ฉันท์ เป็นลักษณ์หนึ่งของการประพันธ์ประเภทร้อยกรองในวรรณคดีไทยที่บังคับเสียงหนัก - เบาของพยางค์ ที่เรียกว่า ครุ - ลหุ ฉันท์ในภาษาไทยรับแบบมาจากประเทศอินเดีย ตำราฉันท์ที่เก่าแก่ที่สุดของอินเดียเป็นภาษาสันสกฤต คือ ปิงคลฉันทศาสตร์ แต่งโดยปิงคลาจารย์ ส่วนตำราฉันท์ภาษาบาลีเล่มสำคัญที่สุดได้แก่ ผู้แต่งคือ พระสังฆรักขิตมหาสามี เถระชาวลังกา แต่งเมื่อ พ.ศ. 1703 เป็นที่มาของ ซึ่งเป็นต้นตำหรับการแต่งฉันท์ของไทย เมื่อคัมภีร์วุตโตทัยแพร่หลายเข้ามาในประเทศไทย กวีจึงได้ปรับปรุงให้เหมาะกับขนบร้อยกรองไทย เช่น จัดวรรค เพิ่มสัมผัส และเปลี่ยนลักษณะครุ-ลหุแตกต่างไปเล็กน้อย เพื่อเพิ่มความไพเราะของภาษาไทยลงไป
ฉันท์ ในคัมภีร์วุตโตทัยได้แปลงเป็นฉันท์ไทยครบทั้ง 108 ชนิด ในสมัยรัชกาลที่ 7 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ โดยนายฉันท์ ขำวิไล เป็นผู้ดัดแปลงเพิ่มเติมจนครบถ้วนและจัดพิมพ์รวมเล่มทั้งหมดในปี พ.ศ. 2474 ใช้ชื่อว่า
นอกเหนือจากฉันท์ทั้ง 108 ชนิดดังกล่าวแล้ว กวีได้ทดลองประดิษฐ์ฉันท์ในรูปแบบใหม่ ๆ โดยดัดแปลงจากฉันท์เดิมบ้าง โดยเลียนเสียงเครื่องดนตรีบ้าง หรือโดยแรงบันดาลใจจากฉันท์ต่างประเทศ หรือชื่อบุคคลสำคัญบ้าง อย่างไรก็ตาม ฉันท์ที่ประดิษฐ์ขึ้นใหม่ ล้วนจัดอยู่ในประเภทฉันท์วรรณพฤติทั้งสิ้น
ฉันท์ในคัมภีร์วุตโตทัย
มีทั้งสิ้น 108 ชนิด แบ่งเป็น ฉันท์วรรณพฤติ ซึ่งบังคับพยางค์ จำนวน 81 ชนิด กับ ฉันท์มาตราพฤติ ซึ่งบังคับมาตรา จำนวน 27 ชนิด
ฉันท์วรรณพฤติ
ฉันท์วรรณพฤติ มีทั้งสิ้น 81 ชนิด บังคับจำนวนพยางค์ ตั้งแต่ บาทละ 6 พยางค์ ถึง 25 พยางค์ แต่ ฉันท์ที่คนไทยนิยมแต่ง มีเพียงไม่กี่ชนิด ได้แก่
จิตรปทาฉันท์ 8
หนึ่งบทมี 4 บาท บาทละ 8 พยางค์ แบ่งเป็น 2 วรรค วรรคละ 4 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกลอน
ลักษณะครุ-ลหุเหมือนกับทุกบาท คือ ครุ-ลหุ-ลหุ-ครุ ลหุ-ลหุ-ครุ-ครุ
ตัวอย่างคำประพันธ์
เหตุพินาศ | อนุศาสน์ แสดง | |
ฉัพพิธะแจง | นรปรีชา |
เชิญมละโทษ | ดุจพรรณนา | |
จักยศถา | วรสวัสดี |
ฉันทภิปราย | อธิบายบท | |
คามภิรพจน์ | ศุภสารศรี |
จิตระปทา | พฤตินามมี | |
จินตกวี | รนิพนธ์แถลง | |
— (ประชุมจารึกวัดพระเชตุพนฯ) |
วิชชุมมาลาฉันท์ 8
วิชชุมมาลาฉันท์ มีความหมายว่า "ระเบียบแห่งสายฟ้า" ประกอบด้วยครุล้วน จึงใช้บรรยายความอย่างธรรมดา
หนึ่งบทมี 4 บาท บาทละ 8 พยางค์ แบ่งเป็น 2 วรรค วรรคละ 4 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกลอน
ลักษณะครุ-ลหุ เหมือนกันทุกบาท คือ ครุ-ครุ-ครุ-ครุ ครุ-ครุ-ครุ-ครุ
ตัวอย่างคำประพันธ์
แรมทางกลางเถื่อน | ห่างเพื่อนหาผู้ | |
หนึ่งในนึกดู | เห็นใครไป่มี |
หลายวันถั่นล่วง | เมืองหลวงธานี | |
นามเวสาลี | ดุ่มเดาเข้าไป |
ผูกไมตรีจิต | เชิงชิดชอบเชื่อง | |
กับหมู่ชาวเมือง | ฉันอัชฌาสัย |
เล่าเรื่องเคืองขุ่น | ว้าวุ่นวายใจ | |
จำเป็นมาใน | ด้าวต่างแดนตน | |
— สามัคคีเภทคำฉันท์, ชิต บุรทัต |
มาณวกฉันท์ 8
มาณวกฉันท์ มีความหมายว่า "ประดุจเด็กหนุ่ม" ใช้แต่งบรรยายความที่รวดเร็ว
หนึ่งบทมี 4 บาท บาทละ 8 พยางค์ แบ่งเป็น 2 วรรค วรรคละ 4 คำ ส่งสัมผัสแบบกลอน
ลักษณะครุ-ลหุ เหมือนกันทุกบาท คือ ครุ-ลหุ-ลหุ-ครุ ครุ-ลหุ-ลหุ-ครุ
ตัวอย่างคำประพันธ์
ล่วงลุประมาณ | กาลอนุกรม | |
หนึ่งณนิยม | ท่านทวิชงค์ |
เมื่อจะประสิทธิ์ | วิทยะยง | |
เชิญวรองค์ | เอกกุมาร |
เธอจรตาม | พราหมณไป | |
โดยเฉพาะใน | ห้องรหุฐาน |
จึงพฤฒิถาม | ความพิสดาร | |
ขอ ธ ประทาน | โทษะและไข | |
— สามัคคีเภทคำฉันท์, ชิต บุรทัต |
ปมาณิกฉันท์ 8
หนึ่งบทมี 4 บาท บาทละ 8 พยางค์ แบ่งเป็น 2 วรรค วรรคละ 4 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกลอน
ลักษณะครุ-ลหุ เหมือนกันทุกบาทคือ ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ
ตัวอย่างคำประพันธ์
ประดิษฐ์ประดับ | ประคับประคอง | |
ละเบงละบอง | จำแนกจำนรร |
ระเบียบและบท | สุพจน์สุพรรณ์ | |
จะเฉิดจะฉัน | วิเรขวิไล |
ลิลิตลิลาศ | มิคลาดมิคล้อย | |
ก็เรียบก็ร้อย | อำพนอำไพ |
จะจัดจะแจง | ผิแขงผิไข | |
แถลงไถล | ก็เสื่อมก็ทราม | |
— () |
อุปัฏฐิตาฉันท์ 11
หมายถึงฉันท์ที่กล่าวสำเนียงอันดังก้องให้ปรากฏ
หนึ่งบทมี 2 บาท บาทละ 11 พยางค์ แบ่งเป็น 2 วรรค วรรคแรก 5 พยางค์ วรรคหลัง 6 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกาพย์
ลักษณะครุ-ลหุ เหมือนกันทุกบาท คือ ครุ-ครุ-ลหุ-ลหุ-ครุ ลหุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ
ตัวอย่างคำประพันธ์
เห็นเชิงพิเคราะห์ช่อง | ชนะคล่องประสบสม | |
พราหมณ์เวทอุดม | ธก็ลอบแถลงการณ์ |
ให้วัลลภะชน | คมะดลประเทศฐาน | |
กราบทูลนฤบาล | อภิเผ้ามคธไกร | |
— สามัคคีเภทคำฉันท์, ชิต บุรทัต |
อินทรวิเชียรฉันท์ 11
อินทรวิเชียรฉันท์ มีความหมายว่า "ฉันท์ที่มีลีลาดุจสายฟ้าของพระอินทร์" เป็นฉันท์ที่นิยมแต่งกันมากที่สุด มีลักษณะและจำนวนคำคล้ายกับกาพย์ยานี 11 แต่ต่างกันเพียงที่ว่าอินทรวิเชียรฉันท์ มีข้อบังคับ ครุและลหุ
หนึ่งบทมี 2 บาท บาทละ 11 พยางค์ แบ่งเป็น 2 วรรค วรรคแรก 5 พยางค์ วรรคหลัง 6 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกาพย์
ลักษณะครุ-ลหุ เหมือนกันทุกบาท คือ ครุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ ลหุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ
ตัวอย่างคำประพันธ์
บงเนื้อก็เนื้อเต้น | พิศะเส้นสรีร์รัว | |
ทั่วร่างและทั้งตัว | ก็ระริกระริวไหว |
แลหลังก็หลั่งโล- | หิตโอ้เลอะหลั่งไป | |
เพ่งผาดอนาถใจ | ตละล้วนระรอยหวาย | |
— สามัคคีเภทคำฉันท์, ชิต บุรทัต |
อุเปนทรวิเชียรฉันท์ 11
หนึ่งบทมี 2 บาท บาทละ 11 พยางค์ แบ่งเป็น 2 วรรค วรรคแรก 5 พยางค์ วรรคหลัง 6 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกาพย์
ลักษณะครุ-ลหุ เหมือนกันทุกบาท คือ ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ ลหุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ
ตัวอย่างคำประพันธ์
ทิชงค์เจาะจงเจตน์ | กละห์เหตุยุยงเสริม | |
กระหน่ำและซ้ำเติม | นฤพัทธะก่อการ |
ละครั้งระหว่างครา | ทินะวาระนานนาน | |
เหมาะท่าทิชาจารย์ | ธก็เชิญเสด็จไป | |
— สามัคคีเภทคำฉันท์, ชิต บุรทัต |
อุปชาติฉันท์ 11
หนึ่งบทมี 4 บาท บาทละ 11 พยางค์ แบ่งเป็น 2 วรรค วรรคแรก 5 พยางค์ วรรคหลัง 6 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกาพย์
ลักษณะครุ-ลหุ
- บาทที่ 1 และบาทที่ 4 เป็นอุเปนทรวิเชียรฉันท์ คือ ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ ลหุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ
- บาทที่ 2 และบาทที่ 3 เป็นอินทรวิเชียรฉันท์ คือ ครุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ ลหุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ
ตัวอย่างคำประพันธ์
พิธีณะฉันทศาสตร์ | อุปชาตินามเห็น | |
เชลงลักษณลำเค็ญ | กลนัยสลับกัน |
นาเนกะบัณฑิตย์ | จะประกิจประกอบฉันท์ | |
พินิจฉบับบรรพ์ | บทแน่ตระหนักใจ | |
— () |
สาลินีฉันท์ 11
หนึ่งบทมี 2 บาท บาทละ 11 พยางค์ แบ่งเป็น 2 วรรค วรรคแรก 5 พยางค์ วรรคหลัง 6 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกาพย์
ลักษณะครุ-ลหุ เหมือนกันทุกบาท คือ ครุ-ครุ-ครุ-ครุ-ครุ ลหุ-ครุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ
ตัวอย่างคำประพันธ์
พราหมณ์ครูรู้สังเกต | ประจักษ์เหตุตระหนักครัน | |
ราชาวัชชีสรร | พะจักสู่พินาศสม |
ยินดีบัดนี้กิจ | จะสัมฤทธิ์มนารมณ์ | |
ทำมาด้วยปรากรม | และอุตสาหะแห่งตน | |
— สามัคคีเภทคำฉันท์, ชิต บุรทัต |
สวาคตาฉันท์ 11
หนึ่งบทมี 2 บาท บาทละ 11 พยางค์ แบ่งเป็น 2 วรรค วรรคแรก 7 พยางค์ วรรคหลัง 4 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกาพย์
ลักษณะครุ-ลหุ เหมือนกันทุกบาท คือ ครุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ลหุ-ลหุ-ครุ ลหุ-ลหุ-ครุ-ครุ
ตัวอย่างคำประพันธ์
ข้าสดับสุมะทะนา | วจะว่าวอน | |
ใจก็นึกกรุณะหล่อน | ฤดิสงสาร |
เล็งก็รู้ณพะหุเหต | ทุขะเภทพาล | |
ใคร่จะช่วยและอุปะการ | ยุวะนารี | |
— มัทนะพาธา, พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว |
วังสัฏฐฉันท์ 12
หนึ่งบทมี 2 บาท บาทละ 12 พยางค์ แบ่งเป็น 2 วรรค วรรคแรก 5 พยางค์ วรรคหลัง 7 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกาพย์
ลักษณะครุ-ลหุ เหมือนกันทุกบาท คือ ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ ลหุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ
ตัวอย่างคำประพันธ์
อนี้และนามวัง | สฐะดั่งฉบับนิพนธ์ | |
ประกอบวิธียล | บทแบบก็แยบขบวน |
ดิเรกะวิญญู | ชนะรู้แลใคร่แลครวญ | |
สนุกเสนอควร | สุขจิตรประดิษฐ์ณะฉันท์ | |
— (ประชุมจารึกวัดพระเชตุพนฯ) |
อินทวงศ์ฉันท์ 12
หนึ่งบทมี 2 บาท บาทละ 12 พยางค์ แบ่งเป็น 2 วรรค วรรคแรก 5 พยางค์ วรรคหลัง 7 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกาพย์
ลักษณะครุ-ลหุ เหมือนกันทุกบาท คือ ครุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ ลหุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ
ตัวอย่างคำประพันธ์
ราชาประชุมดำ- | ริหะโดยประการะดัง | |
ดำรัสตระบัดยัง | วจนัตถ์ปวัตติพลัน |
ให้ราชภัฏโป | ริสะไปขมีขมัน | |
หาพราหมณ์ทุพลอัน | บุระเนระเทศะมา | |
— สามัคคีเภทคำฉันท์, ชิต บุรทัต |
โตฎกฉันท์ 12
หนึ่งบทมี 2 บาท บาทละ 12 พยางค์ แบ่งเป็น 2 วรรค วรรคละ 6 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกาพย์
ลักษณะครุ-ลหุ เหมือนกันทุกบาท คือ ลหุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ลหุ-ครุ ลหุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ลหุ-ครุ
ตัวอย่างคำประพันธ์
มะทะนาดนุรัก | วรยอดยุพะดี | |
และจะรักบมิมี | ฤดิหน่ายฤระอา |
ผิวะอายุจะยืน | ศะตะพรรษะฤกว่า | |
ก็จะรักมะทะนา | บมิหย่อนฤดิหรรษ์ | |
— มัทนะพาธา, พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว |
ภุชงคประยาตฉันท์ 12
ภุชงคประยาตฉันท์ 12 มีความหมาย "งูเลื้อย" มีทำนองที่สละสลวย มักใช้แต่งกับเนื้อหาที่มีการต่อสู้ บทสดุดี บทชมความงาม บทถวายพระพร และบทสนุกสนาน นอกจักนั้นยังสามารถใช้แต่งบรรยายความให้รวดเร็วได้
หนึ่งบทมี 2 บาท บาทละ 12 พยางค์ แบ่งเป็น 2 วรรค วรรคละ 6 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกาพย์
ลักษณะครุ-ลหุ เหมือนกันทุกบาท คือ ลหุ-ครุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ ลหุ-ครุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ
ตัวอย่างคำประพันธ์
ทิชงค์ชาติ์ฉลาดยล | คเนกลคนึงการ | |
กษัตริย์ลิจฉวีวาร | ระวังเหือดระแวงหาย |
เหมาะแก่การจะเสกสัน | ปวัตติ์วัญจะโนบาย | |
มล้างเหตุพิเฉทสาย | สมัคคิ์สนธิ์สโมสร | |
— สามัคคีเภทคำฉันท์, ชิต บุรทัต |
กมลฉันท์ 12
หนึ่งบทมี 2 บาท บาทละ 12 พยางค์ แบ่งเป็น 2 วรรค วรรคละ 6 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกาพย์
ลักษณะครุ-ลหุ เหมือนกันทุกบาท คือ ลหุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ ลหุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ
ตัวอย่างคำประพันธ์
ทวิโลกยาฤๅคุณ | ก็บุลยบันดาล | |
อภิมงคลาลาญ | ทุวิบากวิบัติภัย |
คณะฉันทสรรค์นาม | กรตามบุราณไข | |
บทกลอนกระมลไพ | เราะหพร้องลบองแสดง | |
— (ประชุมจารึกวัดพระเชตุพนฯ) |
วสันตดิลกฉันท์ 14
วสันตดิลกฉันท์ มีความหมายว่า "ฉันท์ที่มีลีลาดังจอมเมฆในฤดูใบไม้ผลิ (ฤดูฝน)" เป็นหนึ่งในฉันท์ที่นิยมแต่งกันมากที่สุด เนื่องจากอ่านแล้วฟังได้รื่นหู รู้สึกซาบซึ้งจับใจ มักใช้แต่งชมความงาม และสดุดีความรักหรือของสูง
หนึ่งบทมี 2 บาท บาทละ 14 พยางค์ แบ่งเป็น 2 วรรค วรรคแรก 8 พยางค์ วรรคหลัง 6 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกาพย์
ลักษณะครุ-ลหุ เหมือนกันทุกบาท คือ ครุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ลหุ-ลหุ-ครุ ลหุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ
ตัวอย่างคำประพันธ์
แสงดาววะวาวระกะวะวับ | ดุจะดับ บ เด่นดวง | |
แขลับก็กลับพิภพะสรวง | มิสะพรึบพะพราวเพรา |
เคยเห็นพระเพ็ญ ณ รัศมี | รัชนีถนัดเนา | |
เหนือนั่นแน่ะพลันจะสละเงา | กลเงินอร่ามงาม | |
— , ชิต บุรทัต |
มาลินีฉันท์ 15
ชื่อฉันท์แปลว่า ดอกไม้ เป็นฉันท์ที่แต่งยากแต่ทว่ามีความงามประดุจดอกไม้ ทำนองฉันท์สั้นกระชับในตอนต้น แล้วราบรื่นในตอนปลาย เป็นฉันท์ที่มีท่วงทำนองเคร่งขรึมน่ายำเกรง กวีมักใช้แต่งเพื่ออวดความสามารถในการใช้ศัพท์และเป็นเชิงกลบท
หนึ่งบทมี 15 พยางค์ แบ่งเป็น 3 วรรค วรรคแรก 8 พยางค์ วรรคสอง 4 พยางค์ วรรคสุดท้าย 3 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกลอนสังขลิก
ลักษณะครุ-ลหุ คือ ลหุ-ลหุ-ลหุ-ลหุ-ลหุ-ลหุ-ครุ-ครุ ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ ลหุ-ครุ-ครุ
ตัวอย่างคำประพันธ์
กษณะทวิชะรับฐา | นันดร์และที่วา | |
จกาจารย์ |
นิรอลสะประกอบภาร | พีริโยฬาร | |
และเต็มใจ | ||
— สามัคคีเภทคำฉันท์, ชิต บุรทัต |
ประภัททกฉันท์ 15
หนึ่งบทมี 15 พยางค์ แบ่งเป็น 3 วรรค วรรแรก 7 พยางค์ วรรคสอง 4 พยางค์ และวรรคสุดท้าย 4 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกลอนสังขลิก
ลักษณะครุ-ลหุ คือ ลหุ-ลหุ-ลหุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ ลหุ-ลหุ-ลหุ-ครุ ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ
ตัวอย่างคำประพันธ์
สุวุติปภัททกา | รจิตนา | |
มกรประกาศ |
บทคณฉันทศาสตร์ | นิกรปราชญ์ | |
ประพฤติเพียร |
พจนพิจิตรเรียน | อลสะเพียร | |
มโนวิจารณ์ |
วิบุลยปรีชญาณ | พลจะชาญ | |
ฉลาดนิพนธ์ | ||
— (ประชุมจารึกวัดพระเชตุพนฯ) |
วาณินีฉันท์ 16
หนึ่งบทมี 16 พยางค์ แบ่งเป็น 3 วรรค วรรคแรก 7 พยางค์ วรรคสอง 4 พยางค์ และวรรคสุดท้าย 5 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกลอนสังขลิก
ลักษณะครุ-ลหุ คือ ลหุ-ลหุ-ลหุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ ลหุ-ลหุ-ลหุ-ครุ ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ
ตัวอย่างคำประพันธ์
นรนฤนาทภิบาล | กลประมาณ | |
ประเล่ห์อุประมา |
จะประพฤติราชกิจา | นุกิจสา \ | |
ธุธรรม์บอาธรรม์ |
บุพบทวากยวรร | ณวุดิฉัน | |
ทวณินีนาม | ||
— (ประชุมจารึกวัดพระเชตุพนฯ) |
กุสุมิตลดาเวลลิตาฉันท์ 18
หนึ่งบทมี 18 พยางค์ แบ่งเป็น 3 วรรค วรรคแรก 11 พยางค์ วรรคสอง 4 พยางค์ และวรรคสุดท้าย 3 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกลอนสังขลิก
ลักษณะครุ-ลหุ คือ ครุ-ครุ-ครุ-ครุ-ครุ-ลหุ-ลหุ-ลหุ-ลหุ-ลหุ-ครุ ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ ลหุ-ครุ-ครุ
ตัวอย่างคำประพันธ์
เสวกพึงศึกษาณสุวสดิดอุด- | ||
ดมดิเรกดุจ | วิการกถา |
ฉันท์นี้ธีเรศอ้างกุสุมิตลดา | ||
เวลลิตานา | มกรขนาน | |
— (ประชุมจารึกวัดพระเชตุพนฯ) |
เมฆวิปผุชชิตาฉันท์ 19
หนึ่งบทมี 19 พยางค์ แบ่งเป็น 3 วรรค วรรแรก 12 พยางค์ วรรคสอง 4 พยางค์ และวรรคสุดท้าย 3 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกลอนสังขลิก
ลักษณะครุ-ลหุ คือ ลหุ-ครุ-ครุ-ครุ-ครุ-ครุ-ลหุ-ลหุ-ลหุ-ลหุ-ลหุ-ครุ ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ ลหุ-ครุ-ครุ
ตัวอย่างคำประพันธ์
ขบวรเลบงเพรงพากย์พร้องก็เพราะพจนกลอน | ||
เสนอกระวีวร | ทฤษฎี |
ลบองเมฆวิปผุชชาติตาสุวุฒิกลมี | ||
ฉันทคัมภีร์ | พฤโตทัย | |
— (ประชุมจารึกวัดพระเชตุพนฯ) |
สัททุลลวิกกีฬิตฉันท์ 19
สัททุลลวิกกีฬิตฉันท์ มีความหมาย "เสือผยอง" ใช้แต่งบทไหว้ครู บทโกรธ และบทยอพระเกียรติ
หนึ่งบทมี 19 พยางค์ แบ่งเป็น 3 วรรค วรรคแรก 12 พยางค์ วรรคสอง 5 พยางค์ และวรรคสุดท้าย 2 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกลอนสังขลิก
ลักษณะครุ-ลหุ คือ ครุ-ครุ-ครุ-ลหุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ลหุ-ลหุ-ครุ ครุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ ลหุ-ครุ
ตัวอย่างคำประพันธ์
พร้อมเบญจางคประดิษฐ์สฤษติตษฎี | ||
กายจิตร์วจีไตร | ทวาร |
ไหว้คุณพระสุคตอนาวรณญาณ | ||
ยอดศาสดาจารย์ | มุนี |
อีกคุณสุนทรธรรมะคัมภิรวิธี | ||
พุทธ์พจน์ประชุมตรี | ปิฎก | |
— สามัคคีเภทคำฉันท์, ชิต บุรทัต |
อีทิสังฉันท์ 20
อีทิสังฉันท์ 20 เป็นฉันท์ที่มีจังหวะกระแทกกระทั้น ฉะนั้นจึงใช้แต่งบรรยายความรัก ความวิตก และความโกรธ
หนึ่งบทมี 20 พยางค์ แบ่งเป็น 3 วรรค วรรแรก 9 พยางค์ วรรคสอง 8 พยางค์ และวรรคสุดท้าย 3 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกลอนสังขลิก
ลักษณะครุ-ลหุ คือ ครุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ ลหุ-ครุ-ครุ
ตัวอย่างคำประพันธ์
อ้าอรุณแอร่มระเรื่อรุจี | ||
ประดุจมโนภิรมย์ระตี | ณ แรกรัก |
แสงอรุณวิโรจน์นภาประจักษ์ | ||
แฉล้มเฉลาและโศภินัก | ณ ฉันใด |
หญิงและชาย ณ ยามระตีอุทัย | ||
สว่าง ณ กลางกมลละไม | ก็ฉันนั้น | |
— มัทนะพาธา, พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว |
สัทธราฉันท์ 21
ฉันท์ที่มีลีลาวิจิตรประดุจสตรีเพศผู้ประดับด้วยพวงมาลัย
หนึ่งบทมี 21 พยางค์ แบ่งเป็น 4 วรรค วรรแรก 7 พยางค์ วรรคสอง 7 พยางค์ วรรคสาม 4 พยางค์ และวรรคสุดท้าย 3 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกลอนสังขลิก
ลักษณะครุ-ลหุ คือ
ครุ-ครุ-ครุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ | ลหุ-ลหุ-ลหุ-ลหุ-ลหุ-ลหุ-ครุ | |
ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ | ลหุ-ครุ-ครุ |
ตัวอย่างคำประพันธ์
อรรถแสดงแห่งเหตุพิเศษผล | นิกรวิธุรชน | |
เชิญประกอบกล | ประกาศสาร |
รังสรรค์ฉันทพากยโบราณ | บุนรจนวิถาร | |
สัทธราขนาน | ณนามกร | |
— (ประชุมจารึกวัดพระเชตุพนฯ) |
ฉันท์มาตราพฤติ
ฉันท์มาตราพฤติ เป็นฉันท์ที่บังคับมาตรา โดยกำหนดให้พยางค์เสียงหนักคือ พยางค์ครุเป็นพยางค์ละ 2 มาตรา ส่วนพยางค์เสียงเบา คือ พยางค์ลหุ เป็นพยางค์ละ 1 มาตรา ในคัมภีร์วุตโตทัยมีฉันท์มาตราพฤติ 27 ชนิด ตั้งแต่บทละ 45 มาตรา จนถึง 68 มาตรา แบ่งเป็น 4 พวกใหญ่ ๆ คือ
อริยชาติฉันท์
มี ๗ ชนิด ได้แก่ อริยฉันท์, อริยสามัญญฉันท์, อริยปัฐยาฉันท์, อริยวิปุลาฉันท์, อริยจปลาฉันท์, อริยมุขจปลาฉันท์ และ อริยชฆนจปลาฉันท์
คีติชาติฉันท์
มี ๔ ชนิด ได้แก่ คีติฉันท์, อุปคีติฉันท์, อูคีติฉันท์ และอริยคีติฉันท์
เวตาฬิยชาติฉันท์
มี ๙ ชนิด ได้แก่ เวตาฬิยฉันท์, โอปัจฉันทสกะฉันท์, อาปาตลิฉันท์, ลักขณันตฉันท์, อุทิจจวุตติฉันท์, ปัจจวุตติฉันท์, ปวัตตกฉันท์, อปรันติกฉันท์ และจารุหาสินีฉันท์
มัตตาสมกชาติฉันท์
มี ๗ ชนิด ได้แก่ อจลฐิติฉันท์, มัตตาสมกฉันท์, วิสิโลกฉันท์, วานวาสิกฉันท์, จิตราฉันท์, อุปจิตราฉันท์ และปาทากุลกฉันท์
ฉันท์มาตราพฤติเป็นฉันท์ที่กำหนดมาตรา ไม่กำหนดคณะฉันท์ ผู้แต่งสามารถพลิกแพลงอักษรใช้ได้หลายแบบในมาตราที่กำหนด ทำให้ดูขาดระเบียบ และไม่กำหนดฉันทลักษณ์ที่แน่นอนลงได้ รวมทั้งกำหนดจังหวะอ่านลำบาก กวีจึงไม่นิยมใช้ฉันท์มาตราพฤติในงานกวีนิพนธ์ จะมีก็แต่ในตำราฉันท์ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาเท่านั้น
ฉันท์ประดิษฐ์ขึ้นใหม่
การประดิษฐ์ฉันท์ใหม่ของกวีตั้งแต่สมัยอยุธยาจนถึงปัจจุบัน ปรากฏว่ามี 2 ลักษณะคือ
- ฉันท์ที่ประดิษฐ์จากฉันท์เดิมในคัมภีร์วุตโตทัย
- ฉันท์ที่ประดิษฐ์ใหม่จากแหล่งที่มาอื่น
ฉันท์ที่ประดิษฐ์จากฉันท์เดิมในคัมภีร์วุตโตทัย
ฉันท์ที่ประดิษฐ์ขึ้นในสมัยอยุธยาและปรากฏชื่อในจินดามณี
มี ๓ ชนิด คือ วิเชียรดิลกฉันท์, ดิลกวิเชียรฉันท์ และโตฎกดิลกฉันท์
- เกิดจากการผสมระหว่างอินทรวิเชียรฉันท์ กับวสันตดิลกฉันท์ หนึ่งบทมี ๒ บาท ๒๕ พยางค์ บาทแรกเป็นอินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑ พยางค์ บาทที่ ๒ เป็นวสันตดิลกฉันท์ ๑๔ พยางค์ มีบังคับระหว่างบาทกับระหว่างบท ตัวอย่าง
เคยพาดพระหัตถ์เหนือ(๕) | อุรราชกัลยา(๖) | |
กอดเกี้ยวคือกาญจนลดา(๘) | อันโอบอ้อมทุมามาลย์(๖) |
พิศพักตรมณฑลศศิ | บริสุทธิเปรียบปาน | |
เปรมร่วมมฤธูรสุบันดาน | รดีดัดบันเจิดใจ | |
— (จินดามณี) |
- เกิดจากการผสมระหว่างวสันตดิลกฉันท์ กับอินทรวิเชียรฉันท์ หนึ่งบทมี ๒ บาท ๒๕ พยางค์ บาทแรกเป็นวสันตดิลกฉันท์ ๑๔ พยางค์ บาทที่ ๒ เป็นอินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑ พยางค์ มีบังคับสัมผัสระหว่างบาทกับสัมผัสระหว่างบท ตัวอย่าง
อุรประทับอรถนัง(๘) | บรามัสสิวรไวย(๖) | |
จุมพิตริมไร(๕) | โอษฐคันฐกัลยา(๖) |
บริสังคติพระอุระองค์ | อานุชพนิดา | |
สมสนุกนิเสน่หา | รสราคเอมอร | |
— (จินดามณี) |
- ' เกิดจากการผสมระหว่างโตฎกฉันท์ กับวสันตดิลกฉันท์ หนึ่งบทมี ๒ บาท ๒๖ พยางค์ บาทแรกเป็นโตฎกฉันท์ ๑๒ พยางค์ บาทที่ ๒ เป็นวสันตดิลกฉันท์ ๑๔ พยางค์ มีบังคับสัมผัสระหว่างบาทกับสัมผัสระหว่างบท ตัวอย่าง
วรรังษิประไพ(๖) | บุรโชติพรายพรรณ(๖) | |
เสตาเจนิรัตนสรรพ(๘) | ปริโตปิลังโค(๖) |
หรคัณหปิงคำ | กปิโลโลปิตโต | |
สิหัษรโทโพอรุโณ | ภาศรัศศมี | |
— (จินดามณี) |
ฉันท์ที่ประดิษฐ์ในสมัยรัตนโกสินทร์
- กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ ได้ทรงประดิษฐ์ฉันท์ขึ้น ๕ ชนิด ในพระนิพนธ์เฉลิมเกียรติกษัตรีคำฉันท์ โดยผสมฉันท์ ๔ ชนิดได้แก่ อินทรวิเชียรฉันท์ วสันตดิลกฉันท์ ภุชงคปยาตฉันท์ และอินทวงศ์ฉันท์ เข้าด้วยกันเกิดเป็น ภุชพงศ์ฉันท์ (ผสมระหว่างภุชงคปยาตฉันท์กับอินทวงศ์ฉันท์) วสันตวงศ์ฉันท์ (ผสมระหว่างวสันตดิลกฉันท์กับอินทวงศ์ฉันท์) วสันตปยาตฉันท์ (ผสมระหว่างวสันตดิลกฉันท์กับภุชงคปยาตฉันท์) ภุชงควิเชียรฉันท์ (ผสมระหว่างภุชงคปยาตฉันท์กับอินทรวิเชียรฉันท์) และอินทรลิลาตฉันท์ (ผสมระหว่างอินทรวิเชียรฉันท์กับภุชงคปยาตฉันท์)
ตัวอย่างวสันตวงศ์ฉันท์ 15
ผัวเมียพม่าทุพละพาศน์ | หินะชาตินิวาศพนอม | |
ขัดแคลนนิแสนทุรนะตรอม | อุระเท้งเขยงขยัน |
ทำตาลก็นานนิตยะเพียง | ผละเลี้ยงชีวินละวัน | |
เกิดบุตรีก็สุดจะปิยะฉัน | ชิวะพ่อพะนอถนอม | |
— (เฉลิมเกียรติกษัตรีคำฉันท์) |
ตัวอย่างอินทรลิลาตฉันท์ 11
ผ่านฟ้าพญาเสือ | ดุร้ายเหลือและโลภโกง | |
เสมือนต้อนตะโพงโขลง | พศกหาภุกาเมนทร์ |
ไทเอือนพระเหมือนม่าน | เพราะบักอานกะการเกณฑ์ | |
เดือดดาลกะบาลเบน | ขบถไท้ผิใครชวน | |
— (เฉลิมเกียรติกษัตรีคำฉันท์) |
- เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี หรือ ครูเทพได้นำเอาอินทรวิเชียรฉันท์มาแต่งสลับกับวสันตดิลกฉันท์ ใช้ชื่อว่า ดังตัวอย่าง
ราตรีก็แม่นมี | ขณะดีและร้ายปน | |
ไป่ผิดกะคนคน | คุณโทษประโยชน์ถม |
ราตรีกลีกลพิโรธ | หฤโหดกระหึมลม | |
มืดตื้อกระพือพิรุณพรม | และฤเราจะแยแส | |
— (โคลงกลอนของครูเทพ เล่ม ๒) |
- ชิต บุรทัต ได้แทรกครุ - ลหุ เพิ่มในกาพย์สุรางคนางค์ 28 ทำให้เกิดความไพเราะมากยิ่งขึ้น คนรุ่นต่อมาจึงมักเรียกเป็น และเห็นว่าเหมาะสำหรับข้อความที่คึกคัก สนุกสนาน โลดโผน ตื่นเต้น
ตัวอย่างคำประพันธ์
สะพรึบสะพรั่ง | ||
ณหน้าและหลัง | ณซ้ายและขวา |
ละหมู่ละหมวด | ก็ตรวจก็ตรา | |
ประมวลกะมา | สิมากประมาณ |
นิกายเสบียง | ||
ก็พอก็เพียง | พโลปการ |
และสัตถภัณ | ฑสรรพภาร | |
จะยุทธราญ | กะเรียกระดม | |
— สามัคคีเภทคำฉันท์, ชิต บุรทัต |
- ประสาทพร ภูสุศิลป์ธร หรือนามปากกา คมทวน คันธนู ประดิษฐ์ฉันท์ใหม่ 15 ชนิด โดย
- ผสมฉันเดิมสองแบบเข้าด้วยกัน 9 ชนิด ได้แก่
- (สัททุลวิกกีฬิตฉันท์ 19 ผสมกับอีทิสังฉันท์ 20)
- (วสันตดิลกฉันท์ 14 ผสมกับอินทวงศ์ฉันท์ 12) (ซ้ำกับวสันตวงศ์ฉันท์ 11 ของ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์)
- (อุเปนทรวิเชียรฉันท์ 11 ผสมกับวังสัฏฐฉันท์ 12)
- (อินทรวิเชียรฉันท์ 11 ผสมกับอินทวงศ์ฉันท์ 12)
- (ภุชงคปยาตฉันท์ 12 ผสมกับวสันตดิลกฉันท์ 26)
- (อินทวงศ์ฉันท์ 12 ผสมกับวังสัฏฐฉันท์ 12)
- (ภุชงคปยาตฉันท์ 12 ผสมกับอินทรวิเชียรฉันท์ 11)
- (อินทรวิเชียรฉันท์ 11 ผสมกับภุชงคปยาตฉันท์ 12) (ซ้ำกับอินทรลิลาตฉันท์ 11 ของ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์)
- (อินทรวิเชียรฉันท์ 11 ผสมกับวสันตดิลกฉันท์ 14)
- เปลี่ยนแปลงครุลหุในฉันท์เดิม 6 ชนิด ได้แก่
- (เพิ่มจากวสันตดิลกฉันท์ 14 อีก 3 พยางค์)
- (เพิ่มลหุในวรรคที่ 2 ของวสันตดิลก 14)
- (ดัดแปลงอุปัฏฐิตาฉันท์ 11)
- (ดัดแปลงจากวิชชุมมาลาฉันท์ 8) บางทีเรียก หรือ
- ตัวอย่างคำประพันธ์
- ผสมฉันเดิมสองแบบเข้าด้วยกัน 9 ชนิด ได้แก่
ความลับจะดำมืด | ความชืดจะชินชา | |
ด้วยเล่ห์ ณ เวลา | มองฟ้าสิอาจม |
คนไทยไฉนเล่า | โง่เง่าและงายงม | |
หลงชื่นระรื่นชม | นานนมนิยมมา |
ต่างเห็นจะเป็นเหยื่อ | เฝ้าเชื่อและบูชิต | |
ยิ่งคาดอนาถผิด | เจ็บจิตอนิจจา |
ฝังปลูกกระดูกผี | กี่ปีก็เปรมปรา | |
โคตรใครจะไคลคลา | ไพร่ฟ้าสิหน้าเขียว | |
— , คมทวน คันธนู |
- (กำหนดครุลหุลงในกาพย์ฉบัง)
- (ดัดแปลงจากอินทวงศ์ฉันท์ 12)
ฉันท์ที่ประดิษฐ์ใหม่จากแหล่งที่มาอื่น
- พระราชวรวงศ์เธอกรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ หรือ น.ม.ส. ทรงประดิษฐ์ฉันท์ ๓ ชนิด คือ , และ จาก อินเมโมเรียม ของ อังกฤษ โดยดัดแปลงสัมผัสให้แตกต่างกัน (ภายหลังมีการค้นพบว่า สยามมณีฉันท์ พ้องกับ ประมาณิกาฉันท์ ในตำราฉันโทมัญชรี ซึ่งมีมากว่า ๑,๐๐๐ ปีแล้ว)
- ตัวอย่าง สยามมณีฉันท์ 8 (สัมผัสแบบกลอนสุภาพ)
ชโยสยาม ณ ยามจะรุ่น | สยามดรุณจะเร็วเจริญ | |
ณ คราวจะเรียนก็เพียรจะเพลิน | ฤ ใครจะเกินสยามดรุณฯ |
กุมาระไทยไฉนจะหลง | จะลืมพระองคะทรงสกุล | |
ยามะรัฐอุบัติเพราะบุญ | พระเดชพระคุณพระราชะวงศฯ |
- สุภร ผลชีวิน ประดิษฐ์ฉันใหม่ ๒ ชนิด คือ จากเสียงครกกระเดื่องตำข้าว และ จากเสียงจังหวะตะโพนประกอบการรำโทน
- ตัวอย่าง เปษณนาทฉันท์ 16 (สัมผัสแบบกลอนสุภาพ)
ณยามสายัณห์ตะวันย้อยต่ำ | เถอะเร่งเท้าตำจะค่ำแล้วหนอ | |
ตะแล้กแต้กแต้กจะแหลกแล้วพ่อ | กระด้งเขารอจะขอรับไป |
บุรุษรอทีสตีเร่งเท้า | บุรุษยั่วเย้ากระเซ้าเสียงใส | |
กระเดื่องตำข้าวก็กราวเสียงไกล | สนุกน้ำใจสมัยราตรี |
- ประดิษฐ์ เพื่อสดุดีจอมพล แปลก พิบูลสงคราม นางสาวจิรา จันทรานนท์นัยวินิจ นำไปแต่งเผยแพร่ในนามปากกา จิราจันท์
- ตัวอย่าง พิบูลรัชนีฉันท์
โอ้องค์พระทรงสมญา | "ปิยมหาจุฬาลงกรณ์" | |
ไทยสามิภักดิ์ภูธร | หทยเทอดพระเลิศเลอธรรม์ |
แสงสูริย์จรูญจำรัส | รพิประภัสสร์ก็เพียงกลางวัน | |
แสงโสมชโลมแหล่งสรรพ์ | ภพอร่ามก็ยามกลางคืน |
- ประดิษฐ์ฉันท์ 3 ชนิด คือ และ โดยกำหนดครุลหุจากชื่อฉันท์ โดยได้รับพระบรมราชานุญาต ส่วน เป็นการประดิษฐ์ถวายสมเด็จพระบรมราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 แห่งราชอาณาจักรบริเตนใหญ่ คราวเสด็จเยือนประเทศไทย พ.ศ. 2515
- ตัวอย่าง ภูมิพลอดุลยเดชฉันท์
รวมปฐมพระจักริวงศ์ | วีระทรงบำราบอมิตร | |
เบญจมงค์วรงค์มหิทธิ์ | ปิยะราชผนิตสยาม |
ดั่งพระเนาวมงค์พระนาม | ไท้พระภัทร "ภูมิพลฯ" | |
ครบฉนำเฉลิมพระชนม์ | ปกประชาพิเศษพิชัย |
- เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ประดิษฐ์ โดยกำหนดครุลหุจากพระนามวรรคแรกของพระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ ตัวอย่าง
รพีพัฒนศักดิ์ | พระเอกอัครคุณ | |
อร่ามเรือง ณ อรุณ | สถิตทอนิติธรรม |
- ประดิษฐ์ฉันท์ใหม่ คือ ตัวอย่าง
ละครวิทยุ | ประลุวิทยานันท์ | |
กระแสส่งนภาพลัน | ระกะสายกระจายเสียง |
มิเปลืองฉากธนะ | ผิแสดงก็สรรเพียง | |
ประโลมโลกนิยายเรียง | รจเรขรำพันครวญ |
- ได้ประดิษฐ์ ใน เมื่อ พ.ศ. 2552 ตัวอย่าง
สยามชาติเจริญรุ่ง | คติมุ่งจรุงมั่น | |
วิบูลย์สุขขจายครัน | ศุภนันทนาการ |
ผดุงกิจการแผ้ว | ก่อทแกล้ววิวัฒน์งาน | |
สฤษฎีวิถีภาร | ฐิติสานลุมั่นคง |
- ประดิษฐ์ฉันท์ใหม่ คือ สุริยดิลกฉันท์ เมื่อ 2 เมษายน พ.ศ. 2558 โดยผสมผสานวสันตดิลกฉันท์กับกลอนวะกะหรือทังกะของญี่ปุ่น กล่าวคือ สองวรรคสุดท้ายจบคล้ายกลอนทังกะ แต่ใช้จำนวนพยางค์ 8 พยางค์ให้เท่ากับวรรคแรกของวสันตดิลกฉันท์ ในขณะที่ในกลอนทังกะ 2 วรรคสุดท้ายมีจำนวนพยางค์วรรคละ 7 พยางค์ญี่ปุ่น ตัวอย่าง
ในศุภวารติถิมาส | นรราษฏร์ก็จงรัก | |
แต่งปาฏลีสตุติภัก | ดิเฉลิมพระชนมา |
องค์เทพรัตนสุดา | พรมังคลาฐิตะนิรันดร์ | |
- ประดิษฐ์ฉันท์ใหม่ คือ ภูวรอินทรฉันท์ ๑๖ เป็นฉันท์ที่มีรากฐานมาจากอินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑ และมีจำนวนคำเหมือนกลอน ๘ โดยที่ ๑ บท มี ๔ วรรค และในแต่ล่ะวรรคมี ๘ คำ โดยที่วรรคแรกของภูวรอินทรฉันท์จะนำวรรคที่ ๑ ของอินทรวิเชียรฉันท์มา และนำ ๓ คำแรกของวรรคที่สองมาต่อท้าย และวรรคที่สองของภูวรอินทรฉันท์จะนำวรรคที่ ๑ ของอินทรวิเชียรฉันท์มาและนำ ๓ คำสุดท้ายของวรรคที่สองมาต่อท้าย ส่วนวรรคที่ ๓ และ ๔ จะเหมือนกับวรรคที่ ๑ และ ๒ ตามลำดับ ใน ๑ บท
- ตัวอย่าง
แก้วกัลยาสวยบริสุทธิ์ | ความงามฤดีผุดสกาวใส | |
ผิวพรรณอนงค์นางระอุใจใจ | นวลขาวมิใครเทียบบ่เทียมเคียง |
ปรางเจ้ากมลเย้าจิตแผ้ว | วาจาก็เพริศแพร้วระรื่นเสียง | |
ทุมถันระริกตั้งอุระเรียง | ทำได้พินิจเพียงมิได้ยล |
อ้างอิง
- กวีนิพนธ์ไทย ๑ - ๒, สุภาพร มากแจ้ง, กรุงเทพฯ, โอเดียนสโตร์, 2539.
- ครรภครรลองร้อยกรองไทย, กรมศิลปากร, กรุงเทพ, พ.ศ. 2544, หน้า 265.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
chnth epnlksnhnungkhxngkarpraphnthpraephthrxykrxnginwrrnkhdiithythibngkhbesiynghnk ebakhxngphyangkh thieriykwa khru lhu chnthinphasaithyrbaebbmacakpraethsxinediy tarachnththiekaaekthisudkhxngxinediyepnphasasnskvt khux pingkhlchnthsastr aetngodypingkhlacary swntarachnthphasabalielmsakhythisudidaek phuaetngkhux phrasngkhrkkhitmhasami ethrachawlngka aetngemux ph s 1703 epnthimakhxng sungepntntahrbkaraetngchnthkhxngithy emuxkhmphirwutotthyaephrhlayekhamainpraethsithy kwicungidprbprungihehmaakbkhnbrxykrxngithy echn cdwrrkh ephimsmphs aelaepliynlksnakhru lhuaetktangipelknxy ephuxephimkhwamipheraakhxngphasaithylngip chnth inkhmphirwutotthyidaeplngepnchnthithykhrbthng 108 chnid insmyrchkalthi 7 aehngkrungrtnoksinthr odynaychnth khawiil epnphuddaeplngephimetimcnkhrbthwnaelacdphimphrwmelmthnghmdinpi ph s 2474 ichchuxwa nxkehnuxcakchnththng 108 chniddngklawaelw kwiidthdlxngpradisthchnthinrupaebbihm odyddaeplngcakchnthedimbang odyeliynesiyngekhruxngdntribang hruxodyaerngbndaliccakchnthtangpraeths hruxchuxbukhkhlsakhybang xyangirktam chnththipradisthkhunihm lwncdxyuinpraephthchnthwrrnphvtithngsinchnthinkhmphirwutotthymithngsin 108 chnid aebngepn chnthwrrnphvti sungbngkhbphyangkh canwn 81 chnid kb chnthmatraphvti sungbngkhbmatra canwn 27 chnid chnthwrrnphvti chnthwrrnphvti mithngsin 81 chnid bngkhbcanwnphyangkh tngaet bathla 6 phyangkh thung 25 phyangkh aet chnththikhnithyniymaetng miephiyngimkichnid idaek citrpthachnth 8 hnungbthmi 4 bath bathla 8 phyangkh aebngepn 2 wrrkh wrrkhla 4 phyangkh sngsmphsaebbklxn lksnakhru lhuehmuxnkbthukbath khux khru lhu lhu khru lhu lhu khru khru twxyangkhapraphnth ehtuphinas xnusasn aesdngchphphithaaecng nrprichaechiymlaoths ducphrrnnackystha wrswsdichnthphipray xthibaybthkhamphirphcn suphsarsricitraptha phvtinammicintkwi rniphnthaethlng prachumcarukwdphraechtuphn wichchummalachnth 8 wichchummalachnth mikhwamhmaywa raebiybaehngsayfa prakxbdwykhrulwn cungichbrryaykhwamxyangthrrmda hnungbthmi 4 bath bathla 8 phyangkh aebngepn 2 wrrkh wrrkhla 4 phyangkh sngsmphsaebbklxn lksnakhru lhu ehmuxnknthukbath khux khru khru khru khru khru khru khru khru twxyangkhapraphnth aermthangklangethuxn hangephuxnhaphuhnunginnukdu ehnikhripmihlaywnthnlwng emuxnghlwngthaninamewsali dumedaekhaipphukimtricit echingchidchxbechuxngkbhmuchawemuxng chnxchchasyelaeruxngekhuxngkhun wawunwayiccaepnmain dawtangaedntn samkhkhiephthkhachnth chit burthtmanwkchnth 8 manwkchnth mikhwamhmaywa praducedkhnum ichaetngbrryaykhwamthirwderw hnungbthmi 4 bath bathla 8 phyangkh aebngepn 2 wrrkh wrrkhla 4 kha sngsmphsaebbklxn lksnakhru lhu ehmuxnknthukbath khux khru lhu lhu khru khru lhu lhu khru twxyangkhapraphnth lwnglupraman kalxnukrmhnungnniym thanthwichngkhemuxcaprasiththi withyayngechiywrxngkh exkkumarethxcrtam phrahmnipodyechphaain hxngrhuthancungphvthitham khwamphisdarkhx th prathan othsaaelaikh samkhkhiephthkhachnth chit burthtpmanikchnth 8 hnungbthmi 4 bath bathla 8 phyangkh aebngepn 2 wrrkh wrrkhla 4 phyangkh sngsmphsaebbklxn lksnakhru lhu ehmuxnknthukbathkhux lhu khru lhu khru lhu khru lhu khru twxyangkhapraphnth pradisthpradb prakhbprakhxnglaebnglabxng caaenkcanrrraebiybaelabth suphcnsuphrrncaechidcachn wierkhwiillilitlilas mikhladmikhlxykeriybkrxy xaphnxaiphcacdcaaecng phiaekhngphiikhaethlngithl kesuxmkthram xuptthitachnth 11 hmaythungchnththiklawsaeniyngxndngkxngihprakt hnungbthmi 2 bath bathla 11 phyangkh aebngepn 2 wrrkh wrrkhaerk 5 phyangkh wrrkhhlng 6 phyangkh sngsmphsaebbkaphy lksnakhru lhu ehmuxnknthukbath khux khru khru lhu lhu khru lhu lhu khru lhu khru khru twxyangkhapraphnth ehnechingphiekhraahchxng chnakhlxngprasbsmphrahmnewthxudm thklxbaethlngkarnihwllphachn khmadlpraethsthankrabthulnvbal xphiephamkhthikr samkhkhiephthkhachnth chit burthtxinthrwiechiyrchnth 11 xinthrwiechiyrchnth mikhwamhmaywa chnththimililaducsayfakhxngphraxinthr epnchnththiniymaetngknmakthisud milksnaaelacanwnkhakhlaykbkaphyyani 11 aettangknephiyngthiwaxinthrwiechiyrchnth mikhxbngkhb khruaelalhu hnungbthmi 2 bath bathla 11 phyangkh aebngepn 2 wrrkh wrrkhaerk 5 phyangkh wrrkhhlng 6 phyangkh sngsmphsaebbkaphy lksnakhru lhu ehmuxnknthukbath khux khru khru lhu khru khru lhu lhu khru lhu khru khru twxyangkhapraphnth bngenuxkenuxetn phisaesnsrirrwthwrangaelathngtw krarikrariwihwaelhlngkhlngol hitoxelxahlngipephngphadxnathic tlalwnrarxyhway samkhkhiephthkhachnth chit burthtxuepnthrwiechiyrchnth 11 hnungbthmi 2 bath bathla 11 phyangkh aebngepn 2 wrrkh wrrkhaerk 5 phyangkh wrrkhhlng 6 phyangkh sngsmphsaebbkaphy lksnakhru lhu ehmuxnknthukbath khux lhu khru lhu khru khru lhu lhu khru lhu khru khru twxyangkhapraphnth thichngkhecaacngectn klahehtuyuyngesrimkrahnaaelasaetim nvphththakxkarlakhrngrahwangkhra thinawaranannanehmaathathichacary thkechiyesdcip samkhkhiephthkhachnth chit burthtxupchatichnth 11 hnungbthmi 4 bath bathla 11 phyangkh aebngepn 2 wrrkh wrrkhaerk 5 phyangkh wrrkhhlng 6 phyangkh sngsmphsaebbkaphy lksnakhru lhu baththi 1 aelabaththi 4 epnxuepnthrwiechiyrchnth khux lhu khru lhu khru khru lhu lhu khru lhu khru khru baththi 2 aelabaththi 3 epnxinthrwiechiyrchnth khux khru khru lhu khru khru lhu lhu khru lhu khru khru twxyangkhapraphnth phithinachnthsastr xupchatinamehnechlnglksnlaekhy klnyslbknnaenkabnthity caprakicprakxbchnthphinicchbbbrrph bthaentrahnkic salinichnth 11 hnungbthmi 2 bath bathla 11 phyangkh aebngepn 2 wrrkh wrrkhaerk 5 phyangkh wrrkhhlng 6 phyangkh sngsmphsaebbkaphy lksnakhru lhu ehmuxnknthukbath khux khru khru khru khru khru lhu khru khru lhu khru khru twxyangkhapraphnth phrahmnkhrurusngekt pracksehtutrahnkkhrnrachawchchisrr phacksuphinassmyindibdnikic casmvththimnarmnthamadwyprakrm aelaxutsahaaehngtn samkhkhiephthkhachnth chit burthtswakhtachnth 11 hnungbthmi 2 bath bathla 11 phyangkh aebngepn 2 wrrkh wrrkhaerk 7 phyangkh wrrkhhlng 4 phyangkh sngsmphsaebbkaphy lksnakhru lhu ehmuxnknthukbath khux khru lhu khru lhu lhu lhu khru lhu lhu khru khru twxyangkhapraphnth khasdbsumathana wcawawxnicknukkrunahlxn vdisngsarelngkrunphahueht thukhaephthphalikhrcachwyaelaxupakar yuwanari mthnaphatha phrabathsmedcphramngkudeklaecaxyuhwwngstthchnth 12 hnungbthmi 2 bath bathla 12 phyangkh aebngepn 2 wrrkh wrrkhaerk 5 phyangkh wrrkhhlng 7 phyangkh sngsmphsaebbkaphy lksnakhru lhu ehmuxnknthukbath khux lhu khru lhu khru khru lhu lhu khru lhu khru lhu khru twxyangkhapraphnth xniaelanamwng sthadngchbbniphnthprakxbwithiyl bthaebbkaeybkhbwndierkawiyyu chnaruaelikhraelkhrwysnukesnxkhwr sukhcitrpradisthnachnth prachumcarukwdphraechtuphn xinthwngschnth 12 hnungbthmi 2 bath bathla 12 phyangkh aebngepn 2 wrrkh wrrkhaerk 5 phyangkh wrrkhhlng 7 phyangkh sngsmphsaebbkaphy lksnakhru lhu ehmuxnknthukbath khux khru khru lhu khru khru lhu lhu khru lhu khru lhu khru twxyangkhapraphnth rachaprachumda rihaodyprakaradngdarstrabdyng wcntthpwttiphlnihrachphtop risaipkhmikhmnhaphrahmnthuphlxn buraenraethsama samkhkhiephthkhachnth chit burthtotdkchnth 12 hnungbthmi 2 bath bathla 12 phyangkh aebngepn 2 wrrkh wrrkhla 6 phyangkh sngsmphsaebbkaphy lksnakhru lhu ehmuxnknthukbath khux lhu lhu khru lhu lhu khru lhu lhu khru lhu lhu khru twxyangkhapraphnth mathanadnurk wryxdyuphadiaelacarkbmimi vdihnayvraxaphiwaxayucayun sataphrrsavkwakcarkmathana bmihyxnvdihrrs mthnaphatha phrabathsmedcphramngkudeklaecaxyuhwphuchngkhprayatchnth 12 phuchngkhprayatchnth 12 mikhwamhmay ngueluxy mithanxngthislaslwy mkichaetngkbenuxhathimikartxsu bthsdudi bthchmkhwamngam bththwayphraphr aelabthsnuksnan nxkcknnyngsamarthichaetngbrryaykhwamihrwderwid hnungbthmi 2 bath bathla 12 phyangkh aebngepn 2 wrrkh wrrkhla 6 phyangkh sngsmphsaebbkaphy lksnakhru lhu ehmuxnknthukbath khux lhu khru khru lhu khru khru lhu khru khru lhu khru khru twxyangkhapraphnth thichngkhchatichladyl khenklkhnungkarkstriylicchwiwar rawngehuxdraaewnghayehmaaaekkarcaesksn pwttiwycaonbaymlangehtuphiechthsay smkhkhisnthisomsr samkhkhiephthkhachnth chit burthtkmlchnth 12 hnungbthmi 2 bath bathla 12 phyangkh aebngepn 2 wrrkh wrrkhla 6 phyangkh sngsmphsaebbkaphy lksnakhru lhu ehmuxnknthukbath khux lhu lhu khru lhu khru khru lhu lhu khru lhu khru khru twxyangkhapraphnth thwiolkyavikhun kbulybndalxphimngkhlalay thuwibakwibtiphykhnachnthsrrkhnam krtamburanikhbthklxnkramliph eraahphrxnglbxngaesdng prachumcarukwdphraechtuphn wsntdilkchnth 14 wsntdilkchnth mikhwamhmaywa chnththimililadngcxmemkhinvduibimphli vdufn epnhnunginchnththiniymaetngknmakthisud enuxngcakxanaelwfngidrunhu rusuksabsungcbic mkichaetngchmkhwamngam aelasdudikhwamrkhruxkhxngsung hnungbthmi 2 bath bathla 14 phyangkh aebngepn 2 wrrkh wrrkhaerk 8 phyangkh wrrkhhlng 6 phyangkh sngsmphsaebbkaphy lksnakhru lhu ehmuxnknthukbath khux khru khru lhu khru lhu lhu lhu khru lhu lhu khru lhu khru khru twxyangkhapraphnth aesngdawwawawrakawawb ducadb b edndwngaekhlbkklbphiphphasrwng misaphrubphaphrawephraekhyehnphraephy n rsmi rchnithndenaehnuxnnaenaphlncaslaenga klenginxramngam chit burthtmalinichnth 15 chuxchnthaeplwa dxkim epnchnththiaetngyakaetthwamikhwamngampraducdxkim thanxngchnthsnkrachbintxntn aelwrabrunintxnplay epnchnththimithwngthanxngekhrngkhrumnayaekrng kwimkichaetngephuxxwdkhwamsamarthinkarichsphthaelaepnechingklbth hnungbthmi 15 phyangkh aebngepn 3 wrrkh wrrkhaerk 8 phyangkh wrrkhsxng 4 phyangkh wrrkhsudthay 3 phyangkh sngsmphsaebbklxnsngkhlik lksnakhru lhu khux lhu lhu lhu lhu lhu lhu khru khru khru lhu khru khru lhu khru khru twxyangkhapraphnth ksnathwicharbtha nndraelathiwackacarynirxlsaprakxbphar phirioylaraelaetmic samkhkhiephthkhachnth chit burthtpraphththkchnth 15 hnungbthmi 15 phyangkh aebngepn 3 wrrkh wrraerk 7 phyangkh wrrkhsxng 4 phyangkh aelawrrkhsudthay 4 phyangkh sngsmphsaebbklxnsngkhlik lksnakhru lhu khux lhu lhu lhu lhu khru lhu khru lhu lhu lhu khru lhu khru lhu khru twxyangkhapraphnth suwutipphththka rcitnamkrprakasbthkhnchnthsastr nikrprachypraphvtiephiyrphcnphicitreriyn xlsaephiyrmonwicarnwibulyprichyan phlcachaychladniphnth prachumcarukwdphraechtuphn waninichnth 16 hnungbthmi 16 phyangkh aebngepn 3 wrrkh wrrkhaerk 7 phyangkh wrrkhsxng 4 phyangkh aelawrrkhsudthay 5 phyangkh sngsmphsaebbklxnsngkhlik lksnakhru lhu khux lhu lhu lhu lhu khru lhu khru lhu lhu lhu khru lhu khru lhu khru khru twxyangkhapraphnth nrnvnathphibal klpramanpraelhxupramacapraphvtirachkica nukicsa thuthrrmbxathrrmbuphbthwakywrr nwudichnthwnininam prachumcarukwdphraechtuphn kusumitldaewllitachnth 18 hnungbthmi 18 phyangkh aebngepn 3 wrrkh wrrkhaerk 11 phyangkh wrrkhsxng 4 phyangkh aelawrrkhsudthay 3 phyangkh sngsmphsaebbklxnsngkhlik lksnakhru lhu khux khru khru khru khru khru lhu lhu lhu lhu lhu khru khru lhu khru khru lhu khru khru twxyangkhapraphnth eswkphungsuksansuwsdidxud dmdierkduc wikarkthachnthnithiersxangkusumitldaewllitana mkrkhnan prachumcarukwdphraechtuphn emkhwipphuchchitachnth 19 hnungbthmi 19 phyangkh aebngepn 3 wrrkh wrraerk 12 phyangkh wrrkhsxng 4 phyangkh aelawrrkhsudthay 3 phyangkh sngsmphsaebbklxnsngkhlik lksnakhru lhu khux lhu khru khru khru khru khru lhu lhu lhu lhu lhu khru khru lhu khru khru lhu khru khru twxyangkhapraphnth khbwrelbngephrngphakyphrxngkephraaphcnklxnesnxkrawiwr thvsdilbxngemkhwipphuchchatitasuwuthiklmichnthkhmphir phvotthy prachumcarukwdphraechtuphn sththullwikkilitchnth 19 sththullwikkilitchnth mikhwamhmay esuxphyxng ichaetngbthihwkhru bthokrth aelabthyxphraekiyrti hnungbthmi 19 phyangkh aebngepn 3 wrrkh wrrkhaerk 12 phyangkh wrrkhsxng 5 phyangkh aelawrrkhsudthay 2 phyangkh sngsmphsaebbklxnsngkhlik lksnakhru lhu khux khru khru khru lhu lhu khru lhu khru lhu lhu lhu khru khru khru lhu khru khru lhu khru twxyangkhapraphnth phrxmebycangkhpradisthsvstitsdikaycitrwciitr thwarihwkhunphrasukhtxnawrnyanyxdsasdacary munixikkhunsunthrthrrmakhmphirwithiphuththphcnprachumtri pidk samkhkhiephthkhachnth chit burthtxithisngchnth 20 xithisngchnth 20 epnchnththimicnghwakraaethkkrathn channcungichaetngbrryaykhwamrk khwamwitk aelakhwamokrth hnungbthmi 20 phyangkh aebngepn 3 wrrkh wrraerk 9 phyangkh wrrkhsxng 8 phyangkh aelawrrkhsudthay 3 phyangkh sngsmphsaebbklxnsngkhlik lksnakhru lhu khux khru lhu khru lhu khru lhu khru lhu khru lhu khru lhu khru lhu khru lhu khru lhu khru khru twxyangkhapraphnth xaxrunaexrmraeruxrucipraducmonphirmyrati n aerkrkaesngxrunwiorcnnphapracksaechlmechlaaelaosphink n chnidhyingaelachay n yamratixuthyswang n klangkmllaim kchnnn mthnaphatha phrabathsmedcphramngkudeklaecaxyuhwsththrachnth 21 chnththimililawicitrpraducstriephsphupradbdwyphwngmaly hnungbthmi 21 phyangkh aebngepn 4 wrrkh wrraerk 7 phyangkh wrrkhsxng 7 phyangkh wrrkhsam 4 phyangkh aelawrrkhsudthay 3 phyangkh sngsmphsaebbklxnsngkhlik lksnakhru lhu khux khru khru khru khru lhu khru khru lhu lhu lhu lhu lhu lhu khrukhru lhu khru khru lhu khru khru twxyangkhapraphnth xrrthaesdngaehngehtuphiessphl nikrwithurchnechiyprakxbkl prakassarrngsrrkhchnthphakyobran bunrcnwitharsththrakhnan nnamkr prachumcarukwdphraechtuphn chnthmatraphvti chnthmatraphvti epnchnththibngkhbmatra odykahndihphyangkhesiynghnkkhux phyangkhkhruepnphyangkhla 2 matra swnphyangkhesiyngeba khux phyangkhlhu epnphyangkhla 1 matra inkhmphirwutotthymichnthmatraphvti 27 chnid tngaetbthla 45 matra cnthung 68 matra aebngepn 4 phwkihy khux xriychatichnth mi 7 chnid idaek xriychnth xriysamyychnth xriypthyachnth xriywipulachnth xriycplachnth xriymukhcplachnth aela xriychkhncplachnth khitichatichnth mi 4 chnid idaek khitichnth xupkhitichnth xukhitichnth aelaxriykhitichnth ewtaliychatichnth mi 9 chnid idaek ewtaliychnth oxpcchnthskachnth xapatlichnth lkkhnntchnth xuthiccwuttichnth pccwuttichnth pwttkchnth xprntikchnth aelacaruhasinichnth mttasmkchatichnth mi 7 chnid idaek xclthitichnth mttasmkchnth wisiolkchnth wanwasikchnth citrachnth xupcitrachnth aelapathakulkchnth chnthmatraphvtiepnchnththikahndmatra imkahndkhnachnth phuaetngsamarthphlikaephlngxksrichidhlayaebbinmatrathikahnd thaihdukhadraebiyb aelaimkahndchnthlksnthiaennxnlngid rwmthngkahndcnghwaxanlabak kwicungimniymichchnthmatraphvtiinngankwiniphnth camikaetintarachnthihkhnrunhlngidsuksaethannchnthpradisthkhunihmkarpradisthchnthihmkhxngkwitngaetsmyxyuthyacnthungpccubn praktwami 2 lksnakhux chnththipradisthcakchnthediminkhmphirwutotthy chnththipradisthihmcakaehlngthimaxunchnththipradisthcakchnthediminkhmphirwutotthy chnththipradisthkhuninsmyxyuthyaaelapraktchuxincindamni mi 3 chnid khux wiechiyrdilkchnth dilkwiechiyrchnth aelaotdkdilkchnth ekidcakkarphsmrahwangxinthrwiechiyrchnth kbwsntdilkchnth hnungbthmi 2 bath 25 phyangkh bathaerkepnxinthrwiechiyrchnth 11 phyangkh baththi 2 epnwsntdilkchnth 14 phyangkh mibngkhbrahwangbathkbrahwangbth twxyangekhyphadphrahtthehnux 5 xurrachklya 6 kxdekiywkhuxkaycnlda 8 xnoxbxxmthumamaly 6 phisphktrmnthlssi brisuththiepriybpaneprmrwmmvthursubndan rdiddbnecidic cindamni ekidcakkarphsmrahwangwsntdilkchnth kbxinthrwiechiyrchnth hnungbthmi 2 bath 25 phyangkh bathaerkepnwsntdilkchnth 14 phyangkh baththi 2 epnxinthrwiechiyrchnth 11 phyangkh mibngkhbsmphsrahwangbathkbsmphsrahwangbth twxyangxurprathbxrthnng 8 bramssiwriwy 6 cumphitrimir 5 oxsthkhnthklya 6 brisngkhtiphraxuraxngkh xanuchphnidasmsnukniesnha rsrakhexmxr cindamni ekidcakkarphsmrahwangotdkchnth kbwsntdilkchnth hnungbthmi 2 bath 26 phyangkh bathaerkepnotdkchnth 12 phyangkh baththi 2 epnwsntdilkchnth 14 phyangkh mibngkhbsmphsrahwangbathkbsmphsrahwangbth twxyangwrrngsipraiph 6 burochtiphrayphrrn 6 estaecnirtnsrrph 8 priotpilngokh 6 hrkhnhpingkha kpiololpitotsihsrothophxruon phasrssmi cindamni chnththipradisthinsmyrtnoksinthr krmphranrathippraphnthphngs idthrngpradisthchnthkhun 5 chnid inphraniphnthechlimekiyrtikstrikhachnth odyphsmchnth 4 chnididaek xinthrwiechiyrchnth wsntdilkchnth phuchngkhpyatchnth aelaxinthwngschnth ekhadwyknekidepn phuchphngschnth phsmrahwangphuchngkhpyatchnthkbxinthwngschnth wsntwngschnth phsmrahwangwsntdilkchnthkbxinthwngschnth wsntpyatchnth phsmrahwangwsntdilkchnthkbphuchngkhpyatchnth phuchngkhwiechiyrchnth phsmrahwangphuchngkhpyatchnthkbxinthrwiechiyrchnth aelaxinthrlilatchnth phsmrahwangxinthrwiechiyrchnthkbphuchngkhpyatchnth twxyangwsntwngschnth 15 phwemiyphmathuphlaphasn hinachatiniwasphnxmkhdaekhlnniaesnthurnatrxm xuraethngekhyngkhynthatalknannityaephiyng phlaeliyngchiwinlawnekidbutriksudcapiyachn chiwaphxphanxthnxm echlimekiyrtikstrikhachnth twxyangxinthrlilatchnth 11 phanfaphyaesux durayehluxaelaolphokngesmuxntxntaophngokhlng phskhaphukaemnthrithexuxnphraehmuxnman ephraabkxankakarekntheduxddalkabalebn khbthithphiikhrchwn echlimekiyrtikstrikhachnth ecaphrayathrrmskdimntri hrux khruethphidnaexaxinthrwiechiyrchnthmaaetngslbkbwsntdilkchnth ichchuxwa dngtwxyangratrikaemnmi khnadiaelaraypnipphidkakhnkhn khunothspraoychnthmratrikliklphiorth hvohdkrahumlmmudtuxkraphuxphirunphrm aelaveracaaeyaes okhlngklxnkhxngkhruethph elm 2 chit burtht idaethrkkhru lhu ephiminkaphysurangkhnangkh 28 thaihekidkhwamipheraamakyingkhun khnruntxmacungmkeriykepn aelaehnwaehmaasahrbkhxkhwamthikhukkhk snuksnan oldophn tunetn twxyangkhapraphnth saphrubsaphrngnhnaaelahlng nsayaelakhwalahmulahmwd ktrwcktrapramwlkama simakpramannikayesbiyngkphxkephiyng pholpkaraelastthphn thsrrphpharcayuththray kaeriykradm samkhkhiephthkhachnth chit burthtprasathphr phususilpthr hruxnampakka khmthwn khnthnu pradisthchnthihm 15 chnid ody phsmchnedimsxngaebbekhadwykn 9 chnid idaek sththulwikkilitchnth 19 phsmkbxithisngchnth 20 wsntdilkchnth 14 phsmkbxinthwngschnth 12 sakbwsntwngschnth 11 khxng krmphranrathippraphnthphngs xuepnthrwiechiyrchnth 11 phsmkbwngstthchnth 12 xinthrwiechiyrchnth 11 phsmkbxinthwngschnth 12 phuchngkhpyatchnth 12 phsmkbwsntdilkchnth 26 xinthwngschnth 12 phsmkbwngstthchnth 12 phuchngkhpyatchnth 12 phsmkbxinthrwiechiyrchnth 11 xinthrwiechiyrchnth 11 phsmkbphuchngkhpyatchnth 12 sakbxinthrlilatchnth 11 khxng krmphranrathippraphnthphngs xinthrwiechiyrchnth 11 phsmkbwsntdilkchnth 14 epliynaeplngkhrulhuinchnthedim 6 chnid idaek ephimcakwsntdilkchnth 14 xik 3 phyangkh ephimlhuinwrrkhthi 2 khxngwsntdilk 14 ddaeplngxuptthitachnth 11 ddaeplngcakwichchummalachnth 8 bangthieriyk hrux twxyangkhapraphnthkhwamlbcadamud khwamchudcachinchadwyelh n ewla mxngfasixacmkhnithyichnela ongengaaelangayngmhlngchunrarunchm nannmniymmatangehncaepnehyux efaechuxaelabuchityingkhadxnathphid ecbcitxniccafngplukkradukphi kipikeprmpraokhtrikhrcaikhlkhla iphrfasihnaekhiyw khmthwn khnthnu kahndkhrulhulnginkaphychbng ddaeplngcakxinthwngschnth 12 chnththipradisthihmcakaehlngthimaxun phrarachwrwngsethxkrmhmunphithyalngkrn hrux n m s thrngpradisthchnth 3 chnid khux aela cak xinemomeriym khxng xngkvs odyddaeplngsmphsihaetktangkn phayhlngmikarkhnphbwa syammnichnth phxngkb pramanikachnth intarachnothmychri sungmimakwa 1 000 piaelw twxyang syammnichnth 8 smphsaebbklxnsuphaph choysyam n yamcarun syamdruncaerwecriyn khrawcaeriynkephiyrcaephlin v ikhrcaekinsyamdrunkumaraithyichncahlng calumphraxngkhathrngskulyamarthxubtiephraabuy phraedchphrakhunphrarachawngssuphr phlchiwin pradisthchnihm 2 chnid khux cakesiyngkhrkkraeduxngtakhaw aela cakesiyngcnghwataophnprakxbkarraothn twxyang epsnnathchnth 16 smphsaebbklxnsuphaph nyamsaynhtawnyxyta ethxaerngethatacakhaaelwhnxtaaelkaetkaetkcaaehlkaelwphx kradngekharxcakhxrbipburusrxthistierngetha burusyweyakraesaesiyngiskraeduxngtakhawkkrawesiyngikl snuknaicsmyratripradisth ephuxsdudicxmphl aeplk phibulsngkhram nangsawcira cnthrannthnywinic naipaetngephyaephrinnampakka ciracnth twxyang phibulrchnichnthoxxngkhphrathrngsmya piymhaculalngkrn ithysamiphkdiphuthr hthyethxdphraeliselxthrrmaesngsuriycruycars rphipraphssrkephiyngklangwnaesngosmcholmaehlngsrrph phphxramkyamklangkhunpradisthchnth 3 chnid khux aela odykahndkhrulhucakchuxchnth odyidrbphrabrmrachanuyat swn epnkarpradisththwaysmedcphrabrmrachininathxlisaebththi 2 aehngrachxanackrbrietnihy khrawesdceyuxnpraethsithy ph s 2515 twxyang phumiphlxdulyedchchnthrwmpthmphrackriwngs wirathrngbarabxmitrebycmngkhwrngkhmhiththi piyarachphnitsyamdngphraenawmngkhphranam ithphraphthr phumiphl khrbchnaechlimphrachnm pkprachaphiessphichyenawrtn phngsiphbuly pradisth odykahndkhrulhucakphranamwrrkhaerkkhxngphraxngkhecarphiphthnskdi twxyangrphiphthnskdi phraexkxkhrkhunxrameruxng n xrun sthitthxnitithrrmpradisthchnthihm khux twxyanglakhrwithyu praluwithyannthkraaessngnphaphln rakasaykracayesiyngmiepluxngchakthna phiaesdngksrrephiyngpraolmolkniyayeriyng rcerkhraphnkhrwyidpradisth in emux ph s 2552 twxyangsyamchatiecriyrung khtimungcrungmnwibulysukhkhcaykhrn suphnnthnakarphdungkickaraephw kxthaeklwwiwthnngansvsdiwithiphar thitisanlumnkhngpradisthchnthihm khux suriydilkchnth emux 2 emsayn ph s 2558 odyphsmphsanwsntdilkchnthkbklxnwakahruxthngkakhxngyipun klawkhux sxngwrrkhsudthaycbkhlayklxnthngka aetichcanwnphyangkh 8 phyangkhihethakbwrrkhaerkkhxngwsntdilkchnth inkhnathiinklxnthngka 2 wrrkhsudthaymicanwnphyangkhwrrkhla 7 phyangkhyipun twxyanginsuphwartithimas nrrastrkcngrkaetngpatlistutiphk diechlimphrachnmaxngkhethphrtnsuda phrmngkhlathitanirndrpradisthchnthihm khux phuwrxinthrchnth 16 epnchnththimirakthanmacakxinthrwiechiyrchnth 11 aelamicanwnkhaehmuxnklxn 8 odythi 1 bth mi 4 wrrkh aelainaetlawrrkhmi 8 kha odythiwrrkhaerkkhxngphuwrxinthrchnthcanawrrkhthi 1 khxngxinthrwiechiyrchnthma aelana 3 khaaerkkhxngwrrkhthisxngmatxthay aelawrrkhthisxngkhxngphuwrxinthrchnthcanawrrkhthi 1 khxngxinthrwiechiyrchnthmaaelana 3 khasudthaykhxngwrrkhthisxngmatxthay swnwrrkhthi 3 aela 4 caehmuxnkbwrrkhthi 1 aela 2 tamladb in 1 bth twxyangaekwklyaswybrisuththi khwamngamvdiphudskawisphiwphrrnxnngkhnangraxuicic nwlkhawmiikhrethiybbethiymekhiyngprangecakmleyacitaephw wacakephrisaephrwrarunesiyngthumthnrariktngxuraeriyng thaidphinicephiyngmiidylxangxingkwiniphnthithy 1 2 suphaphr makaecng krungethph oxediynsotr 2539 khrrphkhrrlxngrxykrxngithy krmsilpakr krungethph ph s 2544 hna 265 bthkhwamwrrnkrrmniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldkhk