แวร์ซาย (ฝรั่งเศส: Versailles) เป็นเมืองที่โด่งดังในฐานะที่เป็นที่ตั้งของพระราชวังแวร์ซาย แวร์ซายเคยเป็นเมืองหลวงของราชอาณาจักรฝรั่งเศสโดยพฤตินัยเป็นเวลากว่าหนึ่งศตวรรษ นับจาก ค.ศ. 1682 ถึง 1789[] โดยปัจจุบันนี้เมืองแวร์ซายได้เป็นชานเมืองที่ร่ำรวยของกรุงปารีส และยังคงเป็นศูนย์กลางทางการปกครองและตุลาการที่สำคัญ เมืองแวร์ซายตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกของกรุงปารีส ห่างจากใจกลางเมืองมา 17.1 กิโลเมตร โดยสภาเมืองแวร์ซายมีหน้าที่ปกครองส่วนอีฟลินส์ จากการสำรวจเมื่อปี ค.ศ. 2008 ที่ผ่านมา เมืองแวร์ซายมีประชากรทั้งสิ้น 88,641 คน ลดลงจากที่เคยมีมากที่สุกถึง 94,145 คนในปี ค.ศ.1975
แวร์ซาย | |
---|---|
จากบนซ้ายถึงล่างขวา: Le Soir ("ยามเย็น" ใน); rue des Deux-Portes; พระราชวังแวร์ซายที่ถ่ายในสวน; อาสนวิหารแวร์ซาย; ของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14, place d'Armes อยู่ด้านหน้าพระราชวัง; , parish church of the Château; bassin d'Apollon ใน; la salle du Jeu de paume (บริเวณที่มีการลงนาม ); the (พิพิธภัณฑ์เทศบาลแวร์ซาย); ("วิหารแห่งความรัก", สวนแห่ง) | |
ตราอาร์ม | |
ที่ตั้งของแวร์ซาย (สีแดง) ในบริเวณรอบนอกปารีส | |
ประเทศ | ฝรั่งเศส |
แคว้น | อีล-เดอ-ฟร็องส์ |
จังหวัด | อีฟว์ลีน |
เขต | Versailles |
อำเภอ | and |
สหเทศบาล | |
การปกครอง | |
• นายกเทศมนตรี (2014-2020) | () |
พื้นที่1 | 26.18 ตร.กม. (10.11 ตร.ไมล์) |
ประชากร (2016)2 | 85,346 คน |
• ความหนาแน่น | 3,300 คน/ตร.กม. (8,400 คน/ตร.ไมล์) |
เขตเวลา | (CET) |
• ฤดูร้อน (เวลาออมแสง) | (CEST) |
รหัสอีนเซ/ไปรษณีย์ | 78646 /78000 |
สูงจากระดับน้ำทะเล | 103–180 m (338–591 ft) (avg. 132 m หรือ 433 ft) |
1 ข้อมูลอาณาเขตที่ตามขึ้นทะเบียนไว้โดยไม่รวมทะเลสาบ, หนองน้ำ, ธารน้ำแข็งที่ขนาดใหญ่กว่า 1 ตารางกิโลเมตรตลอดจนปากแม่น้ำ 2: residents of multiple communes (e.g., students and military personnel) only counted once. |
นอกจากนี้แวร์ซายยังเป็นที่รู้จักจากสนธิสัญญาที่สำคัญหลายฉบับที่ถูกลงนามในเมืองแวร์ซาย เช่น สนธิสัญญาปารีส (1783) ซึ่งยุติสงครามปฏิวัติอเมริกัน หรือสนธิสัญญาแวร์ซาย ซึ่งเป็นสนธิสัญญายุติสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
ที่มาของชื่อ
คำว่า แวร์ซาย สันนิษฐานว่ามาจากภาษาละติน versare หมายถึง การพลิกไปเรื่อยๆ ซึ่งนิยมใช้ในยุคกลางแทนความหมายของที่ที่ผ่านการไถหรือถางแล้ว (ที่ที่ถูก"พลิก"ซ้ำแล้วซ้ำอีกนั่นเอง) นอกจากนี้ลักษณะของคำนี้ยังคล้ายคลึงกับภาษาละตินคำว่า seminare หมายถึงการหว่าน ซึ่งเป็นที่มาของภาษาฝรั่งเศสคำว่า semailles
ระหว่างการปฏิวัติฝรั่งเศสในปีค.ศ. 1788 ได้มีการเสนอให้เปลี่ยนชื่อเมืองเป็น Versailles Berceau-de-la-Liberté หรือจุดเริ่มต้นแห่งเสรีภาพ แต่ข้อเสนอนี้ถูกต่อต้านจากชาวเมืองแวร์ซายและถูกยกเลิกไปในที่สุด
ภูมิประเทศ
แวร์ซายตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงปารีส ห่างจากจุดศูนย์กลางของกรุงปารีสมา 17.1 กิโลเมตร ตัวเมืองตั้งอยู่บนที่ราบสูง สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 130 ถึง 140 เมตร (กรุงปารีสสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางเพียง 33 เมตร) ล้อมรอบด้วบเนินเขาที่เต็มไปด้วยป่าไม้ โดยป่าทางตอนเหนือของเมืองเรียกว่า ป่ามาร์ลี่และ ป่า Fausses-Reposes ส่วนทางตอนใต้ของเมืองมีป่าซาโทรี่ และ Meudon เขตเมืองแวร์ซายมีพืนที่ 26.18 ตารางกิโลเมตร หรือคิดเป็นหนึ่งในสี่ของพื้นที่ของเขตกรุงปารีส ในปีค.ศ. 1999 เมืองแวร์ซายมีอัตราความหนาแน่นของประชากรที่ 3,344 คนต่อตารางกิโลเมตร เทียบกับกรุงปารีสที่มีความหนาแน่น 20,696 คนต่อตารางกิโลเมตร เนื่องจากเมืองแวร์ซายในปัจจุบันเป็นเมืองที่ถูกสร้างขึ้นตามคำสั่งของพระเจ้าหลุยส์ที่สิบสี่ เมืองจึงมีผังเมืองที่เป็นระบบและสมมาตร โดยเมื่อเทียบกับมาตรฐานในการออกแบบเมืองในศตวรรษที่สิบแปด เมืองแวร์ซายจัดได้ว่าเป็นเมืองที่ทันสมัยอย่างมาก นอกจากนี้เมืองแวร์ซายเองยังถูกนำไปเป็นแม่แบบในการออกแบบกรุงวอร์ชิงตัน ดีซี โดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศส Pierre Charles L'Enfant
ประวัติศาสตร์
ชื่อเมืองแวร์ซายปรากฏครั้งแรกในเอกสารยุคกลางในปี ค.ศ. 1038 โดยในระบบขุนนางของฝรั่งเศสในยุคกลางนั้น เจ้าผู้ครองเมืองแวร์ซายจะขึ้นตรงต่อกษัตริย์โดยตรง ไม่มีข้าหลวงคอยดูแลเหมือนเมืองอื่น อย่างไรก็ตามตำแหน่งเจ้าผู้ครองเมืองแวร์ซายก็ไม่ได้ถูกจัดว่ามีความสำคัญมากนัก ตอนปลายของศตวรรษที่สิบเอ็ด เริ่มมีหมู่บ้านปรากฏรอบ ๆ ปราสาทและโบสถ์เซนต์จูเลียน (Saint Julien) และเนื่องจากการกสิกรรมและตำแหน่งของเมืองที่เป็นจุดเชื่อมระหว่างปารีส นอร์ม็องดี และ หมู่บ้านได้เจริญขึ้นอย่างรวดเร็ว เหมือนเมืองอื่น ๆ ทางตอนเหนือของฝรั่งเศสในตอนปลายของศตวรรษที่สิบสาม หรือ ศตวรรษแห่งเซนต์หลุยส์ ที่ทางตอนเหนือของฝรั่งเศสมีความมั่งคั่งอย่างมากจนมีโบสถ์สไตล์กอธิคเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตามในศตวรรษที่สิบสี่ เมืองได้ประสบกับหายนะหลายครั้ง ทั้งภัยสงครามจากสงครามร้อยปี และการระบาดของกาฬโรค เมื่อสิ้นสุดสงครามร้อยปีในศตวรรษที่สิบห้า เมืองเริ่มฟื้นตัวอีกครั้ง แต่ด้วยประชากรเพียงร้อยคน[]
ในปีค.ศ. 1561 Martial de Loménie ราชเลขาผู้ดูแลการคลังในสมัยพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 9 แห่งฝรั่งเศส ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าเมืองแวร์ซาย และได้รับอนุญาตให้จัดงานประจำปีได้สี่ครั้ง และสร้างตลาดนัดทุกวันพฤหัสบดี ประชากรของเมืองได้เติบโตขึ้นเป็น 500 คน อย่างไรก็ตาม Martial de Loménie ถูกสังหารระหว่างการสังหารหมู่ในวันเซนต์บาร์โธโลมิว ในปี ค.ศ. 1575 Albert de Gondi ที่ติดตาม Catherine de' Medici มาฝรั่งเศสจากเมืองฟลอเรนซ์ ได้ซื้อตำแหน่งเจ้าเมืองแวร์ซาย ดังนั้นแวร์ซายจึงกลายเป็นสมบัติของตระกูลกอนดี ซึ่งเป็นตระกูลของสมาชิกสภาเมืองปารีสที่ร่ำรวยและทรงอิทธิพลในยุคนั้น ในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1610 ตระกูลกอนดีได้เชิญพระเจ้าหลุยส์ที่ 13 แห่งฝรั่งเศส มาล่าสัตว์ในป่าใหญ่รอบเมืองแวร์ซายหลายครั้ง จนในที่สุดในปีค.ศ. 1622 พระเจ้าหลุยส์ที่ 13 ตัดสินพระทัยซื้อป่าแปลงหนึ่งมาทำเป็นที่ล่าสัตว์ส่วนพระองค์ ในปี ค.ศ. 1624 พระเจ้าหลุยส์ที่ 13 ทรงได้ซื้อที่เพิ่มเติมและมอบหมายให้ Philibert Le Roy ทำการก่อสร้างที่พักเล็ก ๆ สำหรับล่าสัตว์ ด้วยอิฐสีแดงผสมกับก้อนหินโดยมีหลังคาเป็นหินชนวน จนในที่สุดในปี 1632 พระเจ้าหลุยส์ที่ 13 ตัดสินใจซื้อที่ดินและตำแหน่งคืนจากตระกูลกอนดี หลังจากนั้นได้ทำการต่อเติมที่พักให้กลายเป็นชาร์โตว์ขนาดเล็กระหว่างปี ค.ศ. 1632 และ 1634 เมื่อสิ้นสุดรัชสมัยของพระเจ้าหลุยส์ที่สิบสาม เมืองแวรืซายมีประชากรประมาณหนึ่งพันคน
รัชสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14
พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส เสด็จขึ้นครองราชย์ด้วยพระชนมายุเพียงแค่ห้าพรรษาเท่านั้น เมื่อพระบิดาพระเจ้าหลุยส์ที่ 13 สวรรคต พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ยังไม่ได้มีอำนาจการปกครองอย่างแท้จริงจนกระทั่งอีกยี่สิบต่อมา และเริ่มมีความสนพระทัยในเมืองแวร์ซาย เนื่องจากพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ทรงไม่ต้องการที่จะอยู่ในกรุงปารีส จากเหตุการณ์ฝังใจจากการกบฏ Fronde ดังนั้นพระเจ้าหลุยส์ที่สิบสี่จึงมีคำสั่งให้สถาปนิก Le Vau และนักสถาปนิกภูมิทัศน์ Le Nôtre ให้ดัดแปลงปราสาทในเมือง ในปี ค.ศ. 1678 หลังสนธิสัญญา Nijmegen พระเจ้าหลุยส์ที่สิบสี่ตัดสินใจย้ายราชสำนักและรัฐบาลมาอยู่ที่เมืองแวร์ซายอย่างถาวร ซึ่งเสร็จสิ้นในวันที่ 6 พฤษภาคม ค.ศ. 1682
ในขณะเดียวกัน เมืองก็ได้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว จากกฎหมายที่พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ออกมาให้ใครก็ตามสามารถครอบครองที่ดินโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยมีเงื่อนไขสองประการ คือ หนึ่ง ผู้ถือครองที่ดินจะต้องจ่ายภาษีในอัตรา 5 ชิลลิ่ง ต่อ arpent ต่อปี (หรือคิดเป็นสามเซนต์ต่อพันตารางฟุต (ประมาณ 93 ตารางเมตร) ตามค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ในปี ค.ศ. 2005) สอง บ้านจะต้องถูกสร้างตามแบบและขนาดที่กำหนดโดย Surintendant des Bâtiments du Roi ที่กำหนดให้เมืองถูกสร้างอย่างสมมาตรกับ Avenue de Paris ที่เริ่มจากทางเข้าปราสาท และความสูงของหลังคาจะต้องไม่เกินความสูงของ Marble Courtyard ที่ตั้งอยู่บยเนินเขาที่ทางเข้าของปราสาท เพื่อที่จะได้ไม่บดบังทัศนียภาพจากปราสาทนั่นเอง
เมืองเก่าของแวร์ซายและโบสถ์เซนต์จูเลียนถูกทำลายเพื่อเปิดทางให้สร้างบ้านพักอาศัยสำหรับข้าราชบริพารที่คอยดูแลปราสาท ย่านนอเตรอะดาม และย่านเซนต์หลุยส์ ถูกสร้างขึ้นทั้งสองฝั่งของ Avenue de Paris โดยมีโบสถ์ขนาดใหญ่ ตลาด และแมนชั่นของขุนนางอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งหมดถูกสร้างขึ้นตามสไตล์ที่กลมกลืนกับแบบออกโดย Surintendant des Bâtiments du Roi การสร้างแวร์ซายใช้เวลาหลายปี และผู้คนก็ได้หลั่งไหลมายังศูนย์กลางของอำนาจการปกครองแห่งใหม่แห่งนี้ เมื่อสิ้นรัชสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 เมืองแวร์ซายมีประชากร 30,000 คน
รัชสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 และ 16
เมื่อราชสำนักของพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 กลับสู่กรุงแวร์ซายในปีค.ศ. 1722 เมืองมีประชากร 24,000 คน โดยในรัชสมัยของพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 เมืองได้เติบโตอย่างรวดเร็ว และกลายเป็นเมืองหลวงอย่างไม่เป็นทางการของราชอาณาจักรที่ทรงอำนาจที่สุดในยุโรป และทั้งยุโรปต่างพากันชื่นชมสถาปัตยกรรมและการออกแบบของเมือง อย่างไรก็ตาม กฎระเบียบอาคารที่เคยเข้มงวดในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ได้ถูกละเลย ส่งผลให้เกิดการเก็งกำไรอสังหาริมทรัพย์ในเมือง และที่ดินที่เคยให้เปล่าในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ได้ถูกขายทอดตลาดในราคาสูงลิบลิ่ว จนในปี ค.ศ. 1744 เมืองได้มีประชากร 37,000 คน โดยภูมิทัศน์ของเมืองได้ถูกเปลี่ยนไปมากในรัชสมัยของพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 และ 16 โดยอาคารมีความสูงขึ้นเรื่อย ๆ และพระเจ้าหลุยส์ที่สิบห้าเองได้สร้างอาคารกระทรวงสงคราม และอาคารกระทรวงต่างประเทศอันเป็นที่ลงนามสนธิสัญญาปารีสที่ยุติสงครามปฏิวัติอเมริกัน และอาคารกระทรวงราชนาวี ในปีค.ศ. 1789 ประชากรได้พุ่งสูงถึง 60,000 คน ส่งผลให้แวร์ซายกลายเป็นเมืองใหญ่อันดับเจ็ดหรือแปดของฝรั่งเศสและเป็นหนึ่งในเมืองที่ใหญ่ที่สุดของยุโรปในยุคนั้น
การปฏิวัติฝรั่งเศส
ในฐานะที่เป็นศูนย์กลางการปกครอง กรุงแวร์ซายจึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติฝรั่งเศส โดยได้มีการประชุมสมัชชาแห่งชาติ (Estates-General) ในวันที่ 5 พฤษภาคม ค.ศ. 1789 และสมาชิกของสมัชชาแห่งชาติได้ทำปฏิญาณที่สนามเทนนิส (Tennis Court Oath) ว่าจะต่อต้านพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ในวันที่ 20 มิถุนายน ค.ศ. 1789 และได้กลายเป็นสมัชชาประชาธิปไตยแห่งชาติ (National Constituent Assembly) เพื่อล้มล้างระบบขุนนางในวันที่ 4 สิงหาคม ค.ศ. 1789 จนในที่สุดในวันที่ 5 และ 6 ตุลาคม ค.ศ. 1789 กลุ่มสตรีจำนวนหนึ่งและทหารฝรั่งเศสบางส่วนเข้าบุกยึดปราสาทเพื่อประท้วงราคาของขนมปังที่สูงขึ้น ส่งผลให้ราชสำนักต้องย้ายกลับสู่กรุงปารีส และเมื่อสมัชชาประชาธิปไตยแห่งชาติตัดสินใจย้ายสู่ปารีสเพื่อติดตามพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 กรุงแวร์ซายก็สิ้นสุดฐานะเมืองหลวงอย่างไม่เป็นทางการของฝรั่งเศสที่ถือครองมานานกว่าศตวรรษ
หลังจากนั้น ประชากรในกรุงแวร์ซายก็ลดลงอย่างมาก จากประชากรกว่า 60,000 คน เหลือเพียง 26,974 คนในปี ค.ศ. 1806 ตัวปราสาทเองหลังจากถูกยึดเครื่องเรือน และราชพัสดุต่าง ๆ แล้วก็ถูกทิ้งร้าง โดยนโปเลียนเคยมาพักอาศัยอยู่หนึ่งคืน ก่อนจากไปโดยไม่กลับมาอีกเลย พระเจ้าหลุยส์ฟิลิปซึ่งขึ้นครองบังลังก์ หลังการปฏิวัติมิถุนายนช่วยให้ปราสาทรอดพ้นจากการเป็นซากปรักหักพัง โดยเปลี่ยนปราสาทให้เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งชาติอุทิศให้แก่ "ความรุ่งโรจน์ของฝรั่งเศส" ในปี ค.ศ. 1837 ส่วนเมืองแวร์ซายเองก็เงียบเหงาลง กลายเป็นที่ที่ผู้นิยมกษัตริย์มารำลึกถึงยุครุ่งโรจน์ของพระเจ้าหลุยส์เท่านั้น
ศตวรรษที่สิบเก้าถึงปัจจุบัน
สงครามฝรั่งเศส-ปรัสเซีย ส่งผลให้เมืองแวร์ซายกลับสู่เวทีโลกอีกครั้ง โดยในวันที่ 18 มกราคม ค.ศ. 1871 ฝ่ายปรัสเซียซึ่งกำชัยในสงครามได้ประกาศให้กษัตริย์แห่งปรัสเซีย (Wilhelm I) เป็นจักรพรรดิแห่งเยอรมนีในหอกระจก (Hall of Mirrors) เพื่อเป็นการแก้แค้นพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ที่ทรงได้พิชิตเยอรมนีนับครั้งไม่ถ้วนเมื่อกว่าสองร้อยปีก่อน จากนั้นในเดือนมีนาคมปีนั้นเอง รัฐบาลฝรั่งเศสก็ได้ย้ายที่ทำการรัฐบาลมาอยู่ที่เมืองแวร์ซายอีกครั้งเพื่อหลีกเลี่ยงความวุ่นวายในปารีสการการลุกฮือของประชาชนชาวเมือง ซึ่งต่อมาได้ถูกบดขยี้โดยกองกำลังของรัฐบาลในเวลาต่อมา หลังการลุกฮือ รัฐบาลฝรั่งเศสในขณะนั้นตัดสินใจที่ประจำอยู่ในเมืองแวร์ซายต่อไป และมีความคิดว่าอาจจะย้ายเมืองหลวงมาอยู่ที่เมืองแวรืซายเป็นการถาวรเพื่อเลี่ยงกระแสปฏิวัติที่ยังครุกรุ่นในกรุงปารีส
การฟื้นฟูราชวงศ์เกือบจะสำเร็จในปีค.ศ. 1873 เมื่อรัฐสภาฝรั่งเศสเสนอบังลังก์ให้ Henri, comte de Chambord แต่การปฏิเสธของเฮนรี่ที่จะยอมรับธงชาติฝรั่งเศสที่ถูกใช้ในสมัยการปฏิวัติฝรั่งเศส ส่งผลให้การฟื้นฟูราชวงศ์ล้มเหลว เมืองแวร์ซายเองก็ได้เป็นศูนย์กลางของการปกครองอีกครั้ง และประชากรในเมืองก็ได้เพิ่มเป็น 61,686 ในปี ค.ศ. 1872 ใกล้เคียงกับขนาดของประชากรก่อนการฏิวัติฝรั่งเศส อย่างไรก็ตามเมื่อฝ่ายนิยมสาธารณรัฐกลับมาครองเสียงข้างมากอีกครั้ง และรัฐบาลใหม่ตัดสินใจที่ย้ายที่ทำการรัฐบาลกลับสู่กรุงปารีสในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ.1879 ประชากรในเมืองแวร์ซายก็ลดลงเหลือ 48,324 ในปี ค.ศ. 1881 เมืองแวร์ซายไม่เคยได้เป็นที่ทำการของรัฐบาลอีกเลยจวบจนปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม เมืองแวร์ซายก็ยังถูกใช้เป็นที่ประชุมของรัฐสภาเมื่อจะทำการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือเมื่อยามประธานาธิบดีจะแถลงต่อรัฐสภา เป็นต้น
ในที่สุด ในปี ค.ศ. 1911 ประชากรในเมืองแวร์ซายระดับก็กลับสุ่ระดับที่เคยเป็นที่ปี ค.ศ. 1789 ด้วยประชากร 60,458 คน เมื่อสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง เมืองแวร์ซายได้กลับสุ่เวทีโลกอีกครั้งในฐานะที่เป็นที่ลงนามสัญญาหลายฉบับเพื่อยุติสงคราม หลังปี ค.ศ. 1919 ชานเมืองกรุงปารีสได้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว และเมืองแวร์ซายเองก็ถูกรวมเป็นเขตเมืองของกรุงปารีส ส่งผลให้เกิดการเติบโตอย่างมากทั้งในด้านประชากรและเศรษฐกิจ บทบาทของเมืองแวร์ซายในด้านการปกครองและตุลาการได้ถูกเสริมในทศวรรษ 1960 และ 1970 ส่งผลให้แวร์ซายกลายเป็นศูนย์กลางของชานเมืองด้านตะวันตกของกรุงปารีสในที่สุด
เมืองแวร์ซายในปัจจุบันถูกเชื่อมต่อกับกรุงปารีสด้วยทางรถไฟหลายสาย อย่างไรก็ตามอุตสาหกรรมในเมืองแวร์ซายไม่เคยเจริญเติบโตจนโด่ดเด่นมากนัก แม้ว่าจะมีโรงงานเคมีและแปรรูปอาหารอยู่บ้างก็ตาม เศรษฐกิจของแวร์ซายในปัจจุบันขึ้นอยู่กับภาคบริการเป็นหลัก เช่น การท่องเที่ยว การประชุม เป็นต้น จากปีค.ศ. 1951 จนถึงปีค.ศ. 1966 เมืองแวร์ซายเคยเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ของกองกำลังพันธมิตรในยุโรป ก่อนจะย้ายไปอยู่ในเบลเยียมจนถึงปัจจุบันเมื่อฝรั่งเศสตัดสินใจถอนตัวจากองค์การนาโต้ ปัจจุบันนี้เมืองแวร์ซายยังคงเป็นศูนย์กลางทางทหารที่สำคัญ โดยเป็นที่ตั้งของฐานทัพซาโทรี่ ซึ่งเคยเป็นกองบัญชาการใหญ่ของกองพลยานเกราะฝรั่งเศสที่ 2 จนถึงปี ค.ศ. 1999 และยังได้มีการแสดงทางทหารประจำปีเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
อ้างอิง
- INSEE
- http://www.insee.fr/fr/ppp/bases-de-donnees/recensement/populations-legales/commune.asp?annee=2008&depcom=78646
- University of Notre Dame, William Whitaker's Words, http://www.archives.nd.edu/cgi-bin/wordz.pl?keyword=versare
- Georges Moussoir, Versailles, "Berceau de la Liberté", in Revue de l'histoire de Versailles et de Seine-et-Oise, 1899, pp. 215–224 (Gallica)
- Phillips, P. Lee, F. R. G. S., List of maps and views of Washington and District of Columbia in the Library of Congress, Map Division, Government Printing Office, 1900, p. 16 [1]
แหล่งข้อมูลอื่น
- เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
- มุมมองทางอากาศ จาก Wikimapia
- เว็บไซต์ของสภาเมือง 2004-08-08 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ภาพถ่ายดาวเทียมของแวร์ซาย
- ภาพพระราชวังแวร์ซาย
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
aewrsay frngess Versailles epnemuxngthiodngdnginthanathiepnthitngkhxngphrarachwngaewrsay aewrsayekhyepnemuxnghlwngkhxngrachxanackrfrngessodyphvtinyepnewlakwahnungstwrrs nbcak kh s 1682 thung 1789 txngkarxangxing odypccubnniemuxngaewrsayidepnchanemuxngthirarwykhxngkrungparis aelayngkhngepnsunyklangthangkarpkkhrxngaelatulakarthisakhy emuxngaewrsaytngxyuthangdantawntkkhxngkrungparis hangcakicklangemuxngma 17 1 kiolemtr odysphaemuxngaewrsaymihnathipkkhrxngswnxiflins cakkarsarwcemuxpi kh s 2008 thiphanma emuxngaewrsaymiprachakrthngsin 88 641 khn ldlngcakthiekhymimakthisukthung 94 145 khninpi kh s 1975aewrsaycnghwdaelaethsbalcakbnsaythunglangkhwa Le Soir yameyn in rue des Deux Portes phrarachwngaewrsaythithayinswn xasnwiharaewrsay khxngphraecahluysthi 14 place d Armes xyudanhnaphrarachwng parish church of the Chateau bassin d Apollon in la salle du Jeu de paume briewnthimikarlngnam the phiphithphnthethsbalaewrsay wiharaehngkhwamrk swnaehng traxarmthitngkhxngaewrsay siaedng inbriewnrxbnxkparispraethsfrngessaekhwnxil edx frxngscnghwdxifwlinekhtVersaillesxaephxandshethsbalkarpkkhrxng naykethsmntri 2014 2020 phunthi126 18 tr km 10 11 tr iml prachakr 2016 285 346 khn khwamhnaaenn3 300 khn tr km 8 400 khn tr iml ekhtewlaUTC 1 CET vdurxn ewlaxxmaesng UTC 2 CEST rhsxines iprsniy78646 78000sungcakradbnathael103 180 m 338 591 ft avg 132 m hrux 433 ft 1 khxmulxanaekhtthitamkhunthaebiyniwodyimrwmthaelsab hnxngna tharnaaekhngthikhnadihykwa 1 tarangkiolemtrtlxdcnpakaemna 2 residents of multiple communes e g students and military personnel only counted once nxkcakniaewrsayyngepnthiruckcaksnthisyyathisakhyhlaychbbthithuklngnaminemuxngaewrsay echn snthisyyaparis 1783 sungyutisngkhramptiwtixemrikn hruxsnthisyyaaewrsay sungepnsnthisyyayutisngkhramolkkhrngthihnungthimakhxngchuxkhawa aewrsay snnisthanwamacakphasalatin versare hmaythung karphlikiperuxy sungniymichinyukhklangaethnkhwamhmaykhxngthithiphankarithhruxthangaelw thithithuk phlik saaelwsaxiknnexng nxkcaknilksnakhxngkhaniyngkhlaykhlungkbphasalatinkhawa seminare hmaythungkarhwan sungepnthimakhxngphasafrngesskhawa semailles rahwangkarptiwtifrngessinpikh s 1788 idmikaresnxihepliynchuxemuxngepn Versailles Berceau de la Liberte hruxcuderimtnaehngesriphaph aetkhxesnxnithuktxtancakchawemuxngaewrsayaelathukykelikipinthisudphumipraethsaewrsaytngxyuthangthistawntkechiyngitkhxngkrungparis hangcakcudsunyklangkhxngkrungparisma 17 1 kiolemtr twemuxngtngxyubnthirabsung sungcakradbnathaelpanklangpraman 130 thung 140 emtr krungparissungcakradbnathaelpanklangephiyng 33 emtr lxmrxbdwbeninekhathietmipdwypaim odypathangtxnehnuxkhxngemuxngeriykwa pamarliaela pa Fausses Reposes swnthangtxnitkhxngemuxngmipasaothri aela Meudon ekhtemuxngaewrsaymiphunthi 26 18 tarangkiolemtr hruxkhidepnhnunginsikhxngphunthikhxngekhtkrungparis inpikh s 1999 emuxngaewrsaymixtrakhwamhnaaennkhxngprachakrthi 3 344 khntxtarangkiolemtr ethiybkbkrungparisthimikhwamhnaaenn 20 696 khntxtarangkiolemtr enuxngcakemuxngaewrsayinpccubnepnemuxngthithuksrangkhuntamkhasngkhxngphraecahluysthisibsi emuxngcungmiphngemuxngthiepnrabbaelasmmatr odyemuxethiybkbmatrthaninkarxxkaebbemuxnginstwrrsthisibaepd emuxngaewrsaycdidwaepnemuxngthithnsmyxyangmak nxkcakniemuxngaewrsayexngyngthuknaipepnaemaebbinkarxxkaebbkrungwxrchingtn disi odysthapnikchawfrngess Pierre Charles L Enfantprawtisastrchuxemuxngaewrsaypraktkhrngaerkinexksaryukhklanginpi kh s 1038 odyinrabbkhunnangkhxngfrngessinyukhklangnn ecaphukhrxngemuxngaewrsaycakhuntrngtxkstriyodytrng immikhahlwngkhxyduaelehmuxnemuxngxun xyangirktamtaaehnngecaphukhrxngemuxngaewrsaykimidthukcdwamikhwamsakhymaknk txnplaykhxngstwrrsthisibexd erimmihmubanpraktrxb prasathaelaobsthesntcueliyn Saint Julien aelaenuxngcakkarksikrrmaelataaehnngkhxngemuxngthiepncudechuxmrahwangparis nxrmxngdi aela hmubanidecriykhunxyangrwderw ehmuxnemuxngxun thangtxnehnuxkhxngfrngessintxnplaykhxngstwrrsthisibsam hrux stwrrsaehngesnthluys thithangtxnehnuxkhxngfrngessmikhwammngkhngxyangmakcnmiobsthsitlkxthikhekidkhunepncanwnmak xyangirktaminstwrrsthisibsi emuxngidprasbkbhaynahlaykhrng thngphysngkhramcaksngkhramrxypi aelakarrabadkhxngkalorkh emuxsinsudsngkhramrxypiinstwrrsthisibha emuxngerimfuntwxikkhrng aetdwyprachakrephiyngrxykhn txngkarxangxing inpikh s 1561 Martial de Lomenie rachelkhaphuduaelkarkhlnginsmyphraecacharlsthi 9 aehngfrngess idrbkaraetngtngepnecaemuxngaewrsay aelaidrbxnuyatihcdnganpracapiidsikhrng aelasrangtladndthukwnphvhsbdi prachakrkhxngemuxngidetibotkhunepn 500 khn xyangirktam Martial de Lomenie thuksngharrahwangkarsngharhmuinwnesntbarotholmiw inpi kh s 1575 Albert de Gondi thitidtam Catherine de Medici mafrngesscakemuxngflxerns idsuxtaaehnngecaemuxngaewrsay dngnnaewrsaycungklayepnsmbtikhxngtrakulkxndi sungepntrakulkhxngsmachiksphaemuxngparisthirarwyaelathrngxiththiphlinyukhnn inchwngkhristthswrrs 1610 trakulkxndiidechiyphraecahluysthi 13 aehngfrngess malastwinpaihyrxbemuxngaewrsayhlaykhrng cninthisudinpikh s 1622 phraecahluysthi 13 tdsinphrathysuxpaaeplnghnungmathaepnthilastwswnphraxngkh inpi kh s 1624 phraecahluysthi 13 thrngidsuxthiephimetimaelamxbhmayih Philibert Le Roy thakarkxsrangthiphkelk sahrblastw dwyxithsiaedngphsmkbkxnhinodymihlngkhaepnhinchnwn cninthisudinpi 1632 phraecahluysthi 13 tdsinicsuxthidinaelataaehnngkhuncaktrakulkxndi hlngcaknnidthakartxetimthiphkihklayepncharotwkhnadelkrahwangpi kh s 1632 aela 1634 emuxsinsudrchsmykhxngphraecahluysthisibsam emuxngaewrusaymiprachakrpramanhnungphnkhn rchsmyphraecahluysthi 14 phraecahluysthi 14 aehngfrngess esdckhunkhrxngrachydwyphrachnmayuephiyngaekhhaphrrsaethann emuxphrabidaphraecahluysthi 13 swrrkht phraecahluysthi 14 yngimidmixanackarpkkhrxngxyangaethcringcnkrathngxikyisibtxma aelaerimmikhwamsnphrathyinemuxngaewrsay enuxngcakphraecahluysthi 14 thrngimtxngkarthicaxyuinkrungparis cakehtukarnfngiccakkarkbt Fronde dngnnphraecahluysthisibsicungmikhasngihsthapnik Le Vau aelanksthapnikphumithsn Le Notre ihddaeplngprasathinemuxng inpi kh s 1678 hlngsnthisyya Nijmegen phraecahluysthisibsitdsinicyayrachsankaelarthbalmaxyuthiemuxngaewrsayxyangthawr sungesrcsininwnthi 6 phvsphakhm kh s 1682 inkhnaediywkn emuxngkidkhyaytwxyangrwderw cakkdhmaythiphraecahluysthi 14 xxkmaihikhrktamsamarthkhrxbkhrxngthidinodyimesiykhaichcay odymienguxnikhsxngprakar khux hnung phuthuxkhrxngthidincatxngcayphasiinxtra 5 chilling tx arpent txpi hruxkhidepnsamesnttxphntarangfut praman 93 tarangemtr tamkhaengindxllarshrth inpi kh s 2005 sxng bancatxngthuksrangtamaebbaelakhnadthikahndody Surintendant des Batiments du Roi thikahndihemuxngthuksrangxyangsmmatrkb Avenue de Paris thierimcakthangekhaprasath aelakhwamsungkhxnghlngkhacatxngimekinkhwamsungkhxng Marble Courtyard thitngxyubyeninekhathithangekhakhxngprasath ephuxthicaidimbdbngthsniyphaphcakprasathnnexng emuxngekakhxngaewrsayaelaobsthesntcueliynthukthalayephuxepidthangihsrangbanphkxasysahrbkharachbripharthikhxyduaelprasath yannxetrxadam aelayanesnthluys thuksrangkhunthngsxngfngkhxng Avenue de Paris odymiobsthkhnadihy tlad aelaaemnchnkhxngkhunnangxyuepncanwnmak thnghmdthuksrangkhuntamsitlthiklmklunkbaebbxxkody Surintendant des Batiments du Roi karsrangaewrsayichewlahlaypi aelaphukhnkidhlngihlmayngsunyklangkhxngxanackarpkkhrxngaehngihmaehngni emuxsinrchsmyphraecahluysthi 14 emuxngaewrsaymiprachakr 30 000 khn rchsmyphraecahluysthi 15 aela 16 emuxrachsankkhxngphraecahluysthi 15 klbsukrungaewrsayinpikh s 1722 emuxngmiprachakr 24 000 khn odyinrchsmykhxngphraecahluysthi 15 emuxngidetibotxyangrwderw aelaklayepnemuxnghlwngxyangimepnthangkarkhxngrachxanackrthithrngxanacthisudinyuorp aelathngyuorptangphaknchunchmsthaptykrrmaelakarxxkaebbkhxngemuxng xyangirktam kdraebiybxakharthiekhyekhmngwdinsmyphraecahluysthi 14 idthuklaely sngphlihekidkarekngkairxsngharimthrphyinemuxng aelathidinthiekhyiheplainsmyphraecahluysthi 14 idthukkhaythxdtladinrakhasunglibliw cninpi kh s 1744 emuxngidmiprachakr 37 000 khn odyphumithsnkhxngemuxngidthukepliynipmakinrchsmykhxngphraecahluysthi 15 aela 16 odyxakharmikhwamsungkhuneruxy aelaphraecahluysthisibhaexngidsrangxakharkrathrwngsngkhram aelaxakharkrathrwngtangpraethsxnepnthilngnamsnthisyyaparisthiyutisngkhramptiwtixemrikn aelaxakharkrathrwngrachnawi inpikh s 1789 prachakridphungsungthung 60 000 khn sngphlihaewrsayklayepnemuxngihyxndbecdhruxaepdkhxngfrngessaelaepnhnunginemuxngthiihythisudkhxngyuorpinyukhnn karptiwtifrngess inthanathiepnsunyklangkarpkkhrxng krungaewrsaycungklayepncuderimtnkhxngkarptiwtifrngess odyidmikarprachumsmchchaaehngchati Estates General inwnthi 5 phvsphakhm kh s 1789 aelasmachikkhxngsmchchaaehngchatiidthaptiyanthisnamethnnis Tennis Court Oath wacatxtanphraecahluysthi 16 inwnthi 20 mithunayn kh s 1789 aelaidklayepnsmchchaprachathipityaehngchati National Constituent Assembly ephuxlmlangrabbkhunnanginwnthi 4 singhakhm kh s 1789 cninthisudinwnthi 5 aela 6 tulakhm kh s 1789 klumstricanwnhnungaelathharfrngessbangswnekhabukyudprasathephuxprathwngrakhakhxngkhnmpngthisungkhun sngphlihrachsanktxngyayklbsukrungparis aelaemuxsmchchaprachathipityaehngchatitdsinicyaysuparisephuxtidtamphraecahluysthi 16 krungaewrsayksinsudthanaemuxnghlwngxyangimepnthangkarkhxngfrngessthithuxkhrxngmanankwastwrrs hlngcaknn prachakrinkrungaewrsaykldlngxyangmak cakprachakrkwa 60 000 khn ehluxephiyng 26 974 khninpi kh s 1806 twprasathexnghlngcakthukyudekhruxngeruxn aelarachphsdutang aelwkthukthingrang odynopeliynekhymaphkxasyxyuhnungkhun kxncakipodyimklbmaxikely phraecahluysfilipsungkhunkhrxngbnglngk hlngkarptiwtimithunaynchwyihprasathrxdphncakkarepnsakprkhkphng odyepliynprasathihepnphiphithphnthaehngchatixuthisihaek khwamrungorcnkhxngfrngess inpi kh s 1837 swnemuxngaewrsayexngkengiybehngalng klayepnthithiphuniymkstriymaralukthungyukhrungorcnkhxngphraecahluysethann stwrrsthisibekathungpccubn sngkhramfrngess prsesiy sngphlihemuxngaewrsayklbsuewthiolkxikkhrng odyinwnthi 18 mkrakhm kh s 1871 fayprsesiysungkachyinsngkhramidprakasihkstriyaehngprsesiy Wilhelm I epnckrphrrdiaehngeyxrmniinhxkrack Hall of Mirrors ephuxepnkaraekaekhnphraecahluysthi 14 thithrngidphichiteyxrmninbkhrngimthwnemuxkwasxngrxypikxn caknnineduxnminakhmpinnexng rthbalfrngesskidyaythithakarrthbalmaxyuthiemuxngaewrsayxikkhrngephuxhlikeliyngkhwamwunwayinpariskarkarlukhuxkhxngprachachnchawemuxng sungtxmaidthukbdkhyiodykxngkalngkhxngrthbalinewlatxma hlngkarlukhux rthbalfrngessinkhnanntdsinicthipracaxyuinemuxngaewrsaytxip aelamikhwamkhidwaxaccayayemuxnghlwngmaxyuthiemuxngaewrusayepnkarthawrephuxeliyngkraaesptiwtithiyngkhrukruninkrungparis karfunfurachwngsekuxbcasaercinpikh s 1873 emuxrthsphafrngessesnxbnglngkih Henri comte de Chambord aetkarptiesthkhxngehnrithicayxmrbthngchatifrngessthithukichinsmykarptiwtifrngess sngphlihkarfunfurachwngslmehlw emuxngaewrsayexngkidepnsunyklangkhxngkarpkkhrxngxikkhrng aelaprachakrinemuxngkidephimepn 61 686 inpi kh s 1872 iklekhiyngkbkhnadkhxngprachakrkxnkartiwtifrngess xyangirktamemuxfayniymsatharnrthklbmakhrxngesiyngkhangmakxikkhrng aelarthbalihmtdsinicthiyaythithakarrthbalklbsukrungparisineduxnphvscikayn kh s 1879 prachakrinemuxngaewrsaykldlngehlux 48 324 inpi kh s 1881 emuxngaewrsayimekhyidepnthithakarkhxngrthbalxikelycwbcnpccubn xyangirktam emuxngaewrsaykyngthukichepnthiprachumkhxngrthsphaemuxcathakaraekikhrththrrmnuy hruxemuxyamprathanathibdicaaethlngtxrthspha epntn inthisud inpi kh s 1911 prachakrinemuxngaewrsayradbkklbsuradbthiekhyepnthipi kh s 1789 dwyprachakr 60 458 khn emuxsinsudsngkhramolkkhrngthihnung emuxngaewrsayidklbsuewthiolkxikkhrnginthanathiepnthilngnamsyyahlaychbbephuxyutisngkhram hlngpi kh s 1919 chanemuxngkrungparisidkhyaytwxyangrwderw aelaemuxngaewrsayexngkthukrwmepnekhtemuxngkhxngkrungparis sngphlihekidkaretibotxyangmakthngindanprachakraelaesrsthkic bthbathkhxngemuxngaewrsayindankarpkkhrxngaelatulakaridthukesriminthswrrs 1960 aela 1970 sngphlihaewrsayklayepnsunyklangkhxngchanemuxngdantawntkkhxngkrungparisinthisud emuxngaewrsayinpccubnthukechuxmtxkbkrungparisdwythangrthifhlaysay xyangirktamxutsahkrrminemuxngaewrsayimekhyecriyetibotcnoddednmaknk aemwacamiorngnganekhmiaelaaeprrupxaharxyubangktam esrsthkickhxngaewrsayinpccubnkhunxyukbphakhbrikarepnhlk echn karthxngethiyw karprachum epntn cakpikh s 1951 cnthungpikh s 1966 emuxngaewrsayekhyepnthitngkhxngsanknganihykhxngkxngkalngphnthmitrinyuorp kxncayayipxyuinebleyiymcnthungpccubnemuxfrngesstdsinicthxntwcakxngkhkarnaot pccubnniemuxngaewrsayyngkhngepnsunyklangthangthharthisakhy odyepnthitngkhxngthanthphsaothri sungekhyepnkxngbychakarihykhxngkxngphlyanekraafrngessthi 2 cnthungpi kh s 1999 aelayngidmikaraesdngthangthharpracapieruxymacnthungpccubnxangxingINSEEhttp www insee fr fr ppp bases de donnees recensement populations legales commune asp annee 2008 amp depcom 78646 University of Notre Dame William Whitaker s Words http www archives nd edu cgi bin wordz pl keyword versare Georges Moussoir Versailles Berceau de la Liberte inRevue de l histoire de Versailles et de Seine et Oise 1899 pp 215 224 Gallica Phillips P Lee F R G S List of maps and views of Washington and District of Columbia in the Library of Congress Map Division Government Printing Office 1900 p 16 1 aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb Versailles ewbistxyangepnthangkar mummxngthangxakas cak Wikimapia ewbistkhxngsphaemuxng 2004 08 08 thi ewyaebkaemchchin phaphthaydawethiymkhxngaewrsay phaphphrarachwngaewrsay