โดย แรมบรังด์ | |
ของเนเธอร์แลนด์และฟลานเดอส์ | |
เนเธอร์แลนด์เริ่มแรก (ค.ศ. 1400-1500) | |
เรอแนซ็องส์แบบดัตช์และเฟลมิช (ค.ศ. 1500-84) | |
ยุคทองของเนเธอร์แลนด์ (ค.ศ. 1584-1702) | |
บาโรกแบบเฟลมิช (ค.ศ. 1585-1700) | |
จิตรกรรมยุคทองของเนเธอร์แลนด์ (อังกฤษ: Dutch Golden Age painting) คือช่วงระยะหนึ่งของประวัติศาสตร์จิตรกรรมของเนเธอร์แลนด์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ราว ค.ศ. 1584 มาจนถึง ค.ศ. 1702 เมื่อการค้าขาย, วิทยาศาสตร์ และศิลปะของเนเธอร์แลนด์เป็นทีเจริญถึงจุดสูงสุดและเลื่องลือไปทั่วโลก จิตรกรของสมัยนี้สร้างแบบฉบับการเขียนงานจิตรกรรม และ ทิ้งอิทธิพลงานที่เป็นอนุสรณ์ต่อนักเขียนภาพรุ่นต่อมาเป็นอันมาก
ประเภทของงานเขียน
ลักษณะของจิตรกรรมของดัตช์ที่แตกต่างจากการเขียนจิตรกรรมของยุโรปก่อนหน้านั้นคือจำนวนการเขียนภาพที่เกี่ยวกับศาสนาที่ลดน้อยลง ที่มีสาเหตุมาจากการที่นิกายคาลวินห้ามการตั้งภาพเขียนทางศาสนาในวัดแต่ก็ยังอนุญาตให้ตั้งภาพเขียนที่เกี่ยวกับพระคัมภีร์ไบเบิลเป็นการส่วนตัวได้ในที่อยู่อาศัย ลักษณะที่เด่นของยุคนี้คือการเขียนภาพประเภทอื่น ๆ ที่ไม่ใช้จิตรกรรมศาสนาที่แบ่งออกเป็นประเภทย่อยมากมาย เช่นการเขียนเกี่ยวกับชีวิตของเกษตรกร, ภูมิทัศน์, นครทัศน์, ทะเลทัศน์, ภูมิทัศน์กับสัตว์ และ ภาพนิ่งแบบต่าง ๆ ภาพเขียนเหล่านี้มามีต่ออิทธิพลของจิตรกรดัตช์ในคริสต์ศตวรรษที่ 17 อย่างชัดเจน
ในช่วงนี้ก็มีทฤษฎีที่แพร่หลายในการการจัดจิตรกรรมตามที่เรียกว่า “ลำดับคุณค่าของศิลปะ” (Hierarchy of genres) ซึ่งถือว่าศิลปะบางประเภทมีคุณค่าที่สูงกว่าประเภทอื่นตามลำดับที่ลดหลั่นกันไป โดยถือว่า “จิตรกรรมประวัติศาสตร์” เป็นจิตรกรรมที่มีคุณค่าสูงที่สุดในบรรดาประเภทจิตรกรรมทั้งหมด ซึ่งทำให้จิตกรต่างก็ต้องการแต่จะเขียนภาพประเภทนี้ แต่ในช่วงนั้นเป็นภาพที่ไม่มีตลาด ซึ่งทำให้จิตรกรต้องหันไปเขียนภาพประเภทอื่นที่รวมทั้งภาพเหมือน หรือ ภาพชีวิตประจำวันซึ่งเป็นที่นิยมของตลาดมากกว่า ลำดับคุณค่าของศิลปะลดหลั่นกันตามลำดับดังนี้:
- จิตรกรรมประวัติศาสตร์ รวมทั้งศิลปะคริสต์ศาสนา
- จิตรกรรมภาพเหมือน
- จิตรกรรมภาพชีวิตประจำวัน
- จิตรกรรมภูมิทัศน์ รวมทั้งภูมิทัศน์เมือง
- จิตรกรรมภาพนิ่ง
ในบางครั้งการอาจจะมีการรวมลำดับระหว่างงานสองประเภทหรือกว่านั้น และมีการใช้อุปมานิทัศน์ในการภาพที่เป็นสัญลักษณ์สื่อความหมายอย่างอื่นนอกเหนือจากที่เห็นโดยตรงในภาพ เป็นต้นว่าภาพนิ่งอาจจะมีหัวกะโหลก, นาฬิกาทรายและเทียนที่ดับแล้วซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความสิ้นสุดหรือความตาย ฤดูกาลมักจะวาดเคียงข้างกับกิจการต่าง ๆ ที่เหมาะสมแก่ฤดูของมนุษย์ เช่นการเล่นสเกตในฤดูหนาว การหว่านพืชในฤดูใบไม้ผลิ หรือการเก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ร่วงเป็นต้น และสิ่งสำคัญคือการใช้จิตรกรรมเป็นเครื่องมือในการสื่อสารทางจริยธรรม
จิตรกรดัตช์นิยมเขียนภาพในประเภทที่ “ลำดับคุณค่าของศิลปะ” ถือว่ามีระดับ “ต่ำ” แต่ก็มิได้หันหลังให้กับทฤษฎีการลำดับคุณค่าโดยสิ้นเชิง ภาพเขียนส่วนใหญ่มีขนาดเล็ก – ภาพเขียนขนาดใหญ่ที่ทำจะเป็นภาพเหมือนของกลุ่มคน จิตรกรรมฝาผนังแทบจะหายไปจนหมด ถ้าจะตกแต่งผนังก็จะใช้ภาพเขียนในกรอบตกแต่งแทนที่ การเขียนก็ยังคงเขียนบนไม้กันต่อมา แม้ว่าจิตรกรในยุโรปตะวันตกอื่น ๆ จะเลิกใช้กันไปแล้วและหันไปเขียนบนผ้าใบ จิตรกรบางคนก็ใช้แผ่นทองแดงที่นำกลับมาใช้แผ่นที่ใช้ในการพิมพ์ (printmaking) จำนวนภาพเขียนจากยุคนี้ลดลงไปบ้างจากการเขียนทับ (overpaint) โดยจิตรกรรุ่นต่อมาในคริสต์ศตวรรษที่ 18 และ 19 ในช่วงนี้แทบจะไม่มีงานประติมากรรม ที่มีก็เป็นงานที่พบในสุสานที่เป็นอนุสรณ์ของผู้ตาย หรืองานที่ใช้ตกแต่งสิ่งก่อสร้าง หรือประติมากรรมชิ้นเล็กภายในที่อยู่อาศัย การเขียน (delftware) ก็ถูกลงและมีขายโดยทั่วไปแต่งานที่มีคุณภาพสูงก็ยังคงหายาก แต่งานเงินโดยเฉพาะลักษณะ นำสมัยในยุโรป
โลกของงานศิลปะ
จำนวนภาพเขียนอันมหาศาลที่ผลิตโดยจิตรกรดัตช์และการจัดงานแสดงใหญ่ ๆ ที่มีการขายภาพเขียนจำนวนมากเป็นที่สังเกตของชาวต่างประเทศ – ประมาณกันอย่างคร่าว ๆ ว่าดัตช์ผลิตภาพเขียนราว 1.3 ล้านภาพระหว่างช่วงยี่สิบปีหลังจาก ค.ศ. 1640 เท่านั้น จำนวนการเขียนที่สูงทำให้ราคาภาพค่อนข้างต่ำ นอกไปจากภาพที่เขียนโดยจิตรกรผู้มีชื่อเสียงหรือผู้เป็นที่นิยมกันในขณะนั้น จิตกรที่ไม่มีชื่อเสียงหรือตกอันดับรวมทั้งจิตรกรที่ในปัจจุบันถือว่าเป็นจิตรกรเอกเช่นโยฮันส์ เวร์เมร์, ฟรันส์ ฮาลส์ และ แรมบรังด์ในบั้นปลายต่างก็ประสบกับความยากลำบากในการพยายามทำมาหากินโดยการเป็นจิตรกร จิตรกรหลายคนต้องทำงานอื่นด้วยเพื่อประทังชีวิต หรือเลิกอาชีพการเป็นจิตรกรโดยสิ้นเชิง สถานการณ์เลวร้ายลงโดยเฉพาะเมื่อฝรั่งเศสเข้ารุกรานบริเวณกลุ่มประเทศต่ำในปี ค.ศ. 1672 (หรือ “” (Rampjaar)) ที่มีผลต่อความอดวายของตลาดงานศิลปะที่ไม่ได้ฟื้นตัวขึ้นมาเท่ากับสมัยที่รุ่งเรืองหลังจากนั้น ในช่วงที่รุ่งเรืองความแพร่หลายของภาพเขียนก็เป็นไปโดยทั่วไปในทุกระดับของสังคมจนนักท่องเที่ยวจากอังกฤษเขียนบรรยายในปี ค.ศ. 1640 ว่าแม้แต่ช่างตีเหล็ก หรือ ช่างทองแดงต่างก็มีภาพเขียนแขวนอยู่ในโรงช่าง: “yea many tymes, blacksmithes, cobblers etts., will have some picture or other by their Forge and in their stalle. Such is the generall Notion, enclination and delight that these Countrie Native have to Painting” ช่วงนี้เป็นช่วงแรกที่จิตรกรคนสำคัญ ๆ ก็เริ่มใช้ตัวแทนค้าขายภาพเขียน (art dealer) ที่เป็นงานอาชีพขายภาพให้
วิธีการเขียนภาพของดัตช์โดยทั่วไปในช่วงนี้มีคุณภาพสูง แต่ยังคงใช้ระบบการเขียนแบบยุคกลาง โดยการฝึกจิตรกรใหม่กับครู จำนวนของผู้ทำงานกับห้องเขียนภาพ (workshop) โดยทั่วไปมีจำนวนน้อยกว่าห้องเขียนภาพในฟลานเดอร์สหรือในอิตาลีที่อาจจะมีผู้ได้รับการฝึกหัดเพียงคนหรือสองคน จำนวนนี้จำกัดโดยกฎของสมาคมจิตรกร ในขณะเดียวกันอำนาจของสมาคมเซนต์ลูคระดับท้องถิ่นเริ่มลดถอยลง แต่ในบางท้องที่ก็ยังคงมีอิทธิพลพอสมควรอยู่ และการก่อตั้งสมาคมใหม่ขึ้นก็มีบ้าง เช่นสมาคมใน อัมสเตอร์ดัมที่ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1579 และสมาคมใน, ร็อตเตอร์ดัม, อูเทร็คท์ และ เดลฟท์ต่างก็ก่อตั้งขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1609 ถึงปี ค.ศ. 1611 และที่ล่าสุดในไลเดนในปี ค.ศ. 1648 นอกจากการเขียนภาพเหมือนที่ได้รับจ้างแล้ว การเขียนภาพประเภทอื่น ที่เป็นการเขียนล่วงหน้าแบบ 'เก็ง' ความต้องการของตลาดโดยไม่มีการจ้างให้เขียนอย่างเฉพาะเจาะจงซึ่งต่างกับลักษณะการเขียนในชาติอื่น ๆ
ตระกูลจิตรกรก็มีด้วยการหลายตระกูล และจิตรหลายคนก็ทำการสมรสกับลูกสาวของครู หรือ ของจิตรกรอื่น ๆ จิตรกรบางคนก็มาจากครอบครัวที่มีฐานะดีผู้สามารถจ่ายค่าฝึกหัดของตนเองได้ ทั้งแรมบรังด์และยาน สตีนต่างก็ได้รับการศึกษาที่มหาวิทยาลัยไลเดนอยู่ชั่วขณะหนึ่ง นอกจากนั้นลักษณะการเขียนที่เป็นเอกลักษณ์หรือประเภทของงานจิตรกรรมก็อาจจะแตกต่างกันไปตามเมืองของจิตรกร แต่อัมสเตอร์ดัมเป็นศูนย์กลางของงานเขียนทั้งหมด
จิตรกรของดัตช์คำนึงถึงทฤษฎีศิลปะน้อยกว่าจิตรกรในประเทศอื่น ๆ หรือการถกเถียงกันในทฤษฎีศิลปะเช่นที่นิยมทำกันในบรรดาปัญญาชนอย่างแพร่หลายในอิตาลี ก็เกิดขึ้นในเนเธอร์แลนด์ไม่บ่อยครั้งนัก การจ้างเขียนหรือการขายภาพเขียนเกือบทั้งหมดเป็นการจ้างและการซื้อส่วนบุคคล และระหว่างชาวเมือง ที่มิได้มีการเก็บรักษาหลักฐานการซื้อขายกันไว้ ซึ่งทำให้หลักฐานเกี่ยวกับภาพเขียนแต่ละภาพมีน้อยกว่าในบริเวณอื่น แต่ศิลปะของดัตช์ก็เป็นความมีหน้ามีตาของชาติ ฉะนั้นหลักฐานสำคัญที่เกี่ยวกับภาพเขียนจึงมักจะเป็นหลักฐานทางอ้อมที่มาจากหนังสือชีวประวัติของจิตรกรและงานเขียนโดยทั่วไป เช่นในงานเขียนของ (Karel van Mander) ที่เขียนเกี่ยวกับศิลปะของช่วงร้อยปีก่อนหน้านั้น และ (Arnold Houbraken) ใน “"De groote schouburgh der Nederlantsche konstschilders en schilderessen"” (“เวทีใหญ่ของจิตรกรดัตช์”, ค.ศ. 1718–1721) งานทั้งสองตามด้วยงานเขียนชีวประวัติสั้น ๆ ของจิตรกรมากมายที่รวมทั้งงานเขียนของเฮาบราเคนเองที่รวมชีวประวัติของจิตรกรกว่า 500 คน และถือกันว่าเป็นงานที่เที่ยงตรงต่อความเป็นจริง ศิลปินเยอรมัน (Joachim von Sandrart, ค.ศ. 1606 - 1688) ทำงานอยู่ระยะหนึ่งในฮอลแลนด์ และ “"Deutsche Akademie"” (สถาบันเยอรมัน) ก็มีเนื้อหาเกี่ยวกับจิตรกรดัตช์ที่โยฮาคิมรู้จัก ครูของเฮาบราเคนและลูกศิษย์ของแรมบรังด์ - (Samuel van Hoogstraten, ค.ศ. 1627–1678) ผู้เขียน “"Zichtbare wereld"” และ “"Inleyding tot de Hooge Schoole der Schilderkonst"” (ค.ศ. 1678) ในเนื้อหาที่เป็นการวิพากษ์มากกว่าจะเป็นชีวประวัติ ซึ่งเป็นงานเขียนที่มีความสำคัญต่อภาพเขียนในยุคนี้ แต่หนังสือเหล่านี้ก็เช่นเดียวกับหนังสือดัตช์ที่เกี่ยวกับทฤษฎีศิลปะอื่น ๆ มักจะกล่าวถึงทฤษฎีการเขียนภาพของยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาและไม่ได้สะท้อนลักษณะการเขียนภาพร่วมสมัยในขณะนั้น และมักจะเน้นเนื้อหาที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของศิลปะ
ลำดับคุณค่าของศิลปะ
จิตรกรรมประวัติศาสตร์
ศิลปะในกลุ่มนี้มิได้รวมแต่เพียงภาพเขียนที่แสดงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามความเป็นจริงในประวัติศาสตร์ แต่ยังรวมทั้งภาพเขียนที่แสดงเหตุการณ์จากคัมภีร์ไบเบิล, ตำนานเทพ, วรรณคดี และอุปมานิทัศน์ เหตุการ์ในประวัติศาสตร์ที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่ถือว่าอยู่ในกลุ่มนี้ แต่ถือว่าเป็นการเขียนภาพแบบสัจนิยมที่รวมกับประเภทภาพเหมือน และ การเขียนทะเลทัศน์, นครทัศน์ หรือภูมิทัศน์ การเขียนภาพขนาดใหญ่ทางประวัติศาสตร์หรือศาสนาที่ผู้อุปถัมภ์หรือทางวัดต้องการสร้างความรู้สึกมหัศจรรย์ให้แก่ผู้ดูมีน้อยกว่าที่ทำกันในประเทศอื่น นอกจากนั้นตลาดในเนเธอร์แลนด์ไม่ยอมรับศิลปะศาสนาในวัดเช่นในประเทศอื่น ๆ ในยุโรป การเขียนภาพขนาดใหญ่แบบบาโรกสำหรับวังหรือคฤหาสน์ของเจ้านายหรือผู้มีอันจะกินก็แทบจะไม่มีในเนเธอร์แลนด์ นอกจากนั้นประชากรโปรเตนแตนท์ของดัตช์ในเมืองใหญ่ ๆ ที่ได้เห็นการใช้อุปมานิทัศน์ของแมนเนอริสต์ในการพยายามโฆษณาชวนเชื่อของฮับส์บวร์กระหว่าง ก็เกิดปฏิกิริยาต่อต้านอย่างรุนแรงในการใช้ศิลปะเป็นเครื่องมือ ที่ทำให้สร้างความไม่ไว้วางใจในความยิ่งใหญ่ของการสื่อความหมายโดยการใช้จักษุศิลป์ ประวัติศาสตร์ของศิลปะในเนเธอร์แลนด์จึงหันเหมาสนองปรัชญาของ "ศิลปะชนเพื่อกลุ่มน้อย" แต่ก็เมื่อเขียนแล้วก็มีบ้างที่มาได้รับการตกแต่งเมื่อทำเป็นภาพพิมพ์เนื่องมาจากความสนใจในภาพเกี่ยวกับเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์
ภาพเขียนประวัติศาสตร์ต่างจากภาพเขียนประเภทอื่นตรงที่ จิตรกรสำคัญหลายคนในช่วงแรกของยุคทองยังคงได้รับอิทธิพลจากการเขียนแบบอิตาลี ภาพเขียนของจิตรกรสำคัญของอิตาลีถูกส่งหมุนเวียนในหมู่นักเขียน ความสามารถในการแสดงแสงในภาพที่เพิ่มมากขึ้นเป็นอิทธิพลโดยตรงที่มาจากอิตาลี โดยเฉพาะโดยคาราวัจโจ จิตรกรดัตช์บางคนก็เดินทางไปอิตาลีแต่ก็น้อยกว่าเมื่อเทียบกับจิตรกรเฟล็มมิช เพื่อที่จะฝึกงานหรือหาประสบการณ์ในการไปชมภาพเขียนของจิตรกรอิตาลี แต่กระนั้นจิตกรสำคัญ ๆ บางคนของเนเธอร์แลนด์เช่นฟรันส์ ฮาลส์ หรือ ยาคอป ฟาน รุยส์เดลก็มิได้มีโอกาสเดินทางไปอิตาลี
ในช่วงต้นของคริสต์ศตวรรษจิตรกรลัทธิแมนเนอริสม์ที่ลักษณะการเขียนที่มาจากคริสต์ศตวรรษก่อนหน้านั้นก็ยังดำเนินการเขียนตามแบบฉบับต่อมาจนกระทั่งคริสต์ทศวรรษ 1630 ในกรณีของอับราฮัม โบลเมิร์ท และ (Joachem Wtewael) จิตรกรรมประวัติศาสตร์หลายภาพมีขนาดเล็ก ขณะที่จิตรกรเยอรมันที่ตั้งถิ่นฐานอยู่ในกรุงโรมอาดัม เอลสไฮเมอร์และคาราวัจโจต่างก็มีอิทธิพลต่อจิตรกรของดัตช์เช่นเปียเตอร์ ลาสท์มัน, แรมบรังด์ และ ยานและ (Pynas) เมื่อเปรียบเทียบประวัติศาสตร์ของศิลปะบาโรกจากประเทศอื่น ศิลปะบาโรกของอิตาลีและดัตช์ต่างก็เน้นความเป็นสัจนิยม และการสื่อความหมายที่ตรงไปตรงมา ที่บางครั้งเรียกว่า "จิตรกรรมก่อนแบบแรมบรังด์" ("Pre-Rembrandtists") ซึ่งเป็นลักษณะของการเขียนภาพของแรมบรังด์ในช่วงแรก ๆ
(Utrecht Caravaggism) หมายถึงกลุ่มจิตรกรชาวดัตช์ที่เขียนทั้งจิตรกรรมประวัติศาสตร์และภาพชีวิตประจำวันขนาดใหญ่แบบอิตาลี และมักจะใช้เท็คนิคการใช้แสงเงาที่ตัดกันอย่างรุนแรง (ค่าต่างแสง) ก่อนหน้าการปฏิวัติอูเทร็คท์เป็นเมืองสำคัญที่สุดในดินแดนดัตช์ใหม่ และต่างจากเมืองอื่นตรงที่มีประชากรถึง 40% ที่เป็นโรมันคาทอลิกโดยเฉพาะในหมู่ชนชั้นสูง จิตรกรชั้นนำก็ได้แก่ เฮ็นดริค เทอร์บรุกเก็น, เจอราร์ด ฟาน โฮนท์ฮอร์สต์ และ เดิร์ค ฟาน บาบูเร็น การเขียนแบบคาราวัจโจแบบอูเทร็คท์นิยมกันในคริสต์ทศวรรษ 1630 แต่โฮนท์ฮอร์สต์เขียนมาจนถึง คริสต์ทศวรรษ 1650 และเป็นจิตรกรผู้เป็นที่นิยมในราชสำนักของอังกฤษ ดัตช์ และเดนมาร์คในลักษณะที่ออกไปทางคลาสสิก
แรมบรังด์เริ่มการเขียนด้วยจิตรกรรมประวัติศาสตร์ก่อนที่จะมาได้รับความสำเร็จในการเขียนภาพเหมือน ภาพพิมพ์จำนวนมากของแรมบรังด์เป็นภาพเขียนทางศาสนา และ เรื่องราวของการได้รับจ้างให้เขียนจิตรกรรมประวัติศาสตร์ภาพสุดท้าย “” (The Conspiracy of Claudius Civilis, ค.ศ. 1661) เน้นให้เห็นถึงความฝังใจในความต้องการที่จะเขียนจิตรกรรมประวัติศาสตร์ ที่ประสบกับความยากเข็ญในการหาลูกค้าที่ต้องการภาพเขียนประเภทดังว่า ศิลปินหลายคน รวมทั้งลูกศิษย์ของแรมบรังด์หลายคนพยายามดำรงวิธีการเขียนตามแบบแรมบรังด์ซึ่งบ้างก็ได้รับความสำเร็จบ้างพอประมาณ เช่นโคเฟิร์ต ฟลิงก์ (Govaert Flinck) ผู้ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด (Gerard de Lairesse, ค.ศ. 1640–1711) ก็เป็นอีกผู้หนึ่งก่อนที่จะมาตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของศิลปะคลาสสิกแบบฝรั่งเศส และกลายมาเป็นทั้งจิตรกรและนักทฤษฎีชั้นนำของเนเธอรแลนด์ต่อมา
การเขียนภาพเปลือยจำกัดอยู่แต่เฉพาะการเขียนภาพประวัติศาสตร์ แต่ก็มีบ้างที่จิตรกรภาพเหมือนที่ตั้งชื่อภาพเขียนตามแบบคลาสสิกเช่นในงานเขียนของแรมบรังด์ ส่วนจิตรกรภาพชีวิตประจำวันจะไม่มีการเขียนภาพที่เปิดเผยไปกว่าหน้าอกหรือขาอ่อน และจะเขียนลักษณะเช่นนั้นก็ต่อเมื่อเป็นภาพที่เกี่ยวกับโสเภณี หรือเกษตรกรอิตาลีเท่านั้น
จิตรกรรมภาพเหมือน
จิตรกรรมภาพเหมือนเดี่ยว
จิตรกรรมภาพเหมือนรุ่งเรืองในคริสต์ศตวรรษที่ 17 เมื่อชนชั้นกลางที่มีฐานะมั่งคั่งขึ้นมาจากการค้านิยมที่จะจ้างจิตรกรให้เขียนภาพเหมือนของตนเองมมากกว่าชนชั้นเดียวกันในประเทศอื่น ประมาณกันว่าในยุคนี้จิตรกรเขียนภาพเหมือนด้วยกันทั้งหมดราวระหว่าง 750,000 ถึง 1,100,000 ภาพ แรมบรังด์เองประสบกับความสำเร็จกับการเขียนภาพเหมือน แต่ก็เช่นเดียวกับจิตรกรผู้อื่นที่เขียนภาพเหมือน ที่มาเหนื่อยหน่ายกับงานเขียนลักษณะนี้ เช่นที่ฟาน มานเดอร์บรรยายว่า: “ศิลปินทำงานประเภทเดียวกันนี้เป็นเวลาอันยาวนานโดยไม่เกิดความพึงพอใจให้แก่ตนเอง”
การเขียนในช่วงแรกที่ตัวแบบชาย หรือบางครั้งก็รวมทั้งสตรีด้วยมักจะแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าที่มีสีหนักและเรียบ ตามปรัชญาของลัทธิคาลวินการมีฉากตกแต่ง (props) หรือ การมีทิวทัศน์ในฉากหลังเป็นสัญลักษณ์ของความทนง ซึ่งทำให้ภาพเหมือนที่เขียนในเนเธอร์แลนด์มีลักษณะและวิธีการเขียนที่คล้ายคลึงกันหมด แม้แต่การยืนในภาพก็มักจะเป็นสิ่งที่เลี่ยงทำกันด้วเหตุผลเดียวกันกับข้างต้น การวางท่าต้องวางอย่างปราศจากอารมณ์ โดยเฉพาะสตรี แต่เด็กก็อาจจะยอมให้มีการแสดงท่าทางได้บ้าง โอกาสที่มีการวาดภาพเหมือนก็อาจจะเป็นเมื่อมีการสมรส สามีภรรยามักจะแยกกันเป็นสองภาพ ภาพเหมือนที่เขียนโดยแรมบรังด์ในช่วงหลังเป็นภาพมีเอกลักษณ์ขึ้นมาบ้างหรือมีเรื่องราวประกอบ แต่กระนั้นก็ยังถือว่าเป็นการเขียน “แบบอุตสาหกรรม” (en masse) เช่นในภาพเขียนในห้องที่เต็มไปด้วยภาพเขียนของ 'แรมบรังด์สมัยแรก' ที่ได้รับการอุทิศให้แก่พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิทันในนครนิวยอร์ก
จิตรกรผู้มีชื่อเสียงในการเขียนภาพเหมือนอีกคนหนึ่งคือฟรันส์ ฮาลส์ ผู้มีชื่อเสียงในฝีแปรงที่มีชีวิตชีวาและความสามารถในการทำให้ตัวแบบดูท่างสบายและมีอารมณ์ดี แต่กระนั้นการวางท่าอย่างสบายอารมณ์เช่นในตัวอย่างทางขวาก็ยังเป็นสิ่งที่หาดูได้ยากตามคำกล่าวที่ว่า: “ไม่มีภาพเหมือนอื่น ๆ จากยุคนี้ที่จะวางท่าอย่างไม่เป็นทางการเช่นนั้น” ผู้เป็นแบบเป็นพ่อค้าผ้าผู้มีฐานะดี ผู้เคยจ้างฮาลส์ให้เขียนภาพเหมือนเต็มตัวสิบปีก่อนหน้านั้น ภาพหลังเป็นภาพที่มีขนาดเล็กที่เขียนภาพในห้องส่วนตัวในบ้าน โดยผู้เป็นแบบแต่งตัวสำหรับออกไปขี่ม้ายาน เดอ เบรย์ (Jan de Bray) มักจะหว่านล้อมให้ผู้เป็นแบบแต่งตัวแต่งตัวและวางท่าแบบคลาสสิก แต่งานเขียนหลายชิ้นของเบรย์เป็นงานเขียนของบุคคลในครอบครัวของตนเอง (Thomas de Keyser), (Bartholomeus van der Helst), เฟอร์ดินานด์ โบล และจิตรกรคนอื่น ๆ รวมทั้งอีกหลายคนที่กล่าวถึงว่าเป็นจิตรกรประวัติศาสตร์หรือภาพชีวิตประจำวัน พยายามสร้างงานเขียนให้มีบรรยากาศที่มีชีวิตชีวากว่างานเขียนธรรมดา การเขียนภาพเหมือนได้รับผลกระเทือนจากความเปลี่ยนแปลงในด้านปรัชญาของการสร้างงานจิตรกรรมน้อยกว่าภาพเขียนประเภทอื่น และเป็นประเภทของภาพเขียนที่จิตรกรดัตช์หันกลับมาพึ่งได้เสมอ
เท่าที่ทราบเกี่ยวกับกระบวนการเขียนภาพของจิตรกรซึ่งก็เช่นเดียวกับในประเทศอื่น ๆ ในยุโรป ก็ดูเหมือนว่าใบหน้าของผู้เป็นแบบจะได้รับการเขียนก่อนระหว่างการนั่งครั้งสองครั้งแรก แต่จำนวนการนั่งครั้งต่อ ๆ มาไม่เป็นที่ทราบแน่นอน อาจจะเริ่มจากไม่ต้องนั่งเป็นแบบอีกหลังจากเขียนใบหน้าเสร็จ จนอาจจะต้องนั่งอีกถึง 50 ครั้งหลังจากนั้นตามที่มีการบันทึกเอาไว้ ผู้เป็นแบบก็มักจะทิ้งเสื้อผ้าไว้ในห้องเขียนภาพของจิตรกรไว้ให้เขียนรายละเอียด ที่อาจจะเขียนโดยผู้ช่วย หรืออาจจะซื้อมาจากจิตรกรผู้เชี่ยวชาญในการเขียนทางนี้โดยเฉพาะ เพราะเครื่องแต่งกายถือกันว่าเป็นองค์ประกอบสำคัญของภาพเหมือน สตรีที่แต่งงานแล้วหรือที่ไม่เคยแต่งงานอาจจะแยกจากกันได้โดยวิธีการแต่งกาย ที่ทำให้เห็นได้ว่ามีสตรีโสดจำนวนไม่กี่คนได้รับการเขียนภาพ นอกจากว่าจะเป็นส่วนหนึ่งในภาพเขียนกลุ่มครอบครัว การเขียนภาพเหมือนในเนเธอร์แลนด์ก็เช่นเดียวกับที่อื่นที่คุณภาพของการเขียนเครื่องแต่งกายก็แตกต่างกันไป - ในช่วงนี้ในสังคมทั่วไปก็มีการแต่งตัวด้วยเสื้อลายแถบ หรือ เป็นลวดลายกันแล้ว แต่จิตรกรมักจะไม่นิยมเขียนกัน ซึ่งอาจจะเป็นเพราะเป็นการเพิ่มงานให้แก่ตัวเองมากขึ้น แต่การใช้ลูกไม้หรือคอจีบซ้อนเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ และเป็นสิ่งที่ยากต่อการเขียนให้เหมือนจริง แรมบรังด์สามารถคิดวิธีการเขียนลูกไม้ได้อย่างเหมือนจริงโดยการเขียนสีขาวเป็นพื้นก่อน และเพิ่มลายระเอียดอย่างเบา ๆ ด้วยสีดำเพื่อแสดงลวดลาย อีกวิธีหนึ่งคือเขียนสีขาวบนพื้นสีดำ และสกัดสีขาวด้วยปลายแปรงออกเพื่อให้ปรากฏเป็นลวดลาย
จิตรกรรมภาพเหมือนหมู่
การเขียนภาพเหมือนของกลุ่มคนเป็นลักษณะการเขียนภาพเหมือนที่เป็นเอกลักษณ์ของเนเธอร์แลนด์ ที่เป็นที่นิยมกันในสมาคมและองค์การต่าง ๆ ที่เป็นส่วนสำคัญในสังคมของเนเธอร์แลนด์ในขณะนั้น เช่นกองพิทักษ์พลเรือนประจำเมือง (city's civilian guard), คณะกรรมการบริหาร, องค์การอาชีพ หรือ องค์การกุศล และอื่น ๆ โดยเพราะในครึ่งแรกของคริสต์ศตวรรษตัวแบบในภาพจะมีลักษณะแข็งแบบวางท่า เพราะคณะกรรมการของสถาบันมักจะชอบภาพที่ดูขึงขังเป็นทางการ กลุ่มคนในภาพก็มักจะมักจะนั่งกันรอบโต๊ะ แต่งตัวด้วยเสื้อสีหนัก (ซึ่งคุณภาพของเนื้อผ้าแสดงถึงฐานะอันเด่นในสังคม) แต่ละคนก็หันมาทางผู้ดูภาพแสดงสีหน้าที่เอาจริงเอาจัง การเขียนก็เน้นการวาดรายละเอียดของเสื้อผ้าอย่างเต็มที่รวมทั้งรายละเอียดของเฟอร์นิเจอร์ และสัญลักษณ์ต่างของแต่ละคนในภาพที่แสดงถึงฐานะทางสังคมของแต่ละคน ต่อมาภาพเขียนค่อย ๆ มีท่าทางที่ลดความขึงขังลงและมีความมีชีวิตชีวามีอารมณ์สนุกมากขึ้น และแสงสีที่ใช้ก็เริ่มสดใสมากขึ้นเช่นที่เห็นในภาพ “งานเลี้ยงของเจ้าหน้าที่เซนต์จอร์จ” โดย ฟรันส์ ฮาลส์
นอกจากนั้นภาพเหมือนกลุ่มอาจจะเป็นภาพของนักวิทยาศาสตร์ที่วางท่ากับเครื่องไม้เครื่องมือและวัสดุที่ใช้ในการศึกษา บางครั้งก็จะเป็นภาพแพทย์ที่วางท่ากับร่างศพที่เรียกว่า “บทเรียนกายวิภาค” ซึ่งชิ้นที่สำคัญที่สุดก็คงจะเป็นงานเขียน “บทเรียนกายวิภาคของนายแพทย์ทุลพ์” ของแรมบรังด์ ที่เขียนในปี ค.ศ. 1632
ภาพเขียนของกลุ่มกองพิทักษ์พลเรือนประจำเมือง (schutterstuk) พบในฮาร์เล็ม และอัมสเตอร์ดัม จะเป็นภาพที่แสดงถึงความมีอำนาจ, ฐานะ และบางครั้งก็อาจจะแสดงความมีพลังใจอันรื่นเริง (joyous spirit) การจัดภาพก็เริ่มด้วยการนั่งรอบโต๊ะแต่ต่อมาก็วิวัฒนาการมาเป็นภาพที่มีชีวิตชีวาขึ้น เช่นในงานเขียนชิ้นที่มีชื่อเสียงของ “” (The Night Watch) โดยแรมบรังด์
ภาพเขียนกลุ่มส่วนใหญ่จะจ่ายโดยแต่ละบุคคลที่ปรากฏในภาพ จำนวนที่จ่ายก็ขึ้นอยู่กับตำแหน่งและความมากน้อยของร่างกายที่ปรากฏในภาพ ที่อาจจะตั้งแต่หัวถึงเท้าด้านหน้าภาพหรือเพียงใบหน้าข้างหลังภาพ แต่บางครั้งก็จะเฉลี่ยกันจ่ายซึ่งอาจจะทำให้เป็นปัญหาในการวางภาพว่าจะให้ใครเด่นกว่าใคร
ถ้าเป็นภาพเขียนของกลุ่มคนที่เป็นครอบครัวก็มักจะเป็นภาพที่มีฉากเป็นบ้านที่มีฐานะดี
จิตรกรรมภาพชีวิตประจำวัน
ภาพชีวิตประจำวันเป็นภาพที่เป็นฉากที่ตัวแบบหลักในภาพไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นใคร จึงไม่ถือว่าเป็นภาพเหมือนหรือเป็นบุคคลในประวัติศาสตร์ หรือเป็นจิตรกรรมภูมิทัศน์ ภาพชีวิตประจำวันเป็นประเภทของงานจิตรกรรมที่รุ่งเรือง และเป็นที่นิยมกันมาก และเป็นจิตรกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของเนเธอร์แลนด์ในช่วงประวัติศาสตร์ศิลปะยุคนี้ และเป็นที่นิยมในภาพเขียนเฟล็มมิช
ภาพชีวิตประจำวันบางภาพก็จะมีตัวแบบเดียวเช่นภาพ “” ของเวเมร์ บางภาพก็จะเป็นกลุ่มคนกลุ่มใหญ่ในโอกาสใดโอกาสหนึ่ง หรือฝูงชน ภาพเขียนประเภทนี้ก็แบ่งย่อยอีกเป็นหลายกลุ่มที่ได้แก่ ภาพตัวแบบเดียว, ภาพครอบครัวชาวนา, ภาพในทาเวิร์น, ภาพในค่ายทหาร, ภาพที่มีสัตว์เลี้ยงเช่นม้าหรือปศุสัตว์, ภาพในหิมะ, ภาพกลางคืนเมื่อมีแสงจันทร์ และอื่น ๆ แต่ละกลุ่มก็มีชื่อเฉพาะเป็นของตนเอง แต่ชื่อของทั้งกลุ่มเช่นที่ใช้ในภาษาอังกฤษว่า “genre painting” ที่หมายถึงภาพชีวิตประจำวัน ไม่มีในภาษาดัตช์ ก่อนที่จะมาใช้คำว่า “genre painting” ซึ่งเป็นคำที่เพิ่งเริ่มใช้ในคริสต์ศตวรรษที่ 18 ชาวอังกฤษก็เรียกภาพเขียนประเภทนี้ว่า “drolleries” จิตรกรบางท่านก็เขียนงานเฉพาะในกลุ่มย่อยเท่านั้น โดยเฉพาะในราว ค.ศ. 1625. และขนาดของภาพที่เขียนก็ค่อยเล็กลงตามลำดับ
แม้ว่าภาพชีวิตประจำวันจะเป็นภาพที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นอยู่ของผู้คนชาวดัตช์ในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 17 จากทุกระดับของสังคม แต่ความเที่ยงตรงต่อความเป็นจริงก็ไม่ใช่สิ่งที่สรุปได้ง่าย ๆ เท่าใดนัก ภาพหลายภาพที่ดูเผิน ๆ ก็อาจจะเป็นเพียงภาพชีวิตความเป็นอยู่ตามปกติ แต่อันที่จริงแล้วเป็นภาพที่แฝงเนื้อหาที่มาจากสุภาษิตดัตช์ หรือสำนวนที่สื่อความหมายทางจริยธรรม – ภาพบางภาพสื่อความหมายที่ตรงไปตรงมา แต่บางภาพก็กำกวม ซึ่งจำเป็นที่จะต้องได้รับการตีความหมายโดยนักประวัติศาสตร์ศิลป์ จิตกรหลายท่านและผู้ซื้องานศิลปะเองต่างก็มีความประสงค์ที่จะเอาประโยชน์ทั้งสองทางคือ ทั้งได้ชื่นชมกับภาพเขียนที่อาจจะเป็นฉากที่เป็นความรกรุงรังภายในบ้าน หรือ ฉากซ่องโสเภณี และในขณะเดียวกันก็ได้รับความหมายทางจริยธรรมไปในตัวด้วย – งานของยาน สตีนผู้มีอาชีพเป็นเจ้าของโรงเตี๊ยมก็เป็นตัวอย่างหนึ่งในบรรดาภาพเขียนดังกล่าว ความสมดุลระหว่างองค์ประกอบและความหมายของภาพเหล่านี้ก็ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันในหมู่นักประวัติศาสตร์ศิลป์ การตั้งชื่อภาพเขียนก็มักจะแยกระหว่างภาพใน “ทาเวิร์น” ใน “โรงเตี๊ยม” หรือใน (brothel) แต่ตามความเป็นจริงแล้วสถานที่เหล่านี้ก็มักจะเป็นสถานที่ประกอบธุรกิจเดียวกัน เพราะทาเวิร์นบางแห่งก็จะมีห้องชั้นบนหรือด้านหลังสำหรับการค้าประเวณีโดยเฉพาะ สมกับสุภาษิตดัตช์ที่ว่า “หน้าเป็นโรงเตี๊ยม หลังเป็นซ่อง” (Inn in front; brothel behind) งานเขียนของสตีนในตัวอย่างที่ดีของสถานที่ที่ว่า แต่แม้ว่าองค์ประกอบแต่ละอย่างจะตรงตามความเป็นจริง แต่ภาพทั้งภาพมิใช่ภาพของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามปกติ ซึ่งก็เช่นภาพเขียนชีวิตประจำวันอื่น ๆ ที่มักจะเป็นภาพเชิงเสียดสี
Illustrated book ธรรมเนียมการเขียน (Emblem book) ของยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาในคริสต์ศตวรรษที่ 17 เกือบทั้งหมดตกอยู่ในมือของผู้มีความรู้ภาษาดัตช์ – แต่ไม่มีการศึกษาทางด้านคลาสสิก – ที่หันไปใช้งานเขียนเชิงจริยธรรมที่เป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายของ (Jacob Cats), (Roemer Visscher) และอื่น ๆ ผู้มักจะเขียนจากที่เป็นที่รู้จักกันดีเป็นแบบฉบับ ภาพประกอบของหนังสือเหล่านี้มักจะเป็นคำพูดที่มาจากหนังสือโดยตรง ที่เขียนลงบนภาพ เมื่อต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 นักประวัติศาสตร์ศิลป์ก็ผูกสุภาษิต, สำนวน หรือคำขวัญกับภาพชีวิตประจำวัน อีกแนวโน้มหนึ่งของการเขียนภาพชีวิตประจำวันคือการใช้การเล่นคำ (pun) ทางเพศ เช่นเมื่อต้องการกล่าวถึงอวัยวะเพศของสตรีก็อาจจะใช้สัญลักษณ์ลูท (อังกฤษ: lute หรือ ดัตช์: luit) หรือถุงน่อง และถ้าเกี่ยวกับเรื่องเพศก็อาจจะใช้ นก (ดัตช์: vogelen) หรืออื่น ๆ ถ้าใช้สัญลักษณ์ทางตาแต่เพียงอย่างเดียวก็จะใช้ ภาพรองเท้า กรวย หรือเหยือกที่ตั้งข้าง ๆ ตัวแบบเป็นสัญลักษณ์ในการสื่อความหมาย
ช่างเขียนคนเดียวกันอาจจะเขียนภาพแม่บ้านในอารมณ์ต่าง ๆ หรือ สตรีกำลังพักผ่อนในบ้าน หรือ จากการทำงาน ซึ่งมีจำนวนมากกว่าหัวข้อเดียวกันของชาย อันที่จริงแล้วภาพชายทำงานหาดูได้ยากจากภาพเขียนยุคทองของดัตช์ ภาพภูมิทัศน์อาจจะเต็มไปด้วยนักเดินทาง และคนเกียจคร้าน แต่มักจะไม่มีผู้กำลังทำไร่ไถนาอยู่ในภาพ การเขียนภาพลักษณะนี้เป็นการคิดค้นขึ้นโดยจิตรกรดัตช์โดยตรง และต่อมามามีอิทธิพลต่อจิตรกรในประเทศอื่น ๆ โดยเฉพาะในฝรั่งเศสสองร้องปีต่อมา
การเขียนที่มาจากสัจนิยมและการเขียนกิจวัตรต่าง ๆ ของจิตรกรรมยุคเนเธอร์แลนด์ตอนต้นที่เฮียโรนิมัส บอส และปิเอเตอร์ บรูเกล (ผู้พ่อ) เป็นจิตรกรคนแรกที่นำมาเป็นหัวข้อหลักในการเขียนก็ใช้สุภาษิตในการเป็นพื้นฐานของเนื้อหาของภาพ จิตรกรฮาร์เล็ม (Willem Pieterszoon Buytewech), ฟรันส์ ฮาลส์ และ เอซาเอียส ฟาน เดอร์ เวลเดอ (Esaias van de Velde) เป็นจิตกรคนสำคัญในยุคแรกของยุคทองของเนเธอร์แลนด์ ไบเทเว็คเขียน “Merry Company” ที่เป็นภาพของกลุ่มบุรุษที่นั่งสนทนากันอยู่รอบโต๊ะ ที่แฝงคำสอนทางจริยธรรมในรายละเอียดของภาพ ฟาน เดอร์ เวลเดอก็เป็นจิตรกรภูมิทัศน์ผู้มีชื่ออีกคนหนึ่งแต่ก็เขียนภาพชีวิตประจำวันที่ลักษณะของผู้คนในภาพออกจะแตกต่างจากผู้คนในภาพเขียนของงานสังสรรค์ของกลุ่มผู้ดีตามคฤหาสน์ชนบท ฮาลส์ปกติแล้วก็มักจะเขียนภาพเหมือนแต่ก็มีงานภาพชีวิตประจำวันเมื่อเริ่มอาชีพเขียนภาพ การพำนักในฮาร์เล็มของจิตรกรเฟล็มมิชผู้เชี่ยวชาญในการเขียนฉากทาเวิร์น ในปี ค.ศ. 1625 หรือ ค.ศ. 1626 ทำให้อาเดรียน ฟาน โอสเตดได้หัวเรื่องที่นำมาเขียนตลอดอายุ แต่มักจะเขียนเชิงแฝงอารมณ์ (sentimental approach) ก่อนสมัยการเขียนของบรูเวอร์ ชาวนามักจะถูกวาดนอกบ้าน แต่บรูเวอร์จะวาดชาวนาในเสื้อผ้าที่ธรรมดาภายในบ้านที่ค่อนข้างมืด แต่ฟาน โอสเตดบางทีก็จะวาดบ้านชาวนาอันทรุดโทรมแต่มีขนาดใหญ่โต ฟาน โอสเตดเขียนทั้งภาพกลุ่มคนและคนคนเดียว เช่นเดียวกัยจิตรกรแบบคาราวัจโจอูเทร็คท์ การเขียนกลุ่มคนสองสามคนกลายมาเป็นที่นิยมกันมากขึ้น โดยเฉพาะที่มีสตรีและเด็ก
จิตรกรสตรีที่สำคัญของยุคนี้ก็ได้แก่จูดิธ เลย์สเตอร์ (Judith Leyster) ผู้มีความเชี่ยวชาญในการเขียนภาพประเภทนี้ก่อนหน้าสามี (Jan Miense Molenaer) ตระกูลการเขียนภาพของไลเดนที่เรียกว่า “” (fijnschilder) มีชื่อเสียงทางด้านการเขียนภาพขนาดเล็กที่เขียนอย่างบรรจงที่รวมทั้งภาพชีวิตประจำวัน ผู้นำในกลุ่มนี้ก็ได้แก่เกอร์ริต ดู, กาเบรียล เม็ทซู (Gabriel Metsu), (Frans van Mieris the Elder) และต่อมาลูกชาย (Willem van Mieris), (Godfried Schalcken) และ (Adriaen van der Werff)
จิตรกรรุ่นต่อมาที่มาเห็นกันว่าเป็นงานที่บรรจงจนเกินไปเมื่อเปรียบเทียบกับจิตรกรรุ่นก่อนหน้า ก็เขียนทั้งภาพเหมือนและจิตรกรรมประวัติศาสตร์ และเป็นจิตรกรที่ได้รับความชื่นชมและมีค่าตัวสูงในปลายยุคทอง และงานที่เขียนก็เป็นงานที่เสาะแสวงหากันไปทั่วยุโรป ภาพชีวิตประจำวันสะท้อนให้เห็นถึงความมั่งคั่งที่เพิ่มมากขึ้นของสังคมดัตช์ และฉากในภาพก็เพิ่มความสะดวกสบาย และความหรูหราขึ้นเป็นลำดับ ศิลปินที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มไลเดนที่เขียนบรรยากาศอันเป็นกันเองของภาพชีวิตประจำวันก็ได้แก่ (Nicolaes Maes), เจอราร์ด เทอร์บอร์ค และ ผู้นิยมเขียนภาพภายในบ้านที่โปร่งเช่นเดียวกับโยฮันส์ เวร์เมร์ ต่างก็เป็นช่างเขียนที่ไม่เป็นที่รู้จักมาเป็นเวลานาน ก่อนที่มาเป็นที่ยอมรับกันว่าเป็นจิตรกรเอกของการเขียนภาพชีวิตประจำวัน
จิตรกรรมภูมิทัศน์
ภูมิทัศน์บก
จิตรกรรมภูมิทัศน์เป็นลักษณะงานเขียนที่สำคัญในคริสต์ศตวรรษที่ 17 เริ่มด้วยภูมิทัศน์เฟล็มมิชโดยเฉพาะจากอันเวิร์พในคริสต์ศตวรรษที่ 16 ภาพเขียนเหล่านี้มีลักษณะไม่ค่อยเหมือนจริงหรือไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ เพราะส่วนใหญ่เขียนกันภายในห้องเขียนภาพและเขียนจากจินตนาการของจิตรกร มุมมองที่เขียนก็มักจะเป็นมุมมองจากอากาศเช่นที่เขียนกันมาก่อนหน้านั้นตามแบบฉบับของ (Joachim Patinir), (Herri met de Bles) และ ปิเอเตอร์ บรูเกล (ผู้พ่อ) ต่อมาแนวโน้มของการเขียนเปลี่ยนไป งานเขียนเริ่มใกล้เคียงความเป็นจริงขึ้น และช่างเขียนเริ่มออกไปร่างจากทิวทัศน์ที่ต้องการเขียนภายนอกห้องเขียนภาพ เส้นขอบฟ้าที่เคยสูงก็ลดระดับต่ำลงมา ซึ่งทำให้สามารถเน้นความเปลี่ยนแปลงของเมฆและบรรยากาศบนท้องฟ้าได้ดีขึ้น โดยเฉพาะแสงสีของท้องฟ้าที่เกิดขึ้นเฉพาะในบริเวณภูมิภาคเนเธอร์แลนด์
หัวเรื่องที่นิยมวาดกันก็รวมทั้งภาพสันทรายตามแนวฝั่งทะเลด้านตะวันตก, แม่น้ำและทุ่งกว้างที่ติดกันกับบริเวณที่มีวัวเล็มทุ่ง และมักจะเห็นตัวเมือง อยู่ลิบ ๆ ลาง ๆ, ภูมิทัศน์หน้าหนาวที่มีคลองหรือลำธารที่เป็นน้ำแข็งก็เป็นที่นิยมเขียนกัน อีกหัวข้อหนึ่งที่นิยมกันก็คือทิวทัศน์ทะเลที่เป็นหัวใจสำคัญของกลุ่มประเทศต่ำที่ต้องพึ่งพาทางการค้าขายทางทะเล ในการหาแผ่นดินใหม่เพื่ออยู่อาศัย และในการทำศึกสงครามกับข้าศึก
นอกจากทิวทัศน์แล้ว จิตรกรก็มีความสนใจในลักษณะสถาปัตยกรรมโดยเฉพาะสิ่งก่อสร้างทางศาสนาทั้งภายนอกและภายใน เมื่อความเข้าใจในการใช้ทัศนมิติเพิ่มมากขึ้น จิตรกรก็นำความรู้ที่ว่ามาประยุกต์ในการเขียนภาพสถาปัตยกรรม
บุคคลสำคัญในช่วงแรกของขบวนการเขียนแบบสัจนิยมก็ได้แก่เอซาเอียส ฟาน เดอร์ เวลเดอ (ค.ศ. 1587–ค.ศ. 1630) และ เฮ็นดริค อเวอร์แคมพ์ (ค.ศ. 1585–ค.ศ. 1634) ทั้งสองคนที่กล่าวต่างก็เป็นจิตรกรที่เขียนภาพชีวิตประจำวัน ในกรณีของอเวอร์แคมพ์ ภาพเขียนเดียวกันมีคุณค่าที่ควรจะกล่าวถึงในทั้งสองประเภท ตั้งแต่ปลายคริสต์ทศวรรษ 1620 วิธีการเขียนภูมิทัศน์ก็เปลี่ยนไปเป็นลักษณะที่เรียกว่า “ช่วงโทน” (tonal phase) ซึ่งเป็นภาพที่มีลักษณะอ่อนโยนและขอบคันที่เลือนลาง (blur the outlines) และเน้นความรู้สึกที่เกิดขึ้นจากบรรยากาศมากขึ้น คนประกอบในภาพบางครั้งก็จะหายไป หรือมีขนาดเล็ก และอยู่ไกลออกไปในภาพ ลักษณะการจัดวางองค์ประกอบก็จะนิยมทแยงขวางภาพ และมักจะมีน้ำอยู่ในภาพ จิตรกรคนสำคัญใน “ช่วงโทน” ก็ได้แก่ยาน ฟาน โกเยน (Jan van Goyen) (ค.ศ. 1596–ค.ศ. 1656), (Salomon van Ruysdael) (ค.ศ. 1602–ค.ศ. 1670), (Pieter de Molyn) (ค.ศ. 1595–ค.ศ. 1661), และทะเลทัศน์ของ (Simon de Vlieger) (ค.ศ. 1601–ค.ศ. 1653) และจิตรกรอื่น ๆ อีกเป็นจำนวนมาก จากการสำรวจศึกษาเมื่อไม่นานมานี้ก็มีจิตรกรถึง 75 ท่านที่เขียนตามแบบฟาน โกเยนอย่างน้อยก็ชั่วระยะหนึ่ง และตามแบบคุยพ์
ตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ 1650 ลักษณะการเขียนก็เปลี่ยนจากการเขียนเพื่อสร้างบรรยากาศไปเป็นการเขียนของ “ช่วงคลาสสิก” (classical phase) ที่ยังคงรักษาบรรยากาศอยู่บ้าง แต่การจัดวางองค์ประกอบของภาพเพิ่มการแสดงออกมากขึ้น และใช้ความตัดกันของแสงและสีที่รุนแรงขึ้น การจัดวางองค์ประกอบก็มักจะถ่วงด้วยองค์ประกอบหลักในภาพเช่น “ต้นไม้หลัก” (heroic tree) ต้นเดียวในภาพ, โรงสีหรือหอ หรือ เรือหรือสิ่งที่เกี่ยวกับการต่อเรือ จิตรกรคนสำคัญก็ได้แก่ (Jacob van Ruisdael) (ค.ศ. 1628–1682) ผู้สร้างงานเขียนจำนวนมาก และหลายแบบที่เป็นหัวเรื่องของลักษณะสามัญของเนเธอแลนด์ แทนที่จะเขียนภูมิทัศน์แบบนอร์ดิคที่มืดและมีภูเขาสนทมึน กับน้ำตกหรือลำธารน้ำที่ไหลเชี่ยว ลูกศิษย์ของรุยสเดลก็ได้แก่ (Meindert Hobbema) (ค.ศ. 1638–1709) ที่มีงานเขียน “ถนนมิดเดิลฮาร์นิส” (Avenue at Middelharnis) (ค.ศ. 1689) ที่มีลักษณะนอกแนวการเขียนทั่วไป ที่มักจะเป็นภาพโรงสีหรือถนนในป่า จิตรกรอีกสองคนที่มีลักษณะที่เป็นของตนเองที่งานเขียนมักจะมีขนาดใหญ่กว่า (อาจจะกว้างหนึ่งเมตรหรือกว่านั้น) ก็ได้แก่เอลเบิร์ต คุยพ์ (ค.ศ. 1620–1691) และ (Philips Koninck) (ค.ศ. 1619–1688) การเขียนของคุยพ์มีลักษณะเป็นภาพสีอาบทองแบบอิตาเลียน เวลาของภาพก็มักจะยามพลบค่ำ และใช้กลุ่มผู้คนในตอนหน้าของภาพ โดยมีด้านหลังของภาพเป็นแม่น้ำและภูมิทัศน์ โคนิงค์เขียนภูมิทัศน์แบบกว้าง (panoramic) เช่นจากเนิน หรือภูมิทัศน์ของนาที่ราบ โดยมีท้องฟ้าผืนใหญ่อยู่ตอนบน
จิตรกรรมภูมิทัศน์อีกแบบหนึ่งที่เขียนกันตลอดทั้ง “ช่วงโทน” และ “ช่วงคลาสสิก” คือการเขียนแบบอิตาลีแบบโรแมนติค ที่มักจะเป็นฉากภูเขาแทนที่จะเป็นภูมิทัศน์ของเนเธอรแลนด์ อาบด้วยแสงทองและบางครั้งก็จะมีสิ่งประกอบเล็ก (staffage) จากเมดิเตอเรเนียน และซากสิ่งก่อสร้าง (Jan Both) (เสียชีวิต ค.ศ. 1652) ผู้มีโอกาสเดินทางไปโรม และทำงานกับ (Claude Lorrain) เป็นผู้นำในการวิวัฒนการการเขียนประเภทย่อยนี้ จิตรกรทั้งสองมีอิทธิพลต่องานเขียนของจิตรกรหลายคนเช่นเอลเบิร์ต คุยพ์ จิตรกรอื่นที่เขียนในลักษณะนี้ก็ได้แก่ (Nicolaes Berchem), (ค.ศ. 1620–1683) และ (Adam Pijnacker) จิตรกรรมภูมิทัศน์อิตาลีเป็นที่นิยมกันในงานพิมพ์ และงานที่เขียนโดยนิโคลัส แบร์เค็มก็ได้รับการแกะพิมพ์มากกว่าจิตรกรอื่นใดในสมัยเดียวกัน
นอกจากนั้นก็ยังมีจิตรกรอื่นอีกหลายคนที่ไม่อาจจะจัดเข้ากับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งที่บรรยายมามาได้ จิตรกรคนสำคัญที่สุดก็คือแรมบรังด์ผู้เขียนจิตรกรรมภูมิทัศน์เพียงไม่กี่ภาพที่แสดงว่าได้รับอิทธิพลบางอย่างจาก (Hercules Seghers) (ราว ค.ศ. 1589 – ราว ค.ศ. 1638); งานเขียนภาพหุบเขาขนาดใหญ่เป็นงานที่วิวัฒนาการขึ้นมาด้วยตนเองตามแบบงานเขียนของคริสต์ศตวรรษที่ 16 (Aert van der Neer) (เสียชีวิต ค.ศ. 1677) เขียนภาพขนาดเล็กของแม่น้ำยามค่ำ หรือเมื่อแข็งตัว และมีหิมะ
จิตรกรรมภูมิทัศน์กับสัตว์ทางตอนหน้าของภาพก็เป็นประเภทย่อยอีกประเภทหนึ่ง ที่เขียนโดยจิตรกรเช่นเอลเบิร์ต คุยพ์, (ค.ศ. 1625–1654), (Adriaen van de Velde) (ค.ศ. 1636–1672) และ (Karel Dujardin) (1626–1678, สัตว์ในฟาร์ม) และฟิลิปส์ วูเวอร์มัน ผู้เขียนม้าและคนขี่ในฉากต่าง ๆ วัวเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งในเนเธอร์แลนด์ ฉะนั้นจึงไม่ค่อยเขียนกัน นอกไปจากม้าที่นิยมเขียนกันแล้ว สัตว์อื่นที่นิยมเขียนกันก็ได้แก่ แพะ เพื่อบ่งว่าเป็นอิตาลี งานเขียน “วัวหนุ่ม”[3] (The Young Bull) โดยพอตเตอร์เป็นงานเขียนขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงที่นโปเลียนนำกลับไปปารีส (แต่ต่อมาคืนมา) แต่จากการวิจัยภาพพบว่าตัววัวเป็นภาพที่วาดรวมจากจากการศึกษากายวิภาคส่วนต่าง ๆ ของวัวหกตัวที่ต่างอายุกันเป็นอันมาก
หัวข้ออื่นที่เป็นที่สนใจของจิตรกรดัตช์ก็ได้แก่สถาปัตยกรรมโดยเฉพาะวัด ในช่วงแรกของการเขียนจิตรกรก็มักจะเขียนภูมิทัศน์ของวังอันหรูหราหรือนครทัศน์ที่สร้างขึ้นโดยสถาปนิกแมนเนอริสต์ตอนเหนือ จิตรกรสำคัญในช่วงนี้ก็ได้แก่ (Dirck van Delen) จากนั้นการเขียนที่เป็นลักษณะสัจนิยมทั้งภายนอกและภายในของสิ่งก่อสร้างจริงก็เริ่มปรากฏขึ้น แต่ก็ไม่ค่อยตรงกับความจริงไปเสียทั้งหมด ระหว่างนั้นความเข้าใจถึงการเขียนแบบทัศนมิติก็เพิ่มมากขึ้นและเริ่มนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย จิตรกรหลายคนมีความเชี่ยวชาญในการเขียนภาพภายในวัด (Pieter Jansz Saenredam) ผู้ที่พ่อ (Jan Saenredam) แกะพิมพ์อันเร้าใจของเทพีแบบแมนเนอริสต์เขียนภาพที่ปราศจากมนุษย์ในภาพภายในวัดกอธิคที่ภาพบนผนังของวัดถูกล้างไปแล้ว (whitewashed) การเน้นแสงที่คงตัวและเส้นทรงเรขาคณิตของเซนเรอดัมโดยไม่สนใจกับรายละเอียดของพื้นผิว เห็นได้ชัดเมื่อเปรียบเทียบกับงานเขียนของ (Emanuel de Witte) ที่มักจะทิ้งผู้คนไว้ในภาพ, พื้นที่ไม่ราบเรียบของวัด, แสงที่ตัดกัน และความรกของเฟอร์นิเจอร์ที่ตั้งอยู่ในวัด ที่เซนเรอดัมมักจะไม่เขียน (Gerard Houckgeest) ตามด้วยเดอ วิทเทอและ (Hendrick van Vliet) เพิ่มมุมมองแนวทแยงซึ่งเพิ่มความเป็นนาฏกรรมให้แก่ภาพเพิ่มขึ้น (Gerrit Berckheyde) เชี่ยวชาญในการเขียนถนน, จัตุรัส และ สิ่งก่อสร้างสาธารณะ ในเมืองที่มีผู้คนเดินไปมาอยู่บ้าง ยาน ฟาน เดอร์ เฮย์เดน (Jan van der Heyden) ชอบที่จะเขียนฉากที่เงียบไกล้ชิดกว่าของถนนในอัมสเตอร์ดัม ภาพที่เขียนเขียนมาจากฉากจริง แต่เฮย์เดนก็ปรับการจัดวางองค์ประกอบบ้าง
ทะเลทัศน์
สาธารณรัฐดัตช์รุ่งเรืองมั่งคั่งขึ้นมาได้จากการค้าขายทางทะเล และมีศึกสงครามทางทะเลกับอังกฤษในช่วงเวลานี้ นอกจากนั้น ภูมิศาสตร์ของประเทศก็เต็มไปด้วยแม่น้ำและคลองที่ตัดกันไปมา ฉะนั้นจึงไม่เป็นที่น่าแปลกใจว่าการเขียน (Marine art) จะไม่เป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย และยกระดับการเขียนขึ้นโดยจิตรกรดัตช์ การวิวัฒนาการของการเขียนจิตรกรรมทะเลทัศน์ก็เช่นเดียวกับการวิวัฒนาการของจิตรกรรมภูมิทัศน์บกที่เริ่มจากมุมมองที่สูงกว่าธรรมชาติก่อนและค่อยลดต่ำลง หัวข้องที่เขียนก็รวมทั้งยุทธการทางทะเลบรรยายเรื่องราวของราชนาวีดัตช์ในยุคที่รุ่งเรืองที่สุด แต่ภาพทะเลทัศน์ที่นิยมกันในปัจจุบันจะเป็นภาพที่มีบรรยากาศที่สงบเงียบ
ส่วนใหญ่แล้วแม้แต่เรือเล็ก ๆ ที่ปรากฏในภาพก็จะชักธงของราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ และสามารถบอกได้ว่าเป็นเรือของราชนาวี หรือของหน่วยงานของรัฐบาลอื่น ๆ บางภาพก็อาจจะมีแผ่นดินที่เป็นหาดหรือท่าเรือด้วย หรือทิวทัศน์ข้ามปากแม่น้ำ จิตรกรที่มีความเชี่ยวชาญในการเขียนภาพขนาดเล็กก็ได้แก่ ที่จะมีเรือลำเล็ก และฝั่งแม่น้ำที่เป็นหญ้ารีด ไปจนถึงจิตรกรที่เขียนภาพขนาดใหญ่แบบอิตาลีเช่น เอลเบิร์ต คุยพ์ที่มักจะเขียนภาพพระอาทิตย์ตกบนฝั่งน้ำกว้าง ภาพเขียนประเภทนี้มีลักษณะบางอย่างที่คล้ายกับการเขียนจิตรกรรมภูมิทัศน์บก และจิตรกรภูมิทัศน์บกก็มักจะเขียนภาพแม่น้ำหรือหาดด้วย จิตรกรสำคัญของงานเขียนประเภทนี้ก็ได้แก่ (Jan Porcellis), (Simon de Vlieger), (Abraham Storck) (Willem van de Velde) และ เป็นจิตรกรชั้นครูของหลายสิบปีต่อมา และมักจะเขียนเรือในภาพเป็นจุดหลัก ที่การเขียนใน “ช่วงโทน” จะละเลยและหันไปสนใจกับบรรยากาศและภาวะอากาศ ทั้งพ่อและลูกย้ายไปลอนดอนในปี ค.ศ. 1672 ทิ้งให้จิตรกรดัตช์เชื้อสายเยอรมัน (Ludolf Bakhuizen) เป็นผู้นำของกลุ่มนี้แทนที่
ภูมิทัศน์ต่างประเทศ
จิตรกรดัตช์และเฟล็มมิชหลายคนทำงานในต่างประเทศหรือส่งงานออกนอกประเทศ การพิมพ์ก็เป็นกิจการส่งออกอีกแขนงหนึ่งที่เป็นที่นิยม ที่ทำให้แรมบรังด์มีชื่อเสียงไปทั่วยุโรป ของขวัญดัตช์ที่ถวายแก่สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษโดย (States-General of the Netherlands) ในปี ค.ศ. 1660 รวมภาพเขียนร่วมสมัยสี่ภาพ จิตรกรรมอังกฤษขณะนั้นต้องพึ่งจิตรกรดัตช์ เมื่อเซอร์ (Peter Lely) ตามด้วย (Godfrey Kneller) วิวัฒนาการการเขียนภาพเหมือนของอังกฤษจากลักษณะการเขียนภาพเหมือนของจิตรกรเฟล็มมิชแอนโทนี แวน ไดค์ที่สร้างไว้ก่อนหน้าสงครามกลางเมืองอังกฤษ จิตรกรทะเลทัศน์ฟาน เดอร์ เวลเดอพ่อลูก และ เป็นจิตรกรในหมู่จิตรกรผู้ย้ายออกจากฮอลแลนด์เมื่อฝรั่งเศสเข้ามารุกรานในปี ค.ศ. 1672 ที่เป็นผลให้ตลาดศิลปะทรุด ฟาน เดอร์ เวลเดอย้ายไปอังกฤษในช่วงที่มีการเริ่มเขียนภาพภูมิทัศน์อังกฤษโดยจิตรกรดัตช์ชั้นรองเช่นเฮ็นดริค ดังค์เคิร์ทส์ หรือกลุ่มที่ไปตั้งหลักแหล่งอยู่ที่ในอิตาลีที่เรียกตนเองว่า บัมโบชานติ (Bamboccianti) ผู้ไปก่อตั้งการเขียนภาพชีวิตประจำวันในอิตาลีขึ้น และ (Melchior d'Hondecoeter) ผู้มีความเชี่ยวชาญในการเขียนภาพสัตว์กินเนื้อและนกไม่ว่าจะเป็นหรือตายกลายเป็นจิตรกรผู้เป็นที่นิยมกันในสังคมของผู้มีคฤหาสน์ชนบท หรือ สังคมวงการการล่าสัตว์ในยุโรปตอนเหนือ ส่วน (Frans Post) จิตรกรภูมิทัศน์ และ (Albert Eckhout) จิตรกรภาพนิ่งก็หันไปเขียนภาพเขียนชาวพื้นเมือง และถูกส่งตัวไปยังบราซิลของเนเธอร์แลนด์อยู่ระยะหนึ่ง แต่อาณานิคมที่สำคัญกว่าหมู่เกาะอินเดียตะวันออกของดัตช์ไม่ได้รับการเขียนเท่าใดนัก
จิตรกรรมภาพนิ่ง
การเขียนภาพนิ่งเป็นโอกาสที่จิตรกรสามารถแสดงความสามารถในการเขียนพื้นผิว (textures and surface) อย่างละเอียดด้วยเอฟเฟ็คของแสงที่เป็นจริง ภาพนิ่งที่เป็นภาพอาหารก็มักจะมีการตั้งอาหารต่างชนิดเต็มเพียบบนโต๊ะ พร้อมด้วยเครื่องเงินที่ใช้ในการกิน ผ้าปูโต๊ะที่รอบพับอันจงใจ และดอกไม้ตกแต่ง ซึ่งเป็นการท้าทายจิตรในการเขียนรายละเอียดต่าง ๆ ที่ปรากฏ
การเขียนภาพนิ่งก็แบ่งออกเป็นหลายลักษณะที่รวมทั้ง การเขียนภาพดอกไม้ (banketje) การเขียนภาพอาหารเช้า แต่ภาพเขียนทุกภาพก็มิใช้เป็นแต่เพียงภาพสิ่งของแต่ยังแฝงความหมายทางจริยธรรมที่มักจะเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของชีวิตหรือชีวิตอันสั้น – ที่เรียกว่า “vanitas theme” – ที่สื่อโดยการใช้สัญลักษณ์ที่เด่นชัดเช่นหัวกะโหลก หรือสัญลักษณ์ที่ซ่อนเงื่อนเช่นมะนาวที่ปอกไว้ครึ่งลูกที่เปรียบเหมือนชีวิตที่ดูภายนอกก็หวานแต่ลึกลงไปก็เต็มไปด้วยความขมขื่น หรือดอกไม้ที่เหี่ยวเฉา หรืออาหารที่เริ่มเน่าเสีย และเครื่องเงินที่ไม่มีประโยชน์ แต่จะอย่างไรก็ตามความหมายที่สื่อก็ยังด้อยกว่าภาพที่เขียนอย่างหรูหราในครึ่งหลังของคริสต์ศตวรรษ
ในช่วงแรกสิ่งของที่วาดก็มักจะเป็นสิ่งของที่เป็นธรรมดา แต่เมื่อมาถึงกลางคริสต์ศตวรรษก็เริ่มมีการใช้สิ่งที่หรูหราขึ้นที่เรียกว่า “ภาพนิ่งวิจิตร” (pronkstilleven) แสดงรสนิยมของสิ่งแปลกใหม่และราคาสูงที่เป็นที่นิยมกันมากขึ้น ลักษณะการเขียนแบบสัจนิยม การใช้โทนสี และการวาดแบบคลาสสิกของจิตรกรรมภูมิทัศน์ก็มาสะท้อนให้เห็นในการเขียนภาพนิ่งวิลเล็ม เคลสซูน เฮดา (ค.ศ. 1595–ราว 1680) และ (Willem Kalf, ค.ศ. 1619–1693) เป็นจิตรกรผู้นำในขบวนการเขียน “ภาพนิ่งวิจิตร” ขณะที่ (Pieter Claesz) (เสียชีวิต ค.ศ. 1660) นิยมที่จะเขียน “ontbijt” (ภาพนิ่งของอาหารเช้า) หรืองานที่เกี่ยวกับความไม่เที่ยงของชีวิตหรือ “vanitas” ในบรรดาภาพเขียนเหล่านี้สีที่ใช้มักจะเป็นสีที่ทึม (muted) โดยมีสีน้ำตาลเป็นสีหลักโดยเฉพาะในช่วงกลางของคริสต์ศตวรรษ นอกจากในงานเขียนของ (Jan Davidszoon de Heem, ค.ศ. 1606–1684) ผู้เป็นจิตรกรคนสำคัญผู้ทำงานส่วนใหญ่อยู่ที่พรมแดนในอันท์เวิร์พ งานเขียนของเดอ ฮีมเริ่มขยายไปตามแนวนอน ที่ทำให้เป็นรูปยาวซึ่งเป็นลักษณะการเขียนที่แปลกสำหรับทางตอนเหนือ แต่เฮดาก็จะเขียนงานเขียนตามแนวตั้งหลายภาพ งานเขียนภาพนิ่งดูเหมือนว่าจะนิยมกันในจิตรกรที่เป็นตระกูล เช่นในงานเขียนของเดอ ฮีม และ (Ambrosius Bosschaert, ค.ศ. 1573–1621), บุตรของเฮดาก็เขียนลักษณะเดียวกับพ่อ และเคลสซ์ผู้เป็นพ่อของนิโคลัส แบร์เช็ม (Nicholaes Berchem)
การเขียนภาพดอกไม้ก็เป็นกลุ่มย่อยของการเขียนภาพนิ่งที่มีเอกลักษณ์และลักษณะวิธีการเขียนที่แตกต่างจากลักษณะอื่น และบางครั้งก็จะเป็นลักษณะที่นิยมกันในหมู่จิตรกรสตรีเช่น และ ; นอกจากนั้นจิตรกรดัตช์ก็ยังเป็นผู้นำในการเขียนภาพชีววิทยาและภาพเขียนทางวิทยาศาสตร์, การพิมพ์ และการเขียนภาพประกอบ แต่แม้ว่าดอกไม้แต่ละดอกในภาพจะมีลักษณะที่เหมือนจริงอย่างเด่นชัด แต่การเขียนก็เป็นการศึกษาองค์ประกอบชิ้นต่าง ๆ ในภาพแยกจากกัน ซึ่งจะเห็นได้จากการเขียนภาพแจกันหรือช่อดอกไม้หลายชนิดที่บานต่างฤดูในภาพเดียวกัน หรือดอกไม้ดอกเดียวกันอาจจะปรากฏในภาพหลายภาพก็ได้ สิ่งที่ต่างจากความเป็นจริงอีกอย่างหนึ่งคือช่อดอกไม้ในแจกันจะไม่ใช่ดอกไม้ที่พบโดยทั่วไปในเนเธอร์แลนด์ในยุคนั้น–แม้แต่การแสดงดอกไม้แต่ละดอกในแจกันทิวลิปของเดล์ฟ
การเขียนแบบดัตช์เริ่มขึ้นโดยอัมโบรเซียส บอสส์เชิร์ทจิตรกรภาพดอกไม้ที่เกิดในเฟล็มมิช แต่ย้ายมาตั้งถิ่นฐานอยู่ทางเหนือ และมาก่อตั้งตระกูลเขียนภาพขึ้น พี่เขย (Balthasar van der Ast, เสียชีวิต ค.ศ. 1657) เป็นผู้เริ่มเขียนภาพนิ่งของหอย และเขียนดอกไม้ด้วย ภาพเขียนในช่วงแรกนี้ใช้แสงที่ส่องสว่าง โดยการจัดดอกไม้อย่างง่าย ๆ ตั้งแต่กลางคริสต์ศตวรรษการจัดดอกไม้ก็มาจัดแบบที่เรียกว่าบาโรก ที่มักจะใช้ฉากหลังเป็นสีมืดก็เป็นที่นิยมกันมากขึ้น ที่จะเห็นได้จากงานชิ้นเด่น ๆ ของ (Willem van Aelst, ค.ศ. 1627–1683) บริเวณที่มีชื่อเสียงในงานจิตรกรรมประเภทนี้ก็ได้แก่งานของจิตรกรจากไลเดน, เฮก และ อัมสเตอร์ดัม
การเขียนภาพสัตว์ที่ใช้กินเนื้อ (game) ที่ตายไปแล้ว และนกเป็นการเขียนจากการศึกษาสัตว์ที่มียังชีวิตอยู่ หรือการเขียนภาพปลาก็เป็นภาพนิ่งกลุ่มย่อยอีกกลุ่มหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์ เช่นในงานเขียนหลายชิ้นของ (Abraham van Beyeren, ค.ศ. 1667) แต่งานเขียนของจิตรกรดัตช์จะไม่นิยมการรวมภาพนิ่งขนาดใหญ่กับภาพเขียนประเภทอื่น เช่นที่ทำกันโดยจิตรกรเฟล็มมิช การเขียนภาพของจิตรกรเฟล็มมิชมักจะเป็นร่วมมือกันระหว่างจิตรกรผู้มีความชำนาญเฉพาะทางหลายคน ในการร่วมกันสร้างภาพเขียนขนาดใหญ่ที่ผสานองค์ประกอบจากจิตรกรเหล่านั้นในงานชิ้นเดียวกัน แต่ก็มีบ้างที่จิตรกรดัตช์ทำเช่นงานเขียนของฟิลิปส์ วูเวอร์มันที่มักจะเพิ่มคนและม้าเข้าไปในภาพภูมิทัศน์ทำให้เป็นภาพการล่าสัตว์ หรือการปะทะกันเป็นต้น หรือ แบร์เช็ม และ อาเดรียน ฟาน เดอ เวลเดอ ที่เพิ่มคน หรือสัตว์เลี้ยง
อิทธิพลต่อมา
ความสำเร็จของจิตรกรรมดัตช์ในคริสต์ศตวรรษที่ 17 ที่เหนือกว่านักเขียนรุ่นก่อน ๆ อย่างเห็นได้ชัด และหลังจากนั้นในคริสต์ศตวรรษที่ 18 และ 19 ก็ไม่มีจิตรกรดัตช์มีชื่อเสียงนอกเนเธอรแลนด์ และเมื่อมาถึงปลายสมัยจิตรกรก็เริ่มบ่นกันว่าผู้ซื้อมีความสนใจงานเขียนของจิตรที่เสียชีวิตไปแล้วมากกว่างานเขียนของผู้ยังมีชีวิตอยู่
จิตรกรยุคทองของเนเธอร์แลนด์เป็นส่วนสำคัญของผู้ที่ถือกันว่าเป็นจิตรกรรมชั้นครู ซึ่งเป็นคำที่คิดขึ้นโดยศิลปินดัตช์ในคริสต์ศตวรรษที่ 18 เอง ตัวอย่างเช่นงานเขียนของฟิลิปส์ วูเวอร์มันซึ่งมีด้วยกันกว่า 60 ชิ้นที่หอจิตรกรรมชั้นครูแห่งเดรสเดน และอีกกว่า 50 ชิ้นที่พิพิธภัณฑ์เฮอร์มิทาจในรัสเซีย แต่ชื่อเสียงของงานในช่วงนี้อยู่ลักษณะการเขียนที่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ เช่นความเปลี่ยนแปลงของงานเขียน แรมบรังด์ โดยเฉพาะตั้งแต่สมัยโรแมนติค จิตรกรอื่นก็แสดงให้เห็นจากฐานะที่ดีขึ้นมาและราคาของภาพเขียนที่เรียกร้องจากตลาดได้ ในปลายสมัยนักเขียนบางคนที่เขียนภาพในไลเดนก็ประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไป ตั้งแต่กลางคริสต์ศตวรรษที่ 19 เป็นต้นมางานสัจนิยมของจิตรกรรมประเภทต่าง ๆ ก็มาได้รับความสนใจเป็นอันมากโยฮันส์ เวร์เมร์ผู้ที่เป็นจิตรกรที่แทบจะไม่เป็นที่รู้จักกลายมามีชื่อเสียงก็คริสต์ศตวรรษที่ 19 ซึ่งเมื่อมาถึงช่วงนั้นงานหลายชิ้นของเวเมร์ก็ได้รับการระบุว่าเขียนโดยจิตรกรผู้อื่นไปแล้ว แต่การที่งานเขียนของเวเมร์เป็นส่วนหนึ่งของงานสะสมสำคัญ ๆ ที่เชื่อกันว่าเขียนโดยจิตรกรผู้อื่น แสดงให้เห็นถึงคุณภาพของการเขียนภาพแต่ละภาพที่ดีพอที่ทำให้เป็นที่รู้จักกันกันโดยทั่วไป แม้ว่างานทั้งกลุ่มจะยังไม่สามารถระบุได้แน่นอนว่าเป็นงานที่เขียนโดยเวเมร์จนกระทั่งในเวลาต่อมาก็ตาม แม้ในช่วงเวลาต่อมาก็ยังมีจิตรกรอื่นก็ได้รับการดึงขึ้นมาจากการเป็นจิตรกรที่ไม่มีชื่อเสียงเท่าใดนัก มาเป็นจิตรกรที่รู้จักกันเช่นงานเขียนภาพนิ่งอย่างง่าย ๆ โดย (Adriaen Coorte) ในคริสต์ทศวรรษ 1950 และจิตรกรภูมิทัศน์ (Jacobus Mancaden) และ เมื่อต้นคริสต์ศตวรรษนี้เอง เป็นต้น
ภาพชีวิตประจำวันของดัตช์มีชื่อเสียงมาเป็นเวลานาน แต่ในช่วงแรกก็มิได้รับการยกย่องกันเท่าใดนัก โจชัว เรย์โนลด์สจิตรกรผู้มีชื่อเสียงของอังกฤษของคริสต์ศตวรรษที่ 18 ทางการเขียนแบบศิลปะสถาบันออกความเห็นเกี่ยวกับศิลปะดัตช์ไว้หลายข้อ เรย์โนลด์สประทับใจในภาพ “” ที่เขียนโดยเวร์เมร์ และความมีชีวิตชีวาของภาพเหมือนโดยฮาลส์ แต่ก็ออกความเห็นว่าเสียดายที่ฮาลส์ขาด “ความอดทน” พอที่จะเขียนภาพให้เสร็จอย่างถูกต้อง และรำพึงว่าเสียดายที่ยาน สตีนไม่ได้เกิดในอิตาลีและได้รับอิทธิพลของงานเขียนของยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา ไม่เช่นนั้นความสามารถก็อาจจะนำไปใช้ในทางที่ดีขึ้นกว่าที่เห็นอยู่ แต่ในสมัยของเรย์โนลด์สความหมายซ่อนเงื่อนทางจริยธรรมของการเขียนภาพชีวิตประจำวันของดัตช์ก็เริ่มยากที่จะเข้าใจกันแล้ว หรือแม้แต่ในเนเธอร์แลนด์เอง ตัวอย่างที่สำคัญก็ได้แก่ภาพเขียนชื่อ “การเจรจา” (The Gallant Conversation) ที่เขียนโดย เจอราร์ด เทอร์บอร์ค ที่เขียนราว ค.ศ. 1654 ภาพนี้ได้รับการสรรเสริญโดยเกอเธอว่าเป็นงานที่ละเอียดอ่อนในการแสดงภาพของพ่อที่กำลังดุสั่งสอนลูกสาว แต่นักวิชาการสมัยใหม่บางคนมีความเห็นว่าเป็นภาพการเลือกสตรีที่เกิดขึ้นภายในสถานที่สำหรับทำการค้าประเวณี ภาพนี้มีด้วยกันสองภาพ (เบอร์ลิน และ อัมสเตอร์ดัม) และไม่ทราบกันอย่างเป็นที่แน่นอนว่า “เหรียญบ่งความคิด” ในมือของชายที่นั่งอยู่ถูกลบออกไปหรือเขียนทับในภาพทั้งสองภาพ
ในครึ่งหลังของคริสต์ศตวรรษที่ 18 ภาพสัจนิยมแบบพื้นฐาน (down to earth) แทนที่จะเป็นภาพชนชั้นสูงก็เป็นที่นิยมของพรรควิกในอังกฤษ และในฝรั่งเศสก็มีความสัมพันธ์กับของยุคเรืองปัญญาที่เป็นแรงบันดาลใจให้การปฏิรูปของสังคม ในคริสต์ศตวรรษที่ 19 เมื่อสัจนิยมเป็นที่ยอมรับและนับถือกันโดยทั่วไป และทฤษฎีการจัดลำดับคุณค่าของศิลปะหมดความนิยมลง จิตรกรร่วมสมัยก็เริ่มยืมความคิดจากจิตรกรภาพชีวิตประจำวันทั้งมุมมองของสัจนิยมและการใช้สิ่งต่างในภาพในการสื่อเนื้อหาของภาพ และเขียนภาพที่มีหัวข้อที่คล้ายคลึงกันแต่มีขนาดที่ใหญ่กว่าของจิตรกรดัตช์มาก
ในด้านการเขียนภาพภูมิทัศน์ จิตรกรดัตช์ที่เขียนงานแบบอิตาลี (Italianate artist) เป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลมากที่สุดและเป็นที่นับถือกันมากที่สุดในคริสต์ศตวรรษที่ 18 แต่จิตรกรโรแมนติคชาวอังกฤษเช่นจอห์น คอนสตาเบิลประณามว่าเป็นงานที่ "แปลกปลอม" (artificiality) และหันไปนิยมจิตรกรที่เขียนแบบ tonal และ คลาสสิกแทนที่ แต่โดยทั่วไปแล้วทั้งจิตรกรรมชีวิตประจำวันและภูมิทัศน์มีอิทธิพลและเป็นที่นิยมต่อมจนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 19
จิตรกร
จิตรกรคนสำคัญ
แรมบรังด์เป็นจิตรกรผู้มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมมากภายในปี ค.ศ. 1631 และเป็นผู้ที่ได้รับงานภาพเหมือนสำคัญ ๆ หลายชิ้นจากอัมสเตอร์ดัม แต่มาในราวปี ค.ศ. 1640 งานเขียนของแรมบรังด์ก็เริ่มกลายเป็นงานที่สงบลงซึ่งอาจจะเป็นผลสะท้อนมาจากความทุกข์จากเหตุการณ์ในชีวิตส่วนตัว ความมีชีวิตชีวามาแทนด้วยอารมณ์ที่แท้จริง งานเขียนเกี่ยวกับศาสนาในยุคนี้มักจะเป็นภาพที่มาจากพันธสัญญาเดิม ภาพเขียนที่มีชื่อที่สุดในยุคนี้ก็ได้แก่ภาพ “” ที่เขียนเสร็จในปี ค.ศ. 1642 ในจุดสูงสุดของยุคทอง ที่เป็นภาพที่ได้รับจ้างให้เขียนเพื่อแขวนในห้องรับรองของหอประชุมที่สร้างใหม่ (Musketeers' Meeting Hall) ในอัมสเตอร์ดัม
จิตรกรคนสำคัญอีกคนหนึ่งในยุคนี้คือโยฮันส์ เวร์เมร์ ที่มีความเด่นในการใช้สีที่ใส (transparent colors) และการวางองค์ประกอบของภาพ และการใช้แสงที่ดีเลิศ เวร์เมร์มักจะเขียนภาพภายในบ้านเรือน แม้แต่ภาพภูมิทัศน์ที่เขียนสองภาพก็มีกรอบเป็นหน้าต่าง ฉากภายในบ้านเรือนที่วาดมักจะเป็นภาพชีวิตประจำวันหรือภาพเหมือน งานชิ้นที่เป็นที่รู้จักกันแพร่หลายคือภาพ “สาวใส่ต่างหูมุก” ที่เขียนราวปี ค.ศ. 1665
(Utrecht School) เป็นกลุ่มนักเขียนที่เขียนภาพที่เมืองอูเทร็คท์ในเนเธอร์แลนด์ปัจจุบัน ในคริสต์ศตวรรษที่ 17 งานเขียนของนักเขียนกลุ่มนี้เป็นงานเขียนแบบบาโรกที่ได้รับอิทธิพลจากคาราวัจโจ
จิตรกรอื่น ๆ
จิตรกรคนสำคัญ ๆ ของยุคนี้ก็ได้แก่:
- เดิร์ค ฟาน บาบูเร็น (Dirck van Baburen) - จิตรกรรมประวัติศาสตร์
- เฟอร์ดินานด์ โบล (Ferdinand Bol) - ประวัติศาสตร์และคริสต์ศาสนา
- อับราฮัม โบลเมิร์ท (Abraham Bloemaert) - จิตรกรรมประวัติศาสตร์
- อาเดรียน เบราเวอร์ (Adriaen Brouwer) - ชีวิตประจำวัน
- เอลเบิร์ต คุยพ์ (Albert Cuyp) - ภูมิทัศน์เนเธอร์แลนด์และอิตาลี
- เกอร์ริต ดู (Gerrit Dou) - ชีวิตประจำวัน
- (Willem Drost) - ประวัติศาสตร์และคริสต์ศาสนา
- (Carel Fabritius) - ประวัติศาสตร์และคริสต์ศาสนา และชีวิตประจำวัน
- โคเฟิร์ต ฟลิงก์ (Govert Flinck) - ประวัติศาสตร์และคริสต์ศาสนา และภาพเหมือน
- ยาน ฟาน โกเยน (Jan van Goyen) - ภูมิทัศน์
- ฟรันส์ ฮาลส์ (Frans Hals) - ภาพเหมือนกลุ่ม, ภาพเหมือนเดี่ยว
- เปียเตอร์ เดอ ฮูค (Pieter de Hooch) - ชีวิตประจำวัน
- เปียเตอร์ ลาสต์มัน (Pieter Lastman) - ประวัติศาสตร์และคริสต์ศาสนา
- จูดิธ เลย์สเตอร์ (Judith Leyster) - ชีวิตประจำวัน
- ยาน ลีเวนส์ (Jan Lievens) - ประวัติศาสตร์และคริสต์ศาสนา และภาพเหมือน
- (Jacob van Loo) - จิตรกรรมประวัติศาสตร์
- (Nicolaes Maes) - ภาพเหมือนและชีวิตประจำวัน
- (Maria van Oosterwyck) - ภาพนิ่ง
- อาเดรียน ฟาน โอสเตด (Adriaen van Ostade) - ชีวิตประจำวันและชีวิตชาวบ้าน
- (Paulus Potter) - ภูมิทัศน์
- แรมบรังด์ (Rembrandt Harmenszoon van Rijn) - ประวัติศาสตร์และคริสต์ศาสนา และภาพเหมือน
- (Rachel Ruysch) - - ภาพนิ่ง
- (Pieter Saenredam) - ภายในวัดและภูมิทัศน์เมือง
- ยาน สตีน (Jan Steen) - ชีวิตประจำวัน
- โยฮันส์ เวร์เมร์ (Johannes Vermeer) - ชีวิตประจำวัน
- (Joachem Wtewael) - จิตรกรรมประวัติศาสตร์
- เฮ็นดริค เทอร์บรุกเก็น (Hendrick ter Brugghen) - จิตรกรรมประวัติศาสตร์
ระเบียงภาพ
จิตรกรรมประวัติศาสตร์
- “การลักตัวยูโรปา”
แรมบรังด์ -
- “Roman Charity, Cimon and Peres”
เดิร์ค ฟาน บาบูเร็น -
-
จิตรกรรมภาพเหมือน
-
- “ภาพเหมือนตนเอง”
-
-
-
จิตรกรรมภาพชีวิตประจำวัน
-
-
-
-
- “เด็กชายและเด็กหญิง
กับแมวและปลาไหล”
จูดิธ เลย์สเตอร์
มีการเสนอสุภาษิตหรือสัญลักษณ์ของภาพนี้กันไปต่าง ๆ -
- “สาวใช้ขี้เกียจ”
สาวใช้ที่มีปัญหาเป็น
หัวข้อที่แมส์เขียนหลายภาพ - “Le dépècement du porc”
ราวปี ค.ศ. 1645 -
-
จิตรกรรมภูมิทัศน์
- “ภูมิทัศน์จากฮาร์เล็ม”
(Jacob van Ruisdael)
รุยสเดลเป็นจิตรกรหลักของกลุ่มนี้ ผู้มีผลงานในหลายหัวข้อกว่าจิตรกรอื่น -
- “ตลาดโกรทและ
วัดเซนต์บาโว”
(ค.ศ. 1657) -
-
-
-
- “วัวหนุ่ม”
ค.ศ. 1647 -
- “ภายในวัดใหม่”
ภายเขียนภายในสิ่งก่อสร้าง
ค.ศ. 1662
จิตรกรรมภาพนิ่ง
- “ภาพนิ่งกับนาฬิกา”
ที่มีฉากหลังมืด
(ราว ค.ศ. 1665) - “อาหารเช้ากับพาย
แบล็คเบอรรี”
(ค.ศ. 1631)
วิลเล็ม เคลสซูน เฮดา
ผู้มีชื่อเสียงในการเขียนภาพที่มีผิวสะท้อน - “ความไม่เที่ยง”
(ค.ศ. 1629) - “ภาพนิ่งกับนกยูงตาย”
(ค.ศ. 1692)
โดย
(Jan Weenix)
ฉากในสวนในคฤหาสน์ในชนบท - “ภาพนิ่งของดอกไม้
บนโต๊ะหินอ่อน”
ค.ศ. 1716
(Rachel Ruysch)
อ้างอิง
- Lloyd, 15, citing Jonathan Israel. Perhaps only 1% survive today, and "only about 10% of these were of real quality".
- Jan Steen was an innkeeper, Aelbert Cuyp was one of many whose wealthy wives pursuaded them to give up painting, although Karel Dujardin seems to have run away from his to continue his work. See their biographies in MacLaren. The fish artist Jacob Gillig also worked as a warder in the Utrecht prison, conveniently close to the fish market.[1] 2016-03-09 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. Bankrupts included: Rembrandt, Frans Hals, Jan de Bray, and many others.
- Franits, 217 and ff. on 1672 and its effects.
- Fuchs, 43
- Prak, 241
- Lloyd, 97
- Fuchs, 43
- Franits' book is largely organized by city and by period; Slive by subject categories
- Fuchs, 76
- See Slive, 296-7 and elsewhere
- Fuchs, 107
- Fuchs, 62, R.H. Wilenski, Dutch Painting, "Prologue" pp. 27-43, 1945, Faber, London
- Fuchs, 62-3
- Fuchs, 43
- Slive, 13-14
- Fuchs, 62-69
- Franits, 65. Catholic 17th century Dutch artists included Abraham Bloemaert and Gerard van Honthorst from Utrecht, and Jan Steen, Paulus Bor, Jacob van Velsen, plus Vermeer who probably converted at his marriage.[2] Jacob Jordaens was among Flemish Protestant artists.
- Slive, 22-4
- Fuchs, 69-77
- Fuchs, 77-78
- Trip family tree 2021-01-09 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. Her grandparents' various portraits by Rembrandt are famous.
- Ekkart, 17 n.1 (on p. 228).
- Shawe-Taylor, 22-23, 32-33 on portraits, quotation from 33
- Ekkart, 118
- Ekkart, 130 and 114.
- Ekkart (Marike de Winkel essay), 68-69
- Ekkart (Marike de Winkel essay), 66-68
- Ekkart (Marike de Winkel essay), 69-71
- Another version at Apsley House, with a different composition, but using most of the same moralizing objects, is analysed by Franits, 206-9
- Fuchs, 42 and Slive, 123
- Slive, 123
- Franits, 1, mentioning costume in works by the Utrecht Caravagggisti, and architectural settings, as especially prone to abandon accurate depiction.
- Franits, 4-6 summarizes the debate, for which Svetlana Alpers' The Art of Describing (1983) is an important work (though see Slive's terse comment on p. 344). See also Franits, 20-21 on paintings being understood differently by contemporary individuals, and his p.24
- On Diderot's Art Criticism. Mira Friedman.p. 36 2011-07-21 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Fuchs, 39-42, analyses two comparable scenes by Steen and Dou, and p. 46.
- Franits, 180-182, though he strangely seems to discount the possibility that the couple are married. Married or not, the hunter clearly hopes for a return from his gift of (punning) birds, though the open shoe and gun on the floor, pointing in different directions, suggest he may be disappointed. Metsu used opposed dogs several times, and may have invented the motif, which was copied by Victorian artists. A statue of Cupid presides over the scene.
- Fuchs, pp 54, 44, 45.
- Slive, 191
- Explored at length by Schama in his Chapter 6. See also the analysis of "The Milkmaid (Vermeer)", claimed by different art historians for each tradition.
- Franits, 24-27
- Franits, 34-43. Presumably these are intended to imply houses abandoned by Catholic gentry who had fled south in the Eighty Years War. His self-portrait shows him, equally implausibly, working in just such a setting.
- Fuchs, 80
- Slive, 189 – the study is by H.-U. Beck (1991)
- Slive, 190 (quote), 195-202
- Derived from works by Allart van Everdingen who, unlike Ruysdael, had visited Norway, in 1644. Slive, 203
- Slive, 225
- Rembrandt owned seven Seghers; after a recent fire only 11 are now thought to survive – how many of Rembrandt's remain is unclear.
- Slive, 268-273
- Slive, 273-6
- Slive, 213-216
- MacLaren, 79
- Slive, 279-281. Fuchs, 109
- Fuchs, 113-6
- and only a few others, see Slive, 128, 320-321 and index, and Schama, 414. The outstanding woman artist of the age was Judith Leyster.
- Fuchs, 111-112. Slive, 279-281, also covering unseasonal and recurring blooms.
- Slive, 287-291
- Slive, 212
- See Reitlinger, 11-15, 23-4, and passim, and listings for individual artists
- See Reitlinger, 483-4, and passim
- Slive, 319
- Slive, 191-2
- Slive, 144 (Vermeer), 41-2 (Hals), 173 (Steen)
- Slive, 158-160 (coin quote), and Fuchs, 147-8, who uses the title Brothel Scene. Franits, 146-7, citing Alison Kettering, says there is "deliberate vagueness" as to the subject, and still uses the title Paternal Admonition.
- Reitlinger, I, 11-15. Quote p.13
- Slive, 225
- Franits, 164-6.
- MacLaren, 227
- Franits, 152-6. Schama, 455-460 discusses the general preoccupation with maidservants, "the most dangerous women of all" (p. 455). See also Franits, 118-119 and 166 on servants.
บรรณานุกรม
- "Ekkart": Rudi Ekkart and Quentin Buvelot (eds), Dutch Portraits, The Age of Rembrandt and Frans Hals, Mauritshuis/National Gallery/Waanders Publishers, Zwolle, 2007,
- Franits, Wayne, Dutch Seventeenth-Century Genre Painting, Yale UP, 2004,
- Fuchs, RH, Dutch painting, Thames and Hudson, London, 1978,
- Ingamells, John, The Wallace Collection, Catalogue of Pictures, Vol IV, Dutch and Flemish, Wallace Collection, 1992,
- Lloyd, Christopher, Enchanting the Eye, Dutch Paintings of the Golden Age, Royal Collection Publications, 2004,
- MacLaren, Neil, The Dutch School, 1600–1800, Volume I, 1991, National Gallery Catalogues, National Gallery, London,
- Prak, Maarten, "Guilds and the Development of the Art Market during the Dutch Golden Age." In: Simiolus: Netherlands Quarterly for the History of Art, vol. 30, no. 3/4. (2003), pp. 236-251.
- Reitlinger, Gerald; The Economics of Taste, Vol I: The Rise and Fall of Picture Prices 1760-1960, Barrie and Rockliffe, London, 1961
- Schama, Simon, The Embarrassment of Riches: An Interpretation of Dutch Culture in the Golden Age, 1987
- Shawe-Taylor, Desmond and Scott, Jennifer, Bruegel to Rubens, Masters of Flemish Painting, Royal Collection Publications, London, 2008,
- Slive, Seymour, Dutch Painting, 1600–1800, Yale UP, 1995,
ดูเพิ่ม
แหล่งข้อมูลอื่น
- Svetlana Alpers. The Art of Describing: Dutch Art in the Seventeenth Century, Chicago: University of Chicago Press, 1983
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
citrkrrmyukhthxngkhxngenethxraelnd ecasawchawyiw kh s 1665 1669 ody aermbrngdprawtisastrkhxngcitrkrrm khxngenethxraelndaelaflanedxsenethxraelnderimaerk kh s 1400 1500 erxaensxngsaebbdtchaelaeflmich kh s 1500 84 yukhthxngkhxngenethxraelnd kh s 1584 1702 baorkaebbeflmich kh s 1585 1700 raychuxcitrkrchawdtchraychuxcitrkrchaweflmich citrkrrmyukhthxngkhxngenethxraelnd xngkvs Dutch Golden Age painting khuxchwngrayahnungkhxngprawtisastrcitrkrrmkhxngenethxraelndthiekidkhuntngaetraw kh s 1584 macnthung kh s 1702 emuxkarkhakhay withyasastr aelasilpakhxngenethxraelndepnthiecriythungcudsungsudaelaeluxngluxipthwolk citrkrkhxngsmynisrangaebbchbbkarekhiynngancitrkrrm aela thingxiththiphlnganthiepnxnusrntxnkekhiynphaphruntxmaepnxnmakpraephthkhxngnganekhiynphaphehmuxnaetswnbnkhxngrangkaykhxngfrns halsthitxmaeriykw sawyibsi kh s 1628 1630 sinamnbnim 58 x 52 sm phaphniepnlksnakarekhiynthiphsmrahwangphaphehmuxn phaphchiwitpracawn aelaxaccaaefngkarepncitrkrrmprawtisastrxyubang lksnakhxngcitrkrrmkhxngdtchthiaetktangcakkarekhiyncitrkrrmkhxngyuorpkxnhnannkhuxcanwnkarekhiynphaphthiekiywkbsasnathildnxylng thimisaehtumacakkarthinikaykhalwinhamkartngphaphekhiynthangsasnainwdaetkyngxnuyatihtngphaphekhiynthiekiywkbphrakhmphiribebilepnkarswntwidinthixyuxasy lksnathiednkhxngyukhnikhuxkarekhiynphaphpraephthxun thiimichcitrkrrmsasnathiaebngxxkepnpraephthyxymakmay echnkarekhiynekiywkbchiwitkhxngekstrkr phumithsn nkhrthsn thaelthsn phumithsnkbstw aela phaphningaebbtang phaphekhiynehlanimamitxxiththiphlkhxngcitrkrdtchinkhriststwrrsthi 17 xyangchdecn inchwngnikmithvsdithiaephrhlayinkarkarcdcitrkrrmtamthieriykwa ladbkhunkhakhxngsilpa Hierarchy of genres sungthuxwasilpabangpraephthmikhunkhathisungkwapraephthxuntamladbthildhlnknip odythuxwa citrkrrmprawtisastr epncitrkrrmthimikhunkhasungthisudinbrrdapraephthcitrkrrmthnghmd sungthaihcitkrtangktxngkaraetcaekhiynphaphpraephthni aetinchwngnnepnphaphthiimmitlad sungthaihcitrkrtxnghnipekhiynphaphpraephthxunthirwmthngphaphehmuxn hrux phaphchiwitpracawnsungepnthiniymkhxngtladmakkwa ladbkhunkhakhxngsilpaldhlnkntamladbdngni citrkrrmprawtisastr rwmthngsilpakhristsasna citrkrrmphaphehmuxn citrkrrmphaphchiwitpracawn citrkrrmphumithsn rwmthngphumithsnemuxng citrkrrmphaphning dd inbangkhrngkarxaccamikarrwmladbrahwangngansxngpraephthhruxkwann aelamikarichxupmanithsninkarphaphthiepnsylksnsuxkhwamhmayxyangxunnxkehnuxcakthiehnodytrnginphaph epntnwaphaphningxaccamihwkaohlk nalikathrayaelaethiynthidbaelwsungepnsylksnkhxngkhwamsinsudhruxkhwamtay vdukalmkcawadekhiyngkhangkbkickartang thiehmaasmaekvdukhxngmnusy echnkarelnsektinvduhnaw karhwanphuchinvduibimphli hruxkarekbekiywinvduibimrwngepntn aelasingsakhykhuxkarichcitrkrrmepnekhruxngmuxinkarsuxsarthangcriythrrm citrkrdtchniymekhiynphaphinpraephththi ladbkhunkhakhxngsilpa thuxwamiradb ta aetkmiidhnhlngihkbthvsdikarladbkhunkhaodysineching phaphekhiynswnihymikhnadelk phaphekhiynkhnadihythithacaepnphaphehmuxnkhxngklumkhn citrkrrmfaphnngaethbcahayipcnhmd thacatkaetngphnngkcaichphaphekhiyninkrxbtkaetngaethnthi karekhiynkyngkhngekhiynbnimkntxma aemwacitrkrinyuorptawntkxun caelikichknipaelwaelahnipekhiynbnphaib citrkrbangkhnkichaephnthxngaedngthinaklbmaichaephnthiichinkarphimph printmaking canwnphaphekhiyncakyukhnildlngipbangcakkarekhiynthb overpaint odycitrkrruntxmainkhriststwrrsthi 18 aela 19 inchwngniaethbcaimminganpratimakrrm thimikepnnganthiphbinsusanthiepnxnusrnkhxngphutay hruxnganthiichtkaetngsingkxsrang hruxpratimakrrmchinelkphayinthixyuxasy karekhiyn delftware kthuklngaelamikhayodythwipaetnganthimikhunphaphsungkyngkhnghayak aetnganenginodyechphaalksna nasmyinyuorpolkkhxngngansilpaphaphchiwitpracawnody suphaphburussubklxngaelaelnaebkhaekmmxnphayinban sngektphaphbnphnnginphaphdwy smakhmcitrkraehngharelm kh s 1675 odyyan edx ebry phaphehmuxntnexngkhnthisxngcaksay phaphehmuxninrupkhxng kh s 1685 canwnphaphekhiynxnmhasalthiphlitodycitrkrdtchaelakarcdnganaesdngihy thimikarkhayphaphekhiyncanwnmakepnthisngektkhxngchawtangpraeths pramanknxyangkhraw wadtchphlitphaphekhiynraw 1 3 lanphaphrahwangchwngyisibpihlngcak kh s 1640 ethann canwnkarekhiynthisungthaihrakhaphaphkhxnkhangta nxkipcakphaphthiekhiynodycitrkrphumichuxesiynghruxphuepnthiniymkninkhnann citkrthiimmichuxesiynghruxtkxndbrwmthngcitrkrthiinpccubnthuxwaepncitrkrexkechnoyhns ewremr frns hals aela aermbrngdinbnplaytangkprasbkbkhwamyaklabakinkarphyayamthamahakinodykarepncitrkr citrkrhlaykhntxngthanganxundwyephuxprathngchiwit hruxelikxachiphkarepncitrkrodysineching sthankarnelwraylngodyechphaaemuxfrngessekharukranbriewnklumpraethstainpi kh s 1672 hrux Rampjaar thimiphltxkhwamxdwaykhxngtladngansilpathiimidfuntwkhunmaethakbsmythirungeruxnghlngcaknn inchwngthirungeruxngkhwamaephrhlaykhxngphaphekhiynkepnipodythwipinthukradbkhxngsngkhmcnnkthxngethiywcakxngkvsekhiynbrryayinpi kh s 1640 waaemaetchangtiehlk hrux changthxngaedngtangkmiphaphekhiynaekhwnxyuinorngchang yea many tymes blacksmithes cobblers etts will have some picture or other by their Forge and in their stalle Such is the generall Notion enclination and delight that these Countrie Native have to Painting chwngniepnchwngaerkthicitrkrkhnsakhy kerimichtwaethnkhakhayphaphekhiyn art dealer thiepnnganxachiphkhayphaphih withikarekhiynphaphkhxngdtchodythwipinchwngnimikhunphaphsung aetyngkhngichrabbkarekhiynaebbyukhklang odykarfukcitrkrihmkbkhru canwnkhxngphuthangankbhxngekhiynphaph workshop odythwipmicanwnnxykwahxngekhiynphaphinflanedxrshruxinxitalithixaccamiphuidrbkarfukhdephiyngkhnhruxsxngkhn canwnnicakdodykdkhxngsmakhmcitrkr inkhnaediywknxanackhxngsmakhmesntlukhradbthxngthinerimldthxylng aetinbangthxngthikyngkhngmixiththiphlphxsmkhwrxyu aelakarkxtngsmakhmihmkhunkmibang echnsmakhmin xmsetxrdmthikxtngkhuninpi kh s 1579 aelasmakhmin rxtetxrdm xuethrkhth aela edlfthtangkkxtngkhunrahwangpi kh s 1609 thungpi kh s 1611 aelathilasudiniledninpi kh s 1648 nxkcakkarekhiynphaphehmuxnthiidrbcangaelw karekhiynphaphpraephthxun thiepnkarekhiynlwnghnaaebb ekng khwamtxngkarkhxngtladodyimmikarcangihekhiynxyangechphaaecaacngsungtangkblksnakarekhiyninchatixun trakulcitrkrkmidwykarhlaytrakul aelacitrhlaykhnkthakarsmrskbluksawkhxngkhru hrux khxngcitrkrxun citrkrbangkhnkmacakkhrxbkhrwthimithanadiphusamarthcaykhafukhdkhxngtnexngid thngaermbrngdaelayan stintangkidrbkarsuksathimhawithyalyilednxyuchwkhnahnung nxkcaknnlksnakarekhiynthiepnexklksnhruxpraephthkhxngngancitrkrrmkxaccaaetktangkniptamemuxngkhxngcitrkr aetxmsetxrdmepnsunyklangkhxngnganekhiynthnghmd citrkrkhxngdtchkhanungthungthvsdisilpanxykwacitrkrinpraethsxun hruxkarthkethiyngkninthvsdisilpaechnthiniymthakninbrrdapyyachnxyangaephrhlayinxitali kekidkhuninenethxraelndimbxykhrngnk karcangekhiynhruxkarkhayphaphekhiynekuxbthnghmdepnkarcangaelakarsuxswnbukhkhl aelarahwangchawemuxng thimiidmikarekbrksahlkthankarsuxkhaykniw sungthaihhlkthanekiywkbphaphekhiynaetlaphaphminxykwainbriewnxun aetsilpakhxngdtchkepnkhwammihnamitakhxngchati channhlkthansakhythiekiywkbphaphekhiyncungmkcaepnhlkthanthangxxmthimacakhnngsuxchiwprawtikhxngcitrkraelanganekhiynodythwip echninnganekhiynkhxng Karel van Mander thiekhiynekiywkbsilpakhxngchwngrxypikxnhnann aela Arnold Houbraken in De groote schouburgh der Neder lantsche konstschilders en schilderessen ewthiihykhxngcitrkrdtch kh s 1718 1721 nganthngsxngtamdwynganekhiynchiwprawtisn khxngcitrkrmakmaythirwmthngnganekhiynkhxngehabraekhnexngthirwmchiwprawtikhxngcitrkrkwa 500 khn aelathuxknwaepnnganthiethiyngtrngtxkhwamepncring silpineyxrmn Joachim von Sandrart kh s 1606 1688 thanganxyurayahnunginhxlaelnd aela Deutsche Akademie sthabneyxrmn kmienuxhaekiywkbcitrkrdtchthioyhakhimruck khrukhxngehabraekhnaelaluksisykhxngaermbrngd Samuel van Hoogstraten kh s 1627 1678 phuekhiyn Zichtbare wereld aela Inleyding tot de Hooge Schoole der Schilderkonst kh s 1678 inenuxhathiepnkarwiphaksmakkwacaepnchiwprawti sungepnnganekhiynthimikhwamsakhytxphaphekhiyninyukhni aethnngsuxehlanikechnediywkbhnngsuxdtchthiekiywkbthvsdisilpaxun mkcaklawthungthvsdikarekhiynphaphkhxngyukhfunfusilpwithyaaelaimidsathxnlksnakarekhiynphaphrwmsmyinkhnann aelamkcaennenuxhathiekiywkbprawtisastrkhxngsilpaladbkhunkhakhxngsilpacitrkrrmprawtisastr Danae ody Jacob van Loo epriybethiybkb odyaermbrngd phraeysuthrngmngkudhnam odyxuethrkhthkharawcocedirkh fan babuern kh s 1623 sahrbkhxnaewntinxuethrkhth silpainklumnimiidrwmaetephiyngphaphekhiynthiaesdngehtukarnthiekidkhuntamkhwamepncringinprawtisastr aetyngrwmthngphaphekhiynthiaesdngehtukarncakkhmphiribebil tananethph wrrnkhdi aelaxupmanithsn ehtukarinprawtisastrthiephingekidkhunimthuxwaxyuinklumni aetthuxwaepnkarekhiynphaphaebbscniymthirwmkbpraephthphaphehmuxn aela karekhiynthaelthsn nkhrthsn hruxphumithsn karekhiynphaphkhnadihythangprawtisastrhruxsasnathiphuxupthmphhruxthangwdtxngkarsrangkhwamrusukmhscrryihaekphuduminxykwathithakninpraethsxun nxkcaknntladinenethxraelndimyxmrbsilpasasnainwdechninpraethsxun inyuorp karekhiynphaphkhnadihyaebbbaorksahrbwnghruxkhvhasnkhxngecanayhruxphumixncakinkaethbcaimmiinenethxraelnd nxkcaknnprachakropretnaetnthkhxngdtchinemuxngihy thiidehnkarichxupmanithsnkhxngaemnenxristinkarphyayamokhsnachwnechuxkhxnghbsbwrkrahwang kekidptikiriyatxtanxyangrunaernginkarichsilpaepnekhruxngmux thithaihsrangkhwamimiwwangicinkhwamyingihykhxngkarsuxkhwamhmayodykarichcksusilp prawtisastrkhxngsilpainenethxraelndcunghnehmasnxngprchyakhxng silpachnephuxklumnxy aetkemuxekhiynaelwkmibangthimaidrbkartkaetngemuxthaepnphaphphimphenuxngmacakkhwamsnicinphaphekiywkbehtukarninprawtisastr phaphekhiynprawtisastrtangcakphaphekhiynpraephthxuntrngthi citrkrsakhyhlaykhninchwngaerkkhxngyukhthxngyngkhngidrbxiththiphlcakkarekhiynaebbxitali phaphekhiynkhxngcitrkrsakhykhxngxitalithuksnghmunewiyninhmunkekhiyn khwamsamarthinkaraesdngaesnginphaphthiephimmakkhunepnxiththiphlodytrngthimacakxitali odyechphaaodykharawcoc citrkrdtchbangkhnkedinthangipxitaliaetknxykwaemuxethiybkbcitrkreflmmich ephuxthicafuknganhruxhaprasbkarninkaripchmphaphekhiynkhxngcitrkrxitali aetkranncitkrsakhy bangkhnkhxngenethxraelndechnfrns hals hrux yakhxp fan ruysedlkmiidmioxkasedinthangipxitali inchwngtnkhxngkhriststwrrscitrkrlththiaemnenxrismthilksnakarekhiynthimacakkhriststwrrskxnhnannkyngdaeninkarekhiyntamaebbchbbtxmacnkrathngkhristthswrrs 1630 inkrnikhxngxbrahm oblemirth aela Joachem Wtewael citrkrrmprawtisastrhlayphaphmikhnadelk khnathicitrkreyxrmnthitngthinthanxyuinkrungormxadm exlsihemxraelakharawcoctangkmixiththiphltxcitrkrkhxngdtchechnepiyetxr lasthmn aermbrngd aela yanaela Pynas emuxepriybethiybprawtisastrkhxngsilpabaorkcakpraethsxun silpabaorkkhxngxitaliaeladtchtangkennkhwamepnscniym aelakarsuxkhwamhmaythitrngiptrngma thibangkhrngeriykwa citrkrrmkxnaebbaermbrngd Pre Rembrandtists sungepnlksnakhxngkarekhiynphaphkhxngaermbrngdinchwngaerk Utrecht Caravaggism hmaythungklumcitrkrchawdtchthiekhiynthngcitrkrrmprawtisastraelaphaphchiwitpracawnkhnadihyaebbxitali aelamkcaichethkhnikhkarichaesngengathitdknxyangrunaerng khatangaesng kxnhnakarptiwtixuethrkhthepnemuxngsakhythisudindinaedndtchihm aelatangcakemuxngxuntrngthimiprachakrthung 40 thiepnormnkhathxlikodyechphaainhmuchnchnsung citrkrchnnakidaek ehndrikh ethxrbrukekn ecxrard fan ohnthhxrst aela edirkh fan babuern karekhiynaebbkharawcocaebbxuethrkhthniymkninkhristthswrrs 1630 aetohnthhxrstekhiynmacnthung khristthswrrs 1650 aelaepncitrkrphuepnthiniyminrachsankkhxngxngkvs dtch aelaednmarkhinlksnathixxkipthangkhlassik aermbrngderimkarekhiyndwycitrkrrmprawtisastrkxnthicamaidrbkhwamsaercinkarekhiynphaphehmuxn phaphphimphcanwnmakkhxngaermbrngdepnphaphekhiynthangsasna aela eruxngrawkhxngkaridrbcangihekhiyncitrkrrmprawtisastrphaphsudthay The Conspiracy of Claudius Civilis kh s 1661 ennihehnthungkhwamfngicinkhwamtxngkarthicaekhiyncitrkrrmprawtisastr thiprasbkbkhwamyakekhyinkarhalukkhathitxngkarphaphekhiynpraephthdngwa silpinhlaykhn rwmthngluksisykhxngaermbrngdhlaykhnphyayamdarngwithikarekhiyntamaebbaermbrngdsungbangkidrbkhwamsaercbangphxpraman echnokhefirt flingk Govaert Flinck phuthiprasbkhwamsaercmakthisud Gerard de Lairesse kh s 1640 1711 kepnxikphuhnungkxnthicamatkxyuphayitxiththiphlkhxngsilpakhlassikaebbfrngess aelaklaymaepnthngcitrkraelankthvsdichnnakhxngenethxraelndtxma karekhiynphaphepluxycakdxyuaetechphaakarekhiynphaphprawtisastr aetkmibangthicitrkrphaphehmuxnthitngchuxphaphekhiyntamaebbkhlassikechninnganekhiynkhxngaermbrngd swncitrkrphaphchiwitpracawncaimmikarekhiynphaphthiepidephyipkwahnaxkhruxkhaxxn aelacaekhiynlksnaechnnnktxemuxepnphaphthiekiywkbosephni hruxekstrkrxitaliethann citrkrrmphaphehmuxn citrkrrmphaphehmuxnediyw phaphehmuxnxyangepnthangkarkhxng osefiy thriph kh s 1645 caktrakulthimngkhngthisudtrakulhnunginhxlaelnd odyphaphehmuxnxyangepnknexngkhxng Willem Heythuijsen kh s 1634 ody frns halsphaphehmuxnklumthimilksnaaekhng phubriharsmakhmphxkhaiwn ody efxrdinand obl kh s 1663 phaphehmuxnkhrxbkhrwody Johannes Mytens kh s 1652 citrkrrmphaphehmuxnrungeruxnginkhriststwrrsthi 17 emuxchnchnklangthimithanamngkhngkhunmacakkarkhaniymthicacangcitrkrihekhiynphaphehmuxnkhxngtnexngmmakkwachnchnediywkninpraethsxun pramanknwainyukhnicitrkrekhiynphaphehmuxndwyknthnghmdrawrahwang 750 000 thung 1 100 000 phaph aermbrngdexngprasbkbkhwamsaerckbkarekhiynphaphehmuxn aetkechnediywkbcitrkrphuxunthiekhiynphaphehmuxn thimaehnuxyhnaykbnganekhiynlksnani echnthifan manedxrbrryaywa silpinthanganpraephthediywknniepnewlaxnyawnanodyimekidkhwamphungphxicihaektnexng karekhiyninchwngaerkthitwaebbchay hruxbangkhrngkrwmthngstridwymkcaaetngtwdwyesuxphathimisihnkaelaeriyb tamprchyakhxnglththikhalwinkarmichaktkaetng props hrux karmithiwthsninchakhlngepnsylksnkhxngkhwamthnng sungthaihphaphehmuxnthiekhiyninenethxraelndmilksnaaelawithikarekhiynthikhlaykhlungknhmd aemaetkaryuninphaphkmkcaepnsingthieliyngthakndwehtuphlediywknkbkhangtn karwangthatxngwangxyangprascakxarmn odyechphaastri aetedkkxaccayxmihmikaraesdngthathangidbang oxkasthimikarwadphaphehmuxnkxaccaepnemuxmikarsmrs samiphrryamkcaaeykknepnsxngphaph phaphehmuxnthiekhiynodyaermbrngdinchwnghlngepnphaphmiexklksnkhunmabanghruxmieruxngrawprakxb aetkrannkyngthuxwaepnkarekhiyn aebbxutsahkrrm en masse echninphaphekhiyninhxngthietmipdwyphaphekhiynkhxng aermbrngdsmyaerk thiidrbkarxuthisihaekphiphithphnthsilpaemothrophlithninnkhrniwyxrk citrkrphumichuxesiynginkarekhiynphaphehmuxnxikkhnhnungkhuxfrns hals phumichuxesiynginfiaeprngthimichiwitchiwaaelakhwamsamarthinkarthaihtwaebbduthangsbayaelamixarmndi aetkrannkarwangthaxyangsbayxarmnechnintwxyangthangkhwakyngepnsingthihaduidyaktamkhaklawthiwa immiphaphehmuxnxun cakyukhnithicawangthaxyangimepnthangkarechnnn phuepnaebbepnphxkhaphaphumithanadi phuekhycanghalsihekhiynphaphehmuxnetmtwsibpikxnhnann phaphhlngepnphaphthimikhnadelkthiekhiynphaphinhxngswntwinban odyphuepnaebbaetngtwsahrbxxkipkhimayan edx ebry Jan de Bray mkcahwanlxmihphuepnaebbaetngtwaetngtwaelawangthaaebbkhlassik aetnganekhiynhlaychinkhxngebryepnnganekhiynkhxngbukhkhlinkhrxbkhrwkhxngtnexng Thomas de Keyser Bartholomeus van der Helst efxrdinand obl aelacitrkrkhnxun rwmthngxikhlaykhnthiklawthungwaepncitrkrprawtisastrhruxphaphchiwitpracawn phyayamsrangnganekhiynihmibrryakasthimichiwitchiwakwanganekhiynthrrmda karekhiynphaphehmuxnidrbphlkraethuxncakkhwamepliynaeplngindanprchyakhxngkarsrangngancitrkrrmnxykwaphaphekhiynpraephthxun aelaepnpraephthkhxngphaphekhiynthicitrkrdtchhnklbmaphungidesmx ethathithrabekiywkbkrabwnkarekhiynphaphkhxngcitrkrsungkechnediywkbinpraethsxun inyuorp kduehmuxnwaibhnakhxngphuepnaebbcaidrbkarekhiynkxnrahwangkarnngkhrngsxngkhrngaerk aetcanwnkarnngkhrngtx maimepnthithrabaennxn xaccaerimcakimtxngnngepnaebbxikhlngcakekhiynibhnaesrc cnxaccatxngnngxikthung 50 khrnghlngcaknntamthimikarbnthukexaiw phuepnaebbkmkcathingesuxphaiwinhxngekhiynphaphkhxngcitrkriwihekhiynraylaexiyd thixaccaekhiynodyphuchwy hruxxaccasuxmacakcitrkrphuechiywchayinkarekhiynthangniodyechphaa ephraaekhruxngaetngkaythuxknwaepnxngkhprakxbsakhykhxngphaphehmuxn strithiaetngnganaelwhruxthiimekhyaetngnganxaccaaeykcakknidodywithikaraetngkay thithaihehnidwamistriosdcanwnimkikhnidrbkarekhiynphaph nxkcakwacaepnswnhnunginphaphekhiynklumkhrxbkhrw karekhiynphaphehmuxninenethxraelndkechnediywkbthixunthikhunphaphkhxngkarekhiynekhruxngaetngkaykaetktangknip inchwngniinsngkhmthwipkmikaraetngtwdwyesuxlayaethb hrux epnlwdlayknaelw aetcitrkrmkcaimniymekhiynkn sungxaccaepnephraaepnkarephimnganihaektwexngmakkhun aetkarichlukimhruxkhxcibsxnepnsingthieliyngimid aelaepnsingthiyaktxkarekhiynihehmuxncring aermbrngdsamarthkhidwithikarekhiynlukimidxyangehmuxncringodykarekhiynsikhawepnphunkxn aelaephimlayraexiydxyangeba dwysidaephuxaesdnglwdlay xikwithihnungkhuxekhiynsikhawbnphunsida aelaskdsikhawdwyplayaeprngxxkephuxihpraktepnlwdlay citrkrrmphaphehmuxnhmu karekhiynphaphehmuxnkhxngklumkhnepnlksnakarekhiynphaphehmuxnthiepnexklksnkhxngenethxraelnd thiepnthiniymkninsmakhmaelaxngkhkartang thiepnswnsakhyinsngkhmkhxngenethxraelndinkhnann echnkxngphithksphleruxnpracaemuxng city s civilian guard khnakrrmkarbrihar xngkhkarxachiph hrux xngkhkarkusl aelaxun odyephraainkhrungaerkkhxngkhriststwrrstwaebbinphaphcamilksnaaekhngaebbwangtha ephraakhnakrrmkarkhxngsthabnmkcachxbphaphthidukhungkhngepnthangkar klumkhninphaphkmkcamkcanngknrxbota aetngtwdwyesuxsihnk sungkhunphaphkhxngenuxphaaesdngthungthanaxnedninsngkhm aetlakhnkhnmathangphuduphaphaesdngsihnathiexacringexacng karekhiynkennkarwadraylaexiydkhxngesuxphaxyangetmthirwmthngraylaexiydkhxngefxrniecxr aelasylksntangkhxngaetlakhninphaphthiaesdngthungthanathangsngkhmkhxngaetlakhn txmaphaphekhiynkhxy mithathangthildkhwamkhungkhnglngaelamikhwammichiwitchiwamixarmnsnukmakkhun aelaaesngsithiichkerimsdismakkhunechnthiehninphaph nganeliyngkhxngecahnathiesntcxrc ody frns hals nxkcaknnphaphehmuxnklumxaccaepnphaphkhxngnkwithyasastrthiwangthakbekhruxngimekhruxngmuxaelawsduthiichinkarsuksa bangkhrngkcaepnphaphaephthythiwangthakbrangsphthieriykwa btheriynkaywiphakh sungchinthisakhythisudkkhngcaepnnganekhiyn btheriynkaywiphakhkhxngnayaephthythulph khxngaermbrngd thiekhiyninpi kh s 1632 phaphekhiynkhxngklumkxngphithksphleruxnpracaemuxng schutterstuk phbinharelm aelaxmsetxrdm caepnphaphthiaesdngthungkhwammixanac thana aelabangkhrngkxaccaaesdngkhwammiphlngicxnrunering joyous spirit karcdphaphkerimdwykarnngrxbotaaettxmakwiwthnakarmaepnphaphthimichiwitchiwakhun echninnganekhiynchinthimichuxesiyngkhxng The Night Watch odyaermbrngd phaphekhiynklumswnihycacayodyaetlabukhkhlthipraktinphaph canwnthicaykkhunxyukbtaaehnngaelakhwammaknxykhxngrangkaythipraktinphaph thixaccatngaethwthungethadanhnaphaphhruxephiyngibhnakhanghlngphaph aetbangkhrngkcaechliykncaysungxaccathaihepnpyhainkarwangphaphwacaihikhrednkwaikhr thaepnphaphekhiynkhxngklumkhnthiepnkhrxbkhrwkmkcaepnphaphthimichakepnbanthimithanadi citrkrrmphaphchiwitpracawn phaphaebbchbbkhxngyan stin raw kh s 1663 khninbanruneringkhnathiaembanhlb aemsux odyecxrard fan ohnthhxrst kh s 1625 insxngosephni phaphchiwitpracawnepnphaphthiepnchakthitwaebbhlkinphaphimsamarthbxkidwaepnikhr cungimthuxwaepnphaphehmuxnhruxepnbukhkhlinprawtisastr hruxepncitrkrrmphumithsn phaphchiwitpracawnepnpraephthkhxngngancitrkrrmthirungeruxng aelaepnthiniymknmak aelaepncitrkrrmthiepnexklksnkhxngenethxraelndinchwngprawtisastrsilpayukhni aelaepnthiniyminphaphekhiyneflmmich phaphchiwitpracawnbangphaphkcamitwaebbediywechnphaph khxngewemr bangphaphkcaepnklumkhnklumihyinoxkasidoxkashnung hruxfungchn phaphekhiynpraephthnikaebngyxyxikepnhlayklumthiidaek phaphtwaebbediyw phaphkhrxbkhrwchawna phaphinthaewirn phaphinkhaythhar phaphthimistweliyngechnmahruxpsustw phaphinhima phaphklangkhunemuxmiaesngcnthr aelaxun aetlaklumkmichuxechphaaepnkhxngtnexng aetchuxkhxngthngklumechnthiichinphasaxngkvswa genre painting thihmaythungphaphchiwitpracawn immiinphasadtch kxnthicamaichkhawa genre painting sungepnkhathiephingerimichinkhriststwrrsthi 18 chawxngkvskeriykphaphekhiynpraephthniwa drolleries citrkrbangthankekhiynnganechphaainklumyxyethann odyechphaainraw kh s 1625 aelakhnadkhxngphaphthiekhiynkkhxyelklngtamladb aemwaphaphchiwitpracawncaepnphaphthiaesdngihehnthungkhwamepnxyukhxngphukhnchawdtchinsmykhriststwrrsthi 17 cakthukradbkhxngsngkhm aetkhwamethiyngtrngtxkhwamepncringkimichsingthisrupidngay ethaidnk phaphhlayphaphthiduephin kxaccaepnephiyngphaphchiwitkhwamepnxyutampkti aetxnthicringaelwepnphaphthiaefngenuxhathimacaksuphasitdtch hruxsanwnthisuxkhwamhmaythangcriythrrm phaphbangphaphsuxkhwamhmaythitrngiptrngma aetbangphaphkkakwm sungcaepnthicatxngidrbkartikhwamhmayodynkprawtisastrsilp citkrhlaythanaelaphusuxngansilpaexngtangkmikhwamprasngkhthicaexapraoychnthngsxngthangkhux thngidchunchmkbphaphekhiynthixaccaepnchakthiepnkhwamrkrungrngphayinban hrux chaksxngosephni aelainkhnaediywknkidrbkhwamhmaythangcriythrrmipintwdwy ngankhxngyan stinphumixachiphepnecakhxngorngetiymkepntwxyanghnunginbrrdaphaphekhiyndngklaw khwamsmdulrahwangxngkhprakxbaelakhwamhmaykhxngphaphehlanikyngkhngepnthithkethiyngkninhmunkprawtisastrsilp kartngchuxphaphekhiynkmkcaaeykrahwangphaphin thaewirn in orngetiym hruxin brothel aettamkhwamepncringaelwsthanthiehlanikmkcaepnsthanthiprakxbthurkicediywkn ephraathaewirnbangaehngkcamihxngchnbnhruxdanhlngsahrbkarkhapraewniodyechphaa smkbsuphasitdtchthiwa hnaepnorngetiym hlngepnsxng Inn in front brothel behind nganekhiynkhxngstinintwxyangthidikhxngsthanthithiwa aetaemwaxngkhprakxbaetlaxyangcatrngtamkhwamepncring aetphaphthngphaphmiichphaphkhxngehtukarnthiekidkhuntampkti sungkechnphaphekhiynchiwitpracawnxun thimkcaepnphaphechingesiydsi chawnainban ody xaedriyn fan oxsetd kh s 1661 khxngtidmuxcakkhnlastw The Hunter s Gift ody kaebriyl emthsu Gabriel Metsu raw kh s 1660 karsuksakhwamsmphnthrahwangkhusmrsodykarich khaphxngtangkhwamhmaythangta Illustrated book thrrmeniymkarekhiyn Emblem book khxngyukhfunfusilpwithyainkhriststwrrsthi 17 ekuxbthnghmdtkxyuinmuxkhxngphumikhwamruphasadtch aetimmikarsuksathangdankhlassik thihnipichnganekhiynechingcriythrrmthiepnthiniymknxyangaephrhlaykhxng Jacob Cats Roemer Visscher aelaxun phumkcaekhiyncakthiepnthiruckkndiepnaebbchbb phaphprakxbkhxnghnngsuxehlanimkcaepnkhaphudthimacakhnngsuxodytrng thiekhiynlngbnphaph emuxtnkhriststwrrsthi 20 nkprawtisastrsilpkphuksuphasit sanwn hruxkhakhwykbphaphchiwitpracawn xikaenwonmhnungkhxngkarekhiynphaphchiwitpracawnkhuxkarichkarelnkha pun thangephs echnemuxtxngkarklawthungxwywaephskhxngstrikxaccaichsylksnluth xngkvs lute hrux dtch luit hruxthungnxng aelathaekiywkberuxngephskxaccaich nk dtch vogelen hruxxun thaichsylksnthangtaaetephiyngxyangediywkcaich phaphrxngetha krwy hruxehyuxkthitngkhang twaebbepnsylksninkarsuxkhwamhmay changekhiynkhnediywknxaccaekhiynphaphaembaninxarmntang hrux strikalngphkphxninban hrux cakkarthangan sungmicanwnmakkwahwkhxediywknkhxngchay xnthicringaelwphaphchaythanganhaduidyakcakphaphekhiynyukhthxngkhxngdtch phaphphumithsnxaccaetmipdwynkedinthang aelakhnekiyckhran aetmkcaimmiphukalngthairithnaxyuinphaph karekhiynphaphlksnaniepnkarkhidkhnkhunodycitrkrdtchodytrng aelatxmamamixiththiphltxcitrkrinpraethsxun odyechphaainfrngesssxngrxngpitxma karekhiynthimacakscniymaelakarekhiynkicwtrtang khxngcitrkrrmyukhenethxraelndtxntnthiehiyornims bxs aelapiexetxr bruekl phuphx epncitrkrkhnaerkthinamaepnhwkhxhlkinkarekhiynkichsuphasitinkarepnphunthankhxngenuxhakhxngphaph citrkrharelm Willem Pieterszoon Buytewech frns hals aela exsaexiys fan edxr ewledx Esaias van de Velde epncitkrkhnsakhyinyukhaerkkhxngyukhthxngkhxngenethxraelnd ibethewkhekhiyn Merry Company thiepnphaphkhxngklumburusthinngsnthnaknxyurxbota thiaefngkhasxnthangcriythrrminraylaexiydkhxngphaph fan edxr ewledxkepncitrkrphumithsnphumichuxxikkhnhnungaetkekhiynphaphchiwitpracawnthilksnakhxngphukhninphaphxxkcaaetktangcakphukhninphaphekhiynkhxngngansngsrrkhkhxngklumphuditamkhvhasnchnbth halspktiaelwkmkcaekhiynphaphehmuxnaetkminganphaphchiwitpracawnemuxerimxachiphekhiynphaph karphankinharelmkhxngcitrkreflmmichphuechiywchayinkarekhiynchakthaewirn inpi kh s 1625 hrux kh s 1626 thaihxaedriyn fan oxsetdidhweruxngthinamaekhiyntlxdxayu aetmkcaekhiynechingaefngxarmn sentimental approach kxnsmykarekhiynkhxngbruewxr chawnamkcathukwadnxkban aetbruewxrcawadchawnainesuxphathithrrmdaphayinbanthikhxnkhangmud aetfan oxsetdbangthikcawadbanchawnaxnthrudothrmaetmikhnadihyot fan oxsetdekhiynthngphaphklumkhnaelakhnkhnediyw echnediywkycitrkraebbkharawcocxuethrkhth karekhiynklumkhnsxngsamkhnklaymaepnthiniymknmakkhun odyechphaathimistriaelaedk citrkrstrithisakhykhxngyukhnikidaekcudith elysetxr Judith Leyster phumikhwamechiywchayinkarekhiynphaphpraephthnikxnhnasami Jan Miense Molenaer trakulkarekhiynphaphkhxngilednthieriykwa fijnschilder michuxesiyngthangdankarekhiynphaphkhnadelkthiekhiynxyangbrrcngthirwmthngphaphchiwitpracawn phunainklumnikidaekekxrrit du kaebriyl emthsu Gabriel Metsu Frans van Mieris the Elder aelatxmalukchay Willem van Mieris Godfried Schalcken aela Adriaen van der Werff citrkrruntxmathimaehnknwaepnnganthibrrcngcnekinipemuxepriybethiybkbcitrkrrunkxnhna kekhiynthngphaphehmuxnaelacitrkrrmprawtisastr aelaepncitrkrthiidrbkhwamchunchmaelamikhatwsunginplayyukhthxng aelanganthiekhiynkepnnganthiesaaaeswnghaknipthwyuorp phaphchiwitpracawnsathxnihehnthungkhwammngkhngthiephimmakkhunkhxngsngkhmdtch aelachakinphaphkephimkhwamsadwksbay aelakhwamhruhrakhunepnladb silpinthiimidepnswnhnungkhxngklumilednthiekhiynbrryakasxnepnknexngkhxngphaphchiwitpracawnkidaek Nicolaes Maes ecxrard ethxrbxrkh aela phuniymekhiynphaphphayinbanthioprngechnediywkboyhns ewremr tangkepnchangekhiynthiimepnthiruckmaepnewlanan kxnthimaepnthiyxmrbknwaepncitrkrexkkhxngkarekhiynphaphchiwitpracawn citrkrrmphumithsn phumithsnbk thiwthsnaemnakbsakorngsi ody kh s 1634 thiwthsnvduhnaw ody exsaexiys fan edxr ewledx kh s 1623 knghnlmthiwickh ody kh s 1670 phumithsnaemnaaelakhnkhima ody exlebirt khuyph raw kh s 1655 khuyphechiywchayinkarekhiynphaphaesngsisxngyamkhakhxngphumithsndtch wdxsesnedlfth Assendelft Church ody kh s 1649 thiehnaephnhinxnusrnkhxngyan esnerxdmphuepnphxxyudanhnatrngmumkhwalangkhxngphaph citrkrrmphumithsnepnlksnanganekhiynthisakhyinkhriststwrrsthi 17 erimdwyphumithsneflmmichodyechphaacakxnewirphinkhriststwrrsthi 16 phaphekhiynehlanimilksnaimkhxyehmuxncringhruximkhxyepnthrrmchati ephraaswnihyekhiynknphayinhxngekhiynphaphaelaekhiyncakcintnakarkhxngcitrkr mummxngthiekhiynkmkcaepnmummxngcakxakasechnthiekhiynknmakxnhnanntamaebbchbbkhxng Joachim Patinir Herri met de Bles aela piexetxr bruekl phuphx txmaaenwonmkhxngkarekhiynepliynip nganekhiynerimiklekhiyngkhwamepncringkhun aelachangekhiynerimxxkiprangcakthiwthsnthitxngkarekhiynphaynxkhxngekhiynphaph esnkhxbfathiekhysungkldradbtalngma sungthaihsamarthennkhwamepliynaeplngkhxngemkhaelabrryakasbnthxngfaiddikhun odyechphaaaesngsikhxngthxngfathiekidkhunechphaainbriewnphumiphakhenethxraelnd hweruxngthiniymwadknkrwmthngphaphsnthraytamaenwfngthaeldantawntk aemnaaelathungkwangthitidknkbbriewnthimiwwelmthung aelamkcaehntwemuxng xyulib lang phumithsnhnahnawthimikhlxnghruxlatharthiepnnaaekhngkepnthiniymekhiynkn xikhwkhxhnungthiniymknkkhuxthiwthsnthaelthiepnhwicsakhykhxngklumpraethstathitxngphungphathangkarkhakhaythangthael inkarhaaephndinihmephuxxyuxasy aelainkarthasuksngkhramkbkhasuk nxkcakthiwthsnaelw citrkrkmikhwamsnicinlksnasthaptykrrmodyechphaasingkxsrangthangsasnathngphaynxkaelaphayin emuxkhwamekhaicinkarichthsnmitiephimmakkhun citrkrknakhwamruthiwamaprayuktinkarekhiynphaphsthaptykrrm bukhkhlsakhyinchwngaerkkhxngkhbwnkarekhiynaebbscniymkidaekexsaexiys fan edxr ewledx kh s 1587 kh s 1630 aela ehndrikh xewxraekhmph kh s 1585 kh s 1634 thngsxngkhnthiklawtangkepncitrkrthiekhiynphaphchiwitpracawn inkrnikhxngxewxraekhmph phaphekhiynediywknmikhunkhathikhwrcaklawthunginthngsxngpraephth tngaetplaykhristthswrrs 1620 withikarekhiynphumithsnkepliynipepnlksnathieriykwa chwngothn tonal phase sungepnphaphthimilksnaxxnoynaelakhxbkhnthieluxnlang blur the outlines aelaennkhwamrusukthiekidkhuncakbrryakasmakkhun khnprakxbinphaphbangkhrngkcahayip hruxmikhnadelk aelaxyuiklxxkipinphaph lksnakarcdwangxngkhprakxbkcaniymthaeyngkhwangphaph aelamkcaminaxyuinphaph citrkrkhnsakhyin chwngothn kidaekyan fan okeyn Jan van Goyen kh s 1596 kh s 1656 Salomon van Ruysdael kh s 1602 kh s 1670 Pieter de Molyn kh s 1595 kh s 1661 aelathaelthsnkhxng Simon de Vlieger kh s 1601 kh s 1653 aelacitrkrxun xikepncanwnmak cakkarsarwcsuksaemuximnanmanikmicitrkrthung 75 thanthiekhiyntamaebbfan okeynxyangnxykchwrayahnung aelatamaebbkhuyph tngaetkhristthswrrs 1650 lksnakarekhiynkepliyncakkarekhiynephuxsrangbrryakasipepnkarekhiynkhxng chwngkhlassik classical phase thiyngkhngrksabrryakasxyubang aetkarcdwangxngkhprakxbkhxngphaphephimkaraesdngxxkmakkhun aelaichkhwamtdknkhxngaesngaelasithirunaerngkhun karcdwangxngkhprakxbkmkcathwngdwyxngkhprakxbhlkinphaphechn tnimhlk heroic tree tnediywinphaph orngsihruxhx hrux eruxhruxsingthiekiywkbkartxerux citrkrkhnsakhykidaek Jacob van Ruisdael kh s 1628 1682 phusrangnganekhiyncanwnmak aelahlayaebbthiepnhweruxngkhxnglksnasamykhxngenethxaelnd aethnthicaekhiynphumithsnaebbnxrdikhthimudaelamiphuekhasnthmun kbnatkhruxlatharnathiihlechiyw luksisykhxngruysedlkidaek Meindert Hobbema kh s 1638 1709 thiminganekhiyn thnnmidedilharnis Avenue at Middelharnis kh s 1689 thimilksnanxkaenwkarekhiynthwip thimkcaepnphaphorngsihruxthnninpa citrkrxiksxngkhnthimilksnathiepnkhxngtnexngthinganekhiynmkcamikhnadihykwa xaccakwanghnungemtrhruxkwann kidaekexlebirt khuyph kh s 1620 1691 aela Philips Koninck kh s 1619 1688 karekhiynkhxngkhuyphmilksnaepnphaphsixabthxngaebbxitaeliyn ewlakhxngphaphkmkcayamphlbkha aelaichklumphukhnintxnhnakhxngphaph odymidanhlngkhxngphaphepnaemnaaelaphumithsn okhningkhekhiynphumithsnaebbkwang panoramic echncakenin hruxphumithsnkhxngnathirab odymithxngfaphunihyxyutxnbn citrkrrmphumithsnxikaebbhnungthiekhiynkntlxdthng chwngothn aela chwngkhlassik khuxkarekhiynaebbxitaliaebboraemntikh thimkcaepnchakphuekhaaethnthicaepnphumithsnkhxngenethxraelnd xabdwyaesngthxngaelabangkhrngkcamisingprakxbelk staffage cakemdietxereniyn aelasaksingkxsrang Jan Both esiychiwit kh s 1652 phumioxkasedinthangiporm aelathangankb Claude Lorrain epnphunainkarwiwthnkarkarekhiynpraephthyxyni citrkrthngsxngmixiththiphltxnganekhiynkhxngcitrkrhlaykhnechnexlebirt khuyph citrkrxunthiekhiyninlksnanikidaek Nicolaes Berchem kh s 1620 1683 aela Adam Pijnacker citrkrrmphumithsnxitaliepnthiniymkninnganphimph aelanganthiekhiynodyniokhls aebrekhmkidrbkaraekaphimphmakkwacitrkrxunidinsmyediywkn nxkcaknnkyngmicitrkrxunxikhlaykhnthiimxaccacdekhakbklumidklumhnungthibrryaymamaid citrkrkhnsakhythisudkkhuxaermbrngdphuekhiyncitrkrrmphumithsnephiyngimkiphaphthiaesdngwaidrbxiththiphlbangxyangcak Hercules Seghers raw kh s 1589 raw kh s 1638 nganekhiynphaphhubekhakhnadihyepnnganthiwiwthnakarkhunmadwytnexngtamaebbnganekhiynkhxngkhriststwrrsthi 16 Aert van der Neer esiychiwit kh s 1677 ekhiynphaphkhnadelkkhxngaemnayamkha hruxemuxaekhngtw aelamihima citrkrrmphumithsnkbstwthangtxnhnakhxngphaphkepnpraephthyxyxikpraephthhnung thiekhiynodycitrkrechnexlebirt khuyph kh s 1625 1654 Adriaen van de Velde kh s 1636 1672 aela Karel Dujardin 1626 1678 stwinfarm aelafilips wuewxrmn phuekhiynmaaelakhnkhiinchaktang wwepnsylksnkhxngkhwammngkhnginenethxraelnd channcungimkhxyekhiynkn nxkipcakmathiniymekhiynknaelw stwxunthiniymekhiynknkidaek aepha ephuxbngwaepnxitali nganekhiyn wwhnum 3 The Young Bull odyphxtetxrepnnganekhiynkhnadihythimichuxesiyngthinopeliynnaklbipparis aettxmakhunma aetcakkarwicyphaphphbwatwwwepnphaphthiwadrwmcakcakkarsuksakaywiphakhswntang khxngwwhktwthitangxayuknepnxnmak hwkhxxunthiepnthisnickhxngcitrkrdtchkidaeksthaptykrrmodyechphaawd inchwngaerkkhxngkarekhiyncitrkrkmkcaekhiynphumithsnkhxngwngxnhruhrahruxnkhrthsnthisrangkhunodysthapnikaemnenxristtxnehnux citrkrsakhyinchwngnikidaek Dirck van Delen caknnkarekhiynthiepnlksnascniymthngphaynxkaelaphayinkhxngsingkxsrangcringkerimpraktkhun aetkimkhxytrngkbkhwamcringipesiythnghmd rahwangnnkhwamekhaicthungkarekhiynaebbthsnmitikephimmakkhunaelaerimniymichknxyangaephrhlay citrkrhlaykhnmikhwamechiywchayinkarekhiynphaphphayinwd Pieter Jansz Saenredam phuthiphx Jan Saenredam aekaphimphxneraickhxngethphiaebbaemnenxristekhiynphaphthiprascakmnusyinphaphphayinwdkxthikhthiphaphbnphnngkhxngwdthuklangipaelw whitewashed karennaesngthikhngtwaelaesnthrngerkhakhnitkhxngesnerxdmodyimsnickbraylaexiydkhxngphunphiw ehnidchdemuxepriybethiybkbnganekhiynkhxng Emanuel de Witte thimkcathingphukhniwinphaph phunthiimraberiybkhxngwd aesngthitdkn aelakhwamrkkhxngefxrniecxrthitngxyuinwd thiesnerxdmmkcaimekhiyn Gerard Houckgeest tamdwyedx withethxaela Hendrick van Vliet ephimmummxngaenwthaeyngsungephimkhwamepnnatkrrmihaekphaphephimkhun Gerrit Berckheyde echiywchayinkarekhiynthnn cturs aela singkxsrangsatharna inemuxngthimiphukhnedinipmaxyubang yan fan edxr ehyedn Jan van der Heyden chxbthicaekhiynchakthiengiybiklchidkwakhxngthnninxmsetxrdm phaphthiekhiynekhiynmacakchakcring aetehyednkprbkarcdwangxngkhprakxbbang thaelthsn phumithsnkhxngedewnethxrcaktawntkechiyngehnux ody Salomon van Ruisdael kh s 1657 twxyangkhxngkarekhiynaebb chwngothn satharnrthdtchrungeruxngmngkhngkhunmaidcakkarkhakhaythangthael aelamisuksngkhramthangthaelkbxngkvsinchwngewlani nxkcaknn phumisastrkhxngpraethsketmipdwyaemnaaelakhlxngthitdknipma channcungimepnthinaaeplkicwakarekhiyn Marine art caimepnthiniymknxyangaephrhlay aelaykradbkarekhiynkhunodycitrkrdtch karwiwthnakarkhxngkarekhiyncitrkrrmthaelthsnkechnediywkbkarwiwthnakarkhxngcitrkrrmphumithsnbkthierimcakmummxngthisungkwathrrmchatikxnaelakhxyldtalng hwkhxngthiekhiynkrwmthngyuththkarthangthaelbrryayeruxngrawkhxngrachnawidtchinyukhthirungeruxngthisud aetphaphthaelthsnthiniymkninpccubncaepnphaphthimibrryakasthisngbengiyb swnihyaelwaemaeteruxelk thipraktinphaphkcachkthngkhxngrachxanackrenethxraelnd aelasamarthbxkidwaepneruxkhxngrachnawi hruxkhxnghnwyngankhxngrthbalxun bangphaphkxaccamiaephndinthiepnhadhruxthaeruxdwy hruxthiwthsnkhampakaemna citrkrthimikhwamechiywchayinkarekhiynphaphkhnadelkkidaek thicamieruxlaelk aelafngaemnathiepnhyarid ipcnthungcitrkrthiekhiynphaphkhnadihyaebbxitaliechn exlebirt khuyphthimkcaekhiynphaphphraxathitytkbnfngnakwang phaphekhiynpraephthnimilksnabangxyangthikhlaykbkarekhiyncitrkrrmphumithsnbk aelacitrkrphumithsnbkkmkcaekhiynphaphaemnahruxhaddwy citrkrsakhykhxngnganekhiynpraephthnikidaek Jan Porcellis Simon de Vlieger Abraham Storck Willem van de Velde aela epncitrkrchnkhrukhxnghlaysibpitxma aelamkcaekhiyneruxinphaphepncudhlk thikarekhiynin chwngothn calaelyaelahnipsnickbbrryakasaelaphawaxakas thngphxaelalukyayiplxndxninpi kh s 1672 thingihcitrkrdtchechuxsayeyxrmn Ludolf Bakhuizen epnphunakhxngklumniaethnthi phumithsntangpraeths phaphbrasilkhxngenethxraelndody thiekhiyninpi kh s 1662 hlaypihlngcakthienethxraelndesiyxananikhmipaelw citrkrdtchaelaeflmmichhlaykhnthanganintangpraethshruxsngnganxxknxkpraeths karphimphkepnkickarsngxxkxikaekhnnghnungthiepnthiniym thithaihaermbrngdmichuxesiyngipthwyuorp khxngkhwydtchthithwayaeksmedcphraecacharlsthi 2 aehngxngkvsody States General of the Netherlands inpi kh s 1660 rwmphaphekhiynrwmsmysiphaph citrkrrmxngkvskhnanntxngphungcitrkrdtch emuxesxr Peter Lely tamdwy Godfrey Kneller wiwthnakarkarekhiynphaphehmuxnkhxngxngkvscaklksnakarekhiynphaphehmuxnkhxngcitrkreflmmichaexnothni aewn idkhthisrangiwkxnhnasngkhramklangemuxngxngkvs citrkrthaelthsnfan edxr ewledxphxluk aela epncitrkrinhmucitrkrphuyayxxkcakhxlaelndemuxfrngessekhamarukraninpi kh s 1672 thiepnphlihtladsilpathrud fan edxr ewledxyayipxngkvsinchwngthimikarerimekhiynphaphphumithsnxngkvsodycitrkrdtchchnrxngechnehndrikh dngkhekhirths hruxklumthiiptnghlkaehlngxyuthiinxitalithieriyktnexngwa bmobchanti Bamboccianti phuipkxtngkarekhiynphaphchiwitpracawninxitalikhun aela Melchior d Hondecoeter phumikhwamechiywchayinkarekhiynphaphstwkinenuxaelankimwacaepnhruxtayklayepncitrkrphuepnthiniymkninsngkhmkhxngphumikhvhasnchnbth hrux sngkhmwngkarkarlastwinyuorptxnehnux swn Frans Post citrkrphumithsn aela Albert Eckhout citrkrphaphningkhnipekhiynphaphekhiynchawphunemuxng aelathuksngtwipyngbrasilkhxngenethxraelndxyurayahnung aetxananikhmthisakhykwahmuekaaxinediytawnxxkkhxngdtchimidrbkarekhiynethaidnk citrkrrmphaphning Vanitas khwamimethiyng kh s 1630 ody ostentatious wicitr thimihnuxyubnsxm ody planacud ody Jacob Gillig kh s 1684 karekhiynphaphningepnoxkasthicitrkrsamarthaesdngkhwamsamarthinkarekhiynphunphiw textures and surface xyanglaexiyddwyexfefkhkhxngaesngthiepncring phaphningthiepnphaphxaharkmkcamikartngxahartangchnidetmephiybbnota phrxmdwyekhruxngenginthiichinkarkin phapuotathirxbphbxncngic aeladxkimtkaetng sungepnkarthathaycitrinkarekhiynraylaexiydtang thiprakt karekhiynphaphningkaebngxxkepnhlaylksnathirwmthng karekhiynphaphdxkim banketje karekhiynphaphxaharecha aetphaphekhiynthukphaphkmiichepnaetephiyngphaphsingkhxngaetyngaefngkhwamhmaythangcriythrrmthimkcaekiywkbkhwamimaennxnkhxngchiwithruxchiwitxnsn thieriykwa vanitas theme thisuxodykarichsylksnthiednchdechnhwkaohlk hruxsylksnthisxnenguxnechnmanawthipxkiwkhrunglukthiepriybehmuxnchiwitthiduphaynxkkhwanaetluklngipketmipdwykhwamkhmkhun hruxdxkimthiehiywecha hruxxaharthierimenaesiy aelaekhruxngenginthiimmipraoychn aetcaxyangirktamkhwamhmaythisuxkyngdxykwaphaphthiekhiynxyanghruhrainkhrunghlngkhxngkhriststwrrs inchwngaerksingkhxngthiwadkmkcaepnsingkhxngthiepnthrrmda aetemuxmathungklangkhriststwrrskerimmikarichsingthihruhrakhunthieriykwa phaphningwicitr pronkstilleven aesdngrsniymkhxngsingaeplkihmaelarakhasungthiepnthiniymknmakkhun lksnakarekhiynaebbscniym karichothnsi aelakarwadaebbkhlassikkhxngcitrkrrmphumithsnkmasathxnihehninkarekhiynphaphningwilelm ekhlssun ehda kh s 1595 raw 1680 aela Willem Kalf kh s 1619 1693 epncitrkrphunainkhbwnkarekhiyn phaphningwicitr khnathi Pieter Claesz esiychiwit kh s 1660 niymthicaekhiyn ontbijt phaphningkhxngxaharecha hruxnganthiekiywkbkhwamimethiyngkhxngchiwithrux vanitas inbrrdaphaphekhiynehlanisithiichmkcaepnsithithum muted odymisinatalepnsihlkodyechphaainchwngklangkhxngkhriststwrrs nxkcakinnganekhiynkhxng Jan Davidszoon de Heem kh s 1606 1684 phuepncitrkrkhnsakhyphuthanganswnihyxyuthiphrmaedninxnthewirph nganekhiynkhxngedx himerimkhyayiptamaenwnxn thithaihepnrupyawsungepnlksnakarekhiynthiaeplksahrbthangtxnehnux aetehdakcaekhiynnganekhiyntamaenwtnghlayphaph nganekhiynphaphningduehmuxnwacaniymknincitrkrthiepntrakul echninnganekhiynkhxngedx him aela Ambrosius Bosschaert kh s 1573 1621 butrkhxngehdakekhiynlksnaediywkbphx aelaekhlssphuepnphxkhxngniokhls aebrechm Nicholaes Berchem karekhiynphaphdxkimkepnklumyxykhxngkarekhiynphaphningthimiexklksnaelalksnawithikarekhiynthiaetktangcaklksnaxun aelabangkhrngkcaepnlksnathiniymkninhmucitrkrstriechn aela nxkcaknncitrkrdtchkyngepnphunainkarekhiynphaphchiwwithyaaelaphaphekhiynthangwithyasastr karphimph aelakarekhiynphaphprakxb aetaemwadxkimaetladxkinphaphcamilksnathiehmuxncringxyangednchd aetkarekhiynkepnkarsuksaxngkhprakxbchintang inphaphaeykcakkn sungcaehnidcakkarekhiynphaphaecknhruxchxdxkimhlaychnidthibantangvduinphaphediywkn hruxdxkimdxkediywknxaccapraktinphaphhlayphaphkid singthitangcakkhwamepncringxikxyanghnungkhuxchxdxkiminaeckncaimichdxkimthiphbodythwipinenethxraelndinyukhnn aemaetkaraesdngdxkimaetladxkinaecknthiwlipkhxngedlf karekhiynaebbdtcherimkhunodyxmobresiys bxssechirthcitrkrphaphdxkimthiekidineflmmich aetyaymatngthinthanxyuthangehnux aelamakxtngtrakulekhiynphaphkhun phiekhy Balthasar van der Ast esiychiwit kh s 1657 epnphuerimekhiynphaphningkhxnghxy aelaekhiyndxkimdwy phaphekhiyninchwngaerkniichaesngthisxngswang odykarcddxkimxyangngay tngaetklangkhriststwrrskarcddxkimkmacdaebbthieriykwabaork thimkcaichchakhlngepnsimudkepnthiniymknmakkhun thicaehnidcaknganchinedn khxng Willem van Aelst kh s 1627 1683 briewnthimichuxesiynginngancitrkrrmpraephthnikidaekngankhxngcitrkrcakiledn ehk aela xmsetxrdm karekhiynphaphstwthiichkinenux game thitayipaelw aelankepnkarekhiyncakkarsuksastwthimiyngchiwitxyu hruxkarekhiynphaphplakepnphaphningklumyxyxikklumhnungthiepnexklksn echninnganekhiynhlaychinkhxng Abraham van Beyeren kh s 1667 aetnganekhiynkhxngcitrkrdtchcaimniymkarrwmphaphningkhnadihykbphaphekhiynpraephthxun echnthithaknodycitrkreflmmich karekhiynphaphkhxngcitrkreflmmichmkcaepnrwmmuxknrahwangcitrkrphumikhwamchanayechphaathanghlaykhn inkarrwmknsrangphaphekhiynkhnadihythiphsanxngkhprakxbcakcitrkrehlanninnganchinediywkn aetkmibangthicitrkrdtchthaechnnganekhiynkhxngfilips wuewxrmnthimkcaephimkhnaelamaekhaipinphaphphumithsnthaihepnphaphkarlastw hruxkarpathaknepntn hrux aebrechm aela xaedriyn fan edx ewledx thiephimkhn hruxstweliyngxiththiphltxma nkedinthangrxerux ody filips wuewxrmn kh s 1649 phumithsnthimilksnakarekhiynkhxngwuewxrmnthicatxngmimakhawedninphaph karecrca ody ecxrard ethxrbxrkh raw kh s 1654 khwamsaerckhxngcitrkrrmdtchinkhriststwrrsthi 17 thiehnuxkwankekhiynrunkxn xyangehnidchd aelahlngcaknninkhriststwrrsthi 18 aela 19 kimmicitrkrdtchmichuxesiyngnxkenethxraelnd aelaemuxmathungplaysmycitrkrkerimbnknwaphusuxmikhwamsnicnganekhiynkhxngcitrthiesiychiwitipaelwmakkwanganekhiynkhxngphuyngmichiwitxyu citrkryukhthxngkhxngenethxraelndepnswnsakhykhxngphuthithuxknwaepncitrkrrmchnkhru sungepnkhathikhidkhunodysilpindtchinkhriststwrrsthi 18 exng twxyangechnnganekhiynkhxngfilips wuewxrmnsungmidwyknkwa 60 chinthihxcitrkrrmchnkhruaehngedrsedn aelaxikkwa 50 chinthiphiphithphnthehxrmithacinrsesiy aetchuxesiyngkhxngnganinchwngnixyulksnakarekhiynthiepliynaeplngiperuxy echnkhwamepliynaeplngkhxngnganekhiyn aermbrngd odyechphaatngaetsmyoraemntikh citrkrxunkaesdngihehncakthanathidikhunmaaelarakhakhxngphaphekhiynthieriykrxngcaktladid inplaysmynkekhiynbangkhnthiekhiynphaphinilednkprasbkhwamsaercaelamichuxesiyngepnthiruckknodythwip tngaetklangkhriststwrrsthi 19 epntnmanganscniymkhxngcitrkrrmpraephthtang kmaidrbkhwamsnicepnxnmakoyhns ewremrphuthiepncitrkrthiaethbcaimepnthiruckklaymamichuxesiyngkkhriststwrrsthi 19 sungemuxmathungchwngnnnganhlaychinkhxngewemrkidrbkarrabuwaekhiynodycitrkrphuxunipaelw aetkarthinganekhiynkhxngewemrepnswnhnungkhxngngansasmsakhy thiechuxknwaekhiynodycitrkrphuxun aesdngihehnthungkhunphaphkhxngkarekhiynphaphaetlaphaphthidiphxthithaihepnthiruckknknodythwip aemwanganthngklumcayngimsamarthrabuidaennxnwaepnnganthiekhiynodyewemrcnkrathnginewlatxmaktam aeminchwngewlatxmakyngmicitrkrxunkidrbkardungkhunmacakkarepncitrkrthiimmichuxesiyngethaidnk maepncitrkrthiruckknechnnganekhiynphaphningxyangngay ody Adriaen Coorte inkhristthswrrs 1950 aelacitrkrphumithsn Jacobus Mancaden aela emuxtnkhriststwrrsniexng epntn phaphchiwitpracawnkhxngdtchmichuxesiyngmaepnewlanan aetinchwngaerkkmiidrbkarykyxngknethaidnk occhw eryonldscitrkrphumichuxesiyngkhxngxngkvskhxngkhriststwrrsthi 18 thangkarekhiynaebbsilpasthabnxxkkhwamehnekiywkbsilpadtchiwhlaykhx eryonldsprathbicinphaph thiekhiynodyewremr aelakhwammichiwitchiwakhxngphaphehmuxnodyhals aetkxxkkhwamehnwaesiydaythihalskhad khwamxdthn phxthicaekhiynphaphihesrcxyangthuktxng aelaraphungwaesiydaythiyan stinimidekidinxitaliaelaidrbxiththiphlkhxngnganekhiynkhxngyukhfunfusilpwithya imechnnnkhwamsamarthkxaccanaipichinthangthidikhunkwathiehnxyu aetinsmykhxngeryonldskhwamhmaysxnenguxnthangcriythrrmkhxngkarekhiynphaphchiwitpracawnkhxngdtchkerimyakthicaekhaicknaelw hruxaemaetinenethxraelndexng twxyangthisakhykidaekphaphekhiynchux karecrca The Gallant Conversation thiekhiynody ecxrard ethxrbxrkh thiekhiynraw kh s 1654 phaphniidrbkarsrresriyodyekxethxwaepnnganthilaexiydxxninkaraesdngphaphkhxngphxthikalngdusngsxnluksaw aetnkwichakarsmyihmbangkhnmikhwamehnwaepnphaphkareluxkstrithiekidkhunphayinsthanthisahrbthakarkhapraewni phaphnimidwyknsxngphaph ebxrlin aela xmsetxrdm aelaimthrabknxyangepnthiaennxnwa ehriyybngkhwamkhid inmuxkhxngchaythinngxyuthuklbxxkiphruxekhiynthbinphaphthngsxngphaph inkhrunghlngkhxngkhriststwrrsthi 18 phaphscniymaebbphunthan down to earth aethnthicaepnphaphchnchnsungkepnthiniymkhxngphrrkhwikinxngkvs aelainfrngesskmikhwamsmphnthkbkhxngyukheruxngpyyathiepnaerngbndalicihkarptirupkhxngsngkhm inkhriststwrrsthi 19 emuxscniymepnthiyxmrbaelanbthuxknodythwip aelathvsdikarcdladbkhunkhakhxngsilpahmdkhwamniymlng citrkrrwmsmykerimyumkhwamkhidcakcitrkrphaphchiwitpracawnthngmummxngkhxngscniymaelakarichsingtanginphaphinkarsuxenuxhakhxngphaph aelaekhiynphaphthimihwkhxthikhlaykhlungknaetmikhnadthiihykwakhxngcitrkrdtchmak indankarekhiynphaphphumithsn citrkrdtchthiekhiynnganaebbxitali Italianate artist epnklumthimixiththiphlmakthisudaelaepnthinbthuxknmakthisudinkhriststwrrsthi 18 aetcitrkroraemntikhchawxngkvsechncxhn khxnstaebilpranamwaepnnganthi aeplkplxm artificiality aelahnipniymcitrkrthiekhiynaebb tonal aela khlassikaethnthi aetodythwipaelwthngcitrkrrmchiwitpracawnaelaphumithsnmixiththiphlaelaepnthiniymtxmcnthungkhriststwrrsthi 19citrkrcitrkrkhnsakhy ody aermbrngd ody oyhns ewremr ixaeskhihphreckhxp ody okhefirt flingk raw kh s 1638 aermbrngdepncitrkrphumichuxesiyngaelaepnthiniymmakphayinpi kh s 1631 aelaepnphuthiidrbnganphaphehmuxnsakhy hlaychincakxmsetxrdm aetmainrawpi kh s 1640 nganekhiynkhxngaermbrngdkerimklayepnnganthisngblngsungxaccaepnphlsathxnmacakkhwamthukkhcakehtukarninchiwitswntw khwammichiwitchiwamaaethndwyxarmnthiaethcring nganekhiynekiywkbsasnainyukhnimkcaepnphaphthimacakphnthsyyaedim phaphekhiynthimichuxthisudinyukhnikidaekphaph thiekhiynesrcinpi kh s 1642 incudsungsudkhxngyukhthxng thiepnphaphthiidrbcangihekhiynephuxaekhwninhxngrbrxngkhxnghxprachumthisrangihm Musketeers Meeting Hall inxmsetxrdm citrkrkhnsakhyxikkhnhnunginyukhnikhuxoyhns ewremr thimikhwamedninkarichsithiis transparent colors aelakarwangxngkhprakxbkhxngphaph aelakarichaesngthidielis ewremrmkcaekhiynphaphphayinbaneruxn aemaetphaphphumithsnthiekhiynsxngphaphkmikrxbepnhnatang chakphayinbaneruxnthiwadmkcaepnphaphchiwitpracawnhruxphaphehmuxn nganchinthiepnthiruckknaephrhlaykhuxphaph sawistanghumuk thiekhiynrawpi kh s 1665 Utrecht School epnklumnkekhiynthiekhiynphaphthiemuxngxuethrkhthinenethxraelndpccubn inkhriststwrrsthi 17 nganekhiynkhxngnkekhiynklumniepnnganekhiynaebbbaorkthiidrbxiththiphlcakkharawcoc citrkrxun citrkrkhnsakhy khxngyukhnikidaek edirkh fan babuern Dirck van Baburen citrkrrmprawtisastr efxrdinand obl Ferdinand Bol prawtisastraelakhristsasna xbrahm oblemirth Abraham Bloemaert citrkrrmprawtisastr xaedriyn ebraewxr Adriaen Brouwer chiwitpracawn exlebirt khuyph Albert Cuyp phumithsnenethxraelndaelaxitali ekxrrit du Gerrit Dou chiwitpracawn Willem Drost prawtisastraelakhristsasna Carel Fabritius prawtisastraelakhristsasna aelachiwitpracawn okhefirt flingk Govert Flinck prawtisastraelakhristsasna aelaphaphehmuxn yan fan okeyn Jan van Goyen phumithsn frns hals Frans Hals phaphehmuxnklum phaphehmuxnediyw epiyetxr edx hukh Pieter de Hooch chiwitpracawn epiyetxr lastmn Pieter Lastman prawtisastraelakhristsasna cudith elysetxr Judith Leyster chiwitpracawn yan liewns Jan Lievens prawtisastraelakhristsasna aelaphaphehmuxn Jacob van Loo citrkrrmprawtisastr Nicolaes Maes phaphehmuxnaelachiwitpracawn Maria van Oosterwyck phaphning xaedriyn fan oxsetd Adriaen van Ostade chiwitpracawnaelachiwitchawban Paulus Potter phumithsn aermbrngd Rembrandt Harmenszoon van Rijn prawtisastraelakhristsasna aelaphaphehmuxn Rachel Ruysch phaphning Pieter Saenredam phayinwdaelaphumithsnemuxng yan stin Jan Steen chiwitpracawn oyhns ewremr Johannes Vermeer chiwitpracawn Joachem Wtewael citrkrrmprawtisastr ehndrikh ethxrbrukekn Hendrick ter Brugghen citrkrrmprawtisastrraebiyngphaphcitrkrrmprawtisastr karlktwyuorpa aermbrngd Aeneas at the Court of Latinus rawpi kh s 1661 1663 efxrdinand obl Roman Charity Cimon and Peres edirkh fan babuern Theagenes receiving the palm of honour from Chariclea rawpi kh s 1626 xbrahm oblemirth chalxrangcakkangekhn rawpi kh s 1612 epiyetxr lastmn citrkrrmphaphehmuxn phaphehmuxntnexng rawpi kh s 1633 1666 aermbrngd phaphehmuxntnexng phubriharsmakhmphxkhaiwn rawpi kh s 1663 efxrdinand obl phaphehmuxnklumthharrbcanginbrryakasthisnuksnan kh s 1633 frns hals btheriynkaywiphakhkhxngnayaephthythulph rawpi kh s 1632 aermbrngd citrkrrmphaphchiwitpracawn sawistanghumuk kh s 1665 oyhns ewremr edkhyingxancdhmay rawpi kh s 1662 ecxrard ethxrbxrkh withifngwithirxng As the Old Sing So Twitter the Young rawpi kh s 1665 yan stin lanbanthiedlf Courtyard of a House in Delft epiyetxr edx hukh kh s 1658 edkchayaelaedkhying kbaemwaelaplaihl cudith elysetxr mikaresnxsuphasithruxsylksnkhxngphaphnikniptang Lustige Gesellschaft kh s 1630 cudith elysetxr sawichkhiekiyc sawichthimipyhaepn hwkhxthiaemsekhiynhlayphaph Le depecement du porc rawpi kh s 1645 stridumkbchaysxngkhn rawpi kh s 1658 epiyetxr edx hukh strieliyngaemw rawpi kh s 1662 1665 kaebriyl emthsu citrkrrmphumithsn phumithsncakharelm Jacob van Ruisdael ruysedlepncitrkrhlkkhxngklumni phumiphlnganinhlayhwkhxkwacitrkrxun phumithsnsnthray yan fan okeyn twxyangkhxngkarekhiyn in chwngothn tladokrthaela wdesntbaow kh s 1657 Les patineurs rawpi kh s 1645 yan fan okeyn elneskt rawpi kh s 1610 1620 ehndrikh xewxraekhmph Hendrick Avercamp ehndrikh xewxraekhmph phuekhiynechphaachakvduhnaw khxnghmuchn phumithsnsnthray yan fan okeyn twxyangkhxngkarekhiyn in chwngothn wwhnum kh s 1647 wdthiewiyr kh s 1647 yan fan edxr ehyedn phayinwdihm phayekhiynphayinsingkxsrang kh s 1662 citrkrrmphaphning phaphningkbnalika thimichakhlngmud raw kh s 1665 xaharechakbphay aeblkhebxrri kh s 1631 wilelm ekhlssun ehda phumichuxesiynginkarekhiynphaphthimiphiwsathxn khwamimethiyng kh s 1629 phaphningkbnkyungtay kh s 1692 ody Jan Weenix chakinswninkhvhasninchnbth phaphningkhxngdxkim bnotahinxxn kh s 1716 Rachel Ruysch xangxingLloyd 15 citing Jonathan Israel Perhaps only 1 survive today and only about 10 of these were of real quality Jan Steen was an innkeeper Aelbert Cuyp was one of many whose wealthy wives pursuaded them to give up painting although Karel Dujardin seems to have run away from his to continue his work See their biographies in MacLaren The fish artist Jacob Gillig also worked as a warder in the Utrecht prison conveniently close to the fish market 1 2016 03 09 thi ewyaebkaemchchin Bankrupts included Rembrandt Frans Hals Jan de Bray and many others Franits 217 and ff on 1672 and its effects Fuchs 43 Prak 241 Lloyd 97 Fuchs 43 Franits book is largely organized by city and by period Slive by subject categories Fuchs 76 See Slive 296 7 and elsewhere Fuchs 107 Fuchs 62 R H Wilenski Dutch Painting Prologue pp 27 43 1945 Faber London Fuchs 62 3 Fuchs 43 Slive 13 14 Fuchs 62 69 Franits 65 Catholic 17th century Dutch artists included Abraham Bloemaert and Gerard van Honthorst from Utrecht and Jan Steen Paulus Bor Jacob van Velsen plus Vermeer who probably converted at his marriage 2 Jacob Jordaens was among Flemish Protestant artists Slive 22 4 Fuchs 69 77 Fuchs 77 78 Trip family tree 2021 01 09 thi ewyaebkaemchchin Her grandparents various portraits by Rembrandt are famous Ekkart 17 n 1 on p 228 Shawe Taylor 22 23 32 33 on portraits quotation from 33 Ekkart 118 Ekkart 130 and 114 Ekkart Marike de Winkel essay 68 69 Ekkart Marike de Winkel essay 66 68 Ekkart Marike de Winkel essay 69 71 Another version at Apsley House with a different composition but using most of the same moralizing objects is analysed by Franits 206 9 Fuchs 42 and Slive 123 Slive 123 Franits 1 mentioning costume in works by the Utrecht Caravagggisti and architectural settings as especially prone to abandon accurate depiction Franits 4 6 summarizes the debate for which Svetlana Alpers The Art of Describing 1983 is an important work though see Slive s terse comment on p 344 See also Franits 20 21 on paintings being understood differently by contemporary individuals and his p 24 On Diderot s Art Criticism Mira Friedman p 36 2011 07 21 thi ewyaebkaemchchin Fuchs 39 42 analyses two comparable scenes by Steen and Dou and p 46 Franits 180 182 though he strangely seems to discount the possibility that the couple are married Married or not the hunter clearly hopes for a return from his gift of punning birds though the open shoe and gun on the floor pointing in different directions suggest he may be disappointed Metsu used opposed dogs several times and may have invented the motif which was copied by Victorian artists A statue of Cupid presides over the scene Fuchs pp 54 44 45 Slive 191 Explored at length by Schama in his Chapter 6 See also the analysis of The Milkmaid Vermeer claimed by different art historians for each tradition Franits 24 27 Franits 34 43 Presumably these are intended to imply houses abandoned by Catholic gentry who had fled south in the Eighty Years War His self portrait shows him equally implausibly working in just such a setting Fuchs 80 Slive 189 the study is by H U Beck 1991 Slive 190 quote 195 202 Derived from works by Allart van Everdingen who unlike Ruysdael had visited Norway in 1644 Slive 203 Slive 225 Rembrandt owned seven Seghers after a recent fire only 11 are now thought to survive how many of Rembrandt s remain is unclear Slive 268 273 Slive 273 6 Slive 213 216 MacLaren 79 Slive 279 281 Fuchs 109 Fuchs 113 6 and only a few others see Slive 128 320 321 and index and Schama 414 The outstanding woman artist of the age was Judith Leyster Fuchs 111 112 Slive 279 281 also covering unseasonal and recurring blooms Slive 287 291 Slive 212 See Reitlinger 11 15 23 4 and passim and listings for individual artists See Reitlinger 483 4 and passim Slive 319 Slive 191 2 Slive 144 Vermeer 41 2 Hals 173 Steen Slive 158 160 coin quote and Fuchs 147 8 who uses the title Brothel Scene Franits 146 7 citing Alison Kettering says there is deliberate vagueness as to the subject and still uses the title Paternal Admonition Reitlinger I 11 15 Quote p 13 Slive 225 Franits 164 6 MacLaren 227 Franits 152 6 Schama 455 460 discusses the general preoccupation with maidservants the most dangerous women of all p 455 See also Franits 118 119 and 166 on servants brrnanukrm Ekkart Rudi Ekkart and Quentin Buvelot eds Dutch Portraits The Age of Rembrandt and Frans Hals Mauritshuis National Gallery Waanders Publishers Zwolle 2007 ISBN 978 1 85709 362 9 Franits Wayne Dutch Seventeenth Century Genre Painting Yale UP 2004 ISBN 0 300 10237 2 Fuchs RH Dutch painting Thames and Hudson London 1978 ISBN 0 500 20167 6 Ingamells John The Wallace Collection Catalogue of Pictures Vol IV Dutch and Flemish Wallace Collection 1992 ISBN 0 900785 37 3 Lloyd Christopher Enchanting the Eye Dutch Paintings of the Golden Age Royal Collection Publications 2004 ISBN 1 902163 90 7 MacLaren Neil The Dutch School 1600 1800 Volume I 1991 National Gallery Catalogues National Gallery London ISBN 0 947645 99 3 Prak Maarten Guilds and the Development of the Art Market during the Dutch Golden Age In Simiolus Netherlands Quarterly for the History of Art vol 30 no 3 4 2003 pp 236 251 Reitlinger Gerald The Economics of Taste Vol I The Rise and Fall of Picture Prices 1760 1960 Barrie and Rockliffe London 1961 Schama Simon The Embarrassment of Riches An Interpretation of Dutch Culture in the Golden Age 1987 Shawe Taylor Desmond and Scott Jennifer Bruegel to Rubens Masters of Flemish Painting Royal Collection Publications London 2008 ISBN 978 1 905686 00 1 Slive Seymour Dutch Painting 1600 1800 Yale UP 1995 ISBN 0 300 07451 4duephimcitrkrrmtawntk prawtisastrkhxngcitrkrrm silpaenethxraelnd yukhthxngkhxngenethxraelnd citrkrrmyukhbaork ladbkhunkhakhxngsilpa citrkrrmprawtisastr citrkrrmphaphehmuxn citrkrrmphaphchiwitpracawn citrkrrmphumithsn citrkrrmphaphning silpakhristsasna kharawcoc citrkrrmchnkhru aebmobchantiaehlngkhxmulxunSvetlana Alpers The Art of Describing Dutch Art in the Seventeenth Century Chicago University of Chicago Press 1983