คอหอยส่วนจมูกอักเสบเฉียบพลัน หรือโรคเยื่อจมูกและลำคออักเสบเฉียบพลัน (อังกฤษ: Acute nasopharyngitis) เรียกโดยทั่วไปว่า โรคหวัด หรือ ไข้หวัด (อังกฤษ: Common cold) เป็นโรคติดเชื้อไวรัสในทางเดินหายใจส่วนบนที่กระทบต่อจมูกเป็นหลัก ผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการหลังรับเชื้อมาเป็นเวลาไม่เกิน 2 วัน อาการของโรคมีทั้งไอ เจ็บคอ น้ำมูกไหล และไข้ ซึ่งมักหายไปเองในเจ็ดถึงสิบวัน แต่บางอาการอาจอยู่ได้นานถึงสามสัปดาห์ ผู้ป่วยบางรายอาจเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ปอดบวม ตามมาได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว
โรคหวัด | |
---|---|
ชื่ออื่น | Cold, acute viral nasopharyngitis, nasopharyngitis, viral rhinitis, rhinopharyngitis, acute coryza, head cold, upper respiratory tract infection (URTI) |
ภาพแสดงพื้นผิวในระดับโมเลกุลของไรโนไวรัสชนิดหนึ่ง | |
สาขาวิชา | โรคติดเชื้อ |
อาการ | ไอ, เจ็บคอ, น้ำมูกไหล, มีไข้ |
ภาวะแทรกซ้อน | ส่วนใหญ่ไม่มี แต่บางครั้งอาจเกิดหูชั้นกลางอักเสบ, ไซนัสอักเสบ, ปอดอักเสบ และติดเชื้อ |
การตั้งต้น | ประมาณ 2 วันหลังรับเชื้อ |
ระยะดำเนินโรค | 1–3 สัปดาห์ |
สาเหตุ | ไวรัส (มักเป็นไรโนไวรัส) |
วิธีวินิจฉัย | ขึ้นอยู่กับอาการ |
โรคอื่นที่คล้ายกัน | เยื่อจมูกอักเสบจากภูมิแพ้, หลอดลมอักเสบ, โรคไอกรน, ไซนัสอักเสบ |
การป้องกัน | ล้างมือ, สวมหน้ากากอนามัย, รักษามารยาทในการไอ, อยู่ให้ห่างจากผู้ป่วย |
การรักษา | ,สังกะสี |
ยา | NSAIDs |
ความชุก | 2–3 ครั้งต่อปี (ผู้ใหญ่); 6–8 ครั้งต่อปี (เด็ก) |
มีไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคหวัดมากกว่า 200 โดยไรโนไวรัส ไวรัสโคโรนา, อะดีโนไวรัส และเอนเทอโรไวรัสเป็นชนิดที่พบบ่อยที่สุด ติดต่อจากคนสู่คนผ่านการสูดอากาศที่มีเชื้อไวรัสเข้าไปเมื่อยู่ใกล้กับผู้ป่วย หรือติดทางอ้อมผ่านการเอามือสัมผัสวัตถุที่มีเชื้อติดอยู่ แล้วเอามือนั้นเข้าปากหรือจมูก ปัจจัยเสี่ยงของการเป็นโรคได้ง่ายได้แก่ การเป็นเด็กที่อยู่ในศูนย์เลี้ยงเด็ก การพักผ่อนน้อย และความเครียดทางจิตใจ เป็นต้น ส่วนใหญ่อาการเกิดจากภูมิคุ้มกันของร่างกายตอบสนองต่อการติดเชื้อมากกว่าการทำลายเนื้อเยื่อจากไวรัสเอง ไข้หวัดใหญ่เป็นอีกโรคที่มีอาการคล้ายคลึงกับโรคหวัด แต่จะมีอาการรุนแรงกว่า และไม่ค่อยทำให้มีน้ำมูก
ยังไม่มีวัคซีนสำหรับป้องกันโรคหวัด การล้างมือเป็นวิธีการป้องกันหลัก รวมไปถึงการไม่เอามือที่ยังไม่ได้ล้างมาสัมผัสตา จมูก ปาก และการหลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วย หลักฐานบางชิ้นสนับสนุนประสิทธิภาพของการสวมหน้ากากอนามัย โรคหวัดไม่มีวิธีรักษาจำเพาะ แต่สามารถรักษาตามอาการได้ การเสริมแร่ธาตุสังกะสีอาจลดระยะเวลาของการเจ็บป่วยได้ หากเริ่มกินในช่วงแรกที่แสดงอาการ อาจสามารถบรรเทาอาการปวดได้ด้วยยาต้านการอักเสบชนิดไม่ใช่สเตอรอยด์ ไม่ควรใช้ยาปฏิชีวนะ เพราะหวัดทั้งหมดเกิดจากไวรัส และยังไม่มีหลักฐานที่มีคุณภาพดีมาสนับสนุนว่ามีประโยชน์
โรคหวัดเป็นหนึ่งในโรคติดต่อที่พบบ่อยที่สุดในมนุษย์ และอยู่คู่กับมนุษยชาติมาแต่โบราณ ผู้ใหญ่ติดโรคหวัดโดยเฉลี่ยสองถึงสามครั้งต่อปี ขณะที่เด็กโดยเฉลี่ยติดโรคหวัดระหว่างหกถึงแปดครั้งต่อปี ในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาวจะพบผู้ป่วยโรคหวัดบ่อยกว่าปกติ
อาการและอาการแสดง
อาการทั่วไปของโรคหวัดมีทั้งไอ น้ำมูกไหล คัดจมูก และเจ็บคอ บางครั้งอาจมีอาการปวดกล้ามเนื้อ ความล้า ปวดศีรษะและสูญเสียความอยากอาหาร ในผู้ป่วยโรคหวัด 40% พบอาการเจ็บคอ และ 50% พบอาการไอ ขณะที่อาการปวดกล้ามเนื้อพบในผู้ป่วยราวครึ่งหนึ่ง ผู้ป่วยในวัยผู้ใหญ่มักไม่พบอาการไข้ แต่พบทั่วไปในทารกและเด็ก อาการไอมักไม่รุนแรงนักเมื่อเทียบกับไข้หวัดใหญ่ ขณะที่อาการไอและไข้ในผู้ใหญ่มีแนวโน้มบ่งชี้ไข้หวัดใหญ่มากกว่า แต่ก็มีความคล้ายคลึงกันอย่างมากระหว่างโรคหวัดกับไข้หวัดใหญ่ ไวรัสหลายชนิดที่เป็นสาเหตุของโรคหวัดยังอาจส่งผลให้เกิดการติดเชื้อไร้อาการ สีของเสมหะอาจมีได้ตั้งแต่ไม่มีสีไปจนถึงเหลือง เขียว และไม่บ่งชี้ถึงประเภทของตัวที่กระทำให้เกิดการติดเชื้อ
การลุกลาม
ตามปกติโรคหวัดเริ่มต้นจากความเหนื่อยล้า รู้สึกหนาวสะท้าน จามและปวดศีรษะ ตามด้วยอาการน้ำมูกไหลและไอหลายวัน อาการอาจเริ่มขึ้นใน 16 ชั่วโมงนับแต่การสัมผัส และมักมีอาการรุนแรงที่สุดสองถึงสี่วันหลังเริ่มมีอาการ โดยปกติอาการจะหายไปเองในเจ็ดถึงสิบวัน แต่บางรายสามารถมีอาการได้นานถึงสามสัปดาห์ 35-40% ของผู้ป่วยเด็กมีอาการไอนานกว่า 10 วัน และ 10% ของผู้ป่วยเด็กมีอาการไอนานกว่า 25 วัน
สาเหตุ
ไวรัส
โรคหวัดเป็นการติดเชื้อไวรัสของทางเดินหายใจส่วนบน ไวรัสที่พบมากที่สุด คือ ไรโนไวรัส (30-80%) ซึ่งเป็นที่มีรู้จักกัน 99 ชนิด ไวรัสชนิดอื่นมีโคโรนาไวรัส (10-15%) ฮิวแมนพาราอินฟลูเอ็นซาไวรัส ไวรัสเรสไพราทอรีซินไซเตียล อะดีโนไวรัส เอนเทอโรไวรัสและเมตะนิวโมไวรัส บ่อยครั้งที่ไวรัสมากกว่าหนึ่งชนิดก่อให้เกิดโรค รวมทั้งสิ้นแล้ว มีไวรัสกว่า 200 ชนิดที่เกี่ยวข้องกับโรคหวัด
การแพร่เชื้อ
ไวรัสโรคหวัดโดยปกติแพร่เชื้อผ่านละอองจากอากาศ (ละอองลอย) การสัมผัสโดยตรงกับสิ่งคัดหลั่งทางจมูกที่ติดเชื้อ หรือวัตถุที่เป็นพาหะนำเชื้อ (fomite) แต่ยังไม่มีการระบุว่า ทางใดมีความสำคัญที่สุด แต่การสัมผัสมือต่อมือ และมือต่อพื้นต่อมือเหมือนจะสำคัญกว่าการติดต่อผ่านละอองลอย ไวรัสอาจมีชีวิตอยู่รอดเป็นเวลานาน มนุษย์ใช้มือหยิบจับไวรัสแล้วนำเข้าสู่ดวงตาหรือจมูกซึ่งเป็นที่เกิดการติดเชื้อ การแพร่เชื้อพบทั่วไปในสถานรับเลี้ยงเด็กและที่โรงเรียนเนื่องจากความใกล้ชิดของเด็กจำนวนมากซึ่งมีภูมิคุ้มกันต่ำและมักมีอนามัยเลว จากนั้น สมาชิกครอบครัวคนอื่นเป็นผู้นำเชื้อเหล่านี้กลับมาบ้าน ไม่มีหลักฐานว่า อากาศที่ไหลเวียนอยู่ในเที่ยวบินพาณิชย์เป็นวิธีการแพร่เชื้อ อย่างไรก็ตาม บุคคลที่นั่งใกล้ชิดดูเหมือนจะมีความเสี่ยงสูงกว่า โรคหวัดที่เกิดจากไรโนไวรัสติดเชื้อได้มากที่สุดระหว่างสามวันแรกของอาการ แต่จะติดเชื้อน้อยลงมากหลังจากนั้น
ลมฟ้าอากาศ
ทฤษฎีชาวบ้านดั้งเดิมมีว่า โรคหวัดสามารถ "ติด" ได้จากการสัมผัสอากาศหนาวเป็นเวลานาน เช่น สภาพฝนตกหรือฤดูหนาว จึงเป็นที่มาของชื่อโรค cold ในภาษาอังกฤษ บทบาทการเย็นตัวของร่างกายเป็นปัจจัยเสี่ยงโรคหวัดนั้นยังถกเถียงกันอยู่ ไวรัสบางชนิดที่เป็นเหตุของโรคหวัดมีตามฤดูกาล ซึ่งเกิดขึ้นบ่อยกว่าในอากาศที่หนาวหรือเปียก บางคนเชื่อว่า การติดโรคหวัดเป็นเพราะการอาศัยอยู่ในที่ร่มใกล้กับผู้ที่ติดเชื้อดังกล่าวเป็นระยะเวลานาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กที่กลับจากโรงเรียน อย่างไรก็ดี โรคหวัดยังอาจเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงในระบบทางเดินหายในที่ส่งผลให้มีความไวเพิ่มขึ้น ความชื้นที่ต่ำสามารถเพิ่มอัตราการแพร่เชื้อไวรัสได้เนื่องจากอากาศแห้งทำให้ละอองไวรัสขนาดเล็กกระจายไปไกลขึ้นและอยู่ในอากาศนานขึ้น
อื่น ๆ
ภูมิคุ้มกันหมู่ที่เกิดจากการติดไวรัสไข้หวัดก่อนหน้านี้ มีบทบาทสำคัญในการจำกัดการแพร่ของไวรัส โดยสังเกตจากประชากรที่อายุน้อยมีอัตราการติดเชื้อทางเดินหายใจสูงกว่าประชากรอายุมาก ภูมิคุ้มกันของร่างกายที่ทำงานไม่ดียังเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อโรคหวัด การนอนหลับไม่เพียงพอและทุพโภชนาการเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงการติดเชื้อหลังสัมผัสไรโนไวรัสที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเชื่อกันว่าเกิดจากผลของมันต่อการทำงานของภูมิคุ้มกัน
พยาธิสรีรวิทยา
อาการของโรคหวัดเชื่อว่าเกี่ยวข้องกับภูมิคุ้มกันสนองต่อไวรัสเป็นหลัก กลไกการตอบสนองของภูมิคุ้มกันนี้จำเพาะต่อไวรัส ตัวอย่างเช่น ไรโนไวรัสติดต่อผ่านการสัมผัส ตัวเชื้อจะจับกับ ICAM-1 รีเซพเตอร์ของผู้ป่วย (ผ่านกลไกที่ยังไม่ทราบแน่ชัด) แล้วกระตุ้นการปลดปล่อย (inflammatory mediators) จากนั้น สารตัวกลางการอักเสบเหล่านี้จะทำให้เกิดอาการ โดยตัวไวรัสมิได้ก่อความเสียหายแก่เยื่อบุจมูกแต่อย่างใด ตรงข้ามกับไวรัสเรสไพราทอรีซินไซเตียล (RSV) ซึ่งติดต่อทั้งผ่านการสัมผัสโดยตรงและละอองจากอากาศ ไวรัสจะแบ่งตัวในจมูกและลำคอก่อนจะแพร่กระจายลงสู่ทางเดินหายใจส่วนล่าง และทำให้เกิดความเสียหายโดยตรงต่อเซลล์เยื่อบุส่งผลให้เกิดการอักเสบในจมูก ลำคอและหลอดลม หากเด็กเล็กติดเชื้อเกิดท่อลม (trachea) อักเสบอาจทำให้เกิดอาการของโรคกล่องเสียงอักเสบอุดกั้น (croup) ได้ เพราะทางเดินหายใจมีขนาดเล็ก
การวินิจฉัย
การติดเชื้อไวรัสในทางเดินหายใจส่วนบนชนิดต่าง ๆ แยกได้คร่าว ๆ จากตำแหน่งของอาการ จมูกได้รับผลกระทบเป็นหลักในโรคหวัด ลำคอได้รับผลกระทบเป็นหลักในโรคคอหอยอักเสบ และปอดได้รับผลกระทบเป็นหลักในโรคหลอดลมอักเสบ กระนั้นบริเวณที่ได้รับผลกระทบอาจทับซ้อนกันอย่างมีนัยสำคัญและเกิดได้หลายบริเวณ บ่อยครั้ง โรคหวัดนิยามว่าเป็นจมูกอักเสบโดยมีปริมาณการอักเสบของลำคอต่าง ๆ กัน พบการวินิจฉัยด้วยตนเองประจำ แต่แทบไม่เคยมีการแยกแยะตัวกระทำไวรัสที่เกี่ยวข้องแท้จริง และโดยทั่วไปก็ไม่สามารถระบุประเภทของไวรัสจากอาการได้
การป้องกัน
การป้องกันโรคหวัดที่มีประสิทธิภาพเป็นการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสทางกายภาพ เช่น การล้างมือ, การให้ผู้ป่วยสวมหน้ากากอนามัยปิดปากและจมูกเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของไวรัสที่อยู่ในน้ำมูกและน้ำลาย, และ การใช้เสื้อกาวน์และถุงมือยางในโรงพยาบาลหรือสถานบริการสาธารณสุข
การควบคุมโรคโดยการกักกันเป็นไปได้ยาก เพราะผู้ป่วยอาจมีอาการไม่จำเพาะและแทรกอยู่ในประชากรทำให้ไม่สามารถแยกแยะผู้ป่วยออกมาได้ การให้วัคซีนจะได้ผลค่อนข้างจำกัด เนื่องจากเชื้อไวรัสหวัดมีหลายสายพันธุ์และมีวิวัฒนาการ เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การสร้างวัคซีนให้ครอบคลุมเชื้อหวัดในวงกว้างจึงทำได้ยาก
การล้างมือเป็นประจำช่วยลดการส่งผ่านไวรัสอย่างมีประสิทธิภาพโดยเฉพาะในเด็ก ยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดว่าการเพิ่มยาต้านไวรัสหรือสารต้านแบคทีเรียในน้ำยาล้างมือมีส่วนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันโรค การสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ใกล้กับผู้ติดเชื้อช่วยลดโอกาสการติดเชื้อ ทั้งนี้ต้องทำควบคู่กับการสวมหน้ากากอนามัยโดยตัวผู้ป่วยเองซึ่งมีประสิทธิภาพลดการแพร่กระจายเชื้อที่ดีกว่า ไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนว่าการรักษาที่มากกว่านี้จะมีผลดีกว่า
การเสริมธาตุสังกะสีอาจมีผลช่วยลดอัตราการติดเชื้อโรคหวัด การเสริมวิตามินซีไม่ช่วยลดความเสี่ยงหรือความรุนแรงของโรคหวัดแต่อาจทำให้หายจากโรคหวัดได้เร็วขึ้น
การรักษา
ยังไม่มียาหรือสมุนไพรใด ๆ ที่มีหลักฐานยืนยันได้ว่าสามารถลดระยะเวลาของการติดเชื้อได้ ดังนั้นการรักษาจึงประกอบด้วยการบรรเทาอาการ การพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ และกลั้วคอด้วยน้ำเกลืออุ่น เป็นวิธีรักษาแบบอนุรักษ์ที่สมเหตุสมผล อย่างไรก็ดี ประโยชน์ที่เห็นจากการรักษาเป็นผลมาจากปรากฏการณ์ยาหลอกเสียมาก
ตามอาการ
การรักษาที่ช่วยบรรเทาอาการ รวมถึง ยาระงับปวดและยาลดไข้ อย่างไอบูโปรเฟนและอะเซตามีโนเฟน/พาราเซตามอล หลักฐานมิได้แสดงว่ามีประสิทธิภาพมากกว่ายาลดไข้แต่อย่างใด และไม่แนะนำให้ใช้ในเด็กเพราะขาดหลักฐานสนับสนุนประสิทธิภาพและอาจเกิดอันตรายได้ ในปี 2552 แคนาดาจำกัดการใช้ยาแก้ไอและหวัดโดยไม่มีใบสั่งยาจากแพทย์ในเด็กอายุหกปีหรือต่ำกว่า เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงและประโยชน์ที่ยังไม่มีข้อพิสูจน์ ในผู้ใหญ่ มีหลักฐานสนับสนุนการใช้ยาแก้ไอไม่เพียงพอ การใช้ (ยาแก้ไอชนิดหนึ่งหาซื้อโดยตรงได้ทั่วไป) ในทางที่ผิด นำไปสู่การห้ามใช้ในหลายประเทศ
ในผู้ใหญ่ อาการน้ำมูกไหลสามารถลดได้จากสารต้านฮิสทามีนรุ่นแรก อย่างไรก็ดี สารเหล่านี้มีผลเสีย เช่น ความง่วงอื่นอย่างซูโดอีเฟดรีน ยังมีประสิทธิภาพในประชากรนี้ด้วย ยาพ่นจมูกอาจลดอาการน้ำมูกไหล แต่มีผลเล็กน้อยกับการคัดจมูก ส่วนสารต้านฮิสทามีนรุ่นที่สองนั้นไม่ปรากฏว่ามีประสิทธิภาพ
เนื่องจากยังขาดการศึกษา จึงไม่ทราบว่าการรับของเหลวเข้าไปเพิ่มขึ้นจะเพิ่มอาการหรือย่นระยะเวลาการเจ็บป่วยของระบบหายใจ และการขาดข้อมูลที่คล้ายกันยังมีสำหรับการใช้ที่ถูกทำให้ชื้นและร้อน การศึกษาหนึ่งพบว่า การนวดหน้าอก (chest vapor rub) มีประสิทธิภาพบรรเทาอาการไอกลางคืน การคั่งและนอนหลับยากลงได้บ้าง
ปฏิชีวนะและต้านไวรัส
ยาปฏิชีวนะรักษาโรคติดเชื้อไวรัสไม่ได้ ฉะนั้นจึงไม่มีผลต่อโรคหวัดซึ่งเกิดจากไวรัสเช่นกัน ทั้งนี้เมื่อพิจารณาว่าการใช้ยาปฏิชีวนะมีโอกาสเกิดผลข้างเคียง ดังนั้นการใช้ยาปฏิชีวนะในโรคหวัดในภาพรวมจึงทำให้เกิดผลเสียมากกว่า กระนั้น ก็ยังมีการจ่ายยาบ่อยครั้ง สาเหตุบางประการที่ทำให้มีการจ่ายยาปฏิชีวนะบ่อยครั้งเป็นเพราะประชาชนคาดหวังว่ามาพบแพทย์แล้วต้องได้ยา แพทย์รู้สึกอยากทำอะไรสักอย่าง และการคัดภาวะแทรกซ้อนออกที่อาจได้ประโยชน์จากการให้ยาปฏิชีวนะทำได้ยาก ไม่มียาต้านไวรัสใดที่ยืนยันได้ว่ามีประสิทธิภาพแก่โรคหวัด แม้จะมีงานวิจัยขั้นต้นบางชิ้นที่ศึกษาพบว่าอาจมีประโยชน์ก็ตาม
การรักษาทางเลือก
แม้จะมีการรักษาทางเลือกหลายอย่างที่ใช้กับโรคหวัด แต่ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์สนับสนุนการใช้การรักษาทางเลือกส่วนมากเพียงพอ จนถึงปี 2553 มีหลักฐานไม่เพียงพอที่จะแนะนำให้หรือไม่ให้ใช้น้ำผึ้งหรือการล้างจมูก มีการศึกษาเสนอว่า หากให้สังกะสีภายใน 24 ชั่วโมงหลังเริ่มมีอาการ จะสามารถลดช่วงเวลาและความรุนแรงของโรคหวัดในผู้มีสุขภาพดี อย่างไรก็ดีการศึกษาในเรื่องเดียวกันชิ้นอื่น ๆ ให้ผลที่แตกต่างกันออกไป จึงยังต้องรอการศึกษาวิจัยเพิ่มเติมเพื่อพิจารณาว่าสังกะสีจะมีประโยชน์อย่างไร และควรให้เมื่อไร ผลกระทบของวิตามินซีต่อโรคหวัดนั้น แม้จะมีการศึกษาวิจัยมานาน แต่ก็ไม่มีผลลัพธ์ที่น่าพอใจ จะได้ผลเฉพาะในเพียงบางภาวะเท่านั้น เช่น ในผู้ป่วยไข้หวัดที่ออกกำลังกายให้ชีพจรเข้าเป้าในอากาศเย็น หลักฐานเกี่ยวกับประโยชน์ของนั้นขัดกัน การเสริมอิชิเนเซียประเภทต่าง ๆ อาจมีประสิทธิภาพแตกต่างกัน ยังไม่ทราบกันว่ากระเทียมมีประสิทธิภาพหรือไม่ การทดสอบวิตามินดีครั้งเดียวยังไม่พบประโยชน์
การพยากรณ์โรค
โรคหวัดโดยทั่วไปไม่รุนแรงและหายได้เอง อาการส่วนมากโดยทั่วไปจะดีขึ้นในหนึ่งสัปดาห์ ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงนั้นเกิดขึ้นน้อย และถ้าเกิด มักเกิดในผู้สูงอายุมาก ๆ เด็กเล็กมาก ๆ หรือผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ผู้ป่วยบางรายอาจติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำซ้อนทำให้เกิดโพรงอากาศอักเสบ (ไซนัสอักเสบ) คอหอยอักเสบ หรือได้ มีการประมาณเอาไว้ว่าผู้ป่วยที่เกิดภาวะแทรกซ้อนจากโรคหวัดเหล่านี้ 8% เกิดโพรงอากาศอักเสบ และ 30% เกิดหูชั้นกลางอักเสบ
วิทยาการระบาด
โรคหวัดเป็นโรคของมนุษย์ที่พบมากที่สุด และทุกคนบนโลกล้วนได้รับผลกระทบ ตามแบบผู้ใหญ่มีการติดเชื้อสองถึงห้าครั้งต่อปี และเด็กอาจเป็นโรคหวัดหกถึงสิบครั้งต่อปี ซึ่งอาจมากถึงสิบสองครั้งต่อปีสำหรับเด็กที่เรียนในโรงเรียน อัตราการติดเชื้อมีอาการเพิ่มขึ้นในวัยสูงอายุเพราะระบบภูมิคุ้มกันที่เสื่อมลง
ประวัติศาสตร์
ขณะที่สาเหตุของโรคหวัดเพิ่งจะมีการระบุเพียงตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ 1950 เป็นต้นมา แต่โรคหวัดอยู่คู่กับมนุษยชาติมาแต่โบราณ อาการและการรักษาโรคหวัดมีอธิบายในปาปิรุสอีเบอร์ (Papyrus Ebers) ของอียิปต์ ข้อความทางการแพทย์เก่าแก่ที่สุดเท่าที่มีอยู่ เขียนขึ้นก่อนศตวรรษที่ 16 ก่อนคริสตกาล ชื่อ "common cold" มีใช้ในคริสต์ศตวรรษที่ 16 เนื่องจากความคล้ายกันระหว่างอาการกับการสัมผัสอากาศเย็น
ในสหราชอาณาจักร หน่วยโรคหวัดถูกตั้งขึ้นโดยสภาวิจัยการแพทย์ในปี 2489 และมีการค้นพบไรโนไวรัสที่นั่นเองในปี 2499 ในคริสต์ทศวรรษ 1970 หน่วยโรคหวัดสาธิตว่าการรักษาด้วยอินเตอร์เฟียรอนระหว่างระยะฟักของการติดเชื้อไรโนไวรัสป้องกันต่อโรคบ้าง แต่ไม่สามารถพัฒนาการรักษาภาคปฏิบัติ หน่วยดังกล่าวถูกปิดในปี 2532 สองปีหลังเสร็จสิ้นการวิจัยยาอมซิงค์กลูโคเนตในการป้องกันโรคและการรักษาโรคหวัดไรโนไวรัส เป็นการรักษาที่ประสบความสำเร็จครั้งเดียวในประวัติศาสตร์ของหน่วย
ผลกระทบทางเศรษฐกิจ
ยังไม่เป็นที่เข้าใจดีในพื้นที่ส่วนใหญ่ของโลกเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจของโรคหวัด ในสหรัฐอเมริกา โรคหวัดทำให้มีการพบแพทย์ 75–100 ล้านครั้งต่อปี โดยประเมินราคาเบื้องต้น 7,700 ล้านดอลล่าร์สหรัฐต่อปี ชาวอเมริกันใช้เงิน 2,900 ล้านดอลล่าร์สหรัฐไปกับยาที่ไม่มีใบสั่งยาจากแพทย์และอีก 400 ล้านดอลล่าร์สหรัฐไปกับยาตามใบสั่งเพื่อบรรเทาอาการ กว่าหนึ่งในสามของผู้ที่มาพบแพทย์ได้รับใบสั่งยาปฏิชีวนะ ซึ่งส่อว่าอาจมีการดื้อยาปฏิชีวนะเกิดขึ้นได้ มีการประเมินว่ามีการขาดเรียน 22–189 ล้านวันทุกปีเนื่องจากโรคหวัด ผลคือ ผู้ปกครองเสียวันทำงาน 126 ล้านวันเพื่ออยู่บ้านดูแลบุตรของตน เมื่อรวมกับวันทำงานอีก 150 ล้านวันที่ลูกจ้างป่วยเป็นโรคหวัด ผลกระทบความสูญเสียทางเศรษฐกิจรวมของงานที่เกี่ยวข้องกับโรคหวัดเกิน 20,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐต่อปี ซึ่งคิดเป็น 40% ของเวลาทำงานที่เสียไปในสหรัฐอเมริกา
การวิจัย
มีการทดสอบประสิทธิภาพของยาต้านไวรัสกับโรคหวัด อย่างไรก็ดี จนถึงปี 2552 ไม่มียาตัวใดที่ทั้งพบว่ามีประสิทธิภาพและได้รับอนุญาตให้ใช้ ปัจจุบันกำลังมีการทดสอบยาต้านไวรัส ซึ่งค่อนข้างประสบความสำเร็จต่อ เช่นเดียวกับการทดสอบ BTA-798 พลีโคนาริลแบบรับประทานมีปัญหาด้านความปลอดภัย และแบบละอองลอยกำลังอยู่ระหว่างการศึกษา
ดราโค (DRACO) ยาต้านรีโทรไวรัสที่มีขอบเขตในการออกฤทธิ์กว้าง ที่กำลังพัฒนาที่สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ แสดงประสิทธิภาพเบื้องต้นในการรักษาไรโนไวรัส เช่นเดียวกับไวรัสติดต่ออื่นอีกจำนวนหนึ่ง
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแมริแลนด์ คอลเลจพาร์ก และมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน แมดิสัน ได้ทำแผนที่จีโนมไวรัสทุกสายพันธุ์เท่าที่ทราบว่าก่อโรคหวัด
อ้างอิง
- Pramod JR (2008). Textbook of Oral Medicine. Jaypee Brothers Publishers. p. 336. ISBN . จากแหล่งเดิมเมื่อ 29 May 2016.
- Lee H, Kang B, Hong M, Lee HL, Choi JY, Lee JA (July 2020). "Eunkyosan for the common cold: A PRISMA-compliment systematic review of randomised, controlled trials". Medicine. 99 (31): e21415. doi:10.1097/MD.0000000000021415. PMC 7402720. PMID 32756141.
- "Common Colds: Protect Yourself and Others". CDC. 6 October 2015. จากแหล่งเดิมเมื่อ 5 February 2016. สืบค้นเมื่อ 4 February 2016.
- Eccles R (November 2005). "Understanding the symptoms of the common cold and influenza". The Lancet. Infectious Diseases. 5 (11): 718–25. doi:10.1016/S1473-3099(05)70270-X. PMC 7185637. PMID 16253889.
- Bennett JE, Dolin R, Blaser MJ (2014). Principles and Practice of Infectious Diseases (ภาษาอังกฤษ). Elsevier Health Sciences. p. 750. ISBN . จากแหล่งเดิมเมื่อ 8 September 2017.
- Allan GM, Arroll B (February 2014). "Prevention and treatment of the common cold: making sense of the evidence". CMAJ. 186 (3): 190–9. doi:10.1503/cmaj.121442. PMC 3928210. PMID 24468694.
- Heikkinen T, Järvinen A (January 2003). "The common cold". Lancet. 361 (9351): 51–9. doi:10.1016/S0140-6736(03)12162-9. PMC 7112468. PMID 12517470.
- Arroll B (March 2011). "Common cold". BMJ Clinical Evidence. 2011 (3): 1510. PMC 3275147. PMID 21406124.
Common colds are defined as upper respiratory tract infections that affect the predominantly nasal part of the respiratory mucosa
- Eccles p. 209
- "Zinc – Fact Sheet for Health Professionals". Office of Dietary Supplements, US National Institutes of Health. 10 July 2019. สืบค้นเมื่อ 27 December 2019.
Although studies examining the effect of zinc treatment on cold symptoms have had somewhat conflicting results, overall zinc appears to be beneficial under certain circumstances.... In September of 2007, Caruso and colleagues published a structured review of the effects of zinc lozenges, nasal sprays, and nasal gels on the common cold [69]. Of the 14 randomized, placebo-controlled studies included, 7 (5 using zinc lozenges, 2 using a nasal gel) showed that the zinc treatment had a beneficial effect and 7 (5 using zinc lozenges, 1 using a nasal spray, and 1 using lozenges and a nasal spray) showed no effect. More recently, a Cochrane review concluded that “zinc (lozenges or syrup) is beneficial in reducing the duration and severity of the common cold in healthy people, when taken within 24 hours of onset of symptoms” [73]. The author of another review completed in 2004 also concluded that zinc can reduce the duration and severity of cold symptoms [68]. However, more research is needed to determine the optimal dosage, zinc formulation and duration of treatment before a general recommendation for zinc in the treatment of the common cold can be made [73]. As previously noted, the safety of intranasal zinc has been called into question because of numerous reports of anosmia (loss of smell), in some cases long-lasting or permanent, from the use of zinc-containing nasal gels or sprays [17–19].
- Kim SY, Chang YJ, Cho HM, Hwang YW, Moon YS (September 2015). "Non-steroidal anti-inflammatory drugs for the common cold". The Cochrane Database of Systematic Reviews. 9 (9): CD006362. doi:10.1002/14651858.CD006362.pub4. PMID 26387658.
- Simasek M, Blandino DA (กุมภาพันธ์ 2007). "Treatment of the common cold". American Family Physician. 75 (4): 515–20. PMID 17323712. จากแหล่งเดิมเมื่อ 26 กันยายน 2007.
- "Common Cold". Centers for Disease Control and Prevention. จากแหล่งเดิมเมื่อ 1 February 2016. สืบค้นเมื่อ 27 January 2021.
- Eccles p. 112
- . 11 August 2016. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 6 January 2017. สืบค้นเมื่อ 5 January 2017.
- Harris AM, Hicks LA, Qaseem A (March 2016). "Appropriate Antibiotic Use for Acute Respiratory Tract Infection in Adults: Advice for High-Value Care From the American College of Physicians and the Centers for Disease Control and Prevention". Annals of Internal Medicine. 164 (6): 425–34. doi:10.7326/M15-1840. PMID 26785402.
- Malesker MA, Callahan-Lyon P, Ireland B, Irwin RS (November 2017). "Pharmacologic and Nonpharmacologic Treatment for Acute Cough Associated With the Common Cold: CHEST Expert Panel Report". Chest. 152 (5): 1021–1037. doi:10.1016/j.chest.2017.08.009. PMC 6026258. PMID 28837801.
A suggestion for the use of zinc lozenges in healthy adults with cough due to common cold was considered by the expert panel. However, due to weak evidence, the potential side effects of zinc, and the relatively benign and common nature of the condition being treated, the panel did not approve inclusion of this suggestion.
- Eccles p. 1
- Eccles R, Weber O (2009). Common cold. Basel: Birkhäuser. p. 3. ISBN . จากแหล่งเดิมเมื่อ 8 May 2016.
- Eccles Pg. 24
- Eccles Pg.26
- Eccles Pg. 129
- Eccles Pg.50
- Eccles Pg.30
- Helms RA, บ.ก. (2006). Textbook of therapeutics: drug and disease management (8. ed.). Philadelphia, Pa. [u.a.]: Lippincott Williams & Wilkins. p. 1882. ISBN . จากแหล่งเดิมเมื่อ 30 April 2016.
- Turner RB, Hayden FG (2003). "Rhinovirus". ใน Rübsamen-Waigmann H, และคณะ (บ.ก.). Viral Infections and Treatment. New York: CRC Press. p. 111. ISBN . จากแหล่งเดิมเมื่อ 4 May 2016.
- Goldsobel AB, Chipps BE (March 2010). "Cough in the pediatric population". The Journal of Pediatrics. 156 (3): 352–8. doi:10.1016/j.jpeds.2009.12.004. PMID 20176183.
- Palmenberg AC, Spiro D, Kuzmickas R, Wang S, Djikeng A, Rathe JA, Fraser-Liggett CM, Liggett SB (2009). "Sequencing and Analyses of All Known Human Rhinovirus Genomes Reveals Structure and Evolution". Science. 324 (5923): 55–9. doi:10.1126/science.1165557. PMID 19213880.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - Eccles Pg.77
- . . 27 November 2006. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 6 September 2008. สืบค้นเมื่อ 11 June 2007.
- Eccles Pg.107
- Eccles R, Weber O (2009). Common cold (Online-Ausg. ed.). Basel: Birkhäuser. p. 197. ISBN . จากแหล่งเดิมเมื่อ 2 May 2016.
- Eccles Pp. 211 & 215
- Papadopoulos NG, Xatzipsaltis M, Johnston SL (2009). "Rhinoviruses". ใน Zuckerman AJ, และคณะ (บ.ก.). Principles and Practice of Clinical Virology (6th ed.). John Wiley & Sons. p. 496. ISBN . จากแหล่งเดิมเมื่อ 3 June 2016.
- Gwaltney JM Jr, Halstead SB (16 July 1997). "Contagiousness of the common cold". Questions and answers. Journal of the American Medical Association. 278 (3): 256–57. doi:10.1001/jama.1997.03550030096050.
- Zuger A (4 March 2003). "'You'll Catch Your Death!' An Old Wives' Tale? Well." The New York Times. จากแหล่งเดิมเมื่อ 22 March 2017.
- Mourtzoukou EG; Falagas ME (September 2007). "Exposure to cold and respiratory tract infections". The International Journal of Tuberculosis and Lung Disease. 11 (9): 938–43. PMID 17705968.
- Eccles Pg.79
- Eccles Pg.80
- Eccles Pg. 157
- Eccles Pg. 78
- Eccles Pg.166
- Cohen S, Doyle WJ, Alper CM, Janicki-Deverts D, Turner RB (January 2009). "Sleep habits and susceptibility to the common cold". Archives of Internal Medicine. 169 (1): 62–7. doi:10.1001/archinternmed.2008.505. PMC 2629403. PMID 19139325.
- Eccles Pg.160–165
- Eccles Pg.116
- Eccles Pg.122
- Eccles Pg. 51–52
- Lawrence DM (2009). "Gene studies shed light on rhinovirus diversity". Lancet Infect Dis. 9 (5): 278. doi:10.1016/S1473-3099(09)70123-9.
- Jefferson T, Del Mar CB, Dooley L, Ferroni E, Al-Ansary LA, Bawazeer GA, และคณะ (November 2020). "Physical interventions to interrupt or reduce the spread of respiratory viruses". The Cochrane Database of Systematic Reviews. 2020 (11): CD006207. doi:10.1002/14651858.CD006207.pub5. :10072/399941. PMC 8094623. PMID 33215698.
- Singh M, Das RR (June 2013). Singh M (บ.ก.). "Zinc for the common cold". The Cochrane Database of Systematic Reviews (6): CD001364. doi:10.1002/14651858.CD001364.pub4. PMID 23775705. (Retracted)
- Hemilä H, Chalker E, Douglas B, Hemilä H (2007). Hemilä, Harri (บ.ก.). "Vitamin C for preventing and treating the common cold". Cochrane Database of Systematic Reviews (3): CD000980. doi:10.1002/14651858.CD000980.pub3. PMID 17636648.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - "Common Cold: Treatments and Drugs". Mayo Clinic. สืบค้นเมื่อ 9 January 2010.
- Eccles Pg.261
- Kim SY, Chang YJ, Cho HM, Hwang YW, Moon YS (2009). Kim, Soo Young (บ.ก.). "Non-steroidal anti-inflammatory drugs for the common cold". Cochrane Database Syst Rev (3): CD006362. doi:10.1002/14651858.CD006362.pub2. PMID 19588387.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - Eccles R (2006). "Efficacy and safety of over-the-counter analgesics in the treatment of common cold and flu". Journal of Clinical Pharmacy and Therapeutics. 31 (4): 309–319. doi:10.1111/j.1365-2710.2006.00754.x. PMID 16882099.
- Smith SM, Schroeder K, Fahey T (2008). Smith, Susan M (บ.ก.). "Over-the-counter (OTC) medications for acute cough in children and adults in ambulatory settings". Cochrane Database Syst Rev (1): CD001831. doi:10.1002/14651858.CD001831.pub3. PMID 18253996.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - Shefrin AE, Goldman RD (พฤศจิกายน 2009). "Use of over-the-counter cough and cold medications in children" (PDF). Canadian Family Physician. 55 (11): 1081–3. PMC 2776795. PMID 19910592. (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 23 กันยายน 2015.
- Vassilev ZP, Kabadi S, Villa R (March 2010). "Safety and efficacy of over-the-counter cough and cold medicines for use in children". Expert Opinion on Drug Safety. 9 (2): 233–42. doi:10.1517/14740330903496410. PMID 20001764. S2CID 12952868.
- Smith SM, Schroeder K, Fahey T (November 2014). "Over-the-counter (OTC) medications for acute cough in children and adults in community settings". The Cochrane Database of Systematic Reviews. 11 (11): CD001831. doi:10.1002/14651858.CD001831.pub5. PMC 7061814. PMID 25420096.
- Eccles Pg. 246
- Taverner D, Latte GJ (2007). Latte, G. Jenny (บ.ก.). "Nasal decongestants for the common cold". Cochrane Database Syst Rev (1): CD001953. doi:10.1002/14651858.CD001953.pub3. PMID 17253470.
- AlBalawi ZH, Othman SS, Alfaleh K (June 2013). "Intranasal ipratropium bromide for the common cold". The Cochrane Database of Systematic Reviews (6): CD008231. doi:10.1002/14651858.CD008231.pub3. PMC 6492479. PMID 23784858.
- Pratter MR (Jan 2006). "Cough and the common cold: ACCP evidence-based clinical practice guidelines". Chest. 129 (1 Suppl): 72S–74S. doi:10.1378/chest.129.1_suppl.72S. PMID 16428695.
- Guppy MP, Mickan SM, Del Mar CB, Thorning S, Rack A (February 2011). Guppy MP (บ.ก.). "Advising patients to increase fluid intake for treating acute respiratory infections". The Cochrane Database of Systematic Reviews (2): CD004419. doi:10.1002/14651858.CD004419.pub3. PMC 7197045. PMID 21328268.
- Singh M, Singh M, Jaiswal N, Chauhan A (August 2017). "Heated, humidified air for the common cold". The Cochrane Database of Systematic Reviews. 2017 (8): CD001728. doi:10.1002/14651858.CD001728.pub6. PMC 6483632. PMID 28849871.
- Paul IM, Beiler JS, King TS, Clapp ER, Vallati J, Berlin CM (December 2010). "Vapor rub, petrolatum, and no treatment for children with nocturnal cough and cold symptoms". Pediatrics. 126 (6): 1092–9. doi:10.1542/peds.2010-1601. PMC 3600823. PMID 21059712.
- Arroll B, Kenealy T (2005). Arroll, Bruce (บ.ก.). "Antibiotics for the common cold and acute purulent rhinitis". Cochrane Database Syst Rev (3): CD000247. doi:10.1002/14651858.CD000247.pub2. PMID 16034850.
- Eccles Pg.238
- Eccles Pg.234
- Eccles Pg.218
- Oduwole O, Meremikwu MM, Oyo-Ita A, Udoh EE (January 2010). Oduwole, Olabisi (บ.ก.). "Honey for acute cough in children". Cochrane Database of Systematic Reviews (1): CD007094. doi:10.1002/14651858.CD007094.pub2. PMID 20091616.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - King D, Mitchell B, Williams CP, Spurling GK (April 2015). "Saline nasal irrigation for acute upper respiratory tract infections" (PDF). The Cochrane Database of Systematic Reviews. 2015 (4): CD006821. doi:10.1002/14651858.CD006821.pub3. PMID 25892369.
- "Zinc for the common cold — Health News — NHS Choices". nhs.uk. 2012. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-02-19. สืบค้นเมื่อ 24 February 2012.
In this review, there was a high level of heterogeneity between the studies that were pooled to determine the effect of zinc on the duration of cold symptoms. This may suggest that it was inappropriate to pool them. It certainly makes this particular finding less conclusive.
- Heiner KA, Hart AM, Martin LG, Rubio-Wallace S (2009). "Examining the evidence for the use of vitamin C in the prophylaxis and treatment of the common cold". Journal of the American Academy of Nurse Practitioners. 21 (5): 295–300. doi:10.1111/j.1745-7599.2009.00409.x. PMID 19432914.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - Linde K, Barrett B, Wölkart K, Bauer R, Melchart D (2006). Linde, Klaus (บ.ก.). "Echinacea for preventing and treating the common cold". Cochrane Database Syst Rev (1): CD000530. doi:10.1002/14651858.CD000530.pub2. PMID 16437427.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - Sachin A Shah, Stephen Sander, C Michael White, Mike Rinaldi, Craig I Coleman (2007). "Evaluation of echinacea for the prevention and treatment of the common cold: a meta-analysis". The Lancet Infectious Diseases. 7 (7): 473–480. doi:10.1016/S1473-3099(07)70160-3. PMID 17597571.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - Lissiman E, Bhasale AL, Cohen M (2012). Lissiman, Elizabeth (บ.ก.). "Garlic for the common cold". Cochrane Database Syst Rev. 3: CD006206. doi:10.1002/14651858.CD006206.pub3. PMID 22419312.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - Murdoch, David R. (3 October 2012). "Effect of Vitamin D3 Supplementation on Upper Respiratory Tract Infections in Healthy Adults<subtitle>The VIDARIS Randomized Controlled Trial</subtitle><alt-title>Vitamin D3 and Upper Respiratory Tract Infections</alt-title>". JAMA: the Journal of the American Medical Association. 308 (13): 1333. doi:10.1001/jama.2012.12505.
- Eccles Pg.76
- Eccles Pg.90
- Eccles Pg. 3
- Eccles Pg.6
- "Cold". Online Etymology Dictionary. สืบค้นเมื่อ 12 January 2008.
- Eccles Pg.20
- Tyrrell DA (1987). "Interferons and their clinical value". Rev. Infect. Dis. 9 (2): 243–9. doi:10.1093/clinids/9.2.243. PMID 2438740.
- Al-Nakib W, Higgins PG, Barrow I, Batstone G, Tyrrell DA (December 1987). "Prophylaxis and treatment of rhinovirus colds with zinc gluconate lozenges". The Journal of Antimicrobial Chemotherapy. 20 (6): 893–901. doi:10.1093/jac/20.6.893. PMC 7110079. PMID 3440773.
- . Imperial War Museum: Posters of Conflict. vads. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-07-27. สืบค้นเมื่อ 2013-02-11.
- Fendrick AM, Monto AS, Nightengale B, Sarnes M (2003). "The economic burden of non-influenza-related viral respiratory tract infection in the United States". Arch. Intern. Med. 163 (4): 487–94. doi:10.1001/archinte.163.4.487. PMID 12588210.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - Kirkpatrick GL (December 1996). "The common cold". Primary Care. 23 (4): 657–75. doi:10.1016/S0095-4543(05)70355-9. PMC 7125839. PMID 8890137.
- Eccles Pg.226
- Rider TH, Zook CE, Boettcher TL, Wick ST, Pancoast JS, Zusman BD (2011). Sambhara S (บ.ก.). "Broad-spectrum antiviral therapeutics". PLOS ONE. 6 (7): e22572. Bibcode:2011PLoSO...622572R. doi:10.1371/journal.pone.0022572. PMC 3144912. PMID 21818340.
- Fiona Macrae (11 August 2011), "Greatest discovery since penicillin: A cure for everything - from colds to HIV", The Daily Mail, UK
- Val Willingham (February 12, 2009). "Genetic map of cold virus a step toward cure, scientists say". CNN. สืบค้นเมื่อ 28 April 2009.
บรรณานุกรม
- Eccles R, Weber O, บ.ก. (2009). Common Cold (Illustrated ed.). Springer Science & Business Media. ISBN .
แหล่งข้อมูลอื่น
- โรคหวัด ที่เว็บไซต์ Curlie
การจำแนกโรค | D |
---|---|
ทรัพยากรภายนอก |
|
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
khxhxyswncmukxkesbechiybphln hruxorkheyuxcmukaelalakhxxkesbechiybphln xngkvs Acute nasopharyngitis eriykodythwipwa orkhhwd hrux ikhhwd xngkvs Common cold epnorkhtidechuxiwrsinthangedinhayicswnbnthikrathbtxcmukepnhlk phupwycaerimmixakarhlngrbechuxmaepnewlaimekin 2 wn xakarkhxngorkhmithngix ecbkhx namukihl aelaikh sungmkhayipexnginecdthungsibwn aetbangxakarxacxyuidnanthungsamspdah phupwybangrayxacekidphawaaethrksxn echn pxdbwm tammaid odyechphaaphuthimiorkhpracatworkhhwdchuxxunCold acute viral nasopharyngitis nasopharyngitis viral rhinitis rhinopharyngitis acute coryza head cold upper respiratory tract infection URTI phaphaesdngphunphiwinradbomelkulkhxngironiwrschnidhnungsakhawichaorkhtidechuxxakarix ecbkhx namukihl miikhphawaaethrksxnswnihyimmi aetbangkhrngxacekidhuchnklangxkesb isnsxkesb pxdxkesb aelatidechuxkartngtnpraman 2 wnhlngrbechuxrayadaeninorkh1 3 spdahsaehtuiwrs mkepnironiwrs withiwinicchykhunxyukbxakarorkhxunthikhlaykneyuxcmukxkesbcakphumiaeph hlxdlmxkesb orkhixkrn isnsxkesbkarpxngknlangmux swmhnakakxnamy rksamaryathinkarix xyuihhangcakphupwykarrksa sngkasiyaNSAIDskhwamchuk2 3 khrngtxpi phuihy 6 8 khrngtxpi edk miiwrsthiepnsaehtukhxngorkhhwdmakkwa 200 odyironiwrs iwrsokhorna xadioniwrs aelaexnethxoriwrsepnchnidthiphbbxythisud tidtxcakkhnsukhnphankarsudxakasthimiechuxiwrsekhaipemuxyuiklkbphupwy hruxtidthangxxmphankarexamuxsmphswtthuthimiechuxtidxyu aelwexamuxnnekhapakhruxcmuk pccyesiyngkhxngkarepnorkhidngayidaek karepnedkthixyuinsunyeliyngedk karphkphxnnxy aelakhwamekhriydthangcitic epntn swnihyxakarekidcakphumikhumknkhxngrangkaytxbsnxngtxkartidechuxmakkwakarthalayenuxeyuxcakiwrsexng ikhhwdihyepnxikorkhthimixakarkhlaykhlungkborkhhwd aetcamixakarrunaerngkwa aelaimkhxythaihminamuk yngimmiwkhsinsahrbpxngknorkhhwd karlangmuxepnwithikarpxngknhlk rwmipthungkarimexamuxthiyngimidlangmasmphsta cmuk pak aelakarhlikeliyngkarxyuiklchidkbphupwy hlkthanbangchinsnbsnunprasiththiphaphkhxngkarswmhnakakxnamy orkhhwdimmiwithirksacaephaa aetsamarthrksatamxakarid karesrimaerthatusngkasixacldrayaewlakhxngkarecbpwyid hakerimkininchwngaerkthiaesdngxakar xacsamarthbrrethaxakarpwdiddwyyatankarxkesbchnidimichsetxrxyd imkhwrichyaptichiwna ephraahwdthnghmdekidcakiwrs aelayngimmihlkthanthimikhunphaphdimasnbsnunwamipraoychn orkhhwdepnhnunginorkhtidtxthiphbbxythisudinmnusy aelaxyukhukbmnusychatimaaetobran phuihytidorkhhwdodyechliysxngthungsamkhrngtxpi khnathiedkodyechliytidorkhhwdrahwanghkthungaepdkhrngtxpi inchwngvdufnaelavduhnawcaphbphupwyorkhhwdbxykwapktixakaraelaxakaraesdngxakarthwipkhxngorkhhwdmithngix namukihl khdcmuk aelaecbkhx bangkhrngxacmixakarpwdklamenux khwamla pwdsirsaaelasuyesiykhwamxyakxahar inphupwyorkhhwd 40 phbxakarecbkhx aela 50 phbxakarix khnathixakarpwdklamenuxphbinphupwyrawkhrunghnung phupwyinwyphuihymkimphbxakarikh aetphbthwipintharkaelaedk xakarixmkimrunaerngnkemuxethiybkbikhhwdihy khnathixakarixaelaikhinphuihymiaenwonmbngchiikhhwdihymakkwa aetkmikhwamkhlaykhlungknxyangmakrahwangorkhhwdkbikhhwdihy iwrshlaychnidthiepnsaehtukhxngorkhhwdyngxacsngphlihekidkartidechuxirxakar sikhxngesmhaxacmiidtngaetimmisiipcnthungehluxng ekhiyw aelaimbngchithungpraephthkhxngtwthikrathaihekidkartidechux karluklam tampktiorkhhwderimtncakkhwamehnuxyla rusukhnawsathan camaelapwdsirsa tamdwyxakarnamukihlaelaixhlaywn xakarxacerimkhunin 16 chwomngnbaetkarsmphs aelamkmixakarrunaerngthisudsxngthungsiwnhlngerimmixakar odypktixakarcahayipexnginecdthungsibwn aetbangraysamarthmixakaridnanthungsamspdah 35 40 khxngphupwyedkmixakarixnankwa 10 wn aela 10 khxngphupwyedkmixakarixnankwa 25 wnsaehtuiwrs orkhhwdepnkartidechuxiwrskhxngthangedinhayicswnbn iwrsthiphbmakthisud khux ironiwrs 30 80 sungepnthimiruckkn 99 chnid iwrschnidxunmiokhornaiwrs 10 15 hiwaemnpharaxinfluexnsaiwrs iwrsersiphrathxrisinisetiyl xadioniwrs exnethxoriwrsaelaemtaniwomiwrs bxykhrngthiiwrsmakkwahnungchnidkxihekidorkh rwmthngsinaelw miiwrskwa 200 chnidthiekiywkhxngkborkhhwd karaephrechux iwrsorkhhwdodypktiaephrechuxphanlaxxngcakxakas laxxnglxy karsmphsodytrngkbsingkhdhlngthangcmukthitidechux hruxwtthuthiepnphahanaechux fomite aetyngimmikarrabuwa thangidmikhwamsakhythisud aetkarsmphsmuxtxmux aelamuxtxphuntxmuxehmuxncasakhykwakartidtxphanlaxxnglxy iwrsxacmichiwitxyurxdepnewlanan mnusyichmuxhyibcbiwrsaelwnaekhasudwngtahruxcmuksungepnthiekidkartidechux karaephrechuxphbthwipinsthanrbeliyngedkaelathiorngeriynenuxngcakkhwamiklchidkhxngedkcanwnmaksungmiphumikhumkntaaelamkmixnamyelw caknn smachikkhrxbkhrwkhnxunepnphunaechuxehlaniklbmaban immihlkthanwa xakasthiihlewiynxyuinethiywbinphanichyepnwithikaraephrechux xyangirktam bukhkhlthinngiklchidduehmuxncamikhwamesiyngsungkwa orkhhwdthiekidcakironiwrstidechuxidmakthisudrahwangsamwnaerkkhxngxakar aetcatidechuxnxylngmakhlngcaknn lmfaxakas thvsdichawbandngedimmiwa orkhhwdsamarth tid idcakkarsmphsxakashnawepnewlanan echn sphaphfntkhruxvduhnaw cungepnthimakhxngchuxorkh cold inphasaxngkvs bthbathkareyntwkhxngrangkayepnpccyesiyngorkhhwdnnyngthkethiyngknxyu iwrsbangchnidthiepnehtukhxngorkhhwdmitamvdukal sungekidkhunbxykwainxakasthihnawhruxepiyk bangkhnechuxwa kartidorkhhwdepnephraakarxasyxyuinthirmiklkbphuthitidechuxdngklawepnrayaewlanan odyechphaaxyangyingedkthiklbcakorngeriyn xyangirkdi orkhhwdyngxacekiywkhxngkbkarepliynaeplnginrabbthangedinhayinthisngphlihmikhwamiwephimkhun khwamchunthitasamarthephimxtrakaraephrechuxiwrsidenuxngcakxakasaehngthaihlaxxngiwrskhnadelkkracayipiklkhunaelaxyuinxakasnankhun xun phumikhumknhmuthiekidcakkartidiwrsikhhwdkxnhnani mibthbathsakhyinkarcakdkaraephrkhxngiwrs odysngektcakprachakrthixayunxymixtrakartidechuxthangedinhayicsungkwaprachakrxayumak phumikhumknkhxngrangkaythithanganimdiyngepnpccyesiyngtxorkhhwd karnxnhlbimephiyngphxaelathuphophchnakarekiywkhxngkbkhwamesiyngkartidechuxhlngsmphsironiwrsthiephimkhun sungechuxknwaekidcakphlkhxngmntxkarthangankhxngphumikhumknphyathisrirwithyaorkhhwdepnorkhkhxngthangedinhayicswnbn xakarkhxngorkhhwdechuxwaekiywkhxngkbphumikhumknsnxngtxiwrsepnhlk klikkartxbsnxngkhxngphumikhumknnicaephaatxiwrs twxyangechn ironiwrstidtxphankarsmphs twechuxcacbkb ICAM 1 riesphetxrkhxngphupwy phanklikthiyngimthrabaenchd aelwkratunkarpldplxy inflammatory mediators caknn sartwklangkarxkesbehlanicathaihekidxakar odytwiwrsmiidkxkhwamesiyhayaekeyuxbucmukaetxyangid trngkhamkbiwrsersiphrathxrisinisetiyl RSV sungtidtxthngphankarsmphsodytrngaelalaxxngcakxakas iwrscaaebngtwincmukaelalakhxkxncaaephrkracaylngsuthangedinhayicswnlang aelathaihekidkhwamesiyhayodytrngtxeslleyuxbusngphlihekidkarxkesbincmuk lakhxaelahlxdlm hakedkelktidechuxekidthxlm trachea xkesbxacthaihekidxakarkhxngorkhklxngesiyngxkesbxudkn croup id ephraathangedinhayicmikhnadelkkarwinicchykartidechuxiwrsinthangedinhayicswnbnchnidtang aeykidkhraw caktaaehnngkhxngxakar cmukidrbphlkrathbepnhlkinorkhhwd lakhxidrbphlkrathbepnhlkinorkhkhxhxyxkesb aelapxdidrbphlkrathbepnhlkinorkhhlxdlmxkesb krannbriewnthiidrbphlkrathbxacthbsxnknxyangminysakhyaelaekididhlaybriewn bxykhrng orkhhwdniyamwaepncmukxkesbodymiprimankarxkesbkhxnglakhxtang kn phbkarwinicchydwytnexngpraca aetaethbimekhymikaraeykaeyatwkrathaiwrsthiekiywkhxngaethcring aelaodythwipkimsamarthrabupraephthkhxngiwrscakxakaridkarpxngknkarpxngknorkhhwdthimiprasiththiphaphepnkarpxngknkaraephrkracaykhxngechuxiwrsthangkayphaph echn karlangmux karihphupwyswmhnakakxnamypidpakaelacmukephuxpxngknkaraephrkracaykhxngiwrsthixyuinnamukaelanalay aela karichesuxkawnaelathungmuxyanginorngphyabalhruxsthanbrikarsatharnsukh karkhwbkhumorkhodykarkkknepnipidyak ephraaphupwyxacmixakarimcaephaaaelaaethrkxyuinprachakrthaihimsamarthaeykaeyaphupwyxxkmaid karihwkhsincaidphlkhxnkhangcakd enuxngcakechuxiwrshwdmihlaysayphnthuaelamiwiwthnakar epliynaeplngxyangrwderw karsrangwkhsinihkhrxbkhlumechuxhwdinwngkwangcungthaidyak karlangmuxepnpracachwyldkarsngphaniwrsxyangmiprasiththiphaphodyechphaainedk yngimmihlkthanthiaenchdwakarephimyataniwrshruxsartanaebkhthieriyinnayalangmuxmiswnchwyephimprasiththiphaphinkarpxngknorkh karswmhnakakxnamyemuxxyuiklkbphutidechuxchwyldoxkaskartidechux thngnitxngthakhwbkhukbkarswmhnakakxnamyodytwphupwyexngsungmiprasiththiphaphldkaraephrkracayechuxthidikwa immihlkthanthichdecnwakarrksathimakkwanicamiphldikwa karesrimthatusngkasixacmiphlchwyldxtrakartidechuxorkhhwd karesrimwitaminsiimchwyldkhwamesiynghruxkhwamrunaerngkhxngorkhhwdaetxacthaihhaycakorkhhwdiderwkhunkarrksayngimmiyahruxsmuniphrid thimihlkthanyunynidwasamarthldrayaewlakhxngkartidechuxid dngnnkarrksacungprakxbdwykarbrrethaxakar karphkphxnihephiyngphx dumnamak ephuximihrangkaykhadna aelaklwkhxdwynaekluxxun epnwithirksaaebbxnurksthismehtusmphl xyangirkdi praoychnthiehncakkarrksaepnphlmacakpraktkarnyahlxkesiymak tamxakar karrksathichwybrrethaxakar rwmthung yarangbpwdaelayaldikh xyangixbuoprefnaelaxaestamionefn pharaestamxl hlkthanmiidaesdngwamiprasiththiphaphmakkwayaldikhaetxyangid aelaimaenanaihichinedkephraakhadhlkthansnbsnunprasiththiphaphaelaxacekidxntrayid inpi 2552 aekhnadacakdkarichyaaekixaelahwdodyimmiibsngyacakaephthyinedkxayuhkpihruxtakwa enuxngcakkhwamkngwlekiywkbkhwamesiyngaelapraoychnthiyngimmikhxphisucn inphuihy mihlkthansnbsnunkarichyaaekiximephiyngphx karich yaaekixchnidhnunghasuxodytrngidthwip inthangthiphid naipsukarhamichinhlaypraeths inphuihy xakarnamukihlsamarthldidcaksartanhisthaminrunaerk xyangirkdi sarehlanimiphlesiy echn khwamngwngxunxyangsuodxiefdrin yngmiprasiththiphaphinprachakrnidwy yaphncmukxacldxakarnamukihl aetmiphlelknxykbkarkhdcmuk swnsartanhisthaminrunthisxngnnimpraktwamiprasiththiphaph enuxngcakyngkhadkarsuksa cungimthrabwakarrbkhxngehlwekhaipephimkhuncaephimxakarhruxynrayaewlakarecbpwykhxngrabbhayic aelakarkhadkhxmulthikhlayknyngmisahrbkarichthithukthaihchunaelarxn karsuksahnungphbwa karnwdhnaxk chest vapor rub miprasiththiphaphbrrethaxakarixklangkhun karkhngaelanxnhlbyaklngidbang ptichiwnaaelataniwrs yaptichiwnarksaorkhtidechuxiwrsimid channcungimmiphltxorkhhwdsungekidcakiwrsechnkn thngniemuxphicarnawakarichyaptichiwnamioxkasekidphlkhangekhiyng dngnnkarichyaptichiwnainorkhhwdinphaphrwmcungthaihekidphlesiymakkwa krann kyngmikarcayyabxykhrng saehtubangprakarthithaihmikarcayyaptichiwnabxykhrngepnephraaprachachnkhadhwngwamaphbaephthyaelwtxngidya aephthyrusukxyakthaxairskxyang aelakarkhdphawaaethrksxnxxkthixacidpraoychncakkarihyaptichiwnathaidyak immiyataniwrsidthiyunynidwamiprasiththiphaphaekorkhhwd aemcaminganwicykhntnbangchinthisuksaphbwaxacmipraoychnktam karrksathangeluxk aemcamikarrksathangeluxkhlayxyangthiichkborkhhwd aetimmihlkthanthangwithyasastrsnbsnunkarichkarrksathangeluxkswnmakephiyngphx cnthungpi 2553 mihlkthanimephiyngphxthicaaenanaihhruximihichnaphunghruxkarlangcmuk mikarsuksaesnxwa hakihsngkasiphayin 24 chwomnghlngerimmixakar casamarthldchwngewlaaelakhwamrunaerngkhxngorkhhwdinphumisukhphaphdi xyangirkdikarsuksaineruxngediywknchinxun ihphlthiaetktangknxxkip cungyngtxngrxkarsuksawicyephimetimephuxphicarnawasngkasicamipraoychnxyangir aelakhwrihemuxir phlkrathbkhxngwitaminsitxorkhhwdnn aemcamikarsuksawicymanan aetkimmiphllphththinaphxic caidphlechphaainephiyngbangphawaethann echn inphupwyikhhwdthixxkkalngkayihchiphcrekhaepainxakaseyn hlkthanekiywkbpraoychnkhxngnnkhdkn karesrimxichienesiypraephthtang xacmiprasiththiphaphaetktangkn yngimthrabknwakraethiymmiprasiththiphaphhruxim karthdsxbwitamindikhrngediywyngimphbpraoychnkarphyakrnorkhorkhhwdodythwipimrunaerngaelahayidexng xakarswnmakodythwipcadikhuninhnungspdah phawaaethrksxnthirunaerngnnekidkhunnxy aelathaekid mkekidinphusungxayumak edkelkmak hruxphuthimiphumikhumknbkphrxng phupwybangrayxactidechuxaebkhthieriysasxnthaihekidophrngxakasxkesb isnsxkesb khxhxyxkesb hruxid mikarpramanexaiwwaphupwythiekidphawaaethrksxncakorkhhwdehlani 8 ekidophrngxakasxkesb aela 30 ekidhuchnklangxkesbwithyakarrabadorkhhwdepnorkhkhxngmnusythiphbmakthisud aelathukkhnbnolklwnidrbphlkrathb tamaebbphuihymikartidechuxsxngthunghakhrngtxpi aelaedkxacepnorkhhwdhkthungsibkhrngtxpi sungxacmakthungsibsxngkhrngtxpisahrbedkthieriyninorngeriyn xtrakartidechuxmixakarephimkhuninwysungxayuephraarabbphumikhumknthiesuxmlngprawtisastrkhnathisaehtukhxngorkhhwdephingcamikarrabuephiyngtngaetkhristthswrrs 1950 epntnma aetorkhhwdxyukhukbmnusychatimaaetobran xakaraelakarrksaorkhhwdmixthibayinpapirusxiebxr Papyrus Ebers khxngxiyipt khxkhwamthangkaraephthyekaaekthisudethathimixyu ekhiynkhunkxnstwrrsthi 16 kxnkhristkal chux common cold miichinkhriststwrrsthi 16 enuxngcakkhwamkhlayknrahwangxakarkbkarsmphsxakaseyn inshrachxanackr hnwyorkhhwdthuktngkhunodysphawicykaraephthyinpi 2489 aelamikarkhnphbironiwrsthinnexnginpi 2499 inkhristthswrrs 1970 hnwyorkhhwdsathitwakarrksadwyxinetxrefiyrxnrahwangrayafkkhxngkartidechuxironiwrspxngkntxorkhbang aetimsamarthphthnakarrksaphakhptibti hnwydngklawthukpidinpi 2532 sxngpihlngesrcsinkarwicyyaxmsingkhkluokhentinkarpxngknorkhaelakarrksaorkhhwdironiwrs epnkarrksathiprasbkhwamsaerckhrngediywinprawtisastrkhxnghnwyphlkrathbthangesrsthkicibpidprakaskhxngxngkvssmysngkhramolkkhrngthisxngxthibayrakhakhxngorkhhwd yngimepnthiekhaicdiinphunthiswnihykhxngolkekiywkbphlkrathbthangesrsthkickhxngorkhhwd inshrthxemrika orkhhwdthaihmikarphbaephthy 75 100 lankhrngtxpi odypraeminrakhaebuxngtn 7 700 landxllarshrthtxpi chawxemriknichengin 2 900 landxllarshrthipkbyathiimmiibsngyacakaephthyaelaxik 400 landxllarshrthipkbyatamibsngephuxbrrethaxakar kwahnunginsamkhxngphuthimaphbaephthyidrbibsngyaptichiwna sungsxwaxacmikarduxyaptichiwnaekidkhunid mikarpraeminwamikarkhaderiyn 22 189 lanwnthukpienuxngcakorkhhwd phlkhux phupkkhrxngesiywnthangan 126 lanwnephuxxyubanduaelbutrkhxngtn emuxrwmkbwnthanganxik 150 lanwnthilukcangpwyepnorkhhwd phlkrathbkhwamsuyesiythangesrsthkicrwmkhxngnganthiekiywkhxngkborkhhwdekin 20 000 landxllarshrthtxpi sungkhidepn 40 khxngewlathanganthiesiyipinshrthxemrikakarwicymikarthdsxbprasiththiphaphkhxngyataniwrskborkhhwd xyangirkdi cnthungpi 2552 immiyatwidthithngphbwamiprasiththiphaphaelaidrbxnuyatihich pccubnkalngmikarthdsxbyataniwrs sungkhxnkhangprasbkhwamsaerctx echnediywkbkarthdsxb BTA 798 phliokhnarilaebbrbprathanmipyhadankhwamplxdphy aelaaebblaxxnglxykalngxyurahwangkarsuksa draokh DRACO yatanriothriwrsthimikhxbekhtinkarxxkvththikwang thikalngphthnathisthabnethkhonolyiaemssachuests aesdngprasiththiphaphebuxngtninkarrksaironiwrs echnediywkbiwrstidtxxunxikcanwnhnung nkwicycakmhawithyalyaemriaelnd khxlelcphark aelamhawithyalywiskhxnsin aemdisn idthaaephnthicionmiwrsthuksayphnthuethathithrabwakxorkhhwdxangxingPramod JR 2008 Textbook of Oral Medicine Jaypee Brothers Publishers p 336 ISBN 978 81 8061 562 7 cakaehlngedimemux 29 May 2016 Lee H Kang B Hong M Lee HL Choi JY Lee JA July 2020 Eunkyosan for the common cold A PRISMA compliment systematic review of randomised controlled trials Medicine 99 31 e21415 doi 10 1097 MD 0000000000021415 PMC 7402720 PMID 32756141 Common Colds Protect Yourself and Others CDC 6 October 2015 cakaehlngedimemux 5 February 2016 subkhnemux 4 February 2016 Eccles R November 2005 Understanding the symptoms of the common cold and influenza The Lancet Infectious Diseases 5 11 718 25 doi 10 1016 S1473 3099 05 70270 X PMC 7185637 PMID 16253889 Bennett JE Dolin R Blaser MJ 2014 Principles and Practice of Infectious Diseases phasaxngkvs Elsevier Health Sciences p 750 ISBN 978 1 4557 4801 3 cakaehlngedimemux 8 September 2017 Allan GM Arroll B February 2014 Prevention and treatment of the common cold making sense of the evidence CMAJ 186 3 190 9 doi 10 1503 cmaj 121442 PMC 3928210 PMID 24468694 Heikkinen T Jarvinen A January 2003 The common cold Lancet 361 9351 51 9 doi 10 1016 S0140 6736 03 12162 9 PMC 7112468 PMID 12517470 Arroll B March 2011 Common cold BMJ Clinical Evidence 2011 3 1510 PMC 3275147 PMID 21406124 Common colds are defined as upper respiratory tract infections that affect the predominantly nasal part of the respiratory mucosa Eccles p 209 Zinc Fact Sheet for Health Professionals Office of Dietary Supplements US National Institutes of Health 10 July 2019 subkhnemux 27 December 2019 Although studies examining the effect of zinc treatment on cold symptoms have had somewhat conflicting results overall zinc appears to be beneficial under certain circumstances In September of 2007 Caruso and colleagues published a structured review of the effects of zinc lozenges nasal sprays and nasal gels on the common cold 69 Of the 14 randomized placebo controlled studies included 7 5 using zinc lozenges 2 using a nasal gel showed that the zinc treatment had a beneficial effect and 7 5 using zinc lozenges 1 using a nasal spray and 1 using lozenges and a nasal spray showed no effect More recently a Cochrane review concluded that zinc lozenges or syrup is beneficial in reducing the duration and severity of the common cold in healthy people when taken within 24 hours of onset of symptoms 73 The author of another review completed in 2004 also concluded that zinc can reduce the duration and severity of cold symptoms 68 However more research is needed to determine the optimal dosage zinc formulation and duration of treatment before a general recommendation for zinc in the treatment of the common cold can be made 73 As previously noted the safety of intranasal zinc has been called into question because of numerous reports of anosmia loss of smell in some cases long lasting or permanent from the use of zinc containing nasal gels or sprays 17 19 Kim SY Chang YJ Cho HM Hwang YW Moon YS September 2015 Non steroidal anti inflammatory drugs for the common cold The Cochrane Database of Systematic Reviews 9 9 CD006362 doi 10 1002 14651858 CD006362 pub4 PMID 26387658 Simasek M Blandino DA kumphaphnth 2007 Treatment of the common cold American Family Physician 75 4 515 20 PMID 17323712 cakaehlngedimemux 26 knyayn 2007 Common Cold Centers for Disease Control and Prevention cakaehlngedimemux 1 February 2016 subkhnemux 27 January 2021 Eccles p 112 11 August 2016 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 6 January 2017 subkhnemux 5 January 2017 Harris AM Hicks LA Qaseem A March 2016 Appropriate Antibiotic Use for Acute Respiratory Tract Infection in Adults Advice for High Value Care From the American College of Physicians and the Centers for Disease Control and Prevention Annals of Internal Medicine 164 6 425 34 doi 10 7326 M15 1840 PMID 26785402 Malesker MA Callahan Lyon P Ireland B Irwin RS November 2017 Pharmacologic and Nonpharmacologic Treatment for Acute Cough Associated With the Common Cold CHEST Expert Panel Report Chest 152 5 1021 1037 doi 10 1016 j chest 2017 08 009 PMC 6026258 PMID 28837801 A suggestion for the use of zinc lozenges in healthy adults with cough due to common cold was considered by the expert panel However due to weak evidence the potential side effects of zinc and the relatively benign and common nature of the condition being treated the panel did not approve inclusion of this suggestion Eccles p 1 Eccles R Weber O 2009 Common cold Basel Birkhauser p 3 ISBN 978 3 7643 9894 1 cakaehlngedimemux 8 May 2016 Eccles Pg 24 Eccles Pg 26 Eccles Pg 129 Eccles Pg 50 Eccles Pg 30 Helms RA b k 2006 Textbook of therapeutics drug and disease management 8 ed Philadelphia Pa u a Lippincott Williams amp Wilkins p 1882 ISBN 978 0 7817 5734 8 cakaehlngedimemux 30 April 2016 Turner RB Hayden FG 2003 Rhinovirus in Rubsamen Waigmann H aelakhna b k Viral Infections and Treatment New York CRC Press p 111 ISBN 978 0 8247 4247 8 cakaehlngedimemux 4 May 2016 Goldsobel AB Chipps BE March 2010 Cough in the pediatric population The Journal of Pediatrics 156 3 352 8 doi 10 1016 j jpeds 2009 12 004 PMID 20176183 Palmenberg AC Spiro D Kuzmickas R Wang S Djikeng A Rathe JA Fraser Liggett CM Liggett SB 2009 Sequencing and Analyses of All Known Human Rhinovirus Genomes Reveals Structure and Evolution Science 324 5923 55 9 doi 10 1126 science 1165557 PMID 19213880 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint multiple names authors list lingk Eccles Pg 77 27 November 2006 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 6 September 2008 subkhnemux 11 June 2007 Eccles Pg 107 Eccles R Weber O 2009 Common cold Online Ausg ed Basel Birkhauser p 197 ISBN 978 3 7643 9894 1 cakaehlngedimemux 2 May 2016 Eccles Pp 211 amp 215 Papadopoulos NG Xatzipsaltis M Johnston SL 2009 Rhinoviruses in Zuckerman AJ aelakhna b k Principles and Practice of Clinical Virology 6th ed John Wiley amp Sons p 496 ISBN 978 0 470 74139 9 cakaehlngedimemux 3 June 2016 Gwaltney JM Jr Halstead SB 16 July 1997 Contagiousness of the common cold Questions and answers Journal of the American Medical Association 278 3 256 57 doi 10 1001 jama 1997 03550030096050 Zuger A 4 March 2003 You ll Catch Your Death An Old Wives Tale Well The New York Times cakaehlngedimemux 22 March 2017 Mourtzoukou EG Falagas ME September 2007 Exposure to cold and respiratory tract infections The International Journal of Tuberculosis and Lung Disease 11 9 938 43 PMID 17705968 Eccles Pg 79 Eccles Pg 80 Eccles Pg 157 Eccles Pg 78 Eccles Pg 166 Cohen S Doyle WJ Alper CM Janicki Deverts D Turner RB January 2009 Sleep habits and susceptibility to the common cold Archives of Internal Medicine 169 1 62 7 doi 10 1001 archinternmed 2008 505 PMC 2629403 PMID 19139325 Eccles Pg 160 165 Eccles Pg 116 Eccles Pg 122 Eccles Pg 51 52 Lawrence DM 2009 Gene studies shed light on rhinovirus diversity Lancet Infect Dis 9 5 278 doi 10 1016 S1473 3099 09 70123 9 Jefferson T Del Mar CB Dooley L Ferroni E Al Ansary LA Bawazeer GA aelakhna November 2020 Physical interventions to interrupt or reduce the spread of respiratory viruses The Cochrane Database of Systematic Reviews 2020 11 CD006207 doi 10 1002 14651858 CD006207 pub5 10072 399941 PMC 8094623 PMID 33215698 Singh M Das RR June 2013 Singh M b k Zinc for the common cold The Cochrane Database of Systematic Reviews 6 CD001364 doi 10 1002 14651858 CD001364 pub4 PMID 23775705 Retracted Hemila H Chalker E Douglas B Hemila H 2007 Hemila Harri b k Vitamin C for preventing and treating the common cold Cochrane Database of Systematic Reviews 3 CD000980 doi 10 1002 14651858 CD000980 pub3 PMID 17636648 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint multiple names authors list lingk Common Cold Treatments and Drugs Mayo Clinic subkhnemux 9 January 2010 Eccles Pg 261 Kim SY Chang YJ Cho HM Hwang YW Moon YS 2009 Kim Soo Young b k Non steroidal anti inflammatory drugs for the common cold Cochrane Database Syst Rev 3 CD006362 doi 10 1002 14651858 CD006362 pub2 PMID 19588387 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint multiple names authors list lingk Eccles R 2006 Efficacy and safety of over the counter analgesics in the treatment of common cold and flu Journal of Clinical Pharmacy and Therapeutics 31 4 309 319 doi 10 1111 j 1365 2710 2006 00754 x PMID 16882099 Smith SM Schroeder K Fahey T 2008 Smith Susan M b k Over the counter OTC medications for acute cough in children and adults in ambulatory settings Cochrane Database Syst Rev 1 CD001831 doi 10 1002 14651858 CD001831 pub3 PMID 18253996 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint multiple names authors list lingk Shefrin AE Goldman RD phvscikayn 2009 Use of over the counter cough and cold medications in children PDF Canadian Family Physician 55 11 1081 3 PMC 2776795 PMID 19910592 PDF cakaehlngedimemux 23 knyayn 2015 Vassilev ZP Kabadi S Villa R March 2010 Safety and efficacy of over the counter cough and cold medicines for use in children Expert Opinion on Drug Safety 9 2 233 42 doi 10 1517 14740330903496410 PMID 20001764 S2CID 12952868 Smith SM Schroeder K Fahey T November 2014 Over the counter OTC medications for acute cough in children and adults in community settings The Cochrane Database of Systematic Reviews 11 11 CD001831 doi 10 1002 14651858 CD001831 pub5 PMC 7061814 PMID 25420096 Eccles Pg 246 Taverner D Latte GJ 2007 Latte G Jenny b k Nasal decongestants for the common cold Cochrane Database Syst Rev 1 CD001953 doi 10 1002 14651858 CD001953 pub3 PMID 17253470 AlBalawi ZH Othman SS Alfaleh K June 2013 Intranasal ipratropium bromide for the common cold The Cochrane Database of Systematic Reviews 6 CD008231 doi 10 1002 14651858 CD008231 pub3 PMC 6492479 PMID 23784858 Pratter MR Jan 2006 Cough and the common cold ACCP evidence based clinical practice guidelines Chest 129 1 Suppl 72S 74S doi 10 1378 chest 129 1 suppl 72S PMID 16428695 Guppy MP Mickan SM Del Mar CB Thorning S Rack A February 2011 Guppy MP b k Advising patients to increase fluid intake for treating acute respiratory infections The Cochrane Database of Systematic Reviews 2 CD004419 doi 10 1002 14651858 CD004419 pub3 PMC 7197045 PMID 21328268 Singh M Singh M Jaiswal N Chauhan A August 2017 Heated humidified air for the common cold The Cochrane Database of Systematic Reviews 2017 8 CD001728 doi 10 1002 14651858 CD001728 pub6 PMC 6483632 PMID 28849871 Paul IM Beiler JS King TS Clapp ER Vallati J Berlin CM December 2010 Vapor rub petrolatum and no treatment for children with nocturnal cough and cold symptoms Pediatrics 126 6 1092 9 doi 10 1542 peds 2010 1601 PMC 3600823 PMID 21059712 Arroll B Kenealy T 2005 Arroll Bruce b k Antibiotics for the common cold and acute purulent rhinitis Cochrane Database Syst Rev 3 CD000247 doi 10 1002 14651858 CD000247 pub2 PMID 16034850 Eccles Pg 238 Eccles Pg 234 Eccles Pg 218 Oduwole O Meremikwu MM Oyo Ita A Udoh EE January 2010 Oduwole Olabisi b k Honey for acute cough in children Cochrane Database of Systematic Reviews 1 CD007094 doi 10 1002 14651858 CD007094 pub2 PMID 20091616 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint multiple names authors list lingk King D Mitchell B Williams CP Spurling GK April 2015 Saline nasal irrigation for acute upper respiratory tract infections PDF The Cochrane Database of Systematic Reviews 2015 4 CD006821 doi 10 1002 14651858 CD006821 pub3 PMID 25892369 Zinc for the common cold Health News NHS Choices nhs uk 2012 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2013 02 19 subkhnemux 24 February 2012 In this review there was a high level of heterogeneity between the studies that were pooled to determine the effect of zinc on the duration of cold symptoms This may suggest that it was inappropriate to pool them It certainly makes this particular finding less conclusive Heiner KA Hart AM Martin LG Rubio Wallace S 2009 Examining the evidence for the use of vitamin C in the prophylaxis and treatment of the common cold Journal of the American Academy of Nurse Practitioners 21 5 295 300 doi 10 1111 j 1745 7599 2009 00409 x PMID 19432914 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint multiple names authors list lingk Linde K Barrett B Wolkart K Bauer R Melchart D 2006 Linde Klaus b k Echinacea for preventing and treating the common cold Cochrane Database Syst Rev 1 CD000530 doi 10 1002 14651858 CD000530 pub2 PMID 16437427 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint multiple names authors list lingk Sachin A Shah Stephen Sander C Michael White Mike Rinaldi Craig I Coleman 2007 Evaluation of echinacea for the prevention and treatment of the common cold a meta analysis The Lancet Infectious Diseases 7 7 473 480 doi 10 1016 S1473 3099 07 70160 3 PMID 17597571 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint multiple names authors list lingk Lissiman E Bhasale AL Cohen M 2012 Lissiman Elizabeth b k Garlic for the common cold Cochrane Database Syst Rev 3 CD006206 doi 10 1002 14651858 CD006206 pub3 PMID 22419312 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint multiple names authors list lingk Murdoch David R 3 October 2012 Effect of Vitamin D3 Supplementation on Upper Respiratory Tract Infections in Healthy Adults lt subtitle gt The VIDARIS Randomized Controlled Trial lt subtitle gt lt alt title gt Vitamin D3 and Upper Respiratory Tract Infections lt alt title gt JAMA the Journal of the American Medical Association 308 13 1333 doi 10 1001 jama 2012 12505 Eccles Pg 76 Eccles Pg 90 Eccles Pg 3 Eccles Pg 6 Cold Online Etymology Dictionary subkhnemux 12 January 2008 Eccles Pg 20 Tyrrell DA 1987 Interferons and their clinical value Rev Infect Dis 9 2 243 9 doi 10 1093 clinids 9 2 243 PMID 2438740 Al Nakib W Higgins PG Barrow I Batstone G Tyrrell DA December 1987 Prophylaxis and treatment of rhinovirus colds with zinc gluconate lozenges The Journal of Antimicrobial Chemotherapy 20 6 893 901 doi 10 1093 jac 20 6 893 PMC 7110079 PMID 3440773 Imperial War Museum Posters of Conflict vads khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2011 07 27 subkhnemux 2013 02 11 Fendrick AM Monto AS Nightengale B Sarnes M 2003 The economic burden of non influenza related viral respiratory tract infection in the United States Arch Intern Med 163 4 487 94 doi 10 1001 archinte 163 4 487 PMID 12588210 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint multiple names authors list lingk Kirkpatrick GL December 1996 The common cold Primary Care 23 4 657 75 doi 10 1016 S0095 4543 05 70355 9 PMC 7125839 PMID 8890137 Eccles Pg 226 Rider TH Zook CE Boettcher TL Wick ST Pancoast JS Zusman BD 2011 Sambhara S b k Broad spectrum antiviral therapeutics PLOS ONE 6 7 e22572 Bibcode 2011PLoSO 622572R doi 10 1371 journal pone 0022572 PMC 3144912 PMID 21818340 Fiona Macrae 11 August 2011 Greatest discovery since penicillin A cure for everything from colds to HIV The Daily Mail UK Val Willingham February 12 2009 Genetic map of cold virus a step toward cure scientists say CNN subkhnemux 28 April 2009 brrnanukrm Eccles R Weber O b k 2009 Common Cold Illustrated ed Springer Science amp Business Media ISBN 978 3 7643 9912 2 aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb orkhhwd orkhhwd thiewbist CurliekarcaaenkorkhDICD 10 J00ICD 460MeSH D003139 31088 82272006thrphyakrphaynxk 000678 orkhhwd