สาธารณรัฐเขมร (เขมร: សាធារណរដ្ឋខ្មែរ; ฝรั่งเศส: République Khmère) เป็นรัฐบาลของประเทศกัมพูชาที่ปกครองด้วยระบอบสาธารณรัฐ ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2513 โดยมีนายพล ลอนนอล จนถึง นายพลลองโบเรต ที่เป็นประธานาธิบดียุคสาธารณรัฐเขมร และสลายตัวไปเมื่อ พ.ศ. 2518 หลังจากที่เขมรแดงยึดกรุงพนมเปญได้ และประกาศจัดตั้งกัมพูชาประชาธิปไตย
สาธารณรัฐเขมร | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
พ.ศ. 2513–พ.ศ. 2518 | |||||||||
สถานะ | สาธารณรัฐ | ||||||||
เมืองหลวง | พนมเปญ | ||||||||
ภาษาทั่วไป | ภาษาเขมร, ภาษาฝรั่งเศส | ||||||||
ศาสนา | ศาสนาพุทธนิกายเถรวาท | ||||||||
เดมะนิม | ชาวเขมร | ||||||||
การปกครอง | รัฐเดี่ยว ระบบประธานาธิบดี สาธารณรัฐระบบรัฐสภาภายใต้เผด็จการทหาร | ||||||||
ประธานาธิบดี | |||||||||
• พ.ศ. 2513 - 2515 | เจง เฮง (ประมุขแห่งรัฐ) | ||||||||
• พ.ศ. 2515 - 2518 | ลอน นอล | ||||||||
• พ.ศ. 2518 | สัก สุตสคาน (คนสุดท้าย) | ||||||||
นายกรัฐมนตรี | |||||||||
• พ.ศ. 2513 - 2514 | ลอน นอล | ||||||||
• พ.ศ. 2514 - 2515 | สีสุวัตถิ์ สิริมตะ | ||||||||
• พ.ศ. 2515 | เซิน หง็อก ถั่ญ | ||||||||
• พ.ศ. 2515 - 2516 | ฮาง ทุน ฮัก | ||||||||
• พ.ศ. 2516 | อิน ตัม | ||||||||
• พ.ศ. 2516 - 2518 | ลอง โบเรต | ||||||||
สภานิติบัญญัติ | |||||||||
ยุคประวัติศาสตร์ | สงครามกลางเมืองกัมพูชา | ||||||||
• รัฐประหารล้มระบอบสังคมราษฎรนิยม | 18 มีนาคม พ.ศ. 2513 | ||||||||
17 เมษายน พ.ศ. 2518 | |||||||||
พื้นที่ | |||||||||
พ.ศ. 2513 | 181,035 ตารางกิโลเมตร (69,898 ตารางไมล์) | ||||||||
พ.ศ. 2518 | 181,035 ตารางกิโลเมตร (69,898 ตารางไมล์) | ||||||||
ประชากร | |||||||||
• พ.ศ. 2513 | 6937995 | ||||||||
• พ.ศ. 2518 | 7097801 | ||||||||
สกุลเงิน | เรียลกัมพูชา | ||||||||
|
ภูมิหลัง
ได้มีการประกาศจัดตั้งสาธารณรัฐเขมรอย่างเป็นทางการเมื่อ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2513 โดยกลุ่มฝ่ายขวาที่นิยมสหรัฐอเมริกา นำโดยลน นล และนักองค์ราชวงศ์สีสุวัตถิ์ สิริมตะ ซึ่งได้อำนาจมาจากการรัฐประหาร 18 มีนาคม พ.ศ. 2513 ล้มล้างรัฐบาลราชอาณาจักรกัมพูชาของสมเด็จพระนโรดม สีหนุ
สาเหตุหลักของรัฐประหารคือการที่สมเด็จพระนโรดม สีหนุ หันไปสนับสนุนกิจกรรมของเวียดนามเหนือตามแนวชายแดนกัมพูชา ยอมให้มีการขนส่งอาวุธหนักของฝ่ายคอมมิวนิสต์ผ่านพื้นที่กัมพูชาตะวันออก และเศรษฐกิจของกัมพูชาได้รับผลกระทบจากนโยบายของสีหนุที่ประกาศเป็นกลางและต่อต้านสหรัฐอเมริกา
เมื่อสมเด็จพระนโรดม สีหนุ พ้นจากอำนาจ การปกครองของกัมพูชาจึงเปลี่ยนจากราชอาณาจักรมาเป็นสาธารณรัฐ แม้ว่าราชบัลลังก์จะว่างมาหลายปีนับตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระนโรดม สุรามฤตเสด็จสวรรคต ลักษณะของระบอบใหม่เป็นชาตินิยมฝ่ายขวา เป็นการสิ้นสุดความร่วมมือกับเวียดนามเหนือและเวียดกงในยุคสมเด็จพระนโรดม สีหนุและเป็นพันธมิตรกับเวียดนามใต้ในสงครามอินโดจีนที่กำลังดำเนินอยู่ สาธารณรัฐเขมรได้ประกาศเป็นฝ่ายตรงข้ามกับแนวร่วมสหภาพแห่งชาติเขมร ซึ่งเป็นพันธมิตรในแนวชายแดนระหว่างฝ่ายของสมเด็จพระนโรดม สีหนุ กับพรรคคอมมิวนิสต์กัมพูชา ฝ่ายทหารขององค์กรดังกล่าวคือซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกองทัพประชาชนเวียดนามและแนวร่วมปลดปล่อยแห่งชาติเวียดนามใต้หรือเวียดกง ซึ่งเข้ามาใช้พื้นที่ของกัมพูชาเพื่อเข้ายึดครองเวียดนามใต้
แม้ว่ารัฐบาลของสาธารณรัฐเขมรจะเป็นรัฐบาลทหารและได้รับการสนับสนุนทางทหารและการเงินจากสหรัฐอเมริกา แต่กองทัพของรัฐบาลนี้กลับอ่อนแอ ไม่ได้รับการฝึกฝนที่พอเพียง ทำให้พ่ายแพ้ต่อกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติประชาชนกัมพูชา กองทัพประชาชนเวียดนาม และเวียดกง สาธารณรัฐเขมรจึงล่มสลายเมื่อ 17 เมษายน พ.ศ. 2518 เมื่อฝ่ายคอมมิวนิสต์ยึดครองพนมเปญได้
รัฐประหาร
สมเด็จพระนโรดม สีหนุกล่าวอ้างว่าการรัฐประหารเมื่อ พ.ศ. 2513 เป็นผลจากความร่วมมือของเซิน หง็อก ถั่ญ นักชาตินิยมฝ่ายขวาที่ลี้ภัยออกนอกประเทศ นักองค์ราชวงศ์ สีสุวัตถิ์ สิริมตะ นายกรัฐมนตรีซึ่งเคยเป็นคู่แข่งของสมเด็จพระนโรดม สีหนุในการขึ้นสู่ราชบัลลังก์กัมพูชา และซีไอเอ เพื่อจัดตั้งรัฐบาลที่เป็นมิตรกับสหรัฐ จริง ๆ แล้วมีหลักฐานน้อยที่แสดงว่าสหรัฐเกี่ยวข้องกับรัฐประหาร เว้นแต่จะมีส่วนหนึ่งของกองกำลังพิเศษของสหรัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในการสนับสนุนและฝึกฝนให้กับทหารของลน นล
เมื่อสมเด็จพระนโรดม สีหนุเดินทางออกจากประเทศไปเยือนฝรั่งเศส ได้เกิดการลุกฮือขึ้นต่อต้านเวียดนามในพนมเปญ มีการโจมตีสถานทูตของเวียดนามเหนือและเวียดกง คาดว่าการลุกฮือครั้งนี้ มีฝ่ายของลน นล อยู่เบื้องหลัง ในวันที่ 12 มีนาคม นายกรัฐมนตรีประกาศปิดท่าเรือเมืองพระสีหนุเพื่อระงับการขนส่งอาวุธไปให้เวียดกงและเวียดนามเหนือ และออกคำสั่งให้เวียดกงถอนทหารออกไปจากกัมพูชาภายใน 72 ชั่วโมงหรือภายใน 15 มีนาคม มิฉะนั้นจะใช้กำลังทหาร. แม้ว่าจะเป็นการขัดต่อนโยบายของสีหนุที่ให้ความร่วมมือกับเวียดนามเหนือ แต่ลน นล ได้แสดงตนเป็นผู้กุมชะตากรรมของประเทศ เขาต้องการให้กดดันเวียดนามเหนือมากกว่านี้
การลงมติของสภาแห่งชาติในวันที่ 18 มีนาคม ถูกควบคุมโดยอิน ตัม ลน นลได้ประกาศตัวเป็นผู้นำของประเทศในภาวะฉุกเฉิน ในวันที่ 28 – 29 มีนาคม มีกลุ่มผู้นิยมสีหนุจำนวนมากในหลายจังหวัดออกมาประท้วง ลน นลสั่งให้มีการปราบปรามทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน มีเจ้าหน้าที่ทหารหลายคนเสียชีวิตรวมทั้ง ลน นิล น้องชายของลน นล
ท่าทีของต่างชาติยังไม่แน่นอนกับการสนับสนุนรัฐบาลใหม่ เวียดนามเหนือพยายามเจรจากับลน นล เพื่อรื้อฟื้นข้อตกลงทางการค้าที่ถูกยกเลิกไป แต่ในที่สุดการเจรจาก็สิ้นสุดลง อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยเป็นประเทศแรกที่ให้การรับรองสาธารณรัฐเขมร โดยได้ส่ง เป็นเอกอัครราชทูตคนแรกประจำสาธารณรัฐเขมร
การประกาศจัดตั้งสาธารณรัฐเขมรและกองทัพแห่งชาติเขมร
ผลกระทบสำคัญที่เกิดขึ้นหลังรัฐประหารคือช่วงเวลาระหว่างเมษายน – มิถุนายน พ.ศ. 2513 กองทัพเวียดนามใต้ซึ่งมีสหรัฐอเมริกาหนุนหลังบุกเข้าสู่กัมพูชาตะวันออกเพื่อโจมตีกองทหารของเวียดนามเหนือและเวียดกง ทำให้กองกำลังคอมมิวนิสต์ต้องถอยลึกเข้ามาทางตะวันตกในแผ่นดินกัมพูชามากขึ้น หรือมิฉะนั้นก็เคลื่อนกำลังไปทางตะวันออกเฉียงเหนือของกัมพูชาซึ่งเป็นพื้นที่ของฝ่ายที่ต่อต้านลน นล ลน นลกล่าวว่าเหตุการณ์เป็นการก่อการร้ายในกัมพูชา ทำให้กัมพูชาตกอยู่ในสภาวะอันตราย ในขณะที่สหรัฐอเมริกากล่าวว่าจะไม่มีการใช้ทหารปฏิบัติการภาคพื้นดินในกัมพูชา แต่จะช่วยเหลือกองทัพกัมพูชาแทน
ในวันที่ 9 ตุลาคม ศาลทหารได้ตัดสินประหารชีวิตสมเด็จพระนโรดม สีหนุ สมเด็จพระมหากษัตริยานีกุสุมะ พระมารดาของสีหนุ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของราชวงศ์ในสมัยของสีหนุถูกกักบริเวณ และพระราชินีโมนิก พระมเหสีของสีหนุถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต ฝ่ายปฏิวัติได้ประกาศจัดตั้งสาธารณรัฐเขมร ในขณะที่สีหนุได้ประกาศจัดตั้งรัฐบาลราชอาณาจักรสหภาพแห่งชาติกัมพูชาที่ปักกิ่งที่มีฝ่ายคอมมิวนิสต์หนุนหลัง
กองทัพจริง ๆ ของฝ่ายราชวงศ์ในช่วงเวลาที่เกิดรัฐประหารมีเพียง 35,000 คน และขยายตัวเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนกองทัพฝ่ายสาธารณรัฐมีทหารประมาณ 150,000 คน ในช่วงปลายปี พ.ศ. 2513 ส่วนใหญ่มาจากกลุ่มต่อต้านเวียดนาม สหรัฐให้การสนับสนุนในการฝึกหัดทหาร และส่งทหารของเขมรเสรีและกองทัพที่ฝึกในเวียดนามใต้เข้ามาอีก หลายพันคน ทำให้ทหารฝ่ายสาธารณรัฐเพิ่มเป็น 200,000 คน
แม้ว่าจะได้รับความช่วยเหลือจากสหรัฐ แต่กองทัพของสาธารณรัฐเขมรมีปัญหาด้านคอรัปชั่น โดยเฉพาะเงินเดือนของกองทหารที่ไม่มีอยู่จริง และความไร้ประสิทธิภาพของกองทัพ แม้ว่านายทหารของฝ่ายสาธารณรัฐอย่างนักองค์มจะ นโรดม จันทรังสี ซึ่งควบคุมกองพลที่ 13 จะประสบความสำเร็จในบริเวณทางหลวงหมายเลข 4 และที่ราบคีรีรมย์ แต่แม้ทัพนายกองคนสำคัญคนอื่น ๆ มักไร้ประสบการณ์หรือความสามารถ ปฏิบัติการที่สำคัญในการต่อต้านเวียดนามคือปฏิบัติการเจนละ 1 และ 2 สิ้นสุดลงด้วยความพ่ายแพ้
เหตุการณ์ทางการเมืองของสาธารณรัฐเขมร
นอกจากจะเข้าร่วมในสงครามอินโดจีนโดยอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับกลุ่มที่นิยมสมเด็จพระนโรดม สีหนุ พรรคคอมมิวนิสต์กัมพูชา และเวียดนามเหนือแล้ว สาธารณรัฐเขมรยังมีความขัดแย้งกันภายในรัฐบาล ความโดดเด่นทางการเมืองขอสมเด็จงพระนโรดม สีหนุในช่วง พ.ศ. 2493 – 2513 แสดงถึงความเป็นนักการเมืองที่จัดเจนของพระองค์ ในช่วงเริ่มต้น ฝ่ายสาธารณรัฐมีการแบ่งกลุ่มกันภายในเพื่อต่อสู้กับระบอบสีหนุคือฝ่ายของลน นล กับฝ่ายของนักองค์ราชวงศ์สีสุวัตถิ์ สิริมตะ นักองค์ราชวงศ์สีสุวัตถิ์ สิริมตะเป็นนายกรัฐมนตรีในปีแรกเนื่องจากลน นล มีปัญหาทางด้านสุขภาพ บทบาทของเจ้าสิริมตะมีความโดดเด่นเนื่องจากรูปแบบการบริหารงานและการเป็นเชื้อพระวงศ์ ความนิยมเพิ่มขึ้นในกลุ่มคนหนุ่มสาว และคนในเขตเมือง แม้ว่ายังคงมีการฉ้อราษฎร์บังหลวงที่ทำให้รัฐบาลอ่อนแอ เมื่อลน นลเดินทางกลับมาจากการรักษาตัวที่ฮาวายในเดือนเมษายน พ.ศ. 2514 ได้เกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรงในรัฐบาล โดยเฉพาะกับลน นน น้องชายของลน นลที่มีบทบาทมากในกองทัพ ในวันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2514 ลน นลเข้าครอบงำสภาแห่งชาติในการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่
พ.ศ. 2515: การกำจัดนักองค์ราชวงศ์ สีสุวัตถิ์ สิริมตะ
ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2515 ลน นลและน้องชายได้กำจัดนักองค์ราชวงศ์ สีสุวัตถิ์ สิริมตะ ให้พ้นจากอำนาจ ลน นนจัดให้นักศึกษาสายอาชีพออกมาเรียกร้องให้เจ้าะสิริมตะลาออก ในที่สุดเจ้าสิริมตะจึงถูกกักบริเวณ ลน นลก้าวขึ้นเป็นประมุขของประเทศ เจง เฮงเข้ามามีบทบาทในรัฐบาลและเซิง งอกทัญ ซึ่งเป็นผู้นำของเขมรเสรีและกองทัพจากขแมร์กรอมเป็นนายกรัฐมนตรี มีกองทัพของสหรัฐฯ ให้การสนับสนุน
ปลายปีนั้น ลน นลประกาศลงสมัครเป็นประธานาธิบดี อิน ตัม และ ไม่เพียงแต่จะประกาศลงสมัครรับเลือกตั้ง แต่ยังไม่ยอมถอนตัวอีกด้วย การเลือกตั้งสิ้นสุดลงโดยลน นล เป็นฝ่ายชนะ โดยมีการแทรกแซงของรัฐบาล ซึ่งหากดำเนินไปโดยยุติธรรมแล้ว อิน ตัมน่าจะเป็นผู้ชนะ.
สถานการณ์ทางการเมืองยังคงวุ่นวายตลอดปี พ.ศ. 2515 พรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามทั้งสองพรรคคือกรมประชาธิปไตยของอิน ตัม และพรรคสาธารณรัฐของเจ้าสิริมตะปฏิเสธการเข้าร่วมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในเดือนกันยายน ทำให้พรรคสาธารณรัฐสังคมนิยมของลน นน ชนะอย่างถล่มทลาย เกิดการก่อการร้ายในเมืองหลวงซึ่งคาดว่าเกิดจากการควบคุมของเซิง งอกทัญ ทำให้ทัญที่เพิ่งจะประกาศปิดหนังสือพิมพ์ของเจ้าสิริมตะต้องลาออกและลี้ภัยไปเวียดนามใต้ ฮาง ทุน ฮัก นักการเมืองฝ่ายซ้ายขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี ในขณะที่รัฐบาลสาธารณรัฐเขมรอ่อนแอจากความขัดแย้งภายใน กองทัพของเวียดนามเหนือที่รบชนะในปฏิบัติการเจนละได้เข้ามาครอบงำในพื้นที่ตามแนวชายแดนกัมพูชา ทำให้พรรคคอมมิวนิสต์กัมพูชาเข้มแข็งขึ้นในเขตชนบท
พ.ศ. 2516: การเจรจาสงบศึก
ข้อตกลงสันติภาพปารีสเมื่อต้นปี พ.ศ. 2516 ทำให้สงครามกลางเมืองชะงักไประยะหนึ่ง ลน นล ประกาศสงบศึกฝ่ายเดียว แม้ว่ากองทัพของฝ่ายสาธารณรัฐอ่อนแอเต็มที จริง ๆ แล้วมีการติดต่อกันเพียงเล็กน้อยระหว่างฝ่ายสาธารณรัฐกับฝ่ายเขมรแดงหัวก้าวหน้าคือ ฮู ยวน เวียดนามเหนือกดดันให้พรรคคอมมิวนิสต์กัมพูชายอมรับข้อตกลงสันติภาพ ในขณะที่ยังมีการสู้รบกันบ้างประปราย ผู้นำของเขมรแดงไม่ยอมรับการประนีประนอม
การสู้รบเกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2516 เมื่อกองกำลังฝ่ายคอมมิวนิสต์โจมตีฝ่ายสาธารณรัฐที่จังหวัดกำปงธม ในเดือนเมษายน กองทัพฝ่ายสาธารณรัฐพ่ายแพ้และเสียฐานที่มั่นในต่างจังหวัด สหรัฐฯ ตัดความช่วยเหลือรัฐบาลของลน นล และพยายามดึงนักงองค์ราชวงศ์ สีสุวัตถิ์ สิริมตะให้เข้ามามีบทบาท และลดบทบาทของลน นน ลง ในวันที่ 24 เมษายน ลน นล ประกาศจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติซึ่งประกอบด้วยลน นล, เจ้าสิริมตะ, เจง เฮง และอิน ตัม ความโกรธแค้นสหรัฐอเมริกาที่มาทิ้งระเบิดในกัมพูชาทำให้เขมรแดงได้รับความนิยมมากขึ้น
พ.ศ. 2517: อุดงมีชัยแตก
ช่วงต้นปี พ.ศ. 2517 ลน นลขึ้นมากุมอำนาจแต่เพียงผู้เดียวอีกครั้ง สถานการณ์ทางทหารเลวร้ายลง กองทัพคอมมิวนิสต์บุกเข้าประชิดพนมเปญและเข้ายึดเมืองหลวงเก่าได้ในเดือนมีนาคม ฝ่ายคอมมิวนิสต์ฆ่าเจ้าหน้าที่ของรัฐและครู เผาเมือง แต่ในที่สุดฝ่ายสาธารณรัฐสามารถเข้ายึดเมืองอุดงค์และเส้นทางเข้าสู่ทะเลสาบเขมรคืนมาได้
สิ้นสุดอำนาจ
ในช่วงฤดูแล้ง พ.ศ. 2518 กองกำลังเขมรแดงได้ยกเข้ามาล้อมพนมเปญไว้ มีผู้อพยพเข้าในเมืองหลวงมากขึ้น ลน นลได้สั่งให้ส่งเฮลิคอปเตอร์ไปคุ้มกันประชาชนเหล่านั้น การได้รับการสนับสนุนจากจีนทำให้ฝ่ายเขมรแดงมีความเข้มแข็งมากกว่า การพยายามเจรจาสันติภาพล้มเหลวเพราะสีหนุปฏิเสธที่จะเจรจากับลน นลโดยตรง แผนสันติภาพที่ฝรั่งเศสเสนอต่อจีนให้สีหนุกลับไปเป็นประมุขของสาธารณรัฐเขมรล้มเหลวเช่นกัน
ในวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2518 ลน นล ได้ประกาศลาออกและลี้ภัยออกนอกประเทศ กองทัพฝ่ายสาธารณรัฐสลายตัวไป เจ้าสิริมตะ, ลอง โบเรต, ลน นน และนักการเมืองอื่น ๆ ยังคงอยู่ในเมืองหลวงเพื่อจะพยายามเจรจาสงบศึกกับฝ่ายเขมรแดง จนกระทั่งเมื่อพนมเปญแตกในวันที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2518 ฝ่ายเขมรแดงได้ประหารชีวิตนักการเมืองในระบอบเก่าทั้งหมด สาธารณรัฐเขมรจึงล่มสลายลง บริเวณสุดท้ายที่อยู่ภายใต้อำนาจของฝ่ายสาธารณรัฐเขมรคือบริเวณปราสาทเขาพระวิหารบนเทือกเขาพนมดงรัก ซึ่งกองทัพฝ่ายสาธารณรัฐสามารถยึดครองไว้ได้ในปลายเดือนเมษายน พ.ศ. 2518. และฝ่ายเขมรแดงแย่งชิงมาได้เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2518
อ้างอิง
- Milton Osborne, Sihanouk, Prince of Light, Prince of Darkness. Silkworm 1994. .
- Norodom Sihanouk, My War with the CIA, Pantheon (1972). , p.37
- Kiernan, B. How Pol Pot came to power, Yale University Press (2004). , p.300
- Shawcross, W. (1981). Sideshow: Kissinger, Nixon, and the Destruction of Cambodia. New York: Washington Square Books. p. 118. ISBN .
- Sutsakhan, Lt. Gen. S. The Khmer Republic at War and the Final Collapse Washington DC: U.S. Army Center of Military History, 1987, Part 1, p. 42. 2019-04-12 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน See also Part 1 2019-04-12 ที่ เวย์แบ็กแมชชีนPart 2 2007-02-21 ที่ เวย์แบ็กแมชชีนPart 3 2007-02-21 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน.
- ชาญวิทย์ เกษตรศิริ. ลัทธิชาตินิยมไทย/สยามกับกัมพูชาและกรณีศึกษาปราสาทเขาพระวิหาร.มูลนิธิโครงการตำราสังคมศาสตร์. 2552. หน้า 93
- Kiernan, p.303
- Leifer, M. Selected Works on Southeast Asia, Institute of Southeast Asian Studies (no ISBN), p.418
- Kiernan, p.347
- Kamm, H. Cambodia: report from a stricken land, Arcade (1998). , pp.110-112
- Kiernan, p.346
- Kahin, G. Southeast Asia: a testament, Routledge (2003). , p.310
- Clymer, K. J. (2004). The United States and Cambodia, 1969-2000. Routledge. p. 55. ISBN .
- Clymer, p.65
- Kiernan, p.348
- Clymer, p.71
- To the bitter end in Cambodia, , 25-04-75
แหล่งข้อมูลอื่น
- เพลงชาติของสาธารณรัฐเขมร
- Lon Nol- The Khmer Republic
- République Khmère 1970-1975 (07/15) Part of a series (ฝรั่งเศส)
- République Khmère 1970-1975 (15/15) (ฝรั่งเศส)
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
satharnrthekhmr ekhmr ស ធ រណរដ ឋខ ម រ frngess Republique Khmere epnrthbalkhxngpraethskmphuchathipkkhrxngdwyrabxbsatharnrth kxtngkhunemux 9 tulakhm ph s 2513 odyminayphl lxnnxl cnthung nayphllxngobert thiepnprathanathibdiyukhsatharnrthekhmr aelaslaytwipemux ph s 2518 hlngcakthiekhmraedngyudkrungphnmepyid aelaprakascdtngkmphuchaprachathipitysatharnrthekhmr ស ធ រណរដ ឋខ ម រ ekhmr Republique khmere frngess ph s 2513 ph s 2518thngchati traaephndinkhakhwy ស រ ភ ព សមភ ព ភ តរភ ព វឌ ឍនភ ព ន ង ស ភមង គល esriphaph esmxphakh phradrphaph wthnphaph aelasuphmngkhl ephlngchati ដ ណ រស ធ រណរដ ឋខ ម រ marchsatharnrthekhmr source source sthanasatharnrthemuxnghlwngphnmepyphasathwipphasaekhmr phasafrngesssasnasasnaphuththnikayethrwathedmanimchawekhmrkarpkkhrxngrthediyw rabbprathanathibdi satharnrthrabbrthsphaphayitephdckarthharprathanathibdi ph s 2513 2515ecng ehng pramukhaehngrth ph s 2515 2518lxn nxl ph s 2518sk sutskhan khnsudthay naykrthmntri ph s 2513 2514lxn nxl ph s 2514 2515sisuwtthi sirimta ph s 2515esin hngxk thy ph s 2515 2516hang thun hk ph s 2516xin tm ph s 2516 2518lxng obertsphanitibyytiyukhprawtisastrsngkhramklangemuxngkmphucha rthpraharlmrabxbsngkhmrasdrniym18 minakhm ph s 2513 phnmepyaetk17 emsayn ph s 2518phunthiph s 2513181 035 tarangkiolemtr 69 898 tarangiml ph s 2518181 035 tarangkiolemtr 69 898 tarangiml prachakr ph s 25136937995 ph s 25187097801skulengineriylkmphuchakxnhna thdiprachxanackrkmphucha ph s 2497 2513 kmphuchaprachathipityphumihlnglxn nxl phunainkarrthpraharaelamibthbathsakhytlxdsmysatharnrthekhmrnkxngkhrachwngs sisuwtthi sirimta phunaphrrkhsatharnrthaelaxditnaykrthmntrikhxngsatharnrthekhmr idmikarprakascdtngsatharnrthekhmrxyangepnthangkaremux 9 tulakhm ph s 2513 odyklumfaykhwathiniymshrthxemrika naodyln nl aelankxngkhrachwngssisuwtthi sirimta sungidxanacmacakkarrthprahar 18 minakhm ph s 2513 lmlangrthbalrachxanackrkmphuchakhxngsmedcphranordm sihnu saehtuhlkkhxngrthpraharkhuxkarthismedcphranordm sihnu hnipsnbsnunkickrrmkhxngewiydnamehnuxtamaenwchayaednkmphucha yxmihmikarkhnsngxawuthhnkkhxngfaykhxmmiwnistphanphunthikmphuchatawnxxk aelaesrsthkickhxngkmphuchaidrbphlkrathbcaknoybaykhxngsihnuthiprakasepnklangaelatxtanshrthxemrika emuxsmedcphranordm sihnu phncakxanac karpkkhrxngkhxngkmphuchacungepliyncakrachxanackrmaepnsatharnrth aemwarachbllngkcawangmahlaypinbtngaetphrabathsmedcphranordm suramvtesdcswrrkht lksnakhxngrabxbihmepnchatiniymfaykhwa epnkarsinsudkhwamrwmmuxkbewiydnamehnuxaelaewiydknginyukhsmedcphranordm sihnuaelaepnphnthmitrkbewiydnamitinsngkhramxinodcinthikalngdaeninxyu satharnrthekhmridprakasepnfaytrngkhamkbaenwrwmshphaphaehngchatiekhmr sungepnphnthmitrinaenwchayaednrahwangfaykhxngsmedcphranordm sihnu kbphrrkhkhxmmiwnistkmphucha faythharkhxngxngkhkrdngklawkhuxsungidrbkarsnbsnuncakkxngthphprachachnewiydnamaelaaenwrwmpldplxyaehngchatiewiydnamithruxewiydkng sungekhamaichphunthikhxngkmphuchaephuxekhayudkhrxngewiydnamit aemwarthbalkhxngsatharnrthekhmrcaepnrthbalthharaelaidrbkarsnbsnunthangthharaelakarengincakshrthxemrika aetkxngthphkhxngrthbalniklbxxnaex imidrbkarfukfnthiphxephiyng thaihphayaephtxkxngthphpldplxyaehngchatiprachachnkmphucha kxngthphprachachnewiydnam aelaewiydkng satharnrthekhmrcunglmslayemux 17 emsayn ph s 2518 emuxfaykhxmmiwnistyudkhrxngphnmepyidrthpraharphunthithixyuphayitkarkhwbkhumkhxngrthbalsatharnrthekhmr sikhaw emuxeduxnsinghakhm ph s 2513 smedcphranordm sihnuklawxangwakarrthpraharemux ph s 2513 epnphlcakkhwamrwmmuxkhxngesin hngxk thy nkchatiniymfaykhwathiliphyxxknxkpraeths nkxngkhrachwngs sisuwtthi sirimta naykrthmntrisungekhyepnkhuaekhngkhxngsmedcphranordm sihnuinkarkhunsurachbllngkkmphucha aelasiixex ephuxcdtngrthbalthiepnmitrkbshrth cring aelwmihlkthannxythiaesdngwashrthekiywkhxngkbrthprahar ewnaetcamiswnhnungkhxngkxngkalngphiesskhxngshrthekhaipmiswnekiywkhxnginkarsnbsnunaelafukfnihkbthharkhxngln nl emuxsmedcphranordm sihnuedinthangxxkcakpraethsipeyuxnfrngess idekidkarlukhuxkhuntxtanewiydnaminphnmepy mikarocmtisthanthutkhxngewiydnamehnuxaelaewiydkng khadwakarlukhuxkhrngni mifaykhxngln nl xyuebuxnghlng inwnthi 12 minakhm naykrthmntriprakaspidthaeruxemuxngphrasihnuephuxrangbkarkhnsngxawuthipihewiydkngaelaewiydnamehnux aelaxxkkhasngihewiydkngthxnthharxxkipcakkmphuchaphayin 72 chwomnghruxphayin 15 minakhm michanncaichkalngthhar aemwacaepnkarkhdtxnoybaykhxngsihnuthiihkhwamrwmmuxkbewiydnamehnux aetln nl idaesdngtnepnphukumchatakrrmkhxngpraeths ekhatxngkarihkddnewiydnamehnuxmakkwani karlngmtikhxngsphaaehngchatiinwnthi 18 minakhm thukkhwbkhumodyxin tm ln nlidprakastwepnphunakhxngpraethsinphawachukechin inwnthi 28 29 minakhm miklumphuniymsihnucanwnmakinhlaycnghwdxxkmaprathwng ln nlsngihmikarprabpramthaihmiphuesiychiwithlayrxykhn miecahnathithharhlaykhnesiychiwitrwmthng ln nil nxngchaykhxngln nl thathikhxngtangchatiyngimaennxnkbkarsnbsnunrthbalihm ewiydnamehnuxphyayamecrcakbln nl ephuxruxfunkhxtklngthangkarkhathithukykelikip aetinthisudkarecrcaksinsudlng xyangirktam praethsithyepnpraethsaerkthiihkarrbrxngsatharnrthekhmr odyidsng epnexkxkhrrachthutkhnaerkpracasatharnrthekhmrkarprakascdtngsatharnrthekhmraelakxngthphaehngchatiekhmrthharkhxngkxngthphshrthxemrikathiekhamain emuxngsnw praethskmphuchaemux 4 phvsphakhm ph s 2513 phlkrathbsakhythiekidkhunhlngrthpraharkhuxchwngewlarahwangemsayn mithunayn ph s 2513 kxngthphewiydnamitsungmishrthxemrikahnunhlngbukekhasukmphuchatawnxxkephuxocmtikxngthharkhxngewiydnamehnuxaelaewiydkng thaihkxngkalngkhxmmiwnisttxngthxylukekhamathangtawntkinaephndinkmphuchamakkhun hruxmichannkekhluxnkalngipthangtawnxxkechiyngehnuxkhxngkmphuchasungepnphunthikhxngfaythitxtanln nl ln nlklawwaehtukarnepnkarkxkarrayinkmphucha thaihkmphuchatkxyuinsphawaxntray inkhnathishrthxemrikaklawwacaimmikarichthharptibtikarphakhphundininkmphucha aetcachwyehluxkxngthphkmphuchaaethn inwnthi 9 tulakhm salthharidtdsinpraharchiwitsmedcphranordm sihnu smedcphramhakstriyanikusuma phramardakhxngsihnu sungepnsylksnkhxngrachwngsinsmykhxngsihnuthukkkbriewn aelaphrarachiniomnik phramehsikhxngsihnuthuktdsincakhuktlxdchiwit fayptiwtiidprakascdtngsatharnrthekhmr inkhnathisihnuidprakascdtngrthbalrachxanackrshphaphaehngchatikmphuchathipkkingthimifaykhxmmiwnisthnunhlng kxngthphcring khxngfayrachwngsinchwngewlathiekidrthpraharmiephiyng 35 000 khn aelakhyaytwephimkhuneruxy swnkxngthphfaysatharnrthmithharpraman 150 000 khn inchwngplaypi ph s 2513 swnihymacakklumtxtanewiydnam shrthihkarsnbsnuninkarfukhdthhar aelasngthharkhxngekhmresriaelakxngthphthifukinewiydnamitekhamaxik hlayphnkhn thaihthharfaysatharnrthephimepn 200 000 khn aemwacaidrbkhwamchwyehluxcakshrth aetkxngthphkhxngsatharnrthekhmrmipyhadankhxrpchn odyechphaaengineduxnkhxngkxngthharthiimmixyucring aelakhwamirprasiththiphaphkhxngkxngthph aemwanaythharkhxngfaysatharnrthxyangnkxngkhmca nordm cnthrngsi sungkhwbkhumkxngphlthi 13 caprasbkhwamsaercinbriewnthanghlwnghmayelkh 4 aelathirabkhirirmy aetaemthphnaykxngkhnsakhykhnxun mkirprasbkarnhruxkhwamsamarth ptibtikarthisakhyinkartxtanewiydnamkhuxptibtikarecnla 1 aela 2 sinsudlngdwykhwamphayaephehtukarnthangkaremuxngkhxngsatharnrthekhmrnxkcakcaekharwminsngkhramxinodcinodyxyufaytrngkhamkbklumthiniymsmedcphranordm sihnu phrrkhkhxmmiwnistkmphucha aelaewiydnamehnuxaelw satharnrthekhmryngmikhwamkhdaeyngknphayinrthbal khwamoddednthangkaremuxngkhxsmedcngphranordm sihnuinchwng ph s 2493 2513 aesdngthungkhwamepnnkkaremuxngthicdecnkhxngphraxngkh inchwngerimtn faysatharnrthmikaraebngklumknphayinephuxtxsukbrabxbsihnukhuxfaykhxngln nl kbfaykhxngnkxngkhrachwngssisuwtthi sirimta nkxngkhrachwngssisuwtthi sirimtaepnnaykrthmntriinpiaerkenuxngcakln nl mipyhathangdansukhphaph bthbathkhxngecasirimtamikhwamoddednenuxngcakrupaebbkarbriharnganaelakarepnechuxphrawngs khwamniymephimkhuninklumkhnhnumsaw aelakhninekhtemuxng aemwayngkhngmikarchxrasdrbnghlwngthithaihrthbalxxnaex emuxln nledinthangklbmacakkarrksatwthihawayineduxnemsayn ph s 2514 idekidkhwamkhdaeyngxyangrunaernginrthbal odyechphaakbln nn nxngchaykhxngln nlthimibthbathmakinkxngthph inwnthi 16 tulakhm ph s 2514 ln nlekhakhrxbngasphaaehngchatiinkarekhiynrththrrmnuyihm ph s 2515 karkacdnkxngkhrachwngs sisuwtthi sirimta ineduxnminakhm ph s 2515 ln nlaelanxngchayidkacdnkxngkhrachwngs sisuwtthi sirimta ihphncakxanac ln nncdihnksuksasayxachiphxxkmaeriykrxngihecaasirimtalaxxk inthisudecasirimtacungthukkkbriewn ln nlkawkhunepnpramukhkhxngpraeths ecng ehngekhamamibthbathinrthbalaelaesing ngxkthy sungepnphunakhxngekhmresriaelakxngthphcakkhaemrkrxmepnnaykrthmntri mikxngthphkhxngshrth ihkarsnbsnun playpinn ln nlprakaslngsmkhrepnprathanathibdi xin tm aela imephiyngaetcaprakaslngsmkhrrbeluxktng aetyngimyxmthxntwxikdwy kareluxktngsinsudlngodyln nl epnfaychna odymikaraethrkaesngkhxngrthbal sunghakdaeninipodyyutithrrmaelw xin tmnacaepnphuchna sthankarnthangkaremuxngyngkhngwunwaytlxdpi ph s 2515 phrrkhkaremuxngfaytrngkhamthngsxngphrrkhkhuxkrmprachathipitykhxngxin tm aelaphrrkhsatharnrthkhxngecasirimtaptiesthkarekharwmkareluxktngsmachiksphaphuaethnrasdrineduxnknyayn thaihphrrkhsatharnrthsngkhmniymkhxngln nn chnaxyangthlmthlay ekidkarkxkarrayinemuxnghlwngsungkhadwaekidcakkarkhwbkhumkhxngesing ngxkthy thaihthythiephingcaprakaspidhnngsuxphimphkhxngecasirimtatxnglaxxkaelaliphyipewiydnamit hang thun hk nkkaremuxngfaysaykhunepnnaykrthmntri inkhnathirthbalsatharnrthekhmrxxnaexcakkhwamkhdaeyngphayin kxngthphkhxngewiydnamehnuxthirbchnainptibtikarecnlaidekhamakhrxbngainphunthitamaenwchayaednkmphucha thaihphrrkhkhxmmiwnistkmphuchaekhmaekhngkhuninekhtchnbth ph s 2516 karecrcasngbsuk khxtklngsntiphaphparisemuxtnpi ph s 2516 thaihsngkhramklangemuxngchangkiprayahnung ln nl prakassngbsukfayediyw aemwakxngthphkhxngfaysatharnrthxxnaexetmthi cring aelwmikartidtxknephiyngelknxyrahwangfaysatharnrthkbfayekhmraednghwkawhnakhux hu ywn ewiydnamehnuxkddnihphrrkhkhxmmiwnistkmphuchayxmrbkhxtklngsntiphaph inkhnathiyngmikarsurbknbangprapray phunakhxngekhmraedngimyxmrbkarpranipranxm karsurbekidkhunxikkhrngemux 7 kumphaphnth ph s 2516 emuxkxngkalngfaykhxmmiwnistocmtifaysatharnrththicnghwdkapngthm ineduxnemsayn kxngthphfaysatharnrthphayaephaelaesiythanthimnintangcnghwd shrth tdkhwamchwyehluxrthbalkhxngln nl aelaphyayamdungnkngxngkhrachwngs sisuwtthi sirimtaihekhamamibthbath aelaldbthbathkhxngln nn lng inwnthi 24 emsayn ln nl prakascdtngrthbalaehngchatisungprakxbdwyln nl ecasirimta ecng ehng aelaxin tm khwamokrthaekhnshrthxemrikathimathingraebidinkmphuchathaihekhmraedngidrbkhwamniymmakkhun ph s 2517 xudngmichyaetk chwngtnpi ph s 2517 ln nlkhunmakumxanacaetephiyngphuediywxikkhrng sthankarnthangthharelwraylng kxngthphkhxmmiwnistbukekhaprachidphnmepyaelaekhayudemuxnghlwngekaidineduxnminakhm faykhxmmiwnistkhaecahnathikhxngrthaelakhru ephaemuxng aetinthisudfaysatharnrthsamarthekhayudemuxngxudngkhaelaesnthangekhasuthaelsabekhmrkhunmaid sinsudxanac inchwngvduaelng ph s 2518 kxngkalngekhmraedngidykekhamalxmphnmepyiw miphuxphyphekhainemuxnghlwngmakkhun ln nlidsngihsngehlikhxpetxripkhumknprachachnehlann karidrbkarsnbsnuncakcinthaihfayekhmraedngmikhwamekhmaekhngmakkwa karphyayamecrcasntiphaphlmehlwephraasihnuptiesththicaecrcakbln nlodytrng aephnsntiphaphthifrngessesnxtxcinihsihnuklbipepnpramukhkhxngsatharnrthekhmrlmehlwechnkn inwnthi 1 emsayn ph s 2518 ln nl idprakaslaxxkaelaliphyxxknxkpraeths kxngthphfaysatharnrthslaytwip ecasirimta lxng obert ln nn aelankkaremuxngxun yngkhngxyuinemuxnghlwngephuxcaphyayamecrcasngbsukkbfayekhmraedng cnkrathngemuxphnmepyaetkinwnthi 17 emsayn ph s 2518 fayekhmraedngidpraharchiwitnkkaremuxnginrabxbekathnghmd satharnrthekhmrcunglmslaylng briewnsudthaythixyuphayitxanackhxngfaysatharnrthekhmrkhuxbriewnprasathekhaphrawiharbnethuxkekhaphnmdngrk sungkxngthphfaysatharnrthsamarthyudkhrxngiwidinplayeduxnemsayn ph s 2518 aelafayekhmraedngaeyngchingmaidemuxwnthi 22 phvsphakhm ph s 2518xangxingMilton Osborne Sihanouk Prince of Light Prince of Darkness Silkworm 1994 ISBN 978 0824816391 Norodom Sihanouk My War with the CIA Pantheon 1972 ISBN 978 0394485430 p 37 Kiernan B How Pol Pot came to power Yale University Press 2004 ISBN 978 0300102628 p 300 Shawcross W 1981 Sideshow Kissinger Nixon and the Destruction of Cambodia New York Washington Square Books p 118 ISBN 0671230700 Sutsakhan Lt Gen S The Khmer Republic at War and the Final Collapse Washington DC U S Army Center of Military History 1987 Part 1 p 42 2019 04 12 thi ewyaebkaemchchin See also Part 1 2019 04 12 thi ewyaebkaemchchinPart 2 2007 02 21 thi ewyaebkaemchchinPart 3 2007 02 21 thi ewyaebkaemchchin chaywithy ekstrsiri lththichatiniymithy syamkbkmphuchaaelakrnisuksaprasathekhaphrawihar mulnithiokhrngkartarasngkhmsastr 2552 hna 93 Kiernan p 303 Leifer M Selected Works on Southeast Asia Institute of Southeast Asian Studies no ISBN p 418 Kiernan p 347 Kamm H Cambodia report from a stricken land Arcade 1998 ISBN 978 1611451269 pp 110 112 Kiernan p 346 Kahin G Southeast Asia a testament Routledge 2003 ISBN 978 0415299756 p 310 Clymer K J 2004 The United States and Cambodia 1969 2000 Routledge p 55 ISBN 9780415326025 Clymer p 65 Kiernan p 348 Clymer p 71 To the bitter end in Cambodia 25 04 75aehlngkhxmulxunephlngchatikhxngsatharnrthekhmr Lon Nol The Khmer Republic Republique Khmere 1970 1975 07 15 Part of a series frngess Republique Khmere 1970 1975 15 15 frngess 12 15 N 105 36 E 12 250 N 105 600 E 12 250 105 600