เจาะเวลาหาอดีต (อังกฤษ: Back to the Future) เป็นภาพยนตร์ในปี ค.ศ. 1985 แนวผจญภัยวิทยาศาสตร์ ของผู้กำกับ โรเบิร์ต เซเม็กคิส ร่วมเขียนบทโดยบ็อบ เกล และอำนวยการสร้างโดยสตีเฟน สปีลเบิร์ก นำแสดงโดย ไมเคิล เจ. ฟ็อกซ์ รับบทวัยรุ่นที่ชื่อ มาร์ตี้ แม็กฟลาย , คริสโตเฟอร์ ลอยด์ ในบทบาทนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องที่ชื่อ ด็อกเตอร์ เอ็มเม็ต แอล. บราวน์ , คริสพิน โกลเวอร์, ลีอา ธอมป์สัน และโทมัส เอฟ. วิลสัน โดยมีเรื่องราวเกี่ยวกับมาร์ตี้ แม็กฟลาย วัยรุ่นที่บังเอิญย้อนเวลากลับจากปี 1985 ไปในปี 1955 เขาได้พบกับพ่อแม่ของเขาเมื่อครั้งยังเรียนอยู่ในระดับไฮสคูล และบังเอิญทำให้แม่ของเขาหลงชื่นชอบตัวมาร์ตี้ เขาต้องแก้ไขความผิดพลาดที่จะทำลายประวัติศาสตร์ที่เป็นต้นเหตุโดยทำให้พ่อแม่ของเขากลับมารักกัน ขณะเดียวกันเขาก็ต้องหาวิธีกลับไปในปี 1985 ให้ได้
เจาะเวลาหาอดีต | |
---|---|
กำกับ | โรเบิร์ต เซเม็กคิส |
เขียนบท | โรเบิร์ต เซเม็กคิส บ็อบ เกล |
อำนวยการสร้าง | สตีเฟน สปีลเบิร์ก นีล แคนตัน แคธลีน เคนเนดี แฟรงก์ มาร์ชาล |
นักแสดงนำ | ไมเคิล เจ. ฟ็อกซ์ คริสโตเฟอร์ ลอยด์ ลีอา ธอมป์สัน คริสพิน โกลเวอร์ โธมัส เอฟ. วิลสัน |
กำกับภาพ | ดีน คันดีย์ |
ตัดต่อ | แฮร์รี คีรามิดาส อาร์เธอร์ ชมิดต์ |
ดนตรีประกอบ | อลัน ซิลเวสตริ |
ผู้จัดจำหน่าย | ยูนิเวอร์ซัล พิกเจอร์ส |
วันฉาย | 3 กรกฎาคม ค.ศ. 1985 |
ความยาว | 116 นาที |
ประเทศ | สหรัฐอเมริกา |
ภาษา | ภาษาอังกฤษ |
ทุนสร้าง | 19 ล้านดอลลาร์สหรัฐ |
ทำเงิน | 381.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ |
ต่อจากนี้ | เจาะเวลาหาอดีต ภาค 2 |
เซเม็กคิสและเกล ร่วมกันเขียนบทหลังจากที่เกลคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขากับพ่อของเขาเองได้เข้าเรียนด้วยกัน หลาย ๆ สตูดิโอภาพยนตร์ปฏิเสธบทภาพยนตร์นี้ จนกระทั่งภาพยนตร์ของเซเม็กคิสเรื่อง Romancing the Stone ประสบความสำเร็จทางด้านรายได้ จึงทำให้เกิดโครงการนี้โดยยูนิเวอร์ซัลพิกเจอร์ส โดยมีสปีลเบิร์ก เป็นผู้อำนวยการสร้าง เดิมทีอีริก สตอลต์ซ จะมารับบทเป็นมาร์ตี้ แม็กฟลาย แต่ในระหว่างการถ่ายทำเขาและผู้สร้างภาพยนตร์ตัดสินใจที่จะทำการคัดตัวนักแสดงใหม่ นั่นหมายถึงการถ่ายทำใหม่เช่นกัน และขั้นตอนหลังการถ่ายทำที่ต้องดำเนินให้เสร็จในวันที่ 3 กรกฎาคม ค.ศ. 1985 ซึ่งเป็นวันกำหนดฉาย
เมื่อออกฉาย ภาพยนตร์ประสบความสำเร็จมากที่สุดในปีนั้น ด้วยรายได้รวม 380 ล้านดอลลาร์สหรัฐทั่วโลกและได้รับเสียงวิจารณ์ที่ดี ได้รับรางวัลออสการ์ 1 สาขา คือ สาขาลำดับเสียงยอดเยี่ยม, รางวัลฮูโกสาขาการถ่ายทอดทางด้านดราม่ายอดเยี่ยม และรางวัลแซทเทิร์น ในสาขาภาพยนตร์แต่งแนววิทยาศาสตร์ยอดเยี่ยม และยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ ในสาขาอื่นๆ, รางวัลบาฟต้า และรางวัลลูกโลกทองคำ ทั้งนี้โรนัลด์ เรแกน ยังเคยพูดถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยในการแถลงนโยบายประจำปี 1986 และในปี 2007 หอสมุดรัฐสภาอเมริกัน ได้คัดเลือกภาพยนตร์เรื่องนี้ในหอทะเบียนภาพยนตร์แห่งชาติ นอกจากนี้ยังมีการออกฉายภาคต่อใน เจาะเวลาหาอดีต ภาค 2 และ เจาะเวลาหาอดีต ภาค 3 ต่อเนื่องกันในปี 1989 และ 1990 ตามลำดับ และยังมีซีรีส์แอนิเมชันทางโทรทัศน์และยานในสวนสนุก
เนื้อเรื่อง
มาร์ตี้ แม็กฟลาย วัยรุ่นอายุ 17 ปี อาศัยอยู่ที่ฮิลล์วัลเลย์ รัฐแคลิฟอร์เนีย เช้าวันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม ค.ศ. 1985 ดร. เอ็มเม็ตต์ บราวน์ (แสดงโดย ลอยด์) นักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องเพื่อนต่างวัยของมาร์ตี้ โทรศัพท์มาขอนัดเขาเวลา 1:15 น. ที่ทวินไพน์สมอลล์ในเช้าวันถัดไป หลังจากเข้าชั้นเรียน เขากับแฟนที่ชื่อเจนนิเฟอร์ (คลอเดีย เวลส์) ถูกขอให้บริจาคเงินเพื่อบูรณะหอนาฬิกาที่หยุดเดินไปตั้งแต่เมื่อ 30 ปีที่แล้ว หลังจากฟ้าผ่าลงหอนาฬิกา ในเย็นวันนั้นระหว่างเดินเข้าบ้าน เขาก็พบว่ารถของครอบครัวเขาพังไป ภายในบ้าน พ่อของเขาผู้อ่อนแอที่ชื่อจอร์จ (คริสปิน โกลเวอร์) กำลังถูกระรานจากหัวหน้าเขาที่ชื่อ บิฟฟ์ เทนเน็น (โทมัส เอฟ. วิลสัน) ที่ขอยืมรถของพวกเขาไปแล้วทำพัง ในมื้อเย็นวันนั้น แม่ของมาร์ตี้ที่ชื่อ ลอร์เรน (ลีอา ธอมป์สัน) เล่าความหลังถึงตอนที่เธอและจอร์จพบกันครั้งแรกโดยที่พ่อของเธอขับรถชนจอร์จ โดยบอกว่าจอร์จกำลังดูนกอยู่
ในคืนนั้น มาร์ตี้ได้พบด็อกตามนัดที่ลานจอดรถของทวินไพน์สมอลล์ ด็อกได้นำเสนอ ดีเอ็มซี-12 ที่ดัดแปลงมาเป็นยานไทม์แมชชีน โดยให้มาร์ตี้ถ่ายทำเทปวิดีโอไว้ ด็อกอธิบายถึงโปรแกรมในการเดินทางข้ามผ่านเวลาที่ต้องให้รถวิ่งที่ความเร็ว 88 ไมล์ต่อชั่วโมงโดยใช้พลังงานพลูโตเนียมจากปฏิกิริยานิวเคลียร์เกิดพลังงาน 1.21 จิ๊กกะวัตต์ การสาธิตอธิบายการทำงานของเครื่องยนต์ ด็อกได้กดเวลาเป้าหมาย ณ วันที่ 5 พฤศจิกายน ค.ศ. 1955 โดยเขาอธิบายว่าเป็นวันที่เขาเกิดแนวคิดในการสร้างเครื่องแปรพลังงาน(ฟลักซ์คาพาซิเตอร์) อุปกรณ์ที่ทำให้การเดินทางข้ามเวลาเป็นไปได้ ก่อนที่ด็อกวางแผนที่จะเดินทางไปอนาคต จู่ ๆ กลุ่มผู้ก่อการร้ายชาวลิเบีย ที่ด็อกไปขโมยพลูโตเนียมมา ไล่ล่าเขาด้วยรถแวนโฟล์คสวาเกน จนฆ่าเขาได้ มาร์ตี้กระโดดเข้าเดอลอรีนและถูกวิ่งกวดมาจนถึงความเร็ว 88 ไมล์ต่อชั่วโมง จึงทำให้เดินทางข้ามเวลากลับไปที่ปี ค.ศ. 1955 โดยทันที
เมื่อมาถึงปี 1955 รถวิ่งเข้าคอกสัตว์และใช้การไม่ได้ มาร์ตี้จึงซ่อนรถไว้แล้วเดินเข้าไปในเมือง เขาพบจัตุรัสในเมืองที่บ่งบอกถึงยุคสมัย 1950 และเห็นหอนาฬิกาที่ยังใช้การได้ มาร์ตี้เดินเข้าร้านกาแฟ และพบกับพ่อของเขาเองที่กำลังถูกข่มเหงจากบิฟฟ์อยู่ จากนั้นมาร์ตี้ได้ตามจอร์จ และพบว่าจอร์จกำลังปีนต้นไม้เพื่อแอบดูผู้หญิงเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ ไม่ใช่ดูนก จอร์จตกลงจากต้นไม้และจะถูกรถชน มาร์ตี้ผลักเขาออกไป ทำให้ตัวเองถูกรถชนแทน ซึ่งคนขับชนก็คือพ่อของลอร์เรน เมื่อพามาร์ตี้ไปพักรักษาที่บ้าน ผลคือลอร์เรนหลงรักมาร์ตี้แทนจอร์จ มาร์ตี้พยายามบ่ายเบี่ยงการเกี้ยวพาราสีจากแม่ของเขาเองและพบว่าครอบครัวของแม่เป็นครอบครัวที่เคร่งครัดเจ้าระเบียบไม่เหมือนกับแม่ของเขาที่รู้จัก เขาผละตัวจากเธอเพื่อพยายามตามหาด็อก บราวน์
มาร์ตี้เข้าพบกับด็อก นักวิทยาศาสตร์ที่เห็นว่ามาร์ตี้เสียสติ มาร์ตี้พยายามทำให้ด็อกเชื่อว่าเขามาจากปี 1985 โดยเล่าเรื่องราวของด็อกถึงที่มาของการผลิตเครื่องแปรพลังงาน (ฟลักซ์คาพาซิเตอร์) และได้โชว์วิดีโอเทปการทดลองในปี 1985 อย่างไรก็ตามแต่เมื่อถึงตอนที่ด็อกตอนแก่ (ในวิดีโอ) อธิบายว่าจะต้องใช้พลังงานจำนวนมากที่ใช้เดินทางข้ามเวลาก็ทำให้เขาช็อกไป ด็อกบอกแก่มาร์ตี้ว่านอกจากพลูโตเนียม ซึ่งจะหาได้ยากแล้ว สิ่งเดียวที่มีพลังงานเท่านั้นคือ พลังงานจากฟ้าผ่าซึ่งไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้ มาร์ตี้ก็นึกขึ้นได้ว่าจะมีฟ้าผ่าลงหอนาฬิกาที่จะเกิดขึ้นในวันเสาร์ที่จะถึง ด็อกจึงได้เริ่มวางแผนที่จะใช้ประโยชน์จากฟ้าผ่าในการส่งมาร์ตี้กลับไปยังปี 1985
นอกจากนี้ มาร์ตี้ยังพบว่ารูปถ่ายของเขากับพี่ชายและพี่สาว เริ่มมีบางอย่างผิดปกติ โดยภาพพี่ชายของเขาเริ่มจากหายไป ด็อกสรุปว่าเป็นเพราะมาร์ตี้ ช่วยพ่อของเขาจากการถูกรถชน แล้วแม่ของเขากลับมาตกหลุมรักเขาเสียเอง เป็นการทำให้อนาคตบิดเบือนไป ซึ่งเขาจะต้องแก้ไขเรื่องที่ทำพลาดไปนี้
หลังจากล้มเหลวจากความพยายามที่นัดทั้งคู่ออกเดทกัน มาร์ตี้วางแผนว่าจะพาลอร์เลนไปงานเต้นรำที่โรงเรียน (ซึ่งตรงกับเวลาที่เขาจะเดินทางกลับอนาคต) แล้วเขาจะลวนลามเธอ จากนั้นก็ให้จอร์จเข้ามาช่วย เพื่อเป็นการพิชิตใจเธอ อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงเวลาตามแผนบิฟฟ์ได้เข้ามาอย่างไม่ได้คาดการณ์ไว้และให้แก๊งค์เขาจับตัวมาร์ตี้ไปขังไว้หลังรถของนักดนตรี จากนั้นบิฟฟ์เข้าไปในรถแล้วพยายามลวนลามลอร์เรน จอร์จมาพอดีตามแผนของมาร์ตี้ที่วางไว้ แต่ก็ช็อกที่เจอบิฟฟ์แทนมาร์ตี้ บิฟฟ์บอกให้เขาไปไกล ๆ แต่จอร์จไม่อาจทนได้ที่ลอร์เรนถูกลวนลาม จึงต่อยเขาเข้าเต็ม ๆ จนหมอบลงกับพื้น ลอร์เรนจึงเกิดหลงรักจอร์จที่ช่วยเหลือเขาอย่างสุภาพบุรุษก็เข้าไปงานเต้นรำ ที่ที่ทั้งสองจูบกันครั้งแรก และทำให้มาร์ตี้กลับมามีตัวตนอีกครั้งแทนที่จะเลือนหายไป
ขณะเดียวกัน ด็อกได้ใช้สายเคเบิลเชื่อมต่อกับเสาล่อฟ้าของหอนาฬิกาเข้ากับโคมไฟสองข้างถนน โดยวางแผนว่าจะให้มาร์ตี้ใช้เดอลอรีนวิ่งผ่านสายไฟที่ขึงข้ามถนนขณะที่เกิดฟ้าผ่า ก่อนที่มาร์ตี้จะไปตั้งหลัก ด็อกก็พบกับจดหมายที่มาร์ตี้เขียนขึ้นในกระเป๋าเสื้อคลุม ซึ่งเตือนเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตว่าเขาจะถูกฆ่าตาย ด็อกฉีกจดหมายทิ้งทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้อ่าน และอธิบายว่ามันอาจเป็นอันตรายต่ออนาคต มาร์ตี้จึงปรับเปลี่ยนเวลาที่จะย้อนกลับให้เร็วขึ้นกว่าเดิม 10 นาที เพื่อหวังว่าเมื่อกลับถึงอนาคตแล้วเขาจะมีเวลาเตือนด็อกเพื่อไม่ให้ถูกยิง หลังจากที่มาถึงอนาคต รถก็ใช้การไม่ได้อีก มาร์ตี้จึงมาถึงลานจอดรถช้าเกินไปที่จะช่วยด็อก ขณะที่มาร์ตี้ร้องไห้อยู่ ร่างของด็อกก็ลุกขึ้นและรูดซิปเสื้อกันกัมมันตภาพรังสีออก โชว์ให้เห็นเสื้อเกราะกันกระสุน ด็อกได้ให้มาร์ตี้ดูจดหมายที่มาร์ตี้เขียนไว้ในอดีตที่ทำมาปะติดใหม่ด้วยเทป จากนั้นด็อกตัดสินใจเดินทางข้ามเวลาไปยังอนาคตในอีก 30 ปีข้างหน้า
ในเช้าวันต่อมา มาร์ตี้พบว่าฐานะของครอบครัวเปลี่ยนไป ลอร์เรนดูหุ่นดีและดูไม่จู้จี้จุกจิก จอร์จเป็นนักประพันธ์ที่ดูมีความมั่นใจ ส่วนบิฟฟ์ก็ได้รับใช้จอร์จแทน ส่วนเจนนิเฟอร์กับมาร์ตี้ก็กลับมาเจอกันอีกครั้ง ด็อกมาพบทั้งคู่ด้วยท่าทีลนลาน บอกว่าเขากลับมาจากอนาคตและจะพาพวกเขาทั้งคู่ไปอนาคตด้วยกัน เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับลูก ๆ ในอนาคตของทั้งสอง ฉากจบของเรื่อง รถเดอลอรีนได้เพิ่มสมรรถนะให้บินได้ และหายไปกับอนาคต
การพัฒนา
การเขียนบท
ผู้เขียนบทและผู้สร้าง เกิดแนวคิดขึ้นหลังจากที่กลับไปเยี่ยมพ่อแม่ของเขาที่ เซนต์หลุยส์ รัฐมิสซูรี เขาพบรถเก่าที่ใต้ดินของที่บ้าน เกลพบหนังสือรุ่นของพ่อเขาและพบว่าพ่อของเขาเป็นประธานนักเรียนของชั้นด้วย เกลจึงนึกถึงประธานนักเรียนรุ่นเขาเองที่เขาไม่ได้สุงสิงอะไรด้วยเลย เขาก็นึกเล่น ๆ ถ้าเขาเป็นเพื่อนกับพ่อเขาและไปเรียนด้วยกันตอนเรียนไฮสคูล จะเป็นอย่างไร เมื่อเขากลับไปแคลิฟอร์เนีย ก็ได้เล่าให้โรเบิร์ต เซเม็กคิส เกี่ยวกับแนวคิดใหม่นี้ เซเม็กคิสก็นึกถึงเรื่องของแม่เขาที่ว่า เธอไม่เคยจูบผู้ชายเลยเมื่อสมัยเรียนไฮสคูล ซึ่งในชีวิตจริงเธอก็ผ่านมาโชกโชน ทั้งคู่นำไปเสนอกับโคลัมเบียพิกเจอร์ส และได้พัฒนาบทในเดือนกันยายน ค.ศ. 1980
เซเม็กคิสและเกลได้กำหนดเรื่องราวในปี 1955 มีวิธีคิด กล่าวคือ คนอายุ 17 ปี กลับไปหาพ่อแม่เขาในอดีตเพื่อพบกับพ่อแม่ของเขาในวัยเดียวกับเขา ในยุคนั้นเป็นต้นกำเนิดของเพลงร็อกแอนด์โรล เป็นยุคที่สื่อให้ความสนใจกับวัยรุ่น พลังในการจับจ่ายใช้สอย และเป็นยุคการขยายตัวอยู่อาศัยในเขตชานเมือง ที่มีกลิ่นอายอยู่ในเรื่องราว มาร์ตี้ในฉบับดั้งเดิมเป็นพวกทำวิดีโอเถื่อน ส่วนไทม์แมชชีนเป็นตู้เย็น ที่เขาต้องการพลังงานระเบิดจากการทดลองที่เนวาดาเทสต์ไซต์ ที่จะนำพาเขากลับบ้าน เซเม็กคิสตระหนักว่า "อาจจะมีเด็กที่ขังตัวเองในตู้เย็นก็ได้" และฉากสำคัญที่สุดในเรื่องก็ดูใช้เงินเยอะเกินไป รถเดอลอรีนที่ใช้เป็นไทม์แมชชีนได้ถูกคัดเลือกและออกแบบมาเพราะจะใส่มุขเกี่ยวกับครอบครัวที่ว่า ชาวไร่เข้าใจผิดว่ามันคือจานบิน นักเขียนได้เชื่อมความสัมพันธ์ในความเป็นเพื่อนข้ามวัยของมาร์ตี้กับด็อก บราวน์ ค่อนข้างยาก โดยเชื่อมเรื่องราวว่า พวกเขาสร้างแอมป์กีตาร์ขนาดใหญ่ขึ้นมา ส่วนฉากความสัมพันธ์ระหว่างแม่กับมาร์ตี้ในอดีต พวกเขาเขียนคำพูดว่า "มันเป็นจูบที่เหมือนเธอจูบน้องชายเขา" ส่วนบิฟฟ์ แทนเน็นตั้งชื่อตามเน็ด เทเน็น ตำแหน่งยูนิเวอร์ซัลเอกคูทีฟ ที่ดูก้าวร้าวกับเซเม็กคิสและเกลขณะที่พบกันระหว่างเขียนบทให้ภาพยนตร์เรื่อง I Wanna Hold Your Hand
โครงร่างแรกของ เจาะเวลาหาอดีต เสร็จสิ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1981 โคลัมเบียพิกเจอร์สต้องการให้ปรับเปลี่ยนและขายต่อ "พวกเขาคิดว่า มันค่อนข้างดี, น่ารัก, หนังอบอุ่น แต่ยังขาดเรื่องทางเพศไป" เกลพูด "พวกเขาแนะนำว่า ควรนำหนังไปให้ดิสนีย์ แต่พวกเขาตัดสินใจ ที่จะส่งไปสตูดิโอใหญ่อื่นที่ต้องการพวกเขา ทุกค่าย ทุกสตูดิโอใหญ่ ๆ ปฏิเสธบทนี้ ขณะที่พวกเขายังพัฒนาอีก 2 บทร่าง ระหว่างต้นยุค 1980 ด้วยความนิยมของคอเมดี้วัยรุ่น (อย่างเช่น Fast Times at Ridgemont High และ Porky's) ที่มีเนื้อหาทะลึ่งตึงตัง ดังนั้นบทภาพยนตร์ก็ถูกปฏิเสธไปเนื่องจากเนื้อหาเบาไป เกลและเซเม็กคิสตกลงที่จะเสนอ เจาะเวลาหาอดีต ให้ทางดิสนีย์ "พวกเขาบอกว่า แม่ตกหลุมรักลูกชายของตัวเอง เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมกับภาพยนตร์ครอบครัว ภายใต้แบรนด์ของดิสนีย์" เกล พูด
ทั้งคู่พยายามเข้าหาสตีเวน สปีลเบิร์ก ที่เป็นผู้สร้างให้กับ Used Cars และ I Wanna Hold Your Hand ที่ล้มเหลวทั้งสองเรื่อง สปีลเบิร์กได้ห่างหายจากโครงการไปเพราะเซเม็กคิสทำล้มเหลว เพราะถ้ามันล้มเหลวอีกก็อยู่ภายใต้ชื่อเขา เขาจะไม่สามารถที่จะสร้างหนังได้อีก เกลพูดว่า "เรากลัวว่า เราจะได้ชื่อเสียงจากเพราะเราสองคนที่แค่ทำงานได้เพราะว่าเราเป็นเพื่อนกับสตีเวน สปีลเบิร์ก" มีผู้สร้างคนหนึ่งสนใจแต่เปลี่ยนใจเมื่อรู้ว่าสปีลเบิร์กไม่ได้เกี่ยวข้องกับโครงการนี้ เซเม็กคิสจึงเลือกที่จะกำกับ Romancing the Stone แทน ซึ่งก็ประสบความสำเร็จบนตารางบ็อกซ์ออฟฟิสเป็นอย่างดี ทำให้เขามีประวัติดี น่าเชื่อถือ เซเม็กคิสจึงเข้าหาสปีลเบิร์กด้วยแนวคิดนี้ โครงการนี้จึงเกิดขึ้นภายใต้สตูดิโอ ยูนิเวอร์ซัลพิกเจอร์ส
ซิดนีย์ ชีนเบิร์ก ผู้บริหารได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับบทว่า ให้เปลี่ยนชื่อแม่ของมาร์ตี้ จากเม็ก เป็น ลอร์เรน (ตามชื่อภรรยาเขา ที่เป็นนักแสดงที่ชื่อ ) และเปลี่ยนสัตว์เลี้ยงของด็อกบราวน์จากลิงชิมแพนซี เป็นสุนัข ชีนเบิร์กต้องการให้เปลี่ยนชื่อเป็น Spaceman from Pluto แต่ก็ไม่สำเร็จ แต่เขาก็แนะนำว่าน่าจะให้มาร์ตี้แนะนำตัวเขาเองว่าเป็น "ดาร์ธ เวเดอร์ จาก ดาวพลูโต" ขณะที่ชุดแต่งให้แต่งตัวเหมือนมนุษย์ต่างดาว (ดีกว่ามาจากดาว วัลแคน) และที่ชาวนาโชว์การ์ตูนเป็น Spaceman from Pluto แทนที่จะเป็น Space Zombies from Pluto สปีลเบิร์กส่งข้อความกลับไปชีนเบิร์กว่า ที่เขาพยายามโน้มน้าวให้เปลี่ยนชื่อนี่คือเรื่องตลกใช่มั๊ย ดังนั้นเขาจึงยกเลิกแนวคิดนี้ไป
การคัดเลือกนักแสดง
ไมเคิล เจ. ฟ็อกซ์ เป็นตัวเลือกแรกสำหรับบทมาร์ตี้ แม็กฟลาย แต่เขาได้ตอบรับที่จะแสดงในซีรีส์ Family Ties ไปแล้ว แกรี เดวิด โกลด์เบิร์ก ผู้สร้างโชว์รู้สึกว่าฟ็อกซ์มีความจำเป็นสำหรับความสำเร็จของซีรีส์นี้และจะทำให้สับสนถ้าเขาประสบความสำเร็จจากโชว์ ภาพยนตร์กำหนดออกฉายเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1985 และในช่วงปลายปี 1984 เมื่อรู้ว่าฟ็อกซ์ไม่สามารถแสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้ ตัวเลือกอีก 2 คนของเซเม็กคิสคือ และ อีริก สตอลต์ซ ซึ่งภายหลังได้ทำให้ผู้สร้างประทับใจกับบท รอย แอล. เดนนิส ในเรื่อง Mask พวกเขาเลือกอีริก สตอลต์ซมารับบทเป็นมาร์ตี้ แม็กฟลาย แต่ด้วยเพราะความยุ่งยากในขั้นตอนคัดเลือกนักแสดง ทำให้วันออกฉายเลื่อนไป 2 หน
ในระหว่างการถ่ายทำ 4 อาทิตย์ เซเม็กคิสตัดสินใจดึงสตอลต์ซออกจากภาพยนตร์ ถึงแม้ว่าเขาและสปีลเบิร์กจะรู้ดีว่าจะต้องถ่ายทำใหม่ซึ่งจะต้องใช้งบเพิ่มอีก 3 ล้านถึง 14 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เขาตัดสินใจคัดเลือกตัวนักแสดงใหม่ สปีลเบิร์กอธิบายเซเม็กคิสที่รู้สึกกับสตอลต์ซว่า ขาดอารมณ์ขันและ "มีการแสดงที่เลวร้าย" เกลอธิบายเพิ่มว่า สตอลต์ซแค่แสดงไม่สมบทบาท ขณะที่ฟ็อกซ์ด้วยตัวเขาเองแล้วบุคลิกเหมือน มาร์ตี้ แม็กฟลาย เขารู้สึกว่าสตอลต์ซดูไม่เหมาะกับการเล่นสเกตบอร์ด ขณะที่ฟ็อกซ์ดูเนียน ทางด้านสตอลต์ซรู้สึกผิดกล่าวทางโทรศัพท์กับปีเตอร์ บ็อกดาโนวิช ว่า 2 อาทิตย์ระหว่างการถ่ายทำ เขารู้สึกถึงความไม่มั่นใจในทิศทางของเซเม็กคิสและเกล และเห็นด้วยว่าเขาไม่เหมาะกับบทนี้
ฟ็อกซ์วางตารางเวลาไว้ในเดือนมกราคม ค.ศ. 1985 เมื่อจะกลับมาใน Family Ties หลังจากการตั้งครรภ์ ทีมงาน เจาะเวลาหาอดีต กลับมาหาโกล์ดเบิร์กอีกครั้ง ที่ได้สัญญากับฟ็อกซ์ว่าจะเป็นตัวละครสำคัญใน Family Ties แต่ถ้าตารางเวลาขัดกัน เขาก็ไม่ได้เล่น ฟ็อกซ์ชอบบทภาพยนตร์และเห็นถึงความใส่ใจของเซเม็กคิสและเกลที่เขาไล่สตอลต์ซออก แต่พวกเขาก็ไม่ได้พูดถึงสตอลต์ซมากเท่าไหร่และโทนี ฮอว์ก โปรสเกตบอร์ดได้ช่วยในฉากเล่นสเกตบอร์ด อย่างไรก็ตามฮอว์กก็ออกไปจากภาพยนตร์เพราะเขาสูงกว่าฟ็อกซ์ ที่เดิมเขาแสดงแทนสตอลต์ซในหลายฉาก ฟ็อกซ์ยังพูดถึงมาร์ตี้ แม็กฟลายว่าดูมีความเป็นตัวเองสูง "ที่ผมทำในตอนเรียนระดับไฮสคูลคือเล่นสเกตบอร์ด ตามผู้หญิงและมีวงดนตรี ผมเคยแม้แต่ฝันว่าจะเป็น ร็อกสตาร์"
คริสโตเฟอร์ ลอยด์ รับบทเป็น ด็อก บราวน์ หลังจากที่ตัวเลือกแรกในบทนี้คือ จอห์น ลิธโกว์ ที่ไม่ว่างที่แสดง ผู้สร้าง นีล แคนตัน ใน The Adventures of Buckaroo Banzai (1984) ที่เคยทำงานร่วมกับลอยด์ได้แนะนำให้มารับบทนี้ เดิมทีลอยด์ปฏิเสธที่จะเล่น แต่ก็เปลี่ยนจากหลังจากอ่านบทและคำคะยั้นคะยอจากภรรยาเขา เขายังได้ปรับเปลี่ยนการแสดงบางฉาก โดยได้รับแรงบันดาลใจจากอัลเบิร์ต ไอนสไตน์และคอนดักเตอร์ ที่ชื่อ บราวน์ ออกเสียง จิ๊กกะวัตต์ เป็น "จิ๊กโกวัตต์" ที่เป็นคำพูดของนักฟิสิกส์พูดกัน เป็นข้อมูลที่ได้จากขั้นตอนการหาข้อมูลเขียนบทของเซเม็กคิสและเกล
คริสพิน โกลเวอร์ รับบทเป็น จอร์จ แม็กฟลาย เซเม็กคิสพูดถึงโกลเวอร์ว่าเขาแสดงเกินบทมากเกินไป ในบทบาทจอร์จที่มีบุคลิกเฉื่อยชา อย่างเช่น ผู้กำกับก็พูดติดตลกเกี่ยวกับโกลเวอร์ว่า เขาแทบไม่เข้าใจลักษณะตัวละคร อีก 50% ที่เหลือเลย
ลีอา ธอมป์สัน รับบทเป็น ลอร์เรน แม็กฟลาย เพราะเธอรับบทคู่กับสตอลต์ซใน The Wild Life การแต่งหน้าเธอในฉากปี 1985 ต้องใช้เวลาแต่งหน้าถึง 3 ชั่วโมงครึ่งจึงจะเสร็จ
โทมัส เอฟ. วิลสัน รับบทเป็น บิฟฟ์ แทนเน็น เพราะตัวเลือกแรกที่เลือกไว้คือ เมื่อพิจารณาดูแล้วจะดูเชื่อไม่ได้ว่าจะวางก้ามกับสตอลต์ซได้ แต่โคเฮนก็แสดงในบทเพื่อนของบิฟฟ์ และเมื่อมีฟ็อกซ์มาแสดง โคเฮนก็พอดูจะพอทำได้กับบทนี้ที่เขาสูงกว่าฟ็อกซ์
งานสร้าง
หลังจากที่สตอลต์ซออกไป ฟ็อกซ์ได้จัดตารางเวลาโดยในช่วงวันธรรมดา ถ่าย Family Ties ในช่วงกลางวัน และถ่าย เจาะเวลาหาอดีต จาก 18.30 น. ถึง 2.30 น. ของอีกวัน เขามีเวลานอนเฉลี่ย 5 ชั่วโมงต่อวัน ในระหว่างวันศุกร์เขาถ่ายตั้งแต่ 4 ทุ่ม ถึง 6 หรือ 7 โมงเช้า จากนั้นก็ไปถ่ายฉากข้างนอกในช่วงวันหยุด ในฉากที่ต้องถ่ายในช่วงกลางวัน ฟ็อกซ์รู้สึกเหน็ดเหนื่อยต่อการทำงาน แต่ "มันเป็นความฝันที่จะอยู่ในภาพยนตร์ และธุรกิจโทรทัศน์ ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้รู้ว่าผมทำควบคู่กันไป มันเป็นอะไรที่ประหลาดแต่ผมก็ต้องดำเนินต่อไป" เซเม็กคิสก็เห็นด้วย พวกเขาถ่ายทำวันแล้ววันเล่า ทุกคืน ตอนนั้นเขามักจะอยู่ใน "ภาวะกึ่งหลับ" และ "อ้วนที่สุด ไม่อยู่ในรูปร่างที่ควบคุมและป่วยบ่อยที่สุด" ฟ็อกซ์ใช้เวลาถ่ายเรื่องนี้ 10-12 สัปดาห์
ฉากจตุรัสเมืองฮิลล์วัลเลย์ถ่ายทำที่ ตั้งอยู่ด้านหลังสตูดิโอของยูนิเวอร์ซัล บ็อบ เกลอธิบายว่า มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะถ่ายทำจากสถานที่จริง "เพราะไม่มีเมืองไหนที่อนุญาตให้ทีมงานภาพยนตร์ตกแต่งฉากบ้านเรือนให้เหมือนในยุค 1955" ทางทีมงานสร้างอธิบายว่า "พวกเขาตัดสินใจที่จะถ่ายทำฉากในปี 1955 ก่อน ที่ที่มีความสวยงาม จากนั้นจึงค่อยใส่ขยะ และทำให้มันน่าเกลียดในฉากยุค 1985" ส่วนฉากภายในบ้านด็อกบราวน์ถ่ายทำที่บ้านโรเบิร์ต อาร์. แบล็กเกอร์ ขณะที่ฉากด้านนอกถ่ายทำที่บ้านแกมเบิล
เมื่อภาพยนตร์ใกล้เสร็จ เมื่อวันที่ 20 เมษายน ค.ศ. 1985 หลังจากการถ่ายทำครบร้อยวัน ภาพยนตร์ก็ได้เลื่อนฉายจากเดือนพฤษภาคมไปเป็นสิงหาคม แต่หลังจากได้เสียงตอบรับด้านบวกในรอบทดลองฉาย ชีนเบิร์กเลือกวันออกฉายวันที่ 3 กรกฎาคม และเพื่อที่เสร็จสิ้นภายในวันที่กำหนด ผู้ตัดต่อสองคนคือ อาร์เธอร์ ชมิดต์และแฮร์รี เคอรามิดาส รับหน้าที่ในการตัดต่อภาพยนตร์เรื่องนี้ ขณะที่ผู้ตัดต่อเสียงจำนวนมากทำงาน 24 ชั่วโมง มีส่วนที่ถูกตัดทิ้งไป 8 นาที เช่นฉากมาร์ตี้ดูแม่เขาโกงการสอบ, จอร์จติดอยู่ในบูธโทรศัพท์ก่อนที่จะช่วยเหลือลอร์เรน รวมถึงฉากที่มาร์ตี้แสร้งทำเป็นดาร์ธ เวเดอร์ ส่วนฉากจอห์นนี บี. กู้ด ก็เกือบถูกตัดทิ้งไปโดยเซเม็กคิส ที่เขารู้สึกว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวเนื่องกับเนื้อหา แต่ผู้ชมรอบทดสอบกลับชื่นชอบมัน ทำให้เขาต้องเก็บเอาไว้
อินดัสเทรียล ไลท์ แอนด์ แมจิก ทำงานด้านฉากเอฟเฟกต์ 32 ช็อต ซึ่งเซเม็กคิสและเกลก็ไม่ได้รู้สึกประทับใจอะไร จนกระทั่งในสัปดาห์สุดท้ายก่อนภาพยนตร์จะเสร็จสิ้น
ดนตรี
อลัน ซิลเวสตริ เคยร่วมงานกับเซเม็กคิสในภาพยนตร์เรื่อง Romancing the Stone ซึ่งทางสปีลเบิร์กก็ไม่ชอบผลงานเพลงบรรเลงเรื่องนี้ เซเม็กคิสแนะนำซิลเวสตริว่าให้ประพันธ์เพลงบรรเลงอย่างอลังการ ฟังดูเหมือนเป็นมหากาพย์ เนื่องจากเป็นภาพยนตร์เล็ก ๆ เพื่อจะได้สร้างความประทับใจให้กับสปีลเบิร์ก ซิลเวสตริเริ่มบันทึกเสียงเพลงบรรเลงก่อนรอบปฐมทัศน์ 2 สัปดาห์ เขายังได้แนะนำ ฮิวอี ลูวิส แอนด์ เดอะ นิวส์ ให้แต่งเพลงธีมภาพยนตร์ ความพยายามครั้งแรกก็ได้รับการปฏิเสธจากยูนิเวอร์ซัล จากนั้นพวกเขาบันทึกเสียง "The Power of Love" ซึ่งทางสตูดิโอก็ชื่นชอบเพลงสุดท้ายนี้ แต่ก็ผิดหวังเมื่อมันไม่ได้มีอยู่ในไตเติลของหนัง พวกเขาจึงส่งข้อความให้สถานีวิทยุโดยให้พูดถึงว่าเพลงนี้เกี่ยวข้องกับภาพยนตร์เรื่อง เจาะเวลาหาอดีต ในตอนท้ายของหนังมีเพลงที่ชื่อ "Back in Time" ขึ้นมาในช่วงที่มาร์ตี้กลับมาถึงในปี 1985 และอีกครั้งตอนเครดิตตอนจบ ฮิวอี เลวิส ยังร่วมแสดงเป็นครูในโรงเรียนที่ผิดหวังกับวงของมาร์ตี้ และวิจารณ์ว่า เพลงเสียงดังไป
การตอบรับ
การออกฉาย
เจาะเวลาหาอดีต ออกฉายเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม ค.ศ. 1985 ด้วยจำนวนโรงฉาย 1,200 โรงในอเมริกาเหนือ เซเม็กคิสกังวลว่าภาพยนตร์จะไม่ประสบความสำเร็จดีเนื่องจาก ฟ็อกซ์ ต้องไปถ่ายซีรีส์ Family Ties ตอนพิเศษในลอนดอนจึงไม่สามารถมาร่วมประชาสัมพันธ์ได้ เกลก็รู้สึกไม่พอใจกับคำเปรยของยูนิเวอร์ซัลพิกเจอร์สที่เขียนไว้ว่า "คุณกำลังบอกใช่มั๊ยว่า แม่ของผมชอบผมเหรอ" แต่ เจาะเวลาหาอดีต ก็ทำรายสถิติอยู่ที่อันดับ 1 นาน 11 สัปดาห์ เกลพูดว่า "ในสัปดาห์ที่ 2 มียอดสูงกว่าในสัปดาห์แรก ซึ่งชี้ให้เห็นว่าคงเป็นคำพูดแบบปากต่อปาก ภาพยนตร์เรื่อง National Lampoon's European Vacation ที่ออกในเดือนสิงหาคม เขี่ยพวกเราลงจากอันดับ 1 ได้สัปดาห์เดียวจากนั้นพวกเขาก็ขึ้นไปที่อันดับ 1 ใหม่อีกครั้ง" ภาพยนตร์ทำรายได้ 210.61 ล้านดอลลาร์สหรัฐในอเมริกาเหนือ และ 170.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐในต่างประเทศ รวมยอดทั่วโลกที่ 381.11 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ เจาะเวลาหาอดีต ยังเปิดตัวในสุดสัปดาห์ สูงสุดเป็นอันดับ 4 และมีรายได้มากที่สุดประจำปีนั้นอีกด้วย ถ้าคิดจากค่าเงินเฟ้อแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รายได้สูงสุดในอเมริกาเหนือ เป็นอันดับที่ 58 จากการคำนวณเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2008
โรเจอร์ อีเบิร์ต รู้สึกว่า เจาะเวลาหาอดีต มีธีมคล้ายคลึงกับภาพยนตร์ของแฟรงก์ คาปรา หลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่อง It's a Wonderful Life อีเบิร์ตยังวิจารณ์ผู้สร้างว่า "สตีเวน สปีลเบิร์ต ได้เลียนแบบหนังในอดีตที่ยิ่งใหญ่ ของหนังตระกูลคลาสสิกของฮอลลีวูด โดยมีความเหมาะสมในการเลือกผู้กำกับ (โรเบิร์ต เซเม็กคิส) กับโครงการที่เหมาะสมกันยิ่ง" แจเน็ต แมสลิน จาก เดอะนิวยอร์กไทมส์ เชื่อว่าภาพยนตร์มีเนื้อเรื่องที่สมดุลกัน "ถือเป็นการประดิษฐ์ทางภาพยนตร์ที่น่าพึงพอใจและเรื่องเล่าที่แปลกประหลาดที่นาน ๆ ทีจะมี" นักวิจารณ์ภาพยนตร์ ที่ได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้ตั้งแต่ยังวัยรุ่น เรียกว่า "เป็นหนังที่เป็นแก่นสารของยุค 1980 ที่รวมเรื่องนิยายวิทยาศาสตร์, บู๊, ตลก และความรัก รวมเข้าอย่างสมบูรณ์ที่เด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูดี" เดฟ เคอร์ จาก ชิคาโกรีดเดอร์ รู้สึกถึงว่าบทภาพยนตร์ที่เขียนโดยเกลและเซเม็กคิสช่างสมบูรณ์และสมดุลระหว่างนิยายวิทยาศาสตร์ สาระ และอารมณ์ขันวาไรตี้ ยกย่องการแสดง การเถียงกันของฟ็อกซ์และลอยด์ ทำให้เห็นถึงความสัมพันธ์ฉันท์มิตรระหว่างมาร์ตี้กับด็อก บราวน์ ซึ่งชวนให้ระลึกถึง กษัตริย์อาเธอร์ และ เมอร์ลินบีบีซี ยกย่องความสลับซับซ้อนของบทที่ดำเนินการอย่างโดดเด่น และยังพูดว่า "ไม่มีใครเลยที่ไม่สำคัญในเนื้อเรื่องนี้" และจากนักวิจารณ์ 44 คนใน ร็อทเทนโทเมโทส์ มี 95% ที่รู้สึกสนุกกับภาพยนตร์เรื่องนี้
เจาะเวลาหาอดีต ยังได้รับรางวัลออสการ์สาขาตัดต่อเสียงยอดเยี่ยม ขณะที่เพลง "The Power of Love" รวมถึงผู้ออกแบบเสียง รวมถึงเซเม็กคิสและเกล (สาขาบทภาพยนตร์ดั้งเดิม) ก็ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง ภาพยนตร์ยังได้รับรางวัลฮูโกสาขาการถ่ายทอดทางด้านดราม่ายอดเยี่ยม และรางวัลแซทเทิร์น ในสาขาภาพยนตร์แต่งแนววิทยาศาสตร์ยอดเยี่ยม ส่วนไมเคิล เจ. ฟ็อกซ์ และนักออกแบบวิชวลเอฟเฟกต์ก็ได้รับรางวัลจากการแจกรางวัลแซทเทิร์นด้วย เซเม็กคิสและอลัน ซิลเวสตริ นักประพันธ์เพลง ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย และนักแสดงสมทบ ลีอา ธอมป์สัน, คริสพิน โกลเวอร์ และ โธมัส เอฟ. วิลสัน ก็ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลเช่นกัน ภาพยนตร์ยังประสบความสำเร็จในงานแจกผลรางวัลบาฟต้าครั้งที่ 39 ที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงในสาขา ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, บทภาพยนตร์, วิชวลเอฟเฟกต์, การออกแบบงานสร้างและการตัดต่อ ในงานแจกรางวัลลูกโลกทองคำครั้งที่ 43 ภาพยนตร์ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (เพลงหรือตลก), เพลงดั้งเดิม (สำหรับเพลง "The Power of Love"), นักแสดงยอดเยี่ยมในภาพยนตร์เพลงหรือตลก (ฟ็อกซ์) และ บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม โดยเซเม็กคิสและเกล
สิ่งสืบเนื่อง
ประธานาธิบดี โรนัลด์ เรแกน เคยพูดถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ในการแถลงนโยบายประจำปี 1986 โดยเขาพูดว่า "ไม่เคยรู้สึกตื่นเต้นมากกว่านี้ในชีวิต เวลาที่ปลุกความบรรลุผลอันกล้าหาญ อย่างที่พวกเขาเคยพูดในหนังเรื่อง เจาะเวลาหาอดีต ...ที่ที่เราจะไป เราไม่ต้องการถนน" เมื่อเขาเห็นมุขตลกครั้งแรกเกี่ยวกับการเป็นประธานาธิบดีของเขาเองในหนังที่ว่า "โรนัลด์ เรแกน? นักแสดง? ฮา! แล้วใครเป็นล่ะ, เหรอ?" เขาก็ให้ผู้ฉายหนังในโรงหยุดและย้อนฟิล์มกลับไปดูใหม่จอร์จ เอช. ดับเบิลยู. บุช ก็เคยพูดถึง เจาะเวลาหาอดีต ในการกล่าวสุนทรพจน์ด้วย
ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังติดอันดับ 28 ของการจัดอันดับ 50 ภาพยนตร์ไฮสคูลที่เยี่ยมที่สุด จากการจัดของนิตยสาร เอนเตอร์เทนเมนต์วีกลี ในปี 2006 ยังได้รับการลงคะแนนจากผู้อ่าน เอมไพร์ ในอันดับที่ 20 ของภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่เคยมีมา เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม ค.ศ. 2007 เจาะเวลาหาอดีต ยังถูกเลือกให้เก็บไว้ในหอทะเบียนภาพยนตร์แห่งชาติ จากการคัดเลือกโดยหอสมุดรัฐสภาอเมริกัน ในฐานะ "เกี่ยวกับวัฒนธรรม, ประวัติศาสตร์ หรือโดดเด่นทางด้านสุนทรียศาสตร์" ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2008 อเมริกันฟิล์มสติติวต์ ออกมาประกาศ 10 อันดับภาพยนตร์คลาสสิกอเมริกันที่ดีที่สุดตามประเภทต่าง ๆ หลังจากการสำรวจความเห็นจากคนจำนวน 1,500 จากกลุ่มคนใช้ความคิดสร้างสรรค์ เจาะเวลาหาอดีต ติดอยู่ที่อันดับ 10 ของภาพยนตร์ที่ดีที่สุดในหมวดนิยายวิทยาศาสตร์
อ้างอิง
- Back to the Future, The Complete Trilogy - "The Making of the Trilogy, Part 1" (DVD). Universal Home Video. 2002.
- Michael Klastornin; Sally Hibbin (1990). Back To The Future: The Official Book Of The Complete Movie Trilogy. London: Hamlyn. pp. 1–10. ISBN .
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - (January 2003). "The making of Back to the Future". Empire. pp. 183–187.
- Klastornin, Hibbin, p.61-70
- Scott Holleran (2003-11-18). "Brain Storm: An Interview with Bob Gale". Box Office Mojo. สืบค้นเมื่อ 2008-10-19.
- Joseph McBride (1997). Steven Spielberg: A Biography. New York City: Faber and Faber. pp. 384–385. ISBN .
- Klastornin, Hibbin, p.11-20
- Norman Kagan (May 2003). "Back to the Future I (1985) , II (1989) , III (1990)". The Cinema of Robert Zemeckis. Lanham, Maryland: Rowman & Littlefield. pp. 63–92. ISBN .
- Robert Zemeckis, . (2005). Back to the Future: The Complete Trilogy DVD commentary for part 1 [DVD]. Universal Pictures.
- Klastornin, Hibbin, p.31-40
- Robert Zemeckis and Bob Gale Q&A, Back to the Future [2002 DVD], recorded at the University of Southern California
- Klastornin, Hibbin, p.21-30
- Michael J. Fox, Robert Zemeckis, , Steven Spielberg, , The Making of Back to the Future () , 1985, NBC
- Klastornin, Hibbin, p.41-50
- "Back to the Future". Box Office Mojo. สืบค้นเมื่อ 2008-10-09.
- "1985 Domestic Totals". Box Office Mojo. สืบค้นเมื่อ 2008-10-09.
- "Domestic Grosses Adjusted for Ticket Price Inflation". Box Office Mojo. สืบค้นเมื่อ 2008-10-09.
- Roger Ebert (1985-07-03). . Chicago Sun-Times. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-09-13. สืบค้นเมื่อ 2008-10-09.
- Janet Maslin (1985-07-03). "Back to the Future". The New York Times. สืบค้นเมื่อ 2008-10-09.
- Christopher Null. . FilmCritic.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-02-12. สืบค้นเมื่อ 2008-10-09.
- Dave Kehr. . . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-03-04. สืบค้นเมื่อ 2008-10-09.
- "Back to the Future". Variety. 1985-07-01. สืบค้นเมื่อ 2008-10-09.
- "Back to the Future (1985)". bbc.co.uk. สืบค้นเมื่อ 2006-11-29.
- "Back to the Future". Rotten Tomatoes. สืบค้นเมื่อ 2008-10-09.
- "58th Academy Awards". Academy of Motion Picture Arts and Sciences. สืบค้นเมื่อ 2008-10-26.
- "1986 Hugo Awards". The Hugo Award. สืบค้นเมื่อ 2008-10-26.
- . Saturn Awards.org. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-09-06. สืบค้นเมื่อ 2008-10-26.
- "Back to the Future". British Academy of Film and Television Arts. สืบค้นเมื่อ 2008-10-09.
- . Hollywood Foreign Press Association. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-10-11. สืบค้นเมื่อ 2008-10-26.
- . C-SPAN. 1986-02-04. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-12-14. สืบค้นเมื่อ 2006-11-26.
- Bob Gale; Robert Zemeckis (1990). "Foreword". Back To The Future: The Official Book Of The Complete Movie Trilogy. London: Hamlyn. ISBN .
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - . Entertainment Weekly. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-09-05. สืบค้นเมื่อ 2006-11-26.
- "201 Greatest Movies of All Time". Empire. No. 201. March 2006. p. 97.
- "National Film Registry 2007, Films Selected for the 2007 National Film Registry". สืบค้นเมื่อ 2008-02-04.
- . ComingSoon.net. 2008-06-17. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-08-18. สืบค้นเมื่อ 2008-06-18.
แหล่งข้อมูลอื่น
- เว็บไซต์ทางการ
- เจาะเวลาหาอดีต ที่แค็ตตาล็อกสถาบันภาพยนตร์อเมริกัน
- เจาะเวลาหาอดีต ที่อินเทอร์เน็ตมูวีเดตาเบส
- เจาะเวลาหาอดีต ที่
- เจาะเวลาหาอดีต ที่บ็อกซ์ออฟฟิศโมโจ
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
ecaaewlahaxdit xngkvs Back to the Future epnphaphyntrinpi kh s 1985 aenwphcyphywithyasastr khxngphukakb orebirt esemkkhis rwmekhiynbthodybxb ekl aelaxanwykarsrangodystiefn spilebirk naaesdngody imekhil ec fxks rbbthwyrunthichux marti aemkflay khrisotefxr lxyd inbthbathnkwithyasastrstiefuxngthichux dxketxr exmemt aexl brawn khrisphin oklewxr lixa thxmpsn aelaothms exf wilsn odymieruxngrawekiywkbmarti aemkflay wyrunthibngexiyyxnewlaklbcakpi 1985 ipinpi 1955 ekhaidphbkbphxaemkhxngekhaemuxkhrngyngeriynxyuinradbihskhul aelabngexiythaihaemkhxngekhahlngchunchxbtwmarti ekhatxngaekikhkhwamphidphladthicathalayprawtisastrthiepntnehtuodythaihphxaemkhxngekhaklbmarkkn khnaediywknekhaktxnghawithiklbipinpi 1985 ihidecaaewlahaxditkakborebirt esemkkhisekhiynbthorebirt esemkkhis bxb eklxanwykarsrangstiefn spilebirk nil aekhntn aekhthlin ekhnendi aefrngk marchalnkaesdngnaimekhil ec fxks khrisotefxr lxyd lixa thxmpsn khrisphin oklewxr othms exf wilsnkakbphaphdin khndiytdtxaehrri khiramidas xarethxr chmidtdntriprakxbxln silewstriphucdcahnayyuniewxrsl phikecxrswnchay3 krkdakhm kh s 1985khwamyaw116 nathipraethsshrthxemrikaphasaphasaxngkvsthunsrang19 landxllarshrththaengin381 1 landxllarshrthtxcakniecaaewlahaxdit phakh 2bthkhwamnixangxingkhristskrach khristthswrrs khriststwrrs sungepnsarasakhykhxngenuxha esemkkhisaelaekl rwmknekhiynbthhlngcakthieklkhidwacaekidxairkhunthaekhakbphxkhxngekhaexngidekhaeriyndwykn hlay studioxphaphyntrptiesthbthphaphyntrni cnkrathngphaphyntrkhxngesemkkhiseruxng Romancing the Stone prasbkhwamsaercthangdanrayid cungthaihekidokhrngkarniodyyuniewxrslphikecxrs odymispilebirk epnphuxanwykarsrang edimthixirik stxlts camarbbthepnmarti aemkflay aetinrahwangkarthaythaekhaaelaphusrangphaphyntrtdsinicthicathakarkhdtwnkaesdngihm nnhmaythungkarthaythaihmechnkn aelakhntxnhlngkarthaythathitxngdaeninihesrcinwnthi 3 krkdakhm kh s 1985 sungepnwnkahndchay emuxxxkchay phaphyntrprasbkhwamsaercmakthisudinpinn dwyrayidrwm 380 landxllarshrththwolkaelaidrbesiyngwicarnthidi idrbrangwlxxskar 1 sakha khux sakhaladbesiyngyxdeyiym rangwlhuoksakhakarthaythxdthangdandramayxdeyiym aelarangwlaesthethirn insakhaphaphyntraetngaenwwithyasastryxdeyiym aelayngidrbkaresnxchuxekhachingrangwlxxskar insakhaxun rangwlbafta aelarangwllukolkthxngkha thngniornld eraekn yngekhyphudthungphaphyntreruxngnidwyinkaraethlngnoybaypracapi 1986 aelainpi 2007 hxsmudrthsphaxemrikn idkhdeluxkphaphyntreruxngniinhxthaebiynphaphyntraehngchati nxkcakniyngmikarxxkchayphakhtxin ecaaewlahaxdit phakh 2 aela ecaaewlahaxdit phakh 3 txenuxngkninpi 1989 aela 1990 tamladb aelayngmisirisaexniemchnthangothrthsnaelayaninswnsnukenuxeruxngmarti aemkflay wyrunxayu 17 pi xasyxyuthihillwlely rthaekhlifxreniy echawnsukrthi 25 tulakhm kh s 1985 dr exmemtt brawn aesdngody lxyd nkwithyasastrstiefuxngephuxntangwykhxngmarti othrsphthmakhxndekhaewla 1 15 n thithwiniphnsmxllinechawnthdip hlngcakekhachneriyn ekhakbaefnthichuxecnniefxr khlxediy ewls thukkhxihbricakhenginephuxburnahxnalikathihyudediniptngaetemux 30 pithiaelw hlngcakfaphalnghxnalika ineynwnnnrahwangedinekhaban ekhakphbwarthkhxngkhrxbkhrwekhaphngip phayinban phxkhxngekhaphuxxnaexthichuxcxrc khrispin oklewxr kalngthukrarancakhwhnaekhathichux biff ethnenn othms exf wilsn thikhxyumrthkhxngphwkekhaipaelwthaphng inmuxeynwnnn aemkhxngmartithichux lxrern lixa thxmpsn elakhwamhlngthungtxnthiethxaelacxrcphbknkhrngaerkodythiphxkhxngethxkhbrthchncxrc odybxkwacxrckalngdunkxyu inkhunnn martiidphbdxktamndthilancxdrthkhxngthwiniphnsmxll dxkidnaesnx diexmsi 12 thiddaeplngmaepnyanithmaemchchin odyihmartithaythaethpwidioxiw dxkxthibaythungopraekrminkaredinthangkhamphanewlathitxngihrthwingthikhwamerw 88 imltxchwomngodyichphlngnganphluoteniymcakptikiriyaniwekhliyrekidphlngngan 1 21 cikkawtt karsathitxthibaykarthangankhxngekhruxngynt dxkidkdewlaepahmay n wnthi 5 phvscikayn kh s 1955 odyekhaxthibaywaepnwnthiekhaekidaenwkhidinkarsrangekhruxngaeprphlngngan flkskhaphasietxr xupkrnthithaihkaredinthangkhamewlaepnipid kxnthidxkwangaephnthicaedinthangipxnakht cu klumphukxkarraychawliebiy thidxkipkhomyphluoteniymma illaekhadwyrthaewnoflkhswaekn cnkhaekhaid martikraoddekhaedxlxrinaelathukwingkwdmacnthungkhwamerw 88 imltxchwomng cungthaihedinthangkhamewlaklbipthipi kh s 1955 odythnthi emuxmathungpi 1955 rthwingekhakhxkstwaelaichkarimid marticungsxnrthiwaelwedinekhaipinemuxng ekhaphbctursinemuxngthibngbxkthungyukhsmy 1950 aelaehnhxnalikathiyngichkarid martiedinekharankaaef aelaphbkbphxkhxngekhaexngthikalngthukkhmehngcakbiffxyu caknnmartiidtamcxrc aelaphbwacxrckalngpintnimephuxaexbduphuhyingepliynesuxphaxyu imichdunk cxrctklngcaktnimaelacathukrthchn martiphlkekhaxxkip thaihtwexngthukrthchnaethn sungkhnkhbchnkkhuxphxkhxnglxrern emuxphamartiipphkrksathiban phlkhuxlxrernhlngrkmartiaethncxrc martiphyayambayebiyngkarekiywpharasicakaemkhxngekhaexngaelaphbwakhrxbkhrwkhxngaemepnkhrxbkhrwthiekhrngkhrdecaraebiybimehmuxnkbaemkhxngekhathiruck ekhaphlatwcakethxephuxphyayamtamhadxk brawn rthedxlxrin martiekhaphbkbdxk nkwithyasastrthiehnwamartiesiysti martiphyayamthaihdxkechuxwaekhamacakpi 1985 odyelaeruxngrawkhxngdxkthungthimakhxngkarphlitekhruxngaeprphlngngan flkskhaphasietxr aelaidochwwidioxethpkarthdlxnginpi 1985 xyangirktamaetemuxthungtxnthidxktxnaek inwidiox xthibaywacatxngichphlngngancanwnmakthiichedinthangkhamewlakthaihekhachxkip dxkbxkaekmartiwanxkcakphluoteniym sungcahaidyakaelw singediywthimiphlngnganethannkhux phlngngancakfaphasungimsamarthrulwnghnaid martiknukkhunidwacamifaphalnghxnalikathicaekidkhuninwnesarthicathung dxkcungiderimwangaephnthicaichpraoychncakfaphainkarsngmartiklbipyngpi 1985 nxkcakni martiyngphbwarupthaykhxngekhakbphichayaelaphisaw erimmibangxyangphidpkti odyphaphphichaykhxngekhaerimcakhayip dxksrupwaepnephraamarti chwyphxkhxngekhacakkarthukrthchn aelwaemkhxngekhaklbmatkhlumrkekhaesiyexng epnkarthaihxnakhtbidebuxnip sungekhacatxngaekikheruxngthithaphladipni hlngcaklmehlwcakkhwamphyayamthindthngkhuxxkedthkn martiwangaephnwacaphalxrelnipnganetnrathiorngeriyn sungtrngkbewlathiekhacaedinthangklbxnakht aelwekhacalwnlamethx caknnkihcxrcekhamachwy ephuxepnkarphichiticethx xyangirktam emuxthungewlatamaephnbiffidekhamaxyangimidkhadkarniwaelaihaekngkhekhacbtwmartiipkhngiwhlngrthkhxngnkdntri caknnbiffekhaipinrthaelwphyayamlwnlamlxrern cxrcmaphxditamaephnkhxngmartithiwangiw aetkchxkthiecxbiffaethnmarti biffbxkihekhaipikl aetcxrcimxacthnidthilxrernthuklwnlam cungtxyekhaekhaetm cnhmxblngkbphun lxrerncungekidhlngrkcxrcthichwyehluxekhaxyangsuphaphburuskekhaipnganetnra thithithngsxngcubknkhrngaerk aelathaihmartiklbmamitwtnxikkhrngaethnthicaeluxnhayip khnaediywkn dxkidichsayekhebilechuxmtxkbesalxfakhxnghxnalikaekhakbokhmifsxngkhangthnn odywangaephnwacaihmartiichedxlxrinwingphansayifthikhungkhamthnnkhnathiekidfapha kxnthimarticaiptnghlk dxkkphbkbcdhmaythimartiekhiynkhuninkraepaesuxkhlum sungetuxnehtukarnthicaekidkhuninxnakhtwaekhacathukkhatay dxkchikcdhmaythingthng thiyngimidxan aelaxthibaywamnxacepnxntraytxxnakht marticungprbepliynewlathicayxnklbiherwkhunkwaedim 10 nathi ephuxhwngwaemuxklbthungxnakhtaelwekhacamiewlaetuxndxkephuximihthukying hlngcakthimathungxnakht rthkichkarimidxik marticungmathunglancxdrthchaekinipthicachwydxk khnathimartirxngihxyu rangkhxngdxkklukkhunaelarudsipesuxknkmmntphaphrngsixxk ochwihehnesuxekraaknkrasun dxkidihmartiducdhmaythimartiekhiyniwinxditthithamapatidihmdwyethp caknndxktdsinicedinthangkhamewlaipyngxnakhtinxik 30 pikhanghna inechawntxma martiphbwathanakhxngkhrxbkhrwepliynip lxrernduhundiaeladuimcucicukcik cxrcepnnkpraphnththidumikhwammnic swnbiffkidrbichcxrcaethn swnecnniefxrkbmartikklbmaecxknxikkhrng dxkmaphbthngkhudwythathilnlan bxkwaekhaklbmacakxnakhtaelacaphaphwkekhathngkhuipxnakhtdwykn ephuxaekpyhathiekidkhunkbluk inxnakhtkhxngthngsxng chakcbkhxngeruxng rthedxlxrinidephimsmrrthnaihbinid aelahayipkbxnakhtkarphthnakarekhiynbth phuekhiynbthaelaphusrang ekidaenwkhidkhunhlngcakthiklbipeyiymphxaemkhxngekhathi esnthluys rthmissuri ekhaphbrthekathiitdinkhxngthiban eklphbhnngsuxrunkhxngphxekhaaelaphbwaphxkhxngekhaepnprathannkeriynkhxngchndwy eklcungnukthungprathannkeriynrunekhaexngthiekhaimidsungsingxairdwyely ekhaknukeln thaekhaepnephuxnkbphxekhaaelaiperiyndwykntxneriynihskhul caepnxyangir emuxekhaklbipaekhlifxreniy kidelaihorebirt esemkkhis ekiywkbaenwkhidihmni esemkkhisknukthungeruxngkhxngaemekhathiwa ethximekhycubphuchayelyemuxsmyeriynihskhul sunginchiwitcringethxkphanmaochkochn thngkhunaipesnxkbokhlmebiyphikecxrs aelaidphthnabthineduxnknyayn kh s 1980 esemkkhisaelaeklidkahnderuxngrawinpi 1955 miwithikhid klawkhux khnxayu 17 pi klbiphaphxaemekhainxditephuxphbkbphxaemkhxngekhainwyediywkbekha inyukhnnepntnkaenidkhxngephlngrxkaexndorl epnyukhthisuxihkhwamsnickbwyrun phlnginkarcbcayichsxy aelaepnyukhkarkhyaytwxyuxasyinekhtchanemuxng thimiklinxayxyuineruxngraw martiinchbbdngedimepnphwkthawidioxethuxn swnithmaemchchinepntueyn thiekhatxngkarphlngnganraebidcakkarthdlxngthienwadaethstist thicanaphaekhaklbban esemkkhistrahnkwa xaccamiedkthikhngtwexngintueynkid aelachaksakhythisudineruxngkduichengineyxaekinip rthedxlxrinthiichepnithmaemchchinidthukkhdeluxkaelaxxkaebbmaephraacaismukhekiywkbkhrxbkhrwthiwa chawirekhaicphidwamnkhuxcanbin nkekhiynidechuxmkhwamsmphnthinkhwamepnephuxnkhamwykhxngmartikbdxk brawn khxnkhangyak odyechuxmeruxngrawwa phwkekhasrangaexmpkitarkhnadihykhunma swnchakkhwamsmphnthrahwangaemkbmartiinxdit phwkekhaekhiynkhaphudwa mnepncubthiehmuxnethxcubnxngchayekha swnbiff aethnenntngchuxtamend ethenn taaehnngyuniewxrslexkkhuthif thidukawrawkbesemkkhisaelaeklkhnathiphbknrahwangekhiynbthihphaphyntreruxng I Wanna Hold Your Hand okhrngrangaerkkhxng ecaaewlahaxdit esrcsinemuxeduxnkumphaphnth kh s 1981 okhlmebiyphikecxrstxngkarihprbepliynaelakhaytx phwkekhakhidwa mnkhxnkhangdi nark hnngxbxun aetyngkhaderuxngthangephsip eklphud phwkekhaaenanawa khwrnahnngipihdisniy aetphwkekhatdsinic thicasngipstudioxihyxunthitxngkarphwkekha thukkhay thukstudioxihy ptiesthbthni khnathiphwkekhayngphthnaxik 2 bthrang rahwangtnyukh 1980 dwykhwamniymkhxngkhxemdiwyrun xyangechn Fast Times at Ridgemont High aela Porky s thimienuxhathalungtungtng dngnnbthphaphyntrkthukptiesthipenuxngcakenuxhaebaip eklaelaesemkkhistklngthicaesnx ecaaewlahaxdit ihthangdisniy phwkekhabxkwa aemtkhlumrklukchaykhxngtwexng epnsingthiimehmaasmkbphaphyntrkhrxbkhrw phayitaebrndkhxngdisniy ekl phud thngkhuphyayamekhahastiewn spilebirk thiepnphusrangihkb Used Cars aela I Wanna Hold Your Hand thilmehlwthngsxngeruxng spilebirkidhanghaycakokhrngkaripephraaesemkkhisthalmehlw ephraathamnlmehlwxikkxyuphayitchuxekha ekhacaimsamarththicasranghnngidxik eklphudwa eraklwwa eracaidchuxesiyngcakephraaerasxngkhnthiaekhthanganidephraawaeraepnephuxnkbstiewn spilebirk miphusrangkhnhnungsnicaetepliynicemuxruwaspilebirkimidekiywkhxngkbokhrngkarni esemkkhiscungeluxkthicakakb Romancing the Stone aethn sungkprasbkhwamsaercbntarangbxksxxffisepnxyangdi thaihekhamiprawtidi naechuxthux esemkkhiscungekhahaspilebirkdwyaenwkhidni okhrngkarnicungekidkhunphayitstudiox yuniewxrslphikecxrs sidniy chinebirk phubriharidihkhaaenanaekiywkbbthwa ihepliynchuxaemkhxngmarti cakemk epn lxrern tamchuxphrryaekha thiepnnkaesdngthichux aelaepliynstweliyngkhxngdxkbrawncaklingchimaephnsi epnsunkh chinebirktxngkarihepliynchuxepn Spaceman from Pluto aetkimsaerc aetekhakaenanawanacaihmartiaenanatwekhaexngwaepn darth ewedxr cak dawphluot khnathichudaetngihaetngtwehmuxnmnusytangdaw dikwamacakdaw wlaekhn aelathichawnaochwkartunepn Spaceman from Pluto aethnthicaepn Space Zombies from Pluto spilebirksngkhxkhwamklbipchinebirkwa thiekhaphyayamonmnawihepliynchuxnikhuxeruxngtlkichmy dngnnekhacungykelikaenwkhidniip karkhdeluxknkaesdng phaphkarthdlxngyanithmaemchchin rbbthepnmarti aemkflay odyxirik stxlts imekhil ec fxks epntweluxkaerksahrbbthmarti aemkflay aetekhaidtxbrbthicaaesdnginsiris Family Ties ipaelw aekri edwid okldebirk phusrangochwrusukwafxksmikhwamcaepnsahrbkhwamsaerckhxngsirisniaelacathaihsbsnthaekhaprasbkhwamsaerccakochw phaphyntrkahndxxkchayeduxnphvsphakhm kh s 1985 aelainchwngplaypi 1984 emuxruwafxksimsamarthaesdnginphaphyntreruxngni tweluxkxik 2 khnkhxngesemkkhiskhux aela xirik stxlts sungphayhlngidthaihphusrangprathbickbbth rxy aexl ednnis ineruxng Mask phwkekhaeluxkxirik stxltsmarbbthepnmarti aemkflay aetdwyephraakhwamyungyakinkhntxnkhdeluxknkaesdng thaihwnxxkchayeluxnip 2 hn inrahwangkarthaytha 4 xathity esemkkhistdsinicdungstxltsxxkcakphaphyntr thungaemwaekhaaelaspilebirkcarudiwacatxngthaythaihmsungcatxngichngbephimxik 3 lanthung 14 landxllarshrth ekhatdsinickhdeluxktwnkaesdngihm spilebirkxthibayesemkkhisthirusukkbstxltswa khadxarmnkhnaela mikaraesdngthielwray eklxthibayephimwa stxltsaekhaesdngimsmbthbath khnathifxksdwytwekhaexngaelwbukhlikehmuxn marti aemkflay ekharusukwastxltsduimehmaakbkarelnsektbxrd khnathifxksdueniyn thangdanstxltsrusukphidklawthangothrsphthkbpietxr bxkdaonwich wa 2 xathityrahwangkarthaytha ekharusukthungkhwamimmnicinthisthangkhxngesemkkhisaelaekl aelaehndwywaekhaimehmaakbbthni fxkswangtarangewlaiwineduxnmkrakhm kh s 1985 emuxcaklbmain Family Ties hlngcakkartngkhrrph thimngan ecaaewlahaxdit klbmahaokldebirkxikkhrng thiidsyyakbfxkswacaepntwlakhrsakhyin Family Ties aetthatarangewlakhdkn ekhakimideln fxkschxbbthphaphyntraelaehnthungkhwamisickhxngesemkkhisaelaeklthiekhailstxltsxxk aetphwkekhakimidphudthungstxltsmakethaihraelaothni hxwk oprsektbxrdidchwyinchakelnsektbxrd xyangirktamhxwkkxxkipcakphaphyntrephraaekhasungkwafxks thiedimekhaaesdngaethnstxltsinhlaychak fxksyngphudthungmarti aemkflaywadumikhwamepntwexngsung thiphmthaintxneriynradbihskhulkhuxelnsektbxrd tamphuhyingaelamiwngdntri phmekhyaemaetfnwacaepn rxkstar khrisotefxr lxyd rbbthepn dxk brawn hlngcakthitweluxkaerkinbthnikhux cxhn lithokw thiimwangthiaesdng phusrang nil aekhntn in The Adventures of Buckaroo Banzai 1984 thiekhythanganrwmkblxydidaenanaihmarbbthni edimthilxydptiesththicaeln aetkepliyncakhlngcakxanbthaelakhakhaynkhayxcakphrryaekha ekhayngidprbepliynkaraesdngbangchak odyidrbaerngbndaliccakxlebirt ixnsitnaelakhxndketxr thichux brawn xxkesiyng cikkawtt epn cikokwtt thiepnkhaphudkhxngnkfisiksphudkn epnkhxmulthiidcakkhntxnkarhakhxmulekhiynbthkhxngesemkkhisaelaekl khrisphin oklewxr rbbthepn cxrc aemkflay esemkkhisphudthungoklewxrwaekhaaesdngekinbthmakekinip inbthbathcxrcthimibukhlikechuxycha xyangechn phukakbkphudtidtlkekiywkboklewxrwa ekhaaethbimekhaiclksnatwlakhr xik 50 thiehluxely lixa thxmpsn rbbthepn lxrern aemkflay ephraaethxrbbthkhukbstxltsin The Wild Life karaetnghnaethxinchakpi 1985 txngichewlaaetnghnathung 3 chwomngkhrungcungcaesrc othms exf wilsn rbbthepn biff aethnenn ephraatweluxkaerkthieluxkiwkhux emuxphicarnaduaelwcaduechuximidwacawangkamkbstxltsid aetokhehnkaesdnginbthephuxnkhxngbiff aelaemuxmifxksmaaesdng okhehnkphxducaphxthaidkbbthnithiekhasungkwafxks ngansrang ctursemuxnghillwlelythaythathikhxrtehassaekhwr hlngcakthistxltsxxkip fxksidcdtarangewlaodyinchwngwnthrrmda thay Family Ties inchwngklangwn aelathay ecaaewlahaxdit cak 18 30 n thung 2 30 n khxngxikwn ekhamiewlanxnechliy 5 chwomngtxwn inrahwangwnsukrekhathaytngaet 4 thum thung 6 hrux 7 omngecha caknnkipthaychakkhangnxkinchwngwnhyud inchakthitxngthayinchwngklangwn fxksrusukehndehnuxytxkarthangan aet mnepnkhwamfnthicaxyuinphaphyntr aelathurkicothrthsn thungaemwaphmcaimidruwaphmthakhwbkhuknip mnepnxairthiprahladaetphmktxngdaenintxip esemkkhiskehndwy phwkekhathaythawnaelwwnela thukkhun txnnnekhamkcaxyuin phawakunghlb aela xwnthisud imxyuinruprangthikhwbkhumaelapwybxythisud fxksichewlathayeruxngni 10 12 spdah chakctursemuxnghillwlelythaythathi tngxyudanhlngstudioxkhxngyuniewxrsl bxb eklxthibaywa mnepnipimidelythicathaythacaksthanthicring ephraaimmiemuxngihnthixnuyatihthimnganphaphyntrtkaetngchakbaneruxnihehmuxninyukh 1955 thangthimngansrangxthibaywa phwkekhatdsinicthicathaythachakinpi 1955 kxn thithimikhwamswyngam caknncungkhxyiskhya aelathaihmnnaekliydinchakyukh 1985 swnchakphayinbandxkbrawnthaythathibanorebirt xar aeblkekxr khnathichakdannxkthaythathibanaekmebil emuxphaphyntriklesrc emuxwnthi 20 emsayn kh s 1985 hlngcakkarthaythakhrbrxywn phaphyntrkideluxnchaycakeduxnphvsphakhmipepnsinghakhm aethlngcakidesiyngtxbrbdanbwkinrxbthdlxngchay chinebirkeluxkwnxxkchaywnthi 3 krkdakhm aelaephuxthiesrcsinphayinwnthikahnd phutdtxsxngkhnkhux xarethxr chmidtaelaaehrri ekhxramidas rbhnathiinkartdtxphaphyntreruxngni khnathiphutdtxesiyngcanwnmakthangan 24 chwomng miswnthithuktdthingip 8 nathi echnchakmartiduaemekhaokngkarsxb cxrctidxyuinbuthothrsphthkxnthicachwyehluxlxrern rwmthungchakthimartiaesrngthaepndarth ewedxr swnchakcxhnni bi kud kekuxbthuktdthingipodyesemkkhis thiekharusukwaimidmiswnekiywenuxngkbenuxha aetphuchmrxbthdsxbklbchunchxbmn thaihekhatxngekbexaiw xindsethriyl ilth aexnd aemcik thangandanchakexfefkt 32 chxt sungesemkkhisaelaeklkimidrusukprathbicxair cnkrathnginspdahsudthaykxnphaphyntrcaesrcsin dntri xln silewstri ekhyrwmngankbesemkkhisinphaphyntreruxng Romancing the Stone sungthangspilebirkkimchxbphlnganephlngbrrelngeruxngni esemkkhisaenanasilewstriwaihpraphnthephlngbrrelngxyangxlngkar fngduehmuxnepnmhakaphy enuxngcakepnphaphyntrelk ephuxcaidsrangkhwamprathbicihkbspilebirk silewstrierimbnthukesiyngephlngbrrelngkxnrxbpthmthsn 2 spdah ekhayngidaenana hiwxi luwis aexnd edxa niws ihaetngephlngthimphaphyntr khwamphyayamkhrngaerkkidrbkarptiesthcakyuniewxrsl caknnphwkekhabnthukesiyng The Power of Love sungthangstudioxkchunchxbephlngsudthayni aetkphidhwngemuxmnimidmixyuinitetilkhxnghnng phwkekhacungsngkhxkhwamihsthaniwithyuodyihphudthungwaephlngniekiywkhxngkbphaphyntreruxng ecaaewlahaxdit intxnthaykhxnghnngmiephlngthichux Back in Time khunmainchwngthimartiklbmathunginpi 1985 aelaxikkhrngtxnekhrdittxncb hiwxi elwis yngrwmaesdngepnkhruinorngeriynthiphidhwngkbwngkhxngmarti aelawicarnwa ephlngesiyngdngipkartxbrbkarxxkchay ecaaewlahaxdit xxkchayemuxwnthi 3 krkdakhm kh s 1985 dwycanwnorngchay 1 200 ornginxemrikaehnux esemkkhiskngwlwaphaphyntrcaimprasbkhwamsaercdienuxngcak fxks txngipthaysiris Family Ties txnphiessinlxndxncungimsamarthmarwmprachasmphnthid eklkrusukimphxickbkhaeprykhxngyuniewxrslphikecxrsthiekhiyniwwa khunkalngbxkichmywa aemkhxngphmchxbphmehrx aet ecaaewlahaxdit ktharaysthitixyuthixndb 1 nan 11 spdah eklphudwa inspdahthi 2 miyxdsungkwainspdahaerk sungchiihehnwakhngepnkhaphudaebbpaktxpak phaphyntreruxng National Lampoon s European Vacation thixxkineduxnsinghakhm ekhiyphwkeralngcakxndb 1 idspdahediywcaknnphwkekhakkhunipthixndb 1 ihmxikkhrng phaphyntrtharayid 210 61 landxllarshrthinxemrikaehnux aela 170 5 landxllarshrthintangpraeths rwmyxdthwolkthi 381 11 landxllarshrth nxkcakni ecaaewlahaxdit yngepidtwinsudspdah sungsudepnxndb 4 aelamirayidmakthisudpracapinnxikdwy thakhidcakkhaenginefxaelw phaphyntreruxngniidrayidsungsudinxemrikaehnux epnxndbthi 58 cakkarkhanwnemuxeduxntulakhm pi 2008 orecxr xiebirt rusukwa ecaaewlahaxdit mithimkhlaykhlungkbphaphyntrkhxngaefrngk khapra hlayeruxng odyechphaaeruxng It s a Wonderful Life xiebirtyngwicarnphusrangwa stiewn spilebirt ideliynaebbhnnginxditthiyingihy khxnghnngtrakulkhlassikkhxnghxlliwud odymikhwamehmaasminkareluxkphukakb orebirt esemkkhis kbokhrngkarthiehmaasmknying aecent aemslin cak edxaniwyxrkithms echuxwaphaphyntrmienuxeruxngthismdulkn thuxepnkarpradisththangphaphyntrthinaphungphxicaelaeruxngelathiaeplkprahladthinan thicami nkwicarnphaphyntr thiidduphaphyntreruxngnitngaetyngwyrun eriykwa epnhnngthiepnaeknsarkhxngyukh 1980 thirwmeruxngniyaywithyasastr bu tlk aelakhwamrk rwmekhaxyangsmburnthiedkduid phuihydudi edf ekhxr cak chikhaokridedxr rusukthungwabthphaphyntrthiekhiynodyeklaelaesemkkhischangsmburnaelasmdulrahwangniyaywithyasastr sara aelaxarmnkhnwairti ykyxngkaraesdng karethiyngknkhxngfxksaelalxyd thaihehnthungkhwamsmphnthchnthmitrrahwangmartikbdxk brawn sungchwnihralukthung kstriyxaethxr aela emxrlinbibisi ykyxngkhwamslbsbsxnkhxngbththidaeninkarxyangoddedn aelayngphudwa immiikhrelythiimsakhyinenuxeruxngni aelacaknkwicarn 44 khnin rxthethnothemoths mi 95 thirusuksnukkbphaphyntreruxngni ecaaewlahaxdit yngidrbrangwlxxskarsakhatdtxesiyngyxdeyiym khnathiephlng The Power of Love rwmthungphuxxkaebbesiyng rwmthungesemkkhisaelaekl sakhabthphaphyntrdngedim kidrbkaresnxchuxekhaching phaphyntryngidrbrangwlhuoksakhakarthaythxdthangdandramayxdeyiym aelarangwlaesthethirn insakhaphaphyntraetngaenwwithyasastryxdeyiym swnimekhil ec fxks aelankxxkaebbwichwlexfefktkidrbrangwlcakkaraeckrangwlaesthethirndwy esemkkhisaelaxln silewstri nkpraphnthephlng phuxxkaebbekhruxngaetngkay aelankaesdngsmthb lixa thxmpsn khrisphin oklewxr aela othms exf wilsn kidrbkaresnxchuxekhachingrangwlechnkn phaphyntryngprasbkhwamsaercinnganaeckphlrangwlbaftakhrngthi 39 thiphaphyntreruxngniidrbkaresnxchuxekhachinginsakha phaphyntryxdeyiym bthphaphyntr wichwlexfefkt karxxkaebbngansrangaelakartdtx innganaeckrangwllukolkthxngkhakhrngthi 43 phaphyntridrbkaresnxchuxekhachingrangwlsakhaphaphyntryxdeyiym ephlnghruxtlk ephlngdngedim sahrbephlng The Power of Love nkaesdngyxdeyiyminphaphyntrephlnghruxtlk fxks aela bthphaphyntryxdeyiym odyesemkkhisaelaekl singsubenuxng prathanathibdi ornld eraekn ekhyphudthungphaphyntreruxngniinkaraethlngnoybaypracapi 1986 odyekhaphudwa imekhyrusuktunetnmakkwaniinchiwit ewlathiplukkhwambrrluphlxnklahay xyangthiphwkekhaekhyphudinhnngeruxng ecaaewlahaxdit thithieracaip eraimtxngkarthnn emuxekhaehnmukhtlkkhrngaerkekiywkbkarepnprathanathibdikhxngekhaexnginhnngthiwa ornld eraekn nkaesdng ha aelwikhrepnla ehrx ekhakihphuchayhnnginornghyudaelayxnfilmklbipduihmcxrc exch dbebilyu buch kekhyphudthung ecaaewlahaxdit inkarklawsunthrphcndwy phaphyntreruxngniyngtidxndb 28 khxngkarcdxndb 50 phaphyntrihskhulthieyiymthisud cakkarcdkhxngnitysar exnetxrethnemntwikli inpi 2006 yngidrbkarlngkhaaenncakphuxan exmiphr inxndbthi 20 khxngphaphyntrthiyxdeyiymthisudthiekhymima emuxwnthi 27 thnwakhm kh s 2007 ecaaewlahaxdit yngthukeluxkihekbiwinhxthaebiynphaphyntraehngchati cakkarkhdeluxkodyhxsmudrthsphaxemrikn inthana ekiywkbwthnthrrm prawtisastr hruxoddednthangdansunthriysastr ineduxnmithunayn kh s 2008 xemriknfilmstitiwt xxkmaprakas 10 xndbphaphyntrkhlassikxemriknthidithisudtampraephthtang hlngcakkarsarwckhwamehncakkhncanwn 1 500 cakklumkhnichkhwamkhidsrangsrrkh ecaaewlahaxdit tidxyuthixndb 10 khxngphaphyntrthidithisudinhmwdniyaywithyasastrxangxingBack to the Future The Complete Trilogy The Making of the Trilogy Part 1 DVD Universal Home Video 2002 Michael Klastornin Sally Hibbin 1990 Back To The Future The Official Book Of The Complete Movie Trilogy London Hamlyn pp 1 10 ISBN 0 600 571041 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite book title aemaebb Cite book cite book a CS1 maint multiple names authors list lingk January 2003 The making of Back to the Future Empire pp 183 187 Klastornin Hibbin p 61 70 Scott Holleran 2003 11 18 Brain Storm An Interview with Bob Gale Box Office Mojo subkhnemux 2008 10 19 Joseph McBride 1997 Steven Spielberg A Biography New York City Faber and Faber pp 384 385 ISBN 0 571 19177 0 Klastornin Hibbin p 11 20 Norman Kagan May 2003 Back to the Future I 1985 II 1989 III 1990 The Cinema of Robert Zemeckis Lanham Maryland Rowman amp Littlefield pp 63 92 ISBN 0 87833 293 6 Robert Zemeckis 2005 Back to the Future The Complete Trilogy DVD commentary for part 1 DVD Universal Pictures Klastornin Hibbin p 31 40 Robert Zemeckis and Bob Gale Q amp A Back to the Future 2002 DVD recorded at the University of Southern California Klastornin Hibbin p 21 30 Michael J Fox Robert Zemeckis Steven Spielberg The Making of Back to the Future 1985 NBC Klastornin Hibbin p 41 50 Back to the Future Box Office Mojo subkhnemux 2008 10 09 1985 Domestic Totals Box Office Mojo subkhnemux 2008 10 09 Domestic Grosses Adjusted for Ticket Price Inflation Box Office Mojo subkhnemux 2008 10 09 Roger Ebert 1985 07 03 Chicago Sun Times khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2008 09 13 subkhnemux 2008 10 09 Janet Maslin 1985 07 03 Back to the Future The New York Times subkhnemux 2008 10 09 Christopher Null FilmCritic com khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2009 02 12 subkhnemux 2008 10 09 Dave Kehr khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2009 03 04 subkhnemux 2008 10 09 Back to the Future Variety 1985 07 01 subkhnemux 2008 10 09 Back to the Future 1985 bbc co uk subkhnemux 2006 11 29 Back to the Future Rotten Tomatoes subkhnemux 2008 10 09 58th Academy Awards Academy of Motion Picture Arts and Sciences subkhnemux 2008 10 26 1986 Hugo Awards The Hugo Award subkhnemux 2008 10 26 Saturn Awards org khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2014 09 06 subkhnemux 2008 10 26 Back to the Future British Academy of Film and Television Arts subkhnemux 2008 10 09 Hollywood Foreign Press Association khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2012 10 11 subkhnemux 2008 10 26 C SPAN 1986 02 04 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2010 12 14 subkhnemux 2006 11 26 Bob Gale Robert Zemeckis 1990 Foreword Back To The Future The Official Book Of The Complete Movie Trilogy London Hamlyn ISBN 0 600 571041 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite book title aemaebb Cite book cite book a CS1 maint multiple names authors list lingk Entertainment Weekly khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2008 09 05 subkhnemux 2006 11 26 201 Greatest Movies of All Time Empire No 201 March 2006 p 97 National Film Registry 2007 Films Selected for the 2007 National Film Registry subkhnemux 2008 02 04 ComingSoon net 2008 06 17 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2008 08 18 subkhnemux 2008 06 18 aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb ecaaewlahaxdit ewbistthangkar ecaaewlahaxdit thiaekhttalxksthabnphaphyntrxemrikn ecaaewlahaxdit thixinethxrentmuwiedtaebs ecaaewlahaxdit thi ecaaewlahaxdit thibxksxxffisomoc