บทความนี้ไม่มีจาก |
ดเจดเคเปอร์เอว (หรือ ดเจดเคเปอร์อู) เป็นฟาโรห์แห่งอียิปต์โบราณจากราชวงศ์ที่สิบสาม ซึ่งทรงครองราชย์เป็นเวลาประมาณ 2 ปี นับตั้งแต่ราวประมาณ 1772 จนถึง 1770 ปีก่อนคริสตกาล ตามนักไอยคุปต์วิทยา และ พระองค์ทรงเป็นฟาโรห์พระองค์ที่ 17 ของราชวงศ์ ดเจดเคเปอร์เอวเป็นพระนามฮอรัสของฟาโรห์พระองค์ดังกล่าว ส่วนพระนามครองราชย์และพระนามประสูติของพระองค์กลับไม่ปรากฏ
ฟาโรห์ดเจดเคเปอร์เอว | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ดเจดเคเปอร์อู | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
"พระบรรจถรณ์แห่งโอซิริส", จากสุสานฟาโรห์ดเจอร์และสลักพระนาม "ดเจดเคเปอร์เอว" | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ฟาโรห์ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
รัชกาล | 2 ปี, 1772 - 1770 ปีก่อนคริสตกาล (ไรฮอล์ท), เพียงไม่กี่เดือน (เบเกอร์), 7 เดือน ราวประมาณ 1760 ปีก่อนคริสตกาล (เวอร์เนอร์), ประมาณ 1732 ปีก่อนคริสตกาล (ชไนเดอร์) | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ก่อนหน้า | คาบาว | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ถัดไป | ฟาโรห์เซบคาย | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
พระราชบิดา | อาจจะฮอร์ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
พระราชมารดา | อาจจะ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ราชวงศ์ | ราชวงศ์ที่สิบสามแห่งอียิปต์ |
หลักฐานยืนยัน
หลักฐานยืนยันร่วมสมัย
ปรากฏหลักฐานยืนยันเกี่ยวกับรัชสมัยของฟาโรห์ดเจดเคเปอร์เอว คือ ตราประทับจำนวนสิบเอ็ดดวง จากป้อมปราการอียิปต์ที่แก่งน้ำตกแม่น้ำไนล์แห่งที่สองในนิวเบีย รอยประทับตราจำนวนสิบรอยถูกพบที่ โดยมีความใกล้เคียงกับรอยประทับตราของฟาโรห์เซเคมเรคูทาวี คาบาว และฟาโรห์มาอาอิบเร เชชิส่วนอีกรอบตราประทับหนึ่งถูกค้นพบใน
นอกจากรอยตราประทับแล้ว ยังปรากฏหลักฐานยืนยันของพระองค์ คือ พระบรรจถรณ์แห่งโอซิริส ซึ่งเป็นประติมากรรมหินบะซอลต์สีดำขนาดมหึมาที่เป็นภาพเทพโอซิริสทรงประทับนอนอยู่บนแท่น พระบรรจถรณ์แห่งโอซิริสถูกพบในหลุมฝังพระบรมศพของฟาโรห์ดเจอร์แห่ง ซึ่งชาวอียิปต์โบราณเชื่อว่าเป็นหลุมฝังพระศพของเทพโอซิริส ประติมากรรมชิ้นดังกล่าวอยู่ในพิพิธภัณฑ์อียิปต์ โดยสันนิษฐานว่าเกี่ยวข้องกับฟาโรห์จากราชวงศ์ที่สิบสาม ฟาโรห์อีกพระองค์หนึ่ง คือ ฟาโรห์เคนดเจอร์ โดยลีฮี แต่การศึกษาจารึกเมื่อไม่นานมานี้ได้ยืนยันให้เห็นว่าเดิมปรากฏพระนามว่า ดเจดเคเฟอร์เอว อยู่แล้ว ส่วนพระนามประสูตินั้นได้ถูกลบไปในสมัยโบราณ แต่ก็ยังพอที่จะอ่านได้บางส่วน
บันทึกพระนามตูริน
ฟาโรห์ดเจดเคเปอร์เอวทรงไม่ได้ถูกกล่าวถึงในบันทึกพระนามแห่งตูริน ซึ่งเป็นบันทึกพระนามฟาโรห์ที่รวบรวมในช่วงต้นสมัยรามเสส โดยเป็นเอกสารอ้างอิงสำหรับประวัติศาสตร์ของช่วงสมัยระหว่างกลางที่สอง ซึ่งไรฮอล์ทได้ให้เสนอความเห็นว่า รัชสมัยของฟาโรห์ดเจดเคเปอร์เอว (เช่นเดียวกับรัชสมัยของฟาโรห์เซเคมเรคูทาวี คาบาว ผู้ซึ่งทรงเป็นผู้ปกครองก่อนหน้า และฟาโรห์เซบคาย ซึ่งทรงเป็นผู้สืบทอดพระราชบัลลังก์ต่อจากพระองค์ ซึ่งทั้งหมดไม่ได้อยู่ในบันทึกพระนามแห่งงตูริน) ได้สูญหายไปแล้วในส่วนที่เสียหายของเอกสารที่คัดลอกบันทึกพระนามดังกล่าว แต่ข้อสันนิษฐานจะต้องเป็นจริงเมื่อฟาโรห์คาบาวทรงสืบทอดพระราชบัลลังก์ต่อจากฟาโรห์ฮอร์ และฟาโรห์เซบคายทรงเป็นผู้ปกครองก่อนหน้าของฟาโรห์อเมนเอมฮัตที่ 7 แต่ในบันทึกพระนามได้ระบุว่าฟาโรห์อเมนเอมฮัตที่ 7 ทรงเป็นผู้สืบทอดพระราชบัลลังก์โดยตรงต่อจากฟาโรห์ฮอร์ (คอลัมน์ที่ 7 บรรทัดที่ 17 และ 18)
พระราชวงศ์และรัชสมัย
ไรฮอล์ทได้กล่าวว่า ฟาโรห์ดเจดเคเปอร์เอวเป็นพระอนุชาของฟาโรห์เซเคมเรคูทาวี คาบาว ผู้ซึ่งทรงครองราชย์ก่อนหน้าพระองค์และเป็นพระราชโอรสของฟาโรห์ฮอร์ อาวอิบเร และไรฮอล์ทได้ให้ข้อสรุปเกี่ยวกับพระองค์จากหลักฐานยืนยันตราประทัยจากอูโรนาร์ติและพระบรรจถรณ์แห่งโอซิริส โดยตราประทับดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าฟาโรห์คาบาวและฟาโรห์ดเจดเคเปอร์เอวทรงปกครองในระยะเวลาไล่เลี่ยกัน ในขณะที่พระนามที่หลงเหลืออยู่ของพระองค์บนพระบรรจถรณ์แห่งโอซิริสได้แสดงให้เห็นว่าพระองค์เริ่มต้นด้วย ฮอร์อู (hrw) ซึ่งนี้ชี้ให้เห็นว่าพระองค์ของฟาโรห์ดเจดเคเปอร์เอวบ่งบอกถึงความเกี่ยวพันธ์ของพระองค์ต่อฟาโรห์ฮอร์ เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่าฟาโรห์คาบาวทรงครองราชย์ต่อจากฟาโรห์ฮอร์ ไรฮอล์ทจึงอนุมานได้ว่า ฟาโรห์ดเจดเคเปอร์เอวเป็นพระอนุชาและทรงเป็นผู้สืบทอดพระราชบัลลังก์ของฟาโรห์คาบาว
อ้างอิง
- K.S.B. Ryholt, The Political Situation in Egypt during the Second Intermediate Period, Carsten Niebuhr Institute Publications, vol. 20. Copenhagen: , 1997, excerpts available online.
- Darrell D. Baker: The Encyclopedia of the Pharaohs: Volume I - Predynastic to the Twentieth Dynasty 3300–1069 BC, Stacey International, ISBN , 2008, p. 86-87
- : The Date of Kings Sheshi and Yaqubhar and the Rise of the Fourteenth Dynasty, in The Second Intermediate Period (Thirteenth-Seventeenth Dynasties), Current Research, Future Prospects, Marcel Maree ed., Orientalia Lovaniensia Analecta 192, Leuven, Peeters, 2010, pp. 109–126
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamniimmikarxangxingcakaehlngthimaidkrunachwyprbprungbthkhwamni odyephimkarxangxingaehlngthimathinaechuxthux enuxkhwamthiimmiaehlngthimaxacthukkhdkhanhruxlbxxk eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir decdekhepxrexw hrux decdekhepxrxu epnfaorhaehngxiyiptobrancakrachwngsthisibsam sungthrngkhrxngrachyepnewlapraman 2 pi nbtngaetrawpraman 1772 cnthung 1770 pikxnkhristkal tamnkixykhuptwithya aela phraxngkhthrngepnfaorhphraxngkhthi 17 khxngrachwngs decdekhepxrexwepnphranamhxrskhxngfaorhphraxngkhdngklaw swnphranamkhrxngrachyaelaphranamprasutikhxngphraxngkhklbimpraktfaorhdecdekhepxrexwdecdekhepxrxu phrabrrcthrnaehngoxsiris caksusanfaorhdecxraelaslkphranam decdekhepxrexw faorhrchkal2 pi 1772 1770 pikxnkhristkal irhxlth ephiyngimkieduxn ebekxr 7 eduxn rawpraman 1760 pikxnkhristkal ewxrenxr praman 1732 pikxnkhristkal chinedxr kxnhnakhabawthdipfaorhesbkhayphraprmaphiithyphranamhxrsdecdekhepxrexw Ḏd ḫprw khwamyunyngaehngkarsaaedngphranamenbtidecdemsu Ḏd msw khwamyunyngaehngkarprasutiphranamhxrsthxngkhabikhenbu xaxa Bik nbw ˁ3 phranamxxrsthxngkha yingihyphranamkhrxngrachy khaer k3 Rˁ dwngphrawiyyanaehngraphrarachbidaxaccahxrphrarachmardaxaccarachwngsrachwngsthisibsamaehngxiyipthlkthanyunynhlkthanyunynrwmsmy prakthlkthanyunynekiywkbrchsmykhxngfaorhdecdekhepxrexw khux traprathbcanwnsibexddwng cakpxmprakarxiyiptthiaekngnatkaemnainlaehngthisxnginniwebiy rxyprathbtracanwnsibrxythukphbthi odymikhwamiklekhiyngkbrxyprathbtrakhxngfaorhesekhmerkhuthawi khabaw aelafaorhmaxaxiber echchiswnxikrxbtraprathbhnungthukkhnphbin nxkcakrxytraprathbaelw yngprakthlkthanyunynkhxngphraxngkh khux phrabrrcthrnaehngoxsiris sungepnpratimakrrmhinbasxltsidakhnadmhumathiepnphaphethphoxsiristhrngprathbnxnxyubnaethn phrabrrcthrnaehngoxsiristhukphbinhlumfngphrabrmsphkhxngfaorhdecxraehng sungchawxiyiptobranechuxwaepnhlumfngphrasphkhxngethphoxsiris pratimakrrmchindngklawxyuinphiphithphnthxiyipt odysnnisthanwaekiywkhxngkbfaorhcakrachwngsthisibsam faorhxikphraxngkhhnung khux faorhekhndecxr odylihi aetkarsuksacarukemuximnanmaniidyunynihehnwaedimpraktphranamwa decdekhefxrexw xyuaelw swnphranamprasutinnidthuklbipinsmyobran aetkyngphxthicaxanidbangswn bnthukphranamturin faorhdecdekhepxrexwthrngimidthukklawthunginbnthukphranamaehngturin sungepnbnthukphranamfaorhthirwbrwminchwngtnsmyramess odyepnexksarxangxingsahrbprawtisastrkhxngchwngsmyrahwangklangthisxng sungirhxlthidihesnxkhwamehnwa rchsmykhxngfaorhdecdekhepxrexw echnediywkbrchsmykhxngfaorhesekhmerkhuthawi khabaw phusungthrngepnphupkkhrxngkxnhna aelafaorhesbkhay sungthrngepnphusubthxdphrarachbllngktxcakphraxngkh sungthnghmdimidxyuinbnthukphranamaehngngturin idsuyhayipaelwinswnthiesiyhaykhxngexksarthikhdlxkbnthukphranamdngklaw aetkhxsnnisthancatxngepncringemuxfaorhkhabawthrngsubthxdphrarachbllngktxcakfaorhhxr aelafaorhesbkhaythrngepnphupkkhrxngkxnhnakhxngfaorhxemnexmhtthi 7 aetinbnthukphranamidrabuwafaorhxemnexmhtthi 7 thrngepnphusubthxdphrarachbllngkodytrngtxcakfaorhhxr khxlmnthi 7 brrthdthi 17 aela 18 phrarachwngsaelarchsmyirhxlthidklawwa faorhdecdekhepxrexwepnphraxnuchakhxngfaorhesekhmerkhuthawi khabaw phusungthrngkhrxngrachykxnhnaphraxngkhaelaepnphrarachoxrskhxngfaorhhxr xawxiber aelairhxlthidihkhxsrupekiywkbphraxngkhcakhlkthanyunyntraprathycakxuornartiaelaphrabrrcthrnaehngoxsiris odytraprathbdngklawaesdngihehnwafaorhkhabawaelafaorhdecdekhepxrexwthrngpkkhrxnginrayaewlaileliykn inkhnathiphranamthihlngehluxxyukhxngphraxngkhbnphrabrrcthrnaehngoxsirisidaesdngihehnwaphraxngkherimtndwy hxrxu hrw sungnichiihehnwaphraxngkhkhxngfaorhdecdekhepxrexwbngbxkthungkhwamekiywphnthkhxngphraxngkhtxfaorhhxr enuxngcakepnthithrabkndiwafaorhkhabawthrngkhrxngrachytxcakfaorhhxr irhxlthcungxnumanidwa faorhdecdekhepxrexwepnphraxnuchaaelathrngepnphusubthxdphrarachbllngkkhxngfaorhkhabawxangxingK S B Ryholt The Political Situation in Egypt during the Second Intermediate Period Carsten Niebuhr Institute Publications vol 20 Copenhagen 1997 excerpts available online Darrell D Baker The Encyclopedia of the Pharaohs Volume I Predynastic to the Twentieth Dynasty 3300 1069 BC Stacey International ISBN 978 1 905299 37 9 2008 p 86 87 The Date of Kings Sheshi and Yaqubhar and the Rise of the Fourteenth Dynasty in The Second Intermediate Period Thirteenth Seventeenth Dynasties Current Research Future Prospects Marcel Maree ed Orientalia Lovaniensia Analecta 192 Leuven Peeters 2010 pp 109 126