เกว็น เรนี สเตฟานี (อังกฤษ: Gwen Renée Stefani; เกิดวันที่ 3 ตุลาคม ค.ศ. 1969) เป็นนักร้อง นักแต่งเพลง นักออกแบบด้านแฟชั่น ชาวอเมริกัน เธอเป็นผู้ร่วมก่อตั้งและนักร้องนำวงโนเดาต์ที่ประสบความสำเร็จอย่างกว้างขวางหลังออกสตูดิโออัลบัมชุดแรก ทราจิกคิงดอม (1995) มีซิงเกิลที่ประสบความสำเร็จอย่าง "จัสต์อะเกิร์ล", "โดนต์สปีก", "เฮย์เบบี" และ "อิตส์มายไลฟ์" หลังจากที่วงว่างเว้นจากการทำงาน สเตฟานีออกมาเป็นศิลปินเดี่ยวแนวป็อปในปี 2004 ออกสตูดิโออัลบัมเดี่ยวชื่อ เลิฟ. แอนเจิล. มิวสิก. เบบี. ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเพลงป็อปในคริสต์ทศวรรษ 80 อัลบั้มได้รับเสียงวิจารณ์และยอดขายที่ดี มีซิงเกิลที่ประสบความสำเร็จอย่าง "(วอตยูเวติงฟอร์?)", "ริชเกิร์ล" และ "ฮอลลาแบกเกิร์ล" เพลงหลังขึ้นอันดับ 1 บนชาร์ต บิลบอร์ด ฮอต 100 และยังเป็นซิงเกิลดาวน์โหลดแรกในสหรัฐที่มียอดขายเกินล้าน ในปี 2006 สเตฟานีออกสตูดิโออัลบัมชุด 2 เดอะสวีตเอสเคป มีซิงเกิลประสบความสำเร็จ 2 ซิงเกิลคือ "ไวนด์อิตอัป" และไตเติลแทร็ก "เดอะสวีตเอสเคป" อัลบัมเดี่ยวชุด 3 ชุด ดิสอิสวอตเดอะทรุทฟีลส์ไลก์ (2016) เป็นอัลบัมเดี่ยวอัลบัมแรกของเธอที่สามารถขึ้นอันดับ 1 บนชาร์ต บิลบอร์ด 200
เกว็น สเตฟานี | |
---|---|
สเตฟานีขณะทำการแสดงในปี ค.ศ. 2015 | |
เกิด | เกว็น เรนี สเตฟานี 3 ตุลาคม ค.ศ. 1969 สหรัฐ |
ศิษย์เก่า | |
อาชีพ |
|
ปีปฏิบัติงาน | 1986–ปัจจุบัน |
คู่สมรส | เกวิน รอสส์เดล (สมรส 2002; หย่า 2016) |
คู่รัก | เบลก เชลตัน (2015–ปัจจุบัน) |
บุตร | 3 |
ญาติ | (พี่ชาย) |
อาชีพทางดนตรี | |
แนวเพลง | |
เครื่องดนตรี | ร้อง |
ค่ายเพลง | อินเตอร์สโคป |
เว็บไซต์ | gwenstefani |
สเตฟานีได้รับรางวัลแกรมมี่ 3 รางวัล ในฐานะศิลปินเดี่ยวแล้วเธอยังได้รับอีกหลายรางวัล อย่างเช่น รางวัลอเมริกันมิวสิกอะวอร์ด บริตอะวอดส์ เวิลด์มิวสิกอะวอดส์ และ 2 รางวัลบิลบอร์ดมิวสิกอวอร์ด ในปี 2003 เธอยังออกสินค้าประเภทเครื่องแต่งกายในนาม แอล.เอ.เอ็ม.บี. ยังแยกแบรนด์สินค้าอีกชื่อ คือ ฮาราจูกุเลิฟเวอส์ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมญี่ปุ่นและแฟชั่น ในช่วงเวลานี้เองเธอจะแสดงและปรากฏตัวพร้อมนักเต้นสาว 4 คน ที่รู้จักในชื่อ ฮาราจูกุเกิลส์ เธอแต่งงานกับนักดนตรีชาวอังกฤษ เกวิน รอสส์เดล ระหว่างปี 2002 ถึง 2016 และมีบุตรชายด้วยกัน 3 คน นิตยสาร บิลบอร์ด จัดอันดับให้เธออยู่อันดับ 54 ของศิลปินที่ประสบความสำเร็จที่สุด และอันดับ 37 ของศิลปินที่ประสบความสำเร็จบนฮอต 100 ในทศวรรษ 2000 ช่องวีเอชวันจัดอันดับในปี 2012 ให้เธออยู่อันดับ 13 ของ 100 ศิลปินหญิงในวงการดนตรีที่ยอดเยี่ยมที่สุด หากรวมกับผลงานกับวงโนเดาต์แล้ว สเตฟานีมียอดขายอัลบัมมากกว่า 30 ล้านชุดทั่วโลก
ประวัติ
1969–1985: ชีวิตช่วงแรก
สเตฟานีเกิดเมื่อ 3 ตุลาคม ค.ศ. 1969 ที่ รัฐแคลิฟอร์เนีย เติบโตในครอบครัวโรมันคาทอลิกในแอนะไฮม์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ชื่อของเธอตั้งตามชื่อบริกรหญิงบนเครื่องบนจากบนประพันธ์ปี 1968 เรื่อง ส่วนชื่อกลาง เรเน (Renée) มาจากเพลงของวงเดอะ ปี 1968 ที่คัฟเวอร์ของเลฟต์ แบงก์ในปี 1966 ที่ชื่อ "" พ่อเธอ เดนนิส สเตฟานี เป็นชาวอเมริกันเชื้อสายอิตาลี ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่การตลาด (marketing executive) ที่ยามาฮ่า ส่วนแม่ของเธอ แพตตี (สกุลเดิม ฟลินน์) ทำงานเป็นนักบัญชี ก่อนที่จะออกมาเป็นแม่บ้าน พ่อแม่ของเกว็นนั้นเป็นแฟนเพลงแนวโฟล์ก ยังให้เธอฟังเพลงของศิลปินอย่าง บ็อบ ดิลลันและ เธอยังมีน้องอีก 2 คน คือ จิลล์และทอดด์ และมีพี่ชายชื่อเอริก เอริกเคยเป็นมือคียบอร์ดให้วงโนเดาต์ ก่อนจะออกไปทำงานสร้างภาพเคลื่อนไหวเรื่อง เดอะซิมป์สันส์
1986–2004: โนเดาต์
พี่ชายของเธอ เอริก ได้แนะนำให้เกว็นรู้จักกับดนตรีแนว อย่างวงแมดเนสส์และ และในปี 1986 เขาได้ชวนเธอให้มาร้องกับวงโนเดาต์ วงแนวสกาที่เขาก่อตั้งขึ้น จนท้ายสุดในปี 1991 วงได้เซ็นสัญญากับอินเตอร์สโคปเรเคิดส์ ออก เมื่อปี 1992 แต่ดนตรีแบบสกาป็อปเช่นนี้ ก็ไม่ประสบความสำเร็จนัก เนื่องจากแนวเพลงกรันจ์กำลังเป็นที่นิยม ก่อนที่แนวเพลงนี้จะประสบความสำเร็จในกระแสหลักเพราะวงโนเดาต์และ สเตฟานีเป็นนักร้องรับเชิญให้กับเพลง "ซอว์เรด" (Saw Red) ในอัลบัมของซับไลม์ในปี 1994 ที่ชื่อชุด สเตฟานีปฏิเสธความก้าวร้าวของศิลปินหญิงแนวกรันจ์ และเอ่ยถึงนักร้องวงบลอนดี ที่ชื่อ ว่าเธอเป็นการผสมผสานระหว่างพลังกับแรงดึงดูดทางเพศ ว่าเป็นอิทธิสำคัญต่อเธอ อัลบัมชุด 3 ของโนเดาต์ ชุด ทราจิกคิงดอม (1995) ที่ออกหลังจากอัลบัมที่วงออกเอง (1995) ใช้เวลาทำงานมากกว่า 3 ปี โดย 5 ซิงเกิลจาก ทราจิกคิงดอม อย่าง "โดนต์สปีก" ที่สามารถขึ้นอันดับ 1 บนชาร์ตปลายปีของ ประจำปี 1997 สเตฟานีออกจากวิทยาลัย 1 เทอมเพื่อออกทัวร์ ทราจิกคิงดอม แต่ก็ไม่กลับมาเรียนต่อหลังจากที่ทัวร์กินระยะเวลา 2 ปีครึ่ง อัลบัมได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี่และขายได้มากกว่า 16 ล้านชุดทั่วโลก จากข้อมูลปี 2004 ในปลายปี 2000 นิตยสาร โรลลิงสโตน ตั้งฉายาเธอว่า "ราชินีเพลงป็อปสารภาพผิด" (The Queen of Confessional Pop)
ช่วงอยู่กับโนเดาต์ที่ประสบความสำเร็จในกระแสหลัก สเตฟานีร่วมงานกับศิลปินอื่นหลายซิงเกิล อย่าง "ยูร์เดอะบอส" (You're the Boss) ร่วมงานกับ, "" กับโมบี้ และ "" กับ ต่อมาในปี 2000 โนเดาต์ออกอัลบั้มที่ได้รับความนิยมน้อยลง ชุด ที่ต่อยอดอิทธิพลเพลงนิวเวฟจากชุด ทราจิกคิงดอม เนื้อเพลงส่วนใหญ่มุ่งประเด็นที่ความสัมพันธ์อันเหนียวแน่นของสเตฟานีกับหัวหน้าวงบุช ณ ขณะนั้น ที่ชื่อเกวิน รอสส์เดล และเรื่องความไม่แน่ใจ รวมถึงการตัดสินใจในการลงหลักปักฐานและการมีบุตรของเธอ อัลบัมในปี 2001 ชุด เพิ่มกลิ่นอายเร็กเกและแดนซ์ฮอลล์มากขึ้น แต่ยังคงแนวนิวเวฟในฉบับของวงไว้ โดยทั่วไปแล้วได้รับเสียงวิจารณ์ด้านบวก อัลบัมนี้มีซิงเกิลที่ประสบความสำเร็จในแง่อันดับในสหรัฐ ซิงเกิล "เฮย์เบบี" และ "" ได้รับรางวัลแกรมมี่ จากนั้นอัลบัมรวมเพลงฮิต บรรจุเพลงคัฟเวอร์ของวง เพลง "อิตส์มายไลฟ์" ออกวางขายในปี 2003 อีฟและสเตฟานีได้รับรางวัลแกรมมี่สาขาการร่วมงานเพลงร้องหรือแร็ปยอดเยี่ยมจากเพลง "เลตมีโบลว์ยาไมนด์"
2004–2006: เลิฟ. แอนเจิล. มิวสิก. เบบี. และเปิดตัวงานแสดง
อัลบัมเดี่ยวเปิดตัวของสเตฟานี ชุด เลิฟ. แอนเจิล. มิวสิก. เบบี. ออกจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายน 2004 อัลบัมชุดนี้มีการร่วมงานกับโปรดิวเซอร์และศิลปินมากมาย อย่างเช่น โทนี แคแนล, ทอม รอทร็อก, , อังเดรทรีเทาซันด์, เนลลี ฮูเพอร์, เดอะเนปจูนส์ และนิวออร์เดอร์ สเตฟานีสร้างสรรค์อัลบั้มนี้โดยนำเพลงที่เธอยังฟังครั้งเรียนอยู่ไฮสกูลมาทำให้ทันสมัย และ แอล.เอ.เอ็ม.บี. ก็ได้รับอิทธิพลจากความหลากหลายด้านดนตรีในคริสต์ทศวรรษ 1980 และต้นยุคคริสต์ทศวรรษ 1990 อาทิเพลงนิวเวฟ, ซินท์ป็อปและอิเล็กโทร การตัดสินใจของสเตฟานีในการออกงานเดี่ยวก็เป็นโอกาสที่ดีให้เธอลงลึกถึงแนวเพลงป็อป แทนที่จะทำให้ทั้งโลกเชื่อในความสามารถ ความลึกและคุณค่าความเป็นศิลปิน ผลก็คือ ได้รับเสียงวิจารณ์ผสมกันไป ดังคำบรรยายที่ว่า "สนุกอย่างที่สุด แต่ไม่เชิงว่ามีเกลื่อนกลาด โดยถูกทำลายจากคำวิจารณ์ของสังคม" อัลบัมเปิดตัวบนชาร์ต บิลบอร์ด 200 ที่อันดับ 7 และขายได้มากกว่า 309,000 ชุดในสัปดาห์แรกแอล.เอ.เอ็ม.บี. ประสบความสำเร็จได้รับการยืนยันแผ่นเสียงทองคำขาวหลายแผ่นในสหรัฐ, สหราชอาณาจักร, ออสเตรเลีย, และแคนาดา
ซิงเกิลแรกจากอัลบัมนี้คือ "วอตยูเวติงฟอร์?" เปิดตัวที่อันดับ 1 ของแอเรียซิงเกิลส์ชาร์ต และเปิดตัวอันดับ 47 บน บิลบอร์ด ฮอต 100 ของสหรัฐ และสามารถอยู่ในท็อป 10 ของชาร์ตโดยส่วนมาก เพลงนี้เป็นการอธิบายว่าทำไมสเตฟานีถึงผลิตผลงานอัลบัมเดี่ยวออกมาและสาธยายถึงความกลัวของเธอหลังออกจากวงโนเดาต์มาออกเดี่ยว ยังพูดถึงความต้องการจะมีลูก "ริชเกิร์ล" เป็นซิงเกิลที่ 2 ของอัลบัม ได้ร่วมร้องกับแร็ปเปอร์ และมีโปรดิวเซอร์คือ ดร. เดร เป็นการดัดแปลงมาจากเพลงป็อปในคริสต์ทศวรรษ 1990 ของศิลปินอังกฤษที่ชื่อ เนื้อเพลงถือเป็นการคัฟเวอร์แบบหลวม ๆ มาก แต่เมโลดีนั้นใกล้เคียงกับเพลง "" ของ ฟิดเดลอร์ออนเดอะรูฟ ซิงเกิล "ริชเกิร์ล" เป็นการพิสูจน์ได้ถึงความสำเร็จในหลายรูปแบบ โดยติดท็อป 10 ในสหรัฐและสหราชอาณาจักร ซิงเกิลที่ 3 ของอัลบัม "ฮอลลาแบกเกิร์ล" ถือเป็นซิงเกิลอันดับ 1 ซิงเกิลแรกของเธอในสหรัฐและอันดับ 1 ลำดับที่ 2 ในออสเตรเลีย ส่วนที่อื่น สามารถติดใน 10 อันดับแรก ยังเป็นเพลงแรกในสหรัฐที่มียอดดาวน์โหลดเกินล้าน และเป็ฯเพลงที่ได้รับความนิยมตลอดปี 2005 ซิงเกิลที่ 4 "" ออกจำหน่ายไม่นานนักหลังที่ซิงเกิลก่อนหน้านี้ประสบความสำเร็จ โดยติดท็อป 20 ในสหรัฐและสหราชอาณาจักร เนื้อเพลงและมิวสิกวิดีโอที่ถ่ายทำที่ทะเลสาบโกโม ในประเทศอิตาลี มีเนื้อหาเกี่ยวข้อกับอดีตคนรักของเธอ แคแนล "" เป็นซิงเกิลที่ 5 ของอัลบัม แต่ไม่ได้รับความนิยมเท่าเพลงก่อน ๆ "" ออกจำหน่ายช่วงต้นปี 2006 ในฐานะซิงเกิลที่ 6 ถือเป็นตัวทดแทนอัลบัมถัดมาของ เลิฟ. แอนเจิล. มิวสิก. เบบี. ที่ต้องเลื่อนออกไปเนื่องจากเธอตั้งครรภ์
ในปี 2004 สเตฟานีเริ่มมีความสนใจในการแสดงภาพยนตร์และเริ่มออดิชันหนังหลายเรื่อง อย่างเช่น เธอมีผลงานเรื่องแรก รับบทเป็นจีน ฮาร์โลว์ในภาพยนตร์กำกับโดยมาร์ติน สกอร์เซซีเรื่อง ในปี 2004 สกอร์เซซีมีบุตรสาวที่เป็นแฟนเพลงโนเดาต์ เขาได้แสดงความสนใจที่จะรับเลือกเธอแสดงหลังจากเห็นภาพยถ่ายของเธอที่ได้รับแรงบันดาลใจจากมาริลิน มอนโรจากนิตยสาร ในปี 2003 เพื่อเตรียมการจะรับบทนี้ สเตฟานีอ่านหนังสือชีวประวัติของเธอ 2 เรื่องและดูหนังที่ฮาร์โลว์แสดง 18 เรื่อง การถ่ายทำในส่วนของเธอใช้เวลา 4 ถึง 5 วัน สเตฟานีมีบทพูดเพียงเล็กน้อย สเตฟานียังพากย์เสียงให้กับตัวละครในวิดีโอเกมปี 2004 อย่างไรก็ดีก่อนที่จะเสร็จสิ้น บริษัทเลือกที่จะไม่ใช้เสียงของสมาชิกวงโนเดาต์นี้
2006–2008: เดอะสวีตเอสเคป
สตูดิโออัลบัมชุดที่ 2 ของสเตฟานี ชุด เดอะสวีตเอสเคป ออกขาย 1 ธันวาคม 2006 สเตฟานียังคงทำงานร่วมกับแคแนล, เพอร์รี และเดอะเนปจูนส์ รวมถึงเอค่อนและจากวงร็อกอังกฤษ คีน อัลบัมนี้เน้นเพลงอิเล็กทรอนิกส์และแดนซ์สำหรับคลับมากขึ้นกว่าอัลบัมชุดก่อน อัลบัมออกพร้อมกับดีวีดีการออกทัวร์ครั้งแรกของสเตฟานี ที่ใช้ชื่อชุดว่า อัลบัมชุดนี้ได้รับเสียงตอบรับผสมกันไป ทั้งบอกว่า "ได้ความรู้สึกขุ่นหมองอย่างน่าประหลาดใจ, ความรู้สึกเหมือนอัตชีวประวัติเล็กน้อย แต่สเตฟานีก็ยังไม่ทำให้เชื่อได้ว่าเป็นดีวาที่ได้พึงพอใจ" และยังเรียกอัลบัมนี้ว่า "การกลับมาที่เร่งรีบ ที่ดูซ้ำกับ เลิฟ. แอนเจิล. มิวสิก. เบบี. แต่พลังน้อยกว่า"
"ไวนด์อิตอัป" ซิงเกิลนำของอัลบัม ได้รับเสียงวิจารณ์ผสมกันไป ที่มีการใช้คำพูดเรื่อยเปื่อยและการสอดแทรกเพลงจากหนัง มนต์รักเพลงสวรรค์ เข้าไป เพลงประสบความสำเร็จพอสมควร ขึ้นสูงสุดใน 10 อันดับแรกในสหรัฐและสหราชอาณาจักร ส่วนไตเติลแทร็กได้รับการตอบรับดีอย่างกว้างขวาง ขึ้นชาร์ตใน 10 อันดับแรกมากกว่า 15 ประเทศ รวมถึงขึ้นสูงสุดอันดับ 2 ทั้งสหรัฐ, ออสเตรเลีย และสหราชอาณาจักร ในการประชาสัมพันธ์อัลบัม เดอะสวีตเอสเคป สเตฟานีเป็นผู้ให้คำปรึกษาในฤดูกาลที่ 6 ของรายการ อเมริกันไอดอล และแสดงเพลงร่วมกับเอค่อน เพลงนี้ยังได้รับการเสนอชื่อรางวัลแกรมมี่ในสาขาการร่วมงานเพลงป็อปยอดเยี่ยม อีก 3 ซิงเกิลจากอัลบัม "", "" ที่ร่วมร้องกับ และ "" ในการประชาสัมพันธ์อัลบัม สเตฟานีเดินทางรอบโลก ใน ที่ครอบคลุมพื้นที่ในอเมริกาเหนือ, ยุโรป, เอเชียและแปซิฟิก และบางส่วนของละตินอเมริกา จากบทสัมภาษณ์ใน เอนเตอร์เทนเมนต์วีกลี ฉบับ 6 มิถุนายน 2011 เธอเล่าว่า เธอไม่มีแผลที่จะกลับมาออกผลงานเดี่ยว โดยบอกว่า "เป็นช่วงเวลาตอนนั้น ที่ดูจะยาวกว่าที่พวกเราคิดว่า ด้วยเพราะเป็นแรงดลใจและคุณก็ต้องไปในสักที่ที่คุณจะต้องไปในช่วงเวลานั้นของชีวิต แต่ทุกอย่างก็ลงตัวอย่างที่ควรจะเป็น"
2009–2013: กลับมาทำโนเดาต์
ขณะที่สเตฟานีกำลังประชาสัมพันธ์อัลบัม เดอะสวีตเอสเคป อยู่นั้น วงโนเดาต์ก็เริ่มทำงานอัลบัมชุดใหม่โดยไม่มีเธอ วางแผนไว้ว่าจะทำให้เสร็จหลังจากเดอะสวีตเอสเคปทัวร์ของเธอจบลง เดือนมีนาคม 2008 วงเริ่มมีการโพสต์ข้อความเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของวงในฟอรัมอย่างเป็นทางการของวง สเตฟานีก็โพสต์ในวันที่ 28 มีนาคม 2008 ว่าได้เริ่มเขียนเพลงแล้วแต่ยังทำได้ช้าอยู่ เหตุเพราะเธออยู่ในช่วงตั้งครรภ์บุตรคนที่ 2 โนเดาต์ประกาศบนเว็บไซต์ทางการของวงว่าต้องการออกทัวร์ในปี 2009 ขณะที่กำลังจะทำผลงานอัลบัมล่าสุดกำลังเสร็จ และวางไว้ว่าจะออกในปี 2010 ในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2008 มีการประกาศว่าโนเดาต์จะเป็นวงนำในเทศกาลแบมบูเซิล 2009 ในเดือนพฤษภาคม ร่วมกับวงฟอลล์เอาต์บอย วงออกทัวร์ในประเทศเสร็จในฤดูร้อนปี 2009
วันที่ 11 มิถุนายน 2012 วงประกาศบนเว็บไซต์ทางการของวงว่า อัลบัมใหม่จะออกวันที่ 25 กันยายน โดยมีซิงเกิลแรกออก 16 กรกฎาคม ใช้ชื่ออัลบัมว่า ซิงเกิลแรกคือ "" กำกับมิวสิกวิดีโอโดย (ก่อนหน้านี้กำกับมิวสิกวิดีโอหลายตัวให้โนเดาต์) ในช่วงเวลานั้นเองโนเดาต์เป็นผู้ให้คำปรึกษารับเชิญในรายการ เอกซ์แฟกเตอร์ ฉบับสหราชอาณาจักร "เซตเทิลดาวน์" ขึ้นอันดับสูงสุดอันดับ 34 บน บิลบอร์ด ฮอต 100 ขณะที่อัลบัมสูงสุดอันดับ 3 บนชาร์ต บิลบอร์ด 200 ต่อมาในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2012 วงได้ดึงมิวสิกวิดีโอ "" ออกจากอินเทอร์เน็ต เนื่องจากได้รับเสียงวิจารณ์ว่าใจดำกับชนพื้นเมืองอเมริกัน
2014–2016: เดอะวอยซ์ และ ดิสอิสวอตเดอะทรุทฟีลส์ไลก์
12 เมษายน 2014 สเตฟานีได้ปรากฏตัวแบบสร้างความประหลาดใจในเทศกาลโคเชลลา เธอร่วมแสดงกับฟาร์เรลล์ วิลเลียมส์ บนเวที ในช่วงการแสดงเพลงของเขาในเพลง "ฮอลลาแบกเกิร์ล" วันที่ 29 เมษายน มีการยืนยันอย่างเป็นทางการว่าสเตฟานีจะร่วมในฤดูกาลที่ 7 ของรายการ เดอะวอยซ์ ในฐานะโค้ช โดยแทนที่คริสตินา อากีเลรา หลังจากไม่ได้มางาน เอ็มทีวีวิดีโอมิวสิกอะวอดส์ นาน 9 ปี เธอกลับมาอีกครั้งในปี 2014 ในช่วงการสัมภาษณ์บนพรมแดง เธอบอกว่า "ฉันไม่รู้ว่า ฉันกำลังจะมีลูก และฉันกำลังจะทำ เดอะวอยซ์ และฉันก็ไม่รู้ว่กำลังจะเขียนเพลงใหม่ ฉันก็เหมือนรู้สึกว่า อะไรจะเกิดขึ้นต่อไป" สเตฟานียังปรากฏตัวในฐานะนักร้องร่วมในเพลงของมารูนไฟฟ์ที่ชื่อ "" ร่วมแต่งโดยเซีย เฟอร์เลอร์ จากอัลบัม ไฟฟ์ ที่ยังได้ร่วมแสดงกันครั้งแรกกับแอดัม เลอวีนในงานแกรมมี่ 2015 สเตฟานียังร่วมงานกับแคลวิน แฮร์ริสในเพลง "ทูเกเตอร์" จากอัลบัมของเขาที่ชื่อ
เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2014 สเตฟานีบอกกับ ในระหว่างสัปดาห์แฟชั่นนิวยอร์กว่า เธอกำลังทำงานอัลบัมทั้งโนเดาต์และผลงานเดี่ยวของตัวเองอยู่ เธอยังเปิดเผยว่า เธอทำงานอยู่กับวิลเลียมส์ สเตฟานีออกผลงานการกลับมาอีกครั้งกับซิงเกิล "" เมื่อ 20 ตุลาคม 2014 ซึ่งเธอร่วมแต่งกับโปรดิวเซอร์ , เบนนี บลังโก และบิลบอร์ด ประกาศว่าสตูดิโออัลบัมชุดที่ 3 จะออกเดือนธันวาคม โดยมีเบนนี บลังโกเป็นผู้อำนวยการผลิต ช่วงปลายเดือนตุลาคม มีการเปิดเผยเพลงใหม่บางส่วนจากอัลบัมชุดที่ 3 ของสเตฟานี เพลงชื่อว่า "" เป็นครั้งแรก เพลงผลิตโดยฟาร์เรลล์ วิลเลียมส์ เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน ได้เผยแพร่เต็มเพลงครั้งแรกทางออนไลน์ และปล่อยให้ดาวน์โหลด เมื่อ 1 ธันวาคม ทั้ง "เบบีโดนต์ลาย" และ "สปาร์กเดอะไฟร์" มีอยู่ในอัลบัมชุดที่ 3 ของเธอ วันที่ 13 มกราคม 2015 สเตฟานีและวิลเลียมบันทึกเสียงเพลงที่ชื่อ "" เพื่อประกอบภาพยนตร์เรื่อง สเตฟาเนียและเซียทำงานร่วมกันในเพลงบัลลาดที่ชื่อ "สตาร์ตอะวอร์" (Start a War) ที่คาดว่าจะออกในอัลบัมชุดที่ 3 แต่อย่างไรก็ตาม เพลงนี้ไม่ปรากฏอยู่ วันที่ 10 กรกฎาคม 2015 แร็ปเปอร์ชาวอเมริกา เอ็มมิเน็มมีซิงเกิลที่ร้องกับสเตฟานีที่ชื่อ "" จากเพลงประกอบภาพยนตร์ เพลงเข้าชาร์ตครั้งแรกและสูงสุดที่อนดับ 80 บนชาร์ต บิลบอร์ด ฮอต 100 และมียอดดาวน์โหลดในสัปดาห์แรก 35,000 ครั้ง
17 ตุลาคม 2015 สเตฟานีแสดงในคอนเสิร์ตที่เป็นส่วนหนึ่งของทัวร์มาสเตอร์การ์ดไพรซ์เลสส์เซอร์ไพรส์ทัวร์ ที่แฮมเมอร์สไตน์บอลรูม ในนครนิวยอร์ก เธอแสดงเพลงใหม่ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการอกหักต่ออดีตสามี เกวิน รอสส์เดล เพลงชื่อ "" เพลงปล่อยให้ดาวน์โหลดเมื่อ 20 ตุลาคม 2015 วิดีโอค่อยปล่อยมาทีหลังในวันเดียวกัน เพลงออกในสถานีวิทยุเพลงร่วมสมัยในสหรัฐเมื่อ 27 ตุลาคม 2015 เพลงนี้ยังเป็นซฺงเกิลแรกอย่างเป็นทางการจากอัลบัมเดียวชุดที่ 3 ของเธอ ที่ชื่อชุด ดิสอีสวอตเดอะทรุทฟีลส์ไลก์ ที่เธอเริ่มทำงานในช่วงฤดูร้อน 2015 สเตฟานีบอกว่า มีหลายเพลงก่อนหน้านี้ที่เธอทำในช่วงปี 2014 เธอรู้สึกถูกบังคับและดูเป็นของเทียม ซึ่งตรงข้ามกับสิ่งที่เธอต้องการแต่แรก ซิงเกิลที่ 2 ของอัลบัมชื่อ "" ออกเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2016 อัลบัม ดิสอิสวอตเดอะทรุทฟีลส์ไลก์ ออกเมื่อ 18 มีนาคม 2016 และเปิดตัวที่อันดับ 1 บน บิลบอร์ด 200 ด้วยยอดขาย 84,000 ชุด ในสัปดาห์แรก เป็นอัลบัมแรกของเธอที่ขึ้นอันดับ 1 ในฐานะศิลปินเดี่ยว เพื่อประชาสัมพันธ์อัลบัม สเตฟานีมีทัวร์ที่ชื่อ ร่วมกับแร็ปเปอร์ อีฟ ในสหรัฐ เธอยังพากย์เสียงเป็นดีเจซูคิ ในภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่อง ซึ่งออกฉาย 4 พฤศจิกายน 2016 เธอมีเพลง 5 เพลงในอัลบัมเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้ เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2016 สเตฟานีประกาศว่าเธอจะแสดงโชว์ 2 ครั้งสุดท้ายที่ เออร์วินมีโดส์แอมฟิเทียเตอร์ ระหว่าง 29-30 ตุลาคม ที่เป็นส่วนหนึ่งของโชว์ที่ชื่อ เออร์วินมีโดส์แอมฟิเทียเตอร์ไฟนอลโชส์ โดยมีวงร็อกอเมริกา เป็นวงเปิดให้ 2 โชว์นี้ด้วย
2017–ปัจจุบัน: ยูเมกอิตฟีลไลก์คริสต์มาส และคอนเสิร์ตที่ลาสเวกัส
ในเดือนกรกฎาคม 2017 สเตฟานีประกาศว่ากำลังทำงานในสตูดิโอและวางแผนจะออกผลงานเพลงใหม่ปลายปี ในเดือนสิงหาคม มีการประกาศชื่อเพลงหลายเพลงทางเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของเจมา (GEMA) โดยเสนอว่าเธออาจบันทึกเสียงอัลบัมเทศกาลวันหยุด ชื่อผู้แต่งเพลงหลุดออกมาว่า สเตฟานีร่วมงานกับสามี เบลก เชลตัน และจัสติน แทรนเตอร์ อัลบัมใช้ชื่อว่า โดยประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อ 21 กันยายน 2017 และออกจำหน่าย 6 ตุลาคม 2017 เพลงไตเติลแทร็กของอัลบัมเผยแพร่ทางดิจิตัลเมื่อ 22 กันยายน 2017 เป็นซิงเกิลนำของอัลบัมและมีแขกรับเชิญร่วมร้องคือเชลตัน เพื่อประชาสัมพันธ์ เอ็นบีซีขอให้เธอเป็นพิธีกรในรายการพิเศษช่วงคริสต์มาส โดยออกอากาศ 12 ธันวาคม 2017 และใช้ชื่อรายการว่า เกว็นสเตฟานีส์ยูเมกอิตฟีลไลก์คริสต์มาส
ปี 2018 สเตฟานีเซ็นสัญญาจำนวน 25 โชว์ แสดงที่แซพโพสเทียเตอร์ในลาสเวกัส เริ่ม 27 มิถุนายน 2018 และจบลง 16 มีนาคม 2019 ชื่อคอนเสิร์ตครั้งนี้ใช้ชื่อตามเพลงของโนเดาต์ว่า "จัสต์อะเกิร์ล"
งานอื่น
สเตฟานีทำชุดเสื้อผ้าส่วนใหญ่ที่เธอสวมใส่บนเวทีกับวงโนเดาต์ เป็นผลทำให้เธอเริ่มรวบรวม สรรหาสิ่งดี ๆ เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ สไตลิสต์ที่ชื่อ แอนเดรีย ลีเบอร์แมน เป็นคนแนะนำเธอให้รู้จักกับชุดแต่งกายแบบโอตคูเชอร์ นำไปสู่การที่เธอออกสินค้าแฟชั่นที่ใช้ชื่อว่า แอล.เอ.เอ็ม.บี. ในปี 2004 โดยได้รับอิทธิพลจากแฟชั่นที่หลากหลาย อาทิ สไตล์กัวเตมาลา ญี่ปุ่น และจาเมกา สินค้าเธอยังได้รับความนิยมในหมู่คนดัง มีผู้สวมใส่อย่าง , นิโคล คิดแมน และตัวเธอเอง ในเดือนมิถุนายน 2005 เธอแยกแบรนด์สินค้าที่ราคาถูกกว่า ในชื่อ ฮาราจูกุเลิฟเวอส์ ที่เธออธิบายว่า "เป็นสินค้าที่น่าเชิดชู" มีผลิตภัณฑ์หลายอย่าง เช่น กล้องถ่ายรูป สิ่งประดับโทรศัพท์มือถือ และชุดชั้นใน ในปลายปี 2006 สเตฟานีออกสินค้าตุ๊กตารุ่นจำกัด เรียกว่า "เลิฟ. แอนเจิล. มิวสิก. เบบี." ตุ๊กตาได้รับแรงบันดาลใจจากแฟชั่นต่าง ๆ ที่สเตฟานีและฮาราจูกุเกิลส์สวมใส่ขณะออกทัวร์อัลบัม
ปลายฤดูร้อน 2007 สเตฟานีออกน้ำหอมแอล ส่วนหนึ่งของสินค้าเครือ แอล.เอ.เอ็ม.บี. ประเภทเสื้อผ้าและเครื่องประดับ น้ำหอมมีกลิ่นสวีตพีและกุหลาบ ในเดือนกันยายน 2008 สเตฟานีออกสินค้าประเภทเครื่องหอม เป็นส่วนหนึ่งของตราสินค้า ฮาราจูกุเลิฟเวอส์ มีเครื่องหอม 5 ชนิด ที่มาจากฮาราจูกุเกิลส์ 4 คน และสเตฟานี โดยเรียกว่า เลิฟ, ลิลแองเจิล, มิวสิก, เบบี และจี (เกว็น) เดือนมกราคม 2011 สเตฟานีเป็นโฆษกให้กับลอรีอัลปารีส ปี 2016 ออกเครื่องสำอางรุ่นจำกัดจำนวน โดยร่วมงานกับสเตฟานี
ปี 2014 สเตฟานีประกาศการสร้างซีรีส์แอนิเมชันเกี่ยวกับเธอและฮาราจูกุเกิลส์ โดยร่วมกับวิชันแอนิเมชันและมูดีสตรีตคิดส์ สเตฟานียังช่วยสร้างสรรค์โชว์ที่เธอร่วมงานด้วย รวมถึง เลิฟ, แองเจิล, มิวสิก, และเบบี ในฐานะวงดนตรี, เอชเจไฟฟ์ ที่สู้กับปีศาจร้ายขณะเดียวกันก็พยายามทำงานเพลงให้สำเร็จ
หลังจากร่วมงานกับหลายแลรนด์อย่าง โอพีไอและเออร์เบินดีเคย์ในปี 2014 และเรฟลอนในปี 2017 สเตฟานีวางแผนออกสินค้าความงานของตัวเองที่ชื่อ พีเอตเอ็นที (P8NT) จากข้อมูลของทีเอ็มซี เธอได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าผลิตภัณฑ์ความงานนี้แล้ว
ชีวิตส่วนตัว
ไม่นานหลังจากที่สเตฟานีเข้าร่วมวงโนเดาต์ เธอกับเพื่อนร่วมวง โทนี แคแนล เริ่มคบหากัน เธอเล่าว่า ค่อนข้างสละเวลาอย่างมากในความสัมพันธ์ครั้งนี้ สเตฟานีวิจารณ์ว่า "ทุกสิ่งที่ฉันทำ คือเพื่อโทนี และภาวนากับพระเจ้าว่าขอให้มีลูกกับเขา" ระหว่างช่วงนี้ วงเกือบต้องแยกกันไปเพราะความสัมพันธ์ที่ล้มเหลวของสเตฟานีกับแคแนล โดยแคแนลเป็นผู้บอกเลิกเธอ การเลิกราครั้งนี้เป็นแรงบันดาลใจในเนื้อเพลงให้แก่สเตฟานี หลายเพลงในอัลบัม ทราจิกคิงดอม อย่างเช่น "โดนต์สปีก", "" และ "" เล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ลุ่ม ๆ ดอน ๆ ของทั้งคู่ หลายปีต่อมา สเตฟานีร่วมแต่งเพลงดัง "" ที่เล่าถึงความสัมพันธ์ในฐานะเพื่อน ในอัลบัมเดี่ยวเปิดตัวชุด เลิฟ. แอนเจิล. มิวสิก. เบบี.
สเตฟานีพบกับนักร้องนำและมือกีตาร์วงบุช เกวิน รอสส์เดล ในปี 1995 วงโนเดาต์และบุชเล่นเป็นวงนำในคอนเสิร์ตช่วงวันหยุดของสถานีวิทยุ เคอาร์โอคิว ทั้งคู่แต่งงานเมื่อ 14 กันยายน 2002 ที่สวนโคเวนต์ในโบสถ์เซนต์พอลส์ ในลอนดอน งานแต่งงานครั้ง 2 จัดขึ้นที่ลอนแอนเจลิสในอีก 2 อาทิตย์ถัดมา
สเตฟานีมีบุตรชาย 3 คนกับรอสส์เดล ได้แก่ คิงสตัน เจมส์ แม็กเกรเกอร์ รอสส์เดล เกิด 26 พฤษภาคม 2006 ซูมา เนสตา ร็อก รอสส์เดล เกิด 21 สิงหาคม 2008 และอพอลโล โบอี ฟลินน์ รอสส์เดล เกิด 28 กุมภาพันธ์ 2014 เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2015 สเตฟานีฟ้องหย่ารอสส์เดล โดยให้เหตุผลว่า "เข้าถึงความแตกต่างไม่ได้" การหย่าร้างสิ้นสุดลงเมื่อ 8 เมษายน 2016 โดยรอสส์เดลตกลงที่จะแบ่งทรัพย์สินสมรสไม่เท่ากัน
เมื่อ 25 พฤศจิกายน 2015 สเตฟานีและเพื่อนร่วมรายการ เดอะวอยซ์ และเป็นนักร้องเพลงคันทรี เบลก เชลตัน ประกาศว่าคบหากันอยู่
ความเป็นศิลปิน
เอเอกซ์เอส เรียกสเตฟานีว่า "บุคคลผู้ทรงอิทธิพล" ด้วยเสียงร้องที่มีช่วงกว้าง "อย่างเหลือเชื่อ"เดอะนิวยอร์กไทมส์ ให้เสียงของสเตฟานีว่า "มีจริต" และบอกว่าเธอ "ติดการร้องเสียงสั่น"ไอจีเอ็น บรรยายว่า สเตฟานี "มีเสียงร้องที่ยอดเยี่ยมอันมีเอกลักษณ์"ชิคาโกทริบูน กล่าวว่า สเตฟานี "มีเสียงร้องต่ำที่ก๋ากั่น"
อัลบัมเปิดตัวของสเตฟานี เลิฟ. แอนเจิล. มิวสิก. เบบี. ได้รับอิทธิพลแนวเพลงหลายหลายชนิดของคริสต์ทศวรรษ 1980 อย่างแนวเพลง อิเล็กโทรป็อป, นิวเวฟ, แดนซ์ร็อก, ฮิปฮอป, อาร์แอนด์บีร่วมสมัย, โซล และดิสโก้ สเตฟานีเคยเอ่ยถึง มาดอนน่าในยุคแรก, , , พรินซ์, นิวออร์เดอร์ และ เดอะเคียวร์ มีอิทธิพลอย่างมากกับอัลบัมนี้ มีหลายเพลงในอัลบัมที่ออกแบบมาเพื่อคลับเต้นรำ และมีบีตแบบอิเลกทรอนิกส์เพื่อการเต้นรำ มีการอ้างอิงถึงแฟชันและความมั่งคั่งในอัลบัม เธอใช้ดีไซเนอร์ที่ถือเป็นแรงบันดาลใจส่วนตัว อย่าง และวิเวียน เวสต์วูด สตูดิโออัลบัมชุด 2 เดอะสวีตเอสเคป มีความใกล้เคียงกับผลงานชุดก่อน แต่ยังมีซาวด์ดนตรีป็อปทันสมัยมากกว่าเดิม มีหลากหลายแนวเพลง อย่าง แดนซ์ป็อป และแร็ป เป็นแนวคิดเดียวกับที่พัฒนาในอัลบัม เลิฟ. แอนเจิล. มิวสิก. เบบี. ซึ่งก็ได้รับคำวิจารณ์จากการทำเช่นนี้ อัลบัม ดิสอิสวอตเดอะทรุทฟีลส์ไลก์ อัลบัมชุดที่ 3 สเตฟานียังคงทำเพลงป็อป ขณะเดียวกันก็รวมแนวเพลงจากหลากหลายชนิด อย่าง เร็กเกดิสโก้ และแดนซ์ฮอลล์ นอกจากนี้ยังมีการใช้กีตาร์เพิ่มมาอีกด้วย เนื้อเพลงของสเตฟานีนั้นจะเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวที่เพิ่งเกิดขึ้น อย่างเช่น การหย่าร้างกับสามี รอสส์เดล และการพบรักใหม่กับ เชลตัน เธอยังบอกว่าอัลบัมของเธอไม่มีเนื้อหา "เกี่ยวกับการแก้แค้น" เหมือนอย่างที่คนอื่นทำกัน และมักมีเนื้อหาเกี่ยวกับ "การให้อภัย"
ภาพลักษณ์
สเตฟานีเริ่มจุดในช่วงกลางคริสต์ทศวรรษ 1990 หลังจากที่เธอได้ไปพบปะครอบครัวของ หลายครั้ง เขามีเชื้อสายอินเดีย ในช่วงที่โนเดาต์แจ้งเกิด สเตฟานี สวมเครื่องตกแต่งหน้าผากในมิวสิกวิดีโอหลายครั้ง จนทำให้เครื่องประดับเหล่านี้ได้รับความนิยมในเวลาสั้น ๆ ในปี 1997 โดยได้รับความสนใจครั้งแรกในมิวสิกวิดีโอปี 1995 เพลง "จัสต์อะเกิร์ล" ที่เป็นที่รู้จักเรื่องที่เธอโชว์เอว และมักสวมเสื้อเชิร์ตที่เปิดเผยเรือนร่าง การออกแบบการแต่งหน้าของสเตฟานี โดยทั่วไปมักใช้แป้งโทนสว่าง ทาลิปสติกสีแดงสดใส และทำคิ้วรูปโค้ง เธอพูดถึงประเด็นเหล่านี้ในเพลงที่ชื่อ "แมจิกส์อินเดอะเมกอัป" (Magic's in the Makeup) ของโนเดาต์ ในอัลบัมชุด รีเทิร์นออฟแซเทิร์น โดยตั้งคำถามไว้ว่า "หากมีเวทมนตร์ในการแต่งหน้า แล้วฉันคือใครกัน" สเตฟานีมีผมสีสีน้ำตาลเข้มตามธรรมชาติ เธอเปลี่ยนสีผมธรรมชาตินั้นตั้งแต่เธอเรียนเกรด 9 ตั้งแต่ปลาย 1994 เธอมักไว้ผมสีบลอนด์เงิน สเตฟานีพูดถึงเรื่องนี้ในเพลงที่ชื่อ "แพลตตินัมบลอนด์ไลฟ์" (Platinum Blonde Life) ในชุด ร็อกสเตดี และรับบทเป็นสาวผมบลอนด์ จีน ฮาร์โลว์ ในภาพยนตร์ชีวประวัติในปี 2004 เรื่อง ถึงแม้เธอมักจะไว้ผมสีบลอนด์ แต่เธอก็เคยย้อมผมสีน้ำเงินในปี 1998 และสีชมพู ในปี 2001 ตอนปรากฏบนปกชุด รีเทิร์นออฟแซเทิร์น
ปี 2006 สเตฟานีเปลี่ยนภาพลักษณ์ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากตัวละครที่มิเชลล์ ไฟฟ์เฟอร์แสดงที่ชื่อ เอลวิรา แฮนคอก ในภาพยนตร์ปี 1983 เรื่อง การเปลี่ยนภาพลักษณ์นี้รวมถึง การใช้สัญลักษณ์ตัว G หลังชนกัน ที่เห็นได้จากกุญแจเครื่องประดับเพชรที่เธอสวมใส่ที่คอ ที่ถือเป็นจุดเด่นในการประชาสัมพันธ์ในชุด เดอะสวีตเอสเคป สเตฟานีได้รับความสนใจในช่วงเดือนมกราคม 2007 เกี่ยวกับเรื่องการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วหลังตั้งครรภ์ เธอออกมาพูดภายหลังว่า เธอควบคุมอาหารตั้งแต่เรียนเกรด 6 เพื่อให้สวมชุดขนาด 4 ได้อย่างพอดี โดยพูดว่า "เป็นการต่อสู้อย่างต่อเนื่อง และเป็นฝันร้าย แต่ฉันก็ชอบเสื้อผ้ามากเกินไป ฉันเลยต้องการสวมเสื้อผ้าที่ฉันทำเองอยู่ตลอดเวลา" หุ่นขี้ผึ้งของสเตฟานีเปิดตัวที่มาดามทุซโซต์ ลาสเวกัส ในเดอะเวเนเชียน เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2010 การออกขายอัลบัมเดี่ยวชุดแรกของสเตฟานี ได้สร้างความสนใจต่อสมุน 4 คน ที่ชื่อ ที่ปรากฏตัวในชุดที่ได้รับแรงบันดาลใจจากแฟชันกอทิกโลลิตา และตั้งชื่อตามย่านบริเวณสถานีรถไฟฮะระจุกุในโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ชุดแต่งกายของสเตฟานียังได้รับแรงบันดาลใจจากแฟชั่นญี่ปุ่น โดยอธิบายว่าเป็นการผสมผสานระหว่างคริสตีย็อง ดียอร์กับญี่ปุ่น ผู้เต้นเหล่านี้ยังปรากฏในมิวสิกวิดีโอ ในสื่อ และปกอัลบัม เลิฟ. แอนเจิล. มิวสิก. เบบี. โดยมีเพลงที่อุทิศให้พวกเธอในอัลบัมนี้ด้วย พวกเธอยังได้ร่วมในทัวร์และใช้ชื่อเดียวกับพวกเธอ ใน สเตฟานีส์ฮาราจูกุเลิฟเวอส์ทัวร์ นิตยสาร ฟอบส์ รายงานว่า เธอทำรายได้ในปี 2018 ได้ 27 ล้านเหรียญสหรัฐ ระหว่างเดือนมิถุนายน 2007 ถึง มิถุนายน 2008 จากทัวร์ สินค้าแฟชั่นและโฆษณา ทำให้เธอเป็นผู้มีชื่อเสียงด้านดนตรีที่ทำรายได้มากที่สุดอันดับ 10 ณ ขณะนั้น
ความสำเร็จและผลสืบเนื่อง
ตลอดอาชีพในการทำงานผลงานเดี่ยว สเตฟานีได้รับรางวัลด้านดนตรีหลายรางวัล รวมถึง 1 รางวัลแกรมมี่, 4 รางวัลเอ็มทีวีวิดีโอมิวสิกอะวอดส์, 1 รางวัลอเมริกันมิวสิกอะวอร์ด, 1 รางวัลบริตอะวอดส์ และ 2 รางวัลบิลบอร์ดมิวสิกอวอร์ด ส่วนกับวงโนเดาต์ เธอได้รับ 2 รางวัลแกรมมี่ และในปี 2005 นิตยสาร โรลลิงสโตน เรียกเธอว่า "เป็นร็อกสตาร์หญิงเพียงคนเดียวอย่างแท้จริงที่เปิดบนวิทยุหรือเอ็มทีวี" และยังให้เธอขึ้นปกนิตยสารอีกด้วย สเตฟานีได้รับรางวัล สไตล์ไอคอนอะวอร์ด จากการแจกรางวัลในปี 2014 นอกจากนี้ในปี 2016 เธอยังได้รับเกียรติจาก ด้วยรางวัลฮีโรอะวอร์ด ที่มอบให้กับศิลปินที่อุทิศให้กับงานการกุศล
สเตฟานียังได้รับการกล่าวถึงว่าเป็น "เจ้าหญิงเพลงป็อป" จากนักวิจารณ์ดนตรีร่วมสมัยหลายแห่ง ในปี 2012 วีเอชวันได้ให้เธออยู่ในอันดับ 13 ของรายชื่อ "100 ผู้หญิงยอดเยี่ยมแห่งวงการเพลง" ผลงานของสเตฟานียังมีอิทธิพลให้กับนักดนตรีหลายคน อย่างเช่น แห่งวงพาร์อะมอร์,,เคที เพอร์รี,เคชา,,, และ วงหลัง เป็นวงกลุ่มนักดนตรี 4 คนจากบาร์บาโดส ที่กล่าวว่า ทั้งสเตฟานีและโนเดาต์ได้ส่งผลด้านอิทธิพลต่อดนตรีพวกเขา โดยนักร้องนำของวง แอมานดา ไรเฟอร์ ยอมรับว่า เธอคงจะ "หมดสติ" หากได้เจอสเตฟานี
ซิงเกิลนำจาก เลิฟ. แอนเจิล. มิวสิก. เบบี. เพลง "วอตยูเวติงฟอร์?" เป็นหนึ่งในซิงเกิลที่ดีที่สุดของสเตฟานี จากเว็บไซต์พิตช์ฟอร์ก รวมถึงอยู่ในอันดับ 16 ใน "50 ซิงเกิลปี 2004" ของเว็บไซต์นี้ นอกจากนั้น "ฮอลลาแบกเกิร์ล" จากอัลบัมดังกล่าว ยังถือเป็นเพลงแรกที่ขายทางดิจิทัลด้วยยอดขายมากกว่าล้านในสหรัฐ ยังได้รับการยืนยันระดับแผ่นเสียงทองคำขาวจากทั้งในสหรัฐและออสเตรเลีย ยังขึ้นอันดับสูงสุดที่อันดับ 41 ของนิตยสาร บิลบอร์ด ในชาร์ตปลายทศวรรษ 2000–09 ตั้งแต่ที่ออกในปี 2005 "ฮอลลาแบกเกิร์ล" ยังถือว่าเป็น "เพลงลายเซ็น" ของสเตฟานี จากนิตยสาร โรลลิงสโตน
งานการกุศล
หลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิในโทโฮะกุ ค.ศ. 2011 สเตฟานีบริจาคเงิน 1 ล้านเหรียญสหรัฐให้แก่ สำหรับกองทุนฉุกเฉินสำหรับเด็กผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิในญี่ปุ่น สเตฟานียังเปิดประมูลในอีเบย์เมื่อ 11 ถึง 25 เมษายน 2011 ให้ผู้สนใจประมูลเสื้อผ้าย้อนยุคส่วนตัวของเธอ และเสื้อทีเชิร์ตทำเองออกแบบและมีลายเซ็นของเธอ และยังอนุญาตให้มาปาร์ตี้น้ำชาส่วนตัวในแนวคิดแบบฮาราจูกุ ดำเนินงานโดยเธอเอง เมื่อ 7 มิถุนายน 2011 ที่รอแยล/ที เมดคาเฟและพื้นที่แนวป็อปอาร์ตแบบญี่ปุ่น ที่แรกของลอสแอนเจลิส โดยเงินประมูลนำเข้าเพื่อบรรเทาทุกของเซฟชิลเดรน
ที่งานกาลาของแอมฟาร์ ในเทศกาลภาพยนตร์กาน 2011 สเตฟานีนำชุดลูกไม้สีดำที่เธอแต่งในงานนี้เข้าประมูลเพื่อการกุศล โดยได้เงินมากกว่า 125,000 เหรียญสหรัฐ ชุดนี้เกิดข้อพิพาทหลังจากตัวแทนของนักออกแบบ ไมเคิล แอนเจิล ที่ช่วยสเตฟานีออกแบบและทำงานในฐานะสไตลิสต์ออกมายืนยันว่า เขาเป็นคนทำผ้าคลุม ไม่ใช่ตัวสเตฟานี ในการออกมาเปิดเผย แองเจิลยืนยันว่า ชุดนั้นออกแบบโดยสเตฟานี สำหรับ แอล.เอ.เอ็ม.บี. และใช้ในการประมูลที่แอมฟาร์กาลา โดยกล่าวเพิ่มเติมว่า "ผมรู้สึกผิดหวังที่มุ่งประเด็นผิดทิศผิดทาง จากที่เกว็นและผมได้ตั้งใจไว้ เรื่องที่มาของการสร้างสรรค์ชุดนี้ พวกเรารู้สึกเครียดกับผลและเพลิดเพลินกับขั้นตอนทำงาน ผมไม่ขอทำอะไรมากไปกว่านี้ นอกจากนับถือเธอและยังคงคาดหวังการทำงานร่วมกับเธออีกในอนาคต" สเตฟานียังเป็นผู้จัดงานหารายได้ให้กับสตรีหมายเลขหนึ่ง มิเชลล์ โอบามา เมื่อเดือนสิงหาคม 2012 ที่บ้านของเธอในเบเวอร์ลีฮิลส์
ผลงาน
- เลิฟ. แอนเจิล. มิวสิก. เบบี. (2004)
- เดอะสวีตเอสเคป (2006)
- ดิสอิสวอตเดอะทรุทฟีลส์ไลก์ (2016)
- (2017)
ทัวร์
คอนเสิร์ตเดี่ยว
- (2005)
- (2007)
- (2016)
เรซิเดนซี
- (2018–2019)
ประชาสัมพันธ์
- (2015–2016)
- (2016)
ผลงานแสดง
ปี | เรื่อง | บทบาท | หมายเหตุ |
---|---|---|---|
1996–2016 | แซเทอร์เดย์ไนต์ไลฟ์ | แขกรับเชิญแสดงดนตรี | 6 ตอน |
2001 | ตัวเอง (ร่วมกับโนเดาต์) | ตอน: "" | |
2001 | ตัวเอง | ตัวประกอบ | |
2002 | ตัวเอง (ร่วมกับโนเดาต์) | ตอน: "สไปเดอร์เวบส์" | |
2004 | มาลิซ | พากย์เสียง; วิดีโอเกม | |
2004 | จีน ฮาร์โลว์ | เสนอชื่อเข้าชิง— | |
2005 | ตัวเอง | สารคดี | |
2005 | เบรนฟาร์ต | ตัวเอง | สารคดี |
2009 | แสบใสไฮโซ | นักร้องนำวงสโนวด์เอาต์ (ร่วมกับโนเดาต์) | ตอน: "" |
2011 | ตัวเอง | สารคดี | |
2013 | ตัวเอง (ร่วมกับโนเดาต์) | ตอน: "นินาส์เบิร์ทเดย์" | |
2014–2015, 2017 | เดอะวอยซ์ | ตัวเอง | โค้ช (ฤดูกาล 7, 9, 12); ผู้ให้คำแนะนำ (ฤดูกาล 8 กับ 10) |
2015 | ทรูดิอายส์ออฟเฟท | ตัวเอง | สารคดี |
2016 | ดีเจซูคิ (พากย์เสียง) | พากย์เสียงเท่านั้น |
อ้างอิง
- Murison, Krissi (December 10, 2004). "Gwen Stefani : Love Angel Music Baby". NME. สืบค้นเมื่อ May 10, 2007.
- Collis, Clark (November 22, 2006). . Entertainment Weekly. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-01-11. สืบค้นเมื่อ April 17, 2007.
- Hiatt, Brian (January 19, 2006). . Rolling Stone. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-06-27. สืบค้นเมื่อ April 17, 2007.
- . Billboard. 2009. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 30, 2011. สืบค้นเมื่อ July 10, 2011.
- . Billboard. 2009. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 8, 2012. สืบค้นเมื่อ July 10, 2011.
- Graham, Mark (February 13, 2012). "VH1's 100 Greatest Women In Music (Complete List)". VH1. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 4, 2012.
- McGibbon, Rob (May 13, 2007). . . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 19, 2007. สืบค้นเมื่อ August 9, 2016.
- Jeffries, David. "Gwen Stefani | Biography". AllMusic. สืบค้นเมื่อ April 17, 2014.
- Van Meter, Jonathan (April 2004). . . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 20, 2008. สืบค้นเมื่อ April 16, 2007.
- Entertainment Weekly, issue 910. Page 94, sidebar. December 8, 2006.
- Hooper, Joseph (February 16, 2007). . (258): 220. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 26, 2011. สืบค้นเมื่อ January 25, 2007.
- George, Kat (March 8, 2015). "20 Artists Who Took Their Mom on the Red Carpet". VH1. สืบค้นเมื่อ September 7, 2016.
- . . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 16, 2008. สืบค้นเมื่อ September 28, 2008.
- Bush, John. "No Doubt | Biography". AllMusic. สืบค้นเมื่อ April 17, 2014.
- Strauss, Neil (January 31, 2002). . Rolling Stone. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 25, 2009. สืบค้นเมื่อ April 17, 2007.
- "1997 The Year in Music – Hot 100 Airplay". Billboard. 109 (52): YE-36. December 27, 1997 – January 3, 1998. ISSN 0006-2510. สืบค้นเมื่อ April 17, 2014.
- Errico, Marcus (January 7, 1997). "Babyface, Celine Dion Dominate Grammy Nominations". . สืบค้นเมื่อ April 17, 2014.
- "List of Grammy award nominations". CNN. January 6, 1998. สืบค้นเมื่อ April 30, 2007.
- Dunn, Jancee (December 14, 2000). . Rolling Stone. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-12-30. สืบค้นเมื่อ November 28, 2014.
- . "Return of Saturn – No Doubt". AllMusic. สืบค้นเมื่อ April 27, 2007.
- Willman, Chris (May 12, 2000). "No Doubt: Future Tense?". Entertainment Weekly. สืบค้นเมื่อ April 27, 2007.
- Cinquemani, Sal. "No Doubt: Rock Steady". . December 12, 2004. Retrieved April 30, 2007.
- "No Doubt | Awards". AllMusic. สืบค้นเมื่อ April 17, 2014.
- "Past Winners Search". Grammy Awards. . สืบค้นเมื่อ November 30, 2011.
- Vineyard, Jennifer. . MTV. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 12, 2007. สืบค้นเมื่อ April 23, 2007.
- Cinquemani, Sal (November 20, 2004). "Gwen Stefani: Love. Angel. Music. Baby". Slant Magazine. สืบค้นเมื่อ June 4, 2007.
- Whitmire, Margo (December 1, 2004). "U2's 'Bomb' Explodes At No. 1". Billboard. สืบค้นเมื่อ March 13, 2007.
- . British Phonographic Industry. June 16, 2005. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 4, 2011. สืบค้นเมื่อ November 30, 2011.
- "ARIA Charts – Accreditations – 2005 Albums". . สืบค้นเมื่อ April 23, 2007.
- . . April 24, 2006. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 16, 2013. สืบค้นเมื่อ November 30, 2011.
- "Gwen Stefani – Chart history: The Hot 100". Billboard. สืบค้นเมื่อ November 30, 2011.
- "Gwen Stefani – What You Waiting For?". . สืบค้นเมื่อ November 30, 2011.
- Vineyard, Jennifer (November 10, 2004). "Gwen Stefani's Debut Solo LP Inspired By Insecurity And Japan". . สืบค้นเมื่อ August 6, 2016.
- Salmon, Chris (March 2, 2007). "'I just want to make music and babies'". The Guardian. สืบค้นเมื่อ August 6, 2016.
- "Gwen Stefani". . สืบค้นเมื่อ October 5, 2012.
- "Gwen Stefani – Hollaback Girl". Ultratop. สืบค้นเมื่อ November 30, 2011.
- Vineyard, Jennifer (June 21, 2005). "Gwen Stefani's Song About Tony Kanal To Be Her Next Single". MTV News. สืบค้นเมื่อ August 6, 2016.
- Vineyard, Jennifer (December 24, 2005). "Gwen Stefani Confirms Pregnancy While Onstage In Florida". MTV News. สืบค้นเมื่อ August 6, 2016.
- . . January 30, 2007. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 10, 2014. สืบค้นเมื่อ March 21, 2007.
- Vineyard, Jennifer (February 13, 2004). "Gwen Stefani Feeling Hella Good About Role In Scorsese Flick". MTV News. สืบค้นเมื่อ August 6, 2016.
- Vineyard, Jennifer (December 2, 2004). "Gwen Stefani Says Acting Is A Lot Harder Than Singing". MTV News. สืบค้นเมื่อ August 6, 2016.
- "Have no fear, No Doubt still here". USA Today. May 4, 2004. สืบค้นเมื่อ April 17, 2007.
- Hwang, Kaiser (January 23, 2004). "Remember Malice?". IGN. สืบค้นเมื่อ August 6, 2016.
- . Interscope Records. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 29, 2012. สืบค้นเมื่อ May 17, 2011.
- (December 1, 2006). . Entertainment Weekly. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-10-19. สืบค้นเมื่อ January 9, 2007.
- (December 12, 2006). . Rolling Stone. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 20, 2007. สืบค้นเมื่อ January 9, 2007.
- Macia, Peter (October 25, 2006). . Pitchfork. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 4, 2009. สืบค้นเมื่อ April 29, 2007.
- "Gwen Stefani – Wind It Up". Ultratop. สืบค้นเมื่อ November 30, 2011.
- "2008 Grammy Award Winners and Nominees". The New York Times. February 9, 2008. สืบค้นเมื่อ November 30, 2011.
- Anderson, Kyle (June 6, 2011). "Gwen Stefani and No Doubt on their next step – EXCLUSIVE". Entertainment Weekly. สืบค้นเมื่อ December 4, 2011.
- Vineyard, Jennifer; Richard, Yasmine (May 12, 2006). "No Doubt — Minus Gwen — In Early Stages Of New Album". MTV News. สืบค้นเมื่อ August 6, 2016.
- Cohen, Jonathan (December 12, 2006). "Stefani: No Timetable For No Doubt Reunion". Billboard. สืบค้นเมื่อ December 31, 2006.
- . NoDoubt.com. 2008. Retrieved March 30, 2008.
- "2009 Tour". NoDoubt.com. 2008. Retrieved November 22, 2008.
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 6, 2011. สืบค้นเมื่อ September 7, 2016.
- . NoDoubt.com. June 11, 2012. Retrieved June 12, 2012.
- Toney, Veronica (November 5, 2012). "No Doubt apologizes, pulls 'Looking Hot' video - Celebritology 2.0". The Washington Post. สืบค้นเมื่อ December 20, 2012.
- Lipshutz, Jason (April 13, 2014). "Gwen Stefani's Coachella Cameo Hints At Solo Return?". Billboard. สืบค้นเมื่อ April 14, 2014.
- Ng, Philiana (April 29, 2014). "It's Official: Gwen Stefani Joins 'The Voice'". Billboard. สืบค้นเมื่อ April 30, 2014.
- Corriston, Michele (August 24, 2014). "VMAs 2014: Gwen Stefani Attends for the First Time Since 2005". People. สืบค้นเมื่อ August 29, 2014.
- Kaufman, Gil (June 16, 2014). "Maroon 5 Drop New Album Track, "Maps," And Tease A Huge Collaboration". MTV News. สืบค้นเมื่อ June 19, 2014.
- Spanos, Brittany (February 8, 2015). . Rolling Stone. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-05-07. สืบค้นเมื่อ July 28, 2016.
- Lynch, Joe (October 28, 2014). "Gwen Stefani Goes Full EDM on Calvin Harris' 'Together'". Billboard. สืบค้นเมื่อ August 6, 2016.
- Garibaldi, Christina; Alexis, Nadeska (September 8, 2014). "Gwen Stefani Back In The Studio With Pharrell And She's 'Killing It'". MTV News. สืบค้นเมื่อ September 10, 2014.
- Reed, Ryan (October 20, 2014). . Rolling Stone. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-11-06. สืบค้นเมื่อ November 11, 2014.
- Vena, Jocelyn (October 18, 2014). "See Gwen Stefani's 'Baby Don't Lie' Artwork". Billboard. สืบค้นเมื่อ November 20, 2014.
- Garibaldi, Christina (October 21, 2014). "Gwen Stefani And Pharrell Heat Things Up With New Track 'Spark The Fire'". MTV News. สืบค้นเมื่อ November 24, 2014.
- Stern, Bradley (November 23, 2014). "Gwen Stefani Brings The Heat On "Spark The Fire": Listen". . สืบค้นเมื่อ November 24, 2014.
- . iTunes Store (US). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 30, 2014. สืบค้นเมื่อ December 1, 2014.
- Kreps, Daniel. . Rolling Stone. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-05-07. สืบค้นเมื่อ February 14, 2015.
- "The Hot 100: The Week of August 1, 2015". Billboard. สืบค้นเมื่อ July 25, 2015.
- Mendizabal, Amaya (July 22, 2015). "The Weeknd's 'Can't Feel My Face' Tops Hot R&B/Hip-Hop Songs Chart". Billboard. สืบค้นเมื่อ July 25, 2015.
- "Gwen Stefani Debuts New Song 'Used to Love You' at New York Show: Watch". Billboard. สืบค้นเมื่อ October 21, 2015.
- "FMQB: Radio Industry News, Music Industry Updates, Nielsen Ratings, Music News and more!". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 2, 2013.
- Vain, Madison (October 19, 2015). "Gwen Stefani on scrapping an entire album and starting again: 'It didn't feel right'". Entertainment Weekly. สืบค้นเมื่อ July 28, 2016.
- Kreps, Daniel (October 20, 2015). . Rolling Stone. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-10-01. สืบค้นเมื่อ July 28, 2016.
- Vain, Madison (October 20, 2015). "Gwen Stefani releases stunning 'Used To Love You' video". Entertainment Weekly. สืบค้นเมื่อ July 28, 2016.
- Kreps, Daniel (February 12, 2016). . Rolling Stone. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-08-27. สืบค้นเมื่อ August 6, 2016.
- Caulfield, Keith (March 28, 2016). "Gwen Stefani Scores First No. 1 Album on Billboard 200". Billboard. สืบค้นเมื่อ March 28, 2016.
- Feeney, Nolan (April 18, 2016). "Gwen Stefani announces This is What the Truth Feels Like tour with Eve". Entertainment Weekly. สืบค้นเมื่อ May 8, 2016.
- Warner, Kara (January 6, 2016). "'Hair We Go!' Gwen Stefani Joins Justin Timberlake, Anna Kendrick in New Movie Trolls – See the Cute Pics". People. สืบค้นเมื่อ August 27, 2016.
- Craddock, Lauren (August 22, 2016). "Justin Timberlake Shares Track List For 'Trolls' Movie Soundtrack Including Ariana Grande, Gwen Stefani & More". Billboard. สืบค้นเมื่อ August 27, 2016.
- Lewis, Randy (September 9, 2016). "Gwen Stefani to play Irvine Meadows' swan song shows Oct. 29-30". Los Angeles Times. สืบค้นเมื่อ September 10, 2016.
- Skye Fadrowski, Kelli (September 9, 2016). "Gwen Stefani to perform final Irvine Meadows concerts before it closes next month". Orange County Register. สืบค้นเมื่อ September 10, 2015.
- Benjamin, Jeff (July 14, 2017). "Gwen Stefani Is Releasing New Music This Year". . สืบค้นเมื่อ July 24, 2017.
- O'Neill, Lauren (August 2, 2017). "Sia and Gwen Stefani Both Apparently Have Christmas Albums Coming". Vice. สืบค้นเมื่อ August 9, 2017.
- Wass, Mike (August 2, 2017). "Festive! It Looks Like Gwen Stefani Is Recording a Christmas Album". Idolator. สืบค้นเมื่อ August 9, 2017.
- Tenreyro, Tatiana (September 21, 2017). "Gwen Stefani Teases 'You Make It Feel Like Christmas' Album: Watch Preview". Billboard. สืบค้นเมื่อ September 22, 2017.
- Ungerman, Alex (September 21, 2017). "Gwen Stefani Teases New Christmas Song With Blake Shelton – Listen to 'You Make It Feel Like Christmas'!". . สืบค้นเมื่อ September 22, 2017.
- "You Make It Feel Like Christmas [feat. Blake Shelton] – Gwen Stefani". Amazon.com (US). September 22, 2017. สืบค้นเมื่อ September 22, 2017.
- Armstrong, Megan (November 15, 2017). "Gwen Stefani Gets Her Own NBC Holiday Special & Comments on Blake Shelton as Sexiest Man Alive". Billboard. สืบค้นเมื่อ November 22, 2017.
- Legaspi, Althea (April 10, 2018). . Rolling Stone. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-04-23. สืบค้นเมื่อ April 22, 2018.
- Maxwell, Alison; Freydkin, Donna; Barker, Olivia (September 15, 2006). USA Today. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 20, 2009. สืบค้นเมื่อ May 30, 2007.
- (January 27, 2005). . Rolling Stone. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 1, 2009. สืบค้นเมื่อ April 17, 2005.
- Freydkin, Donna (May 16, 2005). "Designing is a snap". USA Today. สืบค้นเมื่อ April 16, 2007.
- Ahearn, Victoria (December 1, 2006). . . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-12-19. สืบค้นเมื่อ May 8, 2007.
- "Gwen Stefani brings style to doll world". USA Today. Associated Press. September 5, 2006. สืบค้นเมื่อ November 30, 2011.
- "L Gwen Stefani for women". Fragrantica. สืบค้นเมื่อ September 7, 2016.
- . harajukulovers.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-03-25. สืบค้นเมื่อ March 8, 2010.
- Rentmeester, Katherine Kluznik (มกราคม 13, 2011). . People. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ พฤศจิกายน 27, 2011. สืบค้นเมื่อ ธันวาคม 4, 2011.
- Shatzman, Celia. "Get Gwen Stefani's Signature Makeup Looks Courtesy of Her Urban Decay Collaboration". Forbes (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 28 August 2017.
- Milligan, Mercedes (April 12, 2015). "Gwen Stefani's 'Kuu-Kuu Harajuku' Unveiled". . สืบค้นเมื่อ August 27, 2016.
- "'Kuu-Kuu Harajuku' Kicks Off Global Tour". .
- Langsworthy, Billy (April 13, 2015). . . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-09-17. สืบค้นเมื่อ September 7, 2016.
- "Style Notes: Gwen Stefani Launching Beauty Line; John Galliano Takes Maison Margiela Fur-Free". The Hollywood Reporter (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2018-04-13.
- "Does Gwen Stefani have a beauty line up her sleeve?". 2018-04-04. สืบค้นเมื่อ 2018-04-13.
- (January 30, 2005). "'I'll cry just talking about it'". The Observer. สืบค้นเมื่อ August 6, 2016.
- Ali, Lorraine (August 30, 2004). . Newsweek. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 14, 2006. สืบค้นเมื่อ April 17, 2007.
- Born to Be. programming. Original airdate: March 2006. Retrieved November 13, 2006.
- Montoya, Paris and Lanham, Tom. "Sunday Morning". 2003. liner notes.
- Vineyard, Jennifer. "Gwen Stefani's Song About Tony Kanal To Be Her Next Single". . 21 June 2005. Retrieved 9 May 2007.
- Springer, Debra (December 22, 2005). "Gwen Stefani: I'm Pregnant". People. สืบค้นเมื่อ April 16, 2007.
- . Rolling Stone. May 30, 2006. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 25, 2009. สืบค้นเมื่อ April 16, 2007.
- Adler, Shawn (August 21, 2008). "Gwen Stefani Gives Birth To Second Son". MTV News. สืบค้นเมื่อ August 21, 2008.
- Deerwester, Jayme (March 1, 2014). "Gwen Stefani gives birth to third son, Apollo". USA Today. สืบค้นเมื่อ March 1, 2014.
- . Rolling Stone. August 3, 2015. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-07-31. สืบค้นเมื่อ July 28, 2016.
- Chiu, Melody (April 20, 2016). "Inside Gwen Stefani and Gavin Rossdale's Divorce Settlement: All the Details". People. สืบค้นเมื่อ August 30, 2016.
- Petit, Stephanie (May 23, 2016). "Gwen Stefani and Blake Shelton Cuddle Up Backstage at the Billboard Music Awards in Cute Instagram Pics". People. สืบค้นเมื่อ September 7, 2016.
- Birmingham, Christy (June 24, 2014). "What makes Gwen Stefani such a powerhouse in concert?". AXS. สืบค้นเมื่อ June 24, 2014.
- Sanneh, Kelefa (October 26, 2002). "POP REVIEW; 'Just a Girl,' Or Wishing To Be More?". The New York Times. สืบค้นเมื่อ February 13, 2010.
- Gage, Josephine (ตุลาคม 27, 2009). IGN. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ พฤศจิกายน 4, 2009. สืบค้นเมื่อ กุมภาพันธ์ 13, 2010.
- (July 5, 1997). "It's One For Kids: No Doubt's Friendly Ska-tinged Pop A Hit With Young Crowd". . สืบค้นเมื่อ July 8, 2012.
- Smith, RJ. "Gwen Stefani: Love. Angel. Music. Baby". . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 31, 2010. สืบค้นเมื่อ February 27, 2007.
- Cinquemani, Sal (November 20, 2004). "Gwen Stefani: Love. Angel. Music. Baby". Slant Magazine. สืบค้นเมื่อ February 27, 2007.
- Stewart, Allison (December 12, 2004). "Adult contemporary". . สืบค้นเมื่อ September 23, 2013.
- Mar, Alex; Halperin, Shirley (October 1, 2004). . Rolling Stone. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-04-08. สืบค้นเมื่อ February 8, 2013.
- Boucher, Geoff (December 24, 2005). "Love, music and soon an angel baby". Los Angeles Times. สืบค้นเมื่อ June 24, 2014.
- "Looking Back at Love. Angel. Music. Baby., Gwen Stefani's Racist Pop Frankenstein, Ten Years Later". Vice. สืบค้นเมื่อ September 7, 2016.
- Vineyard, Jennifer (June 21, 2005). "Gwen Stefani's Song About Tony Kanal To Be Her Next Single". MTV News. สืบค้นเมื่อ June 2, 2015.
- Soghomonian, Talia (January 2005). "Interview: Gwen Stefani". . สืบค้นเมื่อ September 23, 2013.
- Day, Elizabeth (September 23, 2007). "She's a can-do kind of woman". The Guardian. สืบค้นเมื่อ August 23, 2015.
- "Why we can't wait to hear Gwen Stefani's latest". Entertainment Weekly. September 18, 2004. สืบค้นเมื่อ November 9, 2013.
- "Love, Angel, Music, Baby". Billboard. November 9, 2013. สืบค้นเมื่อ July 28, 2016.
- Huff, Quentin B. (December 14, 2006). "Gwen Stefani: The Sweet Escape". . สืบค้นเมื่อ July 13, 2014.
- Greenblatt, Leah (March 16, 2016). "Gwen Stefani's This Is What the Truth Feels Like: EW Review". Entertainment Weekly. สืบค้นเมื่อ March 17, 2016.
- Ryan, Patrick (March 17, 2016). "Album of the week: Gwen Stefani shares her 'Truth'". USA Today. สืบค้นเมื่อ March 20, 2016.
- Cooper, Leoni (March 17, 2016). "NME Reviews - Gwen Stefani - 'This Is What The Truth Feels Like' Review". NME. สืบค้นเมื่อ March 18, 2016.
- Sheffield, Rob (March 18, 2016). . Rolling Stone. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-20. สืบค้นเมื่อ March 18, 2016.
- Grebey, James (October 18, 2015). "Gwen Stefani Debuts Passionate New Song, 'Used to Love You'". . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 27, 2016. สืบค้นเมื่อ August 14, 2016.
- Robinson, Lisa (April 2016). "Gwen Stefani Talks Blake Shelton, The Voice, and Music After Gavin Rossdale". . สืบค้นเมื่อ August 14, 2016.
- Stevenson, Jane (December 1, 2004). "Pop stars, No Doubt". . สืบค้นเมื่อ May 21, 2007.
- Laine, Tricia (October 16, 1998). "Gwen Stephani spills on her fashion sense". Entertainment Weekly. สืบค้นเมื่อ April 17, 2007.
- "I Love 1996" 2007-08-24 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. . September 8, 2004. Retrieved April 17, 2007.
- Toht, Betony "Gwen Stefani – Top Star Transformations" 2011-11-08 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. . Retrieved April 28, 2007.
- Wloszczyna, Susan (April 26, 2004). "Beckinsale, a beauty who battles beasts". USA Today. สืบค้นเมื่อ April 17, 2007.
- Greenblatt, Leah (March 16, 2007). "Style: Pink hair showbiz renaissance". Entertainment Weekly. สืบค้นเมื่อ April 17, 2007.
- Yotka, Steff (July 31, 2013). "Private Icon: No Doubt". Nylon. สืบค้นเมื่อ April 22, 2018.
- Corcoran, Liz (April 12, 2007). "Gwen Stefani: 'I've Always Been on a Diet'". People. สืบค้นเมื่อ April 17, 2007.
- . . September 2010. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 18, 2010. สืบค้นเมื่อ November 4, 2010.
- Holson, Laura M. (March 13, 2005). "Gothic Lolitas: Demure vs. Dominatrix". The New York Times. สืบค้นเมื่อ August 6, 2016.
- Rose, Lacey (September 22, 2008). . Forbes. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 7, 2009. สืบค้นเมื่อ August 9, 2016.
- Eliscu, Jenny (January 27, 2005). . Rolling Stone. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-12-05. สืบค้นเมื่อ December 18, 2014.
- Steiner, Amanda Michelle (December 18, 2014). . People. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 19, 2014. สืบค้นเมื่อ December 18, 2014.
- Polanco, Luis (April 14, 2016). "Gwen Stefani Will Be Honored With Hero Award at Radio Disney Music Awards". Billboard. สืบค้นเมื่อ September 6, 2016.
- Boucher, Geoff (January 4, 2006). "New rhythm for a pop princess". : 1. สืบค้นเมื่อ February 1, 2016.
- Strecker, Erin (November 13, 2014). "Gwen Stefani's 'L.A.M.B' 10-Year Anniversary: Look Back at the Hollaback Girl's Best Moments". Billboard. สืบค้นเมื่อ February 1, 2016.
- "Gwen Stefani and Blake Shelton: romance reports on the set of The Voice". Hello. สืบค้นเมื่อ February 1, 2016.
- "Hayley Williams Inspired By Beyoncé, Talks Other Strong Female Influences". Music Times. December 5, 2014. สืบค้นเมื่อ September 11, 2016.
- Cinquemani, Sal (May 2, 2014). "New Best Coast album influenced by Gwen Stefani, The Go-Gos, Sugar Ray". NME. สืบค้นเมื่อ November 29, 2014.
- "Katy Perry: Woman Of The Year Q&A 2012". Billboard. November 29, 2012. สืบค้นเมื่อ November 29, 2014.
- Garland, Emma (January 8, 2017). "Kesha's MySpace Profile from 2008 is Better Than DJ Khaled's Snapchat". Noisey. Vice Media. สืบค้นเมื่อ January 20, 2017.
- "Marina And The Diamonds". MTV. สืบค้นเมื่อ April 4, 2015.
- Dunk, Marcus (April 13, 2007). "Stefy: The Orange Album". . สืบค้นเมื่อ May 29, 2016.
- Aspinall, Jasmine (November 5, 2012). "Rita Ora Finally Meets Her Idol Gwen Stefani". . สืบค้นเมื่อ September 7, 2016.
- "Sky Ferreira". . September 15, 2010. สืบค้นเมื่อ September 11, 2016.
- "Cover Drive in awe of Gwen Stefani". Contact Music. October 27, 2012. สืบค้นเมื่อ September 7, 2016.
- Sylvester, Nick (November 8, 2004). . Pitchfork. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 11, 2004. สืบค้นเมื่อ March 3, 2004.
- "Top 50 Singles of 2004". Pitchfork. December 30, 2004. สืบค้นเมื่อ August 26, 2008.
- "American single certifications – Gwen Stefani – Hollaback Girl". Recording Industry Association of America. June 14, 2016. สืบค้นเมื่อ September 6, 2016.
- "ARIA Charts – Accreditations – 2005 Singles". . สืบค้นเมื่อ October 9, 2010.
- "Decade End Charts – Hot 100 Songs". Billboard. 2009. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 13, 2012. สืบค้นเมื่อ February 3, 2016.
- Hiatt, Brian (June 17, 2016). . Rolling Stone. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-09-05. สืบค้นเมื่อ September 6, 2016.
- Oldenburg, Ann (March 23, 2011). "Gwen Stefani gives $1 million to Japan relief efforts". USA Today. สืบค้นเมื่อ March 24, 2011.
- Lewis, Randy (April 2, 2011). "Gwen Stefani's Japan relief auction to run April 11–25 on EBay". Los Angeles Times. สืบค้นเมื่อ December 4, 2011.
- Interscope Records (June 10, 2011). "Photo Alert: Gwen Stefani Hosts Private Harajuku-Themed Tea Party at Royal/T to Support Save the Children's Japan Earthquake Emergency Fund" (Press release). Los Angeles. . สืบค้นเมื่อ December 4, 2011.
- Rees, Alex (May 23, 2011). "Gwen Stefani's amfAR Gala Dress Was Apparently Not a L.A.M.B. Design After All". . สืบค้นเมื่อ August 6, 2016.
- Donnelly, Erin (May 26, 2011). "Michael Angel: Gwen Stefani Designed amfAR Dress". FashionEtc. สืบค้นเมื่อ December 4, 2011.
- "Statement from Michael Angel Regarding Gwen Stefani amfAR Dress" (Press release). PR Newswire. May 25, 2011. สืบค้นเมื่อ May 25, 2011.
- McDevitt, Caitlin (July 3, 2012). "Gwen Stefani fundraising with first lady". . สืบค้นเมื่อ August 6, 2016.
แหล่งข้อมูลอื่น
- เว็บไซต์ทางการ
- เกว็น สเตฟานี ที่สารานุกรมบริตานิกา
- เกว็น สเตฟานี ที่อินเทอร์เน็ตมูวีเดตาเบส
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
ekwn erni setfani xngkvs Gwen Renee Stefani ekidwnthi 3 tulakhm kh s 1969 epnnkrxng nkaetngephlng nkxxkaebbdanaefchn chawxemrikn ethxepnphurwmkxtngaelankrxngnawngonedatthiprasbkhwamsaercxyangkwangkhwanghlngxxkstudioxxlbmchudaerk thracikkhingdxm 1995 misingekilthiprasbkhwamsaercxyang cstxaekirl odntspik ehyebbi aela xitsmayilf hlngcakthiwngwangewncakkarthangan setfanixxkmaepnsilpinediywaenwpxpinpi 2004 xxkstudioxxlbmediywchux elif aexnecil miwsik ebbi thiidrbaerngbndaliccakephlngpxpinkhristthswrrs 80 xlbmidrbesiyngwicarnaelayxdkhaythidi misingekilthiprasbkhwamsaercxyang wxtyuewtingfxr richekirl aela hxllaaebkekirl ephlnghlngkhunxndb 1 bnchart bilbxrd hxt 100 aelayngepnsingekildawnohldaerkinshrththimiyxdkhayekinlan inpi 2006 setfanixxkstudioxxlbmchud 2 edxaswitexsekhp misingekilprasbkhwamsaerc 2 singekilkhux iwndxitxp aelaitetilaethrk edxaswitexsekhp xlbmediywchud 3 chud disxiswxtedxathruthfilsilk 2016 epnxlbmediywxlbmaerkkhxngethxthisamarthkhunxndb 1 bnchart bilbxrd 200ekwn setfanisetfanikhnathakaraesdnginpi kh s 2015ekidekwn erni setfani 1969 10 03 3 tulakhm kh s 1969 54 pi shrthsisyekaxachiphnkrxngnkaetngephlngpiptibtingan1986 pccubnkhusmrsekwin rxssedl smrs 2002 hya 2016 khurkeblk echltn 2015 pccubn butr3yati phichay xachiphthangdntriaenwephlngpxpniwewfekhruxngdntrirxngkhayephlngxinetxrsokhpewbistgwenstefani wbr com setfaniidrbrangwlaekrmmi 3 rangwl inthanasilpinediywaelwethxyngidrbxikhlayrangwl xyangechn rangwlxemriknmiwsikxawxrd britxawxds ewildmiwsikxawxds aela 2 rangwlbilbxrdmiwsikxwxrd inpi 2003 ethxyngxxksinkhapraephthekhruxngaetngkayinnam aexl ex exm bi yngaeykaebrndsinkhaxikchux khux haracukuelifewxs thiidrbaerngbndaliccakwthnthrrmyipunaelaaefchn inchwngewlaniexngethxcaaesdngaelaprakttwphrxmnketnsaw 4 khn thiruckinchux haracukuekils ethxaetngngankbnkdntrichawxngkvs ekwin rxssedl rahwangpi 2002 thung 2016 aelamibutrchaydwykn 3 khn nitysar bilbxrd cdxndbihethxxyuxndb 54 khxngsilpinthiprasbkhwamsaercthisud aelaxndb 37 khxngsilpinthiprasbkhwamsaercbnhxt 100 inthswrrs 2000 chxngwiexchwncdxndbinpi 2012 ihethxxyuxndb 13 khxng 100 silpinhyinginwngkardntrithiyxdeyiymthisud hakrwmkbphlngankbwngonedataelw setfanimiyxdkhayxlbmmakkwa 30 lanchudthwolkprawti1969 1985 chiwitchwngaerk setfaniekidemux 3 tulakhm kh s 1969 thi rthaekhlifxreniy etibotinkhrxbkhrwormnkhathxlikinaexnaihm rthaekhlifxreniy chuxkhxngethxtngtamchuxbrikrhyingbnekhruxngbncakbnpraphnthpi 1968 eruxng swnchuxklang eren Renee macakephlngkhxngwngedxa pi 1968 thikhfewxrkhxngelft aebngkinpi 1966 thichux phxethx ednnis setfani epnchawxemriknechuxsayxitali thanganepnecahnathikartlad marketing executive thiyamaha swnaemkhxngethx aephtti skuledim flinn thanganepnnkbychi kxnthicaxxkmaepnaemban phxaemkhxngekwnnnepnaefnephlngaenwoflk yngihethxfngephlngkhxngsilpinxyang bxb dillnaela ethxyngminxngxik 2 khn khux cillaelathxdd aelamiphichaychuxexrik exrikekhyepnmuxkhiybxrdihwngonedat kxncaxxkipthangansrangphaphekhluxnihweruxng edxasimpsns 1986 2004 onedat phichaykhxngethx exrik idaenanaihekwnruckkbdntriaenw xyangwngaemdenssaela aelainpi 1986 ekhaidchwnethxihmarxngkbwngonedat wngaenwskathiekhakxtngkhun cnthaysudinpi 1991 wngidesnsyyakbxinetxrsokhperekhids xxk emuxpi 1992 aetdntriaebbskapxpechnni kimprasbkhwamsaercnk enuxngcakaenwephlngkrnckalngepnthiniym kxnthiaenwephlngnicaprasbkhwamsaercinkraaeshlkephraawngonedataela setfaniepnnkrxngrbechiyihkbephlng sxwerd Saw Red inxlbmkhxngsbilminpi 1994 thichuxchud setfaniptiesthkhwamkawrawkhxngsilpinhyingaenwkrnc aelaexythungnkrxngwngblxndi thichux waethxepnkarphsmphsanrahwangphlngkbaerngdungdudthangephs waepnxiththisakhytxethx xlbmchud 3 khxngonedat chud thracikkhingdxm 1995 thixxkhlngcakxlbmthiwngxxkexng 1995 ichewlathanganmakkwa 3 pi ody 5 singekilcak thracikkhingdxm xyang odntspik thisamarthkhunxndb 1 bnchartplaypikhxng pracapi 1997 setfanixxkcakwithyaly 1 ethxmephuxxxkthwr thracikkhingdxm aetkimklbmaeriyntxhlngcakthithwrkinrayaewla 2 pikhrung xlbmidrbkaresnxchuxekhachingrangwlaekrmmiaelakhayidmakkwa 16 lanchudthwolk cakkhxmulpi 2004 inplaypi 2000 nitysar orllingsotn tngchayaethxwa rachiniephlngpxpsarphaphphid The Queen of Confessional Pop chwngxyukbonedatthiprasbkhwamsaercinkraaeshlk setfanirwmngankbsilpinxunhlaysingekil xyang yuredxabxs You re the Boss rwmngankb kbombi aela kb txmainpi 2000 onedatxxkxlbmthiidrbkhwamniymnxylng chud thitxyxdxiththiphlephlngniwewfcakchud thracikkhingdxm enuxephlngswnihymungpraednthikhwamsmphnthxnehniywaennkhxngsetfanikbhwhnawngbuch n khnann thichuxekwin rxssedl aelaeruxngkhwamimaenic rwmthungkartdsinicinkarlnghlkpkthanaelakarmibutrkhxngethx xlbminpi 2001 chud ephimklinxayerkekaelaaednshxllmakkhun aetyngkhngaenwniwewfinchbbkhxngwngiw odythwipaelwidrbesiyngwicarndanbwk xlbmnimisingekilthiprasbkhwamsaercinaengxndbinshrth singekil ehyebbi aela idrbrangwlaekrmmi caknnxlbmrwmephlnghit brrcuephlngkhfewxrkhxngwng ephlng xitsmayilf xxkwangkhayinpi 2003 xifaelasetfaniidrbrangwlaekrmmisakhakarrwmnganephlngrxnghruxaerpyxdeyiymcakephlng eltmioblwyaimnd 2004 2006 elif aexnecil miwsik ebbi aelaepidtwnganaesdng setfaniaesdngin pi 2005 xlbmediywepidtwkhxngsetfani chud elif aexnecil miwsik ebbi xxkcahnayineduxnphvscikayn 2004 xlbmchudnimikarrwmngankboprdiwesxraelasilpinmakmay xyangechn othni aekhaenl thxm rxthrxk xngedrthriethasnd enlli huephxr edxaenpcuns aelaniwxxredxr setfanisrangsrrkhxlbmniodynaephlngthiethxyngfngkhrngeriynxyuihskulmathaihthnsmy aela aexl ex exm bi kidrbxiththiphlcakkhwamhlakhlaydandntriinkhristthswrrs 1980 aelatnyukhkhristthswrrs 1990 xathiephlngniwewf sinthpxpaelaxielkothr kartdsinickhxngsetfaniinkarxxknganediywkepnoxkasthidiihethxlnglukthungaenwephlngpxp aethnthicathaihthngolkechuxinkhwamsamarth khwamlukaelakhunkhakhwamepnsilpin phlkkhux idrbesiyngwicarnphsmknip dngkhabrryaythiwa snukxyangthisud aetimechingwamiekluxnklad odythukthalaycakkhawicarnkhxngsngkhm xlbmepidtwbnchart bilbxrd 200 thixndb 7 aelakhayidmakkwa 309 000 chudinspdahaerkaexl ex exm bi prasbkhwamsaercidrbkaryunynaephnesiyngthxngkhakhawhlayaephninshrth shrachxanackr xxsetreliy aelaaekhnada singekilaerkcakxlbmnikhux wxtyuewtingfxr epidtwthixndb 1 khxngaexeriysingekilschart aelaepidtwxndb 47 bn bilbxrd hxt 100 khxngshrth aelasamarthxyuinthxp 10 khxngchartodyswnmak ephlngniepnkarxthibaywathaimsetfanithungphlitphlnganxlbmediywxxkmaaelasathyaythungkhwamklwkhxngethxhlngxxkcakwngonedatmaxxkediyw yngphudthungkhwamtxngkarcamiluk richekirl epnsingekilthi 2 khxngxlbm idrwmrxngkbaerpepxr aelamioprdiwesxrkhux dr edr epnkarddaeplngmacakephlngpxpinkhristthswrrs 1990 khxngsilpinxngkvsthichux enuxephlngthuxepnkarkhfewxraebbhlwm mak aetemoldinniklekhiyngkbephlng khxng fidedlxrxxnedxaruf singekil richekirl epnkarphisucnidthungkhwamsaercinhlayrupaebb odytidthxp 10 inshrthaelashrachxanackr singekilthi 3 khxngxlbm hxllaaebkekirl thuxepnsingekilxndb 1 singekilaerkkhxngethxinshrthaelaxndb 1 ladbthi 2 inxxsetreliy swnthixun samarthtidin 10 xndbaerk yngepnephlngaerkinshrththimiyxddawnohldekinlan aelaepephlngthiidrbkhwamniymtlxdpi 2005 singekilthi 4 xxkcahnayimnannkhlngthisingekilkxnhnaniprasbkhwamsaerc odytidthxp 20 inshrthaelashrachxanackr enuxephlngaelamiwsikwidioxthithaythathithaelsabokom inpraethsxitali mienuxhaekiywkhxkbxditkhnrkkhxngethx aekhaenl epnsingekilthi 5 khxngxlbm aetimidrbkhwamniymethaephlngkxn xxkcahnaychwngtnpi 2006 inthanasingekilthi 6 thuxepntwthdaethnxlbmthdmakhxng elif aexnecil miwsik ebbi thitxngeluxnxxkipenuxngcakethxtngkhrrph inpi 2004 setfanierimmikhwamsnicinkaraesdngphaphyntraelaerimxxdichnhnnghlayeruxng xyangechn ethxmiphlnganeruxngaerk rbbthepncin harolwinphaphyntrkakbodymartin skxressieruxng inpi 2004 skxressimibutrsawthiepnaefnephlngonedat ekhaidaesdngkhwamsnicthicarbeluxkethxaesdnghlngcakehnphaphythaykhxngethxthiidrbaerngbndaliccakmarilin mxnorcaknitysar inpi 2003 ephuxetriymkarcarbbthni setfanixanhnngsuxchiwprawtikhxngethx 2 eruxngaeladuhnngthiharolwaesdng 18 eruxng karthaythainswnkhxngethxichewla 4 thung 5 wn setfanimibthphudephiyngelknxy setfaniyngphakyesiyngihkbtwlakhrinwidioxekmpi 2004 xyangirkdikxnthicaesrcsin bristheluxkthicaimichesiyngkhxngsmachikwngonedatni 2006 2008 edxaswitexsekhp setfaniaesdngin pi 2007 studioxxlbmchudthi 2 khxngsetfani chud edxaswitexsekhp xxkkhay 1 thnwakhm 2006 setfaniyngkhngthanganrwmkbaekhaenl ephxrri aelaedxaenpcuns rwmthungexkhxnaelacakwngrxkxngkvs khin xlbmniennephlngxielkthrxniksaelaaednssahrbkhlbmakkhunkwaxlbmchudkxn xlbmxxkphrxmkbdiwidikarxxkthwrkhrngaerkkhxngsetfani thiichchuxchudwa xlbmchudniidrbesiyngtxbrbphsmknip thngbxkwa idkhwamrusukkhunhmxngxyangnaprahladic khwamrusukehmuxnxtchiwprawtielknxy aetsetfanikyngimthaihechuxidwaepndiwathiidphungphxic aelayngeriykxlbmniwa karklbmathierngrib thidusakb elif aexnecil miwsik ebbi aetphlngnxykwa iwndxitxp singekilnakhxngxlbm idrbesiyngwicarnphsmknip thimikarichkhaphuderuxyepuxyaelakarsxdaethrkephlngcakhnng mntrkephlngswrrkh ekhaip ephlngprasbkhwamsaercphxsmkhwr khunsungsudin 10 xndbaerkinshrthaelashrachxanackr swnitetilaethrkidrbkartxbrbdixyangkwangkhwang khunchartin 10 xndbaerkmakkwa 15 praeths rwmthungkhunsungsudxndb 2 thngshrth xxsetreliy aelashrachxanackr inkarprachasmphnthxlbm edxaswitexsekhp setfaniepnphuihkhapruksainvdukalthi 6 khxngraykar xemriknixdxl aelaaesdngephlngrwmkbexkhxn ephlngniyngidrbkaresnxchuxrangwlaekrmmiinsakhakarrwmnganephlngpxpyxdeyiym xik 3 singekilcakxlbm thirwmrxngkb aela inkarprachasmphnthxlbm setfaniedinthangrxbolk in thikhrxbkhlumphunthiinxemrikaehnux yuorp exechiyaelaaepsifik aelabangswnkhxnglatinxemrika cakbthsmphasnin exnetxrethnemntwikli chbb 6 mithunayn 2011 ethxelawa ethximmiaephlthicaklbmaxxkphlnganediyw odybxkwa epnchwngewlatxnnn thiducayawkwathiphwkerakhidwa dwyephraaepnaerngdlicaelakhunktxngipinskthithikhuncatxngipinchwngewlannkhxngchiwit aetthukxyangklngtwxyangthikhwrcaepn 2009 2013 klbmathaonedat khnathisetfanikalngprachasmphnthxlbm edxaswitexsekhp xyunn wngonedatkerimthanganxlbmchudihmodyimmiethx wangaephniwwacathaihesrchlngcakedxaswitexsekhpthwrkhxngethxcblng eduxnminakhm 2008 wngerimmikarophstkhxkhwamekiywkbkhwamekhluxnihwkhxngwnginfxrmxyangepnthangkarkhxngwng setfanikophstinwnthi 28 minakhm 2008 waiderimekhiynephlngaelwaetyngthaidchaxyu ehtuephraaethxxyuinchwngtngkhrrphbutrkhnthi 2 onedatprakasbnewbistthangkarkhxngwngwatxngkarxxkthwrinpi 2009 khnathikalngcathaphlnganxlbmlasudkalngesrc aelawangiwwacaxxkinpi 2010 inwnthi 24 phvscikayn 2008 mikarprakaswaonedatcaepnwngnainethskalaebmbuesil 2009 ineduxnphvsphakhm rwmkbwngfxllexatbxy wngxxkthwrinpraethsesrcinvdurxnpi 2009 wnthi 11 mithunayn 2012 wngprakasbnewbistthangkarkhxngwngwa xlbmihmcaxxkwnthi 25 knyayn odymisingekilaerkxxk 16 krkdakhm ichchuxxlbmwa singekilaerkkhux kakbmiwsikwidioxody kxnhnanikakbmiwsikwidioxhlaytwihonedat inchwngewlannexngonedatepnphuihkhapruksarbechiyinraykar exksaefketxr chbbshrachxanackr estethildawn khunxndbsungsudxndb 34 bn bilbxrd hxt 100 khnathixlbmsungsudxndb 3 bnchart bilbxrd 200 txmainwnthi 3 phvscikayn 2012 wngiddungmiwsikwidiox xxkcakxinethxrent enuxngcakidrbesiyngwicarnwaicdakbchnphunemuxngxemrikn 2014 2016 edxawxys aela disxiswxtedxathruthfilsilk 12 emsayn 2014 setfaniidprakttwaebbsrangkhwamprahladicinethskalokhechlla ethxrwmaesdngkbfarerll wileliyms bnewthi inchwngkaraesdngephlngkhxngekhainephlng hxllaaebkekirl wnthi 29 emsayn mikaryunynxyangepnthangkarwasetfanicarwminvdukalthi 7 khxngraykar edxawxys inthanaokhch odyaethnthikhristina xakielra hlngcakimidmangan exmthiwiwidioxmiwsikxawxds nan 9 pi ethxklbmaxikkhrnginpi 2014 inchwngkarsmphasnbnphrmaedng ethxbxkwa chnimruwa chnkalngcamiluk aelachnkalngcatha edxawxys aelachnkimruwkalngcaekhiynephlngihm chnkehmuxnrusukwa xaircaekidkhuntxip setfaniyngprakttwinthanankrxngrwminephlngkhxngmaruniffthichux rwmaetngodyesiy efxrelxr cakxlbm iff thiyngidrwmaesdngknkhrngaerkkbaexdm elxwininnganaekrmmi 2015 setfaniyngrwmngankbaekhlwin aehrrisinephlng thueketxr cakxlbmkhxngekhathichux emuxwnthi 8 knyayn 2014 setfanibxkkb inrahwangspdahaefchnniwyxrkwa ethxkalngthanganxlbmthngonedataelaphlnganediywkhxngtwexngxyu ethxyngepidephywa ethxthanganxyukbwileliyms setfanixxkphlngankarklbmaxikkhrngkbsingekil emux 20 tulakhm 2014 sungethxrwmaetngkboprdiwesxr ebnni blngok aelabilbxrd prakaswastudioxxlbmchudthi 3 caxxkeduxnthnwakhm odymiebnni blngokepnphuxanwykarphlit chwngplayeduxntulakhm mikarepidephyephlngihmbangswncakxlbmchudthi 3 khxngsetfani ephlngchuxwa epnkhrngaerk ephlngphlitodyfarerll wileliyms emuxwnthi 23 phvscikayn idephyaephretmephlngkhrngaerkthangxxniln aelaplxyihdawnohld emux 1 thnwakhm thng ebbiodntlay aela sparkedxaifr mixyuinxlbmchudthi 3 khxngethx wnthi 13 mkrakhm 2015 setfaniaelawileliymbnthukesiyngephlngthichux ephuxprakxbphaphyntreruxng setfaeniyaelaesiythanganrwmkninephlngblladthichux startxawxr Start a War thikhadwacaxxkinxlbmchudthi 3 aetxyangirktam ephlngniimpraktxyu wnthi 10 krkdakhm 2015 aerpepxrchawxemrika exmmienmmisingekilthirxngkbsetfanithichux cakephlngprakxbphaphyntr ephlngekhachartkhrngaerkaelasungsudthixndb 80 bnchart bilbxrd hxt 100 aelamiyxddawnohldinspdahaerk 35 000 khrng 17 tulakhm 2015 setfaniaesdnginkhxnesirtthiepnswnhnungkhxngthwrmasetxrkardiphrselssesxriphrsthwr thiaehmemxrsitnbxlrum innkhrniwyxrk ethxaesdngephlngihmthimienuxhaekiywkbkarxkhktxxditsami ekwin rxssedl ephlngchux ephlngplxyihdawnohldemux 20 tulakhm 2015 widioxkhxyplxymathihlnginwnediywkn ephlngxxkinsthaniwithyuephlngrwmsmyinshrthemux 27 tulakhm 2015 ephlngniyngepns ngekilaerkxyangepnthangkarcakxlbmediywchudthi 3 khxngethx thichuxchud disxiswxtedxathruthfilsilk thiethxerimthanganinchwngvdurxn 2015 setfanibxkwa mihlayephlngkxnhnanithiethxthainchwngpi 2014 ethxrusukthukbngkhbaeladuepnkhxngethiym sungtrngkhamkbsingthiethxtxngkaraetaerk singekilthi 2 khxngxlbmchux xxkemux 12 kumphaphnth 2016 xlbm disxiswxtedxathruthfilsilk xxkemux 18 minakhm 2016 aelaepidtwthixndb 1 bn bilbxrd 200 dwyyxdkhay 84 000 chud inspdahaerk epnxlbmaerkkhxngethxthikhunxndb 1 inthanasilpinediyw ephuxprachasmphnthxlbm setfanimithwrthichux rwmkbaerpepxr xif inshrth ethxyngphakyesiyngepndiecsukhi inphaphyntraexniemchneruxng sungxxkchay 4 phvscikayn 2016 ethxmiephlng 5 ephlnginxlbmephlngprakxbphaphyntreruxngni emuxwnthi 8 knyayn 2016 setfaniprakaswaethxcaaesdngochw 2 khrngsudthaythi exxrwinmiodsaexmfiethiyetxr rahwang 29 30 tulakhm thiepnswnhnungkhxngochwthichux exxrwinmiodsaexmfiethiyetxrifnxlochs odymiwngrxkxemrika epnwngepidih 2 ochwnidwy 2017 pccubn yuemkxitfililkkhristmas aelakhxnesirtthilasewks ineduxnkrkdakhm 2017 setfaniprakaswakalngthanganinstudioxaelawangaephncaxxkphlnganephlngihmplaypi ineduxnsinghakhm mikarprakaschuxephlnghlayephlngthangewbistxyangepnthangkarkhxngecma GEMA odyesnxwaethxxacbnthukesiyngxlbmethskalwnhyud chuxphuaetngephlnghludxxkmawa setfanirwmngankbsami eblk echltn aelacstin aethrnetxr xlbmichchuxwa odyprakasxyangepnthangkaremux 21 knyayn 2017 aelaxxkcahnay 6 tulakhm 2017 ephlngitetilaethrkkhxngxlbmephyaephrthangdicitlemux 22 knyayn 2017 epnsingekilnakhxngxlbmaelamiaekhkrbechiyrwmrxngkhuxechltn ephuxprachasmphnth exnbisikhxihethxepnphithikrinraykarphiesschwngkhristmas odyxxkxakas 12 thnwakhm 2017 aelaichchuxraykarwa ekwnsetfanisyuemkxitfililkkhristmas pi 2018 setfaniesnsyyacanwn 25 ochw aesdngthiaesphophsethiyetxrinlasewks erim 27 mithunayn 2018 aelacblng 16 minakhm 2019 chuxkhxnesirtkhrngniichchuxtamephlngkhxngonedatwa cstxaekirl nganxunsetfaniineduxnknyayn 2009 setfanithachudesuxphaswnihythiethxswmisbnewthikbwngonedat epnphlthaihethxerimrwbrwm srrhasingdi ephimkhuneruxy sitlistthichux aexnedriy liebxraemn epnkhnaenanaethxihruckkbchudaetngkayaebboxtkhuechxr naipsukarthiethxxxksinkhaaefchnthiichchuxwa aexl ex exm bi inpi 2004 odyidrbxiththiphlcakaefchnthihlakhlay xathi sitlkwetmala yipun aelacaemka sinkhaethxyngidrbkhwamniyminhmukhndng miphuswmisxyang niokhl khidaemn aelatwethxexng ineduxnmithunayn 2005 ethxaeykaebrndsinkhathirakhathukkwa inchux haracukuelifewxs thiethxxthibaywa epnsinkhathinaechidchu miphlitphnthhlayxyang echn klxngthayrup singpradbothrsphthmuxthux aelachudchnin inplaypi 2006 setfanixxksinkhatuktaruncakd eriykwa elif aexnecil miwsik ebbi tuktaidrbaerngbndaliccakaefchntang thisetfaniaelaharacukuekilsswmiskhnaxxkthwrxlbm playvdurxn 2007 setfanixxknahxmaexl swnhnungkhxngsinkhaekhrux aexl ex exm bi praephthesuxphaaelaekhruxngpradb nahxmmiklinswitphiaelakuhlab ineduxnknyayn 2008 setfanixxksinkhapraephthekhruxnghxm epnswnhnungkhxngtrasinkha haracukuelifewxs miekhruxnghxm 5 chnid thimacakharacukuekils 4 khn aelasetfani odyeriykwa elif lilaexngecil miwsik ebbi aelaci ekwn eduxnmkrakhm 2011 setfaniepnokhskihkblxrixlparis pi 2016 xxkekhruxngsaxangruncakdcanwn odyrwmngankbsetfani pi 2014 setfaniprakaskarsrangsirisaexniemchnekiywkbethxaelaharacukuekils odyrwmkbwichnaexniemchnaelamudistritkhids setfaniyngchwysrangsrrkhochwthiethxrwmngandwy rwmthung elif aexngecil miwsik aelaebbi inthanawngdntri excheciff thisukbpisacraykhnaediywknkphyayamthanganephlngihsaerc hlngcakrwmngankbhlayaelrndxyang oxphiixaelaexxrebindiekhyinpi 2014 aelaerflxninpi 2017 setfaniwangaephnxxksinkhakhwamngankhxngtwexngthichux phiextexnthi P8NT cakkhxmulkhxngthiexmsi ethxidcdthaebiynekhruxnghmaykarkhaphlitphnthkhwamnganniaelwchiwitswntwimnanhlngcakthisetfaniekharwmwngonedat ethxkbephuxnrwmwng othni aekhaenl erimkhbhakn ethxelawa khxnkhangslaewlaxyangmakinkhwamsmphnthkhrngni setfaniwicarnwa thuksingthichntha khuxephuxothni aelaphawnakbphraecawakhxihmilukkbekha rahwangchwngni wngekuxbtxngaeykknipephraakhwamsmphnththilmehlwkhxngsetfanikbaekhaenl odyaekhaenlepnphubxkelikethx karelikrakhrngniepnaerngbndalicinenuxephlngihaeksetfani hlayephlnginxlbm thracikkhingdxm xyangechn odntspik aela elaeruxngrawkhwamsmphnthlum dxn khxngthngkhu hlaypitxma setfanirwmaetngephlngdng thielathungkhwamsmphnthinthanaephuxn inxlbmediywepidtwchud elif aexnecil miwsik ebbi setfaniphbkbnkrxngnaaelamuxkitarwngbuch ekwin rxssedl inpi 1995 wngonedataelabuchelnepnwngnainkhxnesirtchwngwnhyudkhxngsthaniwithyu ekhxaroxkhiw thngkhuaetngnganemux 14 knyayn 2002 thiswnokhewntinobsthesntphxls inlxndxn nganaetngngankhrng 2 cdkhunthilxnaexneclisinxik 2 xathitythdma setfanimibutrchay 3 khnkbrxssedl idaek khingstn ecms aemkekrekxr rxssedl ekid 26 phvsphakhm 2006 suma ensta rxk rxssedl ekid 21 singhakhm 2008 aelaxphxlol obxi flinn rxssedl ekid 28 kumphaphnth 2014 emuxwnthi 3 singhakhm 2015 setfanifxnghyarxssedl odyihehtuphlwa ekhathungkhwamaetktangimid karhyarangsinsudlngemux 8 emsayn 2016 odyrxssedltklngthicaaebngthrphysinsmrsimethakn emux 25 phvscikayn 2015 setfaniaelaephuxnrwmraykar edxawxys aelaepnnkrxngephlngkhnthri eblk echltn prakaswakhbhaknxyukhwamepnsilpinexexksexs eriyksetfaniwa bukhkhlphuthrngxiththiphl dwyesiyngrxngthimichwngkwang xyangehluxechux edxaniwyxrkithms ihesiyngkhxngsetfaniwa micrit aelabxkwaethx tidkarrxngesiyngsn ixciexn brryaywa setfani miesiyngrxngthiyxdeyiymxnmiexklksn chikhaokthribun klawwa setfani miesiyngrxngtathikakn xlbmepidtwkhxngsetfani elif aexnecil miwsik ebbi idrbxiththiphlaenwephlnghlayhlaychnidkhxngkhristthswrrs 1980 xyangaenwephlng xielkothrpxp niwewf aednsrxk hiphxp xaraexndbirwmsmy osl aeladisok setfaniekhyexythung madxnnainyukhaerk phrins niwxxredxr aela edxaekhiywr mixiththiphlxyangmakkbxlbmni mihlayephlnginxlbmthixxkaebbmaephuxkhlbetnra aelamibitaebbxielkthrxniksephuxkaretnra mikarxangxingthungaefchnaelakhwammngkhnginxlbm ethxichdiisenxrthithuxepnaerngbndalicswntw xyang aelawiewiyn ewstwud studioxxlbmchud 2 edxaswitexsekhp mikhwamiklekhiyngkbphlnganchudkxn aetyngmisawddntripxpthnsmymakkwaedim mihlakhlayaenwephlng xyang aednspxp aelaaerp epnaenwkhidediywkbthiphthnainxlbm elif aexnecil miwsik ebbi sungkidrbkhawicarncakkarthaechnni xlbm disxiswxtedxathruthfilsilk xlbmchudthi 3 setfaniyngkhngthaephlngpxp khnaediywknkrwmaenwephlngcakhlakhlaychnid xyang erkekdisok aelaaednshxll nxkcakniyngmikarichkitarephimmaxikdwy enuxephlngkhxngsetfaninncaekiywkberuxngswntwthiephingekidkhun xyangechn karhyarangkbsami rxssedl aelakarphbrkihmkb echltn ethxyngbxkwaxlbmkhxngethximmienuxha ekiywkbkaraekaekhn ehmuxnxyangthikhnxunthakn aelamkmienuxhaekiywkb karihxphy phaphlksnsetfaniaesdngin haracukuelifewxsthwr pi 2005 setfanierimcudinchwngklangkhristthswrrs 1990 hlngcakthiethxidipphbpakhrxbkhrwkhxng hlaykhrng ekhamiechuxsayxinediy inchwngthionedataecngekid setfani swmekhruxngtkaetnghnaphakinmiwsikwidioxhlaykhrng cnthaihekhruxngpradbehlaniidrbkhwamniyminewlasn inpi 1997 odyidrbkhwamsnickhrngaerkinmiwsikwidioxpi 1995 ephlng cstxaekirl thiepnthiruckeruxngthiethxochwexw aelamkswmesuxechirtthiepidephyeruxnrang karxxkaebbkaraetnghnakhxngsetfani odythwipmkichaepngothnswang thalipstiksiaedngsdis aelathakhiwrupokhng ethxphudthungpraednehlaniinephlngthichux aemciksxinedxaemkxp Magic s in the Makeup khxngonedat inxlbmchud riethirnxxfaesethirn odytngkhathamiwwa hakmiewthmntrinkaraetnghna aelwchnkhuxikhrkn setfanimiphmsisinatalekhmtamthrrmchati ethxepliynsiphmthrrmchatinntngaetethxeriynekrd 9 tngaetplay 1994 ethxmkiwphmsiblxndengin setfaniphudthungeruxngniinephlngthichux aephlttinmblxndilf Platinum Blonde Life inchud rxksetdi aelarbbthepnsawphmblxnd cin harolw inphaphyntrchiwprawtiinpi 2004 eruxng thungaemethxmkcaiwphmsiblxnd aetethxkekhyyxmphmsinaengininpi 1998 aelasichmphu inpi 2001 txnpraktbnpkchud riethirnxxfaesethirn pi 2006 setfaniepliynphaphlksn odyidrbaerngbndaliccaktwlakhrthimiechll iffefxraesdngthichux exlwira aehnkhxk inphaphyntrpi 1983 eruxng karepliynphaphlksnnirwmthung karichsylksntw G hlngchnkn thiehnidcakkuyaecekhruxngpradbephchrthiethxswmisthikhx thithuxepncudedninkarprachasmphnthinchud edxaswitexsekhp setfaniidrbkhwamsnicinchwngeduxnmkrakhm 2007 ekiywkberuxngkarldnahnkxyangrwderwhlngtngkhrrph ethxxxkmaphudphayhlngwa ethxkhwbkhumxahartngaeteriynekrd 6 ephuxihswmchudkhnad 4 idxyangphxdi odyphudwa epnkartxsuxyangtxenuxng aelaepnfnray aetchnkchxbesuxphamakekinip chnelytxngkarswmesuxphathichnthaexngxyutlxdewla hunkhiphungkhxngsetfaniepidtwthimadamthusost lasewks inedxaewenechiyn emuxwnthi 22 knyayn 2010 karxxkkhayxlbmediywchudaerkkhxngsetfani idsrangkhwamsnictxsmun 4 khn thichux thiprakttwinchudthiidrbaerngbndaliccakaefchnkxthikollita aelatngchuxtamyanbriewnsthanirthifharacukuinotekiyw praethsyipun chudaetngkaykhxngsetfaniyngidrbaerngbndaliccakaefchnyipun odyxthibaywaepnkarphsmphsanrahwangkhristiyxng diyxrkbyipun phuetnehlaniyngpraktinmiwsikwidiox insux aelapkxlbm elif aexnecil miwsik ebbi odymiephlngthixuthisihphwkethxinxlbmnidwy phwkethxyngidrwminthwraelaichchuxediywkbphwkethx in setfanisharacukuelifewxsthwr nitysar fxbs raynganwa ethxtharayidinpi 2018 id 27 lanehriyyshrth rahwangeduxnmithunayn 2007 thung mithunayn 2008 cakthwr sinkhaaefchnaelaokhsna thaihethxepnphumichuxesiyngdandntrithitharayidmakthisudxndb 10 n khnannkhwamsaercaelaphlsubenuxngtlxdxachiphinkarthanganphlnganediyw setfaniidrbrangwldandntrihlayrangwl rwmthung 1 rangwlaekrmmi 4 rangwlexmthiwiwidioxmiwsikxawxds 1 rangwlxemriknmiwsikxawxrd 1 rangwlbritxawxds aela 2 rangwlbilbxrdmiwsikxwxrd swnkbwngonedat ethxidrb 2 rangwlaekrmmi aelainpi 2005 nitysar orllingsotn eriykethxwa epnrxkstarhyingephiyngkhnediywxyangaethcringthiepidbnwithyuhruxexmthiwi aelayngihethxkhunpknitysarxikdwy setfaniidrbrangwl sitlixkhxnxawxrd cakkaraeckrangwlinpi 2014 nxkcakniinpi 2016 ethxyngidrbekiyrticak dwyrangwlhiorxawxrd thimxbihkbsilpinthixuthisihkbngankarkusl setfaniyngidrbkarklawthungwaepn ecahyingephlngpxp caknkwicarndntrirwmsmyhlayaehng inpi 2012 wiexchwnidihethxxyuinxndb 13 khxngraychux 100 phuhyingyxdeyiymaehngwngkarephlng phlngankhxngsetfaniyngmixiththiphlihkbnkdntrihlaykhn xyangechn aehngwngpharxamxr ekhthi ephxrri ekhcha aela wnghlng epnwngklumnkdntri 4 khncakbarbaods thiklawwa thngsetfaniaelaonedatidsngphldanxiththiphltxdntriphwkekha odynkrxngnakhxngwng aexmanda irefxr yxmrbwa ethxkhngca hmdsti hakidecxsetfani singekilnacak elif aexnecil miwsik ebbi ephlng wxtyuewtingfxr epnhnunginsingekilthidithisudkhxngsetfani cakewbistphitchfxrk rwmthungxyuinxndb 16 in 50 singekilpi 2004 khxngewbistni nxkcaknn hxllaaebkekirl cakxlbmdngklaw yngthuxepnephlngaerkthikhaythangdicithldwyyxdkhaymakkwalaninshrth yngidrbkaryunynradbaephnesiyngthxngkhakhawcakthnginshrthaelaxxsetreliy yngkhunxndbsungsudthixndb 41 khxngnitysar bilbxrd inchartplaythswrrs 2000 09 tngaetthixxkinpi 2005 hxllaaebkekirl yngthuxwaepn ephlnglayesn khxngsetfani caknitysar orllingsotnngankarkuslhlngcakehtukarnaephndinihwaelakhlunsunamiinothohaku kh s 2011 setfanibricakhengin 1 lanehriyyshrthihaek sahrbkxngthunchukechinsahrbedkphuprasbphyaephndinihwaelakhlunsunamiinyipun setfaniyngepidpramulinxiebyemux 11 thung 25 emsayn 2011 ihphusnicpramulesuxphayxnyukhswntwkhxngethx aelaesuxthiechirtthaexngxxkaebbaelamilayesnkhxngethx aelayngxnuyatihmapartinachaswntwinaenwkhidaebbharacuku daeninnganodyethxexng emux 7 mithunayn 2011 thirxaeyl thi emdkhaefaelaphunthiaenwpxpxartaebbyipun thiaerkkhxnglxsaexneclis odyenginpramulnaekhaephuxbrrethathukkhxngesfchiledrn thingankalakhxngaexmfar inethskalphaphyntrkan 2011 setfaninachudlukimsidathiethxaetnginnganniekhapramulephuxkarkusl odyidenginmakkwa 125 000 ehriyyshrth chudniekidkhxphiphathhlngcaktwaethnkhxngnkxxkaebb imekhil aexnecil thichwysetfanixxkaebbaelathanganinthanasitlistxxkmayunynwa ekhaepnkhnthaphakhlum imichtwsetfani inkarxxkmaepidephy aexngecilyunynwa chudnnxxkaebbodysetfani sahrb aexl ex exm bi aelaichinkarpramulthiaexmfarkala odyklawephimetimwa phmrusukphidhwngthimungpraednphidthisphidthang cakthiekwnaelaphmidtngiciw eruxngthimakhxngkarsrangsrrkhchudni phwkerarusukekhriydkbphlaelaephlidephlinkbkhntxnthangan phmimkhxthaxairmakipkwani nxkcaknbthuxethxaelayngkhngkhadhwngkarthanganrwmkbethxxikinxnakht setfaniyngepnphucdnganharayidihkbstrihmayelkhhnung miechll oxbama emuxeduxnsinghakhm 2012 thibankhxngethxinebewxrlihilsphlnganelif aexnecil miwsik ebbi 2004 edxaswitexsekhp 2006 disxiswxtedxathruthfilsilk 2016 2017 thwrkhxnesirtediyw 2005 2007 2016 ersiednsi 2018 2019 prachasmphnth 2015 2016 2016 phlnganaesdngpi eruxng bthbath hmayehtu1996 2016 aesethxredyintilf aekhkrbechiyaesdngdntri 6 txn2001 twexng rwmkbonedat txn 2001 twexng twprakxb2002 twexng rwmkbonedat txn sipedxrewbs 2004 malis phakyesiyng widioxekm2004 cin harolw esnxchuxekhaching 2005 twexng sarkhdi2005 ebrnfart twexng sarkhdi2009 aesbisihos nkrxngnawngsonwdexat rwmkbonedat txn 2011 twexng sarkhdi2013 twexng rwmkbonedat txn ninasebirthedy 2014 2015 2017 edxawxys twexng okhch vdukal 7 9 12 phuihkhaaenana vdukal 8 kb 10 2015 thrudixaysxxfefth twexng sarkhdi2016 diecsukhi phakyesiyng phakyesiyngethannxangxingMurison Krissi December 10 2004 Gwen Stefani Love Angel Music Baby NME subkhnemux May 10 2007 Collis Clark November 22 2006 Entertainment Weekly khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2008 01 11 subkhnemux April 17 2007 Hiatt Brian January 19 2006 Rolling Stone khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2012 06 27 subkhnemux April 17 2007 Billboard 2009 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux September 30 2011 subkhnemux July 10 2011 Billboard 2009 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux October 8 2012 subkhnemux July 10 2011 Graham Mark February 13 2012 VH1 s 100 Greatest Women In Music Complete List VH1 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux March 4 2012 McGibbon Rob May 13 2007 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux May 19 2007 subkhnemux August 9 2016 Jeffries David Gwen Stefani Biography AllMusic subkhnemux April 17 2014 Van Meter Jonathan April 2004 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux January 20 2008 subkhnemux April 16 2007 Entertainment Weekly issue 910 Page 94 sidebar December 8 2006 Hooper Joseph February 16 2007 258 220 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux July 26 2011 subkhnemux January 25 2007 George Kat March 8 2015 20 Artists Who Took Their Mom on the Red Carpet VH1 subkhnemux September 7 2016 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux September 16 2008 subkhnemux September 28 2008 Bush John No Doubt Biography AllMusic subkhnemux April 17 2014 Strauss Neil January 31 2002 Rolling Stone khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux June 25 2009 subkhnemux April 17 2007 1997 The Year in Music Hot 100 Airplay Billboard 109 52 YE 36 December 27 1997 January 3 1998 ISSN 0006 2510 subkhnemux April 17 2014 Errico Marcus January 7 1997 Babyface Celine Dion Dominate Grammy Nominations subkhnemux April 17 2014 List of Grammy award nominations CNN January 6 1998 subkhnemux April 30 2007 Dunn Jancee December 14 2000 Rolling Stone khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2014 12 30 subkhnemux November 28 2014 Return of Saturn No Doubt AllMusic subkhnemux April 27 2007 Willman Chris May 12 2000 No Doubt Future Tense Entertainment Weekly subkhnemux April 27 2007 Cinquemani Sal No Doubt Rock Steady December 12 2004 Retrieved April 30 2007 No Doubt Awards AllMusic subkhnemux April 17 2014 Past Winners Search Grammy Awards subkhnemux November 30 2011 Vineyard Jennifer MTV khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux May 12 2007 subkhnemux April 23 2007 Cinquemani Sal November 20 2004 Gwen Stefani Love Angel Music Baby Slant Magazine subkhnemux June 4 2007 Whitmire Margo December 1 2004 U2 s Bomb Explodes At No 1 Billboard subkhnemux March 13 2007 British Phonographic Industry June 16 2005 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux July 4 2011 subkhnemux November 30 2011 ARIA Charts Accreditations 2005 Albums subkhnemux April 23 2007 April 24 2006 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux September 16 2013 subkhnemux November 30 2011 Gwen Stefani Chart history The Hot 100 Billboard subkhnemux November 30 2011 Gwen Stefani What You Waiting For subkhnemux November 30 2011 Vineyard Jennifer November 10 2004 Gwen Stefani s Debut Solo LP Inspired By Insecurity And Japan subkhnemux August 6 2016 Salmon Chris March 2 2007 I just want to make music and babies The Guardian subkhnemux August 6 2016 Gwen Stefani subkhnemux October 5 2012 Gwen Stefani Hollaback Girl Ultratop subkhnemux November 30 2011 Vineyard Jennifer June 21 2005 Gwen Stefani s Song About Tony Kanal To Be Her Next Single MTV News subkhnemux August 6 2016 Vineyard Jennifer December 24 2005 Gwen Stefani Confirms Pregnancy While Onstage In Florida MTV News subkhnemux August 6 2016 January 30 2007 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux January 10 2014 subkhnemux March 21 2007 Vineyard Jennifer February 13 2004 Gwen Stefani Feeling Hella Good About Role In Scorsese Flick MTV News subkhnemux August 6 2016 Vineyard Jennifer December 2 2004 Gwen Stefani Says Acting Is A Lot Harder Than Singing MTV News subkhnemux August 6 2016 Have no fear No Doubt still here USA Today May 4 2004 subkhnemux April 17 2007 Hwang Kaiser January 23 2004 Remember Malice IGN subkhnemux August 6 2016 Interscope Records khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux September 29 2012 subkhnemux May 17 2011 December 1 2006 Entertainment Weekly khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2014 10 19 subkhnemux January 9 2007 December 12 2006 Rolling Stone khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux April 20 2007 subkhnemux January 9 2007 Macia Peter October 25 2006 Pitchfork khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux January 4 2009 subkhnemux April 29 2007 Gwen Stefani Wind It Up Ultratop subkhnemux November 30 2011 2008 Grammy Award Winners and Nominees The New York Times February 9 2008 subkhnemux November 30 2011 Anderson Kyle June 6 2011 Gwen Stefani and No Doubt on their next step EXCLUSIVE Entertainment Weekly subkhnemux December 4 2011 Vineyard Jennifer Richard Yasmine May 12 2006 No Doubt Minus Gwen In Early Stages Of New Album MTV News subkhnemux August 6 2016 Cohen Jonathan December 12 2006 Stefani No Timetable For No Doubt Reunion Billboard subkhnemux December 31 2006 NoDoubt com 2008 Retrieved March 30 2008 2009 Tour NoDoubt com 2008 Retrieved November 22 2008 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux June 6 2011 subkhnemux September 7 2016 NoDoubt com June 11 2012 Retrieved June 12 2012 Toney Veronica November 5 2012 No Doubt apologizes pulls Looking Hot video Celebritology 2 0 The Washington Post subkhnemux December 20 2012 Lipshutz Jason April 13 2014 Gwen Stefani s Coachella Cameo Hints At Solo Return Billboard subkhnemux April 14 2014 Ng Philiana April 29 2014 It s Official Gwen Stefani Joins The Voice Billboard subkhnemux April 30 2014 Corriston Michele August 24 2014 VMAs 2014 Gwen Stefani Attends for the First Time Since 2005 People subkhnemux August 29 2014 Kaufman Gil June 16 2014 Maroon 5 Drop New Album Track Maps And Tease A Huge Collaboration MTV News subkhnemux June 19 2014 Spanos Brittany February 8 2015 Rolling Stone khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2016 05 07 subkhnemux July 28 2016 Lynch Joe October 28 2014 Gwen Stefani Goes Full EDM on Calvin Harris Together Billboard subkhnemux August 6 2016 Garibaldi Christina Alexis Nadeska September 8 2014 Gwen Stefani Back In The Studio With Pharrell And She s Killing It MTV News subkhnemux September 10 2014 Reed Ryan October 20 2014 Rolling Stone khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2014 11 06 subkhnemux November 11 2014 Vena Jocelyn October 18 2014 See Gwen Stefani s Baby Don t Lie Artwork Billboard subkhnemux November 20 2014 Garibaldi Christina October 21 2014 Gwen Stefani And Pharrell Heat Things Up With New Track Spark The Fire MTV News subkhnemux November 24 2014 Stern Bradley November 23 2014 Gwen Stefani Brings The Heat On Spark The Fire Listen subkhnemux November 24 2014 iTunes Store US khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux December 30 2014 subkhnemux December 1 2014 Kreps Daniel Rolling Stone khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2016 05 07 subkhnemux February 14 2015 The Hot 100 The Week of August 1 2015 Billboard subkhnemux July 25 2015 Mendizabal Amaya July 22 2015 The Weeknd s Can t Feel My Face Tops Hot R amp B Hip Hop Songs Chart Billboard subkhnemux July 25 2015 Gwen Stefani Debuts New Song Used to Love You at New York Show Watch Billboard subkhnemux October 21 2015 FMQB Radio Industry News Music Industry Updates Nielsen Ratings Music News and more khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux March 2 2013 Vain Madison October 19 2015 Gwen Stefani on scrapping an entire album and starting again It didn t feel right Entertainment Weekly subkhnemux July 28 2016 Kreps Daniel October 20 2015 Rolling Stone khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2016 10 01 subkhnemux July 28 2016 Vain Madison October 20 2015 Gwen Stefani releases stunning Used To Love You video Entertainment Weekly subkhnemux July 28 2016 Kreps Daniel February 12 2016 Rolling Stone khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2016 08 27 subkhnemux August 6 2016 Caulfield Keith March 28 2016 Gwen Stefani Scores First No 1 Album on Billboard 200 Billboard subkhnemux March 28 2016 Feeney Nolan April 18 2016 Gwen Stefani announces This is What the Truth Feels Like tour with Eve Entertainment Weekly subkhnemux May 8 2016 Warner Kara January 6 2016 Hair We Go Gwen Stefani Joins Justin Timberlake Anna Kendrick in New Movie Trolls See the Cute Pics People subkhnemux August 27 2016 Craddock Lauren August 22 2016 Justin Timberlake Shares Track List For Trolls Movie Soundtrack Including Ariana Grande Gwen Stefani amp More Billboard subkhnemux August 27 2016 Lewis Randy September 9 2016 Gwen Stefani to play Irvine Meadows swan song shows Oct 29 30 Los Angeles Times subkhnemux September 10 2016 Skye Fadrowski Kelli September 9 2016 Gwen Stefani to perform final Irvine Meadows concerts before it closes next month Orange County Register subkhnemux September 10 2015 Benjamin Jeff July 14 2017 Gwen Stefani Is Releasing New Music This Year subkhnemux July 24 2017 O Neill Lauren August 2 2017 Sia and Gwen Stefani Both Apparently Have Christmas Albums Coming Vice subkhnemux August 9 2017 Wass Mike August 2 2017 Festive It Looks Like Gwen Stefani Is Recording a Christmas Album Idolator subkhnemux August 9 2017 Tenreyro Tatiana September 21 2017 Gwen Stefani Teases You Make It Feel Like Christmas Album Watch Preview Billboard subkhnemux September 22 2017 Ungerman Alex September 21 2017 Gwen Stefani Teases New Christmas Song With Blake Shelton Listen to You Make It Feel Like Christmas subkhnemux September 22 2017 You Make It Feel Like Christmas feat Blake Shelton Gwen Stefani Amazon com US September 22 2017 subkhnemux September 22 2017 Armstrong Megan November 15 2017 Gwen Stefani Gets Her Own NBC Holiday Special amp Comments on Blake Shelton as Sexiest Man Alive Billboard subkhnemux November 22 2017 Legaspi Althea April 10 2018 Rolling Stone khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2018 04 23 subkhnemux April 22 2018 Maxwell Alison Freydkin Donna Barker Olivia September 15 2006 USA Today khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux February 20 2009 subkhnemux May 30 2007 January 27 2005 Rolling Stone khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux May 1 2009 subkhnemux April 17 2005 Freydkin Donna May 16 2005 Designing is a snap USA Today subkhnemux April 16 2007 Ahearn Victoria December 1 2006 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2013 12 19 subkhnemux May 8 2007 Gwen Stefani brings style to doll world USA Today Associated Press September 5 2006 subkhnemux November 30 2011 L Gwen Stefani for women Fragrantica subkhnemux September 7 2016 harajukulovers com khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2010 03 25 subkhnemux March 8 2010 Rentmeester Katherine Kluznik mkrakhm 13 2011 People khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux phvscikayn 27 2011 subkhnemux thnwakhm 4 2011 Shatzman Celia Get Gwen Stefani s Signature Makeup Looks Courtesy of Her Urban Decay Collaboration Forbes phasaxngkvs subkhnemux 28 August 2017 Milligan Mercedes April 12 2015 Gwen Stefani s Kuu Kuu Harajuku Unveiled subkhnemux August 27 2016 Kuu Kuu Harajuku Kicks Off Global Tour Langsworthy Billy April 13 2015 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2016 09 17 subkhnemux September 7 2016 Style Notes Gwen Stefani Launching Beauty Line John Galliano Takes Maison Margiela Fur Free The Hollywood Reporter phasaxngkvs subkhnemux 2018 04 13 Does Gwen Stefani have a beauty line up her sleeve 2018 04 04 subkhnemux 2018 04 13 January 30 2005 I ll cry just talking about it The Observer subkhnemux August 6 2016 Ali Lorraine August 30 2004 Newsweek khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux June 14 2006 subkhnemux April 17 2007 Born to Be programming Original airdate March 2006 Retrieved November 13 2006 Montoya Paris and Lanham Tom Sunday Morning 2003 liner notes Vineyard Jennifer Gwen Stefani s Song About Tony Kanal To Be Her Next Single 21 June 2005 Retrieved 9 May 2007 Springer Debra December 22 2005 Gwen Stefani I m Pregnant People subkhnemux April 16 2007 Rolling Stone May 30 2006 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux June 25 2009 subkhnemux April 16 2007 Adler Shawn August 21 2008 Gwen Stefani Gives Birth To Second Son MTV News subkhnemux August 21 2008 Deerwester Jayme March 1 2014 Gwen Stefani gives birth to third son Apollo USA Today subkhnemux March 1 2014 Rolling Stone August 3 2015 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2016 07 31 subkhnemux July 28 2016 Chiu Melody April 20 2016 Inside Gwen Stefani and Gavin Rossdale s Divorce Settlement All the Details People subkhnemux August 30 2016 Petit Stephanie May 23 2016 Gwen Stefani and Blake Shelton Cuddle Up Backstage at the Billboard Music Awards in Cute Instagram Pics People subkhnemux September 7 2016 Birmingham Christy June 24 2014 What makes Gwen Stefani such a powerhouse in concert AXS subkhnemux June 24 2014 Sanneh Kelefa October 26 2002 POP REVIEW Just a Girl Or Wishing To Be More The New York Times subkhnemux February 13 2010 Gage Josephine tulakhm 27 2009 IGN khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux phvscikayn 4 2009 subkhnemux kumphaphnth 13 2010 July 5 1997 It s One For Kids No Doubt s Friendly Ska tinged Pop A Hit With Young Crowd subkhnemux July 8 2012 Smith RJ Gwen Stefani Love Angel Music Baby khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux October 31 2010 subkhnemux February 27 2007 Cinquemani Sal November 20 2004 Gwen Stefani Love Angel Music Baby Slant Magazine subkhnemux February 27 2007 Stewart Allison December 12 2004 Adult contemporary subkhnemux September 23 2013 Mar Alex Halperin Shirley October 1 2004 Rolling Stone khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2014 04 08 subkhnemux February 8 2013 Boucher Geoff December 24 2005 Love music and soon an angel baby Los Angeles Times subkhnemux June 24 2014 Looking Back at Love Angel Music Baby Gwen Stefani s Racist Pop Frankenstein Ten Years Later Vice subkhnemux September 7 2016 Vineyard Jennifer June 21 2005 Gwen Stefani s Song About Tony Kanal To Be Her Next Single MTV News subkhnemux June 2 2015 Soghomonian Talia January 2005 Interview Gwen Stefani subkhnemux September 23 2013 Day Elizabeth September 23 2007 She s a can do kind of woman The Guardian subkhnemux August 23 2015 Why we can t wait to hear Gwen Stefani s latest Entertainment Weekly September 18 2004 subkhnemux November 9 2013 Love Angel Music Baby Billboard November 9 2013 subkhnemux July 28 2016 Huff Quentin B December 14 2006 Gwen Stefani The Sweet Escape subkhnemux July 13 2014 Greenblatt Leah March 16 2016 Gwen Stefani s This Is What the Truth Feels Like EW Review Entertainment Weekly subkhnemux March 17 2016 Ryan Patrick March 17 2016 Album of the week Gwen Stefani shares her Truth USA Today subkhnemux March 20 2016 Cooper Leoni March 17 2016 NME Reviews Gwen Stefani This Is What The Truth Feels Like Review NME subkhnemux March 18 2016 Sheffield Rob March 18 2016 Rolling Stone khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2016 03 20 subkhnemux March 18 2016 Grebey James October 18 2015 Gwen Stefani Debuts Passionate New Song Used to Love You khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux June 27 2016 subkhnemux August 14 2016 Robinson Lisa April 2016 Gwen Stefani Talks Blake Shelton The Voice and Music After Gavin Rossdale subkhnemux August 14 2016 Stevenson Jane December 1 2004 Pop stars No Doubt subkhnemux May 21 2007 Laine Tricia October 16 1998 Gwen Stephani spills on her fashion sense Entertainment Weekly subkhnemux April 17 2007 I Love 1996 2007 08 24 thi ewyaebkaemchchin September 8 2004 Retrieved April 17 2007 Toht Betony Gwen Stefani Top Star Transformations 2011 11 08 thi ewyaebkaemchchin Retrieved April 28 2007 Wloszczyna Susan April 26 2004 Beckinsale a beauty who battles beasts USA Today subkhnemux April 17 2007 Greenblatt Leah March 16 2007 Style Pink hair showbiz renaissance Entertainment Weekly subkhnemux April 17 2007 Yotka Steff July 31 2013 Private Icon No Doubt Nylon subkhnemux April 22 2018 Corcoran Liz April 12 2007 Gwen Stefani I ve Always Been on a Diet People subkhnemux April 17 2007 September 2010 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux November 18 2010 subkhnemux November 4 2010 Holson Laura M March 13 2005 Gothic Lolitas Demure vs Dominatrix The New York Times subkhnemux August 6 2016 Rose Lacey September 22 2008 Forbes khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux April 7 2009 subkhnemux August 9 2016 Eliscu Jenny January 27 2005 Rolling Stone khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2014 12 05 subkhnemux December 18 2014 Steiner Amanda Michelle December 18 2014 People khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux December 19 2014 subkhnemux December 18 2014 Polanco Luis April 14 2016 Gwen Stefani Will Be Honored With Hero Award at Radio Disney Music Awards Billboard subkhnemux September 6 2016 Boucher Geoff January 4 2006 New rhythm for a pop princess 1 subkhnemux February 1 2016 Strecker Erin November 13 2014 Gwen Stefani s L A M B 10 Year Anniversary Look Back at the Hollaback Girl s Best Moments Billboard subkhnemux February 1 2016 Gwen Stefani and Blake Shelton romance reports on the set of The Voice Hello subkhnemux February 1 2016 Hayley Williams Inspired By Beyonce Talks Other Strong Female Influences Music Times December 5 2014 subkhnemux September 11 2016 Cinquemani Sal May 2 2014 New Best Coast album influenced by Gwen Stefani The Go Gos Sugar Ray NME subkhnemux November 29 2014 Katy Perry Woman Of The Year Q amp A 2012 Billboard November 29 2012 subkhnemux November 29 2014 Garland Emma January 8 2017 Kesha s MySpace Profile from 2008 is Better Than DJ Khaled s Snapchat Noisey Vice Media subkhnemux January 20 2017 Marina And The Diamonds MTV subkhnemux April 4 2015 Dunk Marcus April 13 2007 Stefy The Orange Album subkhnemux May 29 2016 Aspinall Jasmine November 5 2012 Rita Ora Finally Meets Her Idol Gwen Stefani subkhnemux September 7 2016 Sky Ferreira September 15 2010 subkhnemux September 11 2016 Cover Drive in awe of Gwen Stefani Contact Music October 27 2012 subkhnemux September 7 2016 Sylvester Nick November 8 2004 Pitchfork khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux November 11 2004 subkhnemux March 3 2004 Top 50 Singles of 2004 Pitchfork December 30 2004 subkhnemux August 26 2008 American single certifications Gwen Stefani Hollaback Girl Recording Industry Association of America June 14 2016 subkhnemux September 6 2016 ARIA Charts Accreditations 2005 Singles subkhnemux October 9 2010 Decade End Charts Hot 100 Songs Billboard 2009 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux April 13 2012 subkhnemux February 3 2016 Hiatt Brian June 17 2016 Rolling Stone khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2016 09 05 subkhnemux September 6 2016 Oldenburg Ann March 23 2011 Gwen Stefani gives 1 million to Japan relief efforts USA Today subkhnemux March 24 2011 Lewis Randy April 2 2011 Gwen Stefani s Japan relief auction to run April 11 25 on EBay Los Angeles Times subkhnemux December 4 2011 Interscope Records June 10 2011 Photo Alert Gwen Stefani Hosts Private Harajuku Themed Tea Party at Royal T to Support Save the Children s Japan Earthquake Emergency Fund Press release Los Angeles subkhnemux December 4 2011 Rees Alex May 23 2011 Gwen Stefani s amfAR Gala Dress Was Apparently Not a L A M B Design After All subkhnemux August 6 2016 Donnelly Erin May 26 2011 Michael Angel Gwen Stefani Designed amfAR Dress FashionEtc subkhnemux December 4 2011 Statement from Michael Angel Regarding Gwen Stefani amfAR Dress Press release PR Newswire May 25 2011 subkhnemux May 25 2011 McDevitt Caitlin July 3 2012 Gwen Stefani fundraising with first lady subkhnemux August 6 2016 aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb ekwn setfani ewbistthangkar ekwn setfani thisaranukrmbritanika ekwn setfani thixinethxrentmuwiedtaebs