แบล็กพิงก์

แบล็กพิงก์ (เกาหลี: 블랙핑크; อาร์อาร์: Beullaekpingkeu; อังกฤษ: Blackpink, มักเขียน BLACKPINK หรือ BLɅϽKPIИK) เป็นเกิร์ลกรุปเกาหลีใต้ สังกัดวายจีเอนเตอร์เทนเมนต์ ประกอบด้วยสมาชิกจำนวนสี่คนคือ จีซู, เจนนี, โรเซ และ​ลิซ่า ได้รับการขนานนามว่าเป็น "เกิร์ลกรุปที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก" พวกเธอถือเป็นเกิร์ลกรุปเกาหลีที่ประสบความสำเร็จระดับนานาชาติมากที่สุดและเป็นหนึ่งในผู้นำกระแสเกาหลี โดยมีรูปแบบเกี่ยวกับแนวคิด "เกิร์ลครัช" ในเคป็อป—การสำรวจธีมและ

แบล็กพิงก์
แบล็กพิงก์ขณะแสดงในเทศกาลโคเชลลาเมื่อปี 2023 จากซ้ายไปขวา: โรเซ, จีซู, เจนนี และลิซ่า
ข้อมูลพื้นฐาน
ที่เกิด	โซล เกาหลีใต้
แนวเพลง	เคป็อป ฮิปฮอป อีดีเอ็ม แทร็ป
ช่วงปี	2016–ปัจจุบัน
ค่ายเพลง	วายจี อินเตอร์สโคป โพลีดอร์เรเคิดส์
สมาชิกของ	วายจีแฟมีลี
สมาชิก	จีซู เจนนี โรเซ ลิซ่า
เว็บไซต์	blackpinkofficial.com

แบล็กพิงก์เปิดตัวในเดือนสิงหาคม 2016 พร้อมกับซิงเกิลอัลบั้ม สแควร์วัน นำเสนอเพลงอย่าง "วิสเซิล" และ "บูมบายาห์" ที่สามารถขึ้นอันดับหนึ่งบนแกออนดิจิทัลชาร์ตของเกาหลีใต้ และบิลบอร์ด ตามลำดับ ต่อมาออกซิงเกิลอัลบั้ม สแควร์ทู ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเพลง "เพลย์อิงวิทไฟร์" กลายเป็นเพลงแรกของเกิร์ลกรุปเกาหลีที่ติดชาร์ต วงเริ่มมีชื่อเสียงระดับนานาชาติ หลังจากออกซิงเกิล "ตู-ดู ตู-ดู" (2018) ซึ่งเป็นเพลงแรกของศิลปินกลุ่มหญิงเกาหลีที่ติดชาร์ตซิงเกิลแห่งสหราชอาณาจักรและได้รับการรับรองในสหรัฐ มิวสิกวิดีโอนี้กลายเป็นวิดีโอแรกของศิลปินกลุ่มเกาหลีที่มียอดผู้ชมถึงหนึ่งและสองพันล้านครั้งบนยูทูบและยังคงเป็นวิดีโอที่มียอดผู้ชมมากที่สุดของศิลปินกลุ่มเกาหลีจนถึงปัจจุบัน มิวสิกวิดีโอเพลง "คิลดิสเลิฟ" (2019) และ "ฮาวยูไลก์แดต" (2020) เคยถูกบันทึกให้เป็นมิวสิกวิดีโอที่มียอดผู้ชมมากที่สุดใน 24 ชั่วโมงแรกและเพลงหลังถูกบันทึกในบันทึกสถิติโลกกินเนสส์ถึงห้ารายการ

แบล็กพิงก์เป็นศิลปินหญิงเกาหลีที่ทำอันดับสูงสุดบนชาร์ตบิลบอร์ดฮอต 100 โดยขึ้นสูงสุดอันดับที่ 13 ด้วยซิงเกิล "ไอศกรีม" (2020) และบนบิลบอร์ด 200 โดยขึ้นสูงสุดอันดับหนึ่งด้วยอัลบั้ม บอร์นพิงก์ (2022) โดยทั้ง ดิอัลบั้ม (2020) และ บอร์นพิงก์ ต่างก็ทำลายสถิติเป็น โดยกลายเป็นอัลบั้มแรกที่ขายได้มากกว่าหนึ่งล้านและสองล้านชุด ตามลำดับ บอร์นพิงก์ เป็นอัลบั้มแรกของเกิร์ลกรุปที่สามารถขึ้นอันดับหนึ่งบนบิลบอร์ด 200 ได้นับตั้งแต่แดนิตีเคน ในปี 2008 และถูกบันทึกในบันทึกสถิติโลกกินเนสส์สองรายการในฐานะอัลบั้มแรกของเกิร์ลกรุปเกาหลีที่ขึ้นอันดับสูงสุดบนบิลบอร์ด 200 และชาร์ตอัลบั้มแห่งสหราชอาณาจักร ซิงเกิลนำของอัลบั้ม "พิงก์เวนอม" (2022) เป็นเพลงแรกของศิลปินกลุ่มเกาหลีที่ขึ้นอันดับหนึ่งบนของออสเตรเลีย และเป็นเพลงแรกของเกิร์ลกรุปที่ขึ้นอันดับหนึ่งบน

ตลอดอาชีพการงานของวง แบล็กพิงก์ได้ทำลายสถิติมากมาย บอร์นพิงก์เวิลด์ทัวร์ (2022–23) กลายเป็น และเป็นศิลปินเอเชียรายแรกที่ได้ลงพาดหัวข่าวในเทศกาลโคเชลลา พวกเธอยังเป็นศิลปินที่มียอดผู้ติดตามและบนยูทูบ เช่นเดียวกับเกิร์ลกรุปที่มีและยอดสตรีมสูงสุดบนสปอติฟาย แบล็กพิงก์ยังได้รับรางวัลมากมาย รวมถึงโกลเดนดิสก์อะวอดส์, บิลบอร์ดมิวสิกอะวอดส์, พีเพิลส์ชอยซ์อะวอดส์ และเอ็มทีวีวิดีโอมิวสิกอะวอดส์ กลายเป็นเกิร์ลกรุปวงแรกในศตวรรษที่ 21 ที่ชนะรางวัล พวกเธอยังเป็นเกิร์ลกรุปวงแรกที่ติดอันดับ ของฟอบส์ และได้ชื่อว่าผู้ให้ความบันเทิงแห่งปี จากนิตยสาร ไทม์ รวมถึงถูกจัดให้อยู่ในอันดับต้น ๆ ในรายชื่อผู้ทรงอิทธิพลในเกาหลีของฟอร์บ และได้รับการยอมรับจากอดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้ มุน แจ-อิน สำหรับการเผยแพร่วัฒนธรรมเคป็อปและเกาหลีไปทั่วโลก

ที่มาของชื่อ

ก่อนหน้านี้มีข่าวลือมากมายเกี่ยวกับชื่อเกิร์ลกรุปกลุ่มใหม่ของวายจีเอนเตอร์เทนเมนต์ไม่ว่าจะเป็น ทีแอลซี-เอฟ, แมกนัม และเบบีมอนสเตอร์ ในปี 2012 เจนนีปรากฏในวิดีโอแนะนำเด็กฝึกทางช่องวายจีเอนเตอร์เทนเมนต์ในยูทูบ โดยมีคำว่า พิงก์พังก์ (Pink Punk) เป็นชื่อประชาสัมพันธ์ของกลุ่ม อย่างไรก็ตาม ไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการว่า เกิร์ลกรุปใหม่จะใช้ชื่อนี้ จนกระทั่งวันที่ 29 มิถุนายน 2016 วายจีเอนเตอร์เทนเมนต์ ประกาศรายชื่อสมาชิกและชื่อกลุ่มอย่างเป็นทางการว่า แบล็กพิงก์ ตัวแทนวายจีกล่าวว่า "แบล็กพิงก์คือความตั้งใจให้ตรงกันข้าม สีชมพูสื่อถึงความงดงาม แต่ความสวยไม่ใช่ทุกอย่าง พวกเธอเป็นทีมที่ไม่ได้มีเพียงรูปร่างหน้าตาเท่านั้น แต่ยังมากไปด้วยพรสวรรค์" นอกจากนี้ สมาชิกทุกคนต่างมีความเป็นผู้นำในแต่ละด้านได้ แบล็กพิงก์จึงตัดสินใจว่าจะไม่มีหัวหน้าวง

ประวัติ

2012–2015: ก่อนเปิดตัว

หลังจากเปิดตัวทูเอนีวันในปี 2009 วายจีเอนเตอร์เทนเมนต์กล่าวว่า ในปี 2011 จะเปิดตัวเกิร์ลกรุปกลุ่มใหม่ ในปี 2012 การประชาสัมพันธ์ของกลุ่มได้เริ่มต้นขึ้นทางช่องวายจีเอนเตอร์เทนเมนต์ในยูทูบ ในวันที่ 6 เมษายน มีการเผยแพร่วิดีโอการฝึกซ้อมของและ ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกที่คาดว่าจะได้เปิดตัว ในวันที่ 10 พฤษภาคม มีการเผยแพร่วิดีโอชื่อ "Who's That Girl" ต่อสาธารณชน ในวิดีโอเป็นการฝึกเต้นของเด็กฝึกหัดหญิงที่เกิดในปี 1997 ซึ่งก็คือ ลลิษา มโนบาล เป็นชาวไทย อย่างไรก็ตาม ทางวายจีเอนเตอร์เทนเมนต์ไม่เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับตัวเธอมากนัก นอกจากรูปภาพ อายุ และวิดีโอการฝึกสั้น ๆ ในวันที่ 1 กรกฎาคม ปีเดียวกัน วายจีเอนเตอร์เทนเมนต์ได้เผยแพร่วิดีโอการฝึกฝนของเด็กฝึกหัดหญิงสี่คนภายใต้ชื่อ "Future 2NE1" ทางช่องอย่างเป็นทางการในยูทูบ แต่ก็ไม่ได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับเด็กฝึกในวิดีโอ

ในวันที่ 29 สิงหาคม 2012 มีการเผยแพร่วิดีโอการฝึกของเจนนี คิมต่อสาธารณชน เธอเป็นเด็กฝึกคนแรกที่ทางวายจีเอนเตอร์เทนเมนต์เผยแพร่รูปภาพในบล็อกอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 10 เมษายน แต่ก็ยังไม่ได้เปิดเผยข้อมูลใด ๆ นอกจากชื่อ อายุ และวิดีโอการฝึก ในวันที่ 1 กันยายน มีการเผยแพร่มิวสิกวิดีโอเพลง "แดตเซงกี" (That XX) ของจี-ดรากอน สมาชิกวงบิกแบง จากอัลบั้ม โดยมีเจนนีร่วมแสดงด้วย นอกจากนี้ ในเพลง "วิทเอาต์ยู" (Without You) จากอัลบั้มเดียวกัน มีนักร้องรับเชิญ ซึ่งก็คือ โรเซ แต่วายจีไม่เปิดเผยข้อมูล แต่ระบุว่าเป็นเกิร์ลกรุปหญิงกลุ่มใหม่ของวายจี ปีถัดมา ในวันที่ 15 มกราคม มีการเผยแพร่ภาพถ่ายของเด็กฝึกผ่านทางบล็อกของวายจี ซึ่งก็คือ จีซู เกิดในปี 1995 ต่อมามีการเผยแพร่วิดีโอการฝึกคลิปที่สองของเจนนีในวันที่ 20 มกราคม ในเดือนมีนาคม เจนนีร้องรับเชิญให้กับอี ฮา-อี ในเดือนสิงหาคม ให้กับซึงรี และในเดือนกันยายน ให้กับจี-ดรากอน เจนนียังได้ขึ้นแสดงในรายการเพลงร่วมกับจี-ดรากอน ทำให้เธอเริ่มกลายเป็นที่รู้จัก อย่างไรก็ตาม เกิร์ลกรุปกลุ่มใหม่ยังไม่มีข่าวเปิดตัวอย่างเป็นทางการ และการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับเด็กฝึกก็หยุดลงชั่วคราว หลังจากนั้น ยูนา คิม ได้ออกจากวายจีเพื่อไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ

ในเดือนพฤษภาคม 2014 ผู้เข้าแข่งขันในรายการ ได้เข้ามาเป็นเด็กฝึกของวายจีเอนเตอร์เทนเมนต์ และเป็นตัวเก็งของเกิร์ลกรุปกลุ่มใหม่ ในเดือนกันยายน ลลิษาปรากฏตัวในวิดีโอโปรโมตของ โนนากอน (Nonagon) ซึ่งเป็นแบรนด์เสื้อผ้าที่วายจีร่วมกับซัมซุง ต่อมาวายจีได้เปิดเผยอีกครั้งว่า เกิร์ลกรุปกลุ่มใหม่จะเปิดตัวในปีนี้ ในเดือนตุลาคม 2014 วงดนตรีแนวฮิปฮอป อีพิกไฮ (Epik High) ได้ออกเพลง "สปอยเลอร์" (Spoiler) โดยมีจีซูร่วมแสดงมิวสิกวิดีโอ ในช่วงกลางเดือนตุลาคม วายจีให้สัมภาษณ์กับทางสื่อว่า คิม อึน-บี ได้ออกจากบริษัทด้วยปัญหาสุขภาพ ในวันที่ 11 พฤศจิกายน วายจีได้เปิดตัว และเผยแพร่มิวสิกวิดีโอเพลง "แอมดิฟเฟอเรนต์" (I'm Different) ในเดือนพฤศจิกายน โดยมีจีซูร่วมแสดงอีกครั้ง หลังสิ้นปี 2014 การเปิดตัวของเกิร์ลกรุปกลุ่มใหม่ก็ยังไม่มีข่าวคราว

ในวันที่ 15 เมษายน 2015 วงดนตรีฮิปฮอป ได้ออกเพลง "เทลมีวันมอร์ไทม์" โดยได้เลือก จัง ฮันนา เป็นนักร้องสนับสนุน เธอยังร่วมแสดงมิวสิกวิดีโอและได้ขึ้นแสดงในรายการเพลง ในเดือนพฤษภาคม ผู้บริหาร ยัง ฮย็อน-ซ็อก กล่าวกับทางสื่อว่า จัง ฮันนา จะไม่อยู่ในเกิร์ลกรุปกลุ่มใหม่ของค่าย ในเดือนสิงหาคม ในรายการ มีเด็กฝึกหัดหญิงจากวายจี เข้าร่วมการแข่งขัน นอกจากนี้เธอยังเป็นหนึ่งในเด็กฝึกที่อยู่ในกลุ่ม "Future 2NE1" เมื่อปี 2012

2016–2017: การเปิดตัวและความสำเร็จครั้งแรก

แบล็กพิงก์ขณะแสดงเพลง "เพลย์อิงวิทไฟร์" ในงานเมลอนมิวสิกอะวอดส์ เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2016

หลังจากประชาสัมพันธ์ว่าจะมีเกิร์ลกรุปกลุ่มใหม่ตั้งแต่ปี 2012 ทำให้เด็กฝึกเป็นที่คาดหวังอย่างมาก มีการเข้าและออกตลอดหลายปีผ่านมา จนในวันที่ 18 พฤษภาคม 2016 วายจีเอนเตอร์เทนเมนต์ยืนยันว่าเกิร์ลกรุปกลุ่มใหม่จะเปิดตัวในฤดูร้อน ต่อมาในวันที่ 30 พฤษภาคม มีการประกาศว่าจะเปิดเผยข้อมูลสมาชิกแต่ละคนในทุกวันพุธต่อจากนี้ สมาชิกคนแรกที่ประกาศคือ เจนนี ในวันที่ 1 มิถุนายน ตามมาด้วย ลิซ่า (ลลิษา) สัญชาติไทย และ จีซู ในวันที่ 8 และ 15 ตามลำดับ และสมาชิกคนสุดท้ายที่ประกาศในวันที่ 22 คือ โรเซ (โรซอนเน) สัญชาติเกาหลี-ออสเตรเลีย รวมสมาชิกทั้งหมดสี่คน ในวันที่ 29 มิถุนายน มีการประกาศชื่อกลุ่มอย่างเป็นทางการว่า แบล็กพิงก์

แบล็กพิงก์ออกจำหน่ายซิงเกิลอัลบั้มชุดแรก สแควร์วัน ในวันที่ 8 สิงหาคม 2016 ซิงเกิลนำ "บูมบายาห์" และ "วิสเซิล" ขึ้นสูงสุดอันดับที่หนึ่งและสองบนชาร์ตบิลบอร์ด ทำให้แบล็กพิงก์เป็นศิลปินที่ติดชาร์ตดังกล่าวได้เร็วที่สุดและเป็นศิลปินลำดับที่สาม ถัดจากไซและบิกแบงที่สามารถครองสองอันดับแรกได้พร้อมกัน "วิสเซิล" ขึ้นอันดับสูงสุดบนแกออนดิจิทัล, ดาวน์โหลด, สตรีมมิง และโมบายล์ได้สำเร็จ และยังขึ้นอันดับหนึ่งในชาร์ตประจำสัปดาห์, ความนิยม, มิวสิกวิดีโอ และมิวสิกวิดีโอเคป็อป บนซึ่งเป็นบริการสตรีมเพลงที่ใหญ่ที่สุดในจีน แบล็กพิงก์ขึ้นแสดงดนตรีครั้งแรกในรายการ อินกีกาโย ทางช่องเอสบีเอส เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2016 พวกเธอได้รับรางวัลในรายการเพลงครั้งแรกจาก อินกีกาโย หลังจากเปิดตัวได้ 13 วัน ทำลายสถิติเป็นเกิร์ลกรุปที่ได้รางวัลในรายการเพลงเร็วที่สุด แบล็กพิงก์สิ้นสุดการประชาสัมพันธ์ สแควร์วัน เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2016 ด้วยการชนะ อินกีกาโย อีกหนึ่งครั้ง

ซิงเกิลอัลบั้มที่สองของแบล็กพิงก์ชื่อ สแควร์ทู ประกอบด้วย "เพลย์อิงวิทไฟร์" และ "สเตย์" วางจำหน่ายวันที่ 1 พฤศจิกายน 2016 วงเริ่มประชาสัมพันธ์อัลบั้มด้วยการปรากฏในรายการ อินกีกาโย เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน และ เอ็ม เคาต์ดาวน์ เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน "เพลย์อิงวิทไฟร์" กลายเป็นเพลงที่สองของแบล็กพิงก์ที่ขึ้นอันดับหนึ่งบนชาร์ตบิลบอร์ด เวิลด์ดิจิทัลซองเซลส์ และยังเป็นเพลงแรกของเกิร์ลกรุปเคป็อปที่ติดชาร์ต ในเกาหลีใต้ "เพลย์อิงวิทไฟร์" ขึ้นสูงสุดที่อันดับสาม ขณะที่ "สเตย์" อยู่ในสิบอันดับแรก ความสำเร็จเชิงพาณิชย์ในช่วงห้าเดือนแรกของแบล็กพิงก์ ทำให้พวกเธอได้รับรางวัลศิลปินหน้าใหม่หลายรายการในงานประกาศรางวัลเพลงสิ้นปีที่สำคัญของเกาหลี ซึ่งรวมถึง,เมลอนมิวสิกอะวอดส์,โกลเดนดิสก์อะวอดส์,โซลมิวสิกอะวอดส์ และแกออนชาร์ตมิวสิกอะวอดส์ นอกจากนี้ บิลบอร์ด ยังยกให้เป็นหนึ่งในกลุ่มเคป็อปหน้าใหม่ยอดเยี่ยมแห่งปี 2016

แบล็กพิงก์แสดงในงานวายจีเอกซ์ยูนิเซฟวอล์กกิงเฟสติวัลปี 2017

ในวันที่ 17 มกราคม 2017 แบล็กพิงก์ประกาศชื่อแฟนคลับคือ "บลิงก์" ซึ่งเป็นการรวมคำระหว่าง "แบล็ก" และ "พิงก์" เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน วงได้ออกซิงเกิล "แอสอิฟอิตส์ยัวร์ลาสต์" ซึ่งถูกบรรยายว่าเป็น "แนวเพลงที่ผสมผสาน" และมีจังหวะเร็วกว่าเพลงก่อนหน้า เพลงเปิดตัวที่อันดับหนึ่งบนบิลบอร์ด เวิลด์ดิจิทัลซองเซลส์ และติดหนึ่งใน 25 เพลงฮิตประจำฤดูร้อน 2017 ของยูทูบ มิวสิกวิดีโอเพลงทำลายสถิติวิดีโอที่มียอดกดไลก์สูงสุดของเกิร์ลกรุปเกาหลีในยูทูบ และเคยเป็นวิดีโอกลุ่มเคป็อปที่มีผู้ชมมากที่สุดภายใน 24 ชั่วโมง ในวันที่ 20 กรกฎาคม แบล็กพิงก์จัดการแสดงที่สนามกีฬาต่อสู้ญี่ปุ่นในโตเกียว โดยมีผู้เข้าชมมากกว่า 14,000 คน และอีก 200,000 กว่าคนพยายามซื้อตั๋วเข้าชมการแสดงนี้ วงเปิดตัวในญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2017 ด้วยการออกเอกซ์เทนเดดเพลย์ฉบับภาษาญี่ปุ่นที่มีชื่อเดียวกับตนเอง อีพีเปิดตัวที่อันดับที่หนึ่งบน ด้วยยอดขาย 39,100 ชุด ในสัปดาห์แรก

2018–2019: ความสำเร็จระดับนานาชาติและทัวร์คอนเสิร์ต

ในวันที่ 6 มกราคม 2018 แบล็กพิงก์ได้ออกรายการเรียลลิตีโชว์ครั้งแรกชื่อ แบล็กพิงก์เฮาส์ มีทั้งหมด 12 ตอน เล่าเรื่องชีวิตของสมาชิกทั้งสี่คนที่ได้ย้ายเข้าไปอยู่ในหอพักใหม่เพื่อการพักร้อน 100 วัน ออกอากาศผ่านทางวีไลฟ์และยูทูบ เมื่อวันที่ 28 มีนาคม แบล็กพิงก์ได้ออกอีพีภาษาญี่ปุ่นซ้ำในชื่อ รี: แบล็กพิงก์ โดยเวอร์ชันดิจิทัลเป็นการรวมเพลงจากต้นฉบับก่อนหน้า ขณะที่เวอร์ชันซีดีและดีวีดี มีการเพิ่มมิวสิกวิดีโอและเพลงภาษาเกาหลีอีกหกเพลง

แบล็กพิงก์ที่โซลมิวสิกอะวอดส์ ปี 2018

ในวันที่ 15 มิถุนายน 2018 วงได้ออกอีพีเป็นภาษาเกาหลีครั้งแรกชื่อ สแควร์อัป ซิงเกิลนำ "ตู-ดู ตู-ดู" เปิดตัวที่อันดับที่ 17 บนในสหราชอาณาจักร ทำให้พวกเธอเป็นกลุ่มเคป็อปหญิงวงแรกที่ติดชาร์ตนี้ได้นับตั้งแต่ออกเผยแพร่ในปี 2016 ซิงเกิลดังกล่าวยังเปิดตัวที่อันดับ 55 บนบิลบอร์ดฮอต 100 ด้วยยอดสตรีม 12.4 ล้านครั้งในสหรัฐ และมียอดดาวน์โหลดในสัปดาห์แรก 7,000 ครั้ง ทำให้แบล็กพิงก์เป็นเกิร์ลกรุปเกาหลีที่ติดอันดับสูงสุดบนชาร์ต อัลบั้มเปิดตัวที่อันดับ 40 บนบิลบอร์ด 200 ด้วยยอดขาย 14,000 ชุด กลายเป็นอัลบั้มที่ขึ้นอันดับสูงสุดโดยกลุ่มเคป็อปหญิง ณ เวลาที่ปล่อย และยังติดชาร์ต บิลบอร์ด ด้วย ในเกาหลีใต้ สแควร์อัป เปิดตัวที่อันดับหนึ่งบนแกออนอัลบั้มชาร์ต "ตู-ดู ตู-ดู" ขึ้นสูงสุดอันดับหนึ่งบนชาร์ตดิจิทัล, ดาวน์โหลด, สตรีมมิง และโมบายล์ บนแกออน ขณะที่ "ฟอร์เอเวอร์ยัง" ขึ้นได้ถึงอันดับที่สอง มิวสิกวิดีโอเพลง "ตู-ดู ตู-ดู" ในยูทูบมีผู้ชมมากกว่า 36.2 ล้านครั้งในวันแรก ทำลายสถิติมิวสิกวิดีโอของศิลปินเกาหลีใต้ที่มีผู้ชมมากที่สุดภายใน 24 ชั่วโมง ณ ขณะนั้น

แบล็กพิงก์ในงานแจกลายเซ็นอัลบั้ม สแควร์อัป ที่ใน เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2018

แบล็กพิงก์เริ่มทัวร์ในญี่ปุ่นครั้งแรกชื่อ แบล็กพิงก์อะรีนาทัวร์ 2018 ตั้งแต่วันที่ 24 ถึง 25 กรกฎาคม เพื่อส่งเสริมอีพีภาษาญี่ปุ่นของพวกเธอ ทัวร์เริ่มขึ้นด้วยการแสดงหกรอบทั่วโอซากะ ฟูกูโอกะ และชิบะ ต่อมาได้มีการเพิ่มทัวร์รอบสุดท้ายในวันที่ 24 ธันวาคม ที่เคียวเซระโดมโอซากะเพื่อเป็นของขวัญวันคริสต์มาสให้กับแฟนเพลงในการแสดงที่ขายบัตรหมดต่อหน้าฝูงชนนับห้าหมื่นคน เมื่อวันที่ 12 กันยายน มีการประกาศว่าพวกเธอจะจัดคอนเสิร์ต แบล็กพิงก์ 2018 ทัวร์อินยัวร์แอเรีย โซลเอ็กซ์ ที่ในกรุงโซลอินยัวร์แอเรียเวิลด์ทัวร์ นับเป็นทัวร์คอนเสิร์ตรอบโลกของวงครั้งแรก ซึ่งเดินสายตลอดปี 2019 และต้นปี 2020 ในอเมริกาเหนือ ยุโรป โอเชียเนีย และเอเชีย จนท้ายที่สุดกลายเป็นทัวร์ของเกิร์ลกรุปเกาหลีที่มีรายได้สูงที่สุด

เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม นักร้องชาวบริติช ดัว ลีปา ออกเพลง "คิสแอนด์เมกอัป" กับแบล็กพิงก์ เป็นแทร็กใหม่ฉบับจำหน่ายซ้ำจากอัลบั้มแรกของเธอใน เพลงเปิดตัวที่อันดับ 93 บนบิลบอร์ดฮอต 100 ถือเป็นซิงเกิลที่สองของแบล็กพิงก์บนชาร์ตและทำให้พวกเธอเป็นเกิร์ลกรุปเกาหลีเพียงกลุ่มเดียวที่มีเพลงติดชาร์ตนี้มากกว่าหนึ่งเพลง "คิสแอนด์เมกอัพ" ยังเป็นซิงเกิลแรกของแบล็กพิงก์ที่อยู่ใน 40 อันดับแรกบนชาร์ตซิงเกิลแห่งสหราชอาณาจักร รวมถึงเป็นเกิร์ลกรุปเกาหลีกลุ่มแรกและศิลปินเกาหลีลำดับที่สามจากทั้งหมดที่สามารถติดท็อป 40 ได้สำเร็จ ในเดือนเดียวกันนั้น วงได้เซ็นสัญญากับอินเตอร์สโคปเรเคิดส์ ซึ่งเป็นสังกัดในเครือยูนิเวอร์แซลมิวสิกกรุป ในเดือนพฤศจิกายน 2018 แบล็กพิงก์ประกาศวันเดินทางเพิ่มเติมในอินยัวร์แอเรียเวิลด์ทัวร์ ที่ครอบคลุมพื้นที่ในเอเชีย ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงมีนาคม 2019 เจนนีเปิดตัวเป็นศิลปินเดี่ยวในเพลง "โซโล" ที่คอนเสิร์ตของแบล็กพิงก์ในกรุงโซลเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ก่อนปล่อยเพลงและมิวสิกวิดีโออย่างเป็นทางการในวันรุ่งขึ้น สตูดิโออัลบั้มภาษาญี่ปุ่นชุดแรกของวงชื่อ แบล็กพิงก์อินยัวร์แอเรีย วางจำหน่ายในรูปแบบดิจิทัลในวันที่ 23 พฤศจิกายน และแบบกายภาพในวันที่ 5 ธันวาคม โดยเป็นการรวมเพลงฉบับภาษาญี่ปุ่นก่อนหน้าทั้งหมดของพวกเธอ อัลบั้มเปิดตัวที่อันดับเก้าบนและขายได้ประมาณ 13,000 ชุดในสัปดาห์แรก

แบล็กพิงก์แสดงอินยัวร์แอเรียเวิลด์ทัวร์ ในอัมสเตอร์ดัม ปี 2019

แบล็กพิงก์เปิดตัวในสหรัฐที่แกรมมีอาร์ติสต์โชว์เคสของยูนิเวอร์แซลมิวสิกกรุป ซึ่งเป็นงานเฉพาะผู้ได้รับบัตรเชิญเท่านั้นที่ ROW ใน เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2019 ต่อมาวงได้ปรากฏอยู่ในรายการโทรทัศน์อเมริกันอีกหลายรายการ ซึ่งรวมถึง , และ ในเดือนมีนาคมนั้น พวกเธอกลายเป็นเกิร์ลกรุปเคป็อปวงแรกที่ได้ขึ้นปกนิตยสาร บิลบอร์ด

อีพีชุดที่สองของแบล็กพิงก์ชื่อ คิลดิสเลิฟ วางจำหน่ายวันที่ 5 เมษายน 2019 พร้อมกับซิงเกิลในชื่อเดียวกัน อัลบั้มเปิดตัวที่อันดับ 24 บน บิลบอร์ด 200 ขณะที่ซิงเกิลนำขึ้นอันดับที่ 41 บนชาร์ตฮอต100 กลายเป็นอันดับสูงสุดโดยศิลปินหญิงเกาหลีบนสองชาร์ตหลักของ บิลบอร์ด "คิลดิสเลิฟ" ติดอันดับที่ 66 จาก 100 เพลงยอดเยี่ยมแห่งปี 2019 ของนิตยสาร บิลบอร์ด เพลง "ฟอร์เอเวอร์ยัง" เป็นจากอีพี สแควร์อัป (2018) มียอดดาวน์โหลดมากกว่า 2.5 ล้านครั้งในเดือนธันวาคม 2019 กลายเป็นเพลงที่ห้าของวงและครั้งที่สองของพวกเธอที่ได้รับการรับรองระดับทองคำขาวจาก (KMCA) ถัดจากเพลง "ตู-ดู ตู-ดู" แบล็กพิงก์ได้แสดงในเทศกาลโคเชลลา ในวันที่ 12 และ 19 เมษายน 2019 การแสดงของวงได้รับคำชมจากนักวิจารณ์และแฟนเพลง แกบ กินสเบิร์ก จาก บิลบอร์ด เรียกการแสดงนี้ว่า "น่าตื่นเต้น" และ "ไม่มีทางลืม"

ในวันที่ 16 ตุลาคม 2019 คิลดิสเลิฟ ฉบับภาษาญี่ปุ่นเผยแพร่สู่ตลาดญี่ปุ่น ขึ้นสูงสุดที่อันดับ 17 บนออริคอนอัลบัมชาร์ต วงไปเยือนประเทศญี่ปุ่นเพื่อทำกิจกรรมส่งเสริมการขายต่าง ๆ รวมถึงปรากฏตัวในรายการเพลงญี่ปุ่นอย่าง ทางช่องทีวีอาซาฮิ และ เลิฟมิวสิก ทางช่องฟูจิทีวี นักอ่านนิตยสาร โหวตให้พวกเธอเป็น "เคป็อปที่ประทับใจแห่งปี 2019" ในรายชื่อประจำปีของเบรกเดอะอินเทอร์เน็ตอะวอดส์

2020–2021: ดิอัลบั้ม และเดอะโชว์

เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2020 มีการยืนยันว่าวงจะร่วมงานกับเลดีกากา จากสตูดิโออัลบั้มที่หกของเธอ โครมาติกา เพลง "ซาวเออร์แคนดี" ออกมาเป็นซิงเกิลประชาสัมพันธ์ในวันที่ 28 พฤษภาคม 2020 เปิดตัวที่อันดับ 33 บน บิลบอร์ด ฮอต 100 กลายเป็นเพลงแรกของแบล็กพิงก์ที่อยู่ใน 40 อันดับแรก ยังเป็นอันดับสูงที่สุดของวงในขณะนั้น และเป็นอันดับสูงที่สุดของเกิร์ลกรุปเคป็อปด้วย ในประเทศออสเตรเลีย เพลงเปิดตัวที่อันดับแปดกลายเป็นเพลงแรกของแบล็กพิงก์ที่ขึ้นสิบอันดับแรกได้ในประเทศ และเป็นซิงเกิลแรกที่ติดท็อป 20 ในสหราชอาณาจักร โดยเปิดตัวที่อันดับที่ 17 ในวันที่ 18 พฤษภาคม วายจีเอนเตอร์เทนเมนต์ประกาศว่าวงจะปล่อยซิงเกิลก่อนวางจำหน่ายในเดือนมิถุนายน ตามด้วยซิงเกิลเพิ่มเติมในระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม เพื่อประชาสัมพันธ์สตูดิโออัลบั้มเกาหลีชุดแรก ต่อมาในวันที่ 2 มิถุนายน วายจียืนยันอย่างเป็นทางการว่าหลังออกสตูดิโออัลบั้ม โรเซ ลิซ่า และจีซู สมาชิกวงจะออกผลงานเดี่ยวตามมา โดยที่โรเซจะเป็นคนแรก ขณะกำลังทำอัลบั้มชุดใหม่ วายจีได้เปิดตัวรายการเรียลลิตีโชว์ของแบล็กพิงก์ชื่อ 24/365 วิธแบล็กพิงก์ ในวันที่ 13 มิถุนายน ล่วงหน้าก่อนเปิดตัวบนยูทูบ เป็นรายการที่ติดตามการกลับมาของพวกเธอควบคู่ไปกับการแบ่งปันชีวิตประจำวันผ่านวิดีโอบล็อก

ซิงเกิล "ฮาวยูไลก์แดต" ออกเป็นซิงเกิลแรกในวันที่ 26 มิถุนายน เพลงขึ้นสูงสุดอันดับหนึ่งบนแกออนดิจิทัลชาร์ตเป็นเวลาสามสัปดาห์ "ฮาวยูไลก์แดต" กลายเป็นเพลงที่ห้าของแบล็กพิงก์ที่ติดชาร์ต บิลบอร์ด ฮอต 100 (ขึ้นสูงสุดอันดับ 33) มิวสิกวิดีโอในยูทูบทำลายบันทึกสถิติโลกกินเนสส์ 5 ห้วข้อ ยังติดอันดับหนึ่งในรายชื่อ 10 เพลงยอดนิยมประจำฤดูร้อน 2020 ของยูทูบมิวสิก และได้รางวัลที่งานประกาศรางวัล ทำให้แบล็กพิงก์เป็นศิลปินหญิงเกาหลีวงแรกที่ได้รับรางวัลนี้ ในวันที่ 23 กรกฎาคม วายจีประกาศว่าซิงเกิลที่สอง "ไอศกรีม" กับนักร้องชาวอเมริกัน เซลีนา โกเมซ จะวางจำหน่ายในวันที่ 28 สิงหาคม เพลงเปิดตัวที่อันดับที่ 13 บน บิลบอร์ด ฮอต 100 ถือเป็นอันดับสูงที่สุดของวง และเป็นครั้งแรกที่สามารถติดท็อป 20 ได้ ในสหราชอาณาจักร ขึ้นสูงสุดอันดับที่ 39 กลายเป็นศิลปินเกาหลีที่มีเพลงฮิตใน 40 อันดับแรกมากที่สุดจำนวนห้าเพลงในขณะนั้น

แบล็กพิงก์ในเดือนตุลาคม 2020

แบล็กพิงก์ออกสตูดิโออัลบั้มเกาหลีชุดแรกในชื่อ ดิอัลบั้ม ในวันที่ 2 ตุลาคม 2020 "เลิฟซิกเกิลส์" ออกเป็นซิงเกิลหลักที่สามดิอัลบั้ม ขึ้นถึงอันดับสองบน บิลบอร์ด 200 และชาร์ตอัลบั้มแห่งสหราชอาณาจักร กลายเป็นอันดับสูงที่สุดของศิลปินหญิงเกาหลี อัลบั้มทำลายสถิติยอดขายสัปดาห์แรกของเกิร์ลกรุปเกาหลี ด้วยยอดขาย 590,000 ชุด หลังออกจำหน่ายได้เพียงหนึ่งวัน และทำให้แบล็กพิงก์เป็นเกิร์ลกรุปเคป็อปวงแรกที่ขายได้ถึงล้านชุด โดยขายได้ประมาณ 1.2 ล้านชุด ในเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือน เพื่อส่งเสริมเพลงในสหรัฐ แบล็กพิงก์แสดง "เลิฟซิกเกิลส์" บน และ ในวันที่ 21 ตุลาคม

ภาพยนตร์สารคดีครั้งแรกของวง แบล็กพิงก์: ไลต์อัพเดอะสกาย ออกฉายทางเน็ตฟลิกซ์เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2020 ซึ่งครอบคลุมระยะเวลาสี่ปีนับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2016 สารคดีเรื่องดังกล่าวประกอบด้วยฟุตเทจจากการฝึกซ้อม กิจวัตรประจำวัน เบื้องหลังการถ่ายทำ และบทสัมภาษณ์ของสมาชิกแต่ละคน รวมถึงกระบวนการผลิต ดิอัลบั้ม ความสำเร็จเชิงพาณิชย์ของ ดิอัลบั้ม ร่วมกับภาพยนตร์สารคดี ส่งให้แบล็กพิงก์ครองอันดับหนึ่งในฐานะดาราป็อปที่มีอิทธิพลที่สุดประจำเดือนตุลาคมของ ในวันที่ 2 ธันวาคม แบล็กพิงก์ประกาศร่วมมือกับยูทูบมิวสิกสำหรับคอนเสิร์ตสตรีมสดครั้งแรกของพวกเธอในชื่อ เดอะโชว์ จัดขึ้นวันที่ 27 ธันวาคม 2020 แต่ถูกเลื่อนออกมาเป็นวันที่ 31 มกราคม 2021 เนื่องจากระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการระบาดทั่วของโควิด-19 ในเกาหลีใต้ คอนเสิร์ตนี้เป็นการแสดงสดครั้งแรกของเพลงหลายเพลงจาก ดิอัลบั้ม เช่นเดียวกับเพลง "" ของโรเซ จากอัลบัมเดี่ยวชุดแรกของเธอ อาร์ ผู้คนมากกว่า 280,000 คน ได้สมัครสมาชิกเพื่อเข้าชมการแสดง และคอนเสิร์ตมีการสตรีมสดกว่า 100 ประเทศ

แบล็กพิงก์ออก ดิอัลบั้ม เวอร์ชันภาษาญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2021 โดยมีเวอร์ชันภาษาญี่ปุ่นถึงสี่จากทั้งหมดแปดแทร็ก ("ฮาวยูไลก์แดต", "พริตตีซาเวจ", "เลิฟซิกเกิลส์" และ "ยูเนเวอร์โนว์") ขึ้นถึงอันดับสามบนออริคอนอัลบั้มชาร์ต เพื่อส่งเสริมอัลบั้ม พวกเธอได้ปรากฏบนรายการเพลงญี่ปุ่นอย่าง มิวสิกสเตชัน ทางช่องทีวีอาซาฮิ ในวันที่ 4 สิงหาคม ภาพยนตร์สารคดีเรื่อง แบล็กพิงก์: เดอะมูวี ออกฉายในโรงภาพยนตร์ทั่วโลก นำเสนอบทสัมภาษณ์พิเศษของวง ตลอดจนการแสดงสดจากเดอะโชว์และอินยัวร์แอเรียเวิลด์ทัวร์

2022–ปัจจุบัน: บอร์นพิงก์ และทัวร์รอบโลกครั้งที่สอง

ในวันที่ 6 กรกฎาคม 2022 วายจีเอนเตอร์เทนเมนต์ประกาศว่าแบล็กพิงก์อยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการบันทึกเสียงสำหรับอัลบั้มใหม่ โดยเตรียมถ่ายทำมิวสิกวิดีโอในช่วงกลางเดือนกรกฎาคมและออกเพลงใหม่ในเดือนสิงหาคม และยังยืนยันว่าวงจะเริ่มทัวร์คอนเสิร์ตครั้งที่สองในช่วงปลายปี ในวันที่ 12 กรกฎาคม วายจีเอนเตอร์เทนเมนต์เผยว่าแบล็กพิงก์จะจัดคอนเสิร์ตเสมือนจริงชื่อ แบล็กพิงก์: เดอะเวอชวล ในเกม ตั้งแต่วันที่ 22 ถึง 30 กรกฎาคม ประกอบด้วยการแสดงเพลงฮิตของวงพร้อมกับแทร็กพิเศษ "เรดีฟอร์เลิฟ" ซึ่งจะแสดงตัวอย่างภายในงานเป็นครั้งแรก ก่อนปล่อยตัวเต็มเป็นมิวสิกวิดีโอแอนิเมชันในวันที่ 29 กรกฎาคม

แบล็กพิงก์แสดงในลอนดอน สำหรับบอร์นพิงก์เวิลด์ทัวร์ ในเดือนธันวาคม 2022

ในวันที่ 31 กรกฎาคม มีการประกาศว่าแบล็กพิงก์จะออกซิงเกิลก่อนวางจำหน่าย "พิงก์เวนอม" ในวันที่ 19 สิงหาคม ก่อนอัลบั้มชุดที่สองของพวกเธอในเดือนกันยายน ตามด้วยเวิลด์ทัวร์ ซึ่งเริ่มเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ในโซล และคาดว่าจะดำเนินไปจนถึงเดือนมิถุนายน 2023 หลังจากการวางจำหน่าย เพลงดังกล่าวขึ้นอันดับหนึ่งบน ถึงสองสัปดาห์ กลายเป็นเพลงแรกของศิลปินหญิงเคป็อปที่ขึ้นอันดับหนึ่งและยังเป็นเพลงเกาหลีเพลงแรกที่อยู่ในชาร์ตได้นานหลายสัปดาห์ ขึ้นถึงอันดับสองบนเซอร์เคิลดิจิทัลชาร์ตของเกาหลีใต้ อันดับที่ 22 บนชาร์ตบิลบอร์ดฮอต 100 และเป็นเพลงแรกของศิลปินกลุ่มเคป็อปที่ขึ้นอันดับสูงสุดบน ด้วย เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม แบล็กพิงก์แสดงเพลง "พิงก์เวนอม" ที่งานเอ็มทีวีวิดีโอมิวสิกอะวอดส์ 2022 ทำให้พวกเธอเป็นศิลปินหญิงเคป็อปกลุ่มแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้แสดงในงานดังกล่าว และยังได้รับรางวัลการแสดงเมตาเวิร์สยอดเยี่ยม จาก เดอะเวอชวล ด้วย

ในวันที่ 16 กันยายน 2022 แบล็กพิงก์ออกสตูดิโออัลบั้มชุดที่สอง บอร์นพิงก์ ควบคู่ไปกับซิงเกิล "ชัตดาวน์" เพลงขึ้นอันดับหนึ่งบนบิลบอร์ด โกลบอล 200 และขึ้นอันดับสามบนเซอร์เคิลดิจิทัลชาร์ต รวมถึงอันดับที่ 24 บนชาร์ตบิลบอร์ดฮอต 100บอร์นพิงก์ เปิดตัวที่อันดับหนึ่งบนเซอร์เคิลอัลบั้มชาร์ตด้วยยอดขาย 2,141,281 ชุดในเวลาไม่ถึงสองวัน และเป็นอัลบั้มแรกของเกิร์ลกรุปเคป็อปที่ขายได้มากกว่าสองล้านชุด ในสหรัฐ บอร์นพิงก์ เปิดตัวที่อันดับหนึ่งบนบิลบอร์ด 200 กลายเป็นอัลบั้มแรกของศิลปินหญิงเกาหลีที่ขึ้นอันดับสูงสุดและเป็นอัลบั้มของศิลปินกลุ่มหญิงที่ทำได้นับตั้งแต่ ของแดนิตีเคนในปี 2008 ในสหราชอาณาจักร บอร์นพิงก์ ยังเป็นอัลบั้มแรกของเกิร์ลกรุปเคป็อปที่ขึ้นอันดับหนึ่งบนชาร์ตอัลบั้มแห่งสหราชอาณาจักร ทำให้แบล็กพิงก์เป็นเกิร์ลกรุปที่มีอัลบั้มเปิดตัวบนชาร์ตในสหรัฐและสหราชอาณาจักรที่อันดับหนึ่งพร้อม ๆ กัน นับตั้งแต่ เซอร์ไวเวอร์ ของเดสทินีส์ไชลด์ในปี 2001 และเป็นอัลบั้มที่ขายดีที่สุดอันดับแปดของโลกในปี 2022 จากข้อมูลของสมาพันธ์ผู้ผลิตสิ่งบันทึกเสียงระหว่างประเทศ ในเดือนธันวาคม 2022 วงได้ชื่อว่าผู้ให้ความบันเทิงแห่งปี จากนิตยสาร ไทม์

แบล็กพิงก์แสดงใน

หลังจากออกอัลบั้ม แบล็กพิงก์เริ่มทัวร์ บอร์นพิงก์เวิลด์ทัวร์ ในโซลเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2022 ตามด้วยทัวร์อเมริกาเหนือและยุโรปตลอดเดือนธันวาคม ในวันที่ 28 มกราคม 2023 วงได้แสดงเพลง "พิงก์เวนอม" และ "ชัตดาวน์" ร่วมกับนักดนตรีอย่าง และ ในงานการกุศลเลอกาลาเดเปียสโฌน ซึ่งจัดโดยสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของประเทศฝรั่งเศส บรีฌิต มาครง ในปารีส การทัวร์ดำเนินต่อไปในปี 2023 โดยมีการแสดงในสนามกีฬาทั่วเอเชีย ตลอดจนคอนเสิร์ตอีกหลายแห่งในเม็กซิโกและออสเตรเลีย ต่อมาแบล็กพิงก์กลายเป็นศิลปินเกาหลีกลุ่มแรกที่ได้ลงพาดหัวข่าวในเทศกาลโคเชลลา เมื่อวันที่ 15 และ 22 เมษายน และ ในลอนดอนเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม จากนั้นก็กลับมาทัวร์อองคอร์ในสนามกีฬา โดยเริ่มในเดือนกรกฎาคมในประเทศฝรั่งเศสและสหรัฐ ซึ่งได้สร้างสถิติจำนวนมาก รวมถึงทำให้พวกเธอกลายเป็นศิลปินหญิงลำดับที่สามในประวัติศาสตร์ ต่อจากบียอนเซ่ และเทย์เลอร์ สวิฟต์ ที่ขายบัตรหมดทั้งสองวันที่สนามกีฬาเมตไลฟ์

ในวันที่ 18 พฤษภาคม วงประกาศออกซิงเกิลประชาสัมพันธ์ชื่อ "เดอะเกิลส์" ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเพลงประกอบของพวกเธอ แบล็กพิงก์: เดอะเกม ในวันที่ 25 สิงหาคม 2023 ที่งาน แบล็กพิงก์ได้รับรางวัลออกแบบท่าเต้นยอดเยี่ยม สำหรับเพลง "พิงก์เวนอม" และ กลายเป็นเกิร์ลกรุปกลุ่มที่สองที่คว้ารางวัลนี้ได้นับตั้งแต่ทีแอลซีในปี 1999 บอร์นพิงก์เวิลด์ทัวร์ สิ้นสุดในวันที่ 17 กันยายน ด้วยคอนเสิร์ตสองรอบสุดท้ายในโซล เมื่อสิ้นสุดลง ทัวร์ได้ทำลายสถิติ ของสไปซ์เกิลส์ กลายเป็นทัวร์คอนเสิร์ตที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลของศิลปินกลุ่มหญิง โดยมีผู้เข้าร่วมทั้งหมด 1.8 ล้านคน ทำให้เป็นทัวร์คอนเสิร์ตที่มีผู้เข้าร่วมมากที่สุดของเกิร์ลกรุปเกาหลีด้วย

ความเป็นศิลปิน

แนวเพลงของแบล็กพิงก์เป็นแนวอีดีเอ็มและป็อปโดยพื้นฐาน ควบคู่กับองค์ประกอบของฮิปฮอปและแทร็ป ขณะเดียวกันก็รวมแนวเพลงอื่น ๆ อย่างอาร์แอนด์บี, , บัลลาด, ดิสโก และร็อก เพลงหลายเพลงของวงมักจะนำเสนอเสียงอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนเข้าท่อนคอรัส ซึ่งนักวิจารณ์ดนตรีมองว่าเป็นเสียงที่มีลักษณะเฉพาะของวง เนื้อหาในเพลงส่วนใหญ่เกี่ยวกับความเป็นอิสระ พลังของผู้หญิง การเลิกรา และความสัมพันธ์ที่เป็นพิษเช่นเดียวกับความรักในฤดูร้อน

อิทธิพลของวง

แฟนคลับขณะเชียร์คอนเสิร์ตเคียวเซระโดมของแบล็กพิงก์ ในโอซากะในเดือนธันวาคม 2018

แบล็กพิงก์ได้สร้างอิทธิพลต่อวงการเคป็อปไปทั่วโลกและได้รับการกล่าวถึงว่าเป็น "เกิร์ลกรุปที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก" "กลุ่มดนตรีหญิงเคป็อปที่ยิ่งใหญ่ที่สุด" และ "ราชินีเคป็อป" ในเกาหลีใต้ นิตยสาร ฟอบส์ จัดอันดับให้แบล็กพิงก์เป็น "ผู้ทรงอิทธิพลในเกาหลี" อันดับหนึ่ง ประจำปี 2019 อันดับที่สามในปี 2020 และอันดับที่สองในปี 2021 สื่อต่างประเทศหลายแห่งอย่างเช่น ฟอบส์, บิลบอร์ด และ ต่างยอมรับถึงความนิยมของวงและผลงานของพวกเธอที่เผยแพร่กระแสเกาหลีไปทั่วโลก เจฟฟ์ เบนจามิน จากนิตยสาร โรลลิงสโตน ได้กล่าวว่าแบล็กพิงก์คือข้อยกเว้นสำหรับแนวคิดที่ว่าศิลปินเคป็อปที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในสหรัฐ คือ บอยแบนด์ วงยังได้รับเครดิตให้เป็นหนึ่งในสองศิลปินผู้ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมดนตรีเกาหลี จากสมาพันธ์ผู้ผลิตสิ่งบันทึกเสียงระหว่างประเทศ (IFPI) แบล็กพิงก์ปรากฏอยู่ในรายชื่อผู้ทรงอิทธิพลหลายรายการและเป็นเกิร์ลกรุปวงแรกที่ติดโผ "" พวกเธอยังเป็นหนึ่งใน 100 บุคคลดาวรุ่งที่กำลังกำหนดอนาคตของโลกประจำปี 2019 ของนิตยสาร ไทม์ และได้รับการกล่าวถึงว่าเป็น "ผู้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ของศิลปินเกาหลีที่ก้าวข้ามอุปสรรคทางภาษาไปสู่การแสดงบนเวทีระดับโลก" เมื่อพวกเธอกลายเป็นเกิร์ลกรุปเคป็อปวงแรกที่ได้แสดงในเทศกาลโคเชลลา เช่นเดียวกับ จัดให้แบล็กพิงก์เป็น "ศิลปินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก" ประจำเดือนตุลาคม 2020 ทำให้พวกเธอเป็นศิลปินเกาหลีวงแรกที่ทำได้ นิตยสาร พีเพิล จัดให้แบล็กพิงก์อยู่ในรายชื่อ "สตรีที่เปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมดนตรี" และยังเป็นเกิร์ลกรุปวงที่สามในประวัติศาสตร์ที่ได้ขึ้นปกนิตยสาร โรลลิงสโตน ถัดจากสไปซ์เกิลส์และเดสทินีส์ไชลด์

แบล็กพิงก์มีผู้ติดตามจำนวนมากบนสื่อสังคมและแพลตฟอร์มสตรีมมิง พวกเธอกลายเป็นวงดนตรีที่มีผู้ติดตามมากที่สุดบนยูทูบเมื่อเดือนกันยายน 2019 ศิลปินหญิงที่มีผู้ติดตามมากที่สุดบนยูทูบเมื่อเดือนกรกฎาคม 2020 และกลายเป็นศิลปินที่มีผู้ติดตามมากที่สุดเมื่อเดือนกันยายน 2021 โดยมีผู้ติดตามมากกว่า 73 ล้านคน ณ เดือนเมษายน 2022 สมาชิกของแบล็กพิงก์ยังเป็นบุคคลที่มียอดผู้ติดตามสูงที่สุดบนอินสตาแกรมในเกาหลีใต้ อันดับหนึ่ง สอง สาม และสี่ คือ ลิซ่า, เจนนี, จีซู และโรเซ ตามลำดับ รวมถึงเกิร์ลกรุปที่มียอดผู้ติดตามมากที่สุดในสปอติฟายเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2019 ในเดือนกันยายน 2022 วงมีผู้ติดตามมากกว่า 31 ล้านคน

กิจกรรมอื่น ๆ

โฆษณา

ภายในสามสัปดาห์แรกของการเปิดตัว แบล็กพิงก์เป็นรองเพียงวงเอ็กโซ ของศิลปินเคป็อปผู้ทรงอิทธิพลในเดือนสิงหาคม จากการวิเคราะห์ของสถาบันวิจัยธุรกิจเกาหลี จากการศึกษาอีกกลุ่มเป้าหมายหนึ่งในหัวข้อ "เกิร์ลกรุปหญิงที่มีมูลค่าแบรนด์สูงที่สุดประจำเดือนกันยายน" ในปี 2016 แบล็กพิงก์อยู่ในอันดับ 1 แซงวงไอโอไอและทไวซ์

ในเกาหลีใต้ แบล็กพิงก์เป็นทูตตราสินค้าหรือโฆษกให้บริษัทชุดกีฬา อาดิดาส โรงแรมและรีสอร์ท พาราไดซ์ซีตี เลนส์สัมผัสยี่ห้อ โอเลนส์ และผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมยี่ห้อ มีซ็องแซน ในเดือนกรกฎาคม 2018 และเดือนสิงหาคม 2020 วงอยู่อันดับหนึ่งในรายชื่อศิลปินที่มีมูลค่าแบรนด์สูงที่สุดจากการวิเคราะห์ของสถาบันวิจัยธุรกิจเกาหลี ทำให้พวกเธอเป็นกลุ่มศิลปินหญิงวงแรกที่ทำได้ ในเดือนพฤษภาคม 2017 แบล็กพิงก์เป็นทูตประชาสัมพันธ์ให้ด่านศุลกากรหลักอินช็อน โดยป้ายโฆษณาและวิดีโอที่มีภาพของพวกเธอจะทักทายนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ท่าอากาศยานนานาชาติอินช็อน ในเดือนเมษายน 2018 แบล็กพิงก์โฆษณาให้น้ำอัดลม สไปรต์ ในเดือนมกราคม 2019 วงเป็นหน้าตาให้กับ และยังได้ร่วมงานกับพูมาและรีบอค ไปจนถึงหลุยส์ วิตตองและดียอร์ เครื่องสำอางมูนช็อต กระเป๋าเซนต์สกอตต์ลอนดอน และห้างสรรพสินค้า ชิบูยะ 109 แบล็กพิงก์ยังออกสินค้าร่วมกับและในญี่ปุ่นอีกด้วย

การกุศล

ในเดือนธันวาคม 2018 แบล็กพิงก์บริจาคเงินที่ได้จาก 2018 จำนวน 20 ล้านวอนให้กับผู้มีรายได้น้อยและครอบครัวเลี้ยงเดี่ยวในเกาหลีใต้ ในเดือนเมษายน 2019 แบล็กพิงก์บริจาคเงิน 40 ล้านวอนให้แก่สมาคมช่วยเหลือผู้ประสบภัยแห่งเกาหลีใต้ เพื่อช่วยเหลือผู้เคราะห์ร้ายใน

รางวัลและความสำเร็จ

แบล็กพิงก์ได้รับรางวัลพีเพิลส์ชอยซ์อะวอดส์ 3 รางวัล รางวัล 1 รางวัล รางวัลเอ็มทีวีวิดีโอมิวสิกอะวอดส์ 1 รางวัล รางวัลแกออนชาร์ตมิวสิกอะวอดส์ 9 รางวัล รางวัลโกลเดนดิสก์อะวอดส์ 6 รางวัล รางวัลเมลอนมิวสิกอะวอดส์ 5 รางวัล รางวัลเอ็มเน็ตเอเชียนมิวสิกอะวอดส์ 8 รางวัล รางวัลโซลมิวสิกอะวอดส์ 2 รางวัล และบันทึกไว้ในบันทึกสถิติโลกกินเนสส์ 6 หัวข้อ

ในเดือนมกราคม 2019 มิวสิกวิดิโอเพลง "ตู-ดู ตู-ดู" กลายเป็นมิวสิกวิดีโอของกลุ่มดนตรีสัญชาติเกาหลีใต้ที่มียอดผู้ชมสูงสุดในยูทูบ และเป็นมิวสิกวิดีโอของกลุ่มดนตรีเคป็อปตัวแรกที่มียอดผู้ชมถึง 1 พันล้านครั้งในเดือนพฤศจิกายน 2019 "ฮาวยูไลก์แดต" ทำลายสถิติของบันทึกสถิติโลกกินเนสส์มากมาย รวมถึงวิดีโอที่มีการรับชมบนยูทูบมากที่สุดภายใน 24 ชั่วโมง (ด้วยยอดวิว 86.3 ล้านครั้ง) และวิดีโอที่มีผู้ชมมากสุดในรอบปฐมทัศน์ (มียอดผู้ชมอยู่ที่ 1.66 ล้านคน) ในปี 2021 แบล็กพิงก์ทำสถิติในบันทึกสถิติโลกกินเนสส์เป็นครั้งที่หก ในหัวข้อ "วงดนตรีที่มีผู้ติดตามมากที่สุดบนยูทูบ" โดยมีผู้ติดตามถึง 70 ล้านคนในเดือนพฤศจิกายน

ในปี 2020 ซีเจ อีแอนด์เอ็มยกให้แบล็กพิงก์เป็นหนึ่งใน "2020 Visionary" เนื่องจากเป็นแรงบันดาลใจให้กับสาธารณชนทั่วโลกด้วยการบุกเบิกวัฒนธรรมสมัยนิยมของเกาหลี

สมาชิก

• จีซู (지수) – นักร้อง
• เจนนี (제니) – แร็ปเปอร์ นักร้อง
• โรเซ (로제) – นักร้อง นักเต้น
• ลิซ่า (리사) – นักเต้น แร็ปเปอร์ นักร้อง

ผลงานเพลง

สตูดิโออัลบั้ม

• ดิอัลบั้ม (2020)
• บอร์นพิงก์ (2022)

ผลงานการแสดง

• แบล็กพิงก์เฮาส์ (2018, วีไลฟ์ / ยูทูบ / )

• (2018, เน็ตฟลิกซ์)
• แบล็กพิงก์เอ็กซ์สตาร์โรด (2018, วีไลฟ์)
• แบล็กพิงก์ไดอารี่ (2019, วีไลฟ์ / ยูทูบ)
• 24/365 วิธแบล็กพิงก์ (2020, ยูทูบ)
• แบล็กพิงก์: ไลต์อัพเดอะสกาย (2020, เน็ตฟลิกซ์)
• แบล็กพิงก์: เดอะมูวี (2021)
• บอร์นพิงก์เมมโมรีส์ (2022, ยูทูบ)

ทัวร์คอนเสิร์ต

• แบล็กพิงก์เจแปนพรีเมียมเดบิวต์โชว์เคส (2017)
• แบล็กพิงก์อะรีนาทัวร์ (2018)
• อินยัวร์แอเรียเวิลด์ทัวร์ (2018–2020)
• ไลฟ์สตรีมคอนเสิร์ต: เดอะโชว์ (2021)
• บอร์นพิงก์เวิลด์ทัวร์ (2022–2023)

เชิงอรรถ

1. ปรากฏตัวในตอนแรก

อ้างอิง

1. . koreaboo (ภาษาอังกฤษ). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-07-29. สืบค้นเมื่อ 2017-07-29.
2. . kpopn (ภาษาจีน). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-07-29. สืบค้นเมื่อ 2017-07-29.
3. 박소영 기자 (August 8, 2016). "블랙핑크, 이번엔 몽환+섹시..NEW 타이틀곡은 '휘파람'". OSEN (ภาษาเกาหลี). จากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-11-10. สืบค้นเมื่อ October 26, 2016.
4. 박소영 기자 (August 8, 2016). ""YG의 청초꽃 떴다"..블랙핑크 지수, 개인 포스터 공개". OSEN (ภาษาเกาหลี). จากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-10-23. สืบค้นเมื่อ October 26, 2016.
5. "สิ้นสุดการรอคอย!! YG Entertainment เปิดตัว 4 สาวเกิร์ลกรุ๊ปน้องใหม่ Black Pink งดงามเต็มเปี่ยมด้วยพรสวรรค์". ทรูไอดี. 29 June 2016. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-09-05. สืบค้นเมื่อ 3 April 2017.
6. . 全星網 (ภาษาจีน). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-04-07. สืบค้นเมื่อ 2017-07-29.
7. ""Starry Night" BLACKPINK "Recent conversation with YANG HYUN SUK? Let's eat together"". YG娛樂 (ภาษาอังกฤษ). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-07-29. สืบค้นเมื่อ 2017-07-29.
8. . 櫻花泡菜 (ภาษาจีนตัวเต็ม). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-01-01. สืบค้นเมื่อ 2018-01-01.
9. YG ENTERTAINMENT (2012-04-06), , คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-12-05, สืบค้นเมื่อ 2017-12-29
10. . KSD 韓星網 (ภาษาจีนตัวเต็ม). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-12-30. สืบค้นเมื่อ 2017-12-29.
11. YG ENTERTAINMENT (2012-05-10), , คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-02-06, สืบค้นเมื่อ 2017-12-29
12. YG ENTERTAINMENT (2012-07-01), , คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-11-29, สืบค้นเมื่อ 2017-12-29
13. YG ENTERTAINMENT (2012-08-29), , คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-05-20, สืบค้นเมื่อ 2017-12-30
14. (ภาษาจีน). 韓星網. 2012-08-30. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-08-11. สืบค้นเมื่อ 2016-07-11.
15. kokoberry (June 21, 2016). "YG Reveals Teasers For New Girl Group Member Rosé". Soompi. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-06-23. สืบค้นเมื่อ June 21, 2016.
16. . 韓星網 (ภาษาจีน). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-12-30. สืบค้นเมื่อ 2017-12-30.
17. YG ENTERTAINMENT (2013-01-20), , คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-05-19, สืบค้นเมื่อ 2017-12-30
18. (ภาษาจีน). Kpopn韓娛最前線. 2013-08-20. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-08-18. สืบค้นเมื่อ 2016-07-11.
19. (ภาษาจีน). 三立新聞網. 2016-06-02. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-06-03. สืบค้นเมื่อ 2016-07-11.
20. (ภาษาจีน). 韓星網. 2013-10-14. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-08-18. สืบค้นเมื่อ 2016-07-11.
21. "THE ARK YUNA KIM提及離開 YG娛樂原因" (ภาษาจีนกลางสำเนียงไต้หวัน). 韓星網. 2015-05-02. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-08-09. สืบค้นเมื่อ 2017-08-09.
22. . 新浪新聞 (ภาษาจีน). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-12-30. สืบค้นเมื่อ 2017-12-30.
23. "YG回應新女團成員猜測 稱張漢娜不包含在內". 全星網 (ภาษาจีน). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-12-30. สืบค้นเมื่อ 2017-12-30.
24. YG ENTERTAINMENT (2014-09-17), , คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-08-08, สืบค้นเมื่อ 2017-12-30
25. (ภาษาจีน). Kpopn韓娛最前線. 2014-10-16. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-08-15. สืบค้นเมื่อ 2016-07-11.
26. (ภาษาจีน). 韓星網. 2014-10-21. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-08-18. สืบค้นเมื่อ 2016-07-11.
27. (ภาษาจีน). Kpopn韓娛最前線. 2014-10-17. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-08-18. สืบค้นเมื่อ 2016-07-11.
28. (ภาษาจีน). Mwave. 2014-10-17. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-08-08. สืบค้นเมื่อ 2017-08-07.
29. YG ENTERTAINMENT (2014-11-18), , คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-01-03, สืบค้นเมื่อ 2017-12-30
30. (ภาษาจีน). 韓星網. 2015-04-14. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-12-30. สืบค้นเมื่อ 2017-12-29.
31. . 韓星網 (ภาษาจีน). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-12-30. สืบค้นเมื่อ 2017-12-30.
32. 박소영 기자 (August 8, 2016). "블랙핑크, 이번엔 몽환+섹시..NEW 타이틀곡은 '휘파람'". OSEN (ภาษาเกาหลี). จากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-11-10. สืบค้นเมื่อ October 26, 2016.
33. 박소영 기자 (August 8, 2016). ""YG의 청초꽃 떴다"..블랙핑크 지수, 개인 포스터 공개". OSEN (ภาษาเกาหลี). จากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-10-23. สืบค้นเมื่อ October 26, 2016.
34. (ภาษาอังกฤษ). allkpop. 2016-05-30. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-07-02. สืบค้นเมื่อ 2016-07-11.
35. (ภาษาจีน). kpopstarz中文網. 2016-05-30. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-08-10. สืบค้นเมื่อ 2016-07-11.
36. (ภาษาจีน). 韓星網. 2016-06-01. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-07-02. สืบค้นเมื่อ 2016-07-11.
37. (ภาษาจีน). 韓星網. 2016-06-08. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-07-12. สืบค้นเมื่อ 2016-07-11.
38. (ภาษาจีน). 韓星網. 2016-06-15. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-07-31. สืบค้นเมื่อ 2016-07-11.
39. (ภาษาจีน). 韓星網. 2016-06-22. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-06-25. สืบค้นเมื่อ 2016-07-11.
40. 最終決定只有4人！每個都是門面級別的新YG女團Black Pink正式準備出道！ 2016-07-31 ที่ เวย์แบ็กแมชชีนvlovekpop
41. Kim Yu-young (August 9, 2016). "YG Entertainment unveils K-pop group BLACKPINK". Kpop Herald. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-10-06. สืบค้นเมื่อ August 12, 2016.
42. Benjamin, Jeff (August 16, 2016). "BLACKPINK's Major Debut: New K-Pop Girl Group Lands No. 1 & 2 on World Digital Songs Chart". Billboard. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-06-10. สืบค้นเมื่อ August 16, 2016.
43. Jeon Su Mi (August 10, 2016). . Mwave. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 13, 2016. สืบค้นเมื่อ August 13, 2016.
44. Cumulative sales for "Whistle":
    • . Gaon Music Chart. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 13, 2016.{{}}: CS1 maint: bot: original URL status unknown ()
    • . Gaon Music Chart. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 13, 2016.{{}}: CS1 maint: bot: original URL status unknown ()
    • . Gaon Music Chart. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 13, 2016.{{}}: CS1 maint: bot: original URL status unknown ()
    • . Gaon Music Chart. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 13, 2016.{{}}: CS1 maint: bot: original URL status unknown ()
    • . Gaon Music Chart. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 13, 2016.{{}}: CS1 maint: bot: original URL status unknown ()
45. "BLACKPINK wraps up performances for their debut single… "Will come back quickly"". YG-Life. YG Entertainment. September 12, 2016. จากแหล่งเดิมเมื่อ November 8, 2020. สืบค้นเมื่อ September 16, 2016.
46. 미모에 실력까지…인기가요 블랙핑크 등장에 남심 '흔들'. Herald Business (ภาษาเกาหลี). August 15, 2016. จากแหล่งเดิมเมื่อ October 24, 2020. สืบค้นเมื่อ August 15, 2016.
47. "BLACK PINK ทำสถิติเกิร์ลกรุ๊ป 1st Win เร็วที่สุดหลังเดบิวท์". Hallyu K. 21 August 2016. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-01-12. สืบค้นเมื่อ 12 December 2016.
48. "'D-7' 블랙핑크, 타이틀곡은 '불장난'..첫 티저 공개 '강렬+섹시'". Naver. October 25, 2016. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-08-08. สืบค้นเมื่อ October 26, 2016.
49. "[단독] 블랙핑크, 1월6일 '인기가요'+10일 '엠카' 연속 컴백 확정". October 29, 2016. จากแหล่งเดิมเมื่อ October 16, 2020. สืบค้นเมื่อ November 6, 2016.
50. Benjamin, Jeff (November 11, 2016). "Blackpink Earn Second No. 1 on World Digital Songs, Debut on Social 50". Billboard. จากแหล่งเดิมเมื่อ November 8, 2020. สืบค้นเมื่อ November 11, 2016.
51. "A Timeline of Blackpink's History-Making Accomplishments". Billboard. July 28, 2020. จากแหล่งเดิมเมื่อ November 9, 2020. สืบค้นเมื่อ July 30, 2020.
52. "2016년 45주차 Digital Chart". Gaon Digital Chart. Korea Music Industry Content Association. จากแหล่งเดิมเมื่อ March 30, 2019. สืบค้นเมื่อ June 22, 2017.
53. "'AAA' 조진웅∙엑소 대상…방탄소년단∙박보검∙윤아 2관왕 [종합]". TV Daily. November 16, 2016. จากแหล่งเดิมเมื่อ June 13, 2018. สืบค้นเมื่อ January 4, 2018.
54. Hicap, Jonathan (November 21, 2016). "EXO, BTS, TWICE triumph at Melon Music Awards". . จากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-04-03. สืบค้นเมื่อ January 4, 2019.
55. "The 31st Golden Disk Awards nominations are revealed". จากแหล่งเดิมเมื่อ November 8, 2020. สืบค้นเมื่อ December 17, 2016.
56. . Seoul Music Awards. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 14, 2013. สืบค้นเมื่อ December 17, 2016.
57. . Herald Pop. February 22, 2017. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 7, 2017. สืบค้นเมื่อ January 4, 2018.
58. Herman, Tamar (December 21, 2016). "10 Best New K-Pop Groups in 2016". Billboard. จากแหล่งเดิมเมื่อ November 8, 2020. สืบค้นเมื่อ June 22, 2017.
59. Jie, Ye-eun (January 17, 2017). "BLACKPINK reveals fan club name". The Korea Herald. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-11-05. สืบค้นเมื่อ July 11, 2018.
60. Kim, Jae-heun (June 22, 2017). "BLACKPINK reveals digital single before Japanese showcase". The Korea Times. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-10-22. สืบค้นเมื่อ 2017-08-19.
61. Benjamin, Jeff. "Blackpink Score Third No. 1 on World Digital Song Sales Chart, Lead K-Pop Females". Billboard. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-10-29. สืบค้นเมื่อ 4 August 2017.
62. Fernandez, Suzette (September 7, 2017). "Latin Artists Take Over YouTube's Top 25 Global Songs of the Summer". Billboard. จากแหล่งเดิมเมื่อ November 1, 2020. สืบค้นเมื่อ January 4, 2018.
63. "Blackpink now have the most liked K-pop girl group MV on YouTube" (ภาษาอังกฤษ). SBS Australia. September 18, 2017. จากแหล่งเดิมเมื่อ November 10, 2020. สืบค้นเมื่อ November 6, 2017.
64. "Blackpink Breaks Another K-Pop Group Record, This Time For Most MV Views in 24 Hours". Soompi (ภาษาอังกฤษ). June 23, 2017. จากแหล่งเดิมเมื่อ June 1, 2021. สืบค้นเมื่อ July 30, 2020.
65. . モデルプレス – ライフスタイル・ファッションエンタメニュース (ภาษาญี่ปุ่น). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ กรกฎาคม 21, 2017. สืบค้นเมื่อ กรกฎาคม 21, 2017.
66. 史上初！ＢＬＡＣＫＰＩＮＫが日本デビュー前に武道館、１万人超熱狂. SANSPO.COM (ภาษาญี่ปุ่น). 2017-07-20. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-10-29. สืบค้นเมื่อ July 21, 2017.
67. 블랙핑크, 日 오리콘 주간차트 1위.."데뷔앨범 역대 3번째" (ภาษาเกาหลี). จากแหล่งเดิมเมื่อ June 18, 2020. สืบค้นเมื่อ September 5, 2017.
68. Total album sales for Blackpink (Jn)
    • 【オリコン】Blackpink、アルバム初登場首位デビュー 海外歌手3組目－. Oricon (ภาษาญี่ปุ่น). Oricon. จากแหล่งเดิมเมื่อ November 4, 2020. สืบค้นเมื่อ September 5, 2017.
69. "2017年08月28日～2017年09月03日 オリコン週間 アルバムランキング". Oricon News. จากแหล่งเดิมเมื่อ November 10, 2020. สืบค้นเมื่อ July 30, 2020.
70. "2017年08月28日～2017年09月03日 オリコン週間 CDアルバムランキング". ORICON NEWS (ภาษาญี่ปุ่น). จากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-09-06. สืบค้นเมื่อ 2017-09-06.
71. Jeon, Ah-ram (December 29, 2017). "[공식] 블랙핑크 첫 리얼리티 '블핑하우스', 1월6일 첫방…12회 방송". X Sport News (ภาษาเกาหลี). Naver. จากแหล่งเดิมเมื่อ June 1, 2021. สืบค้นเมื่อ September 15, 2020.
72. "リパッケージアルバム『Re: Blackpink』3月28日(水)リリース決定！". YGEX (ภาษาญี่ปุ่น). January 30, 2018. จากแหล่งเดิมเมื่อ November 16, 2020. สืบค้นเมื่อ December 16, 2018.
73. Herman, Tamar. "BlackPink Release 'Square Up' EP Fronted by Sharp-Shooting 'Ddu-Du Ddu-Du' Music Video". Billboard. จากแหล่งเดิมเมื่อ April 12, 2019. สืบค้นเมื่อ June 15, 2018.
74. Copsey, Rob. "Years and Years' If You're Over Me hits Number 1 on the Official Trending Chart". . จากแหล่งเดิมเมื่อ June 24, 2018. สืบค้นเมื่อ June 22, 2018.
75. "BlackPink Chart History". Billboard. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-05-24. สืบค้นเมื่อ 2018-12-15.
76. Herman, Tamar (June 25, 2018). "Blackpink Becomes Highest-Charting K-Pop Girl Group in America With 'Square Up' & 'Ddu-Du Ddu-Du'". Forbes. จากแหล่งเดิมเมื่อ June 27, 2018. สืบค้นเมื่อ June 26, 2018.
77. Zellner, Xander (June 25, 2018). "Blackpink Makes K-Pop History on Hot 100, Billboard 200 & More With 'DDU-DU DDU-DU'". Billboard. จากแหล่งเดิมเมื่อ June 28, 2018. สืบค้นเมื่อ June 26, 2018.
78. "국내 대표 음악 차트 가온차트!". gaonchart.co.kr. จากแหล่งเดิมเมื่อ November 7, 2020. สืบค้นเมื่อ June 28, 2018.
79. "국내 대표 음악 차트 가온차트!". gaonchart.co.kr. จากแหล่งเดิมเมื่อ April 6, 2019. สืบค้นเมื่อ June 28, 2018.
80. "국내 대표 음악 차트 가온차트!". gaonchart.co.kr. จากแหล่งเดิมเมื่อ October 14, 2020. สืบค้นเมื่อ June 28, 2018.
81. "국내 대표 음악 차트 가온차트!". gaonchart.co.kr. จากแหล่งเดิมเมื่อ November 1, 2020. สืบค้นเมื่อ June 28, 2018.
82. "국내 대표 음악 차트 가온차트!". gaonchart.co.kr. จากแหล่งเดิมเมื่อ October 17, 2020. สืบค้นเมื่อ June 28, 2018.
83. "Black Pink's Ddu-Du Ddu-Du music video scores 36.2 million views in first 24 hours". . จากแหล่งเดิมเมื่อ July 5, 2018. สืบค้นเมื่อ July 5, 2018.
84. 블랙핑크, 성공적인 일본 데뷔...쇼케이스 매진. Today Korea (ภาษาเกาหลี). July 25, 2018. จากแหล่งเดิมเมื่อ August 19, 2018. สืบค้นเมื่อ August 20, 2018.
85. "Blackpink、京セラドーム大阪にてツアーファイナル。ファンからのサプライズに涙". barks.jp (ภาษาญี่ปุ่น). December 25, 2018. จากแหล่งเดิมเมื่อ April 17, 2019. สืบค้นเมื่อ May 7, 2019.
86. "Blackpink to Hold Group's First Ever Concert in Seoul… Fan Club BLINK Will Gather for the First Time". YG Life. September 12, 2018. จากแหล่งเดิมเมื่อ November 9, 2020. สืบค้นเมื่อ September 16, 2018.
87. Moom, Kat (June 26, 2020). "Blackpink on the Message of New Single 'How You Like That'". Time. จากแหล่งเดิมเมื่อ September 28, 2020. สืบค้นเมื่อ July 11, 2020.
88. Brooks, Hayden (September 4, 2018). "Dua Lipa Announces Blackink Collab 'Kiss And Make Up': Get The Details". . จากแหล่งเดิมเมื่อ March 29, 2019. สืบค้นเมื่อ October 30, 2018.
89. Benjamin, Jeff (October 29, 2018). "Blackpink Score Second Hot 100 Entry Thanks to 'Kiss and Make Up' With Dua Lipa". Billboard. จากแหล่งเดิมเมื่อ October 30, 2018. สืบค้นเมื่อ December 27, 2018.
90. Ainsley, Helen (October 26, 2018). "Blackpink are officially the first ever female K-pop group to enter the Official UK Top 40". . จากแหล่งเดิมเมื่อ October 28, 2018. สืบค้นเมื่อ December 27, 2018.
91. Kelley, Caitlyn (October 23, 2018). "Blackpink Go Global By Signing With Interscope". Forbes. จากแหล่งเดิมเมื่อ November 9, 2020. สืบค้นเมื่อ October 23, 2018.
92. "Black Pink Will be in Your Area in 2019 With an Asia Tour". MTV Asia. November 1, 2018. จากแหล่งเดิมเมื่อ October 17, 2020. สืบค้นเมื่อ December 28, 2018.
93. "Black Pink's Jennie Makes Her "Solo" Debut and the Internet is Already in Love with It". MTV Asia. November 13, 2018. จากแหล่งเดิมเมื่อ November 10, 2020. สืบค้นเมื่อ December 28, 2018.
94. . Blackpink Official Website (ภาษาญี่ปุ่น). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 28, 2018. สืบค้นเมื่อ November 28, 2018.
95. . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 12, 2018. สืบค้นเมื่อ December 12, 2018.
96. Stutz, Colin (February 8, 2019). "Blackpink to Make US Performance Debut at Universal Music's Grammy Artist Showcase". Billboard. จากแหล่งเดิมเมื่อ November 7, 2020. สืบค้นเมื่อ February 9, 2019.
97. Herman, Tamar (February 6, 2019). "Blackpink to Perform on 'The Late Show'". Billboard. จากแหล่งเดิมเมื่อ November 1, 2020. สืบค้นเมื่อ February 7, 2019.
98. "Blackpink to appear on CBS talk show hosted by comedian Stephen Colbert". . February 7, 2019. จากแหล่งเดิมเมื่อ November 1, 2020. สืบค้นเมื่อ February 7, 2019.
99. Benjamin, Jeff (February 5, 2019). "Blackpink Land 'Good Morning America' Performance in K-Pop's Latest Mainstream Move". Forbes. จากแหล่งเดิมเมื่อ November 7, 2020. สืบค้นเมื่อ February 6, 2019.
100. "Blackpink becomes first Korean cover girls for Billboard". . March 1, 2019. จากแหล่งเดิมเมื่อ October 28, 2020. สืบค้นเมื่อ March 4, 2019.
101. "Blackpink to drop new album, "Kill This Love", next month". . March 25, 2019. จากแหล่งเดิมเมื่อ October 30, 2020. สืบค้นเมื่อ March 25, 2019.
102. Zellner, Xander (April 15, 2019). "Blackpink's 'Kill This Love' Makes K-Pop History on Hot 100 & Billboard 200 Charts". Billboard. จากแหล่งเดิมเมื่อ April 16, 2019. สืบค้นเมื่อ May 4, 2019.
103. "The 100 Best Songs of 2019: Staff List". Billboard. November 12, 2019. จากแหล่งเดิมเมื่อ November 2, 2020. สืบค้นเมื่อ December 15, 2019.
104. "South Korean single certifications – Blackpink – Forever Young" (ภาษาเกาหลี). Korea Music Content Association (KMCA). จากแหล่งเดิมเมื่อ September 20, 2019. สืบค้นเมื่อ December 13, 2019.
105. Adejobi, Alicia (January 3, 2019). "Blackpink Become First K-pop Girl Group to Perform at Coachella as They Join Ariana Grande on 2019 Line-up". . จากแหล่งเดิมเมื่อ November 10, 2020. สืบค้นเมื่อ January 3, 2019.
106. Ginsberg, Gab (April 13, 2019). "Blackpink Rule Coachella With Electrifying Debut Performance". Billboard. จากแหล่งเดิมเมื่อ November 8, 2020. สืบค้นเมื่อ September 15, 2020.
107. Willman, Chris (April 12, 2019). "Blackpink Win Over Coachella With First Full U.S. Concert". . จากแหล่งเดิมเมื่อ November 7, 2020. สืบค้นเมื่อ April 30, 2019.
108. "Kill This Love Japanese Version". Apple Music. Apple Inc. October 16, 2019. จากแหล่งเดิมเมื่อ October 6, 2020. สืบค้นเมื่อ June 14, 2020.
109. "블랙핑크, 오늘(18일) 데뷔 후 처음 日 '엠스테' 출연". Starnews. October 18, 2019. จากแหล่งเดิมเมื่อ October 28, 2020. สืบค้นเมื่อ June 14, 2020.
110. "The Break the Internet Awards™ 2019 Winners". . January 15, 2020. จากแหล่งเดิมเมื่อ January 15, 2020. สืบค้นเมื่อ December 17, 2020.
111. Daw, Stephen (April 22, 2020). "Lady Gaga Confirms 'Chromatica' Track List, With Some Star-Studded Guests". Billboard. จากแหล่งเดิมเมื่อ April 23, 2020. สืบค้นเมื่อ April 22, 2020.
112. Lady Gaga; Blackpink (May 28, 2020). "Sour Candy – Single by Lady Gaga & BLACKPINK on Apple Music". music.apple.com. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-06-10. สืบค้นเมื่อ May 28, 2020.
113. Rolli, Bryan (June 10, 2020). "Blackpink Reached A New Hot 100 Peak With 'Sour Candy,' But Their Next Single Could Chart Even Higher". Forbes. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-10-24. สืบค้นเมื่อ June 11, 2020.
114. "Blackpink hit ARIA Top 10 with Lady Gaga's "Sour Candy"". . June 8, 2020. จากแหล่งเดิมเมื่อ November 1, 2020. สืบค้นเมื่อ June 14, 2020.
115. "Lady Gaga's Chromatica is the fastest-selling album of 2020". BBC. June 5, 2020. จากแหล่งเดิมเมื่อ June 30, 2020. สืบค้นเมื่อ June 14, 2020.
116. Moon, Wan-sik (May 4, 2020). [단독] 블랙핑크, 6월 컴백..YG "정확한 날짜 팬들에게"(종합). Star News (ภาษาเกาหลี). จากแหล่งเดิมเมื่อ June 1, 2021. สืบค้นเมื่อ May 4, 2020.
117. 블랙핑크 측 "첫 정규앨범 작업 끝…오는 9월 발표 예정" [공식]. Sports DongA. May 18, 2020. จากแหล่งเดิมเมื่อ September 29, 2020. สืบค้นเมื่อ May 18, 2020.
118. [공식입장] YG "블랙핑크, 로제·리사·지수 솔로곡 낸다…9월 정규앨범 이후 순차 발표". Mydaily. June 1, 2020. จากแหล่งเดิมเมื่อ June 1, 2021. สืบค้นเมื่อ June 14, 2020.
119. "블랙핑크, 새 단독 리얼리티 론칭…팬들과 적극 소통한다". Herald Pop (ภาษาเกาหลี). June 13, 2020. จากแหล่งเดิมเมื่อ September 29, 2020. สืบค้นเมื่อ June 13, 2020.
120. [공식입장] YG "블랙핑크, 로제·리사·지수 솔로곡 낸다…9월 정규앨범 이후 순차 발표". Sports Hankooki. June 10, 2020. จากแหล่งเดิมเมื่อ October 29, 2020. สืบค้นเมื่อ June 14, 2020.
121. '컴백 D-10' 블랙핑크, '하우 유 라이크 댓' 타이틀 포스터 공개. SpotvNews. June 16, 2020. จากแหล่งเดิมเมื่อ June 1, 2021. สืบค้นเมื่อ June 17, 2020.
122. Hwang, Ji-young (July 9, 2020). 아이유, 가온차트 6월 2관왕…2개월 연속 기록. (ภาษาเกาหลี). จากแหล่งเดิมเมื่อ October 21, 2020. สืบค้นเมื่อ July 9, 2020 – โดยทาง Naver.
123. "Blackpink's return sets new YouTube records with How You Like That". Guinness World Records. June 30, 2020. จากแหล่งเดิมเมื่อ July 1, 2020. สืบค้นเมื่อ September 3, 2020.
124. "YouTube Music's top songs and trends of summer 2020". Youtube Official Blog. September 2, 2020. จากแหล่งเดิมเมื่อ October 13, 2020. สืบค้นเมื่อ October 1, 2020.
125. Hicap, Johnathan (August 31, 2020). "BTS bags all 4 awards, BLACKPINK wins first trophy at 2020 MTV Video Music Awards". Manila Bulletin. จากแหล่งเดิมเมื่อ October 29, 2020. สืบค้นเมื่อ August 31, 2020.
126. "BLACKPINK to Release Second New Single on August… Shocking Collaboration Coming Up". YG LIFE. จากแหล่งเดิมเมื่อ June 1, 2021. สืบค้นเมื่อ July 24, 2020.
127. Hong, Seung-han (August 4, 2020). 블랙핑크, 두번째 신고 8월 28일 발표[공식]. Sports Seoul (ภาษาเกาหลี). จากแหล่งเดิมเมื่อ October 31, 2020. สืบค้นเมื่อ August 4, 2020.
128. Trust, Gary (September 8, 2020). "Blackpink Hits New Hot 100 High With Debut of Selena Gomez Collab 'Ice Cream'". Billboard. จากแหล่งเดิมเมื่อ September 10, 2020. สืบค้นเมื่อ September 9, 2020.
129. McIntyre, Hugh. "Blackpink Pass BTS As The Korean Musicians with the Most Top 40 Hits in the U.K." Forbes. จากแหล่งเดิมเมื่อ September 6, 2020. สืบค้นเมื่อ September 5, 2020.
130. Iasimone, Ashley (September 27, 2020). . Billboard. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 28, 2020. สืบค้นเมื่อ September 28, 2020.
131. Caulfield, Keith (October 11, 2020). "21 Savage & Metro Boomin's 'Savage Mode II' Debuts at No. 1 on Billboard 200 Chart". Billboard. จากแหล่งเดิมเมื่อ October 17, 2020. สืบค้นเมื่อ October 13, 2020.
132. "UK Top 100 Albums Chart". Official Charts UK. October 9, 2020. จากแหล่งเดิมเมื่อ August 30, 2018. สืบค้นเมื่อ October 10, 2020.
133. Oh, Bo-ram (October 7, 2020). 블랙핑크, 걸그룹 초동 기록 하루만에 깼다…59만장 판매고 [Blackpink, broke first-week sales record in just one day... 590,000 copies sold] (ภาษาเกาหลี). Yonhap News. จากแหล่งเดิมเมื่อ October 14, 2020. สืบค้นเมื่อ October 13, 2020 – โดยทาง Naver.
134. Yoon, So-yeon (October 26, 2020). "Blackpink becomes first-ever million-selling K-pop girl group". . จากแหล่งเดิมเมื่อ October 26, 2020. สืบค้นเมื่อ October 30, 2020.
135. Zornosa, Laura (October 21, 2020). "K-pop group Blackpink tells Jimmy Kimmel: 'We're very girly, but ... very savage too'". Los Angeles Times. จากแหล่งเดิมเมื่อ October 21, 2020. สืบค้นเมื่อ October 22, 2020.
136. Benjamin, Jeff (September 8, 2020). "Blackpink's Netflix Documentary Marks Streaming Service Diving into K-Pop Originals". Forbes. จากแหล่งเดิมเมื่อ September 17, 2020. สืบค้นเมื่อ September 9, 2020.
137. Shaw, Lucas (November 10, 2020). "November 2020: Blackpink Is the Biggest Pop Band In the World, A First For South Korea". . จากแหล่งเดิมเมื่อ November 10, 2020. สืบค้นเมื่อ December 11, 2020.
138. Herman, Tamar (November 17, 2020). "Why K-pop's Blackpink is the biggest band in the world and how BTS could be next, according to Bloomberg". South China Morning Post. จากแหล่งเดิมเมื่อ November 17, 2020. สืบค้นเมื่อ December 11, 2020.
139. Kaufman, Gil (December 17, 2020). "Here's Why Blackpink Is Postponing Their Virtual Concert". Billboard. จากแหล่งเดิมเมื่อ January 14, 2021. สืบค้นเมื่อ December 20, 2020.
140. Aniftos, Rania (December 2, 2020). "Blackpink Announces 'The Show' Global Livestream Concert Experience". Billboard. จากแหล่งเดิมเมื่อ June 1, 2021. สืบค้นเมื่อ December 5, 2020.
141. Dong, Sun-hwa (February 1, 2021). "BLACKPINK's 'THE SHOW' draws 280,000 viewers". The Korea Times. จากแหล่งเดิมเมื่อ June 1, 2021. สืบค้นเมื่อ March 17, 2021.
142. BLACKPINK、アルバム『THE ALBUM-JP Ver.-』8月リリース オンラインライブ映像の完全収録も. (ภาษาญี่ปุ่น). June 2, 2021. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-06-02. สืบค้นเมื่อ June 2, 2021.
143. Legaspi, Althea (June 23, 2021). "Blackpink to Release New 'Blackpink the Movie' in Theaters". Rolling Stone. จากแหล่งเดิมเมื่อ June 25, 2021. สืบค้นเมื่อ June 25, 2021.
144. POP, 헤럴드 (2022-07-06). . 헤럴드팝 (ภาษาเกาหลี). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-07-06. สืบค้นเมื่อ 2022-07-06.
145. . . July 12, 2022. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-07-12. สืบค้นเมื่อ July 12, 2022.
146. 지민경. . (ภาษาเกาหลี). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-07-22. สืบค้นเมื่อ 2022-07-22.
147. Iasimone, Ashley (2022-07-24). . Billboard (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-07-25. สืบค้นเมื่อ 2022-07-25.
148. Paul, Larisha (August 8, 2022). "Blackpink Unveils 'Born Pink' Tour Dates, Plots Largest World Tour in the History of a K-Pop Girl Group". Rolling Stone (ภาษาอังกฤษ). จากแหล่งเดิมเมื่อ August 8, 2022. สืบค้นเมื่อ August 8, 2022.
149. . YG Life (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 31, 2022. สืบค้นเมื่อ 2022-07-31.
150. Trust, Gary (August 29, 2022). . Billboard. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 29, 2022. สืบค้นเมื่อ August 29, 2022.
151. Trust, Gary (September 6, 2022). "BLACKPINK's 'Pink Venom' Tops Billboard Global Charts For Second Week". Billboard. สืบค้นเมื่อ September 6, 2022.
152. "Digital Chart – Week 35 of 2022". Circle Chart (ภาษาเกาหลี). สืบค้นเมื่อ September 1, 2022.
153. Rutherford, Kevin (September 1, 2022). "BLACKPINK Achieves This First-Time Feat on Streaming Songs Chart With 'Pink Venom'". Billboard. สืบค้นเมื่อ September 1, 2022.
154. "Blackpink make ARIA Chart history". Australian Recording Industry Association. August 26, 2022. สืบค้นเมื่อ August 26, 2022.
155. . MTV (ภาษาอังกฤษ). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 15, 2022. สืบค้นเมื่อ 2022-08-15.
156. McNab, Kaitlyn (August 28, 2022). . Teen Vogue (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 29, 2022. สืบค้นเมื่อ August 29, 2022.
157. Trust, Gary (September 26, 2022). "BLACKPINK's 'Shut Down' Launches at No. 1 on Billboard Global Charts". Billboard. สืบค้นเมื่อ September 26, 2022.
158. "Digital Chart – Week 39 of 2022". Circle Chart (ภาษาเกาหลี). สืบค้นเมื่อ September 29, 2022.
159. Rutherford, Kevin (September 29, 2022). "BLACKPINK Nabs Third Streaming Songs Chart Top 10 With 'Shut Down'". Billboard. สืบค้นเมื่อ September 29, 2022.
160. Hong Se-young (September 22, 2022). "블랙핑크 더블 밀리언셀러, YG "K팝 걸그룹 최초" [공식]" [Blackpink Double Million Seller, YG “The First K-Pop Girl Group” [Official]]. Sports Donga (ภาษาเกาหลี). จากแหล่งเดิมเมื่อ September 22, 2022. สืบค้นเมื่อ September 22, 2022.
161. Keith, Caulfield (September 25, 2022). "Blackpink's 'Born Pink' Debuts at No. 1 on Billboard 200 Albums Chart". Billboard. จากแหล่งเดิมเมื่อ September 25, 2022. สืบค้นเมื่อ September 25, 2022.
162. "BLACKPINK make history as BORN PINK hits Number 1". www.officialcharts.com (ภาษาอังกฤษ). จากแหล่งเดิมเมื่อ September 23, 2022. สืบค้นเมื่อ 2022-09-23.
163. Lee, Jae-hoon (25 September 2022). "블랙핑크, 곧 K팝 걸그룹의 역사…방탄소년단 명성 잇는다" [Blackpink, the history of K-pop girl groups ... BTS' fame continues]. Newsis (ภาษาเกาหลี). Naver. จากแหล่งเดิมเมื่อ September 29, 2022. สืบค้นเมื่อ 25 September 2022.
164. "Bad Bunny's Un Verano Sin Ti announced as winner of IFPI's Global Album Award". International Federation of the Phonographic Industry (ภาษาอังกฤษ). February 24, 2023. จากแหล่งเดิมเมื่อ February 24, 2023. สืบค้นเมื่อ February 24, 2023.
165. Staff, ABS-CBN News (December 6, 2022). "Blackpink is TIME's 2022 entertainer of the year". ABS-CBN News (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ December 6, 2022.
166. Paul, Larisha (August 2, 2022). "Blackpink Unveils 'Born Pink' Tour Dates, Plots Largest World Tour in the History of a K-Pop Girl Group". Rolling Stone (ภาษาอังกฤษ). จากแหล่งเดิมเมื่อ August 2, 2022. สืบค้นเมื่อ August 2, 2022.
167. Yoon, So-yeon (January 29, 2023). "Blackpink performs at Le Gala des Pièces Jaunes". Korea JoongAng Daily. สืบค้นเมื่อ January 29, 2023.
168. Singh, Surej (January 9, 2023). "Blackpink add shows in Singapore, Macau and Taiwan to Asia leg of 'Born Pink' world tour". NME (ภาษาอังกฤษ). จากแหล่งเดิมเมื่อ January 9, 2023. สืบค้นเมื่อ January 9, 2023.
169. Brandle, Lars (February 1, 2023). "BlackPink Sets 'Born Pink' Australia Tour". Billboard (ภาษาอังกฤษ). จากแหล่งเดิมเมื่อ February 1, 2023. สืบค้นเมื่อ February 1, 2023.
170. Paul, Larisha; Mier, Tomás (January 10, 2023). "Bad Bunny and Blackpink Make History as 2023 Coachella Headliners, Frank Ocean Makes Grand Return". Rolling Stone. จากแหล่งเดิมเมื่อ January 10, 2023. สืบค้นเมื่อ January 10, 2023.
171. Krol, Charlotte (October 21, 2022). . NME. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 21, 2022. สืบค้นเมื่อ October 21, 2022.
172. Muhammad, Latifah (August 14, 2023). "BLACKPINK's Born Pink 'Encore' Tour: Where to Buy Tickets Online for Cheap". Billboard. จากแหล่งเดิมเมื่อ August 26, 2023. สืบค้นเมื่อ August 14, 2023.
173. Ziwei, Puah (May 19, 2023). "Hear a preview of BLACKPINK's new song 'The Girls'". NME. จากแหล่งเดิมเมื่อ May 22, 2023. สืบค้นเมื่อ May 22, 2023.
174. Zoe, Guy (August 25, 2023). "Blackpink: The Game: the Song Is Streaming Now". (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). จากแหล่งเดิมเมื่อ August 25, 2023. สืบค้นเมื่อ August 26, 2023.
175. McIntyre, Hugh (September 13, 2023). "Blackpink Made History At The 2023 MTV Video Music Awards With An Important Win". Forbes. จากแหล่งเดิมเมื่อ September 30, 2023. สืบค้นเมื่อ September 13, 2023.
176. Yeo, Gladys (August 16, 2023). "BLACKPINK announce 'Born Pink' world tour finale with two shows in Seoul". NME (ภาษาอังกฤษ). จากแหล่งเดิมเมื่อ August 16, 2023. สืบค้นเมื่อ August 18, 2023.
177. Sng, Suzanne (April 27, 2023). "Blackpink's Born Pink breaks Spice Girls' record to become highest grossing tour by a female group". (ภาษาอังกฤษ). จากแหล่งเดิมเมื่อ September 12, 2023. สืบค้นเมื่อ August 18, 2023.
178. Go, Seung-ah (September 17, 2023). ""올해 7주년, 앞으로도 멋있는 블랙핑크 될 것...사랑해" [N현장]" ["This year's 7th anniversary, we will continue to be a great Blackpink... I love you" [N Site]]. News1 (ภาษาเกาหลี). จากแหล่งเดิมเมื่อ September 21, 2023. สืบค้นเมื่อ September 17, 2023.
179. Min-ji, Lee (September 20, 2023). "블랙핑크, 전 세계 211만 열광한 'BORN PINK' 투어" [BLACKPINK's 'BORN PINK' tour attracted 2.11 million people worldwide]. Newsen (ภาษาเกาหลี). จากแหล่งเดิมเมื่อ September 21, 2023. สืบค้นเมื่อ September 20, 2023.
180. Mulenga, Natasha (2020-10-02). "Blackpink's The Album Has A Song For Every Mood". MTV News (ภาษาอังกฤษ). จากแหล่งเดิมเมื่อ October 3, 2020. สืบค้นเมื่อ 2022-05-31.
181. Kang, Haeryun (2022-05-26). "Jennie on Blackpink's Unique Brand of Hip-Hop and What People Get Wrong About Her". Rolling Stone. สืบค้นเมื่อ May 26, 2022.
182. Chan, Tim (2 October 2020). "Blackpink's 'The Album' Is an Adrenaline Shot That Wears Off a Little Too Quick". Rolling Stone. สืบค้นเมื่อ 31 May 2022.
183. Lipshutz, Jason (2 October 2020). "Every Song Ranked on Blackpink's 'The Album': Critic's Picks". Billboard. สืบค้นเมื่อ 31 May 2022.
184. Ahlgrim, Callie; Haasch, Palmer; Choi, Inyoung (2 October 2020). "Blackpink's 'The Album' is a glossy 8-track party playlist you'll want to play in every area". Insider. จากแหล่งเดิมเมื่อ October 4, 2020. สืบค้นเมื่อ 31 May 2022.
185. Hwang Mi-hyun; Ahn Tae-hyun (December 31, 2022). "빌보드 정상 찍고 글로벌 '셀럽' 등극한 블랙핑크 [2022 결산]" [BLACKPINK, which reached the top of the Billboard charts and became a global 'celebrity' [2022 settlement]]. News1 (ภาษาเกาหลี). จากแหล่งเดิมเมื่อ December 31, 2022. สืบค้นเมื่อ December 31, 2022 – โดยทาง Naver.
186. Tai, Chloe (October 13, 2020). "Blackpink's 'The Album': Latest genre-defying masterpiece in K-pop". The Daily Targum. จากแหล่งเดิมเมื่อ October 28, 2020. สืบค้นเมื่อ June 2, 2022.
187. Chon, Monica (22 July 2020). "Blackpink Collaborates with Selena Gomez on Flirty New Song "Ice Cream"". Oprah Daily (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). จากแหล่งเดิมเมื่อ April 19, 2021. สืบค้นเมื่อ 31 May 2022.
188. . Seoulbeats (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 2017-06-25. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-06-27. สืบค้นเมื่อ 2022-07-06.
189. Sherman, Maria (September 17, 2020). "Blackpink in Your Area (and Everywhere)". . จากแหล่งเดิมเมื่อ November 12, 2020. สืบค้นเมื่อ September 18, 2020.
190. Raj, Tanu (September 29, 2020). "Blackpink Talk 'The Album': "The Spotlight Shed On K-Pop Is Just The Beginning"". . จากแหล่งเดิมเมื่อ November 1, 2020. สืบค้นเมื่อ September 29, 2020.
191. Sherman, Maria (July 13, 2020). "Start Here: Your Guide To Getting Into K-Pop". . จากแหล่งเดิมเมื่อ November 10, 2020. สืบค้นเมื่อ August 2, 2020.
192. Glasby, Taylor (May 13, 2020). "How Blackpink Became The Biggest K-Pop Girl Band on the Planet". . จากแหล่งเดิมเมื่อ November 8, 2020. สืบค้นเมื่อ August 2, 2020.
193. Feeney, Nolan (February 28, 2019). "Inside Blackpink's U.S. Takeover: How the K-Pop Queens Are Changing the Game". Billboard. จากแหล่งเดิมเมื่อ November 8, 2020. สืบค้นเมื่อ July 11, 2020.
194. • "포브스코리아 선정 2019 파워 셀러브리티 40" [Forbes Korea 2019 Power Celebrity 40]. Forbes Korea (ภาษาเกาหลี). April 23, 2019. จากแหล่งเดิมเมื่อ May 2, 2019. สืบค้นเมื่อ May 4, 2019.
     • "[2020 Power Celebrity] 2020 포브스코리아 선정 파워 셀럽 40" [[2020 Power Celebrity] 2020 Forbes Korea Power Celebrity 40]. Forbes Korea (ภาษาเกาหลี). April 23, 2020. จากแหล่งเดิมเมื่อ April 28, 2020. สืบค้นเมื่อ May 2, 2020.
     • Oh, Seung-il (April 27, 2021). [2021 포브스코리아 선정 파워 셀럽 40] BTS·블랙핑크 ‘선두권’ 수성, 임영웅·영탁 ‘트로트 대세’ 등극 [[2021 Forbes Korea Selected Power Celeb 40] BTS·Blackpink 'Leading World' Suseong, Lim Young-woong·Young Tak 'Trot Trend']. (ภาษาเกาหลี). จากแหล่งเดิมเมื่อ April 28, 2021. สืบค้นเมื่อ April 27, 2021 – โดยทาง Joins.
195. Ramirez, Elaine (April 1, 2019). "BlackPink: The All-Girl K-Pop Group Following BTS's Footsteps And Taking Over The U.S." Forbes. จากแหล่งเดิมเมื่อ November 7, 2020. สืบค้นเมื่อ August 2, 2020.
196. Reel, Evan (December 7, 2018). "How K-Pop Superstars Blackpink Are Rewriting the Girl Group Narrative". The Hollywood Reporter. จากแหล่งเดิมเมื่อ April 18, 2019. สืบค้นเมื่อ August 2, 2020.
197. Halls, Elanor (June 10, 2019). "The Blackpink revolution: how the K-Pop girl group became a global obsession". The Telegraph. จากแหล่งเดิมเมื่อ November 8, 2020. สืบค้นเมื่อ August 10, 2020.
198. Benjamin, Jeff (April 8, 2019). "Review: Blackpink's K-Pop Formula Keeps Working on 'Kill This Love'". Rolling Stone. จากแหล่งเดิมเมื่อ November 7, 2020. สืบค้นเมื่อ August 2, 2020.
199. Kelley, Caitlin (April 3, 2019). "K-Pop Is More Global Than Ever, Helping South Korea's Music Market Grow into A 'Power Player'". Forbes. จากแหล่งเดิมเมื่อ November 8, 2020. สืบค้นเมื่อ August 24, 2020.
200. "30 under 30 Asia 2019". Forbes (ภาษาอังกฤษ). จากแหล่งเดิมเมื่อ November 3, 2020. สืบค้นเมื่อ November 15, 2019.
201. "Blackpink makes Time magazine's newly launched '100 Next' list". . November 14, 2019. จากแหล่งเดิมเมื่อ November 12, 2020. สืบค้นเมื่อ August 4, 2020.
202. "Time 100 Next 2019: Blackpink". Time (ภาษาอังกฤษ). จากแหล่งเดิมเมื่อ November 9, 2020. สืบค้นเมื่อ November 15, 2019.
203. Shaw, Lucas (November 10, 2020). "Blackpink Is the Biggest Pop Band In the World, A First For South Korea". Bloomberg. จากแหล่งเดิมเมื่อ November 10, 2020. สืบค้นเมื่อ November 14, 2020.
204. March 2022, Janine Henni Wednesday 16th. "Women Changing the Music Industry Today: 'I Deserve the Spotlight'". PEOPLE.com (ภาษาอังกฤษ). จากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-03-18. สืบค้นเมื่อ 2022-03-18.
205. Kang, Haeryun (2022-05-23). "How Blackpink Went From Strangers to Sisters to Pop Supernovas". Rolling Stone (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). จากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-08-04. สืบค้นเมื่อ 2022-05-23.
206. "Blackpink are music group with highest number of YouTube subscribers". The Straits Times. September 10, 2019. จากแหล่งเดิมเมื่อ October 27, 2020. สืบค้นเมื่อ November 4, 2019.
207. "Blackpink now No. 1 female artist in the world by YouTube subscribers". koreajoongangdaily.joins.com (ภาษาอังกฤษ). จากแหล่งเดิมเมื่อ April 13, 2021. สืบค้นเมื่อ 2021-04-13.
208. "Blackpink Official Youtube Channel". จากแหล่งเดิมเมื่อ August 26, 2020. สืบค้นเมื่อ September 5, 2020 – โดยทาง YouTube.
209. Chan, Anna (September 10, 2021). "BLACKPINK Now Has More YouTube Subscribers Than Justin Bieber: 'We Will Continue to Bring Positivity'". Billboard. จากแหล่งเดิมเมื่อ October 26, 2021. สืบค้นเมื่อ November 8, 2021.
210. Park, Hyun-ik (December 16, 2019). "인스타그램 "올해 韓 트렌드는 '공감'…팔로워 상위 10위는 모두 아이돌"" [Instagram Reveals Korea's Most-Followed Accounts And Hashtags Of 2019]. Chosun Biz (ภาษาเกาหลี). จากแหล่งเดิมเมื่อ October 17, 2020. สืบค้นเมื่อ August 5, 2020.
211. Tamondong, Hanna (March 15, 2020). "Daebak! These Are The 10 K-Pop Idols with the Most Followers On Instagram". Cosmopolitan Philippines. จากแหล่งเดิมเมื่อ November 2, 2020. สืบค้นเมื่อ July 11, 2020.
212. Jayatilaka, Tania (July 9, 2020). "The 7 Most Popular Female K-Pop Stars On Instagram". Tatler Singapore (ภาษาอังกฤษ). จากแหล่งเดิมเมื่อ September 24, 2020. สืบค้นเมื่อ July 15, 2020.
213. "BlackPink is Most Followed Girl Group on Spotify, Surpassing Fifth Harmony and Little Mix". KoogleTV. November 22, 2019. จากแหล่งเดิมเมื่อ June 28, 2020. สืบค้นเมื่อ November 25, 2019.
214. "블랙핑크, 스포티파이서 전세계 걸그룹 팔로워수 1위..피프스 하모니 넘었다[Oh!쎈 레터]". Osen. November 21, 2019. จากแหล่งเดิมเมื่อ September 22, 2020. สืบค้นเมื่อ November 25, 2019.
215. "Blackpink". จากแหล่งเดิมเมื่อ October 28, 2020. สืบค้นเมื่อ September 5, 2020 – โดยทาง Spotify.
216. "엑소, 8월 가수 브랜드평판 1위…2위 블랙핑크, 3위 아이오아이 "소통지수 높다"...(Top K-Pop Singer Brand Power Rankings For August Revealed )". Naver. August 27, 2016. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-08-31. สืบค้นเมื่อ September 12, 2016.