เบเกิล (อังกฤษ: bagel, beigel) กำเนิดในประเทศโปแลนด์ มีลักษณะเป็นรูปวงแหวน ทำจากแป้งสาลี ขนาดประมาณ 1 กำมือ นำไปต้มในน้ำเดือดสักพักหนึ่ง แล้วนำไปอบต่อ จะได้เนื้อภายในที่แน่นและนิ่ม กับเนื้อภายนอกสีอมน้ำตาล มักโรยหน้าด้วยงาดำ บ้างอาจโรยเกลือบนเบเกิล ทั้งยังมีแป้งประเภทต่าง ๆ ที่ใช้เป็นวัตถุดิบ เช่น ข้าวไรย์ หรือแป้งจากธัญพืชไม่ขัดสี
เบเกิลแบบธรรมดาที่วางขายกันทั่วไป (โดยใช้การอบ) | |
ประเภท | ขนมปัง |
---|---|
แหล่งกำเนิด | ประเทศโปแลนด์ |
ภูมิภาค | ยุโรปกลาง |
ส่วนผสมหลัก | แป้งสาลี |
รูปแบบอื่น | พิซซาเบเกิล |
|
เบเกิลเป็นที่นิยมในประเทศแคนาดาและสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะในเมืองที่มีประชากรชาวยิวอาศัยจำนวนมาก วิธีการทำเบเกิลนั้นมีหลากหลาย เช่น เบเกิลที่ทำในเบเกอรี หรือเบเกิลประเภทแช่แข็งที่หาซื้อได้ตามซูเปอร์มาร์เก็ตในประเทศเหล่านั้น
เบเกิลชนิดที่เป็นวงกลมและมีรูตรงกลางออกแบบมาเมื่อหลายร้อยปีก่อน ซึ่งมีข้อดีหลาย ๆ อย่าง นอกจากการอบ ยังสามารถหยิบจับง่ายและยังเป็นจุดเด่นทำให้น่าสนใจอีกด้วย
ประวัติ
บ้างมีความเชื่อว่าเบเกิลนั้นไม่ได้มีรูปแบบมาจากการฉลองชัยชนะของสมเด็จพระเจ้าจอห์นที่ 3 โซบีสกีแห่งโปแลนด์ เหนือออตโตมันเติร์ก ในยุทธการที่เวียนนา เมื่อ ค.ศ. 1683 แท้จริงแล้วคาดว่า มีการคิดค้นเบเกิลมาก่อนหน้านี้ในเมืองกรากุฟ ประเทศโปแลนด์ เพื่อเป็นคู่แข่งของบูบลิก (อังกฤษ: bublik) หรือที่ชาวโปแลนด์รู้จักในชื่อ โอบวาร์ซาเนก (โปแลนด์: obwarzanek) ซึ่งเป็นขนมปังทำจากแป้งสาลีสำหรับเทศกาลมหาพรต
เลโอ รอสเต็น นักภาษาศาสตร์ชาวโปแลนด์เขียนใน "ความสุขของยิดดิช" (The Joys of Yiddish) ถึงคำว่า "bajgiel" ในระเบียบของชุมชนเมืองกรากุฟ เมื่อปี ค.ศ. 1610 ซึ่งระบุไว้ว่าเป็นของขวัญสำหรับหญิงในการคลอดบุตร
ในคริสต์ศตวรรษที่ 16 และต้นคริสต์ศตวรรษที่ 17 เบเกิล (bajgiel) กลายเป็นอาหารประจำชาติโปแลนด์อย่างหนึ่ง รวมไปถึงอาหารของชาวสลาฟโดยรวม ชื่อนั้นมาจากภาษายิดดิชจากคำว่า 'beygal' ซึ่งมาจากภาษาเยอรมันคำว่า 'beugel' มีความหมายว่าวงแหวนหรือสร้อยข้อมือ
คำว่า beugal ซึ่งใช้ในภาษายิดดิช และภาษาออสเตรียเยอรมัน เพื่ออธิบายรูปลักษณ์ของขนมหวานที่โรยหน้าด้วย "โมนบอยเกิล" (เมล็ดงาดำ) และ "นุสส์เบเกิล" (ถั่ว) หรือในทางใต้ของเยอรมนีที่เบเกิลมีความหมายว่า กองท่อนไม้ จากการอ้างอิงตามพจนานุกรมของเมอร์เรียม-เว็บสเตอร์ 'เบเกิล' มาจากคำทับศัพท์ของภาษายิดดิช 'beygl' ซึ่งมีรากศัพท์จากภาษาเยอรมันสูงกลาง (Middle High German) 'เบิลเกิล' (เยอรมัน: böugel) หรือวงแหวน ซึ่งมีรากศัพท์มากจากคำว่า 'บอซ' แปลว่าแหวน ในภาษาเยอรมันสูงเก่า (Old High German) คล้ายกับคำว่า 'bēag' ในภาษาอังกฤษเก่า คล้ายกันในศัพทมูลวิทยา ของพจนานุกรมนิวเวิลด์คอลเลจของเว็บสเตอร์ ที่กล่าวว่าภาษาเยอรมันสูงกลางได้รับอิทธิพลมาจากภาษาออสเตรียเยอรมัน 'บอยเกิล' (beugel) เป็นชื่อของขนมที่มีรูปร่างเหมือนครัวซ็อง และคล้ายกับคำของภาษาเยอรมัน 'บือเกิล' (เยอรมัน: bügel) ซึ่งแปลว่าแหวน
ในเขตบริกเลนและปริมณฑลของลอนดอน ประเทศอังกฤษ เบเกิล (อังกฤษ: bagels) หรือในท้องถิ่นสะกดว่า "beigels" มีขายตั้งแต่กลางคริสต์ศตวรรษที่ 19 มักจัดแสดงในหน้าต่างของเบเกอรีบนชั้นไม้
มีการนำเบเกิลเข้าสหรัฐอเมริกา โดยผู้อพยบชาวโปแลนด์-ยิว กับธุรกิจที่เฟื่องฟูในนิวยอร์ก ที่ถูกควบคุมโดยคนอบเบเกิลท้องถิ่น 338 (Bagel Bakers Local 338) ซึ่งมีสัญญากับเบเกอรีเบเกิลเกือบทั้งหมดทั้งในและรอบเมืองสำหรับแรงงานทำเบเกิล ต่อมาเบเกิลเริ่มแพร่หลายทั่วทั้งทวีปอเมริกาเหนือในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 20 ส่วนหนึ่งเป็นความพยายามของแฮร์รี เลนเดอร์ เจ้าของเลนเดอส์เบเกิล และลูกชายของเขา เมอร์เรย์ เลนเดอร์ และฟลอเรนซ์ เซนเดอร์ ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกการผลิตเบเกิลอัตโนมัติและการจัดจำหน่ายเบเกิลแช่แข็งในคริสต์ทศวรรษ 1960 เมอร์เรย์ยังประดิษฐ์การหั่นเบเกิลก่อน (pre-slicing) ด้วย
ในสมัยใหม่ เกรกอรี ชามิตอฟฟ์ นักบินอวกาศชาวคะเนเดียน-อเมริกันของนาซา เป็นบุคคลแรกที่นำเบเกิลขึ้นสู่อวกาศในภารกิจสเปซชัทเทิล ขึ้นสู่สถานีอวกาศนานาชาติ ใน ค.ศ. 2008 โดยเขาได้นำเบเกิลงาดำแบบมอนทรีออล 18 ชิ้น ซึ่งผลิตโดยแฟร์เมาต์เบเกิล เบเกอรีในมอนทรีออล โดยชามิตอฟฟ์นั้นเกิดในเมืองมอนทรีออลและเกิดในกลุ่มชนรัสเซียน-ยิว และมีควมเกี่ยวข้องกับครอบครัวชลาฟแมน ซึ่งเป็นเจ้าของเบเกอรี.
วิธีการทำและการเก็บรักษา
แป้งของเบเกิลนั้น ดั้งเดิมจะใช้แป้งสาลีที่ถูกคัดรำข้าวออก, เกลือ, น้ำ และ หัวเชื้อยีสต์ แป้งที่เหมาะสมสำหรับการทำเบเกิลคือแป้งที่ทำให้เบเกิลเป็นรูพรุนและมีเนื้อที่นุ่ม เบเกิลส่วนใหญ่นั้นจะใช้สูตรแบบที่จะเพิ่มความหวานลงไปในตัวแป้ง โดยการใส่ข้าวบาร์เลย์, น้ำผึ้ง, หัวเชื้อฟรักโตสจากข้าวโพด, น้ำตาล, ไข่, นม หรือ เนย ซึ่งหัวเชื้อนั้นอาจใช้เทคนิคเดียวกับการทำซอร์โด (sourdough)
เบเกิลส่วนใหญ่จะทำโดยวิธีดังนี้ :
- ผสมส่วนผสมและนวดแป้ง
- ปั้นแป้งให้ได้รูปทรงของเบเกิล โดยมีรูอยู่ตรงกลาง
- เก็บเบเกิลเป็นระยะเวลานาน 12 ชั่วโมงในอุณหภูมิต่ำ 4.5–10 องศาเซลเซียส
- ต้มเบเกิลในน้ำเดือด หรืออาจจะใช้ น้ำด่าง, เบคกิงโซดา, หัวเชื้อข้าวบาร์เลย์ หรือ น้ำผึ้ง แทนน้ำ
- อบที่อุณหภูมิระหว่าง 175–315 องศาเซลเซียส
วิธีการทำเบเกิลที่กล่าวมานั้นเป็นที่นิยมและกล่าวกันว่าจะทำให้เบเกิลมีรสชาติที่โดดเด่น เพราะจะทำให้เนื้อของเบเกิลมีลักษณะผิวมันเงาและนุ่ม ในไม่กี่ปีที่ผ่านมาได้มีวิธีการทำแบบใหม่คือเบเกิลอบไอน้ำ โดยจะไม่มีการต้มเบเกิล และเปลี่ยนเตาอบเป็นการอบด้วยไอน้ำ คล้ายกับการรวบกรรมวิธีให้เหลือเพียงขั้นตอนเดียว ในการผลิตเบเกิล เบเกิลอบไอน้ำจะใช้แรงงานน้อยลงเพราะใช้เพียงวิธีเดียวในการผลิต เบเกิลจะถูกแช่แข็งและนำไปอบไอน้ำ อย่างไรก็ตาม เบเกิลอบไอน้ำนั้นไม่ได้รับการยอมรับในหมู่ครูสอนทำเบเกิล เพราะมีความนุ่มและเหนียวน้อยเกินไปจนคล้ายกับฟิงเกอร์โรลที่มีรูปร่างเหมือนเบเกิล และเบเกิลอบไอน้ำมีคุณภาพที่ต่ำ เพราะมีการฉีดเพิ่มค่า pH ให้เนื้อเบเกิลมีสีน้ำตาล
หากไม่ได้บริโภคเบเกิลในทันที ก็จะสามารถเก็บเบเกิลให้สดใหม่เสมอได้ด้วยการห่อไว้ในถุงกระดาษ และนำถุงกระดาษห่อไว้ในถุงพลาสติกอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งจะสามารถเก็บไว้ในช่องแช่แข็งได้ถึง 6 เดือน
คุณภาพของเบเกิล
คุณภาพของเบเกิลนั้นสามารถประเมินได้จากการชิมหรือการพิจารณาด้วยคุณค่าทางโภชนาการ
เบเกิลที่ดีควรมีเนื้อนอกที่กรอบเล็กน้อย โดยจะสามารถแยกเป็นชิ้นได้ด้วยการกัดหรือการฉีก ส่วนด้านในนั้นจะต้องมีความเหนียวและนิ่ม และรสชาติต้องสดใหม่ รสชาติของเบเกิลอาจได้รับการปรุงรสจากเครื่องเทศต่าง ๆ เช่น หัวหอม, กระเทียม, งาขาว และ งาดำ สีของเบเกิลอาจมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อนำไปอบ. ซึ่งจะทำให้เนื้อด้านในมีรสชาติและมีความเหนียวนุ่ม
เบเกิลทั่วไปให้พลังงาน 260–350 แคลอรี, ไขมัน 1.0–4.5 กรัม, โซเดียม 330–660 มิลลิกรัม และ ไฟเบอร์ 2–5 กรัม เบเกิลแบบกลูเตนฟรี หรือสำหรับผู้ที่ไม่รับประทานแป้ง จะมีไขมันถึง 9 กรัม เพราะจะใช้ส่วนผสมอื่นแทนข้าวสาลี
รูปแบบของเบเกิล
ความแตกต่างของเบเกิล 2 รูปแบบระหว่างเบเกิลแบบมอนทรีอัล และ เบเกิลแบบนิวยอร์ก แม้ว่า 2 รูปแบบนี้จะเป็นแบบดั้งเดิมที่นำเข้ามาจากทวีปยุโรปตะวันออกสู่ทวีปอเมริกาเหนือ โดย "เบเกิลแบบมอนทรีอัล" จะใช้มอลต์และน้ำตาล โดยจะไม่ใช้เกลือ ซึ่งจะต้มด้วยน้ำผึ้งผสมน้ำก่อนจะนำไปอบด้วยเตาถ่าน และส่วนใหญ่จะโรยด้วยงาขาว (เบเกิลในโตรอนโตจะคล้ายกับนิวยอร์กที่จะมีความหวานน้อย โรยด้วยเมล็ดงาดำ และอบด้วยเตาธรรมดา)
ส่วน "เบเกิลแบบนิวยอร์ก" จะใส่มอลต์และเกลือ ต้มในน้ำเดือดก่อนจะนำไปอบในเตาธรรมดา เบเกิลที่ได้จะมีลักษณะอวบ ซึ่งแตกต่างกับแบบมอนทรีอัลที่มีขนาดเล็ก (แต่รูตรงกลางมีขนาดใหญ่) และหวานกว่า เช่น ดาวิโดวิชเบเกิล (Davidovich Bagels) ผลิตในนิวยอร์ก เป็นที่โด่งดังและเป็นที่ยอมรับของผู้ผลิตเบเกิล ซึ่งใช้เทคนิคการทำเบเกิลแบบดั้งเดิม คล้ายกับแบบมอนทรีอัล โดยจะใช้เตาถ่านในการอบ เบเกิลสามารถพบได้ทั่วไปในพื้นเมือง ซึ่งจะแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ รวมไปถึงเบเกิลแบบชิคาโก ซึ่งใช้การอบไอน้ำ เบเกิลแบบลอนดอน จะมีเนื้อที่หยาบและมีฟองอากาศด้านในจำนวนมาก นอกจากนี้ในประเทศแคนาดาจะมีความแตกต่างกันระหว่างแบบมอนทรีอัลกับแบบโตรอนโต และ แบบมอนทรีอัลกับแบบนิวยอร์ก
เมล็ดงาดำบางครั้งจะเรียกชื่อตามภาษายิดดิช จะออกเสียงว่า "มัน" หรือ "มอน" (เขียนว่า מאָן) ซึ่งจะคล้ายกับภาษาเยอรมันที่แปลว่างาดำ คือ "โมน" (Mohn) จอห์น มิตเซวิช พ่อครัวชาวอเมริกัน ได้แสดงให้เห็นการทำเบเกิลสูตรใหม่ที่เขาเรียกว่า "เบเกิลแบบซานฟรานซิสโก" ซึ่งผิวจะบางกว่าแบบนิวยอร์กและมีเนื้อด้านนอกที่ขรุขระ
รอบโลก
ในประเทศโปแลนด์ เบเกิลได้มีวางจำหน่ายในเบเกอรีที่ตลาดในเมืองเคลซ์ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดี โดยเบเกิลแบบโปแลนด์ส่วนใหญ่จะโรยหน้าด้วยงาขาวและงาดำ
ในประเทศรัสเซีย, ประเทศเบลารุส และประเทศยูเครน บลูบลิก (รัสเซีย: bublik) เป็นเบเกิลที่มีขนาดใหญ่ และมีรูขนาดใหญ่ ส่วนขนมปังอื่น ๆ ที่คล้ายกันที่รู้จักกันของชาวสลาฟตะวันออก คือ บารันกิ (รัสเซีย: baranki) ซึ่งมีลักษณะแห้งและเล็กกว่า และ ซุชกิ (รัสเซีย: sushki) ซึ่งมีลักษณะแห้งและเล็กกว่าเช่นกัน
ในประเทศลิทัวเนีย เบเกิลถูกเรียกว่า "เรียสเทเนีย" (ลิทัวเนีย: riestainiai) และบางครั้งก็เรียกกันในภาษาสลาวิกว่า "บารอนกอส" (สลาวิก: baronkos)
ในประเทศฟินแลนด์ "เวซิรินเกลี" (vesirinkeli) หรือขนมปังแบบฟินแลนด์ เป็นขนมปังที่ทำมาจากแป้งสาลีและยีสต์ มีลักษณะเป็นวงแหวน โดนจะนำไปต้มในน้ำเกลือก่อนจะนำมาอบ มักจะทานเป็นอาหารเช้าโดยการทาเนย ซึ่งสามารถหาซื้อได้ทั่วไปตามซูเปอร์มาร์เก็ต โดยจะมีทั้งรสหวานและเผ็ด
ที่ประเทศเยอรมนี "เบรตเซิล" (เยอรมัน: Bretzel) จะมีลักษณะนุ่มและอาจมีรูปร่างเป็นวงแหวนหรือเป็นแท่งก็ได้ ซึ่งเนื้อของขนมปังจะมีลักษณะคล้ายกับเบเกิล สิ่งสำคัญที่สุดคือเนื้อด้านนอกจะมีผิวมันวาวจากการนำไปชุบน้ำด่าง นอกจากนี้ "โมนเบิร์ทเชน" (เยอรมัน: Mohnbrötchen) จะเป็นเบเกิลแบบที่โรยหน้าด้วยงาดำ คล้ายกับเบเกิลทั่วไป แต่จะมีความหวานน้อยและเนื้อแน่น
ในประเทศโรมาเนีย "โคฟริกี" (โรมาเนีย: covrigi) จะโรยหน้าด้วยเมล็ดงาดำ, งาขาว หรือเกลือ โดยเฉพาะภาคกลางของประเทศ ซึ่งสูตรนี้จะไม่มีการเพิ่มความหวาน
ในบางส่วนของประเทศออสเตรีย ขนมอบรูปวงแหวนที่เรียกว่า "บอยเกิล" (เยอรมัน: beugel) จะถูกวางขายในสัปดาห์ก่อนอีสเตอร์ ซึ่งเหมือนกับเบเกิล บอยเกิลจะใช้แป้งข้าวสาลีและยีสต์ โรยด้วยยี่หร่า และจะต้มในน้ำเดือดก่อนนำไปอบ จะได้บอยเกิลที่มีความกรอบและเก็บไว้ได้นานหลายสัปดาห์ ตามธรรมเนียมนั้นเมื่อจะรับประทานต้องฉีกเป็นสองชิ้นก่อนจะทาน
ในประเทศตุรกี "อัคมา" (ตุรกี: açma) ขนมปังที่มีรูปร่างอวบและเค็ม อย่างไรก็ตาม ซีมิท (simit) ขนมปังรูปวงแหวนมักถูกเรียกว่าเบเกิลแบบตุรกี และมีเอกสารบางอย่างที่แสดงให้เห็นว่า ซีมิท ได้ถูกผลิตในอิสตันบูล ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1525 จากบันทึกของศาลอุสกูดาร์ ลงบันทึกที่ 1593 น้ำหนักและราคาของซีมิทถูกกำหนดให้เป็นมาตรฐานครั้งแรก เอฟลียา เซเลบี นักเดินทางชื่อดังในคริสต์ศตวรรษที่ 17 ได้บันทึกเอาไว้ว่ามีร้านเบเกอรีขายซีมิท 70 ร้านในอิสตันบูลช่วงปี ค.ศ. 1630 ภาพวาดสีน้ำมันของ ฌ็อง บรินเดซี ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 ก็แสดงให้เห็นว่าร้านขายซีมิทมีให้เห็นบนถนนทั่วไปของอิสตันบูล วอร์วิก โกเบล หนังสือภาพวาด ก็แสดงให้เห็นว่ามีร้านขายซีมิทในเมืองอิสตันบูล ในปี ค.ศ.1906 เช่นกัน เป็นเรื่องที่น่าแปลก เพราะซีมิทมีลักษณะคล้ายกับเบเกิลงาดำในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20
ชาวอุยกูร์ ในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ประเทศจีน มีเบเกิลที่เรียกกันว่า "เกอร์เดห์นาน" (อุยกูร์: girdeh nan) มีรากศัพท์จากภาษาเปอร์เซีย หมายถึงขนมปังวงแหวน ซึ่งเป็นหนึ่งในประเภทของ "นาน" ขนมปังที่นิยมทานกันในซินเจียง
ในประเทศญี่ปุ่น เบเกิลถูกนำเข้าครั้งแรกโดย เบเกิลเค (อังกฤษ: BagelK, ญี่ปุ่น: ベーグルK) จากนิวยอร์กเมื่อปี ค.ศ. 1989 โดยผลิตเบเกิลรสชาเขียว, ช็อคโกแลต, ถั่วเมเปิล และรสกล้วย-ถั่ว มีเบเกิลมากกว่า 3 ล้านชิ้นที่นำเข้ามาจากสหรัฐอเมริกา โดยเบเกิลส่วนใหญ่ในญี่ปุ่นมักจะมีรสหวาน คล้ายกับในสหรัฐอเมริกา
รูปแบบในยุคใหม่
ในขณะที่เบเกิลในยุคก่อนนั้นจะทำมาจาก ยีสต์ข้าวสาลี ต่อมาในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 เบเกิลมีรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น โดยเบเกิลในยุคใหม่นั้นทำมาจากแป้งที่ผสมพัมเพอร์นิกเคล, ข้าวไรย์, ซอร์โด, รำข้าว, ธัญพืช และ ขนมปังมัลติเกรน ในรูปแบบอื่น ๆ นั้นจะเป็นการเปลี่ยนรสชาติของตัวแป้ง ซึ่งวัตถุดิบที่ใช้กันแพร่หลายคือ บลูเบอร์รี, เกลือ, หอมใหญ่, กระเทียม, ไข่, อบเชย, ลูกเกด, ช็อกโกแลตชิป, เนยแข็ง หรืออาจจะเป็นส่วนผสมอื่น ๆ ในบางครั้ง เบเกิลสีเขียว ถูกผลิตขึ้นมาสำหรับ
ในปัจจุบันร้านขายเบเกิลนิยมที่จะขายเบเกิลที่มีรสชาติของช็อกโกแลตชิพ และ ขนมปังปิ้งแบบฝรั่งเศส เบเกิลแบบแซนด์วิช ได้รับความนิยมตั้งแต่ช่วงปลายยุค 1990 โดยร้านเบเกิลอย่าง บรึกเกอส์ และ ไอน์สไตน์บราเธอส์ รวมไปถึงร้านอาหารขายจานด่วนอย่าง แมคโดนัลด์ เบเกิลสามารถทานเป็นอาหารเช้าได้ ซึ่งจะถูกผลิตออกมาในรูปแบบพิเศษ โดยจะมีความนุ่มของแป้งและความหวานที่มากกว่าเบเกิลทั่วไป ซึ่งจะวางขายในรสผลไม้และรสหวาน (เช่น เชอร์รี, สตรอว์เบอร์รี, เนยแข็ง, บลูเบอร์รี, อบเชย-ลูกเกด, ช็อกโกแลตชิพ, น้ำเชื่อมเมเปิล, กล้วย และ ถั่ว) ส่วนใหญ่นั้นจะวางขายในซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ อีกทั้งยังขายในรูปแบบของแผ่น เพื่อที่จะสะดวกต่อการนำไปปิ้งอีกด้วย
อ้างอิง
- Definition: Beigel, retrieved from Dictionary.com website July 11, 2011
- Encyclopædia Britannica (2009) Bagel, retrieved February 24, 2009 from Encyclopædia Britannica Online
- Simpletoremember.com (2001). "World Jewish Population, Analysis by City". สืบค้นเมื่อ 2008-02-17.
- Nathan, Joan (2008) A Short History of the Bagel: From ancient Egypt to Lender's Slate, posted Nov. 12, 2008
- Columbia University NYC24 New Media Workshop website History of the Bagel: The Hole Story 2011-08-22 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, retrieved February 24, 2009.
- various. "Battle of Vienna: Culinary Legends". Battle of Vienna. Wikipedia. สืบค้นเมื่อ 3 August 2014.
- Filippone, Peggy Trowbridge. Bagel History: Bagels date back to the 1600s, About.com website, retrieved March 27, 2013.
- Altschuler, Glenn C. (2008) Three Centuries of Bagels, a book review of: 'The Bagel: The Surprising History of a Modest Bread', by Balinska, Maria, Yale University Press, 2008, Jewish Daily Press website, published on-line November 05, 2008 in the issue of November 14, 2008
- , 'Freelance, ' in , Nov., 18, 2011 p.16.
- Davidson, Alan (2006). Oxford Companion to Food (2nd ed.). Oxford, England: Oxford University Press. p. 49. ISBN .
{{}}
:|access-date=
ต้องการ|url=
((help)) - Merriam-Webster's Dictionary definition of 'bagel', Merriam-Webster Inc. online, 2009, retrieved 2009-04-24;
- Webster's New World College Dictionary definition of 'bagel', Wiley Publishing Inc., Cleveland, 2005, retrieved 2009-04-24;
- Klagsburn, Francine. , , July 8, 2009. Accessed July 15, 2009.
- Hevesi, Dennis (2012-03-22). "Murray Lender, Who Gave All America a Taste of Bagels, Dies at 81". New York Times. สืบค้นเมื่อ 2012-04-19.
- Rothman, Lily (2012-03-23). "Murray Lender, the man who brought bagels to the masses". . สืบค้นเมื่อ 2012-04-19.
- Space Shuttle mission ; International Space Station .
- CTV.ca Montreal-born astronaut brings bagels into space 2008-06-02 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน Sun. Jun. 1 2008 7:29 PM ET; CTV National News - 1 June 2008 - 11pm TV newscast;
- The Gazette (Montreal), Here's proof: Montreal bagels are out of this world 2008-06-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, Block, Irwin, Tuesday June 3, 2008, Section A, Page A2;
- Reinhart, P., The Bread Baker's Apprentice. Ten Speed Press, 2001, p. 115.
- Jonathan, Croswell. How to Keep a Bagel Moist, Aug 8, 2011.
- (July 2012). "Top Bagels - Bagel Buying Guide". consumerreports.org. สืบค้นเมื่อ 6 March 2014.
- Spiegel, Alison (May 6, 2014). "Bagel Wars: Montreal vs. New York-Style Bagels". Huffington Post. สืบค้นเมื่อ January 17, 2015.
- Horowitz, Ruth (October 17, 2006). "The Hole Truth: Vermont's Bagel Bakers Answer The Roll Call". Seven Days. สืบค้นเมื่อ June 9, 2011.
- Arumugam, Nadia. "Taste Test: Dunkin' Donuts' "Fake" Artisan Bagels vs Real Artisan Bagels". FORBES. Forbes. สืบค้นเมื่อ January 1, 2014.
- "Hometown Bagel, Inc". สืบค้นเมื่อ 2012-04-20.
- (August 6, 2012). "San Francisco-Style Bagels – Taking Things to a Hole New Level". Food Wishes. . สืบค้นเมื่อ August 7, 2012.
- Sahillioğlu, Halil. “Osmanlılarda Narh Müessesesi ve 1525 Yılı Sonunda İstanbul’da Fiyatlar”. Belgelerle Türk Tarihi 2 [The Narh Institution in the Ottoman Empire and the Prices in Istanbul in Late 1525. Documents in Turkish History 2] (Kasım 1967) : 56
- Ünsal, Artun. Susamlı Halkanın Tılsımı.[The Secret of the Ring with Sesames] İstanbul: YKY, 2010: 45
- Evliya Çelebi Seyahatnâmesi Kitap I. [The Seyahatname Book I] (Prof. Dr. Robert Dankoff, Seyit Ali Kahraman, Yücel Dağlı). İstanbul: YKY, 2006: 231
- Jean Brindesi, Illustrations de Elbicei atika. Musée des anciens costumes turcs d'Istanbul, Paris: Lemercier, [1855]
- Alexander Van Millingen, Constantinople (London: Black, 1906) http://www.gutenberg.org/files/39620/39620-h/39620-h.htm
- Allen, Thomas B. (March 1996). Xinjiang. National Geographic Magazine, p. 36–37
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
ebekil xngkvs bagel beigel kaenidinpraethsopaelnd milksnaepnrupwngaehwn thacakaepngsali khnadpraman 1 kamux naiptminnaeduxdskphkhnung aelwnaipxbtx caidenuxphayinthiaennaelanim kbenuxphaynxksixmnatal mkoryhnadwyngada bangxacoryekluxbnebekil thngyngmiaepngpraephthtang thiichepnwtthudib echn khawiry hruxaepngcakthyphuchimkhdsiebekilebekilaebbthrrmdathiwangkhayknthwip odyichkarxb praephthkhnmpngaehlngkaenidpraethsopaelndphumiphakhyuorpklangswnphsmhlkaepngsalirupaebbxunphissaebekiltaraxahar ebekil sux ebekilebekilkbkhrimchis aela aebblxks sungepnswnhnungkhxngkhrwxemrikn yiw ebekilepnthiniyminpraethsaekhnadaaelashrthxemrika odyechphaainemuxngthimiprachakrchawyiwxasycanwnmak withikarthaebekilnnmihlakhlay echn ebekilthithainebekxri hruxebekilpraephthaechaekhngthihasuxidtamsuepxrmarektinpraethsehlann ebekilchnidthiepnwngklmaelamirutrngklangxxkaebbmaemuxhlayrxypikxn sungmikhxdihlay xyang nxkcakkarxb yngsamarthhyibcbngayaelayngepncudednthaihnasnicxikdwyprawtibangmikhwamechuxwaebekilnnimidmirupaebbmacakkarchlxngchychnakhxngsmedcphraecacxhnthi 3 osbiskiaehngopaelnd ehnuxxxtotmnetirk inyuththkarthiewiynna emux kh s 1683 aethcringaelwkhadwa mikarkhidkhnebekilmakxnhnaniinemuxngkrakuf praethsopaelnd ephuxepnkhuaekhngkhxngbublik xngkvs bublik hruxthichawopaelndruckinchux oxbwarsaenk opaelnd obwarzanek sungepnkhnmpngthacakaepngsalisahrbethskalmhaphrt elox rxsetn nkphasasastrchawopaelndekhiynin khwamsukhkhxngyiddich The Joys of Yiddish thungkhawa bajgiel inraebiybkhxngchumchnemuxngkrakuf emuxpi kh s 1610 sungrabuiwwaepnkhxngkhwysahrbhyinginkarkhlxdbutr inkhriststwrrsthi 16 aelatnkhriststwrrsthi 17 ebekil bajgiel klayepnxaharpracachatiopaelndxyanghnung rwmipthungxaharkhxngchawslafodyrwm chuxnnmacakphasayiddichcakkhawa beygal sungmacakphasaeyxrmnkhawa beugel mikhwamhmaywawngaehwnhruxsrxykhxmux khnkhaysbietn say khaybublik aela barnki inkhriststwrrsthi 19 khawa beugal sungichinphasayiddich aelaphasaxxsetriyeyxrmn ephuxxthibayruplksnkhxngkhnmhwanthioryhnadwy omnbxyekil emldngada aela nussebekil thw hruxinthangitkhxngeyxrmnithiebekilmikhwamhmaywa kxngthxnim cakkarxangxingtamphcnanukrmkhxngemxreriym ewbsetxr ebekil macakkhathbsphthkhxngphasayiddich beygl sungmiraksphthcakphasaeyxrmnsungklang Middle High German ebilekil eyxrmn bougel hruxwngaehwn sungmiraksphthmakcakkhawa bxs aeplwaaehwn inphasaeyxrmnsungeka Old High German khlaykbkhawa beag inphasaxngkvseka khlaykninsphthmulwithya khxngphcnanukrmniwewildkhxlelckhxngewbsetxr thiklawwaphasaeyxrmnsungklangidrbxiththiphlmacakphasaxxsetriyeyxrmn bxyekil beugel epnchuxkhxngkhnmthimiruprangehmuxnkhrwsxng aelakhlaykbkhakhxngphasaeyxrmn buxekil eyxrmn bugel sungaeplwaaehwn inekhtbrikelnaelaprimnthlkhxnglxndxn praethsxngkvs ebekil xngkvs bagels hruxinthxngthinsakdwa beigels mikhaytngaetklangkhriststwrrsthi 19 mkcdaesdnginhnatangkhxngebekxribnchnim mikarnaebekilekhashrthxemrika odyphuxphybchawopaelnd yiw kbthurkicthiefuxngfuinniwyxrk thithukkhwbkhumodykhnxbebekilthxngthin 338 Bagel Bakers Local 338 sungmisyyakbebekxriebekilekuxbthnghmdthnginaelarxbemuxngsahrbaerngnganthaebekil txmaebekilerimaephrhlaythwthngthwipxemrikaehnuxinchwngplaykhriststwrrsthi 20 swnhnungepnkhwamphyayamkhxngaehrri elnedxr ecakhxngelnedxsebekil aelalukchaykhxngekha emxrery elnedxr aelaflxerns esnedxr sungepnphubukebikkarphlitebekilxtonmtiaelakarcdcahnayebekilaechaekhnginkhristthswrrs 1960 emxreryyngpradisthkarhnebekilkxn pre slicing dwy insmyihm ekrkxri chamitxff nkbinxwkaschawkhaenediyn xemriknkhxngnasa epnbukhkhlaerkthinaebekilkhunsuxwkasinpharkicsepschthethil khunsusthanixwkasnanachati in kh s 2008 odyekhaidnaebekilngadaaebbmxnthrixxl 18 chin sungphlitodyaefrematebekil ebekxriinmxnthrixxl odychamitxffnnekidinemuxngmxnthrixxlaelaekidinklumchnrsesiyn yiw aelamikhwmekiywkhxngkbkhrxbkhrwchlafaemn sungepnecakhxngebekxri ebekilaebbmxnthrixxl 3 chin prakxbipdwyebekilhnangada 1 chin aela ngakhaw xik 2 chinwithikarthaaelakarekbrksaaepngkhxngebekilnn dngedimcaichaepngsalithithukkhdrakhawxxk eklux na aela hwechuxyist aepngthiehmaasmsahrbkarthaebekilkhuxaepngthithaihebekilepnruphrunaelamienuxthinum ebekilswnihynncaichsutraebbthicaephimkhwamhwanlngipintwaepng odykariskhawbarely naphung hwechuxfrkotscakkhawophd natal ikh nm hrux eny sunghwechuxnnxacichethkhnikhediywkbkarthasxrod sourdough ebekilswnihycathaodywithidngni phsmswnphsmaelanwdaepng pnaepngihidrupthrngkhxngebekil odymiruxyutrngklang ekbebekilepnrayaewlanan 12 chwomnginxunhphumita 4 5 10 xngsaeslesiys tmebekilinnaeduxd hruxxaccaich nadang ebkhkingosda hwechuxkhawbarely hrux naphung aethnna xbthixunhphumirahwang 175 315 xngsaeslesiys withikarthaebekilthiklawmannepnthiniymaelaklawknwacathaihebekilmirschatithioddedn ephraacathaihenuxkhxngebekilmilksnaphiwmnengaaelanum inimkipithiphanmaidmiwithikarthaaebbihmkhuxebekilxbixna odycaimmikartmebekil aelaepliynetaxbepnkarxbdwyixna khlaykbkarrwbkrrmwithiihehluxephiyngkhntxnediyw inkarphlitebekil ebekilxbixnacaichaerngngannxylngephraaichephiyngwithiediywinkarphlit ebekilcathukaechaekhngaelanaipxbixna xyangirktam ebekilxbixnannimidrbkaryxmrbinhmukhrusxnthaebekil ephraamikhwamnumaelaehniywnxyekinipcnkhlaykbfingekxrorlthimiruprangehmuxnebekil aelaebekilxbixnamikhunphaphthita ephraamikarchidephimkha pH ihenuxebekilmisinatal hakimidbriophkhebekilinthnthi kcasamarthekbebekilihsdihmesmxiddwykarhxiwinthungkradas aelanathungkradashxiwinthungphlastikxikchnhnung sungcasamarthekbiwinchxngaechaekhngidthung 6 eduxnkhunphaphkhxngebekilkhunphaphkhxngebekilnnsamarthpraeminidcakkarchimhruxkarphicarnadwykhunkhathangophchnakar ebekilthidikhwrmienuxnxkthikrxbelknxy odycasamarthaeykepnchiniddwykarkdhruxkarchik swndaninnncatxngmikhwamehniywaelanim aelarschatitxngsdihm rschatikhxngebekilxacidrbkarprungrscakekhruxngethstang echn hwhxm kraethiym ngakhaw aela ngada sikhxngebekilxacmikarepliynaeplngemuxnaipxb sungcathaihenuxdaninmirschatiaelamikhwamehniywnum ebekilthwipihphlngngan 260 350 aekhlxri ikhmn 1 0 4 5 krm osediym 330 660 millikrm aela ifebxr 2 5 krm ebekilaebbkluetnfri hruxsahrbphuthiimrbprathanaepng camiikhmnthung 9 krm ephraacaichswnphsmxunaethnkhawsalirupaebbkhxngebekilkartxkhiwsuxebekilinchwngwnesartxnechathimxnthrixl khwamaetktangkhxngebekil 2 rupaebbrahwangebekilaebbmxnthrixl aela ebekilaebbniwyxrk aemwa 2 rupaebbnicaepnaebbdngedimthinaekhamacakthwipyuorptawnxxksuthwipxemrikaehnux ody ebekilaebbmxnthrixl caichmxltaelanatal odycaimicheklux sungcatmdwynaphungphsmnakxncanaipxbdwyetathan aelaswnihycaorydwyngakhaw ebekilinotrxnotcakhlaykbniwyxrkthicamikhwamhwannxy orydwyemldngada aelaxbdwyetathrrmda swn ebekilaebbniwyxrk caismxltaelaeklux tminnaeduxdkxncanaipxbinetathrrmda ebekilthiidcamilksnaxwb sungaetktangkbaebbmxnthrixlthimikhnadelk aetrutrngklangmikhnadihy aelahwankwa echn dawiodwichebekil Davidovich Bagels phlitinniwyxrk epnthiodngdngaelaepnthiyxmrbkhxngphuphlitebekil sungichethkhnikhkarthaebekilaebbdngedim khlaykbaebbmxnthrixl odycaichetathaninkarxb ebekilsamarthphbidthwipinphunemuxng sungcaaetktangknipinaetlaphunthi rwmipthungebekilaebbchikhaok sungichkarxbixna ebekilaebblxndxn camienuxthihyabaelamifxngxakasdanincanwnmak nxkcakniinpraethsaekhnadacamikhwamaetktangknrahwangaebbmxnthrixlkbaebbotrxnot aela aebbmxnthrixlkbaebbniwyxrk emldngadabangkhrngcaeriykchuxtamphasayiddich caxxkesiyngwa mn hrux mxn ekhiynwa מא ן sungcakhlaykbphasaeyxrmnthiaeplwangada khux omn Mohn cxhn miteswich phxkhrwchawxemrikn idaesdngihehnkarthaebekilsutrihmthiekhaeriykwa ebekilaebbsanfransisok sungphiwcabangkwaaebbniwyxrkaelamienuxdannxkthikhrukhrarxbolkewsirinekli Vesirinkeli cakpraethsopaelnd inpraethsopaelnd ebekilidmiwangcahnayinebekxrithitladinemuxngekhls sungepnthiruckkndi odyebekilaebbopaelndswnihycaoryhnadwyngakhawaelangada inpraethsrsesiy praethseblarus aelapraethsyuekhrn blublik rsesiy bublik epnebekilthimikhnadihy aelamirukhnadihy swnkhnmpngxun thikhlayknthiruckknkhxngchawslaftawnxxk khux barnki rsesiy baranki sungmilksnaaehngaelaelkkwa aela suchki rsesiy sushki sungmilksnaaehngaelaelkkwaechnkn inpraethslithweniy ebekilthukeriykwa eriysetheniy lithweniy riestainiai aelabangkhrngkeriykkninphasaslawikwa barxnkxs slawik baronkos inpraethsfinaelnd ewsirinekli vesirinkeli hruxkhnmpngaebbfinaelnd epnkhnmpngthithamacakaepngsaliaelayist milksnaepnwngaehwn odncanaiptminnaekluxkxncanamaxb mkcathanepnxaharechaodykarthaeny sungsamarthhasuxidthwiptamsuepxrmarekt odycamithngrshwanaelaephd thipraethseyxrmni ebrtesil eyxrmn Bretzel camilksnanumaelaxacmiruprangepnwngaehwnhruxepnaethngkid sungenuxkhxngkhnmpngcamilksnakhlaykbebekil singsakhythisudkhuxenuxdannxkcamiphiwmnwawcakkarnaipchubnadang nxkcakni omnebirthechn eyxrmn Mohnbrotchen caepnebekilaebbthioryhnadwyngada khlaykbebekilthwip aetcamikhwamhwannxyaelaenuxaenn inpraethsormaeniy okhfriki ormaeniy covrigi caoryhnadwyemldngada ngakhaw hruxeklux odyechphaaphakhklangkhxngpraeths sungsutrnicaimmikarephimkhwamhwan inbangswnkhxngpraethsxxsetriy khnmxbrupwngaehwnthieriykwa bxyekil eyxrmn beugel cathukwangkhayinspdahkxnxisetxr sungehmuxnkbebekil bxyekilcaichaepngkhawsaliaelayist orydwyyihra aelacatminnaeduxdkxnnaipxb caidbxyekilthimikhwamkrxbaelaekbiwidnanhlayspdah tamthrrmeniymnnemuxcarbprathantxngchikepnsxngchinkxncathan ekxredh epnkhnmpngthimihlum imidepnru cakphttakharmusliminkwangocw praethscin inpraethsturki xkhma turki acma khnmpngthimiruprangxwbaelaekhm xyangirktam simith simit khnmpngrupwngaehwnmkthukeriykwaebekilaebbturki aelamiexksarbangxyangthiaesdngihehnwa simith idthukphlitinxistnbul tngaetpi kh s 1525 cakbnthukkhxngsalxuskudar lngbnthukthi 1593 nahnkaelarakhakhxngsimiththukkahndihepnmatrthankhrngaerk exfliya eselbi nkedinthangchuxdnginkhriststwrrsthi 17 idbnthukexaiwwamiranebekxrikhaysimith 70 raninxistnbulchwngpi kh s 1630 phaphwadsinamnkhxng chxng brinedsi inchwngkhriststwrrsthi 19 kaesdngihehnwarankhaysimithmiihehnbnthnnthwipkhxngxistnbul wxrwik okebl hnngsuxphaphwad kaesdngihehnwamirankhaysimithinemuxngxistnbul inpi kh s 1906 echnkn epneruxngthinaaeplk ephraasimithmilksnakhlaykbebekilngadainchwngtnkhriststwrrsthi 20 chawxuykur inekhtpkkhrxngtnexngsineciyngxuykur praethscin miebekilthieriykknwa ekxredhnan xuykur girdeh nan miraksphthcakphasaepxresiy hmaythungkhnmpngwngaehwn sungepnhnunginpraephthkhxng nan khnmpngthiniymthankninsineciyng inpraethsyipun ebekilthuknaekhakhrngaerkody ebekilekh xngkvs BagelK yipun ベーグルK cakniwyxrkemuxpi kh s 1989 odyphlitebekilrschaekhiyw chxkhokaelt thwemepil aelarsklwy thw miebekilmakkwa 3 lanchinthinaekhamacakshrthxemrika odyebekilswnihyinyipunmkcamirshwan khlaykbinshrthxemrikarupaebbinyukhihminkhnathiebekilinyukhkxnnncathamacak yistkhawsali txmainchwngplaystwrrsthi 20 ebekilmirupaebbthihlakhlaymakkhun odyebekilinyukhihmnnthamacakaepngthiphsmphmephxrnikekhl khawiry sxrod rakhaw thyphuch aela khnmpngmltiekrn inrupaebbxun nncaepnkarepliynrschatikhxngtwaepng sungwtthudibthiichknaephrhlaykhux bluebxrri eklux hxmihy kraethiym ikh xbechy lukekd chxkokaeltchip enyaekhng hruxxaccaepnswnphsmxun inbangkhrng ebekilsiekhiyw thukphlitkhunmasahrb inpccubnrankhayebekilniymthicakhayebekilthimirschatikhxngchxkokaeltchiph aela khnmpngpingaebbfrngess ebekilaebbaesndwich idrbkhwamniymtngaetchwngplayyukh 1990 odyranebekilxyang brukekxs aela ixnsitnbraethxs rwmipthungranxaharkhaycandwnxyang aemkhodnld ebekilsamarththanepnxaharechaid sungcathukphlitxxkmainrupaebbphiess odycamikhwamnumkhxngaepngaelakhwamhwanthimakkwaebekilthwip sungcawangkhayinrsphlimaelarshwan echn echxrri strxwebxrri enyaekhng bluebxrri xbechy lukekd chxkokaeltchiph naechuxmemepil klwy aela thw swnihynncawangkhayinsuepxrmarektkhnadihy xikthngyngkhayinrupaebbkhxngaephn ephuxthicasadwktxkarnaippingxikdwyxangxingDefinition Beigel retrieved from Dictionary com website July 11 2011 Encyclopaedia Britannica 2009 Bagel retrieved February 24 2009 from Encyclopaedia Britannica Online Simpletoremember com 2001 World Jewish Population Analysis by City subkhnemux 2008 02 17 Nathan Joan 2008 A Short History of the Bagel From ancient Egypt to Lender s Slate posted Nov 12 2008 Columbia University NYC24 New Media Workshop website History of the Bagel The Hole Story 2011 08 22 thi ewyaebkaemchchin retrieved February 24 2009 various Battle of Vienna Culinary Legends Battle of Vienna Wikipedia subkhnemux 3 August 2014 Filippone Peggy Trowbridge Bagel History Bagels date back to the 1600s About com website retrieved March 27 2013 Altschuler Glenn C 2008 Three Centuries of Bagels a book review of The Bagel The Surprising History of a Modest Bread by Balinska Maria Yale University Press 2008 Jewish Daily Press website published on line November 05 2008 in the issue of November 14 2008 Freelance in Nov 18 2011 p 16 Davidson Alan 2006 Oxford Companion to Food 2nd ed Oxford England Oxford University Press p 49 ISBN 9780192806819 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite book title aemaebb Cite book cite book a access date txngkar url help Merriam Webster s Dictionary definition of bagel Merriam Webster Inc online 2009 retrieved 2009 04 24 Webster s New World College Dictionary definition of bagel Wiley Publishing Inc Cleveland 2005 retrieved 2009 04 24 Klagsburn Francine July 8 2009 Accessed July 15 2009 Hevesi Dennis 2012 03 22 Murray Lender Who Gave All America a Taste of Bagels Dies at 81 New York Times subkhnemux 2012 04 19 Rothman Lily 2012 03 23 Murray Lender the man who brought bagels to the masses subkhnemux 2012 04 19 Space Shuttle mission International Space Station CTV ca Montreal born astronaut brings bagels into space 2008 06 02 thi ewyaebkaemchchin Sun Jun 1 2008 7 29 PM ET CTV National News 1 June 2008 11pm TV newscast The Gazette Montreal Here s proof Montreal bagels are out of this world 2008 06 04 thi ewyaebkaemchchin Block Irwin Tuesday June 3 2008 Section A Page A2 Reinhart P The Bread Baker s Apprentice Ten Speed Press 2001 p 115 Jonathan Croswell How to Keep a Bagel Moist Aug 8 2011 July 2012 Top Bagels Bagel Buying Guide consumerreports org subkhnemux 6 March 2014 Spiegel Alison May 6 2014 Bagel Wars Montreal vs New York Style Bagels Huffington Post subkhnemux January 17 2015 Horowitz Ruth October 17 2006 The Hole Truth Vermont s Bagel Bakers Answer The Roll Call Seven Days subkhnemux June 9 2011 Arumugam Nadia Taste Test Dunkin Donuts Fake Artisan Bagels vs Real Artisan Bagels FORBES Forbes subkhnemux January 1 2014 Hometown Bagel Inc subkhnemux 2012 04 20 August 6 2012 San Francisco Style Bagels Taking Things to a Hole New Level Food Wishes subkhnemux August 7 2012 Sahillioglu Halil Osmanlilarda Narh Muessesesi ve 1525 Yili Sonunda Istanbul da Fiyatlar Belgelerle Turk Tarihi 2 The Narh Institution in the Ottoman Empire and the Prices in Istanbul in Late 1525 Documents in Turkish History 2 Kasim 1967 56 Unsal Artun Susamli Halkanin Tilsimi The Secret of the Ring with Sesames Istanbul YKY 2010 45 Evliya Celebi Seyahatnamesi Kitap I The Seyahatname Book I Prof Dr Robert Dankoff Seyit Ali Kahraman Yucel Dagli Istanbul YKY 2006 231 Jean Brindesi Illustrations de Elbicei atika Musee des anciens costumes turcs d Istanbul Paris Lemercier 1855 Alexander Van Millingen Constantinople London Black 1906 http www gutenberg org files 39620 39620 h 39620 h htm Allen Thomas B March 1996 Xinjiang National Geographic Magazine p 36 37