หม่อมเหม็น พระนามเดิม สมเด็จพระเจ้าหลานเธอ เจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์ กรมขุนกษัตรานุชิต หรือ เจ้าฟ้าเหม็น (17 กันยายน พ.ศ. 2322 — 13 กันยายน พ.ศ. 2352) เป็นพระราชโอรสของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ประสูติแต่เจ้าครอกฉิมใหญ่ (สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าฉิมใหญ่) พระราชธิดาพระองค์ใหญ่ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงพระนามเดิมว่า สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสุพันธุวงศ์ แต่หลังการปราบดาภิเษกของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก พระองค์ได้รับการละเว้นจากการประหาร ก่อนได้รับการเฉลิมพระนามใหม่เป็น เจ้าฟ้าอภัยธิเบศ และเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์ ก่อนทรงกรมเป็น กรมขุนกษัตรานุชิต
หม่อมเหม็น | |
---|---|
เกิด | 17 กันยายน พ.ศ. 2332 กรุงธนบุรี อาณาจักรธนบุรี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสุพันธุวงศ์ |
เสียชีวิต | 13 กันยายน พ.ศ. 2352 (29 ปี) วัดปทุมคงคาราชวรวิหาร กรุงเทพพระมหานคร อาณาจักรรัตนโกสินทร์ |
บุตร | 15 คน |
ราชสกุล | อภัยกุล |
ราชวงศ์ | ธนบุรี (ประสูติ) จักรี (สถาปนา) |
บิดา | สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี |
มารดา | สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าฉิมใหญ่ |
ศาสนา | เถรวาท |
ถูกกล่าวหา | กบฏ |
รับโทษ | สำเร็จโทษด้วยท่อนจันทน์ |
ครั้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทรงถูกฟ้องร้องว่าคิดวางแผนก่อการกบฏ จึงถูกถอดยศเป็น "หม่อมเหม็น" และถูกสำเร็จโทษด้วยท่อนจันทน์ที่วัดปทุมคงคา พร้อมทั้งประหารพระโอรสทั้งหกพระองค์ด้วยการไปล่มน้ำที่ปากอ่าว
พระประวัติ
หม่อมเหม็น ประสูติเมื่อวันศุกร์ ขึ้น 7 ค่ำ เดือน 10 ปีกุน จ.ศ. 1141 หรือวันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2322 ได้รับพระนามเมื่อประสูติว่า สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสุพันธุวงศ์ แต่คนทั่วไปเรียกว่า เจ้าฟ้าเหม็น เป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี กับเจ้าครอกฉิมใหญ่ (ต่อมาได้รับการสถาปนาขึ้นเป็น สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าฉิมใหญ่) พระราชธิดาพระองค์ใหญ่ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ดังปรากฏใน จดหมายเหตุความทรงจำกรมหลวงนรินทรเทวี ซึ่งได้บันทึกเรื่องราวดังกล่าวไว้ ความว่า
"เจ้าฟ้ากษัตริย์ศึกเข้าเมืองได้ ณ วันจันทร์ ขึ้น ๓ ค่ำ เดือน ๑๐ เจ้าเมืองหนี ได้พระแก้วพระบาง พระไอยกาเข้าเมืองได้ ๓ วัน เจ้าลูกทรงครรภ์ประสูตร์เจ้า ณ วันศุกร์ ขึ้น ๗ ค่ำ เดือน ๑๐ ประสูตร์เปนพระราชกุมาร ประโคมแตรสังข์ลั่นฆ้องไชย แมงมุมทั้งไข่จิ้งจกตกพร้อมกัน แมงมุมอนิจกรรม จิ้งจกไปได้ ๑๒ วัน เจ้าแม่สิ้นพระชนม์ ส่วนเจ้าลูกให้พระพี่นางเธอเอาไปเลี้ยง ให้นามเจ้าสุพันทวงษ์"
ซึ่งนิมิตดีคือพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ได้ทำศึกตีเวียงจันทน์แตกได้พระแก้วมรกตและพระบางมาสู่พระนคร ส่วนลางร้ายคือแมงมุมและจิ้งจกตกลงมาพร้อมกัน หลังจากนั้นสิบสองวันเจ้าจอมมารดาฉิมใหญ่ก็สิ้นพระชนม์ แต่ขณะเดียวกันการ "ประโคมแตรสังข์ลั่นฆ้องไชย" เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าพระราชโอรสที่ประสูติเป็นเจ้าฟ้าทั้ง ๆ ที่ผู้ให้กำเนิดเป็นเพียงเจ้าจอมมารดาเท่านั้น ซึ่งในกรณีดังกล่าวจัดว่าเป็นเจ้าฟ้าตั้ง
หลังการสิ้นชีพของมารดาเจ้าฟ้าเหม็นก็ตกอยู่ภายใต้การดูแลของยายสา (ภายหลังได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากรมพระเทพสุดาวดี) และมีพระพี่เลี้ยงชื่อหม่อมบุญศรี (เชื้อพระวงศ์กรุงศรีอยุธยาเก่า)
ต่อมาอีก 3 ปีก็กำพร้าบิดาเมื่อพระราชบิดาคือสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงถูก "เจ้าคุณตา" สำเร็จโทษ แต่ด้วยทรงอาลัยในเจ้าฟ้าเหม็นจึงทรงรอดพ้นจากการประหาร ดังปรากฏพระราชพงศาวดารฉบับพระราชหัตถเลขา ความว่า
"สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกรมพระราชวังฯ เสด็จลงมาเฝ้า กราบทูลว่าบรรดาบุตรชายน้อย ๆ ของเจ้าตากสิน จะขอรับพระราชทานเอาใส่เรือไปล่มน้ำเสียให้สิ้น คำบุราณกล่าวไว้ ตัดหวายอย่าไว้หนามหน่อ ฆ่าพ่ออย่าไว้ลูก ซึ่งจะเลี้ยงไว้นั้นหาประโยชน์ไม่ จะเป็นเสี้ยนหนามต่อไปภายหน้า สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงทรงพระอาลัยอยู่ในเจ้าฟ้าสุพันธุวงศ์ พระราชนัดดา จึงดำรัสแก่สมเด็จพระอนุชาธิราชเจ้า ขอชีวิตไว้ทั้งสิ้น"
ที่ทรงเป็นหลานคนโตของเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก (พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช) พระราชทานนามใหม่เป็น เจ้าฟ้าอภัยธิเบศร์ คนทั่วไปเรียกว่าเจ้าฟ้าอภัยทศ แต่เนื่องจากพระนามพ้องกับเจ้าฟ้าอภัยทศ แผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์ พ้องกับเจ้าฟ้าอภัย ในแผ่นดินพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ ซึ่งได้รับพระราชอาญาสำเร็จโทษด้วยท่อนจันทน์ ในช่วงผลัดแผ่นดิน ทรงสดับรับสั่งว่า ไม่เป็นมงคล โปรดให้เปลี่ยนเป็นเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์ ต่อมาปี พ.ศ. 2349 เป็นกรมขุนกษัตรานุชิต ครั้งทรงเจริญพระชันษา จึงโปรดเกล้าพระราชทานวังถนนหน้าพระลาน ด้านตะวันตก ซึ่งเรียกว่า "วังท่าพระ"
ข้อหากบฏ
ในปี พ.ศ. 2352 หลังพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เสด็จสวรรคตได้เพียง 3 วัน เกิดการกล่าวโทษว่าพระองค์คบคิดกับขุนนางจำนวนหนึ่งว่าคิดแย่งชิงราชสมบัติ จนเกิดคดีเป็นกบฏ หลังจากไต่สวนได้ความเป็นจริง พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย จึงโปรดให้ชำระโทษถอดพระยศ ลงพระราชอาญา ให้สำเร็จโทษด้วยท่อนจันทน์ที่วัดปทุมคงคาราชวรวิหาร เมื่อวันพุธ ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 10 จ.ศ. 1171 หรือวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2352 พร้อมพระอนุชาต่างมารดา คือพระองค์เจ้าชายอรนิกา และพระขนิษฐา พระองค์เจ้าหญิงสำลีวรรณ ซึ่งถูกข้อหาสมรู้ร่วมคิด ผู้ร่วมสมรู้ร่วมคิดอื่นได้ถูกประหารชีวิตที่สำเหร่ รวมทั้งพระโอรสทั้งหมดในเจ้าฟ้ากรมขุนกษัตรานุชิตถูกสำเร็จโทษด้วยวิธีการถ่วงน้ำ ในเหตุกบฏเจ้าฟ้าเหม็นด้วย
พระทายาท
หม่อมเหม็นมีพระโอรส พระธิดาทั้งหมด 15 ท่าน ดังรายพระนาม ดังนี้
|
|
ในจำนวนนี้ทราบแต่เพียงว่าหม่อมเจ้าหญิงสารภี ประสูติแต่หม่อมห้ามชื่อหม่อมคลี่จาก ซึ่งพระยากระสาปนกิจโกศล (โหมด อมาตยกุล) ได้จดบันทึกไว้ว่าเป็นคนในสกุลอมาตยกุล ความว่า "...บุตรหลวงยศคงชื่อสิงเป็นบุตรเขยเจ้าพระยาธรรมา (มั่ง) แล้วได้เป็นหลวงยศแทนบิดาคน๑ น้องหลวงยศคงเป็นหญิงชื่อหม่อมคลี่เป็นห้ามหม่อมเหม็นคน๑ มีบุตรกับหม่อมเหม็นเป็นหญิง ชื่อภีคน๑..." แต่หม่อมห้ามท่านอื่น ๆ นั้นไม่พบว่ามีการบันทึกเกี่ยวกับหม่อมห้ามของหม่อมเหม็นไว้เลย และต้องสืบหากันต่อไป
หลังคดีกบฏเจ้าฟ้าเหม็น เจ้าฟ้าเหม็นถูกถอดพระยศและถูกสำเร็จโทษ ส่วนพระโอรสทั้งหกถูกประหารชีวิตทั้งหมด ขณะที่พระธิดาที่ยังเหลืออยู่ก็ถูกถอดให้มีพระยศเป็น คุณ หรือ หม่อม และยังพบว่าพระธิดาของหม่อมเหม็นสองท่านคือ หม่อมเจ้าตลับ และหม่อมเจ้าหอ ปรากฏตัวเมื่อคราวพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินไปกรุงเก่าทางชลมารค ระหว่างนั้นก็มีเรือเก๋งพายเข้ามาเคียงเรือพระที่นั่งอย่างไม่เกรงพระอาญา นำโดยเจ้าจอมมารดาน้อย (ธิดาพระอินทรอภัย) พร้อมด้วยหม่อมเจ้าอีกสองท่านดังกล่าว เรื่องนี้พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชหัตถเลขาเล่าความแก่เจ้าจอมมารดาพึ่ง ดังปรากฏความว่า "...อยากจะใคร่ให้เอาไปตัดหัวเสียตามสกุลพ่อมัน แซ่นี้มักเป็นเช่นนั้นเหมือนคุณสำลี...ข้าได้ยินว่าคนพวกเจ้าตลับ เจ้าครอกหอ ไปด้วย พวกนั้นเปนพวกใกล้เคียงกับยายป้าน้อยของเต่า เต่าอย่าไปไถ่ถามว่ากล่าวอะไรวุ่นวายน้อยมันจะด่าให้อายเขา..."
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้สืบเชื้อสายของหม่อมเหม็นได้รับพระราชทานนามสกุลว่า "อภัยกุล" เป็นนามสุกลพระราชทานลำดับที่ 3941 เขียนเป็นภาษาอังกฤษว่า Abhayakul นายพิศาล เป็นบุตรหม่อมหลวงแฉล้ม หม่อมหลวงแฉล้มเป็นบุตรพระยาทิพรัตนอมร เป็นผู้ขอพระราชทาน พระราชทานเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2460
พระอิสริยยศ
ธรรมเนียมพระยศของ สมเด็จพระเจ้าหลานเธอ เจ้าฟ้าธรรมาธิเบศ์ร กรมขุนกษัตรานุชิต (พ.ศ. 2322–2352) | |
---|---|
การทูล | ใต้ฝ่าพระบาท |
การแทนตน | ข้าพระพุทธเจ้า |
การขานรับ | พ่ะย่ะค่ะ/เพคะ |
- สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสุพันธุวงศ์ (2322-2325)
- สมเด็จพระเจ้าหลานเธอ เจ้าฟ้าสุพันธุวงศ์ (2325 - 2327)
- สมเด็จพระเจ้าหลานเธอ เจ้าฟ้าอภัยธิเบศ นเรศรสมมติวงษพงษอิศวรราชกุมาร (2327)
- สมเด็จพระเจ้าหลานเธอ เจ้าฟ้าธรรมาธิเบศ์ร นเรศว์รสมมติวงษพงษอิศวรราชกุมาร (2327-2350)
- สมเด็จพระเจ้าหลานเธอ เจ้าฟ้าธรรมาธิเบศ์ร นเรศว์รสมมติวงษพงษอิศวรราชกุมาร กรมขุนกษัตรานุชิต (2350-2352)
- หม่อมเหม็น (2352)
พงศาวลี
พงศาวลีของหม่อมเหม็น | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
อ้างอิง
- จุลลดา ภักดีภูมินทร์, "พระองค์เสือ"และ "พระองค์ช้าง" เก็บถาวร 2010-07-14 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน sakulthai.com
- ปรามินทร์ เครือทอง, หน้า 29
- ปรามินทร์ เครือทอง, หน้า 31
- ปรามินทร์ เครือทอง, หน้า 36
- ปรามินทร์ เครือทอง, หน้า 34
- พระราชพงศาวดารฉบับพระราชหัตถเลขา. กรุงเทพฯ:คลังวิทยา. 2516, หน้า 460
- เกร็ดพระราชประวัติ เก็บถาวร 2008-09-01 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน phrachaokrungthon.com
- "คดีกบฏเจ้าฟ้าเหม็น ๒". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-12-29. สืบค้นเมื่อ 2012-04-14.
- ลำดับสกุล ภาคที่ 4 สกุลเชื้อสายพระราชวงศ์กรุงธนบุรี. (พิมพ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ ท่านผู้หญิง ม.ร.ว.อรุณ วรพงษ์พิพัฒน์ )
- พระยากระสาปนกิจโกศล. ๓๓๑ ปี สกุลอมาตยกุล และ ๗๓ ปี แห่งการพระราชทานนามสกุลอมาตยกุล. 2529, หน้า 4
- ปรามินทร์ เครือทอง, หน้า 109
- ปรามินทร์ เครือทอง. หน้า 151
- กรมศิลปากร, สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์. ราชสกุลวงศ์ เก็บถาวร 2017-02-02 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. พิมพ์ครั้งที่ 14. กรุงเทพฯ:สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร. 2554, หน้า 9
- ปรามินทร์ เครือทอง, หน้า 161
- ปรามินทร์ เครือทอง, หน้า 162
- พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์รัชกาลที่ ๑ ฉบับเจ้าพระยาทิพากรวงศ์ (ฉบับตัวเขียน). กรุงเทพฯ:อมรินทร์. 2539, หน้า 43
บรรณานุกรม
- ปรามินทร์ เครือทอง. กบฏเจ้าฟ้าเหม็น. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์มติชน, พิมพ์ครั้งที่ 3. 2555. 240 หน้า. ISBN
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
hmxmehmn phranamedim smedcphraecahlanethx ecafathrrmathiebsr krmkhunkstranuchit hrux ecafaehmn 17 knyayn ph s 2322 13 knyayn ph s 2352 epnphrarachoxrskhxngsmedcphraecakrungthnburi prasutiaetecakhrxkchimihy smedcphraecabrmwngsethx ecafachimihy phrarachthidaphraxngkhihyinphrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharach thrngphranamedimwa smedcphraecalukethx ecafasuphnthuwngs aethlngkarprabdaphieskkhxngphrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolk phraxngkhidrbkarlaewncakkarprahar kxnidrbkarechlimphranamihmepn ecafaxphythiebs aelaecafathrrmathiebsr kxnthrngkrmepn krmkhunkstranuchithmxmehmnekid17 knyayn ph s 2332 krungthnburi xanackrthnburi smedcphraecalukethx ecafasuphnthuwngsesiychiwit13 knyayn ph s 2352 29 pi wdpthumkhngkharachwrwihar krungethphphramhankhr xanackrrtnoksinthrbutr15 khnrachskulxphykulrachwngsthnburi prasuti ckri sthapna bidasmedcphraecakrungthnburimardasmedcphraecabrmwngsethx ecafachimihysasnaethrwaththukklawhakbtrbothssaercothsdwythxncnthn khrninrchsmyphrabathsmedcphraphuththelishlanphaly thrngthukfxngrxngwakhidwangaephnkxkarkbt cungthukthxdysepn hmxmehmn aelathuksaercothsdwythxncnthnthiwdpthumkhngkha phrxmthngpraharphraoxrsthnghkphraxngkhdwykariplmnathipakxawphraprawtihmxmehmn prasutiemuxwnsukr khun 7 kha eduxn 10 pikun c s 1141 hruxwnthi 17 knyayn ph s 2322 idrbphranamemuxprasutiwa smedcphraecalukethx ecafasuphnthuwngs aetkhnthwiperiykwa ecafaehmn epnphrarachoxrsinsmedcphraecakrungthnburi kbecakhrxkchimihy txmaidrbkarsthapnakhunepn smedcphraecabrmwngsethx ecafachimihy phrarachthidaphraxngkhihyinphrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharach dngpraktin cdhmayehtukhwamthrngcakrmhlwngnrinthrethwi sungidbnthukeruxngrawdngklawiw khwamwa ecafakstriysukekhaemuxngid n wncnthr khun 3 kha eduxn 10 ecaemuxnghni idphraaekwphrabang phraixykaekhaemuxngid 3 wn ecalukthrngkhrrphprasutreca n wnsukr khun 7 kha eduxn 10 prasutrepnphrarachkumar praokhmaetrsngkhlnkhxngichy aemngmumthngikhcingcktkphrxmkn aemngmumxnickrrm cingckipid 12 wn ecaaemsinphrachnm swnecalukihphraphinangethxexaipeliyng ihnamecasuphnthwngs sungnimitdikhuxphrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharach idthasuktiewiyngcnthnaetkidphraaekwmrktaelaphrabangmasuphrankhr swnlangraykhuxaemngmumaelacingcktklngmaphrxmkn hlngcaknnsibsxngwnecacxmmardachimihyksinphrachnm aetkhnaediywknkar praokhmaetrsngkhlnkhxngichy epnsingthiaesdngihehnwaphrarachoxrsthiprasutiepnecafathng thiphuihkaenidepnephiyngecacxmmardaethann sunginkrnidngklawcdwaepnecafatng hlngkarsinchiphkhxngmardaecafaehmnktkxyuphayitkarduaelkhxngyaysa phayhlngidrbkarsthapnaepnsmedcphraecaphinangethx ecafakrmphraethphsudawdi aelamiphraphieliyngchuxhmxmbuysri echuxphrawngskrungsrixyuthyaeka txmaxik 3 pikkaphrabidaemuxphrarachbidakhuxsmedcphraecakrungthnburithrngthuk ecakhunta saercoths aetdwythrngxalyinecafaehmncungthrngrxdphncakkarprahar dngpraktphrarachphngsawdarchbbphrarachhtthelkha khwamwa smedcphraecaxyuhwkrmphrarachwng esdclngmaefa krabthulwabrrdabutrchaynxy khxngecataksin cakhxrbphrarachthanexaiseruxiplmnaesiyihsin khaburanklawiw tdhwayxyaiwhnamhnx khaphxxyaiwluk sungcaeliyngiwnnhapraoychnim caepnesiynhnamtxipphayhna smedcphraphuththecahlwngthrngphraxalyxyuinecafasuphnthuwngs phrarachndda cungdarsaeksmedcphraxnuchathiracheca khxchiwitiwthngsin thithrngepnhlankhnotkhxngecaphrayamhakstriysuk phrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharach phrarachthannamihmepn ecafaxphythiebsr khnthwiperiykwaecafaxphyths aetenuxngcakphranamphxngkbecafaxphyths aephndinsmedcphranarayn phxngkbecafaxphy inaephndinphraecaxyuhwthaysra sungidrbphrarachxayasaercothsdwythxncnthn inchwngphldaephndin thrngsdbrbsngwa imepnmngkhl oprdihepliynepnecafathrrmathiebsr txmapi ph s 2349 epnkrmkhunkstranuchit khrngthrngecriyphrachnsa cungoprdeklaphrarachthanwngthnnhnaphralan dantawntk sungeriykwa wngthaphra khxhakbtinpi ph s 2352 hlngphrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharach esdcswrrkhtidephiyng 3 wn ekidkarklawothswaphraxngkhkhbkhidkbkhunnangcanwnhnungwakhidaeyngchingrachsmbti cnekidkhdiepnkbt hlngcakitswnidkhwamepncring phrabathsmedcphraphuththelishlanphaly cungoprdihcharaothsthxdphrays lngphrarachxaya ihsaercothsdwythxncnthnthiwdpthumkhngkharachwrwihar emuxwnphuth khun 5 kha eduxn 10 c s 1171 hruxwnthi 13 knyayn ph s 2352 phrxmphraxnuchatangmarda khuxphraxngkhecachayxrnika aelaphrakhnistha phraxngkhecahyingsaliwrrn sungthukkhxhasmrurwmkhid phurwmsmrurwmkhidxunidthukpraharchiwitthisaehr rwmthngphraoxrsthnghmdinecafakrmkhunkstranuchitthuksaercothsdwywithikarthwngna inehtukbtecafaehmndwyphrathayathhmxmehmnmiphraoxrs phrathidathnghmd 15 than dngrayphranam dngni hmxmecachayihy hmxmecahyingtlb hmxmecahyingpxm hmxmecachaysuwrrn hmxmecahyingyisun hmxmecachayhnuephuxk hmxmecachayswsdi hmxmecahyingsalihmxmecahyingsarphihmxmecachayelkhmxmecahyingmuyhmxmecachayaednghmxmecahying imthrabphranam hmxmecahyinghxhmxmecahyingnxy incanwnnithrabaetephiyngwahmxmecahyingsarphi prasutiaethmxmhamchuxhmxmkhlicak sungphrayakrasapnkicoksl ohmd xmatykul idcdbnthukiwwaepnkhninskulxmatykul khwamwa butrhlwngyskhngchuxsingepnbutrekhyecaphrayathrrma mng aelwidepnhlwngysaethnbidakhn1 nxnghlwngyskhngepnhyingchuxhmxmkhliepnhamhmxmehmnkhn1 mibutrkbhmxmehmnepnhying chuxphikhn1 aethmxmhamthanxun nnimphbwamikarbnthukekiywkbhmxmhamkhxnghmxmehmniwely aelatxngsubhakntxip hlngkhdikbtecafaehmn ecafaehmnthukthxdphraysaelathuksaercoths swnphraoxrsthnghkthukpraharchiwitthnghmd khnathiphrathidathiyngehluxxyukthukthxdihmiphraysepn khun hrux hmxm aelayngphbwaphrathidakhxnghmxmehmnsxngthankhux hmxmecatlb aelahmxmecahx prakttwemuxkhrawphrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhwesdcphrarachdaeninipkrungekathangchlmarkh rahwangnnkmieruxekngphayekhamaekhiyngeruxphrathinngxyangimekrngphraxaya naodyecacxmmardanxy thidaphraxinthrxphy phrxmdwyhmxmecaxiksxngthandngklaw eruxngniphrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhwthrngmiphrarachhtthelkhaelakhwamaekecacxmmardaphung dngpraktkhwamwa xyakcaikhrihexaiptdhwesiytamskulphxmn aesnimkepnechnnnehmuxnkhunsali khaidyinwakhnphwkecatlb ecakhrxkhx ipdwy phwknnepnphwkiklekhiyngkbyaypanxykhxngeta etaxyaipiththamwaklawxairwunwaynxymncadaihxayekha inrchsmyphrabathsmedcphramngkudeklaecaxyuhw phusubechuxsaykhxnghmxmehmnidrbphrarachthannamskulwa xphykul epnnamsuklphrarachthanladbthi 3941 ekhiynepnphasaxngkvswa Abhayakul nayphisal epnbutrhmxmhlwngaechlm hmxmhlwngaechlmepnbutrphrayathiphrtnxmr epnphukhxphrarachthan phrarachthanemuxwnthi 17 phvsphakhm ph s 2460phraxisriyysthrrmeniymphrayskhxng smedcphraecahlanethx ecafathrrmathiebsr krmkhunkstranuchit ph s 2322 2352 karthulitfaphrabathkaraethntnkhaphraphuththecakarkhanrbphayakha ephkhasmedcphraecalukethx ecafasuphnthuwngs 2322 2325 smedcphraecahlanethx ecafasuphnthuwngs 2325 2327 smedcphraecahlanethx ecafaxphythiebs nersrsmmtiwngsphngsxiswrrachkumar 2327 smedcphraecahlanethx ecafathrrmathiebsr nerswrsmmtiwngsphngsxiswrrachkumar 2327 2350 smedcphraecahlanethx ecafathrrmathiebsr nerswrsmmtiwngsphngsxiswrrachkumar krmkhunkstranuchit 2350 2352 hmxmehmn 2352 phngsawliphngsawlikhxnghmxmehmn 4 hyng aesaet 2 smedcphraecakrungthnburi 5 krmphraethphamaty nkexiyng 1 hmxmehmn 24 phrayarachnikul thxngkha 12 smedcphrapthmbrmmhachnk 6 phrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharach 13 phraxkhrchaya hyk 3 smedcphraecabrmwngsethx ecafachimihy 28 phr 14 thxng n bangchang 29 chi 7 smedcphraxmrinthrabrmrachini 30 phlxy 15 smedcphrarupsiriosphakhymhanakhnari 31 thi xangxingcullda phkdiphuminthr phraxngkhesux aela phraxngkhchang ekbthawr 2010 07 14 thi ewyaebkaemchchin sakulthai com praminthr ekhruxthxng hna 29 praminthr ekhruxthxng hna 31 praminthr ekhruxthxng hna 36 praminthr ekhruxthxng hna 34 phrarachphngsawdarchbbphrarachhtthelkha krungethph khlngwithya 2516 hna 460 ekrdphrarachprawti ekbthawr 2008 09 01 thi ewyaebkaemchchin phrachaokrungthon com khdikbtecafaehmn 2 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2011 12 29 subkhnemux 2012 04 14 ladbskul phakhthi 4 skulechuxsayphrarachwngskrungthnburi phimphinnganphrarachthanephlingsph thanphuhying m r w xrun wrphngsphiphthn phrayakrasapnkicoksl 331 pi skulxmatykul aela 73 pi aehngkarphrarachthannamskulxmatykul 2529 hna 4 praminthr ekhruxthxng hna 109 praminthr ekhruxthxng hna 151 krmsilpakr sankwrrnkrrmaelaprawtisastr rachskulwngs ekbthawr 2017 02 02 thi ewyaebkaemchchin phimphkhrngthi 14 krungethph sankwrrnkrrmaelaprawtisastr krmsilpakr 2554 hna 9 praminthr ekhruxthxng hna 161 praminthr ekhruxthxng hna 162 phrarachphngsawdarkrungrtnoksinthrrchkalthi 1 chbbecaphrayathiphakrwngs chbbtwekhiyn krungethph xmrinthr 2539 hna 43 brrnanukrm praminthr ekhruxthxng kbtecafaehmn krungethph sankphimphmtichn phimphkhrngthi 3 2555 240 hna ISBN 978 974 02 0858 7