บทความนี้ไม่มีจาก |
ตราแผ่นดินของไทย คือตราพระราชลัญจกรพระครุฑพ่าห์ เทพพาหนะของพระนารายณ์ ใช้เป็นสัญลักษณ์ของพระราชอำนาจแห่งพระมหากษัตริย์ผู้เป็นประมุขของชาติและเป็นองค์อวตารของพระนารายณ์ตามแนวคิด โดยเริ่มใช้มาตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ตั้งแต่หลัง พ.ศ. 2436 เป็นต้นมา แต่มาใช้อย่างเต็มที่แทนตราแผ่นดินเดิมทั้งหมดเมื่อ พ.ศ. 2453
ตราแผ่นดินของไทย (พระราชลัญจกรพระครุฑพ่าห์) | |
---|---|
ตราอาร์มรุ่นต่าง ๆ | |
ตราพระครุฑพ่าห์ แบบที่ใช้ตราตั้งห้าง | |
รายละเอียด | |
ผู้ใช้ตรา | รัฐบาลไทย |
เริ่มใช้ | ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เลิกใช้ชั่วคราวในสมัยรัชกาลที่ 5 |
ตราย่อ / ตรารุ่นก่อนหน้า | โปรดดูด้านล่าง |
การใช้ | ประทับหรือพิมพ์ในเอกสารของทางราชการ เช่น หนังสือโต้ตอบ กฎกระทรวง ฯลฯ ยกเว้นที่หัวพระราชบัญญัติ พระบรมราชโองการ หรือคำสั่งอื่น ๆ ในองค์พระมหากษัตริย์ ฯลฯ จะใช้พระราชลัญจกรบรมราชโองการแทน |
ประวัติตราพระครุฑพ่าห์
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้ใช้ตราอาร์มเป็นตราแผ่นดินใน พ.ศ. 2416 ต่อมาพระองค์มีพระราชดำริว่า ตราอาร์มที่ใช้เป็นตราแผ่นดินในเวลานั้นเป็นอย่างฝรั่งเกินไป และทรงระลึกได้ว่า พระเจ้าแผ่นดินสมัยกรุงศรีอยุธยาเคยใช้ตราพระครุฑพ่าห์มาก่อน (ตราที่กล่าวถึงคือตราพระราชลัญจกรพระครุฑพ่าห์องค์เดิม) จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ทรงเขียนพระราชลัญจกรพระครุฑพ่าห์ขึ้นเป็นตราแผ่นดินเพื่อใช้แทนตราอาร์ม โดยครั้งแรกทรงเขียนเป็นรูปตราพระนารายณ์ทรงครุฑจับนาค ตรานี้ได้ใช้อยู่ระยะหนึ่งก็โปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ทรงเขียนตราครุฑขึ้นใหม่อีกครั้งเป็นตราวงกลม โดยยกรูปพระนารายณ์และนาคออกเสีย คงเหลือแต่รูปครุฑ ซึ่งเขียนเป็นรูปครุฑรำตามแบบครุฑขอม พื้นเป็นลายเปลวไฟ เมื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายก็ชอบพระราชหฤทัย และมีพระราชประสงค์ที่จะให้ใช้ตรานี้เป็นตราแผ่นดินถาวรสืบไป จะได้ไม่ต้องสร้างขึ้นใหม่เมื่อเปลี่ยนรัชกาล
- พระราชลัญจกรพระครุฑพ่าห์องค์เดิม
- พระราชลัญจกรพระครุฑพ่าห์องค์กลาง ฝีพระหัตถ์สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์
- พระราชลัญจกรพระครุฑพ่าห์ ฝีพระหัตถ์สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ใช้ในสมัยรัชกาลที่ 5
- พระราชลัญจกรพระครุฑพ่าห์ รัชกาลที่ 9 จำลองจากพระราชลัญจกรพระครุฑพ่าห์ รัชกาลที่ 5
- พระราชลัญจกรพระครุฑพ่าห์ รัชกาลที่ 10 (พระปรมาภิไธยก่อนบรมราชาภิเษก)
อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ เป็นผู้เขียนตราครุฑถวายใหม่ โดยยังคงใช้ตราครุฑเดิมแบบสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เพียงแต่เพิ่มพระปรมาภิไธยตามขอบพระราชลัญจกร และเปลี่ยนพระปรมาภิไธยที่ขอบพระราชลัญจกรให้ตรงตามรัชกาล และให้ยึดถือเป็นแบบอย่างต่อมาจนถึงปัจจุบัน โดยพระราชลัญจกรพระครุฑพ่าห์ประจำรัชกาลจะสร้างขึ้นใหม่เมื่อพระมหากษัตริย์ได้รับแล้วเท่านั้น ในสมัยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล จึงไม่มีการสร้างพระราชลัญจกรพระครุฑพ่าห์ประจำรัชกาลขึ้น เนื่องจากพระองค์มิได้กระทำพระราชพิธีบรมราชาภิเษก คงมีแต่พระราชลัญจกรประจำรัชกาลเท่านั้น และเชิญพระราชลัญจกรพระครุฑพ่าห์สมัยรัชกาลที่ 5 ออกประทับแทน แต่ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ปรากฏว่าได้มีการสร้างพระราชลัญจกรพระครุฑพ่าห์ตั้งแต่ยังไม่ได้รับการบรมราชาภิเษก โดยมีพระปรมาภิไธยที่ขอบพระราชลัญจกรตามพระปรมาภิไธยของพระองค์ นับเป็นครั้งแรกที่มีการสร้างพระราชลัญจกรพระครุฑพ่าห์ก่อนการบรมราชาภิเษก
การใช้ตราพระครุฑพ่าห์
พระราชลัญจกรพระครุฑพ่าห์นี้ใช้สำหรับประทับกำกับพระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์หรือกำกับนามผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ซึ่งลงนามแทนในพระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์ นอกจากนี้ก็ยังใช้เป็นตราประจำสถานที่ราชการต่างๆ ของรัฐบาลไทย ใช้พิมพ์เป็นตราบนหัวหนังสือและเอกสารต่างๆ ของทางราชการ และใช้เป็นตราสำหรับประทับในหนังสือราชการของกรมกองต่าง ๆ
อนึ่ง บริษัทห้างร้านใดที่จดทะเบียนโดยชอบตามกฎหมายที่ติดต่อค้าขายกับทางราชสำนัก ซึ่งปรากฏว่ามีฐานะทางการเงินดี เป็นที่เชื่อถือแก่มหาชน ไม่มีหนี้สินรุงรังนอกจากหนี้สินปกติจากการค้าขาย และจะต้องประกอบการค้าโดยสุจริต อาจได้รับพระบรมราชานุญาตให้ประดับตราพระครุฑพ่าห์เป็นตราตั้งห้างไว้ที่ห้างร้านของตนได้ โดยพระมหากษัตริย์ทรงไว้ในสิทธิที่จะเรียกคืนตราดังกล่าวได้
ภาพตราครุฑรูปแบบต่าง ๆ
- ตราพระครุฑพ่าห์ แบบที่ใช้เป็นหน้าปกราชกิจจานุเบกษา หนังสือเดินทาง รวมทั้งใช้เป็นตราราชการของกรมราชองครักษ์ และหน่วยงานในกระทรวงการต่างประเทศ
- ตราพระครุฑพ่าห์ สำหรับใช้เป็นตราหัวหนังสือราชการไทย (แบบที่นิยมใช้กันมาก)
- ตราพระครุฑพ่าห์ สำหรับใช้เป็นตราหัวหนังสือราชการไทย (แบบที่นิยมใช้กันมากอีกแบบหนึ่ง)
- ตราพระครุฑพ่าห์ สำหรับใช้เป็นตราหัวหนังสือราชการไทย เขียนว่า (แบบปีกครุฑกว้าง)
- ครุฑตราตั้งห้าง (เขียนว่า โดยได้รับพระบรมราชานุญาต: พระบรมราชานุญาต มาจาก พระบรมราช+อนุญาต=พระบรมราชอนุญาต=>พระราชานุญาต
- ครุฑในธงมหาราช
- ครุฑในธงชัยพระครุฑพ่าห์
ตราแผ่นดินของสยาม
พระราชลัญจกรประจำแผ่นดินสยาม | |
---|---|
ตราอาร์มรุ่นต่าง ๆ | |
รอยประทับพระราชลัญจกรประจำแผ่นดิน (ตราอาร์ม) สมัยรัชกาลที่ 5 | |
รายละเอียด | |
ผู้ใช้ตรา | รัฐบาลสยาม (สมัยรัชกาลที่ 5 - 6) |
เริ่มใช้ | ใช้อย่างเต็มที่ตั้งแต่ พ.ศ. 2416 - 2436 แต่ยังคงมีการใช้ในบางหน่วยงาน เช่น สตช. ร.ร.จปร.มาจนถึงปัจจุบัน |
เครื่องยอด | พระมหาพิชัยมงกุฎเปล่งรัศมี |
โล่ | โล่แบ่งเป็นสามห้อง ห้องบนหนึ่งห้อง มีสีเหลือง บรรจุรูปช้างเผือกสามเศียร ห้องล่างสองห้อง ห้องล่างซ้ายสีแดง บรรจุรูปช้างเผือกเปล่า ห้องล่างขวาสีชมพู บรรจุกริชคดกับกริชตรงไขว้กัน |
ประคองข้าง | คชสีห์และราชสีห์ |
ฐานรองข้าง | พระแท่นลา |
คำขวัญ | บาลีอักษรไทย : "สพฺเพสํ สํฆภูตานํ สามคฺคี วุฑฺฒิสาธิกา" (ความพร้อมเพรียงของชนผู้เป็นหมู่ ยังความเจริญให้สำเร็จ) |
พระมหาสังวาลนพรัตน์รัตนราชวราภรณ์, เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า | |
ส่วนประกอบอื่น | ตราจักรี, ฉัตรเจ็ดชั้น 2 คัน, พระแสงขรรค์ชัยศรี, ธารพระกร, วาลวิชนี, พระแส้งหางจามรี, ฉลองพระบาทเชิงงอน, ฉลองพระองค์ครุย |
การใช้ | ประทับหรือพิมพ์ในเอกสารของทางราชการ |
ก่อนหน้านั้นประเทศไทยไม่มีการกำหนดตราแผ่นดินที่ชัดเจนนัก มีแต่ตราประจำรัชกาลที่ประทับลงบนเงินพดด้วงซึ่งจะเปลี่ยนไปตามรัชกาลของพระมหากษัตริย์
นักประวัติศาสตร์สันนิษฐานว่าสยามนำรูปครุฑพ่าห์มาใช้เป็นตราพระราชลัญจกรประจำแผ่นดิน ตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา โดยนำแบบอย่างการใช้ตรามาจากประเทศจีน โดยอ้างอิงจดหมายเหตุลาลูแบร์ ซึ่งบันทึกว่า ในสมัยกรุงศรีอยุธยานั้น พระมหากษัตริย์มีตราประจำพระองค์ ในจดหมายเหตุดังกล่าวไม่ได้ระบุว่าตราเป็นรูปอะไร จึงสันนิษฐานกันว่าน่าจะเป็น ตราครุฑพ่าห์ คือ รูปพระนารายณ์ทรงครุฑ ทั้งนี้เพื่อให้เข้ากับคตินิยมที่ถือเอาองค์พระมหากษัตริย์เป็นผู้มีบุญบารมีเทียบเท่าพระนารายณ์ผู้ทรงครุฑเป็นพาหนะ
ในสายตาชาวต่างประเทศนั้นถือว่าประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรแห่งช้างเผือก จึงกำหนดรูปช้างเผือกลงในโล่ทำนองเดียวกับตราประจำตระกูลหรือตราแผ่นดินในยุโรป เพื่อสื่อความหมายถึงราชอาณาจักรสยาม ซึ่งดูได้จากแผนที่โบราณฉบับต่างๆ ที่กล่าวถึงสยามในบางฉบับ (ดูตัวอย่างได้ ที่นี่ 2006-08-13 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน) เนื่องจากไม่ทราบชัดเจนว่าสยามใช้เครื่องหมายอะไรเป็นตราประจำประเทศ
ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้ พระโอรสในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าชุมสาย กรมขุนราชสีหวิกรม ผูกตราประจำประเทศขึ้นเป็นครั้งแรกใน พ.ศ. 2416 โดยอิงกับหลักการผูกตราของทางยุโรปที่เรียกกันว่า Heraldry (หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช เคยแปลคำนี้ลงในหนังสือเรื่อง ฝรั่งศักดินา เอาไว้ว่า “มุทราศาสตร์”) ตรานี้เรียกกันโดยทั่วไปว่า ตราแผ่นดินหรือตราอาร์ม อันมีลักษณะดังต่อไปนี้
- ส่วนบนสุดตรงกลาง คือ ภาพพระมหาพิชัยมงกุฎเปล่งรัศมี หมายถึงความเป็นพระมหากษัตริย์ ภายใต้พระมหาพิชัยมงกฎเป็นภาพจักรและตรีไขว้ เรียกว่า ตรามหาจักรี อันเป็นพระบรมราชสัญลักษณ์ที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ 1) แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อเป็นเครื่องหมายแทนนามราชวงศ์จักรี ความหมายโดยรวมจึงแปลว่า พระมหากษัตริย์แห่งพระราชวงศ์จักรี
- ทางด้านซ้ายและขวาของพระมหาพิชัยมงกฎเป็นรูปฉัตร 7 ชั้น อันเป็นเครื่องหมายแห่งราชาธิปไตย ที่เป็นฉัตร 7 ชั้น ก็เพราะว่าเป็นฉัตรสำหรับใช้ประกอบกับนพปฎลมหาเศวตฉัตร (ฉัตร 9 ชั้น) ซึ่งเป็นเครื่องหมายแสดงพระราชอิสริยศของพระมหากษัตริย์ การใช้รูปดังกล่าวจึงเป็นการประกาศให้รู้ว่า ดินแดนสยามอยู่ภายใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารของพระมหากษัตริย์ผู้เป็นสยามินทราธิราช
- ใต้ลงมาเป็นรูปโล่แบ่งออกเป็น 3 ห้อง โดยส่วนบนแบ่งเป็น 1 ห้อง ส่วนล่างเป็น 2 ห้อง มีความหมายดังนี้
- ห้องด้านบนเป็นภาพช้าง 3 เศียร หมายถึง สยามเหนือ, สยามกลาง และสยามใต้ พื้นโล่เป็นสีเหลือง
- ห้องล่างด้านขวาเป็นภาพช้างเผือก หมายถึงประเทศราชลาวล้านช้าง (กรุงศรีสัตนาคนหุต) พื้นโล่เป็นสีแดง
- ห้องล่างด้านซ้ายเป็นภาพกริชคดและกริชตรงไขว้กัน หมายถึง หัวเมืองประเทศราชมลายู พื้นโล่เป็นสีชมพู
- ความหมายโดยรวมของรูปสัญลักษณ์ภายในโล่จึงหมายถึงขอบขัณฑสีมาทั้งหมดของประเทศสยามในเวลานั้น
- ต่อจากฉัตรทางด้านขวาเป็นภาพคชสีห์ประคองฉัตร ส่วนทางด้านซ้ายเป็นภาพราชสีห์ประคองฉัตร คชสีห์หมายถึงข้าราชการฝ่ายกลาโหม ซึ่งเป็นใหญ่ทางฝ่ายทหาร ส่วนราชสีห์หมายถึง ข้าราชการฝ่ายมหาดไทย ซึ่งเป็นใหญ่ทางฝ่ายพลเรือน ทั้งสองฝ่ายนี้มีหน้าที่ป้องกันพระราชอาณาจักรและค้ำจุนพระราชบัลลังก์
- ส่วนขอบโล่ด้านล่างสุดล้อมรอบด้วยพระมหาสังวาลนพรัตน์รัตนราชวราภรณ์ หมายถึง พระพุทธศาสนา มีที่มาจากเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นโบราณมงคลนพรัตนราชวราภรณ์ที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งพระมหาสังวาลนพรัตน์รัตนราชวราภรณ์ก็นับเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชนิดนี้ด้วย ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ กำหนดให้พระราชทานแก่พระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชการที่กระทำคุณงามความดีต่อชาติอย่างใหญ่หลวง โดยเงื่อนไขสำคัญในการพระราชทานนั้นกำหนดไว้อย่างชัดเจนว่า จะพระราชทานให้แก่บุคคลที่เป็นพุทธมามกะเท่านั้น
- ส่วนใต้พระมหาสังวาลนพรัตน์รัตนราชวราภรณ์ คือ สายสร้อยจุลจอมเกล้าพร้อมดวงตรา หมายถึงการบำรุงตระกูลวงศ์ให้เจริญ อันเป็นภาษิตของเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสร้างขึ้น เพื่อเป็นบำเหน็จความชอบแก่ผู้ที่ปฏิบัติราชการด้วยความซื่อสัตย์ต่อแผ่นดิน และพระบรมราชวงศ์ และบุตรทายาทของผู้ปฏิบัติราชการ โดยพระราชทานสืบสกุลลงไปจนสิ้นสายบุตรชายเพื่อเป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูล และเพื่อให้ผู้สืบสกุลกระทำความชอบต่อแผ่นดิน และสามัคคีกันรับใช้ชาติให้เจริญรุ่งเรืองต่อไป
- ส่วนล่างสุดของภาพ คือ คาถาภาษาบาลี จารึกบนแพรแถบด้วยอักษรไทย เป็นข้อความว่า "สพฺเพสํ สงฺฆภูตานํ สามคฺคี วุฑฺฒิสาธิกา" แปลว่า "ความพร้อมเพรียงของบุคคลทั้งปวงผู้อยู่เป็นหมวดหมู่กัน ย่อมเป็นเครื่องทำความเจริญให้สำเร็จ" คาถาบทนี้เป็นพระนิพนธ์ของสมเด็จพระสังฆราช (สา ปุสฺสเทโว) วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม ซึ่งได้ใช้เป็นข้อเตือนใจประจำโรงเรียนเตรียมทหารในเวลาต่อมาอีกด้วย
- เครื่องหมายอื่นๆ ที่แทรกอยู่ในตรา แต่เห็นได้ไม่สู้ชัดเจนนัก คือ เครื่องราชกกุธภัณฑ์ทั้ง 5 อันเป็นเครื่องหมายแห่งความเป็นพระเจ้าแผ่นดินโดยสมบูรณ์ ดังบรรยายต่อไปนี้
- ตรงกลางภาพส่วนบนสุดเป็นภาพพระมหาพิชัยมงกุฎ
- บนมุมซ้ายด้านบนของโล่เป็นส่วนหนึ่งของพระแสงขรรค์ชัยศรี และพระแส้หางจามรี
- บนมุมขวาด้านบนของโล่เป็นส่วนหนึ่งของธารพระกรไม้ชัยพฤกษ์ และพัดวาลวิชนี
- ส่วนฉลองพระบาทเชิงงอนแยกอยู่ริมฐานฉัตรด้านละ 1 ข้าง
- เบื้องหลังตราแผ่นดินที่มีลักษณะเป็นจีบคล้ายผ้าม่าน คือ ฉลองพระองค์ครุยทอง
- องค์พระราชลัญจกรตราแผ่นดินนั้นเป็นตรากลม มีอักษรตามขอบพระราชลัญจกรจารึกไว้ว่า "สมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ บดินทรเทพยมหามกุฎ พระจุลจอมเกล้าเจ้ากรุงสยาม"
นอกจากนี้ยังมีคำอธิบายอื่นๆ ในลักษณะที่ต่างออกไป แต่คำอธิบายข้างต้นนี้มีที่มาแรกสุดจากพระอธิบายที่สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ประทานให้ ซึ่งพระอธิบายนี้ได้รับการเรียบเรียงใหม่เป็นหลายสำนวนในที่ต่างๆ จึงนับได้ว่าเป็นคำอธิบายที่แพร่หลายและได้รับการยอมรับมากที่สุด
การใช้ตราอาร์มเป็นตราแผ่นดินนั้นใช้ในลักษณะทำนองเดียวกันกับตราพระครุฑพ่าห์ในปัจจุบัน จนกระทั่งยกเลิกไปเมื่อมีการใช้ตราครุฑเป็นตราประจำชาติแทน ปัจจุบันนี้ยังมีบางหน่วยงาน เช่น กรมป่าไม้ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า เป็นต้นได้ใช้ตราอาร์มเป็นตราประจำหน่วยงานของตนเอง ด้วยเหตุที่ว่าหน่วยงานของตนก่อตั้งในสมัยรัชกาลที่ 5 หรือมีประวัติความเป็นมาที่เกี่ยวข้องกับช่วงระยะดังกล่าว (เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งใช้ตราอาร์มเป็นตราหน้าหมวกนั้น เริ่มมีการจัดระบบตำรวจอย่างจริงจังในสมัยนั้น เป็นต้น)
มูลเหตุในการเปลี่ยนตราประจำชาตินั้น นอกจากที่จะระบุไว้ข้างต้นว่า รัชกาลที่ 5 ทรงติว่าตราอาร์มเป็นอย่างฝรั่งเกินไปแล้ว เป็นไปได้ว่าการเปลี่ยนแปลงตราแผ่นดินน่าจะมีมูลเหตุหลักมาจากการสูญเสียประเทศราชทั้งลาว เขมร พม่า (บางส่วน) และในรัชสมัยของพระองค์ จึงต้องเปลี่ยนแปลงตราเพื่อให้เหมาะกับกาลสมัย
ดูเพิ่ม
- วิกิซอร์ซมีงานที่เกี่ยวข้องกับ พระราชบัญญัติเครื่องหมายครุฑพ่าห์ พ.ศ. 2534
- วิกิซอร์ซมีงานที่เกี่ยวข้องกับ พระราชลัญจกรและตราประจำตัวประจำตำแหน่ง โดย พระยาอนุมานราชธน (ยง เสฐียรโกเศศ)
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamniimmikarxangxingcakaehlngthimaidkrunachwyprbprungbthkhwamni odyephimkarxangxingaehlngthimathinaechuxthux enuxkhwamthiimmiaehlngthimaxacthukkhdkhanhruxlbxxk eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir traaephndinkhxngithy khuxtraphrarachlyckrphrakhruthphah ethphphahnakhxngphranarayn ichepnsylksnkhxngphrarachxanacaehngphramhakstriyphuepnpramukhkhxngchatiaelaepnxngkhxwtarkhxngphranarayntamaenwkhid odyerimichmatngaetrchsmyphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw tngaethlng ph s 2436 epntnma aetmaichxyangetmthiaethntraaephndinedimthnghmdemux ph s 2453traaephndinkhxngithy phrarachlyckrphrakhruthphah traxarmruntang traphrakhruthphah aebbthiichtratnghangraylaexiydphuichtrarthbalithyerimichtngaetsmykrungsrixyuthya elikichchwkhrawinsmyrchkalthi 5trayx trarunkxnhnaoprddudanlangkarichprathbhruxphimphinexksarkhxngthangrachkar echn hnngsuxottxb kdkrathrwng l ykewnthihwphrarachbyyti phrabrmrachoxngkar hruxkhasngxun inxngkhphramhakstriy l caichphrarachlyckrbrmrachoxngkaraethnprawtitraphrakhruthphahinrchsmyphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw thrngphrakrunaoprdeklaihichtraxarmepntraaephndinin ph s 2416 txmaphraxngkhmiphrarachdariwa traxarmthiichepntraaephndininewlannepnxyangfrngekinip aelathrngralukidwa phraecaaephndinsmykrungsrixyuthyaekhyichtraphrakhruthphahmakxn trathiklawthungkhuxtraphrarachlyckrphrakhruthphahxngkhedim cungthrngphrakrunaoprdekla ihsmedc ecafakrmphrayanrisranuwdtiwngsthrngekhiynphrarachlyckrphrakhruthphahkhunepntraaephndinephuxichaethntraxarm odykhrngaerkthrngekhiynepnruptraphranaraynthrngkhruthcbnakh traniidichxyurayahnungkoprdekla ihsmedc ecafakrmphrayanrisranuwdtiwngsthrngekhiyntrakhruthkhunihmxikkhrngepntrawngklm odyykrupphranaraynaelanakhxxkesiy khngehluxaetrupkhruth sungekhiynepnrupkhruthratamaebbkhruthkhxm phunepnlayeplwif emuxnakhunthulekla thwaykchxbphrarachhvthy aelamiphrarachprasngkhthicaihichtraniepntraaephndinthawrsubip caidimtxngsrangkhunihmemuxepliynrchkal phrarachlyckrphrakhruthphahxngkhedim phrarachlyckrphrakhruthphahxngkhklang fiphrahtthsmedc ecafakrmphrayanrisranuwdtiwngs phrarachlyckrphrakhruthphah fiphrahtthsmedc ecafakrmphrayanrisranuwdtiwngs ichinsmyrchkalthi 5 phrarachlyckrphrakhruthphah rchkalthi 9 calxngcakphrarachlyckrphrakhruthphah rchkalthi 5 phrarachlyckrphrakhruthphah rchkalthi 10 phraprmaphiithykxnbrmrachaphiesk xyangirktam emuxthungrchsmykhxngphrabathsmedcphramngkudeklaecaxyuhw phraxngkhidthrngphrakrunaoprdekla ih epnphuekhiyntrakhruththwayihm odyyngkhngichtrakhruthedimaebbsmyphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw ephiyngaetephimphraprmaphiithytamkhxbphrarachlyckr aelaepliynphraprmaphiithythikhxbphrarachlyckrihtrngtamrchkal aelaihyudthuxepnaebbxyangtxmacnthungpccubn odyphrarachlyckrphrakhruthphahpracarchkalcasrangkhunihmemuxphramhakstriyidrbaelwethann insmyphrabathsmedcphrapremnthrmhaxannthmhidl cungimmikarsrangphrarachlyckrphrakhruthphahpracarchkalkhun enuxngcakphraxngkhmiidkrathaphrarachphithibrmrachaphiesk khngmiaetphrarachlyckrpracarchkalethann aelaechiyphrarachlyckrphrakhruthphahsmyrchkalthi 5 xxkprathbaethn aetinrchsmyphrabathsmedcphrawchireklaecaxyuhw praktwaidmikarsrangphrarachlyckrphrakhruthphahtngaetyngimidrbkarbrmrachaphiesk odymiphraprmaphiithythikhxbphrarachlyckrtamphraprmaphiithykhxngphraxngkh nbepnkhrngaerkthimikarsrangphrarachlyckrphrakhruthphahkxnkarbrmrachaphiesk karichtraphrakhruthphah phrarachlyckrphrakhruthphahniichsahrbprathbkakbphraprmaphiithyphramhakstriyhruxkakbnamphusaercrachkaraethnphraxngkhsunglngnamaethninphraprmaphiithyphramhakstriy nxkcaknikyngichepntrapracasthanthirachkartang khxngrthbalithy ichphimphepntrabnhwhnngsuxaelaexksartang khxngthangrachkar aelaichepntrasahrbprathbinhnngsuxrachkarkhxngkrmkxngtang xnung bristhhangranidthicdthaebiynodychxbtamkdhmaythitidtxkhakhaykbthangrachsank sungpraktwamithanathangkarengindi epnthiechuxthuxaekmhachn immihnisinrungrngnxkcakhnisinpkticakkarkhakhay aelacatxngprakxbkarkhaodysucrit xacidrbphrabrmrachanuyatihpradbtraphrakhruthphahepntratnghangiwthihangrankhxngtnid odyphramhakstriythrngiwinsiththithicaeriykkhuntradngklawid phaphtrakhruthrupaebbtang traphrakhruthphah aebbthiichepnhnapkrachkiccanuebksa hnngsuxedinthang rwmthngichepntrarachkarkhxngkrmrachxngkhrks aelahnwynganinkrathrwngkartangpraeths traphrakhruthphah sahrbichepntrahwhnngsuxrachkarithy aebbthiniymichknmak traphrakhruthphah sahrbichepntrahwhnngsuxrachkarithy aebbthiniymichknmakxikaebbhnung traphrakhruthphah sahrbichepntrahwhnngsuxrachkarithy ekhiynwa aebbpikkhruthkwang khruthtratnghang ekhiynwa odyidrbphrabrmrachanuyat phrabrmrachanuyat macak phrabrmrach xnuyat phrabrmrachxnuyat gt phrarachanuyat khruthinthngmharach khruthinthngchyphrakhruthphahtraaephndinkhxngsyamphrarachlyckrpracaaephndinsyamtraxarmruntang rxyprathbphrarachlyckrpracaaephndin traxarm smyrchkalthi 5raylaexiydphuichtrarthbalsyam smyrchkalthi 5 6 erimichichxyangetmthitngaet ph s 2416 2436 aetyngkhngmikarichinbanghnwyngan echn stch r r cpr macnthungpccubnekhruxngyxdphramhaphichymngkudeplngrsmiololaebngepnsamhxng hxngbnhnunghxng misiehluxng brrcurupchangephuxksamesiyr hxnglangsxnghxng hxnglangsaysiaedng brrcurupchangephuxkepla hxnglangkhwasichmphu brrcukrichkhdkbkrichtrngikhwknprakhxngkhangkhchsihaelarachsihthanrxngkhangphraaethnlakhakhwybalixksrithy sph ephs skhphutan samkh khi wuth thisathika khwamphrxmephriyngkhxngchnphuepnhmu yngkhwamecriyihsaerc phramhasngwalnphrtnrtnrachwraphrn ekhruxngrachxisriyaphrnculcxmeklaswnprakxbxuntrackri chtrecdchn 2 khn phraaesngkhrrkhchysri tharphrakr walwichni phraaesnghangcamri chlxngphrabathechingngxn chlxngphraxngkhkhruykarichprathbhruxphimphinexksarkhxngthangrachkar kxnhnannpraethsithyimmikarkahndtraaephndinthichdecnnk miaettrapracarchkalthiprathblngbnenginphddwngsungcaepliyniptamrchkalkhxngphramhakstriy nkprawtisastrsnnisthanwasyamnarupkhruthphahmaichepntraphrarachlyckrpracaaephndin tngaetkhrngkrungsrixyuthya odynaaebbxyangkarichtramacakpraethscin odyxangxingcdhmayehtulaluaebr sungbnthukwa insmykrungsrixyuthyann phramhakstriymitrapracaphraxngkh incdhmayehtudngklawimidrabuwatraepnrupxair cungsnnisthanknwanacaepn trakhruthphah khux rupphranaraynthrngkhruth thngniephuxihekhakbkhtiniymthithuxexaxngkhphramhakstriyepnphumibuybarmiethiybethaphranaraynphuthrngkhruthepnphahna insaytachawtangpraethsnnthuxwapraethsithyepnrachxanackraehngchangephuxk cungkahndrupchangephuxklnginolthanxngediywkbtrapracatrakulhruxtraaephndininyuorp ephuxsuxkhwamhmaythungrachxanackrsyam sungduidcakaephnthiobranchbbtang thiklawthungsyaminbangchbb dutwxyangid thini 2006 08 13 thi ewyaebkaemchchin enuxngcakimthrabchdecnwasyamichekhruxnghmayxairepntrapracapraeths inrchsmykhxngphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw thrngphrakrunaoprdeklaih phraoxrsinphraecabrmwngsethx phraxngkhecachumsay krmkhunrachsihwikrm phuktrapracapraethskhunepnkhrngaerkin ph s 2416 odyxingkbhlkkarphuktrakhxngthangyuorpthieriykknwa Heraldry hmxmrachwngskhukvththi praomch ekhyaeplkhanilnginhnngsuxeruxng frngskdina exaiwwa muthrasastr tranieriykknodythwipwa traaephndinhruxtraxarm xnmilksnadngtxipni swnbnsudtrngklang khux phaphphramhaphichymngkudeplngrsmi hmaythungkhwamepnphramhakstriy phayitphramhaphichymngkdepnphaphckraelatriikhw eriykwa tramhackri xnepnphrabrmrachsylksnthiphrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharach rchkalthi 1 aehngphrabrmrachckriwngs thrngphrakrunaoprdekla ihsrangkhunephuxepnekhruxnghmayaethnnamrachwngsckri khwamhmayodyrwmcungaeplwa phramhakstriyaehngphrarachwngsckri thangdansayaelakhwakhxngphramhaphichymngkdepnrupchtr 7 chn xnepnekhruxnghmayaehngrachathipity thiepnchtr 7 chn kephraawaepnchtrsahrbichprakxbkbnphpdlmhaeswtchtr chtr 9 chn sungepnekhruxnghmayaesdngphrarachxisriyskhxngphramhakstriy karichrupdngklawcungepnkarprakasihruwa dinaednsyamxyuphayitrmphrabrmophthismpharkhxngphramhakstriyphuepnsyaminthrathirach itlngmaepnrupolaebngxxkepn 3 hxng odyswnbnaebngepn 1 hxng swnlangepn 2 hxng mikhwamhmaydngni hxngdanbnepnphaphchang 3 esiyr hmaythung syamehnux syamklang aelasyamit phunolepnsiehluxng hxnglangdankhwaepnphaphchangephuxk hmaythungpraethsrachlawlanchang krungsristnakhnhut phunolepnsiaedng hxnglangdansayepnphaphkrichkhdaelakrichtrngikhwkn hmaythung hwemuxngpraethsrachmlayu phunolepnsichmphu khwamhmayodyrwmkhxngrupsylksnphayinolcunghmaythungkhxbkhnthsimathnghmdkhxngpraethssyaminewlann txcakchtrthangdankhwaepnphaphkhchsihprakhxngchtr swnthangdansayepnphaphrachsihprakhxngchtr khchsihhmaythungkharachkarfayklaohm sungepnihythangfaythhar swnrachsihhmaythung kharachkarfaymhadithy sungepnihythangfayphleruxn thngsxngfaynimihnathipxngknphrarachxanackraelakhacunphrarachbllngk swnkhxboldanlangsudlxmrxbdwyphramhasngwalnphrtnrtnrachwraphrn hmaythung phraphuththsasna mithimacakekhruxngrachxisriyaphrnxnepnobranmngkhlnphrtnrachwraphrnthisrangkhuninsmyrchkalthi 5 sungphramhasngwalnphrtnrtnrachwraphrnknbepnswnhnungkhxngekhruxngrachxisriyaphrnchnidnidwy thrngphrakrunaoprdekla kahndihphrarachthanaekphrabrmwngsanuwngs aelakharachkarthikrathakhunngamkhwamditxchatixyangihyhlwng odyenguxnikhsakhyinkarphrarachthannnkahndiwxyangchdecnwa caphrarachthanihaekbukhkhlthiepnphuththmamkaethanntraaephndinkhxngsyamsungtiphimphinexksarkhxngthangrachkar inphaph epnprakasniybtrkrathrwngthrrmkar tngepriyythrrm 3 praoykh ph s 2453 swnitphramhasngwalnphrtnrtnrachwraphrn khux saysrxyculcxmeklaphrxmdwngtra hmaythungkarbarungtrakulwngsihecriy xnepnphasitkhxngekhruxngrachxisriyaphrnculcxmekla sungphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwthrngsrangkhun ephuxepnbaehnckhwamchxbaekphuthiptibtirachkardwykhwamsuxstytxaephndin aelaphrabrmrachwngs aelabutrthayathkhxngphuptibtirachkar odyphrarachthansubskullngipcnsinsaybutrchayephuxepnekiyrtiaekwngstrakul aelaephuxihphusubskulkrathakhwamchxbtxaephndin aelasamkhkhiknrbichchatiihecriyrungeruxngtxip swnlangsudkhxngphaph khux khathaphasabali carukbnaephraethbdwyxksrithy epnkhxkhwamwa sph ephs sng khphutan samkh khi wuth thisathika aeplwa khwamphrxmephriyngkhxngbukhkhlthngpwngphuxyuepnhmwdhmukn yxmepnekhruxngthakhwamecriyihsaerc khathabthniepnphraniphnthkhxngsmedcphrasngkhrach sa pus sethow wdrachpradisthsthitmhasimaram sungidichepnkhxetuxnicpracaorngeriynetriymthharinewlatxmaxikdwy ekhruxnghmayxun thiaethrkxyuintra aetehnidimsuchdecnnk khux ekhruxngrachkkuthphnththng 5 xnepnekhruxnghmayaehngkhwamepnphraecaaephndinodysmburn dngbrryaytxipni trngklangphaphswnbnsudepnphaphphramhaphichymngkud bnmumsaydanbnkhxngolepnswnhnungkhxngphraaesngkhrrkhchysri aelaphraaeshangcamri bnmumkhwadanbnkhxngolepnswnhnungkhxngtharphrakrimchyphvks aelaphdwalwichni swnchlxngphrabathechingngxnaeykxyurimthanchtrdanla 1 khang ebuxnghlngtraaephndinthimilksnaepncibkhlayphaman khux chlxngphraxngkhkhruythxng xngkhphrarachlyckrtraaephndinnnepntraklm mixksrtamkhxbphrarachlyckrcarukiwwa smedcphraprminthrmhaculalngkrn bdinthrethphymhamkud phraculcxmeklaecakrungsyam nxkcakniyngmikhaxthibayxun inlksnathitangxxkip aetkhaxthibaykhangtnnimithimaaerksudcakphraxthibaythismedcphraecabrmwngsethx krmphrayadarngrachanuphaph prathanih sungphraxthibayniidrbkareriyberiyngihmepnhlaysanwninthitang cungnbidwaepnkhaxthibaythiaephrhlayaelaidrbkaryxmrbmakthisud tratnghangsmyrchkalthi 5 karichtraxarmepntraaephndinnnichinlksnathanxngediywknkbtraphrakhruthphahinpccubn cnkrathngykelikipemuxmikarichtrakhruthepntrapracachatiaethn pccubnniyngmibanghnwyngan echn krmpaim orngeriynnayrxyphraculcxmekla epntnidichtraxarmepntrapracahnwyngankhxngtnexng dwyehtuthiwahnwyngankhxngtnkxtnginsmyrchkalthi 5 hruxmiprawtikhwamepnmathiekiywkhxngkbchwngrayadngklaw echn sankngantarwcaehngchati sungichtraxarmepntrahnahmwknn erimmikarcdrabbtarwcxyangcringcnginsmynn epntn mulehtuinkarepliyntrapracachatinn nxkcakthicarabuiwkhangtnwa rchkalthi 5 thrngtiwatraxarmepnxyangfrngekinipaelw epnipidwakarepliynaeplngtraaephndinnacamimulehtuhlkmacakkarsuyesiypraethsrachthnglaw ekhmr phma bangswn aelainrchsmykhxngphraxngkh cungtxngepliynaeplngtraephuxihehmaakbkalsmyduephimwikisxrsminganthiekiywkhxngkb phrarachbyytiekhruxnghmaykhruthphah ph s 2534 wikisxrsminganthiekiywkhxngkb phrarachlyckraelatrapracatwpracataaehnng ody phrayaxnumanrachthn yng esthiyrokess wikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb traaephndinkhxngithy traaephndin