แมลง เป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง จำแนกออกเป็นไฟลัมต่าง ๆ ได้ 18 กลุ่ม มีลักษณะสำคัญคือมีลำตัวเป็นปล้อง ซึ่งอาจแบ่งเป็น 2 หรือ 3 ส่วน สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ลำตัวทั้งสองด้านซ้ายขวามีความเหมือนและมีขนาดเท่ากัน มีเปลือกห่อหุ้มลำตัวด้วยสารไคติน (Chitinous Exoskeleton) ไม่มีขน หายใจแบบใช้เหงือกหรือใช้รูหายใจ มีวัฎจักรวงจรชีวิตในการเจริญเติบโตแบบไข่ มีการลอกคราบเป็นบางครั้งแล้วสร้างผนังหรือเปลือกห่อหุ้มลำตัวใหม่ มีรยางค์เป็นคู่และเป็นปล้อง ส่วนใหญ่นักกีฏวิทยามักใช้รยางค์ในการแบ่งเพศผู้เพศเมียของแมลง
แมลง ช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่: 396–0Ma ดีโวเนียนยุคปลาย-ปัจจุบัน | |
---|---|
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
โดเมน: | ยูแคริโอต |
อาณาจักร: | สัตว์ |
ไฟลัม: | สัตว์ขาปล้อง |
ไฟลัมย่อย: | |
ชั้น: | แมลง Linnaeus, 1758 |
ชั้นย่อย | |
|
มีอวัยวะภายในที่มีท่อทางเดินอาหารเป็นท่อยาวตลอดจากปากไปถึงทวารหนัก ระบบเลือดเป็นแบบเปิดและมีท่อเลือดอยู่ทางด้านสันหลังเหนือระบบทางเดินอาหาร มีระบบประสาทที่ประกอบไปด้วยสมองอยู่เหนือท่ออาหาร มีเส้นประสาทขนาดใหญ่หนึ่งคู่เชื่อมต่อจากสมอง มีการรวมตัวเป็นระยะก่อเกิดเป็นปมประสาท เส้นประสาทขนาดใหญ่ของแมลง จะอยู่ทางด้านล่างของลำตัวใต้ท่ออาหาร มีกล้ามเนื้อแบบเรียบอยู่ตามลำตัว
มีการหายใจแบบใช้ท่ออากาศ ซึ่งจะติดต่อผ่านเข้าออกข้างลำตัวทางรูหายใจ มีอก 2 คู่ มีท้อง 18 คู่ โดยมีปล้องละ 1 คู่ ขับถ่ายของเสียจากร่างกายทางท่อขับถ่าย มีการเปลี่ยนแปลงลักษณะและรูปร่างเพื่อการเจริญเติบโตจากตัวอ่อนที่ฟักจากไข่จนกลายเป็นตัวโตเต็มวัย
วิวัฒนาการ
ในสมัยยุคดึกดำบรรพ์จนถึงปัจจุบัน แมลงจัดเป็นสัตว์ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงในการวิวัฒนาการเพื่อการดำรงชีวิต ในขณะที่สัตว์ชนิดอื่น ๆ จำนวนมากต้องสูญพันธ์ไปเรื่อย ๆ จนหมดไปจากโลก ตรงกันข้ามกับแมลงที่มีการดำรงชีวิตและการแพร่พันธุ์กระจายไปตามที่ต่าง ๆ ทั่วทุกแห่ง ซึ่งอาศัยลักษณะพิเศษหลายอย่างของแมลงเช่นโครงสร้างทางกายวิภาคศาสตร์ที่มีขนาดเล็ก ไม่ต้องการอาหารจำนวนมาก สามารถหลบภัยและอาศัยในถิ่นที่อยู่ได้ทุกประเภท มีปีกที่ช่วยให้บินได้ไกล ช่วยทำให้แมลงบินอพยพหลบหนีภัยได้ง่าย หาแหล่งอาหารได้มากยิ่งขึ้น รวมทั้งยังสามารถหาแหล่งที่อยู่อาศัยและผสมพันธุ์ได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย
ลักษณะทางภูมิศาสตร์เช่นทะเล ภูเขาหรือทะเลทราย ไม่เป็นอุปสรรคต่อแมลงเหมือนกับสัตว์ชนิดอื่น เนื่องจากแมลงสามารถปรับสภาพการดำรงชีวิตให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดี รวมทั้งยังมีวิวัฒนาการดัดแปลงให้อวัยวะบางส่วนในร่างกายทำงานได้อย่างเหมาะสมเช่น ขาคู่ด้านหน้าของตั๊กแตนตำข้าวที่วิวัฒนาการดัดแปลงให้สามารถใช้จับเหยื่อได้เป็นอย่างดี
ลักษณะทั่วไป
ลักษณะทั่วไปของแมลงคือมีลำตัวยาวหรือค่อนข้างยาว ลำตัวทั้งสองด้านซ้ายขวามีลักษณะเหมือนกันและเท่ากัน แบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ ส่วนหัว (head) , ส่วนอก (thorax) และส่วนตัว (abdomen) โดยลักษณะของอวัยวะส่วนหัวประกอบไปด้วยตา หนวดและปาก กะโหลกศีรษะมีรอยต่อหรือเส้น ใช้สำหรับแบ่งเป็นพื้นที่ต่าง ๆ ได้แก่
หัว ประกอบไปด้วนส่วนประกอบต่าง ๆ ดังนี้
- ส่วนหัว ประกอบไปด้วยสันกะโหลก (Vertex) คือบริเวณพื้นที่ตั้งแต่ส่วนหัวของแมลง นับตั้งแต่พื้นที่ส่วนที่อยู่ระหว่างตาทั้งสองข้างไปจนถึงด้านหลังของตา
- ส่วนหน้า (Frons) คือบริเวณพื้นที่ที่อยู่ทางด้านหน้าของกะโหลกศีรษะของแมลง อยู่ระหว่างเส้นรูปตัว Y ที่มีลักษณะเป็นตัว Y กลับหัว ในบริเวณพื้นที่ส่วนนี้เรียกว่า "เส้นทับกะโหลกศีรษะ"
- ส่วนริมฝีปากบน (Clypeus) คือบริเวณพื้นที่ระหว่างส่วนหน้ากับริมฝีปากส่วนบน ในส่วนนี้จะมีเส้น frontoclypeal suture เป็นตัวแบ่งออกจากส่วนหน้า
- ส่วนแก้ม (Gena) คือพื้นที่ทางด้านข้างของกะโหลกใต้ตารวม
- ส่วนฐานกะโหลก (Occiput) คือบริเวณพื้นที่ทางด้านหลังของกะโหลกศีรษะของแมลง ซึ่งพื้นที่ตรงจุดนี้จะแยกออกจากสันกะโหลกและแก้มอย่างชัดเจน ในส่วนนี้จะมีเส้น occipital suture เป็นเส้นแบ่ง
- ส่วนฐานกะโหลกทางส่วนหลัง (Post Occiput) คือบริเวณพื้นที่ส่วนที่เชื่อมติดกับลำคอ และแยกออกมาจากฐานกะโหลก โดยมีเส้น post occipital suture เป็นเส้นแบ่ง
ตา ตาของแมลงมีอยู่ 2 ชนิดคือตาแบบรวมและตาเดี่ยว ตาแบบรวมของแมลงจะมี 2 ตา แต่ตาเดี่ยวจะมีจำนวนตาที่แตกต่างกันออกไปตามแมลงแต่ละชนิด และมักจะปรากฏอยู่ในแมลงทั้งในช่วงระยะฝักตัวเป็นตัวหนอน เป็นตัวอ่อนและตัวเต็มวัย แมลงแต่ละชนิดจะมีตาที่ไม่เหมือนกัน ส่วนใหญ่มักจะมีตาเดี่ยว 3 ตาเรียงติดต่อกันเป็นรูปสามเหลี่ยมเหนือศีรษะ อยู่ระหว่างตารวมทั้งสองข้าง แต่ในแมลงบางชนิดก็อาจจะไม่พบว่ามีตาเดี่ยวรวมอยู่ด้วย
หนวด หนวดของแมลงจะมีอยู่ 2 เส้น ใช้สำหรับสัมผัสและดมกลิ่ม ส่วนมากหนวดของแมลงมักจะอยู่ระหว่างตารวมหรืออยู่ต่ำกว่าตารวมเพียงเล็กน้อย สามารถเคลื่อนไหวไปมาได้อย่างอิสระ เพราะหนวดทั้ง 2 เส้นจะติดอยู่กับศีรษะของแมลงตรงช่องหนวด โดยมีแผ่นเนื้อเยื่อบาง ๆ เป็นตัวเชื่อมติดกันเอาไว้
ปาก ปากของแมลงมีหลายรูปแบบตามแต่ชนิดของแมลง แต่ปากแบบพื้นฐานคือปากแบบกัดกินเช่น ปากของตั๊กแตน ลักษณะปากแบบกัดกินจะมีริมฝีปากบนปิดส่วนประกอบอื่น ๆ ของปากเอาไว้ มีกรามเป็นอวัยวะที่มีลักษณะแข็งแรงสำหรับบดเคี้ยวอาหาร มีเส้นที่คล้ายกับหนวดยื่นออกมาจากปากข้างละ 2 เส้น คู่แรกคือ maxillary palps ซึ่งจะยึดติดแน่นอยู่กับฟัน และคู่ที่สองคือ labial palps ซึ่งจะยึดติดแน่นอยู่ที่ริมฝีปากล่าง และมีส่วนที่เหนือริมฝีปากบนขึ้นไป ซึ่งจะมีแผ่นสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ที่เรียกว่า clypeus สำหรับเป็นฐานยึดติดริมฝีปากส่วนบนเอาไว้
คอ คอของแมลงจะเป็นส่วนที่เชื่อมต่อระหว่างหัวกับอก มีลักษณะอ่อนไม่แข็งเหมือนกับอวัยวะอื่น ๆ ของร่างกาย ประกอบไปด้วยเนื้อเยื่อแบบบาง ๆ และกล้ามเนื้อ ซึ่งจะทำหน้าที่เชื่อมต่อระหว่างส่วนหัวและส่วนอกของแมลง
อก อกของแมลงอยู่ระหว่างส่วนหัวและส่วนท้อง สามารถมองเห็นได้จากขาและปีกของแมลง เนื่องจากอกเป็นตำแหน่งที่ตั้งของอวัยวะที่ใช้ในการเคลื่อนไหวของขาและปีก ประกอบไปด้วยปล้องจำนวน 3 ปล้องคืออกปล้องแรก, อกปล้องกลางและอกปล้องหลัง โดยปกติแล้วอกของแมลงส่วนใหญ่ในแต่ละปล้องจะมีขา 1 คู่ ตามธรรมชาติแล้วแมลงบางชนิดจะไม่มีขา เพราะขานั้นได้เสื่อมหายไป ตามปกติแล้วขาที่ยึดติดกับอกปล้องแรกคือขาคู่หน้า ส่วนขาที่ติดกับอกปล้องกลางคือขาคู่กลาง และขาที่ติดกับอกปล้องหลังคือขาคู่หลัง ในแมลงที่เจริญเติบโตเต็มที่ ส่วนใหญ่จะมีปีกติดอยู่ที่บริเวณอกปล้องกลางกับอกปล้องหลังอย่างละคู่ ปีกในส่วนอกปล้องแรกของแมลงทุกชนิดจะเรียกว่าปีกคู่หน้า และเรียกปีกของอกปล้องหลังว่าปีกคู่หลัง
ท้อง ท้องของแมลงตามปกติแล้วจะมีทั้งหมด 11 ปล้อง แต่ปล้องที่ 11 จะมีลักษณะที่เล็กมากจนมองเห็นได้ยากหรือมองแทบไม่เห็น ทำให้มองเห็นท้องของแมลงเพียงแค่ 10 ปล้องหรือไม่เกิน 10 ปล้องเท่านั้น แต่ก็ยังมีแมลงบางชนิดที่มีจำนวนปล้องท้องน้อยกว่านี้ แมลงส่วนใหญ่เมื่อเจริญเติบโตกลายเป็นตัวโตเต็มวัย จะไม่มีส่วนขาที่บริเวณท้อง ยกเว้นแต่ในตัวอ่อนของแมลงบางชนิดเช่น หนอนผีเสื้อขาเทียม ที่มีปล้องท้องลักษณะเป็นปล้องคู่ จำนวนปล้องท้องจะแตกต่างกันออกจากตามแต่ประเภทของตัวหนอน ปลายสุดของหางจะมีแพนหาง 1 คู่ ลักษณะคล้ายด้ายเส้นยาวหรือเป็นแผ่นบาง ๆ ใส ๆ พบได้ในตัวเต็มวัย ในเพศเมียจะมีอวัยวะสำหรับวางไข่ที่บริเวณปลายสุดของท้อง ลักษณะเป็นแผ่นหรือแท่งยาวปลายแหลม สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน มีรูหายใจอยู่ที่ทางด้านข้างท้องของแมลง
การจัดอันดับของแมลง
ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์ได้จัดอันดับแบ่งแมลงให้เป็นหมวดหมู่ เพื่อง่ายต่อการค้นหาและทำการศึกษาวิจัย โดยอาศัยลักษณะและโครงสร้างของสรีระร่างกายของแมลงเป็นหลักเช่น แมลงชนิดใดก็ตามที่มีลักษณะโครงสร้างของร่างกายบางอย่างเหมือนกัน ก็จัดไว้ในหมวดหมู่เดียวกัน ถ้ามีความแตกต่างกันก็จัดไว้ในอีกหมวดหมู่ การจัดอันดับหมวดหมู่ของแมลงโดยอาศัยโครงสร้างของแมลงเป็นหลักนั้น สามารถชี้ให้เห็นแมลงในแต่ละหมวดหมู่นั้น มีความสัมพันธ์ มีวิวัฒนาการสืบต่อกันมาแต่โบราณอย่างไร เนื่องจากแมลงหลายชนิดมีวิวัฒนาการที่เร็วและช้าสลับกันไป วิวัฒนาการที่แตกต่างกันนี้อาจทำให้วิวัฒนาการของแมลงบางหมวดหมู่สูงกว่าอีกหมวดหมู่หนึ่ง
การจัดอันดับหมวดหมู่ของแมลงในชั้น Insecta หรือ Hexapoda สามารถแบ่งออกเป็นชั้นย่อย ๆ ลดหลั่นตามลำดับ ซึ่งการแบ่งชั้นของแมลงออกเป็นอันดับต่าง ๆ มักนิยมใช้ลักษณะเฉพาะของโครงสร้างของปีก ปากและลักษณะเฉพาะพิเศษอื่น ๆ บางอย่างของแมลงเป็นตัวตัดสินใจ แมลงบางชนิดอาจแบ่งอันดับได้มาก 25-35 อันดับด้วยกัน แต่โดยทั่ว ๆ ไปแล้ว การแบ่งอันดับต่าง ๆ ที่เป็นที่รู้จักและแพร่หลาย สามารถพบเห็นได้บ่อย ๆ มีประมาณ 28 อันดับด้วยกัน ดังนี้
- Class Insecta จำแนกอันดับต่าง ๆ ได้ดังนี้
- จัดเป็นแมลงที่ไม่มีปีกและไม่มี metamorphosis ลอกคราบได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งหลังเป็นตัวเต็มวัย สืบพันธุ์โดยไม่มีการสัมผัสกันของเพศ การถ่ายน้ำเชื้อจากเพศผู้สู่เพศเมียเป็นแบบทางอ้อม
- Order Collembola
- - แมลงหางดีด
- Order Diplure
- - ตัวสองง่าม
- Order Thysanure
- - ตัวสามง่าม
- Order Archeognatha
- - ตัวสามง่ามป่า
- Order Collembola
- จัดเป็นแมลงที่อกปล้องกลาง อกปล้องหลังปล้องละคู่ แต่ในปีกของแมลงบางชนิดอาจจะมีการลดรูปลงได้จนกลายเป็นไม่มีปีก มีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างระหว่างการเจริญเติบโต ไม่มีการลอกคราบเมื่อเป็นตัวเต็มวัย การถ่ายน้ำเชื้อจากเพศผู้สู่เพศเมียโดยทางตรง แบ่งออกเป็น 2 Infraclass ดังนี้
- Infraclass Palaeoptera แมลงในกลุ่มนี้ไม่สามารถที่จะหุบพับปีกไปทางด้านหลังแนบกับลำตัวได้ ลักษณะของปีกจะกางอยู่ตลอดเวลา ในระยะตัวอ่อนจะอาศัยอยู่ในน้ำ มีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างจากตัวอ่อนจนเจริญเติบโตเป็นตัวเต็มวัย
- Order Ephemeroptera
- - ตัวชีปะขาว
- Order Odonata
- - แมลงปอ, แมลงปอเข็ม
- Infraclass Neoptera แมลงในกลุ่มนี้เป็นแมลงในกลุ่มส่วนที่เหลือทั้งหมด สามารถหุบพับปีกพักบนลำตัวได้
Insect classification | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
(Hump-backed/jumping bristletails)"
|
พฤติกรรม
แมลงหลายชนิดมีอวัยวะรับรู้สัมผัสที่ดีมาก บางครั้งอาจมีประสิทธิภาพมากกว่าประสาทสัมผัสของมนุษย์ ตัวอย่างเช่น ผึ้งสามารถเห็นแสงสีในสเปกตรัมของรังสีอุลตร้าไวโอเล็ต และผีเสื้อกลางคืนตัวผู้มีระบบประสาทรับกลิ่น ที่สามารถรับกลิ่นของฟีโรโมนจากตัวเมียได้เป็นระยะทางหลายกิโลเมตร: 96–105
แมลงสังคมอย่างมดและผึ้ง เป็นตัวอย่างที่พบเห็นได้ง่ายที่สุดของสัตว์สังคม พวกมันอาศัยอยู่ร่วมกันเป็นอาณาจักรขนาดใหญ่โดยแบ่งหน้าที่การงานกันอย่างเป็นระบบและเรียบร้อย บางครั้งอาณาจักรเช่นนี้อาจเรียกได้ว่าเป็น superorganism ในภาษาไทยอาจเรียกได้ว่าแมลงวรรณะ
แมลงอนุรักษ์
ความสามารถในการปรับตัวได้ดี สามารถดำรงเผ่าพันธุ์ได้ดีของสิ่งมีชีวิตในอันดับ Insecta หรือ Hexapoda ทำให้สิ่งมีชีวิตในกลุ่มของแมลงมีความหลากหลาย จำนวนชนิดมากกว่าในอันดับอื่นๆ และมีจำนวนประชากรมากเป็นอันดับ 1 ของโลก แต่ความหลากหลายนั้นก็ทำให้แมลงบางชนิดสูญพันธุ์ หรือใกล้สูญพันธุ์ ซึ่งอาจจะเป็นเพราะหลายสาเหตุด้วยกัน จากความจำเพาะเจาะจงของพืชอาหารของแมลงชนิดนั้นลดน้อยหรือไม่มีในสภาพธรรมชาติ เนื่องจากความเสื่อมโทรมของป่าไม้ เช่น ผีเสื้อถุงทองที่มีพืชอาหารในระยะหนอนจากการกินกระเช้าสีดา อีกทั้งยังมีการลักลอบจับเป็นการค้า โดยเฉพาะแมลงที่มีความสวยงาม ได้แก่ กลุ่มผีเสื้อ และ กลุ่มด้วง
ชนิดแมลงอนุรักษ์ในประเทศไทย
- แมลงที่มีการจับเพื่อการค้าสูง ซึ่งมีลักษณะสวยงาม ได้แก่ แมลงกลุ่มผีเสื้อ และแมลงกลุ่มด้วง ซึ่งผีเสื้อมีสีสันสวยงาม ส่วนด้วงมีเขาสวยงาม
- แมลงที่หายาก ซึ่งดูจากพิพิธภัณฑ์แมลง ของกรมวิชาการเกษตร ที่เคยพบเมื่อ 30-40 ปีที่แล้ว ต่อมาปัจจุบันไม่พบอีกเลย หรือพบน้อยมาก อันเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์
- บัญชีรายชื่อในอนุสัญญา CITES (Convention on International Trade in Endangered Species of Wild Fauna and Flora) หรืออนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการค้าซึ่งพืชป่า และสัตว์ป่าที่กำลังใกล้สูญพันธุ์ ในบัญชีหมายเลข 2 ของอนุสัญญานี้ที่มีรายชื่อแมลงที่พบในประเทศไทยด้วย จำนวน 3 รายการ คือ ผีเสื้อถุงทอง ผีเสื้อไกเซอร์ และผีเสื้อภูฐาน ดังนั้นในการกำหนดชนิดแมลงอนุรักษ์จึงได้กำหนดแมลงทั้ง 3 รายการนี้เข้าไปด้วย
รายชื่อแมลงอนุรักษ์ในประเทศไทย
- ผีเสื้อหางยาวตาเคียวปีกลายหยัก Actias maenas Doubleday
- ผีเสื้อหางยาวสี่ตาปีกลายหยัก Actias sinensis heterogyna Mell
- ผีเสื้อหางยาวตาเคียวปีกลายตรง Actias rhodopneuma Rober
- ผีเสื้อกลางคืนหางยาว Actias spp. ในประเทศไทยพบผีเสื้อกลางคืน (Moth) ชนิดนี้ 4 ชนิด ผีเสื้อหางยาวตาเคียวปีกลายตรง Actias maenas Doubleday,ผีเสื้อหางยาวตาเคียวปีกลายหยัก A. Rhodopneuma Rober,ผีเสื้อหางยาวสี่ตาปีกลายตรง A. selene Hubner และผีเสื้อหางยาวสี่ตาปีกลายหยัก A. Senensis heterogyna Mell
- ผีเสื้อหางยาวสี่ตาปีกลายตรง Actias selene Hubner
- ผีเสื้อภูฐานหรือผีเสื้อเชียงดาว Bhutanitis spp. กำหนดไว้ในบัญชีหมายเลข 2 ของอนุสัญญา CITES ในประเทศไทยพบเฉพาะBhutanitis lidderdalei Atkinson
- ผีเสื้อรักแร้ขาว Papilio protener euprotener Fruhstorfer
- ผีเสื้อกลางคืนค้างคาว Lyssa zampa Butler
- ผีเสื้อหางติ่งสะพายเขียว Papilio palinurus Fabricius
- ผีเสื้อไกเซอร์ Teinoppalpus spp. เป็นแมลงอนุรักษ์ ที่กำหนดไว้ในบัญชี หมายเลข 2 ของอนุสัญญา CITES ในประเทศไทยมีชนิดเดียว คือ ผีเสื้อไกเซอร์ Teinoppalpus imperialisimperatrix de' Niceville
- ผีเสื้อนางพญา "Stichophthalma spp"
. เป็นผีเสื้อกลางวัน (Butterfly) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ซึ่งในประเทศไทยพบ 9 ชนิด คือ ผีเสื้อนางพญาพม่า Stichophthalma louisa Wood-Mason พบได้ที่ภาคเหนือของประเทศไทย ผีเสื้อนางพญาเขมร S. cambodia Hewitson พบได้ที่ภาคตะวันออกของประเทศ และผีเสื้อนางพญากอดเฟรย์ S. Godfreyi Rothschild พบได้ที่ภาคใต้ของประเทศไทย
- ผีเสื้อถุงทอง Trodes spp. เป็นแมลงอนุรักษ์ ที่กำหนดไว้ในบัญชีหมายเลข 2 ของอนุสัญญา CITES ในประเทศไทยที่พบแล้วมีอยู่หลายชนิด ได้แก่ ผีเสื้อถุงทองป่าสูง Trodes helena Linnaeus, ผีเสื้อถุงทองปักษ์ใต้ T. amphrysus Cramer
ผีเสื้อถุงทองธรรมดา T. aeacus Felder
- ผีเสื้อหางดาบตาลไหม้ Meandrusa sciron Leech
- ด้วงกว่างดาว Cheirotonus parryi Gray, วงศ์ Scarabaeidae เป็นด้วงขนาดใหญ่ ตัวผู้มีขาหน้ายาวสวยงาม ตัวเมียขาหน้าสั้น ด้วงชนิดนี้พบทางภาคเหนือและภาคตะวันออก
- ด้วงคีมยีราฟ Chadagnathus giraffa Fabricus, วงศ์ Lucanidae พบที่ภาคเหนือและภาคตะวันออก ด้วงคีมหรือด้วงเขี้ยวกางในประเทศไทยมีหลายชนิดและมีรูปร่างแปลกสวยงามจึงมี การล่าจับกันมาก
- ด้วงดินขอบทองแดง Mouhotia batesi Lewis , วงศ์ banboo
ด้วงดินที่มีขนาดใหญ่ ตัวสีดำ แต่ขอบบริเวณส่วนอกมีเหลือบเป็นสีทองแดง พบที่ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
- ด้วงดินปีกแผ่น Mormolyce phyllodes Hegenb, วงศ์ banboo ด้วงดินที่มีปีกหน้าแบนบางเป็นแผ่นทำให้ดูสวยและแปลก เป็นแมลงที่หายาก พบเฉพาะภาคใต้
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
- บทปฏิบัติการกีฎวิทยาเบื้องต้น, ภาควิชากีฎวิทยา คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, รศ. ดร.สาวิตรี มาไลยพันธุ์, สำนักพิมพ์รั้วเขียว, พ.ศ. 2538, หน้า 5
- บทปฏิบัติการกีฎวิทยาเบื้องต้น, ภาควิชากีฎวิทยา คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, รศ. ดร.สาวิตรี มาไลยพันธุ์, สำนักพิมพ์รั้วเขียว, พ.ศ. 2538, หน้า 13-15
- Sroka, Günter; Staniczek, Arnold H.; Bechly (December 2014). "Revision of the giant pterygote insect Bojophlebia prokopi Kukalová-Peck 1985 (Hydropalaeoptera: Bojophlebiidae) from the Carboniferous of the Czech Republic, with the first cladistic analysis of fossil palaeopterous insects". Journal of Systematic Palaeontology. 13 (11): 963–982. doi:10.1080/14772019.2014.987958. สืบค้นเมื่อ 21 May 2019.
- Prokop, Jakub (2017). "Redefining the extinct orders Miomoptera & Hypoperlida as stem acercarian insects". BMC Evolutionary Biology. 17: 205. doi:10.1186/s12862-017-1039-3. PMC 5574135. PMID 28841819. สืบค้นเมื่อ 21 May 2017.
- Wipfler, B (February 2019). "Evolutionary history of Polyneoptera & its implications for our understanding of early winged insects". Proceedings of the National Academy of Sciences. 116 (8): 3024–3029. doi:10.1073/pnas.1817794116.
- Gullan, P.J.; Cranston, P.S. (2005). The Insects: An Outline of Entomology (3rd ed.). Oxford: Blackwell Publishing. ISBN .
- แมลงอนุรักษ์ในประเทศไทย www.ento.agri.kps.ku.ac.th
- ประกาศราชกิจจานุเบกษา ฉบับกฤษฎีกา เล่ม ๑๑๑ ตอนที่ ๓๑ ก ลงวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๓๗
- บัญชีแนบท้ายกฎกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ฉบับที่ ๔ (พ.ศ. ๒๕๓๗) ออกตามความในพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๓๕
แหล่งข้อมูลอื่น
insect
- Overview of Orders of Insects
- "Insect" ที่ Encyclopedia of Life
- โดย Secretariat of the Pacific Community (SPC)
- Tree of Life Project 2013-06-16 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน – Insecta, Insecta Movies 2019-09-17 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Overview of insect external and internal anatomy
- Fossil Insect Database International Palaeoentological Society
- UF Book of Insect Records
- InsectImages.org 24,000 high resolution insect photographs
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
aemlng epnstwimmikraduksnhlng caaenkxxkepniflmtang id 18 klum milksnasakhykhuxmilatwepnplxng sungxacaebngepn 2 hrux 3 swn samarthmxngehnidxyangchdecn latwthngsxngdansaykhwamikhwamehmuxnaelamikhnadethakn miepluxkhxhumlatwdwysarikhtin Chitinous Exoskeleton immikhn hayicaebbichehnguxkhruxichruhayic miwdckrwngcrchiwitinkarecriyetibotaebbikh mikarlxkkhrabepnbangkhrngaelwsrangphnnghruxepluxkhxhumlatwihm miryangkhepnkhuaelaepnplxng swnihynkkitwithyamkichryangkhinkaraebngephsphuephsemiykhxngaemlngaemlng chwngewlathimichiwitxyu 396 0Ma PreꞒ Ꞓ O S D C P T J K Pg Ndioweniynyukhplay pccubnkarcaaenkchnthangwithyasastrodemn yuaekhrioxtxanackr stwiflm stwkhaplxngiflmyxy chn aemlng Linnaeus 1758chnyxy mixwywaphayinthimithxthangedinxaharepnthxyawtlxdcakpakipthungthwarhnk rabbeluxdepnaebbepidaelamithxeluxdxyuthangdansnhlngehnuxrabbthangedinxahar mirabbprasaththiprakxbipdwysmxngxyuehnuxthxxahar miesnprasathkhnadihyhnungkhuechuxmtxcaksmxng mikarrwmtwepnrayakxekidepnpmprasath esnprasathkhnadihykhxngaemlng caxyuthangdanlangkhxnglatwitthxxahar miklamenuxaebberiybxyutamlatw mikarhayicaebbichthxxakas sungcatidtxphanekhaxxkkhanglatwthangruhayic mixk 2 khu mithxng 18 khu odymiplxngla 1 khu khbthaykhxngesiycakrangkaythangthxkhbthay mikarepliynaeplnglksnaaelaruprangephuxkarecriyetibotcaktwxxnthifkcakikhcnklayepntwotetmwywiwthnakarinsmyyukhdukdabrrphcnthungpccubn aemlngcdepnstwthiprasbkhwamsaercepnxyangsunginkarwiwthnakarephuxkardarngchiwit inkhnathistwchnidxun canwnmaktxngsuyphnthiperuxy cnhmdipcakolk trngknkhamkbaemlngthimikardarngchiwitaelakaraephrphnthukracayiptamthitang thwthukaehng sungxasylksnaphiesshlayxyangkhxngaemlngechnokhrngsrangthangkaywiphakhsastrthimikhnadelk imtxngkarxaharcanwnmak samarthhlbphyaelaxasyinthinthixyuidthukpraephth mipikthichwyihbinidikl chwythaihaemlngbinxphyphhlbhniphyidngay haaehlngxaharidmakyingkhun rwmthngyngsamarthhaaehlngthixyuxasyaelaphsmphnthuidmakyingkhunxikdwy lksnathangphumisastrechnthael phuekhahruxthaelthray imepnxupsrrkhtxaemlngehmuxnkbstwchnidxun enuxngcakaemlngsamarthprbsphaphkardarngchiwitihekhakbsingaewdlxmidepnxyangdi rwmthngyngmiwiwthnakarddaeplngihxwywabangswninrangkaythanganidxyangehmaasmechn khakhudanhnakhxngtkaetntakhawthiwiwthnakarddaeplngihsamarthichcbehyuxidepnxyangdilksnathwiplksnathwipkhxngaemlngthiprakxbdwyswnhw swnxk swnthxng lksnathwipkhxngaemlngkhuxmilatwyawhruxkhxnkhangyaw latwthngsxngdansaykhwamilksnaehmuxnknaelaethakn aebngxxkepn 3 swnkhux swnhw head swnxk thorax aelaswntw abdomen odylksnakhxngxwywaswnhwprakxbipdwyta hnwdaelapak kaohlksirsamirxytxhruxesn ichsahrbaebngepnphunthitang idaek hw prakxbipdwnswnprakxbtang dngni swnhw prakxbipdwysnkaohlk Vertex khuxbriewnphunthitngaetswnhwkhxngaemlng nbtngaetphunthiswnthixyurahwangtathngsxngkhangipcnthungdanhlngkhxngta swnhna Frons khuxbriewnphunthithixyuthangdanhnakhxngkaohlksirsakhxngaemlng xyurahwangesnruptw Y thimilksnaepntw Y klbhw inbriewnphunthiswnnieriykwa esnthbkaohlksirsa swnrimfipakbn Clypeus khuxbriewnphunthirahwangswnhnakbrimfipakswnbn inswnnicamiesn frontoclypeal suture epntwaebngxxkcakswnhna swnaekm Gena khuxphunthithangdankhangkhxngkaohlkittarwm swnthankaohlk Occiput khuxbriewnphunthithangdanhlngkhxngkaohlksirsakhxngaemlng sungphunthitrngcudnicaaeykxxkcaksnkaohlkaelaaekmxyangchdecn inswnnicamiesn occipital suture epnesnaebng swnthankaohlkthangswnhlng Post Occiput khuxbriewnphunthiswnthiechuxmtidkblakhx aelaaeykxxkmacakthankaohlk odymiesn post occipital suture epnesnaebng ta takhxngaemlngmixyu 2 chnidkhuxtaaebbrwmaelataediyw taaebbrwmkhxngaemlngcami 2 ta aettaediywcamicanwntathiaetktangknxxkiptamaemlngaetlachnid aelamkcapraktxyuinaemlngthnginchwngrayafktwepntwhnxn epntwxxnaelatwetmwy aemlngaetlachnidcamitathiimehmuxnkn swnihymkcamitaediyw 3 taeriyngtidtxknepnrupsamehliymehnuxsirsa xyurahwangtarwmthngsxngkhang aetinaemlngbangchnidkxaccaimphbwamitaediywrwmxyudwy hnwd hnwdkhxngaemlngcamixyu 2 esn ichsahrbsmphsaeladmklim swnmakhnwdkhxngaemlngmkcaxyurahwangtarwmhruxxyutakwatarwmephiyngelknxy samarthekhluxnihwipmaidxyangxisra ephraahnwdthng 2 esncatidxyukbsirsakhxngaemlngtrngchxnghnwd odymiaephnenuxeyuxbang epntwechuxmtidknexaiw pak pakkhxngaemlngmihlayrupaebbtamaetchnidkhxngaemlng aetpakaebbphunthankhuxpakaebbkdkinechn pakkhxngtkaetn lksnapakaebbkdkincamirimfipakbnpidswnprakxbxun khxngpakexaiw mikramepnxwywathimilksnaaekhngaerngsahrbbdekhiywxahar miesnthikhlaykbhnwdyunxxkmacakpakkhangla 2 esn khuaerkkhux maxillary palps sungcayudtidaennxyukbfn aelakhuthisxngkhux labial palps sungcayudtidaennxyuthirimfipaklang aelamiswnthiehnuxrimfipakbnkhunip sungcamiaephnsiehliymelk thieriykwa clypeus sahrbepnthanyudtidrimfipakswnbnexaiw khx khxkhxngaemlngcaepnswnthiechuxmtxrahwanghwkbxk milksnaxxnimaekhngehmuxnkbxwywaxun khxngrangkay prakxbipdwyenuxeyuxaebbbang aelaklamenux sungcathahnathiechuxmtxrahwangswnhwaelaswnxkkhxngaemlng xk xkkhxngaemlngxyurahwangswnhwaelaswnthxng samarthmxngehnidcakkhaaelapikkhxngaemlng enuxngcakxkepntaaehnngthitngkhxngxwywathiichinkarekhluxnihwkhxngkhaaelapik prakxbipdwyplxngcanwn 3 plxngkhuxxkplxngaerk xkplxngklangaelaxkplxnghlng odypktiaelwxkkhxngaemlngswnihyinaetlaplxngcamikha 1 khu tamthrrmchatiaelwaemlngbangchnidcaimmikha ephraakhannidesuxmhayip tampktiaelwkhathiyudtidkbxkplxngaerkkhuxkhakhuhna swnkhathitidkbxkplxngklangkhuxkhakhuklang aelakhathitidkbxkplxnghlngkhuxkhakhuhlng inaemlngthiecriyetibotetmthi swnihycamipiktidxyuthibriewnxkplxngklangkbxkplxnghlngxyanglakhu pikinswnxkplxngaerkkhxngaemlngthukchnidcaeriykwapikkhuhna aelaeriykpikkhxngxkplxnghlngwapikkhuhlng thxng thxngkhxngaemlngtampktiaelwcamithnghmd 11 plxng aetplxngthi 11 camilksnathielkmakcnmxngehnidyakhruxmxngaethbimehn thaihmxngehnthxngkhxngaemlngephiyngaekh 10 plxnghruximekin 10 plxngethann aetkyngmiaemlngbangchnidthimicanwnplxngthxngnxykwani aemlngswnihyemuxecriyetibotklayepntwotetmwy caimmiswnkhathibriewnthxng ykewnaetintwxxnkhxngaemlngbangchnidechn hnxnphiesuxkhaethiym thimiplxngthxnglksnaepnplxngkhu canwnplxngthxngcaaetktangknxxkcaktamaetpraephthkhxngtwhnxn playsudkhxnghangcamiaephnhang 1 khu lksnakhlaydayesnyawhruxepnaephnbang is phbidintwetmwy inephsemiycamixwywasahrbwangikhthibriewnplaysudkhxngthxng lksnaepnaephnhruxaethngyawplayaehlm samarthmxngehnidxyangchdecn miruhayicxyuthithangdankhangthxngkhxngaemlngkarcdxndbkhxngaemlngcdxyuinxndb Collembolatkaetn cdxyuinxndb Orthopteraaemlngpx cdxyuinxndb Odonata pccubnnkwithyasastridcdxndbaebngaemlngihepnhmwdhmu ephuxngaytxkarkhnhaaelathakarsuksawicy odyxasylksnaaelaokhrngsrangkhxngsrirarangkaykhxngaemlngepnhlkechn aemlngchnididktamthimilksnaokhrngsrangkhxngrangkaybangxyangehmuxnkn kcdiwinhmwdhmuediywkn thamikhwamaetktangknkcdiwinxikhmwdhmu karcdxndbhmwdhmukhxngaemlngodyxasyokhrngsrangkhxngaemlngepnhlknn samarthchiihehnaemlnginaetlahmwdhmunn mikhwamsmphnth miwiwthnakarsubtxknmaaetobranxyangir enuxngcakaemlnghlaychnidmiwiwthnakarthierwaelachaslbknip wiwthnakarthiaetktangknnixacthaihwiwthnakarkhxngaemlngbanghmwdhmusungkwaxikhmwdhmuhnung karcdxndbhmwdhmukhxngaemlnginchn Insecta hrux Hexapoda samarthaebngxxkepnchnyxy ldhlntamladb sungkaraebngchnkhxngaemlngxxkepnxndbtang mkniymichlksnaechphaakhxngokhrngsrangkhxngpik pakaelalksnaechphaaphiessxun bangxyangkhxngaemlngepntwtdsinic aemlngbangchnidxacaebngxndbidmak 25 35 xndbdwykn aetodythw ipaelw karaebngxndbtang thiepnthiruckaelaaephrhlay samarthphbehnidbxy mipraman 28 xndbdwykn dngni Class Insecta caaenkxndbtang iddngnicdepnaemlngthiimmipikaelaimmi metamorphosis lxkkhrabidimcakdcanwnkhrnghlngepntwetmwy subphnthuodyimmikarsmphsknkhxngephs karthaynaechuxcakephsphusuephsemiyepnaebbthangxxmOrder Collembola aemlnghangdid dd Order Diplure twsxngngam dd Order Thysanure twsamngam dd Order Archeognatha twsamngampa dd dd cdepnaemlngthixkplxngklang xkplxnghlngplxnglakhu aetinpikkhxngaemlngbangchnidxaccamikarldruplngidcnklayepnimmipik mikarepliynaeplngruprangrahwangkarecriyetibot immikarlxkkhrabemuxepntwetmwy karthaynaechuxcakephsphusuephsemiyodythangtrng aebngxxkepn 2 Infraclass dngniInfraclass Palaeoptera aemlnginklumniimsamarththicahubphbpikipthangdanhlngaenbkblatwid lksnakhxngpikcakangxyutlxdewla inrayatwxxncaxasyxyuinna mikarepliynaeplngruprangcaktwxxncnecriyetibotepntwetmwy Order Ephemeroptera twchipakhaw dd Order Odonata aemlngpx aemlngpxekhm dd Infraclass Neoptera aemlnginklumniepnaemlnginklumswnthiehluxthnghmd samarthhubphbpikphkbnlatwid dd Insect classification Hump backed jumping bristletails silverfish firebrats fishmoths Dragonflies Mayflies Angel insects earwigs stoneflies grasshoppers crickets katydids Mantodea praying mantises Blattodea cockroaches amp termites ice crawlers gladiators Stick insects Web spinners Book lice barkice amp sucking lice true bugs Thrips Hymenoptera sawflies wasps bees ants Coleoptera Beetles Lacewings Lepidoptera Butterflies amp moths Caddisflies Diptera True flies scorpionflies winter scorpionflies Fleas aephnphaphwiwthnakarchatiphnthucakngansuksakhxng Sroka Staniczek amp Bechly 2014 Prokop et al 2017 amp Wipfler et al 2019 phvtikrrmaemlngchxbekhahaaesngswanginvdurxn aemlnghlaychnidmixwywarbrusmphsthidimak bangkhrngxacmiprasiththiphaphmakkwaprasathsmphskhxngmnusy twxyangechn phungsamarthehnaesngsiinsepktrmkhxngrngsixultraiwoxelt aelaphiesuxklangkhuntwphumirabbprasathrbklin thisamarthrbklinkhxngfioromncaktwemiyidepnrayathanghlaykiolemtr 96 105 aemlngsngkhmxyangmdaelaphung epntwxyangthiphbehnidngaythisudkhxngstwsngkhm phwkmnxasyxyurwmknepnxanackrkhnadihyodyaebnghnathikarnganknxyangepnrabbaelaeriybrxy bangkhrngxanackrechnnixaceriykidwaepn superorganism inphasaithyxaceriykidwaaemlngwrrnaaemlngxnurkskhwamsamarthinkarprbtwiddi samarthdarngephaphnthuiddikhxngsingmichiwitinxndb Insecta hrux Hexapoda thaihsingmichiwitinklumkhxngaemlngmikhwamhlakhlay canwnchnidmakkwainxndbxun aelamicanwnprachakrmakepnxndb 1 khxngolk aetkhwamhlakhlaynnkthaihaemlngbangchnidsuyphnthu hruxiklsuyphnthu sungxaccaepnephraahlaysaehtudwykn cakkhwamcaephaaecaacngkhxngphuchxaharkhxngaemlngchnidnnldnxyhruximmiinsphaphthrrmchati enuxngcakkhwamesuxmothrmkhxngpaim echn phiesuxthungthxngthimiphuchxaharinrayahnxncakkarkinkraechasida xikthngyngmikarlklxbcbepnkarkha odyechphaaaemlngthimikhwamswyngam idaek klumphiesux aela klumdwng chnidaemlngxnurksinpraethsithy aemlngthimikarcbephuxkarkhasung sungmilksnaswyngam idaek aemlngklumphiesux aelaaemlngklumdwng sungphiesuxmisisnswyngam swndwngmiekhaswyngam aemlngthihayak sungducakphiphithphnthaemlng khxngkrmwichakarekstr thiekhyphbemux 30 40 pithiaelw txmapccubnimphbxikely hruxphbnxymak xnesiyngtxkarsuyphnthu bychiraychuxinxnusyya CITES Convention on International Trade in Endangered Species of Wild Fauna and Flora hruxxnusyyarahwangpraethswadwykarkhasungphuchpa aelastwpathikalngiklsuyphnthu inbychihmayelkh 2 khxngxnusyyanithimiraychuxaemlngthiphbinpraethsithydwy canwn 3 raykar khux phiesuxthungthxng phiesuxikesxr aelaphiesuxphuthan dngnninkarkahndchnidaemlngxnurkscungidkahndaemlngthng 3 raykarniekhaipdwyraychuxaemlngxnurksinpraethsithy aemlngklumphiesux phiesuxthungthxng aemlngxnurks inbychihmayelkh 2 khxngxnusyya CITESphiesuxhangyawtaekhiywpiklayhyk Actias maenas Doubleday phiesuxhangyawsitapiklayhyk Actias sinensis heterogyna Mell phiesuxhangyawtaekhiywpiklaytrng Actias rhodopneuma Rober phiesuxklangkhunhangyaw Actias spp inpraethsithyphbphiesuxklangkhun Moth chnidni 4 chnid phiesuxhangyawtaekhiywpiklaytrng Actias maenas Doubleday phiesuxhangyawtaekhiywpiklayhyk A Rhodopneuma Rober phiesuxhangyawsitapiklaytrng A selene Hubner aelaphiesuxhangyawsitapiklayhyk A Senensis heterogyna Mell phiesuxhangyawsitapiklaytrng Actias selene Hubner phiesuxphuthanhruxphiesuxechiyngdaw Bhutanitis spp kahndiwinbychihmayelkh 2 khxngxnusyya CITES inpraethsithyphbechphaaBhutanitis lidderdalei Atkinson phiesuxrkaerkhaw Papilio protener euprotener Fruhstorfer phiesuxklangkhunkhangkhaw Lyssa zampa Butler phiesuxhangtingsaphayekhiyw Papilio palinurus Fabricius phiesuxikesxr Teinoppalpus spp epnaemlngxnurks thikahndiwinbychi hmayelkh 2 khxngxnusyya CITES inpraethsithymichnidediyw khux phiesuxikesxr Teinoppalpus imperialisimperatrix de Niceville phiesuxnangphya Stichophthalma spp epnphiesuxklangwn Butterfly thimikhnadihythisud sunginpraethsithyphb 9 chnid khux phiesuxnangphyaphma Stichophthalma louisa Wood Mason phbidthiphakhehnuxkhxngpraethsithy phiesuxnangphyaekhmr S cambodia Hewitson phbidthiphakhtawnxxkkhxngpraeths aelaphiesuxnangphyakxdefry S Godfreyi Rothschild phbidthiphakhitkhxngpraethsithy phiesuxthungthxng Trodes spp epnaemlngxnurks thikahndiwinbychihmayelkh 2 khxngxnusyya CITES inpraethsithythiphbaelwmixyuhlaychnid idaek phiesuxthungthxngpasung Trodes helena Linnaeus phiesuxthungthxngpksit T amphrysus Cramer phiesuxthungthxngthrrmda T aeacus Felder phiesuxhangdabtalihm Meandrusa sciron Leech aemlngklumdwng dwngkwangdaw Cheirotonus parryi Gray wngs Scarabaeidae epndwngkhnadihy twphumikhahnayawswyngam twemiykhahnasn dwngchnidniphbthangphakhehnuxaelaphakhtawnxxk dwngkhimyiraf Chadagnathus giraffa Fabricus wngs Lucanidae phbthiphakhehnuxaelaphakhtawnxxk dwngkhimhruxdwngekhiywkanginpraethsithymihlaychnidaelamiruprangaeplkswyngamcungmi karlacbknmak dwngdinkhxbthxngaedng Mouhotia batesi Lewis wngs banboo dwngdinthimikhnadihy twsida aetkhxbbriewnswnxkmiehluxbepnsithxngaedng phbthiphakhklang phakhtawnxxk aelaphakhtawnxxkechiyngehnux dwngdinpikaephn Mormolyce phyllodes Hegenb wngs banboo dwngdinthimipikhnaaebnbangepnaephnthaihduswyaelaaeplk epnaemlngthihayak phbechphaaphakhitswnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidduephimstwimmikraduksnhlng kitwithyaxangxingbthptibtikarkidwithyaebuxngtn phakhwichakidwithya khnaekstr mhawithyalyekstrsastr rs dr sawitri mailyphnthu sankphimphrwekhiyw ph s 2538 hna 5 bthptibtikarkidwithyaebuxngtn phakhwichakidwithya khnaekstr mhawithyalyekstrsastr rs dr sawitri mailyphnthu sankphimphrwekhiyw ph s 2538 hna 13 15 Sroka Gunter Staniczek Arnold H Bechly December 2014 Revision of the giant pterygote insect Bojophlebia prokopi Kukalova Peck 1985 Hydropalaeoptera Bojophlebiidae from the Carboniferous of the Czech Republic with the first cladistic analysis of fossil palaeopterous insects Journal of Systematic Palaeontology 13 11 963 982 doi 10 1080 14772019 2014 987958 subkhnemux 21 May 2019 Prokop Jakub 2017 Redefining the extinct orders Miomoptera amp Hypoperlida as stem acercarian insects BMC Evolutionary Biology 17 205 doi 10 1186 s12862 017 1039 3 PMC 5574135 PMID 28841819 subkhnemux 21 May 2017 Wipfler B February 2019 Evolutionary history of Polyneoptera amp its implications for our understanding of early winged insects Proceedings of the National Academy of Sciences 116 8 3024 3029 doi 10 1073 pnas 1817794116 Gullan P J Cranston P S 2005 The Insects An Outline of Entomology 3rd ed Oxford Blackwell Publishing ISBN 978 1 4051 1113 3 aemlngxnurksinpraethsithy www ento agri kps ku ac th prakasrachkiccanuebksa chbbkvsdika elm 111 txnthi 31 k lngwnthi 16 phvscikayn 2537 bychiaenbthaykdkrathrwngekstraelashkrn chbbthi 4 ph s 2537 xxktamkhwaminphrarachbyytisngwnaelakhumkhrxngstwpa ph s 2535aehlngkhxmulxunWikiquote wikikhakhmphasaxngkvs mikhakhmthiklawody hruxekiywkb Insect wikiphcnanukrm wikiphcnanukrm mikhwamhmaykhxngkhawa insect Wikisource wikisxrsphasaxngkvs English mikhxmultnchbbekiywkb the 1911 Encyclopaedia Britannica article Insect Overview of Orders of Insects Insect thi Encyclopedia of Life ody Secretariat of the Pacific Community SPC Tree of Life Project 2013 06 16 thi ewyaebkaemchchin Insecta Insecta Movies 2019 09 17 thi ewyaebkaemchchin Overview of insect external and internal anatomy Fossil Insect Database International Palaeoentological Society UF Book of Insect Records InsectImages org 24 000 high resolution insect photographs