วัคซีน (อังกฤษ: vaccine) เป็นที่เตรียมขึ้นจากเชื้อจุลินทรีย์หรือส่วนของเชื้อจุลินทรีย์ซึ่งจะมีกลไกชักนำให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันที่จำเพาะต่อจุลินทรีย์ชนิดนั้น ๆ กล่าวคือมีฤทธิ์ชักนำการสร้างภูมิคุ้มกันอันจำเพาะกับโรค วัคซีนโดยทั่วไปจะประกอบด้วยส่วนประกอบของจุลินทรีย์ที่เป็นสาเหตุของโรค (แอนติเจน) ซึ่งถูกทำให้อ่อนฤทธิ์ลง, ตาย หรือการใช้ส่วนที่เป็นพิษที่อ่อนฤทธิ์ลง (toxoid) โดยวัคซีนจะกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายและสามารถจดจำได้ว่าเป็นสารก่อโรคซึ่งจะมีกลไกการทำลายต่อไป คุณสมบัติการจดจำแอนติเจนของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำให้ร่างกายสามารถกำจัดแอนติเจนหากเมื่อได้รับอีกในภายหลังได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
วัคซีน | |
---|---|
การแทรกแซง | |
เด็กกำลังรับวัคซีนโปลิโอชนิดหยอด | |
MeSH | D014612 |
วัคซีนเริ่มมีการพัฒนาในราวคริสต์ทศวรรษ 1770 โดยเอดเวิร์ด เจนเนอร์ นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ ประสบความสำเร็จในการสกัดเชื้อ cowpox เพื่อป้องกันโรคฝีดาษ (small pox) ในมนุษย์ได้
วัคซีนในระยะเริ่มแรกเป็นการนำเชื้อมาทำให้ตายหรือการใช้เชื้อที่อ่อนฤทธิ์เท่านั้น จนกระทั่งปัจจุบันมีการพัฒนาโดยนำเทคโนโลยีรีคอมบีแนนต์มาช่วยในการพัฒนาโดยอาศัยความรู้ทางชีววิทยาระดับโมเลกุล และมีความพยายามพัฒนาวัคซีนโดยการสังเคราะห์แอนติเจนในการผลิตซับยูนิตวัคซีน (subunit vaccine) อีกด้วย
คำว่า "วัคซีน" (vaccine) ได้มาจากครั้งที่เอ็ดวาร์ดให้เชื้อ cowpox แก่มนุษย์ โดยคำว่า variolæ vaccinæ มาจากคำว่า vaccīn-us หรือ vacca ซึ่งแปลว่า cow หรือวัวซึ่งมีความสัมพันธ์กับเชื้อ cowpox
ประวัติ
ในราวคริสต์ศตวรรษที่ 1770 เอดเวิร์ด เจนเนอร์ นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษได้ทราบเรื่องของสตรีผู้เลี้ยงวัวที่ไม่เคยป่วยด้วยโรคฝีดาษเลย ภายหลังเธอป่วยด้วยโรค ซึ่งเธอติดเชื้อดังกล่าวจากวัวที่เธอเลี้ยง และเป็นโรคที่อาการไม่รุนแรงนักในมนุษย์ ในปี ค.ศ. 1796 เจนเนอร์สกัดนำเชื้อ cowpox จากสตรีผู้นั้นแล้วให้แก่เด็กชายวัย 8 ปี หลังจากนั้น 6 สัปดาห์เขาได้ให้เชื้อฝีดาษ (small pox) แก่เด็กชายผู้นั้น พบว่าเด็กชายไม่ป่วยหรือมีอาการสำแดงถึงโรคฝีดาษ ต่อมาได้มีการทดลองเพิ่มเติมถึงประสิทธิภาพวิธีการนี้ในทารก เมื่อพบว่าวิธีการนี้ปลอดภัยกว่าการปลูกฝีอย่างมาก ภายหลังได้มีการนำความคิดนี้ไปใช้อย่างกว้างขวางทั่วอังกฤษและวิธีการปลูกฝีถูกสั่งห้ามในปี ค.ศ. 1840หลุยส์ ปาสเตอร์ได้นำแนวความคิดของเจนเนอร์ไปประยุกต์กับวัคซีนป้องกันอหิวาตกโรคจากสัตว์ปีกจำพวกเป็ด-ไก่ โดยเขาแยกเชื้อและนำมาเพาะเลี้ยงในห้องปฏิบัติการ ทำให้เชื้ออ่อนฤทธิ์ลงและฉีดเข้ากับเด็กผลปรากฏว่าเด็กมีแนวโน้มต้านทานต่อเชื้ออหิวาตกโรค ซึ่งแนวคิดนี้เป็นแนวคิดพื้นฐานต่อการผลิตวัคซีนในระยะหลัง ต่อมาในราวคริสต์ศตวรรษที่ 19 วัคซีนได้รับการผลักดันจนมีความสำคัญระดับชาติซึ่งมีกฎหมายวัคซีนบังคับขึ้นใช้ในหลายประเทศ และมีการแจกจ่ายวัคซีนต่าง ๆ ไปทั่วโรค อาทิ วัคซีนป้องกันโรคไข้ทรพิษ, โรคโปลิโอ, โรคไอกรน เป็นต้น ในคริสต์ศตวรรษที่ 20 มีการพัฒนาวัคซีนและประสบความสำเร็จมากมาย อาทิ โรคคอตีบ, โรคหัด, โรคคางทูม และโรคหัดเยอรมัน โดยวัคซีนเหล่านี้ส่วนมากได้ใช้องค์ความรู้และแนวคิดการพัฒนามาจากวัคซีนป้องกันโรคโปลิโอในคริสต์ศตวรรษที่ 1950 และการพัฒนาวัคซีนโรคฝีดาษในราวคริสต์ทศวรรษ 1960 และ 1970 ปัจจุบันมีการพัฒนากระบวนการผลิตวัคซีนโดยอาศัยองค์ความรู้ทางชีววิทยาระดับโมเลกุลและเทคโนโลยีรีคอมบีแนนต์พัฒนาวัคซีนขึ้น อาทิ recombinant hepatitis B vaccine ซึ่งถือเป็นวัคซีนรุ่นที่สอง และในอนาคตมีความพยายามพัฒนาวัคซีนขึ้นโดยการสังเคราะห์แอนติเจนผ่านกระบวนการทางเคมีและฟิสิกส์ในหลอดทดลอง (in vitro) โดยผลิตซับยูนิตวัคซีน อาทิ peptide synthetic vaccine หรืออาศัยความรู้ทางชีววิทยาระดับโมเลกุลร่วมกัน อาทิ แอนแทรกซ์วัคซีนและ recombinant synthetic เพื่อป้องกันโรคเอดส์ อย่างไรก็ดีวัคซีนในปัจจุบันยังไม่ครอบคลุมถึงโรคสำคัญอีกหลายโรค อาทิ โรคมาลาเรียและโรคเอดส์
ชนิดของวัคซีน
วัคซีนในปัจจุบันสามารถแบ่งได้สองเกณฑ์จำแนกคือ เกณฑ์จำแนกทางการให้ยา แบ่งได้สองประเภทคือการกินและการฉีด อีกเกณฑ์จำแนกคือลักษณะของแอนติเจนที่ให้ซึ่งแบ่งออกได้เป็นวัคซีนชนิดเป็นและชนิดตาย รวมถึงยังมีทอกซอยด์อีกด้วย
ชนิดตัวตาย
วัคซีนชนิดตัวตาย (Killed Vaccine) เป็นวัคซีนวิธีการแรก ๆ ที่นำมาใช้ในการผลิตวัคซีน ซึ่งประกอบด้วยจุลินทรีย์ตายทั้งตัวหรือส่วนประกอบของจุลินทรีย์ที่มีคุณสมบัติเป็นแอนติเจน อาทิ แคปซูล ฟิลิ หรือไรโบโซม วัคซีนชนิดนี้ผ่านการเลี้ยงเชื้อในสภาวะที่มีความรุนแรงสูงและนำจุลินทรีย์มาฆ่าด้วยวิธีการต่าง ๆ อาทิ การใช้ความร้อน, การใช้แสงอัลตราไวโอเลต และการใช้สารเคมีอย่างฟีนอลหรือฟอร์มาลิน การใช้วัคซีนชนิดนี้ต้องมีขนาดการใช้สูงเนื่องจากเชื้อจุลินทรีย์ตายแล้วและไม่อาจเพิ่มปริมาณในร่างกายผู้ให้วัคซีนได้ รวมถึงการออกฤทธิ์วัคซีนประเภทนี้จะสั้นซึ่งสามารถป้องกันได้โดยการใช้สารจำพวกแอตจูแวนต์ (Adjuvant) หรือใช้วิธีการฉีดกระตุ้นให้ระดับแอนติบอดีสูงพอที่จะป้องกันโรคได้
วัคซีนตัวตายทำนำส่วนใดส่วนหนึ่งของจุลินทรีย์มาทำเป็นวัคซีนนั้นเรียกว่าซับยูนิตวัคซีน (subunit vaccine) สามารถแบ่งตามลักษณะการได้มาของแอนติเจนอาทิการสกัดแอนติเจน (antigen extract), การผลิตแอนติเจนโดยกระบวนการเทคโนโลยีรีคอมบีแนนต์ และการสังเคราะห์แอนติเจนในหลอดทดลอง นอกจากนี้ยังมีการนำยีนของเชื้อที่ก่อโรคมาสกัดนำยีนควบคุมลักษณะการสร้างแอนติเจนมากระตุ้นให้เกิดแอนติบอดีขึ้น ซึ่งยีนนั้นจะมีส่วนของโปรตีนกระตุ้นภูมิคุ้มกันต่อโรคโดยการนำยีนสอดแทรกเข้าไปในดีเอ็นเอของเชื้อก่อโรคนั้นด้วย
อนึ่ง ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์อันเป็นพิษของแบคทีเรียก็ได้จัดกลุ่มเป็นส่วนหนึ่งของวัคซีนชนิดตัวตายด้วย โดยนำสารพิษ (toxin) มาทำให้ความเป็นพิษหมดไปแต่ยังสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันของโรคได้ซึ่งจะเป็นส่วนของสารประเภทโปรตีนในทอกซิน การหมดพิษไปของทอกซินอาจตั้งทิ้งไว้ช่วงระยะเวลาหนึ่งหรือการใช้ความร้อนและสารเคมีในเชิงเภสัชอุตสาหกรรม การใช้วิธีการทำให้หมดฤทธิ์วิธีการใดจำเป็นต้องตระหนักถึงความทนสภาพของแอนติเจนที่จะไม่หมดฤทธิ์ตามพิษนั้นไปด้วย ทอกซอยด์ที่ได้นิยมนำไปตกตะกอนด้วยอะลัมเพื่อให้ดูดซึมในร่างกายอย่างช้า ๆ โดยฉีดเข้าทางกล้ามเนื้อ ปัจจุบันมีทอกซอย์ด์สองชนิดเท่านั้นคือทอกซอยด์ป้องกันโรคคอตีบ และโรคบาดทะยัก
ชนิดตัวเป็น
วัคซีนชนิดตัวเป็น (Live Attenuated Vaccine) ประกอบด้วยจุลินทรีย์ที่ยังมีชีวิตแต่ถูกทำให้อ่อนฤทธิ์ลง ไม่ก่อโรคในร่างกายมนุษย์แต่สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้โดยการคัดเลือกตัวผ่าเหล่าของจุลินทรีย์ที่มีความรุนแรงต่ำโดยผ่านกระบวนการต่าง ๆ อาทิ การทำให้แห้ง, การเลี้ยงในสภาวะผิดปกตินอกโฮสต์, การเลี้ยงจนอ่อนฤทธิ์และการใช้เทคโนโลยีรีคอมบีแนนต์เข้าร่วม ซึ่งข้อดีของวัคซีนชนิดนี้ประการหนึ่งคือการสามารถเจริญและเพิ่มจำนวนในร่างกายได้ ทำให้สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกายได้เป็นเวลานานและระดับภูมิคุ้มกันสูงกว่าในวัคซีนชนิดตัวตาย สามารถให้ในปริมาณที่น้อยได้และยังเป็นการเลียนแบบการติดเชื้อตามธรรมชาติอีกด้วย
อย่างไรก็ดีวัคซีนชนิดตัวเป็นยังมีปัญหาหลายประการ อาทิ ความรุนแรงในการอ่อนฤทธิ์ของไวรัสคือต้องมีขนาดพอเหมาะ ความรุนแรงต่ำต้องไม่ต่ำจนกระทั่งไม่สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ คือสูญเสียคุณสมบัติแอนติเจน และเชื้อผ่าเหล่าที่ได้รับการคัดเลือกจำต้องมีความคงตัว นอกจากนี้ปัญหาการปนเปื้อนไวรัสจากการเลี้ยงเชื้อในสภาวะอื่นอาจมีไวรัสปะปนในเซลล์ที่นำมาเลี้ยง อาทิ WI-38 ซึ่งเป็นเซลล์ของมนุษย์นำมาเลี้ยงแทนเซลล์เนื้อไตลิงที่มีปัญหาการปนเปื้อนไวรัสสูง หากแต่ยังมิได้รับการยอมรับในหลายประเทศ
การให้วัคซีนชนิดตัวเป็นสองชนิดขึ้นไปในเวลาใกล้เคียงกันอาจก่อให้เกิดปัญหา "Interference Phenomenon" ขึ้น จากการไม่ตอบสนองตอบของร่างกายต่อวัคซีนตัวหลังที่ให้ เพราะวัตซีนตัวแรกก่อให้เกิดการสร้างภูมิคุ้มกันร่างกายที่ออกฤทธิ์ป้องกันการติดเชื้อไวรัสอย่างไม่จำเพาะเจาะจงทำให้ป้องกันวัคซีนตัวหลังที่ให้ด้วย นอกจากนี้การเก็บรักษาวัคซีนประเภทนี้ต้องเก็บในตู้เย็นหรือที่ควบคุมอุณหภูมิในช่วง 2-8 องศาเซลเซียสเท่านั้น
ชนิดหน่วยย่อย
วัคซีนหน่วยย่อย (subunit vaccine) ใช้ชิ้นส่วนบางส่วนของเชื้อมาเป็นตัวกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ตัวอย่างเช่น วัคซีนไวรัสตับอักเสบบีใช้โปรตีนผิวของตัวไวรัส (ก่อนหน้านี้ทำโดยสกัดจากเลือดของผู้ป่วยตับอักเสบบีเรื้อรัง แต่ปัจจุบันผลิตจากยีสต์ที่ผ่านการตัดแต่งพันธุกรรม) เป็นต้น
ปฏิกิริยาในร่างกาย
ระบบภูมิคุ้มกัน
เมื่อให้วัคซีนแก่ร่างกายแล้วนั้น แอนติเจนซึ่งอยู่ในวัคซีนจะเป็นสิ่งชักนำให้เกิดการสร้างภูมิคุ้มกันต่อต้านเชื้อโรค เมื่อแอนติเจนจับเข้ากับตัวรับ (receptor) ณ บริเวณเซลล์ epithelium แล้ว ร่างกายจะตอบสนองขั้นพื้นฐานด้วยกลไกภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติที่ไม่จำเพาะโรค (natural immunity) โดยหลั่งอินเตอร์เฟียรอน (interferon) เพื่อยับยั้งไม่ให้สามารถติดเชื้อไปยังเซลล์ข้างเคียงได้ และใช้ natural killer cell (NK cell) ในการกำจัดเชื้อ หลังจากนั้นจะเหนี่ยวนำระบบภูมิคุ้มกันโดยสร้างแอนติบอดี และการตอบสนองโดยทีเซลล์ (T cell) การตอบสนองบริเวณทีเซลล์จะเป็นหน่วยบันทึกความจำแอนติเจนโดย Memory T cell ซึ่งทำให้การกำจัดเชื้อที่มีแอนติเจนดังกล่าวในครั้งต่อไปเป็นไปด้วยความรวดเร็ว
มีรายงานการให้วัคซีนสองชนิดขึ้นไปพร้อมกันทำให้เกิดการรบกวนการทำงานของวัคซีน ซึ่งเกิดขึ้นกับวัคซีนชนิดตัวเป็นโดยส่วนใหญ่ ซึ่งพบครั้งแรกกับวัคซีนป้องกันโปลิโอ จากการศึกษาพบว่าเกิดจากการที่ร่างกายมีกลไกตามธรรมชาติที่ไม่จำเพาะต่อโรคทำให้ป้องกันการติดเชื้อหรือแอนติเจนอื่น ๆ ที่ได้รับภายหลังด้วย
ประสิทธิผล
การให้วัคซีนไม่ได้เป็นเครื่องรับประกันว่าผู้ที่ได้รับจะไม่ได้รับความเสี่ยงในการติดเชื้อด้วยโรคนั้น ทั้งนี้ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่แตกต่างกันไปเฉพาะบุคคล ระบบภูมิคุ้มกันของผู้ที่ได้รับวัคซีนซึ่งอาจตอบสนองในระดับต่ำกว่าบุคคลทั่วไป อาทิ ในผู้ป่วยที่ป่วยโรคเบาหวาน ผู้ใช้สารเสตียรอยด์และผู้ติดเชื้อเอชไอวี หรืออาจเกิดเนื่องมาจากบุคคลมีปัญหาของระบบภูมิคุ้มกันซึ่งมีจำนวนบีเซลล์ (B cell) ไม่เพียงพอเนื่องจากบีเซลล์จะมีบทบาทในการเหนี่ยวนำให้ร่างกายสร้างแอนติบอดีต่อแอนติเจนนั้น ๆ นอกจากนี้ในบางกรณีผู้ได้รับวัคซีนเกิดการเหนี่ยวนำในร่างกายให้มีการสร้างแอนติบอดีแล้ว แต่แอนติบอดีไม่ตอบสนองหรือตอบสนองต่ำเกินกว่าที่จะต่อสู้กับแอนติเจนซึ่งผลสุดท้ายจะก่อโรคนั้นแทน
เพื่อส่งเสริมประสิทธิผลของวัคซีน จึงมีการผสมแอนตูแวนต์อาทิ อะลูมิเนียมแอตจูแวนต์ซึ่งใช้ได้เฉพาะวัคซีนเท่านั้น การใช้วัคซีนในปริมาณมากจะใช้ในบางกรณี เช่น ในกลุ่มผู้สูงอายุที่ระดับการตอบสนองภูมิคุ้มกันต่ำลง ทั้งนี้ประสิทธิผลของวัคซีนขึ้นกับปัจจัยต่าง ๆ ตั้งแต่ตัวเชื้อที่นำมาผลิตวัคซีน, ความเข้มข้นของวัคซีน, การเก็บรักษาวัคซีน, ปัจจัยทางพันธุกรรม เป็นต้น ทำให้การใช้วัคซีนในกรณีต้องทำการคำนวณปริมาณการใช้ยาที่จำเพาะกับบุคคล ซึ่งส่วนมากจะทำให้วัคซีนมีฤทธิ์ต่ำ
กำหนดการให้วัคซีน
เพื่อให้การป้องกันโรคโดยใช้วัคซีนมีประสิทธิผลสูงสุด การให้วัคซีนในเด็กจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในการให้วัคซีนเนื่องจากในวัยเด็กจะมีระบบภูมิคุ้มกันที่เพียงพอและอยู่ในระหว่างการพัฒนา ทำให้มีปฏิกิริยาตอบสนองต่อวัคซีนสูง กำหนดการให้วัคซีนแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ ในสหรัฐอเมริกามีคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านภูมิคุ้มกันร่างกายแนะนำการให้วัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบชนิดเอ, โรคตับอักเสบชนิดบี, โปลิโอ, คางทูม, โรคคอตีบ, โรคบาดทะยัก, โรคไอกรน, HiB, อหิวาตกโรค, โรคหวัด, ไวรัสโรตา, โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ และ โรคปอดบวม ปริมาณวัคซีนที่มาก (24 เข็มเมื่ออายุ 2 ปี) ทำให้เกิดปัญหาการได้รับวัคซีนไม่ครบตามกำหนด จึงได้มีการนำวัคซีนหลายชนิดมารวมกันเพื่อลดจำนวนครั้งการให้วัคซีน นอกจากนี้ยังมีข้อแนะนำการฉีดวัคซีนให้กับบุคคลอายุอื่น ๆ อาทิ คางทูม, บาดทะยัก, ไข้หวัด และปอดบวม ในสตรีมีครรภ์จะได้รับการตรวจโรคหัดเยอรมัน ในกลุ่มผู้สูงอายุจำเป็นต้องใช้วัคซีนป้องกันโรคปอดบวมและโรคไข้หวัดในปริมาณสูง
ในประเทศไทยมีการกำหนดการให้วัคซีนคล้ายคลึงกันแต่มีการเพิ่มวัคซีนป้องกันวัณโรค ซีจี ป้องกันวัณโรคและไข้ไทฟอยด์เพิ่มเติม และมีข้อแนะนำการให้วัคซีนกันบาดทะยักทุก 10 ปี
สำหรับกำหนดการให้วัคซีนตัวหลักสำหรับเด็กในประเทศไทย เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันและลดความเสี่ยงต่อการติดโรคระบาด มีดังนี้ วัคซีนบีซีจี ไวรัสตับอักเสบบี คอตีบ-บาดทะยัก โปลิโอ หัดเยอรมัน ไข้สมองอักเสบ ในส่วนของวัคซีนตัวเสริมที่ผู้ปกครองสามารถพาบุตรหลานไปฉีดเพิ่มเติม ได้แก่ อีสุกอีใส ตับอักเสบเอ ไข้หวัดใหญ่ มะเร็งปากมดลูก(เพศหญิง) วัคซีน IPD และวัคซีนป้องกันโควิด-19 โดยแนะนำผู้ปกครองทุกท่านให้สังเกตอาการทางร่างกายของบุตรหลานก่อนว่าพร้อมหรือสมควรได้รับวัคซีนหรือไม่ เช่น มีโรคประจำตัว หรือมีประวัติการแก้วัคซีนหรือไม่ รวมถึงหลังฉัดวัคซีน ให้สังเกตอาการของเด็กอย่างน้อย 30 นาที ว่ามีความผิดปกติใดๆเกิดขึ้นกับร่างกายหรือไม่
เภสัชภัณฑ์และระบบขนส่ง
การผลิตและเภสัชตำรับ
การผลิตวัคซีนประกอบด้วยขั้นตอนต่าง ๆ มากมาย เริ่มจากการที่เชื้อจะสร้างแอนติเจนขึ้น หลังจากนั้นนำเชื้อที่ได้มาเพาะเลี้ยงในเซลล์ปฐมภูมิ อาทิ ไข่ไก่ (เช่นเชื้อโรคไข้หวัด) หรือการนำไปเพาะเลี้ยงอย่างต่อเนื่องในเซลล์มนุษย์ (เช่นเชื้อไวรัสตับอักเสบเอ) แบคทีเรียจะเจริญเติบโตภายใน (เช่นเชื้อ Haemophilus influenzae ชนิดบี) หรือบางครั้งอาจได้โปรตีนจากการเพิ่มจำนวน (recombinant) จากไวรัสและแบคทีเรียในยีสต์, แบคทีเรีย และเซลล์เพาะเลี้ยง หลังจากแอนติเจนถูกสร้างขึ้นแล้ว ก็จะถูกแยกออกจากเซลล์ที่ใช้ในการสร้างซึ่งในบางกรณีอาจต้องการไวรัสที่ถูกยับยั้ง หรือกระบวนการทำให้บริสุทธิ์ต่อไป รีคอมบีแนนต์โปรตีนที่ได้ต้องผ่านกระบวนการอาทิ (ultrafiltration) และ (column chromatography) สุดท้ายวัคซีนจะถูกสร้างขึ้นโดยการเติมสารจำพวก, และ สารพวกแอตจูแวนต์ช่วยเพิ่มระยะเวลาการตอบสนองต่อแอนติเจนของร่างกาย สารเพิ่มความคงตัวจะช่วยให้ยามีอายุการใช้ยาวนานขึ้นร่วมกับสารกันบูดที่ใช้ผสมในส่วนประกอบตำรับยาที่เป็นหลายโดส และป้องกันผลอันมิพึงประสงค์จากปฏิกิริยาระหว่างวัคซีนบางชนิด อาทิ การติดเชื้อจำพวก Staphylococcus ก่อให้เกิดโรคคอตีบเนื่องมาจากส่วนผสมของสารกันบูดไม่เพียงพอ นอกจากนี้ในบางตำรับต้องผสมสารอื่นๆเพิ่มเติม สารที่นิยมได้แก่พวกอะลูมิเนียมซึ่งทำหน้าที่เป็นแอตจูแวนต์, ยาปฏิชีวนะเพื่อป้องกันการเติบโตของเชื้อในวัคซีนขณะทำการเก็บรักษา, ฟอร์มาลดีไฮด์ทำหน้าที่ยับยั้งแบคทีเรียที่พบในผลิตภัณฑ์พวกทอกซอยด์, เป็นสารกันบูดสำหรับวัคซีนหลายโดส อย่างไรก็ดี การผลิตวัคซีนร่วมยังคงมีความยากในการผลิตและพัฒนา เนื่องจากฤทธิ์ที่เข้ากันไม่ได้และปฏิกิริยาระหว่างแอนติเจนและส่วนผสมที่เกี่ยวข้อง
เทคนิคการผลิตวัคซีนได้รับการพัฒนาขึ้น การเพาะเลี้ยงในเซลล์สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเป็นสิ่งที่ได้รับความสำคัญมากขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับการเพาะเลี้ยงแบบดั้งเดิมหรือในเซลล์ไข่ เนื่องมาจากผลิตภัณฑ์ทีได้จะมีประสิทธิภาพมากกว่าขณะที่ปัญหาการปนเปื้อนจะน้อยกว่า มีการคาดการณ์ว่าเทคโนโลยีรีคอมบีแนนต์ที่ใช้ป้องกันโรคพันธุกรรมจะเติบโตขึ้นจากการใช้ทอกซอยด์ของไวรัสและแบคทีเรีย การให้วัคซีนหลายชนิดร่วมกันก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งเพื่อลดปริมาณแอนติเจน อย่างไรก็ดีต้องมีการป้องกันผลอันไม่พึงประสงค์จากปฏิกิริยาโดยใช้ (pathogen-associated molecular pattern)
ระบบขนส่ง
ปัจจุบันมีการพัฒนารูปแบบการขนส่งวัคซีนให้วัคซีนมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อันประกอบด้วยวิธีการใช้ไลโปโซมและ ISCOM (สารประกอบกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน) พัฒนาการล่าสุดของเทคโนโลยีการผลิตวัคซีนคือการให้วัคซีนด้วยวิธีการรับประทาน วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอได้รับการทดสอบจากอาสาสมัครปรากฏผลบวกในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันโรคโปลิโอในร่างกาย การให้วัคซีนในทางปากจะปราศจากซึ่งความเสี่ยงการปนเปื้อนในกระแสเลือด วัคซีนที่ให้ด้วยวิธีการนี้จะมีลักษณะคล้ายของแข็งที่มีความคงตัวสูงและไม่จำเป็นต้องเก็บด้วยการแช่แข็ง ความคงตัวในลักษณะนี้จะลดความต้องการของอุณหภูมิในการเก็บรักษายาอันจำเพาะตั้งแต่การผลิตจนกระทั่งการให้วัคซีน (cold chain) นอกจากนี้ยังลดตุ้นทุนการผลิตวัคซีน นอกจากนี้ยังมีวิธีการใช้เข็มฉีดยาขนาดเล็ก (microneedle) ซึ่งอยู่ในช่วงการพัฒนาซึ่งเป็นการให้วัคซีนผ่านผิวหนัง
นอกจากการพัฒนาระบบข่นส่งข้างต้นแล้ว ยังมีการวิจัยวัคซีนโดยใช้พลาสมิดเป็นระบบขนส่งซึ่งอยู่ในช่วงการศึกษาชั้นพรีคลินิก อย่างไรก็ตาม พบว่าเมื่อศึกษาในมนุษย์แล้วให้ผลที่ต่ำกว่าซึ่งเกิดมาจากความไร้ความสามารถที่จะให้ประโยชน์ที่เกี่ยวข้องทางคลินิก ประสิทธิภาพโดยรวมของการสร้างภูมิคุ้มกันพลาสมิดดีเอ็นเอ ขึ้นอยู่กับการเพิ่มการกระตุ้นภูมิคุ้มกันของพลาสมิด ขณะเดียวกันยังมีปัจจัยเซลล์ที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกันที่เกี่ยวเนื่องกับการกระตุ้นอย่างจำเพาะอีกด้วย
เศรษฐศาสตร์การพัฒนา
หนึ่งในความท้าทายในการพัฒนาการผลิตวัคซีนในเชิงเศรษฐศาสตร์คือการผลิตวัคซีนให้กับโรคที่ต้องการอย่างเอชไอวี, มาลาเรีย และวัณโรค ซึ่งโรคเหล่านี้เป็นปัญหาใหญ่ในประเทศยากจน บริษัทยาและบริษัทด้านเทคโนโลยีชีวภาพมีแรงจูงใจเพียงเล็กน้อยในการผลิตวัคซีนเหล่านี้เนื่องจากผลตอบแทนที่ได้จะไม่คุ้มทุน หรือในประเทศร่ำรวยก็จะให้ผลตอบแทนต่ำและมีปัจจัยเสี่ยงทางการเงินมาก
การพัฒนาวัคซีนส่วนใหญ่ในปัจจุบันมาจากการผลักดันจากกองทุนภาครัฐ, มหาวิทยาลัย และองค์กรไม่แสวงผลกำไร วัคซีนหลายชนิดมีราคาต้นทุนที่สูงแต่มีประโยชน์ในด้านสาธารณสุขอย่างยิ่ง วัคซีนจำนวนมากถูกพัฒนาขึ้นในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา โดยเฉพาะวัคซีนที่ให้ในเด็กวัยก่อนเข้าเรียน บางทีอาจเนื่องมาจากการสนับสนุนของภาครัฐมากกว่าแรงจูงใจทางเศรษฐกิจ
นักวิจัยจำนวนมากและผู้กำหนดนโยบายเรียกร้องให้มีแนวทางต่างกันโดยใช้กระบวนการ "ดึง" เพื่อใช้แรงจูงใจเป็นแรงขับเคลื่อนในภาคเภสัชอุตสาหกรรม อาทิ รางวัล, สิทธิประโยชน์ด้านภาษี หรือภาระผูกพันในตลาดล่วงหน้า เพื่อให้มั่นใจถึงรายได้เพื่อให้การพัฒนาวัคซีนเชื้อเอชไอวีประสบความสำเร็จ หากนโยบายได้รับการออกมาที่ดี ก็จะเป็นหลักประกันการเข้าถึงวัคซีนของประชาชนเมื่อวัคซีนได้รับการพัฒนาแล้ว
ข้อโต้แย้ง
การให้วัคซีนก่อให้เกิดข้อโต้แย้งและข้อวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางตั้งแต่การรณรงค์การให้วัคซีนครั้งแรก แม้ว่าประโยชน์ในการป้องกันโรคของวัคซีนแต่การให้วัคซีนบางครั้งก่อให้เกิดผลอันไม่พึงประสงค์ต่อระบบภูมิคุ้มกันจากการให้วัคซีน มีข้อพิพาทเกิดขึ้นในเรื่องของคุณธรรม-จริยธรรมรวมถึงความปลอดภัยในการให้วัคซีน บางข้อพิพาทกล่าวว่าวัคซีนมีประสิทธิผลไม่เพียงพอในการป้องกันโรค หรือการศึกษาความปลอดภัยในการใช้วัคซีนยังไม่เพียงพอ ในบางศาสนาไม่อนุญาตให้ฉีดวัคซีน และกลุ่มการเมืองบางกลุ่มต่อต้านการบังคับการฉีดวัคซีนว่าขัดต่ออิสรภาพของปัจเจกชน ในด้านการตอบสนองมีข้อกังวลเรื่องการแพร่กระจายข่าวไม่เพียงพอในด้านความเสี่ยงจากการใช้วัคซีน อาจทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตไม่เพียงแค่เด็กที่บิดามารดาปฏิเสธการรับวัคซีนเท่านั้น แต่ในเด็กอื่น ๆ ก็ปฏิเสธการรับวัคซีนเช่นกันด้วยเหตุผลว่า ยังเด็กเกินไปในการรับวัคซีน ซึ่งอาจติดเชื้อได้จากการไม่ได้รับวัคซีน การตอบสนองที่มากเกินไปเป็นอีกหนึ่งข้อกังวลซึ่งเป็นข้อมูลเท็จที่แพร่กระจายโดยทั่วไปว่าวัคซีนอาจทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิต
การใช้งานในสัตวแพทย์
การให้วัคซีนในด้านสัตวแพทย์ถูกใช้เพื่อรักษาและป้องกันโรคติดเชื้อสู่มนุษย์
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
- Stern AM; Markel H (2005). "The history of vaccines and immunization: familiar patterns, new challenges". Health Aff. 24 (3): 611–21. doi:10.1377/hlthaff.24.3.611. PMID 15886151.
- Dunn PM (January 1996). (PDF). Arch. Dis. Child. Fetal Neonatal Ed. 74 (1): F77–8. doi:10.1136/fn.74.1.F77. PMC 2528332. PMID 8653442. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2011-07-08. สืบค้นเมื่อ 2010-10-06.
- Van Sant JE (2008). "The Vaccinators: Smallpox, Medical Knowledge, and the 'Opening' of Japan". J Hist Med Allied Sci. 63 (2): 276–9. doi:10.1093/jhmas/jrn014.
- Dudgeon JA (1963). "Development of smallpox vaccine in England in the eighteenth and nineteenth centuries". BMJ (5342): 1367–72. doi:10.1136/bmj.1.5342.1367.
- ทวีโชติภัทร์, ปกรณ์. Vaccine and Sera.
- Sutter RW; Cochi SL; Melnick JL (1999). "Live attenuated polio vaccines". ใน Plotkin SA; Orenstein WA (บ.ก.). Vaccines. Philadelphia: W. B. Saunders. pp. 364–408.
- Grammatikos AP, Mantadakis E, Falagas ME. Meta-analyses on pediatric infections and vaccines. Infect Dis Clin North Am. 2009; 23(2):431-57.PMID 19393917
- "Adapting Vaccines For Our Aging Immune Systems".
- ภก.ผศ.วันชัย ตรียะประเสริฐ, การให้วัคซีนในเด็ก, คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย; 2544.
- https://thefamilyshed.com/th/blog/checklist-vaccines-for-your-children/
- The Washington Post: Three ways to make a vaccine
- "Thimerosal in vaccines". Center for Biologics Evaluation and Research, U.S. Food and Drug Administration. 2007-09-06. สืบค้นเมื่อ 2007-10-01.
- Muzumdar JM; Cline RR (2009). "Vaccine supply, demand, and policy: a primer". J Am Pharm Assoc. 49 (4): e87–99. doi:10.1331/JAPhA.2009.09007. PMID 19589753.
- Bae K, Choi J, Jang Y, Ahn S, Hur B (2009). "Innovative vaccine production technologies: the evolution and value of vaccine production technologies". Arch Pharm Res. 32 (4): 465–80. doi:10.1007/s12272-009-1400-1. PMID 19407962.
- Morein B; Hu KF; Abusugra I (2004). "Current status and potential application of ISCOMs in veterinary medicine". Adv Drug Deliv Rev. 56 (10): 1367–82. doi:10.1016/j.addr.2004.02.004. PMID 15191787.
- Giudice EL; Campbell JD (2006). "Needle-free vaccine delivery". Adv Drug Deliv Rev. 58 (1): 68–89. doi:10.1016/j.addr.2005.12.003. PMID 16564111.
- Lowe; และคณะ (2008). "Plasmid DNA as Prophylactic and Therapeutic vaccines for Cancer and Infectious Diseases". Plasmids: Current Research and Future Trends. Caister Academic Press. ISBN 978-1-904455-35-6.
- Goodman JL (2005-05-04). . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-09-21. สืบค้นเมื่อ 2008-06-15.
- Olesen OF; Lonnroth A; Mulligan B (2009). "Human vaccine research in the European Union". Vaccine. 27 (5): 640–5. doi:10.1016/j.vaccine.2008.11.064. PMID 19059446.
- Ihara T. The strategy for prevention of measles and rubella prevalence with measles-rubella (MR) vaccine in Japan. Vaccine. 2009 Mar 5. [Epub ahead of print]PMID: 19366578
- Wolfe R; Sharp L (2002). "Anti-vaccinationists past and present". BMJ. 325 (7361): 430–2. doi:10.1136/bmj.325.7361.430. PMID 12193361.
- Bonhoeffer J, Heininger U (2007). "Adverse events following immunization: perception and evidence". Curr Opin Infect Dis. 20 (3): 237–46. doi:10.1097/QCO.0b013e32811ebfb0. PMID 17471032.
- Demicheli V, Jefferson T, Rivetti A, Price D (2005). "Vaccines for measles, mumps and rubella in children". Cochrane Database Syst Rev. 19 (4). doi:10.1002/14651858.CD004407.pub2. PMID 16235361.
{{}}
: ไม่รู้จักพารามิเตอร์|laydate=
ถูกละเว้น ((help)); ไม่รู้จักพารามิเตอร์|laysource=
ถูกละเว้น ((help)); ไม่รู้จักพารามิเตอร์|laysummary=
ถูกละเว้น ((help)) - Halvorsen R (2007). The Truth about Vaccines. Gibson Square. ISBN .
- Sinal SH; Cabinum-Foeller E; Socolar R (2008). "Religion and medical neglect". South Med J. 101 (7): 703–6. doi:10.1097/SMJ.0b013e31817997c9. PMID 18580731.
- Vaccine Refusal, Mandatory Immunization, and the Risks of Vaccine-Preventable Diseases by Saad B. Omer, M.B., B.S., Ph.D., M.P.H., Daniel A. Salmon, Ph.D., M.P.H., Walter A. Orenstein, M.D., M. Patricia deHart, Sc.D., and Neal Halsey, M.D. in the New England Journal of Medicine, Volume 360:1981-1988, May 7, 2009. http://content.nejm.org/cgi/content/full/360/19/1981 2010-02-13 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-08-15. สืบค้นเมื่อ 2010-10-06.
- Patel JR, Heldens JG. Immunoprophylaxis against important virus disease of horses, farm animals and birds. Vaccine. 2009 Mar 13;27(12):1797-1810. Review. PMID: 19402200
แหล่งข้อมูลอื่น
- Vaccines and Antisera ที่เว็บไซต์ Curlie
- WHO Vaccine preventable diseases and immunization
- World Health Organization position papers on vaccines
- The History of Vaccines โดย College of Physicians of Philadelphia
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
wkhsin xngkvs vaccine epnthietriymkhuncakechuxculinthriyhruxswnkhxngechuxculinthriysungcamiklikchknaihrangkaysrangphumikhumknthicaephaatxculinthriychnidnn klawkhuxmivththichknakarsrangphumikhumknxncaephaakborkh wkhsinodythwipcaprakxbdwyswnprakxbkhxngculinthriythiepnsaehtukhxngorkh aexntiecn sungthukthaihxxnvththilng tay hruxkarichswnthiepnphisthixxnvththilng toxoid odywkhsincakratunrabbphumikhumknkhxngrangkayaelasamarthcdcaidwaepnsarkxorkhsungcamiklikkarthalaytxip khunsmbtikarcdcaaexntiecnkhxngrabbphumikhumknkhxngrangkaythaihrangkaysamarthkacdaexntiecnhakemuxidrbxikinphayhlngidrwderwyingkhunwkhsinkaraethrkaesngedkkalngrbwkhsinoplioxchnidhyxdMeSHD014612 wkhsinerimmikarphthnainrawkhristthswrrs 1770 odyexdewird ecnenxr nkwithyasastrchawxngkvs prasbkhwamsaercinkarskdechux cowpox ephuxpxngknorkhfidas small pox inmnusyid wkhsininrayaerimaerkepnkarnaechuxmathaihtayhruxkarichechuxthixxnvththiethann cnkrathngpccubnmikarphthnaodynaethkhonolyirikhxmbiaenntmachwyinkarphthnaodyxasykhwamruthangchiwwithyaradbomelkul aelamikhwamphyayamphthnawkhsinodykarsngekhraahaexntiecninkarphlitsbyunitwkhsin subunit vaccine xikdwy khawa wkhsin vaccine idmacakkhrngthiexdwardihechux cowpox aekmnusy odykhawa variolae vaccinae macakkhawa vaccin us hrux vacca sungaeplwa cow hruxwwsungmikhwamsmphnthkbechux cowpox krafaesdngorkhtidechuxkxnaelahlngkarerimichwkhsin caehnwakarchidwkhsinmiphlodytrngtxkarldlngkhxngorkh aelamiswnodyxxmldxtrataykhxngmnusyprawtietanmwwkbwkhsin pustules aelaaekhnmnusykbwkhsinpxngknorkhikhthrphis inrawkhriststwrrsthi 1770 exdewird ecnenxr nkwithyasastrchawxngkvsidthraberuxngkhxngstriphueliyngwwthiimekhypwydwyorkhfidasely phayhlngethxpwydwyorkh sungethxtidechuxdngklawcakwwthiethxeliyng aelaepnorkhthixakarimrunaerngnkinmnusy inpi kh s 1796 ecnenxrskdnaechux cowpox cakstriphunnaelwihaekedkchaywy 8 pi hlngcaknn 6 spdahekhaidihechuxfidas small pox aekedkchayphunn phbwaedkchayimpwyhruxmixakarsaaedngthungorkhfidas txmaidmikarthdlxngephimetimthungprasiththiphaphwithikarniinthark emuxphbwawithikarniplxdphykwakarplukfixyangmak phayhlngidmikarnakhwamkhidniipichxyangkwangkhwangthwxngkvsaelawithikarplukfithuksnghaminpi kh s 1840hluys pasetxridnaaenwkhwamkhidkhxngecnenxripprayuktkbwkhsinpxngknxhiwatkorkhcakstwpikcaphwkepd ik odyekhaaeykechuxaelanamaephaaeliynginhxngptibtikar thaihechuxxxnvththilngaelachidekhakbedkphlpraktwaedkmiaenwonmtanthantxechuxxhiwatkorkh sungaenwkhidniepnaenwkhidphunthantxkarphlitwkhsininrayahlng txmainrawkhriststwrrsthi 19 wkhsinidrbkarphlkdncnmikhwamsakhyradbchatisungmikdhmaywkhsinbngkhbkhunichinhlaypraeths aelamikaraeckcaywkhsintang ipthworkh xathi wkhsinpxngknorkhikhthrphis orkhopliox orkhixkrn epntn inkhriststwrrsthi 20 mikarphthnawkhsinaelaprasbkhwamsaercmakmay xathi orkhkhxtib orkhhd orkhkhangthum aelaorkhhdeyxrmn odywkhsinehlaniswnmakidichxngkhkhwamruaelaaenwkhidkarphthnamacakwkhsinpxngknorkhoplioxinkhriststwrrsthi 1950 aelakarphthnawkhsinorkhfidasinrawkhristthswrrs 1960 aela 1970 pccubnmikarphthnakrabwnkarphlitwkhsinodyxasyxngkhkhwamruthangchiwwithyaradbomelkulaelaethkhonolyirikhxmbiaenntphthnawkhsinkhun xathi recombinant hepatitis B vaccine sungthuxepnwkhsinrunthisxng aelainxnakhtmikhwamphyayamphthnawkhsinkhunodykarsngekhraahaexntiecnphankrabwnkarthangekhmiaelafisiksinhlxdthdlxng in vitro odyphlitsbyunitwkhsin xathi peptide synthetic vaccine hruxxasykhwamruthangchiwwithyaradbomelkulrwmkn xathi aexnaethrkswkhsinaela recombinant synthetic ephuxpxngknorkhexds xyangirkdiwkhsininpccubnyngimkhrxbkhlumthungorkhsakhyxikhlayorkh xathi orkhmalaeriyaelaorkhexdschnidkhxngwkhsinwkhsininpccubnsamarthaebngidsxngeknthcaaenkkhux eknthcaaenkthangkarihya aebngidsxngpraephthkhuxkarkinaelakarchid xikeknthcaaenkkhuxlksnakhxngaexntiecnthiihsungaebngxxkidepnwkhsinchnidepnaelachnidtay rwmthungyngmithxksxydxikdwy chnidtwtay wkhsinchnidtwtay Killed Vaccine epnwkhsinwithikaraerk thinamaichinkarphlitwkhsin sungprakxbdwyculinthriytaythngtwhruxswnprakxbkhxngculinthriythimikhunsmbtiepnaexntiecn xathi aekhpsul fili hruxirobosm wkhsinchnidniphankareliyngechuxinsphawathimikhwamrunaerngsungaelanaculinthriymakhadwywithikartang xathi karichkhwamrxn karichaesngxltraiwoxelt aelakarichsarekhmixyangfinxlhruxfxrmalin karichwkhsinchnidnitxngmikhnadkarichsungenuxngcakechuxculinthriytayaelwaelaimxacephimprimaninrangkayphuihwkhsinid rwmthungkarxxkvththiwkhsinpraephthnicasnsungsamarthpxngknidodykarichsarcaphwkaextcuaewnt Adjuvant hruxichwithikarchidkratunihradbaexntibxdisungphxthicapxngknorkhid wkhsintwtaythanaswnidswnhnungkhxngculinthriymathaepnwkhsinnneriykwasbyunitwkhsin subunit vaccine samarthaebngtamlksnakaridmakhxngaexntiecnxathikarskdaexntiecn antigen extract karphlitaexntiecnodykrabwnkarethkhonolyirikhxmbiaennt aelakarsngekhraahaexntiecninhlxdthdlxng nxkcakniyngmikarnayinkhxngechuxthikxorkhmaskdnayinkhwbkhumlksnakarsrangaexntiecnmakratunihekidaexntibxdikhun sungyinnncamiswnkhxngoprtinkratunphumikhumkntxorkhodykarnayinsxdaethrkekhaipindiexnexkhxngechuxkxorkhnndwy xnung sungepnphlitphnthxnepnphiskhxngaebkhthieriykidcdklumepnswnhnungkhxngwkhsinchnidtwtaydwy odynasarphis toxin mathaihkhwamepnphishmdipaetyngsamarthkratunphumikhumknkhxngorkhidsungcaepnswnkhxngsarpraephthoprtininthxksin karhmdphisipkhxngthxksinxactngthingiwchwngrayaewlahnunghruxkarichkhwamrxnaelasarekhmiinechingephschxutsahkrrm karichwithikarthaihhmdvththiwithikaridcaepntxngtrahnkthungkhwamthnsphaphkhxngaexntiecnthicaimhmdvththitamphisnnipdwy thxksxydthiidniymnaiptktakxndwyxalmephuxihdudsuminrangkayxyangcha odychidekhathangklamenux pccubnmithxksxydsxngchnidethannkhuxthxksxydpxngknorkhkhxtib aelaorkhbadthayk chnidtwepn wkhsinchnidtwepn Live Attenuated Vaccine prakxbdwyculinthriythiyngmichiwitaetthukthaihxxnvththilng imkxorkhinrangkaymnusyaetsamarthkratunphumikhumknidodykarkhdeluxktwphaehlakhxngculinthriythimikhwamrunaerngtaodyphankrabwnkartang xathi karthaihaehng kareliynginsphawaphidpktinxkohst kareliyngcnxxnvththiaelakarichethkhonolyirikhxmbiaenntekharwm sungkhxdikhxngwkhsinchnidniprakarhnungkhuxkarsamarthecriyaelaephimcanwninrangkayid thaihsamarthkratunphumikhumkninrangkayidepnewlananaelaradbphumikhumknsungkwainwkhsinchnidtwtay samarthihinprimanthinxyidaelayngepnkareliynaebbkartidechuxtamthrrmchatixikdwy xyangirkdiwkhsinchnidtwepnyngmipyhahlayprakar xathi khwamrunaernginkarxxnvththikhxngiwrskhuxtxngmikhnadphxehmaa khwamrunaerngtatxngimtacnkrathngimsamarthkratunphumikhumknid khuxsuyesiykhunsmbtiaexntiecn aelaechuxphaehlathiidrbkarkhdeluxkcatxngmikhwamkhngtw nxkcaknipyhakarpnepuxniwrscakkareliyngechuxinsphawaxunxacmiiwrspapninesllthinamaeliyng xathi WI 38 sungepnesllkhxngmnusynamaeliyngaethnesllenuxitlingthimipyhakarpnepuxniwrssung hakaetyngmiidrbkaryxmrbinhlaypraeths karihwkhsinchnidtwepnsxngchnidkhunipinewlaiklekhiyngknxackxihekidpyha Interference Phenomenon khun cakkarimtxbsnxngtxbkhxngrangkaytxwkhsintwhlngthiih ephraawtsintwaerkkxihekidkarsrangphumikhumknrangkaythixxkvththipxngknkartidechuxiwrsxyangimcaephaaecaacngthaihpxngknwkhsintwhlngthiihdwy nxkcaknikarekbrksawkhsinpraephthnitxngekbintueynhruxthikhwbkhumxunhphumiinchwng 2 8 xngsaeslesiysethann chnidhnwyyxy wkhsinhnwyyxy subunit vaccine ichchinswnbangswnkhxngechuxmaepntwkratunphumikhumkn twxyangechn wkhsiniwrstbxkesbbiichoprtinphiwkhxngtwiwrs kxnhnanithaodyskdcakeluxdkhxngphupwytbxkesbbieruxrng aetpccubnphlitcakyistthiphankartdaetngphnthukrrm epntnptikiriyainrangkaywkhsinpxngknorkhikhhwdnkphthnaodyxasykrabwnkarphnklbkhxngyinrabbphumikhumkn emuxihwkhsinaekrangkayaelwnn aexntiecnsungxyuinwkhsincaepnsingchknaihekidkarsrangphumikhumkntxtanechuxorkh emuxaexntiecncbekhakbtwrb receptor n briewnesll epithelium aelw rangkaycatxbsnxngkhnphunthandwyklikphumikhumkntamthrrmchatithiimcaephaaorkh natural immunity odyhlngxinetxrefiyrxn interferon ephuxybyngimihsamarthtidechuxipyngesllkhangekhiyngid aelaich natural killer cell NK cell inkarkacdechux hlngcaknncaehniywnarabbphumikhumknodysrangaexntibxdi aelakartxbsnxngodythiesll T cell kartxbsnxngbriewnthiesllcaepnhnwybnthukkhwamcaaexntiecnody Memory T cell sungthaihkarkacdechuxthimiaexntiecndngklawinkhrngtxipepnipdwykhwamrwderw mirayngankarihwkhsinsxngchnidkhunipphrxmknthaihekidkarrbkwnkarthangankhxngwkhsin sungekidkhunkbwkhsinchnidtwepnodyswnihy sungphbkhrngaerkkbwkhsinpxngknopliox cakkarsuksaphbwaekidcakkarthirangkaymikliktamthrrmchatithiimcaephaatxorkhthaihpxngknkartidechuxhruxaexntiecnxun thiidrbphayhlngdwy prasiththiphl karihwkhsinimidepnekhruxngrbpraknwaphuthiidrbcaimidrbkhwamesiynginkartidechuxdwyorkhnn thngniyngmipccyxun thiaetktangknipechphaabukhkhl rabbphumikhumknkhxngphuthiidrbwkhsinsungxactxbsnxnginradbtakwabukhkhlthwip xathi inphupwythipwyorkhebahwan phuichsarestiyrxydaelaphutidechuxexchixwi hruxxacekidenuxngmacakbukhkhlmipyhakhxngrabbphumikhumknsungmicanwnbiesll B cell imephiyngphxenuxngcakbiesllcamibthbathinkarehniywnaihrangkaysrangaexntibxditxaexntiecnnn nxkcakniinbangkrniphuidrbwkhsinekidkarehniywnainrangkayihmikarsrangaexntibxdiaelw aetaexntibxdiimtxbsnxnghruxtxbsnxngtaekinkwathicatxsukbaexntiecnsungphlsudthaycakxorkhnnaethn ephuxsngesrimprasiththiphlkhxngwkhsin cungmikarphsmaexntuaewntxathi xalumieniymaextcuaewntsungichidechphaawkhsinethann karichwkhsininprimanmakcaichinbangkrni echn inklumphusungxayuthiradbkartxbsnxngphumikhumkntalng thngniprasiththiphlkhxngwkhsinkhunkbpccytang tngaettwechuxthinamaphlitwkhsin khwamekhmkhnkhxngwkhsin karekbrksawkhsin pccythangphnthukrrm epntn thaihkarichwkhsininkrnitxngthakarkhanwnprimankarichyathicaephaakbbukhkhl sungswnmakcathaihwkhsinmivththitakahndkarihwkhsinephuxihkarpxngknorkhodyichwkhsinmiprasiththiphlsungsud karihwkhsininedkcungepnthangeluxkthidithisudinkarihwkhsinenuxngcakinwyedkcamirabbphumikhumknthiephiyngphxaelaxyuinrahwangkarphthna thaihmiptikiriyatxbsnxngtxwkhsinsung kahndkarihwkhsinaetktangknipinaetlapraeths inshrthxemrikamikhnakrrmkarthipruksadanphumikhumknrangkayaenanakarihwkhsinpxngknorkhtbxkesbchnidex orkhtbxkesbchnidbi opliox khangthum orkhkhxtib orkhbadthayk orkhixkrn HiB xhiwatkorkh orkhhwd iwrsorta orkheyuxhumsmxngxkesb aela orkhpxdbwm primanwkhsinthimak 24 ekhmemuxxayu 2 pi thaihekidpyhakaridrbwkhsinimkhrbtamkahnd cungidmikarnawkhsinhlaychnidmarwmknephuxldcanwnkhrngkarihwkhsin nxkcakniyngmikhxaenanakarchidwkhsinihkbbukhkhlxayuxun xathi khangthum badthayk ikhhwd aelapxdbwm instrimikhrrphcaidrbkartrwcorkhhdeyxrmn inklumphusungxayucaepntxngichwkhsinpxngknorkhpxdbwmaelaorkhikhhwdinprimansung inpraethsithymikarkahndkarihwkhsinkhlaykhlungknaetmikarephimwkhsinpxngknwnorkh sici pxngknwnorkhaelaikhithfxydephimetim aelamikhxaenanakarihwkhsinknbadthaykthuk 10 pi sahrbkahndkarihwkhsintwhlksahrbedkinpraethsithy ephuxephimphumikhumknaelaldkhwamesiyngtxkartidorkhrabad midngni wkhsinbisici iwrstbxkesbbi khxtib badthayk opliox hdeyxrmn ikhsmxngxkesb inswnkhxngwkhsintwesrimthiphupkkhrxngsamarthphabutrhlanipchidephimetim idaek xisukxiis tbxkesbex ikhhwdihy maerngpakmdluk ephshying wkhsin IPD aelawkhsinpxngknokhwid 19 odyaenanaphupkkhrxngthukthanihsngektxakarthangrangkaykhxngbutrhlankxnwaphrxmhruxsmkhwridrbwkhsinhruxim echn miorkhpracatw hruxmiprawtikaraekwkhsinhruxim rwmthunghlngchdwkhsin ihsngektxakarkhxngedkxyangnxy 30 nathi wamikhwamphidpktiidekidkhunkbrangkayhruximephschphnthaelarabbkhnsngkarphlitaelaephschtarb karphlitwkhsinprakxbdwykhntxntang makmay erimcakkarthiechuxcasrangaexntiecnkhun hlngcaknnnaechuxthiidmaephaaeliynginesllpthmphumi xathi ikhik echnechuxorkhikhhwd hruxkarnaipephaaeliyngxyangtxenuxnginesllmnusy echnechuxiwrstbxkesbex aebkhthieriycaecriyetibotphayin echnechux Haemophilus influenzae chnidbi hruxbangkhrngxacidoprtincakkarephimcanwn recombinant cakiwrsaelaaebkhthieriyinyist aebkhthieriy aelaesllephaaeliyng hlngcakaexntiecnthuksrangkhunaelw kcathukaeykxxkcakesllthiichinkarsrangsunginbangkrnixactxngkariwrsthithukybyng hruxkrabwnkarthaihbrisuththitxip rikhxmbiaenntoprtinthiidtxngphankrabwnkarxathi ultrafiltration aela column chromatography sudthaywkhsincathuksrangkhunodykaretimsarcaphwk aela sarphwkaextcuaewntchwyephimrayaewlakartxbsnxngtxaexntiecnkhxngrangkay sarephimkhwamkhngtwcachwyihyamixayukarichyawnankhunrwmkbsarknbudthiichphsminswnprakxbtarbyathiepnhlayods aelapxngknphlxnmiphungprasngkhcakptikiriyarahwangwkhsinbangchnid xathi kartidechuxcaphwk Staphylococcus kxihekidorkhkhxtibenuxngmacakswnphsmkhxngsarknbudimephiyngphx nxkcakniinbangtarbtxngphsmsarxunephimetim sarthiniymidaekphwkxalumieniymsungthahnathiepnaextcuaewnt yaptichiwnaephuxpxngknkaretibotkhxngechuxinwkhsinkhnathakarekbrksa fxrmaldiihdthahnathiybyngaebkhthieriythiphbinphlitphnthphwkthxksxyd epnsarknbudsahrbwkhsinhlayods xyangirkdi karphlitwkhsinrwmyngkhngmikhwamyakinkarphlitaelaphthna enuxngcakvththithiekhaknimidaelaptikiriyarahwangaexntiecnaelaswnphsmthiekiywkhxng ethkhnikhkarphlitwkhsinidrbkarphthnakhun karephaaeliynginesllstweliynglukdwynmepnsingthiidrbkhwamsakhymakkhun emuxepriybethiybkbkarephaaeliyngaebbdngedimhruxinesllikh enuxngmacakphlitphnththiidcamiprasiththiphaphmakkwakhnathipyhakarpnepuxncanxykwa mikarkhadkarnwaethkhonolyirikhxmbiaenntthiichpxngknorkhphnthukrrmcaetibotkhuncakkarichthxksxydkhxngiwrsaelaaebkhthieriy karihwkhsinhlaychnidrwmknkepnxikthangeluxkhnungephuxldprimanaexntiecn xyangirkditxngmikarpxngknphlxnimphungprasngkhcakptikiriyaodyich pathogen associated molecular pattern rabbkhnsng pccubnmikarphthnarupaebbkarkhnsngwkhsinihwkhsinmiprasiththiphaphyingkhun xnprakxbdwywithikarichiloposmaela ISCOM sarprakxbkratunrabbphumikhumkn phthnakarlasudkhxngethkhonolyikarphlitwkhsinkhuxkarihwkhsindwywithikarrbprathan wkhsinpxngknorkhoplioxidrbkarthdsxbcakxasasmkhrpraktphlbwkinkarkratunphumikhumknorkhoplioxinrangkay karihwkhsininthangpakcaprascaksungkhwamesiyngkarpnepuxninkraaeseluxd wkhsinthiihdwywithikarnicamilksnakhlaykhxngaekhngthimikhwamkhngtwsungaelaimcaepntxngekbdwykaraechaekhng khwamkhngtwinlksnanicaldkhwamtxngkarkhxngxunhphumiinkarekbrksayaxncaephaatngaetkarphlitcnkrathngkarihwkhsin cold chain nxkcakniyngldtunthunkarphlitwkhsin nxkcakniyngmiwithikarichekhmchidyakhnadelk microneedle sungxyuinchwngkarphthnasungepnkarihwkhsinphanphiwhnng nxkcakkarphthnarabbkhnsngkhangtnaelw yngmikarwicywkhsinodyichphlasmidepnrabbkhnsngsungxyuinchwngkarsuksachnphrikhlinik xyangirktam phbwaemuxsuksainmnusyaelwihphlthitakwasungekidmacakkhwamirkhwamsamarththicaihpraoychnthiekiywkhxngthangkhlinik prasiththiphaphodyrwmkhxngkarsrangphumikhumknphlasmiddiexnex khunxyukbkarephimkarkratunphumikhumknkhxngphlasmid khnaediywknyngmipccyesllthiekiywkhxngkbrabbphumikhumknthiekiywenuxngkbkarkratunxyangcaephaaxikdwyesrsthsastrkarphthnahnunginkhwamthathayinkarphthnakarphlitwkhsininechingesrsthsastrkhuxkarphlitwkhsinihkborkhthitxngkarxyangexchixwi malaeriy aelawnorkh sungorkhehlaniepnpyhaihyinpraethsyakcn bristhyaaelabristhdanethkhonolyichiwphaphmiaerngcungicephiyngelknxyinkarphlitwkhsinehlanienuxngcakphltxbaethnthiidcaimkhumthun hruxinpraethsrarwykcaihphltxbaethntaaelamipccyesiyngthangkarenginmak karphthnawkhsinswnihyinpccubnmacakkarphlkdncakkxngthunphakhrth mhawithyaly aelaxngkhkrimaeswngphlkair wkhsinhlaychnidmirakhatnthunthisungaetmipraoychnindansatharnsukhxyangying wkhsincanwnmakthukphthnakhuninchwngthswrrsthiphanma odyechphaawkhsinthiihinedkwykxnekhaeriyn bangthixacenuxngmacakkarsnbsnunkhxngphakhrthmakkwaaerngcungicthangesrsthkic nkwicycanwnmakaelaphukahndnoybayeriykrxngihmiaenwthangtangknodyichkrabwnkar dung ephuxichaerngcungicepnaerngkhbekhluxninphakhephschxutsahkrrm xathi rangwl siththipraoychndanphasi hruxpharaphukphnintladlwnghna ephuxihmnicthungrayidephuxihkarphthnawkhsinechuxexchixwiprasbkhwamsaerc haknoybayidrbkarxxkmathidi kcaepnhlkpraknkarekhathungwkhsinkhxngprachachnemuxwkhsinidrbkarphthnaaelwkhxotaeyngThe Cow Pock or the Wonderful Effects of the New Inoculation kh s 1802 phlngankhxngecms killery hnunginphlngankartuntxtankarihwkhsin karihwkhsinkxihekidkhxotaeyngaelakhxwiphakswicarnxyangkwangkhwangtngaetkarrnrngkhkarihwkhsinkhrngaerk aemwapraoychninkarpxngknorkhkhxngwkhsinaetkarihwkhsinbangkhrngkxihekidphlxnimphungprasngkhtxrabbphumikhumkncakkarihwkhsin mikhxphiphathekidkhunineruxngkhxngkhunthrrm criythrrmrwmthungkhwamplxdphyinkarihwkhsin bangkhxphiphathklawwawkhsinmiprasiththiphlimephiyngphxinkarpxngknorkh hruxkarsuksakhwamplxdphyinkarichwkhsinyngimephiyngphx inbangsasnaimxnuyatihchidwkhsin aelaklumkaremuxngbangklumtxtankarbngkhbkarchidwkhsinwakhdtxxisrphaphkhxngpceckchn indankartxbsnxngmikhxkngwleruxngkaraephrkracaykhawimephiyngphxindankhwamesiyngcakkarichwkhsin xacthaihekidxntraythungchiwitimephiyngaekhedkthibidamardaptiesthkarrbwkhsinethann aetinedkxun kptiesthkarrbwkhsinechnkndwyehtuphlwa yngedkekinipinkarrbwkhsin sungxactidechuxidcakkarimidrbwkhsin kartxbsnxngthimakekinipepnxikhnungkhxkngwlsungepnkhxmulethcthiaephrkracayodythwipwawkhsinxacthaihekidxntraythungchiwitkarichnganinstwaephthykarihwkhsinindanstwaephthythukichephuxrksaaelapxngknorkhtidechuxsumnusyduephimsthaniyxyephschkrrmrabbphumikhumkn phumikhumknwithya khxthkethiyngeruxngwkhsin karekidlimeluxdaelasinghludxudhlxdeluxdphayhlngkaridrbwkhsin kartxbsnxngthiekiywkhxngkbkhwamekhriydcakkarkxphumikhumknxangxingStern AM Markel H 2005 The history of vaccines and immunization familiar patterns new challenges Health Aff 24 3 611 21 doi 10 1377 hlthaff 24 3 611 PMID 15886151 Dunn PM January 1996 PDF Arch Dis Child Fetal Neonatal Ed 74 1 F77 8 doi 10 1136 fn 74 1 F77 PMC 2528332 PMID 8653442 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2011 07 08 subkhnemux 2010 10 06 Van Sant JE 2008 The Vaccinators Smallpox Medical Knowledge and the Opening of Japan J Hist Med Allied Sci 63 2 276 9 doi 10 1093 jhmas jrn014 Dudgeon JA 1963 Development of smallpox vaccine in England in the eighteenth and nineteenth centuries BMJ 5342 1367 72 doi 10 1136 bmj 1 5342 1367 thwiochtiphthr pkrn Vaccine and Sera Sutter RW Cochi SL Melnick JL 1999 Live attenuated polio vaccines in Plotkin SA Orenstein WA b k Vaccines Philadelphia W B Saunders pp 364 408 Grammatikos AP Mantadakis E Falagas ME Meta analyses on pediatric infections and vaccines Infect Dis Clin North Am 2009 23 2 431 57 PMID 19393917 Adapting Vaccines For Our Aging Immune Systems phk phs wnchy triyapraesrith karihwkhsininedk khnaephschsastr culalngkrnmhawithyaly 2544 https thefamilyshed com th blog checklist vaccines for your children The Washington Post Three ways to make a vaccine Thimerosal in vaccines Center for Biologics Evaluation and Research U S Food and Drug Administration 2007 09 06 subkhnemux 2007 10 01 Muzumdar JM Cline RR 2009 Vaccine supply demand and policy a primer J Am Pharm Assoc 49 4 e87 99 doi 10 1331 JAPhA 2009 09007 PMID 19589753 Bae K Choi J Jang Y Ahn S Hur B 2009 Innovative vaccine production technologies the evolution and value of vaccine production technologies Arch Pharm Res 32 4 465 80 doi 10 1007 s12272 009 1400 1 PMID 19407962 Morein B Hu KF Abusugra I 2004 Current status and potential application of ISCOMs in veterinary medicine Adv Drug Deliv Rev 56 10 1367 82 doi 10 1016 j addr 2004 02 004 PMID 15191787 Giudice EL Campbell JD 2006 Needle free vaccine delivery Adv Drug Deliv Rev 58 1 68 89 doi 10 1016 j addr 2005 12 003 PMID 16564111 Lowe aelakhna 2008 Plasmid DNA as Prophylactic and Therapeutic vaccines for Cancer and Infectious Diseases Plasmids Current Research and Future Trends Caister Academic Press ISBN 978 1 904455 35 6 Goodman JL 2005 05 04 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2008 09 21 subkhnemux 2008 06 15 Olesen OF Lonnroth A Mulligan B 2009 Human vaccine research in the European Union Vaccine 27 5 640 5 doi 10 1016 j vaccine 2008 11 064 PMID 19059446 Ihara T The strategy for prevention of measles and rubella prevalence with measles rubella MR vaccine in Japan Vaccine 2009 Mar 5 Epub ahead of print PMID 19366578 Wolfe R Sharp L 2002 Anti vaccinationists past and present BMJ 325 7361 430 2 doi 10 1136 bmj 325 7361 430 PMID 12193361 Bonhoeffer J Heininger U 2007 Adverse events following immunization perception and evidence Curr Opin Infect Dis 20 3 237 46 doi 10 1097 QCO 0b013e32811ebfb0 PMID 17471032 Demicheli V Jefferson T Rivetti A Price D 2005 Vaccines for measles mumps and rubella in children Cochrane Database Syst Rev 19 4 doi 10 1002 14651858 CD004407 pub2 PMID 16235361 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a imruckpharamietxr laydate thuklaewn help imruckpharamietxr laysource thuklaewn help imruckpharamietxr laysummary thuklaewn help Halvorsen R 2007 The Truth about Vaccines Gibson Square ISBN 9781903933923 Sinal SH Cabinum Foeller E Socolar R 2008 Religion and medical neglect South Med J 101 7 703 6 doi 10 1097 SMJ 0b013e31817997c9 PMID 18580731 Vaccine Refusal Mandatory Immunization and the Risks of Vaccine Preventable Diseases by Saad B Omer M B B S Ph D M P H Daniel A Salmon Ph D M P H Walter A Orenstein M D M Patricia deHart Sc D and Neal Halsey M D in the New England Journal of Medicine Volume 360 1981 1988 May 7 2009 http content nejm org cgi content full 360 19 1981 2010 02 13 thi ewyaebkaemchchin khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2010 08 15 subkhnemux 2010 10 06 Patel JR Heldens JG Immunoprophylaxis against important virus disease of horses farm animals and birds Vaccine 2009 Mar 13 27 12 1797 1810 Review PMID 19402200aehlngkhxmulxunwikiphcnanukrm mikhwamhmaykhxngkhawa wkhsin Wikiquote wikikhakhmphasaxngkvs mikhakhmthiklawody hruxekiywkb Vaccines Vaccines and Antisera thiewbist Curlie WHO Vaccine preventable diseases and immunization World Health Organization position papers on vaccines The History of Vaccines ody College of Physicians of Philadelphia