บทความนี้ยังต้องการเพิ่มเพื่อ |
ในปัจจุบัน ช้างเอเชียนอกจากจะเป็นสัตว์ประจำชาติไทยแล้ว ยังมีอิทธิพลต่อประเทศไทย ดังนี้
ช้างไทยในสงครามประวัติศาสตร์
- เจ้าพระยาปราบหงสาวดี (ชื่อก้านกล้วยในภาพยนตร์)
- เจ้าพระยาปราบไตรจักร
ช้างไทยในพระราชพิธี
ช้างในวรรณคดีและวรรณกรรมไทย
ช้างไทยในประวัติศาสตร์
สมัยกรุงสุโขทัย
ในศิลาจารึกหลักที่ 1 กล่าวว่าพ่อขุนรามคำแหงมหาราชได้ชนช้างชนะขุนสามชนเจ้าเมืองฉอด และยังมีอีกตอนที่กล่าวถึงช้างเผือกตัวโปรดของพ่อขุนรามคำแหงมหาราชที่ชื่อรุจาครี ซึ่งช้างเผือกตัวนี้ทรงให้แต่งด้วย แล้วทรงนำราษฎรออกบำเพ็ญกุศลตามพระอารามในอรัญญิกเมื่อครั้งที่ทรงครองกรุงสุโขทัย
สมัยกรุงศรีอยุธยา
ในสมัยกรุงศรีอยุธยาได้มีช้างเผือกที่มีลักษณะพิเศษที่นำมาเป็นสัตว์คู่บารมีของพระมหากษัตริย์แต่ละรัชกาล
- ในสมัยสมเด็จพระอินทราชา ได้ช้างเผือกมา 1 เชือก
- ในสมัยสมเด็จพระไชยราชาธิราช ได้ปรากฏช้างเผือกที่ชื่อพระฉัททันต์ขึ้น
- ในสมัยสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ ซึ่งถือได้ว่าเป็นรัชสมัยเริ่มต้นที่ให้ความสำคัญกับช้างเผือกมากที่สุด พร้อมทั้งยังมีช้างเผือกประจำรัชกาลนี้ถึง 7 เชือก คือ พระคเชนทโรดม พระรัตนากาศ พระแก้วทรงบาศ ช้างเผือกพังแม่และพังลูก พระบรมไกรสร พระสุริยกุญชร
- ในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 3 (สมเด็จพระนารายณ์มหาราช) ได้ช้างเผือกมา 2 เชือก คือ พระอินทร์ไอยราวรรณ และเจ้าพระยาบรมคเชนทรฉัททันต์
- ในสมัยสมเด็จพระเพทราชา ได้ช้างเผือกมา 2 เชือก คือ พระอินทรไอราพต และ พระบรมรัตนากาศ
- ในสมัยสมเด็จพระสรรเพชญที่ 8 (พระเจ้าเสือ) ได้ช้างเผือกชื่อ พระบรมไตรจักร
- ในสมัยสมเด็จพระบรมราชาที่ 3 (พระบรมโกศ)ได้ช้างเผือกมา 6 เชือก คือ พระวิเชียรหัสดิน พระบรมราชนาเคนทร พระบรมวิไชยคเชนทร พระบรมกุญชร พระบรมจักรพาลหัตถี พระบรมคชลักษณ์
สมัยกรุงธนบุรี
สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ได้ช้างพังเผือกมา 1 เชือก ได้เมื่อครั้งนำกองทัพกรุงไปล้อมเมืองฝาง เจ้าพระฝางหนีพาช้างไปด้วย หลวงคชชาติกองพญาอินท์วิชิตติดตามได้ลูกช้างนำมาถวาย ปรากฏชื่อตามพงศาวดารว่า นางช้างพญามงคลเสวตคชสารศรีเมืองตัวประเสริฐ, พระยาเศวตรกริณี
สมัยกรุงรัตนโกสินทร์
- พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
- ได้ช้าง 10 เชือก คือ พระบรมไกรสร (บวรสุประดิษฐ) พระบรมไกรสร (บวรบุษปทันต์) พระอินทรไอยรา พระเทพกุญชร พระบรมฉัททันต์ พระบรมนัขมณี พระบรมคชลักษณ์ (อรรคคเชนทร์) พระบรมนาเคนทร์ พระบรมคชลักษณ์ (อรรคชาติดามพหัตถี) พระบรมเมฆเอกทนต์
- พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
- มีช้าง 6 เชือก คือ พระยาเศวตกุญชร พระบรมนาเคนทร์ พระบรมหัศดิน พระบรมนาเคนทร์ (คเชนทรธราธาร) พระยาเศวตไอยรา พระยาเศวตคชลักษณ์
- พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
- มีช้างเผือกอยู่ 20 เชือก คือ พระบรมคชลักษณ์ พระบรมไอยรา พระบรมนาเคนทร์ พระบรมเอกทันต์ พระยามงคลหัสดิน พระยามงคลนาคินทร์ พระบรมไกรสร พระบรมกุญชร พังหงษาสวรรค์ พระนัขนาเคนทร์ พระบรมไอยเรศ พระบรมสังขทันต์ พระบรมคชลักษณ์ (ศักดิสารจุมประสาท) พระบรมนขาคเชนทร์ พระนาเคนทรนขา พระบรมทัศนขา ช้างพลายสีประหลาด พระบรมศุภราช พระยามงคลคชพงศ์ ช้างพลายกระจุดดำ
- พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
- มีช้าง 15 เชือก คือ พระบรมนัขสมบัติ พระวิมลรัตนกิริณี พระบรมคชรัตน พระวิสูตรรัตนกิริณี พระพิไชยนิลนัข พระพิไชยกฤษณาวรรณ พระศรีสกลกฤษณ์ พระมหาศรีเศวตวิมลวรรณ ช้างพังเผือกเอก พระเศวตสุวรรณาภาพรรณ ช้างพังเผือกเอก พระเทวสยามมหาพิฆเนศวร ช้างสีประหลาด เจ้าพระยาปราบไตรจักร พระยาไชยานุภาพ
- พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
- มีช้าง 19 เชือก คือ พระเศวตวรวรรณฯ พระมหารพีพรรณคชพงษ์ พระเศวตสุวภาพรรณ พระเทพคชรัตนกิริณี พระศรีสวัสดิเศวตวรรณ พระบรมทันตวรลักษณ์ พระเศวตวรลักษณ์ พระเศวตวรสรรพางค์ พระเศวตวิสุทธิเทพา พระเศวตสุนทรสวัสดิ์ พระเศวตสกลวโรภาศ พระเศวตรุจิราภาพรรณ พระเศวตวรนาเคนทร์ ช้างพลายเผือกเอก พระศรีเศวตวรรณิภา พระเศวตอุดมวารณ์ ช้างพลายสีประหลาด 2 เชือก เจ้าพระยาไชยานุภาพ
สมัยรัชกาลที่ 9
สมัยพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พบช้างเผือก 21 ช้าง เหลือ 10 ช้าง คือ
การใช้ช้างเป็นตราประจำจังหวัดของไทย
ตราประจำจังหวัด | จังหวัด | คำอธิบายตรา |
---|---|---|
จังหวัดในปัจจุบัน | ||
กรุงเทพมหานคร | รูปพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ ตามแบบภาพฝีพระหัตถ์ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัติวงศ์ | |
เชียงราย | รูปช้างสีขาวกับเมฆ ลายที่ขอบตรามีรูปนาคเกี้ยว | |
เชียงใหม่ | รูปช้างเผือกยืนอยู่ในเรือนแก้ว | |
ตาก | รูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงหลั่งทักษิโณทกเหนือคอช้าง | |
แม่ฮ่องสอน | รูปช้างเล่นน้ำ | |
นครนายก | รูปช้างชูรวงข้าว เบื้องหลังเป็นลอมฟาง | |
สุพรรณบุรี | รูปการทำยุทธหัตถี ระหว่างสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และพระมหาอุปราชมังกะยอชวา ที่ตำบลหนองสาหร่าย เมื่อ พ.ศ. 2135 | |
นราธิวาส | รูปเรือกอและกางใบแล่นรับลมเต็มที่ ภายในใบเรือเป็นรูปช้างเผือกทรงเครื่องคชาภรณ์ รูปช้างนั้นหมายถึงพระศรีนรารัฐราชกิริณีฯ ช้างสำคัญซึ่งจังหวัดนราธิวาสได้น้อมเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อ พ.ศ. 2520 | |
จังหวัดในอดีต | ||
ลานช้าง | รูปโขลงช้างยืนอยู่กลางลานกว้าง |
ช้างในภาพยนตร์
ยังมีภาพยนตร์ไทยที่กล่าวถึงความสำคัญของช้างอีกมากมาย แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของช้างที่เป็นสัญลักษณ์ของชาติไทย เช่น
- คนเลี้ยงช้าง (พ.ศ. 2533)
- ภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับการผจญภัยของช้างกับเด็ก แสดงให้เห็นถึงความฉลาด น่ารัก แสนรู้ของช้าง
- ก้านกล้วย ภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องที่สองของไทย มีเนื้อหาเกี่ยวกับช้าง
- ต้มยำกุ้ง ภาพยนตร์แอคชั่น มีเนื้อหาเกี่ยวกับการลักพาช้างออกนอกประเทศ พระเอกในเรื่องซึ่งเป็นเจ้าของช้างได้ไปตามทวงคืนมา แสดงให้เห็นถึงความรักและหวงแหนช้าง สัตว์ประจำชาติของชาติไทย
- องค์บาก 2 ภาพยนตร์แอคชั่น ซึ่งมีช้างเป็นกองกำลังสมทบ
- ภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์หลายเรื่องที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับสงคราม มักมีการนำช้างมาใช้ในฉากสงคราม
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
- พระราชพงศาวดารกรุงธนบุรี ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม), ๒๕๔๒ : ๔๙๔, พระราชพงศาวดารฉบับพระราชหัตถเลขา (ภาคจบ), ๒๕๐๕ : ๓๓๖-๓๓๗
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamniyngtxngkarephimaehlngxangxingephuxphisucnkhwamthuktxngkhunsamarthphthnabthkhwamniidodyephimaehlngxangxingtamsmkhwr enuxhathikhadaehlngxangxingxacthuklbxxk haaehlngkhxmul changinpraethsithy khaw hnngsuxphimph hnngsux skxlar JSTOR eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir inpccubn changexechiynxkcakcaepnstwpracachatiithyaelw yngmixiththiphltxpraethsithy dngnichangithyinsngkhramprawtisastrecaphrayaprabhngsawdiinsngkhramyuththhtthi phaphcitrkrrmsmyihmphayinwdsuwrrnadaramecaphrayaprabhngsawdi chuxkanklwyinphaphyntr ecaphrayaprabitrckrchangithyinphrarachphithichanginwrrnkhdiaelawrrnkrrmithychangexrawn inphiphithphnthchangexrawn cnghwdsmuthrprakarchangexrawn changphlaymngkhlchangithyinprawtisastrsmykrungsuokhthy insilacarukhlkthi 1 klawwaphxkhunramkhaaehngmharachidchnchangchnakhunsamchnecaemuxngchxd aelayngmixiktxnthiklawthungchangephuxktwoprdkhxngphxkhunramkhaaehngmharachthichuxrucakhri sungchangephuxktwnithrngihaetngdwy aelwthrngnarasdrxxkbaephykusltamphraxaraminxryyikemuxkhrngthithrngkhrxngkrungsuokhthy smykrungsrixyuthya insmykrungsrixyuthyaidmichangephuxkthimilksnaphiessthinamaepnstwkhubarmikhxngphramhakstriyaetlarchkal insmysmedcphraxinthracha idchangephuxkma 1 echuxk insmysmedcphraichyrachathirach idpraktchangephuxkthichuxphrachththntkhun insmysmedcphramhackrphrrdi sungthuxidwaepnrchsmyerimtnthiihkhwamsakhykbchangephuxkmakthisud phrxmthngyngmichangephuxkpracarchkalnithung 7 echuxk khux phrakhechnthordm phrartnakas phraaekwthrngbas changephuxkphngaemaelaphngluk phrabrmikrsr phrasuriykuychr insmysmedcphraramathibdithi 3 smedcphranaraynmharach idchangephuxkma 2 echuxk khux phraxinthrixyrawrrn aelaecaphrayabrmkhechnthrchththnt insmysmedcphraephthracha idchangephuxkma 2 echuxk khux phraxinthrixrapht aela phrabrmrtnakas insmysmedcphrasrrephchythi 8 phraecaesux idchangephuxkchux phrabrmitrckr insmysmedcphrabrmrachathi 3 phrabrmoks idchangephuxkma 6 echuxk khux phrawiechiyrhsdin phrabrmrachnaekhnthr phrabrmwiichykhechnthr phrabrmkuychr phrabrmckrphalhtthi phrabrmkhchlksnsmykrungthnburi smedcphraecataksinmharach idchangphngephuxkma 1 echuxk idemuxkhrngnakxngthphkrungiplxmemuxngfang ecaphrafanghniphachangipdwy hlwngkhchchatikxngphyaxinthwichittidtamidlukchangnamathway praktchuxtamphngsawdarwa nangchangphyamngkhleswtkhchsarsriemuxngtwpraesrith phrayaeswtrkrini smykrungrtnoksinthr phrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharach idchang 10 echuxk khux phrabrmikrsr bwrsupradisth phrabrmikrsr bwrbuspthnt phraxinthrixyra phraethphkuychr phrabrmchththnt phrabrmnkhmni phrabrmkhchlksn xrrkhkhechnthr phrabrmnaekhnthr phrabrmkhchlksn xrrkhchatidamphhtthi phrabrmemkhexkthntphrabathsmedcphraphuththelishlanphaly michang 6 echuxk khux phrayaeswtkuychr phrabrmnaekhnthr phrabrmhsdin phrabrmnaekhnthr khechnthrthrathar phrayaeswtixyra phrayaeswtkhchlksnphrabathsmedcphranngeklaecaxyuhw michangephuxkxyu 20 echuxk khux phrabrmkhchlksn phrabrmixyra phrabrmnaekhnthr phrabrmexkthnt phrayamngkhlhsdin phrayamngkhlnakhinthr phrabrmikrsr phrabrmkuychr phnghngsaswrrkh phrankhnaekhnthr phrabrmixyers phrabrmsngkhthnt phrabrmkhchlksn skdisarcumprasath phrabrmnkhakhechnthr phranaekhnthrnkha phrabrmthsnkha changphlaysiprahlad phrabrmsuphrach phrayamngkhlkhchphngs changphlaykracuddaphrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhw michang 15 echuxk khux phrabrmnkhsmbti phrawimlrtnkirini phrabrmkhchrtn phrawisutrrtnkirini phraphiichynilnkh phraphiichykvsnawrrn phrasrisklkvsn phramhasrieswtwimlwrrn changphngephuxkexk phraeswtsuwrrnaphaphrrn changphngephuxkexk phraethwsyammhaphikhenswr changsiprahlad ecaphrayaprabitrckr phrayaichyanuphaphphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw michang 19 echuxk khux phraeswtwrwrrn phramharphiphrrnkhchphngs phraeswtsuwphaphrrn phraethphkhchrtnkirini phrasriswsdieswtwrrn phrabrmthntwrlksn phraeswtwrlksn phraeswtwrsrrphangkh phraeswtwisuththiethpha phraeswtsunthrswsdi phraeswtsklworphas phraeswtruciraphaphrrn phraeswtwrnaekhnthr changphlayephuxkexk phrasrieswtwrrnipha phraeswtxudmwarn changphlaysiprahlad 2 echuxk ecaphrayaichyanuphaphphrabathsmedcphramngkudeklaecaxyuhw idchang phraeswtwchirphahphrabathsmedcphrapkeklaecaxyuhw idchang phraeswtkhchedchndilksmyrchkalthi 9 phraeswtxdulyedchphahn smyphrabathsmedcphramhaphumiphlxdulyedchmharach brmnathbphitr phbchangephuxk 21 chang ehlux 10 chang khux phraeswtxdulyedchphahn phraeswtwrrtnkri phraeswtsurkhchathar phrasrieswtsuphlksn phraeswtsuththwilas phrawimlrtnkirini phrasrinrarthrachkirini phraeswtphasurkhechnthr phraethphwchrkirini phrabrmnkhthskarichchangepntrapracacnghwdkhxngithytrapracacnghwd cnghwd khaxthibaytracnghwdinpccubnkrungethphmhankhr rupphraxinthrthrngchangexrawn tamaebbphaphfiphrahtth smedcphraecabrmwngsethx ecafakrmphrayanrisranuwtiwngsechiyngray rupchangsikhawkbemkh laythikhxbtramirupnakhekiywechiyngihm rupchangephuxkyunxyuineruxnaekwtak rupsmedcphranerswrmharach thrnghlngthksionthkehnuxkhxchangaemhxngsxn rupchangelnnankhrnayk rupchangchurwngkhaw ebuxnghlngepnlxmfangsuphrrnburi rupkarthayuththhtthi rahwangsmedcphranerswrmharach aelaphramhaxuprachmngkayxchwa thitablhnxngsahray emux ph s 2135nrathiwas ruperuxkxaelakangibaelnrblmetmthi phayiniberuxepnrupchangephuxkthrngekhruxngkhchaphrn rupchangnnhmaythungphrasrinrarthrachkirini changsakhysungcnghwdnrathiwasidnxmekla thwayphrabathsmedcphramhaphumiphlxdulyedchmharach brmnathbphitr emux ph s 2520cnghwdinxditlanchang rupokhlngchangyunxyuklanglankwangchanginphaphyntryngmiphaphyntrithythiklawthungkhwamsakhykhxngchangxikmakmay aesdngihehnthungkhwamsakhykhxngchangthiepnsylksnkhxngchatiithy echn khneliyngchang ph s 2533 phaphyntrthiekiywkbkarphcyphykhxngchangkbedk aesdngihehnthungkhwamchlad nark aesnrukhxngchang kanklwy phaphyntraexniemchneruxngthisxngkhxngithy mienuxhaekiywkbchang tmyakung phaphyntraexkhchn mienuxhaekiywkbkarlkphachangxxknxkpraeths phraexkineruxngsungepnecakhxngchangidiptamthwngkhunma aesdngihehnthungkhwamrkaelahwngaehnchang stwpracachatikhxngchatiithy xngkhbak 2 phaphyntraexkhchn sungmichangepnkxngkalngsmthb phaphyntrxingprawtisastrhlayeruxngthimienuxhaekiywkbsngkhram mkmikarnachangmaichinchaksngkhramduephimephniydkhlxngchang wnchangithyxangxingphrarachphngsawdarkrungthnburi chbbphncnthnumas ecim 2542 494 phrarachphngsawdarchbbphrarachhtthelkha phakhcb 2505 336 337