คาร์ล รูด็อล์ฟ แกร์ท ฟ็อน รุนท์ชเต็ท (เยอรมัน: Karl Rudolf Gerd von Rundstedt) เป็นจอมพลเยอรมันในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
แกร์ท ฟ็อน รุนท์ชเต็ท | |
---|---|
ฟ็อน รุนท์ชเต็ทในปีค.ศ. 1932 | |
เกิด | 12 ธันวาคม ค.ศ. 1875 มิวนิก จักรวรรดิเยอรมัน |
เสียชีวิต | 2 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1953 ฮันโนเฟอร์ เยอรมนีตะวันตก | (77 ปี)
รับใช้ | เยอรมนี เยอรมนี ไรช์เยอรมัน |
แผนก/ | กองทัพบก |
ประจำการ | ค.ศ. 1892-1945 |
ชั้นยศ | จอมพล |
การยุทธ์ | สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง สงครามโลกครั้งที่สอง |
บำเหน็จ | ปูร์เลอเมริต กางเขนอัศวินประดับใบโอ๊กและดาบ กางเขนเหล็กชั้น 1 |
ลายมือชื่อ |
สงครามโลกครั้งที่สอง
เมื่อสงครามโลกครั้งที่สองเริ่มต้นขึ้น เขาถูกเรียกตัวกลับมารับราชการทหารอีกครั้งหนึ่ง เพื่อนำกลุ่มทัพใต้ระหว่างการรุกรานโปแลนด์ และในระหว่างการรบในฝรั่งเศส เขาได้บัญชาการกองพลพันท์เซอร์ 7 หน่วย กองพลยานยนต์ทหารราบ 3 หน่วย และกองพลทหารราบ 35 หน่วย
แกร์ท ฟ็อน รุนท์ชเต็ทได้รับการแต่งตั้งให้เป็นจอมพลเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม ค.ศ. 1940 และมีส่วนในการวางแผนปฏิบัติการสิงโตทะเล เมื่อแผนการบุกดังกล่าวถูกเลื่อนเวลาออกไป เขาจึงเป็นผู้บัญชาการกองกำลังยึดครองและได้รับมอบหมายให้สร้างแนวป้องกันทางทะเลตามชายฝั่งของเนเธอร์แลนด์ เบลเยียม และฝรั่งเศส
ปฏิบัติการบาร์บารอสซา
ระหว่างปฏิบัติการบาร์บารอสซา ตั้งแต่เดือนมิถุนายน ค.ศ. 1941 เขาได้รับมอบอำนาจบัญชาการกลุ่มทัพใต้ ซึ่งประกอบด้วยกองพลทหารราบ 52 หน่วย และกองพลพันท์เซอร์ 5 หน่วย บุกเข้าไปในสหภาพโซเวียต เมื่อถึงเดือนกันยายน กลุ่มทัพใต้สามารถยึดเคียฟ ในปฏิบัติการโอบล้อมสองครั้ง ทำให้สตาลินจำเป็นต้องละทิ้งเมืองไว้ กองทัพเยอรมันอ้างว่าตนสามารถจับเชลยศึกชาวโซเวียตได้กว่า 665,000 นาย หลังจากนั้น จึงเป็นผู้บัญชาการการโจมตีคาร์คอฟและรอสตอฟในเวลาต่อมา เขามีความเห็นคัดค้านการเดินหน้ารุกรานสหภาพโซเวียตต่อไปในฤดูหนาวและแนะนำให้ฮิตเลอร์สั่งหยุดการโจมตีไว้ก่อน แต่ข้อเสนอของเขาไม่ได้รับความเห็นชอบ
ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1941 เขาเกิดอาการกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด แต่เขาปฏิเสธที่จะได้รับการรักษาพยาบาล และยืนยันที่จะบัญชาการรบต่อไป หลังจากตีได้รอสตอฟ เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน แล้ว แต่กองทัพเยอรมันถูกตีโต้กลับมา เขาจึงสั่งการให้กองทัพบางส่วนล่าถอย ฮิตเลอร์โกรธมาก จึงสั่งให้นายพลวัลเทอร์ ฟ็อน ไรเชอเนา บัญชาการรบแทน
แนวรบด้านตะวันตก
ฮิตเลอร์เรียกตัวแกร์ท ฟ็อน รุนท์ชเต็ท กลับเข้ารับหน้าที่ดังเดิมในกองบัญชาการกองทัพเยอรมันด้านตะวันตก ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1942 แต่การทำงานของเขาล่าช้า จนกระทั่งถึงฤดูใบไม้ผลิ ค.ศ. 1943 ก็ยังแทบไม่มีการสร้างป้อมปราการใดตามแนวชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกเลย จนเมื่อแอร์วีน ร็อมเมิล ได้รับมอบหมายมาอยู่ใต้บังคับบัญชาของเขา จึงค่อยได้เห็นความคืบหน้าการก่อสร้างบ้าง
ส่วนแผนการป้องกันทางทะเล เขาเห็นว่า ควรจะมีการจัดวางกำลังยานเกราะอยู่ในแนวหลัง เพื่อที่จะได้สั่งโจมตีพื้นที่ที่กองกำลังฝ่ายสัมพันธมิตรยกพลขึ้นบกมา แต่จอมพลรอมเมลไม่เห็นด้วยกับแนวความคิดดังกล่าว เขาเห็นว่า ควรจะจัดวางกำลังยานเกราะใกล้กับแนวชายฝั่ง โดยอยู่นอกวิถีของปืนใหญ่ฝ่ายสัมพันธมิตร ส่วนทางด้านฟ็อน รุนท์ชเต็ทถูกชักจูงให้เชื่อว่า การยกพลขึ้นบกตามแนวชายฝั่งทางด้านตะวันตกของฝรั่งเศสจะไม่เกิดขึ้น และควรจะมีการวางกำลังยานเกราะเพียงเล็กน้อยไว้ที่นั้น ทำให้มีกองกำลังยานเกราะเพียงสองกองพลป้องกันเขตนอร์ม็องดี ซึ่งก่อให้เกิดความสูญเสียมหาศาลเมื่อการโจมตีของฝ่ายสัมพันธมิตรมาถึง
หลังจากการยกพลขึ้นบกในนอร์ม็องดี เมื่อเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1944 เขาได้กระตุ้นให้ฮิตเลอร์เจรจาสันติภาพกับฝ่ายสัมพันธมิตร แต่เมื่อเขาถูกปฏิเสธ ว่ากันว่า เขาได้ระเบิดออกมาว่า "สงบศึกซะ ไอ้โง่" ฮิตเลอร์ได้ปลดเขาออก และแทนที่โดยจอมพล กึนเทอร์ ฟ็อน คลูเกอ
กลางเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1944 เขาได้รับตำแหน่งในกองบัญชาการกองทัพเยอรมันด้านตะวันตกอีกครั้งหนึ่ง เขาได้รวบรวมกองกำลังเพื่อต่อกรกับปฏิบัติการมาร์เก็ตการ์เดนอย่างรวดเร็ว และได้รับชัยชนะ เขาถูกปลดออกจากกองบัญชาการอีกครั้งหนึ่งในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1945 เนื่องจากเขาบอกกับเคย์เทลว่า ฮิตเลอร์ควรจะเจรจาสันติภาพกับฝ่ายสัมพันธมิตร ดีกว่าสู้รบในสงครามอันสิ้นหวังนี้
หลังสงคราม
ในวันที่ 1 พฤษภาคม ค.ศ. 1945 เขาถูกกองพลทหารราบที่ 36 แห่งสหรัฐจับกุม ระหว่างการถูกควบคุมตัว เขาประสบกับภาวะหัวใจขาดเลือดอีกครั้งหนึ่ง และได้ถูกนำตัวไปพิจารณาคดีที่เกาะอังกฤษ รัฐบาลอังกฤษแจ้งข้อกล่าวหาเขาในฐานะอาชญากรสงคราม อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสุขภาพอันย่ำแย่ของเขา เขาจึงถูกปล่อยตัวโดยไม่มีการพิจารณาคดีใน ค.ศ. 1948 และอาศัยอยู่ในฮันโนเฟอร์จนกระทั่งเสียชีวิต
ยศทหาร
- มีนาคม 1892 : นักเรียนทำการนายร้อย (Fähnrich)
- กรกฎาคม 1893 : ร้อยตรี (Leutnant)
- ตุลาคม 1901 : ร้อยโท (Oberleutnant)
- มีนาคม 1909 : ร้อยเอก (Hauptman)
- พฤศจิกายน 1914 : พันตรี (Major)
- ตุลาคม 1920 : พันโท (Oberstleutnant)
- มีนาคม 1923 : พันเอก (Oberst)
- พฤศจิกายน 1927 : พลตรี (Generalmajor)
- มีนาคม 1929: พลโท (Generalleutnant)
- ตุลาคม 1932: พลเอกทหารราบ (General der Infanterie)
- มีนาคม 1938: พลเอกอาวุโส (Generaloberst)
- กรกฎาคม 1940: จอมพล (Generalfeldmarschall)
อ้างอิง
- Bungay, Stephen. The Most Dangerous Enemy: A History of the Battle of Britain. London: Aurum Press 2000. (hardcover), (paperback 2002).
- Günther Blumentritt, Von Rundstedt: The Man and the Soldier, London: Odhams Press, 1952
- B. H. Liddell Hart, The German Generals Talk, New York: William and Morrow, 1948, chap. 7
- Charles Messenger, The Last Prussian: A Biography of Field Marshal Gerd von Rundstedt, 1875-1953, London: Brassey's, 1991
- Schaulen, Fritjof (2005). Eichenlaubträger 1940 - 1945 Zeitgeschichte in Farbe III Radusch - Zwernemann (in German). Selent, Germany: Pour le Mérite. .
- Ziemke, Earl, "Gerd Von Rundstedt" in Hitler's Generals, ed. Correlli Barnet, New York: Grove Weidenfeld, 1989
ก่อนหน้า | แกร์ท ฟ็อน รุนท์ชเต็ท | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
ไม่มี (เป็นคนแรก) | ผู้บัญชาการกลุ่มทัพใต้ (1 กันยายน – 26 ตุลาคม 1939) | ตัวเอง (ตำแหน่งว่างจนถึง 1941) | ||
ไม่มี (เป็นคนแรก) | ผู้บัญชาการกลุ่มทัพ A (26 ตุลาคม 1939 – 22 กรกฎาคม 1941) | จอมพล วิลเฮ็ล์ม ลิสท์ | ||
ไม่มี (เป็นคนแรก) | ผู้บัญชาการใหญ่เขตตะวันตก (10 ตุลาคม 1940 – 1 เมษายน 1941) | จอมพล แอร์วีน ฟ็อน วิทซ์เลเบิน | ||
ตัวเอง | ผู้บัญชาการกลุ่มทัพใต้ (22 กรกฎาคม – 3 ธันวาคม 1941) | จอมพล วัลเทอร์ ฟ็อน ไรเชอเนา | ||
จอมพล แอร์วีน ฟ็อน วิทซ์เลเบิน | ผู้บัญชาการกลุ่มทัพ D ผู้บัญชาการใหญ่เขตตะวันตก (15 มีนาคม 1942 – 2 กรกฎาคม 1944) | จอมพล กึนเทอร์ ฟ็อน คลูเกอ | ||
จอมพล กึนเทอร์ ฟ็อน คลูเกอ | ผู้บัญชาการกลุ่มทัพ D (15 สิงหาคม 1944 – 11 มีนาคม 1945) | จอมพล อัลแบร์ท เค็สเซิลริง | ||
จอมพล วัลเทอร์ โมเดิล (รักษาการแทน) | ผู้บัญชาการใหญ่เขตตะวันตก (3 กันยายน 1944 – 11 มีนาคม 1945) | จอมพล อัลแบร์ท เค็สเซิลริง |
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
kharl rudxlf aekrth fxn runthchetth eyxrmn Karl Rudolf Gerd von Rundstedt epncxmphleyxrmninchwngsngkhramolkkhrngthisxngaekrth fxn runthchetthfxn runthchetthinpikh s 1932ekid12 thnwakhm kh s 1875 1875 12 12 miwnik ckrwrrdieyxrmnesiychiwit2 kumphaphnth kh s 1953 1953 02 02 77 pi hnonefxr eyxrmnitawntkrbich eyxrmni eyxrmni ircheyxrmnaephnk wbr sngkdkxngthphbkpracakarkh s 1892 1945chnyscxmphlkaryuththsngkhramolkkhrngthihnung sngkhramolkkhrngthisxngbaehncpurelxemrit kangekhnxswinpradbiboxkaeladab kangekhnehlkchn 1laymuxchuxsngkhramolkkhrngthisxngemuxsngkhramolkkhrngthisxngerimtnkhun ekhathukeriyktwklbmarbrachkarthharxikkhrnghnung ephuxnaklumthphitrahwangkarrukranopaelnd aelainrahwangkarrbinfrngess ekhaidbychakarkxngphlphnthesxr 7 hnwy kxngphlyanyntthharrab 3 hnwy aelakxngphlthharrab 35 hnwy aekrth fxn runthchetthidrbkaraetngtngihepncxmphlemuxwnthi 19 krkdakhm kh s 1940 aelamiswninkarwangaephnptibtikarsingotthael emuxaephnkarbukdngklawthukeluxnewlaxxkip ekhacungepnphubychakarkxngkalngyudkhrxngaelaidrbmxbhmayihsrangaenwpxngknthangthaeltamchayfngkhxngenethxraelnd ebleyiym aelafrngess ptibtikarbarbarxssa rahwangptibtikarbarbarxssa tngaeteduxnmithunayn kh s 1941 ekhaidrbmxbxanacbychakarklumthphit sungprakxbdwykxngphlthharrab 52 hnwy aelakxngphlphnthesxr 5 hnwy bukekhaipinshphaphosewiyt emuxthungeduxnknyayn klumthphitsamarthyudekhiyf inptibtikaroxblxmsxngkhrng thaihstalincaepntxnglathingemuxngiw kxngthpheyxrmnxangwatnsamarthcbechlysukchawosewiytidkwa 665 000 nay hlngcaknn cungepnphubychakarkarocmtikharkhxfaelarxstxfinewlatxma ekhamikhwamehnkhdkhankaredinhnarukranshphaphosewiyttxipinvduhnawaelaaenanaihhitelxrsnghyudkarocmtiiwkxn aetkhxesnxkhxngekhaimidrbkhwamehnchxb ineduxnphvscikayn kh s 1941 ekhaekidxakarklamenuxhwickhadeluxd aetekhaptiesththicaidrbkarrksaphyabal aelayunynthicabychakarrbtxip hlngcaktiidrxstxf emuxwnthi 21 phvscikayn aelw aetkxngthpheyxrmnthuktiotklbma ekhacungsngkarihkxngthphbangswnlathxy hitelxrokrthmak cungsngihnayphlwlethxr fxn irechxena bychakarrbaethn aenwrbdantawntk hitelxreriyktwaekrth fxn runthchetth klbekharbhnathidngediminkxngbychakarkxngthpheyxrmndantawntk ineduxnminakhm kh s 1942 aetkarthangankhxngekhalacha cnkrathngthungvduibimphli kh s 1943 kyngaethbimmikarsrangpxmprakaridtamaenwchayfngmhasmuthraextaelntikely cnemuxaexrwin rxmemil idrbmxbhmaymaxyuitbngkhbbychakhxngekha cungkhxyidehnkhwamkhubhnakarkxsrangbang swnaephnkarpxngknthangthael ekhaehnwa khwrcamikarcdwangkalngyanekraaxyuinaenwhlng ephuxthicaidsngocmtiphunthithikxngkalngfaysmphnthmitrykphlkhunbkma aetcxmphlrxmemlimehndwykbaenwkhwamkhiddngklaw ekhaehnwa khwrcacdwangkalngyanekraaiklkbaenwchayfng odyxyunxkwithikhxngpunihyfaysmphnthmitr swnthangdanfxn runthchetththukchkcungihechuxwa karykphlkhunbktamaenwchayfngthangdantawntkkhxngfrngesscaimekidkhun aelakhwrcamikarwangkalngyanekraaephiyngelknxyiwthinn thaihmikxngkalngyanekraaephiyngsxngkxngphlpxngknekhtnxrmxngdi sungkxihekidkhwamsuyesiymhasalemuxkarocmtikhxngfaysmphnthmitrmathung hlngcakkarykphlkhunbkinnxrmxngdi emuxeduxnmithunayn kh s 1944 ekhaidkratunihhitelxrecrcasntiphaphkbfaysmphnthmitr aetemuxekhathukptiesth waknwa ekhaidraebidxxkmawa sngbsuksa ixong hitelxridpldekhaxxk aelaaethnthiodycxmphl kunethxr fxn khluekx klangeduxnsinghakhm kh s 1944 ekhaidrbtaaehnnginkxngbychakarkxngthpheyxrmndantawntkxikkhrnghnung ekhaidrwbrwmkxngkalngephuxtxkrkbptibtikarmarektkarednxyangrwderw aelaidrbchychna ekhathukpldxxkcakkxngbychakarxikkhrnghnungineduxnminakhm kh s 1945 enuxngcakekhabxkkbekhyethlwa hitelxrkhwrcaecrcasntiphaphkbfaysmphnthmitr dikwasurbinsngkhramxnsinhwngnihlngsngkhraminwnthi 1 phvsphakhm kh s 1945 ekhathukkxngphlthharrabthi 36 aehngshrthcbkum rahwangkarthukkhwbkhumtw ekhaprasbkbphawahwickhadeluxdxikkhrnghnung aelaidthuknatwipphicarnakhdithiekaaxngkvs rthbalxngkvsaecngkhxklawhaekhainthanaxachyakrsngkhram xyangirktam enuxngcaksukhphaphxnyaaeykhxngekha ekhacungthukplxytwodyimmikarphicarnakhdiin kh s 1948 aelaxasyxyuinhnonefxrcnkrathngesiychiwitysthharminakhm 1892 nkeriynthakarnayrxy Fahnrich krkdakhm 1893 rxytri Leutnant tulakhm 1901 rxyoth Oberleutnant minakhm 1909 rxyexk Hauptman phvscikayn 1914 phntri Major tulakhm 1920 phnoth Oberstleutnant minakhm 1923 phnexk Oberst phvscikayn 1927 phltri Generalmajor minakhm 1929 phloth Generalleutnant tulakhm 1932 phlexkthharrab General der Infanterie minakhm 1938 phlexkxawuos Generaloberst krkdakhm 1940 cxmphl Generalfeldmarschall xangxingwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb aekrth fxn runthchetth Bungay Stephen The Most Dangerous Enemy A History of the Battle of Britain London Aurum Press 2000 ISBN 1 85410 721 6 hardcover ISBN 1 85410 801 8 paperback 2002 Gunther Blumentritt Von Rundstedt The Man and the Soldier London Odhams Press 1952 B H Liddell Hart The German Generals Talk New York William and Morrow 1948 chap 7 Charles Messenger The Last Prussian A Biography of Field Marshal Gerd von Rundstedt 1875 1953 London Brassey s 1991 ISBN 0 08 036707 0 Schaulen Fritjof 2005 Eichenlaubtrager 1940 1945 Zeitgeschichte in Farbe III Radusch Zwernemann in German Selent Germany Pour le Merite ISBN 3 932381 22 X Ziemke Earl Gerd Von Rundstedt in Hitler s Generals ed Correlli Barnet New York Grove Weidenfeld 1989kxnhna aekrth fxn runthchetth thdipimmi epnkhnaerk phubychakarklumthphit 1 knyayn 26 tulakhm 1939 twexng taaehnngwangcnthung 1941 immi epnkhnaerk phubychakarklumthph A 26 tulakhm 1939 22 krkdakhm 1941 cxmphl wilehlm listhimmi epnkhnaerk phubychakarihyekhttawntk 10 tulakhm 1940 1 emsayn 1941 cxmphl aexrwin fxn withselebintwexng phubychakarklumthphit 22 krkdakhm 3 thnwakhm 1941 cxmphl wlethxr fxn irechxenacxmphl aexrwin fxn withselebin phubychakarklumthph D phubychakarihyekhttawntk 15 minakhm 1942 2 krkdakhm 1944 cxmphl kunethxr fxn khluekxcxmphl kunethxr fxn khluekx phubychakarklumthph D 15 singhakhm 1944 11 minakhm 1945 cxmphl xlaebrth ekhsesilringcxmphl wlethxr omedil rksakaraethn phubychakarihyekhttawntk 3 knyayn 1944 11 minakhm 1945 cxmphl xlaebrth ekhsesilring bthkhwamchiwprawtiniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldkhk