พลับพลึงธาร | |
---|---|
สถานะการอนุรักษ์ | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Plantae |
ไม่ได้จัดลำดับ: | Angiosperms |
ไม่ได้จัดลำดับ: | Monocots |
อันดับ: | Asparagales |
วงศ์: | Amaryllidaceae |
วงศ์ย่อย: | |
สกุล: | |
สปีชีส์: | C. thaianum |
ชื่อทวินาม | |
Crinum thaianum (1971) |
พลับพลึงธาร หรือ หอมน้ำ (อังกฤษ: Onion plant, Thai onion plant, Water onion) พืชน้ำชนิดหนึ่งมีชื่อวิทยาศาสตร์: Crinum thaianum อยู่ในวงศ์พลับพลึง (Amaryllidaceae) ถือได้ว่าเป็นพืชน้ำที่สวยงามและหายากมากที่สุดชนิดหนึ่ง โดยพบได้เฉพาะที่จังหวัดระนองตอนล่างและพังงาตอนบน ในจังหวัดระนองพบที่คลองนาคา ตำลนาคา อำเภอสุขสำราญ และที่คลองบางปรุ ตำบลกะเปอร์ อำเภอกะเปอร์ ส่วนที่จังหวัดพังงา พบที่คลองตาผุด บ้านห้วยทรัพย์ คลองสวนลุงเลื่อน ตำบลคุระ อำเภอคุระบุรี คลองนายทุย คลองบ้านทับช้าง คลองบ้านโชคอำนวย ตำบลแม่นางขาว อำเภอคุระบุรี และตามคลองย่อยต่าง ๆ ในเขตรอยต่ออำเภอคุระบุรีและอำเภอตะกั่วป่า เป็นพืชเฉพาะถิ่น ไม่พบที่ใหนในโลก ปัจจุบันพบเหลือแค่ร้อยละ 1 เท่านั้น และพบขึ้นอยู่อย่างกระจัดกระจาย จึงได้ขึ้นเป็นบัญชีพืชที่ใกล้สูญพันธุ์ของโลก (IUCN Redlist) เมื่อปี ค.ศ. 2011 สาเหตุของการลดลงเนื่องจาก การเก็บหัวจำหน่ายเป็นพืชน้ำประดับ และจากสาเหตุการขุดลอกคลองเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม
ลักษณะ
เป็นพืชอวบน้ำ ดอกมีสีขาว มี 6 กลีบ ในก้านชูดอกหนึ่ง ๆ จะมีหลายก้านดอก จะทะยอยบานติดต่อกันไป ดอกหนึ่ง ๆ จะมีก้านเกสร 6 อัน มีเกสรสีเหลืองที่ปลายก้านเกสร ตรงกลางดอกจะมีก้านเกสรตัวเมียโผล่มาจากแกนกลางของดอก หลังจากผสมเกสร กะเปาะเมล็ดจะเจริญเติบโตที่โคนก้านดอก กะเปาะหนึ่งจะมีจำนวนเมล็ดที่ไม่เท่ากัน มีลักษณะบูดเบี้ยวเป็นทรงที่ไม่แน่นอน พอเมล็ดแก่จะหลุดออกจากกะเปาะ พัฒนาสายรกออกด้านใดด้านหนึ่งของเมล็ด ตรงปลายสายรกจะพัฒนาเป็นต้นใหม่และมีรากยึดติดกับพื้นคลอง ในระหว่างที่รากยังไม่สามารถเกาะยึดพื้นคลองได้ เมล็ดจะเป็นแหล่งอาหารให้กับต้นอ่อนได้นาน 3–4 เดือน หัวมีลักษณะคล้ายหัวหอม จึงมีชื่อเรียกว่า "หอมน้ำ" หัวจะโผล่ขึ้นเหนือผิวดินประมาณ 1 ใน 3 เพื่อป้องกันการเน่า ใบจะเป็นสีเขียวเรียวยาวเหมือนริบบิ้น ความยาวขึ้นอยู่กับระดับน้ำ บางพื้นที่ที่น้ำลึกใบอาจจะยาวได้ถึง 4 เมตร
พลับพลึงธารเติบโตได้ดีในดินร่วนปนทราย ดินทราย และดินร่วนเหนียวปนทราย ค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH) ของดินประมาณ 5.17–5.42 ปริมาณอินทรียวัตถุร้อยละ 1.03–2.33 ปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ 9.23–13.23 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม และปริมาณโพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์ 28.35–51.47 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม โดยพลับพลึงธารเติบโตในบริเวณลำธารหรือลำคลองสายสั้น ๆ สภาพน้ำใสสะอาด ความลึกของน้ำประมาณ 36–75 เซนติเมตร อุณหภูมิของน้ำ 26–28 องศาเซลเซียส ความโปร่งแสง 36–75 เซนติเมตร ค่าการนำไฟฟ้า (EC) 21.75–50.66 ไมโครต่อเซนติเมตร ค่า pH ของน้ำ 6.21–6.44 ปริมาณออกซิเจนที่ละลายน้ำได้ 6.34–7.73 มิลลิกรัมต่อลิตรและค่าความกระด้างของน้ำ 13.65–19.88 มิลลิกรัมต่อลิตร ซึ่งเป็นพื้นที่ต้นน้ำที่อุดมสมบูรณ์ เป็นลำคลองที่มีการไหลเวียนของน้ำดีแต่กระแสน้ำไม่แรงมากเกินไป พลับพลึงธาร ถือว่าเป็นดรรชนีชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของน้ำและลำคลองได้ จะออกดอกและบานสะพรั่งในช่วงหน้าแล้งของพื้นที่อันดามันตอนบน ประมาณปลายเดือนกันยายนถึงเดือนธันวาคม ดอกมีความสวยงามประกอบกับความหายาก จึงทำให้ได้รับฉายาว่า "ราชินีแห่งสายน้ำ"
สถานภาพและการอนุรักษ์
พลับพลึงธารมีชื่อเรียกในท้องถิ่นว่า "หัวหญ้าช้อง" ปัจจุบันนิยมเรียกว่าพลับพลึงธาร มากกว่าหอมน้ำ เพราะมีดอกคล้ายดอกพลับพลึง แต่ขึ้นอยู่ในน้ำ ซึ่งสถานะของพลับพลึงธารยังมิได้ถูกบรรจุในบัญชีของอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าใกล้สูญพันธุ์ หรือ CITES และไม่ได้รับการการคุ้มครองภายใต้กฎหมายใดใดในประเทศไทย และแม่น้ำลำคลองที่เป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของพลับพลึงธาร ก็ยังไม่มีกฎหมายใดใด ให้การคุ้มครอง อย่างไรก็แล้วแต่ ในระดับพื้นที่ ชุมชนและกลุ่มอนุรักษ์ต่าง ๆ ในหมู่บ้านที่พบพลับพลึงธาร ได้มีกิจกรรมการอนุรักษ์และฟื้นฟู และมีกฎระเบียบต่าง ๆ ที่ห้ามการขุดหาหัวพลับพลึงธารเพื่อการค้า เช่น ชมรมเพลินไพรศรีนาคา กลุ่มอนุรักษ์คลองบางปรุ กลุ่มอนุรักษ์บ้านห้วยทรัพย์ กลุ่มอนุรักษ์บ้านนายทุย และกลุ่มอนุรักษ์บ้านบางซอย พลับพลึงธารบ้านบางวัน เป็นต้น ภายใต้การสนับสนุนขององค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) และเครือข่ายอนุรักษ์ลุ่มน้ำอันดามันตอนบน
อ้างอิง
- Soonthornnawaphat, S.; Bambaradeniya, C.; Sukpong, P. (2011). "Crinum thaianum". IUCN Red List of Threatened Species. 2011: e.T201627A9154955. doi:10.2305/IUCN.UK.2011-2.RLTS.T201627A9154955.en. สืบค้นเมื่อ 11 พฤศจิกายน 2021.
- Joachim Schulze. 1971. Plant Life (Stanford) 27: 127, Crinum thaianum
- Crinum thaianum J.Schulze, Pl. Life 27: 127 (1971). Kew World Checklist of Selected Plant Families.
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 7 เมษายน 2014.
- Onion Plant Animal-World.com.
- วรรณดา พิพัฒน์เจริญชัย; รัฐภัทร์ ประดิษฐ์สรรพ์ (2008). การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อหอมน้ำ. เอกสารวิชาการฉบับที่ 58/2551. สถาบันวิจัยสัตว์น้ำสวยงามและพรรณไม้น้ำ สำนักวิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด กรมประมง.
บรรณานุกรม
- ปกขวัญ หุตางกูร; สมศักดิ์ สุนทรนวภัทร (2015). พลับพลึงธาร: Crinum Thaianum: พืชน้ำหนึ่งเดียวในโลกของไทยที่ใกล้สูญพันธุ์. รวมสาส์น (1977). ISBN .
แหล่งข้อมูลอื่น
ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ Crinum thaianum ที่วิกิสปีชีส์
- "พลับพลึงธาร บ้านครูนา". กลุ่มอนุรักษ์พลับพลึงธารเพื่อการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ บ้านบางวัน – โดยทาง เฟซบุ๊ก.
- เดชา ดวงนามล. . สถานีวิจัยเพื่อการพัฒนาชายฝั่งอันดามัน. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-02-06. สืบค้นเมื่อ 2022-02-06.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
phlbphlungtharsthanakarxnurksiklsuyphnthu IUCN 3 1 karcaaenkchnthangwithyasastrxanackr Plantaeimidcdladb Angiospermsimidcdladb Monocotsxndb Asparagaleswngs Amaryllidaceaewngsyxy skul spichis C thaianumchuxthwinamCrinum thaianum 1971 phlbphlungthar hrux hxmna xngkvs Onion plant Thai onion plant Water onion phuchnachnidhnungmichuxwithyasastr Crinum thaianum xyuinwngsphlbphlung Amaryllidaceae thuxidwaepnphuchnathiswyngamaelahayakmakthisudchnidhnung odyphbidechphaathicnghwdranxngtxnlangaelaphngngatxnbn incnghwdranxngphbthikhlxngnakha talnakha xaephxsukhsaray aelathikhlxngbangpru tablkaepxr xaephxkaepxr swnthicnghwdphngnga phbthikhlxngtaphud banhwythrphy khlxngswnlungeluxn tablkhura xaephxkhuraburi khlxngnaythuy khlxngbanthbchang khlxngbanochkhxanwy tablaemnangkhaw xaephxkhuraburi aelatamkhlxngyxytang inekhtrxytxxaephxkhuraburiaelaxaephxtakwpa epnphuchechphaathin imphbthiihninolk pccubnphbehluxaekhrxyla 1 ethann aelaphbkhunxyuxyangkracdkracay cungidkhunepnbychiphuchthiiklsuyphnthukhxngolk IUCN Redlist emuxpi kh s 2011 saehtukhxngkarldlngenuxngcak karekbhwcahnayepnphuchnapradb aelacaksaehtukarkhudlxkkhlxngephuxaekpyhanathwmlksnaepnphuchxwbna dxkmisikhaw mi 6 klib inkanchudxkhnung camihlaykandxk cathayxybantidtxknip dxkhnung camikaneksr 6 xn mieksrsiehluxngthiplaykaneksr trngklangdxkcamikaneksrtwemiyophlmacakaeknklangkhxngdxk hlngcakphsmeksr kaepaaemldcaecriyetibotthiokhnkandxk kaepaahnungcamicanwnemldthiimethakn milksnabudebiywepnthrngthiimaennxn phxemldaekcahludxxkcakkaepaa phthnasayrkxxkdaniddanhnungkhxngemld trngplaysayrkcaphthnaepntnihmaelamirakyudtidkbphunkhlxng inrahwangthirakyngimsamarthekaayudphunkhlxngid emldcaepnaehlngxaharihkbtnxxnidnan 3 4 eduxn hwmilksnakhlayhwhxm cungmichuxeriykwa hxmna hwcaophlkhunehnuxphiwdinpraman 1 in 3 ephuxpxngknkarena ibcaepnsiekhiyweriywyawehmuxnribbin khwamyawkhunxyukbradbna bangphunthithinalukibxaccayawidthung 4 emtr phlbphlungtharetibotiddiindinrwnpnthray dinthray aeladinrwnehniywpnthray khakhwamepnkrd dang pH khxngdinpraman 5 17 5 42 primanxinthriywtthurxyla 1 03 2 33 primanfxsfxrsthiepnpraoychn 9 23 13 23 millikrmtxkiolkrm aelaprimanophaethsesiymthiepnpraoychn 28 35 51 47 millikrmtxkiolkrm odyphlbphlungtharetibotinbriewnlatharhruxlakhlxngsaysn sphaphnaissaxad khwamlukkhxngnapraman 36 75 esntiemtr xunhphumikhxngna 26 28 xngsaeslesiys khwamoprngaesng 36 75 esntiemtr khakarnaiffa EC 21 75 50 66 imokhrtxesntiemtr kha pH khxngna 6 21 6 44 primanxxksiecnthilalaynaid 6 34 7 73 millikrmtxlitraelakhakhwamkradangkhxngna 13 65 19 88 millikrmtxlitr sungepnphunthitnnathixudmsmburn epnlakhlxngthimikarihlewiynkhxngnadiaetkraaesnaimaerngmakekinip phlbphlungthar thuxwaepndrrchnichiwdkhwamxudmsmburnkhxngnaaelalakhlxngid caxxkdxkaelabansaphrnginchwnghnaaelngkhxngphunthixndamntxnbn pramanplayeduxnknyaynthungeduxnthnwakhm dxkmikhwamswyngamprakxbkbkhwamhayak cungthaihidrbchayawa rachiniaehngsayna sthanphaphaelakarxnurksphlbphlungtharmichuxeriykinthxngthinwa hwhyachxng pccubnniymeriykwaphlbphlungthar makkwahxmna ephraamidxkkhlaydxkphlbphlung aetkhunxyuinna sungsthanakhxngphlbphlungtharyngmiidthukbrrcuinbychikhxngxnusyyawadwykarkharahwangpraethssungchnidstwpaaelaphuchpaiklsuyphnthu hrux CITES aelaimidrbkarkarkhumkhrxngphayitkdhmayididinpraethsithy aelaaemnalakhlxngthiepnthinthixyuxasykhxngphlbphlungthar kyngimmikdhmayidid ihkarkhumkhrxng xyangirkaelwaet inradbphunthi chumchnaelaklumxnurkstang inhmubanthiphbphlbphlungthar idmikickrrmkarxnurksaelafunfu aelamikdraebiybtang thihamkarkhudhahwphlbphlungtharephuxkarkha echn chmrmephliniphrsrinakha klumxnurkskhlxngbangpru klumxnurksbanhwythrphy klumxnurksbannaythuy aelaklumxnurksbanbangsxy phlbphlungtharbanbangwn epntn phayitkarsnbsnunkhxngxngkhkarrahwangpraethsephuxkarxnurksthrrmchati IUCN aelaekhruxkhayxnurkslumnaxndamntxnbnxangxingSoonthornnawaphat S Bambaradeniya C Sukpong P 2011 Crinum thaianum IUCN Red List of Threatened Species 2011 e T201627A9154955 doi 10 2305 IUCN UK 2011 2 RLTS T201627A9154955 en subkhnemux 11 phvscikayn 2021 Joachim Schulze 1971 Plant Life Stanford 27 127 Crinum thaianum Crinum thaianum J Schulze Pl Life 27 127 1971 Kew World Checklist of Selected Plant Families khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 7 emsayn 2014 Onion Plant Animal World com wrrnda phiphthnecriychy rthphthr pradisthsrrph 2008 karephaaeliyngenuxeyuxhxmna exksarwichakarchbbthi 58 2551 sthabnwicystwnaswyngamaelaphrrnimna sankwicyaelaphthnapramngnacud krmpramng brrnanukrm pkkhwy hutangkur smskdi sunthrnwphthr 2015 phlbphlungthar Crinum Thaianum phuchnahnungediywinolkkhxngithythiiklsuyphnthu rwmsasn 1977 ISBN 978 616 7540 32 0 aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb Crinum thaianum khxmulthiekiywkhxngkb Crinum thaianum thiwikispichis phlbphlungthar bankhruna klumxnurksphlbphlungtharephuxkarthxngethiywechingniews banbangwn odythang efsbuk edcha dwngnaml sthaniwicyephuxkarphthnachayfngxndamn khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2022 02 06 subkhnemux 2022 02 06