บทความนี้ได้รับแจ้งให้ปรับปรุงหลายข้อ กรุณาช่วยปรับปรุงบทความ หรืออภิปรายปัญหาที่
|
พระราชลัญจกรประจำรัชกาล เป็นตราประจำพระองค์ของพระมหากษัตริย์แต่ละรัชกาล ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อเริ่มต้นรัชกาล เพื่อประทับกำกับพระปรมาภิไธย ในเอกสารสำคัญต่างๆ ของชาติ ที่เกี่ยวกับราชการแผ่นดิน เช่น รัฐธรรมนูญ พระราชบัญญัติ พระราชกำหนด พระราชกฤษฎีกา และเอกสารสำคัญส่วนพระองค์ ที่ไม่เกี่ยวกับราชการแผ่นดิน พระราชลัญจกรนับเป็นเครื่องมงคลที่แสดงถึงอิสริยยศและพระบรมเดชานุภาพของพระมหากษัตริย์
ประวัติ
ปรากฏหลักฐานว่าพระราชลัญจกรประจำรัชกาลมีใช้มาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาแล้วในเอกสารต่างประเทศ โดยมีการพิมพ์ภาพจำลองพระราชลัญจกรรูปเทวดา 4 กร ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นพระราชลัญจกรพระนารายณ์ทรงครุฑ ประจำพระองค์ของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ตีพิมพ์อยู่ในหนังสือ จดหมายเหตุลาลูแบร์ ซึ่งเขียนโดย ซิมง เดอ ลา ลูแบร์ แต่เนื่องจากเอกสารสมัยกรุงศรีอยุธยาส่วนใหญ่สูญหายไปกับการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 ทำให้ไม่อาจสืบทราบได้ชัดเจนว่า พระมหากษัตริย์แต่ละรัชกาลใช้ตราอะไรเป็นพระราชลัญจกรประจำรัชกาล
ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์นั้น ก่อนสมัยรัชกาลที่ 4 ปรากฏหลักฐานรอยประทับพระราชลัญจกรประจำรัชกาลเพียงพระราชลัญจกรที่เชื่อว่าเป็นพระราชลัญจกรประจำรัชกาลที่ 2 เท่านั้น คือ พระราชลัญจกรไตรสารเศวต อย่างไรก็ตาม ก็มีการใช้สัญลักษณ์ประจำรัชกาลต่างมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 โดยปรากฏหลักฐานอยู่ในเงินพดด้วงสมัยดังกล่าวอยู่แล้ว
ธรรมเนียมการใช้พระราชลัญจกรประจำรัชกาลปรากฏหลักฐานชัดเจนขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 ซึ่งมีการประทับพระราชลัญจกรพระมหามงกุฎและพระราชลัญจกรพระจุฑามณี ในเอกสารส่วนพระองค์ เช่น พระราชหัตถเลขา ของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวตามลำดับ
เมื่อมีงานรัตนโกสินทรสมโภชครบ 100 ปี ใน พ.ศ. 2425 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดสร้างพระราชลัญจกรประจำรัชกาลที่ 1 - รัชกาลที่ 3 เพื่ออุทิศถวายพระมหากษัตริย์ทั้งสามรัชกาลข้างต้น หลังจากนั้น พระมหากษัตริย์ในรัชกาลต่อๆ มาก็ทรงสร้างพระราชลัญจกรประจำรัชกาลของพระองค์ใช้มาโดยตลอดจนถึงปัจจุบัน
พระราชลัญจกรประจำรัชกาลของพระมหากษัตริย์
สมเด็จพระนารายณ์มหาราช
-
พระราชลัญจกรสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
ราชวงศ์จักรี
-
พระราชลัญจกรประจำพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช -
พระราชลัญจกรประจำพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย -
พระราชลัญจกรประจำพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
- พระราชลัญจกรประจำพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เป็นรูปปทุมอุณาโลม มีอักขระ "อุ" แบบอักษรขอมอยู่กลาง ล้อมรอบด้วยกลีบบัว อันเป็นพฤกษชาติที่เป็นสิริมงคลในพุทธศาสนา ตราอุณาโลมมีรูปร่างคล้ายสังข์ทักษิณาวรรต (สังข์เวียนขวา) อยู่ในกรอบลายกนก เริ่มใช้คราวพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เมื่อ พ.ศ. 2328
- พระราชลัญจกรประจำพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เป็นรูปครุฑยุดนาค เป็นพระราชสัญลักษณ์ของพระบรมนามาภิไธยว่า "ฉิม" ตามความหมายของวรรณคดีไทย คือ ครุฑซึ่งในเทพนิยายเทวกำเนิด เป็นเทพองค์หนึ่งที่ทรงมหิทธานุภาพยิ่ง แต่ยอมเป็นเทพพาหนะสำหรับพระนารายณ์ ปกติอยู่ที่วิมานฉิมพลี ดังนั้นทรงพระกรุณาให้ใช้รูปครุฑยุดนาค เป็นพระราชสัญลักษณ์ประจำพระองค์ แทนพระบรมนามาภิไธย
- พระราชลัญจกรประจำพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นรูปปราสาท เป็นพระราชสัญลักษณ์ของพระบรมนามาภิไธยว่า "ทับ" หมายความว่า ที่อยู่ หรือเรือน ดังนั้นจึงทรงพระกรุณาโปรดกล้าฯ ให้สร้างรูปปราสาท เป็นพระราชสัญลักษณ์ประจำพระองค์ แทนพระบรมนามาภิไธย
พระราชลัญจกรทั้ง 3 องค์นี้เดิมเป็นเพียงพระราชสัญลักษณ์ที่ปรากฏในที่ต่างๆ เช่น เงินพดด้วง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสร้างพระราชลัญจกรเหล่านี้ขึ้นเพื่ออุทิศถวายพระมหากษัตริย์ทั้งสามพระองค์เมื่อ พ.ศ. 2425 ตราทั้งหมดเป็นตรากลม เส้นผ่าศูนย์กลาง 7 เซนติเมตร
-
พระราชลัญจกรประจำพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว -
พระราชลัญจกรประจำพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว -
พระราชลัญจกรประจำพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
- พระราชลัญจกรประจำพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เรียกว่า พระราชลัญจกรพระมหามงกุฎ ลักษณะเป็นรูปกลมรี ลายกลางเป็นรูปพระมหาพิชัยมงกุฎ อันเป็นพระราชสัญลักษณ์ของพระบรมนามาภิไธยว่า "มงกุฎ" ซึ่งเป็นศิราภรณ์สำคัญของพระมหากษัตริย์ อยู่ในเครื่องเบญจราชกุธภัณฑ์ มีฉัตรบริวารตั้งขนาบข้างที่ริมขอบทั้งสองข้าง มีพานทองสองชั้นวางพระแว่นสุริยกานต์หรือเพชรข้างหนึ่ง สมุดตำราข้างหนึ่ง รูปพระแว่นสุริยกานต์หรือเพชรนี้มาจากฉายาเมื่อผนวชว่า "วชิรญาณ" ส่วนสมุดตำรามาจากเหตุที่ได้ทรงศึกษาเชี่ยวชาญในทางและดาราศาสตร์ องค์พระราชลัญจกรนี้เป็นตรากลมรีรูปไข่แนวนอน กว้าง 5.5 เซนติเมตร ยาว 6.8 เซนติเมตร
- พระราชลัญจกรประจำพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เรียกว่า พระราชลัญจกรพระเกี้ยวยอด ลักษณะเป็นรูปพระจุลมงกุฎ (หรือพระเกี้ยว) เปล่งรัศมีประดิษฐ์บนพานแว่นฟ้า เป็นพระราชสัญลักษณ์ของพระบรมนามาภิไธยว่า "จุฬาลงกรณ์" ซึ่งแปลความหมายว่าเป็นศิราภรณ์ชนิดหนึ่งอย่างมงกุฎ มีฉัตรบริวารตั้งขนาบข้าง ที่ริมขอบทั้งสองข้างมีพานแว่นฟ้าและพระแว่นสุริยกานต์หรือเพชรข้างหนึ่ง วางสมุดตำราข้างหนึ่ง พระแว่นสุริยกานต์หรือเพชรและสมุดตำรานั้น เป็นการเจริญรอยจำลองพระราชลัญจกรประจำพระองค์ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นสมเด็จพระบรมชนกนาถ องค์พระราชลัญจกรนี้เป็นตรากลมรีรูปไข่แนวนอน กว้าง 5.5 เซนติเมตร ยาว 6.8 เซนติเมตร
- พระราชลัญจกรประจำพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เรียกว่า พระราชลัญจกรพระวชิระ เป็นรูปวชิราวุธ เปล่งรัศมีเป็นสายฟ้า ประดิษฐ์บนพานแว่นฟ้าตั้งอยู่เหนือตั่ง มีฉัตรกลีบบัวตั้งอยู่สองข้าง เป็นสัญลักษณ์ของพระบรมนามาภิไธย "วชิราวุธ" ซึ่งหมายถึง สายฟ้าอันเป็นเทพศาสตราของพระอินทร์ องค์พระราชลัญจกรนี้เป็นตรากลมรีรูปไข่แนวนอน กว้าง 5.5 เซนติเมตร ยาว 6.8 เซนติเมตร
-
พระราชลัญจกรประจำพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว -
พระราชลัญจกรประจำพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล -
พระราชลัญจกรประจำพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช
- พระราชลัญจกรประจำพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เรียกว่า พระราชลัญจกรพระแสงศร ลักษณะเป็นรูปพระแสงศร 3 องค์ คือ พระแสงศรพรหมาสตร์ พระแสงศรประลัยวาต พระแสงศรอัคนีวาต อันเป็นเทพอาวุธของพระพรหม พระอิศวร และพระนารายณ์ตามลำดับ เหนือราวพาดพระแสงเป็นดวงตรามหาจักรีบรมราชวงศ์ภายใต้พระมหาพิชัยมงกุฎ เบื้องซ้ายและเบื้องขวาของราวพาดพระแสงตั้งบังแทรก สอดแทรกด้วยลายกนกอยู่บนพื้นตอนบนของดวงตรา พระแสงศร 3 องค์นี้ เป็นพระราชสัญลักษณ์ของพระบรมนามาภิไธยว่า "ประชาธิปกศักดิเดชน์" ซึ่งมาจากความหมายของศัพท์คำสุดท้ายของวรรคที่ว่า "เดชน์" แปลว่า ลูกศร องค์พระราชลัญจกรนี้เป็นตรางากลมรีรูปไข่แนวนอน กว้าง 5.4 เซนติเมตร ยาว 6.7 เซนติเมตร
- พระราชลัญจกรประจำพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล ลักษณะเป็นรูปพระโพธิสัตว์ประทับบนบัลลังก์ดอกบัว ห้อยพระบาทขวาเหนือบัวบาน (ซึ่งดัดแปลงจากพระราชลัญจกรโพธิสัตว์สวนดุสิตในรัชกาลที่ 5) หมายถึงแผ่นดิน พระหัตถ์ซ้ายถือดอกบัวตูม และมีเรือนแก้วด้านหลังแทนรัศมี มีแท่นรองรับตั้งฉัตรบริวารทั้งสองข้าง เป็นพระราชสัญลักษณ์ของบรมนามาภิไธยว่า "อานันทมหิดล" ซึ่งแปลความว่า เป็นที่ยินดีของแผ่นดิน เพราะพระองค์ได้เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตย ด้วยความยินดีของอเนกนิกรชาวไทย ประหนึ่งพระโพธิสัตว์เสด็จมาประทานความร่มเย็นเป็นสุขแก่ทวยราษฎร์ทั้งมวล องค์พระราชลัญจกรนี้เป็นตรากลม เส้นผ่าศูนย์กลาง 7 เซนติเมตร
- พระราชลัญจกรประจำพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เป็นรูปพระที่นั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์ ประกอบด้วยวงจักร กลางวงจักรมีอักขระเป็น "อุ" หรือ "เลข 9" รอบวงจักรมีรัศมีเปล่งออกโดยรอบ เหนือจักรเป็นรูปเศวตฉัตร 7 ชั้น ฉัตรตั้งอยู่บนพระที่นั่งอัฐทิศ แปลความหมายว่า มีพระบรมเดชานุภาพในแผ่นดิน โดยที่วันบรมราชาภิเษก ตามโบราณราชประเพณี ได้เสด็จประทับเหนือพระที่นั่งอัฐทิศ ถวายน้ำอภิเษกจากทิศทั้ง 8 นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ที่พระมหากษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตย ทรงรับน้ำอภิเษกจากสมาชิกรัฐสภา แทนที่จะรับจากราชบัณฑิตดั่งในรัชกาลก่อน องค์พระราชลัญจกรนี้เป็นตรากลมรีรูปไข่แนวตั้ง กว้าง 5 เซนติเมตร สูง 6.7 เซนติเมตร
พระราชลัญจกรองค์นี้นอกจากจะใช้ประทับในเอกสารสำคัญส่วนพระองค์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับราชการแผ่นดินแล้ว ยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานตรานี้แก่สถาบันอุดมศึกษากลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฏ และ ทรงพระราชทานนาม "ราชภัฏ" แก่ มหาวิทยาลัยราชภัฏ ซึ่งหมายถึง "คนของพระราชา" เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2535 และ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ใช้เป็นตราประจำมหาวิทยาลัยแต่ละแห่งในเครือของตน เมื่อปี พ.ศ. 2531และยังได้มีพระบรมราชานุญาตให้ใช้เป็นภาพประธานในตราสัญลักษณ์งานพระราชพิธีสำคัญต่างๆ ในรัขกาลของพระองค์ ได้แก่ พระราชพิธีรัชมังคลาภิเษก งานฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี และงานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษา 5 ธันวาคม พุทธศักราช 2550อีกด้วย - พระราชลัญจกรประจำพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นรูปวชิราวุธซึ่งหมายถึง สายฟ้าอันเป็นเทพศาสตราของพระอินทร์ มีแบบตามพระราชนิยมในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้านบนมี พระเกี้ยว มีแบบตามพระราชนิยมในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แทนคำว่า “อลงกรณ์” ซึ่งแปลว่า เครื่องประดับ เป็นพระราชสัญลักษณ์ของพระบรมนามาภิไธย “มหาวชิราลงกรณ” เปล่งรัศมีเป็นสายฟ้า ประดิษฐานอยู่บนพานแว่นฟ้า พร้อมด้วยฉัตรบริวาร องค์พระราชลัญจกรนี้เป็นตรางากลมรีรูปไข่แนวนอน กว้าง 5.4 เซนติเมตร ยาว 6.7 เซนติเมตร
อ้างอิง
ดูเพิ่ม
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamniidrbaecngihprbprunghlaykhx krunachwyprbprungbthkhwam hruxxphipraypyhathihnaxphipray bthkhwamnitxngkarphisucnxksr xacepndankarichphasa karsakd iwyakrn rupaebbkarekhiyn hruxkaraeplcakphasaxun bthkhwamnitxngkaraehlngxangxingephimephuxphisucnkhxethccring phrarachlyckrpracarchkal epntrapracaphraxngkhkhxngphramhakstriyaetlarchkal sungthrngphrakrunaoprdekla ihsrangkhunemuxerimtnrchkal ephuxprathbkakbphraprmaphiithy inexksarsakhytang khxngchati thiekiywkbrachkaraephndin echn rththrrmnuy phrarachbyyti phrarachkahnd phrarachkvsdika aelaexksarsakhyswnphraxngkh thiimekiywkbrachkaraephndin phrarachlyckrnbepnekhruxngmngkhlthiaesdngthungxisriyysaelaphrabrmedchanuphaphkhxngphramhakstriyprawtiprakthlkthanwaphrarachlyckrpracarchkalmiichmatngaetsmykrungsrixyuthyaaelwinexksartangpraeths odymikarphimphphaphcalxngphrarachlyckrrupethwda 4 kr sungsnnisthanwaepnphrarachlyckrphranaraynthrngkhruth pracaphraxngkhkhxngsmedcphranaraynmharach tiphimphxyuinhnngsux cdhmayehtulaluaebr sungekhiynody simng edx la luaebr aetenuxngcakexksarsmykrungsrixyuthyaswnihysuyhayipkbkaresiykrungsrixyuthyakhrngthi 2 thaihimxacsubthrabidchdecnwa phramhakstriyaetlarchkalichtraxairepnphrarachlyckrpracarchkal insmykrungrtnoksinthrnn kxnsmyrchkalthi 4 prakthlkthanrxyprathbphrarachlyckrpracarchkalephiyngphrarachlyckrthiechuxwaepnphrarachlyckrpracarchkalthi 2 ethann khux phrarachlyckritrsareswt xyangirktam kmikarichsylksnpracarchkaltangmatngaetsmyrchkalthi 1 odyprakthlkthanxyuinenginphddwngsmydngklawxyuaelw thrrmeniymkarichphrarachlyckrpracarchkalprakthlkthanchdecnkhuninsmyrchkalthi 4 sungmikarprathbphrarachlyckrphramhamngkudaelaphrarachlyckrphracuthamni inexksarswnphraxngkh echn phrarachhtthelkha khxngphrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhw aelaphrabathsmedcphrapineklaecaxyuhwtamladb emuxminganrtnoksinthrsmophchkhrb 100 pi in ph s 2425 phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw thrngphrakrunaoprdekla ihcdsrangphrarachlyckrpracarchkalthi 1 rchkalthi 3 ephuxxuthisthwayphramhakstriythngsamrchkalkhangtn hlngcaknn phramhakstriyinrchkaltx makthrngsrangphrarachlyckrpracarchkalkhxngphraxngkhichmaodytlxdcnthungpccubnphrarachlyckrpracarchkalkhxngphramhakstriysmedcphranaraynmharach phrarachlyckrsmedcphranaraynmharach rachwngsckri phrarachlyckrpracaphrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharach phrarachlyckrpracaphrabathsmedcphraphuththelishlanphaly phrarachlyckrpracaphrabathsmedcphranngeklaecaxyuhw phrarachlyckrpracaphrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharach epnruppthumxunaolm mixkkhra xu aebbxksrkhxmxyuklang lxmrxbdwyklibbw xnepnphvkschatithiepnsirimngkhlinphuththsasna traxunaolmmiruprangkhlaysngkhthksinawrrt sngkhewiynkhwa xyuinkrxblayknk erimichkhrawphrarachphithibrmrachaphiesk emux ph s 2328 phrarachlyckrpracaphrabathsmedcphraphuththelishlanphaly epnrupkhruthyudnakh epnphrarachsylksnkhxngphrabrmnamaphiithywa chim tamkhwamhmaykhxngwrrnkhdiithy khux khruthsunginethphniyayethwkaenid epnethphxngkhhnungthithrngmhiththanuphaphying aetyxmepnethphphahnasahrbphranarayn pktixyuthiwimanchimphli dngnnthrngphrakrunaihichrupkhruthyudnakh epnphrarachsylksnpracaphraxngkh aethnphrabrmnamaphiithy phrarachlyckrpracaphrabathsmedcphranngeklaecaxyuhw epnrupprasath epnphrarachsylksnkhxngphrabrmnamaphiithywa thb hmaykhwamwa thixyu hruxeruxn dngnncungthrngphrakrunaoprdkla ihsrangrupprasath epnphrarachsylksnpracaphraxngkh aethnphrabrmnamaphiithy phrarachlyckrthng 3 xngkhniedimepnephiyngphrarachsylksnthipraktinthitang echn enginphddwng phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwthrngsrangphrarachlyckrehlanikhunephuxxuthisthwayphramhakstriythngsamphraxngkhemux ph s 2425 trathnghmdepntraklm esnphasunyklang 7 esntiemtr phrarachlyckrpracaphrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhw phrarachlyckrpracaphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw phrarachlyckrpracaphrabathsmedcphramngkudeklaecaxyuhw phrarachlyckrpracaphrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhw eriykwa phrarachlyckrphramhamngkud lksnaepnrupklmri layklangepnrupphramhaphichymngkud xnepnphrarachsylksnkhxngphrabrmnamaphiithywa mngkud sungepnsiraphrnsakhykhxngphramhakstriy xyuinekhruxngebycrachkuthphnth michtrbriwartngkhnabkhangthirimkhxbthngsxngkhang miphanthxngsxngchnwangphraaewnsuriykanthruxephchrkhanghnung smudtarakhanghnung rupphraaewnsuriykanthruxephchrnimacakchayaemuxphnwchwa wchiryan swnsmudtaramacakehtuthiidthrngsuksaechiywchayinthangaeladarasastr xngkhphrarachlyckrniepntraklmrirupikhaenwnxn kwang 5 5 esntiemtr yaw 6 8 esntiemtr phrarachlyckrpracaphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw eriykwa phrarachlyckrphraekiywyxd lksnaepnrupphraculmngkud hruxphraekiyw eplngrsmipradisthbnphanaewnfa epnphrarachsylksnkhxngphrabrmnamaphiithywa culalngkrn sungaeplkhwamhmaywaepnsiraphrnchnidhnungxyangmngkud michtrbriwartngkhnabkhang thirimkhxbthngsxngkhangmiphanaewnfaaelaphraaewnsuriykanthruxephchrkhanghnung wangsmudtarakhanghnung phraaewnsuriykanthruxephchraelasmudtarann epnkarecriyrxycalxngphrarachlyckrpracaphraxngkh phrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhw sungepnsmedcphrabrmchnknath xngkhphrarachlyckrniepntraklmrirupikhaenwnxn kwang 5 5 esntiemtr yaw 6 8 esntiemtr phrarachlyckrpracaphrabathsmedcphramngkudeklaecaxyuhw eriykwa phrarachlyckrphrawchira epnrupwchirawuth eplngrsmiepnsayfa pradisthbnphanaewnfatngxyuehnuxtng michtrklibbwtngxyusxngkhang epnsylksnkhxngphrabrmnamaphiithy wchirawuth sunghmaythung sayfaxnepnethphsastrakhxngphraxinthr xngkhphrarachlyckrniepntraklmrirupikhaenwnxn kwang 5 5 esntiemtr yaw 6 8 esntiemtrphrarachlyckrpracaphrabathsmedcphrapkeklaecaxyuhw phrarachlyckrpracaphrabathsmedcphrapremnthrmhaxannthmhidl phrarachlyckrpracaphrabathsmedcphrabrmchnkathiebsr mhaphumiphlxdulyedchmharach phrarachlyckrpracaphrabathsmedcphrapkeklaecaxyuhw eriykwa phrarachlyckrphraaesngsr lksnaepnrupphraaesngsr 3 xngkh khux phraaesngsrphrhmastr phraaesngsrpralywat phraaesngsrxkhniwat xnepnethphxawuthkhxngphraphrhm phraxiswr aelaphranarayntamladb ehnuxrawphadphraaesngepndwngtramhackribrmrachwngsphayitphramhaphichymngkud ebuxngsayaelaebuxngkhwakhxngrawphadphraaesngtngbngaethrk sxdaethrkdwylayknkxyubnphuntxnbnkhxngdwngtra phraaesngsr 3 xngkhni epnphrarachsylksnkhxngphrabrmnamaphiithywa prachathipkskdiedchn sungmacakkhwamhmaykhxngsphthkhasudthaykhxngwrrkhthiwa edchn aeplwa luksr xngkhphrarachlyckrniepntrangaklmrirupikhaenwnxn kwang 5 4 esntiemtr yaw 6 7 esntiemtr phrarachlyckrpracaphrabathsmedcphrapremnthrmhaxannthmhidl lksnaepnrupphraophthistwprathbbnbllngkdxkbw hxyphrabathkhwaehnuxbwban sungddaeplngcakphrarachlyckrophthistwswndusitinrchkalthi 5 hmaythungaephndin phrahtthsaythuxdxkbwtum aelamieruxnaekwdanhlngaethnrsmi miaethnrxngrbtngchtrbriwarthngsxngkhang epnphrarachsylksnkhxngbrmnamaphiithywa xannthmhidl sungaeplkhwamwa epnthiyindikhxngaephndin ephraaphraxngkhidesdcethlingthwlyrachsmbtiepnphramhakstriyinrabxbprachathipity dwykhwamyindikhxngxenknikrchawithy prahnungphraophthistwesdcmaprathankhwamrmeynepnsukhaekthwyrasdrthngmwl xngkhphrarachlyckrniepntraklm esnphasunyklang 7 esntiemtr phrarachlyckrpracaphrabathsmedcphrabrmchnkathiebsr mhaphumiphlxdulyedchmharach brmnathbphitr epnrupphrathinngxththisxuthumphrrachxasn prakxbdwywngckr klangwngckrmixkkhraepn xu hrux elkh 9 rxbwngckrmirsmieplngxxkodyrxb ehnuxckrepnrupeswtchtr 7 chn chtrtngxyubnphrathinngxththis aeplkhwamhmaywa miphrabrmedchanuphaphinaephndin odythiwnbrmrachaphiesk tamobranrachpraephni idesdcprathbehnuxphrathinngxththis thwaynaxphieskcakthisthng 8 nbepnkhrngaerkinprawtisastr thiphramhakstriyinrabxbprachathipity thrngrbnaxphieskcaksmachikrthspha aethnthicarbcakrachbnthitdnginrchkalkxn xngkhphrarachlyckrniepntraklmrirupikhaenwtng kwang 5 esntiemtr sung 6 7 esntiemtr phrarachlyckrxngkhninxkcakcaichprathbinexksarsakhyswnphraxngkhthiimekiywkhxngkbrachkaraephndinaelw yngthrngphrakrunaoprdekla phrarachthantraniaeksthabnxudmsuksaklummhawithyalyrachpht aela thrngphrarachthannam rachpht aek mhawithyalyrachpht sunghmaythung khnkhxngphraracha emuxwnthi 14 kumphaphnth ph s 2535 aela mhawithyalyethkhonolyirachmngkhl ichepntrapracamhawithyalyaetlaaehnginekhruxkhxngtn emuxpi ph s 2531aelayngidmiphrabrmrachanuyatihichepnphaphprathanintrasylksnnganphrarachphithisakhytang inrkhkalkhxngphraxngkh idaek phrarachphithirchmngkhlaphiesk nganchlxngsirirachsmbtikhrb 50 pi aelanganphrarachphithiechlimphrachnmphrrsakhrb 80 phrrsa 5 thnwakhm phuththskrach 2550xikdwy phrarachlyckrpracaphrabathsmedcphrawchireklaecaxyuhw epnrupwchirawuthsunghmaythung sayfaxnepnethphsastrakhxngphraxinthr miaebbtamphrarachniyminphrabathsmedcphramngkudeklaecaxyuhw danbnmi phraekiyw miaebbtamphrarachniyminphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw aethnkhawa xlngkrn sungaeplwa ekhruxngpradb epnphrarachsylksnkhxngphrabrmnamaphiithy mhawchiralngkrn eplngrsmiepnsayfa pradisthanxyubnphanaewnfa phrxmdwychtrbriwar xngkhphrarachlyckrniepntrangaklmrirupikhaenwnxn kwang 5 4 esntiemtr yaw 6 7 esntiemtrxangxinghttp www baanjomyut com library calendar mark king index html http www tv5 co th service mod heritage king lanjakorn lanjakorn1 htm 2009 06 20 thi ewyaebkaemchchinduephimwikisxrs mingantnchbbekiywkb phrarachlyckraelatrapracatwpracataaehnng ody phrayaxnumanrachthn yng esthiyrokess phrabrmrachsylksn 9 rchkal phraekiyw