บทความนี้ยังไม่ได้รับ คุณสามารถช่วยปรับปรุงแก้ไข โดยการเพิ่มหมวดหมู่ที่เหมาะสมลงในบทความนี้ เพื่อจัดระเบียบบทความที่เกี่ยวข้องกัน ดูเพิ่มที่ |
เหยา อี้หลิน (จีน: 姚依林; พินอิน: Yáo Yīlín; 6 กันยายน ค.ศ. 1917 – 11 ธันวาคม ค.ศ. 1994) เป็นนักการเมืองและทหารชาวจีนผู้ดำรงตำแหน่งตั้งแต่ ค.ศ. 1979 ถึง 1988 และ ตั้งแต่ ค.ศ. 1988 ถึง 1993
ฯพณฯ เหยา อี้หลิน | |
---|---|
姚依林 | |
คนที่ 4 และ 6 | |
ดำรงตำแหน่ง มิถุนายน ค.ศ. 1987 – ธันวาคม ค.ศ. 1989 | |
หัวหน้ารัฐบาล | จ้าว จื่อหยาง หลี่ เผิง |
ก่อนหน้า | ซ่ง ผิง |
ถัดไป | |
ดำรงตำแหน่ง สิงหาคม ค.ศ. 1980 – มิถุนายน ค.ศ. 1983 | |
หัวหน้ารัฐบาล | จ้าว จื่อหยาง |
ก่อนหน้า | |
ถัดไป | ซ่ง ผิง |
ดำรงตำแหน่ง 25 มีนาคม ค.ศ. 1988 – 5 มีนาคม ค.ศ. 1993 | |
หัวหน้ารัฐบาล | หลี่ เผิง |
ก่อนหน้า | |
ถัดไป | จู หรงจี |
ผู้อำนวยการ | |
ดำรงตำแหน่ง ค.ศ. 1978 – ค.ศ. 1982 | |
ผู้นำ | ฮฺว่า กั๋วเฟิง หู เย่าปัง |
ก่อนหน้า | วัง ตงซิง |
ถัดไป | |
ดำรงตำแหน่ง 18 สิงหาคม ค.ศ. 1978 – ตุลาคม ค.ศ. 1978 | |
หัวหน้ารัฐบาล | ฮฺว่า กั๋วเฟิง |
ก่อนหน้า | |
ถัดไป | |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | วิลเลียม ยิว ฮักกวง 6 กันยายน ค.ศ. 1917 บริติชฮ่องกง |
เสียชีวิต | 11 ธันวาคม ค.ศ. 1994 ปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน | (77 ปี)
พรรคการเมือง | พรรคคอมมิวนิสต์จีน (1935–1994) |
คู่สมรส | โจว ปิน หง โช่วจื้อ |
บุตร | เหยา หมิงรุ่ย เหยา หมิงชาน เหยา หมิงตวน เหยา หมิงเหว่ย์ |
ญาติ | (ลูกเขย) (ลูกเขย) |
ศิษย์เก่า | มหาวิทยาลัยชิงหฺวา |
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง | |
รับใช้ | จีน |
สังกัด | กองทัพบกกองทัพปลดปล่อยประชาชน |
ประจำการ | 1935–1949 |
ผ่านศึก | สงครามจีน–ญี่ปุ่นครั้งที่สอง สงครามกลางเมืองจีน |
ชีวิตช่วงต้นและอาชีพ
เขาเกิดที่ฮ่องกงใน ค.ศ. 1917 และใช้ชีวิตช่วงวัยเด็กที่เมือง อานฮุย เหยาเข้าร่วมพรรคคอมมิวนิสต์จีนใน ค.ศ. 1935 ระหว่าง เหยาเป็นเลขาธิการของกลุ่มศึกษาพรรคการเมืองปักกิ่ง ระหว่างสงครามจีน–ญี่ปุ่นครั้งที่สอง เขารับตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงานการเงินของพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของคอมมิวนิสต์ นับเป็นจุดเริ่มต้นของช่วงเวลาอันยาวนานของการเป็นผู้นำในตำแหน่งทางการเงิน ใน ค.ศ. 1979 เหยาได้รับแต่งตั้งให้เป็นรองนายกรัฐมนตรีของคณะมนตรีรัฐกิจ ในการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 13 ใน ค.ศ. 1987 เหยาได้รับเลือกให้เป็นและต่อมาได้ขึ้นดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีนคนที่ 1
บทบาทในการประท้วงที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน ค.ศ. 1989
ระหว่างการประท้วงที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน ค.ศ. 1989 เหยาดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีจีนคนที่ 1 และรับผิดชอบด้านการวางแผนและบริหารเศรษฐกิจ เหยาเกี่ยวข้องกับฝ่ายอนุรักษ์นิยมของพรรคที่ปฏิเสธว่านักศึกษาเป็นผู้รักชาติและสนับสนุนให้ปราบปรามการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ทั้งเหยาและหลี่ เผิงต่างก็สามารถต่อต้านจ้าว จื่อหยางได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้แน่ใจว่าอิทธิพลของฝ่ายอนุรักษ์นิยมจะครอบงำการตัดสินใจของพรรคคอมมิวนิสต์จีน
การมีส่วนร่วมกับบทบรรณาธิการ 26 เมษายน
ที่ตีพิมพ์ใน เหรินหมินรื่อเป้า ทำให้กลุ่มนักศึกษาโกรธเคืองและส่งผลให้จำนวนผู้คนในจัตุรัสเพิ่มมากขึ้นอย่างมาก รายงานอย่างเป็นทางการของพรรคคอมมิวนิสต์จีนระบุว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวไม่ได้มีเจตนารักชาติและนักศึกษาถูกนำโดยกลุ่มเล็ก ๆ ของผู้สมรู้ร่วมคิดต่อต้านคอมมิวนิสต์เพื่อก่อให้เกิด "ความวุ่นวาย" ความเห็นของเติ้ง เสี่ยวผิงถูกนำไปลงในบทบรรณาธิการเพื่อช่วยสนับสนุนและเพื่อให้แน่ใจว่าชาวจีนจะยอมรับมุมมองของพรรคเกี่ยวกับการประท้วงดังกล่าวอย่างเชื่อฟัง: 336 อย่างไรก็ตาม มีฝ่ายที่ขัดแย้งกันสองฝ่ายเกิดขึ้นในพรรค ฝ่ายหนึ่งสนับสนุนให้คงบทบรรณาธิการไว้เช่นเดิม อีกฝ่ายหนึ่งต้องการเปลี่ยนแปลงบทบรรณาธิการเพื่อเอาใจนักศึกษา เหยาปฏิเสธข้อเสนอของจ้าวที่จะรับผิดเรื่องการเปลี่ยนความเห็นของพรรคเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวเพราะประชาชนจะเริ่มสงสัยในความสามัคคีของพรรค: 238 เหยาเสนอให้ลดการปรองดองกับนักศึกษาลลง ตรงกันข้าม เขาต้องการป้องกันไม่ให้ผู้นำทางการเมืองอื่น ๆ สนับสนุนการประท้วง บังคับให้นักศึกษายุติการคว่ำบาตร และรักษาวินัยแรงงานในอุตสาหกรรมและพาณิชย์เพื่อให้การผลิตดำเนินต่อไปได้ : 239 เหยาและหลี่ เผิงเป็นผู้นำฝ่ายอนุรักษ์นิยมและได้รับการสนับสนุนโดยเห็นด้วยกับมุมมองของเติ้งต่อการประท้วง เติ้งได้รับเกียรติและความเคารพเป็นอย่างมากในประเทศจีนเนื่องจากเขาเกี่ยวข้องกับพรรคคอมมิวนิสต์มาเป็นเวลานานและมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับอดีตผู้นำที่โด่งดังของจีนอย่างเหมา เจ๋อตง เหยาค่อย ๆ ถอนการสนับสนุนจากกลุ่มปฏิรูปของจ้าว จื่อหยางด้วยการทำให้ผู้สนับสนุนของเขาเชื่อว่าจ้าวเข้าข้างนักศึกษาเกินไปเกี่ยวกับการชี้แจงบทบรรณาธิการ เหยาโจมตีจ้าวเพราะเขาตำหนิพรรคที่ปล่อยให้การทุจริตดำเนินไปโดยไม่มีการตรวจสอบและทำให้ประชาธิปไตยและกฎหมายในจีนแย่ลง: 245 จ้าวพบว่าตนเองอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากเมื่อเหยาและนักอนุรักษ์นิยมคนอื่น ๆ ทำงานร่วมกันและค้านการตัดสินใจที่เขาทำร่วมกับนักปฏิรูปคนอื่น ๆ เช่น และ
เหตุผลการออกกฎอัยการศึก
เหยาและหลี่ เผิงคือสองบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับการประกาศกฎอัยการศึกในวันที่ 4 มิถุนายนมากที่สุด ความจำเป็นในการมีกฎอัยการศึกเกิดขึ้นจากความกลัวว่านักศึกษาที่หลั่งไหลเข้ามาในจัตุรัสอย่างต่อเนื่องนั้นถูกบังคับโดยกลุ่มต่อต้านคอมมิวนิสต์อย่างลับ ๆ บรรดาผู้นำพรรคต่างหวั่นเกรงว่าอำนาจเหล่านี้กำลังบังคับให้นักศึกษาและผู้ประท้วงหลั่งไหลเข้ามาในจัตุรัสเทียนอันเหมินอย่างต่อเนื่องซึ่งจะทำหน้าที่เพียงขัดขวางไม่ให้พรรคคอมมิวนิสต์จีนปกครองประชาชนจีน: 147 กลุ่มอนุรักษ์นิยมมองว่ากฎอัยการศึกเป็นวิธีเดียวเท่านั้นที่จะสามารถปราบปรามผู้ประท้วงในอนาคตได้อย่างรุนแรงและป้องกันไม่ให้พวกเขาพยายามเข้าถึงจัตุรัสดังกล่าว ตามที่โทนี ไซช์กล่าว เหยาเป็นผู้สนับสนุนกฎอัยการศึกอย่างแข็งขันมากเพราะเขาเห็นว่ามันเป็นทางเลือกสุดท้ายที่จะยุติการประท้วงและฟื้นฟูการดำเนินงานตามปกติของปักกิ่ง ในระหว่างหารือกับผู้นำพรรคคนอื่น ๆ เหยากล่าวว่า "ธรรมชาติของขบวนการนักศึกษาได้เปลี่ยนแปลงไป เริ่มจากการแสดงออกถึงความเศร้าโศกตามธรรมชาติและกลายมาเป็นความวุ่นวายทางสังคม": 96 เขาสนับสนุนให้องค์กรนักศึกษาที่ได้รับการรับรองโดยไม่ได้เป็นทางการทั้งหมดถูกพิจารณาว่าผิดกฎหมายเพราะเขาเกรงว่าองค์กรเหล่านี้จะทำให้เกิดความวุ่นวายนอกปักกิ่งและทั่วทั้งประเทศ นอกจากนี้ เหยายังเป็นสมาชิกเพียงคนเดียวในคณะกรรมาธิการสามัญฯ ที่ปฏิเสธการเจรจากับนักศึกษาเพราะเขาเชื่อว่ากลุ่มผู้สมรู้ร่วมคิดเล็ก ๆ อยู่เบื้องหลังองค์กรนักศึกษาเหล่านี้และการเจรจากับพวกเขาจะยิ่งเสริมสร้างความสามารถของพวกเขาในการโค่นล้มพรรคคอมมิวนิสต์จีน ในบทความที่ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์เซาท์ไชนามอร์นิงโพสต์ โจว จุง-ยาน กล่าวถึงเหตุที่หลี่ เผิงและเหยา อี้หลินสนับสนุนกฎอัยการศึกเนื่องจากกฎดังกล่าวจะช่วยให้กลุ่มหัวรุนแรงสามารถกุมอำนาจที่ตนเคยมีในประเทศได้
เสียชีวิต
เหยาเสียชีวิตด้วยอาการป่วยเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม ค.ศ. 1994 ขณะมีอายุได้ 77 ปี
ครอบครัว
เหยาและหง โช่วจื้อ ภรรยา มีบุตรด้วยกันสี่คน ได้แก่ เหยา หมิงรุ่ย (หญิง), เหมา หมิงชาน (หญิง), เหยา หมิงตวน (หญิง) และเหยา หมิงเหว่ย์ (ชาย) สามีของเหยา หมิงชานคือ อดีต สามีของเหยา หมิงตวนคือ อดีตผู้ว่าการมณฑลชานซีและอดีต
ดูเพิ่ม
- สถาบันการศึกษาที่เหยา อี้หลินเคยศึกษา
อ้างอิง
- "姚明瑞同志逝世消息".
- Wolfgang Bartke (1 January 1997). Who was Who in the People's Republic of China. Walter de Gruyter. pp. 578–. ISBN .
- Zhang Liang. Tiananmen Papers. Public Affairs, 2002. p. 639. ISBN
- George H. W. Bush Library. "White House Situation Room Files, Tiananmen Square Crisis File, China – Part 1 Of 5 Tianamen Square Crisis" Tiananmen Square and U.S.-China relations, 1989–1993, May–June 1989. p 76. Retrieved November 12, 2010, from Archives Unbound.
- Ming Pao. "Balance of Power" Daily Report, June 1989. p 5. Retrieved November 18, 2010, from Foreign Broadcast Information Service Daily Reports: http://docs.newsbank.com/s/HistArchive/fbisdoc/FBISX/11EF37C662B613F0/10367B8A6237537E
- Cheng Ming. "CPC Split" Daily Report, June 1989. p 28. Retrieved November 18, 2010, from Foreign Broadcast Information Service Daily Reports: http://docs.newsbank.com/s/HistArchive/fbisdoc/FBISX/11EECBE2EDFEB820/10367B8A6237537E
- Saich, Tony. "The Rise and Fall of the Beijing People's Movement." Contemporary China Center, Australian National University, no. 9, July 1990. p 201. Retrieved November 23, 2010, from JSTOR.
- Chow Chung-Yan. "Zhao Ziyang alleges Li Peng 1989 scheming; Late leader's explosive memoirs out" South China Morning Post, May 2009. p 1. Retrieved November 18, 2010, from LexisNexis.
- 裴毅然 (2015-01-16). 紅色生活史: 革命歲月那些事(1921-1949) (in Chinese). 時報文化出版企業. ISBN .
ก่อนหน้า | เหยา อี้หลิน | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
วาระในพรรคการเมือง | ||||
สมัยก่อนหน้า วัง ตงซิง | ผู้อำนวยการ ค.ศ. 1978–1982 | สมัยต่อมา | ||
เจ้าหน้าที่รัฐบาล | ||||
สมัยก่อนหน้า | รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ค.ศ. 1978 | สมัยต่อมา | ||
สมัยก่อนหน้า | ผู้อำนวยการคณะกรรมการวางแผนแห่งรัฐ ค.ศ. 1980–1983 | สมัยต่อมา ซ่ง ผิง | ||
สมัยก่อนหน้า ซ่ง ผิง | ผู้อำนวยการคณะกรรมการวางแผนแห่งรัฐ ค.ศ. 1987–1989 | สมัยต่อมา | ||
สมัยก่อนหน้า | ค.ศ. 1988–1993 | สมัยต่อมา จู หรงจี | ||
Order of precedence | ||||
สมัยก่อนหน้า | อันดับที่ 5 ของ ชุดที่ 13 ค.ศ. 1987–1989 | สมัยต่อมา ไม่มี | ||
สมัยก่อนหน้า เฉียว ฉือ | อันดับที่ 4 ของ ชุดที่ 13 ค.ศ. 1989–1992 | สมัยต่อมา ซ่ง ผิง |
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamniyngimidrbkarcdhmwdhmu khunsamarthchwyprbprungaekikh odykarephimhmwdhmuthiehmaasmlnginbthkhwamni ephuxcdraebiybbthkhwamthiekiywkhxngkn duephimthi okhrngkarcdhmwdhmu ehya xihlin cin 姚依林 phinxin Yao Yilin 6 knyayn kh s 1917 11 thnwakhm kh s 1994 epnnkkaremuxngaelathharchawcinphudarngtaaehnngtngaet kh s 1979 thung 1988 aela tngaet kh s 1988 thung 1993phnehya xihlin姚依林khnthi 4 aela 6darngtaaehnng mithunayn kh s 1987 thnwakhm kh s 1989hwhnarthbalcaw cuxhyang hli ephingkxnhnasng phingthdipdarngtaaehnng singhakhm kh s 1980 mithunayn kh s 1983hwhnarthbalcaw cuxhyangkxnhnathdipsng phingdarngtaaehnng 25 minakhm kh s 1988 5 minakhm kh s 1993hwhnarthbalhli ephingkxnhnathdipcu hrngciphuxanwykardarngtaaehnng kh s 1978 kh s 1982phunah wa kwefing hu eyapngkxnhnawng tngsingthdipdarngtaaehnng 18 singhakhm kh s 1978 tulakhm kh s 1978hwhnarthbalh wa kwefingkxnhna zh thdipkhxmulswnbukhkhlekidwileliym yiw hkkwng 6 knyayn kh s 1917 1917 09 06 britichhxngkngesiychiwit11 thnwakhm kh s 1994 1994 12 11 77 pi pkking satharnrthprachachncinphrrkhkaremuxngphrrkhkhxmmiwnistcin 1935 1994 khusmrsocw pin hng ochwcuxbutrehya hmingruy ehya hmingchan ehya hmingtwn ehya hmingehwyyati lukekhy lukekhy sisyekamhawithyalychingh waysthiidrbkaraetngtngrbich cinsngkd kxngthphbkkxngthphpldplxyprachachnpracakar1935 1949phansuksngkhramcin yipunkhrngthisxng sngkhramklangemuxngcinchiwitchwngtnaelaxachiphekhaekidthihxngkngin kh s 1917 aelaichchiwitchwngwyedkthiemuxng xanhuy ehyaekharwmphrrkhkhxmmiwnistcinin kh s 1935 rahwang ehyaepnelkhathikarkhxngklumsuksaphrrkhkaremuxngpkking rahwangsngkhramcin yipunkhrngthisxng ekharbtaaehnngrxngphuxanwykarsankngankarenginkhxngphunthithixyuphayitkarkhwbkhumkhxngkhxmmiwnist nbepncuderimtnkhxngchwngewlaxnyawnankhxngkarepnphunaintaaehnngthangkarengin in kh s 1979 ehyaidrbaetngtngihepnrxngnaykrthmntrikhxngkhnamntrirthkic inkarprachumsmchchaihyphrrkhkhxmmiwnistcinkhrngthi 13 in kh s 1987 ehyaidrbeluxkihepnaelatxmaidkhundarngtaaehnngrxngnaykrthmntrisatharnrthprachachncinkhnthi 1bthbathinkarprathwngthictursethiynxnehmin kh s 1989rahwangkarprathwngthictursethiynxnehmin kh s 1989 ehyadarngtaaehnngrxngnaykrthmntricinkhnthi 1 aelarbphidchxbdankarwangaephnaelabriharesrsthkic ehyaekiywkhxngkbfayxnurksniymkhxngphrrkhthiptiesthwanksuksaepnphurkchatiaelasnbsnunihprabpramkarekhluxnihwxyangrwderw thngehyaaelahli ephingtangksamarthtxtancaw cuxhyangidxyangmiprasiththiphaphephuxihaenicwaxiththiphlkhxngfayxnurksniymcakhrxbngakartdsinickhxngphrrkhkhxmmiwnistcin karmiswnrwmkbbthbrrnathikar 26 emsayn thitiphimphin ehrinhminruxepa thaihklumnksuksaokrthekhuxngaelasngphlihcanwnphukhninctursephimmakkhunxyangmak raynganxyangepnthangkarkhxngphrrkhkhxmmiwnistcinrabuwakarekhluxnihwdngklawimidmiectnarkchatiaelanksuksathuknaodyklumelk khxngphusmrurwmkhidtxtankhxmmiwnistephuxkxihekid khwamwunway khwamehnkhxngeting esiywphingthuknaiplnginbthbrrnathikarephuxchwysnbsnunaelaephuxihaenicwachawcincayxmrbmummxngkhxngphrrkhekiywkbkarprathwngdngklawxyangechuxfng 336 xyangirktam mifaythikhdaeyngknsxngfayekidkhuninphrrkh fayhnungsnbsnunihkhngbthbrrnathikariwechnedim xikfayhnungtxngkarepliynaeplngbthbrrnathikarephuxexaicnksuksa ehyaptiesthkhxesnxkhxngcawthicarbphideruxngkarepliynkhwamehnkhxngphrrkhekiywkbkarekhluxnihwephraaprachachncaerimsngsyinkhwamsamkhkhikhxngphrrkh 238 ehyaesnxihldkarprxngdxngkbnksuksallng trngknkham ekhatxngkarpxngknimihphunathangkaremuxngxun snbsnunkarprathwng bngkhbihnksuksayutikarkhwabatr aelarksawinyaerngnganinxutsahkrrmaelaphanichyephuxihkarphlitdaenintxipid 239 ehyaaelahli ephingepnphunafayxnurksniymaelaidrbkarsnbsnunodyehndwykbmummxngkhxngetingtxkarprathwng etingidrbekiyrtiaelakhwamekharphepnxyangmakinpraethscinenuxngcakekhaekiywkhxngkbphrrkhkhxmmiwnistmaepnewlananaelamikhwamsmphnthiklchidkbxditphunathiodngdngkhxngcinxyangehma ecxtng ehyakhxy thxnkarsnbsnuncakklumptirupkhxngcaw cuxhyangdwykarthaihphusnbsnunkhxngekhaechuxwacawekhakhangnksuksaekinipekiywkbkarchiaecngbthbrrnathikar ehyaocmticawephraaekhatahniphrrkhthiplxyihkarthucritdaeninipodyimmikartrwcsxbaelathaihprachathipityaelakdhmayincinaeylng 245 cawphbwatnexngxyuinsthankarnyaklabakemuxehyaaelankxnurksniymkhnxun thanganrwmknaelakhankartdsinicthiekhatharwmkbnkptirupkhnxun echn aela ehtuphlkarxxkkdxykarsuk ehyaaelahli ephingkhuxsxngbukhkhlthimikhwamekiywkhxngkbkarprakaskdxykarsukinwnthi 4 mithunaynmakthisud khwamcaepninkarmikdxykarsukekidkhuncakkhwamklwwanksuksathihlngihlekhamainctursxyangtxenuxngnnthukbngkhbodyklumtxtankhxmmiwnistxyanglb brrdaphunaphrrkhtanghwnekrngwaxanacehlanikalngbngkhbihnksuksaaelaphuprathwnghlngihlekhamainctursethiynxnehminxyangtxenuxngsungcathahnathiephiyngkhdkhwangimihphrrkhkhxmmiwnistcinpkkhrxngprachachncin 147 klumxnurksniymmxngwakdxykarsukepnwithiediywethannthicasamarthprabpramphuprathwnginxnakhtidxyangrunaerngaelapxngknimihphwkekhaphyayamekhathungctursdngklaw tamthiothni ischklaw ehyaepnphusnbsnunkdxykarsukxyangaekhngkhnmakephraaekhaehnwamnepnthangeluxksudthaythicayutikarprathwngaelafunfukardaeninngantampktikhxngpkking inrahwangharuxkbphunaphrrkhkhnxun ehyaklawwa thrrmchatikhxngkhbwnkarnksuksaidepliynaeplngip erimcakkaraesdngxxkthungkhwamesraosktamthrrmchatiaelaklaymaepnkhwamwunwaythangsngkhm 96 ekhasnbsnunihxngkhkrnksuksathiidrbkarrbrxngodyimidepnthangkarthnghmdthukphicarnawaphidkdhmayephraaekhaekrngwaxngkhkrehlanicathaihekidkhwamwunwaynxkpkkingaelathwthngpraeths nxkcakni ehyayngepnsmachikephiyngkhnediywinkhnakrrmathikarsamy thiptiesthkarecrcakbnksuksaephraaekhaechuxwaklumphusmrurwmkhidelk xyuebuxnghlngxngkhkrnksuksaehlaniaelakarecrcakbphwkekhacayingesrimsrangkhwamsamarthkhxngphwkekhainkarokhnlmphrrkhkhxmmiwnistcin inbthkhwamthitiphimphinhnngsuxphimphesathichnamxrningophst ocw cung yan klawthungehtuthihli ephingaelaehya xihlinsnbsnunkdxykarsukenuxngcakkddngklawcachwyihklumhwrunaerngsamarthkumxanacthitnekhymiinpraethsidesiychiwitehyaesiychiwitdwyxakarpwyemuxwnthi 11 thnwakhm kh s 1994 khnamixayuid 77 pikhrxbkhrwehyaaelahng ochwcux phrrya mibutrdwyknsikhn idaek ehya hmingruy hying ehma hmingchan hying ehya hmingtwn hying aelaehya hmingehwy chay samikhxngehya hmingchankhux xdit samikhxngehya hmingtwnkhux xditphuwakarmnthlchansiaelaxditduephimsthabnkarsuksathiehya xihlinekhysuksaxangxing 姚明瑞同志逝世消息 Wolfgang Bartke 1 January 1997 Who was Who in the People s Republic of China Walter de Gruyter pp 578 ISBN 978 3 11 096823 1 Zhang Liang Tiananmen Papers Public Affairs 2002 p 639 ISBN 978 0 349 11469 9 George H W Bush Library White House Situation Room Files Tiananmen Square Crisis File China Part 1 Of 5 Tianamen Square Crisis Tiananmen Square and U S China relations 1989 1993 May June 1989 p 76 Retrieved November 12 2010 from Archives Unbound Ming Pao Balance of Power Daily Report June 1989 p 5 Retrieved November 18 2010 from Foreign Broadcast Information Service Daily Reports http docs newsbank com s HistArchive fbisdoc FBISX 11EF37C662B613F0 10367B8A6237537E Cheng Ming CPC Split Daily Report June 1989 p 28 Retrieved November 18 2010 from Foreign Broadcast Information Service Daily Reports http docs newsbank com s HistArchive fbisdoc FBISX 11EECBE2EDFEB820 10367B8A6237537E Saich Tony The Rise and Fall of the Beijing People s Movement Contemporary China Center Australian National University no 9 July 1990 p 201 Retrieved November 23 2010 from JSTOR Chow Chung Yan Zhao Ziyang alleges Li Peng 1989 scheming Late leader s explosive memoirs out South China Morning Post May 2009 p 1 Retrieved November 18 2010 from LexisNexis 裴毅然 2015 01 16 紅色生活史 革命歲月那些事 1921 1949 in Chinese 時報文化出版企業 ISBN 9789865729226 kxnhna ehya xihlin thdipwarainphrrkhkaremuxngsmykxnhna wng tngsing phuxanwykar kh s 1978 1982 smytxmaecahnathirthbalsmykxnhna zh rthmntriwakarkrathrwngphanichy kh s 1978 smytxmasmykxnhna phuxanwykarkhnakrrmkarwangaephnaehngrth kh s 1980 1983 smytxma sng phingsmykxnhna sng phing phuxanwykarkhnakrrmkarwangaephnaehngrth kh s 1987 1989 smytxmasmykxnhna kh s 1988 1993 smytxma cu hrngciOrder of precedencesmykxnhna xndbthi 5 khxng chudthi 13 kh s 1987 1989 smytxma immismykxnhna echiyw chux xndbthi 4 khxng chudthi 13 kh s 1989 1992 smytxma sng phing