ออซิเยก (โครเอเชีย: Osijek; ฮังการี: Eszék; เยอรมัน: Esseg) คือเมืองใหญ่อันดับที่สี่ของประเทศโครเอเชีย ตั้งอยู่ในภูมิภาคทางทิศตะวันออกของโครเอเชียที่เรียกว่า (โครเอเชีย: Slavonija; อังกฤษ: Slavonia) ใกล้กับชายแดนประเทศฮังการีและประเทศเซอร์เบีย มีแม่น้ำดราวาเป็นแม่น้ำสายสำคัญไหลผ่านเมือง ได้รับการยกย่องอย่างไม่เป็นทางการว่าเป็นเมืองหลวงของภูมิภาคสลาโวเนีย ด้านประวัติศาสตร์ออซิเยกมีอายุยืนยาวติดต่อกันมากว่า 800 ปี ผ่านการปกครองจากหลายอาณาจักรทั้งราชอาณาจักรฮังการี, อาณาจักรออตโตมัน, ฮับส์บูร์ก, ออสเตรีย-ฮังการี รวมถึง ยูโกสลาเวีย
ออซิเยก Grad Osijek | |
---|---|
City of Osijek | |
ทิวทัศน์ออซิเยกจากฝั่งตรงข้ามแม่น้ำดราวา | |
ธง ตราอาร์ม | |
แผนที่ตำแหน่งของเทศมณฑลออซิเยก-บาราญาในโครเอเชีย | |
ขอบเขตเมืองออซิเยกภายในเทศมณฑลออซิเยก-บาราญา | |
พิกัด: 45°33′27.11″N 18°40′46.52″E / 45.5575306°N 18.6795889°E | |
ประเทศ | โครเอเชีย |
เทศมณฑล | |
ก่อตั้ง: | ค.ศ. 1196 |
การปกครอง | |
• นายกเทศมนตรี | Ivan Vrkić |
พื้นที่ | |
• เขตเมือง | 169 ตร.กม. (65 ตร.ไมล์) |
ความสูง | 94 เมตร (308 ฟุต) |
ประชากร (การสำรวจประชากรปี ค.ศ. 2011) | |
• ตัวเมือง | 108,048 คน |
เขตเวลา | (CET) |
• ฤดูร้อน (เวลาออมแสง) | (CEST) |
Postal code | 31000 |
รหัสพื้นที่ | (+385) 31 |
ป้ายทะเบียนรถยนต์ | OS |
เว็บไซต์ | http://www.osijek.hr/en/ |
ในช่วงทศวรรษที่ 90 ออซิเยกเป็นหนึ่งในเมืองซึ่งได้รับความเสียหายมากที่สุดในสงครามการประกาศอิสรภาพของโครเอเชีย ทำให้เมืองซึ่งเคยเฟื่องฟูในฐานะเมืองอุตสาหกรรมหลักแห่งนึงของรัฐโครเอเชียในสหพันธรัฐสังคมนิยมยูโกสลาเวียประสบกับปัญหาความซบเซาทางเศรษฐกิจ แม้กระทั่งทุกวันนี้ก็ยังไม่ฟื้นตัวดีนัก
ปัจจุบันนี้ด้วยประชากรราวๆ 108,000 คน ออซิเยกจึงเป็นศูนย์กลางการปกครองของเขตออซิเยก-บาราญา เป็นที่ตั้งของสนามบินเพียงแห่งเดียวในภูมิภาคสลาโวเนียตะวันออก มีความสำคัญในฐานะศูนย์รวมความเจริญทางเศรษฐกิจ การศึกษา วัฒนธรรม ศาสนา การคมนาคม และการท่องเที่ยว
ภูมิศาสตร์
พื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองออซิเยกตั้งอยู่บนฝั่งขวาของแม่น้ำดราวา ในระยะทางประมาณ 22 กิโลเมตรจากจุดที่แม่น้ำดราวาไหลลงสู่แม่น้ำดานูบซึ่งเป็นพรมแดนธรรมชาติแบ่งเขตแดนระหว่างโครเอเชียและเซอร์เบีย ในบริเวณนี้เป็นที่ราบมีน้ำท่วมถึงจึงทำให้แทบทุกปีช่วงฤดูใบไม้ผลิถึงฤดูร้อน บางพื้นที่ของออซิเยกซึ่งอยู่ทางฝั่งซ้ายแม่น้ำดราวาซึ่งมีความสูงจากระดับแม่น้ำน้อยกว่าฝั่งขวาจะมีปัญหาน้ำล้นตลิ่งจากน้ำที่เพิ่มขึ้นหลังหิมะละลายหรือมีฝนตกหนัก
ด้วยสภาพทางภูมิศาสตร์ที่เป็นที่ราบน้ำท่วมถึง ประกอบกับพื้นที่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองถูกขนาบด้วยแม่น้ำใหญ่สองสาย ส่งผลให้ไม่ไกลจากออซิเยกนักมีพื้นที่คุ้มครองทางธรรมชาติ (โครเอเชีย: Kopački Rit) ซึ่งมีลักษณะเป็นป่าผสมบึงน้ำขนาดใหญ่ เป็นที่อยู่อาศัยของกวาง หมูป่า เพียงพอน (Beech Marten สัตว์ประจำชาติของโครเอเชีย) สัตว์จำพวกนกและสัตว์น้ำหลายชนิด รวมถึงแมลง ทำให้ออซิเยกเองนั้นมีปัญหาเรื่องยุงจำนวนมากในช่วงฤดูร้อนซึ่งเปรียบเสมือนสัตว์สัญลักษณ์ประจำถิ่นไปแล้ว ทางทิศใต้ของเมืองจะเป็นเขตทุ่งเกษตรกรรม
ออซิเยกนั้นถือว่าเป็นเมืองใหญ่ซึ่งมีปริมาณพื้นที่สีเขียวมากที่สุดในโครเอเชีย นอกจากถูกล้อมรอบด้วยพื้นที่ธรรมชาติแล้วยังมีสวนสาธารณะในเมืองถึง 17 แห่ง
ประวัติ
สมัยโรมัน
ในบริเวณริมแม่น้ำดราวาอันเป็นที่ตั้งของเมืองออซิเยกนั้น ปรากฏหลักฐานมีการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์มาช้านานนับตั้งแต่สมัยยุคหินใหม่ ทว่าครั้งแรกที่ได้มีการบันทึกทางประวัติศาสตร์ถึงชุมนุมนั้นได้เกิดขึ้นในสมัยที่โรมันได้แผ่อิทธิพลเข้ามาในแถบที่ราบแพนโนเนียน ชุมชนชาวอิลลีเรียน-เคลต์ซึ่งตั้งอยู่มาก่อนถูกรวมเข้าเป็นส่วนนึงของอาณาจักรโรมันและก่อตั้งเป็นเมืองในชื่อ มูร์ซา (อังกฤษ: Mursa) โดยปัจจุบันนี้ซากสิ่งก่อสร้างโบราณของมูร์ซาอยู่ในเขตดอนยิ กราด (โครเอเชีย: Donji Grad; อังกฤษ: Lower Town) ห่างไปจากทเวอร์จา (โครเอเชีย: Tvrđa) หรือหมู่ป้อมปราการเก่าของออซิเยกทางปลายแม่น้ำดราวาทิศตะวันออก
ด้วยความสำคัญของตำแหน่งที่ตั้งซึ่งเป็นจุดที่ข้ามลำน้ำดราวาได้ง่ายกว่าจุดอื่นๆ ทำให้มูร์ซาพัฒนาเป็นเมืองซึ่งมีความโดดเด่นในฐานะจุดยุทธศาสตร์ทางการทหาร การบริหารปกครองและการค้าขาย ในปี ค.ศ. 133 จักรพรรดิ์ฮาเดรียนแห่งโรมันได้มอบสถานะโคโลเนียอันหมายถึงชุมชมโรมันซึ่งมีความแข็งแกร่งใหญ่โตระดับสูงสุดให้กับมูร์ซา และต่อมาได้มีการก่อสร้างสะพานด้วยอิฐเพื่อข้ามแม่น้ำดราวาเป็นครั้งแรก จากหลักฐานการขุดค้นทางโบราณคดีพบว่า มูร์ซามีการก่อสร้างสิ่งก่อสร้างสำคัญอันบ่งบอกถึงความเจริญอย่างสูง ไม่ว่าจะเป็นโรงอาบน้ำสาธารณะตามวัฒนธรรมโรมันหรือโรงละครกลางแจ้ง
ภายหลังยุคสมัยของจักรพรรดิ์ฮาเดรียน สถานะภาพของมูร์ซาก็ตกอยู่ในช่วงเวลาแห่งความวุ่นวาย มีทั้งการยึดอำนาจ การรบที่มีการสูญเสียเลือดเนื้อมหาศาลในบริเวณอาณาเขตของเมืองโดยเฉพาะ Battle of Mursa Major ในปี ค.ศ. 351 จนท้ายที่สุดเมื่อโรมันเริ่มเสื่อมอำนาจลง มูร์ซาก็ตกเป็นเป้าหมายของกลุ่มอนารยชนหลายกลุ่มซึ่งเข้ามารุกรานท้าทายอำนาจของโรมัน ในปี ค.ศ. 441 ถูกชาวฮันทำลายเมืองจนเสียหายหนัก ก่อนจะถูกรุกรานซ้ำโดยชาวอวาร์และถูกทำลายโดยสิ้นเชิงจากน้ำมือของชาวสลาฟที่เริ่มอพยพเข้ามาในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 7-8
การปรากฏขึ้นของออซิเยกในราชอาณาจักรฮังการี
ช่วงเวลาระหว่างการล่มสลายโดยสิ้นเชิงของเมืองมูร์ซาจนถึงบันทึกทางประวัติศาสตร์ครั้งแรกของออซิเยก มีร่องรอยของการอยู่อาศัยของมนุษย์ในบริเวณอาณาเขตของเมืองแต่ยังไม่มีหลักฐานถึงการเป็นชุมชนที่ปักหลักถาวร ในปี ค.ศ. 1196 ได้มีการบันทึกกล่าวถึงชุมชนที่ชื่อออซิเยกเป็นครั้งแรกโดยเป็นการกล่าวถึงในสารของกษัตริย์เอเมริคแห่งราชอาณาจักรฮังการี ซึ่งในเวลานั้นโครเอเชียมีฐานะเป็นส่วนหนึ่งของราชอาณาจักรฮังการีหลังจากการสิ้นราชวงศ์ของกษัตริย์ที่ปกครองอาณาจักรโครเอเชียโบราณและได้มีการยอมรับกษัตริย์ของราชอาณาจักรฮังการีให้มาปกครองดินแดนโครเอเชียตั้งแต่ราวๆ ค.ศ. 1100 กล่าวถึงการอนุญาตให้นักบวชซิสเตอร์เชียนผู้มีอำนาจดูแลในแถบนี้สามารถเก็บภาษีการค้าและการขนส่งทางเรือได้ ในทุกวันนี้ทางเมืองออซิเยกได้ถือเอาปีที่บันทึกในสารนั้นเป็นปีของการก่อตั้งเมือง
แม้ว่าดินแดนบางส่วนของโครเอเชียโดยเฉพาะแถบซาเกร็บจะมีสิทธิ์ในการปกครองตัวเองบ้างด้วยการมีที่ประชุมสภา(อังกฤษ: Sabor)ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1273 การปกครองออซิเยกในระยะเวลานั้นอยู่ใต้อำนาจของตระกูลขุนนางจากฝั่งฮังการีเป็นหลักโดยเฉพาะตระกูล คอรอก(อังกฤษ: Korog)เป็นสายตระกูลขุนนางที่ปกครองเมืองยาวนานที่สุดตั้งแต่ ค.ศ. 1353 ถึง 1472 จวบจนทายาทคนสุดท้ายของตระกูลสิ้นชีวิตไปในช่วงสงครามกับฝ่ายอาณาจักรออตโตมัน
หลังการเปลี่ยนมือไปอยู่ใต้การปกครองของขุนนางตระกูลอื่น ออซิเยกยังคงอยู่ในอำนาจของราชอาณาจักรฮังการีที่กำลังระส่ำระสายจากความขัดแย้งภายในของการสืบทอดอำนาจราชวงศ์และการทำศึกกับออตโตมัน ในที่สุดหลังจากกษัตริย์หลุยส์ที่ 2 ของฮังการีสิ้นพระชนม์ไปจาก(อังกฤษ: Battle of Mohács)ในปี ค.ศ. 1526 หลังจากศึกนั้นทางอาณาจักรออตโตมันก็รุกคืบเข้ามายึดดินแดนของฮังการีเป็นบริเวณกว้างอย่างรวดเร็วและออซิเยกเองก็ตกไปอยู่ใต้เงื้อมมือของออตโตมันโดยสิ้นเชิง
ถูกยึดครองโดยออตโตมัน
แม้ว่าออซิเยกจะเปลี่ยนมือไปอยู่กับทางออตโตมันโดยแทบไม่มีการต่อสู้ กระนั้นทางออตโตมันก็ได้ดำเนินการทำลายเมืองอย่างกว้างขวางเพื่อกำจัดเอาสถาปัตยกรรมเดิมของเมืองออกไปและสร้างเมืองขึ้นมาใหม่ในสถาปัตยกรรมตามอิทธิพลอิสลามและได้เปลี่ยนชื่อเรียกของเมืองเป็น โอสเซก(ตุรกี: Ösek) ในชั้นแรกโอซึเยกถูกรวมอยู่ใน ฺBudin Eyalet อันเป็นการแบ่งเขตปกครองใหม่ของอาณาจักรออตโตมันจากดินแดนซึ่งยึดมาได้จากทางฮังการี ก่อนในภายหลังจากมีการแบ่งเขตปกครองใหม่เมื่อทางออตโตมันยึดดินแดนได้เพิ่มขึ้น ภายหลังออซิเยกจึงถูกเอาไปรวมเข้ากับ Kanije eyalet ซึ่งตั้งขึ้นมาใหม่ในแขวงย่อย Sanjak of Pojega(ตุรกี: Pojega Sancağı; โครเอเชีย: Požeški sandžak) ซึ่งเป็น 1 ใน 6 แขวงย่อยในเขตทวีปยุโรปของอาณาจักรออตโตมันที่มีความเชี่ยวชาญทางอุตสาหกรรมการต่อเรือมากที่สุด
สิ่งก่อสร้างที่เชิดหน้าชูตาที่สุดของออซิเยกในระยะเวลาที่อยู่ใต้การปกครองของออตโตมันคือ (อังกฤษ: Suleiman Bridge; โครเอเชีย: Most Sulejmana I) เป็นสะพานไม้ความกว้าง 6 เมตร ยาวกว่า 7 กิโลเมตร สร้างขึ้นเชื่อมออซิเยกกับชุมชน(อังกฤษ: Darda) ทางเหนือซึ่งต้องผ่านที่ลุ่มน้ำขัง จึงได้มีพระดำริให้ก่อสร้างสะพานนี้ขึ้นเพื่อเป็นทางสัญจรใช้เคลื่อนย้ายกองทัพได้โดยสะดวกในประมาณปี ค.ศ. 1566 ต่อมามีความพยายามทำลายสะพานนี้หลายครั้งในช่วงสงครามระหว่างกองทัพยุโรปภายใต้การนำของออสเตรียและทัพของออตโตมัน จนในที่สุดสะพานก็ถูกเผาหมดสิ้นโดยฝ่ายออสเตรียในปี ค.ศ. 1686 ก่อนที่ออสเตรียจะเข้ามายึดครองออซิเยกในปีต่อมาและเริ่มยุคสมัยความเจริญของเมืองในวัฒนธรรมยุโรปอีกครั้ง
ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ มีความพยายามจากประชากรของออซิเยกจำนวนหนึ่งซึ่งต้องการจะสร้างสะพานโดยจำลองจากสะพานสุลัยมานขึ้นมาใหม่ แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีความคืบหน้า และในวันก่อตั้งเมืองในปี ค.ศ. 2013 ทางเอกอัครราชทูตตุรกีประจำประเทศโครเอเชียได้มีการมอบ"ของขวัญ"ให้แก่ออซิเยกเป็นภาพพิมพ์ของสะพานสุลัยมานเพื่อจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์สลาโวเนียในเมืองอีกด้วย
สนธิสัญญาคาร์โลวิทซ์
สถานภาพของออซิเยกในมือของอาณาจักรฮับส์บูร์กอยู่ในฐานะเป็นเมืองของออตโตมันที่ถูกทางออสเตรียยึดไปในที่กินระยะเวลาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1683 จนถึง ค.ศ. 1699 เมื่อได้มีการเซ็น(อังกฤษ: Treaty of Karlowitz) ขึ้นที่เมืองเซเรมสกี้ คาร์ลอฟทซี(ปัจจุบันอยู่ในเขตวอยโวดีนาของเซอร์เบียใกล้กับนอวีซาด) ซึ่งคู่กรณีในสงครามทั้งสองฝ่ายได้ตกลงปักปันเขตแดนกันใหม่ ส่งผลให้ออตโตมันสูญเสียดินแดนแถบสลาโวเนียไปทั้งหมดให้แก่ทางออสเตรีย
ในชั้นแรกนั้น ทางออสเตรียได้สั่งให้ชาวเมืองออซิเยกอพยพออกจากใจกลางเมืองดั้งเดิมซึ่งตั้งอยู่สืบทอดมาตั้งแต่ก่อนการเมาของออตโตมัน โดยให้ประชากรแบ่งไปตั้งถิ่นฐานใหม่เป็นสองจุดคือ กอร์นยิ กราด อยู่ห่างขึ้นไปทางต้นแม่น้ำดราวาเหนือตัวเมืองเดิมประมาณ 1.5 กิโลเมตร และ ดอนยิ กราด อยู่ห่างไปทางปลายน้ำดราวา โดยทางออสเตรียได้สั่งให้ดำเนินการก่อสร้างทเวอร์จา ซึ่งเป็นป้อมปราการริมแม่น้ำดราวาใช้เป็นศูนย์กลางการปัญชาการทางทหารและการปกครองของเมืองเนื่องด้วยในระยะนั้นออซิเยกยังมีความเสี่ยงที่จะถูกออตโตมันรุกกลับเข้ามาโจมตีได้อีก
เมืองหลวงของราชอาณาจักรสลาโวเนีย
หลังจากตกไปอยู่ใต้การปกครองของออสเตรียโดยสิ้นเชิง ทางออสเตรียได้นำชาวเยอรมันอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานในออซิเยก ทำให้ช่วงเวลาตั้งแต่ปลายคริสต์ศตวรรษที่ 18 จนถึงสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง ออซิเยกมีชนเชื้อสายเยอรมันเป็นหนึ่งในประชากรกลุ่มหลักของเมือง
หลังจากสนธิสัญญาคาร์โลวิทซ์ได้ยืนยันอำนาจของออสเตรียเหนือออซิเยกอย่างเป็นทางการ ทางออสเตรียก็ได้กำหนดให้ออซิเยกเป็นเมืองหลวงของ(อังกฤษ: Kingdom of Slavonia; โครเอเชีย: Kraljevina Slavonija) มีฐานะเป็นแคว้นถือเป็นส่วนหนึ่งของทั้งราชอาณาจักรโครเอเชียและอาณาจักรฮังการี(ซึ่งตอนนั้นก็ต่างถูกปกครองโดยอาณาจักรออสเตรียเป็นหลัก) ตั้งขึ้นจากดินแดนที่ได้รับมาจากการออตโตมันในช่วงสงครามออสโตร-ออตโตมัน แม้จะได้ชื่อว่าอยู่เป็นส่วนหนึ่งของโครเอเชียและฮังการี ทว่าในเวลานั้นออสเตรียเป็นผู้มีอำนาจในการปกครองพัฒนาเมืองออซิเยกโดยแท้ ทำให้ออซิเยกได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนเริ่มก้าวขึ้นมาเป็นศูนย์กลางในด้านต่างๆของภูมิภาคสลาโวเนียนับแต่บัดนั้น ในปี ค.ศ. 1786 ที่สุดแล้วชุมชนของออซิเยกทั้งสามส่วนในเวลานั้นคือ กอร์นยิ กราด ทเวอร์จา และ ดอนยิ กราดก็ได้รวมเข้ามาเป็นเมืองอันหนึ่งอันเดียวกัน
ในปี ค.ศ. 1809 ออซิเยกได้รับสิทธิ์เป็น Free Royal City ทำให้เมืองมีอำนาจในการจัดการเรื่องการบริหารปกครองและพัฒนาเมืองได้เองโดยไม่ต้องผ่านความเห็นชอบจากกษัตริย์ และในเวลานั้นออซิเยกมีฐานะเป็นถึงเมืองซึ่งมีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับที่ 1 ภายในดินแดนส่วนโครเอเชียทั้งหมด ด้วยเหตุนั้นออซิเยกจึงมีชื่อเสียงในด้านเป็นแหล่งศูนย์กลางการค้าขายและงานช่างฝีมือแขนงต่างๆ รวมถึงเริ่มมีการก่อตั้งอุตสาหกรรมขึ้นภายในเมืองเช่น อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์จากเส้นไหมตั้งแต่ปี ค.ศ. 1774 และเริ่มเป็นศูนย์กลางทางการคมนาคมไปยังส่วนต่างๆของสลาโวเนียตะวันออกและ
ระหว่างการปฏิวัติปี ค.ศ. 1848-1849 ซึ่งทางฮังการีได้พยายามแยกตัวออกจากอาณาจักรฮับส์บูร์ก ราชอาณาจักรสลาโวเนียได้ตัดสินใจเข้าไปอยู่ฝ่ายเดียวกับทางราชอาณาจักรโครเอเชียซึ่งสนับสนุนฝั่งฮับส์บูร์กในการรบกับฝ่ายฮังการีซึ่งจะแยกตัวออก จนในที่สุดทางฝั่งฮังการีก็พ่ายแพ้ไม่สามารถแยกตัวออกไปได้และต่อมาเมื่อมีอันเปลี่ยนแปลงให้กลายเป็นออสเตรีย-ฮังการี ทางฝ่ายโครเอเชียก็ได้มีการเจรจากับทางฮังการีโดยยอมรับให้ฮังการีเข้ามาถือเอาดินแดนของราชอาณาจักรโครเอเชียและราชอาณาจักรสลาโวเนียเข้าเป็นดินแดนในปกครองโดยตรงของฮังการี ด้วยเหตุนั้นจึงเป็นการสิ้นสุดการมีอยู่ของราชอาณาจักรเมื่อได้ถูกรวมเข้าเป็นในปี ค.ศ. 1868 หลังจากช่วงเวลานี้เองที่ซาเกร็บได้แซงหน้าออซิเยกขึ้นมาเป็นเมืองที่มีความสำคัญมากที่สุดของโครเอเชียในขณะที่ออซิเยกค่อยๆได้รับความสนใจในการพัฒนาเมืองน้อยลง กระนั้นก็ยังคงเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของภูมิภาคสลาโวเนียและเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจและวัฒนธรรม โดยเฉพาะช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ได้มีการเปิดสาขาโรงละครแห่งชาติของโครเอเชียขึ้น และช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 ก็ยังถือเป็นเมืองอุตสาหกรรมอันดับหนึ่งของฝั่งโครเอเชียอีกด้วย
ทางรถไฟสายแรกได้เชื่อมมายังออซิเยกในปี ค.ศ. 1884 โดยใช้สำหรับเดินทางไปยังเมือง ผ่าน และในปีเดียวกันนั้นออซิเยกได้เป็นเมืองแรกในเขตโครเอเชียซึ่งมีรถรางบริการวิ่งในเมือง
ผลกระทบจากสงครามโลกทั้งสองครั้ง
หลังจากการล่มสลายของอาณาจักรออสเตรีย-ฮังการีหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ออซิเยกซึ่งอยู่ในส่วนซึ่งแยกออกมาเป็นรัฐของชาวเซิร์บ โครแอท และสโลวีน(อังกฤษ: State of Serbs, Croats and Slovenes) ได้เข้ารวมกับราชอาณาจักรเซอร์เบียเพื่อก่อตั้งรัฐรวมของโดยเฉพาะ ในขณะออซิเยกถือว่าเป็นเมืองหนึ่งซึ่งมีความพร้อมทางด้านอุตสาหกรรมอย่างสูง หากแต่การช่วงชิงความเป็นใหญ่กันระหว่างฝ่ายชาวโครแอทกับชาวเซิร์บซึ่งชาวเซิร์บยึดเอาอำนาจการปกครองส่วนใหญ่ของรัฐใหม่แห่งนี้ไปอยู่ในมือได้มากกว่า ทำให้ออซิเยกขาดการพัฒนาที่ต่อเนื่องต่างจากก่อนหน้าในสมัยอยู่ใต้การปกครองของออสเตรีย-ฮังการี และค่อยๆเริ่มต้นเข้าสู่ยุคที่ความสำคัญของเมืองเริ่มตกต่ำลงอย่างเห็นได้ชัด
ในช่วงแรกนั้นออซิเยกถูกรวมไว้ในส่วนการแบ่งดินแดนปกครองย่อยร่วมกับดินแดนโครเอเชียส่วนใหญ่ที่ไม่ได้อยู่ติดทะเล จนกระทั่งปี ค.ศ. 1922 จึงได้มีการแบ่งเขตการปกครองใหม่ภายในราชอาณาจักรชาวเซิร์บ โครแอท และสโลวีนขึ้นอีกครั้ง โดยออซิเยกได้แยกออกมาเป็นเมืองเอกของเขตปกครองย่อยซึ่งมีนามตามชื่อของเมืองคือ เขตปกครองย่อยออซิเยก (อังกฤษ: Osijek Oblast) แต่เพียง 7 ปี ก็มีการเปลี่ยนแปลงการแบ่งเขตปกครองย่อยอีกครั้งโดยใช้ลุ่มแม่น้ำใหญ่ของแต่ละพื้นที่เป็นตัวกำหนดเขต ครานี้ออซิเยกถูกจัดให้ไปอยู่ในเขตปกครองย่อยซาวา(อังกฤษ: Sava Banovina)
ในปี ค.ศ. 1941 เจ้าชายพอล ผู้สำเร็จราชการแทนมกุฏราชกุมารปีเตอร์ซึ่งยังทรงพระเยาว์เกินกว่าจะปกครองราชอาณาจักรยูโกสลาเวีย ถูกทางนาซีเยอรมันบีบบังคับให้ต้องลงนามในสัญญาเป็นพันธมิตรกับฝ่ายอักษะในสงครามโลกครั้งที่ 2หลังจากวางตัวเป็นกลางมาตลอด ทว่าในสัปดาห์ต่อมาเจ้าชายพอลก็ถูกปฏิวัติโค่นอำนาจในกรุงเบลเกรดและมกุฏราชกุมารปีเตอร์ก็ได้รับการเชิญขึ้นเป็นผู้ปกครองราชอาณาจักรแทนและถือเป็นการฉีกสัญญาพันธมิตรที่ทำไว้กับฝ่ายอักษะ ฝ่ายอักษะจึงเริ่มการโจมตียูโกสลาเวียในวันที่ 6 เมษายน ปี ค.ศ. 1941 ก่อนที่กองกำลังของนาซีเยอรมันจะเข้ามายึดเมืองออซิเยกได้ในวันที่ 11 เมษายน
หลังเข้ายึดครองยูโกสลาเวียได้สำเร็จ ทางนาซีเยอรมันได้ให้การสนับสนุนกลุ่มชาตินิยมหัวรุนแรงชาวโครเอเชียในนาม (อังกฤษ: Ustasha; โครเอเชีย: Ustaša) ขึ้นมาเป็นรัฐบาลปกครองรัฐหุ่นเชิดโครเอเชียซึ่งแยกออกมาจากยูโกสลาเวียและอยู่ใต้อำนาจของนาซี ต่อมาได้มีการแบ่งสรรพื้นที่ของยูโกสลาเวียในหมู่พันธมิตรฝ่ายอักษะกันและทางเหนือของเมืองออซิเยกที่เป็นฝั่งซ้ายแม่น้ำดราวาได้ถูกส่งให้ไปอยู่ในความดูแลของฮังการี ทำให้ออซิเยกกลายสภาพเป็นเมืองชายแดนระหว่างรัฐอิสระโครเอเชียใต้อำนาจของนาซีกับประเทศฮังการีในยามนั้น โดยชาวเมืองเชื้อสายเยอรมันได้ให้การสนับสนุนฝ่ายนาซีอย่างเต็มตัว ชุมชนชาวยิวในออซิเยกที่ก่อนหน้าสงครามโลกครั้งที่ 2 เคยมีจำนวนชาวยิวถึง 2,584 คน ได้ถูกกวาดล้างอย่างสิ้นเชิง โบสถ์ยิวของเมืองถูกทำลาย ชาวยิวในออซิเยกถูกส่งออกไปที่ซึ่งเป็นค่ายสังหารที่ใหญ่ที่สุดในโครเอเชียในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งการกวาดล้างชาวเมืองนี้มิได้เกิดเฉพาะแก่ชาวยิวเพียงกลุ่มเดียว แม้แต่ชาวเมืองเชื้อสายโครแอทเองหากมีท่าทีต่อต้านฝ่ายอักษะหรือสนับสนุนที่เป็นขบวนการเคลื่อนไหวต่อต้านนาซีของก็จะถูกส่งไปยังค่ายกักกันเช่นกัน
ภายใต้ช่วงเวลานั้น โรงกลั่นน้ำมันของออซิเยกถูกมอบหมายหน้าที่ให้ทำการกลั่นน้ำมันผลิตเชื้อเพลิงให้แก่ฝ่ายอักษะ และในช่วงเดือนเมษายน-พฤศจิกายน ค.ศ. 1941 ในเมืองก็เป็นที่ตั้งของศูนย์บัญชาการส่วนภูมิภาคของกองทหารชาวโครแอทที่ทำการสู้รบให้กับฝ่ายรัฐอิสระโครเอเชีย อย่างไรก็ตามนั่นก็ทำให้ออซิเยกตกเป็นเป้าหมายในปฏิบัติการของฝ่ายสัมพันธมิตรที่จะใช้เครื่องบินทิ้งระเบิดโจมตีทำลายแหล่งผลิตน้ำมันของฝ่ายนาซีเยอรมันในวันที่ 14 มิถุนายน ค.ศ. 1944 และในช่วงฤดูใบไม้ผลิของปี ค.ศ. 1945 หลังจากสามารถรุกไล่รวบรวมพื้นที่ของยูโกสลาเวียคืนจากฝ่ายอักษะได้เรื่อยๆ วันที่ 14 เมษายน ค.ศ. 1945 ออซิเยกก็ถูกกองกำลังปาร์ติซานของยูโกสลาเวียยึดได้ก่อนจะจบสงครามโลกครั้งที่ 2 เพียงไม่นาน
ประชากรของออซิเยกที่เป็นคนเชื้อสายเยอรมันส่วนมากจะหลบหนีออกไปพร้อมๆกับการถอนกำลังทหารของนาซีออกจากยูโกสลาเวียช่วงที่กำลังถูกปาร์ติซานรุกไล่เข้ามาในช่วงปลายสงคราม และบางส่วนที่ไม่หลบหนีออกไปก็ถูกยึดทรัพย์สินและถูกส่งไปเป็นนักโทษในค่ายใช้แรงงานในข้อหาให้ความร่วมมือกับนาซี ดังนั้นสงครามโลกครั้งที่ 2 นี้ได้ทำให้องค์ประกอบของประชากรในออซิเยกเปลี่ยนแปลงอย่างมากทั้งชาวยิวและชนเชื้อสายเยอรมัน โดยปัจจุบันทั้งสองกลุ่มมีจำนวนเพียงไม่ถึง 1% ของประชากรในเมืองทั้งหมด
ช่วงเวลาในสหพันธรัฐสังคมนิยมยูโกสลาเวีย
หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 บทบาทของออซิเยกในฐานะเมืองซึ่งมีความเฟื่องฟูทางวัฒนธรรมมายาวนานแทบจะถูกแทนที่ความสำคัญด้วยหน้าที่ของการเป็นเมืองอุตสาหกรรมเพียงอย่างเดียว โดยอุตสาหกรรมหลักในเมืองยังคงเป็นโรงกลั่นน้ำมัน อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ทางเคมีภัณฑ์ โรงงานน้ำตาล เฟอร์นิเจอร์ อุตสาหกรรมแปรรูปอาหารต่างๆ
โคปาชกี้ ริท ซึ่งเป็นป่าผสมบึงน้ำซึ่งอยู่ไม่ห่างออซิเยกมากนัก กลายเป็นสถานที่โปรดที่หนึ่งของในการมาพักผ่อนล่าสัตว์ ทำให้ถูกจัดเป็นเขตคุ้มครองทางธรรมชาติแห่งแรกในภูมิภาคสลาโวเนีย
หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของสลาโวเนียคือ Glas Slavonije ได้ย้ายมาตั้งสำนักงานใหญ่ในออซิเยกตั้งแต่ช่วงเวลานี้และปัจจุบันก็เป็นหนังสือพิมพ์ที่ตีพิมพ์จำหน่ายหลักๆในสลาโวเนีย
ช่วงยุค 1970-1980 ได้มีการพัฒนาสำคัญๆของเมือง ในปี ค.ศ. 1975 ได้มีการก่อตั้งมหาวิทยาลัยออซิเยกขึ้น โดยนับเป็นมหาวิทยาลัยที่ตั้งขึ้นใหม่สุดในจำนวนมหาวิทยาลัยทั้งหมดในโครเอเชีย การก่อสร้างโรงแรมออซิเยกซึ่งเป็นโรงแรมที่หรูหราที่สุดของเมืองและเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดของเมืองรองจากโบสถ์เซนต์ปีเตอร์และพอลในปี ค.ศ. 1978 ต่อมาสถานีโทรทัศน์หลักของยูโกสลาเวียในเวลานั้นก็ได้มาเปิดสาขาภูมิภาคที่ออซิเยกซึ่งทุกวันนี้สืบทอดต่อมาเป็น HR Osijek (สถานีภูมิภาคของ HRT หรือสถานีวิทยุและโทรทัศน์หลักของโครเอเชียในปัจจุบัน) การสร้างและเปิดให้บริการสนามบินออซิเยกซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองไป 20 กิโลเมตร และ การสร้างสะพานคนเดินเท้าข้ามแม่น้ำดราวาซึ่งนับเป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นอย่างหนึ่งของเมืองจนถึงทุกวันนี้
สงครามประกาศอิสรภาพของโครเอเชีย
หลังการถึงแก่อสัญกรรมของจอมพลตีโตในปี ค.ศ. 1980 สถานภาพทางการเมืองในยูโกสลาเวียเริ่มกลับมาตึงเครียดด้วยในแต่ละรัฐก็มีการเคลื่อนไหวทางแนวคิดชาตินิยมกันเพิ่มขึ้น ทางโครเอเชียและสโลเวเนียมีแนวโน้มที่จะแยกจนออกเป็นกลุ่มแรกๆด้วยไม่พอใจที่ทางเซอร์เบียพยายามจะดึงอำนาจไปอยู่ในมือตนมากเกินไป ในที่สุดช่วงปี ค.ศ. 1990 ทางโครเอเชียได้จัดการเลือกตั้งขึ้นครั้งแรกหลังจากล้มเลิกการปกครองแบบคอมมูนิสต์ภายในประเทศ ซึ่งก็ได้ (อังกฤษ: Franjo Tudjman) ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีคนแรกของโครเอเชีย โดยทุจมานเคยมีประวัติถูกจับกุมในสมัยจอมพลตีโตยังปกครองยูโกสลาเวียอยู่ในฐานที่ร่วมดำเนินการเคลื่อนไหวทางชาตินิยมของคนเชื้อสายโครแอทในทศวรรษที่ 70 เมื่อได้รับตำแหน่งประธานาธิบดี ทุจมานได้แสดงเจตจำนงอย่างเด่นชัดที่จะแยกโครเอเชียออกเป็นประเทศเอกราชจากสหพันธรัฐยูโกสลาเวีย
ท่าทีของทุจมานได้ก่อให้เกิดความตึงเครียดทางเชื้อชาติระหว่างชาวโครแอทและชาวเซิร์บที่อาศัยอยู่ในโครเอเชียในเวลานั้นซึ่งมีมากถึงราวๆ 12% ของประชากรในโครเอเชียทั้งหมด ในแถบต่างๆซึ่งมีชาวเซิร์บอาศัยเป็นจำนวนมาก เริ่มมีการต่อต้านอำนาจจากรัฐบาลกลางของโครเอเชียรวมถึงทางตะวันออกของภูมิภาคสลาโวเนียด้วย ในออซิเยกเองซึ่งเวลานั้นมีประชากรในเมืองเป็นคนเชื้อสายเซิร์บถึงเกือบ 20% ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน แม้จะไม่เกิดความรุนแรงโดยตรงภายในเมืองออซิเยกในช่วงก่อนการประกาศอิสรภาพของโครเอเชีย แต่ในชุมชมรอบๆบางที่นั้นได้เกิดการปะทะกันของชาวโครแอทกับชาวเซิร์บและเริ่มทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงปี ค.ศ. 1991 ก่อนโครเอเชียจะประกาศอิสรภาพอย่างเป็นทางการ ได้มีผู้บัญชาการตำรวจของเมืองออซิเยกคือ โยซิป ไรห์ล-คีร์ (โครเอเชีย: Josip Reihl-Kir) ได้พยายามเป็นตัวกลางเจรจาให้ทั้งชาวโครแอทและชาวเซิร์บในชุมชนละแวกใกล้ๆเมืองออซิเยกหันมาเจรจากันโดยสันติแทนที่จะปะทะกันด้วยอาวุธ ทว่าความพยายามของไรห์ล-คีร์ก็ไม่บังเกิดผล เมื่อเขาถูกสังหารพร้อมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองของเมืองออซิเยกสองคนโดยชาวโครแอทติดอาวุธหัวรุนแรงซึ่งไม่ต้องการเจรจากับฝ่ายชาวเซิร์บ ในขณะรถยนต์ของพวกเขาติดด่านตรวจก่อนจะเข้าไปยังชุมชนเทนยาทางด้านใต้ของออซิเยกที่มีการนัดแนะให้ทั้งสองฝ่ายมาตกลงหยุดยิงกัน หลังการเสียชีวิตของไรห์ล-คีร์ ผู้ซึ่งมีอำนาจในการดูแลความเรียบร้อยของเมืองออซิเยกซึ่งในช่วงเดือนกรกฎาปีนั้นเริ่มเข้าสู่ภาวะสงครามคือ บรานิมีร์ กลาวาช (โครเอเชีย: Branimir Glavaš) ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนแนวคิดชาตินิยมโครแอทหัวรุนแรง
ในวันที่ 27 มิถุนายน ค.ศ. 1991 สองวันหลังประธานาธิบดีทุจมานประกาศให้โครเอเชียเป็นเอกราชจากยูโกสลาเวีย เหตุการณ์ที่เป็นการเริ่มเปิดฉากภาวะสงครามในออซิเยกได้เกิดขึ้น เมื่อได้มีการนำรถถังของหน่วยทหาร JNA (กองทัพร่วมของยูโกสลาเวีย) ออกมาวิ่งก่อความวุ่นวายข่มขวัญชาวเมืองบริเวณถนนเทอร์ปิมีร์กับถนนวูคอวาร์ ในเหตุการณ์นั้นไม่มีผู้เสียชีวิต แต่มีรถยนต์ได้รับความเสียหายและมีผู้บาดเจ็บบ้าง ขณะที่รถถังกำลังออกมาวิ่งบนถนนนั้น ได้มีทหารเชื้อสายโครแอทคนนึงตัดสินใจจอดรถของตนขวางรถถังกลางถนนซึ่งก็ถูกรถถังบดขยี้เสียหายไม่เหลือสภาพเดิม กระนั้นการแสดงออกนั้นก็ได้กลายเป็นภาพติดตาภาพหนึ่งของการต่อต้านการแสดงอำนาจทางทหารของกองทัพร่วมยูโกสลาเวียที่จะข่มขวัญชาวเมืองไม่ให้ลุกขึ้นมาสู้
เมื่อไม่มีการสานต่อความพยายามของไรห์ล-คีร์ที่จะเจรจาอย่างสันติ ในที่สุดฝ่ายชาวเซิร์บซึ่งจับอาวุธขึ้นมาต่อต้านรัฐบาลโครเอเชียได้ร่วมมือกับกองทัพร่วมยูโกสลาเวียซึ่งข้ามฝั่งมาให้การช่วยเหลือฝ่ายชาวเซิร์บในการต่อสู้กับฝั่งโครเอเชียโดยอ้างว่าทำเพื่อรักษาอธิปไตยของยูโกสลาเวียและปกป้องชาวเซิร์บซึ่งเป็นพลเมืองของยูโกสลาเวีย ด้วยความเสียเปรียบของฝ่ายชาวโครแอทซึ่งถูกกองทัพร่วมยูโกสลาเวียเรียกคืนอาวุธไปก่อนหน้าจะเกิดสงครามไปจากกองกำลังทหารของโครเอเชีย ทำให้ถูกระดมโจมตีพร้อมกันหลายพื้นที่และเสียดินแดนไปให้ฝ่ายชาวเซิร์บซึ่งยึดพื้นที่ไปและประกาศก่อตั้งรัฐชาวเซิร์บซึ่งไม่ขึ้นกับรัฐบาลโครเอเชีย เรียกกันว่า (อังกฤษ: Republic of Serbian Krajina; เซอร์เบีย: Republika Srpska Krajina) และเป็นการเปิดทางให้กองพันทหารจากยูโกสลาเวียซึ่งมีฐานทัพอยู่ที่เมืองนอวีซาดรุกเข้ามาในฝั่งโครเอเชียได้โดยสะดวก
ในช่วงความตึงเครียดของสงครามถึงจุดสูงสุด ออซิเยกถูกล้อมโดยพื้นที่ของฝ่ายเซิร์บติดอาวุธตลอดแนวทิศเหนือ ตะวันออก และ ใต้ มีเพียงทิศตะวันตกเท่านั้นที่ยังเป็นเส้นทางใช้เดินทางติดต่อกันเมืองอื่นๆในโครเอเชียได้โดยผ่านทางรถไฟที่เชื่อมไปยังเมืองนาซิทเซ่ จากก่อนสงครามที่ประชากรในเมืองมีราวๆ 114,000 คน หลังจากเมืองถูกระดมโจมตีทั้งโดยรถถัง กระสุนปืนใหญ่ และแม้แต่ทิ้งระเบิดจากเครื่องบินรบ ทำให้ประชากรในเมืองพากันอพยพหนีออกไปจนมีประชากรในระยะนั้นเหลืออยู่เพียง 1/3 และส่วนมากต้องหลบอยู่ในที่หลบภัยชั้นใต้ดินจากการถูกระดมยิงใส่ไม่เว้นวันตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคมจนถึงเดือนธันวาคมของปี ค.ศ. 1991 ผลจากการถูกโจมตีจากฝ่ายชาวเซิร์บติดอาวุธและกองทัพร่วมยูโกสลาเวียสร้างความเสียหายอย่างหนักให้แก่เมืองและมีคนเสียชีวิตไปเกือบพันคน เมื่อขึ้นปี ค.ศ. 1992 ได้มีการตกลงสนธิสัญญาหยุดยิง Vance Plan ที่ทำให้การระดมโจมตีออซิเยกมีอัตราเบาบางลงแต่ก็มิได้หยุดโดยสิ้นเชิง ซึ่งหลังจากมีสนธิสัญญาหยุดยิงนี้ ทางสหประชาชาติก็ได้ทยอยส่งกองกำลังทหารต่างชาติเข้ามาดูแลความสงบไม่ให้ทั้งสองฝ่ายเผชิญหน้ากันโดยตรงอีก และทั้งทางโครเอเชียและยูโกสลาเวียต่างก็เบนเข็มส่งกำลังพลไปรบในสงครามในบอสเนียแทนเสียเป็นส่วนใหญ่หลังจากมีข้อตกลงหยุดยิงนี้
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าฝ่ายชาวโครแอทจะเป็นฝ่ายตั้งรับการรุกรานจากฝ่ายชาวเซิร์บติดอาวุธ แต่ในเวลานั้นเองที่กองกำลังชาวโครแอทที่ต่อสู้ป้องกันเมืองออซิเยกเองก็ได้มีการก่ออาชญากรรมสงครามด้วยการคุมขังตัวพลเมืองเชื้อสายเซิร์บในเมืองออซิเยกก่อนจะทำการทารุณกรรมและสังหาร ในปี ค.ศ. 2008 ศาลโครเอเชียได้ตัดสินว่า บรานิมีร์ กลาวาช มีความผิดในฐานะสั่งการให้กระทำทารุณชาวเซิร์บซึ่งเป็นพลเมืองธรรมดาภายในเมืองออซิเยกในช่วงที่เป็นผู้บัญชาการกองทหารที่ป้องกันเมืองอยู่ ปัจจุบันนี้กลาวาชถูกจำคุกอยู่ในบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนาหลังจากหลบหนีการจับกุมของทางโครเอเชียเข้าไปในบอสเนียซึ่งเขามีพาสปอร์ทถือสัญชาติร่วมกับสัญชาติโครเอเชียอยู่
แม้ว่าในช่วงซึ่งทางฝ่ายชาวเซิร์บและกองกำลังจากยูโกสลาเวียจะทวีการกดดันโจมตีถึงขั้นสูงสุดก่อนมีการตกลงหยุดยิงนั้น ฝ่ายกองกำลังชาวโครแอทจะสามารถป้องกันเมืองไว้ได้จนฝ่ายเซิร์บไม่สามารถบุกเข้ามาและยึดได้โดยสิ้นเชิงเช่นเมืองวูคอวาร์ที่อยู่ห่างออกไปราวๆ 30 กิโลเมตร ทำให้ออซิเยกได้รับสมญานามว่า ออซิเยก - เมืองซึ่งไม่พ่ายแพ้ (อังกฤษ: Osijek - Unconquered city; โครเอเชีย: Osijek - Nekoporeni Grad) กระนั้นบางส่วนของเมืองเช่น ย่านชุมชนเทนยาทางด้านใต้ และฝั่งซ้ายของแม่น้ำดราวาทางทิศเหนือของเมืองนั้นถูกรวมเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของเซอร์เบีย ครายินา และไม่สามารถเอากลับมาได้ในตลอดช่วงที่เหลือของสงครามประกาศอิสรภาพของโครเอเชียจนกระทั่งจบสงครามโดยสิ้นเชิงในปี ค.ศ. 1995 แม้ว่าดินแดนเซอร์เบียนครายินาส่วนอื่นๆในโครเอเชียจะถูกกองกำลังทหารโครเอเชียบุกยึดกลับมาได้หมดในยุทธการพายุ (อังกฤษ: Operation Storm) ที่ปฏิบัติการในต้นเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1995 โดยเซอร์เบียน ครายินาเพียงหนึ่งเดียวที่เหลืออยู่ในเขตสลาโวเนียตะวันออกนี้ได้กลายเป็น เขตปกครองสลาโวเนียตะวันออก บาราญา และ ซีร์เมียตะวันตก (อังกฤษ: Eastern Slavonia, Baranja and Western Syrmia; บอสเนีย-โครเอเชีย-มอนเตเนโกร-เซอร์เบีย: Istočna Slavonija, Baranja i Zapadni Srem) ซึ่งเป็นเขตปกครองที่ไม่ได้รับการยอมรับจากสากลโลกและไม่ได้อยู่ในอำนาจของทั้งโครเอเชียและยูโกสลาเวียในยามนั้น ด้วยการเข้ามาเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยของสหประชาชาติ ทำให้ช่วงปี ค.ศ. 1995-1998 เขตปกครองนี้ได้อยู่ในความดูแลของสหประชาชาติและค่อยๆเจรจาเพื่อคืนดินแดนนี้ให้แก่ทางโครเอเชียโดยสันติ ในที่สุดดินแดนนี้ก็กลับเข้าเป็นส่วนหนึ่งของโครเอเชียในปี ค.ศ. 1998 หลังมีการเซ็นข้อตกลงเอร์ดุท (อังกฤษ: Erdut Agreement) ทว่าในระหว่างช่วงที่พื้นที่นี้อยู่ใต้ความควบคุมของกลุ่มชาวเซิร์บติดอาวุธ ประชากรเชื้อสายโครแอทส่วนมากหากไม่ถูกขับไล่ออกไปก็จะถูกสังหารไป ในทางกลับกัน ประชากรชาวเซิร์บของออซิเยกจากที่เคยมีเกือบ 20% ช่วงก่อนสงครามก็กลับลดจำนวนลงเหลือแค่ไม่ถึง 8% ในการสำรวจปี ค.ศ. 2001
การปกครอง
ประชากร
เศรษฐกิจ
การคมนาคม
ออซิเยกอยู่ห่างจากเมืองหลวงของโครเอเชียคือซาเกร็บราวๆ 280 กิโลเมตร แม้ว่าจะไม่ได้อยู่บนทางหลวงสายหลัก E70 ซึ่งเชื่อมต่อซาเกร็บกับเบลเกรด อดีตเมืองหลวงของยูโกสลาเวีย แต่ไม่ห่างจากตัวเมืองออซิเยกมากนักทางทิศตะวันตกนั้น มีทางหลวงสาย European route E73 / A5 ซึ่งเชื่อมจากบูดาเปสต์ผ่านชายแดนฮังการีและโครเอเชียในแนวเหนือ-ใต้ โดยทางหลวงสาย E73 จะไปตัดกับทางหลวง E70 ซึ่งทอดตัวแนวตะวันตก-ตะวันออก ที่เมือง เวลิก้า โคปานิทซ่า ในแขวงซึ่งอยู่ทางทิศใต้ของแขวงออซิเยก-บาราญา ส่วนการเดินทางด้วยรถโดยสาร ออซิเยกมีเส้นทางของรถโดยสารจากซาเกร็บ หรือแม้กระทั่งรถโดยสารจากประเทศอื่นเช่น เซอร์เบีย
นอกจากการเดินทางทางถนนแล้ว ออซิเยกยังมีเครือข่ายทางรถไฟต่อเชื่อมกับสายรถไฟเส้นหลักไปยังเมืองอื่นๆของโครเอเชียรวมถึงสามารถเดินทางต่อยังไปฮังการีได้ด้วย โดยสถานีรถไฟของออซิเยกอยู่ไม่ห่างจากใจกลางเมืองและมีสถานีรถโดยสารหลักของเมืองอยู่เยื้องใกล้ๆกัน
ขณะเดียวกันนั้น การเดินทางไปยังออซิเยกสามารถใช้บริการจากสนามบินออซิเยก (อังกฤษ: Osijek Airport; โครเอเชีย: Zračna luka Osijek) ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ราว 20 กิโลเมตรในอาณาเขตรอยต่อระหว่างแขวงออซิเยก-บาราญา กับ แขวงวูคอวาร์-ซีร์เมีย โดยใกล้ๆสนามบินมีถนนสายหลักซึ่งเชื่อมเมืองออซิเยกกับเมืองวูคอวาร์ตัดผ่าน ปัจจุบันนี้ มีสายการบินเพียงสองสายการบินที่ให้บริการเที่ยวบินไปยังเมืองออซิเยก คือ Ryanair บินจากสนามบิน London Stansted Airport และสายการบินภายในประเทศโครเอเชีย Trade Air บินจากสนามบินซาเกร็บ
การคมนาคมภายในเมือง
จุดเด่นที่สุดอย่างหนึ่งของออซิเยกคือเป็นเพียงเมืองเดียวในโครเอเชียที่ยังมีระบบเดินรถรางภายในเมืองนอกเหนือจากกรุงซาเกร็บ โดยประวัติระบบรถรางของออซิเยกนั้นเริ่มต้นในปี ค.ศ. 1884 ในชั้นแรกเป็นรถรางม้าลากใช้ขนส่งผู้คนจากสถานีรถไฟของออซิเยกมายังจตุรัสกลางเมืองและเป็นระบบเดินรถรางแห่งแรกของโครเอเชีย ต่อมาได้เปลี่ยนเป็นรถรางขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าในปี ค.ศ. 1926 ทุกวันนี้ระบบเดินรถรางของออซิเยกประกอบไปด้วยเส้นทางรถรางสองสาย
- สาย 1 วิ่งระหว่างกอร์นยิ กราด ในย่านเรทฟาลาไปตามถนน ผ่านมุ่งหน้าไปถามจนไปถึงย่านดอนยิ กราด
- สาย 2 วิ่งจากจตุรัสอันเต สตาร์เซวิช ไปตามถนนซูพานีสกา จาคอฟซตินา ก่อนเลี้ยวไปทางทิศตะวันออกผ่านสนามกีฬาประจำเมือง วิ่งไปตามย่านที่อยู่อาศัยก่อนไปกลับรถที่จุดวงเวียนแล้ววิ่งกลับย้อนมาตามเส้นทางเดิมจนถึงจาคอฟซตินาอีกครั้ง รถรางขาขึ้นจะเลี้ยวขวาเข้าไปผ่านสถานีรถโดยสารและสถานีรถไฟก่อนมุ่งกลับไปที่ถนนยูโรเปียน อเวนิวในเส้นทางเดียวกับรถรางสาย 1 เป็นระยะทางสั้นๆก่อนกลับมาตั้งต้นที่จตุรัสอันเต สตาร์เซวิชอีกครั้ง
เส้นทางรถรางสาย 1 นั้น จะเป็นสองรางคู่ขนานกันบนคนละฝั่งของถนน ทว่าเส้นทางรถรางสาย 2 ตั้งแต่กัทซกาเป็นต้นไป จะมีเพียงรางเดียว เมื่อรถรางจะวิ่งสวนกันก็ต้องมีคันหนึ่งหลบเข้ารางเสริมซึ่งมีเป็นระยะตามสถานีเพื่อหยุดรอให้คันที่สวนมาบนรางเดียวกันนั้นวิ่งผ่านไปก่อนจึงค่อยกลับมาวิ่งบนรางหลัก
ในวันที่ 30 พฤศจิกายน ค.ศ 2014 ได้มีการเปิดใช้เส้นทางขยายเพิ่มเติมของรถรางสาย 1 โดยเป็นเส้นทางใหม่วิ่งไปทางตะวันตกของย่านวิชเนวัทส์ซึ่งเดิมเป็นสถานีปลายทางของรถรางสาย1 โดยมีการเปิดจุดจอดรถรางเพิ่มขึ้นอีก 5 จุด
นอกจากรถรางแล้ว ระบบขนส่งมวลชนของออซิเยกส่วนใหญ่จะเป็นเส้นทางรถโดยสารในย่านที่รถรางวิ่งไปไม่ถึงหรือสำหรับเดินทางไปยังชุมชนอื่นภายนอก
วัฒนธรรม
สถาปัตยกรรม
ขอบเขตเมืองเก่าของออซิเยกนั้นโดยมากถูกสร้างขึ้นมาใหม่หลังจากการเข้ามาของฮับส์บูร์ก โดยเฉพาะสิ่งก่อสร้างอย่างแรกซึ่งสำคัญที่สุดเมื่อทางฮับส์บูรก์ยึดเมืองกลับมาจากทางอาณาจักรออตโตมันได้คือ (โครเอเชีย: Tvrđa) หรือ หมู่ป้อมปราการริมแม่น้ำดราวาซึ่งสร้างขึ้นเป็นทั้งป้อมปราการทางการศึกและเป็นที่ตั้งของหน่วยงานราชการต่างๆซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับงานด้านการทหารและการบริหารปกครองเมือง เริ่มทำการก่อสร้างในปี ค.ศ. 1712 ในยุคที่การศึกระหว่างฮับส์บูร์กและออตโตมันยังคงไม่สงบดีและออซิเยกยังอยู่ในพื้นที่อันยังสามารถถูกออตโตมันคุกคามได้
อาคารส่วนมากของทเวอร์จาเป็นศิลปะแบบบาโรค ในใจกลางของหมู่อาคารเป็นลานกว้าง มีเสาอนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นตามความเชื่อของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกเพื่อเป็นการขอบคุณพระผู้เป็นเจ้าเมื่อสิ้นสุดการเกิดโรคระบาดในเมืองเมื่อปี ค.ศ. 1729 ส่วนกำแพงซึ่งเคยล้อมรอบป้อมปราการอย่างแน่นหนานั้นถูกทำลายลงในช่วงทศวรรษที่ 20 เพื่อเปิดทางให้มีการก่อสร้างพัฒนาเมืองได้ง่ายขึ้น(ปัจจุบัน ถนนยูโรเปียนอเวนิวที่ตัดผ่านใกล้ทเวอร์จาก็อยู่ในพื้นที่เคยเป็นแนวกำแพงมาก่อน) ในทุกวันนี้ทเวอร์จาเป็นจุดเรียกนักท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของเมืองในฐานะเป็นหมู่ป้อมปราการสร้างในศิลปะแบบบาโรคซึ่งยังคงสภาพความสมบูรณ์ได้มากที่สุดในประเทศโครเอเชียและมีการพยายามผลักดันเพื่อให้ได้รับการพิจารณาเป็นมรดกโลกแม้ว่าช่วงสงครามโลกประอิสรภาพของโครเอเชียในช่วงปี ค.ศ. 1991-1995 จะได้รับความเสียหายพอสมควรและยังทำการบูรณะอยู่เรื่อยมา อาคารต่างๆที่เคยเป็นที่ตั้งของหน่วยงานทหารในสมัยฮับส์บูร์กก็กลายเป็นร้านอาหาร สถานบันเทิงตอนกลางคืน พิพิธภัณฑ์ ที่ว่าการของเมือง รวมถึงอาคารอธิการบดีของมหาลัยวิทยาลัยออซิเยก
ในเวลาต่อมา สถาปัตยกรรมในออซิเยกซึ่งอยู่ในความปกครองสืบต่อมาจนถึงจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีก็เริ่มได้รับอิทธิพลการก่อสร้างอาคารในสไตล์(อังกฤษ: Secessionism) สถาปัตยกรรมแนวนี้จะกระจุกตัวกันอยู่ในย่านกอร์นยิ กราด เหนือขึ้นไปทางต้นแม่น้ำจากทเวอร์จาไปตามถนนยูโรเปียนอเวนิวจนถึงจตุรัสอันเต สตาร์เชวิชที่ถือเป็นจตุรัสใจกลางเมืองของออซิเยก สร้างในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ถึงช่วงต้นของคริสต์ศตวรรษที่ 20 สิ่งก่อสร้างที่เป็นจุดเด่นคงอยู่มาจนถึงปัจจุบันซึ่งสร้างในยุคสมัยนี้ประกอบไปด้วย โบสถ์เนตืปีเตอร์และพอล อาคารโรงละครแห่งชาติสาขาเมืองออซิเยก โรงภาพยนตร์คิโนยูราเนีย
หลังสงครามโลกครั้งที่สอง รูปแบบการก่อสร้างในเมืองได้เปลี่ยนแปลงไปเป็นแนวคอมมูนิสต์ซึ่งไม่เน้นความสวยงามของสถาปัตยกรรมที่อ่อนช้อยเช่นเดิม หากแต่สร้างในรูปแบบเรียบง่ายยึดประโยชน์ใช้สอยเป็นหลัก ช่วงนี้เองที่เริ่มมีอาคารที่อยู่อาศัยแบบแฟลตเป็นบล็อกผุดขึ้นมาในบางย่าน โดยสถาปัตยกรรมแบบคอมมูนิสต์ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่สุดของเมืองคือตัวอาคารของโรงแรมออซิเยกริมฝั่งแม่น้ำดราวา และ สะพานคนเดินเท้าข้ามแม่น้ำดราวาซึ่งในอดีตเคยถูกขนานนามว่าสะพานแห่งความเยาว์วัยเพื่อเป็นเกียรติแก่ นับแต่โครเอเชียได้รับอิสรภาพมา ก็เริ่มมีการสร้างอาคารในรูปลักษณ์ทันสมัยเช่น อาคารสำนักงานยูโรดอมที่เป็นอาคารทรงรีเลขาคณิต
สถาปัตยกรรมจากสมัยอยู่ในการปกครองของออสเตรีย-ฮังการี
- โบสถ์เซนต์ไมเคิลในทเวอร์จา
- อาคารสถาปัตยกรรมแบบเซเซสชั่นนิสต์
- แถวอาคารแบบเซเซสชั่นนิสต์ในกอร์นยิ กราด
- คิโนยูราเนีย
- โรงละครแห่งชาติสาขาเมืองออซิเยก
สถาปัตยกรรมจากสมัยยูโกสลาเวียจนถึงปัจจุบัน
- โรงแรมออซิเยก
- แฟลตที่อยู่สร้างสมัยคอมมูนิสต์
- สะพานคนเดินเท้าข้ามแม่น้ำดราวา
- อาคารสำนักงานยูโรดอม
จตุรัสและอนุสรณ์สถานต่างๆ
- ลานอิสรภาพ(Trg Slobode)
- บริเวณจตุรัสอันเต สตาร์เชวิช
- ลานSvetog Trojstva กลางทเวอร์จา
- อนุสรณ์สถานวีรบุรุษในสงครามประกาศอิสรภาพ
- Red Fićo
ศาสนสถานและพิพิธภัณฑ์
ศาสนาสถานที่เด่นที่สุดคือ อยู่เยื้องจตุรัสกลางเมืองโดยสร้างจากดำริของมุขนายกโยซิป ยูราย สตรอสมาเยอร์ในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ในศิลปะแบบนีโอโกธิค สร้างจากอิฐและมีหอซึ่งสูงถึง 90 เมตร นับว่าเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโครเอเชียนอกเหนือจากตึกระฟ้าและยอดของมหาวิหารในกรุงซาเกร็บ ได้รับความเสียหายจากการระดมยิงจากฝ่ายชาวเซิร์บติดอาวุธในสงครามช่วงทศวรรษที่ 90 แม้สภาพภายนอกส่วนใหญ่จะดำเนินการบูรณะแล้วแต่ก็ยังมีบางส่วนยังคงต้องบูรณะเพิ่มเติมอยู่กระทั่งทุกวันนี้
นอกจากนั้นแล้ว ศาสนสถานในศาสนาคริสต์ที่สำคัญของเมืองคือโบสถ์เซนต์ไมเคิล และ โบสถ์ฟรานซิสกัน ตั้งอยู่ภายในทเวอร์จาทั้งคู่ โดยโบสถ์เซนต์ไมเคิลเป็นโบสถ์สีเหลืองในศิลปะแบบบาโรคมียอดโดมสูงขนานสองข้างของตัวอาคารสร้างโดยคณะเยซูอิท ส่วนโบสถ์ฟรานซิสกันนั้นเป็นโบสถ์สีขาวสร้างห่างออกมาจากโบสถ์เซนต์ไมเคิลมาทางตะวันออกห่างกันประมาณสามบล็อก
ออซิเยกเคยมีชุมชนชาวยิวที่ยั่งยืนในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง ปัจจุบันแม้จะมีชาวยิวอาศัยอยู่เป็นจำนวนไม่มากนักแต่ก็ยังคงมีโบสถ์ยิวอยู่ในเขตกอร์นยิ กราด
ภายในเขตทเวอร์จา มีพิพิธภัณฑ์ประจำเมืองสองแห่งที่มีความสำคัญไม่ด้อยกว่ากัน แห่งแรกคือพิพิธภัณฑ์สลาโวเนีย(โครเอเชีย: Muzej Slavonije) ซึ่งรวบรวมประวัติความเป็นมาและการจัดแสดงสิ่งต่างๆที่เป็นวัฒนธรรมเฉพาะของภูมิภาคสลาโวเนียทั้งหมดไม่ใช่แค่ที่ขุดค้นพบในเมืองออซิเยกเท่านั้น พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ถือเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงทั่วไปไม่ใช่หัวข้อเฉพาะที่ใหญ่ที่สุดในโครเอเชียโดยเปิดตั้งแต่ปี ค.ศ. 1877 ส่วนอีกแห่งนึงนั้นคือพิพิธภัณฑ์ทางโบราณคดีซึ่งจัดแสดดงโบราณวัตถุต่างๆที่ขุดค้นพบตั้งแต่มีการเริ่มอยู่อาศัยของมนุษย์ในบริเวณนี้ตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์
เทศกาล
วันที่ถือกันว่าเป็นวันครบรอบการก่อตั้งของเมืองคือ วันที่ 2 ธันวาคมของทุกปี โดยเป็นวันที่อาณาเขตหลักของเมืองทั้งสามเขต(กอร์นยิ กราด ทเวอร์จา และ ดอนยิ กราด)ได้มารวมกันเป็นออซิเยกเพียงเมืองเดียวหลังจากอยู่แยกกันมาระยะหนึ่ง
วันที่ 6 กันยายนปี ค.ศ. 2014 ได้มีการจัดพาเหรดไพร์ดของบุคคลรักร่วมเพศและเพศที่สามขึ้นในออซิเยกเป็นครั้งแรก นับเป็นเมืองที่สามในโครเอเชียซึ่งจัดการเดินพาเพรดเช่นนี้ขึ้น(นอกจากกรุงซาเกร็บ และ สปลิท)และเป็นครั้งแรกที่งานสามารถผ่านพ้นไปโดยไม่มีเหตุการณ์รุนแรง
ดนตรีและการแสดง
ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2004 เป็นต้นมา ทุกๆปีในช่วงเดือนมิถุนายน ออซิเยกจะจัดงานแสดงดนตรีที่เรียกกันว่า เออร์บัน เฟส ออซิเยก(อังกฤษ: Urban fest Osijek) หรือเรียกย่อๆว่ายูเอฟโอ(UFO) ที่เป็นงานเปิดโอกาสให้ศิลปินท้องถิ่นของโครเอเชียในงานเพลงแนวฮาร์ดร็อค เมทัล พังค์ ฮิปฮอป และอิเล็กโทรนิคแดนซ์ ได้แสดงสดเป็นระยะเวลาราวๆ 3 ถึง 5 วัน
ออซิเยกมีโรงเรียนสอนทางดนตรีโดยเฉพาะมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1921 แม้ว่าก่อนหน้านั้นจะมีการพยายามจัดตั้งโรงเรียนดนตรีขึ้นมาแต่ก็ดำเนินงานได้เพียงไม่กี่ปีก็ต้องปิดตัวลงไป นักดนตรีคนสำคัญที่มีบ้านเกิดที่ออซิเยกคือ ฟรานโย เครซมา(อังกฤษ: Franjo Krezma) ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นนักไวโอลินอัจฉริยะในยุคครึ่งหลังของคริสต์ศตวรรษที่ 19 หากแต่จบชีวิตก่อนเวลาอันควรด้วยวัยเพียง 19 ปีจากวัณโรค ในแต่ละปีจะมีการแสดงดนตรีเพื่อเป็นการสดุดีแก่เครซมาและนักดนตรีท้องถิ่นคนอื่น ด้านดนตรีพื้นบ้าน ออซิเยกมีคณะการแสดงดนตรีและการเต้นพื้นบ้านของโครเอเชียสองคณะใหญ่ๆคือ HKUD Osijek1892 กับ HKUD Željezničar และในแต่ละปีจะมีการประกวดแข่งขันการเล่น Tambura ที่เป็นเครื่องดนตรีประเภทดีดแพร่หลายในแถบบัลข่าน
โรงละครแห่งชาติของโครเอเชียได้มาเปิดสาขาที่ออซิเยกตั้งแต่ ค.ศ. 1866 และจัดการแสดงมาจนถึงปัจจุบันนี้
กีฬา
ทีมกีฬาซึ่งได้รับความนิยมสูงที่สุดในเมืองคือ ทีมฟุตบอล เอ็นเค ออซิเยก(อังกฤษ: NK Osijek) เล่นอยู่ในลีกฟุตบอลอาชีพของโครเอเชีย ใช้สนามเหย้าคือ (อังกฤษ: Stadium Gradski vrt)
นอกจากฟุตบอล ในเมืองยังมีทีมกีฬาอื่นๆอีกหลากหลายเช่น วอลเลย์บอล แฮนด์บอล บาสเก็ตบอล อเมริกันฟุตบอลแบบสมัครเล่น โดยเฉพาะบาสเก็ตบอลมีทีมในเมืองราวๆ 3-4 ทีม แต่ตั้งแต่กลางปี ค.ศ. 2014 มา ออซิเยกได้กลายเป็นบ้านหลังใหม่ให้กับทีมบาสเก็ตบอลระดับลีก A-1(ลีกบาสเก็ตบอลอาชีพสูงสุดของโครเอเชีย)จากชุมชนดาร์ดาซึ่งอยู่ใกล้เคียงและมีความไม่สะดวกเรื่องสนามการแข่งขัน จึงได้มาขอใช้สนามกีฬาในร่มของออซิเยกเป็นสนามเหย้าและได้ทำการย้ายฐานของทีมมายังออซิเยกแทนและเปลี่ยนชื่อทีมเป็น KK Vrijednosnice Osijek นับเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ออซิเยกได้มีทีมบาสเก็ตบอลลงแข่งขันในลีกอาชีพระดับสูงสุดของโครเอเชีย
งานกีฬาประจำปีซึ่งมีชื่อเสียงมากที่สุดของออซิเยกคือ แพนโนเนียน ชาเลนจ์(อังกฤษ: Pannonian Challenge) เป็นการแข่งขันกีฬาผาดโผนประเภท สเก็ตบอร์ด อินไลน์สเก็ต และ จักรยานบีเอ็มเอ็กซ์รายการใหญ่ที่สุดในภูมิภาคบัลข่าน และตั้งแต่ปี ค.ศ. 2009 ออซิเยกได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันยิมนาสติกระดับนานาชาติในชื่อรายการ Grand prix Osijek โดยจัดการแข่งที่ กราดสกี้ เวิร์ท ฮอลล์ สนามกีฬาในร่มที่ใหญ่ที่สุดของเมือง สร้างขึ้นเพื่อรองรับการร่วมเป็นสนามเจ้าภาพของการแข่งขันแฮนด์บอลชิงแชมป์ยุโรปในปี ค.ศ. 2009
หมู่การ์ดเฮอร์วาทสกี้ โซโกล
หมู่การ์ดเฮอร์วาทสกี้ โซโกล(โครเอเชีย: Hrvatski Sokol; อังกฤษ: Croatian Falcon) ถือเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของเมืองออซิเยก แต่เดิมมาได้รับการจัดตั้งในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 โดยเป็นจุดประสงค์ของสมาคม Sokol(สมาคมการรวมตัวทางชาตินิยมของชาวสลาฟในออสเตรีย-ฮังการี) เพื่อฝึกฝนชายหนุ่มสืบทอดธรรมเนียมหมู่ทหารเกียรติยศของชาวโครแอท หากแต่ช่วงหลังจากโครเอเชียเข้ามารวมอยู่ในรัฐยูโกสลาเวีย การจัดตั้งหมู่การ์ดก็ถูกยกเลิกไปเพราะถูกมองว่าเป็นการเคลื่อนไหวทางชาตินิยมของชาวโครแอทที่จะสร้างความแตกแยกในยูโกสลาเวียจนมามีการรื้อฟื้นอีกครั้งหลังจากโครเอเชียได้กลายเป็นประเทศเอกราช
ในปัจจุบันนี้ เครื่องแบบของหมู่การ์ดโซโกลเมืองออซิเยกจะประกอบไปด้วยเสื้อยูนิฟอร์มสีน้ำเงินเฉดเดียวกับสีพื้นหลังตราเมือง สวมทับเสื้อเชิ้ตสีแดงสด กางเกงสีดำมีเงื่อนเชือกเหลืองทองประดับและบู้ทหนังสีดำสูงเสมอเข่า บนศีรษะสวมหมวกสีดำมีขนนกเหยี่ยวประดับที่ด้านหน้า หากเป็นหน้าหนาวจะมีเสื้อคลุมยาวสีน้ำเงินเช่นกันสวมทับอีกชั้น มักจะปรากฏในฐานะหมู่ทหารเกียรติยศเวลามีงานสำคัญต่างๆในเมือง เช่น วันครบรอบวันก่อตั้งเมือง วันวางพวงหรีดระลึกถึงผู้สูญเสียในสงครามประกาศอิสรภาพของโครเอเชีย งานทางวัฒนธรรม หรือกระทั่งเชิญธงชาติในการแข่งขันฟุตบอลของทีมชาติโครเอเชีย
เมืองพี่น้อง
ฮังการี Pécs ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1972
สโลวีเนีย Maribor ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1995
เยอรมนี Pforzheim ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1994
โรมาเนีย Ploieşti ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1996
บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา Tuzla ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1996
สวิตเซอร์แลนด์ Lausanne ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1997
สโลวาเกีย Nitra ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1997
ฮังการี Budapest, XIII district ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2001
เซอร์เบีย Subotica ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2004
คอซอวอ Prizren ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2010
อิตาลี Vicenza ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2014
บุคคลมีชื่อเสียงที่มีพื้นเพจากออซิเยก
ดาวอร์ ซูเคอร์ (อดีตนักฟุตบอลทีมชาติโครเอเชีย)
(นักไวโอลินในคริสต์ศตวรรษที่ 19)
ลูโย สเวเซนสกี้ (นักไวโอลินในคริสต์ศตวรรษที่19-20)
ฟรานโย คูฮัทส์ (นักดนตรี นักประพันธ์เพลง และผู้ทำการศึกษารวบรวมเกี่ยวกับเพลงพื้นบ้านของโครเอเชีย)
(มุขนายกแห่งมุขมณฑลจาโคโว-ออซิเยกและผู้มีบทบาทเคลื่อนไหวทางการเมืองท้องถิ่นในคริสต์ศตวรรษที่19)
อีวาน เวอร์โดเลียก (โครเอเชีย: Ivan Vrdoljak) (รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจของโครเอเชีย)
อ้างอิง
- "Osijek needs €1.9 million a year to fight mosquitoes". Croatian Times.
- "Croatia's 'Greenest' City Revealed". Croatian Week.
- . City of Osijek official website. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-09-05. สืบค้นเมื่อ 2014-10-20.
- "Osijek - Essek - Mursa : My hometown for more than 74 years". Zvonko Springer on Croatianhistory.net.
- . City of Osijek official website. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-10-08. สืบค้นเมื่อ 2013-10-10.
- "Turkish TV Inspires Croats to Rebuild Old Bridgee". Balkan Insight.
- "Osijek on the City Day, is donated mural "Sultan Suleiman Bridge across Drava"". Glas Slavonije. (ภาษาโครเอเชีย)
- . City of Osijek official website. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-10-08. สืบค้นเมื่อ 2013-10-10.
- . hungarianheraldry.org. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-11-12. สืบค้นเมื่อ 2014-11-07.
- . history.army.mil. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-05-22. สืบค้นเมื่อ 2014-11-09.
- "Osijek". Jewish virtual library website.
- "Croatian Axis Forces in WWII". feldgrau.com.
- "Croatian Activists Commemorate Peace-Seeking Police Chief". Balkan Transitional Justice.
- "Crveni fićo, Osijek, 27. lipnja 1991". Kanal korisnika KarabajaCRO Youtube channel.
- "Croatian MP jailed for war crimes". BBC News.
- "Glavas Case Highlights Impediment to Justice". Institute for war & peace reporting.
- "Osijek Airport official website". Osijek Airport.
- "Ryanair launching new Ex-Yugo flights". Ex-Yugo Aviation.
- "Ryanair Adds London-Osijek Service". Croatia Week.
- "Trade air launching scheduled flights". Ex-Yugo Aviation.
- "Osijek-Zagreb Flight Returns After 26-Years". Croatia Week.
- "First Croatian Tram 130 Years Old Today". Croatian Week.
- "Tram line #2 of Osijek". uhi67's channel on Youtube.
- "Tram line was opened through Višnjevac" (ภาษาโครเอเชีย). sib.hr.
- . inyourpocket.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-04-26. สืบค้นเมื่อ 2014-10-24.
- "Synagogue Location in Upper town - Osijek". Jewish community of Osijek website.
- "Osijek Pride 2014". sepamedia.com.[]
- "First Ever Gay Pride Parade in Osijek Incident-Free". Croatian Week.
- . UFO official website. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-06-19. สืบค้นเมื่อ 2014-10-25.
- . City of Osijek official website. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-09-05. สืบค้นเมื่อ 2014-10-25.
- "KK Vrijednosnice Darda moved to Osijek and changes its name". sib.hr.(ภาษาโครเอเชีย)
- "History". Osijek's Hrvatski Sokol official website.(ภาษาโครเอเชีย)
- . City of Osijek official website. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-09-05. สืบค้นเมื่อ 2014-10-20.
- "Minister and his closest associates". Croatian Ministry of Economy website. 24 ตุลาคม พ.ศ. 2557.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|date=
((help))
แหล่งข้อมูลอื่น
- http://www.glas-slavonije.hr/Osijek - หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของสลาโวเนียสำหรับติดตามข่าวสารในเมืองออซิเยก (ภาษาโครเอเชีย)
- http://www.sib.hr/vijesti/osijek.html - เว็บข่าวสารในแถบสลาโวเนียและบาราญา (ภาษาโครเอเชีย)
- http://mojosijek.hr/ (ภาษาโครเอเชีย)
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
xxsieyk okhrexechiy Osijek hngkari Eszek eyxrmn Esseg khuxemuxngihyxndbthisikhxngpraethsokhrexechiy tngxyuinphumiphakhthangthistawnxxkkhxngokhrexechiythieriykwa okhrexechiy Slavonija xngkvs Slavonia iklkbchayaednpraethshngkariaelapraethsesxrebiy miaemnadrawaepnaemnasaysakhyihlphanemuxng idrbkarykyxngxyangimepnthangkarwaepnemuxnghlwngkhxngphumiphakhslaoweniy danprawtisastrxxsieykmixayuyunyawtidtxknmakwa 800 pi phankarpkkhrxngcakhlayxanackrthngrachxanackrhngkari xanackrxxtotmn hbsburk xxsetriy hngkari rwmthung yuokslaewiyxxsieyk Grad OsijekCity of Osijekthiwthsnxxsieykcakfngtrngkhamaemnadrawathngtraxarmaephnthitaaehnngkhxngethsmnthlxxsieyk barayainokhrexechiykhxbekhtemuxngxxsieykphayinethsmnthlxxsieyk barayaphikd 45 33 27 11 N 18 40 46 52 E 45 5575306 N 18 6795889 E 45 5575306 18 6795889praeths okhrexechiyethsmnthlkxtng kh s 1196karpkkhrxng naykethsmntriIvan Vrkicphunthi ekhtemuxng169 tr km 65 tr iml khwamsung94 emtr 308 fut prachakr karsarwcprachakrpi kh s 2011 twemuxng108 048 khnekhtewlaUTC 1 CET vdurxn ewlaxxmaesng UTC 2 CEST Postal code31000rhsphunthi 385 31paythaebiynrthyntOSewbisthttp www osijek hr en inchwngthswrrsthi 90 xxsieykepnhnunginemuxngsungidrbkhwamesiyhaymakthisudinsngkhramkarprakasxisrphaphkhxngokhrexechiy thaihemuxngsungekhyefuxngfuinthanaemuxngxutsahkrrmhlkaehngnungkhxngrthokhrexechiyinshphnthrthsngkhmniymyuokslaewiyprasbkbpyhakhwamsbesathangesrsthkic aemkrathngthukwnnikyngimfuntwdink pccubnnidwyprachakrraw 108 000 khn xxsieykcungepnsunyklangkarpkkhrxngkhxngekhtxxsieyk baraya epnthitngkhxngsnambinephiyngaehngediywinphumiphakhslaoweniytawnxxk mikhwamsakhyinthanasunyrwmkhwamecriythangesrsthkic karsuksa wthnthrrm sasna karkhmnakhm aelakarthxngethiywphumisastrphaphthaydawethiymsphaphthangphumisastrkhxngxxsieyk phunthiswnihykhxngemuxngxxsieyktngxyubnfngkhwakhxngaemnadrawa inrayathangpraman 22 kiolemtrcakcudthiaemnadrawaihllngsuaemnadanubsungepnphrmaednthrrmchatiaebngekhtaednrahwangokhrexechiyaelaesxrebiy inbriewnniepnthirabminathwmthungcungthaihaethbthukpichwngvduibimphlithungvdurxn bangphunthikhxngxxsieyksungxyuthangfngsayaemnadrawasungmikhwamsungcakradbaemnanxykwafngkhwacamipyhanalntlingcaknathiephimkhunhlnghimalalayhruxmifntkhnk dwysphaphthangphumisastrthiepnthirabnathwmthung prakxbkbphunthithangthistawnxxkechiyngehnuxkhxngemuxngthukkhnabdwyaemnaihysxngsay sngphlihimiklcakxxsieyknkmiphunthikhumkhrxngthangthrrmchati okhrexechiy Kopacki Rit sungmilksnaepnpaphsmbungnakhnadihy epnthixyuxasykhxngkwang hmupa ephiyngphxn Beech Marten stwpracachatikhxngokhrexechiy stwcaphwknkaelastwnahlaychnid rwmthungaemlng thaihxxsieykexngnnmipyhaeruxngyungcanwnmakinchwngvdurxnsungepriybesmuxnstwsylksnpracathinipaelw thangthisitkhxngemuxngcaepnekhtthungekstrkrrm xxsieyknnthuxwaepnemuxngihysungmiprimanphunthisiekhiywmakthisudinokhrexechiy nxkcakthuklxmrxbdwyphunthithrrmchatiaelwyngmiswnsatharnainemuxngthung 17 aehngprawtismyormn inbriewnrimaemnadrawaxnepnthitngkhxngemuxngxxsieyknn prakthlkthanmikartngthinthankhxngmnusymachanannbtngaetsmyyukhhinihm thwakhrngaerkthiidmikarbnthukthangprawtisastrthungchumnumnnidekidkhuninsmythiormnidaephxiththiphlekhamainaethbthirabaephnoneniyn chumchnchawxillieriyn ekhltsungtngxyumakxnthukrwmekhaepnswnnungkhxngxanackrormnaelakxtngepnemuxnginchux mursa xngkvs Mursa odypccubnnisaksingkxsrangobrankhxngmursaxyuinekhtdxnyi krad okhrexechiy Donji Grad xngkvs Lower Town hangipcakthewxrca okhrexechiy Tvrđa hruxhmupxmprakarekakhxngxxsieykthangplayaemnadrawathistawnxxk dwykhwamsakhykhxngtaaehnngthitngsungepncudthikhamlanadrawaidngaykwacudxun thaihmursaphthnaepnemuxngsungmikhwamoddedninthanacudyuththsastrthangkarthhar karbriharpkkhrxngaelakarkhakhay inpi kh s 133 ckrphrrdihaedriynaehngormnidmxbsthanaokholeniyxnhmaythungchumchmormnsungmikhwamaekhngaekrngihyotradbsungsudihkbmursa aelatxmaidmikarkxsrangsaphandwyxithephuxkhamaemnadrawaepnkhrngaerk cakhlkthankarkhudkhnthangobrankhdiphbwa mursamikarkxsrangsingkxsrangsakhyxnbngbxkthungkhwamecriyxyangsung imwacaepnorngxabnasatharnatamwthnthrrmormnhruxornglakhrklangaecng phayhlngyukhsmykhxngckrphrrdihaedriyn sthanaphaphkhxngmursaktkxyuinchwngewlaaehngkhwamwunway mithngkaryudxanac karrbthimikarsuyesiyeluxdenuxmhasalinbriewnxanaekhtkhxngemuxngodyechphaa Battle of Mursa Major inpi kh s 351 cnthaythisudemuxormnerimesuxmxanaclng mursaktkepnepahmaykhxngklumxnarychnhlayklumsungekhamarukranthathayxanackhxngormn inpi kh s 441 thukchawhnthalayemuxngcnesiyhayhnk kxncathukrukransaodychawxwaraelathukthalayodysinechingcaknamuxkhxngchawslafthierimxphyphekhamainchwngkhriststwrrsthi 7 8 karpraktkhunkhxngxxsieykinrachxanackrhngkari chwngewlarahwangkarlmslayodysinechingkhxngemuxngmursacnthungbnthukthangprawtisastrkhrngaerkkhxngxxsieyk mirxngrxykhxngkarxyuxasykhxngmnusyinbriewnxanaekhtkhxngemuxngaetyngimmihlkthanthungkarepnchumchnthipkhlkthawr inpi kh s 1196 idmikarbnthukklawthungchumchnthichuxxxsieykepnkhrngaerkodyepnkarklawthunginsarkhxngkstriyexemrikhaehngrachxanackrhngkari sunginewlannokhrexechiymithanaepnswnhnungkhxngrachxanackrhngkarihlngcakkarsinrachwngskhxngkstriythipkkhrxngxanackrokhrexechiyobranaelaidmikaryxmrbkstriykhxngrachxanackrhngkariihmapkkhrxngdinaednokhrexechiytngaetraw kh s 1100 klawthungkarxnuyatihnkbwchsisetxrechiynphumixanacduaelinaethbnisamarthekbphasikarkhaaelakarkhnsngthangeruxid inthukwnnithangemuxngxxsieykidthuxexapithibnthukinsarnnepnpikhxngkarkxtngemuxng aemwadinaednbangswnkhxngokhrexechiyodyechphaaaethbsaekrbcamisiththiinkarpkkhrxngtwexngbangdwykarmithiprachumspha xngkvs Sabor tngaetpi kh s 1273 karpkkhrxngxxsieykinrayaewlannxyuitxanackhxngtrakulkhunnangcakfnghngkariepnhlkodyechphaatrakul khxrxk xngkvs Korog epnsaytrakulkhunnangthipkkhrxngemuxngyawnanthisudtngaet kh s 1353 thung 1472 cwbcnthayathkhnsudthaykhxngtrakulsinchiwitipinchwngsngkhramkbfayxanackrxxtotmn hlngkarepliynmuxipxyuitkarpkkhrxngkhxngkhunnangtrakulxun xxsieykyngkhngxyuinxanackhxngrachxanackrhngkarithikalngrasarasaycakkhwamkhdaeyngphayinkhxngkarsubthxdxanacrachwngsaelakarthasukkbxxtotmn inthisudhlngcakkstriyhluysthi 2 khxnghngkarisinphrachnmipcak xngkvs Battle of Mohacs inpi kh s 1526 hlngcaksuknnthangxanackrxxtotmnkrukkhubekhamayuddinaednkhxnghngkariepnbriewnkwangxyangrwderwaelaxxsieykexngktkipxyuitenguxmmuxkhxngxxtotmnodysineching thukyudkhrxngodyxxtotmn xxsieyk oxsesk phayinSanjak of Pojega pi kh s 1606 aemwaxxsieykcaepliynmuxipxyukbthangxxtotmnodyaethbimmikartxsu krannthangxxtotmnkiddaeninkarthalayemuxngxyangkwangkhwangephuxkacdexasthaptykrrmedimkhxngemuxngxxkipaelasrangemuxngkhunmaihminsthaptykrrmtamxiththiphlxislamaelaidepliynchuxeriykkhxngemuxngepn oxsesk turki Osek inchnaerkoxsueykthukrwmxyuin Budin Eyalet xnepnkaraebngekhtpkkhrxngihmkhxngxanackrxxtotmncakdinaednsungyudmaidcakthanghngkari kxninphayhlngcakmikaraebngekhtpkkhrxngihmemuxthangxxtotmnyuddinaednidephimkhun phayhlngxxsieykcungthukexaiprwmekhakb Kanije eyalet sungtngkhunmaihminaekhwngyxy Sanjak of Pojega turki Pojega Sancagi okhrexechiy Pozeski sandzak sungepn 1 in 6 aekhwngyxyinekhtthwipyuorpkhxngxanackrxxtotmnthimikhwamechiywchaythangxutsahkrrmkartxeruxmakthisud phaphphimphaesdngemuxngxxsieykaelasaphansulymaninxdit singkxsrangthiechidhnachutathisudkhxngxxsieykinrayaewlathixyuitkarpkkhrxngkhxngxxtotmnkhux xngkvs Suleiman Bridge okhrexechiy Most Sulejmana I epnsaphanimkhwamkwang 6 emtr yawkwa 7 kiolemtr srangkhunechuxmxxsieykkbchumchn xngkvs Darda thangehnuxsungtxngphanthilumnakhng cungidmiphradariihkxsrangsaphannikhunephuxepnthangsycrichekhluxnyaykxngthphidodysadwkinpramanpi kh s 1566 txmamikhwamphyayamthalaysaphannihlaykhrnginchwngsngkhramrahwangkxngthphyuorpphayitkarnakhxngxxsetriyaelathphkhxngxxtotmn cninthisudsaphankthukephahmdsinodyfayxxsetriyinpi kh s 1686 kxnthixxsetriycaekhamayudkhrxngxxsieykinpitxmaaelaerimyukhsmykhwamecriykhxngemuxnginwthnthrrmyuorpxikkhrng inchwngimkipimani mikhwamphyayamcakprachakrkhxngxxsieykcanwnhnungsungtxngkarcasrangsaphanodycalxngcaksaphansulymankhunmaihm aetcnthungpccubnkyngimmikhwamkhubhna aelainwnkxtngemuxnginpi kh s 2013 thangexkxkhrrachthutturkipracapraethsokhrexechiyidmikarmxb khxngkhwy ihaekxxsieykepnphaphphimphkhxngsaphansulymanephuxcdaesdnginphiphithphnthprawtisastrslaoweniyinemuxngxikdwy aephnthikarepliynaeplngekhtaednhlngsnthisyyakharolwithssnthisyyakharolwiths sthanphaphkhxngxxsieykinmuxkhxngxanackrhbsburkxyuinthanaepnemuxngkhxngxxtotmnthithukthangxxsetriyyudipinthikinrayaewlatngaetpi kh s 1683 cnthung kh s 1699 emuxidmikaresn xngkvs Treaty of Karlowitz khunthiemuxngesermski kharlxfthsi pccubnxyuinekhtwxyowdinakhxngesxrebiyiklkbnxwisad sungkhukrniinsngkhramthngsxngfayidtklngpkpnekhtaednknihm sngphlihxxtotmnsuyesiydinaednaethbslaoweniyipthnghmdihaekthangxxsetriy inchnaerknn thangxxsetriyidsngihchawemuxngxxsieykxphyphxxkcakicklangemuxngdngedimsungtngxyusubthxdmatngaetkxnkaremakhxngxxtotmn odyihprachakraebngiptngthinthanihmepnsxngcudkhux kxrnyi krad xyuhangkhunipthangtnaemnadrawaehnuxtwemuxngedimpraman 1 5 kiolemtr aela dxnyi krad xyuhangipthangplaynadrawa odythangxxsetriyidsngihdaeninkarkxsrangthewxrca sungepnpxmprakarrimaemnadrawaichepnsunyklangkarpychakarthangthharaelakarpkkhrxngkhxngemuxngenuxngdwyinrayannxxsieykyngmikhwamesiyngthicathukxxtotmnrukklbekhamaocmtiidxik emuxnghlwngkhxngrachxanackrslaoweniy hlngcaktkipxyuitkarpkkhrxngkhxngxxsetriyodysineching thangxxsetriyidnachaweyxrmnxphyphekhamatngthinthaninxxsieyk thaihchwngewlatngaetplaykhriststwrrsthi 18 cnthungsinsudsngkhramolkkhrngthisxng xxsieykmichnechuxsayeyxrmnepnhnunginprachakrklumhlkkhxngemuxng hlngcaksnthisyyakharolwithsidyunynxanackhxngxxsetriyehnuxxxsieykxyangepnthangkar thangxxsetriykidkahndihxxsieykepnemuxnghlwngkhxng xngkvs Kingdom of Slavonia okhrexechiy Kraljevina Slavonija mithanaepnaekhwnthuxepnswnhnungkhxngthngrachxanackrokhrexechiyaelaxanackrhngkari sungtxnnnktangthukpkkhrxngodyxanackrxxsetriyepnhlk tngkhuncakdinaednthiidrbmacakkarxxtotmninchwngsngkhramxxsotr xxtotmn aemcaidchuxwaxyuepnswnhnungkhxngokhrexechiyaelahngkari thwainewlannxxsetriyepnphumixanacinkarpkkhrxngphthnaemuxngxxsieykodyaeth thaihxxsieykidrbkarphthnaxyangtxenuxngcnerimkawkhunmaepnsunyklangindantangkhxngphumiphakhslaoweniynbaetbdnn inpi kh s 1786 thisudaelwchumchnkhxngxxsieykthngsamswninewlannkhux kxrnyi krad thewxrca aela dxnyi kradkidrwmekhamaepnemuxngxnhnungxnediywkn opskardemuxngxxsieykinpi kh s 1900 inpi kh s 1809 xxsieykidrbsiththiepn Free Royal City thaihemuxngmixanacinkarcdkareruxngkarbriharpkkhrxngaelaphthnaemuxngidexngodyimtxngphankhwamehnchxbcakkstriy aelainewlannxxsieykmithanaepnthungemuxngsungmiprachakrmakthisudepnxndbthi 1 phayindinaednswnokhrexechiythnghmd dwyehtunnxxsieykcungmichuxesiyngindanepnaehlngsunyklangkarkhakhayaelanganchangfimuxaekhnngtang rwmthungerimmikarkxtngxutsahkrrmkhunphayinemuxngechn xutsahkrrmphlitphnthcakesnihmtngaetpi kh s 1774 aelaerimepnsunyklangthangkarkhmnakhmipyngswntangkhxngslaoweniytawnxxkaela rahwangkarptiwtipi kh s 1848 1849 sungthanghngkariidphyayamaeyktwxxkcakxanackrhbsburk rachxanackrslaoweniyidtdsinicekhaipxyufayediywkbthangrachxanackrokhrexechiysungsnbsnunfnghbsburkinkarrbkbfayhngkarisungcaaeyktwxxk cninthisudthangfnghngkarikphayaephimsamarthaeyktwxxkipidaelatxmaemuxmixnepliynaeplngihklayepnxxsetriy hngkari thangfayokhrexechiykidmikarecrcakbthanghngkariodyyxmrbihhngkariekhamathuxexadinaednkhxngrachxanackrokhrexechiyaelarachxanackrslaoweniyekhaepndinaedninpkkhrxngodytrngkhxnghngkari dwyehtunncungepnkarsinsudkarmixyukhxngrachxanackremuxidthukrwmekhaepninpi kh s 1868 hlngcakchwngewlaniexngthisaekrbidaesnghnaxxsieykkhunmaepnemuxngthimikhwamsakhymakthisudkhxngokhrexechiyinkhnathixxsieykkhxyidrbkhwamsnicinkarphthnaemuxngnxylng krannkyngkhngepnemuxngihythisudkhxngphumiphakhslaoweniyaelaepnsunyklangesrsthkicaelawthnthrrm odyechphaachwngplaykhriststwrrsthi 19 idmikarepidsakhaornglakhraehngchatikhxngokhrexechiykhun aelachwngtnkhriststwrrsthi 20 kyngthuxepnemuxngxutsahkrrmxndbhnungkhxngfngokhrexechiyxikdwy thangrthifsayaerkidechuxmmayngxxsieykinpi kh s 1884 odyichsahrbedinthangipyngemuxng phan aelainpiediywknnnxxsieykidepnemuxngaerkinekhtokhrexechiysungmirthrangbrikarwinginemuxng ekhtpkkhrxngyxyxxsieyk chwngpi kh s 1922 1929phlkrathbcaksngkhramolkthngsxngkhrng hlngcakkarlmslaykhxngxanackrxxsetriy hngkarihlngsngkhramolkkhrngthi 1 xxsieyksungxyuinswnsungaeykxxkmaepnrthkhxngchawesirb okhraexth aelasolwin xngkvs State of Serbs Croats and Slovenes idekharwmkbrachxanackresxrebiyephuxkxtngrthrwmkhxngodyechphaa inkhnaxxsieykthuxwaepnemuxnghnungsungmikhwamphrxmthangdanxutsahkrrmxyangsung hakaetkarchwngchingkhwamepnihyknrahwangfaychawokhraexthkbchawesirbsungchawesirbyudexaxanackarpkkhrxngswnihykhxngrthihmaehngniipxyuinmuxidmakkwa thaihxxsieykkhadkarphthnathitxenuxngtangcakkxnhnainsmyxyuitkarpkkhrxngkhxngxxsetriy hngkari aelakhxyerimtnekhasuyukhthikhwamsakhykhxngemuxngerimtktalngxyangehnidchd inchwngaerknnxxsieykthukrwmiwinswnkaraebngdinaednpkkhrxngyxyrwmkbdinaednokhrexechiyswnihythiimidxyutidthael cnkrathngpi kh s 1922 cungidmikaraebngekhtkarpkkhrxngihmphayinrachxanackrchawesirb okhraexth aelasolwinkhunxikkhrng odyxxsieykidaeykxxkmaepnemuxngexkkhxngekhtpkkhrxngyxysungminamtamchuxkhxngemuxngkhux ekhtpkkhrxngyxyxxsieyk xngkvs Osijek Oblast aetephiyng 7 pi kmikarepliynaeplngkaraebngekhtpkkhrxngyxyxikkhrngodyichlumaemnaihykhxngaetlaphunthiepntwkahndekht khranixxsieykthukcdihipxyuinekhtpkkhrxngyxysawa xngkvs Sava Banovina inpi kh s 1941 ecachayphxl phusaercrachkaraethnmkutrachkumarpietxrsungyngthrngphraeyawekinkwacapkkhrxngrachxanackryuokslaewiy thukthangnasieyxrmnbibbngkhbihtxnglngnaminsyyaepnphnthmitrkbfayxksainsngkhramolkkhrngthi 2hlngcakwangtwepnklangmatlxd thwainspdahtxmaecachayphxlkthukptiwtiokhnxanacinkrungeblekrdaelamkutrachkumarpietxrkidrbkarechiykhunepnphupkkhrxngrachxanackraethnaelathuxepnkarchiksyyaphnthmitrthithaiwkbfayxksa fayxksacungerimkarocmtiyuokslaewiyinwnthi 6 emsayn pi kh s 1941 kxnthikxngkalngkhxngnasieyxrmncaekhamayudemuxngxxsieykidinwnthi 11 emsayn xxsieykinsngkhramolkkhrngthi 2 klaysphaphepnemuxngchayaednrahwangrthxisraokhrexechiykbhngkari hlngekhayudkhrxngyuokslaewiyidsaerc thangnasieyxrmnidihkarsnbsnunklumchatiniymhwrunaerngchawokhrexechiyinnam xngkvs Ustasha okhrexechiy Ustasa khunmaepnrthbalpkkhrxngrthhunechidokhrexechiysungaeykxxkmacakyuokslaewiyaelaxyuitxanackhxngnasi txmaidmikaraebngsrrphunthikhxngyuokslaewiyinhmuphnthmitrfayxksaknaelathangehnuxkhxngemuxngxxsieykthiepnfngsayaemnadrawaidthuksngihipxyuinkhwamduaelkhxnghngkari thaihxxsieykklaysphaphepnemuxngchayaednrahwangrthxisraokhrexechiyitxanackhxngnasikbpraethshngkariinyamnn odychawemuxngechuxsayeyxrmnidihkarsnbsnunfaynasixyangetmtw chumchnchawyiwinxxsieykthikxnhnasngkhramolkkhrngthi 2 ekhymicanwnchawyiwthung 2 584 khn idthukkwadlangxyangsineching obsthyiwkhxngemuxngthukthalay chawyiwinxxsieykthuksngxxkipthisungepnkhaysngharthiihythisudinokhrexechiyinchwngsngkhramolkkhrngthi 2 sungkarkwadlangchawemuxngnimiidekidechphaaaekchawyiwephiyngklumediyw aemaetchawemuxngechuxsayokhraexthexnghakmithathitxtanfayxksahruxsnbsnunthiepnkhbwnkarekhluxnihwtxtannasikhxngkcathuksngipyngkhaykkknechnkn phayitchwngewlann orngklnnamnkhxngxxsieykthukmxbhmayhnathiihthakarklnnamnphlitechuxephlingihaekfayxksa aelainchwngeduxnemsayn phvscikayn kh s 1941 inemuxngkepnthitngkhxngsunybychakarswnphumiphakhkhxngkxngthharchawokhraexththithakarsurbihkbfayrthxisraokhrexechiy xyangirktamnnkthaihxxsieyktkepnepahmayinptibtikarkhxngfaysmphnthmitrthicaichekhruxngbinthingraebidocmtithalayaehlngphlitnamnkhxngfaynasieyxrmninwnthi 14 mithunayn kh s 1944 aelainchwngvduibimphlikhxngpi kh s 1945 hlngcaksamarthrukilrwbrwmphunthikhxngyuokslaewiykhuncakfayxksaideruxy wnthi 14 emsayn kh s 1945 xxsieykkthukkxngkalngpartisankhxngyuokslaewiyyudidkxncacbsngkhramolkkhrngthi 2 ephiyngimnan prachakrkhxngxxsieykthiepnkhnechuxsayeyxrmnswnmakcahlbhnixxkipphrxmkbkarthxnkalngthharkhxngnasixxkcakyuokslaewiychwngthikalngthukpartisanrukilekhamainchwngplaysngkhram aelabangswnthiimhlbhnixxkipkthukyudthrphysinaelathuksngipepnnkothsinkhayichaerngnganinkhxhaihkhwamrwmmuxkbnasi dngnnsngkhramolkkhrngthi 2 niidthaihxngkhprakxbkhxngprachakrinxxsieykepliynaeplngxyangmakthngchawyiwaelachnechuxsayeyxrmn odypccubnthngsxngklummicanwnephiyngimthung 1 khxngprachakrinemuxngthnghmd chwngewlainshphnthrthsngkhmniymyuokslaewiy hlngsinsudsngkhramolkkhrngthi 2 bthbathkhxngxxsieykinthanaemuxngsungmikhwamefuxngfuthangwthnthrrmmayawnanaethbcathukaethnthikhwamsakhydwyhnathikhxngkarepnemuxngxutsahkrrmephiyngxyangediyw odyxutsahkrrmhlkinemuxngyngkhngepnorngklnnamn xutsahkrrmphlitphnththangekhmiphnth orngngannatal efxrniecxr xutsahkrrmaeprrupxahartang orngaermxxsieykthiepntuksungthisudinemuxng danhlngkhuxsaphanedinethakhamaemnadrawa okhpachki rith sungepnpaphsmbungnasungxyuimhangxxsieykmaknk klayepnsthanthioprdthihnungkhxnginkarmaphkphxnlastw thaihthukcdepnekhtkhumkhrxngthangthrrmchatiaehngaerkinphumiphakhslaoweniy hnngsuxphimphthxngthinkhxngslaoweniykhux Glas Slavonije idyaymatngsanknganihyinxxsieyktngaetchwngewlaniaelapccubnkepnhnngsuxphimphthitiphimphcahnayhlkinslaoweniy chwngyukh 1970 1980 idmikarphthnasakhykhxngemuxng inpi kh s 1975 idmikarkxtngmhawithyalyxxsieykkhun odynbepnmhawithyalythitngkhunihmsudincanwnmhawithyalythnghmdinokhrexechiy karkxsrangorngaermxxsieyksungepnorngaermthihruhrathisudkhxngemuxngaelaepnsingkxsrangthisungthisudkhxngemuxngrxngcakobsthesntpietxraelaphxlinpi kh s 1978 txmasthaniothrthsnhlkkhxngyuokslaewiyinewlannkidmaepidsakhaphumiphakhthixxsieyksungthukwnnisubthxdtxmaepn HR Osijek sthaniphumiphakhkhxng HRT hruxsthaniwithyuaelaothrthsnhlkkhxngokhrexechiyinpccubn karsrangaelaepidihbrikarsnambinxxsieyksungxyuhangcaktwemuxngip 20 kiolemtr aela karsrangsaphankhnedinethakhamaemnadrawasungnbepnsylksnthioddednxyanghnungkhxngemuxngcnthungthukwnni phunthiphayinokhrexechiythithukchawesirbtidxawuthyudip aelatngepnsatharnrthesxrebiyn khrayina siaedng sngkhramprakasxisrphaphkhxngokhrexechiy hlngkarthungaekxsykrrmkhxngcxmphltiotinpi kh s 1980 sthanphaphthangkaremuxnginyuokslaewiyerimklbmatungekhriyddwyinaetlarthkmikarekhluxnihwthangaenwkhidchatiniymknephimkhun thangokhrexechiyaelasoleweniymiaenwonmthicaaeykcnxxkepnklumaerkdwyimphxicthithangesxrebiyphyayamcadungxanacipxyuinmuxtnmakekinip inthisudchwngpi kh s 1990 thangokhrexechiyidcdkareluxktngkhunkhrngaerkhlngcaklmelikkarpkkhrxngaebbkhxmmunistphayinpraeths sungkid xngkvs Franjo Tudjman khunmaepnprathanathibdikhnaerkkhxngokhrexechiy odythucmanekhymiprawtithukcbkuminsmycxmphltiotyngpkkhrxngyuokslaewiyxyuinthanthirwmdaeninkarekhluxnihwthangchatiniymkhxngkhnechuxsayokhraexthinthswrrsthi 70 emuxidrbtaaehnngprathanathibdi thucmanidaesdngectcanngxyangednchdthicaaeykokhrexechiyxxkepnpraethsexkrachcakshphnthrthyuokslaewiy thathikhxngthucmanidkxihekidkhwamtungekhriydthangechuxchatirahwangchawokhraexthaelachawesirbthixasyxyuinokhrexechiyinewlannsungmimakthungraw 12 khxngprachakrinokhrexechiythnghmd inaethbtangsungmichawesirbxasyepncanwnmak erimmikartxtanxanaccakrthbalklangkhxngokhrexechiyrwmthungthangtawnxxkkhxngphumiphakhslaoweniydwy inxxsieykexngsungewlannmiprachakrinemuxngepnkhnechuxsayesirbthungekuxb 20 kidrbphlkrathbechnkn aemcaimekidkhwamrunaerngodytrngphayinemuxngxxsieykinchwngkxnkarprakasxisrphaphkhxngokhrexechiy aetinchumchmrxbbangthinnidekidkarpathaknkhxngchawokhraexthkbchawesirbaelaerimthwikhwamrunaerngkhuneruxy inchwngpi kh s 1991 kxnokhrexechiycaprakasxisrphaphxyangepnthangkar idmiphubychakartarwckhxngemuxngxxsieykkhux oysip irhl khir okhrexechiy Josip Reihl Kir idphyayamepntwklangecrcaihthngchawokhraexthaelachawesirbinchumchnlaaewkiklemuxngxxsieykhnmaecrcaknodysntiaethnthicapathakndwyxawuth thwakhwamphyayamkhxngirhl khirkimbngekidphl emuxekhathuksngharphrxmkbecahnathifaypkkhrxngkhxngemuxngxxsieyksxngkhnodychawokhraexthtidxawuthhwrunaerngsungimtxngkarecrcakbfaychawesirb inkhnarthyntkhxngphwkekhatiddantrwckxncaekhaipyngchumchnethnyathangdanitkhxngxxsieykthimikarndaenaihthngsxngfaymatklnghyudyingkn hlngkaresiychiwitkhxngirhl khir phusungmixanacinkarduaelkhwameriybrxykhxngemuxngxxsieyksunginchwngeduxnkrkdapinnerimekhasuphawasngkhramkhux branimir klawach okhrexechiy Branimir Glavas sungepnphusnbsnunaenwkhidchatiniymokhraexthhwrunaerng aephnthiaesdngaenwkarrbinfngslaoweniytawnxxk kh s 1991 92 emuxngxxsieykxyuthangmumbndansay inwnthi 27 mithunayn kh s 1991 sxngwnhlngprathanathibdithucmanprakasihokhrexechiyepnexkrachcakyuokslaewiy ehtukarnthiepnkarerimepidchakphawasngkhraminxxsieykidekidkhun emuxidmikarnarththngkhxnghnwythhar JNA kxngthphrwmkhxngyuokslaewiy xxkmawingkxkhwamwunwaykhmkhwychawemuxngbriewnthnnethxrpimirkbthnnwukhxwar inehtukarnnnimmiphuesiychiwit aetmirthyntidrbkhwamesiyhayaelamiphubadecbbang khnathirththngkalngxxkmawingbnthnnnn idmithharechuxsayokhraexthkhnnungtdsiniccxdrthkhxngtnkhwangrththngklangthnnsungkthukrththngbdkhyiesiyhayimehluxsphaphedim krannkaraesdngxxknnkidklayepnphaphtidtaphaphhnungkhxngkartxtankaraesdngxanacthangthharkhxngkxngthphrwmyuokslaewiythicakhmkhwychawemuxngimihlukkhunmasu emuximmikarsantxkhwamphyayamkhxngirhl khirthicaecrcaxyangsnti inthisudfaychawesirbsungcbxawuthkhunmatxtanrthbalokhrexechiyidrwmmuxkbkxngthphrwmyuokslaewiysungkhamfngmaihkarchwyehluxfaychawesirbinkartxsukbfngokhrexechiyodyxangwathaephuxrksaxthipitykhxngyuokslaewiyaelapkpxngchawesirbsungepnphlemuxngkhxngyuokslaewiy dwykhwamesiyepriybkhxngfaychawokhraexthsungthukkxngthphrwmyuokslaewiyeriykkhunxawuthipkxnhnacaekidsngkhramipcakkxngkalngthharkhxngokhrexechiy thaihthukradmocmtiphrxmknhlayphunthiaelaesiydinaednipihfaychawesirbsungyudphunthiipaelaprakaskxtngrthchawesirbsungimkhunkbrthbalokhrexechiy eriykknwa xngkvs Republic of Serbian Krajina esxrebiy Republika Srpska Krajina aelaepnkarepidthangihkxngphnthharcakyuokslaewiysungmithanthphxyuthiemuxngnxwisadrukekhamainfngokhrexechiyidodysadwk rxngrxykhwamesiyhaycaksngkhrambntwxakharbangaehngyngkhngmiihehn inchwngkhwamtungekhriydkhxngsngkhramthungcudsungsud xxsieykthuklxmodyphunthikhxngfayesirbtidxawuthtlxdaenwthisehnux tawnxxk aela it miephiyngthistawntkethannthiyngepnesnthangichedinthangtidtxknemuxngxuninokhrexechiyidodyphanthangrthifthiechuxmipyngemuxngnasithes cakkxnsngkhramthiprachakrinemuxngmiraw 114 000 khn hlngcakemuxngthukradmocmtithngodyrththng krasunpunihy aelaaemaetthingraebidcakekhruxngbinrb thaihprachakrinemuxngphaknxphyphhnixxkipcnmiprachakrinrayannehluxxyuephiyng 1 3 aelaswnmaktxnghlbxyuinthihlbphychnitdincakkarthukradmyingisimewnwntngaetplayeduxnkrkdakhmcnthungeduxnthnwakhmkhxngpi kh s 1991 phlcakkarthukocmticakfaychawesirbtidxawuthaelakxngthphrwmyuokslaewiysrangkhwamesiyhayxyanghnkihaekemuxngaelamikhnesiychiwitipekuxbphnkhn emuxkhunpi kh s 1992 idmikartklngsnthisyyahyudying Vance Plan thithaihkarradmocmtixxsieykmixtraebabanglngaetkmiidhyudodysineching sunghlngcakmisnthisyyahyudyingni thangshprachachatikidthyxysngkxngkalngthhartangchatiekhamaduaelkhwamsngbimihthngsxngfayephchiyhnaknodytrngxik aelathngthangokhrexechiyaelayuokslaewiytangkebnekhmsngkalngphliprbinsngkhraminbxseniyaethnesiyepnswnihyhlngcakmikhxtklnghyudyingni phunthithithukchawesirbyudipinsngkhrampi 1991 1995 thiokhrexechiyimsamarthyudkhunmaid sifa xyangirktam aemwafaychawokhraexthcaepnfaytngrbkarrukrancakfaychawesirbtidxawuth aetinewlannexngthikxngkalngchawokhraexththitxsupxngknemuxngxxsieykexngkidmikarkxxachyakrrmsngkhramdwykarkhumkhngtwphlemuxngechuxsayesirbinemuxngxxsieykkxncathakartharunkrrmaelasnghar inpi kh s 2008 salokhrexechiyidtdsinwa branimir klawach mikhwamphidinthanasngkarihkrathatharunchawesirbsungepnphlemuxngthrrmdaphayinemuxngxxsieykinchwngthiepnphubychakarkxngthharthipxngknemuxngxyu pccubnniklawachthukcakhukxyuinbxseniyaelaehxresokwinahlngcakhlbhnikarcbkumkhxngthangokhrexechiyekhaipinbxseniysungekhamiphaspxrththuxsychatirwmkbsychatiokhrexechiyxyu aemwainchwngsungthangfaychawesirbaelakxngkalngcakyuokslaewiycathwikarkddnocmtithungkhnsungsudkxnmikartklnghyudyingnn faykxngkalngchawokhraexthcasamarthpxngknemuxngiwidcnfayesirbimsamarthbukekhamaaelayudidodysinechingechnemuxngwukhxwarthixyuhangxxkipraw 30 kiolemtr thaihxxsieykidrbsmyanamwa xxsieyk emuxngsungimphayaeph xngkvs Osijek Unconquered city okhrexechiy Osijek Nekoporeni Grad krannbangswnkhxngemuxngechn yanchumchnethnyathangdanit aelafngsaykhxngaemnadrawathangthisehnuxkhxngemuxngnnthukrwmekhaipepnswnhnungkhxngesxrebiy khrayina aelaimsamarthexaklbmaidintlxdchwngthiehluxkhxngsngkhramprakasxisrphaphkhxngokhrexechiycnkrathngcbsngkhramodysinechinginpi kh s 1995 aemwadinaednesxrebiynkhrayinaswnxuninokhrexechiycathukkxngkalngthharokhrexechiybukyudklbmaidhmdinyuththkarphayu xngkvs Operation Storm thiptibtikarintneduxnsinghakhm kh s 1995 odyesxrebiyn khrayinaephiynghnungediywthiehluxxyuinekhtslaoweniytawnxxkniidklayepn ekhtpkkhrxngslaoweniytawnxxk baraya aela siremiytawntk xngkvs Eastern Slavonia Baranja and Western Syrmia bxseniy okhrexechiy mxnetenokr esxrebiy Istocna Slavonija Baranja i Zapadni Srem sungepnekhtpkkhrxngthiimidrbkaryxmrbcaksaklolkaelaimidxyuinxanackhxngthngokhrexechiyaelayuokslaewiyinyamnn dwykarekhamaepntwklangiklekliykhxngshprachachati thaihchwngpi kh s 1995 1998 ekhtpkkhrxngniidxyuinkhwamduaelkhxngshprachachatiaelakhxyecrcaephuxkhundinaednniihaekthangokhrexechiyodysnti inthisuddinaednnikklbekhaepnswnhnungkhxngokhrexechiyinpi kh s 1998 hlngmikaresnkhxtklngexrduth xngkvs Erdut Agreement thwainrahwangchwngthiphunthinixyuitkhwamkhwbkhumkhxngklumchawesirbtidxawuth prachakrechuxsayokhraexthswnmakhakimthukkhbilxxkipkcathuksngharip inthangklbkn prachakrchawesirbkhxngxxsieykcakthiekhymiekuxb 20 chwngkxnsngkhramkklbldcanwnlngehluxaekhimthung 8 inkarsarwcpi kh s 2001karpkkhrxngprachakresrsthkickarkhmnakhmthanghlwngsay E73 A5 sungepnesnthangthnnsayhlkechuxmkaredinthangcakxxsieykipyngemuxnghlkemuxngxuninokhrexechiyaelahngkari esnsiekhiyw xxsieykxyuhangcakemuxnghlwngkhxngokhrexechiykhuxsaekrbraw 280 kiolemtr aemwacaimidxyubnthanghlwngsayhlk E70 sungechuxmtxsaekrbkbeblekrd xditemuxnghlwngkhxngyuokslaewiy aetimhangcaktwemuxngxxsieykmaknkthangthistawntknn mithanghlwngsay European route E73 A5 sungechuxmcakbudaepstphanchayaednhngkariaelaokhrexechiyinaenwehnux it odythanghlwngsay E73 caiptdkbthanghlwng E70 sungthxdtwaenwtawntk tawnxxk thiemuxng ewlika okhpanithsa inaekhwngsungxyuthangthisitkhxngaekhwngxxsieyk baraya swnkaredinthangdwyrthodysar xxsieykmiesnthangkhxngrthodysarcaksaekrb hruxaemkrathngrthodysarcakpraethsxunechn esxrebiy sthanirthifkhxngxxsieyk nxkcakkaredinthangthangthnnaelw xxsieykyngmiekhruxkhaythangrthiftxechuxmkbsayrthifesnhlkipyngemuxngxunkhxngokhrexechiyrwmthungsamarthedinthangtxyngiphngkariiddwy odysthanirthifkhxngxxsieykxyuimhangcakicklangemuxngaelamisthanirthodysarhlkkhxngemuxngxyueyuxngiklkn khnaediywknnn karedinthangipyngxxsieyksamarthichbrikarcaksnambinxxsieyk xngkvs Osijek Airport okhrexechiy Zracna luka Osijek tngxyuhangcaktwemuxngipthangthistawnxxkechiyngitraw 20 kiolemtrinxanaekhtrxytxrahwangaekhwngxxsieyk baraya kb aekhwngwukhxwar siremiy odyiklsnambinmithnnsayhlksungechuxmemuxngxxsieykkbemuxngwukhxwartdphan pccubnni misaykarbinephiyngsxngsaykarbinthiihbrikarethiywbinipyngemuxngxxsieyk khux Ryanair bincaksnambin London Stansted Airport aelasaykarbinphayinpraethsokhrexechiy Trade Air bincaksnambinsaekrb aephnthiesnthangrthrangthngsxngsaykarkhmnakhmphayinemuxng cudednthisudxyanghnungkhxngxxsieykkhuxepnephiyngemuxngediywinokhrexechiythiyngmirabbedinrthrangphayinemuxngnxkehnuxcakkrungsaekrb odyprawtirabbrthrangkhxngxxsieyknnerimtninpi kh s 1884 inchnaerkepnrthrangmalakichkhnsngphukhncaksthanirthifkhxngxxsieykmayngctursklangemuxngaelaepnrabbedinrthrangaehngaerkkhxngokhrexechiy txmaidepliynepnrthrangkhbekhluxndwyrabbiffainpi kh s 1926 thukwnnirabbedinrthrangkhxngxxsieykprakxbipdwyesnthangrthrangsxngsay say 1 wingrahwangkxrnyi krad inyanerthfalaiptamthnn phanmunghnaipthamcnipthungyandxnyi kradsay 2 wingcakctursxnet stareswich iptamthnnsuphaniska cakhxfstina kxneliywipthangthistawnxxkphansnamkilapracaemuxng wingiptamyanthixyuxasykxnipklbrththicudwngewiynaelwwingklbyxnmatamesnthangedimcnthungcakhxfstinaxikkhrng rthrangkhakhuncaeliywkhwaekhaipphansthanirthodysaraelasthanirthifkxnmungklbipthithnnyuorepiyn xewniwinesnthangediywkbrthrangsay 1 epnrayathangsnkxnklbmatngtnthictursxnet stareswichxikkhrngrthranginxxsieyk esnthangrthrangsay 1 nn caepnsxngrangkhukhnanknbnkhnlafngkhxngthnn thwaesnthangrthrangsay 2 tngaetkthskaepntnip camiephiyngrangediyw emuxrthrangcawingswnknktxngmikhnhnunghlbekharangesrimsungmiepnrayatamsthaniephuxhyudrxihkhnthiswnmabnrangediywknnnwingphanipkxncungkhxyklbmawingbnranghlk inwnthi 30 phvscikayn kh s 2014 idmikarepidichesnthangkhyayephimetimkhxngrthrangsay 1 odyepnesnthangihmwingipthangtawntkkhxngyanwichenwthssungedimepnsthaniplaythangkhxngrthrangsay1 odymikarepidcudcxdrthrangephimkhunxik 5 cud nxkcakrthrangaelw rabbkhnsngmwlchnkhxngxxsieykswnihycaepnesnthangrthodysarinyanthirthrangwingipimthunghruxsahrbedinthangipyngchumchnxunphaynxkwthnthrrmaephnphngokhrngsrangdngedimkhxngthewxrcathiyngkhngmikaaephngrupaechkkhlaydawlxmrxbaeplnkhyaykhxnghmuxakharinicklangthewxrcasthaptykrrm khxbekhtemuxngekakhxngxxsieyknnodymakthuksrangkhunmaihmhlngcakkarekhamakhxnghbsburk odyechphaasingkxsrangxyangaerksungsakhythisudemuxthanghbsburkyudemuxngklbmacakthangxanackrxxtotmnidkhux okhrexechiy Tvrđa hrux hmupxmprakarrimaemnadrawasungsrangkhunepnthngpxmprakarthangkarsukaelaepnthitngkhxnghnwynganrachkartangsungmikhwamekiywkhxngkbngandankarthharaelakarbriharpkkhrxngemuxng erimthakarkxsranginpi kh s 1712 inyukhthikarsukrahwanghbsburkaelaxxtotmnyngkhngimsngbdiaelaxxsieykyngxyuinphunthixnyngsamarththukxxtotmnkhukkhamid xakharswnmakkhxngthewxrcaepnsilpaaebbbaorkh inicklangkhxnghmuxakharepnlankwang miesaxnusawriythisrangkhuntamkhwamechuxkhxngsasnakhristnikayormnkhathxlikephuxepnkarkhxbkhunphraphuepnecaemuxsinsudkarekidorkhrabadinemuxngemuxpi kh s 1729 swnkaaephngsungekhylxmrxbpxmprakarxyangaennhnannthukthalaylnginchwngthswrrsthi 20 ephuxepidthangihmikarkxsrangphthnaemuxngidngaykhun pccubn thnnyuorepiynxewniwthitdphaniklthewxrcakxyuinphunthiekhyepnaenwkaaephngmakxn inthukwnnithewxrcaepncuderiyknkthxngethiywthiidrbkhwamniymmakthisudkhxngemuxnginthanaepnhmupxmprakarsranginsilpaaebbbaorkhsungyngkhngsphaphkhwamsmburnidmakthisudinpraethsokhrexechiyaelamikarphyayamphlkdnephuxihidrbkarphicarnaepnmrdkolkaemwachwngsngkhramolkpraxisrphaphkhxngokhrexechiyinchwngpi kh s 1991 1995 caidrbkhwamesiyhayphxsmkhwraelayngthakarburnaxyueruxyma xakhartangthiekhyepnthitngkhxnghnwynganthharinsmyhbsburkkklayepnranxahar sthanbnethingtxnklangkhun phiphithphnth thiwakarkhxngemuxng rwmthungxakharxthikarbdikhxngmhalywithyalyxxsieyk phaonramacakthistawntkechiyngitkhxngpxmthewxrcainpccubnthikaaephngsungekhylxmiwthukthalayekuxbhmdaelw inewlatxma sthaptykrrminxxsieyksungxyuinkhwampkkhrxngsubtxmacnthungckrwrrdixxsetriy hngkarikerimidrbxiththiphlkarkxsrangxakharinsitl xngkvs Secessionism sthaptykrrmaenwnicakracuktwknxyuinyankxrnyi krad ehnuxkhunipthangtnaemnacakthewxrcaiptamthnnyuorepiynxewniwcnthungctursxnet starechwichthithuxepnctursicklangemuxngkhxngxxsieyk sranginchwngplaykhriststwrrsthi 19 thungchwngtnkhxngkhriststwrrsthi 20 singkxsrangthiepncudednkhngxyumacnthungpccubnsungsranginyukhsmyniprakxbipdwy obsthentupietxraelaphxl xakharornglakhraehngchatisakhaemuxngxxsieyk orngphaphyntrkhionyuraeniy hlngsngkhramolkkhrngthisxng rupaebbkarkxsranginemuxngidepliynaeplngipepnaenwkhxmmunistsungimennkhwamswyngamkhxngsthaptykrrmthixxnchxyechnedim hakaetsranginrupaebberiybngayyudpraoychnichsxyepnhlk chwngniexngthierimmixakharthixyuxasyaebbaefltepnblxkphudkhunmainbangyan odysthaptykrrmaebbkhxmmunistsungepnexklksnthisudkhxngemuxngkhuxtwxakharkhxngorngaermxxsieykrimfngaemnadrawa aela saphankhnedinethakhamaemnadrawasunginxditekhythukkhnannamwasaphanaehngkhwameyawwyephuxepnekiyrtiaek nbaetokhrexechiyidrbxisrphaphma kerimmikarsrangxakharinruplksnthnsmyechn xakharsanknganyuordxmthiepnxakharthrngrielkhakhnit sthaptykrrmcaksmyxyuinkarpkkhrxngkhxngxxsetriy hngkari obsthesntimekhilinthewxrca xakharsthaptykrrmaebbesesschnnist aethwxakharaebbesesschnnistinkxrnyi krad khionyuraeniy ornglakhraehngchatisakhaemuxngxxsieyk sthaptykrrmcaksmyyuokslaewiycnthungpccubn orngaermxxsieyk aefltthixyusrangsmykhxmmunist saphankhnedinethakhamaemnadrawa xakharsanknganyuordxm ctursaelaxnusrnsthantang lanxisrphaph Trg Slobode briewnctursxnet starechwich lanSvetog Trojstva klangthewxrca xnusrnsthanwirburusinsngkhramprakasxisrphaph Red Fico obsthesntpietxraelaphxlmxngcakfngornglakhraehngchatisasnsthanaelaphiphithphnth sasnasthanthiednthisudkhux xyueyuxngctursklangemuxngodysrangcakdarikhxngmukhnaykoysip yuray strxsmaeyxrinplaykhriststwrrsthi 19 insilpaaebbnioxokthikh srangcakxithaelamihxsungsungthung 90 emtr nbwaepnsingkxsrangthisungthisudinokhrexechiynxkehnuxcaktukrafaaelayxdkhxngmhawiharinkrungsaekrb idrbkhwamesiyhaycakkarradmyingcakfaychawesirbtidxawuthinsngkhramchwngthswrrsthi 90 aemsphaphphaynxkswnihycadaeninkarburnaaelwaetkyngmibangswnyngkhngtxngburnaephimetimxyukrathngthukwnni nxkcaknnaelw sasnsthaninsasnakhristthisakhykhxngemuxngkhuxobsthesntimekhil aela obsthfransiskn tngxyuphayinthewxrcathngkhu odyobsthesntimekhilepnobsthsiehluxnginsilpaaebbbaorkhmiyxdodmsungkhnansxngkhangkhxngtwxakharsrangodykhnaeysuxith swnobsthfransisknnnepnobsthsikhawsranghangxxkmacakobsthesntimekhilmathangtawnxxkhangknpramansamblxk phiphithphnththangobrankhdiinthewxrca xxsieykekhymichumchnchawyiwthiyngyuninchwngkxnsngkhramolkkhrngthisxng pccubnaemcamichawyiwxasyxyuepncanwnimmaknkaetkyngkhngmiobsthyiwxyuinekhtkxrnyi krad phayinekhtthewxrca miphiphithphnthpracaemuxngsxngaehngthimikhwamsakhyimdxykwakn aehngaerkkhuxphiphithphnthslaoweniy okhrexechiy Muzej Slavonije sungrwbrwmprawtikhwamepnmaaelakarcdaesdngsingtangthiepnwthnthrrmechphaakhxngphumiphakhslaoweniythnghmdimichaekhthikhudkhnphbinemuxngxxsieykethann phiphithphnthaehngnithuxepnphiphithphnthcdaesdngthwipimichhwkhxechphaathiihythisudinokhrexechiyodyepidtngaetpi kh s 1877 swnxikaehngnungnnkhuxphiphithphnththangobrankhdisungcdaesddngobranwtthutangthikhudkhnphbtngaetmikarerimxyuxasykhxngmnusyinbriewnnitngaetyukhdukdabrrph ethskal wnthithuxknwaepnwnkhrbrxbkarkxtngkhxngemuxngkhux wnthi 2 thnwakhmkhxngthukpi odyepnwnthixanaekhthlkkhxngemuxngthngsamekht kxrnyi krad thewxrca aela dxnyi krad idmarwmknepnxxsieykephiyngemuxngediywhlngcakxyuaeykknmarayahnung wnthi 6 knyaynpi kh s 2014 idmikarcdphaehrdiphrdkhxngbukhkhlrkrwmephsaelaephsthisamkhuninxxsieykepnkhrngaerk nbepnemuxngthisaminokhrexechiysungcdkaredinphaephrdechnnikhun nxkcakkrungsaekrb aela splith aelaepnkhrngaerkthingansamarthphanphnipodyimmiehtukarnrunaerng dntriaelakaraesdng tngaetpi kh s 2004 epntnma thukpiinchwngeduxnmithunayn xxsieykcacdnganaesdngdntrithieriykknwa exxrbn efs xxsieyk xngkvs Urban fest Osijek hruxeriykyxwayuexfox UFO thiepnnganepidoxkasihsilpinthxngthinkhxngokhrexechiyinnganephlngaenwhardrxkh emthl phngkh hiphxp aelaxielkothrnikhaedns idaesdngsdepnrayaewlaraw 3 thung 5 wn xxsieykmiorngeriynsxnthangdntriodyechphaamatngaetpi kh s 1921 aemwakxnhnanncamikarphyayamcdtngorngeriyndntrikhunmaaetkdaeninnganidephiyngimkipiktxngpidtwlngip nkdntrikhnsakhythimibanekidthixxsieykkhux franoy ekhrsma xngkvs Franjo Krezma idrbkarklawkhanwaepnnkiwoxlinxcchriyainyukhkhrunghlngkhxngkhriststwrrsthi 19 hakaetcbchiwitkxnewlaxnkhwrdwywyephiyng 19 picakwnorkh inaetlapicamikaraesdngdntriephuxepnkarsdudiaekekhrsmaaelankdntrithxngthinkhnxun dandntriphunban xxsieykmikhnakaraesdngdntriaelakaretnphunbankhxngokhrexechiysxngkhnaihykhux HKUD Osijek1892 kb HKUD Zeljeznicar aelainaetlapicamikarprakwdaekhngkhnkareln Tambura thiepnekhruxngdntripraephthdidaephrhlayinaethbblkhan ornglakhraehngchatikhxngokhrexechiyidmaepidsakhathixxsieyktngaet kh s 1866 aelacdkaraesdngmacnthungpccubnni snamkradski ewirthkhxngthimexnekh xxsieykkila thimkilasungidrbkhwamniymsungthisudinemuxngkhux thimfutbxl exnekh xxsieyk xngkvs NK Osijek elnxyuinlikfutbxlxachiphkhxngokhrexechiy ichsnamehyakhux xngkvs Stadium Gradski vrt nxkcakfutbxl inemuxngyngmithimkilaxunxikhlakhlayechn wxlelybxl aehndbxl basektbxl xemriknfutbxlaebbsmkhreln odyechphaabasektbxlmithiminemuxngraw 3 4 thim aettngaetklangpi kh s 2014 ma xxsieykidklayepnbanhlngihmihkbthimbasektbxlradblik A 1 likbasektbxlxachiphsungsudkhxngokhrexechiy cakchumchndardasungxyuiklekhiyngaelamikhwamimsadwkeruxngsnamkaraekhngkhn cungidmakhxichsnamkilainrmkhxngxxsieykepnsnamehyaaelaidthakaryaythankhxngthimmayngxxsieykaethnaelaepliynchuxthimepn KK Vrijednosnice Osijek nbepnkhrngaerkinrxbhlaypithixxsieykidmithimbasektbxllngaekhngkhninlikxachiphradbsungsudkhxngokhrexechiy kradski ewirth hxll snamkilainrmhlkkhxngemuxng ngankilapracapisungmichuxesiyngmakthisudkhxngxxsieykkhux aephnoneniyn chaelnc xngkvs Pannonian Challenge epnkaraekhngkhnkilaphadophnpraephth sektbxrd xinilnsekt aela ckryanbiexmexksraykarihythisudinphumiphakhblkhan aelatngaetpi kh s 2009 xxsieykidepnecaphaphcdkaraekhngkhnyimnastikradbnanachatiinchuxraykar Grand prix Osijek odycdkaraekhngthi kradski ewirth hxll snamkilainrmthiihythisudkhxngemuxng srangkhunephuxrxngrbkarrwmepnsnamecaphaphkhxngkaraekhngkhnaehndbxlchingaechmpyuorpinpi kh s 2009 hmukardehxrwathski osokl hmukardehxrwathski osokl okhrexechiy Hrvatski Sokol xngkvs Croatian Falcon thuxepnsylksnxyanghnungkhxngemuxngxxsieyk aetedimmaidrbkarcdtnginchwngplaykhriststwrrsthi 19 odyepncudprasngkhkhxngsmakhm Sokol smakhmkarrwmtwthangchatiniymkhxngchawslafinxxsetriy hngkari ephuxfukfnchayhnumsubthxdthrrmeniymhmuthharekiyrtiyskhxngchawokhraexth hakaetchwnghlngcakokhrexechiyekhamarwmxyuinrthyuokslaewiy karcdtnghmukardkthukykelikipephraathukmxngwaepnkarekhluxnihwthangchatiniymkhxngchawokhraexththicasrangkhwamaetkaeykinyuokslaewiycnmamikarruxfunxikkhrnghlngcakokhrexechiyidklayepnpraethsexkrach inpccubnni ekhruxngaebbkhxnghmukardosoklemuxngxxsieykcaprakxbipdwyesuxyunifxrmsinaenginechdediywkbsiphunhlngtraemuxng swmthbesuxechitsiaedngsd kangekngsidamienguxnechuxkehluxngthxngpradbaelabuthhnngsidasungesmxekha bnsirsaswmhmwksidamikhnnkehyiywpradbthidanhna hakepnhnahnawcamiesuxkhlumyawsinaenginechnknswmthbxikchn mkcapraktinthanahmuthharekiyrtiysewlamingansakhytanginemuxng echn wnkhrbrxbwnkxtngemuxng wnwangphwnghridralukthungphusuyesiyinsngkhramprakasxisrphaphkhxngokhrexechiy nganthangwthnthrrm hruxkrathngechiythngchatiinkaraekhngkhnfutbxlkhxngthimchatiokhrexechiyemuxngphinxng hngkari Pecs tngaetpi kh s 1972 solwieniy Maribor tngaetpi kh s 1995 eyxrmni Pforzheim tngaetpi kh s 1994 ormaeniy Ploiesti tngaetpi kh s 1996 bxseniyaelaehxresokwina Tuzla tngaetpi kh s 1996 switesxraelnd Lausanne tngaetpi kh s 1997 solwaekiy Nitra tngaetpi kh s 1997 hngkari Budapest XIII district tngaetpi kh s 2001 esxrebiy Subotica tngaetpi kh s 2004 khxsxwx Prizren tngaetpi kh s 2010 xitali Vicenza tngaetpi kh s 2014 dawxr suekhxr ekidaelaerimelnfutbxlthixxsieykbukhkhlmichuxesiyngthimiphunephcakxxsieykdawxr suekhxr xditnkfutbxlthimchatiokhrexechiy nkiwoxlininkhriststwrrsthi 19 luoy sewesnski nkiwoxlininkhriststwrrsthi19 20 franoy khuhths nkdntri nkpraphnthephlng aelaphuthakarsuksarwbrwmekiywkbephlngphunbankhxngokhrexechiy mukhnaykaehngmukhmnthlcaokhow xxsieykaelaphumibthbathekhluxnihwthangkaremuxngthxngthininkhriststwrrsthi19 xiwan ewxrodeliyk okhrexechiy Ivan Vrdoljak rthmntrikrathrwngesrsthkickhxngokhrexechiy xangxing Osijek needs 1 9 million a year to fight mosquitoes Croatian Times Croatia s Greenest City Revealed Croatian Week City of Osijek official website khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2014 09 05 subkhnemux 2014 10 20 Osijek Essek Mursa My hometown for more than 74 years Zvonko Springer on Croatianhistory net City of Osijek official website khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2013 10 08 subkhnemux 2013 10 10 Turkish TV Inspires Croats to Rebuild Old Bridgee Balkan Insight Osijek on the City Day is donated mural Sultan Suleiman Bridge across Drava Glas Slavonije phasaokhrexechiy City of Osijek official website khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2013 10 08 subkhnemux 2013 10 10 hungarianheraldry org khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2014 11 12 subkhnemux 2014 11 07 history army mil khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2011 05 22 subkhnemux 2014 11 09 Osijek Jewish virtual library website Croatian Axis Forces in WWII feldgrau com Croatian Activists Commemorate Peace Seeking Police Chief Balkan Transitional Justice Crveni fico Osijek 27 lipnja 1991 Kanal korisnika KarabajaCRO Youtube channel Croatian MP jailed for war crimes BBC News Glavas Case Highlights Impediment to Justice Institute for war amp peace reporting Osijek Airport official website Osijek Airport Ryanair launching new Ex Yugo flights Ex Yugo Aviation Ryanair Adds London Osijek Service Croatia Week Trade air launching scheduled flights Ex Yugo Aviation Osijek Zagreb Flight Returns After 26 Years Croatia Week First Croatian Tram 130 Years Old Today Croatian Week Tram line 2 of Osijek uhi67 s channel on Youtube Tram line was opened through Visnjevac phasaokhrexechiy sib hr inyourpocket com khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2015 04 26 subkhnemux 2014 10 24 Synagogue Location in Upper town Osijek Jewish community of Osijek website Osijek Pride 2014 sepamedia com lingkesiy First Ever Gay Pride Parade in Osijek Incident Free Croatian Week UFO official website khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2015 06 19 subkhnemux 2014 10 25 City of Osijek official website khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2014 09 05 subkhnemux 2014 10 25 KK Vrijednosnice Darda moved to Osijek and changes its name sib hr phasaokhrexechiy History Osijek s Hrvatski Sokol official website phasaokhrexechiy City of Osijek official website khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2014 09 05 subkhnemux 2014 10 20 Minister and his closest associates Croatian Ministry of Economy website 24 tulakhm ph s 2557 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin date help aehlngkhxmulxunhttp www glas slavonije hr Osijek hnngsuxphimphthxngthinkhxngslaoweniysahrbtidtamkhawsarinemuxngxxsieyk phasaokhrexechiy http www sib hr vijesti osijek html ewbkhawsarinaethbslaoweniyaelabaraya phasaokhrexechiy http mojosijek hr phasaokhrexechiy bthkhwampraeths dinaedn hruxekhtkarpkkhrxngniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldkhk