เหตุโจมตีด้วยขีปนาวุธในแซร์ฮียิวกา

เมื่อเวลาประมาณ 00:20 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) ของวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 รัสเซียได้ยิงขีปนาวุธโจมตีอาคารที่อยู่อาศัยและศูนย์นันทนาการในแซร์ฮียิวกา นิคมตากอากาศริมฝั่งทะเลดำในเทศบาลนิคมแซร์ฮียิวกา แคว้นออแดซา ประเทศยูเครน เหตุโจมตีครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิต 22 คน (รวมถึงเด็กอายุ 11 ปี) และกลายเป็นเหตุโจมตีที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในแคว้นออแดซานับตั้งแต่รัสเซียเริ่มรุกรานยูเครน

เหตุโจมตีด้วยขีปนาวุธในแซร์ฮียิวกา
เป็นส่วนหนึ่งของการรุกรานยูเครนโดยรัสเซีย พ.ศ. 2565
สัตว์เลี้ยงที่ตายจากการถูกโจมตีที่อาคาร 9 ชั้น
อาคาร 9 ชั้น เลขที่ 23 ถนนบูจัก ศูนย์นันทนาการและโรงแรมฮอจี
สถานที่	นิคมแซร์ฮียิวกา เทศบาลนิคมแซร์ฮียิวกา แคว้นออแดซา ยูเครน
พิกัด	46°01′24″N 30°21′23″E / 46.02330°N 30.35652°E / 46.02330; 30.35652
วันที่	1 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 ประมาณ 00:20 น. (UTC+3)
เป้าหมาย	พลเรือน
ประเภท	การโจมตีด้วยขีปนาวุธ
อาวุธ	ขีปนาวุธ
ตาย	22 คน (รวมเด็ก 1 คน)
เจ็บ	39 คน (รวมเด็ก 6 คน)
ผู้ก่อเหตุ	กองทัพรัสเซีย

ภูมิหลัง

นิคมตากอากาศริมฝั่งทะเลดำในแคว้นออแดซาอย่างซันฌีย์กา, ซาตอกา, แซร์ฮียิวกา และแลแบดิวกาเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมในช่วงวันหยุดพักร้อนของชาวยูเครนจนกระทั่ง พ.ศ. 2565 เมื่อรัสเซียเข้ารุกรานยูเครน นับแต่นั้นมาชายฝั่งแคว้นออแดซาก็ถูกรัสเซียยิงโจมตีอย่างต่อเนื่อง

การโจมตี

ตามข้อมูลเบื้องต้น เครื่องบิน จำนวน 3 ลำของกองทัพอากาศรัสเซียบินออกจากแคว้นวอลโกกราดมายังไครเมีย และหลังจากบินมาได้เป็นระยะ 1,200 กิโลเมตร (750 ไมล์) ก็ยิงขีปนาวุธประเภท จำนวน 3 ลูกมาทางนิคมแซร์ฮียิวกาใน

หลังเที่ยงคืนของวันที่ 1 กรกฎาคม ขีปนาวุธลูกแรกพุ่งเข้าใส่ร้านอุปกรณ์ช่างที่ชั้นล่างของอาคารอยู่อาศัย 9 ชั้น เลขที่ 23 ถนนบูจัก ส่งผลให้มีพลเรือนเสียชีวิต 15 คน และห้องพักอาศัย 105 ห้องจากทั้งหมด 106 ห้องในอาคารนั้นได้รับความเสียหาย หลังจากนั้นเพียงไม่กี่นาที ขีปนาวุธอีก 2 ลูกก็พุ่งเข้าใส่ศูนย์นันทนาการและโรงแรม "ฮอจี" ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียง ส่งผลให้มีพลเรือนเสียชีวิต 6 คน

ผู้เสียชีวิตที่ศูนย์นันทนาการฮอจีรวมถึงนาดียา รุดนึตส์กึย ผู้จัดการศูนย์ฯ, ดมือตรอ รุดนึตส์กึย ลูกชายอายุ 11 ปีของเธอ และออแลกซันดร์ ชึชกอว์ ผู้ฝึกสอนฟุตบอลเยาวชนที่มีชื่อเสียงจากเมืองออแดซา ในเวลานั้นชึชกอว์พักอยู่ที่ศูนย์ฯ ก่อนนัดการแข่งขันฟุตบอลล่วงหน้า 1 วัน ส่วนที่อาคาร 9 ชั้นนั้น นอกจากจะมีคนเสียชีวิตแล้วยังมีสัตว์เลี้ยงที่ตายจากเหตุโจมตีครั้งนี้ด้วย

อาคารอีกหลายหลังภายในรัศมี 2 กิโลเมตรจากพื้นที่เกิดเหตุยังได้รับผลกระทบจากคลื่นแรงระเบิด อาคารศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพเด็กของรัฐบาลมอลโดวาในแซร์ฮียิวกาได้รับความเสียหายเล็กน้อย แต่มีเจ้าหน้าที่ของศูนย์ฯ เสียชีวิต 1 คน และบาดเจ็บ 5 คน

ปฏิกิริยา

ทางการยูเครนประกาศให้วันที่ 2 กรกฎาคมเป็นวันไว้อาลัยในแคว้นออแดซา ในขณะเดียวกันก็ดำเนินการสอบสวนเหตุโจมตีในฐานะอาชญากรรมสงครามที่เข้าข่ายการละเมิดกฎหมายและประเพณีสงครามร่วมกับฆาตกรรมโดยเจตนา

กระทรวงการต่างประเทศมอลโดวาประณามเหตุโจมตีและเผยแพร่ข้อมูลความเสียหายที่เกิดขึ้นกับศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพเด็กของรัฐบาลมอลโดวา กระทรวงสาธารณสุขมอลโดวากล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ของศูนย์ฯ ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ดูแลเด็ก ๆ ในศูนย์ฯ อย่างทุ่มเท และแสดงความเสียใจกับครอบครัวของเจ้าหน้าที่ที่บาดเจ็บและเสียชีวิตโรมาเนียประณามเหตุโจมตีเช่นกัน และกล่าวว่าทางการโรมาเนียจะหารือกับทางการมอลโดวาเกี่ยวกับเหตุที่เกิดขึ้นต่อไป

ชเต็ฟเฟิน เฮเบิสไทรท์ โฆษกรัฐบาลเยอรมนี กล่าวว่า "เหตุการณ์นี้แสดงให้เราเห็นอีกครั้งว่าผู้รุกรานจากรัสเซียเพิกเฉยอย่างจงใจต่อการเสียชีวิตของพลเรือน ... การโจมตีพลเรือนถือเป็นอาชญากรรมสงคราม ประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน และผู้มีส่วนร่วมก่อเหตุจะต้องรับผิดชอบ"

วอลอดือมือร์ แซแลนสกึย ประธานาธิบดียูเครน กล่าวว่าเหตุโจมตีครั้งนี้ "เป็นการก่อการร้ายโดยเจตนาของรัสเซีย และไม่ใช่การโจมตีผิดพลาดใด ๆ" เขาตั้งข้อสังเกตว่ากองทัพรัสเซียใช้อาวุธทรงพลังเพื่อโจมตีเป้าหมายพลเรือน "ขีปนาวุธคา-22 เหล่านี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อทำลายเรือบรรทุกเครื่องบินและเรือรบขนาดใหญ่อื่น ๆ และกองทัพรัสเซียใช้มันเพื่อโจมตีอาคาร 9 ชั้นธรรมดาที่มีพลเรือนอาศัยอยู่"

อีวัน บากานอว์ หัวหน้า ระบุว่าการโจมตีเป้าหมายพลเรือนครั้งนี้เป็นการแก้แค้นของกองทัพรัสเซียที่จำต้องถอนกำลังออกจากเกาะงูในทะเลดำเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน (วันก่อนเกิดเหตุโจมตี)

ดมีตรี เปสคอฟ โฆษกประจำทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซีย ปฏิเสธว่าฝ่ายตนไม่ได้โจมตีเป้าหมายพลเรือนในยูเครนและกล่าวว่าอาคารเป้าหมายเหล่านั้นถูกใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางทหาร อย่างไรก็ตาม องค์การแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุและศึกษาภาพถ่ายจากดาวเทียมแล้วไม่พบหลักฐานว่ามีทหารยูเครน อาวุธ เป้าหมายทางทหาร หรือกิจกรรมทางทหารใด ๆ ในพื้นที่ก่อนเกิดเหตุโจมตี

ระเบียงภาพ

• สภาพศูนย์นันทนาการฮอจีหลังเกิดเหตุโจมตี
• สภาพอาคาร 9 ชั้นหลังเกิดเหตุโจมตี
• ปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยในอาคาร 9 ชั้น
• สภาพบริเวณอาคาร 9 ชั้นหลังเกิดเหตุโจมตี

อ้างอิง

1. "Найбільша кількість загиблих від початку вторгнення: що відомо про трагедію в Сергіївці Одеської області. Відео" (ภาษายูเครน). Суспільне Новини. 2022-07-01. สืบค้นเมื่อ 2022-07-01.
2. "Суцільний крах: показали відео знищеного будинку під Одесою" (ภาษายูเครน). Gazeta.ua. 2022-07-01. สืบค้นเมื่อ 2022-07-01.
3. "По Білгород-Дністровському району росіяни вдарили 3 ракетами Х-22 – ОК «Південь»" (ภาษายูเครน). Українська правда. 2022-07-01. สืบค้นเมื่อ 2022-07-01.
4. "Удар по Сергіївці на Одещині: зросла кількість жертв". Українська Правда. 2022-07-09.
5. (ภาษายูเครน). Офіційний веб-портал ДСНС України. 2022-07-01. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-07-02. สืบค้นเมื่อ 2022-07-01.
6. "Сергіївка на Одещині. Росіяни завдали ракетного удару, багато загиблих та поранених" (ภาษายูเครน). BBC News | Україна. 2022-07-01. สืบค้นเมื่อ 2022-07-01.
7. "Рятувальники виявили 20 загиблих внаслідок ракетного удару по Сергіївці" (ภาษายูเครน). Радіо Свобода. 2022-07-01. สืบค้นเมื่อ 2022-07-01.
8. "Россия обстреляла курорт под Одессой, погиб 21 человек, в том числе один ребенок" (ภาษารัสเซีย). BBC. 2022-07-01. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-07-01.
9. Nazarchuk, Iryna (2022-07-01). "After Snake Island retreat, Russian missile attack kills 21 near Ukraine's Odesa". Reuters.
10. "Murders while sleeping. How Russian rockets attacked Odessa resorts". ElitExpert. 2022-11-04. สืบค้นเมื่อ 2022-12-02.
11. "Russia-Ukraine War: Russian missiles kill at least 21 in Ukraine's Odesa region". The Times of India. 2022-07-02.
12. "Ukraine: Civilians killed by 'reckless' Russian attacks on Serhiivka apartment block and beach resort". Amnesty International. 2022-07-07. สืบค้นเมื่อ 2022-07-08.
13. Botnarenco, Iurii (2022-07-01). "Chișinăul a reacționat la atacul cu rachete rusești din orașul Sergheevca, în care a fost ucis cetățean al R. Moldova". Adevărul (ภาษาโรมาเนีย).
14. "В Одессе и области объявили траур по жертвам трагедии в Сергеевке". USI. 2022-07-01.
15. "Порушення законів війни та умисне вбивство: правоохоронці розпочали розслідування ракетного удару в Одеській області" (ภาษายูเครน). Суспільне Новини. 2022-07-01. สืบค้นเมื่อ 2022-07-01.
16. Simone McCarthy, Rob Picheta, Laura Smith-Spark, Aditi Sangal, Elise Hammond and Adrienne Vogt (2022-07-01). "At least 1 dead and 5 injured after children's medical rehabilitation center near Odesa hit in Russian attack". CNN (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2022-07-01.{{}}: CS1 maint: multiple names: authors list ()
17. "România va ajuta R. Moldova după atacul cu rachete de la Sergheevca". Noi.md (ภาษาโรมาเนีย). 2022-07-02.
18. . Deutsche Welle. 2022-07-01. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-07-02.
19. "Russia-Ukraine war: Zelenskiy accuses Russia of 'deliberate terror'; UK 'condemns exploitation' of captured Britons – latest updates". the Guardian (ภาษาอังกฤษ). 2022-07-02. สืบค้นเมื่อ 2022-07-02.
20. "Kyiv says at least 21 dead in strike near city of Odessa". The Washington Post. 2022-07-01. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-07-02. สืบค้นเมื่อ 2022-07-02.
21. "Russian missiles kill at least 21 in Ukraine's Odesa region". ABC News (ภาษาอังกฤษ). 2022-07-02. สืบค้นเมื่อ 2022-07-02.
22. "Russian missiles kill at least 21 in Ukraine's Odesa region". The Associated Press. 2022-07-01. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-07-02. สืบค้นเมื่อ 2022-07-02.