เฮอร์เบิร์ต เจมส์ แฮดด็อก (อังกฤษ: Herbert James Haddock) ซีบี (27 มกราคม ค.ศ. 1861 – 4 ตุลาคม ค.ศ. 1946) เป็นนายและกัปตันเรือชาวอังกฤษ เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะกัปตันเรืออาร์เอ็มเอส โอลิมปิก (RMS Olympic) ในช่วงที่เรืออาร์เอ็มเอส ไททานิก (RMS Titanic) กำลังอับปางเมื่อปี ค.ศ. 1912
เฮอร์เบิร์ต เจมส์ แฮดด็อก | |
---|---|
เกิด | 27 มกราคม ค.ศ. 1861 รักบี อังกฤษ |
เสียชีวิต | 4 ตุลาคม ค.ศ. 1946 เซาแทมป์ตัน แฮมป์เชอร์ อังกฤษ | (85 ปี)
อาชีพ | |
มีชื่อเสียงจาก | เป็นกัปตันของอาร์เอ็มเอส โอลิมปิก ขณะที่อาร์เอ็มเอส ไททานิกกำลังอับปาง |
คู่สมรส | มาเบล เอลิซ่า บูเชตต์ (สมรส 1893; 1935) |
บุตร |
|
บิดามารดา | เฮอร์เบิร์ต แฮดด็อก |
เขาเป็นกัปตันคนแรกของเรือไททานิก ซึ่งทำหน้าที่ดูแลเรือในเบลฟาสต์และเตรียมลูกเรือเพื่อจัดส่งเรือไททานิกไปยังเซาแทมป์ตันระหว่างวันที่ 25–31 มีนาคม ค.ศ. 1912
ในปี ค.ศ. 1911 หนังสือพิมพ์เดอะนิวยอร์กไทมส์ (The New York Times) กล่าวถึงแฮดด็อกว่าเป็น "กัปตันเรือเพียงคนเดียวที่ไว้จอนแบบยุควิกตอเรียตอนกลางโดยไม่มีเคราหรือหนวด"
วัยเยาว์
แฮดด็อกเกิดเมื่อวันที่ 27 มกราคม ค.ศ. 1861 เป็นบุตรของเฮอร์เบิร์ต เจมส์ แฮดด็อก (ค.ศ. 1825) ในเมืองรักบี, วอริกเชอร์ เขาเข้ารับราชการในราชนาวี (Royal Navy) โดยได้รับยศร้อยโท บนเรือหลวง (HMS Edinburgh) และได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์บาธชั้นสหาย (Most Honourable Order of the Bath) ในปี ค.ศ. 1902
ไวต์สตาร์ไลน์
หลังจากรับราชการทหารเรือ แฮดด็อกได้ร่วมงานกับสายการเดินเรือไวต์สตาร์ (White Star Line) ซึ่งเขาได้บัญชาการเรือเดินสมุทรหลายลำ เช่น (RMS Britannic), (SS Germanic), (RMS Cedric) และ (RMS Oceanic)
แฮดด็อกยังได้เป็นผู้บัญชาการคนแรกของเรืออาร์เอ็มเอส ไททานิก (RMS Titanic) เขาเซ็นสัญญาเป็นผู้บัญชาการของเธอที่เซาแทมป์ตันเมื่อวันที่ 25 มีนาคม ค.ศ. 1912 จากนั้นเดินทางไปยังเบลฟาสต์เพื่อดูแลลูกเรือที่รวมตัวกันที่นั่นสำหรับการส่งเรือไปยังเซาแทมป์ตัน ต่อมาเขามอบงานนี้ให้กับเอ็ดเวิร์ด เจ. สมิธ (Edward J. Smith) ในวันที่ 31 มีนาคม จากนั้นเขากลับไปเซาแทมป์ตันเพื่อไปบัญชาการเรือลำก่อนหน้าของสมิธ นั่นคืออาร์เอ็มเอส โอลิมปิก (RMS Olympic) ในวันที่ 3 เมษายน เขาเริ่มบัญชาการการเดินทางไป-กลับ ระหว่างเซาแทมป์ตันกับนครนิวยอร์กครั้ง 10 ของเรือโอลิมปิก และมาถึงนิวยอร์กในวันที่ 10 เมษายน ซึ่งเป็นวันที่เรือไททานิกออกจากเซาแทมป์ตันในการเดินทางเที่ยวแรก
ในช่วงเวลาที่เรือไททานิกกำลังอับปาง แฮดด็อกกำลังแล่นเรือโอลิมปิกจากนิวยอร์กไปยังเซาแธมป์ตัน ซึ่งอยู่ห่างจากไททานิกประมาณ 500 ไมล์ทะเล (930 กิโลเมตร; 580 ไมล์) ทางตะวันตกโดยทางใต้ (west by south) ในเวลา 22:50 น. ของวันที่ 14 เมษายน แฮดด็อกได้รับโทรเลขขอความช่วยเหลือของไททานิกจาก เออร์เนสต์ เจมส์ มัวร์ (Ernest James Moore) เจ้าหน้าที่ห้องวิทยุสื่อสาร หลังจากได้รับสัญญาณ จากไททานิก แฮ็ดด็อคคำนวณเส้นทางใหม่และรีบมุ่งตรงไปหาเธอ นอกจากนี้เขายังสั่งให้เร่งเครื่องยนต์ของเรือเต็มกำลัง เวลาประมาณ 04:00 น. ของวันที่ 15 เมษายน ขณะอยู่ห่างจากเรือไททานิกประมาณ 100 ไมล์ทะเล (190 กิโลเมตร; 120 ไมล์) แฮดด็อกได้รับข้อความจากกัปตัน (Authur Rostron) แห่งเรืออาร์เอ็มเอส คาร์พาเธีย (RMS Carpathia) ซึ่งอธิบายว่า"เรือของตนได้มาช่วยเหลือผู้รอดชีวิตของไททานิกทั้งหมดแล้ว และเรือไททานิกได้อับปางไปแล้วเมื่อเวลาประมาณ 02:20 น." รอสตรอนได้ขอให้ส่งต่อข้อความไปยังไวต์สตาร์ไลน์ และคิวนาร์ดไลน์ เขาบอกว่าเขากำลังจะกลับไปที่ท่าเรือนิวยอร์ก และแนะนำให้เรือลำอื่น ๆ กระทำเช่นเดียวกัน ต่อจากนั้นห้องวิทยุสื่อสารบนเรือโอลิมปิก ได้ทำหน้าที่เป็นห้องเคลียร์สำหรับข้อความทางวิทยุ
ในการเกี่ยวกับการอับปางของเรือไททานิก แฮดด็อกได้รับการสัมภาษณ์โดยวิลเลียม อัลเดน สมิธ (William Alden Smith) สมาชิกวุฒิสภา เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ค.ศ. 1912 7 สัปดาห์หลังจากไททานิกอับปาง แฮดด็อกที่กำลังแล่นเรืออยู่ในตอนกลางคืนเกือบจะทำให้เรือโอลิมปิกเกยตื้นบนโขดหินใกล้กับแลนด์สเอนด์ โชคดีที่เจ้าหน้าที่สังเกตการณ์บนเสากระโดงเรือมองเห็นคลื่นที่ฐานของหินได้ทันเวลาและสามารถเลี่ยงได้ทัน สาเหตุเกิดจากการเดินเรือที่ผิดพลาด และแฮ็ดด็อคก็อยู่ภายใต้การสังเกตการณ์อย่างเข้มงวดสำหรับการเดินทางอีก 2–3 ครั้งถัดไปของเขา
ในวันที่ 9 ตุลาคม ค.ศ. 1912 ไวต์สตาร์นำเรือโอลิมปิกออกจากการให้บริการและส่งเธอไปยังผู้สร้างของเธอที่เบลฟาสต์เพื่อแก้ไขเรือหลังจากได้รับบทเรียนจากการอับปางของเรือไททานิกเมื่อ 6 เดือนก่อน และเพิ่มความปลอดภัยของเรือ การปรับปรุงนี้ดำเนินไปจนถึงกลางปี 1913 และในขณะที่เรือโอลิมปิก จอดทิ้งไว้ แฮดด็อกก็ถูกย้ายไปบัญชาการเรือของไวต์สตาร์ลำอื่น
สงครามโลกครั้งที่ 1
เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 เริ่มต้นขึ้นในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1914 แฮดด็อกก็กลับมาบัญชาการเรือโอลิมปิกอีกครั้ง และพยายามจะช่วยเหลือเรือรบ (HMS Audacious) หลังจากชนกับทุ่นระเบิดของเยอรมันที่นอกชายฝั่งตะวันตกของสกอตแลนด์ หลังจากการช่วยเหลือเรือหลวงออดาเซียส เรือโอลิมปิกก็ถูกปลดออกจากการให้บริการผู้โดยสารในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1914 และถูกดัดแปลงเป็นเรือลำเลียงพล จากนั้นกรมทหารเรือ (Admiralty) ได้มอบหมายให้แฮดด็อกไปบัญชาการกองเรือรบปลอมซึ่งประจำการอยู่ที่เบลฟาสต์ ในปี ค.ศ. 1915 (Harold Sanderson) ประธานบริษัทอินเตอร์เนชั่นแนล เมอร์แคนไทล์ มารีน (International Mercantile Marine) พยายามจะมอบหมายให้แฮดด็อกไปบัญชาการเรือเอชเอ็มเอชเอส บริแทนนิก (HMHS Britannic) อย่างไรก็ตาม กรมทหารเรือปฏิเสธที่จะปลดแฮดด็อกออกจากเบลฟาสต์ และในปี ค.ศ. 1916 แฮดด็อกก็ได้ลาออกจากไวต์สตาร์ไลน์
ตั้งแต่วันที่ 5–14 พฤษภาคม ค.ศ. 1917 แฮดด็อกออกเดินทางจากลิเวอร์พูลไปยังนครนิวยอร์กในฐานะผู้โดยสารบนเรือ (SS Saint Paul) 6 เดือนก่อนที่เธอจะเกณฑ์ไปเข้าร่วมสงคราม จากรายการการเดินทางพบว่าการเดินทางของแฮดด็อกได้รับทุนจากรมทหารเรือ และระบุว่าปลายทางสุดท้ายของเขาคือ นิวพอร์ตนิวส์ เวอร์จิเนีย ต่อมาในปีนั้นเขาได้เดินทางไปสหรัฐอเมริกาเป็นครั้งที่สองโดยมาถึงนิวยอร์กในวันที่ 31 สิงหาคม ค.ศ. 1917 ในฐานะผู้โดยสารบนเรือ (RMS Adriatic) โดยเขามีชื่ออยู่ในรายการผู้โดยสารว่า "เจ้าหน้าที่ทหารเรือ" และปลายทางสุดท้ายอยู่ที่ เมืองนอร์ฟอล์ก รัฐเวอร์จิเนีย ค่าเดินทางของเขาในการเดินทางครั้งนี้ได้รับจากไวต์สตาร์ไลน์ ซึ่งเป็นนายจ้างเก่าของเขา แต่ไม่ทราบวัตถุประสงค์ของการเดินทางทั้งสองครั้งนี้
หลังสงคราม
หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 1 สิ้นสุดลง แฮดด็อกยังคงทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยกองหนุนกองหนุนกองทัพเรือต่อพระเจ้าจอร์จที่ 5 จนถึงปี 1919 ในวันที่ 8 ธันวาคม ค.ศ. 1919 ชื่อของกัปตันเฮอร์เบิร์ต เจ. แฮดด็อก ถูกจัดให้อยู่ในรายชื่อเกษียณของกองพลสำรองราชนาวี (Royal Naval Reserve) ไม่คาดคิดว่าแฮดด็อกซึ่งมีอายุครบ 60 ปี ซึ่งเป็นอายุเกษียณบังคับสำหรับเจ้าหน้าที่ของไวต์สตาร์ จะกลับมาทำงานที่ไวท์สตาร์ไลน์อีกครั้งหลังสงคราม ในปี 1921
อ้างอิง
- "Capt. Haddock Dead, Olympic Ex-Master" (PDF). The New York Times. 6 October 1946. สืบค้นเมื่อ 9 October 2018.
- "Change in Commodores: Capt. Haddock to Head White Star Line at Increased Pay" (PDF). The New York Times. 6 June 1911. สืบค้นเมื่อ 9 October 2018.
- "CAPTAIN HERBERT JAMES HADDOCK, SHIP CAPTAIN FROM RUGBY". Our Warwickshire. สืบค้นเมื่อ 9 August 2020.
- . Malta Family History. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2 December 2017. สืบค้นเมื่อ 18 February 2012.
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อTitanic Inquiry Project 2012 1
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อBaber
- Fisher, John Arbuthnot Fisher Baron (1919-01-01). Memories (ภาษาอังกฤษ). Hodder and Stoughton.
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อEllis Island Foundation 1917 661
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
ehxrebirt ecms aehddxk xngkvs Herbert James Haddock sibi 27 mkrakhm kh s 1861 4 tulakhm kh s 1946 epnnayaelakptneruxchawxngkvs epnthiruckkndiinthanakptneruxxarexmexs oxlimpik RMS Olympic inchwngthieruxxarexmexs iththanik RMS Titanic kalngxbpangemuxpi kh s 1912ehxrebirt ecms aehddxk sibiekid27 mkrakhm kh s 1861 1861 01 27 rkbi xngkvsesiychiwit4 tulakhm kh s 1946 1946 10 04 85 pi esaaethmptn aehmpechxr xngkvsxachiphmichuxesiyngcakepnkptnkhxngxarexmexs oxlimpik khnathixarexmexs iththanikkalngxbpangkhusmrsmaebl exlisa buechtt smrs 1893 1935 butrecffriy 1895 1916 ruth 1896 1958 ehxrebirt 1903 1988 ocn 1903 1920 bidamardaehxrebirt aehddxk ekhaepnkptnkhnaerkkhxngeruxiththanik sungthahnathiduaeleruxineblfastaelaetriymlukeruxephuxcdsngeruxiththanikipyngesaaethmptnrahwangwnthi 25 31 minakhm kh s 1912 inpi kh s 1911 hnngsuxphimphedxaniwyxrkithms The New York Times klawthungaehddxkwaepn kptneruxephiyngkhnediywthiiwcxnaebbyukhwiktxeriytxnklangodyimmiekhrahruxhnwd wyeyawaehddxkekidemuxwnthi 27 mkrakhm kh s 1861 epnbutrkhxngehxrebirt ecms aehddxk kh s 1825 inemuxngrkbi wxrikechxr ekhaekharbrachkarinrachnawi Royal Navy odyidrbysrxyoth bneruxhlwng HMS Edinburgh aelaidrbekhruxngrachxisriyaphrnbathchnshay Most Honourable Order of the Bath inpi kh s 1902iwtstarilnhlngcakrbrachkarthharerux aehddxkidrwmngankbsaykaredineruxiwtstar White Star Line sungekhaidbychakareruxedinsmuthrhlayla echn RMS Britannic SS Germanic RMS Cedric aela RMS Oceanic aehddxkyngidepnphubychakarkhnaerkkhxngeruxxarexmexs iththanik RMS Titanic ekhaesnsyyaepnphubychakarkhxngethxthiesaaethmptnemuxwnthi 25 minakhm kh s 1912 caknnedinthangipyngeblfastephuxduaellukeruxthirwmtwknthinnsahrbkarsngeruxipyngesaaethmptn txmaekhamxbnganniihkbexdewird ec smith Edward J Smith inwnthi 31 minakhm caknnekhaklbipesaaethmptnephuxipbychakareruxlakxnhnakhxngsmith nnkhuxxarexmexs oxlimpik RMS Olympic inwnthi 3 emsayn ekhaerimbychakarkaredinthangip klb rahwangesaaethmptnkbnkhrniwyxrkkhrng 10 khxngeruxoxlimpik aelamathungniwyxrkinwnthi 10 emsayn sungepnwnthieruxiththanikxxkcakesaaethmptninkaredinthangethiywaerk inchwngewlathieruxiththanikkalngxbpang aehddxkkalngaelneruxoxlimpikcakniwyxrkipyngesaaethmptn sungxyuhangcakiththanikpraman 500 imlthael 930 kiolemtr 580 iml thangtawntkodythangit west by south inewla 22 50 n khxngwnthi 14 emsayn aehddxkidrbothrelkhkhxkhwamchwyehluxkhxngiththanikcak exxrenst ecms mwr Ernest James Moore ecahnathihxngwithyusuxsar hlngcakidrbsyyan cakiththanik aehddxkhkhanwnesnthangihmaelaribmungtrngiphaethx nxkcakniekhayngsngiherngekhruxngyntkhxngeruxetmkalng ewlapraman 04 00 n khxngwnthi 15 emsayn khnaxyuhangcakeruxiththanikpraman 100 imlthael 190 kiolemtr 120 iml aehddxkidrbkhxkhwamcakkptn Authur Rostron aehngeruxxarexmexs kharphaethiy RMS Carpathia sungxthibaywa eruxkhxngtnidmachwyehluxphurxdchiwitkhxngiththanikthnghmdaelw aelaeruxiththanikidxbpangipaelwemuxewlapraman 02 20 n rxstrxnidkhxihsngtxkhxkhwamipyngiwtstariln aelakhiwnardiln ekhabxkwaekhakalngcaklbipthithaeruxniwyxrk aelaaenanaiheruxlaxun krathaechnediywkn txcaknnhxngwithyusuxsarbneruxoxlimpik idthahnathiepnhxngekhliyrsahrbkhxkhwamthangwithyu inkarekiywkbkarxbpangkhxngeruxiththanik aehddxkidrbkarsmphasnodywileliym xledn smith William Alden Smith smachikwuthispha emuxwnthi 25 phvsphakhm kh s 1912 7 spdahhlngcakiththanikxbpang aehddxkthikalngaelneruxxyuintxnklangkhunekuxbcathaiheruxoxlimpikekytunbnokhdhiniklkbaelndsexnd ochkhdithiecahnathisngektkarnbnesakraodngeruxmxngehnkhlunthithankhxnghinidthnewlaaelasamartheliyngidthn saehtuekidcakkaredineruxthiphidphlad aelaaehddxkhkxyuphayitkarsngektkarnxyangekhmngwdsahrbkaredinthangxik 2 3 khrngthdipkhxngekha inwnthi 9 tulakhm kh s 1912 iwtstarnaeruxoxlimpikxxkcakkarihbrikaraelasngethxipyngphusrangkhxngethxthieblfastephuxaekikheruxhlngcakidrbbtheriyncakkarxbpangkhxngeruxiththanikemux 6 eduxnkxn aelaephimkhwamplxdphykhxngerux karprbprungnidaeninipcnthungklangpi 1913 aelainkhnathieruxoxlimpik cxdthingiw aehddxkkthukyayipbychakareruxkhxngiwtstarlaxun sngkhramolkkhrngthi 1 emuxsngkhramolkkhrngthi 1 erimtnkhunineduxntulakhm kh s 1914 aehddxkkklbmabychakareruxoxlimpikxikkhrng aelaphyayamcachwyehluxeruxrb HMS Audacious hlngcakchnkbthunraebidkhxngeyxrmnthinxkchayfngtawntkkhxngskxtaelnd hlngcakkarchwyehluxeruxhlwngxxdaesiys eruxoxlimpikkthukpldxxkcakkarihbrikarphuodysarineduxnphvscikayn kh s 1914 aelathukddaeplngepneruxlaeliyngphl caknnkrmthharerux Admiralty idmxbhmayihaehddxkipbychakarkxngeruxrbplxmsungpracakarxyuthieblfast inpi kh s 1915 Harold Sanderson prathanbristhxinetxrenchnaenl emxraekhnithl marin International Mercantile Marine phyayamcamxbhmayihaehddxkipbychakareruxexchexmexchexs briaethnnik HMHS Britannic xyangirktam krmthhareruxptiesththicapldaehddxkxxkcakeblfast aelainpi kh s 1916 aehddxkkidlaxxkcakiwtstariln tngaetwnthi 5 14 phvsphakhm kh s 1917 aehddxkxxkedinthangcakliewxrphulipyngnkhrniwyxrkinthanaphuodysarbnerux SS Saint Paul 6 eduxnkxnthiethxcaeknthipekharwmsngkhram cakraykarkaredinthangphbwakaredinthangkhxngaehddxkidrbthuncakrmthharerux aelarabuwaplaythangsudthaykhxngekhakhux niwphxrtniws ewxrcieniy txmainpinnekhaidedinthangipshrthxemrikaepnkhrngthisxngodymathungniwyxrkinwnthi 31 singhakhm kh s 1917 inthanaphuodysarbnerux RMS Adriatic odyekhamichuxxyuinraykarphuodysarwa ecahnathithharerux aelaplaythangsudthayxyuthi emuxngnxrfxlk rthewxrcieniy khaedinthangkhxngekhainkaredinthangkhrngniidrbcakiwtstariln sungepnnaycangekakhxngekha aetimthrabwtthuprasngkhkhxngkaredinthangthngsxngkhrngni hlngsngkhram hlngcaksngkhramolkkhrngthi 1 sinsudlng aehddxkyngkhngthahnathiepnphuchwykxnghnunkxnghnunkxngthpheruxtxphraecacxrcthi 5 cnthungpi 1919 inwnthi 8 thnwakhm kh s 1919 chuxkhxngkptnehxrebirt ec aehddxk thukcdihxyuinraychuxeksiynkhxngkxngphlsarxngrachnawi Royal Naval Reserve imkhadkhidwaaehddxksungmixayukhrb 60 pi sungepnxayueksiynbngkhbsahrbecahnathikhxngiwtstar caklbmathanganthiiwthstarilnxikkhrnghlngsngkhram inpi 1921xangxing Capt Haddock Dead Olympic Ex Master PDF The New York Times 6 October 1946 subkhnemux 9 October 2018 Change in Commodores Capt Haddock to Head White Star Line at Increased Pay PDF The New York Times 6 June 1911 subkhnemux 9 October 2018 CAPTAIN HERBERT JAMES HADDOCK SHIP CAPTAIN FROM RUGBY Our Warwickshire subkhnemux 9 August 2020 Malta Family History khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2 December 2017 subkhnemux 18 February 2012 xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux Titanic Inquiry Project 2012 1 xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux Baber Fisher John Arbuthnot Fisher Baron 1919 01 01 Memories phasaxngkvs Hodder and Stoughton xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux Ellis Island Foundation 1917 661