เซเคมเรคูทาวี คาบาว เป็นฟาโรห์แห่งอียิปต์โบราณจากช่วงต้นของราชวงศ์ที่สิบสามในสมัยช่วงระหว่างกลางที่สอง โดย ซึ่งเป็นนักไอยคุปต์วิทยาชาวเดนมาร์กได้ระบุว่า พระองค์เป็นฟาโรห์พระองค์ที่สิบหกของราชวงศ์ที่ทรงครองราชย์เป็นระยะเวลา 3 ปี ระหว่าง 1775 จนถึง 1772 ปีก่อนคริสตกาล
ฟาโรห์คาบาว | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ภาพวาดซุ้มประตูที่ทำจากหินแกรนิตสีแดงที่พบในเมืองบูบาสติส และปรากฏพระนามว่า เซเคมเรคูทาวี คาบาว โดยวัลลิส บัดจ์ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ฟาโรห์ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
รัชกาล | 1775–1772 ปีก่อนคริสตกาล; 1–2 ปี; 1752-1746 ปีก่อนคริสตกาล | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ผู้ครองราชสมบัติร่วม | ฮอร์? | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ก่อนหน้า | ฮอร์ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ถัดไป | ดเจดเคเปอร์เร | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
พระราชบิดา | ฮอร์? | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ราชวงศ์ | ราชวงศ์ที่สิบสามแห่งอียิปต์ |
หลักฐานรับรอง
ฟาโรห์คาบาวทรงได้รับการยันยันการมีอยู่อย่างดีจากการค้นพบทางโบราณคดี โดยพบชิ้นส่วนของซุ้มประตูหินแกรนิตสีแดงขนาด 2 ฟุต 6 นิ้ว (0.76 ม.) x 5 ฟุต 11 นิ้ว (1.80 ม.) ที่ปรากฏพระนามฮอรัสและพระนามครองราชย์ของพระองค์ที่ถูกค้นพบระหว่างการขุดค้นที่เมืองในปี ค.ศ. 1891 ซึ่งดำเนินการโดย จาก (หรือ อีอีเอส) ในขณะนี้ซุ้มประตูดังกล่างอยู่ในพิพิธภัณฑ์บริติชภายใต้แคตตาล็อกหมายเลข บีเอ็ม อีเอ 1100 และซุ้มประตูอีกอันที่ค้นพบในเมืองทานิสปรากฏพระนามของฟาโรห์คาบาวร่วมกับพระนามของฟาโรห์ฮอร์จากราชวงศ์ที่สิบสามแห่งอียิปต์ โดย และรีฮอล์ตเสนอความเห็นว่า ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดดังกล่าว อาจหมายความว่า ฟาโรห์คาบาว เป็นพระราชโอรสของฟาโรห์ฮอร์ และอาจจะทรงเป็นผู้สำเร็จราชการร่วมด้วยเช่นกัน
รีฮอล์ตและเบเกอร์เชื่อว่า ซุ้มประตูทั้งสองนั้นไม่ได้มาจากภูมิภาคสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนล์แต่มาจากเมืองเมมฟิส ซึ่งซุ้มประตูทั้งสองชิ้นอาจจะมาอยู่จุดที่พวกเขาค้นพบหลังจากการล่มสลายของราชวงศ์ที่สิบสาม เมื่อชาวฮิกซอสได้ย้ายอนุสาวรีย์จำนวนมากจากเมืองเมมฟิสไปยังเมืองอวาริสและเมืองอื่น ๆ บริเวณดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนล์ เช่น และทานิส หรืออีกข้อสันนิษฐานหนึ่ง ซุ้มประตูทั้งสองอาจจะอยู่ในเมืองอวาริสอยู่แล้วจนถึงรัชสมัยของฟาโรห์รามเสสที่ 2 เมื่อพระองค์นี้ได้ทรงโปรดให้สร้างราชธานีใหม่ที่ โดยใช้วัสดุจากเมืองอวาริส โดยเมืองไพ-รามเสสได้ถูกรื้อถอนในเวลาต่อมาในสมัยราชวงศ์ที่ยี่สิบเอ็ดแห่งอียิปต์ และทำให้อนุสาวรีย์ต่าง ๆ หลายชิ้นก็กระจัดกระจายอยู่ในบริเวณดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำ
ตราประทับทรงกระบอกของฟาโรห์คาบาวอยู่ในพิพิธภัณฑ์เพทรี (ยูซี 11527)
ในดินแดนนิวเบีย มีการค้นพบรอยตราประทับ 4 รอยจากป้อมปราการและอีกหนึ่งรอยตราประทับจากป้อมปราการ
บันทึกพระนาม
พระนามของฟาโรห์เซเคมเรคูทาวี คาบาวไม่ถูกบันทึกไว้ในบันทึกพระนามกษัตริย์แห่งตูริน นอกจากนี้ พระนามของพระองค์ก็ไม่ได้ถูกบันทึกในบันทึกพระนามกษัตริย์โบราณอื่นเลยเช่นกัน
ตามที่รีฮอล์ตกล่าว พระนามของฟาโรห์คาบาวได้สูญหายไปในส่วนที่เสียหายของบันทึกพระนามกษัตริย์แห่งตูริน โดยที่พระนามของพระองค์จะบันทึกในคอลัมน์ที่ 7 บรรทัดที่ 17 ของบันทึกพระนาม และผู้คัดลอกบันทึกพระนามดังกล่าว ซึ่งเขียนขึ้นในช่วงต้นสมัยรามเสสโดยจะบันทึก wsf (แปลตรงตัวว่า "สูญหาย") ไว้ เมื่อคัดลอกพระนามที่อยู่ในบริเวณที่เสียหาย
การระบุตัวตน
ไม่ทราบพระนามประสูติของฟาโรห์เซเคมเรคูทาวี คาบาว และตัวตนของพระองค์จึงไม่เป็นที่ทราบอย่างสมบูรณ์ โดยรีฮอล์ตได้เสนอพระนามประสูติของฟาโรห์คาบาวว่า "โซเบค" เนื่องจากพระนามดังกล่าวมาจากวัตถุโบราณ ซึ่งจะต้องเป็นของฟาโรห์ที่ปกครองในช่วงครึ่งแรกของสมัยราชวงศ์ที่สิบสาม ซึ่งมีเพียงฟาโรห์จำนวนสองพระองค์ในช่วงเวลานี้เท่านั้นที่ไม่ทราบพระนามประสูติคือ ฟาโรห์คาบาว และฟาโรห์เนริคาเร และพระนาม "โซเบค" อาจจะเป็นพระนามประสูติของฟาโรห์คาบาว
ในทางกลับกัน ได้ระบุพระนามประสูติของฟาโรห์คาบาวไว้ว่าว่า "พันทเจนิ" ดังนั้นจึงเปรียบเทียบได้ว่าฟาโรห์คาบาวและฟาโรห์เซเคมเรคูทาวี พันทเจนิ เป็นฟาโรห์พระองค์เดียวกัน ซึ่งฟาโรห์พันทเจนิได้รับการยืนยันการมีตัวตนจากจารึกเพียงชิ้นเดียวเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ข้อสมมติฐานดังกล่าวถูกไม่ยอมรับไปในการศึกษาจารึกครั้งล่าสุดของมาร์เซล มารี โดยมารีได้ชี้ให้เห็นว่า จารึกสร้างมาจากสถานที่เดียวกัน (หรืออาจจะเป็นคนสร้างคนเดียวกัน) ให้กับฟาโรห์เวปวาเวตเอมซาฟและฟาโรห์ราโฮเทป ซึ่งได้ระบุช่วงเวลาย้อนไปถึงช่วงต้นราชวงศ์ที่สิบเจ็ดแห่งอียิปต์ราว 1580 ปีก่อนคริสตกาล และด้วยเหตุนี้ฟาโรห์พันทเจนิจะต้องทรงครองราชย์ในช่วง 1600 ปีก่อนคริสตกาล ซึ่งอาจจะเป็นปลายราชวงศ์ที่สิบหกแห่งอียิปต์ หรือในอีกข้อสันนิษฐาน ฟาโรห์พันทเจนิ ทรงอาจจะเป็นผู้ปกครองจากราชวงศ์อไบดอส ซึ่งปกครองเหนือบริเวณอียิปต์ตอนกลางตั้งแต่ราว 1650 จนถึง 1600 ปีก่อนคริสตกาล
และ ได้เปรียบเทียบฟาโรห์เซเคมเรคูทาวี คาบาว ให้เป็นฟาโรห์พระองค์เดียวกันกับฟาโรห์เซเคมเรคูทาวี โซเบคโฮเทป หรืออาจจะเรียกว่า โซเบคโฮเทปที่ 1 หรือ โซเบคโฮเทปที่ 2 โดยขึ้นอยู่กับนักวิชาการแต่ละคน ซึ่งข้อสมมติฐานดังกล่าวถือว่าไม่เป็นที่ยอมรับโดยนักไอยคุปต์วิทยาส่วนใหญ่ รวมทั้งฟอน เบ็คเคอราท, , รีฮอล์ต และแอนโธนี สปาลิงเกอร์ โดยฟอน เบ็คเคอราท และฟรานเคอชี้ให้เห็นว่า ถึงแม้ว่าฟาโรห์ทั้งสองพระองค์จะทรงมีพระนามครองราชย์ที่เหมือนกัน แต่พระนามอื่น ๆ ของพระองค์ก็แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง และสปาลิงเกอร์โต้แย้งว่าบันทึกระดับแม่น้ำไนล์ในดินแดนนิวเบียที่เกี่ยวข้องกับฟาโรห์เซเคมเรคูทาวี โซเบคโฮเทปไม่สามารถนำมาประกอบเข้ากับฟาโรห์คาบาวได้ ในการโต้แย้งกลับต่อข้อโต้แย้งเหล่านี้ สตีเฟน เควิร์กชี้ให้เห็นว่า พระนามฮอรัสและพระนามฮอรัสทองคำของฟาโรห์เซเคมเรคูทาวี โซเคโฮเทป ซึ่งเป็นที่ทราบจากบล็อกหินเพียงบล็อกเดียวจาก ซึ่งไม่ได้ระบุที่มาที่แน่นอนทั้งหมด
ข้อสันนิษฐาน
นักไอยคุปต์วิทยา คิม รีฮอล์ต ได้ระบุให้ฟาโรห์คาบาวเป็นฟาโรห์พระองค์ที่สิบหกของราชวงศ์ และทรงครองราชย์เป็นระยะเวลาสามปีระหว่าง 1775 ถึง 1772 ปีก่อนคริสตกาล ส่วน ระบุว่าพระองค์ทรงครองราชย์ตั้งแต่ 1752 ถึง 1746 ปีก่อนคริสตกาล หรืออีกทางหนึ่ง เยอร์เกน ฟอน เบ็คเคอราทได้มองว่า พระองค์เป็นฟาโรห์พระองค์ที่สามของราชวงศ์ ในฐานะผู้ปกครองของราชวงศ์ในช่วงต้นของราชวงศ์ที่สิบสาม ฟาโรห์คาบาวจะปกครองตั้งแต่จากเมืองเมมฟิสไปยังเมืองอัสวาน และอาจจะอยู่ปกครองอยู่เหนือบริเวณดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนล์ฝั่งตะวันตก
อ้างอิง
- : Hieroglyphic Texts, V (1914) see p. 7 and pl. 18, available copyright-free online.
- K.S.B. Ryholt, The Political Situation in Egypt during the Second Intermediate Period, c. 1800 – 1550 BC, Carsten Niebuhr Institute Publications, vol. 20. Copenhagen: Museum Tusculanum Press, 1997, excerpts available online here.
- E. Naville: Bubastis, 1891, 15, pl. XXXIII, available copyright-free online
- Darrell D. Baker: The Encyclopedia of the Pharaohs: Volume I - Predynastic to the Twentieth Dynasty 3300–1069 BC, Stacey International, ISBN , 2008, p. 289-290
- ดูสถานการณ์ที่คล้ายกันของรูปสลักขนาดใหญ่ของฟาโรห์อิมิเอมเมชาว
- : Scarabs and cylinders with names (1917), available copyright-free here, pl. XVIII
- Seal of Khabaw[], catalog of the Petrie Museum.
- Darrell D. Baker: The Encyclopedia of the Pharaohs: Volume I - Predynastic to the Twentieth Dynasty 3300–1069 BC, Stacey International, ISBN , 2008, p. 166-167
- Jürgen von Beckerath: Handbuch der Ägyptischen Königsnamen, MÄS 49, Philip Von Zabern. (1999)
- Marcel Marée: A sculpture workshop at Abydos from the late Sixteenth or early Seventeenth Dynasty, in: Marcel Marée (editor): The Second Intermediate period (Thirteenth-Seventeenth Dynasties), Current Research, Future Prospects, Leuven, Paris, Walpole, MA. 2010 ISBN . p. 247, 268
- A. Spalinger: Sobekhotep II, in: Wolfgang Helck editor: Lexikon der Ägyptologie, vol. 5. Harrasowitz, Wiesbaden 1984, ISBN
- Stephen Quirke: In the Name of the King: on Late Middle Kingdom Cylinders, in: E. Czerny, I. Hein, H. Hunger, D. Melman, A. Schwab (editors): Timelines, Studies in Honour of Manfred Bietak, Volume I, Leuven, Paris/ Dufdley, MA ISBN , p. 263-274.
- Thomas Schneider: Lexikon der Pharaonen, Albatros, Düsseldorf 2002, ISBN , p. 255 and 259
- Jürgen von Beckerath: Untersuchungen zur politischen Geschichte der Zweiten Zwischenzeit in Ägypten, Glückstadt, 1964
- Jürgen von Beckerath: Chronologie des pharaonischen Ägyptens, Münchner Ägyptologische Studien 46. Mainz am Rhein, 1997
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
esekhmerkhuthawi khabaw epnfaorhaehngxiyiptobrancakchwngtnkhxngrachwngsthisibsaminsmychwngrahwangklangthisxng ody sungepnnkixykhuptwithyachawednmarkidrabuwa phraxngkhepnfaorhphraxngkhthisibhkkhxngrachwngsthithrngkhrxngrachyepnrayaewla 3 pi rahwang 1775 cnthung 1772 pikxnkhristkalfaorhkhabawphaphwadsumpratuthithacakhinaekrnitsiaedngthiphbinemuxngbubastis aelapraktphranamwa esekhmerkhuthawi khabaw odywllis bdcfaorhrchkal1775 1772 pikxnkhristkal 1 2 pi 1752 1746 pikxnkhristkalphukhrxngrachsmbtirwmhxr kxnhnahxrthdipdecdekhepxrerphraprmaphiithyphranamhxrskhabaw Ḫˁj b3w karprakttwkhxngbaphranamenbtiewhexmdecd Wḥm ḏd txxayuxyangthawrphranamhxrsthxngkhaxngkhernphut ˁnḫ rnpwt xayuyunyawphranamkhrxngrachyesekhmerkhuthawi Sḫm Rˁ ḫwj t3wj ethphra phuyingihy phraxngkh phuthrngpkpxngthngsxngaephndinphranamprasutiimthrab xacca osebkh phrarachbidahxr rachwngsrachwngsthisibsamaehngxiyipthlkthanrbrxngfaorhkhabawthrngidrbkarynynkarmixyuxyangdicakkarkhnphbthangobrankhdi odyphbchinswnkhxngsumpratuhinaekrnitsiaedngkhnad 2 fut 6 niw 0 76 m x 5 fut 11 niw 1 80 m thipraktphranamhxrsaelaphranamkhrxngrachykhxngphraxngkhthithukkhnphbrahwangkarkhudkhnthiemuxnginpi kh s 1891 sungdaeninkarody cak hrux xixiexs inkhnanisumpratudngklangxyuinphiphithphnthbritichphayitaekhttalxkhmayelkh biexm xiex 1100 aelasumpratuxikxnthikhnphbinemuxngthanispraktphranamkhxngfaorhkhabawrwmkbphranamkhxngfaorhhxrcakrachwngsthisibsamaehngxiyipt ody aelarihxltesnxkhwamehnwa khwamsmphnththiiklchiddngklaw xachmaykhwamwa faorhkhabaw epnphrarachoxrskhxngfaorhhxr aelaxaccathrngepnphusaercrachkarrwmdwyechnkn rihxltaelaebekxrechuxwa sumpratuthngsxngnnimidmacakphumiphakhsamehliympakaemnainlaetmacakemuxngemmfis sungsumpratuthngsxngchinxaccamaxyucudthiphwkekhakhnphbhlngcakkarlmslaykhxngrachwngsthisibsam emuxchawhiksxsidyayxnusawriycanwnmakcakemuxngemmfisipyngemuxngxwarisaelaemuxngxun briewndindxnsamehliympakaemnainl echn aelathanis hruxxikkhxsnnisthanhnung sumpratuthngsxngxaccaxyuinemuxngxwarisxyuaelwcnthungrchsmykhxngfaorhramessthi 2 emuxphraxngkhniidthrngoprdihsrangrachthaniihmthi odyichwsducakemuxngxwaris odyemuxngiph ramessidthukruxthxninewlatxmainsmyrachwngsthiyisibexdaehngxiyipt aelathaihxnusawriytang hlaychinkkracdkracayxyuinbriewndindxnsamehliympakaemna traprathbthrngkrabxkkhxngfaorhesekhmerkhuthawi khabaw phiphithphnthephthri yusi 11527 traprathbthrngkrabxkkhxngfaorhkhabawxyuinphiphithphnthephthri yusi 11527 indinaednniwebiy mikarkhnphbrxytraprathb 4 rxycakpxmprakaraelaxikhnungrxytraprathbcakpxmprakarbnthukphranamphranamkhxngfaorhesekhmerkhuthawi khabawimthukbnthukiwinbnthukphranamkstriyaehngturin nxkcakni phranamkhxngphraxngkhkimidthukbnthukinbnthukphranamkstriyobranxunelyechnkn tamthirihxltklaw phranamkhxngfaorhkhabawidsuyhayipinswnthiesiyhaykhxngbnthukphranamkstriyaehngturin odythiphranamkhxngphraxngkhcabnthukinkhxlmnthi 7 brrthdthi 17 khxngbnthukphranam aelaphukhdlxkbnthukphranamdngklaw sungekhiynkhuninchwngtnsmyramessodycabnthuk wsf aepltrngtwwa suyhay iw emuxkhdlxkphranamthixyuinbriewnthiesiyhaykarrabutwtnimthrabphranamprasutikhxngfaorhesekhmerkhuthawi khabaw aelatwtnkhxngphraxngkhcungimepnthithrabxyangsmburn odyrihxltidesnxphranamprasutikhxngfaorhkhabawwa osebkh enuxngcakphranamdngklawmacakwtthuobran sungcatxngepnkhxngfaorhthipkkhrxnginchwngkhrungaerkkhxngsmyrachwngsthisibsam sungmiephiyngfaorhcanwnsxngphraxngkhinchwngewlaniethannthiimthrabphranamprasutikhux faorhkhabaw aelafaorhenrikhaer aelaphranam osebkh xaccaepnphranamprasutikhxngfaorhkhabaw inthangklbkn idrabuphranamprasutikhxngfaorhkhabawiwwawa phnthecni dngnncungepriybethiybidwafaorhkhabawaelafaorhesekhmerkhuthawi phnthecni epnfaorhphraxngkhediywkn sungfaorhphnthecniidrbkaryunynkarmitwtncakcarukephiyngchinediywethann xyangirktam khxsmmtithandngklawthukimyxmrbipinkarsuksacarukkhrnglasudkhxngmaresl mari odymariidchiihehnwa caruksrangmacaksthanthiediywkn hruxxaccaepnkhnsrangkhnediywkn ihkbfaorhewpwaewtexmsafaelafaorhraohethp sungidrabuchwngewlayxnipthungchwngtnrachwngsthisibecdaehngxiyiptraw 1580 pikxnkhristkal aeladwyehtunifaorhphnthecnicatxngthrngkhrxngrachyinchwng 1600 pikxnkhristkal sungxaccaepnplayrachwngsthisibhkaehngxiyipt hruxinxikkhxsnnisthan faorhphnthecni thrngxaccaepnphupkkhrxngcakrachwngsxibdxs sungpkkhrxngehnuxbriewnxiyipttxnklangtngaetraw 1650 cnthung 1600 pikxnkhristkal aela idepriybethiybfaorhesekhmerkhuthawi khabaw ihepnfaorhphraxngkhediywknkbfaorhesekhmerkhuthawi osebkhohethp hruxxaccaeriykwa osebkhohethpthi 1 hrux osebkhohethpthi 2 odykhunxyukbnkwichakaraetlakhn sungkhxsmmtithandngklawthuxwaimepnthiyxmrbodynkixykhuptwithyaswnihy rwmthngfxn ebkhekhxrath rihxlt aelaaexnothni spalingekxr odyfxn ebkhekhxrath aelafranekhxchiihehnwa thungaemwafaorhthngsxngphraxngkhcathrngmiphranamkhrxngrachythiehmuxnkn aetphranamxun khxngphraxngkhkaetktangknodysineching aelaspalingekxrotaeyngwabnthukradbaemnainlindinaednniwebiythiekiywkhxngkbfaorhesekhmerkhuthawi osebkhohethpimsamarthnamaprakxbekhakbfaorhkhabawid inkarotaeyngklbtxkhxotaeyngehlani stiefn ekhwirkchiihehnwa phranamhxrsaelaphranamhxrsthxngkhakhxngfaorhesekhmerkhuthawi osekhohethp sungepnthithrabcakblxkhinephiyngblxkediywcak sungimidrabuthimathiaennxnthnghmdkhxsnnisthannkixykhuptwithya khim rihxlt idrabuihfaorhkhabawepnfaorhphraxngkhthisibhkkhxngrachwngs aelathrngkhrxngrachyepnrayaewlasampirahwang 1775 thung 1772 pikxnkhristkal swn rabuwaphraxngkhthrngkhrxngrachytngaet 1752 thung 1746 pikxnkhristkal hruxxikthanghnung eyxrekn fxn ebkhekhxrathidmxngwa phraxngkhepnfaorhphraxngkhthisamkhxngrachwngs inthanaphupkkhrxngkhxngrachwngsinchwngtnkhxngrachwngsthisibsam faorhkhabawcapkkhrxngtngaetcakemuxngemmfisipyngemuxngxswan aelaxaccaxyupkkhrxngxyuehnuxbriewndindxnsamehliympakaemnainlfngtawntkxangxingwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb faorhesekhmerkhuthawi khabaw Hieroglyphic Texts V 1914 see p 7 and pl 18 available copyright free online K S B Ryholt The Political Situation in Egypt during the Second Intermediate Period c 1800 1550 BC Carsten Niebuhr Institute Publications vol 20 Copenhagen Museum Tusculanum Press 1997 excerpts available online here E Naville Bubastis 1891 15 pl XXXIII available copyright free online Darrell D Baker The Encyclopedia of the Pharaohs Volume I Predynastic to the Twentieth Dynasty 3300 1069 BC Stacey International ISBN 978 1 905299 37 9 2008 p 289 290 dusthankarnthikhlayknkhxngrupslkkhnadihykhxngfaorhximiexmemchaw Scarabs and cylinders with names 1917 available copyright free here pl XVIII Seal of Khabaw lingkesiy catalog of the Petrie Museum Darrell D Baker The Encyclopedia of the Pharaohs Volume I Predynastic to the Twentieth Dynasty 3300 1069 BC Stacey International ISBN 978 1 905299 37 9 2008 p 166 167 Jurgen von Beckerath Handbuch der Agyptischen Konigsnamen MAS 49 Philip Von Zabern 1999 Marcel Maree A sculpture workshop at Abydos from the late Sixteenth or early Seventeenth Dynasty in Marcel Maree editor The Second Intermediate period Thirteenth Seventeenth Dynasties Current Research Future Prospects Leuven Paris Walpole MA 2010 ISBN 978 90 429 2228 0 p 247 268 A Spalinger Sobekhotep II in Wolfgang Helck editor Lexikon der Agyptologie vol 5 Harrasowitz Wiesbaden 1984 ISBN 3 447 02489 5 Stephen Quirke In the Name of the King on Late Middle Kingdom Cylinders in E Czerny I Hein H Hunger D Melman A Schwab editors Timelines Studies in Honour of Manfred Bietak Volume I Leuven Paris Dufdley MA ISBN 9789042917309 p 263 274 Thomas Schneider Lexikon der Pharaonen Albatros Dusseldorf 2002 ISBN 3 491 96053 3 p 255 and 259 Jurgen von Beckerath Untersuchungen zur politischen Geschichte der Zweiten Zwischenzeit in Agypten Gluckstadt 1964 Jurgen von Beckerath Chronologie des pharaonischen Agyptens Munchner Agyptologische Studien 46 Mainz am Rhein 1997