ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
ธงชาติกรีซ (กรีก: Σημαία της Ελλάδος, โดยทั่วไปนิยมเรียกว่า Γαλανόλευκη หรือ Κυανόλευκη แปลว่า "ธงน้ำเงิน-ขาว") เป็นธงสี่เหลี่ยมผืนผ้า พื้นธงเป็นแถบริ้วสีน้ำเงินสลับขาวรวมทั้งหมด 9 แถบ ที่มุมธงบนด้านคันธงเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสสีน้ำเงิน กว้างยาวเป็น 5 ใน 9 ส่วนของความกว้างธง ภายในมีรูปกางเขนสีขาวมีปลายจดขอบสีน้ำเงิน กางเขนดังกล่าวนี้หมายถึงศาสนาคริสต์ซึ่งเป็นศาสนาประจำชาติ ส่วนแถบสีน้ำเงินสลับขาว 9 แถบนั้น โดยทั่วไปชาวกรีกหมายถึงพยางค์ 9 พยางค์ในประโยคภาษากรีกที่ว่า "Ελευθερία ή Θάνατος" (อ่านว่า "เอ-เลฟ-เท-ริ-อา-อิ-ทา-นา-ทอส" ("E-lef-the-ri-a i Tha-na-tos") แปลว่า เสรีภาพหรือความตาย) โดยแถบสีน้ำเงิน 5 แถบหมายถึง 5 พยางค์แรก ส่วนแถบสีขาว 4 แถบ หมายถึง 4 พยางค์สุดท้ายของประโยคดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกทฤษฎีหนึ่งกล่าวว่า แถบทั้ง 9 แถบนี้หมายถึงเทพธิดามิวเซส (Muses) ผู้เป็นเทพแห่งศิลปวิทยาการต่างๆ ทั้ง 9 องค์ ในตำนานกรีกโบราณ สำหรับสัดส่วนธงอย่างเป็นทางการนั้นกว้าง 2 ส่วน ยาว 3 ส่วน
ชื่ออื่น ๆ | Σημαία της Ελλάδος (ธงชาติกรีซ), Γαλανόλευκη, Κυανόλευκη (ธงน้ำเงิน - ขาว) |
---|---|
การใช้ | ธงชาติ |
สัดส่วนธง | 2:3 |
ประกาศใช้ | 22 ธันวาคม ค.ศ. 1978 (ธงนาวี ตั้งแต่ ค.ศ. 1822-1978, ธงชาติ ตั้งแต่ ค.ศ. 1969-1970 และตั้งแต่ ค.ศ. 1978 เป็นต้นมา) |
ลักษณะ | ธงพื้นแถบแนวนอนสีน้ำเงินสลับขาว 9 แถบ มีรูปกางเขนสีขาวในช่องสี่เหลี่ยมสีน้ำเงินที่มุมธงบนด้านคันธง |
ธงสำหรับงานพิธีการ | |
การใช้ | ธงพลเรือน และ ธงราชการ |
สัดส่วนธง | 2:3 |
ประกาศใช้ | พ.ศ. 2365 |
ลักษณะ | ธงพื้นสีน้ำเงิน ภายในมีกากบาทสีขาว |
อนึ่ง สีน้ำเงินและสีขาวที่ใช้ในธงนี้มีการตีความความหมายต่างๆ อยู่มาก บ้างก็ว่าหมายถึงสีของท้องฟ้าและน้ำทะเลในประเทศนี้ บ้างก็ว่าเป็นสีของเครื่องแต่งกายชาวกรีกตามธรรมเนียมโบราณ ทั้งนี้ ระดับของสีน้ำเงินในธงชาตินี้มีการเปลี่ยนแปลงมาแล้วหลายครั้ง โดยแบบสีที่ใช้อยู่ในปัจจุบันเริ่มใช้มาตั้งแต่ช่วงปลายคริสต์ทศวรรษที่ 1960
รูปแบบธงดังที่ปรากฏในปัจจุบันนี้ เป็นแบบธงที่ได้รับการรับรองจากที่ประชุมรัฐสภาแห่งชาติของกรีซครั้งแรก ณ เมืองเอปิเดารุส (The First National Assembly at Epidaurus) เมื่อวันที่ 13 มกราคม ค.ศ. 1822
ประวัติ
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ธงของกรีกสมัยโบราณและยุคจักรวรรดิไบแซนไทน์
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
สมัยจักรวรรดิออตโตมาน
ในช่วงแห่งการปกครองของจักรวรรดิออตโตมานนั้น ชาวกรีกได้ใช้ธงของตนอย่างไม่เป็นทางการขึ้นหลายแบบ ซึ่งปกติมักใช้รูปนกอินทรีสองหัวของไบแซนไทน์ รูปกางเขน รูปนักบุญต่างๆ ในศาสนาคริสต์และคำขวัญต่างๆ อย่างหลากหลาย กองทหารม้าซีปาฮี (sipahi) ของชาวกรีกที่นับถือศาสนาคริสต์ซึ่งถูกจ้างโดยสุลต่านแห่งออตโตมานได้รับอนุญาตให้มีธงของตนเอง (ซึ่งเป็นแบบธงชาวคริสต์อย่างชัดเจน) ใช้ได้ในเขตเอปิรุส (Epirus) และ (Peloponnese) ลักษณะเป็นธงรูปกางเขนสีฟ้าบนพื้นสีขาว ตรงกลางเป็นภาพนักบุญจอร์จปราบมังกร ปรากฏการใช้ระหว่าง ค.ศ. 1431 จนถึง ค.ศ. 1639 เมื่ออภิสิทธิ์ในการใช้ธงได้ถูกจำกัดไว้เป็นอย่างมากจากสุลต่านออตโตมาน ธงที่มีลักษณะคล้ายกับธงดังกล่าวได้ถูกใช้โดยผู้นำชาวกรีกระดับท้องถิ่นคนอื่นๆ เช่นกัน ส่วนธงที่อาจนับได้ว่าใกล้เคียงกับความเป็น "ธงชาติ" ของชาวกรีกมากที่สุดในยุคนี้ ได้แก่ธงซึ่งถูกเรียกชื่อว่า "ธงกรีก-ออตโตมาน" (กรีก: Γραικοθωμανική παντιέρα) อันเป็นธงเรือสินค้าที่พ่อค้าชาวกรีกออร์โธดอกซ์ในความปกครองของออตโตมานได้รับอนุญาตให้ชักขึ้นในเรือของตนได้ ธงนี้ประกอบด้วยแถบสีแดงของจักรวรรดิออตโตมานและแถบกลางสีน้ำเงินของพวกกรีกออร์โธดอกซ์ ต่อมาหลังการทำสนธิสัญญากือชุก เคย์นาร์กา () เรือสินค้าของชาวกรีกสามารถชักธงชาติรัสเซียขึ้นในเรือได้ด้วยอีกธงหนึ่ง
ระหว่างการลุกฮือต่อต้านจักรวรรดิออตโตมานในปี ค.ศ. 1769 ธงกางเขนฟ้าพื้นขาวในประวัติศาสตร์ได้ถูกรื้อฟื้นกลับมาใช้อีกครั้งโดยผู้นำสำคัญทางทหาร และจะถูกนำมาใช้โดยผู้นำทางทหารชาวกรีกทั้งหมดในการปฏิวัติปี ค.ศ. 1821 ธงดังกล่าวได้กล่าวเป็นธงปฏิวัติที่ได้รับความนิยมจากมหาชนมากที่สุด นอกจากนี้ยังมีการถกเถียงอีกว่าสมควรจะใช้ธงนี้เป็นธงชาติด้วย ธงแบบสลับสีคือพื้นธงสีฟ้ามีกางเขนสีขาวก็ได้มีการอุบัติขึ้นในฐานะธงของชาวกรีกอีกธงหนึ่งในระหว่างการลุกฮือดังกล่าวด้วยเช่นกัน แบบธงอย่างหลังนี้เป็นธงอีกแบบหนึ่งที่ชาวกรีกเคยใช้มาก่อนในลักษณะของสัญลักษณ์ประจำท้องถิ่น กองทหารอาสาสมัครชาวกรีกในกองทัพของจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 แห่งฝรั่งเศส ซึ่งเข้าร่วมการสงครามที่อียิปต์ในปี ค.ศ. 1798 เลือกใช้ธงกางเขนขาวบนพื้นสีฟ้า แทรกรูปธงสามสีของฝรั่งเศสไว้ที่สี่เหลี่ยมมุมธงบนด้านคันธง เป็นเครื่องของตนเอง ผู้นำทางทหารคนหนึ่ง คือ ยิอานนิส สตาทาซ () ใช้ธงกางเขนขาวบนพื้นฟ้าบนเรือของตนนับตั้งแต่ ค.ศ. 1800 ลักษณะแบบแรกของธงของเขาพ้องกันโดยบังเอิญและถูกใช้โดยวิหารของประกาศกบนเกาะสเกียทอส () ในปี ค.ศ. 1807 บรรดาผู้นำทางทหารที่โดดเด่นจำนวนมาก (เช่น และ) ได่ร่วมกลุ่มปรึกษาหารือเกี่ยวการลุกฮือต่อต้านออตโตมาน พวกเขาได้สาบานต่อธงนี้ร่วมกันโดยมีมุขนายก (bishop) ในท้องถิ่นเป็นผู้ทำพิธีให้
- ธงของกองทหารม้าซีปาฮีชาวกรีก ในกองทัพจักรวรรดิออตโตมาน, ค.ศ. 1431 - 1619
- ธงเรือสินค้าสำหรับเรือสัญชาติออตโตมานซึ่งเป็นของชาวกรีกออร์โธดอกซ์
- ธงพลเรือนและธงเรือพลเรือนของ (ค.ศ. 1835–1912)
- ธงของ (ค.ศ. 1800–1807) อันเป็นดินแดนปกครองตนเองแห่งแรกของรัฐกรีกสมัยใหม่
- ธงราชการของ (Cretan State)
- ธงพลเรือนของรัฐครีต
ยุคสงครามประกาศเอกราช
ในช่วงก่อนหน้าและตอนต้นของสงครามประกาศเอกราชกรีซ (ค.ศ. 1821–1829) ได้ปรากฏการออกแบบ การเสนอ และการใช้ธงต่างโดยปัญญาชนชาวกรีกจำนวนมากที่ในยุโรป, บรรดาผู้นำท้องถิ่น และสภาท้องถิ่นต่างๆ ของกรีซ นอกจากการใช้ธงที่มีรูปกางเขนแล้ว ธงอื่นๆ จำนวนมากมักใช้รูปนักบุญในคริสต์ศาสนา, รูปนกฟินิกซ์, (สัญลักษณ์การกำเนิดใหม่ของชาติกรีซ), คำขวัญต่าง เช่น เสรีภาพหรือความตาย ("Ελευθερία ή Θάνατος") หรือรูปสัญลักษณ์ที่คล้ายกับขวานมัดหวาย () ของสมาคมฟิลิกี เอเทเรอา () ซึ่งเป็นสมาคมลับที่อยู่เบื้องหลังในการลุกขึ้นสู้ต่อต้านจักรวรรดิออตโตมานครั้งนี้
- ธงของหัวหน้ากองทหารกรีกไม่ทราบหน่วยระหว่างการปฏิวัติ
- ธงของหัวหน้ากองทหารกรีกไม่ทราบหน่วยระหว่างการปฏิวัติ
- ธงซึ่งปรากฏอย่างแพร่หลายนับตั้งแต่ ค.ศ. 1769 จนถึงช่วงสงครามประกาศเอกราช
- แบบธงของกรีซที่เสนอโดย , ค.ศ. 1797
- ธงของกลุ่ม หรือ Ιερός Λόχος (ด้านหน้า)
- ธงของ (ด้านหน้า)
- ธงของรัฐบาลท้องถิ่นซึ่งเรียกตนเองว่า "อาเรโอปากัสแห่งกรีซภาคพื้นทวีปฝ่ายตะวันออก" (Areopagus of Eastern Continental Greece)
- ธงของสมาคมลับ ""
- ธงของชาวมานิโอต (Maniots)
- ธงของเดเมทริออส อิบซิลันติส (Demetrios Ypsilantis)
- ธงของ
- ธงของหมู่เกาะสเพ็ตเซส ()
- ธงของคาบสมุทรชาลกีดิกี ()
- ธงของ
ธงชาติกรีซสมัยใหม่
ด้วยเหตุที่ชาติราชาธิปไตยในยุโรปซึ่งเป็นพันธมิตรกันภายใต้ชื่อ "แห่งยุโรป" หวาดระแวงต่อขบวนการที่เคลื่อนไหวเพื่อการปฏิวัติแห่งชาติหรือการปฏิวัติสังคมต่างๆ ดังเช่นการตั้ง "เอทาอิเรอา" ("Etaireia) หรือการประชุมสภาแห่งชาติครั้งแรกของกรีซที่เมืองเอปิเดารุส ซึ่งจัดให้มีขึ้นในเดือนมกราคม ค.ศ. 1822 ได้นำไปสู่การเข้าแทรกแซงสภาดังกล่าว และทำให้กรีซกลายเป็นรัฐชาติกำเนิดใหม่ที่มีลักษณะ "เป็นแบบแผนตามธรรมเนียมนิยม" กล่าวคือเป็นรัฐที่ถูกจัดระเบียบใหม่ (โดยมหาอำนาจยุโรป) ซึ่งมิเพียงแต่มีการล้มเลิกสภาท้องถิ่นและรวมอำนาจเข้าสู่ศูนย์กลางเท่านั้น แต่ยังมีการตัดสินใจยกเลิกธงของการปฏิวัติทั้งหมดและกำหนดแบบธงร่วมให้ใช้ทั่วไปเพียงธงเดียว แต่เหตุผลที่ทำให้แบบธงกางเขนขาวบนพื้นสีฟ้าถูกเลือกให้ใช้เป็นธงชาติ แทนที่จะเป็นธงการเขนฟ้าบนพื้นขาวซึ่งได้รับควานิยมมากกว่านั้น ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด
ในวันที่ 15 มีนาคม ค.ศ. 1822 รัฐบาลเฉพาะกาลได้ออกคำสั่งที่ Nr. 540 กำหนดแบบของธงที่แน่นอนขึ้น โดยให้ใช้ธงกางเขนขาวบนพื้นสีฟ้าเป็นธงสำหรับใช้บนแผ่นดิน ธงเก้าริ้วสีฟ้าสลับขาวมีกางเขนขาวบรพื้นฟ้าที่มุมธงบนด้านคันธงเป็นธงนาวี และธงสีฟ้ามีรูปกางเขนสีฟ้าในสี่เหลี่ยมสีขาวที่มุมธงบนด้านคันธงเป็นธงเรือพลเรือน (ธงเรือสินค้า) ต่อมาในวันที่ 30 มิถุนายน ค.ศ. 1828 โดยคำสั่งของข้าหลวง (Ioannis Kapodistrias) ธงเรือสินค้าแบบดังกล่าวได้ถูกยกเลิกไป และใช้ธงรูปริ้วสีและกางเขนเป็นธงเรือประจำประเทศแทน ทั้งในเรือสินค้าและในเรือของกองทัพ แบบธงดังกล่าวเป็นที่นิยมอย่างยิ่งในหมู่ชาวกรีกแทบจะทันทีทันใด และในทางปฏิบัติแล้ว ชาวกรีกมักจะใช้ธงนี้คู่กับธงชาติซึ่งเป็นรูปกางเขนขาวบนพื้นฟ้าอยู่เสมอ
- ธงสำหรับใช้บนแผ่นดิน, ค.ศ. 1821-1822
- ธงราชนาวีของกรีซ, ค.ศ. 1822-1828
- ธงพาณิชยนาวีของกรีซ, ค.ศ. 1822-1828
- ธงสำหรับใช้บนแผ่นดิน, ค.ศ. 1822-1969 และ ค.ศ. 1975-1978
- ธงชาติสำหรับใช้ในเรือเดินทะเลและในต่างประเทศ หลัง ค.ศ. 1978 ได้กลายเป็นธงชาติของกรีซเพียงแบบเดียว
พัฒนาการของธงชาติกรีซสมัยใหม่
หลังการสถาปนาราชอาณาจักรกรีซในปี ค.ศ. 1832 พระเจ้าออตโตแห่งราชวงศ์วิตเตลสบาค กษัตริย์พระองค์ใหม่ ได้ทรงเพิ่มตราประจำพระองค์ไว้ที่กลางรูปกางเขนขาวในธงของกองทัพทั้งฝ่ายทหารบกและฝ่ายทหารเรือ ตราดังกล่าวเป็นตราอาร์มลวดลายตารางแบบตราอาร์มของรัฐบาเยิร์นประดับมงกุฎ ซึ่งบ่งบอกถึงปฐมวงศ์แห่งกษัตริย์พระองค์นั้น ต่อมาเพื่อพระเจ้าออตโตได้ทรงสละราชสมบัติในปี ค.ศ. 1862 ตราอาร์มดังกล่าวได้ถูกเอาออกจากธง คงเหลือแต่เพียงรูปมงกุฎกษัตริย์เพียงอย่างเดียวเมื่อกษัตริย์พระองค์ใหม่ คือ พระเจ้าจอร์จที่ 1 แห่งกรีซ ซึ่งเป็นเจ้าชายเดนมาร์ก ได้เสด็จมายังกรีซเพื่อรับราชสมบัติแทนพระเจ้าแผ่นดินองค์เดิม
ธงแบบสำหรับใช้ในแผ่นดินในรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส กลางธงมีรูปนักบุญจอร์จ ได้รับการยอมรับเมื่อวันที่ 9 เมษายน ค.ศ. 1864 ในฐานะของธงชัยประจำกองทัพบก แบบธงที่มีการจัดเรียงลักษณะที่คลึงกันเช่นนี้ได้ถูกนำไปใช้ในธงของพระราชวงศ์ ซึ่งใช้รูปตราอาร์มของราชวงศ์ แบบสี่เหลี่ยมจัตุรัสมาประดับที่กลางธงชาติ ลักษณะรูปทรงที่แน่นอนและกฎเกณฑ์การใช้ธงดังกล่าวได้ถูกกำหนดไว้ตามพระบรมราชโองการลงวันที่ 26 กันยายน ค.ศ. 1867 ต่อมาจึงได้มีพระบรมราชโองการฉบับใหม่ ลงวันที่ 31 พฤษภาคม ค.ศ. 1914 กำหนดให้ธงแบบสำหรับใช้ในแผ่นดินซึ่งมีรูปมงกุฎกษัตริย์ประกอบอยู่ด้วยใช้เป็นธงราชการสำหรับกระทรวงทบวงกรม สถานทูต และหน่วยงานราชการพลเรือน ส่วนธงสำหรับเรือเดินทะเลนั้น ได้อนุญาตให้ใช้สำหรับพลเมืองทั่วไป
ในวันที่ 25 มีนาคม ค.ศ. 1924 ได้มีการนำรูปมงกุฎออกจากธงทุกชนิด อันเป็นผลสืบเนื่องจากการสถาปนา ต่อมาจึงได้มีการกำหนดสัดส่วนของธงที่แน่นอนในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1930 โดยมีความกว้างเป็น 2 ส่วน ยาว 3 ส่วน กิ่งของกางเขนแต่ละด้านมีความกว้างเป็น "หนึ่งในห้าส่วนของความกว้างธง" แบบธงสำหรับในแผ่นดินนั้นถูกใช้โดยกระทรวงต่างๆ และสถานทูต ส่วนธงสำหรับเรือเดินทะเลนั้นถูกใช้โดยกองทัพเรือ เรือสินค้าเอกชน กิจการกงสุล และประชาชนโดยทั่วไป การฟื้นฟูระบอบราชาธิปไตยโดยนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 10 ตุลาคม ค.ศ. 1935 ได้ทำให้มีการฟื้นฟูการใช้รูปมงกุฎในธงชาติขึ้นใหม่ รูปดังกล่าวก็ได้ถูกลบล้างออกไปอีกครั้งโดยรัฐบาลเผด็จการทหารของกรีซในปี ค.ศ. 1967 ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องจากการปฏิวัติซ้อนที่ล้มเหลวและการเสด็จลี้ภัยทางการเมืองของพระเจ้าคอนสแตนตินที่ 2 ในวันที่ 13 ธันวาคมของปีนั้น ธงสำหรับเรือเดินทะเลได้ถูกกำหนดให้เป็นธงชาติกรีซเพียงธงเดียวในปี ค.ศ. 1969 โดยใช้โทนสีฟ้าเข้มมาก (กล่าวอีกนัยหนึ่งคือสีน้ำเงิน) และได้มีการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนธงจาก 2:3 เป็น 7:12 ในวันที่ 18 สิงหาคม ค.ศ. 1970
หลังการฟื้นฟูประชาธิปไตยในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1974 ธงแบบสำหรับใช้ในแผ่นดินได้ถูกฟื้นฟูให้ใช้เป็นระยะสั้นๆ ตามกฎหมายเลขที่ 48/1975 คำสั่งประธานาธิบดีที่ 515/1975 จนถึงปี ค.ศ. 1978
- ธงราชการสมัยราชวงศ์วิตเตลสบาค (ค.ศ. 1833–1862)
- ธงราชนาวีสมัยราชวงศ์วิตเตลสบาค (ค.ศ. 1833–1862)
- ธงราชการสมัย (ค.ศ. 1863–1924 และ ค.ศ. 1935–73)
- ธงราชการสมัยราชวงศ์กลึคสบวร์ก (ค.ศ. 1863–1924 และ ค.ศ. 1935–73)
- ธงชาติสมัยรัฐบาลทหาร (ค.ศ. 1970–75)
ธงชาติกรีซในปัจจุบัน
ในปี ค.ศ. 1978 แบบธงชาติกรีซซึ่งเป็นแบบที่เคยใช้สำหรับเรือเดินทะเล (sea flag) ได้รับการรับรองให้เป็นแบบธงชาติกรีซโดยส่วนรวมทั้งหมดเพียงแบบเดียว โดยกำหนดสัดส่วนธงไว้ที่กว้าง 2 ส่วน ยาว 3 ส่วน ธงดังกล่าวนี้ ใช้ทั้งบนแผ่นดินและในทะเลทั้งหมด และใช้เป็นทั้งธงนาวีของกองทัพเรือและธงเรือพลเรือน ทดแทนแบบธงอื่นไ ที่ใช้ในหน้าที่อย่างเดียวกันในยุคก่อนหน้าทั้งหมด ซึ่งการใช้ธงชาตินั้นได้ห้ามการทำเครื่องหมายสัญลักษณ์หรือข้อความใดๆ ปรากฏในธงเป็นอันขาด อย่างไรก็ตาม โทนสีของสีฟ้า/สีน้ำเงินที่ใช้ในธงไม่ได้มีการบัญญัติไว้ชัดเจน ทำให้ในทางปฏิบัติปรากฏธงชาติกรีซที่มีโทนสีหลากหลายตั้งแต่สีฟ้าอ่อนไปจนถึงสีน้ำเงินเข้ม สำหรับวันธงชาติกรีซได้กำหนดไว้ตรงกับวันที่ 27 ตุลาคม ของทุกปี
ธงชาติสำหรับใช้บนแผ่นดินแบบเดิมยังคงมีการชักไว้ ณ อาคารรัฐสภาเก่า ในกรุงเอเธนส์ ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แห่งชาติของกรีซ และประชาชนบางส่วนยังนิยมประดับธงนี้ในลักษณะไม่เป็นทางการ
ข้อบังคับและธรรมเนียมปฏิบัติ
การใช้ธงชาติกรีซถูกกำหนดไว้ด้วยกฎหมายเลขที่ 851 ของประเทศกรีซ กล่าวโดยเฉพาะอย่างยิ่ง กฎหมายดังกล่าวได้บัญญัติไว้ว่า:
- ในกรณีที่มีการแสดงธงชาติ ณ ทำเนียบประธานาธิบดี รัฐสภาเฮลเลนนิค ที่ทำการกระทรวงกรมกองต่างๆ สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลของกรีซ โรงเรียน ค่ายทหาร และในเรือสาธารณและของเอกชน ตลอดรวมถึงในกองทัพเรือ จะต้องมีการปฏิบัติต่อธงชาติดังนี้
- ชักขึ้นประจำยอดเสาตั้งแต่เวลา 8.00 น. จนกระทั่งเวลาพระอาทิตย์ตกดิน
- จะต้องแสดงไว้บนเสาธงสีขาว ซึ่งยอดธงประดับด้วยรูปกางเขนสีขาวเหนือเม็ดบัวหัวเสาสีขาว
- จะต้องไม่แสดงธงที่ฉีกขาดหรือเสียหายเป็นอันขาด ในกรณีดังเช่นที่ว่านี้ ควรทำลายธงโดยการเผาด้วยความเคารพสำรวม
- พลเรือนสามารถแสดงธงชาติได้ในวันที่มีการกำหนดไว้เฉพาะโดยกระทรวงกิจการภายใน เช่นเดียวกับในกิจกรรมการแข่งขันกีฬาและโอกาสอื่นในลักษณะที่คล้ายคลึงกัน
- เมื่อแสดงธงชาติโดยการแขวนแนวตั้ง ช่องสี่เหลี่ยมที่มุมธงบนด้านคันธงต้องอยู่ทางด้านซ้าย เมื่อมองจากตำแหน่งของผู้เห็นธงทางด้านหน้า
- ไม่ควรปฏิบัติต่อธงชาติดังนี้:
- ทำเครื่องหมาย ข้อความ หรือสัญลักษณ์ใดๆ ลงบนธงชาติ
- ใช้ธงชาติคลุมอนุสาวรีย์ ในกรณีเช่นว่านี้ ควรใช้ผืนผ้าตามสีของธงชาติแทน
- แขวนตามหน้าต่างหรือระเบียงโดยปราศจากเสาธง
- ใช้ธงเพื่อมุ่งหวังประโยชน์ทางการค้า
- ใช้เป็นสัญลักษณ์ของบริษัทหรือองค์กรใดๆ แม้จะทำในสัดส่วนที่ผิดแผกจากที่กำหนดไว้ในธงชาติก็ตาม
- กรณีที่ใช้ธงชาติคลุมประดับโลงศพ ช่องสี่เหลี่ยมที่มุมธงบนด้านคันธงต้องอยู่ทางด้วยขวาของศีรษะผู้เสียชีวิตเสมอ
สีธง
รัฐบาลกรีซมิได้กำหนดสีฟ้าของธงที่แน่นอนไว้ว่าควรใช้สีฟ้าแบบใด ดังนั้นจึงทำให้ธงชาติกรีซที่ปรากฏมีแบบสีต่างๆ ที่หลากหลายมาก ในกฎหมายฉบับล่าสุดที่เกี่ยวกับธงของกรีกได้กล่าวไว้ว่า
Law 851/1978, Regarding the National Flag, Article 1, Clause 1
การใช้ชื่อสีว่า "cyan" (ภาษากรีก: Κυανός, Kyanos) ซึ่งในภาษากรีกอาจหมายถึงสีฟ้า ("blue") ได้เช่นกัน เฉดสีที่แน่นอนของสีฟ้าในที่นี้จึงค่อนข้างกำกวม แม้ความในกฎหมายจะบอกเป็นนัยว่าให้ใช้สีฟ้าอ่อนตามแบบที่ใช้ในธงขององค์การสหประชาชาติ แต่แนวโน้มของสีธงจริงกลับเป็นไปในทางสีเข้ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงระหว่างยุคเผด็จการทหาร ค.ศ. 1967 - 1974 และในช่วงเวลาไม่นานมานี้ ยกเว้นแต่ในสมัยแห่งการปกครองของ ซึ่งใช้ธงชาติกรีซด้วยสีฟ้าที่อ่อนมาก
แบบสีทางการ (ขาว) | แบบสีทางการ (ฟ้า) | ระบบสี | ที่มา | ปี | URL |
---|---|---|---|---|---|
ไม่ระบุ | 286 C | แพนโทน | Album des Pavillons | 2000 | |
ไม่ระบุ | 100% - 60% - 0% - 5% | CMYK | Album des Pavillons | 2000 | |
ไม่ระบุ | 285 | แพนโทน | 2008 Summer Olympics Flag Manual | 2008 | |
NA | Reflex Blue | 2012 Summer Olympics Flag Manual | 2012 |
วันประดับธง
กฎหมาย 851/1978 ได้กำหนดวันเวลาในภาพรวมไว้สำหรับการประดับธงชาติในวาระอันสมควร การชักธงชาติในวันหยุดของทางราชการและวันหยุดสาธารณะในท้องถิ่นนั้นถูกกำหนดให้เป็นหน้าที่ของชาวกรีกทุกคน ตั้งแต่เวลา 8.00 น. จนกระทั่งพระอาทิตย์ตกดิน สำหรับวันหยุดราชการนั้น ข้อกำหนดดังกล่าวมีผลบังคับใช้ทั่วประเทศ แต่ในกรณีวันหยุดของท้องถิ่นนั้น มีผลแต่เพียงสำหรับบริเวณที่ได้กำหนดวันดังกล่าวให้เป็นวันเฉลิมฉลองของท้องถิ่นเท่านั้น อนึ่ง ธงชาติยังสามารถชักขึ้นได้ในวันที่กำหนดให้มีการไว้ทุกข์ทั่วประเทศด้วยเช่นกัน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการภายในเป็นผู้มีอำนาจเต็มในการกำหนดวันประดับธงในกรณีที่ยังไม่มีการกำหนดวันดังกล่าวขึ้นมาก่อน ส่วนการกำหนดวันประดับธงประจำท้องถิ่นนั้น เป็นอำนาจของผู้ที่ได้รับเลือกให้เป็นประมุขขององค์การบริหารการปกครองส่วนภูมิภาคในท้องถิ่นนั้นๆ
วันที่ | ชื่อวัน | เหตุผล |
---|---|---|
25 มีนาคม | วันที่ระลึกเหตุการณ์ 25 มีนาคม | เฉลิมฉลองครบรอบวันเริ่ม |
28 ตุลาคม | "Ochi Day" (วันแห่งการปฏิเสธ) | เฉลิมฉลองครบรอบการปฏิเสธการยื่นคำขาดของอิตาลีระหว่างช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปี ค.ศ. 1940 |
17 พฤศจิกายน | วันโพลีเทคนิค | เฉลิมฉลองครบรอบปีของการลุกฮือของกลุ่มนักเรียนโพลีเทคนิคในกรุงเอเธนส์ เพื่อต่อต้านรัฐบาลเผด็จการทหาร (วันหยุดโรงเรียน) อ้างอิงผิดพลาด: พารามิเตอร์ในป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง |
ทั้งนี้ แม้วันที่ 17 พฤศจิกายน จะไม่ใช่วันที่ทางราชการประกาศให้เป็นวันหยุดราชการก็ตาม แต่ในคำสั่งประธานาธิบดีที่ 201/1998 ได้ระบุไว้ว่า พึงแสดงความเคารพต่อธงชาติเนื่องในวันดังกล่าวด้วยอ้างอิงผิดพลาด: พารามิเตอร์ในป้ายระบุ <ref>
ไม่ถูกต้อง
ธงทหาร
ธงชัยของทหารบกและทหารอากาศ
ธงชัยของทหารบกและทหารอากาศแห่งประเทศกรีซเป็นธงรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส พื้นสีฟ้า พาดทับด้วยกางเขนแบบกรีกสีขาว ที่ใจกลางรูปกางเขนมีรูปของนักบุญจอร์จสำหรับธงชัยของทหารบก ส่วนธงชัยของทหารอากาศจะใช้รูปของ และธงชัยของตำรวจจะใช้รูปของ
ธงดังกล่าวนี้เป็นธงสำหรับใช้โดยกองทหารราบ ทหารยานเกราะ และหน่วยรบพิเศษ ซึ่งอยู่ในระดับกองพันและระดับกรม, (Evelpidon Military Academy) และ กองทหารรักษาการณ์ของประธานาธิบดี ในยามเข้าสู้รบหรือในการสวนสนาม อย่างไรก็ตาม การนำธงชัยเข้ารบในสมรภูมิด้วยนั้นไม่เป็นที่นิยมตามวิธีการรบที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
- ธงชัยของกองทหารบก
- ลักษณะของธงประจำหน่วยทหารบก (ในที่นี้แสดงภาพธงคณะเสนาธิการทหาร)
- ธงกองทัพอากาศและธงอากาศยานพลเรือนกรีซ, ค.ศ. 1973–78
ธงนาวี ธงเรือพลเรือน และธงในราชการทหารเรือ
ธงนาวีและธงเรือพลเรือนของกรีซที่ใช้อยู่ในปัจจุบันใช้ธงแบบเดียวกับธงชาติกรีซ
รูปลักษณ์ของธงกางเขนขาวบนพื้นสีฟ้าปรากฏการใช้อยู่ในธงฉานของกองทัพเรือกรีซ และในเป็นแบบพื้นฐานสำหรับธงหมายยศต่างๆ ของกองทัพเรือกรีซ ธงเหล่านี้ปรากฏความบรรยายอยู่ในหมวด 21 มาตรา 2101-2130 ของข้องบังคับทหารเรือของกรีซ ธงฉานของกรีซนั้น นอกจากจะใช้บนเรือรบของกองทัพเรือแล้ว ยังใช้สำหรับเรือยามฝั่งของประเทศกรีซด้วยอีกหน่วยหนึ่ง
หน่วยทหารในกองทัพเรือกรีกและหน่วยย่อยของกองเรือยามฝั่งในการเดินสวนนามจะใช้ธงนาวีเป็นเครื่องหมายแทนการใช้ธงชัยประจำหน่วย
- ธงฉาน
- ธงประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแห่งกรีซสำหรับกองทัพเรือ
- ธงนายพลเรือเอก
- ธงกองเรือยามฝั่ง (ค.ศ. 1964–80)
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
- Volker Preuß. "Griechenland" (ภาษาเยอรมัน). สืบค้นเมื่อ 2007-05-17.
- "Η καθιέρωση της ελληνικής σημαίας. (เว็บไซต์กองทัพสาธารณรัฐเฮลเลนิก)". จากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-04-02. สืบค้นเมื่อ 2007-04-02.
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-10-15. สืบค้นเมื่อ 2008-10-22.
- Ottfried Neubecker, Heraldry - Sources, Symbols and Meaning, pp.106, Tiger Books International (Twickenham), 1997.
- History of Greek Flags
- Alexander-Michael Hadjilyra: , Hellenic Army General Staff, 2003.
- http://www.rbvex.it/cretasamo.html
- "Greek Independence Day". www.britannica.com. สืบค้นเมื่อ 2009-09-09.
The Greek revolt was precipitated on March 25, 1821, when Bishop Germanos of Patras raised the flag of revolution over the Monastery of in the Peloponnese. The cry “Freedom or Death” became the motto of the revolution. The Greeks experienced early successes on the battlefield, including the capture of Athens in June 1822, but infighting ensued.
- Frazee, Charles A. (1969). The Orthodox Church and independent Greece, 1821-1852. CUP Archive. pp. 18–20. ISBN .
On 25 March, Germanos gave the revolution its great symbol when he raised a banner with the cross on it at the monastery of Ayia Lavra.
- Law 851/21-12-1978 On the national Flag, War Flags and the Distinguishing Flag of the President of the Republic, Gazette issue A-233/1978.
- (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2013-01-20. สืบค้นเมื่อ 2011-06-06.
- สี "cyan" นี้ไม่ทราบว่าตรงกับสีอะไรในภาษาไทย จึงขอคงคำเดิมจากต้นฉบับในวิกิพีเดียภาษาอังกฤษ
- Album des pavillons nationaux et des marques distinctives. Brest, France: S.H.O.M.; 2000. p. 238.
- Flag Manual. Beijing, China: Beijing Organizing Committee for the Games of the XXIX Olympiad – Protocol Division; 2008. p. B15.
- Flags and Anthems Manual. London, United Kingdom: London Organising Committee of the Olympic Games and Paralympic Games Limited; 2012. p. 47.
- Procedural time limits - Greece
- O. Zotiadis (January 2001). "Decorations of War Flags (กรีก: Τιμητικές διακρίσεις πολεμικών σημαιών)". Military Review. Hellenic Army General Staff.
- Presidential Decree 348 /17-4-1980, On the war flags of the Armed Forces and the Gendarmerie Corps, Gazette issue A-98/1980.
แหล่งข้อมูลอื่น
- ธงชาติกรีซ ที่ Flags of the World (อังกฤษ)
- ประวัติธงชาติกรีซ
- Presidency of the Hellenic Republic: State Symbols, The Flag 2008-10-15 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Article on the Greek Flag from the website of the Hellenic Army (in Greek) 2007-04-02 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Greek flags during the Ottoman era (in Greek) 2007-03-11 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
lingkkhamphasa inbthkhwamni miiwihphuxanaelaphurwmaekikhbthkhwamsuksaephimetimodysadwk enuxngcakwikiphiediyphasaithyyngimmibthkhwamdngklaw krann khwrribsrangepnbthkhwamodyerwthisudbthkhwamnixangxingkhristskrach khristthswrrs khriststwrrs sungepnsarasakhykhxngenuxha thngchatikris krik Shmaia ths Ellados odythwipniymeriykwa Galanoleykh hrux Kyanoleykh aeplwa thngnaengin khaw epnthngsiehliymphunpha phunthngepnaethbriwsinaenginslbkhawrwmthnghmd 9 aethb thimumthngbndankhnthngepnrupsiehliymcturssinaengin kwangyawepn 5 in 9 swnkhxngkhwamkwangthng phayinmirupkangekhnsikhawmiplaycdkhxbsinaengin kangekhndngklawnihmaythungsasnakhristsungepnsasnapracachati swnaethbsinaenginslbkhaw 9 aethbnn odythwipchawkrikhmaythungphyangkh 9 phyangkhinpraoykhphasakrikthiwa Eley8eria h 8anatos xanwa ex elf eth ri xa xi tha na thxs E lef the ri a i Tha na tos aeplwa esriphaphhruxkhwamtay odyaethbsinaengin 5 aethbhmaythung 5 phyangkhaerk swnaethbsikhaw 4 aethb hmaythung 4 phyangkhsudthaykhxngpraoykhdngklaw xyangirktam yngmixikthvsdihnungklawwa aethbthng 9 aethbnihmaythungethphthidamiwess Muses phuepnethphaehngsilpwithyakartang thng 9 xngkh intanankrikobran sahrbsdswnthngxyangepnthangkarnnkwang 2 swn yaw 3 swnthngchatikrischuxxun Shmaia ths Ellados thngchatikris Galanoleykh Kyanoleykh thngnaengin khaw karichthngchatisdswnthng2 3prakasich22 thnwakhm kh s 1978 thngnawi tngaet kh s 1822 1978 thngchati tngaet kh s 1969 1970 aelatngaet kh s 1978 epntnma lksnathngphunaethbaenwnxnsinaenginslbkhaw 9 aethb mirupkangekhnsikhawinchxngsiehliymsinaenginthimumthngbndankhnthngthngsahrbnganphithikarkarichthngphleruxn aela thngrachkarsdswnthng2 3prakasichph s 2365lksnathngphunsinaengin phayinmikakbathsikhaw xnung sinaenginaelasikhawthiichinthngnimikartikhwamkhwamhmaytang xyumak bangkwahmaythungsikhxngthxngfaaelanathaelinpraethsni bangkwaepnsikhxngekhruxngaetngkaychawkriktamthrrmeniymobran thngni radbkhxngsinaengininthngchatinimikarepliynaeplngmaaelwhlaykhrng odyaebbsithiichxyuinpccubnerimichmatngaetchwngplaykhristthswrrsthi 1960 rupaebbthngdngthipraktinpccubnni epnaebbthngthiidrbkarrbrxngcakthiprachumrthsphaaehngchatikhxngkriskhrngaerk n emuxngexpiedarus The First National Assembly at Epidaurus emuxwnthi 13 mkrakhm kh s 1822prawtiswnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidthngkhxngkriksmyobranaelayukhckrwrrdiibaesnithn swnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidrupkangekhnepnsylksnthiphbidbxythisudin aebbthngdngpraktkhangbnni epnaebbthngaebbediywthiidrbkaryunynwaepnthngkhxngckrwrrdiibaesnithncring praktkarichinchwngkhriststwrrsthi 14 smy House of Palaiologos sungepnrachwngssudthaythipkkhrxngckrwrrdismyckrwrrdixxtotman phaphwaderuxsinkhachkthngkrik xxtotman inchwngaehngkarpkkhrxngkhxngckrwrrdixxtotmannn chawkrikidichthngkhxngtnxyangimepnthangkarkhunhlayaebb sungpktimkichrupnkxinthrisxnghwkhxngibaesnithn rupkangekhn rupnkbuytang insasnakhristaelakhakhwytang xyanghlakhlay kxngthharmasipahi sipahi khxngchawkrikthinbthuxsasnakhristsungthukcangodysultanaehngxxtotmanidrbxnuyatihmithngkhxngtnexng sungepnaebbthngchawkhristxyangchdecn ichidinekhtexpirus Epirus aela Peloponnese lksnaepnthngrupkangekhnsifabnphunsikhaw trngklangepnphaphnkbuycxrcprabmngkr praktkarichrahwang kh s 1431 cnthung kh s 1639 emuxxphisiththiinkarichthngidthukcakdiwepnxyangmakcaksultanxxtotman thngthimilksnakhlaykbthngdngklawidthukichodyphunachawkrikradbthxngthinkhnxun echnkn swnthngthixacnbidwaiklekhiyngkbkhwamepn thngchati khxngchawkrikmakthisudinyukhni idaekthngsungthukeriykchuxwa thngkrik xxtotman krik Graiko8wmanikh pantiera xnepnthngeruxsinkhathiphxkhachawkrikxxrothdxksinkhwampkkhrxngkhxngxxtotmanidrbxnuyatihchkkhunineruxkhxngtnid thngniprakxbdwyaethbsiaedngkhxngckrwrrdixxtotmanaelaaethbklangsinaenginkhxngphwkkrikxxrothdxks txmahlngkarthasnthisyyakuxchuk ekhynarka eruxsinkhakhxngchawkriksamarthchkthngchatirsesiykhunineruxiddwyxikthnghnung rahwangkarlukhuxtxtanckrwrrdixxtotmaninpi kh s 1769 thngkangekhnfaphunkhawinprawtisastridthukruxfunklbmaichxikkhrngodyphunasakhythangthhar aelacathuknamaichodyphunathangthharchawkrikthnghmdinkarptiwtipi kh s 1821 thngdngklawidklawepnthngptiwtithiidrbkhwamniymcakmhachnmakthisud nxkcakniyngmikarthkethiyngxikwasmkhwrcaichthngniepnthngchatidwy thngaebbslbsikhuxphunthngsifamikangekhnsikhawkidmikarxubtikhuninthanathngkhxngchawkrikxikthnghnunginrahwangkarlukhuxdngklawdwyechnkn aebbthngxyanghlngniepnthngxikaebbhnungthichawkrikekhyichmakxninlksnakhxngsylksnpracathxngthin kxngthharxasasmkhrchawkrikinkxngthphkhxngckrphrrdinopeliynthi 1 aehngfrngess sungekharwmkarsngkhramthixiyiptinpi kh s 1798 eluxkichthngkangekhnkhawbnphunsifa aethrkrupthngsamsikhxngfrngessiwthisiehliymmumthngbndankhnthng epnekhruxngkhxngtnexng phunathangthharkhnhnung khux yixannis stathas ichthngkangekhnkhawbnphunfabneruxkhxngtnnbtngaet kh s 1800 lksnaaebbaerkkhxngthngkhxngekhaphxngknodybngexiyaelathukichodywiharkhxngprakaskbnekaasekiythxs inpi kh s 1807 brrdaphunathangthharthioddedncanwnmak echn aela idrwmklumpruksaharuxekiywkarlukhuxtxtanxxtotman phwkekhaidsabantxthngnirwmknodymimukhnayk bishop inthxngthinepnphuthaphithiih thngkhxngkxngthharmasipahichawkrik inkxngthphckrwrrdixxtotman kh s 1431 1619 thngeruxsinkhasahrberuxsychatixxtotmansungepnkhxngchawkrikxxrothdxks thngphleruxnaelathngeruxphleruxnkhxng kh s 1835 1912 thngkhxng kh s 1800 1807 xnepndinaednpkkhrxngtnexngaehngaerkkhxngrthkriksmyihm thngrachkarkhxng Cretan State thngphleruxnkhxngrthkhrityukhsngkhramprakasexkrach tnchbbkhxngphaphthngthi idrangiwmukhnaykthaphithieskthngihkbkxngthphkbtchawkrikthimhawiharaehngxaekiy lafra Agia Lavra kh s 1821 inchwngkxnhnaaelatxntnkhxngsngkhramprakasexkrachkris kh s 1821 1829 idpraktkarxxkaebb karesnx aelakarichthngtangodypyyachnchawkrikcanwnmakthiinyuorp brrdaphunathxngthin aelasphathxngthintang khxngkris nxkcakkarichthngthimirupkangekhnaelw thngxun canwnmakmkichrupnkbuyinkhristsasna rupnkfiniks sylksnkarkaenidihmkhxngchatikris khakhwytang echn esriphaphhruxkhwamtay Eley8eria h 8anatos hruxrupsylksnthikhlaykbkhwanmdhway khxngsmakhmfiliki exetherxa sungepnsmakhmlbthixyuebuxnghlnginkarlukkhunsutxtanckrwrrdixxtotmankhrngni thngkhxnghwhnakxngthharkrikimthrabhnwyrahwangkarptiwti thngkhxnghwhnakxngthharkrikimthrabhnwyrahwangkarptiwti thngsungpraktxyangaephrhlaynbtngaet kh s 1769 cnthungchwngsngkhramprakasexkrach aebbthngkhxngkristhiesnxody kh s 1797 thngkhxngklum hrux Ieros Loxos danhna thngkhxng danhna thngkhxngrthbalthxngthinsungeriyktnexngwa xaeroxpaksaehngkrisphakhphunthwipfaytawnxxk Areopagus of Eastern Continental Greece thngkhxngsmakhmlb thngkhxngchawmanioxt Maniots thngkhxngedemthrixxs xibsilntis Demetrios Ypsilantis thngkhxng thngkhxnghmuekaasephtess thngkhxngkhabsmuthrchalkidiki thngkhxngthngchatikrissmyihmdwyehtuthichatirachathipityinyuorpsungepnphnthmitrknphayitchux aehngyuorp hwadraaewngtxkhbwnkarthiekhluxnihwephuxkarptiwtiaehngchatihruxkarptiwtisngkhmtang dngechnkartng exthaxierxa Etaireia hruxkarprachumsphaaehngchatikhrngaerkkhxngkristhiemuxngexpiedarus sungcdihmikhunineduxnmkrakhm kh s 1822 idnaipsukarekhaaethrkaesngsphadngklaw aelathaihkrisklayepnrthchatikaenidihmthimilksna epnaebbaephntamthrrmeniymniym klawkhuxepnrththithukcdraebiybihm odymhaxanacyuorp sungmiephiyngaetmikarlmeliksphathxngthinaelarwmxanacekhasusunyklangethann aetyngmikartdsinicykelikthngkhxngkarptiwtithnghmdaelakahndaebbthngrwmihichthwipephiyngthngediyw aetehtuphlthithaihaebbthngkangekhnkhawbnphunsifathukeluxkihichepnthngchati aethnthicaepnthngkarekhnfabnphunkhawsungidrbkhwaniymmakkwann yngimepnthithrabaenchd inwnthi 15 minakhm kh s 1822 rthbalechphaakalidxxkkhasngthi Nr 540 kahndaebbkhxngthngthiaennxnkhun odyihichthngkangekhnkhawbnphunsifaepnthngsahrbichbnaephndin thngekariwsifaslbkhawmikangekhnkhawbrphunfathimumthngbndankhnthngepnthngnawi aelathngsifamirupkangekhnsifainsiehliymsikhawthimumthngbndankhnthngepnthngeruxphleruxn thngeruxsinkha txmainwnthi 30 mithunayn kh s 1828 odykhasngkhxngkhahlwng Ioannis Kapodistrias thngeruxsinkhaaebbdngklawidthukykelikip aelaichthngrupriwsiaelakangekhnepnthngeruxpracapraethsaethn thngineruxsinkhaaelaineruxkhxngkxngthph aebbthngdngklawepnthiniymxyangyinginhmuchawkrikaethbcathnthithnid aelainthangptibtiaelw chawkrikmkcaichthngnikhukbthngchatisungepnrupkangekhnkhawbnphunfaxyuesmx thngsahrbichbnaephndin kh s 1821 1822 thngrachnawikhxngkris kh s 1822 1828 thngphanichynawikhxngkris kh s 1822 1828 thngsahrbichbnaephndin kh s 1822 1969 aela kh s 1975 1978 thngchatisahrbichineruxedinthaelaelaintangpraeths hlng kh s 1978 idklayepnthngchatikhxngkrisephiyngaebbediywphthnakarkhxngthngchatikrissmyihm thngchatikristhngchatikrisaebbeka sahrbichinaephndin hlngkarsthapnarachxanackrkrisinpi kh s 1832 phraecaxxtotaehngrachwngswitetlsbakh kstriyphraxngkhihm idthrngephimtrapracaphraxngkhiwthiklangrupkangekhnkhawinthngkhxngkxngthphthngfaythharbkaelafaythharerux tradngklawepntraxarmlwdlaytarangaebbtraxarmkhxngrthbaeyirnpradbmngkud sungbngbxkthungpthmwngsaehngkstriyphraxngkhnn txmaephuxphraecaxxtotidthrngslarachsmbtiinpi kh s 1862 traxarmdngklawidthukexaxxkcakthng khngehluxaetephiyngrupmngkudkstriyephiyngxyangediywemuxkstriyphraxngkhihm khux phraecacxrcthi 1 aehngkris sungepnecachayednmark idesdcmayngkrisephuxrbrachsmbtiaethnphraecaaephndinxngkhedim thngaebbsahrbichinaephndininrupsiehliymcturs klangthngmirupnkbuycxrc idrbkaryxmrbemuxwnthi 9 emsayn kh s 1864 inthanakhxngthngchypracakxngthphbk aebbthngthimikarcderiynglksnathikhlungknechnniidthuknaipichinthngkhxngphrarachwngs sungichruptraxarmkhxngrachwngs aebbsiehliymctursmapradbthiklangthngchati lksnarupthrngthiaennxnaelakdeknthkarichthngdngklawidthukkahndiwtamphrabrmrachoxngkarlngwnthi 26 knyayn kh s 1867 txmacungidmiphrabrmrachoxngkarchbbihm lngwnthi 31 phvsphakhm kh s 1914 kahndihthngaebbsahrbichinaephndinsungmirupmngkudkstriyprakxbxyudwyichepnthngrachkarsahrbkrathrwngthbwngkrm sthanthut aelahnwynganrachkarphleruxn swnthngsahrberuxedinthaelnn idxnuyatihichsahrbphlemuxngthwip inwnthi 25 minakhm kh s 1924 idmikarnarupmngkudxxkcakthngthukchnid xnepnphlsubenuxngcakkarsthapna txmacungidmikarkahndsdswnkhxngthngthiaennxninwnthi 20 kumphaphnth kh s 1930 odymikhwamkwangepn 2 swn yaw 3 swn kingkhxngkangekhnaetladanmikhwamkwangepn hnunginhaswnkhxngkhwamkwangthng aebbthngsahrbinaephndinnnthukichodykrathrwngtang aelasthanthut swnthngsahrberuxedinthaelnnthukichodykxngthpherux eruxsinkhaexkchn kickarkngsul aelaprachachnodythwip karfunfurabxbrachathipityodynaykrthmntri inwnthi 10 tulakhm kh s 1935 idthaihmikarfunfukarichrupmngkudinthngchatikhunihm rupdngklawkidthuklblangxxkipxikkhrngodyrthbalephdckarthharkhxngkrisinpi kh s 1967 sungepnphltxenuxngcakkarptiwtisxnthilmehlwaelakaresdcliphythangkaremuxngkhxngphraecakhxnsaetntinthi 2 inwnthi 13 thnwakhmkhxngpinn thngsahrberuxedinthaelidthukkahndihepnthngchatikrisephiyngthngediywinpi kh s 1969 odyichothnsifaekhmmak klawxiknyhnungkhuxsinaengin aelaidmikarepliynaeplngsdswnthngcak 2 3 epn 7 12 inwnthi 18 singhakhm kh s 1970 hlngkarfunfuprachathipityineduxnsinghakhm kh s 1974 thngaebbsahrbichinaephndinidthukfunfuihichepnrayasn tamkdhmayelkhthi 48 1975 khasngprathanathibdithi 515 1975 cnthungpi kh s 1978 thngrachkarsmyrachwngswitetlsbakh kh s 1833 1862 thngrachnawismyrachwngswitetlsbakh kh s 1833 1862 thngrachkarsmy kh s 1863 1924 aela kh s 1935 73 thngrachkarsmyrachwngsklukhsbwrk kh s 1863 1924 aela kh s 1935 73 thngchatismyrthbalthhar kh s 1970 75 thngchatikrisinpccubnaebbkarsrangthngchatikriskaraesdngthngtamaenwtngaebbthithuktxngkaraesdngthngtamaenwtngaebbthiimthuktxng aebbthngchatisahrbichinkaredinkhbwnphaehrd inpi kh s 1978 aebbthngchatikrissungepnaebbthiekhyichsahrberuxedinthael sea flag idrbkarrbrxngihepnaebbthngchatikrisodyswnrwmthnghmdephiyngaebbediyw odykahndsdswnthngiwthikwang 2 swn yaw 3 swn thngdngklawni ichthngbnaephndinaelainthaelthnghmd aelaichepnthngthngnawikhxngkxngthpheruxaelathngeruxphleruxn thdaethnaebbthngxuni thiichinhnathixyangediywkninyukhkxnhnathnghmd sungkarichthngchatinnidhamkarthaekhruxnghmaysylksnhruxkhxkhwamid praktinthngepnxnkhad xyangirktam othnsikhxngsifa sinaenginthiichinthngimidmikarbyytiiwchdecn thaihinthangptibtipraktthngchatikristhimiothnsihlakhlaytngaetsifaxxnipcnthungsinaenginekhm sahrbwnthngchatikrisidkahndiwtrngkbwnthi 27 tulakhm khxngthukpi thngchatisahrbichbnaephndinaebbedimyngkhngmikarchkiw n xakharrthsphaeka inkrungexethns sungpccubnepnthitngkhxngphiphithphnthprawtisastraehngchatikhxngkris aelaprachachnbangswnyngniympradbthngniinlksnaimepnthangkar khxbngkhbaelathrrmeniymptibti karichthngchatikristhukkahndiwdwykdhmayelkhthi 851 khxngpraethskris klawodyechphaaxyangying kdhmaydngklawidbyytiiwwa inkrnithimikaraesdngthngchati n thaeniybprathanathibdi rthsphaehlelnnikh thithakarkrathrwngkrmkxngtang sthanexkxkhrrachthutaelasthankngsulkhxngkris orngeriyn khaythhar aelaineruxsatharnaelakhxngexkchn tlxdrwmthunginkxngthpherux catxngmikarptibtitxthngchatidngnichkkhunpracayxdesatngaetewla 8 00 n cnkrathngewlaphraxathitytkdin catxngaesdngiwbnesathngsikhaw sungyxdthngpradbdwyrupkangekhnsikhawehnuxemdbwhwesasikhaw catxngimaesdngthngthichikkhadhruxesiyhayepnxnkhad inkrnidngechnthiwani khwrthalaythngodykarephadwykhwamekharphsarwmphleruxnsamarthaesdngthngchatiidinwnthimikarkahndiwechphaaodykrathrwngkickarphayin echnediywkbinkickrrmkaraekhngkhnkilaaelaoxkasxuninlksnathikhlaykhlungkn emuxaesdngthngchatiodykaraekhwnaenwtng chxngsiehliymthimumthngbndankhnthngtxngxyuthangdansay emuxmxngcaktaaehnngkhxngphuehnthngthangdanhna imkhwrptibtitxthngchatidngni thaekhruxnghmay khxkhwam hruxsylksnid lngbnthngchati ichthngchatikhlumxnusawriy inkrniechnwani khwrichphunphatamsikhxngthngchatiaethn aekhwntamhnatanghruxraebiyngodyprascakesathng ichthngephuxmunghwngpraoychnthangkarkha ichepnsylksnkhxngbristhhruxxngkhkrid aemcathainsdswnthiphidaephkcakthikahndiwinthngchatiktamkrnithiichthngchatikhlumpradbolngsph chxngsiehliymthimumthngbndankhnthngtxngxyuthangdwykhwakhxngsirsaphuesiychiwitesmxsithng rthbalkrismiidkahndsifakhxngthngthiaennxniwwakhwrichsifaaebbid dngnncungthaihthngchatikristhipraktmiaebbsitang thihlakhlaymak inkdhmaychbblasudthiekiywkbthngkhxngkrikidklawiwwa thngchatikrikepnthngsi cyan aelasikhaw prakxbdwyaethbriwekaaethbkhwamkwangethakn epnaethbsi cyan haaethb aelaaethbsikhawsiaethb aethbbnsudaelalangsudepnaethbsi cyan rahwangaethbsifaxun epnaethbsikhaw Law 851 1978 Regarding the National Flag Article 1 Clause 1 karichchuxsiwa cyan phasakrik Kyanos Kyanos sunginphasakrikxachmaythungsifa blue idechnkn echdsithiaennxnkhxngsifainthinicungkhxnkhangkakwm aemkhwaminkdhmaycabxkepnnywaihichsifaxxntamaebbthiichinthngkhxngxngkhkarshprachachati aetaenwonmkhxngsithngcringklbepnipinthangsiekhm odyechphaaxyangyinginchwngrahwangyukhephdckarthhar kh s 1967 1974 aelainchwngewlaimnanmani ykewnaetinsmyaehngkarpkkhrxngkhxng sungichthngchatikrisdwysifathixxnmak aebbsithangkar khaw aebbsithangkar fa rabbsi thima pi URLimrabu 286 C aephnothn Album des Pavillons 2000imrabu 100 60 0 5 CMYK Album des Pavillons 2000imrabu 285 aephnothn 2008 Summer Olympics Flag Manual 2008NA Reflex Blue 2012 Summer Olympics Flag Manual 2012wnpradbthng kdhmay 851 1978 idkahndwnewlainphaphrwmiwsahrbkarpradbthngchatiinwaraxnsmkhwr karchkthngchatiinwnhyudkhxngthangrachkaraelawnhyudsatharnainthxngthinnnthukkahndihepnhnathikhxngchawkrikthukkhn tngaetewla 8 00 n cnkrathngphraxathitytkdin sahrbwnhyudrachkarnn khxkahnddngklawmiphlbngkhbichthwpraeths aetinkrniwnhyudkhxngthxngthinnn miphlaetephiyngsahrbbriewnthiidkahndwndngklawihepnwnechlimchlxngkhxngthxngthinethann xnung thngchatiyngsamarthchkkhunidinwnthikahndihmikariwthukkhthwpraethsdwyechnkn rthmntriwakarkrathrwngkickarphayinepnphumixanacetminkarkahndwnpradbthnginkrnithiyngimmikarkahndwndngklawkhunmakxn swnkarkahndwnpradbthngpracathxngthinnn epnxanackhxngphuthiidrbeluxkihepnpramukhkhxngxngkhkarbriharkarpkkhrxngswnphumiphakhinthxngthinnn wnpradbthngchatikris wnthi chuxwn ehtuphl25 minakhm wnthiralukehtukarn 25 minakhm echlimchlxngkhrbrxbwnerim28 tulakhm Ochi Day wnaehngkarptiesth echlimchlxngkhrbrxbkarptiesthkaryunkhakhadkhxngxitalirahwangchwngsngkhramolkkhrngthi 2 inpi kh s 194017 phvscikayn wnophliethkhnikh echlimchlxngkhrbrxbpikhxngkarlukhuxkhxngklumnkeriynophliethkhnikhinkrungexethns ephuxtxtanrthbalephdckarthhar wnhyudorngeriyn xangxingphidphlad pharamietxrinpayrabu lt ref gt imthuktxng thngni aemwnthi 17 phvscikayn caimichwnthithangrachkarprakasihepnwnhyudrachkarktam aetinkhasngprathanathibdithi 201 1998 idrabuiwwa phungaesdngkhwamekharphtxthngchatienuxnginwndngklawdwyxangxingphidphlad pharamietxrinpayrabu lt ref gt imthuktxngthngthharthngchykhxngthharbkaelathharxakas thngchykhxngthharbkaelathharxakasaehngpraethskrisepnthngrupsiehliymcturs phunsifa phadthbdwykangekhnaebbkriksikhaw thiicklangrupkangekhnmirupkhxngnkbuycxrcsahrbthngchykhxngthharbk swnthngchykhxngthharxakascaichrupkhxng aelathngchykhxngtarwccaichrupkhxng thngdngklawniepnthngsahrbichodykxngthharrab thharyanekraa aelahnwyrbphiess sungxyuinradbkxngphnaelaradbkrm Evelpidon Military Academy aela kxngthharrksakarnkhxngprathanathibdi inyamekhasurbhruxinkarswnsnam xyangirktam karnathngchyekharbinsmrphumidwynnimepnthiniymtamwithikarrbthiichxyuinpccubn thngchykhxngkxngthharbk lksnakhxngthngpracahnwythharbk inthiniaesdngphaphthngkhnaesnathikarthhar thngkxngthphxakasaelathngxakasyanphleruxnkris kh s 1973 78thngnawi thngeruxphleruxn aelathnginrachkarthharerux thngnawiaelathngeruxphleruxnkhxngkristhiichxyuinpccubnichthngaebbediywkbthngchatikris ruplksnkhxngthngkangekhnkhawbnphunsifapraktkarichxyuinthngchankhxngkxngthpheruxkris aelainepnaebbphunthansahrbthnghmayystang khxngkxngthpheruxkris thngehlanipraktkhwambrryayxyuinhmwd 21 matra 2101 2130 khxngkhxngbngkhbthhareruxkhxngkris thngchankhxngkrisnn nxkcakcaichbneruxrbkhxngkxngthpheruxaelw yngichsahrberuxyamfngkhxngpraethskrisdwyxikhnwyhnung hnwythharinkxngthpheruxkrikaelahnwyyxykhxngkxngeruxyamfnginkaredinswnnamcaichthngnawiepnekhruxnghmayaethnkarichthngchypracahnwy thngchan thngpracataaehnngnaykrthmntriaehngkrissahrbkxngthpherux thngnayphleruxexk thngkxngeruxyamfng kh s 1964 80 duephimthnginpraethskris traaephndinkhxngkris ximnxsexstinexelfethrixnxangxingVolker Preuss Griechenland phasaeyxrmn subkhnemux 2007 05 17 H ka8ierwsh ths ellhnikhs shmaias ewbistkxngthphsatharnrthehlelnik cakaehlngedimemux 2007 04 02 subkhnemux 2007 04 02 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2008 10 15 subkhnemux 2008 10 22 Ottfried Neubecker Heraldry Sources Symbols and Meaning pp 106 Tiger Books International Twickenham 1997 History of Greek Flags Alexander Michael Hadjilyra Hellenic Army General Staff 2003 http www rbvex it cretasamo html Greek Independence Day www britannica com subkhnemux 2009 09 09 The Greek revolt was precipitated on March 25 1821 when Bishop Germanos of Patras raised the flag of revolution over the Monastery of in the Peloponnese The cry Freedom or Death became the motto of the revolution The Greeks experienced early successes on the battlefield including the capture of Athens in June 1822 but infighting ensued Frazee Charles A 1969 The Orthodox Church and independent Greece 1821 1852 CUP Archive pp 18 20 ISBN 0521072476 On 25 March Germanos gave the revolution its great symbol when he raised a banner with the cross on it at the monastery of Ayia Lavra Law 851 21 12 1978 On the national Flag War Flags and the Distinguishing Flag of the President of the Republic Gazette issue A 233 1978 PDF khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2013 01 20 subkhnemux 2011 06 06 si cyan niimthrabwatrngkbsixairinphasaithy cungkhxkhngkhaedimcaktnchbbinwikiphiediyphasaxngkvs Album des pavillons nationaux et des marques distinctives Brest France S H O M 2000 p 238 Flag Manual Beijing China Beijing Organizing Committee for the Games of the XXIX Olympiad Protocol Division 2008 p B15 Flags and Anthems Manual London United Kingdom London Organising Committee of the Olympic Games and Paralympic Games Limited 2012 p 47 Procedural time limits Greece O Zotiadis January 2001 Decorations of War Flags krik Timhtikes diakriseis polemikwn shmaiwn Military Review Hellenic Army General Staff Presidential Decree 348 17 4 1980 On the war flags of the Armed Forces and the Gendarmerie Corps Gazette issue A 98 1980 aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb thngchatikris thngchatikris thi Flags of the World xngkvs prawtithngchatikris Presidency of the Hellenic Republic State Symbols The Flag 2008 10 15 thi ewyaebkaemchchin Article on the Greek Flag from the website of the Hellenic Army in Greek 2007 04 02 thi ewyaebkaemchchin Greek flags during the Ottoman era in Greek 2007 03 11 thi ewyaebkaemchchin