โยฮันเนิส แอร์วีน อ็อยเกน ร็อมเมิล (เยอรมัน: Johannes Erwin Eugen Rommel) เป็นนายพลและนักทฤษฏีทางทหารชาวเยอรมัน เป็นที่รู้จักกันในสมญานามของเขาคือ จิ้งจอกทะเลทราย เขาได้ดำรงตำแหน่งเป็นจอมพลในแวร์มัคท์(กองทัพ) ของนาซีเยอรมนีในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เช่นเดียวกับการรับใช้ในไรชส์แวร์แห่งสาธารณรัฐไวมาร์และกองทัพบกของจักรวรรดิเยอรมัน
แอร์วีน ร็อมเมิล | |
---|---|
ร็อมเมิลในปี 1942 | |
ชื่อเล่น | "จิ้งจอกทะเลทราย" |
เกิด | 15 พฤศจิกายน ค.ศ. 1891 ไฮเดินไฮม์ ราชอาณาจักรเวือร์ทเทิมแบร์ค จักรวรรดิเยอรมัน |
เสียชีวิต | 14 ตุลาคม ค.ศ. 1944 แฮร์ลิงเงิน นาซีเยอรมนี | (52 ปี)
รับใช้ | เยอรมนี (ถึง 1918) เยอรมนี (ถึง 1933) ไรช์เยอรมัน (ถึง 1944) |
แผนก/ | กองทัพบกจักรวรรดิเยอรมัน กองทัพบกเยอรมัน |
ประจำการ | 1911–1944 |
ชั้นยศ | จอมพล (Generalfeldmarschall) |
บังคับบัญชา |
|
การยุทธ์ | สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง สงครามโลกครั้งที่สอง |
คู่สมรส | Lucia Maria Mollin (สมรส 1916) |
บุตร |
|
ลายมือชื่อ |
ประวัติ
ช่วงต้น
แอร์วีนเกิดในเมืองไฮเดินไฮม์ ราชอาณาจักรเวือร์ทเทิมแบร์ค ส่วนหนึ่งของจักรวรรดิเยอรมัน เป็นบุตรคนที่สามในจำนวนห้าคนของครอบครัว บิดาเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นและเป็นอดีตทหารปืนใหญ่ เมื่ออายุได้ 18 ปี เขาบรรจุเป็นร้อยตรีในกองทัพเวือร์ทเทิมแบร์คในปี 1910 และเรียนโรงเรียนนายร้อยนครดันท์ซิช เขาจบการศึกษาในปี 1911 และได้รับบรรจุเป็นร้อยโทในกองทัพบกจักรวรรดิในต้นปี 1912
อาชีพทหาร
ร็อมเมิลเป็นนายทหารที่ได้รับการเชิดชูเกียรติขั้นสูงในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง เขาได้รับอิสริยาภรณ์พัวร์เลอเมรีทจากการปฏิบัติหน้าที่ในแนวรบอิตาลี ในปี 1937 เขาตีพิมพ์หนังสือเรื่อง ทหารราบจู่โจม (Infanterie greift an) ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับหลักยุทธวิธีและประสบการณ์ของเขาในสงคราม ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง เขาได้เป็นผู้บัญชาการกองพลยานเกราะที่ 7 สมญา "กองพลผี" ในยุทธการที่ฝรั่งเศส ซึ่งในครั้งนี้เอง เขาและพลเอกกูเดรีอันตัดสินใจฝ่าฝืนคำสั่งของหน่วยเหนือที่ให้หยุดรอทหารราบมาสมทบ ร็อมเมิลนำกองยานเกราะข้ามแม่น้ำเมิซบุกทะลวงแนวรบของฝรั่งเศสต่อทันทีเพื่อไม่ให้เสียจังหวะบลิทซ์ครีค โดยมีกองพลยานเกราะของกูเดรีอันตามมาติดๆ การตัดสินใจบุกต่อของทั้งสองคนเป็นเหตุผลสำคัญที่สร้างความได้เปรียบแก่เยอรมัน
ร็อมเมิลถูกส่งตัวไปเป็นผู้บัญชาการทหารในการทัพแอฟริกาเหนือ เขาได้แสดงฝีมือและได้รับการยอมรับนับถือเป็นผู้บัญชาการรถถังที่เก่งกาจที่สุดในช่วงสงครามและได้รับสมญา "จิ้งจอกทะเลทราย" แม้แต่ศัตรูอย่างผู้บัญชาการทหารชาวบริติชก็ยังยกย่องเขาเป็นอัศวิน ร็อมเมิลเคยอธิบายการทัพแอฟริกาเหนือไว้ว่าเป็น "สมรภูมิปราศความเกลียดชัง" ร็อมเมิลได้รับยศจอมพลเมื่อ 22 มิถุนายน 1942 หลังได้รับชัยชนะในยุทธการที่กาซาลาในประเทศลิเบีย ต่อมาเขาได้เป็นผู้บัญชาการกลุ่มทัพ B ประจำการในอิตาลี ต่อมาหน่วยนี้ถูกสั่งการไปต้านการยกพลข้ามช่องแคบเพื่อขึ้นบกที่นอร์ม็องดีของฝ่ายสัมพันธมิตรในเดือนมิถุนายน 1944
จุดยืนทางการเมืองและการเสียชีวิต
ทหารส่วนใหญ่ในกองทัพรวมทั้งตัวร็อมเมิลล้วนยินดีต่อการเถลิงอำนาจของฮิตเลอร์และพรรคนาซี พวกเขาเชื่อว่าเยอรมนีต้องการระบอบการปกครองที่มั่นคงและเด็ดขาด อย่างไรก็ตาม ร็อมเมิลไม่เคยเป็นสมาชิกพรรคนาซี และไม่เห็นด้วยกับการต่อต้านยิวและอุดมการณ์นาซี นักวิชาการยังคงถกเถียงกันว่าร็อมเมิลมีส่วนรับรู้ต่อเหตุการณ์ฮอโลคอสต์มากน้อยเพียงใด ร็อมเมิลเคยสร้างความตะลึงใจแก่ฮิตเลอร์ในปี 1943 ด้วยข้อเสนอให้แต่งตั้งชาวยิวดำรงตำแหน่งเกาไลเทอร์ เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธ์ต่อประชาคมโลกและแก้ต่างให้พ้นจากข้อกล่าวหาของพวกอังกฤษที่ว่าเยอรมนีปฏิบัติไม่ดีต่อชาวยิว แต่ฮิตเลอร์ตอบกลับเขาว่า "ร็อมเมิลที่รัก คุณไม่เข้าใจความคิดผมเลย"
นักประวัติศาสตร์หลายคนระบุว่าร็อมเมิลเป็นนายพลสุดโปรดคนหนึ่งของฮิตเลอร์ และความสัมพันธ์อันใกล้ชิดนี้ทำให้เขาได้รับประโยชน์ในอาชีพการงานความโน้มเอียงทางการเมืองของร็อมเมิลนั้นเป็นหัวข้อถกเถียงกันอยู่แม้แต่ในหมู่นาซีร่วมสมัย ร็อมเมิลเองเห็นชอบกับบางแง่มุมของอุดมการณ์นาซี และนิยมโฆษณาชวนเชื่อที่นาซีสร้างขึ้นเกี่ยวกับเขา แต่ก็รู้สึกโกรธที่โฆษณานั้นพรรณนาว่าเขาเป็นสมาชิกพรรคนาซีคนแรก ๆ และเป็นบุตรช่างหิน ทำให้ต้องแก้ไขโฆษณา
สำหรับแผนลับเพื่อสังหารฮิตเลอร์ในปี 1944 นั้น ไม่ชัดเจนว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงหรือไม่ มีผู้ก่อการให้การปรักปรำเขา แต่เนื่องจากร็อมเมิลมีสถานะเป็นวีรบุรุษของชาติ ฮิตเลอร์จึงไม่อาจลงโทษเขาอย่างโจ่งแจ้งได้ ร็อมเมิลได้รับข้อเสนอสามข้อจากพลโทบวร์คดอร์ฟ ทางเลือกหนึ่ง; ไปแก้ตัวต่อฮิตเลอร์ด้วยตนเองที่กรุงเบอร์ลิน ทางเลือกสอง; เข้ารับการพิจารณาคดีในชั้นศาลและถูกพิพากษาประหารชีวิต ทางเลือกสาม; ปลิดชีพตัวเองแลกกับการดำรงเกียรติยศและสิทธิทุกอย่าง ครอบครัวจะไม่ถูกลงโทษและได้รับบำนาญตามปกติ ร็อมเมิลเลือกทางเลือกสุดท้าย เขาฆ่าตัวตายโดยการกัดแคปซูลไซยาไนด์ ฮิตเลอร์จัดรัฐพิธีศพให้ร็อมเมิลอย่างสมเกียรติ กองทัพประกาศว่าเขาถูกเครื่องบินข้าศึกยิงกราดขณะโดยสารรถยนต์ทหารประจำตัวในนอร์ม็องดี
วีรตำนาน
ร็อมเมิลได้รับกิตติศัพท์ว่าเป็นผู้บัญชาการที่มีมนุษยธรรมสูงและนายทหารมืออาชีพ กองทัพน้อยแอฟริกาภายใต้บัญชาของเขาไม่เคยถูกกล่าวหาว่าก่ออาชญากรรมสงครามเลย ทหารที่ตกเป็นเชลยระหว่างการทัพแอฟริกาของร็อมเมิลได้ให้การว่าได้รับการปฏิบัติอย่างมีมนุษยธรรมด้วยการแบ่งส่วนอาหารที่เท่ากับทหารเยอรมัน เพราะร็อมเมิลคิดว่านักโทษควรได้รับสิทธิ์เท่าเทียบกับพลเรือนเยอรมัน ทหารเยอรมันที่ประจำการที่แอฟริกาเล่าว่า ขณะที่รถของร็อมเมิลติดทราย ร็อมเมิลยังลงมาช่วยทหาร ยิ่งไปกว่านั้น ร็อมเมิลยังปฏิเสธคำสั่งฆ่าคอมมานโด ทหาร และพลเรือนชาวยิวในทุกเขตสงครามใต้บังคับของเขา ร็อมเมิลไม่เคยเกณฑ์พลเรือนมาช่วยงานเขาฟรีๆ เขาจะมีค่าจ้างให้เสมอ
วินสตัน เชอร์ชิล เคยกล่าวต่อรัฐสภาอังกฤษว่าร็อมเมิลเป็น "คู่ปรับที่ชาญฉลาดและใจกล้าพิสดาร" และเป็น "แม่ทัพบกผู้ยิ่งใหญ่" ภายหลังสงครามสิ้นสุด ฝ่ายสัมพันธมิตรตะวันตกโดยเฉพาะอังกฤษได้ยกย่องร็อมเมิลเป็น "คนดีเยอรมัน" และเป็น "สหายร็อมเมิล" ชื่อของเขาถูกนำไปตั้งให้ฐานทัพบกที่ใหญ่ที่สุดของเยอรมนีหลังสงคราม นั่นคือค่ายจอมพลร็อมเมิล (Generalfeldmarschall-Rommel-Kaserne) ในเมืองเอากุสท์ดอร์ฟ รัฐนอร์ทไรน์-เว็สท์ฟาเลิน
เกียรติยศ
อิสริยาภรณ์เยอรมัน
- กางเขนเหล็ก (1914) ชั้นสอง และชั้นหนึ่ง
- พัวร์เลอเมรีท ได้รับเมื่อ 18 ธันวาคม 1917
- เครื่องหมายบาดเจ็บ เหรียญเงิน (1918)
- ชั้นสอง และชั้นหนึ่ง
- เครื่องหมายยานเกราะ เนื้อเงิน
- กางเขนอัศวินแห่งกางเขนเหล็ก
- กางเขนอัศวิน ได้รับเมื่อ 27 พฤษภาคม 1940
- ติดใบโอ็ค ได้รับเมื่อ 20 มีนาคม 1941
- คาดดาบ ได้รับเมื่อ 20 มกราคม 1942
- ประดับเพชร ได้รับเมื่อ 11 มีนาคม 1943
ยศทหาร
- กรกฎาคม 1910: นักเรียนทำการนายร้อย (Fähnrich)
- มกราคม 1912 : ร้อยตรี (Leutnant)
- กันยายน 1915 : ร้อยโท (Oberleutnant)
- มกราคม 1918 : ร้อยเอก (Hauptman)
- เมษายน 1932 : พันตรี (Major)
- มกราคม 1935 : พันโท (Oberstleutnant)
- ตุลาคม 1937 : พันเอก (Oberst)
- สิงหาคม 1939 : พลตรี (Generalmajor)
- มกราคม 1941 : พลโท (Generalleutnant)
- กรกฎาคม 1941 : พลเอกทหารยานเกราะ (General der Panzertruppe)
- กุมภาพันธ์ 1942 : พลเอกอาวุโส (Generaloberst)
- กรกฎาคม 1942 : จอมพล (Generalfeldmarschall)
อ้างอิง
- Butler 2015, pp. 30–31.
- David, Saul (1994). Churchill's sacrifice of the Highland Division. France 1940. London: Brassey's (UK) Ltd. p. 42. ISBN .
- Bierman, John; (2004). War Without Hate: The Desert Campaign of 1940–43. Penguin Books. ISBN .
- Breuer 2002, p. 131.
- Naumann 2009, p. 190.
- Watson 1999, p. 158.
- Butler 2015, p. 138.
- Remy 2002, pp. 28, 355, 361.
- Scheck 2010.
- Butler 2015, pp. 18, 122, 139, 147.
- Hart 2014, pp. 128–52.
- Von Fleischhauer & Friedmann 2012.
- "Der Mann wusste, dass der Krieg verloren ist". Frankfurter Allgemeine (ภาษาเยอรมัน). 3 November 2012. สืบค้นเมื่อ 15 June 2016.
- Zabecki 2016.
- Reuth 2005, p. 54.
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อRommel ist und bleibt ein Mythos
- Butler 2015, p. 240.
- Seewald, Berthold (21 December 2008). "Erwin Rommel, Held der 'sauberen Wehrmacht'". Die Welt. สืบค้นเมื่อ 15 June 2016.
- Martin, Douglas (9 November 2013). "Manfred Rommel, Son of German Field Marshal, Dies at 84". The New York Times.
- AT ROMMEL'S SIDE: The Lost Letters of Hans-Joachim Schraepler Publisher: Frontline Books (September 2009) Language: English
- Watson 1999, pp. 166–167.
- Reuth 2005, pp. 141–143.
ก่อนหน้า | แอร์วีน ร็อมเมิล | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
ไม่มี | ผู้บัญชาการกลุ่มทัพแอฟริกา (15 สิงหาคม 1941 – 9 มีนาคม 1943) | พลเอกอาวุโส ฮันส์-เยือร์เกิน ฟ็อน อาร์นิม | ||
จอมพล มัคซีมีลีอาน ฟ็อน ไวชส์ | ผู้บัญชาการกลุ่มทัพ B (15 กรกฎาคม 1943 – 19 กรกฎาคม 1944) | จอมพล กึนเทอร์ ฟ็อน คลูเกอ |
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
oyhnenis aexrwin xxyekn rxmemil eyxrmn Johannes Erwin Eugen Rommel epnnayphlaelankthvstithangthharchaweyxrmn epnthiruckkninsmyanamkhxngekhakhux cingcxkthaelthray ekhaiddarngtaaehnngepncxmphlinaewrmkhth kxngthph khxngnasieyxrmniinchwngsngkhramolkkhrngthisxng echnediywkbkarrbichinirchsaewraehngsatharnrthiwmaraelakxngthphbkkhxngckrwrrdieyxrmnaexrwin rxmemilrxmemilinpi 1942chuxeln cingcxkthaelthray ekid15 phvscikayn kh s 1891 1891 11 15 ihedinihm rachxanackrewuxrthethimaebrkh ckrwrrdieyxrmnesiychiwit14 tulakhm kh s 1944 1944 10 14 52 pi aehrlingengin nasieyxrmnirbich eyxrmni thung 1918 rachxanackrewuxrthethimaebrkh eyxrmni thung 1933 ircheyxrmn thung 1944 aephnk wbr sngkdkxngthphbkckrwrrdieyxrmn irchsaehr kxngthphbkeyxrmnpracakar1911 1944chnyscxmphl Generalfeldmarschall bngkhbbychakxngphlyanekraathi 7 kxngthphnxyaexfrika klumthph Bkaryuththsngkhramolkkhrngthihnung sngkhramolkkhrngthisxngkhusmrsLucia Maria Mollin smrs 1916 butrManfred Rommel 1928 2013 1913 2000 laymuxchuxprawtichwngtn aexrwinekidinemuxngihedinihm rachxanackrewuxrthethimaebrkh swnhnungkhxngckrwrrdieyxrmn epnbutrkhnthisamincanwnhakhnkhxngkhrxbkhrw bidaepnsmachiksphathxngthinaelaepnxditthharpunihy emuxxayuid 18 pi ekhabrrcuepnrxytriinkxngthphewuxrthethimaebrkhinpi 1910 aelaeriynorngeriynnayrxynkhrdnthsich ekhacbkarsuksainpi 1911 aelaidrbbrrcuepnrxyothinkxngthphbkckrwrrdiintnpi 1912 xachiphthhar rxmemilepnnaythharthiidrbkarechidchuekiyrtikhnsunginsngkhramolkkhrngthihnung ekhaidrbxisriyaphrnphwrelxemrithcakkarptibtihnathiinaenwrbxitali inpi 1937 ekhatiphimphhnngsuxeruxng thharrabcuocm Infanterie greift an sungmienuxhaekiywkbhlkyuththwithiaelaprasbkarnkhxngekhainsngkhram inrahwangsngkhramolkkhrngthisxng ekhaidepnphubychakarkxngphlyanekraathi 7 smya kxngphlphi inyuththkarthifrngess sunginkhrngniexng ekhaaelaphlexkkuedrixntdsinicfafunkhasngkhxnghnwyehnuxthiihhyudrxthharrabmasmthb rxmemilnakxngyanekraakhamaemnaemisbukthalwngaenwrbkhxngfrngesstxthnthiephuximihesiycnghwablithskhrikh odymikxngphlyanekraakhxngkuedrixntammatid kartdsinicbuktxkhxngthngsxngkhnepnehtuphlsakhythisrangkhwamidepriybaekeyxrmn rxmemilthuksngtwipepnphubychakarthharinkarthphaexfrikaehnux ekhaidaesdngfimuxaelaidrbkaryxmrbnbthuxepnphubychakarrththngthiekngkacthisudinchwngsngkhramaelaidrbsmya cingcxkthaelthray aemaetstruxyangphubychakarthharchawbritichkyngykyxngekhaepnxswin rxmemilekhyxthibaykarthphaexfrikaehnuxiwwaepn smrphumipraskhwamekliydchng rxmemilidrbyscxmphlemux 22 mithunayn 1942 hlngidrbchychnainyuththkarthikasalainpraethsliebiy txmaekhaidepnphubychakarklumthph B pracakarinxitali txmahnwynithuksngkariptankarykphlkhamchxngaekhbephuxkhunbkthinxrmxngdikhxngfaysmphnthmitrineduxnmithunayn 1944 cudyunthangkaremuxngaelakaresiychiwit thharswnihyinkxngthphrwmthngtwrxmemillwnyinditxkarethlingxanackhxnghitelxraelaphrrkhnasi phwkekhaechuxwaeyxrmnitxngkarrabxbkarpkkhrxngthimnkhngaelaeddkhad xyangirktam rxmemilimekhyepnsmachikphrrkhnasi aelaimehndwykbkartxtanyiwaelaxudmkarnnasi nkwichakaryngkhngthkethiyngknwarxmemilmiswnrbrutxehtukarnhxolkhxstmaknxyephiyngid rxmemilekhysrangkhwamtalungicaekhitelxrinpi 1943 dwykhxesnxihaetngtngchawyiwdarngtaaehnngekailethxr ephuxphisucnkhwambrisuththtxprachakhmolkaelaaektangihphncakkhxklawhakhxngphwkxngkvsthiwaeyxrmniptibtiimditxchawyiw aethitelxrtxbklbekhawa rxmemilthirk khunimekhaickhwamkhidphmely nkprawtisastrhlaykhnrabuwarxmemilepnnayphlsudoprdkhnhnungkhxnghitelxr aelakhwamsmphnthxniklchidnithaihekhaidrbpraoychninxachiphkarngankhwamonmexiyngthangkaremuxngkhxngrxmemilnnepnhwkhxthkethiyngknxyuaemaetinhmunasirwmsmy rxmemilexngehnchxbkbbangaengmumkhxngxudmkarnnasi aelaniymokhsnachwnechuxthinasisrangkhunekiywkbekha aetkrusukokrththiokhsnannphrrnnawaekhaepnsmachikphrrkhnasikhnaerk aelaepnbutrchanghin thaihtxngaekikhokhsna sahrbaephnlbephuxsngharhitelxrinpi 1944 nn imchdecnwaekhamiswnekiywkhxngodytrnghruxim miphukxkarihkarprkpraekha aetenuxngcakrxmemilmisthanaepnwirburuskhxngchati hitelxrcungimxaclngothsekhaxyangocngaecngid rxmemilidrbkhxesnxsamkhxcakphlothbwrkhdxrf thangeluxkhnung ipaektwtxhitelxrdwytnexngthikrungebxrlin thangeluxksxng ekharbkarphicarnakhdiinchnsalaelathukphiphaksapraharchiwit thangeluxksam plidchiphtwexngaelkkbkardarngekiyrtiysaelasiththithukxyang khrxbkhrwcaimthuklngothsaelaidrbbanaytampkti rxmemileluxkthangeluxksudthay ekhakhatwtayodykarkdaekhpsulisyaind hitelxrcdrthphithisphihrxmemilxyangsmekiyrti kxngthphprakaswaekhathukekhruxngbinkhasukyingkradkhnaodysarrthyntthharpracatwinnxrmxngdiwirtananrxmemilidrbkittisphthwaepnphubychakarthimimnusythrrmsungaelanaythharmuxxachiph kxngthphnxyaexfrikaphayitbychakhxngekhaimekhythukklawhawakxxachyakrrmsngkhramely thharthitkepnechlyrahwangkarthphaexfrikakhxngrxmemilidihkarwaidrbkarptibtixyangmimnusythrrmdwykaraebngswnxaharthiethakbthhareyxrmn ephraarxmemilkhidwankothskhwridrbsiththiethaethiybkbphleruxneyxrmn thhareyxrmnthipracakarthiaexfrikaelawa khnathirthkhxngrxmemiltidthray rxmemilynglngmachwythhar yingipkwann rxmemilyngptiesthkhasngkhakhxmmanod thhar aelaphleruxnchawyiwinthukekhtsngkhramitbngkhbkhxngekha rxmemilimekhyeknthphleruxnmachwynganekhafri ekhacamikhacangihesmx winstn echxrchil ekhyklawtxrthsphaxngkvswarxmemilepn khuprbthichaychladaelaicklaphisdar aelaepn aemthphbkphuyingihy phayhlngsngkhramsinsud faysmphnthmitrtawntkodyechphaaxngkvsidykyxngrxmemilepn khndieyxrmn aelaepn shayrxmemil chuxkhxngekhathuknaiptngihthanthphbkthiihythisudkhxngeyxrmnihlngsngkhram nnkhuxkhaycxmphlrxmemil Generalfeldmarschall Rommel Kaserne inemuxngexakusthdxrf rthnxrthirn ewsthfaelinekiyrtiysphlexkxawuosaexrwin rxmemil inaexfrikaehnux mi y 1942xisriyaphrneyxrmn kangekhnehlk 1914 chnsxng aelachnhnung phwrelxemrith idrbemux 18 thnwakhm 1917 ekhruxnghmaybadecb ehriyyengin 1918 chnsxng aelachnhnung ekhruxnghmayyanekraa enuxengin kangekhnxswinaehngkangekhnehlk kangekhnxswin idrbemux 27 phvsphakhm 1940 tidiboxkh idrbemux 20 minakhm 1941 khaddab idrbemux 20 mkrakhm 1942 pradbephchr idrbemux 11 minakhm 1943ysthhar krkdakhm 1910 nkeriynthakarnayrxy Fahnrich mkrakhm 1912 rxytri Leutnant knyayn 1915 rxyoth Oberleutnant mkrakhm 1918 rxyexk Hauptman emsayn 1932 phntri Major mkrakhm 1935 phnoth Oberstleutnant tulakhm 1937 phnexk Oberst singhakhm 1939 phltri Generalmajor mkrakhm 1941 phloth Generalleutnant krkdakhm 1941 phlexkthharyanekraa General der Panzertruppe kumphaphnth 1942 phlexkxawuos Generaloberst krkdakhm 1942 cxmphl Generalfeldmarschall xangxingButler 2015 pp 30 31 sfn error no target CITEREFButler2015 David Saul 1994 Churchill s sacrifice of the Highland Division France 1940 London Brassey s UK Ltd p 42 ISBN 978 1857533781 Bierman John 2004 War Without Hate The Desert Campaign of 1940 43 Penguin Books ISBN 978 0142003947 Breuer 2002 p 131 Naumann 2009 p 190 sfn error no target CITEREFNaumann2009 Watson 1999 p 158 sfn error no target CITEREFWatson1999 Butler 2015 p 138 sfn error no target CITEREFButler2015 Remy 2002 pp 28 355 361 sfn error no target CITEREFRemy2002 Scheck 2010 sfn error no target CITEREFScheck2010 Butler 2015 pp 18 122 139 147 sfn error no target CITEREFButler2015 Hart 2014 pp 128 52 sfn error no target CITEREFHart2014 Von Fleischhauer amp Friedmann 2012 sfn error no target CITEREFVon FleischhauerFriedmann2012 Der Mann wusste dass der Krieg verloren ist Frankfurter Allgemeine phasaeyxrmn 3 November 2012 subkhnemux 15 June 2016 Zabecki 2016 sfn error no target CITEREFZabecki2016 Reuth 2005 p 54 sfn error no target CITEREFReuth2005 xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux Rommel ist und bleibt ein Mythos Butler 2015 p 240 sfn error no target CITEREFButler2015 Seewald Berthold 21 December 2008 Erwin Rommel Held der sauberen Wehrmacht Die Welt subkhnemux 15 June 2016 Martin Douglas 9 November 2013 Manfred Rommel Son of German Field Marshal Dies at 84 The New York Times AT ROMMEL S SIDE The Lost Letters of Hans Joachim Schraepler Publisher Frontline Books September 2009 Language English ISBN 1 84832 538 X ISBN 978 1 84832 538 8 Watson 1999 pp 166 167 sfn error no target CITEREFWatson1999 Reuth 2005 pp 141 143 sfn error no target CITEREFReuth2005 kxnhna aexrwin rxmemil thdipimmi phubychakarklumthphaexfrika 15 singhakhm 1941 9 minakhm 1943 phlexkxawuos hns eyuxrekin fxn xarnimcxmphl mkhsimilixan fxn iwchs phubychakarklumthph B 15 krkdakhm 1943 19 krkdakhm 1944 cxmphl kunethxr fxn khluekx