อะบู ตะมีม มะอัด อัลมุสตันศิร บิลลาฮ์ (อาหรับ: أبو تميم معد المستنصر بالله; 2 กรกฎาคม ค.ศ. 1029 – 29 ธันวาคม ค.ศ. 1094) เป็น ใน ค.ศ. 1036 ถึง 1094 พระองค์เป็นหนึ่งในผู้ปกครองมุสลิมที่ปกครองนานที่สุด รัชสมัยของพระองค์คือช่วงเริ่มต้นรัฐฟาฏิมียะฮ์ ในช่วงต้นของรัชสมัยมีความต่อเนื่องของผู้บริหารที่มีความสามารถฝยการบริหารรัฐฟาฏิมียะฮ์ (, และในภายหลัง) ควบคุมความเจริญรุ่งเรืองของรัฐในช่วงสองทศวรรษแรกของรัชสมัยอัลมุสตันศิร อย่างไรก็ตาม การแตกหักของราชสำนักระหว่างกลุ่มราชสำนักเติร์กกับเบอร์เบอร์/ซูดานหลังจากการลอบสังหารอัลยาซูรีที่เกิดขึ้นพร้อมกับภัยพิบัติทางธรรมชาติในอียิปต์ และการสูญเสียการควบคุมบริหารเหนือดินแดนนอกอียิปต์ของฟาฏิมียะฮ์อย่างค่อยเป็นค่อยไป เกือบส่งผลให้รัฐฟาฏิมียะฮ์ล่มสลายจนสิ้นในคริสต์ทศวรรษ 1060 การแต่งตั้ง นายพลชาวอาร์เมเนีย ผู้ขึ้นมามีอำนาจเป็นใน ค.ศ. 1073 และกลายเป็นเผด็จการของประเทศโดยพฤตินัยภายใต้การครองราชย์เพียงในนามของอัลมุสตันศิร
อัลมุสตันศิร บิลลาฮ์ المستنصر بالله | |
---|---|
เหรียญทองของอัลมุสตันศิร, อียิปต์, ค.ศ. 1055 | |
–รัฐเคาะลีฟะฮ์ฟาฏิมียะฮ์องค์ที่ 8 | |
ครองราชย์ | 13 มิถุนายน ค.ศ. 1036 (15 ชะอ์บาน ฮ.ศ. 427) – 29 ธันวาคม ค.ศ. 1094 (18 ษุลฮิจญ์ญะฮ์ ฮ.ศ. 487) |
ก่อนหน้า | |
ถัดไป | |
ประสูติ | 2 กรกฎาคม ค.ศ. 1029 (16 ญุมาดัษษานี ฮ.ศ. 420) ไคโร ประเทศอียิปต์ |
สวรรคต | 29 ธันวาคม ค.ศ. 1094 (18 ษุลฮิจญ์ญะฮ์ ฮ.ศ. 487) (65 พรรษา) ประเทศอียิปต์ |
พระราชบุตร |
|
ราชวงศ์ | |
พระราชบิดา | |
พระราชมารดา | |
ศาสนา | ชีอะฮ์อิสมาอีลียะฮ์ |
เคาะลีฟะฮ์อัลมุสตันศิร บิลลาฮ์เป็นอิมามคนสุดท้ายก่อนที่จะเกิดการแตกแยกในขบวนการอิสมาอีลียะฮ์ออกเป็น 2 กลุ่ม เนื่องจากการต่อสู้กันอย่างต่อเนื่องระหว่าง พระราชโอรสองค์โต กับ พระอนุชาของนิซารผู้ได้รับการเลี้ยงดูให้ขึ้นครองราชย์โดย บุตรและผู้สืบทอดของบัดร์ อัลญะมาลี ผู้ที่ติดตามนิซารกลายมาเป็นอิสมาอีลียะฮ์สายที่พบเป็นหลักในอิหร่านและซีเรีย ส่วนผู้ที่ตามอัลมุสตะอ์ลีกลายเป็นสาย
พระราชประวัติ
อัลมุสตันศิรเสด็จพระราชสมภพที่ไคโรในวันที่ 16 ญุมาดัษษานี ฮ.ศ. 420/2 กรกฎาคม ค.ศ. 1029 จากอะลี อัซซอฮิรกับเราะศ็อด ทาสผิวดำจากนูเบีย เมื่อพระชนมพรรษา 8 เดือน พระราชบิดาประกาศให้พระองค์เป็นผู้สืบทอดพระราชบัลลังก์ พระองค์มีพระนามว่า อะบู ตะมีม มะอัด นามสกุล อัลมุสตันศิร บิลลาฮ์ ("ผู้ถามถึงชัยชนะจากพระผู้เป็นเจ้า") พระองค์ขึ้นครองราชย์รัฐเคาะลีฟะฮ์ฟาฏิมียะฮ์ในวันที่ 15 ชะอ์บาน ฮ.ศ. 427/13 มิถุนายน ค.ศ. 1036 ตอนพระชนมพรรษา 7 พรรษา ในช่วงปีแรกของการเป็นเคาะลีฟะฮ์ พระราชมารดาเป็นผู้บริหารกิจการของรัฐ พระองค์ครองราชย์เป็นเวลา 60 ปี ซึ่งยาวนานที่สุดในบรรดาเคาะลีฟะฮ์ทั้งหมดทั้งในอียิปต์หรือรัฐอิสลามอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม อำนาจของฟาฏิมียะฮ์ถูกจำกัดอยู่ที่อียิปต์ เนื่องจากการพิชิตลิแวนต์ของพวกเซลจุค ใน และชนเผ่าอาหรับสร้างความสั่นคลอนต่อฝ่ายฟาฏิมียะฮ์เหนือตูนิเซียและตริโปลี อัลมุสตันศิรถือว่าเป็นผู้ไร้ความสามารถ[] และนั่นทำให้ราชสำนักของพระองค์จึงถูกครอบงำโดยทหารแข็งแกร่งและเจ้าหน้าที่คนโปรดของพระราชมารดา ในขณะที่คลังสมบัติก็หมดลงด้วยการต่อสู้แบบประจัญบานจากฝ่ายต่าง ๆ
พระองค์สร้างพิเศษที่เสาหนึ่งใน เหนือเมียะห์รอบมีพระนามของพระองค์สลักร่วมกับชะฮาดะฮ์ที่มีการอ่านกันตามสาธารณะในสมัย ซึ่งลงท้ายด้วยวลี 'อะลีวะลียุลลอฮ์' หมายถึง "อะลีเป็นพระสหายของอัลลอฮ์"
ราชสำนัก
ดาอี/ที่มีเชื่อเสียงในรัชสมัยของพระองค์ มีดังนี้:
- , วิเซียร (เสียชีวิต ค.ศ. 1045)
- , วิเซียร (เสียชีวิต ค.ศ. 1094)
- , หัวหน้าผู้สอนศาสนา () ใน ค.ศ. 1059 ถึง 1078
กับ เป็นชาวอินเดียสองคนที่เดินทางพบอัลมุสตันศิร บิลลาฮ์ที่อียิปต์ ทั้งคู่หันมานับถือความเชื่อแบบอิสมาอีลียะฮ์ตามอัลมุอัยยัด ฟีดดีน อัชชีรอซี ดาอีฟาฏิมียะฮ์ และกลับไปอินเดียเพื่อเผยแพร่ความเชื่อนี้
ภาพ
- เมียะห์รอบของอัลมุสตันศิรที่มัสยิดอิยน์ ฏูลูน ไคโร
- จารึกหินจากสมัยอัลมุสตันศิรใกล้เมียะห์รอบของอัลมุสตันศิร
- รายละเอียดเมียะห์รอบของอัลมุสตันศิร
- พระนามของอัลมุศตันศิรสลักบนเมียะห์รอบ
หมายเหตุ
- ในขณะที่นักประวัติศาสตร์บางส่วนจัดให้ ค.ศ. 1035 เป็นปีที่พระองค์ขึ้นครองราชย์ ปีที่มีการอ้างถึงมากกว่าคือ ค.ศ. 1036 โดยเฉพาะในบรรดานักวิชาการมุสลิม
- เมื่อแปลงไปเป็นปฏิทินกริกอเรียน วันสวรรคตอยู่ในช่วง 6 มกราคม ค.ศ. 1095 แต่วันที่ 29 ธันวาคมเป็นวันที่ที่มีการใช้กันทั่วไป
อ้างอิง
- Hitti, Philip K. (2002). A Short History of the Arabs: From the Earliest Times to the Present (Revised 10 ed.). ISBN .
- O'Leary, De Lacy (1923). A Short History of the Fatimid Caliphate. p. 193.
- "MÜSTA'LÎ-BİLLÂH el-FÂTIMÎ - TDV İslâm Ansiklopedisi". TDV İslam Ansiklopedisi (ภาษาตุรกี).
- "MUSTANSIR BILLAH I (427-487/1036-1095), 18TH IMAM". ismaili.net (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 13 February 2022.
- (2014). Jewish Self-Government in Medieval Egypt. Princeton University Press. p. 218. ISBN .
- Ayman Fu'ad Sayyid (2002). The Fatimids and Their Successors in Yaman. I.B. Tauris. p. 5. ISBN .
- Hodgson, Natasha R. (2019). Crusading and Masculinities. Routledge. p. 72. ISBN .
- Daftary 2007, p. 246.
- , Ette'aaz al-honafa be Akhbaar al-A'emma Al Fatemeyyeen Al Kholafaa, part 2, p. 45. Qairo. 1973
- "al-Mustanṣir" Encyclopædia Britannica Retrieved 31 January 2015
- Holt, P. M., and M. W. Daly. "A History of the Sudan: From the Coming of Islam to the Present Day." Taylor & Francis Group, 2014. 16
- Daftary, Farhad (1990). The Isma'ilis: Their History and Doctrines. pp. 193-194. ISBN .
- Klemm, Verena (2004). "MOʾAYYAD FI'L-DIN ŠIRĀZI". Encyclopaedia Iranica.
- [1] 12.0 The Fatimid Da'i Al-Mu'ayyad: His Life, by: Dr. Abbas Hamdani, University of Wisconsin, Milwaukee (U.S.A.): ..In this village there were two .men who acquired knowledge, then proceeded from India, in the time of al-Mustansir, to Egypt and joined the lsma'ili faith at the bidding of Sayyidna al-Mu'ayyad from whom they acquired much knowledge. Their names were (Ba)Lam Nath(known as Moulai Abadullah) and Rup Nath (later called Mawla'i Nurad-Din). Both of them returned from Egypt to their native village...."
ข้อมูล
- (1989). Damas et la Syrie sous la domination fatimide (359-468/969-1076): essai d'interprétation de chroniques arabes médiévales. Deuxième tome (ภาษาฝรั่งเศส). Damascus: Institut français de Damas. ISBN .
- Brett, Michael (2017). The Fatimid Empire. The Edinburgh History of the Islamic Empires. Edinburgh: Edinburgh University Press. ISBN .
- (2007). The Ismāʿı̄lı̄s: Their History and Doctrines (Second ed.). Cambridge: Cambridge University Press. ISBN .
- (2003). Die Kalifen von Kairo: Die Fatimiden in Ägypten, 973–1074 [The Caliphs of Cairo: The Fatimids in Egypt, 973–1074] (ภาษาเยอรมัน). Munich: C. H. Beck. ISBN .
- (2014). Kalifen und Assassinen: Ägypten und der vordere Orient zur Zeit der ersten Kreuzzüge, 1074–1171 [Caliphs and Assassins: Egypt and the Near East at the Time of the First Crusades, 1074–1171] (ภาษาเยอรมัน). Munich: C. H. Beck. doi:10.17104/9783406661648-1. ISBN .
- Walker, Paul E. (1995). "Succession to Rule in the Shiite Caliphate". Journal of the American Research Center in Egypt. 32: 239–264. doi:10.2307/40000841. JSTOR 40000841.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
xabu tamim maxd xlmustnsir billah xahrb أبو تميم معد المستنصر بالله 2 krkdakhm kh s 1029 29 thnwakhm kh s 1094 epn in kh s 1036 thung 1094 phraxngkhepnhnunginphupkkhrxngmuslimthipkkhrxngnanthisud rchsmykhxngphraxngkhkhuxchwngerimtnrthfatimiyah inchwngtnkhxngrchsmymikhwamtxenuxngkhxngphubriharthimikhwamsamarthfykarbriharrthfatimiyah aelainphayhlng khwbkhumkhwamecriyrungeruxngkhxngrthinchwngsxngthswrrsaerkkhxngrchsmyxlmustnsir xyangirktam karaetkhkkhxngrachsankrahwangklumrachsanketirkkbebxrebxr sudanhlngcakkarlxbsngharxlyasurithiekidkhunphrxmkbphyphibtithangthrrmchatiinxiyipt aelakarsuyesiykarkhwbkhumbriharehnuxdinaednnxkxiyiptkhxngfatimiyahxyangkhxyepnkhxyip ekuxbsngphlihrthfatimiyahlmslaycnsininkhristthswrrs 1060 karaetngtng nayphlchawxaremeniy phukhunmamixanacepnin kh s 1073 aelaklayepnephdckarkhxngpraethsodyphvtinyphayitkarkhrxngrachyephiynginnamkhxngxlmustnsirxlmustnsir billah المستنصر باللهehriyythxngkhxngxlmustnsir xiyipt kh s 1055 rthekhaalifahfatimiyahxngkhthi 8khrxngrachy13 mithunayn kh s 1036 15 chaxban h s 427 29 thnwakhm kh s 1094 18 sulhicyyah h s 487 kxnhnathdipprasuti2 krkdakhm kh s 1029 16 yumadssani h s 420 ikhor praethsxiyiptswrrkht29 thnwakhm kh s 1094 18 sulhicyyah h s 487 65 phrrsa praethsxiyiptphrarachbutrAbu l Qasim Muhammad bidain rachwngsphrarachbidaphrarachmardasasnachixahxismaxiliyah ekhaalifahxlmustnsir billahepnximamkhnsudthaykxnthicaekidkaraetkaeykinkhbwnkarxismaxiliyahxxkepn 2 klum enuxngcakkartxsuknxyangtxenuxngrahwang phrarachoxrsxngkhot kb phraxnuchakhxngnisarphuidrbkareliyngduihkhunkhrxngrachyody butraelaphusubthxdkhxngbdr xlyamali phuthitidtamnisarklaymaepnxismaxiliyahsaythiphbepnhlkinxihranaelasieriy swnphuthitamxlmustaxliklayepnsayphrarachprawtixlmustnsiresdcphrarachsmphphthiikhorinwnthi 16 yumadssani h s 420 2 krkdakhm kh s 1029 cakxali xssxhirkberaasxd thasphiwdacaknuebiy emuxphrachnmphrrsa 8 eduxn phrarachbidaprakasihphraxngkhepnphusubthxdphrarachbllngk phraxngkhmiphranamwa xabu tamim maxd namskul xlmustnsir billah phuthamthungchychnacakphraphuepneca phraxngkhkhunkhrxngrachyrthekhaalifahfatimiyahinwnthi 15 chaxban h s 427 13 mithunayn kh s 1036 txnphrachnmphrrsa 7 phrrsa inchwngpiaerkkhxngkarepnekhaalifah phrarachmardaepnphubriharkickarkhxngrth phraxngkhkhrxngrachyepnewla 60 pi sungyawnanthisudinbrrdaekhaalifahthnghmdthnginxiyipthruxrthxislamxun xyangirktam xanackhxngfatimiyahthukcakdxyuthixiyipt enuxngcakkarphichitliaewntkhxngphwkeslcukh in aelachnephaxahrbsrangkhwamsnkhlxntxfayfatimiyahehnuxtuniesiyaelatriopli xlmustnsirthuxwaepnphuirkhwamsamarth txngkarxangxing aelannthaihrachsankkhxngphraxngkhcungthukkhrxbngaodythharaekhngaekrngaelaecahnathikhnoprdkhxngphrarachmarda inkhnathikhlngsmbtikhmdlngdwykartxsuaebbpracybancakfaytang phraxngkhsrangphiessthiesahnungin ehnuxemiyahrxbmiphranamkhxngphraxngkhslkrwmkbchahadahthimikarxankntamsatharnainsmy sunglngthaydwywli xaliwaliyullxh hmaythung xaliepnphrashaykhxngxllxh rachsankdaxi thimiechuxesiynginrchsmykhxngphraxngkh midngni wiesiyr esiychiwit kh s 1045 wiesiyr esiychiwit kh s 1094 hwhnaphusxnsasna in kh s 1059 thung 1078 kb epnchawxinediysxngkhnthiedinthangphbxlmustnsir billahthixiyipt thngkhuhnmanbthuxkhwamechuxaebbxismaxiliyahtamxlmuxyyd fiddin xchchirxsi daxifatimiyah aelaklbipxinediyephuxephyaephrkhwamechuxniphaphemiyahrxbkhxngxlmustnsirthimsyidxiyn tulun ikhor carukhincaksmyxlmustnsiriklemiyahrxbkhxngxlmustnsir raylaexiydemiyahrxbkhxngxlmustnsir phranamkhxngxlmustnsirslkbnemiyahrxbhmayehtuinkhnathinkprawtisastrbangswncdih kh s 1035 epnpithiphraxngkhkhunkhrxngrachy pithimikarxangthungmakkwakhux kh s 1036 odyechphaainbrrdankwichakarmuslim emuxaeplngipepnptithinkrikxeriyn wnswrrkhtxyuinchwng 6 mkrakhm kh s 1095 aetwnthi 29 thnwakhmepnwnthithimikarichknthwipxangxingHitti Philip K 2002 A Short History of the Arabs From the Earliest Times to the Present Revised 10 ed ISBN 0333631420 O Leary De Lacy 1923 A Short History of the Fatimid Caliphate p 193 MUSTA LI BILLAH el FATIMI TDV Islam Ansiklopedisi TDV Islam Ansiklopedisi phasaturki MUSTANSIR BILLAH I 427 487 1036 1095 18TH IMAM ismaili net phasaxngkvs subkhnemux 13 February 2022 2014 Jewish Self Government in Medieval Egypt Princeton University Press p 218 ISBN 9781400853588 Ayman Fu ad Sayyid 2002 The Fatimids and Their Successors in Yaman I B Tauris p 5 ISBN 9781860646904 Hodgson Natasha R 2019 Crusading and Masculinities Routledge p 72 ISBN 9781351680141 Daftary 2007 p 246 Ette aaz al honafa be Akhbaar al A emma Al Fatemeyyeen Al Kholafaa part 2 p 45 Qairo 1973 al Mustanṣir Encyclopaedia Britannica Retrieved 31 January 2015 Holt P M and M W Daly A History of the Sudan From the Coming of Islam to the Present Day Taylor amp Francis Group 2014 16 Daftary Farhad 1990 The Isma ilis Their History and Doctrines pp 193 194 ISBN 978 0 521 37019 6 Klemm Verena 2004 MOʾAYYAD FI L DIN SIRAZI Encyclopaedia Iranica 1 12 0 The Fatimid Da i Al Mu ayyad His Life by Dr Abbas Hamdani University of Wisconsin Milwaukee U S A In this village there were two men who acquired knowledge then proceeded from India in the time of al Mustansir to Egypt and joined the lsma ili faith at the bidding of Sayyidna al Mu ayyad from whom they acquired much knowledge Their names were Ba Lam Nath known as Moulai Abadullah and Rup Nath later called Mawla i Nurad Din Both of them returned from Egypt to their native village khxmul 1989 Damas et la Syrie sous la domination fatimide 359 468 969 1076 essai d interpretation de chroniques arabes medievales Deuxieme tome phasafrngess Damascus Institut francais de Damas ISBN 978 2 35159131 4 Brett Michael 2017 The Fatimid Empire The Edinburgh History of the Islamic Empires Edinburgh Edinburgh University Press ISBN 978 0 7486 4076 8 2007 The Ismaʿi li s Their History and Doctrines Second ed Cambridge Cambridge University Press ISBN 978 0 521 61636 2 2003 Die Kalifen von Kairo Die Fatimiden in Agypten 973 1074 The Caliphs of Cairo The Fatimids in Egypt 973 1074 phasaeyxrmn Munich C H Beck ISBN 3 406 48654 1 2014 Kalifen und Assassinen Agypten und der vordere Orient zur Zeit der ersten Kreuzzuge 1074 1171 Caliphs and Assassins Egypt and the Near East at the Time of the First Crusades 1074 1171 phasaeyxrmn Munich C H Beck doi 10 17104 9783406661648 1 ISBN 978 3 406 66163 1 Walker Paul E 1995 Succession to Rule in the Shiite Caliphate Journal of the American Research Center in Egypt 32 239 264 doi 10 2307 40000841 JSTOR 40000841