บทความนี้ไม่มีจาก |
สถิตยศาสตร์ไฟฟ้า (อังกฤษ: electrostatics) เป็นสาขาหนึ่งของวิชาฟิสิกส์ที่เกี่ยวข้องกับปรากฏการณ์และคุณสมบัติของประจุไฟฟ้าที่นิ่งหรือเคลื่อนไหวช้า
เนื่องจากฟิสิกส์แบบคลาสสิก เป็นที่รู้กันว่าวัสดุบางอย่างเช่นอำพันสามารถดูดอนุภาคน้ำหนักเบาหลังจากมี ในภาษากรีกคำว่าอัมพัน ήλεκτρον หรือ อิเล็กตรอน electron เป็นที่มาของคำว่า 'ไฟฟ้า' ปรากฏการณ์ไฟฟ้าสถิตเกิดขึ้นจากแรงที่ประจุไฟฟ้ากระทำต่อประจุไฟฟ้าอื่น แรงดังกล่าวจะอธิบายได้ตามกฎของคูลอมบ์
แม้ว่าแรงนี้จะถูกเหนี่ยวนำให้เกิดโดยไฟฟ้าสถิต มันดูเหมือนจะค่อนข้างอ่อนแอ ยกตัวอย่างเช่นแรงไฟฟ้าสถิตระหว่างอิเล็กตรอนหนึ่งตัวและโปรตอนหนึ่งตัวที่รวมกันขึ้นเป็นอะตอมไฮโดรเจนมีความอ่อนแอ แต่ก็แข็งแกร่งมากกว่าประมาณ 36 (10-36) เท่าของแรงโน้มถ่วงที่กระทำระหว่างพวกมัน
มีตัวอย่างมากมายของปรากฏการณ์ไฟฟ้าสถิต จากพวกที่ง่ายมากเช่นการดึงดูดห่อพลาสติกให้ติดกับมือของคุณหลังจากที่คุณรื้อมันออกจากแพคเกจ และการดึงดูดกระดาษที่ติดกับตาชั่งที่มีประจุ จนถึงการระเบิดที่เกิดขึ้นเองที่เห็นได้ชัดของไซโลข้าว ความเสียหายของชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในระหว่างการผลิต และการทำงานของเครื่องถ่ายเอกสารและเครื่องพิมพ์เลเซอร์ ไฟฟ้าสถิตเกี่ยวข้องกับการสะสมของประจุบนพื้นผิวของวัตถุเนื่องจากการสัมผัสกับพื้นผิวอื่น แม้ว่าการแลกเปลี่ยนประจุจะเกิดขึ้นเมื่อไรก็ตามที่สองพื้นผิวใด ๆ สัมผัสกันและแยกจากกัน ผลกระทบของการแลกเปลี่ยนประจุมักจะสังเกตเห็นได้เฉพาะเมื่ออย่างน้อยหนึ่งของพื้นผิวมีความต้านทานต่อการไหลของไฟฟ้าที่สูง นี้เป็นเพราะประจุที่ถ่ายโอนไปยังหรือมาจากพื้นผิวที่มีความต้านทานสูงจะถูกติดกับมากหรือน้อยอยู่ที่นั่นเป็นเวลานานพอจนมีการสังเกตเห็นผลกระทบนั้น จากนั้นประจุเหล่านี้ยังคงอยู่บนวัตถุจนกว่าพวกมันจะถ่ายเทออกลงดินหรือถูกทำให้เป็นกลางอย่างรวดเร็วโดย: เช่นปรากฏการณ์ที่คุ้นเคยของ 'การช็อก' ไฟฟ้าสถิตที่มีสาเหตุมาจากการวางตัวเป็นกลางของประจุที่สร้างขึ้นในร่างกายจากการสัมผัสกับพื้นผิวที่หุ้มฉนวน .
ชุดของไทรโบอิเล็กตริก
บทความหลัก:
ผลกระทบไทรโบอิเล็กตริกเป็นประเภทหนึ่งของการผลิตไฟฟ้าจากการสัมผัส ในการนี้วัสดุบางอย่างจะเกิดประจุไฟฟ้าขึ้นบนผิวหน้าชองมันเมื่อมันถูกนำเข้ามาสัมผัสกับวัสดุที่แตกต่างกันและจากนั้นก็ถูกแยกออกจากกัน หนึ่งในวัสดุนั้นจะได้ประจุบวกมาและอีกวัสดุหนึ่งจะได้ประจุลบมาในปริมาณที่เท่ากัน ขั้วและความแข็งแรงของประจุที่ผลิตขึ้นจะแตกต่างกันตามวัสดุ, พื้นผิวที่ขรุขระ, อุณหภูมิ, ความเครียด, และคุณสมบัติอื่น ๆ ตัวอย่างเช่น อำพันสามารถได้รับประจุไฟฟ้าจากการเสียดสีกับอีกวัสดุหนึ่งเช่นขนสัตว์ คุณสมบัตินี้ ที่บันทึกไว้เป็นครั้งแรกโดยธารีสแห่งไมลิตัส เป็นปรากฏการณ์ทางไฟฟ้าแรกที่ตรวจสอบโดยมนุษย์ ตัวอย่างอื่น ๆ ของวัสดุที่สามารถได้รับประจุอย่างมีนัยสำคัญเมื่อถูเข้าด้วยกันได้แก่ แก้วถูกับผ้าไหม และยางแข็งถูด้วยขนสัตว์
เครื่องกำเนิดไฟฟ้าสถิต
บทความหลัก:
การปรากฏตัวของความไม่สมดุลของหมายความว่าวัตถุที่จะแสดงพลังดูดหรือพลังผลัก ความไม่สมดุลของประจุผิวนี้ ซึ่งทำให้เกิดไฟฟ้าสถิต สามารถสร้างขึ้นโดยการแตะพื้นผิวที่แตกต่างกันสองชนิดเข้าด้วยกันแล้วแยกพวกมันออกจากกันเนื่องจากปรากฏการณ์ของและ การถูวัตถุไม่นำไฟฟ้าสองชนิดจะสร้างไฟฟ้าสถิตย์จำนวนมาก นี้ไม่ใช่แค่เพียงผลจากแรงเสียดทานเท่านั้น สองพื้นผิวไม่นำไฟฟ้าสามารถถูกประจุแค่เพียงถูกวางไว้ด้านบนของวัตถุอื่น เนื่องจากพื้นผิวส่วนใหญ่จะมีเนื้อหยาบ มันจะใช้เวลานานจะประสบความสำเร็จในการประจุโดยผ่านการสัมผัสมากกว่าผ่านการถู การถูวัตถุเข้าด้วยกันจะเพิ่มปริมาณของการสัผัสแบบกาวระหว่างสองพื้นผิว โดยปกติฉนวนไฟฟ้าเช่นสารที่ไม่นำไฟฟ้า จะดีทั้งการสร้างและจับยืดประจุผิว ตัวอย่างบางส่วนของสารเหล่านี้ได้แก่ยาง, พลาสติก, แก้ว, และไส้ไม้ วัตถุที่เป็นสื่อกระแสไฟฟ้าเท่านั้นที่สร้างความไม่สมดุลของประจุได้ยาก ยกเว้นตัวอย่างเช่นเมื่อพื้นผิวโลหะหนึ่งได้รับผลกระทบโดยสารไม่ใช่ตัวนำที่เป็นของแข็งหรือของเหลว ประจุที่ถูกถ่ายโอนในระหว่างการสร้างไฟฟ้าโดยการสัมผัสจะถูกเก็บไว้บนพื้นผิวของแต่ละวัตถุ เป็นอุปกรณ์ที่ผลิตแรงดันไฟฟ้าสูงมากที่กระแสต่ำมากและใช้สำหรับการสาธิตการสอนในชั้นเรียนฟิสิกส์ มันจะพึ่งพาผลกระทบนี้
โปรดทราบว่าการปรากฏตัวของกระแสไฟฟ้าจะไม่หันเหไปจากแรงไฟฟ้าสถิตหรือจากประกายไฟ จากการปล่อยโคโรนา หรือปรากฏการณ์อื่น ๆ ทั้งสองปรากฏการณ์สามารถดำรงอยู่พร้อมกันในระบบเดียวกัน
ดูเพิ่มเติม: เครื่องแรงเสียดทาน, เครื่องวิมส์เฮิร์สต์ และเครื่องกำเนิดไฟฟ้าแวนเดอ กราฟฟ์
การเป็นกลางของประจุ
ปรากฏการณ์ไฟฟ้าสถิตตามธรรมชาติที่คุ้นเคยมากที่สุดได้แก่การแกล้งเป็นครั้งคราวในฤดูกาลความชื้นต่ำ แต่สามารถเป็นตัวทำลายและเป็นอันตรายในบางสถานการณ์ เมื่อทำงานในการติดต่อโดยตรงกับวงจรอิเล็กทรอนิกส์รวม (โดยเฉพาะ MOSFETs ที่ละเอียดอ่อน) หรือในการปรากฏตัวของก๊าซไวไฟ ความระมัดระวังจะต้องมีเพื่อหลีกเลี่ยงการสะสมและการปล่อยประจุอย่างทันทีทันใดของประจุนิ่ง (ดู)
การเหนี่ยวนำประจุ
บทความหลัก: การเหนี่ยวนำประจุเกิดขึ้นเมื่อวัตถุที่มีประจุลบตัวหนึ่งผลักอิเล็กตรอน (ที่มีประจุลบ) ให้ออกไปจากพื้นผิวของวัตถุที่สอง นี่จะสร้างภูมิภาคหนึ่งในวัตถุที่สองที่เป็นประจุบวกมากขึ้น จากนั้นแรงดึงดูดจะกระทำระหว่างวัตถุทั้งสอง ตัวอย่างเช่นเมื่อบอลลูนถูกถู บอลลูนจะติดกับผนังเมื่อแรงดึงดูดเข้ากระทำโดยสองพื้นผิวที่มีประจุตรงกันข้าม (พื้นผิวของผนังจะได้รับประจุไฟฟ้าเนื่องจากการเหนี่ยวนำประจุ เมื่ออิเล็กตรอนอิสระที่พื้นผิวของ ผนังถูกผลักโดยบอลลูนที่เป็นลบ ทำให้พื้นผิวผนังเป็นบวก ซึ่งต่อมาก็ดึงดูดเข้ากับพื้นผิวของบอลลูน) คุณสามารถสำรวจผลกระทบด้วยการจำลองของ balloon and static electricity.
ไฟฟ้า'นิ่ง'
บทความหลัก:
ก่อนปี 1832 เมื่อไมเคิล ฟาราเดย์ได้ตีพิมพ์ผลการทดลองของเขาเกี่ยวกับตัวตนของไฟฟ้า นักฟิสิกส์คิดว่า "ไฟฟ้านิ่ง" (อังกฤษ: static electricity) จะแตกต่างจากประจุไฟฟ้าอื่นไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง แต่ไมเคิล ฟาราเดย์ได้พิสูจน์ว่าไฟฟ้าที่ถูกเหนี่ยวนำจากแม่เหล็ก, ไฟฟ้าของนายโวลตาที่ผลิตโดยแบตเตอรี่, และไฟฟ้านิ่ง ทั้งหมดนี้เหมือนกัน
ไฟฟ้านิ่งมักจะเกิดขึ้นเมื่อวัสดุบางอย่างถูกัน เช่นขนสัตว์บนพลาสติกหรือพื้นรองเท้าบนพรม กระบวนการนี้ทำให้อิเล็กตรอนถูกดึงออกจากพื้นผิวของวัสดุหนึ่งและย้ายไปอยู่บนพื้นผิวของอีกวัสดุหนึ่ง
การช็อคนิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อพื้นผิวของวัสดุที่สองถูกประจุให้เป็นลบด้วยอิเล็กตรอน สัมผัสกับตัวนำที่มีประจุบวก หรือในทางกลับกัน
ไฟฟ้านิ่งนิยมใช้ทั่วไปในการถ่ายเอกสาร และบางสีสำหรับยานยนต์ ไฟฟ้านิ่งเป็นการสะสมประจุไฟฟ้าบนวัตถุสองชิ้นที่ได้ถูกแยกออกจากกัน ชิ้นส่วนไฟฟ้าขนาดเล็กอาจเสียหายจากไฟฟ้านิ่ง ผู้ผลิตชิ้นส่วนจำนวนมากจะใช้อุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้านิ่งหลายอย่างเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานี้
ไฟฟ้านิ่งและอุตสาหกรรมเคมี
เมื่อวัสดุที่แตกต่างกันถูกนำมาอยู่ด้วยกันแล้วแยกจากกัน การสะสมของประจุไฟฟ้าสามารถเกิดขึ้นได้ซึ่งปล่อยให้วัสดุหนึ่งมีประจุบวกในขณะที่อีกวัสดุหนึ่งกลายเป็นประจุลบ ช็อคเบา ๆ ที่คุณได้รับเมื่อสัมผัสกับวัตถุที่ลงดินหลังจากที่เดินบนพรมเป็นตัวอย่างหนึ่งของประจุไฟฟ้าส่วนเกินที่สะสมในร่างกายของคุณจากการประจุจากความเสียดทานระหว่างรองเท้าและพรมของคุณ การสะสมประจุที่สร้างขึ้นบนร่างกายคุณสามารถสร้างการปลดปล่อยประจุไฟฟ้าที่รุนแรง แม้ว่าการทดลองกับไฟฟ้านิ่งอาจจะสนุก ประกายไฟที่คล้ายกันอาจสร้างอันตรายอย่างรุนแรงในอุตสาหกรรมที่ทำงานกับสารไวไฟที่ประกายไฟฟ้าขนาดเล็กอาจจุดประกายไฟให้กับส่วนผสมระเบิดที่มีผลกระทบร้ายแรง
กลไกการประจุที่คล้ายกันสามารถเกิดขึ้นได้ภายในของเหลวการนำไฟฟ้าต่ำที่ไหลผ่านเส้นท่อ-กระบวนการที่เรียกว่าการไฟฟ้าโดยการไหล (อังกฤษ: flow electrification) ของเหลวที่มีการนำไฟฟ้าต่ำ (ต่ำกว่า 50 picosiemens ต่อเมตร) จะถูกเรียกว่าตัวสะสม ของเหลวที่มีการนำไฟฟ้าสูงกว่า 50 pS/m จะเรียกว่าตัวไม่สะสม ในตัวไม่สะสม ประจุทั้งหลายกลับมาเป็นกลางเร็วเท่าที่พวกมันถูกแยกออกจากกันและดังนั้นการสร้างประจุไฟฟ้าสถิตจึงไม่ได้มีนัยสำคัญ ในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี 50 pS/m คือค่าการนำไฟฟ้าต่ำสุดที่แนะนำสำหรับการกำจัดประจุจากของเหลวที่เพียงพอ
แนวคิดที่สำคัญสำหรับของเหลวฉนวนเป็นเวลาผ่อนคลายแบบคงที่ นี้จะคล้ายกับค่าคงที่เวลา (tau) ภายใน สำหรับวัสดุฉนวน มันเป็นอัตราส่วนของค่าคงที่ไดอิเล็กตริกนิ่งหารด้วยการนำไฟฟ้าของวัสดุ สำหรับของเหลวไฮโดรคาร์บอน บางครั้งนี่ถูกประมาณโดยการหารตัวเลข 18 ด้วยการนำไฟฟ้าของของเหลว ดังนั้นของเหลวที่มีการนำไฟฟ้าเท่ากับ 1 pS/ซม. (100 pS/m) จะมีเวลาผ่อนคลายประมาณ 18 วินาที ประจุส่วนเกินภายในของเหลวจะถูกกระจายไปเกือบสมบูรณ์หลังจาก 4-5 เท่าของเวลาผ่อนคลายหรือ 90 วินาทีสำหรับของเหลวในตัวอย่างข้างต้น
ประจุจะถูกผลิตเมื่อของเหลวมีความเร็วสูงขึ้นและเพิ่มขึ้นตามขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของท่อที่ใหญ่ขึ้น กลายเป็นค่อนข้างมีนัยสำคัญในท่อขนาด 8 นิ้ว (200 มิลลิเมตร) หรือใหญ่กว่า การผลิตประจุนิ่งในระบบเหล่านี้จะถูกควบคุมที่ดีที่สุดโดยการจำกัดความเร็วของของเหลว มาตรฐานอังกฤษ BS PD CLC/TR 50404:2003 (เดิม BS-5958-Part 2) รหัสของการปฏิบัติสำหรับควบคุมไฟฟ้านิ่งที่ไม่พึงประสงค์ใช้กำหนดขีด จำกัดความเร็ว เพราะผลกระทบขนาดใหญ่ของมันต่อค่าคงที่ไดอิเล็กตริก ความเร็วแนะนำสำหรับของเหลวไฮโดรคาร์บอนมีน้ำเป็นส่วนประกอบควรจะถูกจำกัดที่ 1 เมตร/วินาที
การเชื่อมแบบบอนดิ้งและการลงดินเป็นวิธีปกติที่ใช้ป้องกันประจุสะสมได้ สำหรับของเหลวที่มีการนำไฟฟ้าต่ำกว่า 10 pS/m การเชื่อมแบบบอนดิ้งและการลงดินจะไม่เพียงพอสำหรับกระจายประจุ และสารป้องกันไฟฟ้าสถิตอาจจำเป็น
มาตรฐานบังคับใช้
1.BS PD CLC/TR 50404:2003 รหัสของการปฏิบัติในการควบคุมไฟฟ้านิ่งที่ไม่พึงประสงค์
2.NFPA 77 (2007) ข้อควรปฏิบัติแนะนำเกี่ยวกับไฟฟ้าสถิต
3.API RP 2003 (1998) การป้องกันการจุดระเบิดที่เกิดจากกระแสนิ่ง ฟ้าผ่าและจรจัด
การเหนี่ยวนำไฟฟ้าสถิตในการใช้งานในเชิงพาณิชย์
การเหนี่ยวนำไฟฟ้าสถิตถูกใช้ในอดีตเพื่อสร้างเครื่องกำเนิดไฟฟ้าแรงดันสูงที่รู้จักกันเป็น องค์ประกอบหลักที่เกิดในช่วงเวลาเหล่านี้คือตัวเก็บประจุ การเหนี่ยวนำไฟฟ้าสถิตยังใช้สำหรับการตกตะกอนหรือการยิงวิถีโค้งด้วยไฟฟ้ากลศาสตร์ ในเทคโนโลยีดังกล่าวอนุภาคขนาดเล็กที่มีประจุจะถูกเก็บรวบรวมหรือฝากไว้อย่างจงใจบนพื้นผิว การประยุกต์ใช้งานจะมีช่วงจากตัวตกตะกอนไฟฟ้าสถิตจนถึงหรือ เมื่อเร็ว ๆ นี้เทคโนโลยีการถ่ายโอนพลังงานไร้สายใหม่ได้มีพื้นฐานมาจากการเหนี่ยวนำไฟฟ้าสถิตระหว่างไดโพลสั่นที่ห่างไกลด้วยกัน
อ้างอิง
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamniimmikarxangxingcakaehlngthimaidkrunachwyprbprungbthkhwamni odyephimkarxangxingaehlngthimathinaechuxthux enuxkhwamthiimmiaehlngthimaxacthukkhdkhanhruxlbxxk eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir sthitysastriffa xngkvs electrostatics epnsakhahnungkhxngwichafisiksthiekiywkhxngkbpraktkarnaelakhunsmbtikhxngpracuiffathininghruxekhluxnihwchaaethbkradasthithukdudodyaephnsidithimipracu enuxngcakfisiksaebbkhlassik epnthiruknwawsdubangxyangechnxaphnsamarthdudxnuphakhnahnkebahlngcakmi inphasakrikkhawaxmphn hlektron hrux xielktrxn electron epnthimakhxngkhawa iffa praktkarniffasthitekidkhuncakaerngthipracuiffakrathatxpracuiffaxun aerngdngklawcaxthibayidtamkdkhxngkhulxmb aemwaaerngnicathukehniywnaihekidodyiffasthit mnduehmuxncakhxnkhangxxnaex yktwxyangechnaerngiff asthitrahwangxielktrxnhnungtwaelaoprtxnhnungtwthirwmknkhunepnxatxmihodrecnmikhwamxxnaex aetkaekhngaekrngmakkwapraman 36 10 36 ethakhxngaerngonmthwngthikratharahwangphwkmn mitwxyangmakmaykhxngpraktkarniffasthit cakphwkthingaymakechnkardungdudhxphlastikihtidkbmuxkhxngkhunhlngcakthikhunruxmnxxkcakaephkhekc aelakardungdudkradasthitidkbtachngthimipracu cnthungkarraebidthiekidkhunexngthiehnidchdkhxngisolkhaw khwamesiyhaykhxngchinswnxielkthrxniksinrahwangkarphlit aelakarthangankhxngekhruxngthayexksaraelaekhruxngphimphelesxr iffasthitekiywkhxngkbkarsasmkhxngpracubnphunphiwkhxngwtthuenuxngcakkarsmphskbphunphiwxun aemwakaraelkepliynpracucaekidkhunemuxirktamthisxngphunphiwid smphsknaelaaeykcakkn phlkrathbkhxngkaraelkepliynpracumkcasngektehnidechphaaemuxxyangnxyhnungkhxngphunphiwmikhwamtanthantxkarihlkhxngiff athisung niepnephraapracuthithayoxnipynghruxmacakphunphiwthimikhwamtanthansungcathuktidkbmakhruxnxyxyuthinnepnewlananphxcnmikarsngektehnphlkrathbnn caknnpracuehlaniyngkhngxyubnwtthucnkwaphwkmncathayethxxklngdinhruxthukthaihepnklangxyangrwderwody echnpraktkarnthikhunekhykhxng karchxk iffasthitthimisaehtumacakkarwangtwepnklangkhxngpracuthisrangkhuninrangkaycakkarsmphskbphunphiwthihumchnwn chudkhxngithrobxielktrikbthkhwamhlk phlkrathbithrobxielktrikepnpraephthhnungkhxngkarphlitiffacakkarsmphs inkarniwsdubangxyangcaekidpracuiffakhunbnphiwhnachxngmnemuxmnthuknaekhamasmphskbwsduthiaetktangknaelacaknnkthukaeykxxkcakkn hnunginwsdunncaidpracubwkmaaelaxikwsduhnungcaidpraculbmainprimanthiethakn khwaelakhwamaekhngaerngkhxngpracuthiphlitkhuncaaetktangkntamwsdu phunphiwthikhrukhra xunhphumi khwamekhriyd aelakhunsmbtixun twxyangechn xaphnsamarthidrbpracuiffacakkaresiydsikbxikwsduhnungechnkhnstw khunsmbtini thibnthukiwepnkhrngaerkodytharisaehngimlits epnpraktkarnthangiffaaerkthitrwcsxbodymnusy twxyangxun khxngwsduthisamarthidrbpracuxyangminysakhyemuxthuekhadwyknidaek aekwthukbphaihm aelayangaekhngthudwykhnstwekhruxngkaenidiffasthitbthkhwamhlk karprakttwkhxngkhwamimsmdulkhxnghmaykhwamwawtthuthicaaesdngphlngdudhruxphlngphlk khwamimsmdulkhxngpracuphiwni sungthaihekidiffasthit samarthsrangkhunodykaraetaphunphiwthiaetktangknsxngchnidekhadwyknaelwaeykphwkmnxxkcakknenuxngcakpraktkarnkhxngaela karthuwtthuimnaiffasxngchnidcasrangiffasthitycanwnmak niimichaekhephiyngphlcakaerngesiydthanethann sxngphunphiwimnaiffasamarththukpracuaekhephiyngthukwangiwdanbnkhxngwtthuxun enuxngcakphunphiwswnihycamienuxhyab mncaichewlanancaprasbkhwamsaercinkarpracuodyphankarsmphsmakkwaphankarthu karthuwtthuekhadwykncaephimprimankhxngkarsphsaebbkawrahwangsxngphunphiw odypktichnwniffaechnsarthiimnaiffa cadithngkarsrangaelacbyudpracuphiw twxyangbangswnkhxngsarehlaniidaekyang phlastik aekw aelaisim wtthuthiepnsuxkraaesiffaethannthisrangkhwamimsmdulkhxngpracuidyak ykewntwxyangechnemuxphunphiwolhahnungidrbphlkrathbodysarimichtwnathiepnkhxngaekhnghruxkhxngehlw pracuthithukthayoxninrahwangkarsrangiffaodykarsmphscathukekbiwbnphunphiwkhxngaetlawtthu epnxupkrnthiphlitaerngdniffasungmakthikraaestamakaelaichsahrbkarsathitkarsxninchneriynfisiks mncaphungphaphlkrathbni oprdthrabwakarprakttwkhxngkraaesiffacaimhnehipcakaerngiff asthithruxcakprakayif cakkarplxyokhorna hruxpraktkarnxun thngsxngpraktkarnsamarthdarngxyuphrxmkninrabbediywkn duephimetim ekhruxngaerngesiydthan ekhruxngwimsehirst aelaekhruxngkaenidiffaaewnedx kraffkarepnklangkhxngpracupraktkarniffasthittamthrrmchatithikhunekhymakthisudidaekkaraeklngepnkhrngkhrawinvdukalkhwamchunta aetsamarthepntwthalayaelaepnxntrayinbangsthankarn emuxthanganinkartidtxodytrngkbwngcrxielkthrxniksrwm odyechphaa MOSFETs thilaexiydxxn hruxinkarprakttwkhxngkasiwif khwamramdrawngcatxngmiephuxhlikeliyngkarsasmaelakarplxypracuxyangthnthithnidkhxngpracuning du karehniywnapracubthkhwamhlk karehniywnapracuekidkhunemuxwtthuthimipraculbtwhnungphlkxielktrxn thimipraculb ihxxkipcakphunphiwkhxngwtthuthisxng nicasrangphumiphakhhnunginwtthuthisxngthiepnpracubwkmakkhun caknnaerngdungdudcakratharahwangwtthuthngsxng twxyangechnemuxbxllunthukthu bxlluncatidkbphnngemuxaerngdungdudekhakrathaodysxngphunphiwthimipracutrngknkham phunphiwkhxngphnngcaidrbpracuiffaenuxngcakkarehniywnapracu emuxxielktrxnxisrathiphunphiwkhxng phnngthukphlkodybxllunthiepnlb thaihphunphiwphnngepnbwk sungtxmakdungdudekhakbphunphiwkhxngbxllun khunsamarthsarwcphlkrathbdwykarcalxngkhxng balloon and static electricity iffa ning bthkhwamhlk faphaehnuxemuxngoxradiinormaeniy kxnpi 1832 emuximekhil faraedyidtiphimphphlkarthdlxngkhxngekhaekiywkbtwtnkhxngiffa nkfisikskhidwa iffaning xngkvs static electricity caaetktangcakpracuiffaxunimthangidkthanghnung aetimekhil faraedyidphisucnwaiffathithukehniywnacakaemehlk iffakhxngnayowltathiphlitodyaebtetxri aelaiffaning thnghmdniehmuxnkn iffaningmkcaekidkhunemuxwsdubangxyangthukn echnkhnstwbnphlastikhruxphunrxngethabnphrm krabwnkarnithaihxielktrxnthukdungxxkcakphunphiwkhxngwsduhnungaelayayipxyubnphunphiwkhxngxikwsduhnung karchxkhningcaekidkhunemuxphunphiwkhxngwsduthisxngthukpracuihepnlbdwyxielktrxn smphskbtwnathimipracubwk hruxinthangklbkn iffaningniymichthwipinkarthayexksar aelabangsisahrbyanynt iffaningepnkarsasmpracuiffabnwtthusxngchinthiidthukaeykxxkcakkn chinswniffakhnadelkxacesiyhaycakiffaning phuphlitchinswncanwnmakcaichxupkrnpxngkniffaninghlayxyangephuxhlikeliyngpyhaniiffaningaelaxutsahkrrmekhmiemuxwsduthiaetktangknthuknamaxyudwyknaelwaeykcakkn karsasmkhxngpracuiffasamarthekidkhunidsungplxyihwsduhnungmipracubwkinkhnathixikwsduhnungklayepnpraculb chxkheba thikhunidrbemuxsmphskbwtthuthilngdinhlngcakthiedinbnphrmepntwxyanghnungkhxngpracuiffaswnekinthisasminrangkaykhxngkhuncakkarpracucakkhwamesiydthanrahwangrxngethaaelaphrmkhxngkhun karsasmpracuthisrangkhunbnrangkaykhunsamarthsrangkarpldplxypracuiffathirunaerng aemwakarthdlxngkbiffaningxaccasnuk prakayifthikhlayknxacsrangxntrayxyangrunaernginxutsahkrrmthithangankbsariwifthiprakayiffakhnadelkxaccudprakayifihkbswnphsmraebidthimiphlkrathbrayaerng klikkarpracuthikhlayknsamarthekidkhunidphayinkhxngehlwkarnaiffatathiihlphanesnthx krabwnkarthieriykwakariffaodykarihl xngkvs flow electrification khxngehlwthimikarnaiffata takwa 50 picosiemens txemtr cathukeriykwatwsasm khxngehlwthimikarnaiffasungkwa 50 pS m caeriykwatwimsasm intwimsasm pracuthnghlayklbmaepnklangerwethathiphwkmnthukaeykxxkcakknaeladngnnkarsrangpracuiffasthitcungimidminysakhy inxutsahkrrmpiotrekhmi 50 pS m khuxkhakarnaiffatasudthiaenanasahrbkarkacdpracucakkhxngehlwthiephiyngphx aenwkhidthisakhysahrbkhxngehlwchnwnepnewlaphxnkhlayaebbkhngthi nicakhlaykbkhakhngthiewla tau phayin sahrbwsduchnwn mnepnxtraswnkhxngkhakhngthiidxielktrikninghardwykarnaiffakhxngwsdu sahrbkhxngehlwihodrkharbxn bangkhrngnithukpramanodykarhartwelkh 18 dwykarnaiffakhxngkhxngehlw dngnnkhxngehlwthimikarnaiffaethakb 1 pS sm 100 pS m camiewlaphxnkhlaypraman 18 winathi pracuswnekinphayinkhxngehlwcathukkracayipekuxbsmburnhlngcak 4 5 ethakhxngewlaphxnkhlayhrux 90 winathisahrbkhxngehlwintwxyangkhangtn pracucathukphlitemuxkhxngehlwmikhwamerwsungkhunaelaephimkhuntamkhnadesnphasunyklangkhxngthxthiihykhun klayepnkhxnkhangminysakhyinthxkhnad 8 niw 200 milliemtr hruxihykwa karphlitpracuninginrabbehlanicathukkhwbkhumthidithisudodykarcakdkhwamerwkhxngkhxngehlw matrthanxngkvs BS PD CLC TR 50404 2003 edim BS 5958 Part 2 rhskhxngkarptibtisahrbkhwbkhumiffaningthiimphungprasngkhichkahndkhid cakdkhwamerw ephraaphlkrathbkhnadihykhxngmntxkhakhngthiidxielktrik khwamerwaenanasahrbkhxngehlwihodrkharbxnminaepnswnprakxbkhwrcathukcakdthi 1 emtr winathi karechuxmaebbbxndingaelakarlngdinepnwithipktithiichpxngknpracusasmid sahrbkhxngehlwthimikarnaiffatakwa 10 pS m karechuxmaebbbxndingaelakarlngdincaimephiyngphxsahrbkracaypracu aelasarpxngkniffasthitxaccaepn matrthanbngkhbich 1 BS PD CLC TR 50404 2003 rhskhxngkarptibtiinkarkhwbkhumiffaningthiimphungprasngkh 2 NFPA 77 2007 khxkhwrptibtiaenanaekiywkbiffasthit 3 API RP 2003 1998 karpxngknkarcudraebidthiekidcakkraaesning faphaae lacrcdkarehniywnaiffasthitinkarichnganinechingphanichykarehniywnaiffasthitthukichinxditephuxsrangekhruxngkaenidiffaaerngdnsungthiruckknepn xngkhprakxbhlkthiekidinchwngewlaehlanikhuxtwekbpracu karehniywnaiffasthityngichsahrbkartktakxnhruxkaryingwithiokhngdwyiffaklsastr inethkhonolyidngklawxnuphakhkhnadelkthimipracucathukekbrwbrwmhruxfakiwxyangcngicbnphunphiw karprayuktichngancamichwngcaktwtktakxniffasthitcnthunghrux emuxerw niethkhonolyikarthayoxnphlngnganirsayihmidmiphunthanmacakkarehniywnaiffasthitrahwangidophlsnthihangikldwyknxangxing