สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1 หรือ ขุนหลวงพ่องั่ว (พ.ศ. 1854 – พ.ศ. 1931) เป็นพระเจ้ากรุงศรีอยุธยาพระองค์แรกในราชวงศ์สุพรรณภูมิที่ได้ครองกรุงศรีอยุธยา ตั้งแต่ปี พ.ศ. 1913 – 1931 รวมเป็นระยะเวลา 18 ปี พระองค์เป็นพระเชษฐาของพระมเหสีในสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) และเป็นพระปิตุลา (ลุง) ของสมเด็จพระราเมศวร
สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1 | |
---|---|
พระเจ้ากรุงศรีอยุธยา | |
ครองราชย์ | พ.ศ. 1913 — 1931 (18 ปี 0 วัน) |
ก่อนหน้า | สมเด็จพระราเมศวร (ราชวงศ์อู่ทอง) |
ถัดไป | สมเด็จพระเจ้าทองลัน |
ผู้ครองเมืองสุพรรณบุรี | |
ครองราชย์ | พ.ศ. 1894 — 1916 |
ก่อนหน้า | พระเจ้าอู่ทอง |
ถัดไป | สมเด็จพระอินทราชา |
พระราชสมภพ | พ.ศ. 1854 |
สวรรคต | พ.ศ. 1931 (78 พรรษา) |
พระราชบุตร | สมเด็จพระเจ้าทองลัน สมเด็จพระอินทราชา |
ราชวงศ์ | สุพรรณภูมิ |
ช่วงเวลา | |
เหตุการณ์สำคัญ |
|
พระราชประวัติ
มีข้อสันนิษฐานว่าสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1 เป็นราชบุตรพระองค์ที่ 5 เพราะคำว่า "งั่ว" หมายถึงลำดับที่ 5 ตามการนับเลขแบบไทย และเป็นพระเชษฐาของพระมเหสีในสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 จึงตรัสเรียกพระองค์ว่าพระเชษฐา
เมื่อสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 ทรงสถาปนากรุงศรีอยุธยาเมื่อปี พ.ศ. 1893 ในการนั้นพระองค์ทรงสถาปนาขุนหลวงพ่องั่วขึ้นเป็น "สมเด็จพระบรมราชาธิราช" พร้อมทั้งโปรดให้ขึ้นไปครองราชสมบัติ ณ เมืองสุพรรณบุรี ภายหลังการสวรรคตของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 สมเด็จพระราเมศวรพระราชโอรสในสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 เสด็จมาแต่เมืองลพบุรีและขึ้นเสวยราชสมบัติสืบต่อมา โดยพระองค์ยังคงครองราชสมบัติอยู่ที่เมืองสุพรรณบุรีเช่นเดิม
จนกระทั่ง ในปี พ.ศ. 1916 พระองค์ได้เสด็จจากเมืองสุพรรณบุรีมายังกรุงศรีอยุธยา ความทราบถึงสมเด็จพระราเมศวร พระองค์จึงเสด็จออกไปอัญเชิญเสด็จพระมาตุลาเข้าสู่พระนคร หลังจากนั้น สมเด็จพระราเมศวรได้ถวายราชสมบัติแก่พระองค์และถวายบังคมลาเสด็จไปครองเมืองลพบุรีตามเดิม พระองค์เสด็จสวรรคตในปี พ.ศ. 1931 รวมระยะเวลาในการครองราชสมบัติได้ 15 ปี โดยสมเด็จพระเจ้าทองลัน พระราชโอรสของพระองค์ได้เสด็จขึ้นครองราชสมบัติสืบไป
พระราชกรณียกิจ
ราชการ
ด้วยทรงเป็นจอมทัพที่เข้มแข็ง พระราชกรณียกิจส่วนใหญ่ตลอดรัชกาลจึงทรงเป็นจอมทัพออกไปทำการรณรงค์ โดยศึกสำคัญมีดังนี้
ศึกเขมรแปรพักตร์
เมื่อ พ.ศ. 1896 พระองค์ได้ทรงยกทัพไปยังนครธมแห่งกรุงกัมพูชาธิบดีเพื่อช่วยทัพของสมเด็จพระราเมศวรที่เข้าโจมตีกรุงกัมพูชาธิบดีก่อนหน้านั้น การศึกครั้งนี้มีเหตุจากการที่พระเจ้ากรุงกัมพูชาบดีแปรพักตร์ ดังนั้น สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 จึงมีพระราชโองการให้สมเด็จพระราเมศวรยกทัพไปปราบปราม แต่การไม่เป็นดังคาด ทัพพระเจ้ากรุงกัมพูชาธิบดีสามารถโจมตีทัพหน้าของกรุงศรีอยุธยาจนแตกพ่าย แล้วจึงเข้าปะทะกับทัพหลวงต่อ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 จึงมีพระราชโองการให้ขุนตำรวจออกไปเชิญพระองค์ที่ประทับอยู่ ณ ขึ้นไปทำศึกช่วยสมเด็จพระราเมศวร การศึกดำเนินไปเป็นระยะเวลา 1 ปีโดยประมาณ จึงสามารถเอาชนะกรุงกัมพูชาธิบดีได้สำเร็จและได้กวาดต้อนครัวชาวกัมพูชาธิบดีเข้ามายังอยู่กรุงศรีอยุธยาเป็นจำนวนมาก
หลังจากที่พระองค์ขึ้นครองราชสมบัติแห่งกรุงศรีอยุธยาแล้ว ในปี พ.ศ. 1917 พระองค์ได้เสด็จขึ้นไปทำสงครามกับเมืองฝ่ายเหนือหลายเมือง เช่น เมืองชากังราว เมืองพิษณุโลก เวียงเชียงใหม่ เมืองนครลำปาง สงครามยืดเยื้อกันมาเป็นเวลานาน จนพระองค์เสด็จสวรรคต
สงครามกับเมืองชากังราว
พระองค์ทรงยกกองทัพขึ้นไปยังเมืองชากังราวถึง 4 ครั้ง เนื่องจากเมืองชากังราวเป็นเมืองหน้าด่านของอาณาจักรสุโขทัย โดยครั้งแรกนั้นทรงยกกองทัพไปเมืองปี พ.ศ. 1919 พระยาไสแก้วและพระยาคำแหงเจ้าเมืองชากังราวออกรบต่อพระองค์ การศึกในครั้งนั้นเป็นเหตุให้พระยาไสแก้วเสียชีวิตแต่พระยาคำแหงนั้นสามารถกลับเข้าเมืองได้ แล้วทรงยกทัพกลับกรุงศรีอยุธยา พระองค์ยกทัพขึ้นไปเมืองชากังราวครั้งที่ 2 เมื่อปี พ.ศ. 1921 พระยาคำแหงและท้าวผ่าคองคิดกันว่าจะยอทัพหลวงทำมิได้ ครั้งนั้นท้าวผ่าคองเลิกทัพหนีแต่พระองค์ทรงยกทัพตามและสามารถตีทัพท้าวผ่าคองแตก ได้ท้าวพระยาเสนาขุนหมื่นเป็นจำนวนมากแล้วทรงยกทัพหลวงกลับพระนคร พระองค์ยกทัพมาเมืองชากังราวเป็นครั้งที่ 3 เมื่อปี พ.ศ. 1924 ครั้งนั้นพระมหาธรรมราชาที่ 2 พระมหากษัตริย์ลำดับที่ 7 แห่งกรุงสุโขทัยทรงออกรบเป็นสามารถ แต่เห็นจะสู้ทัพจากกรุงศรีอยุธยาไม่ไหว ดังนั้น พระมหาธรรมราชาจึงออกมาถวายบังคม พระองค์ทรงให้พระมหาธรรมราชาครองเมืองต่อไปในฐานะเป็นประเทศราชของกรุงศรีอยุธยาแล้วทรงยกทัพหลวงกลับพระนคร พระองค์ยกทัพไปเมืองชากังราวอีกครั้งเมื่อปี พ.ศ. 1931 แต่ไม่ปรากฏว่าทรงยกทัพไปด้วยสาเหตุอันใด ครั้งนั้นทรงพระประชวรและเสด็จสวรรคตระหว่างการเสด็จกลับกรุงศรีอยุธยา
การพระศาสนา
เมื่อ พ.ศ. 1918 พระองค์และพระมหาเถรธรรมากัลญาณได้ปรึกษากันและทรงสถาปนาพระศรีรัตนมหาธาตุ ฝ่ายบูรพาทิศ (วัดมหาธาตุ) หน้าพระบันชรสิงห์สูง 19 วา ยอดนพศูลสูง 3 วา
อ้างอิง
- พระราชพงศาวดาร ฉบับพระราชหัตถเลขา. สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช พิมพ์ขึ้นเป็นส่วนพระราชกุศลทานมัยในงานพระศพ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวรเสฐสุดา, พระอรรคชายาเธอ กรมขุนอรรควรราชกัญญา, สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมขุนพิจิตรเจษฎจันทร์ และสมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมขุนสวรรคโลกลักษณวดี. พ.ศ. 2455.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|year=
((help)) - พระราชพงศาวดารกรุงเก่า ฉบับหลวงประเสริฐอักษรนิติ์. เจ้าภาพพิมพ์แจกในงานพระราชทานเพลิงศพ พันเอกพร้อม มิตรภักดี (พระยานรินทร์ราชเสนี). พ.ศ. 2486.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|year=
((help))
ดูเพิ่ม
ก่อนหน้า | สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1 | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
พระเจ้าอู่ทอง | เจ้าผู้ครองเมืองสุพรรณบุรี (เมืองอู่ทองแคว้นสุพรรณภูมิเก่า) (พ.ศ. 1894 - 1916) | สมเด็จพระอินทราชา | ||
สมเด็จพระราเมศวร (ครั้งที่ 1) (ราชวงศ์อู่ทอง) (พ.ศ. 1912 - 1913) | พระเจ้ากรุงศรีอยุธยา (ราชวงศ์สุพรรณภูมิ) (พ.ศ. 1913 - 1931) | สมเด็จพระเจ้าทองลัน (ราชวงศ์สุพรรณภูมิ) (พ.ศ. 1931) |
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
smedcphrabrmrachathirachthi 1 hrux khunhlwngphxngw ph s 1854 ph s 1931 epnphraecakrungsrixyuthyaphraxngkhaerkinrachwngssuphrrnphumithiidkhrxngkrungsrixyuthya tngaetpi ph s 1913 1931 rwmepnrayaewla 18 pi phraxngkhepnphraechsthakhxngphramehsiinsmedcphraramathibdithi 1 phraecaxuthxng aelaepnphrapitula lung khxngsmedcphraraemswrsmedcphrabrmrachathirachthi 1phraecakrungsrixyuthyakhrxngrachyph s 1913 1931 18 pi 0 wn kxnhnasmedcphraraemswr rachwngsxuthxng thdipsmedcphraecathxnglnphukhrxngemuxngsuphrrnburikhrxngrachyph s 1894 1916kxnhnaphraecaxuthxngthdipsmedcphraxinthrachaphrarachsmphphph s 1854swrrkhtph s 1931 78 phrrsa phrarachbutrsmedcphraecathxngln smedcphraxinthracharachwngssuphrrnphumichwngewlaehtukarnsakhysngkhramtiemuxngekhmrsngkhramtiemuxngchakngraw kaaephngephchr sthapna wdmhathatuphrarachprawtimikhxsnnisthanwasmedcphrabrmrachathirachthi 1 epnrachbutrphraxngkhthi 5 ephraakhawa ngw hmaythungladbthi 5 tamkarnbelkhaebbithy aelaepnphraechsthakhxngphramehsiinsmedcphraramathibdithi 1 smedcphraramathibdithi 1 cungtrseriykphraxngkhwaphraechstha emuxsmedcphraramathibdithi 1 thrngsthapnakrungsrixyuthyaemuxpi ph s 1893 inkarnnphraxngkhthrngsthapnakhunhlwngphxngwkhunepn smedcphrabrmrachathirach phrxmthngoprdihkhunipkhrxngrachsmbti n emuxngsuphrrnburi phayhlngkarswrrkhtkhxngsmedcphraramathibdithi 1 smedcphraraemswrphrarachoxrsinsmedcphraramathibdithi 1 esdcmaaetemuxnglphburiaelakhuneswyrachsmbtisubtxma odyphraxngkhyngkhngkhrxngrachsmbtixyuthiemuxngsuphrrnburiechnedim cnkrathng inpi ph s 1916 phraxngkhidesdccakemuxngsuphrrnburimayngkrungsrixyuthya khwamthrabthungsmedcphraraemswr phraxngkhcungesdcxxkipxyechiyesdcphramatulaekhasuphrankhr hlngcaknn smedcphraraemswridthwayrachsmbtiaekphraxngkhaelathwaybngkhmlaesdcipkhrxngemuxnglphburitamedim phraxngkhesdcswrrkhtinpi ph s 1931 rwmrayaewlainkarkhrxngrachsmbtiid 15 pi odysmedcphraecathxngln phrarachoxrskhxngphraxngkhidesdckhunkhrxngrachsmbtisubipphrarachkrniykicrachkar dwythrngepncxmthphthiekhmaekhng phrarachkrniykicswnihytlxdrchkalcungthrngepncxmthphxxkipthakarrnrngkh odysuksakhymidngni sukekhmraeprphktr emux ph s 1896 phraxngkhidthrngykthphipyngnkhrthmaehngkrungkmphuchathibdiephuxchwythphkhxngsmedcphraraemswrthiekhaocmtikrungkmphuchathibdikxnhnann karsukkhrngnimiehtucakkarthiphraecakrungkmphuchabdiaeprphktr dngnn smedcphraramathibdithi 1 cungmiphrarachoxngkarihsmedcphraraemswrykthphipprabpram aetkarimepndngkhad thphphraecakrungkmphuchathibdisamarthocmtithphhnakhxngkrungsrixyuthyacnaetkphay aelwcungekhapathakbthphhlwngtx smedcphraramathibdithi 1 cungmiphrarachoxngkarihkhuntarwcxxkipechiyphraxngkhthiprathbxyu n khunipthasukchwysmedcphraraemswr karsukdaeninipepnrayaewla 1 piodypraman cungsamarthexachnakrungkmphuchathibdiidsaercaelaidkwadtxnkhrwchawkmphuchathibdiekhamayngxyukrungsrixyuthyaepncanwnmak hlngcakthiphraxngkhkhunkhrxngrachsmbtiaehngkrungsrixyuthyaaelw inpi ph s 1917 phraxngkhidesdckhunipthasngkhramkbemuxngfayehnuxhlayemuxng echn emuxngchakngraw emuxngphisnuolk ewiyngechiyngihm emuxngnkhrlapang sngkhramyudeyuxknmaepnewlanan cnphraxngkhesdcswrrkht sngkhramkbemuxngchakngraw phraxngkhthrngykkxngthphkhunipyngemuxngchakngrawthung 4 khrng enuxngcakemuxngchakngrawepnemuxnghnadankhxngxanackrsuokhthy odykhrngaerknnthrngykkxngthphipemuxngpi ph s 1919 phrayaisaekwaelaphrayakhaaehngecaemuxngchakngrawxxkrbtxphraxngkh karsukinkhrngnnepnehtuihphrayaisaekwesiychiwitaetphrayakhaaehngnnsamarthklbekhaemuxngid aelwthrngykthphklbkrungsrixyuthya phraxngkhykthphkhunipemuxngchakngrawkhrngthi 2 emuxpi ph s 1921 phrayakhaaehngaelathawphakhxngkhidknwacayxthphhlwngthamiid khrngnnthawphakhxngelikthphhniaetphraxngkhthrngykthphtamaelasamarthtithphthawphakhxngaetk idthawphrayaesnakhunhmunepncanwnmakaelwthrngykthphhlwngklbphrankhr phraxngkhykthphmaemuxngchakngrawepnkhrngthi 3 emuxpi ph s 1924 khrngnnphramhathrrmrachathi 2 phramhakstriyladbthi 7 aehngkrungsuokhthythrngxxkrbepnsamarth aetehncasuthphcakkrungsrixyuthyaimihw dngnn phramhathrrmrachacungxxkmathwaybngkhm phraxngkhthrngihphramhathrrmrachakhrxngemuxngtxipinthanaepnpraethsrachkhxngkrungsrixyuthyaaelwthrngykthphhlwngklbphrankhr phraxngkhykthphipemuxngchakngrawxikkhrngemuxpi ph s 1931 aetimpraktwathrngykthphipdwysaehtuxnid khrngnnthrngphraprachwraelaesdcswrrkhtrahwangkaresdcklbkrungsrixyuthya karphrasasna emux ph s 1918 phraxngkhaelaphramhaethrthrrmaklyanidpruksaknaelathrngsthapnaphrasrirtnmhathatu fayburphathis wdmhathatu hnaphrabnchrsinghsung 19 wa yxdnphsulsung 3 waxangxingphrarachphngsawdar chbbphrarachhtthelkha smedc ecafakrmphrayaphanuphnthuwngswredch phimphkhunepnswnphrarachkuslthanmyinnganphrasph phraecabrmwngsethx krmhlwngwresthsuda phraxrrkhchayaethx krmkhunxrrkhwrrachkyya smedc ecafakrmkhunphicitrecsdcnthr aelasmedc ecafakrmkhunswrrkholklksnwdi ph s 2455 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite book title aemaebb Cite book cite book a trwcsxbkhawnthiin year help phrarachphngsawdarkrungeka chbbhlwngpraesrithxksrniti ecaphaphphimphaeckinnganphrarachthanephlingsph phnexkphrxm mitrphkdi phrayanrinthrrachesni ph s 2486 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite book title aemaebb Cite book cite book a trwcsxbkhawnthiin year help duephimrayphranamphramhakstriyithykxnhna smedcphrabrmrachathirachthi 1 thdipphraecaxuthxng ecaphukhrxngemuxngsuphrrnburi emuxngxuthxngaekhwnsuphrrnphumieka ph s 1894 1916 smedcphraxinthrachasmedcphraraemswr khrngthi 1 rachwngsxuthxng ph s 1912 1913 phraecakrungsrixyuthya rachwngssuphrrnphumi ph s 1913 1931 smedcphraecathxngln rachwngssuphrrnphumi ph s 1931