หมึกสาย ช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่: 323.2–0Ma ยุคคาร์บอนิเฟอรัสตอนปลาย – ปัจจุบัน | |
---|---|
(Octopus vulgaris) | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Animalia |
ไฟลัม: | Mollusca |
ชั้น: | Cephalopoda |
อันดับใหญ่: | |
อันดับ: | Octopoda , 1818 |
อันดับย่อย | |
| |
ชื่อพ้อง | |
|
หมึกสาย หรือ หมึกยักษ์ เป็นมอลลัสก์ประเภทหมึกอันดับหนึ่ง ใช้ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Octopoda
ศัพทมูลวิทยา
คำว่า "Octopus" หรือ Octopoda ซึ่งใช้เป็นชื่อวิทยาศาสตร์นั้นมาจากภาษากรีกคำว่า ὀκτάπους (oktapous, "แปดเท้า") อันมีที่มาจากการที่หมึกสายนั้นจะมีหนวดทั้งหมด 8 เส้นนั่นเอง
ลักษณะและกายวิภาค
หมึกสาย จะมีความแตกต่างไปจากหมึกกล้วยหรือหมึกกระดองอย่างเห็นได้ชัด โดยที่หมึกสายจะมีส่วนหัวที่กลมยาวคล้ายลูกโป่ง หนวดมีทั้งหมด 8 เส้น และไม่มีหนวดเส้นยาว 2 เส้นสำหรับจับเหยื่อแบบหมึกกล้วย ไม่มีครีบข้างลำตัว แต่จะมีพังผืดเชื่อมต่อกันระหว่างหนวดแต่ละเส้น ในโครงสร้างของหมึกสายจะไม่มีแคลเซียมแข็งเป็นแกนกลางลำตัวเหมือนหมึกกล้วยหรือหมึกกระดอง ซึ่งทำให้ร่างกายของหมึกสายนั้นยืดหยุ่นตัวได้สูง หมึกสายจึงสามารถคืบคลานไปตามท้องทะเลได้อย่างคล่องแคล่ว
ในธรรมชาติหมึกสายเป็นหมึกที่อาศัยอยู่ตามลำพังไม่เป็นฝูงเหมือนหมึกกล้วยหรือเป็นคู่เหมือนหมึกกระดอง โดยหลบซ่อนตัวอยู่ตามรูหรือโพรงใต้น้ำ นอกจากนี้แล้ว ร่างกายของหมึกสายนั้นสามารถรอดรูเล็ก ๆ ที่มีความกว้างเพียงไม่กี่เซนติเมตรได้ จากการทดลองทางวิทยาศาสตร์ พบว่าหมึกสายสามารถรอดรูเล็ก ๆ ได้ ด้วยการใช้หนวดวัดขนาดความกว้างของรูก่อน ก่อนที่จะใช้หนวดทั้งหมดค่อย ๆ มุดรอดไป และส่วนหัวจะเป็นส่วนสุดท้ายที่จะมุดรอดออกมา แต่หมึกสายก็ไม่สามารถที่จะมุดรอดรูที่มีความกว้างเพียง 1.5 นิ้วได้ ซึ่งเป็นความกว้างที่น้อยกว่าความกว้างระหว่างดวงตาทั้งคู่ของหมึกสาย ที่จะมีกระดูกชิ้นเล็ก ๆ ระหว่างนั้น อีกทั้งหมึกสายยังสามารถที่จะคืบคลานไปมาบนบกได้ โดยอยู่ได้โดยปราศจากน้ำได้นานถึง 1 ชั่วโมง
หมึกสาย มีหัวใจทั้งหมด 3 ดวง และมีสมองแยกออกจากกันอยู่ในโคนหนวดแต่ละหนวดถึง 9 สมอง หนวดของหมึกสายนั้นมีประสาทสัมผัสและปุ่มดูดเรียงตัวกัน 1–2 แถว ประกอบด้วยกล้ามเนื้อเป็นจำนวนมาก ในตัวผู้เมื่อถึงวัยเจริญพันธุ์จะเปลี่ยนไปเป็นอวัยวะสืบพันธุ์ โดยเกิดเป็นลิ้นนำถุงน้ำเชื้อเข้าไปผสมกับไข่ของตัวเมีย ซึ่งหนวดเส้นนี้ของตัวผู้ในตอนปลายจะไม่มีปุ่มดูด อันเป็นลักษณะที่แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างเพศของหมึกสาย
หมึกสาย พบแล้วทั้งหมดมากกว่า 1,000 ชนิด เป็นสัตว์ที่ถือกำเนิดมาอย่างยาวนานมาแล้วถึง 550–600 ล้านปีก่อน ทั้งหมดอาศัยอยู่ในทะเล กระจายพันธุ์ไปในท้องที่ต่าง ๆ ทั่วโลก หมึกสายเป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ตามพื้นทะเลเป็นหลัก เช่น แนวปะการัง บางชนิดพบในเหวลึกกว่า 5,000 เมตร หรือกระทั่งพบในสถานที่ ๆ หนาวเย็นจนน้ำเป็นน้ำแข็งอย่างมหาสมุทรแอนตาร์กติก โดยที่มหาสมุทรแอนตาร์กติก พบหมึกสายทั้งหมด 16 ชนิด และทุกชนิดจะมีสารสีน้ำเงินในกระแสเลือด คือ ที่ช่วยทำให้เอาตัวรอดได้ในสถานที่ ๆ ติดลบเช่นนี้
หมึกสายกินครัสเตเชียนเป็นอาหารหลัก เช่น กุ้ง หรือปู กระนั้น หมึกสายก็ยังตกเป็นอาหารของสัตว์ที่มีขนาดใหญ่กว่าได้ เช่น ปลากะรัง หมึกสายมีวิธีการป้องกันตัวที่หลากหลาย โดยสามารถที่จะเปลี่ยนสีผิวลำตัวได้อย่าวรวดเร็ว ในบางชนิดผิวหนังสามารถที่จะมีติ่งหรือตุ่มผุดขึ้นมาเลียนแบบสภาพของพื้นผิวทะเลได้ด้วย หรือในบางชนิดก็สามารถสัตว์ชนิดอื่นได้อย่างหลากหลาย เช่น ปลาลิ้นหมา หรืองูสมิงทะเล รวมถึงการพ่นหมึก ซึ่งเป็นสารประกอบเมลามีนและสารเคมีอื่น ๆ ออกมาเหมือนกับหมึกทั่วไป หมึกของหมึกสายนั้นจะพ่นในลักษณะที่แตกต่างไปจากหมึกกล้วย กล่าวคือ หมึกสายจะพ่นหมึกในลักษณะแบบม่านบังตาเพื่อไม่ให้ศัตรูเห็น แล้วหมึกสายก็จะพุ่งตัวหนีไปหลบซ่อนในโพรง แต่กับหมึกกล้วยซึ่งเป็นหมึกที่ว่ายน้ำอยู่กลางน้ำได้อย่างรวดเร็ว หมึกกล้วยจะพ่นหมึกออกมาในลักษณะของกลุ่มหมึก และซ่อนตัวเองในกลุ่มหมึกนั้น เพราะไม่สามารถหาที่หลบได้เหมือนหมึกสาย
วงจรชีวิตและพฤติกรรม
หมึกสาย เป็นสัตว์ที่มีความฉลาดมาก จนเชื่อได้ว่าเป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังที่มีความเฉลียวฉลาดที่สุดในโลก จากการทดลองของนักวิทยาศาสตร์พบว่า หมึกสายสามารถที่จะเรียนรู้การเปิดฝาขวดเพื่อจับอาหารได้ ซึ่งเป็นพฤติกรรมมาจากการเรียนรู้มิใช่สัญชาตญาณ รวมถึงสามารถจดจำช่องทางที่จะหลบหนีออกจากที่คุมขังได้ด้วย นอกจากนี้แล้ว ชาวประมงที่จับหมึกสายมาอย่างยาวนานยังรายงานว่า หมึกสายยังมุดเข้าไปในกรงที่เขาวางล่อเพื่อจับเหยื่อกินเป็นอาหารในหลาย ๆ กรง โดยใช้หนวดหนีบชิ้นปลาซาร์ดีนติดตัวไปหลายชิ้น ก่อนที่จะเข้าไปกินอย่างสบายอารมณ์ในกรง ๆ หนึ่ง อีกทั้งหมึกสายในธรรมชาติ ยังเรียนรู้ที่จะมุดเข้าไปในกรงจับล็อบสเตอร์หรือกุ้งมังกรเพื่อที่จะจับกินเป็นอาหารได้ด้วย แม้ล็อบสเตอร์จะหาทางออกไม่ได้ แต่หมึกสายสามารถที่จะมุดหนีออกมาได้อย่างไม่มีปัญหา
หมึกสาย เป็นสัตว์ที่มีวงจรชีวิตสั้น บางชนิดมีอายุแค่ 6 เดือน หรือ 1 ปี บางชนิดที่มีขนาดใหญ่อาจมีช่วงอายุถึง 5 ปี การตายของหมึกสายส่วนใหญ่เกิดขึ้นหลังจากผสมพันธุ์กันแล้ว หมึกสายตัวผู้จะตายลง ขณะที่หมึกสายตัวเมียจะยังมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีกราว 6 เดือน เพื่อดูแลไข่ โดยหมึกสายตัวเมียจะเป็นฝ่ายดูแลไข่ที่วางเรียงตัวไว้ในโพรงหรือผนังถ้ำ โดยที่จะใช้หนวดพัดพาน้ำให้ไหลผ่านเพื่อรับออกซิเจนด้วย ตลอดระยะเวลานี้ หมึกสายตัวเมียจะไม่กินอาหารเลย และจะไม่อยู่ห่างจากไข่ จนกระทั่งไข่ฟักเป็นตัว หมึกสายตัวเมียก็จะตายลง
ความสัมพันธ์กับมนุษย์
หมึกสาย เป็นหมึกที่มนุษย์ผูกพันและใช้ประโยชน์มาตั้งแต่โบราณ ด้วยการบริโภคเป็นอาหารเช่นเดียวกับหมึกหรือหอยประเภทอื่น โดยเฉพาะในภูมิภาคยุโรปใต้ เช่น กรีซ ที่นั่นจะมีการออกจับหมึกสาย ด้วยการใช้ภาชนะดินเผาคล้ายหม้อทิ้งลงไปในพื้นทะเล ก่อนที่จะกลับมากว้านขึ้นมา หมึกสายก็จะเข้าไปอาศัยอยู่ในนั้น หากหมึกสายไม่ยอมออกมาก็จะมีวิธีไล่ด้วยการใช้น้ำเกลือเข้มข้นสาดเข้าไป จนกระทั่งในอารยธรรมกรีกโบราณ มีภาพจิตรกรรมบนภาชนะดินเผาชนิดต่าง ๆ ปรากฏเป็นรูปหมึกสายอยู่เป็นจำนวนมาก ในขณะที่มีหมึกสายอยู่ประมาณ 7 ชนิด ได้แก่ Amphioctopus aegina, , , , , , และ ชาวประมงที่จังหวัดเพชรบุรี มีวิธีการตกหมึกสายด้วยภูมิปัญญาที่คิดขึ้นเอง ซึ่งจะจับได้ดีโดยเฉพาะในยามที่ทะเลมีคลื่นลมแรง ด้วยการใช้เปลือกหอยสังข์ร้อยต่อกันให้ยาวแล้วผูกด้วยเชือก ใช้เวลาจับ 1 คืน อันเป็นภูมิปัญญาที่ส่งต่อผ่านกันมารุ่นต่อรุ่น
หมึกสาย ยังเป็นหมึกอีกชนิดหนึ่งที่นิยมนำมาบริโภคกันแบบซูชิของอาหารญี่ปุ่น ที่เรียกกันว่า "ทะโกะ" หรือ "ดะโกะ" (ญี่ปุ่น: タコ, だこ; และในหมึกสายขนาดเล็กเรียกว่า "ไอดะโกะ"; あいだこ ส่วนหมึกสายขนาดใหญ่เรียก "ไมดะโกะ"; まいだこ) เช่นเดียวกับอาหารทะเลชนิดอื่น ๆ โดยมักจะผ่านการแล่ให้เป็นชิ้นที่บางขึ้น โดยเฉพาะส่วนหนวด จนกลายเป็นอุตสาหกรรมประมงขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าทางการตลาดสูง มีการส่งออกไปจำหน่ายยังประเทศต่าง ๆ มีทั้งการแช่แข็งและบริโภคสด
ในปี ค.ศ. 2017 นักวิจัยแห่ง ประเทศเกาหลีใต้ ได้ประดิษฐ์แผ่นกาวที่เลียนแบบปุ่มดูดของหนวดหมึกสาย จากการสังเกตเฝ้าพฤติกรรมของหมึกสายเป็นเวลา 2 ปี ผลที่ได้ คือ แผ่นกาวที่ประดิษฐ์จากแผ่นโพลิเมอร์ที่มีความเหนียวและแรงยึดเกาะสูงมาก สามารถยึดเกาะวัสดุต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดีทั้ง ซิลิคอน, แก้ว, วัตถุที่มีพื้นผิวชุ่มชื้น, วัตถุที่อยู่ในน้ำ หรือเปื้อนน้ำมันได้ และยังสามารถดูดวัตถุที่อยู่ในน้ำที่มีน้ำหนักมากถึง 400 กรัมได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้มากถึง 10,000 ครั้ง ซึ่งจะมีการพัฒนาต่อไปเพื่อใช้ในวงการแพทย์สำหรับเป็นเทปกาวปิดแผลที่ไม่มีผลระคายเคืองผิวหนังมนุษย์
นอกจากนี้แล้วในวัฒนธรรมร่วมสมัย หมึกสายยังเป็นหมึกประเภทที่มักปรากฏตัวในรูปลักษณ์ของสัตว์ประหลาดขนาดใหญ่ที่จู่โจมมนุษย์ เช่น นวนิยายวิทยาศาสตร์ หรือภาพยนตร์เรื่องต่าง ๆ อาทิ Twenty Thousand Leagues Under the Sea ของ ฌูล แวร์น เป็นต้น
การจำแนก
- ชั้น Cephalopoda
- ชั้นย่อย Nautiloidea: หอยงวงช้าง
- ชั้นย่อย Coleoidea
- อันดับใหญ่ : หมึกกล้วย, หมึกกระดอง
- อันดับใหญ่
- วงศ์ † ()
- อันดับ : หมึกกล้วยแวมไพร์
- อันดับ Octopoda
- สกุล † ()
- สกุล † (ไม่แน่นอน)
- สกุล † (ไม่แน่นอน)
- สกุล † (ไม่แน่นอน)
- สกุล † (ไม่แน่นอน)
- สกุล † (ไม่แน่นอน)
- อันดับย่อย : หมึกสายครีบคู่ทะเลลึก
- วงศ์ : หมึกสายร่ม
- วงศ์
- วงศ์
- อันดับย่อย
- วงศ์ : หมึกสายเทเลสโคป
- วงศ์ : หมึกสายเมือก
- วงศ์ : หมึกสายหน้าดิน
- วงศ์ : หมึกสายกระจก
- วงศ์ใหญ่
- วงศ์ : หมึกสายเจ็ดหนวด
- วงศ์ : หอยงวงช้างกระดาษ
- วงศ์ : หมึกสายเทอเบอร์คิวเลท
- วงศ์ : หมึกสายผ้าห่ม
อ้างอิงและเชิงอรรถ
- "Octopoda". .
- Helsinki.fi, Mikko's Phylogeny Archive: Coleoidea – Recent cephalopods
- "Octopus : หมึกยักษ์/หมึกสาย". ผู้จัดการออนไลน์. สืบค้นเมื่อ 30 June 2016.[]
- Oktapous, Henry George Liddell, Robert Scott, A Greek-English Lexicon, at Perseus
- ชื่อวิทยาศาสตร์ จากภาษากรีกโบราณ ὀκτώποδ-, ὀκτώπους (หรือ ὀκτάποδ- ὀκτάπους) "แปดเท้า" > ὀκτώ- or ὀκτά- [รวมกันหมายถึง ὀκτώ "แปด"] และ πόδ-, πούς "เท้า". Cf. χταπόδι < οκταπόδι < οκταπόδιον < ὀκτάπους.
- การพัฒนา, "มหัศจรรย์พันธุ์ลึก". สารคดีทางไทยพีบีเอส: ศุกร์ที่ 15 มีนาคม 2556
- Deep Sea Aliens, "Animal Planet Showcase". สารคดีทางอนิมอลพลาเน็ต ทางทรูวิชั่นส์: เสาร์ที่ 16 มีนาคม 2556
- หน้า 66–89, ความงามใต้โลกน้ำแข็ง โดย โลรอง บาเลสตา. นิตยสาร National Geographic ฉบับภาษาไทย: ฉบับที่ 192 กรกฎาคม 2560
- The Mimic Octopus, "Nick Baker's Weird Creatures". สารคดีทางอนิมอลพลาเน็ต ทางทรูวิชั่นส์: จันทร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2556
- C. Michael Hogan. 2007 Knossos fieldnotes, The Modern Antiquarian
- การตกปลาหมึกสาย
- "Iron Chef Thailand เชฟกระทะเหล็ก 11 มิ.ย.57 ปลาหมึกยักษ์ 1/6". ช่อง 7. 11 June 2014. สืบค้นเมื่อ 12 June 2014.
- . นิตยสารผู้จัดการ. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-05. สืบค้นเมื่อ 2013-03-16.
- หน้า 7 โลกาวิภัฒน์ GLOBALIZATION, พัฒนาแผ่นกาวติดหนึบ ดั่งหนวดปลาหมึกยักษ์. "โลกโศภิณ". ไทยรัฐปีที่ 68 ฉบับที่ 21708: วันพุธที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2560 ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 8 ปีระกา
แหล่งข้อมูลอื่น
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
hmuksay chwngewlathimichiwitxyu 323 2 0Ma PreꞒ Ꞓ O S D C P T J K Pg Nyukhkharbxniefxrstxnplay pccubn Octopus vulgaris karcaaenkchnthangwithyasastrxanackr Animaliaiflm Molluscachn Cephalopodaxndbihy xndb Octopoda 1818xndbyxychuxphxngOctopoida Leach 1817 rupaesdngkayphakhkhxnghmuksay hmuksay hrux hmukyks epnmxllskpraephthhmukxndbhnung ichchuxwithyasastrwa Octopodasphthmulwithyakhawa Octopus hrux Octopoda sungichepnchuxwithyasastrnnmacakphasakrikkhawa ὀktapoys oktapous aepdetha xnmithimacakkarthihmuksaynncamihnwdthnghmd 8 esnnnexnglksnaaelakaywiphakhhmuksay camikhwamaetktangipcakhmukklwyhruxhmukkradxngxyangehnidchd odythihmuksaycamiswnhwthiklmyawkhlaylukopng hnwdmithnghmd 8 esn aelaimmihnwdesnyaw 2 esnsahrbcbehyuxaebbhmukklwy immikhribkhanglatw aetcamiphngphudechuxmtxknrahwanghnwdaetlaesn inokhrngsrangkhxnghmuksaycaimmiaekhlesiymaekhngepnaeknklanglatwehmuxnhmukklwyhruxhmukkradxng sungthaihrangkaykhxnghmuksaynnyudhyuntwidsung hmuksaycungsamarthkhubkhlaniptamthxngthaelidxyangkhlxngaekhlw inthrrmchatihmuksayepnhmukthixasyxyutamlaphngimepnfungehmuxnhmukklwyhruxepnkhuehmuxnhmukkradxng odyhlbsxntwxyutamruhruxophrngitna nxkcakniaelw rangkaykhxnghmuksaynnsamarthrxdruelk thimikhwamkwangephiyngimkiesntiemtrid cakkarthdlxngthangwithyasastr phbwahmuksaysamarthrxdruelk id dwykarichhnwdwdkhnadkhwamkwangkhxngrukxn kxnthicaichhnwdthnghmdkhxy mudrxdip aelaswnhwcaepnswnsudthaythicamudrxdxxkma aethmuksaykimsamarththicamudrxdruthimikhwamkwangephiyng 1 5 niwid sungepnkhwamkwangthinxykwakhwamkwangrahwangdwngtathngkhukhxnghmuksay thicamikradukchinelk rahwangnn xikthnghmuksayyngsamarththicakhubkhlanipmabnbkid odyxyuidodyprascaknaidnanthung 1 chwomng hmuksay mihwicthnghmd 3 dwng aelamismxngaeykxxkcakknxyuinokhnhnwdaetlahnwdthung 9 smxng hnwdkhxnghmuksaynnmiprasathsmphsaelapumduderiyngtwkn 1 2 aethw prakxbdwyklamenuxepncanwnmak intwphuemuxthungwyecriyphnthucaepliynipepnxwywasubphnthu odyekidepnlinnathungnaechuxekhaipphsmkbikhkhxngtwemiy sunghnwdesnnikhxngtwphuintxnplaycaimmipumdud xnepnlksnathiaesdngihehnthungkhwamaetktangrahwangephskhxnghmuksay hmuksay phbaelwthnghmdmakkwa 1 000 chnid epnstwthithuxkaenidmaxyangyawnanmaaelwthung 550 600 lanpikxn thnghmdxasyxyuinthael kracayphnthuipinthxngthitang thwolk hmuksayepnstwthixasyxyutamphunthaelepnhlk echn aenwpakarng bangchnidphbinehwlukkwa 5 000 emtr hruxkrathngphbinsthanthi hnaweyncnnaepnnaaekhngxyangmhasmuthraexntarktik odythimhasmuthraexntarktik phbhmuksaythnghmd 16 chnid aelathukchnidcamisarsinaengininkraaeseluxd khux thichwythaihexatwrxdidinsthanthi tidlbechnni hmuksaykinkhrsetechiynepnxaharhlk echn kung hruxpu krann hmuksaykyngtkepnxaharkhxngstwthimikhnadihykwaid echn plakarng hmuksaymiwithikarpxngkntwthihlakhlay odysamarththicaepliynsiphiwlatwidxyawrwderw inbangchnidphiwhnngsamarththicamitinghruxtumphudkhunmaeliynaebbsphaphkhxngphunphiwthaeliddwy hruxinbangchnidksamarthstwchnidxunidxyanghlakhlay echn plalinhma hruxngusmingthael rwmthungkarphnhmuk sungepnsarprakxbemlaminaelasarekhmixun xxkmaehmuxnkbhmukthwip hmukkhxnghmuksaynncaphninlksnathiaetktangipcakhmukklwy klawkhux hmuksaycaphnhmukinlksnaaebbmanbngtaephuximihstruehn aelwhmuksaykcaphungtwhniiphlbsxninophrng aetkbhmukklwysungepnhmukthiwaynaxyuklangnaidxyangrwderw hmukklwycaphnhmukxxkmainlksnakhxngklumhmuk aelasxntwexnginklumhmuknn ephraaimsamarthhathihlbidehmuxnhmuksaywngcrchiwitaelaphvtikrrmruphmuksaybnphachnadinephakhxngxarythrrmkrikobran hmuksay epnstwthimikhwamchladmak cnechuxidwaepnstwimmikraduksnhlngthimikhwamechliywchladthisudinolk cakkarthdlxngkhxngnkwithyasastrphbwa hmuksaysamarththicaeriynrukarepidfakhwdephuxcbxaharid sungepnphvtikrrmmacakkareriynrumiichsychatyan rwmthungsamarthcdcachxngthangthicahlbhnixxkcakthikhumkhngiddwy nxkcakniaelw chawpramngthicbhmuksaymaxyangyawnanyngraynganwa hmuksayyngmudekhaipinkrngthiekhawanglxephuxcbehyuxkinepnxaharinhlay krng odyichhnwdhnibchinplasardintidtwiphlaychin kxnthicaekhaipkinxyangsbayxarmninkrng hnung xikthnghmuksayinthrrmchati yngeriynruthicamudekhaipinkrngcblxbsetxrhruxkungmngkrephuxthicacbkinepnxahariddwy aemlxbsetxrcahathangxxkimid aethmuksaysamarththicamudhnixxkmaidxyangimmipyha hmuksay epnstwthimiwngcrchiwitsn bangchnidmixayuaekh 6 eduxn hrux 1 pi bangchnidthimikhnadihyxacmichwngxayuthung 5 pi kartaykhxnghmuksayswnihyekidkhunhlngcakphsmphnthuknaelw hmuksaytwphucataylng khnathihmuksaytwemiycayngmichiwitxyutxipidxikraw 6 eduxn ephuxduaelikh odyhmuksaytwemiycaepnfayduaelikhthiwangeriyngtwiwinophrnghruxphnngtha odythicaichhnwdphdphanaihihlphanephuxrbxxksiecndwy tlxdrayaewlani hmuksaytwemiycaimkinxaharely aelacaimxyuhangcakikh cnkrathngikhfkepntw hmuksaytwemiykcataylngkhwamsmphnthkbmnusyhmuksay epnhmukthimnusyphukphnaelaichpraoychnmatngaetobran dwykarbriophkhepnxaharechnediywkbhmukhruxhxypraephthxun odyechphaainphumiphakhyuorpit echn kris thinncamikarxxkcbhmuksay dwykarichphachnadinephakhlayhmxthinglngipinphunthael kxnthicaklbmakwankhunma hmuksaykcaekhaipxasyxyuinnn hakhmuksayimyxmxxkmakcamiwithiildwykarichnaekluxekhmkhnsadekhaip cnkrathnginxarythrrmkrikobran miphaphcitrkrrmbnphachnadinephachnidtang praktepnruphmuksayxyuepncanwnmak inkhnathimihmuksayxyupraman 7 chnid idaek Amphioctopus aegina aela chawpramngthicnghwdephchrburi miwithikartkhmuksaydwyphumipyyathikhidkhunexng sungcacbiddiodyechphaainyamthithaelmikhlunlmaerng dwykarichepluxkhxysngkhrxytxknihyawaelwphukdwyechuxk ichewlacb 1 khun xnepnphumipyyathisngtxphanknmaruntxrun hmuksay yngepnhmukxikchnidhnungthiniymnamabriophkhknaebbsuchikhxngxaharyipun thieriykknwa thaoka hrux daoka yipun タコ だこ aelainhmuksaykhnadelkeriykwa ixdaoka あいだこ swnhmuksaykhnadihyeriyk imdaoka まいだこ echnediywkbxaharthaelchnidxun odymkcaphankaraelihepnchinthibangkhun odyechphaaswnhnwd cnklayepnxutsahkrrmpramngkhnadihythimimulkhathangkartladsung mikarsngxxkipcahnayyngpraethstang mithngkaraechaekhngaelabriophkhsd inpi kh s 2017 nkwicyaehng praethsekahliit idpradisthaephnkawthieliynaebbpumdudkhxnghnwdhmuksay cakkarsngektefaphvtikrrmkhxnghmuksayepnewla 2 pi phlthiid khux aephnkawthipradisthcakaephnophliemxrthimikhwamehniywaelaaerngyudekaasungmak samarthyudekaawsdutang idepnxyangdithng silikhxn aekw wtthuthimiphunphiwchumchun wtthuthixyuinna hruxepuxnnamnid aelayngsamarthdudwtthuthixyuinnathiminahnkmakthung 400 krmidxyangmiprasiththiphaph aelayngsamarthnaklbmaichihmidmakthung 10 000 khrng sungcamikarphthnatxipephuxichinwngkaraephthysahrbepnethpkawpidaephlthiimmiphlrakhayekhuxngphiwhnngmnusy nxkcakniaelwinwthnthrrmrwmsmy hmuksayyngepnhmukpraephththimkprakttwinruplksnkhxngstwprahladkhnadihythicuocmmnusy echn nwniyaywithyasastr hruxphaphyntreruxngtang xathi Twenty Thousand Leagues Under the Sea khxng chul aewrn epntnkarcaaenk source source source source source source phaphekhluxnihwkhxnghmuksaythrrmdahmuksaythrrmdainphachnadinephachn Cephalopoda chnyxy Nautiloidea hxyngwngchang chnyxy Coleoidea xndbihy hmukklwy hmukkradxng xndbihy wngs xndb hmukklwyaewmiphr xndb Octopoda skul skul imaennxn skul imaennxn skul imaennxn skul imaennxn skul imaennxn xndbyxy hmuksaykhribkhuthaelluk wngs hmuksayrm wngs wngs xndbyxy wngs hmuksayethelsokhp wngs hmuksayemuxk wngs hmuksayhnadin wngs hmuksaykrack wngsihy wngs hmuksayecdhnwd wngs hxyngwngchangkradas wngs hmuksayethxebxrkhiwelth wngs hmuksayphahmxangxingaelaechingxrrth Octopoda Helsinki fi Mikko s Phylogeny Archive Coleoidea Recent cephalopods Octopus hmukyks hmuksay phucdkarxxniln subkhnemux 30 June 2016 lingkesiy Oktapous Henry George Liddell Robert Scott A Greek English Lexicon at Perseus chuxwithyasastr cakphasakrikobran ὀktwpod ὀktwpoys hrux ὀktapod ὀktapoys aepdetha gt ὀktw or ὀkta rwmknhmaythung ὀktw aepd aela pod poys etha Cf xtapodi lt oktapodi lt oktapodion lt ὀktapoys karphthna mhscrryphnthuluk sarkhdithangithyphibiexs sukrthi 15 minakhm 2556 Deep Sea Aliens Animal Planet Showcase sarkhdithangxnimxlphlaent thangthruwichns esarthi 16 minakhm 2556 hna 66 89 khwamngamitolknaaekhng ody olrxng baelsta nitysar National Geographic chbbphasaithy chbbthi 192 krkdakhm 2560 The Mimic Octopus Nick Baker s Weird Creatures sarkhdithangxnimxlphlaent thangthruwichns cnthrthi 4 kumphaphnth 2556 C Michael Hogan 2007 Knossos fieldnotes The Modern Antiquarian kartkplahmuksay Iron Chef Thailand echfkrathaehlk 11 mi y 57 plahmukyks 1 6 chxng 7 11 June 2014 subkhnemux 12 June 2014 nitysarphucdkar khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2016 03 05 subkhnemux 2013 03 16 hna 7 olkawiphthn GLOBALIZATION phthnaaephnkawtidhnub dnghnwdplahmukyks olkosphin ithyrthpithi 68 chbbthi 21708 wnphuththi 28 mithunayn ph s 2560 khun 5 kha eduxn 8 pirakaaehlngkhxmulxunwikispichismikhxmulphasaxngkvsekiywkb Octopoda