พระยาเชียงใหม่น้อยธรรม หรือ พระยาธรรมลังกา (พระญาธัมมลังกา) (ไทยถิ่นเหนือ: ) (พ.ศ. 2289 - 2365) เป็นพระยาเชียงใหม่องค์ที่ 2 ในราชวงศ์ทิพย์จักร และเป็นราชบุตรในเจ้าฟ้าสิงหาราชธานีเจ้าฟ้าหลวงชายแก้ว โดยพระองค์ได้ร่วมกับพระเชษฐา และพระอนุชาในการต่อสู้อริราชศัตรูจนได้รับสมัญญานามว่า "เจ้าเจ็ดตน"
พระยาธรรมลังกา | |||||
---|---|---|---|---|---|
พระยาเชียงใหม่ | |||||
ครองราชย์ | พ.ศ. 2359 - พ.ศ. 2365 | ||||
รัชสมัย | 6 ปี | ||||
ราชาภิเษก | 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2359 | ||||
ก่อนหน้า | พระเจ้ากาวิละ | ||||
ถัดไป | พระยาคำฟั่น | ||||
กษัตริย์ | พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย | ||||
อุปราช | พระยาคำฟั่น | ||||
พระยาอุปราชนครเชียงใหม่ | |||||
ดำรงพระยศ | พ.ศ. 2325 - พ.ศ. 2358 | ||||
ถัดไป | พระยาคำฟั่น | ||||
เจ้าหลวง | พระเจ้ากาวิละ | ||||
ประสูติ | พ.ศ. 2289 | ||||
พิราลัย | 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2365 (77 ปี) | ||||
ราชเทวี | แม่เจ้าจันฟอง | ||||
| |||||
พระบุตร | 17 องค์ | ||||
ราชสกุล | ณ เชียงใหม่ | ||||
ราชวงศ์ | ทิพย์จักร | ||||
พระบิดา | เจ้าฟ้าสิงหาราชธานีเจ้าฟ้าหลวงชายแก้ว | ||||
พระมารดา | แม่เจ้าจันทาราชเทวี | ||||
ศาสนา | เถรวาท |
พระราชประวัติ
พระยาธรรมลังกาเป็นเจ้าราชโอรสองค์ที่ 3 ในเจ้าฟ้าสิงหาราชธานีเจ้าฟ้าหลวงชายแก้ว เจ้าผู้ครองนครลำปาง กับแม่เจ้าจันทาราชเทวี และเป็นเจ้าราชนัดดา (หลานปู่) ในพระยาไชยสงคราม (ทิพย์ช้าง) (พระญาสุละวะฤๅไชยสงคราม) กับ แม่เจ้าพิมพาราชเทวี ซึ่งเป็นองค์ปฐมวงศ์ "ราชวงศ์ทิพย์จักร"
พระยาธรรมลังกา เป็นพระอนุชาของพระเจ้ากาวิละมีพระเชษฏาพระอนุชาและพระขนิษฐา รวม 10 องค์ (หญิง 3 ชาย 7) (เจ้าชายทั้ง 7 พระองค์ได้ทรงช่วยกันต่อสู้อริราชศัตรูขยายขอบขัณฑสีมาล้านนาออกไปอย่างเกรียงไกร เป็นเหตุให้มีพระสมัญญาว่า "เจ้าเจ็ดตน") มีพระนามตามลำดับ ดังนี้
- พระเจ้ากาวิละ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ องค์ที่ 1 (นับเป็น "พระเจ้าผู้ครองนครลำปาง องค์ที่ 3" ใน "ราชวงศ์ทิพย์จักร")
- พระยาคำโสม เจ้าผู้ครองนครลำปาง องค์ที่ 4
- พระยาธรรมลังกา เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ องค์ที่ 2
- พระเจ้าดวงทิพย์ เจ้าผู้ครองนครลำปาง องค์ที่ 5
- เจ้าศรีอโนชา พระอัครชายาในสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท
- เจ้าหญิงสรีวัณณา (ถึงแก่พิราลัยแต่เยาว์)
- พระยาอุปราชหมูล่า พระราชมหาอุปราชานราธิบดีศรีสุวรรณฝ่ายหน้าหอคำนครลำปาง
- พระยาคำฟั่น เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ องค์ที่ 3 และ เจ้าผู้ครองนครลำพูน องค์ที่ 1
- เจ้าหญิงสรีบุญทัน (พิราลัยแต่เยาว์)
- พระเจ้าบุญมา พระเจ้านครลำพูน องค์ที่ 2
ในปี พ.ศ. 2317 เมื่อพระเจ้ากาวิละ ร่วมมือกับพระยาจ่าบ้าน (บุญมา) และสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ปลดปล่อยล้านนาจากอำนาจของพม่าได้สำเร็จ พระเจ้ากรุงธนบุรีได้สถาปนาพระยาจ่าบ้านเป็นพระยาวิเชียรปราการ เจ้าเมืองเชียงใหม่ เจ้ากาวิละเป็นพระยานครลำปาง และแต่งตั้งเจ้าธรรมลังกาเป็นพระยาราชวงศ์เมืองนครลำปาง และได้เลื่อนอิสริยยศเป็น "พระยาอุปราชเมืองเชียงใหม่" ในปี พ.ศ. 2348
หลังจากพระเจ้ากาวิละถึงแก่พิราลัย (พ.ศ. 2358) ในปี พ.ศ. 2359 พระยาอุปราชน้อยธรรมได้ไปเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยเพื่อถวายช้างพลายเผือกเอก จึงทรงตั้งเป็นพระยาเชียงใหม่ เมื่อกลับถึงเชียงใหม่จึงรับราชาภิเษกในวันขึ้น 12 ค่ำ เดือน 9 เหนือ (ตรงกับวันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2359) มีพระนามว่าเสตหัตถีสุวัณณประทุมราชาเจ้าช้างเผือก และเนื่องจากได้ถวายช้างเผือกจึงได้รับสมัญญาว่าพระเป็นเจ้าช้างเผือก (ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่) หรือ พระยาเชียงใหม่ช้างเผือก (พงศาวดารโยนก)
พระยาธรรมลังกา ประชวรจนถึงแก่อนิจกรรมในวันขึ้น 14 ค่ำ เดือน 8 เหนือ (ตรงกับวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2365) สิริอายุได้ 77 ปี ทรงปกครองนครเชียงใหม่รวมทั้งสิ้น 7 ปี
ราชโอรส ราชธิดา
พระยาธรรมลังกา มีเจ้าราชโอรสและราชธิดา รวม 17 องค์ ดังนี้
- เจ้าบุญทา
- เจ้าน้อยคำแสน
- เจ้าอุปราชนครเชียงใหม่ - เจ้าปู่ใน "เจ้าไชยสงคราม (สมพมิตร ณ เชียงใหม่)" ซึ่ง "เจ้าไชยสงครามฯ" เป็นเจ้าปู่ของธวัชวงศ์ ณ เชียงใหม่, อดีตรัฐมนตรีฯ" และเป็นเจ้าตาทวดของทักษิณ ชินวัตร และยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
- เจ้าน้อยพรหมา
- เจ้าหนานอินตา
- เจ้าน้อยมหาพรหม
- เจ้าสุธรรมมา
- เจ้าปทุมมา
- เจ้าคำทิพย์ - ชายาเจ้าน้อยจักรคำ ณ เชียงใหม่ ราชโอรสในพระยาคำฟั่น ผู้ครองนครเชียงใหม่ องค์ที่ 3
- - รับราชการฝ่ายในเป็นเจ้าจอมใน ร.3 (ไม่มีพระราชโอรส พระราชธิดา)
- เจ้าองค์ทิพย์
- เจ้ากาบแก้ว
- เจ้าบุญปั๋น - เจ้ามารดาใน "เจ้าหลวงมหาวงศ์ ณ เชียงใหม่, พระยามหิทธิวงศา เจ้าเมืองฝาง"
- เจ้าเกี๋ยงคำ ตุงคนาคร - ชายา "เจ้าราชภาติกวงษ์ น้อยดวงทิพย์ ตุงคนาคร, เจ้าราชภาติกวงษ์นครลำพูน" เจ้านายราชวงศ์มังราย จากเมืองเชียงตุง ซึ่งอพยพเข้ามาอยู่นครเชียงใหม่ตั้งแต่ปี 2348 ได้รับพระราชทานนามสกุลจาก ร. 6
- แม่เจ้าแก้วยวงคำ, เทวีใน เจ้าหลวงหนานสุยะ, พระยารัตนอาณาเขต เจ้าเมืองเชียงราย
- เจ้าจันทร์เป็ง ณ เชียงใหม่
พระราชกรณียกิจ
เจ้าหลวงเชียงใหม่แห่ง ราชวงศ์ทิพย์จักร | |
---|---|
พระเจ้ากาวิละ | |
พระยาธรรมลังกา | |
พระยาคำฟั่น | |
พระยาพุทธวงศ์ | |
พระเจ้ามโหตรประเทศ | |
พระเจ้ากาวิโลรสสุริยวงศ์ | |
พระเจ้าอินทวิชยานนท์ | |
เจ้าอินทวโรรสสุริยวงษ์ | |
เจ้าแก้วนวรัฐ | |
การศาสนา
ในรัชสมัยของพระเจ้ากาวิละ ได้ร่วมกับเจ้าน้อยธรรมลังกา และขุนนางไพร่ฟ้าในการสร้างวิหารในวัดอินทขีลที่เวียงป่าซาง และวิหารวัดอินทขีล ในกลางเมืองเชียงใหม่ เมื่อ พ.ศ. 2337 ต่อมาในปี พ.ศ. 2360 เจ้าหลวงธรรมลังกา เห็นว่ากู่ลาย วัดพระสิงห์ ได้ทรุดโทรมลงไปมาก จึงดำรให้มีการซ่อมแซมและขุดแต่งพระเจดีย์ดังกล่าว และได้พบของมีค่าเป็นอันมาก ซึ่งก็ให้บรรจุไว้ในที่เดิมแล้วปฏิสังขรณ์พระเจดีย์นั้นต่อจนเสร็จแล้วจึงมีการฉลองใหญ่ และในปีเดียวกันก็ได้สร้างวิหารจตุรมุขของวัดพระธาตุศรีจอมทองขึ้นใหม่ โดยทำการยกเสาเมื่อเดือนหกเหนือ ขึ้น 13 ค่ำ ตรงกับวันพฤหัสบดี พร้อมกันนั้นได้สร้างมณฑปของเสาอินทขีล ที่บริเวณวัดเจดีย์หลวง และยังเริ่มก่อสร้างสถูปในที่ท่ามกลางอุโบสถภิกขุนีในวัดพระสิงห์ และได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุในเดือนแปดเหนือ ขึ้น 10 ค่ำ ปี พ.ศ. 2361
ในปี พ.ศ. 2362 เจ้าหลวงได้ดำริให้มีการฉลองใหญ่ในวัดอุโมงค์ วัดดวงดี วัดสะเพา และวัดพันเท่า ในงานนี้มีการฉลองกันอย่างยิ่งใหญ่ และในเดือนแปดเหนือ ได้ดำริให้ยกเสาวิหารวัดป้านพิง วัดดอกคำ วัดเชียงยืน และวัดบุพผาราม อีกทั้งได้มีการก่อสร้างกำแพงวัดพระธาตุศรีจอมทองด้วย
ในปี พ.ศ. 2363 เจ้าหลวงธรรมลังกา ได้ไปนมัสการพระพุทธบาทสี่รอยและได้สร้างวิหารคร่อมรอยพระพุทธบาทนั้น ในเดือนหกเหนือแรม 8 ค่ำ และจากนั้นจึงได้ไปนมัสการพระบาทเจ้าข่วงเพา และสร้างพระพุทรูปขนาดใหญ่ในวัดพระสิงห์
ในปี พ.ศ. 2365 ได้ทำบุญฉลองพระอุโบสถวัดเจดีย์หลวง และในปีเดียวกันนี้เจ้าหลวงธรรมลังกา ได้ทรงผนวชที่วัดเชียงมั่นด้วย ในปีถัดมาได้ทรงดำริให้อัญเชิญพระพุทธรูปสำคัญที่อยู่ในวัดร้างนอกเขตกำแพงเมือง เข้ามาไว้ในตัวเมือง เช่น พระเจ้าแฅ่งฅม ไว้ที่วัดศรีเกิด
การขุดเหมือง
เมื่อปี พ.ศ. 2360 ได้ทรงดำริให้เสนาข้าราชการและประชาชนขุดเหมือง 3 สาย โดยเริ่มที่จุดรับน้ำจากแจ่งหัวลินไปทางแจ่งสรีภูมิ แล้ววนไปทางแจ่งคะท้ำ สายที่สองไปตามถนนหลวงหน้าวัดดับภัยและวัดพระสิงห์ลงไป สายที่สามเลียบตามเชิงเทินทิศตะวันตกไปทางใต้ ผ่านด้านเหนือของ "หอคำ" แล้วเลี้ยวออกท่อที่แจ่งคะท้ำหน้าวัดซานมูน (วัดทรายมูลพม่า ในปัจจุบัน) โดยให้ก่ออิฐทั้งสองข้างของลำเหมืองทุกสาย ประชาชนในตัวเมืองได้ใช้ประโยชน์จากลำเหมืองทั้งสามสาย
การบูรณะกำแพงเมือง
ในยุคของเจ้าหลวงธรรมลังกา ได้มีการบูรณะซ่อมแซมกำแพงเมืองเชียงใหม่ ในปี พ.ศ. 2361 ซึ่งกำแพงดังกล่าวถูกสร้างขึ้นในรัชสมัยพระเจ้ากาวิละ (พ.ศ. 2339) โดยการบูรณะกำแพงเมือง เริ่มการขุดลอกคูเมืองตั้งแต่แจ่งกูเรืองไปจนถึงประตูไหยา มีความยาว 606 วา จนถึงปี พ.ศ. 2363 ได้เริ่มก่อสร้างกำแพงเมือง โดยเริ่มก่อสร้างในเวลารุ่งเช้า มีการยิงปืนใหญ่สามนัด นิมนต์ครูบาสมเด็จวัดผ้าขาว ครูบาจันทรังสี วัดพระสิงห์ และพระสงฆ์อีก 19 รูป สวดมนต์ โปรยน้ำโปรยทราย และเริ่มก่อสร้างจากแจ่งสรีภูมิเวียนไปทางซ้าย
ฐานันดรศักดิ์และพระอิสริยยศ
- พ.ศ. 2289 - 2317: เจ้าน้อยธัมมลังกา ณ ลำปาง
- พ.ศ. 2317 - 2325: พระยาราชวงศ์เมืองนครลำปาง
- พ.ศ. 2325 - 2359: พระยาอุปราชเมืองเชียงใหม่
- พ.ศ. 2359 - 2365: พระยาเชียงใหม่
ราชตระกูล
พงศาวลีของพระยาธรรมลังกา | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
อ้างอิง
- เชิงอรรถ
- รุ่งพงษ์ ชัยนาม. ประวัติศาสตร์ล้านนา : ประวัติศาสตร์ไทยที่คนไทยไม่ค่อยมีโกาสได้ศึกษา. มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
- พงศาวดารเมืองนครเชียงใหม่ เมืองนครลำปาง เมืองลำพูนไชย, หน้า 97
- พงศาวดารโยนก, หน้า 449
- วงศ์สักก์ ณ เชียงใหม่, บรรณาธิการ, เจ้าหลวงเชียงใหม่ 2016-03-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, 2539, เชียงใหม่ : คณะทายาทสายสกุล ณ เชียงใหม่
- หนานอินแปง. พระราชชายา เจ้าดารารัศมี. กรุงเทพฯ : บางกอกบุ๊ค, 2546
- เจ้านายฝ่ายเหนือ และตำนานรักมะเมียะ, หน้า 4
- พงศาวดารเมืองนครเชียงใหม่ เมืองนครลำปาง เมืองลำพูนไชย, หน้า 96
- พงศาวดารโยนก, หน้า 448
- ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่, หน้า 209
- ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่, หน้า 210
- ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่, หน้า 214
- พิเชษ ตันตินามชัย. "เจ้าหญิงเชียงใหม่" ศิลปวัฒนธรรม 26 : 2 ธันวาคม 2547.
- บรรณานุกรม
- ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ ฉบับเชียงใหม่ 700 ปี. เชียงใหม่ : ศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ สถาบันราชภัฏเชียงใหม่, 2538. 320 หน้า. ISBN
- . พงศาวดารโยนก. นนทบุรี : ศรีปัญญา, 2557. 496 หน้า. ISBN
- มหาอำมาตยาธิบดี (หรุ่น ศรีเพ็ญ), พระยา. พงศาวดารเมืองนครเชียงใหม่ เมืองนครลำปาง เมืองลำพูนไชย. พระนคร : โรงพิมพ์พระจันทร์, 2505. 35 หน้า. [พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ พระพิจิตรโอสถ (รอด สุตันตานนท์)]
- วรชาติ มีชูบท. เจ้านายฝ่ายเหนือ และตำนานรักมะเมียะ. กรุงเทพฯ : สร้างสรรค์บุ๊คส์, 2556. 428 หน้า. ISBN
- อรุณรัตน์ วิเชียรเขียว และเดวิด เค วัยอาจ (ปริวรรต). ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่. กรุงเทพฯ : ตรัสวิน, 2543. 220 หน้า. ISBN
ก่อนหน้า | พระยาธรรมลังกา | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
พระเจ้ากาวิละ | เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ (พ.ศ. 2359 — พ.ศ. 2365) | พระยาคำฟั่น |
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
phrayaechiyngihmnxythrrm hrux phrayathrrmlngka phrayathmmlngka ithythinehnux ph s 2289 2365 epnphrayaechiyngihmxngkhthi 2 inrachwngsthiphyckr aelaepnrachbutrinecafasingharachthaniecafahlwngchayaekw odyphraxngkhidrwmkbphraechstha aelaphraxnuchainkartxsuxrirachstrucnidrbsmyyanamwa ecaecdtn phrayathrrmlngkaphrayaechiyngihmkhrxngrachyph s 2359 ph s 2365rchsmy6 pirachaphiesk26 phvsphakhm ph s 2359kxnhnaphraecakawilathdipphrayakhafnkstriyphrabathsmedcphraphuththelishlanphalyxuprachphrayakhafnphrayaxuprachnkhrechiyngihmdarngphraysph s 2325 ph s 2358thdipphrayakhafnecahlwngphraecakawilaprasutiph s 2289phiraly5 phvsphakhm ph s 2365 77 pi rachethwiaemecacnfxngphranametmesthtthisuwnnprathumrachaecachangephuxkphrabutr17 xngkhrachskuln echiyngihmrachwngsthiphyckrphrabidaecafasingharachthaniecafahlwngchayaekwphramardaaemecacntharachethwisasnaethrwathphrarachprawtiphrayathrrmlngkaepnecarachoxrsxngkhthi 3 inecafasingharachthaniecafahlwngchayaekw ecaphukhrxngnkhrlapang kbaemecacntharachethwi aelaepnecarachndda hlanpu inphrayaichysngkhram thiphychang phrayasulawaviichysngkhram kb aemecaphimpharachethwi sungepnxngkhpthmwngs rachwngsthiphyckr phrayathrrmlngka epnphraxnuchakhxngphraecakawilamiphraechstaphraxnuchaaelaphrakhnistha rwm 10 xngkh hying 3 chay 7 ecachaythng 7 phraxngkhidthrngchwykntxsuxrirachstrukhyaykhxbkhnthsimalannaxxkipxyangekriyngikr epnehtuihmiphrasmyyawa ecaecdtn miphranamtamladb dngni phraecakawila ecaphukhrxngnkhrechiyngihm xngkhthi 1 nbepn phraecaphukhrxngnkhrlapang xngkhthi 3 in rachwngsthiphyckr phrayakhaosm ecaphukhrxngnkhrlapang xngkhthi 4 phrayathrrmlngka ecaphukhrxngnkhrechiyngihm xngkhthi 2 phraecadwngthiphy ecaphukhrxngnkhrlapang xngkhthi 5 ecasrixoncha phraxkhrchayainsmedcphrabwrrachecamhasursinghnath ecahyingsriwnna thungaekphiralyaeteyaw phrayaxuprachhmula phrarachmhaxuprachanrathibdisrisuwrrnfayhnahxkhankhrlapang phrayakhafn ecaphukhrxngnkhrechiyngihm xngkhthi 3 aela ecaphukhrxngnkhrlaphun xngkhthi 1 ecahyingsribuythn phiralyaeteyaw phraecabuyma phraecankhrlaphun xngkhthi 2 inpi ph s 2317 emuxphraecakawila rwmmuxkbphrayacaban buyma aelasmedcphraecakrungthnburi pldplxylannacakxanackhxngphmaidsaerc phraecakrungthnburiidsthapnaphrayacabanepnphrayawiechiyrprakar ecaemuxngechiyngihm ecakawilaepnphrayankhrlapang aelaaetngtngecathrrmlngkaepnphrayarachwngsemuxngnkhrlapang aelaideluxnxisriyysepn phrayaxuprachemuxngechiyngihm inpi ph s 2348 hlngcakphraecakawilathungaekphiraly ph s 2358 inpi ph s 2359 phrayaxuprachnxythrrmidipekhaefaphrabathsmedcphraphuththelishlanphalyephuxthwaychangphlayephuxkexk cungthrngtngepnphrayaechiyngihm emuxklbthungechiyngihmcungrbrachaphieskinwnkhun 12 kha eduxn 9 ehnux trngkbwnthi 26 phvsphakhm ph s 2359 miphranamwaesthtthisuwnnprathumrachaecachangephuxk aelaenuxngcakidthwaychangephuxkcungidrbsmyyawaphraepnecachangephuxk tananphunemuxngechiyngihm hrux phrayaechiyngihmchangephuxk phngsawdaroynk phrayathrrmlngka prachwrcnthungaekxnickrrminwnkhun 14 kha eduxn 8 ehnux trngkbwnthi 28 mithunayn ph s 2365 sirixayuid 77 pi thrngpkkhrxngnkhrechiyngihmrwmthngsin 7 pirachoxrs rachthidaphrayathrrmlngka miecarachoxrsaelarachthida rwm 17 xngkh dngni ecabuytha ecanxykhaaesn ecaxuprachnkhrechiyngihm ecapuin ecaichysngkhram smphmitr n echiyngihm sung ecaichysngkhram epnecapukhxngthwchwngs n echiyngihm xditrthmntri aelaepnecatathwdkhxngthksin chinwtr aelayinglksn chinwtr xditnaykrthmntri ecanxyphrhma ecahnanxinta ecanxymhaphrhm ecasuthrrmma ecapthumma ecakhathiphy chayaecanxyckrkha n echiyngihm rachoxrsinphrayakhafn phukhrxngnkhrechiyngihm xngkhthi 3 rbrachkarfayinepnecacxmin r 3 immiphrarachoxrs phrarachthida ecaxngkhthiphy ecakabaekw ecabuypn ecamardain ecahlwngmhawngs n echiyngihm phrayamhiththiwngsa ecaemuxngfang ecaekiyngkha tungkhnakhr chaya ecarachphatikwngs nxydwngthiphy tungkhnakhr ecarachphatikwngsnkhrlaphun ecanayrachwngsmngray cakemuxngechiyngtung sungxphyphekhamaxyunkhrechiyngihmtngaetpi 2348 idrbphrarachthannamskulcak r 6 aemecaaekwywngkha ethwiin ecahlwnghnansuya phrayartnxanaekht ecaemuxngechiyngray ecacnthrepng n echiyngihmphrarachkrniykicecahlwngechiyngihmaehng rachwngsthiphyckrphraecakawilaphrayathrrmlngkaphrayakhafnphrayaphuththwngsphraecamohtrpraethsphraecakawiolrssuriywngsphraecaxinthwichyannthecaxinthworrssuriywngsecaaekwnwrthdkkarsasna inrchsmykhxngphraecakawila idrwmkbecanxythrrmlngka aelakhunnangiphrfainkarsrangwiharinwdxinthkhilthiewiyngpasang aelawiharwdxinthkhil inklangemuxngechiyngihm emux ph s 2337 txmainpi ph s 2360 ecahlwngthrrmlngka ehnwakulay wdphrasingh idthrudothrmlngipmak cungdarihmikarsxmaesmaelakhudaetngphraecdiydngklaw aelaidphbkhxngmikhaepnxnmak sungkihbrrcuiwinthiedimaelwptisngkhrnphraecdiynntxcnesrcaelwcungmikarchlxngihy aelainpiediywknkidsrangwiharcturmukhkhxngwdphrathatusricxmthxngkhunihm odythakarykesaemuxeduxnhkehnux khun 13 kha trngkbwnphvhsbdi phrxmknnnidsrangmnthpkhxngesaxinthkhil thibriewnwdecdiyhlwng aelayngerimkxsrangsthupinthithamklangxuobsthphikkhuniinwdphrasingh aelaidbrrcuphrabrmsaririkthatuineduxnaepdehnux khun 10 kha pi ph s 2361 inpi ph s 2362 ecahlwngiddariihmikarchlxngihyinwdxuomngkh wddwngdi wdsaepha aelawdphnetha inngannimikarchlxngknxyangyingihy aelaineduxnaepdehnux iddariihykesawiharwdpanphing wddxkkha wdechiyngyun aelawdbuphpharam xikthngidmikarkxsrangkaaephngwdphrathatusricxmthxngdwy inpi ph s 2363 ecahlwngthrrmlngka idipnmskarphraphuththbathsirxyaelaidsrangwiharkhrxmrxyphraphuththbathnn ineduxnhkehnuxaerm 8 kha aelacaknncungidipnmskarphrabathecakhwngepha aelasrangphraphuthrupkhnadihyinwdphrasingh inpi ph s 2365 idthabuychlxngphraxuobsthwdecdiyhlwng aelainpiediywknniecahlwngthrrmlngka idthrngphnwchthiwdechiyngmndwy inpithdmaidthrngdariihxyechiyphraphuththrupsakhythixyuinwdrangnxkekhtkaaephngemuxng ekhamaiwintwemuxng echn phraecaaeKhngKhm iwthiwdsriekid karkhudehmuxng emuxpi ph s 2360 idthrngdariihesnakharachkaraelaprachachnkhudehmuxng 3 say odyerimthicudrbnacakaecnghwlinipthangaecngsriphumi aelwwnipthangaecngkhatha saythisxngiptamthnnhlwnghnawddbphyaelawdphrasinghlngip saythisameliybtamechingethinthistawntkipthangit phandanehnuxkhxng hxkha aelweliywxxkthxthiaecngkhathahnawdsanmun wdthraymulphma inpccubn odyihkxxiththngsxngkhangkhxnglaehmuxngthuksay prachachnintwemuxngidichpraoychncaklaehmuxngthngsamsay karburnakaaephngemuxng inyukhkhxngecahlwngthrrmlngka idmikarburnasxmaesmkaaephngemuxngechiyngihm inpi ph s 2361 sungkaaephngdngklawthuksrangkhuninrchsmyphraecakawila ph s 2339 odykarburnakaaephngemuxng erimkarkhudlxkkhuemuxngtngaetaecngkueruxngipcnthungpratuihya mikhwamyaw 606 wa cnthungpi ph s 2363 iderimkxsrangkaaephngemuxng odyerimkxsranginewlarungecha mikaryingpunihysamnd nimntkhrubasmedcwdphakhaw khrubacnthrngsi wdphrasingh aelaphrasngkhxik 19 rup swdmnt oprynaoprythray aelaerimkxsrangcakaecngsriphumiewiynipthangsaythanndrskdiaelaphraxisriyysph s 2289 2317 ecanxythmmlngka n lapang ph s 2317 2325 phrayarachwngsemuxngnkhrlapang ph s 2325 2359 phrayaxuprachemuxngechiyngihm ph s 2359 2365 phrayaechiyngihmrachtrakulphngsawlikhxngphrayathrrmlngka 4 phrayaichysngkhram thiphychang 2 ecafasingharachthaniecafahlwngchayaekw 5 aemecaphimpha 1 phrayathrrmlngka 3 aemecacntharachethwi xangxingechingxrrthrungphngs chynam prawtisastrlanna prawtisastrithythikhnithyimkhxymiokasidsuksa mhawithyalysuokhthythrrmathirach phngsawdaremuxngnkhrechiyngihm emuxngnkhrlapang emuxnglaphunichy hna 97 phngsawdaroynk hna 449 wngsskk n echiyngihm brrnathikar ecahlwngechiyngihm 2016 03 05 thi ewyaebkaemchchin 2539 echiyngihm khnathayathsayskul n echiyngihm hnanxinaepng phrarachchaya ecadararsmi krungethph bangkxkbukh 2546 ecanayfayehnux aelatananrkmaemiya hna 4 phngsawdaremuxngnkhrechiyngihm emuxngnkhrlapang emuxnglaphunichy hna 96 phngsawdaroynk hna 448 tananphunemuxngechiyngihm hna 209 tananphunemuxngechiyngihm hna 210 tananphunemuxngechiyngihm hna 214 phiechs tntinamchy ecahyingechiyngihm silpwthnthrrm 26 2 thnwakhm 2547 brrnanukrmtananphunemuxngechiyngihm chbbechiyngihm 700 pi echiyngihm sunywthnthrrmcnghwdechiyngihm sthabnrachphtechiyngihm 2538 320 hna ISBN 974 8150 62 3 phngsawdaroynk nnthburi sripyya 2557 496 hna ISBN 978 616 7146 62 1 mhaxamatyathibdi hrun sriephy phraya phngsawdaremuxngnkhrechiyngihm emuxngnkhrlapang emuxnglaphunichy phrankhr orngphimphphracnthr 2505 35 hna phimphepnxnusrninnganphrarachthanephlingsph phraphicitroxsth rxd sutntannth wrchati michubth ecanayfayehnux aelatananrkmaemiya krungethph srangsrrkhbukhs 2556 428 hna ISBN 978 616 220 054 0 xrunrtn wiechiyrekhiyw aelaedwid ekh wyxac priwrrt tananphunemuxngechiyngihm krungethph trswin 2543 220 hna ISBN 9747047683 kxnhna phrayathrrmlngka thdipphraecakawila ecaphukhrxngnkhrechiyngihm ph s 2359 ph s 2365 phrayakhafn