อาร์เอ็มเอส ควีนเอลิซาเบธ (อังกฤษ: RMS Queen Elizabeth) เป็นเรือเดินสมุทรของสายการเดินเรือคูนาร์ดไลน์ ร่วมกับอาร์เอ็มเอส ควีนแมรี ทั้งสองลำให้บริการเดินเรือรายสัปดาห์ระหว่างเซาแทมป์ตัน ในสหราชอาณาจักร แชร์บูร์ ในฝรั่งเศส และนครนิวยอร์ก ในสหรัฐอเมริกา
อาร์เอ็มเอส ควีนเอลิซาเบธ ในแชร์บูร์ ฝรั่งเศส เมื่อปี 1966 | |
ประวัติ | |
---|---|
สหราชอาณาจักร | |
ชื่อ |
|
ตั้งชื่อตาม | สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธ พระราชชนนี |
เจ้าของ |
|
ท่าเรือจดทะเบียน |
|
เส้นทางเดินเรือ | ข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก |
Ordered | 6 ตุลาคม 1936 |
อู่เรือ |
|
Yard number | 552 |
Way number | 4 |
ปล่อยเรือ | 4 ธันวาคม 1936 |
เดินเรือแรก | 27 กันยายน 1938 |
Christened | 27 กันยายน 1938 |
สร้างเสร็จ | 2 มีนาคม 1940 |
Maiden voyage | 16 ตุลาคม 1946 |
บริการ | 1946–1972 |
หยุดให้บริการ | 9 มกราคม 1972 |
รหัสระบุ |
|
ความเป็นไป | เพลิงไหม้และพลิกคว่ำ ซากเรือถูกรื้อออกบางส่วนระหว่างปี 1974–75 ส่วนที่เหลือถูกฝังอยู่ใต้ดินจากการถมทะเล |
ลักษณะเฉพาะ | |
ประเภท: | เรือเดินสมุทร |
ขนาด (ตัน): | 83,673 ตันกรอส |
ขนาด (ระวางขับน้ำ): | 83,000+ ลองตัน (84331+ เมตริกตัน) |
ความยาว: | 1,031 ฟุต (314.2 เมตร) |
ความกว้าง: | 118 ฟุต (36.0 เมตร) |
ความสูง: | 233 ฟุต (71.0 เมตร) |
กินน้ำลึก: | 38 ฟุต 9 นิ้ว (11.8 เมตร) |
ดาดฟ้า: | 13 |
ระบบพลังงาน: | 12 × หม้อไอน้ำ Yarrow |
ระบบขับเคลื่อน: |
|
ความเร็ว: | |
ความจุ: | 2,283 |
ลูกเรือ: | 1,000+ |
ในช่วงกลางทศวรรษที่ 1930 ขณะที่ (John Brown and Company) กำลังต่อเรือลำนี้ที่ สกอตแลนด์ ตัวโครงเรือยังไม่มีชื่อ แต่ใช้รหัสภายในว่า Hull 552 Hull 552 ถูกปล่อยลงน้ำเมื่อวันที่ 27 กันยายน 1938 และได้รับการตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่สมเด็จพระราชินีอลิซาเบธ พระอัครมเหสีในสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6 โดยเรือควีนเอลิซาเบธมีการออกแบบที่ปรับปรุงจากเรือควีนแมรี มีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อย โดยมีความยาวเพิ่มขึ้น 12 ฟุต ซึ่งถือเป็นเรือโดยสารขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยสร้างมาในเวลานั้น และยังคงครองสถิตินานถึง 56 ปี เรือเริ่มต้นทำหน้าที่เป็นเรือขนส่งทหารในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองตั้งแต่เดือนมีนาคม 1940 และกลับมาทำการเดินเรือเชิงพาณิชย์ในฐานะเรือเดินสมุทรตามวัตถุประสงค์ดั้งเดิมเป็นครั้งแรกในเดือนตุลาคม 1946
ต่อมา ด้วยความนิยมในการเดินทางข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกด้วยเรือลดลง ทั้งเรือควีนเอลิซาเบธและควีนแมรีจึงถูกแทนที่ด้วยเรือควีนเอลิซาเบธ 2 ลำใหม่ที่มีขนาดเล็กและประหยัดกว่า โดยเรือควีนเอลิซาเบธ 2 ทำการเดินทางเที่ยวปฐมฤกษ์ในปี 1969 เรือควีนแมรีหยุดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 ธันวาคม 1967 และถูกขายให้กับเมืองลองบีช รัฐแคลิฟอร์เนีย ส่วนเรือควีนเอลิซาเบธได้ปลดประจำการหลังจากเดินทางข้ามมหาสมุทรครั้งสุดท้ายไปยังนครนิวยอร์ก เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 1968
เรือควีนเอลิซาเบธถูกย้ายไปยัง รัฐฟลอริดา และดัดแปลงเป็นแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งเปิดให้เข้าชมในเดือนกุมภาพันธ์ 1969 แต่กิจการไม่ประสบความสำเร็จ จึงต้องปิดตัวลงในเดือนสิงหาคม 1970 สุดท้าย เรือควีนเอลิซาเบธถูกขายให้กับ นักธุรกิจชาวฮ่องกง ผู้มีแผนจะดัดแปลงเป็นเรือสำราญมหาวิทยาลัยลอยน้ำ ชื่อว่า "ซีไวส์ยูนิเวอร์ซิตี" (Seawise University) แต่ในปี 1972 ขณะที่เรือเข้ารับการปรับปรุงใน ก็ได้เกิดเพลิงไหม้ขึ้นบนเรืออย่างไม่ทราบสาเหตุ และตัวเรือก็เอียงไปด้านข้างเนื่องจากน้ำที่ใช้ดับเพลิง ต่อมาในปี 1973 ซากเรือถูกมองว่าเป็นสิ่งกีดขวางการเดินเรือในบริเวณนั้น จึงมีการรื้อถอนซากเรือบางส่วนในปี 1974–1975
การออกแบบและการสร้าง
ในวันที่เรืออาร์เอ็มเอส ควีนแมรี ออกเดินทางในเที่ยวปฐมฤกษ์ ประธานบริษัทคูนาร์ดไลน์ ได้แจ้งให้ทีมผู้ออกแบบเรือซึ่งนำโดย จอร์จ พาเทอร์สัน เริ่มวางแผนออกแบบเรือลำที่สองตามที่วางแผนไว้ ต่อมาในวันที่ 6 ตุลาคม 1936 ได้มีการลงนามสัญญาระหว่างคูนาร์ดไลน์กับผู้สนับสนุนทางการเงินจากรัฐบาลอย่างเป็นทางการ
เรือลำใหม่มีการปรับปรุงการออกแบบจากเรือควีนแมรีหลายอย่าง เช่น ลดจำนวนหม้อไอน้ำลงเหลือ 12 ตัว จากเดิมที่มี 24 ตัวบนควีนแมรี การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้สามารถลดจำนวนปล่องไฟลง 1 ปล่อง เพื่อเพิ่มพื้นที่สำหรับดาดฟ้าบรรทุกสินค้าและผู้โดยสาร ปล่องไฟทั้งสองได้รับการออกแบบให้ยึดตัวเองได้โดยไม่ต้องใช้สายยึดด้านนอก และมีการตรึงภายในเพื่อให้ดูสวยงาม นอกจากนี้ ยังมีการยกเลิกการใช้ (well deck - ช่องว่างที่ต่ำกว่าระดับดาดฟ้าหลัก มักใช้สำหรับขนถ่ายสินค้าที่หัวเรือ) ทำให้ได้รูปทรงของตัวเรือที่เพรียวลมยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีการออกแบบหัวเรือให้แหลมและเฉียงขึ้น เพื่อเพิ่มจุดยึดสมออีก 1 จุด เรือลำใหม่นี้มีความยาวกว่าเรือควีนแมรี 12 ฟุต และมีระวางขับน้ำมากกว่า 4,000 ตัน
อาร์เอ็มเอส ควีนเอลิซาเบธ สร้างโดยบริษัท ในไคลด์แบงก์ สกอตแลนด์ บริเตนใหญ่ ระหว่างการสร้าง ตัวเรือมักถูกเรียกด้วยหมายเลขประจำอู่ว่า Hull 552 การออกแบบภายในเป็นผลงานของทีมศิลปินที่นำโดยสถาปนิก บันได โถง และทางเข้า สร้างขึ้นโดย บริษัท เอช.เอช. มาร์ติน แอนด์ โค (H.H. Martyn & Co.) คูนาร์ดไลน์วางแผนให้ปล่อยเรือลงน้ำในเดือนกันยายน 1938 และการตกแต่งภายในจะแล้วเสร็จเพื่อให้เรือเริ่มให้บริการในฤดูใบไม้ผลิปี 1940สมเด็จพระราชินีอลิซาเบธทรงเป็นผู้ประกอบพิธีลงน้ำเรือด้วยพระองค์เองเมื่อวันที่ 27 กันยายน 1938 เล่ากันว่า ตัวเรือเริ่มเคลื่อนลงน้ำก่อนที่พระราชินีจะทรงทำพิธีอย่างเป็นทางการ และด้วยความว่องไว พระราชินีทรงสามารถทุบขวดไวน์แดงออสเตรเลียลงที่หัวเรือได้ทันก่อนที่มันจะไหลพ้นระยะ จากนั้นตัวเรือได้ถูกนำไปเทียบท่าเพื่อทำการตกแต่งภายใน มีการประกาศว่า ในวันที่ 23 สิงหาคม 1939 สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6 และสมเด็จพระราชินีอลิซาเบธจะทรงเสด็จมาเยี่ยมชมเรือและห้องเครื่อง โดยกำหนดวันเดินทางเที่ยวปฐมฤกษ์ไว้เบื้องต้นคือวันที่ 24 เมษายน 1940 แต่เนื่องจากสงครามโลกครั้งที่สอง ทำให้ทั้งสองเหตุการณ์นี้ถูกเลื่อนออกไป และแผนการของคูนาร์ดไลน์ก็ถูกยกเลิก
เรือควีนเอลิซาเบธจอดเทียบท่าเพื่อทำการตกแต่งภายในจนถึงวันที่ 2 พฤศจิกายน 1939 เมื่อออกใบอนุญาตพิเศษเพื่อรับรองว่าเรือพร้อมใช้งาน วันที่ 29 ธันวาคม เครื่องยนต์ของเรือได้รับการทดสอบเป็นครั้งแรก ตั้งแต่เวลา 09:00–16:00 น. โดยปลดใบจักรออกเพื่อตรวจสอบอุณหภูมิ แรงดันน้ำมันและไอน้ำ สองเดือนต่อมา คูนาร์ดไลน์ได้รับจดหมายจากวินสตัน เชอร์ชิล ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่ง สั่งให้เรือออกจากไคลด์แบงก์โดยเร็วที่สุดและ "อยู่ให้ห่างจากเกาะอังกฤษตราบที่คำสั่งยังคงมีผล"[]
สงครามโลกครั้งที่สอง
ในช่วงเริ่มต้นสงครามโลกครั้งที่สอง มีการตัดสินใจอย่างรอบคอบว่า เรือควีนเอลิซาเบธมีความสำคัญอย่างมากต่อความพยายามในการทำสงคราม ด้วยเหตุนี้ การเคลื่อนไหวของเรือจึงต้องถูกปกปิดมิให้สายลับเยอรมันที่ปฏิบัติการในบริเวณไคลด์แบงก์สามารถติดตามได้ แผนอำพรางเรือจึงถูกริเริ่มขึ้น โดยการสื่อสารข้อมูลเท็จว่าเรือจะเดินทางไปเซาแทมป์ตันเพื่อเสร็จสิ้นการตกแต่งภายใน อีกปัจจัยหนึ่งที่เร่งให้เรือออกจากไคลด์แบงก์คือ ต้องเคลียร์พื้นที่ท่าเทียบเรือสำหรับการติดตั้งอุปกรณ์ขั้นสุดท้ายของ (HMS Duke of York) สำหรับการติดตั้งอุปกรณ์ขั้นสุดท้าย เฉพาะท่าเทียบเรือของจอห์นบราวน์เท่านั้นที่มีขนาดใหญ่พอที่จะรองรับเรือประจัญบานชั้นคิงจอร์จที่ 5 ได้
สิ่งสำคัญประการหนึ่งที่จำกัดวันออกเดินทางของเรือคือ ระดับน้ำในแม่น้ำไคลด์ ในปีนั้นมีน้ำขึ้นสูงเพียงสองครั้งเท่านั้น ที่ระดับน้ำจะสูงพอให้เรือขนาดใหญ่เช่นควีนเอลิซาเบธออกจากอู่ต่อเรือไคลด์แบงก์ได้ แย่ไปกว่านั้น ฝ่ายข่าวกรองเยอรมันก็ทราบข้อเท็จจริงนี้อยู่ สำหรับการเดินทางครั้งนี้ มีการจัดสรรพกำลังพลเพียง 400 นายเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่ถูกย้ายมาจากเรืออาร์เอ็มเอส แอควิเทเนีย (RMS Aquitania) โดยได้รับคำสั่งปลอมว่าเป็นเพียงการเดินทางชายฝั่งระยะสั้นไปยังเซาแทมป์ตัน มีการส่งชิ้นส่วนต่าง ๆ ไปยังเซาแทมป์ตันล่วงหน้า และเตรียมความพร้อมสำหรับการนำเรือควีนเอลิซาเบธ เข้าสู่ เพื่อตกแต่งภายในขั้นสุดท้าย เพื่อสร้างหลักฐานปลอม ชื่อของพนักงานอู่ต่อเรือของจอห์นบราวน์จึงถูกจองไว้ที่โรงแรมต่าง ๆ ในเซาแทมป์ตัน นอกจากนี้ กัปตัน (John Townley) ก็ได้รับแต่งตั้งเป็นกัปตันคนแรกของเรือควีนเอลิซาเบธ ทาวน์ลีย์เคยมีประสบการณ์เป็นกัปตันเรือแอควิเทเนียมาแล้วหนึ่งเที่ยว และเคยเป็นกัปตันเรือขนาดเล็กหลายลำของคูนาร์ดมาก่อน ทั้งทาวน์ลีย์และลูกเรือ 400 คนได้รับแจ้งจากตัวแทนบริษัทก่อนออกเดินทาง ให้เตรียมสัมภาระสำหรับการเดินทางไกล โดยแจ้งว่าพวกเขาอาจจะไม่ได้กลับบ้านนานถึง 6 เดือน
เมื่อเข้าสู่ช่วงต้นเดือนมีนาคม 1940 เรือควีนเอลิซาเบธ ก็พร้อมสำหรับการเดินทางลับ สีประจำบริษัทคูนาร์ดเดิมถูกทาทับด้วยสีเทาเข้มแบบเรือรบ และในเช้าวันที่ 3 มีนาคม เรือได้ออกจากท่าจอดเรือในแม่น้ำไคลด์อย่างเงียบเชียบ แล่นออกจากแม่น้ำเพื่อแล่นต่อไปตามชายฝั่ง ระหว่างทางได้พบกับ ซึ่งนำเอาคำสั่งปิดผนึกมามอบให้กับกัปตันโดยตรง ขณะรอคอยทูตของกษัตริย์ เรือควีนเอลิซาเบธได้ทำการเติมเชื้อเพลิง ปรับเข็มทิศ และทดสอบอุปกรณ์บางอย่างเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะมุ่งหน้าสู่จุดหมายปลายทางอันเป็นความลับ
กัปตันทาวน์ลีย์เพิ่งทราบภายหลังว่า เขาต้องนำเรือมุ่งตรงไปยังนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ซึ่งขณะนั้นยังเป็นประเทศที่วางตัวเป็นกลาง โดยไม่ได้รับอนุญาตให้หยุดแวะพักหรือแม้แต่ชะลอความเร็วเพื่อส่งพนักงานนำร่องท่าเรือเซาแทมป์ตันที่ขึ้นมาประจำเรือตั้งแต่ไคลด์แบงก์ลงจากเรือ และต้องรักษาความเงียบทางวิทยุอย่างเคร่งครัด ในวันนั้นเอง ช่วงเวลาที่เรือควีนเอลิซาเบธควรจะเดินทางถึงเซาแทมป์ตัน กลับกลายเป็นว่าเมืองดังกล่าวถูกกองทัพอากาศเยอรมันทิ้งระเบิดอย่างหนัก เรือควีนเอลิซาเบธแล่นข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกเป็นรูปซิกแซก เพื่อหลบหนีเรือดำเยอรมัน (U-boat) ใช้เวลาเดินทาง 6 วัน ด้วยความเร็วเฉลี่ย 26 นอต เมื่อมาถึงนครนิวยอร์ก เรือได้เทียบท่าข้างเรือควีนแมรี และเรือนอร์มังดีของฝรั่งเศส ซึ่งถือเป็นครั้งเดียวในประวัติศาสตร์ที่เรือเดินสมุทรขนาดใหญ่ที่สุดในโลก 3 ลำมาจอดเทียบท่าข้างกัน เมื่อเดินทางถึงนครนิวยอร์กแล้ว กัปตันทาวน์ลีย์ได้รับโทรเลขสองฉบับ ฉบับแรกจากภรรยาแสดงความยินดีกับภารกิจสำเร็จ อีกฉบับจากสมเด็จพระราชินีอลิซาเบธ ทรงขอบคุณสำหรับการนำเรือมาส่งอย่างปลอดภัย หลังจากนั้นเรือควีนเอลิซาเบธก็ถูกจัดการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ไม่อนุญาตให้ผู้ใดขึ้นเรือโดยไม่ได้รับอนุญาตล่วงหน้า แม้แต่เจ้าหน้าที่ท่าเรือเองก็ตาม
เรือควีนเอลิซาเบธออกเดินทางจากท่าเรือนิวยอร์ก เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 1940 มุ่งหน้าสู่สิงคโปร์ เพื่อเข้ารับการปรับเปลี่ยนเป็นเรือขนส่งทหาร ระหว่างทางได้แวะพักเติมเชื้อเพลิงและเสบียงที่ตรินิแดดและเคปทาวน์ สุดท้ายก็เดินทางถึงอู่ทหารเรือที่สิงคโปร์ ที่นี่เรือได้รับการติดตั้ง และตัวเรือก็ถูกทาสีเทาใหม่[]
เรือควีนเอลิซาเบธเดินทางออกจากสิงคโปร์ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 1942 และเดินทางมาถึง รัฐบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา อย่างลับ ๆ ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 1942 ระหว่างนั้น เรือได้เข้ารับการปรับปรุงภายในอู่แห้ง เพื่อเพิ่มห้องพักและติดตั้งอาวุธยุทโธปกรณ์ และเหล่าช่างเรือกว่า 300 คนก็รีบเร่งทาสีตัวเรือใหม่ ในช่วงกลางเดือนมีนาคม เรือควีนเอลิซาเบธได้บรรทุกทหารอเมริกัน 8,000 นาย ออกเดินทางไกล 7,700 ไมล์ จากซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา ไปยังซิดนีย์ ออสเตรเลีย ก่อนหน้านั้น เรือเคยทำหน้าที่ขนส่งทหารออสเตรเลียไปยังสมรภูมิต่าง ๆ ในเอเชียและแอฟริกา ต่อมาหลังปี 1942 เรือควีนเอลิซาเบธพร้อมด้วยเรือควีนแมรี ก็ถูกย้ายไปประจำการที่มหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ เพื่อทำหน้าที่ลำเลียงทหารอเมริกันไปยังยุโรป
เรือควีนเอลิซาเบธและควีนแมรี ต่างทำหน้าที่เป็นเรือขนส่งทหารตลอดช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ความเร็วสูงของเรือทั้งสองลำช่วยให้พวกมันหลบหนีอันตราย โดยเฉพาะเรือดำน้ำเยอรมัน ทำให้เรือทั้งสองลำมักจะได้รับอนุญาตให้แล่นนอกกองเรือเสมอ อย่างไรก็ตาม เรือควีนเอลิซาเบธก็เคยเกือบถูกโจมตีโดยเรือดำน้ำ U-704 ซึ่งยิงตอร์ปิโดใส่ 4 ลูกเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 1942 ผู้บังคับการเรือดำน้ำ นายพลเรือ ฮอสท์ วิลเฮล์ม เคสส์เลอร์ (Horst Wilhelm Kessler) รายงานว่าได้ยินเสียงระเบิด และทางฝ่ายโฆษณาชวนเชื่อของนาซีเยอรมันก็ประกาศข่าวปลอมว่าเรือควีนเอลิซาเบธถูกจมลง แต่ความจริงแล้ว ตอร์ปิโดลูกหนึ่งเกิดระเบิดก่อนเวลาอันควร ส่งผลให้เรือควีนเอลิซาเบธไม่ได้รับความเสียหายใด ๆ
ในฐานะเรือขนส่งทหารตลอดช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เรือควีนเอลิซาเบธ บรรทุกทหารไปแล้วมากกว่า 750,000 นาย และแล่นไปไกลกว่า 800,000 กิโลเมตร (500,000 ไมล์)
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ปีสุดท้าย
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ในนิยาย
ในปี พ.ศ. 2502 เรือควีนอลิซาเบธได้ปรากฏตัวในภาพยนตร์ตลกเสียดสีของอังกฤษเรื่อง The Mouse That Roared นำแสดงโดย และ ขณะที่คณะผู้รุกรานจาก "แกรนด์ เฟนวิค" ซึ่งเป็นชาติย่อยของยุโรปในจินตนาการ ข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกเพื่อทำสงครามกับสหรัฐฯ พวกเขาพบและได้ผ่านเรือควีนเอลิซาเบธที่ใหญ่กว่ามาก และได้รู้ว่าท่าเรือนิวยอร์กถูกปิดเนื่องจากการฝึกซ้อมการโจมตีทางอากาศ
ซากเรือควีนอลิซาเบธปรากฏในภาพยนตร์เจมส์ บอนด์เรื่อง 007 เพชฌฆาตปืนทอง ในปี พ.ศ. 2517 โดยเป็นสำนักงานใหญ่ลับของ MI6
ซากเรือนี้ยังปรากฏในฉากย้อนอดีตในตอนของ มังกรอเมริกัน: เจค ลอง
อ้างอิง
- Pride of the North Atlantic, A Maritime Trilogy, David F. Hutchings. Waterfront 2003
- John Shephard, The Cunard – White Star liner Queen Elizabeth
- RMS Queen Elizabeth – Maiden Voyage after War – Cunard – Original footage, British Movietone News via youtube
- . www.relevantsearchscotland.co.uk. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 21 September 2022. สืบค้นเมื่อ 21 September 2022.
- "Big Liners Steel Frame Work Rises as Workers Speed Up" Popular Mechanics, left-side pg 346. Hearst Magazines. September 1937.
- "RMS Quen Elizabeth - 1939".
- "Classic Liners and Cruise Ships – Queen Elizabeth". Cruiseserver.net. สืบค้นเมื่อ 17 May 2012.
- RMS Queen Elizabeth from Victory to Valhalla. pp. 10
- . Cunard.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2 January 2010. สืบค้นเมื่อ 17 May 2012.
- Maxtone-Graham, John. The Only Way to Cross. New York: Collier Books, 1972, p. 355
- Pathé, British. "Sister Ship To The Queen Mary". www.britishpathe.com.
- RMS Queen Elizabeth, The Beautiful Lady. Janette McCutcheon, The History Press Ltd (8 November 2001)
- The Liverpool Post, 23 August 1937
- John Whitaker (1985). The Best. p. 238.
- Hutchings, David F. (2003) Pride of the North Atlantic. A Maritime Trilogy, Waterfront.
- Maxtone-Graham 1972, p. 358–60
- Floating Palaces. (1996) A&E. TV Documentary. Narrated by Fritz Weaver
- "Queen Elizabeth".
- The RMS Queen Elizabeth (1942) Zacha's Bay Window Gallery
- . Ayrshire Scotland. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 January 2009. สืบค้นเมื่อ 17 May 2012.
- "Two Ships Helped End WWII". สืบค้นเมื่อ 16 Aug 2020.
- Blair, Clay (2000). Hitler's U-Boat War: The Hunted, 1942–1945. New York: Modern Library. p. 107.
- "Image". rmhh.co.uk. สืบค้นเมื่อ 2024-01-31.
- "HISTORY - The CUNARD - WHITE STAR Liner rms QUEEN ELIZABETH (1938-1972)". earlofcruise.blogspot.com. สืบค้นเมื่อ 2024-01-31.
- "The Mouse That Roared (1959) Trivia". IMDB. IMDB.com. สืบค้นเมื่อ 28 June 2019.
- "RMS Queen Elizabeth". สืบค้นเมื่อ 5 March 2015.
- Hann, Michael (3 October 2012). "My favourite Bond film: The Man with the Golden Gun". The Guardian. สืบค้นเมื่อ 5 March 2015.
อ่านเพิ่มเติม
- Butler, D.A. (2002). Warrior Queens: The Queen Mary and Queen Elizabeth in World War II (1st ed.). Mechanicsburg: Stackpole Books.
- Galbraith, R. (1988). Destiny's Daughter: The Tragedy of RMS Queen Elizabeth. Vermont: Trafalgar Square.
- Maddocks, Melvin (1978). The Great Liners. Alexandria, VA: Time-Life Books. ISBN .
- Varisco, R. (2013). RMS Queen Elizabeth: Cunard's Big Beautiful Ship of Life. Gold Coast: Blurb Books.
- Harvey, Clive, 2008, R.M.S. Queen Elizabeth The Ultimate Ship, Carmania Press, London, ISBN
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
xarexmexs khwinexlisaebth xngkvs RMS Queen Elizabeth epneruxedinsmuthrkhxngsaykaredineruxkhunardiln rwmkbxarexmexs khwinaemri thngsxnglaihbrikaredineruxrayspdahrahwangesaaethmptn inshrachxanackr aechrbur infrngess aelankhrniwyxrk inshrthxemrikaxarexmexs khwinexlisaebth inaechrbur frngess emuxpi 1966prawtishrachxanackrchux1939 1968 khwinexlisabth 1968 1970 exlisaebth 1970 1972 siiwsyuniewxrsititngchuxtamsmedcphrarachiniexlisaebth phrarachchnniecakhxng1939 1949 khunard iwtstariln 1949 1968 khunardiln 1968 1970 1970 1972 thaeruxcdthaebiynliewxrphul 1940 1968 aenssx 1970 1972 esnthangedineruxkhammhasmuthraextaelntikOrdered6 tulakhm 1936xuerux skxtaelndYard number552Way number4plxyerux4 thnwakhm 1936edineruxaerk27 knyayn 1938Christened27 knyayn 1938srangesrc2 minakhm 1940Maiden voyage16 tulakhm 1946brikar1946 1972hyudihbrikar9 mkrakhm 1972rhsrabusyyaneriykkhan GBSS 5287902khwamepnipephlingihmaelaphlikkhwa sakeruxthukruxxxkbangswnrahwangpi 1974 75 swnthiehluxthukfngxyuitdincakkarthmthaellksnaechphaapraephth eruxedinsmuthrkhnad tn 83 673 tnkrxskhnad rawangkhbna 83 000 lxngtn 84331 emtriktn khwamyaw 1 031 fut 314 2 emtr khwamkwang 118 fut 36 0 emtr khwamsung 233 fut 71 0 emtr kinnaluk 38 fut 9 niw 11 8 emtr dadfa 13rabbphlngngan 12 hmxixna Yarrowrabbkhbekhluxn 4 knghnixnaaebbefuxngldrxbediyw Parsons 4 ibckr kalng 200 000 aerngma 150 000 kiolwtt khwamerw 28 5 nxt 52 8 kiolemtrtxchwomng 32 8 imltxchwomng khwamcu 2 283lukerux 1 000 inchwngklangthswrrsthi 1930 khnathi John Brown and Company kalngtxeruxlanithi skxtaelnd twokhrngeruxyngimmichux aetichrhsphayinwa Hull 552 Hull 552 thukplxylngnaemuxwnthi 27 knyayn 1938 aelaidrbkartngchuxephuxepnekiyrtiaeksmedcphrarachinixlisaebth phraxkhrmehsiinsmedcphraecacxrcthi 6 odyeruxkhwinexlisaebthmikarxxkaebbthiprbprungcakeruxkhwinaemri mikhnadihykwaelknxy odymikhwamyawephimkhun 12 fut sungthuxepneruxodysarkhnadihythisudethathiekhysrangmainewlann aelayngkhngkhrxngsthitinanthung 56 pi eruxerimtnthahnathiepneruxkhnsngthharinchwngsngkhramolkkhrngthisxngtngaeteduxnminakhm 1940 aelaklbmathakaredineruxechingphanichyinthanaeruxedinsmuthrtamwtthuprasngkhdngedimepnkhrngaerkineduxntulakhm 1946 txma dwykhwamniyminkaredinthangkhammhasmuthraextaelntikdwyeruxldlng thngeruxkhwinexlisaebthaelakhwinaemricungthukaethnthidwyeruxkhwinexlisaebth 2 laihmthimikhnadelkaelaprahydkwa odyeruxkhwinexlisaebth 2 thakaredinthangethiywpthmvksinpi 1969 eruxkhwinaemrihyudihbrikarxyangepnthangkarinwnthi 9 thnwakhm 1967 aelathukkhayihkbemuxnglxngbich rthaekhlifxreniy swneruxkhwinexlisaebthidpldpracakarhlngcakedinthangkhammhasmuthrkhrngsudthayipyngnkhrniwyxrk emuxwnthi 8 thnwakhm 1968 eruxkhwinexlisaebththukyayipyng rthflxrida aeladdaeplngepnaehlngthxngethiyw sungepidihekhachmineduxnkumphaphnth 1969 aetkickarimprasbkhwamsaerc cungtxngpidtwlngineduxnsinghakhm 1970 sudthay eruxkhwinexlisaebththukkhayihkb nkthurkicchawhxngkng phumiaephncaddaeplngepneruxsaraymhawithyalylxyna chuxwa siiwsyuniewxrsiti Seawise University aetinpi 1972 khnathieruxekharbkarprbprungin kidekidephlingihmkhunbneruxxyangimthrabsaehtu aelatweruxkexiyngipdankhangenuxngcaknathiichdbephling txmainpi 1973 sakeruxthukmxngwaepnsingkidkhwangkaredineruxinbriewnnn cungmikarruxthxnsakeruxbangswninpi 1974 1975karxxkaebbaelakarsrangxarexmexs khwinexlisaebth khnakalngkxsrang inwnthieruxxarexmexs khwinaemri xxkedinthanginethiywpthmvks prathanbristhkhunardiln idaecngihthimphuxxkaebberuxsungnaody cxrc phaethxrsn erimwangaephnxxkaebberuxlathisxngtamthiwangaephniw txmainwnthi 6 tulakhm 1936 idmikarlngnamsyyarahwangkhunardilnkbphusnbsnunthangkarengincakrthbalxyangepnthangkar eruxlaihmmikarprbprungkarxxkaebbcakeruxkhwinaemrihlayxyang echn ldcanwnhmxixnalngehlux 12 tw cakedimthimi 24 twbnkhwinaemri karepliynaeplngnithaihsamarthldcanwnplxngiflng 1 plxng ephuxephimphunthisahrbdadfabrrthuksinkhaaelaphuodysar plxngifthngsxngidrbkarxxkaebbihyudtwexngidodyimtxngichsayyuddannxk aelamikartrungphayinephuxihduswyngam nxkcakni yngmikarykelikkarich well deck chxngwangthitakwaradbdadfahlk mkichsahrbkhnthaysinkhathihwerux thaihidrupthrngkhxngtweruxthiephriywlmyingkhun xikthngyngmikarxxkaebbhweruxihaehlmaelaechiyngkhun ephuxephimcudyudsmxxik 1 cud eruxlaihmnimikhwamyawkwaeruxkhwinaemri 12 fut aelamirawangkhbnamakkwa 4 000 tn aebbcalxngkhxngeruxkhwinaemri hna aelakhwinexlisaebth hlng srangodycxhnbrawnaexndkhxmphani cdaesdngthi xarexmexs khwinexlisaebth srangodybristh inikhldaebngk skxtaelnd brietnihy rahwangkarsrang tweruxmkthukeriykdwyhmayelkhpracaxuwa Hull 552 karxxkaebbphayinepnphlngankhxngthimsilpinthinaodysthapnik bnid othng aelathangekha srangkhunody bristh exch exch martin aexnd okh H H Martyn amp Co khunardilnwangaephnihplxyeruxlngnaineduxnknyayn 1938 aelakartkaetngphayincaaelwesrcephuxiheruxerimihbrikarinvduibimphlipi 1940smedcphrarachinixlisaebththrngepnphuprakxbphithilngnaeruxdwyphraxngkhexngemuxwnthi 27 knyayn 1938 elaknwa tweruxerimekhluxnlngnakxnthiphrarachinicathrngthaphithixyangepnthangkar aeladwykhwamwxngiw phrarachinithrngsamarththubkhwdiwnaedngxxsetreliylngthihweruxidthnkxnthimncaihlphnraya caknntweruxidthuknaipethiybthaephuxthakartkaetngphayin mikarprakaswa inwnthi 23 singhakhm 1939 smedcphraecacxrcthi 6 aelasmedcphrarachinixlisaebthcathrngesdcmaeyiymchmeruxaelahxngekhruxng odykahndwnedinthangethiywpthmvksiwebuxngtnkhuxwnthi 24 emsayn 1940 aetenuxngcaksngkhramolkkhrngthisxng thaihthngsxngehtukarnnithukeluxnxxkip aelaaephnkarkhxngkhunardilnkthukykelik eruxkhwinexlisaebthcxdethiybthaephuxthakartkaetngphayincnthungwnthi 2 phvscikayn 1939 emuxxxkibxnuyatphiessephuxrbrxngwaeruxphrxmichngan wnthi 29 thnwakhm ekhruxngyntkhxngeruxidrbkarthdsxbepnkhrngaerk tngaetewla 09 00 16 00 n odypldibckrxxkephuxtrwcsxbxunhphumi aerngdnnamnaelaixna sxngeduxntxma khunardilnidrbcdhmaycakwinstn echxrchil sungkhnanndarngtaaehnng sngiheruxxxkcakikhldaebngkodyerwthisudaela xyuihhangcakekaaxngkvstrabthikhasngyngkhngmiphl txngkarxangxing sngkhramolkkhrngthisxnginchwngerimtnsngkhramolkkhrngthisxng mikartdsinicxyangrxbkhxbwa eruxkhwinexlisaebthmikhwamsakhyxyangmaktxkhwamphyayaminkarthasngkhram dwyehtuni karekhluxnihwkhxngeruxcungtxngthukpkpidmiihsaylbeyxrmnthiptibtikarinbriewnikhldaebngksamarthtidtamid aephnxaphrangeruxcungthukrierimkhun odykarsuxsarkhxmulethcwaeruxcaedinthangipesaaethmptnephuxesrcsinkartkaetngphayin xikpccyhnungthierngiheruxxxkcakikhldaebngkkhux txngekhliyrphunthithaethiyberuxsahrbkartidtngxupkrnkhnsudthaykhxng HMS Duke of York sahrbkartidtngxupkrnkhnsudthay echphaathaethiyberuxkhxngcxhnbrawnethannthimikhnadihyphxthicarxngrberuxpracybanchnkhingcxrcthi 5 id eruxnxrmngdi khwinaemri aelakhwinexlisaebth thiinpi 1940 singsakhyprakarhnungthicakdwnxxkedinthangkhxngeruxkhux radbnainaemnaikhld inpinnminakhunsungephiyngsxngkhrngethann thiradbnacasungphxiheruxkhnadihyechnkhwinexlisaebthxxkcakxutxeruxikhldaebngkid aeyipkwann faykhawkrxngeyxrmnkthrabkhxethccringnixyu sahrbkaredinthangkhrngni mikarcdsrrphkalngphlephiyng 400 nayethann sungswnihythukyaymacakeruxxarexmexs aexkhwietheniy RMS Aquitania odyidrbkhasngplxmwaepnephiyngkaredinthangchayfngrayasnipyngesaaethmptn mikarsngchinswntang ipyngesaaethmptnlwnghna aelaetriymkhwamphrxmsahrbkarnaeruxkhwinexlisaebth ekhasu ephuxtkaetngphayinkhnsudthay ephuxsranghlkthanplxm chuxkhxngphnknganxutxeruxkhxngcxhnbrawncungthukcxngiwthiorngaermtang inesaaethmptn nxkcakni kptn John Townley kidrbaetngtngepnkptnkhnaerkkhxngeruxkhwinexlisaebth thawnliyekhymiprasbkarnepnkptneruxaexkhwietheniymaaelwhnungethiyw aelaekhyepnkptneruxkhnadelkhlaylakhxngkhunardmakxn thngthawnliyaelalukerux 400 khnidrbaecngcaktwaethnbristhkxnxxkedinthang ihetriymsmpharasahrbkaredinthangikl odyaecngwaphwkekhaxaccaimidklbbannanthung 6 eduxn emuxekhasuchwngtneduxnminakhm 1940 eruxkhwinexlisaebth kphrxmsahrbkaredinthanglb sipracabristhkhunardedimthukthathbdwysiethaekhmaebberuxrb aelainechawnthi 3 minakhm eruxidxxkcakthacxderuxinaemnaikhldxyangengiybechiyb aelnxxkcakaemnaephuxaelntxiptamchayfng rahwangthangidphbkb sungnaexakhasngpidphnukmamxbihkbkptnodytrng khnarxkhxythutkhxngkstriy eruxkhwinexlisaebthidthakaretimechuxephling prbekhmthis aelathdsxbxupkrnbangxyangepnkhrngsudthay kxnthicamunghnasucudhmayplaythangxnepnkhwamlb eruxkhwinexlisaebththukthasiethaaebberuxrbephuxichinyamsngkhram hlngcakephingkhnsngthharipyngtawnxxkklanginpi 1942xarexmexs khwinexlisaebth inthanaeruxkhnsngthharinchwngsngkhramolkkhrngthisxng kptnthawnliyephingthrabphayhlngwa ekhatxngnaeruxmungtrngipyngnkhrniwyxrk shrthxemrika sungkhnannyngepnpraethsthiwangtwepnklang odyimidrbxnuyatihhyudaewaphkhruxaemaetchalxkhwamerwephuxsngphnkngannarxngthaeruxesaaethmptnthikhunmapracaeruxtngaetikhldaebngklngcakerux aelatxngrksakhwamengiybthangwithyuxyangekhrngkhrd inwnnnexng chwngewlathieruxkhwinexlisaebthkhwrcaedinthangthungesaaethmptn klbklayepnwaemuxngdngklawthukkxngthphxakaseyxrmnthingraebidxyanghnk eruxkhwinexlisaebthaelnkhammhasmuthraextaelntikepnrupsikaesk ephuxhlbhnieruxdaeyxrmn U boat ichewlaedinthang 6 wn dwykhwamerwechliy 26 nxt emuxmathungnkhrniwyxrk eruxidethiybthakhangeruxkhwinaemri aelaeruxnxrmngdikhxngfrngess sungthuxepnkhrngediywinprawtisastrthieruxedinsmuthrkhnadihythisudinolk 3 lamacxdethiybthakhangkn emuxedinthangthungnkhrniwyxrkaelw kptnthawnliyidrbothrelkhsxngchbb chbbaerkcakphrryaaesdngkhwamyindikbpharkicsaerc xikchbbcaksmedcphrarachinixlisaebth thrngkhxbkhunsahrbkarnaeruxmasngxyangplxdphy hlngcaknneruxkhwinexlisaebthkthukcdkarrksakhwamplxdphyxyangekhmngwd imxnuyatihphuidkhuneruxodyimidrbxnuyatlwnghna aemaetecahnathithaeruxexngktam eruxkhwinexlisaebthxxkedinthangcakthaeruxniwyxrk emuxwnthi 13 phvscikayn 1940 munghnasusingkhopr ephuxekharbkarprbepliynepneruxkhnsngthhar rahwangthangidaewaphketimechuxephlingaelaesbiyngthitriniaeddaelaekhpthawn sudthaykedinthangthungxuthhareruxthisingkhopr thinieruxidrbkartidtng aelatweruxkthukthasiethaihm txngkarxangxing eruxkhwinexlisaebthedinthangxxkcaksingkhoprinwnthi 11 kumphaphnth 1942 aelaedinthangmathung rthbritichokhlmebiy praethsaekhnada xyanglb inwnthi 23 kumphaphnth 1942 rahwangnn eruxidekharbkarprbprungphayinxuaehng ephuxephimhxngphkaelatidtngxawuthyuthothpkrn aelaehlachangeruxkwa 300 khnkriberngthasitweruxihm inchwngklangeduxnminakhm eruxkhwinexlisaebthidbrrthukthharxemrikn 8 000 nay xxkedinthangikl 7 700 iml caksanfransisok shrthxemrika ipyngsidniy xxsetreliy kxnhnann eruxekhythahnathikhnsngthharxxsetreliyipyngsmrphumitang inexechiyaelaaexfrika txmahlngpi 1942 eruxkhwinexlisaebthphrxmdwyeruxkhwinaemri kthukyayippracakarthimhasmuthraextaelntikehnux ephuxthahnathilaeliyngthharxemriknipyngyuorp eruxkhwinexlisaebthaelakhwinaemri tangthahnathiepneruxkhnsngthhartlxdchwngsngkhramolkkhrngthisxng khwamerwsungkhxngeruxthngsxnglachwyihphwkmnhlbhnixntray odyechphaaeruxdanaeyxrmn thaiheruxthngsxnglamkcaidrbxnuyatihaelnnxkkxngeruxesmx xyangirktam eruxkhwinexlisaebthkekhyekuxbthukocmtiodyeruxdana U 704 sungyingtxrpiodis 4 lukemuxwnthi 9 phvscikayn 1942 phubngkhbkareruxdana nayphlerux hxsth wilehlm ekhsselxr Horst Wilhelm Kessler raynganwaidyinesiyngraebid aelathangfayokhsnachwnechuxkhxngnasieyxrmnkprakaskhawplxmwaeruxkhwinexlisaebththukcmlng aetkhwamcringaelw txrpiodlukhnungekidraebidkxnewlaxnkhwr sngphliheruxkhwinexlisaebthimidrbkhwamesiyhayid inthanaeruxkhnsngthhartlxdchwngsngkhramolkkhrngthisxng eruxkhwinexlisaebth brrthukthharipaelwmakkwa 750 000 nay aelaaelnipiklkwa 800 000 kiolemtr 500 000 iml hlngsngkhramolkkhrngthi 2swnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidpisudthayswnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidinniyayinpi ph s 2502 eruxkhwinxlisaebthidprakttwinphaphyntrtlkesiydsikhxngxngkvseruxng The Mouse That Roared naaesdngody aela khnathikhnaphurukrancak aekrnd efnwikh sungepnchatiyxykhxngyuorpincintnakar khammhasmuthraextaelntikephuxthasngkhramkbshrth phwkekhaphbaelaidphaneruxkhwinexlisaebththiihykwamak aelaidruwathaeruxniwyxrkthukpidenuxngcakkarfuksxmkarocmtithangxakas sakeruxkhwinxlisaebthpraktinphaphyntrecms bxnderuxng 007 ephchchkhatpunthxng inpi ph s 2517 odyepnsanknganihylbkhxng MI6 sakeruxniyngpraktinchakyxnxditintxnkhxng mngkrxemrikn eckh lxngxangxingPride of the North Atlantic A Maritime Trilogy David F Hutchings Waterfront 2003 John Shephard The Cunard White Star liner Queen Elizabeth RMS Queen Elizabeth Maiden Voyage after War Cunard Original footage British Movietone News via youtube www relevantsearchscotland co uk khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 21 September 2022 subkhnemux 21 September 2022 Big Liners Steel Frame Work Rises as Workers Speed Up Popular Mechanics left side pg 346 Hearst Magazines September 1937 RMS Quen Elizabeth 1939 Classic Liners and Cruise Ships Queen Elizabeth Cruiseserver net subkhnemux 17 May 2012 RMS Queen Elizabeth from Victory to Valhalla pp 10 Cunard com khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2 January 2010 subkhnemux 17 May 2012 Maxtone Graham John The Only Way to Cross New York Collier Books 1972 p 355 Pathe British Sister Ship To The Queen Mary www britishpathe com RMS Queen Elizabeth The Beautiful Lady Janette McCutcheon The History Press Ltd 8 November 2001 The Liverpool Post 23 August 1937 John Whitaker 1985 The Best p 238 Hutchings David F 2003 Pride of the North Atlantic A Maritime Trilogy Waterfront Maxtone Graham 1972 p 358 60 Floating Palaces 1996 A amp E TV Documentary Narrated by Fritz Weaver Queen Elizabeth The RMS Queen Elizabeth 1942 Zacha s Bay Window Gallery Ayrshire Scotland khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 8 January 2009 subkhnemux 17 May 2012 Two Ships Helped End WWII subkhnemux 16 Aug 2020 Blair Clay 2000 Hitler s U Boat War The Hunted 1942 1945 New York Modern Library p 107 Image rmhh co uk subkhnemux 2024 01 31 HISTORY The CUNARD WHITE STAR Liner rms QUEEN ELIZABETH 1938 1972 earlofcruise blogspot com subkhnemux 2024 01 31 The Mouse That Roared 1959 Trivia IMDB IMDB com subkhnemux 28 June 2019 RMS Queen Elizabeth subkhnemux 5 March 2015 Hann Michael 3 October 2012 My favourite Bond film The Man with the Golden Gun The Guardian subkhnemux 5 March 2015 xanephimetimButler D A 2002 Warrior Queens The Queen Mary and Queen Elizabeth in World War II 1st ed Mechanicsburg Stackpole Books Galbraith R 1988 Destiny s Daughter The Tragedy of RMS Queen Elizabeth Vermont Trafalgar Square Maddocks Melvin 1978 The Great Liners Alexandria VA Time Life Books ISBN 0809426641 Varisco R 2013 RMS Queen Elizabeth Cunard s Big Beautiful Ship of Life Gold Coast Blurb Books Harvey Clive 2008 R M S Queen Elizabeth The Ultimate Ship Carmania Press London ISBN 978 0 95436668 1