เทย์เลอร์ แอลิสัน สวิฟต์ (อังกฤษ: Taylor Alison Swift; เกิด 13 ธันวาคม ค.ศ. 1989) เธอเป็นนักร้องและนักแต่งเพลงชาวอเมริกัน เธอเป็นหนึ่งในศิลปินหญิงร่วมสมัยยอดนิยมที่เป็นที่รู้จักจากการแต่งเพลงเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวและเป็นที่สนใจของสื่ออย่างมาก สวิฟต์เกิดและเติบโตในเวสต์เรดิง รัฐเพนซิลเวเนีย เธอย้ายไปยังเมืองแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี ขณะอายุ 14 ปี เพื่อหางานทำเกี่ยวกับเพลงคันทรี เธอได้เซ็นสัญญากับบริษัท(โซนี/เอทีวีมิวสิกพับบลิชชิง) ใน ค.ศ. 2004 และเซ็นสัญญากับค่ายเพลงบิกแมชีนเรเคิดส์ ใน ค.ศ. 2005 และออกอัลบั้มแรกในชื่อเดียวกับตนเอง ใน ค.ศ. 2006
เทย์เลอร์ สวิฟต์ | |
---|---|
สวิฟต์ ใน ค.ศ. 2023 | |
เกิด | เทย์เลอร์ แอลิสัน สวิฟต์ 13 ธันวาคม ค.ศ. 1989 รัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐ |
อาชีพ |
|
ปีปฏิบัติงาน | ค.ศ. 2003–ปัจจุบัน |
องค์การ | เทย์เลอร์สวิฟต์โปรดักชัน |
ผลงาน | |
ญาติ |
|
รางวัล | |
อาชีพทางดนตรี | |
ที่เกิด | แนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี สหรัฐ |
แนวเพลง | |
เครื่องดนตรี |
|
ค่ายเพลง | |
เว็บไซต์ | www |
ลายมือชื่อ | |
สวิฟต์ทำดนตรีคันทรีป็อปในอัลบั้มที่สองและสาม เฟียร์เลส (2008) และ สปีกนาว (2010) ความสำเร็จจากซิงเกิลในอัลบั้มที่สอง "เลิฟสตอรี" และ "ยูบีลองวิทมี" ในคลื่นวิทยุเพลงคันทรีและเพลงป็อปทำให้สวิฟต์เป็นศิลปินข้ามแนวเพลงที่โดดเด่น เธอยังได้ทดลองดนตรีแนวป็อป ร็อก และอิเล็กทรอนิกส์ในอัลบั้มที่สี่ เรด (2012) อัลบั้มทีห้า 1989 (2014) เปลี่ยนสถานะสวิฟต์จากศิลปินคันทรีเป็นป็อปสตาร์ โดยมีแรงสนับสนุนจากซิงเกิลอันดับหนึ่งบนบิลบอร์ดฮอต 100 ได้แก่ "เชกอิตออฟ" "แบลงก์สเปซ" และ "แบดบลัด" การที่สื่อให้ความสนใจในชีวิตส่วนตัวของเธอมากขึ้นบันดาลใจให้เกิดอัลบั้มที่หก เรพิวเทชัน (2017) ซึ่งดนตรีเปลี่ยนเป็นแนว
หลังจากแยกทางกับค่ายบิกแมชีน แล้วเซ็นสัญญากับรีพับลิกเรเคิดส์ ใน ค.ศ. 2018 สวิฟต์ออกอัลบั้มที่เจ็ด เลิฟเวอร์ ใน ค.ศ. 2019 หลังจากประสบความสำเร็จในทศวรรษ 2010 เธอก้าวเข้าสู่ดนตรีแนวอินดีโฟล์กและออลเทอร์นาทิฟร็อกในอัลบั้มสองชุดที่ออกใน ค.ศ. 2020 คือ โฟล์กลอร์ และเอฟเวอร์มอร์ ซึ่งเนื้อเพลงได้รับแรงบันดาลใจจากการเก็บตัวในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้รับคำชมในเรื่องการเล่าเรื่องที่คล้ายกัน เพื่อให้ได้สิทธิ์การครอบครองกลับคืนมา หลังเกิดข้อพิพาทเกี่ยวกับงานต้นฉบับของสวิฟต์ เธอออกอัลบั้มเพลงที่บันทึกเสียงใหม่ออกมาสองชุดใน ค.ศ. 2021 ได้แก่ เฟียร์เลส (เทย์เลอร์เวอร์ชัน) และเรด (เทย์เลอร์เวอร์ชัน) ทั้งสองอัลบั้มได้รับคำชมในด้านดนตรีที่มีคุณภาพมากขึ้น และเสียงร้องที่พัฒนาขึ้นจากเดิม นอกจากดนตรี สวิฟต์ได้รับบทในภาพยนตร์ต่าง ๆ เช่น (2010) และแคตส์ (2019) เธอออกภาพยนตร์สารคดีอัตชีวประวัติเรื่องมิสอเมริกานา (2020) และภาพยนตร์มิวสิคัลที่เธอกำกับเอง ได้แก่ โฟล์กลอร์: เดอะลองพอนด์สตูดิโอเซสชันส์ (2020)และ ออลทูเวล: เดอะชอร์ตฟิล์ม (2021) และอื่น ๆ
สวิฟต์เป็นหนึ่งในศิลปินนักดนตรีที่ขายดีที่สุดตลอดกาล เธอขายอัลบั้มได้มากกว่า 400 ล้านชุดทั่วโลก เธอได้รับรางวัลแกรมมี 14 รางวัล (รวมรางวัลอัลบั้มแห่งปี 4 รางวัล) 1 รางวัล รางวัลบิลบอร์ดมิวสิกอะวอดส์ 25 รางวัล 12 รางวัล อเมริกันมิวสิกอะวอดส์ 40 รางวัล (ศิลปินที่ได้รับมากที่สุด) และได้รับการบันทึกในบันทึกสถิติโลกกินเนสส์ 49 รายการ เธออยู่ในรายชื่อ 100 นักแต่งเพลงยอดเยี่ยมตลอดกาล จัดโดยนิตยสารโรลลิงสโตน เป็นอันดับที่แปดในรายชื่อศิลปินยอดเยี่ยมตลอดกาล จัดอันดับโดยบิลบอร์ด และอยู่ในการจัดอันดับอีกมากมาย เช่น ไทม์ 100 และ บิลบอร์ดแต่งตั้งให้สวิฟต์เป็นสตรีแห่งทศวรรษ 2010 และอเมริกันมิวสิกอะวอดส์แต่งตั้งให้เป็นศิลปินแห่งทศวรรษ 2010 สวิฟต์เป็นที่จดจำในฐานะผู้สนับสนุนสิทธิและอำนาจสตรีในอุตสาหกรรมดนตรี
ชีวิตและการทำงาน
ค.ศ. 1989–2003: ชีวิตช่วงแรก
เทย์เลอร์ แอลิสัน สวิฟต์ เกิดในวันที่ 13 ธันวาคม ค.ศ. 1989 ที่ พ่อของเธอชื่อ สกอตต์ คิงสลีย์ สวิฟต์ เป็นที่ปรึกษาการเงิน แม่ของเธอ แอนเดรีย การ์ดเนอร์ (ชื่อก่อนสมรส ฟินเลย์) สวิฟต์ เป็นผู้รับจ้างทำงานบ้านที่เคยทำงานเป็นกรรมการบริหารกองทุนรวม สวิฟต์มีน้องชายหนึ่งคนชื่อ ออสติน สวิฟต์ใช้ชีวิตช่วงปีแรก ๆ ในไร่นาต้นคริสต์มาสทีพ่อซื้อต่อจากลูกค้าคนหนึ่ง เธอเข้าโรงเรียนเตรียมอนุบาล และชั้นอนุบาลที่โรงเรียนอัลเวอร์เนียมอนเทสซอรีสกูล เปิดสอนโดยแม่ชีคณะฟรันซิสกัน ก่อนย้ายเข้า ต่อมา ครอบครัวย้ายไปที่บ้านเช่าหลังหนึ่งในชานเมือง เธอเข้าเรียนที่
เมื่ออายุ 9 ปี สวิฟต์เริ่มสนใจการละครเวที และแสดงในละครเวทีที่เบิกส์ยูธเธียเตอร์อะคาเดมี เธอเดินทางไปบรอดเวย์เป็นประจำเพื่อเรียนร้องเพลงและการแสดง ต่อมาสวิฟต์เริ่มเปลี่ยนความสนใจไปที่ดนตรีคันทรี เพลงของชะไนยา ทเวน ทำให้เธอ "อยากวิ่งรอบช่วงตึก 4 รอบและฝันกลางวันถึงทุกสิ่งทุกอย่าง" เธอใช้เวลาสุดสัปดาห์แสดงตามงานเทศกาลในท้องถิ่น และอีเวนต์ต่าง ๆ หลังจากชมสารคดีเกี่ยวกับเฟธ ฮิลล์ สวิฟต์รู้สึกมั่นใจว่าเธอต้องการเดินทางไปสานฝันงานดนตรีที่แนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี เมื่ออายุ 11 ปี เธอเดินทางไปแนชวิลล์กับแม่เพื่อส่งเดโมเพลง ซึ่งเป็นเพลงคาราโอเกะของดอลลี พาร์ตัน และดิกซีชิกส์ นำมาขับร้องใหม่ แต่เธอถูกปฏิเสธ ด้วยเหตุที่ว่า "ทุกคนในเมืองนั้นก็อยากทำสิ่งที่ฉันอยากทำเหมือนกัน ดังนั้น ฉันจึงกลับมาคิดกับตัวเองว่า ฉันต้องหาทางทำสิ่งที่แตกต่างออกไป"
เมื่อสวิฟต์อายุ 12 ปี รอนนี เครเมอร์ ช่างซ่อมคอมพิวเตอร์และนักดนตรี สอนเธอเล่นกีตาร์ 3 คอร์ด บันดาลให้เธอเขียนเพลงแรก "ลักกียู" ใน 2003 สวิฟต์และพ่อแม่ของเธอเริ่มทำงานกับผู้จัดการดนตรี แดน ดิมโทรว์ ในนิวยอร์ก ด้วยความช่วยเหลือของดิมโทรว์ สวิฟต์เป็นแบบให้แก่บริษัท เป็นส่วนหนึ่งในโครงการ "ไรซิงสตาส์" และมีเพลงต้นฉบับรวมในอัลบั้มรวมเพลงของตราสินค้าเมย์เบลลีน และเข้าร่วมประชุมกับค่ายเพลงหลักมากมาย หลังจากแสดงเพลงที่งานมหรสพของสังกัดอาร์ซีเอเรเคิดส์ สวิฟต์ที่ยังเรียนอยู่ชั้นเกรด 8 ได้รับโอกาสให้เป็นนักร้อง และเริ่มเดินทางไปแนชวิลล์กับแม่ของเธอบ่อยขึ้น
พ่อของเธอย้ายไปทำงานออฟฟิศของที่แนชวิลล์เพื่อช่วยส่งเสริมสวิฟต์ทำงานดนตรีคันทรี ขณะที่เธออายุ 14 ปี และครอบครัวย้ายที่อยู่ไปที่บ้านริมทะเลสาบใน สวิฟต์เข้าเรียนที่ แต่เรียนได้สองปี เธอก็ย้ายไปเรียนที่สถาบันแอรอนอะคาเดมี โรงเรียนคริสต์เอกชนที่มีบริการเรียนที่บ้านได้ เพื่อให้สะดวกต่อการทัวร์ และเธอจบการศึกษาเร็วกว่ากำหนดหนึ่งปี
ค.ศ. 2004–2008 : เริ่มต้นอาชีพนักร้อง และอัลบั้ม เทย์เลอร์ สวิฟต์
ที่แนชวิลล์ เธอร่วมงานกับนักแต่งเพลงย่านมิวสิกโรว์มากมาย เช่น และ จนเธอได้สานสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานชื่อ ลิซ โรส พวกเธอประชุมกันในคาบแต่งเพลงทุกวันอังคารตอนบ่ายหลังเรียน โรสกล่าวว่า คาบแต่งเพลงนั้นเป็น "อะไรที่ง่ายที่สุดที่ฉันเคยได้ทำ พูดง่าย ๆ คือ ฉันเป็นบรรณาธิการของเธอ เธอจะเขียนเพลงเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในโรงเรียนในวันนั้น เธอมีวิสัยทัศน์ชัดเจนเกี่ยวกับสิ่งที่เธอต้องการจะพูด และเธอจะคิดท่อนสร้อยที่น่าเหลือเชื่อได้เสมอ" สวิฟต์ได้เซ็นสัญญากับ แต่ลาออกจากสังกัดอาร์ซีเอเรเคิดส์เมื่ออายุ 14 ปี เธอระลึกได้ว่า "ฉันรู้สึกว่าฉันกำลังหมดเวลา ฉันอยากเก็บความทรงจำในชีวิตของฉันหลายปีมานี้ไว้ในอัลบั้มสักอัลบั้ม ขณะที่ความทรงจำเหล่านั้นยังคงแทนสิ่งที่ฉันเคยผ่านมาได้อยู่"
ณ งานมหรสพแห่งหนึ่งที่ร้านกาแฟในเมืองแนชวิลล์เมื่อ ค.ศ. 2005 สวิฟต์เป็นที่ต้องตาต้องใจของ ผู้บริหารค่ายที่กำลังเตรียมตัวก่อตั้งค่ายเพลงอิสระของตนในชื่อ บิกแมชีนเรเคิดส์ เธอเคยพบกับบอร์เชตตาแล้วใน ค.ศ. 2004 เธอได้เป็นหนึ่งในคนแรก ๆ ที่ได้เซ็นสัญญา โดยพ่อของเธอจ่ายเงินช่วยบริษัท 3% เป็นเงินจำนวนประมาณ 120,000 ดอลลาร์สหรัฐสวิฟต์เริ่มทำอัลบั้มแรกของเธอโดยตั้งชื่อเธอให้เป็นชื่ออัลบั้มไม่นานหลังเซ็นสัญญา สวิฟต์โน้มน้าวให้ค่ายบิกแมชีนจ้างโปรดิวเซอร์เพลงชื่อนาธาน แชปแมน ที่เธอรู้สึกว่ามีเคมีตรงกัน สวิฟต์แต่งเพลงในอัลบั้มเอง 3 เพลง และร่วมแต่งเพลงที่เหลืออีกแปดเพลงกับนักแต่งเพลง เช่น โรส ไบรอัน เมเฮอร์ และ อัลบั้มเทย์เลอร์ สวิฟต์ ออกจำหน่ายในวันที่ 24 ตุลาคม ค.ศ. 2006 จอน คารามานิกา จากหนังสือพิมพ์เดอะนิวยอร์กไทมส์ พูดถึงอัลบั้มนี้ว่าเป็น "งานเล็ก ๆ ชิ้นเยี่ยมที่เป็นคันทรีผสมป็อป ทั้งเรียบง่ายและถากถาง รวมกันไว้ด้วยเสียงร้องที่อ้อนวอนและแน่วแน่ของคุณสวิฟต์" อัลบั้มเทย์เลอร์ สวิฟต์ขึ้นสูงสุดอันดับที่ห้าในชาร์ตบิลบอร์ด 200 และอยู่ในชาร์ตนาน 157 สัปดาห์ นานที่สุดในบรรดาอัลบั้มที่ออกในคริสต์ทศวรรษ 2000 นับถึงเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2016 อัลบั้มขายได้มากกว่า 7.75 ล้านชุดทั่วโลก
บิกแมชีนเรเคิดส์เพิ่งเปิดค่ายใหม่ ขณะที่ออกซิงเกิลนำ "ทิม แม็กกรอว์" ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2006 สวิฟต์กับแม่ช่วยกัน "นำซีดีซิงเกิลใส่ซองจดหมายและส่งให้สถานีวิทยุ" เธอใช้เวลาทั้ง ค.ศ. 2006 เดินสายส่งเสริมอัลบั้มเทย์เลอร์ สวิฟต์ ตามสถานีวิทยุและรายการโทรทัศน์ บอร์เชตตากล่าวว่า การที่เขาตัดสินใจให้เด็กผู้หญิงอายุ 16 ปี เซ็นสัญญา แรกเริ่มทำให้เพื่อนร่วมวงการเป็นกังวล แต่สวิฟต์ก้าวเข้าสู่กลุ่มตลาดดนตรีที่ไม่เคยมีมาก่อน นั่นคือ กลุ่มวัยรุ่นสาวที่ฟังเพลงคันทรี หลังจากออกซิงเกิล "ทิม แม็กกรอว์" มีซิงเกิลออกตามมาอีกสี่ซิงเกิลตลอด ค.ศ. 2007-2008 ได้แก่ "เทียร์ดรอปส์ออนมายกีตาร์" "อาวเวอร์ซอง" "พิกเชอร์ทูเบิร์น" และ "ชูดัฟเซดโน" ทุกซิงเกิลประสบความสำเร็จบนชาร์ตบิลบอร์ด "อาวเวอร์ซอง" และ "ชูดัฟเซดโน" ขึ้นอันดับหนึ่ง เพลง "อาวเวอร์ซอง" ทำให้สวิฟต์เป็นคนที่อายุน้อยที่สุดที่แต่งเอง ร้องเพลงคันทรีเอง และขึ้นอันดับหนึ่งได้ "เทียร์ดรอปส์ออนมายกีตาร์" กลายเป็นเพลงแนวป็อปที่ได้รับความนิยมระดับหนึ่ง ขึ้นอันดับ 13 บนชาร์ตบิลบอร์ดฮอต 100 สวิฟต์ยังออกอัลบั้มวันหยุด ได้แก่ ซาวส์ออฟเดอะซีซัน: เดอะเทย์เลอร์ สวิฟต์ฮอลลิเดย์คอลเล็กชัน เมื่อเดือนตุลาคม ค.ศ. 2007 และอีพีชื่อ บิวตีฟูลอายส์ เมื่อเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2008 เธอส่งเสริมอัลบั้มแรกเพิ่มเติมด้วยการพบปะทักทายกับแฟนเพลง ร้องเพลงที่ได้รับความนิยม และเป็นศิลปินเปิดคอนเสิร์ตให้ศิลปินคนอื่น ๆ
สวิฟต์ได้รับรางวัลจากอัลบั้มเทย์เลอร์ สวิฟต์ หลายรางวัล เธอเป็นหนึ่งในผู้ที่รางวัลนักแต่งเพลง/ศิลปินแห่งปี โดย ใน ค.ศ. 2007 เป็นคนที่อายุน้อยที่สุดที่ได้รับรางวัลนี้ เธอยังได้รางวัลฮอไรซันอะวอร์ดสาขาศิลปินหน้าใหม่โดย รางวัล สาขานักร้องนำหญิงคนใหม่ยอดเยี่ยม และรางวัลอเมริกันมิวสิกอะวอร์ดสาขาศิลปินคันทรีหญิงคนโปรด เธอยังได้เข้าชิงรางวัลแกรมมีสาขาศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม ค.ศ. 2008 ในเดือนกรกฎาคมปีนั้น เธอคบหากับโจ โจนาส แต่ความสัมพันธ์จบลงหลังจากนั้นสามเดือน
ค.ศ. 2008–2010 : อัลบัมเฟียร์เลส และการแสดง
สตูดิโออัลบัมที่สองของสวิฟต์ชื่อ เฟียร์เลส วางจำหน่ายวันที่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ. 2008 ซิงเกิลนำ "เลิฟสตอรี" ออกจำหน่ายในเดือนกันยายน ค.ศ. 2008 ขึ้นสูงสุดอันดับที่สี่บนชาร์ตบิลบอร์ดฮอต 100 และอันดับหนึ่งในออสเตรเลีย มีซิงเกิลออกจำหน่ายอีกสี่ซิงเกิลตลอด ค.ศ. 2008–2009 ได้แก่ "ไวต์ฮอร์ส" "ยูบีลองวิทมี" "ฟิฟทีน" และ "เฟียร์เลส" เพลง "ยูบีลองวิทมี" เป็นซิงเกิลที่ขึ้นอันดับสูงที่สุดในอัลบัม ขึ้นถึงอันดับที่สองบนชาร์ตบิลบอร์ดฮอต 100 อัลบัมเปิดตัวที่อันดับหนึ่งบนชาร์ตบิลบอร์ด 200 เป็นอัลบัมที่ขายดีที่สุดในสหรัฐใน ค.ศ. 2009 สวิฟต์ออกทัวร์ของตนเองครั้งแรกส่งเสริมอัลบัมเฟียร์เลส ในทัวร์ชื่อ ทำรายได้ได้มากกว่า 63 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภาพยนตร์คอนเสิร์ต ออกอากาศทางโทรทัศน์และจำหน่ายเป็นดีวีดีและบลูเรย์ สวิฟต์ยังแสดงรับเชิญในทัวร์ชื่อ เอสเคปทูเก็ตเทอร์เวิลด์ทัวร์ ของ
ใน ค.ศ. 2009 มิวสิกวิดีโอเพลง "ยูบีลองวิทมี" ได้รางวัลเอ็มทีวีวิดีโอมิวสิกอะวอดส์ สาขาศิลปินหญิงยอดเยี่ยม ขณะเธอกล่าวรับรางวัล แร็ปเปอร์ คานเย เวสต์ เหตุการณ์ดังกล่าวได้รับความสนใจจากสื่อบ่อยครั้ง ทำให้เกิดอินเทอร์เน็ตมีม เจมส์ มอนต์โกเมอรี จากเอ็มทีวีเถียงว่า เหตุการณ์ดังกล่าวและความสนใจจากสื่อทำให้สวิฟต์กลายเป็น "คนดังตามกระแสอย่างแท้จริง" ในปีเดียวกันนั้น เธอได้รับรางวัลอเมริกันมิวสิกอะวอดส์ 5 รางวัล รวมถึงรางวัลสาขาศิลปินแห่งปี และอัลบัมเพลงคันทรีชมเชยบิลบอร์ดแต่งตั้งให้เธอเป็นศิลปินแห่ง ค.ศ. 2009 อัลบัมติดอันดับ 99 ในรายชื่ออัลบัมเพลงผู้หญิงยอดเยี่ยม จัดอันดับโดย
ใน ค.ศ. 2010 สวิฟต์ได้รับรางวัลมากมายจากอัลบัมเฟียร์เลส ในงานประกาศรางวัลแกรมมีครั้งที่ 52 เฟียร์เลสได้รางวัลอัลบัมแห่งปี และอัลบัมเพลงคันทรียอดเยี่ยม ขณะที่เพลง "ไวต์ฮอร์ส" ได้รางวัลเพลงคันทรียอดเยี่ยม และการแสดงเพลงคันทรีหญิงยอดเยี่ยม เธอเป็นศิลปินที่อายุน้อยที่สุดที่ได้รับรางวัลอัลบัมแห่งปี ในงาน สวิฟต์ร้องเพลง "ยูบีลองวิทมี" และ "" กับ การแสดงของเธอได้รับคำวิจารณ์และปฏิกิริยาที่ไม่ดีจากสื่อ จอน คารามานิกาจากเดอะนิวยอร์กไทมส์เห็นว่า "น่าชื่นใจที่เห็นคนบางคนมีพรสวรรค์จนบางครั้งก็มีผิดพลาดบ้าง" และพูดถึงสวิฟต์ว่าเป็น "ดาราป็อปคนสำคัญที่สุดคนใหม่ในรอบหลายปี" สวิฟต์เป็นคนที่อายุน้อยที่สุดที่สมาคมดนตรีคันทรีแต่งตั้งเป็นผู้ให้ความบันเทิงแห่งปี อัลบัมเฟียร์เลสได้รับรางวัลอัลบัมแห่งปีจากสมาคมดังกล่าวด้วย
สวิฟต์ร้องเบื้องหลังให้เพลง "ฮาล์ฟออฟมายฮาร์ต" ของจอห์น เมเยอร์ เป็นซิงเกิลจากอัลบัมที่สี่ (2009) เธอร่วมแต่งและอัดเพลง "เบสต์เดส์ออฟยัวร์ไลฟ์" กับเคลลี พิกเลอร์ และร่วมแต่งเพลงประกอบภาพยนตร์ สองเพลง ได้แก่ "ยูลออลเวส์ไฟนด์ยัวร์เวย์แบ็กโฮม" และ "เครซีเออร์" สวิฟต์ร้องเพลงให้ซิงเกิล "ทูอิสเบ็ตเทอร์แดนวัน" ของบอยส์ไลก์เกิลส์ แต่งโดยมาร์ติน จอห์นสัน เธอร้อง หนึ่งในนั้นคือเพลง "ทูเดย์วอสอะเฟรีเทล" กลายเป็นเพลงแรกที่ติดอันดับหนึ่งบนชาร์ต ขณะถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2009 เธอเริ่มคบหากับนักแสดง เทย์เลอร์ เลาต์เนอร์ แต่เลิกรากันในปีเดียวกัน ภาพยนตร์รักตลกเรื่องดังกล่างออกฉายในปีต่อมา เธอแสดงเป็นแฟนสาวทึ่มของหนุ่มบ้านนอกนักเรียนไฮสกูล บทบาทที่ลอสแอนเจลิสไทมส์มองเห็น "ศักยภาพที่ทำให้ดูตลกอย่างจริงจัง" ในบทสัมภาษณ์บทหนึ่ง นิตยสารมองว่าเธอ "ไม่ได้ถูกชี้นำชัดเจน" และแย้งว่า "เธอต้องหาผู้กำกับที่มีความสามารถคอยจำกัดขอบเขตพลังการแสดงที่มีมากเกินไป"
สวิฟต์เริ่มงานแสดงในซีรีส์ ซีเอสไอ: ไครม์ซีนอินเวสติเกชัน ทางช่องซีบีเอส ตอนหนึ่งใน ค.ศ. 2009 รับบทเป็นวัยรุ่นหัวรั้นเดอะนิวยอร์กไทมส์กล่าวว่าตัวละครดังกล่าวทำให้สวิฟต์ดู "ซนเล็กน้อย และซนอย่างเหลือเชื่อ" ในปีเดียวกันนั้น สวิฟต์เป็นทั้งพิธีกรและเป็นแขกรับเชิญตอนหนึ่งในรายการแซเทอร์เดย์ไนต์ไลฟ์เอนเตอร์เทนเมนต์วีกลีพูดถึงเธอว่า "เป็นพิธีกรรายการแซเทอร์เดย์ไนต์ไลฟ์ที่ดีที่สุดในฤดูกาลนี้เลย" จากที่เธอ "ดูท้าทายอยู่เสมอ ดูเหมือนจะสนุกสนาน และทำให้นักแสดงที่เหลือเล่นมุกตลกได้หลายมุก" ในปีเดียวกันนั้น สวิฟต์คบหากับนักแสดง เจค จิลเลินฮาล เป็นช่วงสั้น ๆ
ค.ศ. 2010–2014 : อัลบัมสปีกนาว และ เรด
ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2010 สวิฟต์ออกเพลง "ไมน์" ซิงเกิลแรกจากอัลบัมที่สามชื่อ สปีกนาว เข้าชาร์ตที่สหรัฐอันดับที่สาม ทำให้สวิฟต์เป็นศิลปินคนที่สอง (ถัดจากมารายห์ แครี) ในประวัติศาสตร์ของชาร์ตฮอต 100 ที่เปิดตัวที่ห้าอันดับแรกถึงสองเพลงในปีเดียวกัน อีกเพลงหนึ่งคือ "ทูเดย์วอสอะเฟรีเทล" สวิฟต์แต่งเพลงในอัลบัมเองและร่วมผลิตทุกเพลง อัลบัมสปีกนาว วางจำหน่ายวันที่ 25 ตุลาคม ค.ศ. 2010 ประสบความสำเร็จเชิงพาณิชย์ เปิดตัวที่อันดับ 1 บนชาร์ตบิลบอร์ด 200 กลายเป็นอัลบัมที่ 16 ในประวัติศาสตร์สหรัฐที่มียอดขายถึง 1 ล้านชุดในสัปดาห์แรก อัลบัมทำลายสถิติ "อัลบัมดิจิทัลที่ขายได้เร็วที่สุดโดยศิลปินหญิง" ด้วยยอดดาวน์โหลด 278,000 ครั้งในหนึ่งสัปดาห์ สวิฟต์จึงมีชื่อบันทึกในบันทึกสถิติโลกกินเนสส์ เธอยังได้รับบันทึกอีกหนึ่งหัวข้อหลังจากเพลงในอัลบัมสปีกนาว 10 เพลง เปิดตัวในชาร์ตบิลบอร์ดฮอต 100 เป็นศิลปินหญิงคนแรกที่ทำได้ ซิงเกิลสามซิงเกิล "ไมน์" "แบ็กทูดีเซมเบอร์" และ "มีน" ขึ้นถึงสิบอันดับแรกในแคนาดา
เพลง "มีน" ชนะรางวัลเพลงคันทรียอดเยี่ยม และแสดงเดี่ยวเพลงคันทรียอดเยี่ยมในงานประกาศรางวัลแกรมมีครั้งที่ 54 เธอยังแสดงเพลงนี้ในงานด้วย แคลร์ ซัดดาท จากนิตยสารไทม์รู้สึกว่าเธอ "กลับมาร้องเพลงตรงคีย์และเป็นการแก้ตัว" และเจมี เดียร์เวสเตอร์จากยูเอสเอทูเดย์ กล่าวว่า คำตำหนิเธอเมื่อ ค.ศ. 2010 ทำให้เธอ "เป็นนักแต่งเพลงและนักร้องร้องสดที่ดีกว่าเดิม" สวิฟต์ยังได้รับรางวัลอื่น ๆ กับอัลบัมสปีกนาว เช่น รางวัลนักแต่งเพลง/ศิลปินแห่งปี จากสมาคมนักแต่งเพลงแนชวิลล์ (2010 และ 2011) ผู้หญิงแห่งปี จากนิตยสารบิลบอร์ด (2011) และผู้ให้ความบันเทิงแห่งปี จากโรงเรียนดนตรีคันทรี (2011 และ 2012) และสมาคมดนตรีคันทรีใน ค.ศ. 2011 สวิฟต์ได้รับรางวัลศิลปินแห่งปีและอัลบัมเพลงคันทรีชมเชยจากงานประกาศรางวัลอเมริกันมิวสิกอะวอดส์ 2011 อัลบัมสปีกนาวรวมในรายชื่อ "อัลบัมเพลงผู้หญิง 50 อัลบัมยอดเยี่ยมตลอดกาล" ของนิตยสารโรลลิงสโตน เมื่อ ค.ศ. 2012 อยู่ในอันดับที่ 45 นิตยสารเขียนว่า "เพลงของเธออาจเปิดในคลื่นวิทยุเพลงคันทรี แต่เธอเป็นหนึ่งในร็อกสตาร์ที่แท้จริงไม่กี่คนที่เรามีในเวลานี้ ที่มีหูกำหนดสิ่งที่ทำให้เพลงมีคุณภาพอย่างไร้ตำหนิ"
สวิฟต์เริ่มทัวร์ชื่อ เริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2011 ถึงมีนาคม ค.ศ. 2012 และทำรายได้ได้มากกว่า 123 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2011 สวิฟต์ออกอัลบัมบันทึกการแสดงสด เดือนต่อมา สวิฟต์ร้อง "เซฟแอนด์ซาวด์" ร่วมแต่งและอัดเสียงกับ และ และเพลง "อายส์โอเพน" เพลง "เซฟแอนด์ซาวด์" ได้รับรางวัลแกรมมีสาขาเพลงที่แต่งประกอบสื่อภาพยนตร์ยอดเยี่ยม หลังจากร้องเพลง "โบทออฟอัส" ให้แก่บี.โอ.บี. ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2012 สวิฟต์คบหากับทายาทนักการเมือง ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงกันยายน ค.ศ. 2012 ในเดือนสิงหาคม สวิฟต์ออกซิงเกิล "วีอาร์เนเวอร์เอเวอร์เกตติงแบ็กทูเกเตอร์" และเป็นซิงเกิลนำจากสตูดิโออัลบัมที่สี่ เรด ซิงเกิลประสบความสำเร็จในต่างประเทศ กลายเป็นซิงเกิลอันดับหนึ่งเพลงแรกในสหรัฐและนิวซีแลนด์ เพลงขึ้นอันดับหนึ่งบนไอทูนส์หลังเพลงออกได้ 50 นาที เป็น "ซิงเกิลที่ขายได้เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์เพลงดิจิทัล" บันทึกในบันทึกสถิติโลกกินเนสส์ จากนั้นสวิฟต์ออกซิงเกิลที่สอง "บีกินอะเกน" ในเดือนตุลาคม เพลงขึ้นอันดับที่เจ็ดในชาร์ตบิลบอร์ดฮอต 100 และได้เข้าชิงรางวัลแกรมมี ซิงเกิลอื่น ๆ จากอัลบัมออกตามมา ได้แก่ "ไอนูว์ยูเวอร์ทรับเบิล" "22" "เอเวอรีติงแฮสเชนจด์" "" และ "เรด" ซิงเกิล "ไอนูว์ยูเวอร์ทรับเบิล" ประสบความสำเร็จเชิงพาณิชย์ครั้งใหญ่ ขึ้นอันดับที่สองในสหรัฐ
อัลบัมเรดเป็นจุดเปลี่ยนแปลงแนวเพลงของสวิฟต์ โดยเธอทดลองแนวเพลงฮาร์ตแลนด์ร็อก ดั๊บสเตป และแดนซ์ป็อป อัลบัมออกจำหน่ายในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2012 ประสบความสำเร็จในด้านคำวิจารณ์และเชิงพาณิชย์ อัลบัมเปิดตัวอันดับหนึ่งในชาร์ตบิลบอร์ด 200 ด้วยยอดขายสัปดาห์แรก 1.21 ล้านชุด เป็นยอดขายเปิดอัลบัมที่สูงที่สุดในทศวรรษ และทำให้สวิฟต์เป็นผู้หญิงคนแรกที่มีอัลบัมขายสัปดาห์แรกได้ถึงล้านชุดถึงสองอัลบัม บันทึกโดยบันทึกสถิติโลกกินเนสส์ ในการส่งเสริมอัลบัม สวิฟต์เริ่มทัวร์ชื่อ เดอะเรดทัวร์ เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม ค.ศ. 2013 ถึงมิถุนายน ค.ศ. 2014 และทำรายได้ได้มากกว่า 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อัลบัมเรดได้รับรางวัลหลายรางวัล ได้แก่ เข้าชิงรางวัลแกรมมีในงานประกาศรางวัลแกรมมีครั้งที่ 56 จำนวน 4 รางวัล ซิงเกิล "ไอนูว์ยูเวอร์ทรับเบิล ได้รับรางวัลวิดีโอผู้หญิงยอดเยี่ยม" จากงานประกาศรางวัลเอ็มทีวีวิดีโอมิวสิกอะวอดส์ 2013 สวิฟต์ได้ชื่อว่าศิลปินคันทรีหญิงยอดเยี่ยมในงานอเมริกันมิวสิกอะวอดส์ 2012 และศิลปินแห่งปีในงานของ ค.ศ. 2013 สมาคมนักแต่งเพลงแนชวิลล์มอบรางวัลนักแต่งเพลง/ศิลปินให้สวิฟต์ติดต่อกันเป็นปีที่ห้าและหกใน ค.ศ. 2012 และ 2013 ตามลำดับ สวิฟต์ยังได้รับรางวัล พินนาเคิลอะวอร์ด จากสมาคม สำหรับความสำเร็จระดับ "ไม่เหมือนใคร" สวิฟต์เป็นผู้รับรางวัลดังกล่าวเป็นคนที่สองถัดจาก
ใน ค.ศ. 2013 สวิฟต์ร่วมแต่งเพลง "" กับแจ็ก แอนโตนอฟฟ์ ประกอบภาพยนตร์เรื่อง และได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำครั้งที่ 71 สาขาเพลงประกอบยอดเยี่ยม เธอร้องรับเชิญให้แม็กกรอว์ ในเพลง "" บรรเลงกีตาร์โดยคีท เออร์เบิน สวิฟต์ร้องเพลง "แอสเทียส์โกบาย" กับเดอะโรลลิงสโตนส์ ที่ชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ในทัวร์ชื่อ ต่อมาเธอกล่าวว่าวงนี้มีอิทธิพลหลักต่อภาพลักษณ์งานเพลงของเธอ เธอแสดงกับฟลอริดาจอร์เจียไลน์ในงาน 2013 ในเพลง "" นอกจากร้องเพลง สวิฟต์พากย์เสียงให้ออเดรย์ คนรักต้นไม้ ในภาพยนตร์แอนิเมชัน คุณปู่โลแรกซ์ มหัศจรรย์ป่าสีรุ้ง ปรากฏในซิตคอม (2013) เล่นบทรองในภาพยนตร์ (2014) ในระหว่างนี้ เธอคบหากับนักร้องชาวบริติช แฮร์รี สไตลส์
ค.ศ. 2014–2018 : 1989 และ เรพิวเทชัน
ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2014 สวิฟต์ย้ายมาอาศัยที่แมนฮัตตัน นครนิวยอร์ก ช่วงนี้เธอกำลังทำสตูดิโออัลบัมที่ห้า 1989 ร่วมกับนักแต่งเพลง แอนโทนอฟฟ์ มาร์ติน เชลล์แบ็ก อิโมเจน ฮีป ไรอัน เท็ดเดอร์ และ สวิฟต์ส่งเสริมอัลบัมผ่านโครงการรณรงค์ต่าง ๆ รวมถึงการเชิญชวนแฟนเพลงให้มาฟังเพลงในอัลบัมแบบลับ ๆ เรียกว่า "1989 ซีเคร็ตเซสชัน" ด้วย อัลบัมดูแตกต่างจากอัลบัมเพลงคันทรีชุดก่อนหน้า สวิฟต์ยกให้เป็น "อัลบัมแรกที่ถูกบันทึกให้เป็นอัลบัมเพลงป็อปอย่างเป็นทางการ" อัลบัมวางจำหน่ายในวันที่ 27 ตุลาคม ค.ศ. 2014 ได้รับคำวิจารณ์ด้านบวกมากมาย อัลบัม 1989 ขายได้ 1.28 ล้านชุดในสหรัฐในสัปดาห์แรกที่วางจำหน่าย และเปิดตัวสูงสุดในชาร์ตบิลบอร์ด 200 ทำให้สวิฟต์เป็นศิลปินคนแรกที่มีอัลบัมที่ขายในสัปดาห์แรกเกินหนึ่งล้านชุดถึงสามอัลบัม ทำให้เธอได้รับการบันทึกในบันทึกสถิติโลกกินเนสส์ นับถึงเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2017 อัลบัม 1989 ขายได้มากกว่า 10 ล้านชุดทั่วโลก ซิงเกิลนำของอัลบัม "เชกอิตออฟ" จำหน่ายในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2014 และเปิดตัวที่อันดับหนึ่งในชาร์ตบิลบอร์ดฮอต 100 ซิงเกิลอื่น ๆ ประกอบด้วยซิงเกิลอันดับหนึ่งได้แก่ "แบลงก์สเปซ" "แบดบลัด" (ร้องรับเชิญโดยเคนดริก ลามาร์) และซิงเกิลที่ขึ้นสิบอันดับแรก ได้แก่ "สไตล์" และ "ไวล์ดิสต์ดรีมส์" และมีซิงเกิล "เอาต์ออฟเดอะวุดส์" และ "นิวโรแมนติกส์" "เชกอิตออฟ" "แบลงก์สเปซ" และ "แบดบลัด" ติดอันดันหนึ่งในออสเตรเลียและแคนาดาด้วย หลังจากเพลง "แบลงก์สเปซ" ขึ้นอันดับหนึ่งในสหรัฐตามเพลง "เชกอิตออฟ" สวิฟต์กลายเป็นผู้หญิงคนแรกที่มีเพลงอันดันหนึ่งแทนที่เพลงของตนเองในประวัติศาสตร์ชาร์ตฮอต 100 มิวสิกวิดีโอเพลง "แบลงก์สเปซ" เคยเป็นวิดีโอที่มียอดผู้ชมขึ้นถึงหนึ่งพันล้านครั้งเร็วที่สุดในวีโว "แบลงก์สเปซ" และวิดีโอเพลง "แบดบลัด" ได้รับรางวัลสี่รางวัลที่งาน โดยเพลง "แบดบลัด" ได้รับรางวัลวิดีโอแห่งปี และเพลงร่วมขับร้องยอดเยี่ยมด้วย ในทัวร์เดอะ 1989 เวิลด์ทัวร์ เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงธันวาคม ค.ศ. 2015 ทัวร์ยังคงทำรายได้ต่อไปได้ถึง 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นหนึ่งในทัวร์ที่ทำรายได้สูงที่สุดในทศวรรษ
ก่อนออกอัลบัม 1989 สวิฟต์เน้นเกี่ยวกับความสำคัญของอัลบัมเพลงที่มีต่อศิลปินและแฟนเพลง และในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2014 เธอลบเพลงทั้งอัลบัมออกจากสปอทิฟาย โดยแย้งว่าบริการฟรีที่มีโฆษณาสนับสนุนของบริษัทสตรีมมิงบ่อนทำลายบริการระดับพรีเมียมที่ให้ค่าลิขสิทธิ์กับนักแต่งเพลงมากกว่า ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2015 สวิฟต์ตำหนิแอปเปิลมิวสิกผ่านจดหมาย เนื่องจากไม่จ่ายค่าลิขสิทธิ์แก่ศิลปินระหว่างบริการสตรีมมิงในช่วงทดลองฟรีสามเดือน และกล่าวว่าเธอจะถอดอัลบัม 1989 ออกจากรายการ วันถัดมา แอปเปิลประกาศว่าพวกเขาจะจ่ายเงินให้ศิลปินในช่วงทดลองฟรี สวิฟต์จึงยอมให้สตรีมอัลบัม 1989 ในบริการสตรีมอีกครั้ง บริษัทที่ดูแลการจัดการสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาของสวิฟต์ชื่อ ทีเอเอสไรส์แมเนจเมนต์ ฟ้องเครื่องหมายการค้า 73 รายการที่เกี่ยวข้องกับตัวนักร้องเองและมีมต่าง ๆ จากอัลบัม 1989 เธอกลับมาเพิ่มเพลงทั้งหมดมาใส่ในสปอติฟาย และกูเกิล เพลย์ ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2017
สวิฟต์ได้เป็นผู้หญิงแห่งปีของนิตยสารบิลบอร์ดใน ค.ศ. 2014 กลายเป็นศิลปินคนแรกที่ได้ชื่อนี้ถึงสองครั้ง ในปีเดียวกันนั้น เธอได้รับรางวัลดิก คลาร์ก อะวอร์ดสำหรับความดีเลิศที่งานประกาศรางวัลอเมริกันมิวสิกอะวอดส์ ที่งานประกาศรางวัลแกรมมี 2015 "เชกอิตออฟ" ได้เข้าชิงสามรางวัล รวมถึงรางวัลแผ่นเสียงแห่งปี และเพลงแห่งปี ขณะที่ในงานประกาศรางวัล สวิฟต์ได้รับรางวัลบริตอะวอดส์สาขาศิลปินเดี่ยวหญิงต่างชาติ สวิฟต์เป็นหนึ่งในแปดศิลปินที่ได้รับรางวัลครบรอบ 50 ปีของอะคาเดมีออฟคันทรีมิวสิกอะวอดส์ใน ค.ศ. 2015 ใน ค.ศ. 2016 สวิฟต์ได้รับรางวัลแกรมมีสามรางวัลจากอัลบัม 1989 ได้แก่ อัลบัมแห่งปี อัลบัมเพลงป็อปยอดเยี่ยม และมิวสิกวิดีโอยอดเยี่ยม จากเพลง "แบดบลัด" เธอเป็นผู้หญิงคนแรกและเป็นศิลปินคนที่ห้าจากทั้งหมดที่ได้รับรางวัลอัลบัมแห่งปีถึงสองครั้ง
ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2015 สวิฟต์เริ่มคบหากับดีเจและโปรดิวเซอร์เพลงชาวสก็อต แคลวิน แฮร์ริส ก่อนเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2015 ทั้งคู่ได้รับการจัดให้เป็นคู่รักคนดังที่มีค่าตัวสูงที่สุดในรอบปีโดยนิตยสารฟอบส์ โดยมีรายได้รวมกันมากกว่า 146 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนสิงหาคม สวิฟต์กล่าวว่าแม่ของเธอตรวจพบมะเร็ง และเชิญชวนให้ทุกคนเข้ารับการตรวจสุขภาพทั่วไป ก่อนสวิฟต์กับแฮร์ริสประกาศจบความสัมพันธ์ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2016 ทั้งคู่ร่วมแต่งเพลง "" (ร้องรับเชิญโดยรีแอนนา) ซึ่งมีชื่อเธอระบุในนามแฝงว่า Nils Sjöberg ในเดือนตุลาคม เธอแต่งเพลง "" ให้วง ให้แก่อัลบัมที่เจ็ด สองเดือนต่อมา สวิฟต์และเซย์น แมลิก ออกซิงเกิลร่วมกันชื่อ "" เป็นภาพยนตร์ (2017) เพลงขึ้นอันดับหนึ่งในประเทศสวีเดน และอันดับสองในสหรัฐ ในงานประกาศรางวัล ทั้งคู่ได้รับรางวัลร่วมขับร้องเพลงยอดเยี่ยมจากมิวสิกวิดีโอเพลงดังกล่าว ต้น ค.ศ. 2017 สวิฟต์คบหากับนักแสดงชาวอังกฤษ ในเดือนสิงหาคม สวิฟต์ฟ้องร้องและชนะคดีแพ่งต่อเดวิด มูเอลเลอร์ อดีตนักจัดรายการวิทยุคลื่น ใน ค.ศ. 2013 สวิฟต์เคยชี้แจงหัวหน้าของมูเอลเลอร์ว่าเขาเคยล่วงละเมิดเธอโดยการลูบคลำตัวเธอในงานงานหนึ่ง หลังจากเขาถูกไล่ออก มูเอลเลอร์กล่าวหาเธอว่าโกหกและฟ้องร้องเธอจากเหตุที่ทำให้เขาตกงาน หลังจากนั้นไม่นาน สวิฟต์ฟ้องร้องกลับคดีละเมิดทางเพศ ผู้พิพากษาปฏิเสธข้อเรียกร้องของเขาและยกผลประโยชน์ให้สวิฟต์ ในเดือนเดียวกันนั้น สวิฟต์ล้างบัญชีสื่อสังคมของเธอทั้งหมด และออกซิงเกิล "ลุกวอตยูเมดมีดู" เป็นซิงเกิลแรกจากอัลบั้มที่หก เรพิวเทชัน เพลงขึ้นอันดับหนึ่งในออสเตรเลีย ไอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ สหราชอาณาจักร และสหรัฐ มิวสิกวิดีโอในยูทูบมีผู้ชมมากกว่า 43.2 ล้านครั้งในวันแรก ทำลายสถิติมิวสิกวิดีโอที่มีผู้ชมมากที่สุดภายใน 24 ชั่วโมง ในเดือนตุลาคม สวิฟต์ออกซิงเกิลที่สองจากอัลบั้ม "เรดีฟอร์อิต" เพลงขึ้นอันดับที่สามในออสเตรเลีย และอันดับที่สี่ในสหรัฐ
อัลบั้มวางจำหน่ายในวันที่ 10 พฤศจิกายน และขายได้ 1.216 ล้านหน่วยภายในสี่วันในสหรัฐ กลายเป็นอัลบั้มที่ขายดีที่สุดในประเทศใน ค.ศ. 2017 และขายได้ 2 ล้านชุดทั่วโลกในสัปดาห์แรก ด้วยความสำเร็จนี้ ทำให้เธอเป็นศิลปินคนแรกที่มีอัลบั้มขายได้มากกว่าหนึ่งล้านอัลบั้มในสัปดาห์แรกในสหรัฐถึงสี่อัลบั้ม อัลบั้มขึ้นอันดับหนึ่งในหลายประเทศ เช่น สหรัฐ สหราชอาณาจักร แคนาดา และออสเตรเลีย หลังจากนั้น สวิฟต์แสดงเพลง "เรดีฟอร์อิต" และ "คอลอิตวอตยูวอนต์" ในรายการแซเทอร์เดย์ไนต์ไลฟ์ "เอนด์เกม" ร้องรับเชิญโดยเอ็ด ชีแรน และ ตามมาเป็นซิงเกิลที่สามในเดือนพฤศจิกายน และขึ้นสูงสุดที่อันดับ 18 ในสหรัฐ ซิงเกิลอื่น ๆ จากอัลบั้ม ได้แก่ "นิวเยียส์เดย์" และ "เดลิเคต" เพลง "นิวเยียส์เดย์" ถูกเปิดตามสถานีวิทยุเพลงคันทรี
ในเดือนเมษายน ค.ศ. 2018 มีการยืนยันว่าสวิฟต์จะร้องรับเชิญในเพลง "เบบ" ของ จากอัลบั้ม บิกเกอร์ สวิฟต์ทัวร์คอนเสิร์ตในชื่อ เทย์เลอร์ สวิฟต์ เรพิวเทชันสเตเดียมทัวร์ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2018 เพื่อส่งเสริมอัลบั้มเรพิวเทชัน ทัวร์ทำลายสถิติยอดผู้ชมและรายได้จากหลายสถานที่ในสหรัฐ ทำรายได้ได้ 266.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายบัตรได้มากกว่าสองล้านใบ สวิฟต์ทำลายสถิติของตนเองในฐานะผู้หญิงที่ทัวร์ในประเทศได้รายได้สูงที่สุด รายได้ทั่วโลกอยู่ที่ 345.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นทัวร์คอนเสิร์ตที่มีรายได้สูงที่สุดอันดับสองของปี ในงานประกาศรางวัลอเมริกันมิวสิกอะวอร์ด 2018 สวิฟต์ได้รับรางวัลทัวร์แห่งปีจากทัวร์ล่าสุด ศิลปินแห่งปี ศิลปินป็อป/ร็อกหญิงชมเชย และอัลบั้มเพลงป็อป/ร็อกชมเชยจากอัลบั้มเรพิวเทชัน จากจำนวนรางวัล 23 รางวัล สวิฟต์จึงเป็นผู้ชนะรางวัลมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของรางวัลอเมริกันมิวสิกอะวอร์ด สถิติเดิมคือวิตนีย์ ฮิวสตัน
ค.ศ. 2018–2020: เลิฟเวอร์, โฟล์กลอร์ และ เอฟเวอร์มอร์
เรพิวเทชันเป็นอัลบั้มสุดท้ายที่ออกโดยสังกัดบิกแมชีนเรเคิดส์ เนื่องจากสัญญาอายุ 12 ปี หมดลง ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2018 เธอเซ็นสัญญากับค่ายยูนิเวอร์แซลมิวสิกกรุป ในสหรัฐ ผลงานลำดับถัดไปจะถูกส่งเสริมโดยประทับตราสังกัดรีพับลิกเรเคิดส์ สวิฟต์กล่าวว่าสัญญาของเธอจะรวมการเป็นเจ้าของ นอกจากนี้ เมื่อครั้งที่มีการแบ่งผลประโยชน์ให้กับสปอทิฟาย ยูนิเวอร์แซลมิวสิกกรุปเห็นพ้องที่จะจ่ายรายได้ให้ศิลปินของตน และไม่รับรายได้นั้นคืนจากศิลปิน ปลายเดือนพฤศจิกายน บิกแมชีนเรเคิดส์ออกรายการเพลงจากเทย์เลอร์ สวิฟต์ เรพิวเทชันสเตเดียมทัวร์ บนบริการสตรีม รายการเพลงบรรจุเพลงทุกเพลงที่แสดงบนเวทีบีในช่วงการทัวร์เรพิวเทชันสเตเดียมทัวร์ ในวันที่ 31 ธันวาคม ภาพยนตร์คอนเสิร์ตเรื่อง เรพิวเทชันสเตเดียมทัวร์ ออกฉายทางเน็ตฟลิกซ์
ภายใต้สังกัดรีพับลิกเรเคิดส์เป็นครั้งที่สอง "มี!" เป็นซิงเกิลแรกจากสตูดิโออัลบัมที่เจ็ดชื่อ เลิฟเวอร์ ร้องรับเชิญโดย จากวง เมื่อวันที่ 26 เมษายน ค.ศ. 2019 เธอร่วมแต่งเพลงกับ และยูรี เพลงเปิดตัวในชาร์ตบิลบอร์ดฮอต 100 ที่อันดับที่ 100 หลังออกมาได้สามวัน แต่กระโดดขึ้นอันดับที่สองในสัปดาห์ถัดมา กลายเป็นการกระโดดขึ้นอันดับในสัปดาห์เดียวที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของชาร์ต มิวสิกวิดีโอเพลง "มี!" ทำลายโดยมีผู้ชมรวม 65.2 ล้านครั้งในวันแรก แต่เพลงได้รับคำวิจารณ์แบบผสมกัน และสวิฟต์ลบเนื้อเพลงท่อนที่ "ถูกวิพากษ์วิจารณ์" ท่อนหนึ่งออกจากอัลบัม ในเดือนมิถุนายน เธอออกซิงเกิลที่สอง "ยูนีดทูคาล์มดาวน์" เพลงเปิดตัวที่อันดับสองบนชาร์ตบิลบอร์ดฮอต 100 เป็นเพลงเปิดตัวสูงสุดลำดับที่ 15 มากที่สุดในบรรดาศิลปินหญิง ในเดือนกรกฎาคม เธอออกซิงเกิลโปรโมตอัลบัม ""เพลงชื่อเดียวกับอัลบัมออกเป็นซิงเกิลที่สามในเดือนสิงหาคม เป็นเพลงที่ติดสิบอันดับสูงสุดบนชาร์ตฮอต 100 เพลงที่สามจากอัลบัม
เลิฟเวอร์วางจำหน่ายในวันที่ 23 สิงหาคม ได้รับคำวิจารณ์ในด้านบวก และเปิดตัวอันดับหนึ่งบนชาร์ตบิลบอร์ด 200 ด้วยยอดขายสัปดาห์แรก 867,000 หน่วย รวมถึงแผ่นอัลบัม 679,000 หน่วย ทำให้สวิฟต์เป็นศิลปินหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ที่มียอดขายหกอัลบัมแรกมากกว่า 500,000 หน่วยในสัปดาห์เดียว อัลบัมทำยอดขายแผ่นได้มากกว่าอัลบัมอื่น ๆ 199 อัลบัมรวมกันในสัปดาห์นั้น เพลงทั้งหมด 18 เพลงในอัลบัมเข้าชาร์ตบิลบอร์ดฮอต 100 ทำสถิติศิลปินหญิงที่มีเพลงเข้าชาร์ตพร้อมกันมากที่สุดในหนึ่งสัปดาห์ ในงานประกาศรางวัล มิวสิกวิดีโอเพลง "มี!" และ "ยูนีดทูคาล์มดาวน์" ได้เข้าชิงสิบรางวัลสิบสองรางวัล "มี!" ได้รางวัลเอฟเฟกต์ภาพยอดเยี่ยม และ "ยูนีดทูคาล์มดาวน์" ได้รางวัลวิดีโอแห่งปี ทำให้สวิฟต์เป็นศิลปินคนที่สองและเป็นศิลปินหญิงคนแรกที่วิดีโอที่ตนร่วมกำกับได้รางวัลดังกล่าว และได้รางวัลวิดีโอฟอร์กูด สวิฟต์แสดงในการเปิดงานประกาศรางวัลดังกล่าว อัลบัมเลิฟเวอร์ได้เข้าชิงสามรางวัลในงานประกาศรางวัลแกรมมีครั้งที่ 62 รวมถึง อัลบัมเพลงป็อปยอดเยี่ยม และเพลงแห่งปี สำหรับเพลง "เลิฟเวอร์"
รับบทเป็น ในภาพยนตร์เพลงดัดแปลงเรื่อง แคตส์ (2019) ของ แต่งและบันทึกเสียงเพลง "" ประกอบภาพยนตร์ และเพลงได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ นักวิจารณ์ให้คำวิจารณ์ภาพยนตร์ในด้านลบ แต่สวิฟต์ได้รับการตอบรับที่ดีในด้านการแสดงและการแสดงดนตรี สารคดี มิสอเมริกานา ฉายรอบปฐมทัศน์ในเทศกาลภาพยนตร์ซันแดนซ์ฟิล์มเฟสติวัล 2020 และออกฉายในเน็ตฟลิกต์ในเดือนมกราคม สารคดีเสนอเพลง "" ที่สวิฟต์แต่งไว้หลังช่วงเลือกตั้งใน ค.ศ. 2018 ในเดือนกุมภาพันธ์ 2020 สวิฟต์เซ็นสัญญากับ หลังจากสัญญาอายุ 16 ปีกับ(โซนี/เอทีวี) หมดลง
ในเดือนมิถุนายน ผู้จัดการดนตรีซื้อค่ายเพลงเดิมของสวิฟต์ รวมถึงต้นฉบับของอัลบัมเพลงของเธอหกอัลบัมแรก สวิฟต์แสดงความไม่พอใจผ่านโพสต์บนทัมเบลอร์ กล่าวว่าเธอเคยพยายามซื้อต้นฉบับมาหลายปี และพูดถึงบราวน์ว่าเป็น "ผู้รังแกจอมบงการไม่หยุดหย่อน" ในเดือนสิงหาคม สวิฟต์ประกาศแผนการอัดเพลงจากอัลบัมที่ถูกซื้อซ้ำทั้งหมดในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2020 ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2019 สวิฟต์กล่าวว่าบราวน์และ ผู้ก่อตั้งสังกัดบิกแมชีนห้ามมิให้เธอแสดงเพลงเก่าในงานประกาศรางวัลอเมริกันมิวสิกอะวอดส์ 2019 ซึ่งเธอได้รางวัลศิลปินแห่งทศวรรษจากงานนั้น รวมถึงห้ามนำงานเพลงเก่ามาใช่กับสารคดีเรื่อง มิสอเมริกานา ทางเน็ตฟลิกซ์ บิกแมชีนปฏิเสธการกล่าวหา และกล่าวหาสวิฟต์ว่าเธอติดหนี้ "มูลค่าหลักล้านดอลลาร์และสินทรัพย์มากมาย" สวิฟต์โต้ตอบโดยตัวแทนของเธอออกจดหมายตอบกลับแสดงให้เห็นว่าผู้บริหารบิกแมชีนปฏิเสธที่จะให้สิทธิ์ในการทำสารคดี และกล่าวว่าบิกแมชีนเป็นหนี้เธอค่าลิขสิทธิ์มูลค่า 8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ วันที่ 18 พฤศจิกายน บิกแมชีนออกประกาศว่า "สังกัดได้อนุญาตให้สตรีมการแสดงของศิลปินในสังกัด และออกอากาศซ้ำบนแพลตฟอร์มที่เห็นพ้องกัน" ในงานประกาศรางวัลอเมริกันมิวสิกอะวอดส์ แต่ไม่ได้กล่าวถึงชื่อของสวิฟต์
ในช่วง สวิฟต์ออกสองชุด ได้แก่ โฟล์กลอร์ ในวันที่ 24 กรกฎาคม และ เอฟเวอร์มอร์ ในวันที่ 11 ธันวาคม ค.ศ. 2020 อัลบั้มสองชุดนี้พาสำรวจแนวเพลงอินดีโฟล์กและออลเทอร์นาทิฟร็อกด้วยการผลิตที่เงียบสงบมากกว่า เมื่อเทียบกับเพลงป็อปที่มีจังหวะเร็วก่อนหน้า สวิฟต์แต่งและบันทึกเสียงร่วมกับโปรดิวเซอร์ แจ็ก แอนโตนอฟฟ์ และแอรอน เดสเนอร์ จากวง อัลวินร่วมแต่งและผลิตเพลงบางเพลงภายใต้นามแฝง วิลเลียม บาวเวอรี สามซิงเกิลประชาสัมพันธ์ในแต่ละอัลบั้ม ถูกส่งให้คลื่นวิทยุในสหรัฐ ทั้ง และ ซิงเกิลตามลำดับ ได้แก่ "คาร์ดิแกน", "" และ "" จากอัลบั้มโฟล์กลอร์ และ "วิลโลว์", "" และ "" จากอัลบั้มเอฟเวอร์มอร์ "คาร์ดิแกน" และ "วิลโลว์" เปิดตัวที่อันดับหนึ่งบนชาร์ตบิลบอร์ดฮอต 100 สัปดาห์เดียวกับที่อัลบั้มเปิดตัวที่อันดับหนึ่งบนชาร์ตบิลบอร์ด 200 ทำให้สวิฟต์เป็นศิลปินคนแรกที่มีซิงเกิลและอัลบั้มเปิดตัวบนชาร์ตในสหรัฐที่อันดับหนึ่งพร้อม ๆ กัน และเป็นศิลปินคนแรกที่ทำได้ถึงสองครั้งโฟล์กลอร์ เป็นอัลบั้มที่ขายดีที่สุดในสหรัฐใน ค.ศ. 2020 ด้วยจำนวน 1.2 ล้านชุด และยังได้รางวัลอัลบั้มแห่งปีในงานประกาศผลรางวัลแกรมมี ครั้งที่ 63 ทำให้สวิฟต์เป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้รับรางวัลดังกล่าวสามครั้งด้วยกัน ที่งาน เธอชนะสามรางวัล รวมถึงศิลปินแห่งปีเป็นครั้งที่สามติดต่อกัน ตามข้อมูลของ บิลบอร์ด สวิฟต์เป็นนักดนตรีที่มีรายได้สูงที่สุดในสหรัฐใน ค.ศ. 2020 และเป็นนักดนตรีเดี่ยวที่มีค่าตัวสูงที่สุดในโลก
ค.ศ. 2021–ปัจจุบัน: การบันทึกเสียงใหม่, มิดไนส์ และดิเอราส์ทัวร์
หลังจากเกิดข้อพิพาทเรื่องต้นฉบับเพลง สวิฟต์ออกอัลบั้มที่บันทึกเสียงใหม่สองชุดใน ค.ศ. 2021 โดยเพิ่มคำว่า "เทเลอร์เวอร์ชัน" ที่ท้ายชื่ออัลบั้ม อัลบั้มแรก เฟียร์เลส (เทย์เลอร์เวอร์ชัน) ขึ้นอันดับหนึ่งบนชาร์ตบิลบอร์ด 200 เป็นอัลบั้มบันทึกใหม่อัลบั้มแรกที่ทำได้ อัลบั้มนำด้วยเพลงสามเพลง ได้แก่ "" "" และ "มิสเตอร์เพอร์เฟกต์ลีไฟน์" ร้องกับ เพลง "เลิฟสตอรี (เทเลอส์เวอร์ชัน)" ทำให้สวิฟต์เป็นศิลปินคนที่สองที่มีเพลงฉบับดั้งเดิมและบันทึกใหม่ขึ้นอันดับหนึ่งบนชาร์ตฮอตเพลงคันทรีทั้งคู่ ถัดจาก อัลบั้มที่สอง เรด (เทย์เลอร์เวอร์ชัน) วางจำหน่ายในวันที่ 12 พฤศจิกายน เพลง "" มากับภาพยนตร์สั้นในชื่อเดียวกัน กำกับโดยสวิฟต์ เปิดตัวที่อันดับหนึ่งในชาร์ตบิลบอร์ดฮอต 100 กลายเป็นเพลงที่ยาวที่สุดที่ขึ้นอันดับหนึ่ง เธอเป็นนักดนตรีหญิงที่มีค่าตัวสูงสุดใน ค.ศ. 2021 อัลบั้มใน ค.ศ. 2020 และอัลบั้มบันทึกใหม่ของเธอติด 10 อันดับอัลบั้มขายดีที่สุดแห่งปี ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2021 สวิฟต์ได้รับรางวัลโกลบอลไอคอนจากงานบริตอะวอดส์ และรางวัลซองไรเตอร์ไอคอนจาก
สวิฟต์ออกเพลง "" ในวันที่ 17 กันยายน ค.ศ. 2021 และ "" ในวันที่ 6 พฤษภาคม ค.ศ. 2022 เพลงปรากฏในตัวอย่างภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่อง (2021) และซีรีส์ช่องแอมะซอนไพรม์วิดีโอ เรื่อง (2022) ตามลำดับ นอกจากอัลบั้มเพลงแล้ว เธอยังร้องรับเชิญในเพลงสี่เพลงในช่วง ค.ศ. 2021 ถึง 2022 ได้แก่ "" และ "เบิร์ช" ของ เพลง "" ฉบับรีมิกซ์ของไฮม์ และ "" ของเอ็ด ชีแรน สวิฟต์แต่งและบันทึกเสียงเพลง "" เพลงประกอบภาพยนตร์จากนวนิยาย ค.ศ. 2018 เรื่อง ของ เธอปรากฏในภาพยนตร์ย้อนยุคเรื่อง ของ ฉายเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2022
สวิฟต์ได้รับรางวัลสามรางวัลในงานเอ็มทีวีวิดีโอมิวสิกอะวอดส์ 2022 ในวันที่ 28 สิงหาคม ค.ศ. 2022 ในขณะกล่าวรับรางวัลวิดีโอแห่งปี เธอกล่าวถึงสตูดิโออัลบั้มลำดับที่สิบ คืนต่อมา เธอเปิดเผยชื่ออัลบั้มว่า มิดไนส์ วางจำหน่ายในวันที่ 21 ตุลาคม ค.ศ. 2022
การเป็นศิลปิน
อิทธิพล
ความทรงจำเกี่ยวกับดนตรีเรื่องหนึ่งที่สวิฟต์จำได้คือขณะฟังยาย มาร์จอรี ฟินเลย์ ร้องเพลงที่โบสถ์ เมื่อตอนเป็นเด็ก สวิฟต์ชอบฟังเพลงประกอบภาพยนตร์ของดิสนีย์ "พ่อแม่ของฉันสังเกตว่า เมื่อใดที่ฉันหมดคำพูด ฉันจะคิดคำพูดของตัวเองขึ้นมา" สวิฟต์เคยกล่าวว่าแม่ของเธอทำให้เธอมีความมั่นใจ แม่ช่วยเธอเตรียมตัวนำเสนอหน้าชั้นเมื่อเธอเป็นเด็ก เธอยังกล่าวว่าแม่ทำให้เธอ "หลงใหลในการเขียนและเล่าเรื่อง" สวิฟต์ชอบเล่าเรื่องเกี่ยวกับดนตรีคันทรี และได้รู้จักแนวเพลงนี้จาก "ศิลปินคันทรีหญิงยุค 1990" เช่น ชะไนยา ทเวน เฟธ ฮิลล์ และดิกซีชิกส์ ทเวนเป็นทั้งนักแต่งเพลงและนักร้อง และเป็นอิทธิพลที่สำคัญที่สุดของสวิฟต์ ฮิลล์เป็นบุคคลตัวอย่างของสวิฟต์ในวัยเด็ก "ทุกอย่างที่เธอพูด ทำ ชุดที่เธอใส่ ฉันพยายามเลียนแบบทั้งหมด" เธอชื่นชมทัศนคติที่ชอบท้าทายของดิกซีชิกส์ และการที่วงเล่นเครื่องดนตรีของตนเอง เพลง "" เป็นเพลงแรกที่สวิฟต์ใช้หัดเล่นกีตาร์ สวิฟต์ยังตามฟังเพลงของนักร้องคันทรีเก่า ๆ เช่น ดอลลี พาร์ตัน และ เธอเชื่อว่าพาร์ตันเป็น "ตัวอย่างที่น่าเหลือเชื่อให้แก่นักแต่งเพลงหญิงทุกคน" เธอยกย่องศิลปินออลเทอร์นาทิฟคันทรี เช่น แพตตี กริฟฟิน และ
สวิฟต์ยกให้พอล แม็กคาร์ตนีย์ เดอะโรลลิงสโตนส์บรูซ สปริงส์ทีน คริส คริสตอฟเฟอร์สัน และคาร์ลี ไซมอน เป็นบุคคลตัวอย่างในอาชีพของเธอ "พวกเขาได้ลองเสี่ยงหลายครั้ง แต่พวกเขาก็ยังเป็นศิลปินคนเดิมตลอดอาชีพของเขา" แม็กคาร์ตนีย์ ทั้งในนามเดอะบีเทิลส์และศิลปินเดี่ยว ทำให้สวิฟต์รู้สึก "ราวกับว่าฉันได้เข้าไปอยู่ในหัวใจและจิตใจของเขา... นักดนตรีคนไหน ๆ ก็ฝันถึงสิ่งสืบทอดเหล่านั้นได้" เธอชื่นชมสปริงสทีนเพราะเขา "ยังคงมีความสำคัญอย่างยิ่งทางดนตรีแม้เวลาจะผ่านมานาน" เธอต้องการเป็นอย่างแฮร์ริสเมื่อเธอแก่ตัวลง "มันไม่ได้เกี่ยวกับชื่อเสียง แต่มันเกี่ยวกับดนตรี" สวิฟต์กล่าวว่า "[คริสตอฟเฟอร์สัน]โดดเด่นในเรื่องการแต่งเพลง เขาเป็นเพียงหนึ่งในกลุ่มคนที่อยู่ในธุรกิจนี้มาหลายปี แต่คุณบอกได้ว่ามันไม่ได้ทำลายเขาเลย" เธอชื่นชม "การแต่งเพลงและความซื่อสัตย์" ของไซมอน "เธอเป็นที่รู้จักว่าเป็นคนเจ้าอารมณ์แต่เป็นคนที่แข็งแกร่งด้วย"
สวิฟต์ยังได้รับอิทธิพลจากศิลปินแนวอื่น ๆ อีกมากมาย ช่วงก่อนวัยรุ่น เธอฟังศิลปินแนวบับเบิลกัมป็อป เช่น แฮนสัน และบริตนีย์ สเปียส์ สวิฟต์เคยกล่าวว่าเธอได้ "อุทิศตนอย่างแนวแน่" ให้สเปียส์ ในช่วงไฮสกูล สวิฟต์ฟังวงดนตรีร็อกหลายวง เช่น ฟอลเอาต์บอย และ เธอยังแสดงความชื่นชมนักร้องและนักแต่งเพลงร่วมสมัย เช่น อลานิส มอริสเซตต์แอชลี ซิมป์สัน และจัสติน ทิมเบอร์เลก สวิฟต์กล่าวว่าเธอ "หลงใหล" ศิลปินยุค 1960 เช่น และเดอะบีชบอยส์ด้วย อัลบัมที่ห้าของสวิฟต์ 1989 ซึ่งเป็นแนวป็อป ได้รับอิทธิพลจากศิลปินเพลงป็อปยุค 1980 เช่น แอนนี เลนนิกซ์ ฟิล คอลลินส์ และ "มาดอนน่า ยุคที่มีเพลง"
แนวดนตรี
แนวเพลงของสวิฟต์เป็นแนวป็อป ป็อปร็อก และคันทรี เธอตั้งตัวเองเป็นศิลปินคันทรีจนกระทั่งออกอัลบัม 1989 ใน ค.ศ. 2014 ซึ่งเธอบรรยายว่าเป็น "อัลบัมที่มีเพลงป็อปอยู่ติดกัน" นิตยสารโรลลิงสโตนประเมินว่า "เพลงของ [สวิฟต์] อาจได้เปิดเพลงในสถานีวิทยุเพลงคันทรี แต่เธอเป็นร็อกสตาร์แท้ ๆ หนึ่งในไม่กี่คนที่เรามีในทุกวันนี้"เดอะนิวยอร์กไทมส์กล่าวว่า "ในเพลงของสวิฟต์ไม่มีสิ่งใดบ่งบอกถึงความคันทรีมากนัก มีเพียงเสียงแบนโจ ใส่รองเท้าบูทคาวบอยคู่หนึ่งบนเวที และกีตาร์ที่ทำให้ตาลายตัวหนึ่ง แต่มีบางอย่างในการสื่ออารมณ์ที่มีเสน่ห์และบอบบางในตัวสวิฟต์ที่เป็นเอกลักษณ์กับแนชวิลล์"เดอะการ์เดียนเคยกล่าวว่า สวิฟต์ "ทำเมโลดีออกมาเร็วด้วยประสิทธิภาพของอุตสาหกรรมเพลงป็อปสแกนดิเนเวียนอย่างไร้ความสงสาร"
เสียงร้องของสวิฟต์นั้น โซฟี ชิลลาชี จาก บรรยายว่า "หวาน แต่นุ่มนวล" ในระหว่างการอัดเสียงในสตูดิโอ หนังสือพิมพ์ลอสแอนเจลิสไทมส์นิยามเสียงร้องของสวิฟต์ว่า "เส้นร้องที่ไหลลงเหมือนกับเสียงถอนหายใจด้วยความพอใจ หรือไหลขึ้นเหมือนตอนเลิกคิ้ว ทำให้ความเป็นวัยสาวที่น่ารักของเธอชวนให้คุ้นเคยได้ง่าย" ในบทวิจารณ์อัลบัมสปีกนาว นิตยสารโรลลิงสโตนกล่าวว่า "เสียงของสวิฟต์ไม่กระทบอะไรมากพอถึงระดับที่จะปิดบังความมืออาชีพที่เธอเป็นในฐานะนักร้อง เธอลดเสียงลงขณะร้องท่อนที่ทุกคนร้องได้ในแบบคลาสสิกที่เด็กสาวขี้อายคนหนึ่งพยายามจะพูดให้กลัว" ในบทวิจารณ์อัลบัมสปีกนาวอีกบท หนังสือพิมพ์กล่าวว่าก่อนหน้านี้ การใช้ถ้อยคำของเธอ "เคยฟังดูจืดและดูสับสน แต่มันเปลี่ยนไปแล้ว เธอยังฟังดูตึงและบาง และเสียงมักจะหลงไปอยู่ระดับเสียงที่ทำให้คนบางคนเป็นบ้าได้ แต่เธอเรียนรู้แล้วว่าจะสื่อสารความหมายของคำแต่ละคำได้อย่างไร" เสียงร้องสดของเธอเคยถูกลดระดับลงเป็น "พอใช้ได้" แต่ไม่เคยเท่าเพื่อน ๆ ของเธอ ใน ค.ศ. 2009 เคน ทักเกอร์ จากเอนเตอร์เทนเมนต์วีกลี พูดถึงเสียงร้องของสวิฟต์ว่ายังมีเสียง "ราบเรียบ บาง และบางครั้งไม่มั่นคงพอ ๆ กับคนไม่มีประสบการณ์" แต่อย่างไรก็ตาม สวิฟต์ได้รับคำชมที่เธอไม่ได้ใช้ปรับระดับเสียงตนเอง
ในบทสัมภาษณ์กับ สวิฟต์ตั้งตนเองเป็นนักแต่งเพลงคนหนึ่ง "ฉันแต่งเพลง และเสียงของฉันเป็นแค่ทางเชื่อมเนื้อเพลงเหล่านั้น" นักเขียนคนหนึ่งจากยอมรับใน ค.ศ. 2010 ว่าสวิฟต์ "ไม่ใช่นักร้องทางเทคนิคที่ดีที่สุด" แต่พูดถึงเธอว่าเป็น "นักสื่อสารที่ดีที่สุดที่เรามี" เสียงร้องของสวิฟต์เป็นอะไรที่สัมพันธ์กับเธอ และเธอได้ "พยายามอย่างหนัก" เพื่อปรับปรุง มีรายงานใน ค.ศ. 2010 ว่าเธอยังคงเข้าเรียนร้องเพลง เธอเคยกล่าวว่าเธอจะรู้สึกกังวลเวลาแสดง "ก็ต่อเมื่อฉันไม่มั่นใจว่าผู้ฟังคิดอย่างไรกับฉัน เหมือนตอนงานประกาศรางวัล"
การแต่งเพลง
สวิฟต์ใช้ประสบการณ์ตรงเป็นแรงบันดาลใจในการแต่งเพลง ในเพลงของเธอ สวิฟต์มักพูดถึง "คนนิรนามที่เธอแอบชอบในช่วงเรียนไฮสกูล" และคนดัง สวิฟต์มักวิพากษ์วิจารณ์คนรักเก่าอยู่บ่อย ๆ ซึ่งเป็นมุมมองการแต่งเพลงที่เดอะวิลเลจวอยซ์สบประมาทไว้ "การได้ฟังว่าสิ่งที่เพลงสื่อนั้นเหมือนกับมีศาสตราจารย์ที่วางมาด และมันเป็นภัยต่อการประเมินพรสวรรค์ของสวิฟต์ ซึ่งดูไม่เป็นการสารภาพ แต่ดูเหมือนละคร" แต่นิตยสารนิวยอร์กเชื่อว่า การที่สื่อพินิจพิเคราะห์การตัดสินใจของเธอที่จะ "ขุดชีวิตส่วนตัวมาใส่ในเพลงนั้น [...] เป็นการแบ่งแยกเพศ เนื่องจากไม่ได้มีการขอเพื่อนผู้ชายเลย" ตัวสวิฟต์เองเคยกล่าวว่า ไม่ใช่ทุกเพลงที่แต่งจากเรื่องจริง และบางครั้งเกิดจากการสังเกตการณ์ นอกจากคำบอกใบ้ของเธอในเพลง สวิฟต์พยายามไม่พูดถึงประเด็นของเพลงแบบเจาะจง "เพราะคนเหล่านี้คือคนจริง ๆ คุณพยายามหยั่งรู้ถึงพื้นเพที่คุณมาเป็นนักแต่งเพลง โดยไม่ต้องเสียเพื่อนจากความเห็นแก่ตัว"
สำหรับผู้หญิงคนหนึ่งที่แต่งเพลงเกี่ยวกับความรู้สึกตัวเอง และถูกนำไปถ่ายทอดในฐานะแฟนสาวที่สิ้นหวัง ขาดสติ และติดกับผู้อื่น ที่ต้องการให้คุณแต่งงานและมีลูกกับเธอ ฉันคิดว่านั่นต้องใช้บางอย่างที่ต้องฉลอง นั่นคือผู้หญิงที่แต่งเพลงสารภาพความรู้สึกของตัวเอง นั่นจะเปลี่ยนมันเป็นอะไรที่แบ่งแยกเพศอย่างเปิดเผย
— สวิฟต์กล่าวตอบคำวิจารณ์เกี่ยวกับการแต่งเพลงของเธอ
หนังสือพิมพิมพ์เดอะการ์เดียนยกย่องสวิฟต์เกี่ยวกับการเขียน "ระลึกความหลังโทนซีเปียด้วยความโหยหา" ในช่วงวัยรุ่น ตลอดสองอัลบัมแรก นิตยสารนิวยอร์กกล่าวว่านักร้องนักแต่งเพลงหลายคนทำเพลงดี ๆ ไว้เมื่อครั้งเป็นวัยรุ่น แต่ "ไม่มีใครทำเพลงดี ๆ ที่เกี่ยวกับช่วงวัยรุ่นได้ชัดเจน" นิตยสารเปรียบเธอกับ สำหรับภาพนิยายปรัมปราบนปกอัลบัมเฟียร์เลส เธอได้ศึกษาความไม่เชื่อมโยงกันระหว่าง "นิทานปรัมปราและความเป็นจริงของความรัก" อัลบัมถัดจากนั้นพูดถึงความสัมพันธ์แบบผู้ใหญ่มากขึ้น นอกจากความโรแมนติกและความรักแล้ว เพลงหลายเพลงของสวิฟต์ยังพูดถึงความสัมพันธ์แบบพ่อแม่ลูก มิตรภาพ ความห่างเหิน ชื่อเสียง และความทะเยอทะยานในการทำงาน สวิฟต์มักใส่ "วลีที่คิดขึ้นฉับพลันเพื่อแสดงสิ่งที่ยิ่งใหญ่และจริงจังที่ไม่เข้ากับเพลง สิ่งที่เพิ่มหรือล้มล้างเรื่องเล่าในเพลง"
โรลลิงสโตนยกให้เธอเป็น "นักปราชญ์แต่งเพลงที่มีพรสวรรค์ตั้งแต่เกิดในการแต่งเพลงตามโครงสร้าง เวิร์ส-คอรัส-บริดจ์" จากข้อมูลของเดอะวิลเลจวอยซ์ สวิฟต์ใช้แต่งให้เนื้อเพลงพลิกแพลงในท่อนเวิร์สที่สามอยู่บ่อย ๆ ในเรื่องของกระบวนการจินตภาพ สิ่งที่เห็นได้ชัดในการแต่งเพลงของสวิฟต์คือการกล่าวซ้ำ ในคำกล่าวของเดอะการ์เดียน กล่าวว่า "เธอใช้เวลาจูบกันท่ามกลางสายฝนมากจนดูเหมือนปาฏิหาริย์ที่เท้าของเธอไม่เคยเปื่อยเลย" นิตยสารเสริมว่า "สวิฟต์ศึกษาแนวเรื่องใหม่ตลอดการทำอัลบัม [ที่สี่ของเธอ]" ขณะที่บทวิจารณ์งานเพลงของสวิฟต์เป็น "ด้านบวกแทบจะเป็นเสียงเดียวกัน" เดอะนิวยอร์กเกอร์กล่าวว่าเธอถ่ายทอด "ในฐานะนักเทคนิคผู้เชี่ยวชาญได้มากกว่าในฐานะนักคิดแบบดีแลน"
ภาพลักษณ์ในที่สาธารณะ
ชีวิตส่วนตัวของสวิฟต์เป็นประเด็นที่สื่อให้ความสนใจอย่างต่อเนื่อง ใน ค.ศ. 2013 แอเบอร์ครอมบีแอนด์ฟิตช์ทำการตลาดโดยใช้คำโปรยเสื้อยืดโดยมีคำว่า "โสเภณีน่าอาย" (slut-shaming) ตั้งใจสื่อถึงเธอโดยตรงเดอะนิวยอร์กไทมส์ยืนยันว่า "ประวัติการคบผู้ชายของสวิฟต์เริ่มทำให้เกิดจุดเริ่มต้นของการตอกกลับ" และตั้งคำถามว่าสวิฟต์กำลังตกอยู่ท่ามกลาง "วิกฤตในชีวิตช่วง 25 ปีแรกของเธอหรือไม่" สวิฟต์เคยกล่าวว่าเธอไม่อยากเล่าถึงชีวิตส่วนตัวออกสื่อสาธารณะ เนื่องจากเธอเชื่อว่า การพูดถึงมันอาจเป็น "จุดอ่อนในการทำงาน" ได้
โรลลิงสโตนกล่าวถึงมารยาทที่เหมาะสมของสวิฟต์ว่า "ถ้านี่เป็นการเล่นหน้าเล่นตาของสวิฟต์ มันจะต้องเป็นดั่งรอยสัก เพราะมันจะไม่หลุดหายไป" นิตยสารดังกล่าวยังสนใจ "การต้อนรับอย่างอบอุ่น" ของสวิฟต์ด้วย นิตยสารเดอะฮอลลิวูดรีพอร์เตอร์ให้เธอเป็น "บุคคลยอดเยี่ยมนับตั้งแต่บิล คลินตัน" ในขณะมอบรางวัลด้านมนุษยธรรมให้สวิฟต์ใน ค.ศ. 2012 มิเชล โอบามา กล่าวยกย่องเธอว่าเป็นคนที่ "ทะยานขึ้นจุดสูงสุดของอุตสาหกรรมดนตรีแต่เท้ายังติดดิน คนที่ทำลายมาตรฐานที่คาดไว้ของสิ่งที่คนอายุ 22 ปีจะทำสำเร็จได้" สวิฟต์ยกให้โอบามาเป็นบุคคลตัวอย่างคนหนึ่ง สวิฟต์เป็นหนึ่งในบุคคลที่มีผู้ติดตามมากที่สุดในสื่อสังคม และเป็นที่รู้กันว่าเธอมีปฏิสัมพันธ์เป็นมิตรกับแฟนเพลง เธอเคยส่งของขวัญวันหยุดให้แฟนเพลงผ่านทางจดหมาย และส่งให้ด้วยตนเอง เรียกของชิ้นนั้นว่า "สวิฟต์มาส" (Swiftmas) เธอมองว่าเป็น "ความรับผิดชอบ" ที่ต้องตระหนักว่าเธอมีอิทธิพลต่อแฟนเพลงหนุ่มสาว และเคยกล่าวว่าแฟนเพลงของเธอเป็น "ความสัมพันธ์ที่ยาวนานและดีที่สุดที่เธอเคยมี"
สื่อมักเรียกสวิฟต์บ่อย ๆ ว่า "หวานใจของอเมริกา" แต่สวิฟต์ยืนยันว่า "ฉันไม่ได้อยู่กับกฎแปลก ๆ แข็งกระด้างที่ล้อมกรอบฉัน ฉันแค่ชอบแบบที่ฉันรู้สึกและทำให้ฉันรู้สึกเป็นอิสระ" เธอปฏิเสธที่จะถ่ายแบบยั่วยวนทางเพศ แต่ มองสวิฟต์เป็นคนหนึ่ง ใน ค.ศ. 2011 เธอได้ชื่อว่าสัญรูปแห่งวิถีชีวิตอเมริกัน แต่งตั้งโดยนิตยสารโว้ก ใน ค.ศ. 2014 เธออยู่อันดับหนึ่งในรายชื่อผู้แต่งตัวดูดีที่สุดประจำปีโดยนิตยสารพีเพิล ใน ค.ศ. 2015 ที่งาน เธอได้ชื่อว่า ผู้หญิงแห่งปี และติดอันดับหนึ่งในรายชื่อคนฮอต 100 คนของนิตยสารแม็กซิม
สวิฟต์ยังมีชื่อติดอยู่ในหลายรายชื่อ เธอเป็นหนึ่งใน 100 ผู้มีอิทธิพลที่สุดประจำปี ใน ค.ศ. 2010 และ 2015 จัดโดยนิตยสารไทม์ด้วย ตั้งแต่ ค.ศ. 2011–2015 เธอเป็นหนึ่งในสามอันดับแรกของผู้หญิงที่มีรายได้สูงสุดในวงการดนตรีจัดโดยนิตยสารฟอบส์ โดยเธอมีรายได้ 45 ล้าน, 57 ล้าน, 55 ล้าน, 64 ล้าน และ 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐตามลำดับ ใน ค.ศ. 2015 เธอเป็นผู้หญิงอายุน้อยที่สุดที่อยู่ในของฟอบส์ 100 คน อยู่ในอันดับที่ 64 ใน ค.ศ. 2016 สวิฟต์เป็น 170 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เธอยังอยู่ในสิบอันดับแรกใน ค.ศ. 2011, 2013 และ 2015 เธอเป็นหนึ่งในรายชื่อบุคคลแห่งปีของนิตยสารไทม์ ค.ศ. 2014 ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2017 รายได้สุทธิของสวิฟต์ประมาณอยู่ที่ 280 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2018 ฟอบส์ปรับปรุงรายได้สุทธิโดยประมาณของสวิฟต์อยู่ที่ 320 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
กิจกรรมอื่น ๆ
การกุศล
กิจกรรมการกุศลของสวิฟต์เป็นที่จดจำจากรางวัล และบริการสำหรับผู้ประสบภัยพิบัติที่เทนเนสซี เธอยังได้รับรางวัลเดอะบิกเฮลป์อะวอร์ด จากที่เธอ "อุทิศตนช่วยเหลือคนอื่น ๆ" และ "บันดาลใจให้คนอื่นลงมือทำ" และรางวัลริปเพิลออฟโฮป เนื่องจากเธอ "อุทิศตนช่วยเหลือตั้งแต่อายุยังน้อย เทย์เลอร์เป็นผู้หญิงประเภทที่เราอยากให้ลูกสาวของเราเป็น" ใน ค.ศ. 2008 เธอบริจาคเงิน 100,000 ดอลลาร์ให้แก่หน่วยงานกาชาดเพื่อช่วยเหลือเหยื่อ สวิฟต์แสดงในคอนเสิร์ตการกุศล เช่น ที่ซิดนีย์ เธอยังอัดเพลงใส่อัลบั้มด้วย จากเหตุ สวิฟต์บริจาคเงิน 500,000 ดอลลาร์ระหว่างเทเลธอนจัดโดยช่อง ใน ค.ศ. 2011 สวิฟต์ซ้อมคอนเสิร์ตสปีกนาวทัวร์รอบสุดท้ายในอเมริกาเหนือเพื่อหารายได้ให้เหยื่อในสหรัฐ รวบรวมรายได้ได้มากกว่า 750,000 ดอลลาร์ ใน ค.ศ. 2012 สวิฟต์ส่งเสริมเทเลธอนชื่อรีสโตร์เดอะชอร์ขององค์กร หลังเกิด ใน ค.ศ. 2016 เธอบริจาคเงินให้ และกองทุนอัคคีภัยดอลลี พาร์ตัน
สวิฟต์เป็นผู้สนับสนุนศิลปะและได้บริจาคเงิน 75,000 ดอลลาร์ให้แก่โรงเรียน เพื่อช่วยปรับปรุงระบบแสงและเสียงในหอประชุมของโรงเรียน ใน ค.ศ. 2012 เธอมอบเงิน 4 ล้านดอลลาร์เพื่อเป็นทุนก่อสร้างศูนย์การเรียนแห่งใหม่ที่ที่แนชวิลล์ ใน ค.ศ. 2012 สวิฟต์เป็นหุ้นส่วนกับบริษัทเช่าตำราเรียนชื่อ บริจาคเงิน 60,000 ดอลลาร์ให้แก่สาขาวิชาดนตรีในวิทยาลัยหกแห่ง สวิฟต์ส่งเสริมการรู้หนังสือของเด็ก ๆ ด้วย ใน ค.ศ. 2009 เธอบริจาคเงิน 250,000 ดอลลาร์ให้แก่โรงเรียนหลายแห่งทั่วประเทศ ความพยายามในการส่งเสริมการรู้หนังสืออย่างอื่น ได้แก่ ห้องสมุดสาธารณะเรดิง รัฐเพนซิลเวเนีย 6,000 เล่ม ห้องสมุดสาธารณะแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี 14,000 เล่ม หนังสือเรียน 2,000 เล่มมอบให้ศูนย์สุขภาพเด็ก และโรงเรียนหลายแห่งในนครนิวยอร์ก 25,000 เล่มเมื่อปี ค.ศ. 2015
ใน ค.ศ. 2007 เธอออกโครงการรณรงค์ปกป้องเด็กจากผู้ร้ายออนไลน์ หุ้นส่วนกับสมาคมอธิบดีกรมตำรวจเทนเนสซี ใน ค.ศ. 2009 สวิฟต์บันทึกเสียงโฆษณาประชาสัมพันธ์บริการสาธารณะให้ผู้ฟังตระหนักถึงความสำคัญของการฟัง "อย่างมีความรับผิดชอบ" เพื่อป้องกันหูหนวก เธอเคยบริจาคเงินให้มูลนิธิการกุศลมากมาย ได้แก่ และ ใน ค.ศ. 2011 ในฐานะผู้ให้ความบันเทิงแห่งปีของโรงเรียนดนตรีคันทรี สวิฟต์บริจาคเงิน 25,000 ดอลลาร์ให้แก่ รัฐเทนเนสซี ใน ค.ศ. 2012 สวิฟต์ร่วมในเทเลธอน ร้องเพลง "" ซึ่งเธอแต่งให้แก่เด็กชายอายุสี่ขวบคนหนึ่งที่เสียชีวิตจากนิวโรบลาสโตมา เพลงมีให้ดาวน์โหลด รายได้จากการดาวน์โหลดบริจาคให้แก่องค์กรการกุศลที่เกี่ยวกับโรคมะเร็ง ใน ค.ศ. 2014 เธอบริจาคเงิน 100,000 ดอลลาร์ให้แก่ และ 50,000 ดอลลาร์ให้ สวิฟต์เคยแวะเยี่ยมผู้ป่วยและคอยช่วยเหลือตามโรงพยาบาลต่าง ๆ เป็นการส่วนตัว สวิฟต์เชิญชวนให้คนวัยหนุ่มสาวอาสาในชุมชนท้องถิ่นตนเองเป็นส่วนหนึ่งของวันบริการเยาวชนโลก ในปี ค.ศ. 2018 เธอกับผู้หญิงอีก 300 คนในฮอลลิวูดก่อตั้งขบวนการไทมส์อัปเพื่อปกป้องผู้หญิงจากการกดขี่ข่มเหงและการกีดกัน
การเมือง
ระหว่างการเลือกตั้งประธานาธิบดี ค.ศ. 2008 สวิฟต์สนับสนุนการรณรงค์เอเวอรีวูแมนเคานส์ มีเป้าหมายให้ผู้หญิงมีส่วนร่วมในการเมือง และเป็นหนึ่งในศิลปินคันทรีที่ได้บันทึกเสียงโฆษณาบริการสาธารณะให้โครงการโหวต (ฟอร์ยัวร์) คันทรี เธอกล่าวว่า "ฉันคิดว่าฉันไม่ได้มีหน้าที่พยายามโน้มน้าวผู้คนว่าให้เลือกใคร" หลังประธานาธิบดีโอบามากล่าวคำสัตย์ปฏิญาณ เธอกล่าวกับโรลลิงสโตนว่าเธอสนับสนุนเขา "ฉันยังไม่เคยเห็นประเทศนี้มีความสุขกับการตัดสินใจทางการเมืองตั้งแต่ฉันเกิด ฉันดีใจที่นี่เป็นการเลือกตั้งครั้งแรกของฉัน"
ในบทสัมภาษณ์ ค.ศ. 2012 สวิฟต์กล่าวว่า แม้ว่าเธอจะยึดตัวเองเป็น "ผู้มีการศึกษาและมีความรู้มากเท่าที่จะเป็นไปได้" เธอไม่ขออภิปรายทางการเมือง โดยเกรงว่ามันอาจกลายเป็นอิทธิพลต่อคนอื่นได้ สวิฟต์เคยใช้เวลาอยู่กับ และเคยกล่าวชื่นชม เธอเป็นนักสิทธิสตรีด้วย เธอต่อต้านการเหยียดรสนิยมทางเพศ หลังจาก ใน ค.ศ. 2008 เธอบันทึกเสียงโฆษณาบริการสาธารณะให้องค์กร (GLSEN) เพื่อสู้กับ หลังครบรอบการเสียชีวิตของคิงหนึ่งปี สวิฟต์กล่าวกับเซเวนทีนว่า พ่อแม่สอนไม่ให้เธอ "ตัดสินคนอื่นโดยมองว่าเขารักใคร สีผิวอะไร หรือศาสนาอะไร" มิวสิกวิดีโอเพลง "มีน" ต่อต้านการกลั่นแกล้ง มีส่วนเกี่ยวข้องกับโฮโมโฟเบียในไฮสกูล วิดีโอได้เข้าชิงรางวัลกิจกรรมทางสังคมของเอ็มทีวีวิดีโอมิวสิกอะวอดส์ ใน ค.ศ. 2011 ด้วยเดอะนิวยอร์กไทมส์เชื่อว่าเธอเป็นหนึ่งใน "คลื่นลูกใหม่ของผู้หญิง (รสนิยมต่างเพศ) วัยสาวที่ทำเพลงให้แก่แฟนคลับเกย์ที่ยอมรับตัวตนของตัวเองในเวลาที่มีประเด็นทางวัฒนธรรมที่ชวนสับสน"
ก่อนการเลือกตั้งสหรัฐกึ่งวาระ ค.ศ. 2018 สวิฟต์ประกาศสนับสนุนผู้ลงเลือกตั้งพรรคเดโมแครตสองคน ได้แก่ สมาชิกรัฐสภา สำหรับการลงเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และอดีต สำหรับลงเลือกตั้งวุฒิสภา เธอออกมากล่าวต่อต้านผู้คัดค้านเบรเดเซน สมาชิกวุฒิสภาหญิงของพรรครีพับลิกัน กล่าวว่าการโหวตของเธอ "ทำให้เธอกลัว" เธอออกมาแจ้งความประสงค์สนับสนุนสิทธิของ LGBT และความเท่าเทียมกันทางเพศและเชื้อชาติ และประนามการเหยียดชาติพันธุ์ กล่าวถึงโพสต์ของสวิฟต์ รายงานว่ามีคนลงเลือกตามโพสต์ของเธอถึง 65,000 คนใน 24 ชั่วโมง จำนวนผู้โหวตที่ไม่คาดคิดนี้ เกิดจากมีผู้สมัครมากขึ้นตามปกติเมื่อใกล้ถึงกำหนดเวลา ระหว่างการประกาศรับรางวัลศิลปินแห่งปีในงานอเมริกันมิวสิกอะวอดส์ 2018 เธอโน้มน้าวให้แฟนเพลงเลือกตั้งในการเลือกตั้งกึ่งวาระ 2018
การสนับสนุนผลิตภัณฑ์
ขณะส่งเสริมอัลบั้มแรก สวิฟต์เป็นหน้าตาให้แก่โครงการโมบายล์มิวสิกของบริษัท ในยุคอัลบั้มเฟียร์เลส เธอออกสินค้าเสื้อผ้าซันเดรสให้บริษัท (l.e.i.) วางจำหน่ายที่วอลมาร์ต และออกแบบบัตรให้บริษัท และตุ๊กตา เธอเคยเป็นโฆษกให้ทีมของ (NHL) และกล้องดิจิทัล ในยุคอัลบั้มสปีกนาว เธอออกอัลบั้มรูปแบบพิเศษจำหน่ายผ่าน สวิฟต์เคยเป็นโฆษกให้ยี่ห้อ ออกน้ำหอม สองรุ่น ได้แก่ และวันเดอร์สตรักเอ็นแชนเทด
ขณะส่งเสริมอัลบั้มที่สี่ เรด สวิฟต์ส่งเสริมอัลบั้มด้วยโปรโมชันเฉพาะผ่านทาร์เกต และ เธอเคยเป็นโฆษกให้ และรองเท้ากีฬา ออกน้ำหอมเอลิซาเบธ อาร์เดนรุ่นที่สามชื่อ เทย์เลอร์ บาย เทย์เลอร์ สวิฟต์ และเป็นหุ้นส่วนกับโซนีอิเล็กทรอนิกส์ และอเมริกันกรีทิงส์ สวิฟต์ยังเคยเป็นหุ้นส่วนกับบริษัทแอร์เอเชีย และควอนตัส ในระหว่างทัวร์เรดทัวร์ด้วย นับว่าเป็นสายการบินทางการในช่วงทัวร์ทวีปออสเตรเลียและเอเชีย และไอศกรีมเป็นผู้สนับสนุนทัวร์ในทวีปเอเชีย ในระหว่างส่งเสริมอัลบั้ม 1989 สวิฟต์โฆษณาให้ซับเวย์ เคดส์ ทาร์เกต และไดเอตโค้ก ใน ค.ศ. 2014 สวิฟต์ออกน้ำหอมรุ่นที่สี่ชื่อ
ใน ค.ศ. 2016 สวิฟต์เซ็นสัญญาหลายปีกับเอทีแอนด์ที จากนั้นสวิฟต์ได้ลงพาดหัวอีเวนต์ซูเปอร์แซเทอร์เดย์ไนต์ของ ในคืนก่อนงานซูเปอร์โบวล์ 2017 ขณะส่งเสริมอัลบั้มเรพิวเทชัน สวิฟต์ออกชุดเบื้องหลังวิดีโอแสดงกระบวนการอัดเสียงลงอัลบั้มผ่านทางไดเรกทีวี ใน ค.ศ. 2018 สวิฟต์ออกภาพยนตร์โฆษณาให้เอทีแอนด์ทีสองตัว สวิฟต์หุ้นส่วนกับฟูจิฟิล์มในผลิตภัณฑ์กล้องรุ่นพิเศษที่เธอลงลายเซ็น มีโหมดถ่ายตัวเองและโหมดถ่ายภาพซ้อน วางจำหน่ายในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2018
รางวัลและความสำเร็จ
สวิฟต์ได้รับรางวัลและเกียรติยศมากมาย ได้แก่ รางวัลแกรมมี 12 รางวัลอเมริกันมิวสิกอะวอร์ด 40 รางวัล 23 รางวัล 12 รางวัล 8 รางวัลบริตอะวอดส์ 2 รางวัล และ 1 รางวัล ในฐานะนักแต่งเพลง เธอได้รับเกียรติจาก และ และถูกรวมในรายชื่อนักแต่งเพลงยอดเยี่ยมตลอดกาล 100 คน จัดอันดับโดยโรลลิงสโตนเมื่อ ค.ศ. 2015
ก่อนต้น ค.ศ. 2016 สวิฟต์ขายอัลบั้มได้มากกว่า 40 ล้านอัลบั้ม ขายซิงเกิลดาวน์โหลดได้ 130 ล้านซิงเกิล และเป็นหนึ่งในห้านักดนตรีที่มียอดขายดิจิทัลสูงที่สุดทั่วโลก สตูดิโออัลบั้มของสวิฟต์ เทย์เลอร์ สวิฟต์ เฟียร์เลส สปีกนาว เรด และ 1989 ขายได้มากกว่า 4 ล้านหน่วยในสหรัฐ สวิฟต์เป็นศิลปินที่ขายซิงเกิลดิจิทัลได้มากเป็นอันดับสามในสหรัฐ โดยมียอดขายรวม 106.5 ล้านหน่วย ตามข้อมูลของสมาคมผู้ประกอบกิจการเพลงของสหรัฐอเมริกา
ผลงานเพลง
สตูดิโออัลบั้ม
| บันทึกเสียงใหม่
|
ผลงานการแสดง
| ภาพยนตร์สารคดีและคอนเสิร์ต
|
คอนเสิร์ตทัวร์
- (2009–2010)
- (2011–2012)
- เดอะเรดทัวร์ (2013–2014)
- เดอะ 1989 เวิลด์ทัวร์ (2015)
- เรพิวเทชันสเตเดียมทัวร์ (2018)
- ดิเอราส์ทัวร์ (2023–2024)
หมายเหตุ
- เดิมที เพลงแต่งโดยสวิฟต์และ นักร้องนำวงเทรน ลงอัลบั้มเรด
อ้างอิง
- "Taylor Swift Biography: Singer (1989–)". . จากแหล่งเดิมเมื่อ August 30, 2016. สืบค้นเมื่อ April 9, 2015.
- Jepson, Louisa (2013). Taylor Swift. Simon and Schuster. p. 1. ISBN . สืบค้นเมื่อ August 16, 2016.
- Roth, Madeline (May 19, 2015). "Taylor Swift's Brother Had The Most Epic Graduation Weekend Ever". . จากแหล่งเดิมเมื่อ July 23, 2016. สืบค้นเมื่อ July 25, 2016.
- Widdicombe, Lizzie (October 10, 2011). "You Belong With Me". . จากแหล่งเดิมเมื่อ July 24, 2014. สืบค้นเมื่อ October 11, 2011.
- Raab, Scott (October 20, 2014). "Taylor Swift Interview". . จากแหล่งเดิมเมื่อ February 16, 2015. สืบค้นเมื่อ April 11, 2015.
- "Photos Students at Alvernia Montessori School sending Taylor Swift a valentine". . February 13, 2010. จากแหล่งเดิมเมื่อ October 16, 2013. สืบค้นเมื่อ February 25, 2013.
- Hatza, George (December 8, 2008). "Taylor Swift: Growing into superstardom". Reading Eagle. จากแหล่งเดิมเมื่อ April 1, 2012. สืบค้นเมื่อ April 17, 2012.
- Mennen, Lauren (November 12, 2014). "Taylor Swift's Wyomissing childhood home on the market for $799,500". . จากแหล่งเดิมเมื่อ October 17, 2016. สืบค้นเมื่อ October 13, 2016.
- "Taylor Swift Returns to Reading Pennsylvania as Maid of Honor in Friend's Wedding". . February 22, 2016. จากแหล่งเดิมเมื่อ September 16, 2016. สืบค้นเมื่อ August 26, 2016.
- "Taylor Swift, Age 12". . จากแหล่งเดิมเมื่อ August 27, 2016. สืบค้นเมื่อ August 26, 2016.
- Cooper, Brittany Joy (April 15, 2012). "Taylor Swift Opens Up About a Future in Acting and Admiration for Emma Stone". Taste of Country. จากแหล่งเดิมเมื่อ April 17, 2012. สืบค้นเมื่อ April 17, 2012.
- MacPherson, Alex (October 18, 2012). "Taylor Swift: 'I want to believe in pretty lies'". The Guardian. จากแหล่งเดิมเมื่อ August 26, 2016. สืบค้นเมื่อ August 3, 2016.
- Rolling Stone Interview: The Unabridged Taylor Swift, December 2, 2008
- Morris, Edward (December 1, 2006). "When She Thinks 'Tim McGraw', Taylor Swift Savors Payoff: Hardworking Teen to Open for George Strait Next Year". . จากแหล่งเดิมเมื่อ June 26, 2015. สืบค้นเมื่อ March 11, 2010.
- Diu, Nisha Lilia (April 3, 2011). "Taylor Swift: 'I won't do sexy shoots'". The Daily Telegraph. London. จากแหล่งเดิมเมื่อ May 6, 2013. สืบค้นเมื่อ April 17, 2012.
- "News : CMT Insider Interview: Taylor Swift (Part 1 of 2)". CMT. November 26, 2008. จากแหล่งเดิมเมื่อ January 23, 2015. สืบค้นเมื่อ July 1, 2012.
- "Taylor Swift: The Garden In The Machine". . May 2, 2011. จากแหล่งเดิมเมื่อ May 10, 2012. สืบค้นเมื่อ May 21, 2012.
- Martino, Andy (January 10, 2015). "EXCLUSIVE: The real story of Taylor Swift's guitar 'legend'". New York Daily News (ภาษาอังกฤษ). New York. จากแหล่งเดิมเมื่อ November 22, 2015. สืบค้นเมื่อ August 28, 2017.
- Martino, Andy (January 10, 2015). "Exclusive: The real story of Taylor Swift's guitar 'legend'". New York Daily News. New York. จากแหล่งเดิมเมื่อ November 22, 2015. สืบค้นเมื่อ November 10, 2015.
- "americanbar.org PDF" (PDF). Americanbar.org. (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ October 11, 2012. สืบค้นเมื่อ April 18, 2012.
- "On tour with Taylor Swift – Dateline NBC". . May 31, 2009. จากแหล่งเดิมเมื่อ October 5, 2013. สืบค้นเมื่อ July 1, 2012.
- Castro, Vicky (February 6, 2015). "How to Succeed as an Entrepreneur, Taylor Swift Style". Monsueto Ventures. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 24, 2016. สืบค้นเมื่อ February 9, 2015.
- Jo, Nancy (January 2, 2014). "Taylor Swift and the Growing of a Superstar: Her Men, Her Moods, Her Music". . จากแหล่งเดิมเมื่อ November 10, 2015. สืบค้นเมื่อ November 11, 2015.
- "News : Taylor Swift's High School Names Auditorium in Her Honor". CMT. September 23, 2010. จากแหล่งเดิมเมื่อ November 21, 2014. สืบค้นเมื่อ April 18, 2012.
- Grigoriadis, Vanessa (March 5, 2009). "The Very Pink, Very Perfect Life of Taylor Swift". Rolling Stone. จากแหล่งเดิมเมื่อ October 15, 2012. สืบค้นเมื่อ October 31, 2012.
- "Taylor Swift: The Garden In The Machine". American Songwriter. May 2, 2011. จากแหล่งเดิมเมื่อ August 7, 2013. สืบค้นเมื่อ May 21, 2012.
- "Songwriter Taylor Swift Signs Publishing Deal With Sony/ATV". Broadcast Music, Inc. May 12, 2005. จากแหล่งเดิมเมื่อ December 4, 2012. สืบค้นเมื่อ April 20, 2012.
- Kosser, Michael (June 3, 2010). "Liz Rose: Co-Writer to the Stars". American Songwriter. จากแหล่งเดิมเมื่อ December 24, 2011. สืบค้นเมื่อ April 19, 2012.
- Leahey, Andrew (October 24, 2014). "Songwriter Spotlight: Liz Rose". Rolling Stone. จากแหล่งเดิมเมื่อ September 26, 2016. สืบค้นเมื่อ September 24, 2016.
- DeLuca, Dan (November 11, 2008). "Focused on 'great songs' Taylor Swift isn't thinking about "the next level" or Joe Jon as gossip". Philadelphia Daily News. p. 1. จากแหล่งเดิมเมื่อ November 18, 2012. สืบค้นเมื่อ April 17, 2012.
- Preston, John (April 26, 2009). "Taylor Swift: the 19-year-old country music star conquering America – and now Britain". The Daily Telegraph. จากแหล่งเดิมเมื่อ January 5, 2012. สืบค้นเมื่อ August 30, 2012.
- Rapkin, Mickey (July 27, 2017). "Oral History of Nashville's Bluebird Cafe: Taylor Swift, Maren Morris, Dierks Bentley & More on the Legendary Venue". Billboard. จากแหล่งเดิมเมื่อ July 29, 2017. สืบค้นเมื่อ July 28, 2017.
- Hiatt, Brian (October 25, 2012). "Taylor Swift in Wonderland". Rolling Stone. จากแหล่งเดิมเมื่อ July 31, 2016. สืบค้นเมื่อ August 1, 2016.
- Greenburg, Zack O'Malley (June 26, 2013). "Toby Keith, Cowboy Capitalist: Country's $500 Million Man". Forbes. จากแหล่งเดิมเมื่อ August 27, 2016. สืบค้นเมื่อ August 1, 2016.
- Taylor Swift (CD). Taylor Swift. Big Machine Records. 2006. BMR120702.
{{}}
: CS1 maint: others () - Solin, Jennifer (August 10, 2016). "Taylor Swift New Album Release Date Postponed; Is She Laying Low After Kim Kardashian, Kanye West Drama?". . จากแหล่งเดิมเมื่อ August 16, 2016. สืบค้นเมื่อ August 15, 2016.
- Caramanica, Jon (September 5, 2008). "A Young Outsider's Life Turned Inside Out". The New York Times. จากแหล่งเดิมเมื่อ September 8, 2014. สืบค้นเมื่อ August 1, 2016.
- Trust, Gary (October 29, 2009). "Chart Beat Thursday: Taylor Swift, Tim McGraw Linked Again". Billboard. จากแหล่งเดิมเมื่อ March 7, 2013. สืบค้นเมื่อ November 8, 2016.
- . Statistic Brain Research Institute. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 30, 2016. สืบค้นเมื่อ 30 August 2016.
- Willman, Chris (February 5, 2008). "Taylor Swift's Road to Fame". Entertainment Weekly. p. 3. จากแหล่งเดิมเมื่อ February 21, 2015. สืบค้นเมื่อ April 22, 2012.
- Cowling, Lauren (November 12, 2014). "5 of Taylor Swift's Most Country Performances". Country Outfitter Life. จากแหล่งเดิมเมื่อ August 9, 2016. สืบค้นเมื่อ August 2, 2016.
- "Taylor Swift Joins Rascal Flatts Tour". CMT. October 18, 2006. จากแหล่งเดิมเมื่อ January 7, 2015. สืบค้นเมื่อ March 11, 2010.
- "Taylor Swift No. 1 on iTunes". . December 19, 2007. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 16, 2015. สืบค้นเมื่อ July 5, 2010.
- "Teardrops on My Guitar – Taylor Swift". Billboard. สืบค้นเมื่อ December 15, 2010.
- "Taylor Swift owns top of country chart". . July 23, 2008. จากแหล่งเดิมเมื่อ July 31, 2008. สืบค้นเมื่อ December 26, 2008.
- "Wal-Mart "Eyes" New Taylor Swift Project". Great American Country. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 16, 2015. สืบค้นเมื่อ July 24, 2008.
- Rosa, Christopher (March 24, 2015). "Opening Acts Who Became Bigger Than The Headliner". VH1. จากแหล่งเดิมเมื่อ November 10, 2015. สืบค้นเมื่อ November 11, 2015.
- "Taylor Swift Youngest Winner of Songwriter/Artist Award". Great American Country. October 16, 2007. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 17, 2015. สืบค้นเมื่อ February 2, 2015.
- "Photos : All Taylor Swift Pictures : Horizon Award Winner Poses in the Pressroom". CMT. September 7, 2007. จากแหล่งเดิมเมื่อ November 13, 2012. สืบค้นเมื่อ May 21, 2012.
- "Photos : 43rd Annual ACM Awards – Onstage: Winners : Acceptance Speech". CMT. May 18, 2008. จากแหล่งเดิมเมื่อ November 13, 2012. สืบค้นเมื่อ May 21, 2012.
- (Blog). Roughstock.com. November 24, 2008. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 10, 2014. สืบค้นเมื่อ May 21, 2012.
- "Amy Winehouse Wins Best New Artist, Kanye West Pays Tribute to Mom – Grammy Awards 2008, Grammy Awards". People. October 2, 2008. จากแหล่งเดิมเมื่อ November 13, 2012. สืบค้นเมื่อ May 21, 2012.
- Caplan, David (September 8, 2008). . People. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 2, 2016. สืบค้นเมื่อ March 6, 2012.
- Rizzo, Monica (November 24, 2008). . People. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 3, 2016. สืบค้นเมื่อ March 6, 2012.
- "Love Story – Taylor Swift". Billboard. สืบค้นเมื่อ March 5, 2011.
- "Discography Taylor Swift". . เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ มีนาคม 23, 2012. สืบค้นเมื่อ มกราคม 2, 2010.
- Ben-Yehuda, Ayala (August 13, 2009). "Black Eyed Peas, Jason Mraz Tie Records on Billboard Hot 100". Billboard. จากแหล่งเดิมเมื่อ May 8, 2013. สืบค้นเมื่อ March 13, 2010.
- Grein, Paul (March 16, 2012). "Chart Watch Extra: Top Albums Of Last 10 Years" (Blog). Yahoo! Music. จากแหล่งเดิมเมื่อ April 2, 2015. สืบค้นเมื่อ June 10, 2011.
- Herrera, Monica (October 8, 2009). "Taylor Swift's "Fearless" Tour Returns March 2010". Rolling Stone. จากแหล่งเดิมเมื่อ August 18, 2016. สืบค้นเมื่อ August 3, 2016.
- Mapes, Jillian (November 23, 2010). "Taylor Swift Announces 'Speak Now' World Tour". Billboard. จากแหล่งเดิมเมื่อ May 8, 2013. สืบค้นเมื่อ May 15, 2012.
- Weiss, Dan (December 12, 2011). "Taylor Swift: Journey To Fearless DVD". American Songwriter. จากแหล่งเดิมเมื่อ August 15, 2016. สืบค้นเมื่อ August 2, 2016.
- Ryan, Sarah (August 10, 2009). (Blog). Great American Country. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 6, 2015. สืบค้นเมื่อ November 11, 2015.
- Akers, Shelley (June 9, 2008). "Taylor Swift to Appear in Hannah Montana Movie". People. จากแหล่งเดิมเมื่อ October 27, 2017. สืบค้นเมื่อ October 27, 2017.
- "Hannah Montana: The Movie (Original Motion Picture Soundtrack) by Hannah Montana". iTunes Store. จากแหล่งเดิมเมื่อ May 2, 2016. สืบค้นเมื่อ August 2, 2016.
- "Kanye calls Taylor Swift after 'View' appearance". MSNBC. September 15, 2009. จากแหล่งเดิมเมื่อ October 6, 2013. สืบค้นเมื่อ September 16, 2009.
- "Taylor Swift Thanks "Gracious" Beyonce for Inviting Her Onstage After Kanye Stunt at VMAs". Rolling Stone. September 14, 2009. จากแหล่งเดิมเมื่อ June 15, 2012. สืบค้นเมื่อ May 15, 2012.
- Anderson, Kyle (September 16, 2009). "Kanye West's VMA Interruption Gives Birth To Internet Photo Meme". MTV. จากแหล่งเดิมเมื่อ January 16, 2016. สืบค้นเมื่อ October 3, 2009.
- Montgomery, James (กุมภาพันธ์ 2, 2010). "Why You Shouldn't Hate on Taylor Swift". MTV. จากแหล่งเดิมเมื่อ กันยายน 8, 2014. สืบค้นเมื่อ พฤษภาคม 15, 2012.
- Ditzian, Eric (2009). "Taylor Swift, Michael Jackson Big Winners at American Music Awards". MTV. จากแหล่งเดิมเมื่อ September 8, 2014. สืบค้นเมื่อ May 15, 2012.
- "2009 Artists of the Year". Billboard. December 10, 2009. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 4, 2010. สืบค้นเมื่อ May 21, 2012.
- "The 150 Greatest Albums Made By Women". . July 24, 2017. สืบค้นเมื่อ September 2, 2017.
- Kreps, Daniel (February 1, 2010). "Beyonce, Taylor Swift Dominate 2010 Grammy Awards". Rolling Stone. จากแหล่งเดิมเมื่อ February 15, 2012. สืบค้นเมื่อ February 13, 2012.
- Kreps, Daniel (February 4, 2010). "Taylor Swift's Label Lashes Out at Critics of Grammy Performance". Rolling Stone. จากแหล่งเดิมเมื่อ January 19, 2013. สืบค้นเมื่อ May 15, 2012.
- Caramanica, Jon (February 1, 2010). "For Young Superstar Taylor Swift, Big Wins Mean Innocence Lost". The New York Times. จากแหล่งเดิมเมื่อ August 28, 2012. สืบค้นเมื่อ May 15, 2012.
- Kaufman, Gil (November 12, 2009). "Taylor Swift Dominates CMA Awards". MTV News. จากแหล่งเดิมเมื่อ March 6, 2016. สืบค้นเมื่อ September 13, 2016.
- . Big Machine Records. April 6, 2009. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 16, 2009. สืบค้นเมื่อ April 7, 2009 – โดยทาง .
- Vena, Jocelyn (November 6, 2009). "John Mayer Talks Taylor Swift Collaboration 'Half of My Heart'". MTV. จากแหล่งเดิมเมื่อ September 8, 2014. สืบค้นเมื่อ May 15, 2012.
- "Kellie Pickler Has Her 'Best Days' Thanks To Taylor Swift". MTV. จากแหล่งเดิมเมื่อ January 1, 2016. สืบค้นเมื่อ November 11, 2015.
- "Boys Like Girls Dish on Taylor Swift". . December 15, 2009. จากแหล่งเดิมเมื่อ January 16, 2016. สืบค้นเมื่อ May 15, 2012.
- Vena, Jocelyn (December 28, 2009). "New Taylor Swift Song Included In 'Valentine's Day' Featurette". MTV. จากแหล่งเดิมเมื่อ January 16, 2016. สืบค้นเมื่อ November 11, 2015.
- "Taylor Swift – Chart history on Canadian Hot 100". Billboard. จากแหล่งเดิมเมื่อ August 9, 2016. สืบค้นเมื่อ August 3, 2016.
- Park, Michael Y.; Sia, Nicole (December 29, 2009). "Taylor & Taylor Romance Was Overblown, Says Source". People. จากแหล่งเดิมเมื่อ November 13, 2012. สืบค้นเมื่อ March 6, 2012.
- "Billboard Bits: Taylor Swifts Offers 'Apology' To Taylor Lautner, Christina Aguilera Confirms Split". Billboard. October 10, 2012. จากแหล่งเดิมเมื่อ June 5, 2016. สืบค้นเมื่อ August 2, 2016.
- Sharkey, Betsy (February 12, 2010). "Review: 'Valentine's Day' – Page 2". Los Angeles Times. จากแหล่งเดิมเมื่อ October 11, 2012. สืบค้นเมื่อ July 30, 2012.
- McCarthy, Todd (February 7, 2010). "Valentine's Day – Film Reviews". . จากแหล่งเดิมเมื่อ July 29, 2013. สืบค้นเมื่อ July 30, 2012.
- Ryan, Joal (March 6, 2009). "Wild Card American Idol Holds Off Taylor Swift CSI". E!.
- Caramanica, Jon (March 6, 2009). "OMG! Taylor Swift Does 'CSI'!". The New York Times (Blog). จากแหล่งเดิมเมื่อ August 14, 2011. สืบค้นเมื่อ May 7, 2012.
- Strecker, Erin (January 2, 2015). "Remember When Taylor Swift Shined as 'Saturday Night Live' Host?". Billboard. จากแหล่งเดิมเมื่อ January 24, 2015. สืบค้นเมื่อ January 15, 2015.
- Hammel, Sara (January 4, 2011). "Taylor Swift & Jake Gyllenhaal Break Up: Source". People. จากแหล่งเดิมเมื่อ May 9, 2012. สืบค้นเมื่อ March 6, 2012.
- Pietroluongo, Silvio (August 11, 2010). "Taylor Swift Makes Sparkling Hot 100 Entrance". Billboard. จากแหล่งเดิมเมื่อ January 31, 2016. สืบค้นเมื่อ July 25, 2016.
- Caramanica, Jon (October 20, 2010). "Taylor Swift, Angry on 'Speak Now'". The New York Times. จากแหล่งเดิมเมื่อ October 21, 2010. สืบค้นเมื่อ October 23, 2010.
- Kaufman, Gil (November 3, 2010). "Taylor Swift's Speak Now Tops 1 Million in First Week". MTV News. จากแหล่งเดิมเมื่อ August 10, 2016. สืบค้นเมื่อ August 8, 2016.
- "Fastest-selling digital album in the US by a female artist". Guinness World Records. จากแหล่งเดิมเมื่อ June 22, 2015. สืบค้นเมื่อ June 16, 2015.
- "Most simultaneous US hot 100 hits by a female". Guinness World Records. จากแหล่งเดิมเมื่อ June 22, 2015. สืบค้นเมื่อ June 16, 2015.
- Wyland, Sarah (February 12, 2012). . Great American Country. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 6, 2015. สืบค้นเมื่อ February 13, 2012.
- Suddath, Claire (February 12, 2012). "Taylor Swift, "Mean" | The Best and Worst of the 2012 Grammys". Time. จากแหล่งเดิมเมื่อ April 24, 2012. สืบค้นเมื่อ April 22, 2012.
- Deerwester, Jayme (February 12, 2012). "Adoration for Adele: 6 Grammys". USA Today. จากแหล่งเดิมเมื่อ October 26, 2012. สืบค้นเมื่อ April 22, 2012.
- Shelburne, Craig (October 18, 2010). "Taylor Swift Named NSAI's Songwriter-Artist of the Year". CMT. จากแหล่งเดิมเมื่อ January 16, 2016. สืบค้นเมื่อ November 21, 2015.
- Smith, Hazel (October 24, 2011). "News : Hot Dish: Taylor Swift Sings Alan Jackson's Masterpiece at Nashville Songwriters Celebration". CMT. จากแหล่งเดิมเมื่อ November 29, 2014. สืบค้นเมื่อ April 22, 2012.
- Roland, Tom (December 2, 2011). "Taylor Swift: Billboard's Woman of the Year". Billboard. p. 1. จากแหล่งเดิมเมื่อ February 3, 2013. สืบค้นเมื่อ May 15, 2012.
- "Taylor Swift wins ACM entertainer of the year". Yahoo!. Associated Press. April 1, 2012. จากแหล่งเดิมเมื่อ August 23, 2016. สืบค้นเมื่อ May 15, 2012.
- "CMA Awards 2011: Taylor Swift wins entertainer of the year". CBS News. November 9, 2011. จากแหล่งเดิมเมื่อ September 8, 2014. สืบค้นเมื่อ May 15, 2012.
- Kellogg, Jane (November 20, 2011). "AMAs 2011: Winners and Nominees Complete List". . จากแหล่งเดิมเมื่อ June 27, 2015. สืบค้นเมื่อ November 21, 2015.
- "Women Who Rock: The 50 Greatest Albums of All Time". Rolling Stone. June 23, 2012. จากแหล่งเดิมเมื่อ December 10, 2016. สืบค้นเมื่อ July 15, 2017.
- Allen, Bob (March 29, 2012). "Hot Tours: Taylor Swift, George Strait, Cirque Du Soleil". Billboard. จากแหล่งเดิมเมื่อ February 21, 2013. สืบค้นเมื่อ May 10, 2012.
- . Taylorswift.com. September 21, 2011. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 11, 2011. สืบค้นเมื่อ September 21, 2011.
- Herrera, Monica (March 15, 2012). "Taylor Swift, Arcade Fire Talk 'Hunger Games'". Rolling Stone. จากแหล่งเดิมเมื่อ June 27, 2015. สืบค้นเมื่อ May 10, 2012.
- Horowitz, Steven J. (April 20, 2012). "B.o.B Explains Origins of Taylor Swift Collaboration "Both of Us"". HipHopDX. จากแหล่งเดิมเมื่อ September 10, 2015. สืบค้นเมื่อ May 15, 2012.
- Toomedy, Alyssa. "Taylor Swift and Conor Kennedy Breakup: Anatomy of a Split". E!. จากแหล่งเดิมเมื่อ December 4, 2015. สืบค้นเมื่อ November 10, 2015.
- Trust, Gary (August 22, 2012). "Taylor Swift Scores First Hot 100 No. 1". Billboard. จากแหล่งเดิมเมื่อ February 13, 2013. สืบค้นเมื่อ August 22, 2012.
- . New Zealand Charts. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-07-29. สืบค้นเมื่อ July 26, 2016.
- Lynch, Kevin (September 4, 2013). "Calvin Harris trumps Michael Jackson feat to join Taylor Swift, Rihanna and One Direction in Guinness World Records™ 2014 book". Guinness World Records. จากแหล่งเดิมเมื่อ June 22, 2015. สืบค้นเมื่อ June 16, 2015.
- "Taylor Swift – Chart history". Billboard. จากแหล่งเดิมเมื่อ August 9, 2016. สืบค้นเมื่อ July 26, 2016.
- Apodaca, Joseph. "Billboard names Taylor Swift 2014's No. 1 music Money Maker — see who made the top 10". . จากแหล่งเดิมเมื่อ May 16, 2016. สืบค้นเมื่อ June 19, 2016.
- "Taylor Swift's 'Red' Sells 1.21 Million; Biggest Sales Week for an Album Since 2002". Billboard. September 14, 2009. จากแหล่งเดิมเมื่อ February 1, 2013. สืบค้นเมื่อ November 7, 2012.
- Greenwald, David (September 6, 2013). "Taylor Swift, Rihanna, Justin Bieber Among 2014 Guinness Record-Setters". Billboard. จากแหล่งเดิมเมื่อ June 8, 2015. สืบค้นเมื่อ July 27, 2016.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
ethyelxr aexlisn swift xngkvs Taylor Alison Swift ekid 13 thnwakhm kh s 1989 ethxepnnkrxngaelankaetngephlngchawxemrikn ethxepnhnunginsilpinhyingrwmsmyyxdniymthiepnthiruckcakkaraetngephlngekiywkbchiwitswntwaelaepnthisnickhxngsuxxyangmak swiftekidaelaetibotinewsterding rthephnsileweniy ethxyayipyngemuxngaenchwill rthethnenssi khnaxayu 14 pi ephuxhanganthaekiywkbephlngkhnthri ethxidesnsyyakbbristhosni exthiwimiwsikphbblichching in kh s 2004 aelaesnsyyakbkhayephlngbikaemchinerekhids in kh s 2005 aelaxxkxlbmaerkinchuxediywkbtnexng in kh s 2006ethyelxr swiftswift in kh s 2023ekidethyelxr aexlisn swift 1989 12 13 13 thnwakhm kh s 1989 34 pi rthephnsileweniy shrthxachiphnkrxng nkaetngephlng nkdntri oprdiwesxr phukakb nkthurkic nkaesdngpiptibtingankh s 2003 pccubnxngkhkarethyelxrswiftoprdkchnphlnganyati nxngchay ya rangwlxachiphthangdntrithiekidaenchwill rthethnenssi shrthaenwephlngpxp khnthri oflk rxkekhruxngdntriesiyngrxng kitar epiyon aebnoc xukuelelkhayephlngriphblik bikmachinewbistwww wbr taylorswift wbr comlaymuxchux swiftthadntrikhnthripxpinxlbmthisxngaelasam efiyrels 2008 aela spiknaw 2010 khwamsaerccaksingekilinxlbmthisxng elifstxri aela yubilxngwithmi inkhlunwithyuephlngkhnthriaelaephlngpxpthaihswiftepnsilpinkhamaenwephlngthioddedn ethxyngidthdlxngdntriaenwpxp rxk aelaxielkthrxniksinxlbmthisi erd 2012 xlbmthiha 1989 2014 epliynsthanaswiftcaksilpinkhnthriepnpxpstar odymiaerngsnbsnuncaksingekilxndbhnungbnbilbxrdhxt 100 idaek echkxitxxf aeblngkseps aela aebdbld karthisuxihkhwamsnicinchiwitswntwkhxngethxmakkhunbndalicihekidxlbmthihk erphiwethchn 2017 sungdntriepliynepnaenw hlngcakaeykthangkbkhaybikaemchin aelwesnsyyakbriphblikerekhids in kh s 2018 swiftxxkxlbmthiecd elifewxr in kh s 2019 hlngcakprasbkhwamsaercinthswrrs 2010 ethxkawekhasudntriaenwxindioflkaelaxxlethxrnathifrxkinxlbmsxngchudthixxkin kh s 2020 khux oflklxr aelaexfewxrmxr sungenuxephlngidrbaerngbndaliccakkarekbtwinchwngkaraephrrabadkhxngokhwid 19 idrbkhachmineruxngkarelaeruxngthikhlaykn ephuxihidsiththikarkhrxbkhrxngklbkhunma hlngekidkhxphiphathekiywkbngantnchbbkhxngswift ethxxxkxlbmephlngthibnthukesiyngihmxxkmasxngchudin kh s 2021 idaek efiyrels ethyelxrewxrchn aelaerd ethyelxrewxrchn thngsxngxlbmidrbkhachmindandntrithimikhunphaphmakkhun aelaesiyngrxngthiphthnakhuncakedim nxkcakdntri swiftidrbbthinphaphyntrtang echn 2010 aelaaekhts 2019 ethxxxkphaphyntrsarkhdixtchiwprawtieruxngmisxemrikana 2020 aelaphaphyntrmiwsikhlthiethxkakbexng idaek oflklxr edxalxngphxndstudioxesschns 2020 aela xxlthuewl edxachxrtfilm 2021 aelaxun swiftepnhnunginsilpinnkdntrithikhaydithisudtlxdkal ethxkhayxlbmidmakkwa 400 lanchudthwolk ethxidrbrangwlaekrmmi 14 rangwl rwmrangwlxlbmaehngpi 4 rangwl 1 rangwl rangwlbilbxrdmiwsikxawxds 25 rangwl 12 rangwl xemriknmiwsikxawxds 40 rangwl silpinthiidrbmakthisud aelaidrbkarbnthukinbnthuksthitiolkkinenss 49 raykar ethxxyuinraychux 100 nkaetngephlngyxdeyiymtlxdkal cdodynitysarorllingsotn epnxndbthiaepdinraychuxsilpinyxdeyiymtlxdkal cdxndbodybilbxrd aelaxyuinkarcdxndbxikmakmay echn ithm 100 aela bilbxrdaetngtngihswiftepnstriaehngthswrrs 2010 aelaxemriknmiwsikxawxdsaetngtngihepnsilpinaehngthswrrs 2010 swiftepnthicdcainthanaphusnbsnunsiththiaelaxanacstriinxutsahkrrmdntrichiwitaelakarthangankh s 1989 2003 chiwitchwngaerk baninwyedkkhxngswift inchanemuxng ethyelxr aexlisn swift ekidinwnthi 13 thnwakhm kh s 1989 thi phxkhxngethxchux skxtt khingsliy swift epnthipruksakarengin aemkhxngethx aexnedriy kardenxr chuxkxnsmrs finely swift epnphurbcangthanganbanthiekhythanganepnkrrmkarbriharkxngthunrwm swiftminxngchayhnungkhnchux xxstin swiftichchiwitchwngpiaerk inirnatnkhristmasthiphxsuxtxcaklukkhakhnhnung ethxekhaorngeriynetriymxnubal aelachnxnubalthiorngeriynxlewxreniymxnethssxriskul epidsxnodyaemchikhnafrnsiskn kxnyayekha txma khrxbkhrwyayipthibanechahlnghnunginchanemuxng ethxekhaeriynthi emuxxayu 9 pi swifterimsnickarlakhrewthi aelaaesdnginlakhrewthithiebiksyuthethiyetxrxakhaedmi ethxedinthangipbrxdewyepnpracaephuxeriynrxngephlngaelakaraesdng txmaswifterimepliynkhwamsnicipthidntrikhnthri ephlngkhxngchainya thewn thaihethx xyakwingrxbchwngtuk 4 rxbaelafnklangwnthungthuksingthukxyang ethxichewlasudspdahaesdngtamnganethskalinthxngthin aelaxiewnttang hlngcakchmsarkhdiekiywkbefth hill swiftrusukmnicwaethxtxngkaredinthangipsanfnngandntrithiaenchwill rthethnenssi emuxxayu 11 pi ethxedinthangipaenchwillkbaemephuxsngedomephlng sungepnephlngkharaoxekakhxngdxlli phartn aeladiksichiks namakhbrxngihm aetethxthukptiesth dwyehtuthiwa thukkhninemuxngnnkxyakthasingthichnxyakthaehmuxnkn dngnn chncungklbmakhidkbtwexngwa chntxnghathangthasingthiaetktangxxkip emuxswiftxayu 12 pi rxnni ekhremxr changsxmkhxmphiwetxraelankdntri sxnethxelnkitar 3 khxrd bndalihethxekhiynephlngaerk lkkiyu in 2003 swiftaelaphxaemkhxngethxerimthangankbphucdkardntri aedn dimothrw inniwyxrk dwykhwamchwyehluxkhxngdimothrw swiftepnaebbihaekbristh epnswnhnunginokhrngkar irsingstas aelamiephlngtnchbbrwminxlbmrwmephlngkhxngtrasinkhaemyebllin aelaekharwmprachumkbkhayephlnghlkmakmay hlngcakaesdngephlngthinganmhrsphkhxngsngkdxarsiexerekhids swiftthiyngeriynxyuchnekrd 8 idrboxkasihepnnkrxng aelaerimedinthangipaenchwillkbaemkhxngethxbxykhun phxkhxngethxyayipthanganxxffiskhxngthiaenchwillephuxchwysngesrimswiftthangandntrikhnthri khnathiethxxayu 14 pi aelakhrxbkhrwyaythixyuipthibanrimthaelsabin swiftekhaeriynthi aeteriynidsxngpi ethxkyayiperiynthisthabnaexrxnxakhaedmi orngeriynkhristexkchnthimibrikareriynthibanid ephuxihsadwktxkarthwr aelaethxcbkarsuksaerwkwakahndhnungpi kh s 2004 2008 erimtnxachiphnkrxng aelaxlbm ethyelxr swift thiaenchwill ethxrwmngankbnkaetngephlngyanmiwsikorwmakmay echn aela cnethxidsansmphnthkbephuxnrwmnganchux lis ors phwkethxprachumkninkhabaetngephlngthukwnxngkhartxnbayhlngeriyn orsklawwa khabaetngephlngnnepn xairthingaythisudthichnekhyidtha phudngay khux chnepnbrrnathikarkhxngethx ethxcaekhiynephlngekiywkbsingthiekidkhuninorngeriyninwnnn ethxmiwisythsnchdecnekiywkbsingthiethxtxngkarcaphud aelaethxcakhidthxnsrxythinaehluxechuxidesmx swiftidesnsyyakb aetlaxxkcaksngkdxarsiexerekhidsemuxxayu 14 pi ethxralukidwa chnrusukwachnkalnghmdewla chnxyakekbkhwamthrngcainchiwitkhxngchnhlaypimaniiwinxlbmskxlbm khnathikhwamthrngcaehlannyngkhngaethnsingthichnekhyphanmaidxyu swiftaesdngthisanknganihy yahu in in kh s 2007 n nganmhrsphaehnghnungthirankaaefinemuxngaenchwillemux kh s 2005 swiftepnthitxngtatxngickhxng phubriharkhaythikalngetriymtwkxtngkhayephlngxisrakhxngtninchux bikaemchinerekhids ethxekhyphbkbbxrechttaaelwin kh s 2004 ethxidepnhnunginkhnaerk thiidesnsyya odyphxkhxngethxcayenginchwybristh 3 epnengincanwnpraman 120 000 dxllarshrthswifterimthaxlbmaerkkhxngethxodytngchuxethxihepnchuxxlbmimnanhlngesnsyya swiftonmnawihkhaybikaemchincangoprdiwesxrephlngchuxnathan aechpaemn thiethxrusukwamiekhmitrngkn swiftaetngephlnginxlbmexng 3 ephlng aelarwmaetngephlngthiehluxxikaepdephlngkbnkaetngephlng echn ors ibrxn emehxr aela xlbmethyelxr swift xxkcahnayinwnthi 24 tulakhm kh s 2006 cxn kharamanika cakhnngsuxphimphedxaniwyxrkithms phudthungxlbmniwaepn nganelk chineyiymthiepnkhnthriphsmpxp thngeriybngayaelathakthang rwmkniwdwyesiyngrxngthixxnwxnaelaaenwaenkhxngkhunswift xlbmethyelxr swiftkhunsungsudxndbthihainchartbilbxrd 200 aelaxyuinchartnan 157 spdah nanthisudinbrrdaxlbmthixxkinkhristthswrrs 2000 nbthungeduxnsinghakhm kh s 2016 xlbmkhayidmakkwa 7 75 lanchudthwolk bikaemchinerekhidsephingepidkhayihm khnathixxksingekilna thim aemkkrxw ineduxnmithunayn kh s 2006 swiftkbaemchwykn nasidisingekilissxngcdhmayaelasngihsthaniwithyu ethxichewlathng kh s 2006 edinsaysngesrimxlbmethyelxr swift tamsthaniwithyuaelaraykarothrthsn bxrechttaklawwa karthiekhatdsinicihedkphuhyingxayu 16 pi esnsyya aerkerimthaihephuxnrwmwngkarepnkngwl aetswiftkawekhasuklumtladdntrithiimekhymimakxn nnkhux klumwyrunsawthifngephlngkhnthri hlngcakxxksingekil thim aemkkrxw misingekilxxktammaxiksisingekiltlxd kh s 2007 2008 idaek ethiyrdrxpsxxnmaykitar xawewxrsxng phikechxrthuebirn aela chudfesdon thuksingekilprasbkhwamsaercbnchartbilbxrd xawewxrsxng aela chudfesdon khunxndbhnung ephlng xawewxrsxng thaihswiftepnkhnthixayunxythisudthiaetngexng rxngephlngkhnthriexng aelakhunxndbhnungid ethiyrdrxpsxxnmaykitar klayepnephlngaenwpxpthiidrbkhwamniymradbhnung khunxndb 13 bnchartbilbxrdhxt 100 swiftyngxxkxlbmwnhyud idaek sawsxxfedxasisn edxaethyelxr swifthxlliedykhxlelkchn emuxeduxntulakhm kh s 2007 aelaxiphichux biwtifulxays emuxeduxnkrkdakhm kh s 2008 ethxsngesrimxlbmaerkephimetimdwykarphbpathkthaykbaefnephlng rxngephlngthiidrbkhwamniym aelaepnsilpinepidkhxnesirtihsilpinkhnxun swiftidrbrangwlcakxlbmethyelxr swift hlayrangwl ethxepnhnunginphuthirangwlnkaetngephlng silpinaehngpi ody in kh s 2007 epnkhnthixayunxythisudthiidrbrangwlni ethxyngidrangwlhxirsnxawxrdsakhasilpinhnaihmody rangwl sakhankrxngnahyingkhnihmyxdeyiym aelarangwlxemriknmiwsikxawxrdsakhasilpinkhnthrihyingkhnoprd ethxyngidekhachingrangwlaekrmmisakhasilpinhnaihmyxdeyiym kh s 2008 ineduxnkrkdakhmpinn ethxkhbhakboc ocnas aetkhwamsmphnthcblnghlngcaknnsameduxn kh s 2008 2010 xlbmefiyrels aelakaraesdng studioxxlbmthisxngkhxngswiftchux efiyrels wangcahnaywnthi 11 phvscikayn kh s 2008 singekilna elifstxri xxkcahnayineduxnknyayn kh s 2008 khunsungsudxndbthisibnchartbilbxrdhxt 100 aelaxndbhnunginxxsetreliy misingekilxxkcahnayxiksisingekiltlxd kh s 2008 2009 idaek iwthxrs yubilxngwithmi fifthin aela efiyrels ephlng yubilxngwithmi epnsingekilthikhunxndbsungthisudinxlbm khunthungxndbthisxngbnchartbilbxrdhxt 100 xlbmepidtwthixndbhnungbnchartbilbxrd 200 epnxlbmthikhaydithisudinshrthin kh s 2009 swiftxxkthwrkhxngtnexngkhrngaerksngesrimxlbmefiyrels inthwrchux tharayididmakkwa 63 landxllarshrth phaphyntrkhxnesirt xxkxakasthangothrthsnaelacahnayepndiwidiaelabluery swiftyngaesdngrbechiyinthwrchux exsekhpthuektethxrewildthwr khxng phaphthayinnganepidtwphaphyntr swiftprakttwinphaphyntr aelaxdephlngprakxbsxngephlng in kh s 2009 miwsikwidioxephlng yubilxngwithmi idrangwlexmthiwiwidioxmiwsikxawxds sakhasilpinhyingyxdeyiym khnaethxklawrbrangwl aerpepxr khaney ewst ehtukarndngklawidrbkhwamsniccaksuxbxykhrng thaihekidxinethxrentmim ecms mxntokemxri cakexmthiwiethiyngwa ehtukarndngklawaelakhwamsniccaksuxthaihswiftklayepn khndngtamkraaesxyangaethcring inpiediywknnn ethxidrbrangwlxemriknmiwsikxawxds 5 rangwl rwmthungrangwlsakhasilpinaehngpi aelaxlbmephlngkhnthrichmechybilbxrdaetngtngihethxepnsilpinaehng kh s 2009 xlbmtidxndb 99 inraychuxxlbmephlngphuhyingyxdeyiym cdxndbody in kh s 2010 swiftidrbrangwlmakmaycakxlbmefiyrels innganprakasrangwlaekrmmikhrngthi 52 efiyrelsidrangwlxlbmaehngpi aelaxlbmephlngkhnthriyxdeyiym khnathiephlng iwthxrs idrangwlephlngkhnthriyxdeyiym aelakaraesdngephlngkhnthrihyingyxdeyiym ethxepnsilpinthixayunxythisudthiidrbrangwlxlbmaehngpi inngan swiftrxngephlng yubilxngwithmi aela kb karaesdngkhxngethxidrbkhawicarnaelaptikiriyathiimdicaksux cxn kharamanikacakedxaniwyxrkithmsehnwa nachunicthiehnkhnbangkhnmiphrswrrkhcnbangkhrngkmiphidphladbang aelaphudthungswiftwaepn darapxpkhnsakhythisudkhnihminrxbhlaypi swiftepnkhnthixayunxythisudthismakhmdntrikhnthriaetngtngepnphuihkhwambnethingaehngpi xlbmefiyrelsidrbrangwlxlbmaehngpicaksmakhmdngklawdwy swiftrxngebuxnghlngihephlng halfxxfmayhart khxngcxhn emeyxr epnsingekilcakxlbmthisi 2009 ethxrwmaetngaelaxdephlng ebstedsxxfywrilf kbekhlli phikelxr aelarwmaetngephlngprakxbphaphyntr sxngephlng idaek yulxxlewsifndywrewyaebkohm aela ekhrsiexxr swiftrxngephlngihsingekil thuxisebtethxraednwn khxngbxysilkekils aetngodymartin cxhnsn ethxrxng hnunginnnkhuxephlng thuedywxsxaefriethl klayepnephlngaerkthitidxndbhnungbnchart khnathaythaphaphyntreruxng ineduxntulakhm kh s 2009 ethxerimkhbhakbnkaesdng ethyelxr elatenxr aetelikrakninpiediywkn phaphyntrrktlkeruxngdngklangxxkchayinpitxma ethxaesdngepnaefnsawthumkhxnghnumbannxknkeriynihskul bthbaththilxsaexneclisithmsmxngehn skyphaphthithaihdutlkxyangcringcng inbthsmphasnbthhnung nitysarmxngwaethx imidthukchinachdecn aelaaeyngwa ethxtxnghaphukakbthimikhwamsamarthkhxycakdkhxbekhtphlngkaraesdngthimimakekinip swifterimnganaesdnginsiris siexsix ikhrmsinxinewstiekchn thangchxngsibiexs txnhnungin kh s 2009 rbbthepnwyrunhwrnedxaniwyxrkithmsklawwatwlakhrdngklawthaihswiftdu snelknxy aelasnxyangehluxechux inpiediywknnn swiftepnthngphithikraelaepnaekhkrbechiytxnhnunginraykaraesethxredyintilfexnetxrethnemntwikliphudthungethxwa epnphithikrraykaraesethxredyintilfthidithisudinvdukalniely cakthiethx duthathayxyuesmx duehmuxncasnuksnan aelathaihnkaesdngthiehluxelnmuktlkidhlaymuk inpiediywknnn swiftkhbhakbnkaesdng eckh cilelinhal epnchwngsn kh s 2010 2014 xlbmspiknaw aela erd ineduxnsinghakhm kh s 2010 swiftxxkephlng imn singekilaerkcakxlbmthisamchux spiknaw ekhachartthishrthxndbthisam thaihswiftepnsilpinkhnthisxng thdcakmarayh aekhri inprawtisastrkhxngcharthxt 100 thiepidtwthihaxndbaerkthungsxngephlnginpiediywkn xikephlnghnungkhux thuedywxsxaefriethl swiftaetngephlnginxlbmexngaelarwmphlitthukephlng xlbmspiknaw wangcahnaywnthi 25 tulakhm kh s 2010 prasbkhwamsaercechingphanichy epidtwthixndb 1 bnchartbilbxrd 200 klayepnxlbmthi 16 inprawtisastrshrththimiyxdkhaythung 1 lanchudinspdahaerk xlbmthalaysthiti xlbmdicithlthikhayiderwthisudodysilpinhying dwyyxddawnohld 278 000 khrnginhnungspdah swiftcungmichuxbnthukinbnthuksthitiolkkinenss ethxyngidrbbnthukxikhnunghwkhxhlngcakephlnginxlbmspiknaw 10 ephlng epidtwinchartbilbxrdhxt 100 epnsilpinhyingkhnaerkthithaid singekilsamsingekil imn aebkthudiesmebxr aela min khunthungsibxndbaerkinaekhnada ephlng min chnarangwlephlngkhnthriyxdeyiym aelaaesdngediywephlngkhnthriyxdeyiyminnganprakasrangwlaekrmmikhrngthi 54 ethxyngaesdngephlngniinngandwy aekhlr sddath caknitysarithmrusukwaethx klbmarxngephlngtrngkhiyaelaepnkaraektw aelaecmi ediyrewsetxrcakyuexsexthuedy klawwa khatahniethxemux kh s 2010 thaihethx epnnkaetngephlngaelankrxngrxngsdthidikwaedim swiftyngidrbrangwlxun kbxlbmspiknaw echn rangwlnkaetngephlng silpinaehngpi caksmakhmnkaetngephlngaenchwill 2010 aela 2011 phuhyingaehngpi caknitysarbilbxrd 2011 aelaphuihkhwambnethingaehngpi cakorngeriyndntrikhnthri 2011 aela 2012 aelasmakhmdntrikhnthriin kh s 2011 swiftidrbrangwlsilpinaehngpiaelaxlbmephlngkhnthrichmechycaknganprakasrangwlxemriknmiwsikxawxds 2011 xlbmspiknawrwminraychux xlbmephlngphuhying 50 xlbmyxdeyiymtlxdkal khxngnitysarorllingsotn emux kh s 2012 xyuinxndbthi 45 nitysarekhiynwa ephlngkhxngethxxacepidinkhlunwithyuephlngkhnthri aetethxepnhnunginrxkstarthiaethcringimkikhnthieramiinewlani thimihukahndsingthithaihephlngmikhunphaphxyangirtahni swiftaesdngrahwangthwrkhxnesirt in kh s 2012 swifterimthwrchux erimtngaeteduxnkumphaphnth kh s 2011 thungminakhm kh s 2012 aelatharayididmakkwa 123 landxllarshrth ineduxnphvscikayn kh s 2011 swiftxxkxlbmbnthukkaraesdngsd eduxntxma swiftrxng esfaexndsawd rwmaetngaelaxdesiyngkb aela aelaephlng xaysoxephn ephlng esfaexndsawd idrbrangwlaekrmmisakhaephlngthiaetngprakxbsuxphaphyntryxdeyiym hlngcakrxngephlng obthxxfxs ihaekbi ox bi ineduxnphvsphakhm kh s 2012 swiftkhbhakbthayathnkkaremuxng tngaeteduxnkrkdakhmthungknyayn kh s 2012 ineduxnsinghakhm swiftxxksingekil wixarenewxrexewxrekttingaebkthueketxr aelaepnsingekilnacakstudioxxlbmthisi erd singekilprasbkhwamsaercintangpraeths klayepnsingekilxndbhnungephlngaerkinshrthaelaniwsiaelnd ephlngkhunxndbhnungbnixthunshlngephlngxxkid 50 nathi epn singekilthikhayiderwthisudinprawtisastrephlngdicithl bnthukinbnthuksthitiolkkinenss caknnswiftxxksingekilthisxng bikinxaekn ineduxntulakhm ephlngkhunxndbthiecdinchartbilbxrdhxt 100 aelaidekhachingrangwlaekrmmi singekilxun cakxlbmxxktamma idaek ixnuwyuewxrthrbebil 22 exewxritingaehsechncd aela erd singekil ixnuwyuewxrthrbebil prasbkhwamsaercechingphanichykhrngihy khunxndbthisxnginshrth xlbmerdepncudepliynaeplngaenwephlngkhxngswift odyethxthdlxngaenwephlnghartaelndrxk dbsetp aelaaednspxp xlbmxxkcahnayineduxntulakhm kh s 2012 prasbkhwamsaercindankhawicarnaelaechingphanichy xlbmepidtwxndbhnunginchartbilbxrd 200 dwyyxdkhayspdahaerk 1 21 lanchud epnyxdkhayepidxlbmthisungthisudinthswrrs aelathaihswiftepnphuhyingkhnaerkthimixlbmkhayspdahaerkidthunglanchudthungsxngxlbm bnthukodybnthuksthitiolkkinenss inkarsngesrimxlbm swifterimthwrchux edxaerdthwr erimtngaeteduxnminakhm kh s 2013 thungmithunayn kh s 2014 aelatharayididmakkwa 150 landxllarshrth xlbmerdidrbrangwlhlayrangwl idaek ekhachingrangwlaekrmmiinnganprakasrangwlaekrmmikhrngthi 56 canwn 4 rangwl singekil ixnuwyuewxrthrbebil idrbrangwlwidioxphuhyingyxdeyiym caknganprakasrangwlexmthiwiwidioxmiwsikxawxds 2013 swiftidchuxwasilpinkhnthrihyingyxdeyiyminnganxemriknmiwsikxawxds 2012 aelasilpinaehngpiinngankhxng kh s 2013 smakhmnkaetngephlngaenchwillmxbrangwlnkaetngephlng silpinihswifttidtxknepnpithihaaelahkin kh s 2012 aela 2013 tamladb swiftyngidrbrangwl phinnaekhilxawxrd caksmakhm sahrbkhwamsaercradb imehmuxnikhr swiftepnphurbrangwldngklawepnkhnthisxngthdcak in kh s 2013 swiftrwmaetngephlng kbaeck aexnotnxff prakxbphaphyntreruxng aelaidekhachingrangwllukolkthxngkhakhrngthi 71 sakhaephlngprakxbyxdeyiym ethxrxngrbechiyihaemkkrxw inephlng brrelngkitarodykhith exxrebin swiftrxngephlng aexsethiysokbay kbedxaorllingsotns thichikhaok rthxillinxysinthwrchux txmaethxklawwawngnimixiththiphlhlktxphaphlksnnganephlngkhxngethx ethxaesdngkbflxridacxreciyilninngan 2013 inephlng nxkcakrxngephlng swiftphakyesiyngihxxedry khnrktnim inphaphyntraexniemchn khunpuolaerks mhscrrypasirung praktinsitkhxm 2013 elnbthrxnginphaphyntr 2014 inrahwangni ethxkhbhakbnkrxngchawbritich aehrri sitls kh s 2014 2018 1989 aela erphiwethchn ineduxnminakhm kh s 2014 swiftyaymaxasythiaemnhttn nkhrniwyxrk chwngniethxkalngthastudioxxlbmthiha 1989 rwmkbnkaetngephlng aexnothnxff martin echllaebk xiomecn hip irxn ethdedxr aela swiftsngesrimxlbmphanokhrngkarrnrngkhtang rwmthungkarechiychwnaefnephlngihmafngephlnginxlbmaebblb eriykwa 1989 siekhrtesschn dwy xlbmduaetktangcakxlbmephlngkhnthrichudkxnhna swiftykihepn xlbmaerkthithukbnthukihepnxlbmephlngpxpxyangepnthangkar xlbmwangcahnayinwnthi 27 tulakhm kh s 2014 idrbkhawicarndanbwkmakmay xlbm 1989 khayid 1 28 lanchudinshrthinspdahaerkthiwangcahnay aelaepidtwsungsudinchartbilbxrd 200 thaihswiftepnsilpinkhnaerkthimixlbmthikhayinspdahaerkekinhnunglanchudthungsamxlbm thaihethxidrbkarbnthukinbnthuksthitiolkkinenss nbthungeduxnmithunayn kh s 2017 xlbm 1989 khayidmakkwa 10 lanchudthwolk singekilnakhxngxlbm echkxitxxf cahnayineduxnsinghakhm kh s 2014 aelaepidtwthixndbhnunginchartbilbxrdhxt 100 singekilxun prakxbdwysingekilxndbhnungidaek aeblngkseps aebdbld rxngrbechiyodyekhndrik lamar aelasingekilthikhunsibxndbaerk idaek sitl aela iwldistdrims aelamisingekil exatxxfedxawuds aela niworaemntiks echkxitxxf aeblngkseps aela aebdbld tidxndnhnunginxxsetreliyaelaaekhnadadwy hlngcakephlng aeblngkseps khunxndbhnunginshrthtamephlng echkxitxxf swiftklayepnphuhyingkhnaerkthimiephlngxndnhnungaethnthiephlngkhxngtnexnginprawtisastrcharthxt 100 miwsikwidioxephlng aeblngkseps ekhyepnwidioxthimiyxdphuchmkhunthunghnungphnlankhrngerwthisudinwiow aeblngkseps aelawidioxephlng aebdbld idrbrangwlsirangwlthingan odyephlng aebdbld idrbrangwlwidioxaehngpi aelaephlngrwmkhbrxngyxdeyiymdwy inthwredxa 1989 ewildthwr erimtngaeteduxnphvsphakhmthungthnwakhm kh s 2015 thwryngkhngtharayidtxipidthung 250 landxllarshrth epnhnunginthwrthitharayidsungthisudinthswrrs swiftrahwangthwrkhxnesirt tharayidid 250 landxllarshrth epnhnunginthwrkhxnesirtthimirayidsungthisudinthswrrs kxnxxkxlbm 1989 swiftennekiywkbkhwamsakhykhxngxlbmephlngthimitxsilpinaelaaefnephlng aelaineduxnphvscikayn kh s 2014 ethxlbephlngthngxlbmxxkcakspxthifay odyaeyngwabrikarfrithimiokhsnasnbsnunkhxngbristhstrimmingbxnthalaybrikarradbphriemiymthiihkhalikhsiththikbnkaetngephlngmakkwa ineduxnmithunayn kh s 2015 swifttahniaexpepilmiwsikphancdhmay enuxngcakimcaykhalikhsiththiaeksilpinrahwangbrikarstrimminginchwngthdlxngfrisameduxn aelaklawwaethxcathxdxlbm 1989 xxkcakraykar wnthdma aexpepilprakaswaphwkekhacacayenginihsilpininchwngthdlxngfri swiftcungyxmihstrimxlbm 1989 inbrikarstrimxikkhrng brisththiduaelkarcdkarsiththiinthrphysinthangpyyakhxngswiftchux thiexexsirsaemencemnt fxngekhruxnghmaykarkha 73 raykarthiekiywkhxngkbtwnkrxngexngaelamimtang cakxlbm 1989 ethxklbmaephimephlngthnghmdmaisinspxtifay aelakuekil ephly ineduxnmithunayn kh s 2017 swiftidepnphuhyingaehngpikhxngnitysarbilbxrdin kh s 2014 klayepnsilpinkhnaerkthiidchuxnithungsxngkhrng inpiediywknnn ethxidrbrangwldik khlark xawxrdsahrbkhwamdielisthinganprakasrangwlxemriknmiwsikxawxds thinganprakasrangwlaekrmmi 2015 echkxitxxf idekhachingsamrangwl rwmthungrangwlaephnesiyngaehngpi aelaephlngaehngpi khnathiinnganprakasrangwl swiftidrbrangwlbritxawxdssakhasilpinediywhyingtangchati swiftepnhnunginaepdsilpinthiidrbrangwlkhrbrxb 50 pikhxngxakhaedmixxfkhnthrimiwsikxawxdsin kh s 2015 in kh s 2016 swiftidrbrangwlaekrmmisamrangwlcakxlbm 1989 idaek xlbmaehngpi xlbmephlngpxpyxdeyiym aelamiwsikwidioxyxdeyiym cakephlng aebdbld ethxepnphuhyingkhnaerkaelaepnsilpinkhnthihacakthnghmdthiidrbrangwlxlbmaehngpithungsxngkhrng ineduxnminakhm kh s 2015 swifterimkhbhakbdiecaelaoprdiwesxrephlngchawskxt aekhlwin aehrris kxneduxnmithunayn kh s 2015 thngkhuidrbkarcdihepnkhurkkhndngthimikhatwsungthisudinrxbpiodynitysarfxbs odymirayidrwmknmakkwa 146 landxllarshrth ineduxnsinghakhm swiftklawwaaemkhxngethxtrwcphbmaerng aelaechiychwnihthukkhnekharbkartrwcsukhphaphthwip kxnswiftkbaehrrisprakascbkhwamsmphnthineduxnmithunayn kh s 2016 thngkhurwmaetngephlng rxngrbechiyodyriaexnna sungmichuxethxrabuinnamaefngwa Nils Sjoberg ineduxntulakhm ethxaetngephlng ihwng ihaekxlbmthiecd sxngeduxntxma swiftaelaesyn aemlik xxksingekilrwmknchux epnphaphyntr 2017 ephlngkhunxndbhnunginpraethsswiedn aelaxndbsxnginshrth innganprakasrangwl thngkhuidrbrangwlrwmkhbrxngephlngyxdeyiymcakmiwsikwidioxephlngdngklaw tn kh s 2017 swiftkhbhakbnkaesdngchawxngkvs ineduxnsinghakhm swiftfxngrxngaelachnakhdiaephngtxedwid muexlelxr xditnkcdraykarwithyukhlun in kh s 2013 swiftekhychiaecnghwhnakhxngmuexlelxrwaekhaekhylwnglaemidethxodykarlubkhlatwethxinngannganhnung hlngcakekhathukilxxk muexlelxrklawhaethxwaokhkaelafxngrxngethxcakehtuthithaihekhatkngan hlngcaknnimnan swiftfxngrxngklbkhdilaemidthangephs phuphiphaksaptiesthkhxeriykrxngkhxngekhaaelaykphlpraoychnihswift ineduxnediywknnn swiftlangbychisuxsngkhmkhxngethxthnghmd aelaxxksingekil lukwxtyuemdmidu epnsingekilaerkcakxlbmthihk erphiwethchn ephlngkhunxndbhnunginxxsetreliy ixraelnd niwsiaelnd shrachxanackr aelashrth miwsikwidioxinyuthubmiphuchmmakkwa 43 2 lankhrnginwnaerk thalaysthitimiwsikwidioxthimiphuchmmakthisudphayin 24 chwomng ineduxntulakhm swiftxxksingekilthisxngcakxlbm erdifxrxit ephlngkhunxndbthisaminxxsetreliy aelaxndbthisiinshrth swiftaesdngerphiwethchnsetediymthwr ineduxnphvsphakhm kh s 2018 xlbmwangcahnayinwnthi 10 phvscikayn aelakhayid 1 216 lanhnwyphayinsiwninshrth klayepnxlbmthikhaydithisudinpraethsin kh s 2017 aelakhayid 2 lanchudthwolkinspdahaerk dwykhwamsaercni thaihethxepnsilpinkhnaerkthimixlbmkhayidmakkwahnunglanxlbminspdahaerkinshrththungsixlbm xlbmkhunxndbhnunginhlaypraeths echn shrth shrachxanackr aekhnada aelaxxsetreliy hlngcaknn swiftaesdngephlng erdifxrxit aela khxlxitwxtyuwxnt inraykaraesethxredyintilf exndekm rxngrbechiyodyexd chiaern aela tammaepnsingekilthisamineduxnphvscikayn aelakhunsungsudthixndb 18 inshrth singekilxun cakxlbm idaek niweyiysedy aela edliekht ephlng niweyiysedy thukepidtamsthaniwithyuephlngkhnthri ineduxnemsayn kh s 2018 mikaryunynwaswiftcarxngrbechiyinephlng ebb khxng cakxlbm bikekxr swiftthwrkhxnesirtinchux ethyelxr swift erphiwethchnsetediymthwr tngaeteduxnphvsphakhm kh s 2018 ephuxsngesrimxlbmerphiwethchn thwrthalaysthitiyxdphuchmaelarayidcakhlaysthanthiinshrth tharayidid 266 1 landxllarshrth khaybtridmakkwasxnglanib swiftthalaysthitikhxngtnexnginthanaphuhyingthithwrinpraethsidrayidsungthisud rayidthwolkxyuthi 345 7 landxllarshrth epnthwrkhxnesirtthimirayidsungthisudxndbsxngkhxngpi innganprakasrangwlxemriknmiwsikxawxrd 2018 swiftidrbrangwlthwraehngpicakthwrlasud silpinaehngpi silpinpxp rxkhyingchmechy aelaxlbmephlngpxp rxkchmechycakxlbmerphiwethchn cakcanwnrangwl 23 rangwl swiftcungepnphuchnarangwlmakthisudinprawtisastrkhxngrangwlxemriknmiwsikxawxrd sthitiedimkhuxwitniy hiwstn kh s 2018 2020 elifewxr oflklxr aela exfewxrmxr erphiwethchnepnxlbmsudthaythixxkodysngkdbikaemchinerekhids enuxngcaksyyaxayu 12 pi hmdlng ineduxnphvscikayn kh s 2018 ethxesnsyyakbkhayyuniewxraeslmiwsikkrup inshrth phlnganladbthdipcathuksngesrimodyprathbtrasngkdriphblikerekhids swiftklawwasyyakhxngethxcarwmkarepnecakhxng nxkcakni emuxkhrngthimikaraebngphlpraoychnihkbspxthifay yuniewxraeslmiwsikkrupehnphxngthicacayrayidihsilpinkhxngtn aelaimrbrayidnnkhuncaksilpin playeduxnphvscikayn bikaemchinerekhidsxxkraykarephlngcakethyelxr swift erphiwethchnsetediymthwr bnbrikarstrim raykarephlngbrrcuephlngthukephlngthiaesdngbnewthibiinchwngkarthwrerphiwethchnsetediymthwr inwnthi 31 thnwakhm phaphyntrkhxnesirteruxng erphiwethchnsetediymthwr xxkchaythangentfliks swiftinngan sungethxidchuxwasilpinaehngthswrrs phayitsngkdriphblikerekhidsepnkhrngthisxng mi epnsingekilaerkcakstudioxxlbmthiecdchux elifewxr rxngrbechiyody cakwng emuxwnthi 26 emsayn kh s 2019 ethxrwmaetngephlngkb aelayuri ephlngepidtwinchartbilbxrdhxt 100 thixndbthi 100 hlngxxkmaidsamwn aetkraoddkhunxndbthisxnginspdahthdma klayepnkarkraoddkhunxndbinspdahediywthisungthisudinprawtisastrkhxngchart miwsikwidioxephlng mi thalayodymiphuchmrwm 65 2 lankhrnginwnaerk aetephlngidrbkhawicarnaebbphsmkn aelaswiftlbenuxephlngthxnthi thukwiphakswicarn thxnhnungxxkcakxlbm ineduxnmithunayn ethxxxksingekilthisxng yunidthukhalmdawn ephlngepidtwthixndbsxngbnchartbilbxrdhxt 100 epnephlngepidtwsungsudladbthi 15 makthisudinbrrdasilpinhying ineduxnkrkdakhm ethxxxksingekilopromtxlbm ephlngchuxediywkbxlbmxxkepnsingekilthisamineduxnsinghakhm epnephlngthitidsibxndbsungsudbncharthxt 100 ephlngthisamcakxlbm elifewxrwangcahnayinwnthi 23 singhakhm idrbkhawicarnindanbwk aelaepidtwxndbhnungbnchartbilbxrd 200 dwyyxdkhayspdahaerk 867 000 hnwy rwmthungaephnxlbm 679 000 hnwy thaihswiftepnsilpinhyingkhnaerkinprawtisastrthimiyxdkhayhkxlbmaerkmakkwa 500 000 hnwyinspdahediyw xlbmthayxdkhayaephnidmakkwaxlbmxun 199 xlbmrwmkninspdahnn ephlngthnghmd 18 ephlnginxlbmekhachartbilbxrdhxt 100 thasthitisilpinhyingthimiephlngekhachartphrxmknmakthisudinhnungspdah innganprakasrangwl miwsikwidioxephlng mi aela yunidthukhalmdawn idekhachingsibrangwlsibsxngrangwl mi idrangwlexfefktphaphyxdeyiym aela yunidthukhalmdawn idrangwlwidioxaehngpi thaihswiftepnsilpinkhnthisxngaelaepnsilpinhyingkhnaerkthiwidioxthitnrwmkakbidrangwldngklaw aelaidrangwlwidioxfxrkud swiftaesdnginkarepidnganprakasrangwldngklaw xlbmelifewxridekhachingsamrangwlinnganprakasrangwlaekrmmikhrngthi 62 rwmthung xlbmephlngpxpyxdeyiym aelaephlngaehngpi sahrbephlng elifewxr rbbthepn inphaphyntrephlngddaeplngeruxng aekhts 2019 khxng aetngaelabnthukesiyngephlng prakxbphaphyntr aelaephlngidekhachingrangwllukolkthxngkha nkwicarnihkhawicarnphaphyntrindanlb aetswiftidrbkartxbrbthidiindankaraesdngaelakaraesdngdntri sarkhdi misxemrikana chayrxbpthmthsninethskalphaphyntrsnaednsfilmefstiwl 2020 aelaxxkchayinentfliktineduxnmkrakhm sarkhdiesnxephlng thiswiftaetngiwhlngchwngeluxktngin kh s 2018 ineduxnkumphaphnth 2020 swiftesnsyyakb hlngcaksyyaxayu 16 pikbosni exthiwi hmdlng ineduxnmithunayn phucdkardntrisuxkhayephlngedimkhxngswift rwmthungtnchbbkhxngxlbmephlngkhxngethxhkxlbmaerk swiftaesdngkhwamimphxicphanophstbnthmeblxr klawwaethxekhyphyayamsuxtnchbbmahlaypi aelaphudthungbrawnwaepn phurngaekcxmbngkarimhyudhyxn ineduxnsinghakhm swiftprakasaephnkarxdephlngcakxlbmthithuksuxsathnghmdineduxnphvscikayn kh s 2020 ineduxnphvscikayn kh s 2019 swiftklawwabrawnaela phukxtngsngkdbikaemchinhammiihethxaesdngephlngekainnganprakasrangwlxemriknmiwsikxawxds 2019 sungethxidrangwlsilpinaehngthswrrscakngannn rwmthunghamnanganephlngekamaichkbsarkhdieruxng misxemrikana thangentfliks bikaemchinptiesthkarklawha aelaklawhaswiftwaethxtidhni mulkhahlklandxllaraelasinthrphymakmay swiftottxbodytwaethnkhxngethxxxkcdhmaytxbklbaesdngihehnwaphubriharbikaemchinptiesththicaihsiththiinkarthasarkhdi aelaklawwabikaemchinepnhniethxkhalikhsiththimulkha 8 landxllarshrth wnthi 18 phvscikayn bikaemchinxxkprakaswa sngkdidxnuyatihstrimkaraesdngkhxngsilpininsngkd aelaxxkxakassabnaephltfxrmthiehnphxngkn innganprakasrangwlxemriknmiwsikxawxds aetimidklawthungchuxkhxngswift inchwng swiftxxksxngchud idaek oflklxr inwnthi 24 krkdakhm aela exfewxrmxr inwnthi 11 thnwakhm kh s 2020 xlbmsxngchudniphasarwcaenwephlngxindioflkaelaxxlethxrnathifrxkdwykarphlitthiengiybsngbmakkwa emuxethiybkbephlngpxpthimicnghwaerwkxnhna swiftaetngaelabnthukesiyngrwmkboprdiwesxr aeck aexnotnxff aelaaexrxn edsenxr cakwng xlwinrwmaetngaelaphlitephlngbangephlngphayitnamaefng wileliym bawewxri samsingekilprachasmphnthinaetlaxlbm thuksngihkhlunwithyuinshrth thng aela singekiltamladb idaek khardiaekn aela cakxlbmoflklxr aela wilolw aela cakxlbmexfewxrmxr khardiaekn aela wilolw epidtwthixndbhnungbnchartbilbxrdhxt 100 spdahediywkbthixlbmepidtwthixndbhnungbnchartbilbxrd 200 thaihswiftepnsilpinkhnaerkthimisingekilaelaxlbmepidtwbnchartinshrththixndbhnungphrxm kn aelaepnsilpinkhnaerkthithaidthungsxngkhrngoflklxr epnxlbmthikhaydithisudinshrthin kh s 2020 dwycanwn 1 2 lanchud aelayngidrangwlxlbmaehngpiinnganprakasphlrangwlaekrmmi khrngthi 63 thaihswiftepnphuhyingkhnaerkthiidrbrangwldngklawsamkhrngdwykn thingan ethxchnasamrangwl rwmthungsilpinaehngpiepnkhrngthisamtidtxkn tamkhxmulkhxng bilbxrd swiftepnnkdntrithimirayidsungthisudinshrthin kh s 2020 aelaepnnkdntriediywthimikhatwsungthisudinolk kh s 2021 pccubn karbnthukesiyngihm midins aeladiexrasthwr hlngcakekidkhxphiphatheruxngtnchbbephlng swiftxxkxlbmthibnthukesiyngihmsxngchudin kh s 2021 odyephimkhawa ethelxrewxrchn thithaychuxxlbm xlbmaerk efiyrels ethyelxrewxrchn khunxndbhnungbnchartbilbxrd 200 epnxlbmbnthukihmxlbmaerkthithaid xlbmnadwyephlngsamephlng idaek aela misetxrephxrefktliifn rxngkb ephlng elifstxri ethelxsewxrchn thaihswiftepnsilpinkhnthisxngthimiephlngchbbdngedimaelabnthukihmkhunxndbhnungbncharthxtephlngkhnthrithngkhu thdcak xlbmthisxng erd ethyelxrewxrchn wangcahnayinwnthi 12 phvscikayn ephlng makbphaphyntrsninchuxediywkn kakbodyswift epidtwthixndbhnunginchartbilbxrdhxt 100 klayepnephlngthiyawthisudthikhunxndbhnung ethxepnnkdntrihyingthimikhatwsungsudin kh s 2021 xlbmin kh s 2020 aelaxlbmbnthukihmkhxngethxtid 10 xndbxlbmkhaydithisudaehngpi ineduxnphvsphakhm kh s 2021 swiftidrbrangwloklbxlixkhxncaknganbritxawxds aelarangwlsxngiretxrixkhxncak swiftxxkephlng inwnthi 17 knyayn kh s 2021 aela inwnthi 6 phvsphakhm kh s 2022 ephlngpraktintwxyangphaphyntraexniemchneruxng 2021 aelasirischxngaexmasxniphrmwidiox eruxng 2022 tamladb nxkcakxlbmephlngaelw ethxyngrxngrbechiyinephlngsiephlnginchwng kh s 2021 thung 2022 idaek aela ebirch khxng ephlng chbbrimikskhxngihm aela khxngexd chiaern swiftaetngaelabnthukesiyngephlng ephlngprakxbphaphyntrcaknwniyay kh s 2018 eruxng khxng ethxpraktinphaphyntryxnyukheruxng khxng chayeduxnphvscikayn kh s 2022 swiftidrbrangwlsamrangwlinnganexmthiwiwidioxmiwsikxawxds 2022 inwnthi 28 singhakhm kh s 2022 inkhnaklawrbrangwlwidioxaehngpi ethxklawthungstudioxxlbmladbthisib khuntxma ethxepidephychuxxlbmwa midins wangcahnayinwnthi 21 tulakhm kh s 2022karepnsilpinxiththiphl chainya thewn say aela khwa mixiththiphltxswift khwamthrngcaekiywkbdntrieruxnghnungthiswiftcaidkhuxkhnafngyay marcxri finely rxngephlngthiobsth emuxtxnepnedk swiftchxbfngephlngprakxbphaphyntrkhxngdisniy phxaemkhxngchnsngektwa emuxidthichnhmdkhaphud chncakhidkhaphudkhxngtwexngkhunma swiftekhyklawwaaemkhxngethxthaihethxmikhwammnic aemchwyethxetriymtwnaesnxhnachnemuxethxepnedk ethxyngklawwaaemthaihethx hlngihlinkarekhiynaelaelaeruxng swiftchxbelaeruxngekiywkbdntrikhnthri aelaidruckaenwephlngnicak silpinkhnthrihyingyukh 1990 echn chainya thewn efth hill aeladiksichiks thewnepnthngnkaetngephlngaelankrxng aelaepnxiththiphlthisakhythisudkhxngswift hillepnbukhkhltwxyangkhxngswiftinwyedk thukxyangthiethxphud tha chudthiethxis chnphyayameliynaebbthnghmd ethxchunchmthsnkhtithichxbthathaykhxngdiksichiks aelakarthiwngelnekhruxngdntrikhxngtnexng ephlng epnephlngaerkthiswiftichhdelnkitar swiftyngtamfngephlngkhxngnkrxngkhnthrieka echn dxlli phartn aela ethxechuxwaphartnepn twxyangthinaehluxechuxihaeknkaetngephlnghyingthukkhn ethxykyxngsilpinxxlethxrnathifkhnthri echn aephtti kriffin aela swiftykihphxl aemkkhartniy edxaorllingsotnsbrus springsthin khris khristxfefxrsn aelakharli ismxn epnbukhkhltwxyanginxachiphkhxngethx phwkekhaidlxngesiynghlaykhrng aetphwkekhakyngepnsilpinkhnedimtlxdxachiphkhxngekha aemkkhartniy thnginnamedxabiethilsaelasilpinediyw thaihswiftrusuk rawkbwachnidekhaipxyuinhwicaelacitickhxngekha nkdntrikhnihn kfnthungsingsubthxdehlannid ethxchunchmspringsthinephraaekha yngkhngmikhwamsakhyxyangyingthangdntriaemewlacaphanmanan ethxtxngkarepnxyangaehrrisemuxethxaektwlng mnimidekiywkbchuxesiyng aetmnekiywkbdntri swiftklawwa khristxfefxrsn oddednineruxngkaraetngephlng ekhaepnephiynghnunginklumkhnthixyuinthurkicnimahlaypi aetkhunbxkidwamnimidthalayekhaely ethxchunchm karaetngephlngaelakhwamsuxsty khxngismxn ethxepnthiruckwaepnkhnecaxarmnaetepnkhnthiaekhngaekrngdwy swiftyngidrbxiththiphlcaksilpinaenwxun xikmakmay chwngkxnwyrun ethxfngsilpinaenwbbebilkmpxp echn aehnsn aelabritniy sepiys swiftekhyklawwaethxid xuthistnxyangaenwaen ihsepiys inchwngihskul swiftfngwngdntrirxkhlaywng echn fxlexatbxy aela ethxyngaesdngkhwamchunchmnkrxngaelankaetngephlngrwmsmy echn xlanis mxrisesttaexchli simpsn aelacstin thimebxrelk swiftklawwaethx hlngihl silpinyukh 1960 echn aelaedxabichbxysdwy xlbmthihakhxngswift 1989 sungepnaenwpxp idrbxiththiphlcaksilpinephlngpxpyukh 1980 echn aexnni elnniks fil khxllins aela madxnna yukhthimiephlng aenwdntri kitar els phxl aelaimokhrofnirsaykhxngswift tngaesdnginhxngphaphsilpinkhxng finiks rthaexriosna aenwephlngkhxngswiftepnaenwpxp pxprxk aelakhnthri ethxtngtwexngepnsilpinkhnthricnkrathngxxkxlbm 1989 in kh s 2014 sungethxbrryaywaepn xlbmthimiephlngpxpxyutidkn nitysarorllingsotnpraeminwa ephlngkhxng swift xacidepidephlnginsthaniwithyuephlngkhnthri aetethxepnrxkstaraeth hnunginimkikhnthieramiinthukwnni edxaniwyxrkithmsklawwa inephlngkhxngswiftimmisingidbngbxkthungkhwamkhnthrimaknk miephiyngesiyngaebnoc isrxngethabuthkhawbxykhuhnungbnewthi aelakitarthithaihtalaytwhnung aetmibangxyanginkarsuxxarmnthimiesnhaelabxbbangintwswiftthiepnexklksnkbaenchwill edxakarediynekhyklawwa swift thaemoldixxkmaerwdwyprasiththiphaphkhxngxutsahkrrmephlngpxpsaekndienewiynxyangirkhwamsngsar esiyngrxngkhxngswiftnn osfi chillachi cak brryaywa hwan aetnumnwl inrahwangkarxdesiynginstudiox hnngsuxphimphlxsaexneclisithmsniyamesiyngrxngkhxngswiftwa esnrxngthiihllngehmuxnkbesiyngthxnhayicdwykhwamphxic hruxihlkhunehmuxntxnelikkhiw thaihkhwamepnwysawthinarkkhxngethxchwnihkhunekhyidngay inbthwicarnxlbmspiknaw nitysarorllingsotnklawwa esiyngkhxngswiftimkrathbxairmakphxthungradbthicapidbngkhwammuxxachiphthiethxepninthanankrxng ethxldesiynglngkhnarxngthxnthithukkhnrxngidinaebbkhlassikthiedksawkhixaykhnhnungphyayamcaphudihklw inbthwicarnxlbmspiknawxikbth hnngsuxphimphklawwakxnhnani karichthxykhakhxngethx ekhyfngducudaeladusbsn aetmnepliynipaelw ethxyngfngdutungaelabang aelaesiyngmkcahlngipxyuradbesiyngthithaihkhnbangkhnepnbaid aetethxeriynruaelwwacasuxsarkhwamhmaykhxngkhaaetlakhaidxyangir esiyngrxngsdkhxngethxekhythukldradblngepn phxichid aetimekhyethaephuxn khxngethx in kh s 2009 ekhn thkekxr cakexnetxrethnemntwikli phudthungesiyngrxngkhxngswiftwayngmiesiyng raberiyb bang aelabangkhrngimmnkhngphx kbkhnimmiprasbkarn aetxyangirktam swiftidrbkhachmthiethximidichprbradbesiyngtnexng inbthsmphasnkb swifttngtnexngepnnkaetngephlngkhnhnung chnaetngephlng aelaesiyngkhxngchnepnaekhthangechuxmenuxephlngehlann nkekhiynkhnhnungcakyxmrbin kh s 2010 waswift imichnkrxngthangethkhnikhthidithisud aetphudthungethxwaepn nksuxsarthidithisudthierami esiyngrxngkhxngswiftepnxairthismphnthkbethx aelaethxid phyayamxyanghnk ephuxprbprung miraynganin kh s 2010 waethxyngkhngekhaeriynrxngephlng ethxekhyklawwaethxcarusukkngwlewlaaesdng ktxemuxchnimmnicwaphufngkhidxyangirkbchn ehmuxntxnnganprakasrangwl karaetngephlng swiftichprasbkarntrngepnaerngbndalicinkaraetngephlng inephlngkhxngethx swiftmkphudthung khnnirnamthiethxaexbchxbinchwngeriynihskul aelakhndng swiftmkwiphakswicarnkhnrkekaxyubxy sungepnmummxngkaraetngephlngthiedxawilelcwxyssbpramathiw karidfngwasingthiephlngsuxnnehmuxnkbmisastracarythiwangmad aelamnepnphytxkarpraeminphrswrrkhkhxngswift sungduimepnkarsarphaph aetduehmuxnlakhr aetnitysarniwyxrkechuxwa karthisuxphinicphiekhraahkartdsinickhxngethxthica khudchiwitswntwmaisinephlngnn epnkaraebngaeykephs enuxngcakimidmikarkhxephuxnphuchayely twswiftexngekhyklawwa imichthukephlngthiaetngcakeruxngcring aelabangkhrngekidcakkarsngektkarn nxkcakkhabxkibkhxngethxinephlng swiftphyayamimphudthungpraednkhxngephlngaebbecaacng ephraakhnehlanikhuxkhncring khunphyayamhyngruthungphunephthikhunmaepnnkaetngephlng odyimtxngesiyephuxncakkhwamehnaektw swiftrahwangthwrkhxnesirtspiknawewildthwrthiphitsebirk 2011sahrbphuhyingkhnhnungthiaetngephlngekiywkbkhwamrusuktwexng aelathuknaipthaythxdinthanaaefnsawthisinhwng khadsti aelatidkbphuxun thitxngkarihkhunaetngnganaelamilukkbethx chnkhidwanntxngichbangxyangthitxngchlxng nnkhuxphuhyingthiaetngephlngsarphaphkhwamrusukkhxngtwexng nncaepliynmnepnxairthiaebngaeykephsxyangepidephy swiftklawtxbkhawicarnekiywkbkaraetngephlngkhxngethx hnngsuxphimphimphedxakarediynykyxngswiftekiywkbkarekhiyn ralukkhwamhlngothnsiepiydwykhwamohyha inchwngwyrun tlxdsxngxlbmaerk nitysarniwyxrkklawwankrxngnkaetngephlnghlaykhnthaephlngdi iwemuxkhrngepnwyrun aet immiikhrthaephlngdi thiekiywkbchwngwyrunidchdecn nitysarepriybethxkb sahrbphaphniyayprmprabnpkxlbmefiyrels ethxidsuksakhwamimechuxmoyngknrahwang nithanprmpraaelakhwamepncringkhxngkhwamrk xlbmthdcaknnphudthungkhwamsmphnthaebbphuihymakkhun nxkcakkhwamoraemntikaelakhwamrkaelw ephlnghlayephlngkhxngswiftyngphudthungkhwamsmphnthaebbphxaemluk mitrphaph khwamhangehin chuxesiyng aelakhwamthaeyxthayaninkarthangan swiftmkis wlithikhidkhunchbphlnephuxaesdngsingthiyingihyaelacringcngthiimekhakbephlng singthiephimhruxlmlangeruxngelainephlng orllingsotnykihethxepn nkprachyaetngephlngthimiphrswrrkhtngaetekidinkaraetngephlngtamokhrngsrang ewirs khxrs bridc cakkhxmulkhxngedxawilelcwxys swiftichaetngihenuxephlngphlikaephlnginthxnewirsthisamxyubxy ineruxngkhxngkrabwnkarcintphaph singthiehnidchdinkaraetngephlngkhxngswiftkhuxkarklawsa inkhaklawkhxngedxakarediyn klawwa ethxichewlacubknthamklangsayfnmakcnduehmuxnpatihariythiethakhxngethximekhyepuxyely nitysaresrimwa swiftsuksaaenweruxngihmtlxdkarthaxlbm thisikhxngethx khnathibthwicarnnganephlngkhxngswiftepn danbwkaethbcaepnesiyngediywkn edxaniwyxrkekxrklawwaethxthaythxd inthanankethkhnikhphuechiywchayidmakkwainthanankkhidaebbdiaeln phaphlksninthisatharnachiwitswntwkhxngswiftepnpraednthisuxihkhwamsnicxyangtxenuxng in kh s 2013 aexebxrkhrxmbiaexndfitchthakartladodyichkhaopryesuxyudodymikhawa osephninaxay slut shaming tngicsuxthungethxodytrngedxaniwyxrkithmsyunynwa prawtikarkhbphuchaykhxngswifterimthaihekidcuderimtnkhxngkartxkklb aelatngkhathamwaswiftkalngtkxyuthamklang wikvtinchiwitchwng 25 piaerkkhxngethxhruxim swiftekhyklawwaethximxyakelathungchiwitswntwxxksuxsatharna enuxngcakethxechuxwa karphudthungmnxacepn cudxxninkarthangan id swiftinnganithm 100 2010 sungethxidrbekiyrti orllingsotnklawthungmaryaththiehmaasmkhxngswiftwa thaniepnkarelnhnaelntakhxngswift mncatxngepndngrxysk ephraamncaimhludhayip nitysardngklawyngsnic kartxnrbxyangxbxun khxngswiftdwy nitysaredxahxlliwudriphxretxrihethxepn bukhkhlyxdeyiymnbtngaetbil khlintn inkhnamxbrangwldanmnusythrrmihswiftin kh s 2012 miechl oxbama klawykyxngethxwaepnkhnthi thayankhuncudsungsudkhxngxutsahkrrmdntriaetethayngtiddin khnthithalaymatrthanthikhadiwkhxngsingthikhnxayu 22 picathasaercid swiftykihoxbamaepnbukhkhltwxyangkhnhnung swiftepnhnunginbukhkhlthimiphutidtammakthisudinsuxsngkhm aelaepnthiruknwaethxmiptismphnthepnmitrkbaefnephlng ethxekhysngkhxngkhwywnhyudihaefnephlngphanthangcdhmay aelasngihdwytnexng eriykkhxngchinnnwa swiftmas Swiftmas ethxmxngwaepn khwamrbphidchxb thitxngtrahnkwaethxmixiththiphltxaefnephlnghnumsaw aelaekhyklawwaaefnephlngkhxngethxepn khwamsmphnththiyawnanaeladithisudthiethxekhymi suxmkeriykswiftbxy wa hwanickhxngxemrika aetswiftyunynwa chnimidxyukbkdaeplk aekhngkradangthilxmkrxbchn chnaekhchxbaebbthichnrusukaelathaihchnrusukepnxisra ethxptiesththicathayaebbywywnthangephs aet mxngswiftepnkhnhnung in kh s 2011 ethxidchuxwasyrupaehngwithichiwitxemrikn aetngtngodynitysarowk in kh s 2014 ethxxyuxndbhnunginraychuxphuaetngtwdudithisudpracapiodynitysarphiephil in kh s 2015 thingan ethxidchuxwa phuhyingaehngpi aelatidxndbhnunginraychuxkhnhxt 100 khnkhxngnitysaraemksim swiftyngmichuxtidxyuinhlayraychux ethxepnhnungin 100 phumixiththiphlthisudpracapi in kh s 2010 aela 2015 cdodynitysarithmdwy tngaet kh s 2011 2015 ethxepnhnunginsamxndbaerkkhxngphuhyingthimirayidsungsudinwngkardntricdodynitysarfxbs odyethxmirayid 45 lan 57 lan 55 lan 64 lan aela 80 landxllarshrthtamladb in kh s 2015 ethxepnphuhyingxayunxythisudthixyuinkhxngfxbs 100 khn xyuinxndbthi 64 in kh s 2016 swiftepn 170 landxllarshrth ethxyngxyuinsibxndbaerkin kh s 2011 2013 aela 2015 ethxepnhnunginraychuxbukhkhlaehngpikhxngnitysarithm kh s 2014 ineduxnmithunayn kh s 2017 rayidsuththikhxngswiftpramanxyuthi 280 landxllarshrth ineduxnsinghakhm kh s 2018 fxbsprbprungrayidsuththiodypramankhxngswiftxyuthi 320 landxllarshrthkickrrmxun karkusl kickrrmkarkuslkhxngswiftepnthicdcacakrangwl aelabrikarsahrbphuprasbphyphibtithiethnenssi ethxyngidrbrangwledxabikehlpxawxrd cakthiethx xuthistnchwyehluxkhnxun aela bndalicihkhnxunlngmuxtha aelarangwlripephilxxfohp enuxngcakethx xuthistnchwyehluxtngaetxayuyngnxy ethyelxrepnphuhyingpraephththieraxyakihluksawkhxngeraepn in kh s 2008 ethxbricakhengin 100 000 dxllarihaekhnwyngankachadephuxchwyehluxehyux swiftaesdnginkhxnesirtkarkusl echn thisidniy ethxyngxdephlngisxlbmdwy cakehtu swiftbricakhengin 500 000 dxllarrahwangethelthxncdodychxng in kh s 2011 swiftsxmkhxnesirtspiknawthwrrxbsudthayinxemrikaehnuxephuxharayidihehyuxinshrth rwbrwmrayididmakkwa 750 000 dxllar in kh s 2012 swiftsngesrimethelthxnchuxrisotredxachxrkhxngxngkhkr hlngekid in kh s 2016 ethxbricakhenginih aelakxngthunxkhkhiphydxlli phartn swiftepnphusnbsnunsilpaaelaidbricakhengin 75 000 dxllarihaekorngeriyn ephuxchwyprbprungrabbaesngaelaesiynginhxprachumkhxngorngeriyn in kh s 2012 ethxmxbengin 4 landxllarephuxepnthunkxsrangsunykareriynaehngihmthithiaenchwill in kh s 2012 swiftepnhunswnkbbristhechataraeriynchux bricakhengin 60 000 dxllarihaeksakhawichadntriinwithyalyhkaehng swiftsngesrimkarruhnngsuxkhxngedk dwy in kh s 2009 ethxbricakhengin 250 000 dxllarihaekorngeriynhlayaehngthwpraeths khwamphyayaminkarsngesrimkarruhnngsuxxyangxun idaek hxngsmudsatharnaerding rthephnsileweniy 6 000 elm hxngsmudsatharnaaenchwill rthethnenssi 14 000 elm hnngsuxeriyn 2 000 elmmxbihsunysukhphaphedk aelaorngeriynhlayaehnginnkhrniwyxrk 25 000 elmemuxpi kh s 2015 in kh s 2007 ethxxxkokhrngkarrnrngkhpkpxngedkcakphurayxxniln hunswnkbsmakhmxthibdikrmtarwcethnenssi in kh s 2009 swiftbnthukesiyngokhsnaprachasmphnthbrikarsatharnaihphufngtrahnkthungkhwamsakhykhxngkarfng xyangmikhwamrbphidchxb ephuxpxngknhuhnwk ethxekhybricakhenginihmulnithikarkuslmakmay idaek aela in kh s 2011 inthanaphuihkhwambnethingaehngpikhxngorngeriyndntrikhnthri swiftbricakhengin 25 000 dxllarihaek rthethnenssi in kh s 2012 swiftrwminethelthxn rxngephlng sungethxaetngihaekedkchayxayusikhwbkhnhnungthiesiychiwitcakniworblasotma ephlngmiihdawnohld rayidcakkardawnohldbricakhihaekxngkhkrkarkuslthiekiywkborkhmaerng in kh s 2014 ethxbricakhengin 100 000 dxllarihaek aela 50 000 dxllarih swiftekhyaewaeyiymphupwyaelakhxychwyehluxtamorngphyabaltang epnkarswntw swiftechiychwnihkhnwyhnumsawxasainchumchnthxngthintnexngepnswnhnungkhxngwnbrikareyawchnolk inpi kh s 2018 ethxkbphuhyingxik 300 khninhxlliwudkxtngkhbwnkarithmsxpephuxpkpxngphuhyingcakkarkdkhikhmehngaelakarkidkn karemuxng rahwangkareluxktngprathanathibdi kh s 2008 swiftsnbsnunkarrnrngkhexewxriwuaemnekhans miepahmayihphuhyingmiswnrwminkaremuxng aelaepnhnunginsilpinkhnthrithiidbnthukesiyngokhsnabrikarsatharnaihokhrngkarohwt fxrywr khnthri ethxklawwa chnkhidwachnimidmihnathiphyayamonmnawphukhnwaiheluxkikhr hlngprathanathibdioxbamaklawkhastyptiyan ethxklawkborllingsotnwaethxsnbsnunekha chnyngimekhyehnpraethsnimikhwamsukhkbkartdsinicthangkaremuxngtngaetchnekid chndiicthiniepnkareluxktngkhrngaerkkhxngchn inbthsmphasn kh s 2012 swiftklawwa aemwaethxcayudtwexngepn phumikarsuksaaelamikhwamrumakethathicaepnipid ethximkhxxphipraythangkaremuxng odyekrngwamnxacklayepnxiththiphltxkhnxunid swiftekhyichewlaxyukb aelaekhyklawchunchm ethxepnnksiththistridwy ethxtxtankarehyiydrsniymthangephs hlngcak in kh s 2008 ethxbnthukesiyngokhsnabrikarsatharnaihxngkhkr GLSEN ephuxsukb hlngkhrbrxbkaresiychiwitkhxngkhinghnungpi swiftklawkbesewnthinwa phxaemsxnimihethx tdsinkhnxunodymxngwaekharkikhr siphiwxair hruxsasnaxair miwsikwidioxephlng min txtankarklnaeklng miswnekiywkhxngkbohomofebiyinihskul widioxidekhachingrangwlkickrrmthangsngkhmkhxngexmthiwiwidioxmiwsikxawxds in kh s 2011 dwyedxaniwyxrkithmsechuxwaethxepnhnungin khlunlukihmkhxngphuhying rsniymtangephs wysawthithaephlngihaekaefnkhlbekythiyxmrbtwtnkhxngtwexnginewlathimipraednthangwthnthrrmthichwnsbsn kxnkareluxktngshrthkungwara kh s 2018 swiftprakassnbsnunphulngeluxktngphrrkhedomaekhrtsxngkhn idaek smachikrthspha sahrbkarlngeluxktngsphaphuaethnrasdrshrth aelaxdit sahrblngeluxktngwuthispha ethxxxkmaklawtxtanphukhdkhanebredesn smachikwuthisphahyingkhxngphrrkhriphblikn klawwakarohwtkhxngethx thaihethxklw ethxxxkmaaecngkhwamprasngkhsnbsnunsiththikhxng LGBT aelakhwamethaethiymknthangephsaelaechuxchati aelapranamkarehyiydchatiphnthu klawthungophstkhxngswift raynganwamikhnlngeluxktamophstkhxngethxthung 65 000 khnin 24 chwomng canwnphuohwtthiimkhadkhidni ekidcakmiphusmkhrmakkhuntampktiemuxiklthungkahndewla rahwangkarprakasrbrangwlsilpinaehngpiinnganxemriknmiwsikxawxds 2018 ethxonmnawihaefnephlngeluxktnginkareluxktngkungwara 2018 karsnbsnunphlitphnth khnasngesrimxlbmaerk swiftepnhnataihaekokhrngkarombaylmiwsikkhxngbristh inyukhxlbmefiyrels ethxxxksinkhaesuxphasnedrsihbristh l e i wangcahnaythiwxlmart aelaxxkaebbbtrihbristh aelatukta ethxekhyepnokhskihthimkhxng NHL aelaklxngdicithl inyukhxlbmspiknaw ethxxxkxlbmrupaebbphiesscahnayphan swiftekhyepnokhskihyihx xxknahxm sxngrun idaek aelawnedxrstrkexnaechnethd khnasngesrimxlbmthisi erd swiftsngesrimxlbmdwyopromchnechphaaphantharekt aela ethxekhyepnokhskih aelarxngethakila xxknahxmexlisaebth xarednrunthisamchux ethyelxr bay ethyelxr swift aelaepnhunswnkbosnixielkthrxniks aelaxemriknkrithings swiftyngekhyepnhunswnkbbristhaexrexechiy aelakhwxnts inrahwangthwrerdthwrdwy nbwaepnsaykarbinthangkarinchwngthwrthwipxxsetreliyaelaexechiy aelaixskrimepnphusnbsnunthwrinthwipexechiy inrahwangsngesrimxlbm 1989 swiftokhsnaihsbewy ekhds tharekt aelaidextokhk in kh s 2014 swiftxxknahxmrunthisichux in kh s 2016 swiftesnsyyahlaypikbexthiaexndthi caknnswiftidlngphadhwxiewntsuepxraesethxredyintkhxng inkhunkxnngansuepxrobwl 2017 khnasngesrimxlbmerphiwethchn swiftxxkchudebuxnghlngwidioxaesdngkrabwnkarxdesiynglngxlbmphanthangiderkthiwi in kh s 2018 swiftxxkphaphyntrokhsnaihexthiaexndthisxngtw swifthunswnkbfucifilminphlitphnthklxngrunphiessthiethxlnglayesn miohmdthaytwexngaelaohmdthayphaphsxn wangcahnayineduxntulakhm kh s 2018rangwlaelakhwamsaercswiftidrbrangwlaelaekiyrtiysmakmay idaek rangwlaekrmmi 12 rangwlxemriknmiwsikxawxrd 40 rangwl 23 rangwl 12 rangwl 8 rangwlbritxawxds 2 rangwl aela 1 rangwl inthanankaetngephlng ethxidrbekiyrticak aela aelathukrwminraychuxnkaetngephlngyxdeyiymtlxdkal 100 khn cdxndbodyorllingsotnemux kh s 2015 kxntn kh s 2016 swiftkhayxlbmidmakkwa 40 lanxlbm khaysingekildawnohldid 130 lansingekil aelaepnhnunginhankdntrithimiyxdkhaydicithlsungthisudthwolk studioxxlbmkhxngswift ethyelxr swift efiyrels spiknaw erd aela 1989 khayidmakkwa 4 lanhnwyinshrth swiftepnsilpinthikhaysingekildicithlidmakepnxndbsaminshrth odymiyxdkhayrwm 106 5 lanhnwy tamkhxmulkhxngsmakhmphuprakxbkickarephlngkhxngshrthxemrikaphlnganephlngstudioxxlbm ethyelxr swift 2006 efiyrels 2008 spiknaw 2010 erd 2012 1989 2014 erphiwethchn 2017 elifewxr 2019 oflklxr 2020 exfewxrmxr 2020 midins 2022 edxathxrechxdophxitsdiphartemnt 2024 bnthukesiyngihm efiyrels ethyelxrewxrchn 2021 erd ethyelxrewxrchn 2021 spiknaw ethyelxrewxrchn 2023 1989 ethyelxrewxrchn 2023 phlngankaraesdng 2010 khunpuoraelks mhscrrypasirung 2012 2014 2019 xxlthuewl edxachxrtfilm 2021 2022 phaphyntrsarkhdiaelakhxnesirt 2010 edxa 1989 ewildthwrilf 2015 ethyelxr swift erphiwethchnsetediymthwr 2018 misxemrikana 2020 ethyelxr swift sitixxfelifewxr 2020 oflklxr edxalxngphxndstudioxesschns 2020 ethyelxr swift diexrasthwr 2023 khxnesirtthwr 2009 2010 2011 2012 edxaerdthwr 2013 2014 edxa 1989 ewildthwr 2015 erphiwethchnsetediymthwr 2018 diexrasthwr 2023 2024 hmayehtuedimthi ephlngaetngodyswiftaela nkrxngnawngethrn lngxlbmerdxangxing Taylor Swift Biography Singer 1989 cakaehlngedimemux August 30 2016 subkhnemux April 9 2015 Jepson Louisa 2013 Taylor Swift Simon and Schuster p 1 ISBN 978 1 4711 3087 8 subkhnemux August 16 2016 Roth Madeline May 19 2015 Taylor Swift s Brother Had The Most Epic Graduation Weekend Ever cakaehlngedimemux July 23 2016 subkhnemux July 25 2016 Widdicombe Lizzie October 10 2011 You Belong With Me cakaehlngedimemux July 24 2014 subkhnemux October 11 2011 Raab Scott October 20 2014 Taylor Swift Interview cakaehlngedimemux February 16 2015 subkhnemux April 11 2015 Photos Students at Alvernia Montessori School sending Taylor Swift a valentine February 13 2010 cakaehlngedimemux October 16 2013 subkhnemux February 25 2013 Hatza George December 8 2008 Taylor Swift Growing into superstardom Reading Eagle cakaehlngedimemux April 1 2012 subkhnemux April 17 2012 Mennen Lauren November 12 2014 Taylor Swift s Wyomissing childhood home on the market for 799 500 cakaehlngedimemux October 17 2016 subkhnemux October 13 2016 Taylor Swift Returns to Reading Pennsylvania as Maid of Honor in Friend s Wedding February 22 2016 cakaehlngedimemux September 16 2016 subkhnemux August 26 2016 Taylor Swift Age 12 cakaehlngedimemux August 27 2016 subkhnemux August 26 2016 Cooper Brittany Joy April 15 2012 Taylor Swift Opens Up About a Future in Acting and Admiration for Emma Stone Taste of Country cakaehlngedimemux April 17 2012 subkhnemux April 17 2012 MacPherson Alex October 18 2012 Taylor Swift I want to believe in pretty lies The Guardian cakaehlngedimemux August 26 2016 subkhnemux August 3 2016 Rolling Stone Interview The Unabridged Taylor Swift December 2 2008 Morris Edward December 1 2006 When She Thinks Tim McGraw Taylor Swift Savors Payoff Hardworking Teen to Open for George Strait Next Year cakaehlngedimemux June 26 2015 subkhnemux March 11 2010 Diu Nisha Lilia April 3 2011 Taylor Swift I won t do sexy shoots The Daily Telegraph London cakaehlngedimemux May 6 2013 subkhnemux April 17 2012 News CMT Insider Interview Taylor Swift Part 1 of 2 CMT November 26 2008 cakaehlngedimemux January 23 2015 subkhnemux July 1 2012 Taylor Swift The Garden In The Machine May 2 2011 cakaehlngedimemux May 10 2012 subkhnemux May 21 2012 Martino Andy January 10 2015 EXCLUSIVE The real story of Taylor Swift s guitar legend New York Daily News phasaxngkvs New York cakaehlngedimemux November 22 2015 subkhnemux August 28 2017 Martino Andy January 10 2015 Exclusive The real story of Taylor Swift s guitar legend New York Daily News New York cakaehlngedimemux November 22 2015 subkhnemux November 10 2015 americanbar org PDF PDF Americanbar org PDF cakaehlngedimemux October 11 2012 subkhnemux April 18 2012 On tour with Taylor Swift Dateline NBC May 31 2009 cakaehlngedimemux October 5 2013 subkhnemux July 1 2012 Castro Vicky February 6 2015 How to Succeed as an Entrepreneur Taylor Swift Style Monsueto Ventures khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux September 24 2016 subkhnemux February 9 2015 Jo Nancy January 2 2014 Taylor Swift and the Growing of a Superstar Her Men Her Moods Her Music cakaehlngedimemux November 10 2015 subkhnemux November 11 2015 News Taylor Swift s High School Names Auditorium in Her Honor CMT September 23 2010 cakaehlngedimemux November 21 2014 subkhnemux April 18 2012 Grigoriadis Vanessa March 5 2009 The Very Pink Very Perfect Life of Taylor Swift Rolling Stone cakaehlngedimemux October 15 2012 subkhnemux October 31 2012 Taylor Swift The Garden In The Machine American Songwriter May 2 2011 cakaehlngedimemux August 7 2013 subkhnemux May 21 2012 Songwriter Taylor Swift Signs Publishing Deal With Sony ATV Broadcast Music Inc May 12 2005 cakaehlngedimemux December 4 2012 subkhnemux April 20 2012 Kosser Michael June 3 2010 Liz Rose Co Writer to the Stars American Songwriter cakaehlngedimemux December 24 2011 subkhnemux April 19 2012 Leahey Andrew October 24 2014 Songwriter Spotlight Liz Rose Rolling Stone cakaehlngedimemux September 26 2016 subkhnemux September 24 2016 DeLuca Dan November 11 2008 Focused on great songs Taylor Swift isn t thinking about the next level or Joe Jon as gossip Philadelphia Daily News p 1 cakaehlngedimemux November 18 2012 subkhnemux April 17 2012 Preston John April 26 2009 Taylor Swift the 19 year old country music star conquering America and now Britain The Daily Telegraph cakaehlngedimemux January 5 2012 subkhnemux August 30 2012 Rapkin Mickey July 27 2017 Oral History of Nashville s Bluebird Cafe Taylor Swift Maren Morris Dierks Bentley amp More on the Legendary Venue Billboard cakaehlngedimemux July 29 2017 subkhnemux July 28 2017 Hiatt Brian October 25 2012 Taylor Swift in Wonderland Rolling Stone cakaehlngedimemux July 31 2016 subkhnemux August 1 2016 Greenburg Zack O Malley June 26 2013 Toby Keith Cowboy Capitalist Country s 500 Million Man Forbes cakaehlngedimemux August 27 2016 subkhnemux August 1 2016 Taylor Swift CD Taylor Swift Big Machine Records 2006 BMR120702 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite AV media notes title aemaebb Cite AV media notes cite AV media notes a CS1 maint others lingk Solin Jennifer August 10 2016 Taylor Swift New Album Release Date Postponed Is She Laying Low After Kim Kardashian Kanye West Drama cakaehlngedimemux August 16 2016 subkhnemux August 15 2016 Caramanica Jon September 5 2008 A Young Outsider s Life Turned Inside Out The New York Times cakaehlngedimemux September 8 2014 subkhnemux August 1 2016 Trust Gary October 29 2009 Chart Beat Thursday Taylor Swift Tim McGraw Linked Again Billboard cakaehlngedimemux March 7 2013 subkhnemux November 8 2016 Statistic Brain Research Institute khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux August 30 2016 subkhnemux 30 August 2016 Willman Chris February 5 2008 Taylor Swift s Road to Fame Entertainment Weekly p 3 cakaehlngedimemux February 21 2015 subkhnemux April 22 2012 Cowling Lauren November 12 2014 5 of Taylor Swift s Most Country Performances Country Outfitter Life cakaehlngedimemux August 9 2016 subkhnemux August 2 2016 Taylor Swift Joins Rascal Flatts Tour CMT October 18 2006 cakaehlngedimemux January 7 2015 subkhnemux March 11 2010 Taylor Swift No 1 on iTunes December 19 2007 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux March 16 2015 subkhnemux July 5 2010 Teardrops on My Guitar Taylor Swift Billboard subkhnemux December 15 2010 Taylor Swift owns top of country chart July 23 2008 cakaehlngedimemux July 31 2008 subkhnemux December 26 2008 Wal Mart Eyes New Taylor Swift Project Great American Country khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux March 16 2015 subkhnemux July 24 2008 Rosa Christopher March 24 2015 Opening Acts Who Became Bigger Than The Headliner VH1 cakaehlngedimemux November 10 2015 subkhnemux November 11 2015 Taylor Swift Youngest Winner of Songwriter Artist Award Great American Country October 16 2007 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux March 17 2015 subkhnemux February 2 2015 Photos All Taylor Swift Pictures Horizon Award Winner Poses in the Pressroom CMT September 7 2007 cakaehlngedimemux November 13 2012 subkhnemux May 21 2012 Photos 43rd Annual ACM Awards Onstage Winners Acceptance Speech CMT May 18 2008 cakaehlngedimemux November 13 2012 subkhnemux May 21 2012 Blog Roughstock com November 24 2008 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux July 10 2014 subkhnemux May 21 2012 Amy Winehouse Wins Best New Artist Kanye West Pays Tribute to Mom Grammy Awards 2008 Grammy Awards People October 2 2008 cakaehlngedimemux November 13 2012 subkhnemux May 21 2012 Caplan David September 8 2008 People khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux February 2 2016 subkhnemux March 6 2012 Rizzo Monica November 24 2008 People khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux March 3 2016 subkhnemux March 6 2012 Love Story Taylor Swift Billboard subkhnemux March 5 2011 Discography Taylor Swift ekbcakaehlngedimemux minakhm 23 2012 subkhnemux mkrakhm 2 2010 Ben Yehuda Ayala August 13 2009 Black Eyed Peas Jason Mraz Tie Records on Billboard Hot 100 Billboard cakaehlngedimemux May 8 2013 subkhnemux March 13 2010 Grein Paul March 16 2012 Chart Watch Extra Top Albums Of Last 10 Years Blog Yahoo Music cakaehlngedimemux April 2 2015 subkhnemux June 10 2011 Herrera Monica October 8 2009 Taylor Swift s Fearless Tour Returns March 2010 Rolling Stone cakaehlngedimemux August 18 2016 subkhnemux August 3 2016 Mapes Jillian November 23 2010 Taylor Swift Announces Speak Now World Tour Billboard cakaehlngedimemux May 8 2013 subkhnemux May 15 2012 Weiss Dan December 12 2011 Taylor Swift Journey To Fearless DVD American Songwriter cakaehlngedimemux August 15 2016 subkhnemux August 2 2016 Ryan Sarah August 10 2009 Blog Great American Country khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux September 6 2015 subkhnemux November 11 2015 Akers Shelley June 9 2008 Taylor Swift to Appear in Hannah Montana Movie People cakaehlngedimemux October 27 2017 subkhnemux October 27 2017 Hannah Montana The Movie Original Motion Picture Soundtrack by Hannah Montana iTunes Store cakaehlngedimemux May 2 2016 subkhnemux August 2 2016 Kanye calls Taylor Swift after View appearance MSNBC September 15 2009 cakaehlngedimemux October 6 2013 subkhnemux September 16 2009 Taylor Swift Thanks Gracious Beyonce for Inviting Her Onstage After Kanye Stunt at VMAs Rolling Stone September 14 2009 cakaehlngedimemux June 15 2012 subkhnemux May 15 2012 Anderson Kyle September 16 2009 Kanye West s VMA Interruption Gives Birth To Internet Photo Meme MTV cakaehlngedimemux January 16 2016 subkhnemux October 3 2009 Montgomery James kumphaphnth 2 2010 Why You Shouldn t Hate on Taylor Swift MTV cakaehlngedimemux knyayn 8 2014 subkhnemux phvsphakhm 15 2012 Ditzian Eric 2009 Taylor Swift Michael Jackson Big Winners at American Music Awards MTV cakaehlngedimemux September 8 2014 subkhnemux May 15 2012 2009 Artists of the Year Billboard December 10 2009 ekbcakaehlngedimemux January 4 2010 subkhnemux May 21 2012 The 150 Greatest Albums Made By Women July 24 2017 subkhnemux September 2 2017 Kreps Daniel February 1 2010 Beyonce Taylor Swift Dominate 2010 Grammy Awards Rolling Stone cakaehlngedimemux February 15 2012 subkhnemux February 13 2012 Kreps Daniel February 4 2010 Taylor Swift s Label Lashes Out at Critics of Grammy Performance Rolling Stone cakaehlngedimemux January 19 2013 subkhnemux May 15 2012 Caramanica Jon February 1 2010 For Young Superstar Taylor Swift Big Wins Mean Innocence Lost The New York Times cakaehlngedimemux August 28 2012 subkhnemux May 15 2012 Kaufman Gil November 12 2009 Taylor Swift Dominates CMA Awards MTV News cakaehlngedimemux March 6 2016 subkhnemux September 13 2016 Big Machine Records April 6 2009 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux April 16 2009 subkhnemux April 7 2009 odythang Vena Jocelyn November 6 2009 John Mayer Talks Taylor Swift Collaboration Half of My Heart MTV cakaehlngedimemux September 8 2014 subkhnemux May 15 2012 Kellie Pickler Has Her Best Days Thanks To Taylor Swift MTV cakaehlngedimemux January 1 2016 subkhnemux November 11 2015 Boys Like Girls Dish on Taylor Swift December 15 2009 cakaehlngedimemux January 16 2016 subkhnemux May 15 2012 Vena Jocelyn December 28 2009 New Taylor Swift Song Included In Valentine s Day Featurette MTV cakaehlngedimemux January 16 2016 subkhnemux November 11 2015 Taylor Swift Chart history on Canadian Hot 100 Billboard cakaehlngedimemux August 9 2016 subkhnemux August 3 2016 Park Michael Y Sia Nicole December 29 2009 Taylor amp Taylor Romance Was Overblown Says Source People cakaehlngedimemux November 13 2012 subkhnemux March 6 2012 Billboard Bits Taylor Swifts Offers Apology To Taylor Lautner Christina Aguilera Confirms Split Billboard October 10 2012 cakaehlngedimemux June 5 2016 subkhnemux August 2 2016 Sharkey Betsy February 12 2010 Review Valentine s Day Page 2 Los Angeles Times cakaehlngedimemux October 11 2012 subkhnemux July 30 2012 McCarthy Todd February 7 2010 Valentine s Day Film Reviews cakaehlngedimemux July 29 2013 subkhnemux July 30 2012 Ryan Joal March 6 2009 Wild Card American Idol Holds Off Taylor Swift CSI E Caramanica Jon March 6 2009 OMG Taylor Swift Does CSI The New York Times Blog cakaehlngedimemux August 14 2011 subkhnemux May 7 2012 Strecker Erin January 2 2015 Remember When Taylor Swift Shined as Saturday Night Live Host Billboard cakaehlngedimemux January 24 2015 subkhnemux January 15 2015 Hammel Sara January 4 2011 Taylor Swift amp Jake Gyllenhaal Break Up Source People cakaehlngedimemux May 9 2012 subkhnemux March 6 2012 Pietroluongo Silvio August 11 2010 Taylor Swift Makes Sparkling Hot 100 Entrance Billboard cakaehlngedimemux January 31 2016 subkhnemux July 25 2016 Caramanica Jon October 20 2010 Taylor Swift Angry on Speak Now The New York Times cakaehlngedimemux October 21 2010 subkhnemux October 23 2010 Kaufman Gil November 3 2010 Taylor Swift s Speak Now Tops 1 Million in First Week MTV News cakaehlngedimemux August 10 2016 subkhnemux August 8 2016 Fastest selling digital album in the US by a female artist Guinness World Records cakaehlngedimemux June 22 2015 subkhnemux June 16 2015 Most simultaneous US hot 100 hits by a female Guinness World Records cakaehlngedimemux June 22 2015 subkhnemux June 16 2015 Wyland Sarah February 12 2012 Great American Country khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux September 6 2015 subkhnemux February 13 2012 Suddath Claire February 12 2012 Taylor Swift Mean The Best and Worst of the 2012 Grammys Time cakaehlngedimemux April 24 2012 subkhnemux April 22 2012 Deerwester Jayme February 12 2012 Adoration for Adele 6 Grammys USA Today cakaehlngedimemux October 26 2012 subkhnemux April 22 2012 Shelburne Craig October 18 2010 Taylor Swift Named NSAI s Songwriter Artist of the Year CMT cakaehlngedimemux January 16 2016 subkhnemux November 21 2015 Smith Hazel October 24 2011 News Hot Dish Taylor Swift Sings Alan Jackson s Masterpiece at Nashville Songwriters Celebration CMT cakaehlngedimemux November 29 2014 subkhnemux April 22 2012 Roland Tom December 2 2011 Taylor Swift Billboard s Woman of the Year Billboard p 1 cakaehlngedimemux February 3 2013 subkhnemux May 15 2012 Taylor Swift wins ACM entertainer of the year Yahoo Associated Press April 1 2012 cakaehlngedimemux August 23 2016 subkhnemux May 15 2012 CMA Awards 2011 Taylor Swift wins entertainer of the year CBS News November 9 2011 cakaehlngedimemux September 8 2014 subkhnemux May 15 2012 Kellogg Jane November 20 2011 AMAs 2011 Winners and Nominees Complete List cakaehlngedimemux June 27 2015 subkhnemux November 21 2015 Women Who Rock The 50 Greatest Albums of All Time Rolling Stone June 23 2012 cakaehlngedimemux December 10 2016 subkhnemux July 15 2017 Allen Bob March 29 2012 Hot Tours Taylor Swift George Strait Cirque Du Soleil Billboard cakaehlngedimemux February 21 2013 subkhnemux May 10 2012 Taylorswift com September 21 2011 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux October 11 2011 subkhnemux September 21 2011 Herrera Monica March 15 2012 Taylor Swift Arcade Fire Talk Hunger Games Rolling Stone cakaehlngedimemux June 27 2015 subkhnemux May 10 2012 Horowitz Steven J April 20 2012 B o B Explains Origins of Taylor Swift Collaboration Both of Us HipHopDX cakaehlngedimemux September 10 2015 subkhnemux May 15 2012 Toomedy Alyssa Taylor Swift and Conor Kennedy Breakup Anatomy of a Split E cakaehlngedimemux December 4 2015 subkhnemux November 10 2015 Trust Gary August 22 2012 Taylor Swift Scores First Hot 100 No 1 Billboard cakaehlngedimemux February 13 2013 subkhnemux August 22 2012 New Zealand Charts khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2017 07 29 subkhnemux July 26 2016 Lynch Kevin September 4 2013 Calvin Harris trumps Michael Jackson feat to join Taylor Swift Rihanna and One Direction in Guinness World Records 2014 book Guinness World Records cakaehlngedimemux June 22 2015 subkhnemux June 16 2015 Taylor Swift Chart history Billboard cakaehlngedimemux August 9 2016 subkhnemux July 26 2016 Apodaca Joseph Billboard names Taylor Swift 2014 s No 1 music Money Maker see who made the top 10 cakaehlngedimemux May 16 2016 subkhnemux June 19 2016 Taylor Swift s Red Sells 1 21 Million Biggest Sales Week for an Album Since 2002 Billboard September 14 2009 cakaehlngedimemux February 1 2013 subkhnemux November 7 2012 Greenwald David September 6 2013 Taylor Swift Rihanna Justin Bieber Among 2014 Guinness Record Setters Billboard cakaehlngedimemux June 8 2015 subkhnemux July 27 2016