ฮุซัยน์ อิบน์ อะลี อิบน์ อะบี ฏอลิบ (อาหรับ: حسين بن علي بن أﺑﻲ طالب; อังกฤษ: Hussein ibn ‘Alī ibn Abī Ṭālib) เกิดปี ฮ.ศ. 4 เป็นบุตรของอิมามอะลี (อ) กับท่านหญิงฟาฏิมะหฺ บุตรีนบีมุฮัมมัด เป็นน้องชายของอิมามฮะซัน
ฮุซัยน์ | |
---|---|
الحسين ابن علي | |
เกิด | 10 ตุลาคม ค.ศ. 625 (3 ชะอ์บาน ฮ.ศ.4) มะดีนะฮ์ |
เสียชีวิต | 10 ตุลาคม ค.ศ. 680 (10 มุฮัรรอม ฮ.ศ.61) กัรบะลาอ์, รัฐเคาะลีฟะฮ์อุมัยยะฮ์ | (55 ปี)
สาเหตุเสียชีวิต | ถูกตัดศีรษะในยุทธการที่กัรบะลาอ์ |
สุสาน | มัสยิดที่กัรบะลาอ์, กัรบะลาอ์, ประเทศอิรัก 32°36′59″N 44°1′56.29″E / 32.61639°N 44.0323028°E |
มีชื่อเสียงจาก | เป็นหลานชายของมุฮัมหมัด, ยุทธการที่กัรบะลาอ์ และอิหม่าม |
ตำแหน่ง | รายการ
|
วาระ | ค.ศ.670–680 |
ผู้ดำรงตำแหน่งก่อน | (อิหม่ามชีอะฮ์) ฮะซัน อิบน์ อะลี |
ผู้สืบตำแหน่ง | (อิหม่ามชีอะฮ์) |
ปัจจามิตร | |
คู่สมรส | bint (จักรพรรดิอาณาจักรแซดซานิดคนสุดท้าย) |
บุตร | รายการ
|
บิดามารดา | |
ญาติ |
ประวัติ
นบีมุฮัมมัดรัก ฮะซัน และ ฮุซัยน์ หลานทั้งสองคนนี้มากและมักกล่าวเสมอว่า "เขาทั้งสองคือลูกของฉัน" "ลูกของฉันทั้งสองคือ อิมามทั้งในยามนั่งและยามยืน" ทั้งในยามนั่งและยามยืนหมายถึง การดำรงตำแหน่งผู้นำและการยืนหยัดต่อสู้กับศัตรูของศาสนา และ "ฮะซันและฮุซัยน์เป็นหัวหน้าชายหนุ่มแห่งสรวงสวรรค์"
หลังจากอิมามฮะซันเสียชีวิตแล้ว อิมามฮุซัยน์ น้องชายของท่านได้ขึ้นรับตำแหน่งอิมามแทน ตามคำสั่งเสียของพี่ชาย อิมามฮุซัยน์ได้ทำหน้าที่ในการชี้นำประชาชนและยืนหยัดต่อสู้กับความเลยร้ายของ บุตร
มุอาวิยะหฺ ตาย 9 ปี 6 เดือนต่อมา เขาได้เปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองแบบคอลีฟะหฺเป็นระบอบการปกครองแบบราชาธิปไตย โดยตั้งตนเองขึ้นเป็นกษัตริย์และได้แต่งตั้งให้ บุตรชายเป็นมกุฎราชกุมาร ยะซีดชอบดื่มสุรา เล่นการพนัน และมีใจคอโหดร้าย เมื่อขึ้นปกครองก็ได้มีคำสั่งให้เจ้าเมืองมะดีนะหฺไปเจรจากับอิมามฮุซัยน์ให้ยอมใหคำสัตยาบันแก่ตน ถ้าอิมามฮุซัยน์ ปฏิเสธก็ให้ฆ่าทิ้งเสีย อิมามฮุซัยน์ขอถ่วงเวลาเรื่องสัตยาบัน และในคืนนั้นเอง อิมามฮุซัยน์และสมาชิกในครอบครัว พร้อมด้วยศรัทธาชนกลุ่มหนึ่ง ได้ออกเดินทางจากนครมะดีนะหฺไปยังนครมักกะหฺ อิมามฮุซัยน์พักอยู่ที่มักกะหฺได้ 2-3 เดือนก็ทราบข่าวว่ายะซีดไม่ยอมลดละที่จะหาทางสังหารท่านให้ได้หากไม่ยอมให้คำสัตยาบัน ในเวลานั้นประชาชนจากนครกูฟะหฺ อิรัก ได้ส่งจดหมายหลายพันฉบับถึงท่าน เพื่อเชิญชวนให้ไปเป็นอิมามในอิรัก ซึ่งในอดีตเคยเป็นศูนย์กลางการปกครองของบิดาและพี่ชาย พวกเขาสัญญาว่าจะให้ความช่วยเหลือท่านในการต่อสู้กับพวก
ยุทธการที่กัรบะลาอ์
อิมามฮุซัยน์ได้ตัดสินใจปฏิเสธการให้สัตยาบันต่อยะซีดและเลือกความตายเพื่อสานต่ออุดมการณ์แห่งอิสลาม หลังจากนั้นท่านและครอบครัว พร้อมด้วยศรัทธาชนกลุ่มหนึ่งได้เดินทางออกจากมักกะหฺเพื่อมุ่งหน้าไปยังนครกูฟะหฺ ในระหว่างการเดินทาง ท่านได้อธิบายเจตนารมณ์ในการเดินทางแก่ผู้ร่วมขบวนการ และสุดท้ายท่านอิมามได้ตัดสินใจแจ้งให้ผู้ร่วมขบวนการฟังว่า การเดินทางไปครั้งนี้อาจจะไม่มีใครรอดชีวิตกลับมา เมื่อถึงกัรบะลาอ์ ซึ่งอยู่ห่างจากกูฟะหฺประมาณ 70 กม. อิมามฮุซัยน์ได้เผชิญหน้ากับกองทัพของยะซีดที่สกัดกั้นทางไว้ กองคาราวานของอิมามฮุซัยน์ถูกทหารยะซีดจำนวนมากมายล้อมกรอบและถูกปิดเส้นทางเอาน้ำดื่ม จนทำให้กองคาราวานของอิมามฮุซัยน์ต้องทนกระหายน้ำท่ามกลางทะเลทรายที่ร้อนระอุเป็นเวลาหลายวัน ในสภาพการเช่นนั้นอิมามมีทางเลือกอยู่สองทางคือ ยอมใหคำสัตยาบันหรือยอมตาย
ในวันที่ 10 มุฮัรรอม ปี ฮ.ศ. 61 ตรงกับวันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 1223 อิมามฮุซัยน์และครอบครัวได้ร่วมกันต่อสู้กับกองทหารที่มีจำนวนพลสามหมื่นคนตั้งแต่เช้าจนถึงเวลาบ่าย ซึ่งในการต่อสู้ครั้งนี้ชีวิตของท่าน ลูกชาย น้องชาย หลานชาย อา และสาวกบางคนของท่าน รวมแล้วประมาณ 132 คนได้เสียชีวิตจนหมดสิ้น ยกเว้นอิมาม บุตรชายคนหนึ่งของท่านที่ไม่สามารถออกรบได้ เพราะป่วยอยู่ในขณะนั้น จึงรอดชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวแต่เหตการณ์ในครั้งนั้นก็ได้ทำให้ศาสนาอิสลามคงอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้
อับบาส บุตรของ อิมามอะลี(อ)น้องชายอิมามฮุซัยน์ ได้ขออนุญาตครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่ออาสาออกไปรบแต่ท่านอิมามฮุซัยน์ก็มิให้ออกรบเพราะท่านรักน้องชายของท่านมาก แต่ท่านอิมาม(อ)ก็อนุญาตให้ออกไปเอาน้ำจากฝั่งกองทัพยะซีด อับบาสควบม้าฝ่ากองทัพศัตรูจนถึงแม่น้ำฟุรอต (ยูเฟรติส) อับบาสตักน้ำใส่ถุงน้ำเพื่อนำกลับ โดยตัวเองไม่ได้ดื่ม แต่ก็ถูกทหารสกัดกั้น อับบาสต่อสู้จนตกจากหลังม้า ถูกม้าของเหล่าศัตรูเหยียบย่ำจนสิ้นชีพ
หลังจากเหล่าบุรุษในกองคาราวานอิมามฮุซัยน์ถูกสังหาร กองทหารของยะซีดได้ยึดทรัพย์สินและจับกุมลูกหลานของอิมามฮุซัยน์ ซึ่งส่วนมากเป็นเด็กและสตรีไปเป็นเชลยร่วมเดินทางไปพร้อมกับศีรษะของท่านอิมามฮุซัยน์ไปยังกูฟะหฺ และจากกูฟะหฺมุ่งหน้าไปยังนครดามัสคัส ซีเรีย
ในบรรดาเชลยเหล่านั้นมีท่านอิมามซัยนุลอาบิดีน และซัยนับ น้องสาวของอิมามฮุซัยน์ ร่วมอยู่ด้วย ซัยนับได้กล่าวคำปราศรัยท่ามกลางผู้คนที่เนีองแน่นในกูฟะหฺและในห้องประชุมของ อิบนุซิยาด ผู้ปกครองกูฟะหฺในเวลานั้น เมื่อไปถึงซีเรียทั้งสองได้กล่าวคำปราศรัยตอบโต้ยะซีดและพรรคพวก เป็นคำปราศรัยที่ได้รับการบันทึกไว้จนถึงวันนี้
อาชูรออ์ พิธีไว้อาลัยอิมามฮุซัยน์
ชาวชีอะหฺไว้อาลัยฮุซัยน์และรำลึกโศกนาฏกรรมดังกล่าว ทุก ๆ วันที่ 10 มุฮัรรอม ที่เรียกว่า วันอาชูรออ์
ชนมุสลิมในประเทศไทยมีการทำขนมวันอาชูรออ์ ซึ่งจากการศึกษาประวัติศาสตร์ความเป็นมา พบว่าขนมวันอาชูรออ์ (บูโบร์ซูรอ) เป็นประเพณีชีอะหฺที่ผู้คนในภูมิภาคนี้รับและสืบทอดมาจากบรรพชนในอดีต
การไว้อาลัยสิบวันแรกของเดือนมุฮัรรอมของแขกเจ้าเซ็นในประเทศไทยเป็นที่รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา
อ้างอิง
- สยามิค
- Shabbar, S.M.R. (1997). Story of the Holy Ka'aba. Muhammadi Trust of Great Britain. สืบค้นเมื่อ 23 May 2017.
- Nakash, Yitzhak (1 January 1993). "An Attempt To Trace the Origin of the Rituals of Āshurā¸". Die Welt des Islams. 33 (2): 161–181. doi:10.1163/157006093X00063. สืบค้นเมื่อ 19 July 2016.
- al-Qarashi, Baqir Shareef (2007). The life of Imam Husain. Qum: Ansariyan Publications. p. 58.
- A Brief History of The Fourteen Infallibles. Qum: Ansariyan Publications. 2004. p. 95.
- Kitab al-Irshad. p. 198.
- S. Manzoor Rizvi. The Sunshine Book. books.google.com. ISBN .
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
husyn xibn xali xibn xabi txlib xahrb حسين بن علي بن أﺑﻲ طالب xngkvs Hussein ibn Ali ibn Abi Ṭalib ekidpi h s 4 epnbutrkhxngximamxali x kbthanhyingfatimah butrinbimuhmmd epnnxngchaykhxngximamhasnhusyn xihmamkhxngchawmuslimالحسين ابن عليekid10 tulakhm kh s 625 625 10 10 3 chaxban h s 4 madinahesiychiwit10 tulakhm kh s 680 680 10 10 55 pi 10 muhrrxm h s 61 krbalax rthekhaalifahxumyyahsaehtuesiychiwitthuktdsirsainyuththkarthikrbalaxsusanmsyidthikrbalax krbalax praethsxirk 32 36 59 N 44 1 56 29 E 32 61639 N 44 0323028 E 32 61639 44 0323028michuxesiyngcakepnhlanchaykhxngmuhmhmd yuththkarthikrbalax aelaxihmamtaaehnngraykar Sayyid al Shohada phasaxahrbhmaythungecaaehngphuphlichiph ash Shahid phasaxahrbhmaythungphuphlichiph as Sibt phasaxahrbhmaythunghlanchay ar Rashid phasaxahrbhmaythungphunathithuktxng al Mubarak phasaxahrbhmaythungphuidrbphr at Tayyib phasaxahrbhmaythungphubrisuthth Sayyidush Shuhada phasaxahrbhmaythungecaaehngphuphlichiph al Wafi phasaxahrbhmaythungphusuxsty Ucuncu Ali phasaturkihmaythungxalithi 3 warakh s 670 680phudarngtaaehnngkxn xihmamchixah hasn xibn xaliphusubtaaehnng xihmamchixah pccamitrkhusmrsbint ckrphrrdixanackraesdsanidkhnsudthay butrraykar Mother Mother Layla and Mother Rubab bidamardaxali bida fatimah marda yatiraykar muhmmd ta hasn phichay nxngsaw nxngsaw nxngchay phichayfaaefdkhxngphx xbutxlib puta prawtinbimuhmmdrk hasn aela husyn hlanthngsxngkhnnimakaelamkklawesmxwa ekhathngsxngkhuxlukkhxngchn lukkhxngchnthngsxngkhux ximamthnginyamnngaelayamyun thnginyamnngaelayamyunhmaythung kardarngtaaehnngphunaaelakaryunhydtxsukbstrukhxngsasna aela hasnaelahusynepnhwhnachayhnumaehngsrwngswrrkh hlngcakximamhasnesiychiwitaelw ximamhusyn nxngchaykhxngthanidkhunrbtaaehnngximamaethn tamkhasngesiykhxngphichay ximamhusynidthahnathiinkarchinaprachachnaelayunhydtxsukbkhwamelyraykhxng butr muxawiyah tay 9 pi 6 eduxntxma ekhaidepliynaeplngrabxbkarpkkhrxngaebbkhxlifah epnrabxbkarpkkhrxngaebbrachathipity odytngtnexngkhunepnkstriyaelaidaetngtngih butrchayepnmkudrachkumar yasidchxbdumsura elnkarphnn aelamiickhxohdray emuxkhunpkkhrxngkidmikhasngihecaemuxngmadinah ipecrcakbximamhusynihyxmihkhastyabnaektn thaximamhusyn ptiesthkihkhathingesiy ximamhusynkhxthwngewlaeruxngstyabn aelainkhunnnexng ximamhusynaelasmachikinkhrxbkhrw phrxmdwysrththachnklumhnung idxxkedinthangcaknkhrmadinah ipyngnkhrmkkah ximamhusynphkxyuthimkkah id 2 3 eduxnkthrabkhawwayasidimyxmldlathicahathangsngharthanihidhakimyxmihkhastyabn inewlannprachachncaknkhrkufah xirk idsngcdhmayhlayphnchbbthungthan ephuxechiychwnihipepnximaminxirk sunginxditekhyepnsunyklangkarpkkhrxngkhxngbidaaelaphichay phwkekhasyyawacaihkhwamchwyehluxthaninkartxsukbphwkyuththkarthikrbalaxximamhusynidtdsinicptiesthkarihstyabntxyasidaelaeluxkkhwamtayephuxsantxxudmkarnaehngxislam hlngcaknnthanaelakhrxbkhrw phrxmdwysrththachnklumhnungidedinthangxxkcakmkkah ephuxmunghnaipyngnkhrkufah inrahwangkaredinthang thanidxthibayectnarmninkaredinthangaekphurwmkhbwnkar aelasudthaythanximamidtdsinicaecngihphurwmkhbwnkarfngwa karedinthangipkhrngnixaccaimmiikhrrxdchiwitklbma emuxthungkrbalax sungxyuhangcakkufah praman 70 km ximamhusynidephchiyhnakbkxngthphkhxngyasidthiskdknthangiw kxngkharawankhxngximamhusynthukthharyasidcanwnmakmaylxmkrxbaelathukpidesnthangexanadum cnthaihkxngkharawankhxngximamhusyntxngthnkrahaynathamklangthaelthraythirxnraxuepnewlahlaywn insphaphkarechnnnximammithangeluxkxyusxngthangkhux yxmihkhastyabnhruxyxmtay inwnthi 10 muhrrxm pi h s 61 trngkbwnthi 10 tulakhm ph s 1223 ximamhusynaelakhrxbkhrwidrwmkntxsukbkxngthharthimicanwnphlsamhmunkhntngaetechacnthungewlabay sunginkartxsukhrngnichiwitkhxngthan lukchay nxngchay hlanchay xa aelasawkbangkhnkhxngthan rwmaelwpraman 132 khnidesiychiwitcnhmdsin ykewnximam butrchaykhnhnungkhxngthanthiimsamarthxxkrbid ephraapwyxyuinkhnann cungrxdchiwitcakehtukarndngklawaetehtkarninkhrngnnkidthaihsasnaxislamkhngxyuidcnthungthukwnni xbbas butrkhxng ximamxali x nxngchayximamhusyn idkhxxnuyatkhrngaelwkhrngelaephuxxasaxxkiprbaetthanximamhusynkmiihxxkrbephraathanrknxngchaykhxngthanmak aetthanximam x kxnuyatihxxkipexanacakfngkxngthphyasid xbbaskhwbmafakxngthphstrucnthungaemnafurxt yuefrtis xbbastknaisthungnaephuxnaklb odytwexngimiddum aetkthukthharskdkn xbbastxsucntkcakhlngma thukmakhxngehlastruehyiybyacnsinchiph hlngcakehlaburusinkxngkharawanximamhusynthuksnghar kxngthharkhxngyasididyudthrphysinaelacbkumlukhlankhxngximamhusyn sungswnmakepnedkaelastriipepnechlyrwmedinthangipphrxmkbsirsakhxngthanximamhusynipyngkufah aelacakkufah munghnaipyngnkhrdamskhs sieriy inbrrdaechlyehlannmithanximamsynulxabidin aelasynb nxngsawkhxngximamhusyn rwmxyudwy synbidklawkhaprasrythamklangphukhnthienixngaenninkufah aelainhxngprachumkhxng xibnusiyad phupkkhrxngkufah inewlann emuxipthungsieriythngsxngidklawkhaprasrytxbotyasidaelaphrrkhphwk epnkhaprasrythiidrbkarbnthukiwcnthungwnnixachurxx phithiiwxalyximamhusynchawchixah iwxalyhusynaelaralukosknatkrrmdngklaw thuk wnthi 10 muhrrxm thieriykwa wnxachurxx chnmusliminpraethsithymikarthakhnmwnxachurxx sungcakkarsuksaprawtisastrkhwamepnma phbwakhnmwnxachurxx buobrsurx epnpraephnichixah thiphukhninphumiphakhnirbaelasubthxdmacakbrrphchninxdit kariwxalysibwnaerkkhxngeduxnmuhrrxmkhxngaekhkecaesninpraethsithyepnthiruckknmatngaetsmykrungsrixyuthyaxangxingsyamikhShabbar S M R 1997 Story of the Holy Ka aba Muhammadi Trust of Great Britain subkhnemux 23 May 2017 Nakash Yitzhak 1 January 1993 An Attempt To Trace the Origin of the Rituals of Ashura Die Welt des Islams 33 2 161 181 doi 10 1163 157006093X00063 subkhnemux 19 July 2016 al Qarashi Baqir Shareef 2007 The life of Imam Husain Qum Ansariyan Publications p 58 A Brief History of The Fourteen Infallibles Qum Ansariyan Publications 2004 p 95 Kitab al Irshad p 198 S Manzoor Rizvi The Sunshine Book books google com ISBN 1312600942