วัดจ์เนส (ภาษาอียิปต์โบราณ Wadj-nes ซึ่งแปลว่า "ลิ้นสด") หรือที่รู้จักในพระนาม วัดจ์ลาส, โอโกทลาส และทลาส เป็นฟาโรห์แห่งอียิปต์โบราณในสมัยราชวงศ์ตอนต้น ซึ่งอาจจะทรงปกครองในช่วงราชวงศ์ที่สอง เนื่องจากรูปแบบพระนาม "วัดจ์เนส" ไม่ได้เป็นพระนามของฟาโรห์ในช่วงเวลาดังกล่าว แต่มักจะปรากฏในบันทึกพระนามที่บันทึกขึ้นในช่วงรามเสส ในปัจจุบัน นักไอยคุปต์วิทยาได้พยายามเชื่อมโยง ฟาโรห์วัดจ์เนสกับกษัตริย์ฮอรัสในช่วงเวลาต้นยุคราชวงศ์
วัดจ์เนส | |||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
วัดจ์ลาส, โอโกทลาส, โอทลาส, ทลาส | |||||||||||||||||||||||||
พระนามคาร์ทูชของฟาโรห์วัดจ์เอนเอสในบันทึกพระนามแห่งอไบดอส (คาร์ทูชหมายเลขที่ 12) | |||||||||||||||||||||||||
ฟาโรห์ | |||||||||||||||||||||||||
รัชกาล | ไม่ทราบระยะเวลาครองราชย์ | ||||||||||||||||||||||||
ก่อนหน้า | บาเนทเจอร์ | ||||||||||||||||||||||||
ถัดไป | เซเนดจ์ | ||||||||||||||||||||||||
| |||||||||||||||||||||||||
ราชวงศ์ | ราชวงศ์ที่สอง ราว 2740 ปีก่อนคริสตกาล |
รัชสมัย
หลักฐานที่เกี่ยวกับรัชสมัยของฟาโรห์วัดจ์เนสปรากฏเพียงไม่กี่ชิ้นทำให้ทราบเกี่ยวกับรัชสมัยของพระองค์น้อยมาก ส่วนในบันทึกพระนามแห่งตูรินได้บันทึกว่าพระองค์ทรงครองราชย์เป็นระยะเวลา 54 ปี ในขณะที่แมนิโธได้บันทึกว่าพระองค์ทรงปกครองเป็นเวลา 17 ปี นักไอยคุปต์วิทยาได้ประเมินหลักฐานทั้งสองชิ้นว่าเป็นการตีความที่ผิดโดยอาลักษณ์ในช่วงสมัยรามเสส หรือเป็นการพูดเกินจริง หากฟาโรห์วัดจ์เนสทรงเป็นผู้ปกครองอิสระ (ตามที่และพีเตอร์ คาพลอนีเชื่อ) จะเห็นได้ชัดว่าพระองค์ทรงเป็นคนสุดท้ายที่ปกครองดินแดนที่เป็นเอกภาพ เนื่องจากพระนามของพระองค์ปรากฏอยู่ในพงศาวดารของราชวงศ์จากเมมฟิสและไทนิส จึงเป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางในนักไอยคุปต์วิทยาว่าผู้สืบทอดพระราชบัลลังก์ต่อจากฟาโรห์นิเนทเจอร์ได้ปกครองอียิปต์ที่ถูกแบ่ง ซึ่งปรากฏว่ามีฟาโรห์สองพระองค์ทรงขึ้นมาปกครองในเวลาเดียวกัน ทฤษฎีนี้มีพื้นฐานมาจากพระนามเซเรคที่ผิดปกติของฟาโรห์พระนามว่า เพอร์อิบเซน ซึ่งเป็นผู้สืบทอดพระราชบัลลังก์ต่อจากฟาโรหห์นิเนทเจอร์ และวางสัญลักษณ์ของเทพเซธไว้เหนือพระนามเซเรคของพระองค์ เนื่องจากเทพเซธมีต้นกำเนิดจากเมือง ดังนั้น ฟาโรห์เพอร์อิบเซนก็น่าจะมาเมืองออมบอสเช่นกัน และแน่นอนว่าพระองค์ทรงปกครองเฉพาะในอียิปต์บนเท่านั้น พระนามของพระองค์ได้หายไปจากบันทึกพระนามแห่งเมมฟิสของในสมัยรามเสส เนื่องจากบันทึกพระนามดังกล่าวได้ถูกเขียนขึ้นโดยนักบวชชาวเมมฟิส และนักบวชเหล่านั้นไม่ยอมรับผู้ปกครองที่ไม่ใช่ผู้ปกครองแห่งเมมฟิสที่เป็นผู้ปกครองในอดีตที่ถูกต้อง
อ้างอิง
- after: Alan H. Gardiner: The Royal Canon of Turin. Griffith Institute of Oxford, Oxford (UK) 1997, ISBN ; page 15 & Table I.
- Walter Bryan Emery: Ägypten. Geschichte und Kultur der Frühzeit. Fourier-Verlag, Wiesbaden 1964, ISBN , page 275.
- B. Grdseloff: King Uneg in: Annales du Service des Antiquités de l’Égypte, No. 44, 1944, page 279–306.
- Winfried Barta in: Zeitschrift für Ägyptische Sprache und Altertumskunde, No.108. Akademie-Verlag, Berlin 1981, ISSN 0044-216X, page11.
- Iorwerth Eiddon Stephen Edwards: The Cambridge Ancient History, Vol. 1, Pt. 2: Early History of the Middle East, 3rd reprint. Cambridge University Press, Cambridge 2006, ISBN , page 31.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
wdcens phasaxiyiptobran Wadj nes sungaeplwa linsd hruxthiruckinphranam wdclas oxokthlas aelathlas epnfaorhaehngxiyiptobraninsmyrachwngstxntn sungxaccathrngpkkhrxnginchwngrachwngsthisxng enuxngcakrupaebbphranam wdcens imidepnphranamkhxngfaorhinchwngewladngklaw aetmkcapraktinbnthukphranamthibnthukkhuninchwngramess inpccubn nkixykhuptwithyaidphyayamechuxmoyng faorhwdcenskbkstriyhxrsinchwngewlatnyukhrachwngswdcenswdclas oxokthlas oxthlas thlasphranamkharthuchkhxngfaorhwdcexnexsinbnthukphranamaehngxibdxs kharthuchhmayelkhthi 12 faorhrchkalimthrabrayaewlakhrxngrachykxnhnabaenthecxrthdipesendcphraprmaphiithyphranamprasutibnthukphranamaehngxibdxs wdcens W3dj ns bnthukphranamaehngskkxeraah wdclas W3dj l3s bnthukphranamaehngturin srachwngsrachwngsthisxng raw 2740 pikxnkhristkalrchsmycarukdwyhmuksidabnhinxalablasetxrepnkhawa ewxr ma xa wdcens hlkthanthiekiywkbrchsmykhxngfaorhwdcenspraktephiyngimkichinthaihthrabekiywkbrchsmykhxngphraxngkhnxymak swninbnthukphranamaehngturinidbnthukwaphraxngkhthrngkhrxngrachyepnrayaewla 54 pi inkhnathiaemniothidbnthukwaphraxngkhthrngpkkhrxngepnewla 17 pi nkixykhuptwithyaidpraeminhlkthanthngsxngchinwaepnkartikhwamthiphidodyxalksninchwngsmyramess hruxepnkarphudekincring hakfaorhwdcensthrngepnphupkkhrxngxisra tamthiaelaphietxr khaphlxniechux caehnidchdwaphraxngkhthrngepnkhnsudthaythipkkhrxngdinaednthiepnexkphaph enuxngcakphranamkhxngphraxngkhpraktxyuinphngsawdarkhxngrachwngscakemmfisaelaithnis cungepnthiyxmrbknxyangkwangkhwanginnkixykhuptwithyawaphusubthxdphrarachbllngktxcakfaorhnienthecxridpkkhrxngxiyiptthithukaebng sungpraktwamifaorhsxngphraxngkhthrngkhunmapkkhrxnginewlaediywkn thvsdinimiphunthanmacakphranameserkhthiphidpktikhxngfaorhphranamwa ephxrxibesn sungepnphusubthxdphrarachbllngktxcakfaorhhnienthecxr aelawangsylksnkhxngethphesthiwehnuxphranameserkhkhxngphraxngkh enuxngcakethphesthmitnkaenidcakemuxng dngnn faorhephxrxibesnknacamaemuxngxxmbxsechnkn aelaaennxnwaphraxngkhthrngpkkhrxngechphaainxiyiptbnethann phranamkhxngphraxngkhidhayipcakbnthukphranamaehngemmfiskhxnginsmyramess enuxngcakbnthukphranamdngklawidthukekhiynkhunodynkbwchchawemmfis aelankbwchehlannimyxmrbphupkkhrxngthiimichphupkkhrxngaehngemmfisthiepnphupkkhrxnginxditthithuktxngxangxingafter Alan H Gardiner The Royal Canon of Turin Griffith Institute of Oxford Oxford UK 1997 ISBN 0 900416 48 3 page 15 amp Table I Walter Bryan Emery Agypten Geschichte und Kultur der Fruhzeit Fourier Verlag Wiesbaden 1964 ISBN 3 921695 39 2 page 275 B Grdseloff King Uneg in Annales du Service des Antiquites de l Egypte No 44 1944 page 279 306 Winfried Barta in Zeitschrift fur Agyptische Sprache und Altertumskunde No 108 Akademie Verlag Berlin 1981 ISSN 0044 216X page11 Iorwerth Eiddon Stephen Edwards The Cambridge Ancient History Vol 1 Pt 2 Early History of the Middle East 3rd reprint Cambridge University Press Cambridge 2006 ISBN 0 521 07791 5 page 31