คำว่า เวชปฏิบัติอิงหลักฐาน (อังกฤษ: Evidence-based medicine ตัวย่อ EBM) เป็นแบบการแพทย์ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อทำการวินิจฉัยตัดสินใจให้ดีที่สุด โดยเน้นการใช้หลักฐานจากงานวิจัยที่มีการออกแบบและการดำเนินการที่ดี แม้ว่าการแพทย์ที่อาศัยวิทยาศาสตร์ (คือไม่ใช่การแพทย์ทางเลือกเป็นต้น) ทั้งหมดล้วนแต่ต้องอาศัยหลักฐานทางประสบการณ์ (empirical evidence) แต่ว่า EBM เข้มงวดยิ่งกว่านั้น คือมีการจัดระดับหลักฐานโดยกำลังของวิธีการสืบหาหลักฐาน (epistemologic strength) และมีการกำหนดว่า หลักฐานที่มีกำลังที่สุด (คือที่มาจากงาน meta-analysis, งานปริทัศน์เป็นระบบ, และงานวิจัยแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุม) เท่านั้นที่จะใช้เป็นคำแนะนำ (ในการรักษา) ที่เข้มแข็งน่าเชื่อถือที่สุดได้ ส่วนหลักฐานจากงานที่มีกำลังอ่อนประเภทอื่น (เช่นงานศึกษาแบบมีกลุ่มควบคุมเป็นต้น) จะใช้เป็นคำแนะนำ (ในการรักษา) แบบอ่อนเท่านั้น
ศัพท์ภาษาอังกฤษว่า "Evidence-based medicine" ดั้งเดิม (เริ่มใช้ในปี ค.ศ. 1992) ใช้หมายถึงวิธีการสอนวิชาการทางแพทย์ และวิธีเพื่อเพิ่มคุณภาพการวินิจฉัยตัดสินใจของแพทย์แต่ละบุคคล ๆ หลังจากนั้น คำก็เริ่มใช้กินความหมายมากขึ้นและรวมถึงวิธีการที่มีมาก่อนแล้ว คือวิธีการที่เน้นใช้หลักฐานในการแนะนำแนวทางและนโยบายทางการแพทย์ที่ใช้กับทั้งชุมชน (เช่นคำว่า "evidence-based practice policies" แปลว่า นโยบายการปฏิบัติอาศัยหลักฐาน) ต่อจากนั้นอีก คำก็กินความมากขึ้น หมายถึงวิธีที่ใช้ในการวินิจฉัยตัดสินใจในการแพทย์ทุกระดับ และแม้ในวิชาการสาขาอื่น ๆ อีกด้วย โดยเรียกใช้คำที่กว้างขึ้นว่า evidence-based practice (ตัวย่อ EBP แปลว่า การปฏิบัติอาศัยหลักฐาน)
ไม่ว่าจะเกี่ยวกับการศึกษาทางการแพทย์ การวินิจฉัยตัดสินใจในคนไข้รายบุคคล แนวทางและนโยบายทางการแพทย์ที่ใช้กับทั้งกลุ่มชน หรือการให้บริการทางสุขภาพโดยทั่ว ๆ ไป EBM สนับสนุนว่า โดยมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ การตัดสินใจและนโยบายการปฏิบัติ ควรจะอาศัยหลักฐาน ไม่ใช่เพียงแค่อาศัยความเชื่อของแพทย์รักษา ผู้เชี่ยวชาญ หรือผู้บริหารเท่านั้น คือ เป็นแบบการปฏิบัติเพื่อให้มั่นใจได้ว่า ความคิดเห็นของแพทย์รักษา ซึ่งอาจจะจำกัดโดยความรู้ที่ไม่ทันสมัย หรือโดยความเอนเอียง มีการบูรณาการด้วยความรู้ที่มีอยู่ทั้งหมดจากสิ่งเผยแพร่ทางวิทยาศาสตร์ เพื่อให้ได้ข้อปฏิบัติที่ดีที่สุด (best practice) และนำไปใช้ได้ EBM โปรโหมตระเบียบวิธีที่เป็นรูปนัย (formal) และชัดแจ้ง (explicit) ในการวิเคราะห์หลักฐาน เพื่อให้เป็นข้อมูลกับผู้มีอำนาจตัดสินใจ EBM สนับสนุนโปรแกรมการศึกษาเพื่อสอนข้อปฏิบัติของ EBM ต่อนักศึกษาแพทย์ แพทย์รักษา และผู้กำหนดนโยบาย
พื้นเพ ประวัติ และนิยาม
ในความหมายที่กว้างที่สุด EBM หมายถึงการใช้ระเบียบวิธีทางวิทยาศาสตร์ในการวินิจฉัยตัดสินใจการรักษาพยาบาล แพทย์มีประวัติยาวนานเกี่ยวกับการทำงานวิจัยพื้นฐาน (basic research) และงานวิจัยทางคลินิก (clinical research) กลับไปในประวัติไกลที่สุดอย่างน้อยถึงสมัยของนักปราชญ์ชาวเปอร์เซียคือแอวิเซนนา แต่ว่า จนกระทั่งถึงเร็ว ๆ นี้ การนำผลงานวิจัยมาใช้ในการวินิจฉัยตัดสินใจทางการแพทย์มักจะขึ้นอยู่กับบุคคล (โดยเป็นอัตวิสัย) โดยเป็นทักษะที่เรียกว่า "ความเห็นทางคลินิก" (clinical judgment) และ "ศิลปะทางการแพทย์" (the art of medicine) วิธีที่สืบกันมาในการวินิจฉัยตัดสินใจเกี่ยวกับคนไข้รายบุคคล ขึ้นอยู่กับแพทย์แต่ละคนที่จะตัดสินใจว่า หลักฐานงานวิจัยไหน ถ้ามี ควรจะพิจารณา และจะนำเข้ามาผสมผสานกับความคิดเห็นของตนและองค์ประกอบอื่น ๆ ได้อย่างไร ในกรณีที่เป็นข้อกำหนดระดับชุมชน แนวทางและนโยบายมักจะจัดตั้งขึ้นโดยคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญ แต่ว่า ก็ยังไม่มีกระบวนการที่เป็นรูปนัย ในการกำหนดระดับขอบเขตผลงานวิจัยที่ควรจะพิจารณา หรือในการรวมหลักฐานเข้ากับความเชื่อของบุคคลากรของคณะกรรมการ โดยมีข้อสมมุติที่ไม่ได้ทำให้ชัดแจ้งว่า ผู้มีอำนาจตัดสินใจและผู้กำหนดนโยบายจะรวมหลักฐานเช่นนั้นเข้ากับความคิดเห็นของตนอย่างเหมาะสม ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบต่าง ๆ ของตนเช่น ระดับวิชาการศึกษา ประสบการณ์ และการศึกษาติดตามผลงานใหม่ ๆ ในสิ่งเผยแพร่ที่เกี่ยวข้อง
เหตุผลทางคลินิก
เริ่มตั้งแต่ปลายคริสต์ทศวรรษ 1960 มีจุดอ่อนหลายอย่างที่เริ่มปรากฎชัด ในการตัดสินวินิจฉัยทางการแพทย์ที่สืบต่อกันมาเช่นนี้ น.พ.วิทยาการระบาดชาวอเมริกันผู้มีชื่อเสียงอัลแวน ไฟน์สไตน์ เขียนหนังสือเรื่อง Clinical Judgment (การวินิจฉัยทางคลินิก) ในปี ค.ศ. 1967 ที่เน้นเรื่องการคิดหาเหตุผลทางคลินิก และได้กำหนดความเอนเอียงหลายอย่างที่มีอิทธิพลต่อการวินิจฉัย ในปี ค.ศ. 1972 น.พ.ชาวสกอตแลนด์อาร์ชี่ คอเครน พิมพ์หนังสือ Effectiveness and Efficiency (ประสิทธิผลและประสิทธิภาพ) ซึ่งกำหนดปัญหาการไร้ผลการทดลองแบบมีกลุ่มควบคุม ที่สนับสนุนวิธีการรักษาแบบต่าง ๆ ที่เชื่อกันว่าได้ผล ในปี ค.ศ. 1973 ศาสตราจารย์ของวิทยาลัยดาร์ตมัธ น.พ.จอห์น เว็นน์เบอร์ก เริ่มพิมพ์งานถึงวิธีการหลากหลายที่แพทย์ใช้ไม่เหมือนกัน (ในประเทศสหรัฐอเมริกา) ขึ้นอยู่กับท้องถิ่น ตลอดจนถึงช่วงคริสต์ทศวรรษ 1980 น.พ.เดวิด เอ็ดดี้ ได้พรรณนาถึงความผิดพลาดในการคิดหาเหตุผลทางคลินิก และช่องว่างที่มีในหลักฐาน ในกลางคริสต์ทศวรรษ 1980 น.พ. อัลแวน ไฟน์สไตน์ ศาสตราจารย์ น.พ. เดวิด แซ็คเก็ตต์และคณะ ได้เผยแพร่ตำราทางวิทยาการระบาด ซึ่งแปลงวิธีการทางวิทยาการระบาด ใช้เป็นวิธีการตัดสินวินิจฉัยของแพทย์รายบุคคล ในปลายคริสต์ทศวรรษที่ 1980 กลุ่มนักวิจัยของบริษัทไม่ใช่เพื่อผลกำไร RAND Corporation แสดงว่า วิธีการรักษาเป็นจำนวนมากที่แพทย์ทำ เป็นวิธีการที่ไม่เหมาะสมเมื่อเทียบกับมาตรฐานของผู้เชี่ยวชาญในสาขาเดียวกัน งานวิจัยต่าง ๆ เหล่านี้ เพิ่มความรู้เกี่ยวกับจุดอ่อนของการตัดสินวินิจฉัยทางการแพทย์ ทั้งในระดับการรักษาคนไข้เป็นรายบุคคล และในระดับชุมชน และนำไปสู่ระเบียบวิธีที่อาศัยหลักฐานเป็นสำคัญ
คำว่า "evidence-based medicine" ที่ใช้กันในปัจจุบัน มีสองความหมาย คือมีการปฏิบัติเป็นสองสาขา ตามประวัติกาลที่เริ่มใช้แล้ว ความหมายแรกหมายถึงระเบียบวิธีให้มีการตรวจสอบอย่างชัดแจ้งของประสิทธิภาพการรักษา เมื่อมีการกำหนดแนวทางการปฏิบัติทางคลินิก (clinical practice guidelines) และนโยบายระดับชุมชน (population-level policies) อย่างอื่น ๆ ความหมายที่สองหมายถึงการสอนระเบียบวิธีทางระบาดวิทยาในการศึกษาแพทย์ และในการตัดสินวินิจฉัยคนไข้รายบุคคล
แนวทางการปฏิบัติทางคลินิกและนโยบายระดับชุมชน
คำว่า "evidence-based" (ที่ไม่มี medicine ต่อท้าย แปลว่า อาศัยหลักฐาน) เริ่มใช้เป็นครั้งแรกโดย น.พ.เดวิด เอ็ดดี้ ในเรื่องนโยบายระดับชุมชน เช่นแนวทางการปฏิบัติทางคลินิก และความคุ้มครองตามสัญญาประกันสุขภาพที่บริษัทให้ในการใช้เทคโนโลยีการแพทย์ใหม่ ๆ ในปี ค.ศ. 1987 คุณหมอเริ่มใช้คำว่า "evidence-based" ในเวิ้ร์กฉ็อปและคู่มือที่ทำตามมอบหมายของสมาคมสภาการแพทย์เฉพาะทาง (Council of Medical Specialty Societies) เพื่อสอนระเบียบวิธีที่เป็นรูปนัย ในการออกแบบแนวทางการปฏิบัติทางคลินิก คู่มือนั้นเกิดการเผยแพร่อย่างแพร่หลายแม้ไม่ได้พิมพ์เป็นหนังสือที่วางตลาดขายทั่วไป และในที่สุดก็ได้รับการพิมพ์เป็นหนังสือโดยวิทยาลัยแพทย์อเมริกัน (American College of Medicine) ในปี ค.ศ. 1992 ส่วนในงานพิมพ์เผยแพร่ คุณหมอเริ่มใช้คำว่า "evidence-based" เป็นครั้งแรกในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1990 ในบทความของ Journal of the American Medical Association (วารสารสมาคมแพทย์อเมริกัน) (JAMA) ที่คุณหมอได้กำหนดหลักการออกแบบแนวทางการปฏิบัติทางคลินิก และนโยบายระดับชุมชน ซึ่งคุณหมออธิบายไว้ว่า
กำหนดหลักฐานที่มีอยู่อย่างชัดแจ้งเกี่ยวข้องกับนโยบาย และผูกนโยบายนั้นไว้กับหลักฐาน ปักหลักนโยบายหนึ่ง ๆ อย่างจงใจ ไม่ใช่กับข้อปฏิบัติที่ใช้ในปัจจุบันหรือความเชื่อของผู้เชี่ยวชาญ แต่กับหลักฐานการทดลอง นโยบายนั้นต้องสอดคล้องกับและได้รับการสนับสนุนจากหลักฐาน หลักฐานที่เกี่ยวข้องกันต้องมีการสืบหา กำหนด และวิเคราะห์ ผู้กำหนดนโยบายต้องทำการตัดสินว่า นโยบายนั้นเหมาะสมกับหลักฐานหรือไม่ (และ) ต้องมีการบันทึกเหตุผล (นั้น)
— "นโยบายการปฏิบัติ - มาจากไหน?" จาก JAMA ค.ศ. 1990
คุณหมอได้กล่าวถึงนโยบาย "อาศัยหลักฐาน" ในบทความอื่น ๆ ที่พิมพ์ใน JAMA ในต้นปี ค.ศ. 1990 โดยเป็นส่วนของชุดบทความ 28 บทความ ที่พิมพ์ใน JAMA ในระหว่างปี ค.ศ. 1990-1997 เกี่ยวกับระเบียบวิธีเชิงรูปนัย (formal method) ในการออกแบบแนวทางการปฏิบัติและนโยบายระดับชุมชน
การศึกษาแพทย์
ส่วนคำว่า "evidence-based medicine" เริ่มมีการใช้ต่อมาอีกเล็กน้อย ในเรื่องเกี่ยวกับการศึกษาแพทย์ การใช้คำนี้มีมูลฐานมาจากวิทยาการระบาดเชิงคลินิก ในเทอร์มฤดูใบไม้ตกของปี ค.ศ. 1990 ศาสตราจารย์ น.พ. กอร์ดอน กายแอ็ตต์ ใช้คำนี้พรรณนาโปรแกรมการศึกษาของมหาวิทยาลัยแม็คมาสเตอร์ (รัฐออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา) สำหรับผู้สนใจและนักศึกษาใหม่ อีกสองปีต่อมา ศ. กายแอ็ตต์และคณะ ได้พิมพ์เผยแพร่คำนี้เป็นครั้งแรก ที่พรรณนาวิธีการใหม่ในการสอนนักศึกษาแพทย์ ในปี ค.ศ. 1996 น.พ. เดวิด แซ็คเก็ตต์และคณะ ได้ทำคำนิยามของ "evidence-based medicine" ให้ชัดเจนขึ้นโดยกำหนดว่าเป็น
การใช้หลักฐานปัจจุบันที่ดีที่สุดอย่างระมัดระวัง ชัดเจน และเหมาะสม ในการตัดสินวินิจฉัยวิธีการรักษาสำหรับคนไข้รายบุคคล ... การปฏิบัติตามแพทย์ศาสตร์อาศัยหลักฐานหมายถึง การประมวลความชำนาญทางคลินิกของ (แพทย์)รายบุคคล กับหลักฐานทางคลินิกภายนอกที่ดีที่สุดที่ได้มาจากงานวิจัยแบบเป็นระบบ (systematic research)
— "อะไรคือและอะไรไม่ใช่ Evidence based medicine" จาก British Medical Journal (BMJ)
สาขานี้ของ EBM มีจุดมุ่งหมายเพื่อจะปรับปรุงการตัดสินวินิจฉัยของแพทย์แต่ละคน ให้มีกฎระเบียบและเป็นกลาง ๆ เพิ่มยิ่งขึ้น ให้สะท้อนถึงหลักฐานที่มาจากงานวิจัยเพิ่มยิ่งขึ้น คือ แพทย์ต้องใช้ข้อมูลที่ได้ในระดับชุมชน ในการรักษาคนไข้รายบุคคล โดยเข้าใจว่า แพทย์แต่ละท่านมีความเชี่ยวชาญทางคลินิกที่ปรากฎโดย
- การวินิจฉัยที่มีประสิทธิภาพได้ประสิทธิผล
- การกำหนดทำความเข้าใจถึงความยากลำบาก สิทธิ และความชอบใจของคนไข้รายบุคคล เพื่อใช้ในการรักษาอย่างมีความเห็นอกเห็นใจ
สาขานี้ของ EBM มีมูลฐานจากวิทยาการระบาดเชิงคลินิก (clinical epidemiology) ซึ่งเป็นสาขาที่สอนนักศึกษาแพทย์และแพทย์ปฏิบัติ ให้ใช้ผลงานวิจัยทางคลินิกและทางวิทยาการระบาดในการรักษาคนไข้ ระเบียบวิธีต่าง ๆ ได้มีการเผยแพร่อย่างกว้างขวางต่อแพทย์ปฏิบัติเป็นบทความชุด 25 บทความชื่อว่า "Users’ Guides to the Medical Literature (คู่มือสิ่งตีพิมพ์ทางการแพทย์)" พิมพ์ใน JAMA ระหว่างปี ค.ศ. 1993-2000 เป็นผลงานของคณะทำงานการแพทย์อาศัยหลักฐาน (Evidence based Medicine Working Group) ที่มหาวิทยาลัยแม็คมาสเตอร์ (รัฐออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา)
นอกจากนั้นแล้ว ก็ยังมีนิยามอื่น ๆ ของ evidence-based medicine ที่ใช้ในระดับคนไข้รายบุคคล ยกตัวอย่างเช่น ในปี ค.ศ. 1995 โรเซ็นเบอร์กและโดนัลด์ให้ความหมายว่า
กระบวนการสืบหา ประเมิน และใช้ผลงานวิจัยที่ทันสมัยเป็นฐาน ของการวินิจฉัยตัดสินใจทางการแพทย์
— "Evidence-based Medicine - วิธีการแก้ไข้ปัญหาทางคลินิก" จาก BMJ
ในปี ค.ศ. 2010 กรีนฮาลก์ใช้คำนิยามที่เน้นระเบียบวิธีเชิงปริมาณ (quantitative method) คือ
การใช้ค่าประมาณความเสี่ยงและประโยชน์ (คือผลเสียและผลดี) เชิงคณิต ที่ได้มาจากผลงานวิจัยคุณภาพสูงที่ใช้ตัวอย่างเหมาะกับชุมชน เพื่อเป็นข้อมูลการตัดสินทางคลินิก ในการวินิจฉัย การตรวจ และการบริหารคนไข้รายบุคคล
— จาก หลักพื้นฐานของ Evidence-Based Medicine
มีนิยามอื่น ๆ ที่มีการเสนอสำหรับคำว่า evidence-based medicine ระดับคนไข้รายบุคคล แต่นิยามที่อ้างอิงกันมากที่สุดเป็นของ น.พ. เดวิด แซ็คเก็ตต์และคณะ (ค.ศ. 1996)
ความหมายดั้งเดิมสองอย่างที่กล่าวมาแล้วเน้นความแตกต่างที่สำคัญเกี่ยวกับ evidence-based medicine ที่ใช้ในระดับชุมชนและคนไข้รายบุคคล เมื่อกำลังออกแบบนโยบายเช่นแนวทางการปฏิบัติที่จะใช้กับคนไข้เป็นจำนวนมาก ที่แพทย์แต่ละคนไม่มีโอกาสจะเปลี่ยน การกำหนดนโยบายอาศัยหลักฐานเน้นให้มีหลักฐานที่ดี เกี่ยวกับประสิทธิผลของวิธีการตรวจวิธีการรักษาที่เป็นประเด็น ส่วนในการตัดสินวินิจฉัยสำหรับคนไข้รายบุคคล จะต้องใช้ข้อมูลเกี่ยวกับคนไข้เพิ่ม ซึ่งแพทย์แต่ละคนจะมีความยืดหยุ่นในการแปลผลงานวิจัย เพื่อใช้ร่วมกับการวินิจฉัยของแพทย์ ในปี ค.ศ. 2005 โดยเป็นการยอมรับว่ามี EBM สองสาขา น.พ.เดวิด เอ็ดดี้เสนอคำนิยามที่ครอบคลุมทั้งสองสาขาคือ
Evidence-based medicine เป็นกลุ่มหลักการและระเบียบวิธีที่ใช้เพื่อให้การตัดสินวินิจฉัย แนวทางการปฏิบัติ และนโยบายอื่น ๆ ทางการแพทย์ อาศัยหลักฐานที่ดีเกี่ยวกับอิทธิผลและประโยชน์ (ของวิธีการรักษา) คล้องจองกับหลักฐาน ในขอบเขตระดับสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้
— "Evidence-based Medicine: วิธีการแบบรวม" จาก Health Affairs
การแพร่ขยายไปในองค์กรต่าง ๆ
สาขาทั้งสองของ EBM ได้มีการแพร่ขยายไปอย่างรวดเร็ว ในปี ค.ศ. 1980 สมาคมมะเร็งอเมริกัน (American Cancer Society) ได้เริ่มยืนยันให้ทำงานเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติและนโยบาย โดยมีหลักฐานเพื่อยืนยันอิทธิผล ในปี ค.ศ. 1984 USPSTF (คณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อการบริการป้องกัน [ทางสุขภาพ] ประเทศสหรัฐอเมริกา) ซึ่งเป็นคณะกรรมการอิสระของกระทรวงสาธารณสุขสหรัฐอเมริกา เริ่มการกำหนดแนวทางปฏิบัติเพื่อการแทรงแซงป้องกันเพื่อสุขภาพโดยใช้หลักอาศัยหลักฐาน ในปี ค.ศ. 1985 กลุ่มประกันสุขภาพ Blue Cross Blue Shield Association เริ่มบังคับใช้กฎเกณฑ์ที่เข้มงวดอาศัยหลักฐาน ในการจ่ายค่าคุ้มครองสุขภาพสำหรับเทคโนโลยีการแพทย์ใหม่ ๆ เริ่มตั้งแต่ปี ค.ศ. 1987 สมาคมแพทย์เฉพาะทางต่าง ๆ เช่น วิทยาลัยแพทย์อเมริกัน (American College of Medicine) และองค์กรสุขภาพอื่น ๆ เช่น สมาคมหัวใจอเมริกัน (American Heart Association) ได้กำหนดแนวทางการปฏิบัติที่อาศัยหลักฐานเป็นจำนวนมาก ในปี ค.ศ. 1991 Kaiser Permanente ซึ่งเป็น managed care organization ที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา เริ่มใช้แนวทางปฏิบัติอาศัยหลักฐาน ในปี ค.ศ. 1991 ริชาร์ด สมิธ เขียนบทบรรณาธิการใน BMJ เริ่มไอเดียของการใช้นโยบายอาศัยหลักฐานในสหราชอาณาจักร ในปี ค.ศ. 1993 Cochrane Collaboration เริ่มสร้างเครือข่ายบุคคลากรใน 13 ประเทศเพื่อทำงานปริทัศน์แบบเป็นระบบ (systematic review) และตั้งแนวทางการปฏิบัติแบบเป็นระบบ (systematic guideline) ในปี ค.ศ. 1997 สำนักงานวิจัยและคุณภาพการรักษาสุขภาพ (Agency for Healthcare Research and Quality ตัวย่อ AHRQ) ของกระทรวงสาธารณสุขสหรัฐอเมริกา ได้ก่อตั้งศูนย์การปฏิบัติอาศัยหลักฐาน (Evidence-based Practice Centers) เพื่อทำรายงานเกี่ยวกับหลักฐาน และทำการประเมินเทคโนโลยี เพื่อสนับสนุนการพัฒนาแนวทางปฏิบัติ ในปีเดียวกัน AHRQ ได้ร่วมกับสมาคมแพทย์อเมริกัน (AMA) และสมาคมผู้ขายประกันสุขภาพ America's Health Insurance Plans ได้จัดตั้งฐานข้อมูล National Guideline Clearinghouse ที่เก็บเอกสารเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติทางคลินิกและนโยบายอาศัยหลักฐาน ใน ปี ค.ศ. 1999 องค์กร National Institute for Clinical Excellence (NICE) ที่กำหนดแนวทางการปฏิบัติทางการแพทย์เป็น 4 ประเด็น ก็ได้จัดตั้งขึ้นในสหราชอาณาจักร
ในด้านการศึกษาการแพทย์ ได้มีการจัดโปรแกรมสอน EBM ในมหาวิทยาลัยแพทย์ในประเทศแคนาดา สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย และประเทศอื่น ๆ งานวิจัยในปี ค.ศ. 2009 ในสหราชอาณาจักรพบว่า เกิดกว่าครึ่งของมหาวิทยาลัยแพทย์ในสหราชอาณาจักรมีโปรแกรมการสอนเกี่ยวกับ EBM แม้ว่าจะมีความแตกต่างระหว่างระเบียบวิธีและเรื่องที่สอนเป็นอย่างมาก และโปรแกรมการสอน EBM นั้นถูกจำกัดโดยเวลาที่มีของหลักสูตรการแพทย์ ผู้สอนที่รับการฝึกแล้ว และเครื่องมือหนังสือที่ใช้ในการสอน มีการพัฒนาโปรแกรมต่าง ๆ เป็นจำนวนมากที่ช่วยแพทย์ปฏิบัติให้เข้าถึงหลักฐานต่าง ๆ ได้ดีขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ในต้นคริสต์ทศวรรษ 1990 บริษัท UpToDate ได้รับจัดตั้งขึ้นเพื่อพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ช่วยแพทย์ในการตัดสินวินิจฉัยการพยาบาลให้กับคนไข้ ในปี ค.ศ. 1993 Cochrane Center เริ่มตีพิมพ์เผยแพร่งานปริทัศน์เกี่ยวกับหลักฐานทางแพทย์ ฺในปี ค.ศ. 1995 บริษัท BMJ Publishing Group ซึ่งตีพิมพ์ BMJ ได้เริ่มนิตยสารประจำทุก 6 เดือนชื่อว่า Clinical Evidence (หลักฐานทางคลินิก) ที่เผยแพร่สาระสำคัญอย่างย่อ ๆ เกี่ยวกับหลักฐานปัจจุบันที่มี ในเรื่องปัญหาสำคัญทางคลินิกเพื่อแพทย์รักษา ตั้งแต่นั้นมา ก็มีโปรแกรมอื่น ๆ อีกมากมายที่เกิดขึ้นเพื่อทำการเข้าถึงหลักฐานของแพทย์ให้ง่ายขึ้น
ข้อปฏิบัติในปัจจุบัน
คำว่า evidence-based medicine ปัจจุบันใช้หมายถึงทั้งโปรแกรมที่ใช้ในการออกแบบแนวทางการปฏิบัติอาศัยหลักฐาน และโปรแกรมที่ใช้สอนแพทยศาสตร์อาศัยหลักฐาน โดยปี ค.ศ. 2000 คำว่า evidence-based medicine เป็นคำที่ใช้อย่างครอบคลุมโดยเน้นหลักฐานในการตัดสินวินิจฉัยทั้งในระดับชุมชนและคนไข้รายบุคคล ในปีต่อ ๆ มา คำว่า evidence-based ก็ได้ขยายกว้างออกไปในเขตอื่น ๆ ของวงการแพทย์ ยกตัวอย่างเช่น evidence-based health services หมายถึงการบริการทางสุขภาพ ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อปรับปรุงระดับสมรรถภาพของผู้มีอำนาจตัดสินใจเกี่ยวกับการบริการด้านสุขภาพให้ดีขึ้น และเพื่อเพิ่มระดับการใช้งานของ EBM ในระดับองค์กรและสถาบัน นอกจากนั้นแล้ว แนวคิดนี้ก็เริ่มขยายออกไปนอกวงการรักษาพยาบาล ยกตัวอย่างเช่น ในสุนทรพจน์รับตำแหน่งประธานราชสมาคมสถิติศาสตร์ (Royal Statistical Society) ในปี ค.ศ. 1996 ประธานเอเดรียน สมิธเสนอว่า ควรจะเริ่มใช้นโยบายอาศัยหลักฐานในเรื่องการศึกษา การจำขังนักโทษ การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และในหน่วยอื่น ๆ ของรัฐ
สาขาต่าง ๆ ของ evidence based medicine ล้วนแต่เน้นความสำคัญในการใช้หลักฐาน จากผลงานวิจัยรูปนัยเข้ากับนโยบายและการตัดสินวินิจฉัยทางการแพทย์ แต่ว่า ก็ยังมีความแตกต่างกันว่า หลักฐานว่ามีประสิทธิผลต้องมีคุณภาพดีแค่ไหนก่อนที่จะมีการใช้ในแนวทางการปฏิบัติ และในนโยบายความคุ้มครองตามสัญญาประกันสุขภาพ และก็ต่างกันในระดับที่นำมาใช้ได้เพื่อการตัดสินวินิจฉัยในรายบุคคล ดังนั้น แนวทางการปฏิบัติและนโยบายอาศัยหลักฐาน อาจจะไม่ง่ายที่จะใช้ร่วมกับการแพทย์ตามประสบการณ์ ที่โน้มไปทางการตัดสินวินิจฉัยทางคลินิกตามจริยธรรม และอาจนำมาซึ่งความขัดแย้ง ความแข่งขัน และ "วิกฤติการณ์" ที่ไม่ได้ตั้งใจ
ผู้นำทางความรู้ (knowledge leader) ที่มีประสิทธิผลมากที่สุด (คือผู้จัดการขององค์กร และแพทย์ผู้นำทางคลินิก) จะใช้ความรู้ที่เปิดกว้างเกี่ยวกับการบริหาร เพื่อการตัดสินใจ ไม่ได้ใช้แต่หลักฐานรูปนัยเท่านั้น แนวทางปฏิบัติอาศัยหลักฐานอาจจะเป็นมูลฐานของ governmentality (คือการปกครองที่แบ่งออกเป็นผู้ปกครอง-ผู้รับการปกครอง) ในระบบสาธารณสุข ซึ่งอาจจะนำไปสู่การปกครองควบคุมในระบบที่มีความเหินห่างระหว่างผู้ปกครอง-ผู้รับการปกครอง
ระเบียบวิธี
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ข้อจำกัดและข้อวิจารณ์
แม้ว่า จะมีการพิจารณาว่า EBM เป็น gold standard (มาตรฐานทอง) ของการแพทย์ทางคลินิก แต่การใช้ EBM ก็ยังมีขอบเขตจำกัดและข้อวิจารณ์ ซึ่งก็ยังเป็นเรื่องที่แก้ไม่ได้แม้ว่าจะได้มีการศึกษาและอภิปรายเกินกว่า 2 ศตวรรษแล้ว ยกตัวอย่างเช่น
- EBM สนับสนุนการใช้งานวิจัยเชิงปริมาณ (quantitative research) โดยเฉพาะจากการทดลองแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุม (randomized controlled trial ตัวย่อ RCT) ดังนั้น ผลที่ได้อาจจะไม่เข้ากับสถานการณ์การรักษาพยาบาลทั้งหมด
- อุดมคติของ EBM (คือสำหรับประเด็นปัญหาทางคลินิกที่จำกัดและชัดเจนทุกปัญหาซึ่งอาจจะมีเป็นแสน ๆ จะมีคำตอบจากงาน meta-analysis และงานปริทัศน์แบบทั้งระบบ ของ RCT) มีข้อจำกัดว่า งานวิจัย (โดยเฉพาะ RCT) มีค่าใช้จ่ายสูง ดังนั้น ตามความเป็นจริงแล้วซึ่งก็จะเป็นเช่นเดียวกันต่อไปในอนาคต ประเด็นปัญหาใน EBM ก็จะมีอุปสงค์ (demand คือความต้องการคำตอบสำหรับประเด็นปัญหาหนึ่ง) มากกว่าอุปทาน (supply คือคำตอบที่ได้จากงานวิจัยที่พึงประสงค์เหล่านั้น) และอย่างดีที่สุดที่มนุษย์จะทำได้ก็คือ หาคำตอบตามลำดับความจำเป็นของปัญหานั้น ๆ
- เพราะ RCT มีค่าใช้จ่ายสูง ลำดับความจำเป็นที่ให้กับประเด็นงานวิจัย ก็จะมีผลประโยชน์ของผู้สนับสนุนทางการเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง
- การพิมพ์เผยแพร่ผลของ RCT มักจะล่าช้า
- มีความล่าช้าระหว่างเวลาที่ RCT ได้รับการเผยแพร่ กับเวลาที่ใช้ข้อมูลนั้นได้จริง ๆ ในการรักษาพยาบาล
- กลุ่มประชากรเป็นบางส่วนมักจะไม่ค่อยได้รับความสนใจในงานวิจัย (เช่น ชนกลุ่มน้อยโดยเผ่าพันธุ์ และผู้มีอาการโรคหลาย ๆ อย่างพร้อมกัน [Comorbidity])
- หลักฐานไม่ทั้งหมดจาก RCT สามารถเข้าถึงได้ นอกจากนั้นแล้ว ประสิทธิผลของการรักษาที่รายงานใน RCT อาจต่างจากที่ได้จากการรักษาจริง ๆ
- ผลงานวิจัยที่ได้รับการเผยแพร่ อาจจะไม่สามารถเป็นตัวแทนของผลงานวิจัยทั้งหมดในประเด็นปัญหา (คืองานวิจัยทั้งที่มีการเผยแพร่และไม่มีการเผยแพร่) หรืออาจจะเชื่อถือไม่ได้เพราะว่ามีสถานการณ์และตัวแปรในการทดลองที่แตกต่างกัน
- แม้ว่า EBM จะใช้ได้ในระดับชุมชน แต่แพทย์ผู้รักษายังสามารถใช้ประสบการณ์ส่วนตัวในการตัดสินว่าจะรักษาคนไข้ได้อย่างไร นักวิชาการท่านหนึ่งให้คำแนะนำว่า "ความรู้ที่ได้จากการทดลองทางคลินิกไม่ได้ตอบปัญหาของแพทย์รักษาโดยตรงว่า วิธีการไหนจะมีผลดีที่สุดต่อคนไข้ที่อยู่ต่อหน้า" และเสนอว่า EBM ไม่ควรที่จะลดค่าของประสบการณ์ทางคลินิก (ของแพทย์) ส่วนนักวิชาการอีกท่านหนึ่งกล่าวว่า "การปฏิบัติตามแพทย์ศาสตร์อาศัยหลักฐานหมายถึง การประมวลความชำนาญทางคลินิกของ (แพทย์)รายบุคคล กับหลักฐานทางคลินิกภายนอกที่ดีที่สุดที่ได้มาจากงานวิจัยแบบเป็นระบบ (systematic research)"
- การปราศจากโครงสร้างทางความคิดที่ง่าย ๆ และรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ที่สามารถรวมข้อมูลใหม่ ๆ เข้าได้ (Hypocognition) สามารถกีดขวางการใช้ EBM ได้
วิธีประเมินการสอน EBM
วิธีทดสอบสองวิธีคือ Berlin questionnaire (แบบสอบถามเบอร์ลิน) และ Fresno Test (การทดสอบเฟรซโน) เป็นวิธีการที่แสดงผลได้ตรงที่สุด และได้มีการใช้แล้วในสถานการณ์หลายรูปแบบ
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
- "SUNY Downstate EBM Tutorial". library.downstate.edu. สืบค้นเมื่อ 2015-09-03.
- . www.capho.org. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-02-21. สืบค้นเมื่อ 2015-09-03.
- "Search result for *evidence-based medicine*". Longdo Dict. สืบค้นเมื่อ 2015-03-06.
- . สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ http://www.thaiglossary.org/search/Evidence%20based%20medicine. สืบค้นเมื่อ 2015-03-06.
{{}}
:|title=
ไม่มีหรือว่างเปล่า ((help))[] - Evidence-Based Medicine Working Group (November 1992). "Evidence-based medicine. A new approach to teaching the practice of medicine". JAMA. 268 (17): 2420–5. doi:10.1001/jama.268.17.2420. PMID 1404801.
- Eddy DM (1990). "Practice Policies— Where Do They Come from?". Journal of the American Medical Association. 263: 1265, 1269, 1272, 1275. doi:10.1001/jama.263.9.1265.
- Gray, J. A. Muir (2009). Evidence-based health care & public health. Edinburgh: Churchill Livingstone. ISBN .
- Brater DC, Daly WJ (May 2000). "Clinical pharmacology in the Middle Ages: principles that presage the 21st century". Clin. Pharmacol. Ther. 67 (5): 447-50 See p. 449. doi:10.1067/mcp.2000.106465. PMID 10824622.
- Daly WJ, Brater DC (2000). "Medieval contributions to the search for truth in clinical medicine". Perspect. Biol. Med. 43 (4): 530-40 See p. 536. doi:10.1353/pbm.2000.0037. PMID 11058989.
- Alvan R. Feinstein (1967). Clinical Judgement. Williams & Wilkins.
- Cochrane A.L. (1972). Effectiveness and Efficiency: Random Reflections on Health Services. Nuffield Provincial Hospitals Trust.
- Wennberg J.E. and Gittelsohn A. (1973). "Small Area Variations in Health Care Delivery". Science. 182 (4117): 1102–1108. doi:10.1126/science.182.4117.1102.
- Eddy DM (1982). "18". Probabilistic Reasoning in Clinical Medicine: Problems and Opportunities. Cambridge University Press.
- Eddy DM (1982). "Clinical Policies and the Quality of Clinical Practice". New England Journal of Medicine. 307: 343–347. doi:10.1056/nejm198208053070604.
- Eddy DM (1984). "Variations in Physician Practice The Role of Uncertainty". Health Affairs. 3 (2): 74–89. doi:10.1377/hlthaff.3.2.74. PMID 6469198.
- Eddy DM (1988). "The Quality of Medical Evidence: Implications for Quality of Care". Health Affairs. 7 (1): 19–32. doi:10.1377/hlthaff.7.1.19. PMID 3360391.
- Feinstein AR (1985). Clinical Epidemiology: The Architecture of Clinical Research. ISBN .
- Sackett D; และคณะ (2005). Clinical Epidemiology: How to Do Clinical Practice Research (3 ed.). LWW.
- Chassin M.R.; และคณะ (1987). "How Coronary Angiography Is Used: Clinical Determinants of Appropriateness". JAMA. 258 (18): 2543–2547. doi:10.1001/jama.258.18.2543.
- Field MJ, Lohr K (1990). Clinical Practice Guidelines: Directions for a New Program. National Academy of Sciences Press. p. 32.
- Eddy DM (1990). "Practice Policies: Guidelines for Methods". Journal of the American Medical Association. 263: 1839–1841. doi:10.1001/jama.263.13.1839.
- Eddy DM (1990). "Guidelines for Policy Statements". Journal of the American Medical Association. 263: 2239–2243. doi:10.1001/jama.1990.03440160101046.
- Eddy DM (1996). Clinical Decision Making: From Theory to Practice. A Collection of Essays. the American Medical Association.
- Jeremy H. Howick. The Philosophy of Evidence-based Medicine. John Wiley & Sons. p. 15. ISBN .
- Sackett DL, Rosenberg WM, Gray JA, Haynes RB, Richardson WS (January 1996). "Evidence based medicine: what it is and what it isn't". BMJ. 312 (7023): 71–2. doi:10.1136/bmj.312.7023.71. PMC 2349778. PMID 8555924.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - Katz, David L. (2001). Clinical Epidemiology & Evidence-Based Medicine: Fundamental Principles of Clinical Reasoning & Research. SAGE. ISBN .
- Grobbee, D.E.; Hoes, Arno W. (2009). Clinical Epidemiology: Principles, Methods, and Applications for Clinical Research. Jones & Bartlett Learning. ISBN .
- Doi, S.A.R. (2012). Understanding evidence in health care: Using clinical epidemiology. South Yarra, VIC, Australia: Palgrave Macmillan. ISBN .
- Rosenberg W, Donald A. "Evidence-based Medicine: An approach to Clinical Problem Solving". BMJ. 310: 1122–1126. doi:10.1136/bmj.310.6987.1122.
- Greenhalgh, Trisha (2010). How to Read a Paper: The Basics of Evidence-Based Medicine (4th ed.). John Wiley & Sons. p. 1. ISBN .
- Greenhalgh Trisha (December 2001). "The limits of evidence-based medicine". Respiratory care. 46 (12): 1435–40. PMID 11728302.
- Eddy, DM (2005). "Evidence-based Medicine: a Unified Approach". Health Affairs (24): 9–17.
- "Guidelines for the Cancer-Related Checkup. Recommendations and Rationale". A Cancer Journal for Clinicians. 30: 193–240. 1980.
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-08-15. สืบค้นเมื่อ August 21, 2014.
- Rettig RA, Jacobson PD, Farquhar CM, Aubry WM. (2007). False Hope: Bone Marrow Transplantation for Breast Cancer. Oxford University Press. p. 183.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - Davino-Ramaya C, Krause LK, Robbins, Harris JS, Koster, Chan W, Tom GI (2012). "Transparency Matters: Kaiser Permanente's National Guideline Program Methodological Processes". 16. Permanente Journal: 55–62.
{{}}
: Cite journal ต้องการ|journal=
((help))CS1 maint: multiple names: authors list () - Smith RJ (1991). "Where's the Wisdom: The Poverty of Medical Evidence". BMJ. 303 (6806): 798–799. doi:10.1136/bmj.303.6806.798. PMC 1671173. PMID 1932964.
- "The Cochrane Collaboration". สืบค้นเมื่อ August 21, 2014.
- "Agency for Health Care Policy and Research". สืบค้นเมื่อ August 21, 2014.
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-08-19. สืบค้นเมื่อ August 21, 2014.
- "National Institute for Health and Care Excellence". สืบค้นเมื่อ 2014-08-21.
- Meats E1, Heneghan C, Crilly M, Glasziou P (April 2009). "Evidence-based medicine teaching in UK medical schools". Med Teach. 31 (4): 332–7. doi:10.1080/01421590802572791.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - "UpToDate". สืบค้นเมื่อ August 21, 2014.
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-08-20. สืบค้นเมื่อ August 21, 2014.
- Gray, J. A. Muir (2009). Evidence-based Health Care & Public Health. Churchill Livingstone. ISBN .
- Timmermans S, Mauck A (2005). "The promises and pitfalls of evidence-based medicine". Health Aff (Millwood). 24 (1): 18–28. doi:10.1377/hlthaff.24.1.18. PMID 15647212.
- Poisson, Dulong; Larrey, Double (2001) [1835]. . Int J Epidemiol. 30 (6): 1246–9. doi:10.1093/ije/30.6.1246. PMID 11821317. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2005-04-29. สืบค้นเมื่อ 2015-02-20.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - Upshur RE, VanDenKerkhof EG, Goel V (May 2001). "Meaning and measurement: an inclusive model of evidence in health care". J Eval Clin Pract. 7 (2): 91–6. doi:10.1046/j.1365-2753.2001.00279.x. ISSN 1356-1294. PMID 11489034.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - Yitschaky O, Yitschaky M, Zadik Y (May 2011). "Case report on trial: Do you, Doctor, swear to tell the truth, the whole truth and nothing but the truth?" (PDF). J Med Case Reports. 5 (1): 179. doi:10.1186/1752-1947-5-179. PMC 3113995. PMID 21569508.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - "Knowledge Transfer in the ED: How to Get Evidence Used". Best Evidence Healthcare Blog. 2013-09-30. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-10-08. สืบค้นเมื่อ 2013-10-08.
- Rogers WA (April 2004). "Evidence based medicine and justice: a framework for looking at the impact of EBM upon vulnerable or disadvantaged groups". J Med Ethics. 30 (2): 141–5. doi:10.1136/jme.2003.007062. PMC 1733835. PMID 15082806.
- "Patient Compliance with statins" Review 2015-11-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน 2004
- Friedman LS, Richter ED (January 2004). "Relationship Between Conflicts of Interest and Research Results". J Gen Intern Med. 19 (1): 51–6. doi:10.1111/j.1525-1497.2004.30617.x. PMC 1494677. PMID 14748860.
- Tonelli MR (November 1999). "In defense of expert opinion". Acad Med. 74 (11): 1187–92. doi:10.1097/00001888-199911000-00010. PMID 10587679.
- PMID 20561370 (PMID 20561370)
Citation will be completed automatically in a few minutes. Jump the queue or expand by hand - Fritsche L, Greenhalgh T, Falck-Ytter Y, Neumayer HH, Kunz R (2002). "Do short courses in evidence based medicine improve knowledge and skills? Validation of Berlin questionnaire and before and after study of courses in evidence based medicine". BMJ (Clinical research ed.). 325 (7376): 1338–41. doi:10.1136/bmj.325.7376.1338. PMC 137813. PMID 12468485.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - Ramos KD, Schafer S, Tracz SM (2003). "Validation of the Fresno test of competence in evidence based medicine". BMJ. 326 (7384): 319–21. doi:10.1136/bmj.326.7384.319. PMC 143529. PMID 12574047.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list ()
Fresno test - Shaneyfelt T, Baum KD, Bell D, Feldstein D, Houston TK, Kaatz S; และคณะ (2006). "Instruments for evaluating education in evidence-based practice: a systematic review". JAMA. 296 (9): 1116–27. doi:10.1001/jama.296.9.1116. PMID 16954491.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - Straus SE, Green ML, Bell DS, Badgett R, Davis D, Gerrity M; และคณะ (2004). "Evaluating the teaching of evidence based medicine: conceptual framework". BMJ. 329 (7473): 1029–32. doi:10.1136/bmj.329.7473.1029. PMC 524561. PMID 15514352.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - Kunz R, Wegscheider K, Fritsche L, Schünemann HJ, Moyer V, Miller D; และคณะ (2010). "Determinants of knowledge gain in evidence-based medicine short courses: an international assessment". Open Med. 4 (1): e3–e10. PMC 3116678. PMID 21686291.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - West CP, Jaeger TM, McDonald FS (2011). "Extended evaluation of a longitudinal medical school evidence-based medicine curriculum". J Gen Intern Med. 26 (6): 611–5. doi:10.1007/s11606-011-1642-8. PMC 3101983. PMID 21286836.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list ()
บรรณานุกรม
- Doi, S.A.R. (2012). Understanding evidence in health care: Using clinical epidemiology. South Yarra, VIC, Australia: Palgrave Macmillan. ISBN .
- Grobbee, D.E.; Hoes, Arno W. (2009). Clinical Epidemiology: Principles, Methods, and Applications for Clinical Research. Jones & Bartlett Learning. ISBN .
- Howick, Jeremy H. (2011). The Philosophy of Evidence-based Medicine. Wiley. ISBN .
- Katz, David L. (2001). Clinical Epidemiology & Evidence-Based Medicine: Fundamental Principles of Clinical Reasoning & Research. Sage. ISBN .
- Stegenga, Jacob (2018). Care and Cure: An Introduction To Philosophy of Medicine. University of Chicago Press. ISBN .
แหล่งข้อมูลอื่น
- Centre for Evidence-based Medicine at the University of Oxford.
- Evidence-Based Medicine ที่เว็บไซต์ Curlie
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
khawa ewchptibtixinghlkthan xngkvs Evidence based medicine twyx EBM epnaebbkaraephthythimicudmunghmayephuxthakarwinicchytdsinicihdithisud odyennkarichhlkthancaknganwicythimikarxxkaebbaelakardaeninkarthidi aemwakaraephthythixasywithyasastr khuximichkaraephthythangeluxkepntn thnghmdlwnaettxngxasyhlkthanthangprasbkarn empirical evidence aetwa EBM ekhmngwdyingkwann khuxmikarcdradbhlkthanodykalngkhxngwithikarsubhahlkthan epistemologic strength aelamikarkahndwa hlkthanthimikalngthisud khuxthimacakngan meta analysis nganprithsnepnrabb aelanganwicyaebbsumaelamiklumkhwbkhum ethannthicaichepnkhaaenana inkarrksa thiekhmaekhngnaechuxthuxthisudid swnhlkthancaknganthimikalngxxnpraephthxun echnngansuksaaebbmiklumkhwbkhumepntn caichepnkhaaenana inkarrksa aebbxxnethann txngkarkarxpedt smakhmephschsastrmaerngwithyaaehngaekhnadatwxyangkhxngkarihnahnkladbkhnhlkthanthangkaraephthy sphthphasaxngkvswa Evidence based medicine dngedim erimichinpi kh s 1992 ichhmaythungwithikarsxnwichakarthangaephthy aelawithiephuxephimkhunphaphkarwinicchytdsinickhxngaephthyaetlabukhkhl hlngcaknn khakerimichkinkhwamhmaymakkhunaelarwmthungwithikarthimimakxnaelw khuxwithikarthiennichhlkthaninkaraenanaaenwthangaelanoybaythangkaraephthythiichkbthngchumchn echnkhawa evidence based practice policies aeplwa noybaykarptibtixasyhlkthan txcaknnxik khakkinkhwammakkhun hmaythungwithithiichinkarwinicchytdsinicinkaraephthythukradb aelaaeminwichakarsakhaxun xikdwy odyeriykichkhathikwangkhunwa evidence based practice twyx EBP aeplwa karptibtixasyhlkthan imwacaekiywkbkarsuksathangkaraephthy karwinicchytdsinicinkhnikhraybukhkhl aenwthangaelanoybaythangkaraephthythiichkbthngklumchn hruxkarihbrikarthangsukhphaphodythw ip EBM snbsnunwa odymakthisudethathicaepnipid kartdsinicaelanoybaykarptibti khwrcaxasyhlkthan imichephiyngaekhxasykhwamechuxkhxngaephthyrksa phuechiywchay hruxphubriharethann khux epnaebbkarptibtiephuxihmnicidwa khwamkhidehnkhxngaephthyrksa sungxaccacakdodykhwamruthiimthnsmy hruxodykhwamexnexiyng mikarburnakardwykhwamruthimixyuthnghmdcaksingephyaephrthangwithyasastr ephuxihidkhxptibtithidithisud best practice aelanaipichid EBM oprohmtraebiybwithithiepnrupny formal aelachdaecng explicit inkarwiekhraahhlkthan ephuxihepnkhxmulkbphumixanactdsinic EBM snbsnunopraekrmkarsuksaephuxsxnkhxptibtikhxng EBM txnksuksaaephthy aephthyrksa aelaphukahndnoybayphuneph prawti aelaniyaminkhwamhmaythikwangthisud EBM hmaythungkarichraebiybwithithangwithyasastrinkarwinicchytdsinickarrksaphyabal aephthymiprawtiyawnanekiywkbkarthanganwicyphunthan basic research aelanganwicythangkhlinik clinical research klbipinprawtiiklthisudxyangnxythungsmykhxngnkprachychawepxresiykhuxaexwiesnna aetwa cnkrathngthungerw ni karnaphlnganwicymaichinkarwinicchytdsinicthangkaraephthymkcakhunxyukbbukhkhl odyepnxtwisy odyepnthksathieriykwa khwamehnthangkhlinik clinical judgment aela silpathangkaraephthy the art of medicine withithisubknmainkarwinicchytdsinicekiywkbkhnikhraybukhkhl khunxyukbaephthyaetlakhnthicatdsinicwa hlkthannganwicyihn thami khwrcaphicarna aelacanaekhamaphsmphsankbkhwamkhidehnkhxngtnaelaxngkhprakxbxun idxyangir inkrnithiepnkhxkahndradbchumchn aenwthangaelanoybaymkcacdtngkhunodykhnakrrmkarphuechiywchay aetwa kyngimmikrabwnkarthiepnrupny inkarkahndradbkhxbekhtphlnganwicythikhwrcaphicarna hruxinkarrwmhlkthanekhakbkhwamechuxkhxngbukhkhlakrkhxngkhnakrrmkar odymikhxsmmutithiimidthaihchdaecngwa phumixanactdsinicaelaphukahndnoybaycarwmhlkthanechnnnekhakbkhwamkhidehnkhxngtnxyangehmaasm khunxyukbxngkhprakxbtang khxngtnechn radbwichakarsuksa prasbkarn aelakarsuksatidtamphlnganihm insingephyaephrthiekiywkhxng ehtuphlthangkhlinik erimtngaetplaykhristthswrrs 1960 micudxxnhlayxyangthierimprakdchd inkartdsinwinicchythangkaraephthythisubtxknmaechnni n ph withyakarrabadchawxemriknphumichuxesiyngxlaewn ifnsitn ekhiynhnngsuxeruxng Clinical Judgment karwinicchythangkhlinik inpi kh s 1967 thienneruxngkarkhidhaehtuphlthangkhlinik aelaidkahndkhwamexnexiynghlayxyangthimixiththiphltxkarwinicchy inpi kh s 1972 n ph chawskxtaelndxarchi khxekhrn phimphhnngsux Effectiveness and Efficiency prasiththiphlaelaprasiththiphaph sungkahndpyhakarirphlkarthdlxngaebbmiklumkhwbkhum thisnbsnunwithikarrksaaebbtang thiechuxknwaidphl inpi kh s 1973 sastracarykhxngwithyalydartmth n ph cxhn ewnnebxrk erimphimphnganthungwithikarhlakhlaythiaephthyichimehmuxnkn inpraethsshrthxemrika khunxyukbthxngthin tlxdcnthungchwngkhristthswrrs 1980 n ph edwid exddi idphrrnnathungkhwamphidphladinkarkhidhaehtuphlthangkhlinik aelachxngwangthimiinhlkthan inklangkhristthswrrs 1980 n ph xlaewn ifnsitn sastracary n ph edwid aeskhekttaelakhna idephyaephrtarathangwithyakarrabad sungaeplngwithikarthangwithyakarrabad ichepnwithikartdsinwinicchykhxngaephthyraybukhkhl inplaykhristthswrrsthi 1980 klumnkwicykhxngbristhimichephuxphlkair RAND Corporation aesdngwa withikarrksaepncanwnmakthiaephthytha epnwithikarthiimehmaasmemuxethiybkbmatrthankhxngphuechiywchayinsakhaediywkn nganwicytang ehlani ephimkhwamruekiywkbcudxxnkhxngkartdsinwinicchythangkaraephthy thnginradbkarrksakhnikhepnraybukhkhl aelainradbchumchn aelanaipsuraebiybwithithixasyhlkthanepnsakhy khawa evidence based medicine thiichkninpccubn misxngkhwamhmay khuxmikarptibtiepnsxngsakha tamprawtikalthierimichaelw khwamhmayaerkhmaythungraebiybwithiihmikartrwcsxbxyangchdaecngkhxngprasiththiphaphkarrksa emuxmikarkahndaenwthangkarptibtithangkhlinik clinical practice guidelines aelanoybayradbchumchn population level policies xyangxun khwamhmaythisxnghmaythungkarsxnraebiybwithithangrabadwithyainkarsuksaaephthy aelainkartdsinwinicchykhnikhraybukhkhl aenwthangkarptibtithangkhlinikaelanoybayradbchumchn khawa evidence based thiimmi medicine txthay aeplwa xasyhlkthan erimichepnkhrngaerkody n ph edwid exddi ineruxngnoybayradbchumchn echnaenwthangkarptibtithangkhlinik aelakhwamkhumkhrxngtamsyyapraknsukhphaphthibristhihinkarichethkhonolyikaraephthyihm inpi kh s 1987 khunhmxerimichkhawa evidence based inewirkchxpaelakhumuxthithatammxbhmaykhxngsmakhmsphakaraephthyechphaathang Council of Medical Specialty Societies ephuxsxnraebiybwithithiepnrupny inkarxxkaebbaenwthangkarptibtithangkhlinik khumuxnnekidkarephyaephrxyangaephrhlayaemimidphimphepnhnngsuxthiwangtladkhaythwip aelainthisudkidrbkarphimphepnhnngsuxodywithyalyaephthyxemrikn American College of Medicine inpi kh s 1992 swninnganphimphephyaephr khunhmxerimichkhawa evidence based epnkhrngaerkineduxnminakhm kh s 1990 inbthkhwamkhxng Journal of the American Medical Association warsarsmakhmaephthyxemrikn JAMA thikhunhmxidkahndhlkkarxxkaebbaenwthangkarptibtithangkhlinik aelanoybayradbchumchn sungkhunhmxxthibayiwwa kahndhlkthanthimixyuxyangchdaecngekiywkhxngkbnoybay aelaphuknoybaynniwkbhlkthan pkhlknoybayhnung xyangcngic imichkbkhxptibtithiichinpccubnhruxkhwamechuxkhxngphuechiywchay aetkbhlkthankarthdlxng noybaynntxngsxdkhlxngkbaelaidrbkarsnbsnuncakhlkthan hlkthanthiekiywkhxngkntxngmikarsubha kahnd aelawiekhraah phukahndnoybaytxngthakartdsinwa noybaynnehmaasmkbhlkthanhruxim aela txngmikarbnthukehtuphl nn noybaykarptibti macakihn cak JAMA kh s 1990 khunhmxidklawthungnoybay xasyhlkthan inbthkhwamxun thiphimphin JAMA intnpi kh s 1990 odyepnswnkhxngchudbthkhwam 28 bthkhwam thiphimphin JAMA inrahwangpi kh s 1990 1997 ekiywkbraebiybwithiechingrupny formal method inkarxxkaebbaenwthangkarptibtiaelanoybayradbchumchn karsuksaaephthy swnkhawa evidence based medicine erimmikarichtxmaxikelknxy ineruxngekiywkbkarsuksaaephthy karichkhanimimulthanmacakwithyakarrabadechingkhlinik inethxrmvduibimtkkhxngpi kh s 1990 sastracary n ph kxrdxn kayaextt ichkhaniphrrnnaopraekrmkarsuksakhxngmhawithyalyaemkhmasetxr rthxxnaethriox praethsaekhnada sahrbphusnicaelanksuksaihm xiksxngpitxma s kayaexttaelakhna idphimphephyaephrkhaniepnkhrngaerk thiphrrnnawithikarihminkarsxnnksuksaaephthy inpi kh s 1996 n ph edwid aeskhekttaelakhna idthakhaniyamkhxng evidence based medicine ihchdecnkhunodykahndwaepn karichhlkthanpccubnthidithisudxyangramdrawng chdecn aelaehmaasm inkartdsinwinicchywithikarrksasahrbkhnikhraybukhkhl karptibtitamaephthysastrxasyhlkthanhmaythung karpramwlkhwamchanaythangkhlinikkhxng aephthy raybukhkhl kbhlkthanthangkhlinikphaynxkthidithisudthiidmacaknganwicyaebbepnrabb systematic research xairkhuxaelaxairimich Evidence based medicine cak British Medical Journal BMJ sakhanikhxng EBM micudmunghmayephuxcaprbprungkartdsinwinicchykhxngaephthyaetlakhn ihmikdraebiybaelaepnklang ephimyingkhun ihsathxnthunghlkthanthimacaknganwicyephimyingkhun khux aephthytxngichkhxmulthiidinradbchumchn inkarrksakhnikhraybukhkhl odyekhaicwa aephthyaetlathanmikhwamechiywchaythangkhlinikthiprakdody karwinicchythimiprasiththiphaphidprasiththiphl karkahndthakhwamekhaicthungkhwamyaklabak siththi aelakhwamchxbickhxngkhnikhraybukhkhl ephuxichinkarrksaxyangmikhwamehnxkehnic sakhanikhxng EBM mimulthancakwithyakarrabadechingkhlinik clinical epidemiology sungepnsakhathisxnnksuksaaephthyaelaaephthyptibti ihichphlnganwicythangkhlinikaelathangwithyakarrabadinkarrksakhnikh raebiybwithitang idmikarephyaephrxyangkwangkhwangtxaephthyptibtiepnbthkhwamchud 25 bthkhwamchuxwa Users Guides to the Medical Literature khumuxsingtiphimphthangkaraephthy phimphin JAMA rahwangpi kh s 1993 2000 epnphlngankhxngkhnathangankaraephthyxasyhlkthan Evidence based Medicine Working Group thimhawithyalyaemkhmasetxr rthxxnaethriox praethsaekhnada nxkcaknnaelw kyngminiyamxun khxng evidence based medicine thiichinradbkhnikhraybukhkhl yktwxyangechn inpi kh s 1995 oresnebxrkaelaodnldihkhwamhmaywa krabwnkarsubha praemin aelaichphlnganwicythithnsmyepnthan khxngkarwinicchytdsinicthangkaraephthy Evidence based Medicine withikaraekikhpyhathangkhlinik cak BMJ inpi kh s 2010 krinhalkichkhaniyamthiennraebiybwithiechingpriman quantitative method khux karichkhapramankhwamesiyngaelapraoychn khuxphlesiyaelaphldi echingkhnit thiidmacakphlnganwicykhunphaphsungthiichtwxyangehmaakbchumchn ephuxepnkhxmulkartdsinthangkhlinik inkarwinicchy kartrwc aelakarbriharkhnikhraybukhkhl cak hlkphunthankhxng Evidence Based Medicine miniyamxun thimikaresnxsahrbkhawa evidence based medicine radbkhnikhraybukhkhl aetniyamthixangxingknmakthisudepnkhxng n ph edwid aeskhekttaelakhna kh s 1996 khwamhmaydngedimsxngxyangthiklawmaaelwennkhwamaetktangthisakhyekiywkb evidence based medicine thiichinradbchumchnaelakhnikhraybukhkhl emuxkalngxxkaebbnoybayechnaenwthangkarptibtithicaichkbkhnikhepncanwnmak thiaephthyaetlakhnimmioxkascaepliyn karkahndnoybayxasyhlkthanennihmihlkthanthidi ekiywkbprasiththiphlkhxngwithikartrwcwithikarrksathiepnpraedn swninkartdsinwinicchysahrbkhnikhraybukhkhl catxngichkhxmulekiywkbkhnikhephim sungaephthyaetlakhncamikhwamyudhyuninkaraeplphlnganwicy ephuxichrwmkbkarwinicchykhxngaephthy inpi kh s 2005 odyepnkaryxmrbwami EBM sxngsakha n ph edwid exddiesnxkhaniyamthikhrxbkhlumthngsxngsakhakhux Evidence based medicine epnklumhlkkaraelaraebiybwithithiichephuxihkartdsinwinicchy aenwthangkarptibti aelanoybayxun thangkaraephthy xasyhlkthanthidiekiywkbxiththiphlaelapraoychn khxngwithikarrksa khlxngcxngkbhlkthan inkhxbekhtradbsungsudethathicaepnipid Evidence based Medicine withikaraebbrwm cak Health Affairs karaephrkhyayipinxngkhkrtang sakhathngsxngkhxng EBM idmikaraephrkhyayipxyangrwderw inpi kh s 1980 smakhmmaerngxemrikn American Cancer Society iderimyunynihthanganekiywkbaenwthangkarptibtiaelanoybay odymihlkthanephuxyunynxiththiphl inpi kh s 1984 USPSTF khnathanganechphaakicephuxkarbrikarpxngkn thangsukhphaph praethsshrthxemrika sungepnkhnakrrmkarxisrakhxngkrathrwngsatharnsukhshrthxemrika erimkarkahndaenwthangptibtiephuxkaraethrngaesngpxngknephuxsukhphaphodyichhlkxasyhlkthan inpi kh s 1985 klumpraknsukhphaph Blue Cross Blue Shield Association erimbngkhbichkdeknththiekhmngwdxasyhlkthan inkarcaykhakhumkhrxngsukhphaphsahrbethkhonolyikaraephthyihm erimtngaetpi kh s 1987 smakhmaephthyechphaathangtang echn withyalyaephthyxemrikn American College of Medicine aelaxngkhkrsukhphaphxun echn smakhmhwicxemrikn American Heart Association idkahndaenwthangkarptibtithixasyhlkthanepncanwnmak inpi kh s 1991 Kaiser Permanente sungepn managed care organization thiihythisudinshrthxemrika erimichaenwthangptibtixasyhlkthan inpi kh s 1991 richard smith ekhiynbthbrrnathikarin BMJ erimixediykhxngkarichnoybayxasyhlkthaninshrachxanackr inpi kh s 1993 Cochrane Collaboration erimsrangekhruxkhaybukhkhlakrin 13 praethsephuxthanganprithsnaebbepnrabb systematic review aelatngaenwthangkarptibtiaebbepnrabb systematic guideline inpi kh s 1997 sanknganwicyaelakhunphaphkarrksasukhphaph Agency for Healthcare Research and Quality twyx AHRQ khxngkrathrwngsatharnsukhshrthxemrika idkxtngsunykarptibtixasyhlkthan Evidence based Practice Centers ephuxtharaynganekiywkbhlkthan aelathakarpraeminethkhonolyi ephuxsnbsnunkarphthnaaenwthangptibti inpiediywkn AHRQ idrwmkbsmakhmaephthyxemrikn AMA aelasmakhmphukhaypraknsukhphaph America s Health Insurance Plans idcdtngthankhxmul National Guideline Clearinghouse thiekbexksarekiywkbaenwthangkarptibtithangkhlinikaelanoybayxasyhlkthan in pi kh s 1999 xngkhkr National Institute for Clinical Excellence NICE thikahndaenwthangkarptibtithangkaraephthyepn 4 praedn kidcdtngkhuninshrachxanackr indankarsuksakaraephthy idmikarcdopraekrmsxn EBM inmhawithyalyaephthyinpraethsaekhnada shrthxemrika shrachxanackr xxsetreliy aelapraethsxun nganwicyinpi kh s 2009 inshrachxanackrphbwa ekidkwakhrungkhxngmhawithyalyaephthyinshrachxanackrmiopraekrmkarsxnekiywkb EBM aemwacamikhwamaetktangrahwangraebiybwithiaelaeruxngthisxnepnxyangmak aelaopraekrmkarsxn EBM nnthukcakdodyewlathimikhxnghlksutrkaraephthy phusxnthirbkarfukaelw aelaekhruxngmuxhnngsuxthiichinkarsxn mikarphthnaopraekrmtang epncanwnmakthichwyaephthyptibtiihekhathunghlkthantang iddikhun yktwxyangechn intnkhristthswrrs 1990 bristh UpToDate idrbcdtngkhunephuxphthnasxftaewrthichwyaephthyinkartdsinwinicchykarphyabalihkbkhnikh inpi kh s 1993 Cochrane Center erimtiphimphephyaephrnganprithsnekiywkbhlkthanthangaephthy inpi kh s 1995 bristh BMJ Publishing Group sungtiphimph BMJ iderimnitysarpracathuk 6 eduxnchuxwa Clinical Evidence hlkthanthangkhlinik thiephyaephrsarasakhyxyangyx ekiywkbhlkthanpccubnthimi ineruxngpyhasakhythangkhlinikephuxaephthyrksa tngaetnnma kmiopraekrmxun xikmakmaythiekidkhunephuxthakarekhathunghlkthankhxngaephthyihngaykhun khxptibtiinpccubn khawa evidence based medicine pccubnichhmaythungthngopraekrmthiichinkarxxkaebbaenwthangkarptibtixasyhlkthan aelaopraekrmthiichsxnaephthysastrxasyhlkthan odypi kh s 2000 khawa evidence based medicine epnkhathiichxyangkhrxbkhlumodyennhlkthaninkartdsinwinicchythnginradbchumchnaelakhnikhraybukhkhl inpitx ma khawa evidence based kidkhyaykwangxxkipinekhtxun khxngwngkaraephthy yktwxyangechn evidence based health services hmaythungkarbrikarthangsukhphaph thimicudmunghmayephuxprbprungradbsmrrthphaphkhxngphumixanactdsinicekiywkbkarbrikardansukhphaphihdikhun aelaephuxephimradbkarichngankhxng EBM inradbxngkhkraelasthabn nxkcaknnaelw aenwkhidnikerimkhyayxxkipnxkwngkarrksaphyabal yktwxyangechn insunthrphcnrbtaaehnngprathanrachsmakhmsthitisastr Royal Statistical Society inpi kh s 1996 prathanexedriyn smithesnxwa khwrcaerimichnoybayxasyhlkthanineruxngkarsuksa karcakhngnkoths karthangankhxngecahnathitarwc aelainhnwyxun khxngrth sakhatang khxng evidence based medicine lwnaetennkhwamsakhyinkarichhlkthan cakphlnganwicyrupnyekhakbnoybayaelakartdsinwinicchythangkaraephthy aetwa kyngmikhwamaetktangknwa hlkthanwamiprasiththiphltxngmikhunphaphdiaekhihnkxnthicamikarichinaenwthangkarptibti aelainnoybaykhwamkhumkhrxngtamsyyapraknsukhphaph aelaktangkninradbthinamaichidephuxkartdsinwinicchyinraybukhkhl dngnn aenwthangkarptibtiaelanoybayxasyhlkthan xaccaimngaythicaichrwmkbkaraephthytamprasbkarn thionmipthangkartdsinwinicchythangkhliniktamcriythrrm aelaxacnamasungkhwamkhdaeyng khwamaekhngkhn aela wikvtikarn thiimidtngic phunathangkhwamru knowledge leader thimiprasiththiphlmakthisud khuxphucdkarkhxngxngkhkr aelaaephthyphunathangkhlinik caichkhwamruthiepidkwangekiywkbkarbrihar ephuxkartdsinic imidichaethlkthanrupnyethann aenwthangptibtixasyhlkthanxaccaepnmulthankhxng governmentality khuxkarpkkhrxngthiaebngxxkepnphupkkhrxng phurbkarpkkhrxng inrabbsatharnsukh sungxaccanaipsukarpkkhrxngkhwbkhuminrabbthimikhwamehinhangrahwangphupkkhrxng phurbkarpkkhrxngraebiybwithiswnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidkhxcakdaelakhxwicarnaemwa camikarphicarnawa EBM epn gold standard matrthanthxng khxngkaraephthythangkhlinik aetkarich EBM kyngmikhxbekhtcakdaelakhxwicarn sungkyngepneruxngthiaekimidaemwacaidmikarsuksaaelaxphiprayekinkwa 2 stwrrsaelw yktwxyangechn EBM snbsnunkarichnganwicyechingpriman quantitative research odyechphaacakkarthdlxngaebbsumaelamiklumkhwbkhum randomized controlled trial twyx RCT dngnn phlthiidxaccaimekhakbsthankarnkarrksaphyabalthnghmd xudmkhtikhxng EBM khuxsahrbpraednpyhathangkhlinikthicakdaelachdecnthukpyhasungxaccamiepnaesn camikhatxbcakngan meta analysis aelanganprithsnaebbthngrabb khxng RCT mikhxcakdwa nganwicy odyechphaa RCT mikhaichcaysung dngnn tamkhwamepncringaelwsungkcaepnechnediywkntxipinxnakht praednpyhain EBM kcamixupsngkh demand khuxkhwamtxngkarkhatxbsahrbpraednpyhahnung makkwaxupthan supply khuxkhatxbthiidcaknganwicythiphungprasngkhehlann aelaxyangdithisudthimnusycathaidkkhux hakhatxbtamladbkhwamcaepnkhxngpyhann ephraa RCT mikhaichcaysung ladbkhwamcaepnthiihkbpraednnganwicy kcamiphlpraoychnkhxngphusnbsnunthangkarenginekhamaekiywkhxng karphimphephyaephrphlkhxng RCT mkcalacha mikhwamlacharahwangewlathi RCT idrbkarephyaephr kbewlathiichkhxmulnnidcring inkarrksaphyabal klumprachakrepnbangswnmkcaimkhxyidrbkhwamsnicinnganwicy echn chnklumnxyodyephaphnthu aelaphumixakarorkhhlay xyangphrxmkn Comorbidity hlkthanimthnghmdcak RCT samarthekhathungid nxkcaknnaelw prasiththiphlkhxngkarrksathiraynganin RCT xactangcakthiidcakkarrksacring phlnganwicythiidrbkarephyaephr xaccaimsamarthepntwaethnkhxngphlnganwicythnghmdinpraednpyha khuxnganwicythngthimikarephyaephraelaimmikarephyaephr hruxxaccaechuxthuximidephraawamisthankarnaelatwaeprinkarthdlxngthiaetktangkn aemwa EBM caichidinradbchumchn aetaephthyphurksayngsamarthichprasbkarnswntwinkartdsinwacarksakhnikhidxyangir nkwichakarthanhnungihkhaaenanawa khwamruthiidcakkarthdlxngthangkhlinikimidtxbpyhakhxngaephthyrksaodytrngwa withikarihncamiphldithisudtxkhnikhthixyutxhna aelaesnxwa EBM imkhwrthicaldkhakhxngprasbkarnthangkhlinik khxngaephthy swnnkwichakarxikthanhnungklawwa karptibtitamaephthysastrxasyhlkthanhmaythung karpramwlkhwamchanaythangkhlinikkhxng aephthy raybukhkhl kbhlkthanthangkhlinikphaynxkthidithisudthiidmacaknganwicyaebbepnrabb systematic research karprascakokhrngsrangthangkhwamkhidthingay aelarwmepnxnhnungxnediywkn thisamarthrwmkhxmulihm ekhaid Hypocognition samarthkidkhwangkarich EBM idwithipraeminkarsxn EBMwithithdsxbsxngwithikhux Berlin questionnaire aebbsxbthamebxrlin aela Fresno Test karthdsxbefrson epnwithikarthiaesdngphlidtrngthisud aelaidmikarichaelwinsthankarnhlayrupaebbduephimsthaniyxyaephthysastrwithyakarrabad aephthysastrxangxing SUNY Downstate EBM Tutorial library downstate edu subkhnemux 2015 09 03 www capho org khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2016 02 21 subkhnemux 2015 09 03 Search result for evidence based medicine Longdo Dict subkhnemux 2015 03 06 sanknganphthnawithyasastraelaethkhonolyiaehngchati http www thaiglossary org search Evidence 20based 20medicine subkhnemux 2015 03 06 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a title immihruxwangepla help lingkesiy Evidence Based Medicine Working Group November 1992 Evidence based medicine A new approach to teaching the practice of medicine JAMA 268 17 2420 5 doi 10 1001 jama 268 17 2420 PMID 1404801 Eddy DM 1990 Practice Policies Where Do They Come from Journal of the American Medical Association 263 1265 1269 1272 1275 doi 10 1001 jama 263 9 1265 Gray J A Muir 2009 Evidence based health care amp public health Edinburgh Churchill Livingstone ISBN 9780443101236 Brater DC Daly WJ May 2000 Clinical pharmacology in the Middle Ages principles that presage the 21st century Clin Pharmacol Ther 67 5 447 50 See p 449 doi 10 1067 mcp 2000 106465 PMID 10824622 Daly WJ Brater DC 2000 Medieval contributions to the search for truth in clinical medicine Perspect Biol Med 43 4 530 40 See p 536 doi 10 1353 pbm 2000 0037 PMID 11058989 Alvan R Feinstein 1967 Clinical Judgement Williams amp Wilkins Cochrane A L 1972 Effectiveness and Efficiency Random Reflections on Health Services Nuffield Provincial Hospitals Trust Wennberg J E and Gittelsohn A 1973 Small Area Variations in Health Care Delivery Science 182 4117 1102 1108 doi 10 1126 science 182 4117 1102 Eddy DM 1982 18 Probabilistic Reasoning in Clinical Medicine Problems and Opportunities Cambridge University Press Eddy DM 1982 Clinical Policies and the Quality of Clinical Practice New England Journal of Medicine 307 343 347 doi 10 1056 nejm198208053070604 Eddy DM 1984 Variations in Physician Practice The Role of Uncertainty Health Affairs 3 2 74 89 doi 10 1377 hlthaff 3 2 74 PMID 6469198 Eddy DM 1988 The Quality of Medical Evidence Implications for Quality of Care Health Affairs 7 1 19 32 doi 10 1377 hlthaff 7 1 19 PMID 3360391 Feinstein AR 1985 Clinical Epidemiology The Architecture of Clinical Research ISBN 9780721613086 Sackett D aelakhna 2005 Clinical Epidemiology How to Do Clinical Practice Research 3 ed LWW Chassin M R aelakhna 1987 How Coronary Angiography Is Used Clinical Determinants of Appropriateness JAMA 258 18 2543 2547 doi 10 1001 jama 258 18 2543 Field MJ Lohr K 1990 Clinical Practice Guidelines Directions for a New Program National Academy of Sciences Press p 32 Eddy DM 1990 Practice Policies Guidelines for Methods Journal of the American Medical Association 263 1839 1841 doi 10 1001 jama 263 13 1839 Eddy DM 1990 Guidelines for Policy Statements Journal of the American Medical Association 263 2239 2243 doi 10 1001 jama 1990 03440160101046 Eddy DM 1996 Clinical Decision Making From Theory to Practice A Collection of Essays the American Medical Association Jeremy H Howick The Philosophy of Evidence based Medicine John Wiley amp Sons p 15 ISBN 978 1 4443 4266 6 Sackett DL Rosenberg WM Gray JA Haynes RB Richardson WS January 1996 Evidence based medicine what it is and what it isn t BMJ 312 7023 71 2 doi 10 1136 bmj 312 7023 71 PMC 2349778 PMID 8555924 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint multiple names authors list lingk Katz David L 2001 Clinical Epidemiology amp Evidence Based Medicine Fundamental Principles of Clinical Reasoning amp Research SAGE ISBN 978 0 7619 1939 1 Grobbee D E Hoes Arno W 2009 Clinical Epidemiology Principles Methods and Applications for Clinical Research Jones amp Bartlett Learning ISBN 978 0 7637 5315 3 Doi S A R 2012 Understanding evidence in health care Using clinical epidemiology South Yarra VIC Australia Palgrave Macmillan ISBN 978 1 4202 5669 7 Rosenberg W Donald A Evidence based Medicine An approach to Clinical Problem Solving BMJ 310 1122 1126 doi 10 1136 bmj 310 6987 1122 Greenhalgh Trisha 2010 How to Read a Paper The Basics of Evidence Based Medicine 4th ed John Wiley amp Sons p 1 ISBN 978 1 4443 9036 0 Greenhalgh Trisha December 2001 The limits of evidence based medicine Respiratory care 46 12 1435 40 PMID 11728302 Eddy DM 2005 Evidence based Medicine a Unified Approach Health Affairs 24 9 17 Guidelines for the Cancer Related Checkup Recommendations and Rationale A Cancer Journal for Clinicians 30 193 240 1980 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2014 08 15 subkhnemux August 21 2014 Rettig RA Jacobson PD Farquhar CM Aubry WM 2007 False Hope Bone Marrow Transplantation for Breast Cancer Oxford University Press p 183 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite book title aemaebb Cite book cite book a CS1 maint multiple names authors list lingk Davino Ramaya C Krause LK Robbins Harris JS Koster Chan W Tom GI 2012 Transparency Matters Kaiser Permanente s National Guideline Program Methodological Processes 16 Permanente Journal 55 62 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a Cite journal txngkar journal help CS1 maint multiple names authors list lingk Smith RJ 1991 Where s the Wisdom The Poverty of Medical Evidence BMJ 303 6806 798 799 doi 10 1136 bmj 303 6806 798 PMC 1671173 PMID 1932964 The Cochrane Collaboration subkhnemux August 21 2014 Agency for Health Care Policy and Research subkhnemux August 21 2014 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2014 08 19 subkhnemux August 21 2014 National Institute for Health and Care Excellence subkhnemux 2014 08 21 Meats E1 Heneghan C Crilly M Glasziou P April 2009 Evidence based medicine teaching in UK medical schools Med Teach 31 4 332 7 doi 10 1080 01421590802572791 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint multiple names authors list lingk UpToDate subkhnemux August 21 2014 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2008 08 20 subkhnemux August 21 2014 Gray J A Muir 2009 Evidence based Health Care amp Public Health Churchill Livingstone ISBN 9780443101236 Timmermans S Mauck A 2005 The promises and pitfalls of evidence based medicine Health Aff Millwood 24 1 18 28 doi 10 1377 hlthaff 24 1 18 PMID 15647212 Poisson Dulong Larrey Double 2001 1835 Int J Epidemiol 30 6 1246 9 doi 10 1093 ije 30 6 1246 PMID 11821317 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2005 04 29 subkhnemux 2015 02 20 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint multiple names authors list lingk Upshur RE VanDenKerkhof EG Goel V May 2001 Meaning and measurement an inclusive model of evidence in health care J Eval Clin Pract 7 2 91 6 doi 10 1046 j 1365 2753 2001 00279 x ISSN 1356 1294 PMID 11489034 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint multiple names authors list lingk Yitschaky O Yitschaky M Zadik Y May 2011 Case report on trial Do you Doctor swear to tell the truth the whole truth and nothing but the truth PDF J Med Case Reports 5 1 179 doi 10 1186 1752 1947 5 179 PMC 3113995 PMID 21569508 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint multiple names authors list lingk Knowledge Transfer in the ED How to Get Evidence Used Best Evidence Healthcare Blog 2013 09 30 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2013 10 08 subkhnemux 2013 10 08 Rogers WA April 2004 Evidence based medicine and justice a framework for looking at the impact of EBM upon vulnerable or disadvantaged groups J Med Ethics 30 2 141 5 doi 10 1136 jme 2003 007062 PMC 1733835 PMID 15082806 Patient Compliance with statins Review 2015 11 04 thi ewyaebkaemchchin 2004 Friedman LS Richter ED January 2004 Relationship Between Conflicts of Interest and Research Results J Gen Intern Med 19 1 51 6 doi 10 1111 j 1525 1497 2004 30617 x PMC 1494677 PMID 14748860 Tonelli MR November 1999 In defense of expert opinion Acad Med 74 11 1187 92 doi 10 1097 00001888 199911000 00010 PMID 10587679 PMID 20561370 PMID 20561370 Citation will be completed automatically in a few minutes Jump the queue or expand by hand Fritsche L Greenhalgh T Falck Ytter Y Neumayer HH Kunz R 2002 Do short courses in evidence based medicine improve knowledge and skills Validation of Berlin questionnaire and before and after study of courses in evidence based medicine BMJ Clinical research ed 325 7376 1338 41 doi 10 1136 bmj 325 7376 1338 PMC 137813 PMID 12468485 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint multiple names authors list lingk Ramos KD Schafer S Tracz SM 2003 Validation of the Fresno test of competence in evidence based medicine BMJ 326 7384 319 21 doi 10 1136 bmj 326 7384 319 PMC 143529 PMID 12574047 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint multiple names authors list lingk Fresno test Shaneyfelt T Baum KD Bell D Feldstein D Houston TK Kaatz S aelakhna 2006 Instruments for evaluating education in evidence based practice a systematic review JAMA 296 9 1116 27 doi 10 1001 jama 296 9 1116 PMID 16954491 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint multiple names authors list lingk Straus SE Green ML Bell DS Badgett R Davis D Gerrity M aelakhna 2004 Evaluating the teaching of evidence based medicine conceptual framework BMJ 329 7473 1029 32 doi 10 1136 bmj 329 7473 1029 PMC 524561 PMID 15514352 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint multiple names authors list lingk Kunz R Wegscheider K Fritsche L Schunemann HJ Moyer V Miller D aelakhna 2010 Determinants of knowledge gain in evidence based medicine short courses an international assessment Open Med 4 1 e3 e10 PMC 3116678 PMID 21686291 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint multiple names authors list lingk West CP Jaeger TM McDonald FS 2011 Extended evaluation of a longitudinal medical school evidence based medicine curriculum J Gen Intern Med 26 6 611 5 doi 10 1007 s11606 011 1642 8 PMC 3101983 PMID 21286836 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint multiple names authors list lingk brrnanukrmDoi S A R 2012 Understanding evidence in health care Using clinical epidemiology South Yarra VIC Australia Palgrave Macmillan ISBN 978 1 4202 5669 7 Grobbee D E Hoes Arno W 2009 Clinical Epidemiology Principles Methods and Applications for Clinical Research Jones amp Bartlett Learning ISBN 978 0 7637 5315 3 Howick Jeremy H 2011 The Philosophy of Evidence based Medicine Wiley ISBN 978 1 4051 9667 3 Katz David L 2001 Clinical Epidemiology amp Evidence Based Medicine Fundamental Principles of Clinical Reasoning amp Research Sage ISBN 978 0 7619 1939 1 Stegenga Jacob 2018 Care and Cure An Introduction To Philosophy of Medicine University of Chicago Press ISBN 978 0 226 59517 7 aehlngkhxmulxunCentre for Evidence based Medicine at the University of Oxford Evidence Based Medicine thiewbist Curlie