ตำบลหนองป่าครั่ง เป็นตำบลหนึ่งในอำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ปัจจุบันพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในเขตเทศบาลตำบลหนองป่าครั่ง และบางส่วนอยู่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ โดยส่วนที่เป็นเทศบาลตำบลมีพื้นที่ 2.9 ตารางกิโลเมตร มีประชากรรวมทั้งหมด 8,868 คน สถานที่สำคัญเช่น วัดบวกครกน้อย เป็นต้น
ตำบลหนองป่าครั่ง | |
---|---|
การถอดเสียงอักษรโรมัน | |
• อักษรโรมัน | Tambon Nong Pa Khrang |
ตำบลหนองป่าครั่ง | |
พิกัด: 18°47′14″N 99°02′01″E / 18.78722°N 99.03361°E | |
ประเทศ | ไทย |
จังหวัด | เชียงใหม่ |
อำเภอ | เมืองเชียงใหม่ |
ประชากร (2561) | |
• ทั้งหมด | 8,868 คน |
รหัสไปรษณีย์ | 50000 |
รหัสภูมิศาสตร์ | 500113 |
เทศบาลตำบลหนองป่าครั่ง | |
---|---|
พิกัด: 18°47′08″N 99°02′13″E / 18.78556°N 99.03694°E | |
ประเทศ | ไทย |
จังหวัด | เชียงใหม่ |
อำเภอ | เมืองเชียงใหม่ |
การปกครอง | |
• นายกเทศมนตรี | สมคิด เลิศเกียรติดำรง |
พื้นที่ | |
• ทั้งหมด | 2.9 ตร.กม. (1.1 ตร.ไมล์) |
ประชากร (2561) | |
• ทั้งหมด | 7,277 คน |
• ความหนาแน่น | 2,509.31 คน/ตร.กม. (6,499.1 คน/ตร.ไมล์) |
รหัส อปท. | 05500104 |
ประวัติ
คำว่า หนองป่าครั่ง มีที่มาจาก ในอดีต พื้นที่ในบริเวณนี้เป็นหนองน้ำใหญ่ รอบหนองน้ำมีต้นก้ามปูขึ้นอยู่โดยทั่วไปเป็นจำนวนมาก ชาวบ้านในละแวกนี้มีอาชีพหลักคือ การเลี้ยงครั่ง โดยนำครั่งมาปล่อยไว้บนต้นฉำฉา จึงเป็นที่มาของชื่อตำบลหนองป่าครั่ง
เดิมทีตำบลหนองป่าครั่งเป็นส่วนหนึ่งของ อำเภอเมืองเชียงใหม่ ซึ่งในขณะนั้นตำบลวัดเกตสามารถแบ่งพื้นที่ออกเป็นสองส่วน คือ ตำบลวัดเกตในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ และนอกเขตเทศบาลฯ เมื่อวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2492 ได้มีพระราชกฤษฎีกาให้เปลี่ยนชื่อตำบลวัดเกตเฉพาะส่วนนอกเขตเทศบาลนครเชียงใหม่เป็นตำบลหนองป่าครั่ง เพื่อประโยชน์ในด้านการบริหารงานราชการและอนุรักษ์ความเป็นท้องถิ่น ต่อมาเมื่อวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2526 ได้มีพระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนแปลงเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ โดยขยายครอบคลุมพื้นที่มากขึ้น ทำให้พื้นที่บางส่วนของตำบลหนองป่าครั่งตกอยู่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่
ตำบลหนองป่าครั่ง (ส่วนนอกเขตเทศบาลนครเชียงใหม่) ได้รับการยกฐานะเป็นองค์การบริหารส่วนตำบลเมื่อ 2 มีนาคม พ.ศ. 2538 และยกระดับเป็น "เทศบาลตำบลหนองป่าครั่ง" เมื่อ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2549 ตามพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พุทธศักราช 2537 และพระราชบัญญัติเทศบาล พุทธศักราช 2496
ภูมิศาสตร์
ตำบลหนองป่าครั่งอยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปทางทิศตะวันออกประมาณ 1 กิโลเมตร เฉพาะส่วนเทศบาลฯ มีพื้นที่ 1,842.68 ไร่ หรือประมาณ 2.9 ตารางกิโลเมตร ลักษณะทั่วไปเป็นพื้นที่ราบ เหมาะแก่การตั้งถิ่นฐาน บางส่วนเป็นที่ราบลุ่มเกิดน้ำท่วมขังได้ แหล่งน้ำที่สำคัญคือ ไหลจากทิศเหนือไปทิศใต้ มีความยาวเฉพาะส่วนที่ผ่านตำบล 5.4 กิโลเมตร ซึ่งยังถูกใช้เป็นหลักกำหนดแนวเขตตำบลด้านทิศตะวันออกอีกด้วย
อาณาเขตของตำบลหนองป่าครั่ง มีดังนี้
- ทิศเหนือ ติดกับตำบลฟ้าฮ่าม อำเภอเมืองเชียงใหม่ อำเภอสันทราย
- ทิศตะวันออก ติดกับ อำเภอสันทราย อำเภอสันกำแพง
- ทิศใต้ ติดกับตำบลท่าศาลา อำเภอเมืองเชียงใหม่
- ทิศตะวันตก ติดกับเทศบาลนครเชียงใหม่ บางส่วนของ
การแบ่งเขตการปกครอง
ตำบลหนองป่าครั่งประกอบด้วย 7 หมู่บ้าน ดังนี้
|
|
ประชากร
จากการสำรวจเมื่อปี พ.ศ. 2561 ตำบลหนองป่าครั่งมีประชากรตามทะเบียนราษฎร์ทั้งสิ้น 8,868 คน รายละเอียดจำแนกตามเพศและเขตการปกครองตามตารางด้านล่าง อนึ่ง จากข้อมูลของเทศบาลตำบลหนองป่าครั่งพบว่าประชากรตามทะเบียนราษฎร์คิดเป็น 45% ของจำนวนประชากรทั้งหมดในพื้นที่ ซึ่งที่เหลืออีก 55% (คิดเป็นราว 10,800 คน) คือประชากรแฝงซึ่งมีการหมุนเวียนเข้าออกพื้นที่อย่างสม่ำเสมอเนื่องจากตำบลเป็นที่ตั้งของแหล่งงาน โดยเฉพาะเชียงใหม่บิสเนสพาร์คและห้างสรรพสินค้าหลายแห่ง รวมถึงมหาวิทยาลัยพายัพที่เป็นสถานศึกษาขนาดใหญ่ในพื้นที่
ส่วน | ชาย | หญิง | รวม | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
3,359 | 3,918 | 7,277 | ||||||||||
ตำบลหนองป่าครั่งในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ | 752 | 839 | 1,591 | |||||||||
รวม | 4,111 | 4,757 | 8,868 | |||||||||
ข้อมูล: กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เดือนธันวาคม พ.ศ. 2561 |
สถานที่สำคัญ
- มหาวิทยาลัยพายัพ (เขตแม่คาว)
อ้างอิง
- ข้อมูลทั่วไป จากเว็บไซด์เทศบาลตำบลหนองป่าครั่ง, สืบค้นวันที่ 24 มกราคม 2555
- ประชากรในเทศบาลตำบลหนองป่าครั่ง โดยกรมการปกครอง
- ประวัติเทศบาลตำบลหนองป่าครั่ง 2011-09-10 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, จากเว็บไซด์เทศบาลตำบลหนองป่าครั่ง, สืบค้นวันที่ 24 มกราคม 2555
- ราชกิจจานุเบกษา (2492).พระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนนามตำบลบางแห่ง พ.ศ. 2492, สืบค้นเมื่อ 5 กุมภาพันธ์ 2562.
- ราชกิจจานุเบกษา (2526).พระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนแปลงเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ พ.ศ. 2526 2021-07-03 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, สืบค้นเมื่อ 5 กุมภาพันธ์ 2562.
- ราชกิจจานุเบกษา (2549). ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง จัดตั้งองค์การบริหารส่วนตำบลหนองป่าครั่ง อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เป็นเทศบาลตำบลหนองป่าครั่ง, สืบค้นเมื่อ 5 กุมภาพันธ์ 2562.
- ประชากรในเทศบาลนครเชียงใหม่ ส่วนตำบลหนองป่าครั่ง โดยกรมการปกครอง
แหล่งข้อมูลอื่น
- เว็บไซด์เทศบาลตำบลหนองป่าครั่ง 2012-06-16 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ตำบลหนองป่าครั่ง 2012-02-09 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน จากเว็บไซด์ไทยตำบล ดอตคอม
- แผนที่และคำอธิบายแนวเขตเทศบาลตำบลหนองป่าครั่ง (หน้า 5) จากราชกิจจานุเบกษา (2549)
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
tablhnxngpakhrng epntablhnunginxaephxemuxngechiyngihm cnghwdechiyngihm pccubnphunthiswnihyxyuinekhtethsbaltablhnxngpakhrng aelabangswnxyuinekhtethsbalnkhrechiyngihm odyswnthiepnethsbaltablmiphunthi 2 9 tarangkiolemtr miprachakrrwmthnghmd 8 868 khn sthanthisakhyechn wdbwkkhrknxy epntntablhnxngpakhrngtablkarthxdesiyngxksrormn xksrormnTambon Nong Pa Khrangtablhnxngpakhrngphikd 18 47 14 N 99 02 01 E 18 78722 N 99 03361 E 18 78722 99 03361praethsithycnghwdechiyngihmxaephxemuxngechiyngihmprachakr 2561 thnghmd8 868 khnrhsiprsniy 50000rhsphumisastr500113swnhnungkhxngsaranukrmpraethsithyethsbaltablhnxngpakhrngethsbaltablphikd 18 47 08 N 99 02 13 E 18 78556 N 99 03694 E 18 78556 99 03694praeths ithycnghwdechiyngihmxaephxemuxngechiyngihmkarpkkhrxng naykethsmntrismkhid elisekiyrtidarngphunthi thnghmd2 9 tr km 1 1 tr iml prachakr 2561 thnghmd7 277 khn khwamhnaaenn2 509 31 khn tr km 6 499 1 khn tr iml rhs xpth 05500104swnhnungkhxngsaranukrmpraethsithyprawtikhawa hnxngpakhrng mithimacak inxdit phunthiinbriewnniepnhnxngnaihy rxbhnxngnamitnkampukhunxyuodythwipepncanwnmak chawbaninlaaewknimixachiphhlkkhux kareliyngkhrng odynakhrngmaplxyiwbntnchacha cungepnthimakhxngchuxtablhnxngpakhrng edimthitablhnxngpakhrngepnswnhnungkhxng xaephxemuxngechiyngihm sunginkhnanntablwdektsamarthaebngphunthixxkepnsxngswn khux tablwdektinekhtethsbalnkhrechiyngihm aelanxkekhtethsbal emuxwnthi 20 knyayn ph s 2492 idmiphrarachkvsdikaihepliynchuxtablwdektechphaaswnnxkekhtethsbalnkhrechiyngihmepntablhnxngpakhrng ephuxpraoychnindankarbriharnganrachkaraelaxnurkskhwamepnthxngthin txmaemuxwnthi 5 emsayn ph s 2526 idmiphrarachkvsdikaepliynaeplngekhtethsbalnkhrechiyngihm odykhyaykhrxbkhlumphunthimakkhun thaihphunthibangswnkhxngtablhnxngpakhrngtkxyuinekhtethsbalnkhrechiyngihm tablhnxngpakhrng swnnxkekhtethsbalnkhrechiyngihm idrbkarykthanaepnxngkhkarbriharswntablemux 2 minakhm ph s 2538 aelaykradbepn ethsbaltablhnxngpakhrng emux 17 singhakhm ph s 2549 tamphrarachbyytisphatablaelaxngkhkarbriharswntabl phuththskrach 2537 aelaphrarachbyytiethsbal phuththskrach 2496phumisastrtablhnxngpakhrngxyuhangcaktwemuxngechiyngihmipthangthistawnxxkpraman 1 kiolemtr echphaaswnethsbal miphunthi 1 842 68 ir hruxpraman 2 9 tarangkiolemtr lksnathwipepnphunthirab ehmaaaekkartngthinthan bangswnepnthirablumekidnathwmkhngid aehlngnathisakhykhux ihlcakthisehnuxipthisit mikhwamyawechphaaswnthiphantabl 5 4 kiolemtr sungyngthukichepnhlkkahndaenwekhttabldanthistawnxxkxikdwy xanaekhtkhxngtablhnxngpakhrng midngni thisehnux tidkbtablfaham xaephxemuxngechiyngihm xaephxsnthray thistawnxxk tidkb xaephxsnthray xaephxsnkaaephng thisit tidkbtablthasala xaephxemuxngechiyngihm thistawntk tidkbethsbalnkhrechiyngihm bangswnkhxngkaraebngekhtkarpkkhrxngtablhnxngpakhrngprakxbdwy 7 hmuban dngni hmu 1 banhnxngxin hmu 2 banbwkkhrknxy hmu 3 banbwkkhrknxy hmu 4 banhnxngpakhrng hmu 5 banaemkhawehnuxhmu 6 banbwkkhrkihmhmu 7 bwkkhrknxyrimkhawprachakrcakkarsarwcemuxpi ph s 2561 tablhnxngpakhrngmiprachakrtamthaebiynrasdrthngsin 8 868 khn raylaexiydcaaenktamephsaelaekhtkarpkkhrxngtamtarangdanlang xnung cakkhxmulkhxngethsbaltablhnxngpakhrngphbwaprachakrtamthaebiynrasdrkhidepn 45 khxngcanwnprachakrthnghmdinphunthi sungthiehluxxik 55 khidepnraw 10 800 khn khuxprachakraefngsungmikarhmunewiynekhaxxkphunthixyangsmaesmxenuxngcaktablepnthitngkhxngaehlngngan odyechphaaechiyngihmbisenspharkhaelahangsrrphsinkhahlayaehng rwmthungmhawithyalyphayphthiepnsthansuksakhnadihyinphunthi swn chay hying rwm3 359 3 918 7 277tablhnxngpakhrnginekhtethsbalnkhrechiyngihm 752 839 1 591rwm 4 111 4 757 8 868khxmul krmkarpkkhrxng krathrwngmhadithy eduxnthnwakhm ph s 2561sthanthisakhymhawithyalyphayph ekhtaemkhaw xangxingkhxmulthwip cakewbisdethsbaltablhnxngpakhrng subkhnwnthi 24 mkrakhm 2555 prachakrinethsbaltablhnxngpakhrng odykrmkarpkkhrxng prawtiethsbaltablhnxngpakhrng 2011 09 10 thi ewyaebkaemchchin cakewbisdethsbaltablhnxngpakhrng subkhnwnthi 24 mkrakhm 2555 rachkiccanuebksa 2492 phrarachkvsdikaepliynnamtablbangaehng ph s 2492 subkhnemux 5 kumphaphnth 2562 rachkiccanuebksa 2526 phrarachkvsdikaepliynaeplngekhtethsbalnkhrechiyngihm cnghwdechiyngihm ph s 2526 2021 07 03 thi ewyaebkaemchchin subkhnemux 5 kumphaphnth 2562 rachkiccanuebksa 2549 prakaskrathrwngmhadithy eruxng cdtngxngkhkarbriharswntablhnxngpakhrng xaephxemuxngechiyngihm cnghwdechiyngihm epnethsbaltablhnxngpakhrng subkhnemux 5 kumphaphnth 2562 prachakrinethsbalnkhrechiyngihm swntablhnxngpakhrng odykrmkarpkkhrxngaehlngkhxmulxunewbisdethsbaltablhnxngpakhrng 2012 06 16 thi ewyaebkaemchchin tablhnxngpakhrng 2012 02 09 thi ewyaebkaemchchin cakewbisdithytabl dxtkhxm aephnthiaelakhaxthibayaenwekhtethsbaltablhnxngpakhrng hna 5 cakrachkiccanuebksa 2549