorerimfukhdwichadabthiorngfukchiexkhng sungepnorngfukhlkkhxngephlngdabsayethnennrichinriw emux kh s 1848 inwyhnumnnkhtsuongorthukklawkhwythungcakkhwamepnphurkkarxan ekhachxbxaneruxngaelaphngsawdarcineruxngsamkkmakepnphiess chuxesiyngkhxngkhtsuongorepnthiklawkhwyxyangyingcakkhwamepnphukhngaekeriyn khwamsamarthinkarkarabocrthiphyayamekhamaplnbankhxngkhrxbkhrwekha aelakaridrbkhwamduaelexaicisxyangdicakkhnod chusueka phusubthxdephlngdabethnennrichinriwrunthi 3 chusuekaimrxchathicarbedkhnumkhtsuongorepnlukbuythrrminpi kh s 1849 aelaidepliynchuxkhxngedkhnumkhnnnepn chimasaki khtsuta 島崎勝太 tambnthukkhxngxditsalecaongsu ethnoncha 牛頭天王社 pccubneriykwa salecahionyasaka 日野八坂神社 chuxkhxngkhtsutaidthukbnthukiwdwychuxetmaelachuxeriykthwipwa chimasaki xisami fuciwara ona oychitaeka exksardngklawbnthukinpi kh s 1858 cungklawidwakhtsutamichuxwaxisamixyangnxythisudnbtngaetpi kh s 1858 xisamiaetngngankboxsuenaphuepnphrryaemux kh s 1860 karaetngngandngklawsrangpraoychnihaekkhnodxyangying enuxngcakoxsuenannepnbutrsawkhxngmtsuxi yaosongor 松井八十五郎 hnunginsamuirphukhuntrngtxtrakulchimisa othkungawa txmainwnthi 30 knyayn kh s 1861 xisamiidrbsubthxdtaaehnngphusubthxd 宗家四代目 oseka ona ynid ephlngdabethnennrichinriw runthi 4 idrbnam khnod xisami xyangepnthangkar aelaidepnphuduaelorngfukdabchiexkhng inpitxmakhnodkidbutrsawchux thamaoka 1862 1886 ekhamihlantainphayhlngephiyngkhnediywchux khnod hisataor sungidesiychiwitinkarrbrahwangsngkhramrsesiy yipun esuxekraaxxnsungkhnodekhyichispxngkntnexng klawknwakhnodmidabkhatanapracakaychuxwa okhettsu 虎徹 sungtikhunody changtidabphumichuxesiynginchwngkhriststwrrsthi 17 xyangirktam thanakhwamepnecakhxngdabokhettsuelmnnkhxngkhnodyngkhngepnthithkethiyngxyangmak klawtampukexksarekiywkbchangthadabokhethtsukhxngyasu khisu dabkhxngkhnodnnaethcringaelwxactikhunody changdabphumichiwitxyurwmsmyediywkbkhnod aemwakhnodcaimekhythanganid ihaekrthbalochkunothkungawaely kxnthiekhacakxtngklumchinesnngumikhun aetkhrnghnungkhnodkekhyidrbkaresnxchuxihepnkhrufukxyuinsthabnokhbuochainpi kh s 1862 sthabnokhbuochaaehngniepnorngeriynfukhdwichakarthharodyechphaa sahrbfukhdkarthharinkhntnaekbrrdaphucngrkphkditxochkun rthbalochkunidkxtngkhunemux kh s 1855 ephuxptirupkarthharhlngcakkarmaeyuxnyipunkhrngaerkkhxngdwyyukhchinesnngumiinpi kh s 1863 rthbalochkunothkungawaidrwbrwmklumorninhruxsamuirirnaykhunepnxngkhkrkhnadihy ephuxepnhnwykhumknochkunothkungawa xiexomci inchwngthiphankinnkhrhlwngekiywot khxnodidekharwminxngkhkrniphayitchuxklum phrxmkbhicikata othchios phuepnephuxnsnith aelaehlasmachikkhxngsankdabchiexkhngxikhlaykhn khux oxkita osci aela phayhlngemuxkhioykawa hacior phunaklumorchingumiodyphvtiny idepidephyepaprasngkhthiaethcringwatxngkarrwbrwmphukhnepnkalngsnbsnunphrackrphrrdi khnod hicikata esrisawa khaom xditphutidtamkhxngecaaekhwnmiota aelaphukhnxikcanwnimmak cungxyuthiekiywotaelatngklumkhxngtnexngaethninchuxklum mibuorchingumi sungrbkhasngodytrnginkarptibtingancakrthbalochkun odymi idemiywaehng epnphukhwbkhumduaelbukhkhlehlani klummibuorchingumiidrbhnathiihepntarwcphiessrksaphrankhrekiywot inehtukarn hruxkarrthpraharinwnthi 18 singhakhmkhxngpinn klumkhxngkhnodidrbkarepliynchuxihmepn chinesngngumi aelaepnthiruckthwipcakkarekhathakarcbkumklumphukhbilchawtangchatiklumhnungineduxn 6 tamptithincnthrkhti kh s 1864 sungkhdidngklawthukeriykkhaninchux khdiranxiekda xiekyadaciekhng wnthi 10 eduxn 7 thangcnthrkhti kh s 1867 khnodphrxmdwysmachikklumchinesngngumithnghmd idrbkaraetngtngihepn hruxsamuirthikhuntrngtxochkunsngkhramobachingaelamrnkrrmkhnod xisami inphaphsirsakhxngkhnod xisami hlngthukpraharchiwit tiphimphinhnngsuxphimphyipunchwng kh s 1868 hlngsinsudineduxnmkrakhm kh s 1868 khnodidklbmathinkhrexoda aelaidrbkaraetngtngihepn wakaodchioyri taaehnngnixacaeplkhwamhmayidwa phuxawuoschnphunxy Junior Elders xnkxihekidkhwamaetkaeykphayinkarbriharngankhxngrthbalochkunothkungawaxyangrwderw kxngkalngkhxngekhaidthakarsurbkbkxngkalngthithuksngmacakrachsankkhxngphrackrphrrdixikhlaykhrng aetklbprasbkhwamphayaephinhlaysmrphumi thnginkarrbthi aelathiemuxngnangaeryama khnodthukkxngthphfayinphranamckrphrrdiemcicbepnechly aelaidthukpraharchiwitdwykartdsirsainwnthi 17 eduxn 5 tamcnthrkhti pi kh s 1868 tambnthukkhxngthani thaetki khnodthukitswnthungkhdikarlxbsngharsakaomota eriywma samuirchawaekhwnothsaphumibthbathinkarecrcaihfayochkunyxmthwayxanackhunaekphrackrphrrdi aetkhnodptiesthkhwamekiywkhxngkhxngtnexngaelachinesngngumiinkhdini kxnthicathukpraharchiwitcakkhdidngklawinthisud aemhlngcaknninpi kh s 1870 ximaxi onbuoxa xditsmachikklummimawaringumi casarphaphwatnepnphukxkhdilxbsngharsakaomota eriywma aetthanikkhanwakhnodimidthukklawhaxyangphid inkhdini caxyangirkdi aemcamikarsnnisthancakhlakhlaythvsdixnepnthiyxmrb aetkarcahawaikhrepnphubngkartwcringinkhdinikyngepneruxngthiluklbaelayngimmikhxsrupmacnthungthukwnni susankhxngkhnodpraktxyuhlayaehng odymakechuxwasusanaehngaerkkhxngkhnodthuksrangkhunthiwdethnenci 天寧寺 inaekhwnixsu odyhicikata othchios klawknwahicikatasungephingfuntwcakkarbadecbthiethain epnphuihkhaaenanapruksaodyswntwinkaretriymkaraelacdsrangsthanthiaehngni swnnam khngethnxinedncuncuesngiidokhci 貫天院殿純忠誠義大居士 sungepnnamhlngesiychiwitkhxngkhnod echuxwatngihodyechingxrrthŌishi Manabu 大石学 Shinsengumi saigo no bushi no jitsuzō 新選組 最後の武士の実像 Tokyo Chuōkōron shinsha 2004 p 21 Kojima Masataka 小島政孝 Shinsengumi yowa 新選組余話 Tokyo Kojima Shiryōkan 小島資料館 1991 p 10 Ōishi p 22 Shinsengumi dai zenshi 新選組大全史 Tokyo Shin Jinbutsu Oraisha 2003 p 27 Ōishi p 22 Kojima p 14 Shinsengumi dai zenshi p 27 Kojima p 95 96 Ōishi p 22 Shinsengumi dai zenshi p 35 Ōishi p 24 trngkbwnthi 27 eduxn 8 skrachbungkhiw pithi 1 emuxnbtamptithincnthrkhtikhxngyipun duthi Ōishi p 24 Shinsengumi dai zenshi p 27 Ōishi p 24 Shinsengumi dai zenshi p 36 Ōishi p 24 Romulus Hillsborough Shinsengumi The Shogun s Last Samurai Corps North Clarendon Tuttle Publishing 2005 p 183 Yasu Kizu Swordsmith Nagasone Kotetsu Okisato Hollywood W M Hawley Publications 1990 p 9 Kondō Hijikata to Okita no Shinsengumi 近藤 土方 沖田の新選組 Rekishi Dokuhon December 2004 p 62 G Cameron Hurst III Armed martial arts of Japan New Haven Yale University Press 1998 pp 148 152 Shinsengumi dai zenshi p 38 Kojima p 39 40 Yamakawa Hiroshi 山川浩 Kyōto Shugoshoku Shimatsu 京都守護職始末 ed Tōyama Shigeki Tokyo Heibonsha 1966 p 87 Shinsengumi dai zenshi p 45 Shinsengumi dai zenshi p 52 53 Shinsengumi dai zenshi p 56 59 June 10 1867 by the lunar calendar See Ōishi p 160 Ōishi p 160 近藤勇 KONDO Kojima p 91 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2012 02 05 subkhnemux 2011 08 12 xangxingwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb khnod xisami Hurst G Cameron III Armed martial arts of Japan New Haven Yale University Press 1998 Kikuchi Akira 菊池明 Shinsengumi 101 no Nazo 新選 組101の謎 Tokyo Shin Jinbutsu Oraisha 2000 Kojima Masataka 小島政孝 Shinsengumi yowa 新選組余話 Tokyo Kojima Shiryōkan 小島資料館 1991 Ōishi Manabu 大石学 Shinsengumi saigo no bushi no jitsuzō 新選組 最後の武士の実像 Tokyo 2004 Yasu Kizu Swordsmith Nagasone Kotetsu Okisato Hollywood W M Hawley Publications 1990 Kondō Hijikata to Okita no Shinsengumi 近藤 土方 沖田の新選組 Rekishi Dokuhon December 2004 Shinsengumi dai zenshi 新選組大全史 Tokyo Shin Jinbutsu Oraisha 2003 ISBN 4404030657 Shinsengumi Jiten 新選組事典 Tokyo Shin Jinbutsu Oraisha 1978